Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Pokemon Black Obsidian


เคียวโกะ FC

Recommended Posts

เอาล่ะ เมื่อบอร์ดใหม่เปิด ผมก็จะย้ายเรื่องนี้ตามมาด้วยตามที่บอกกันไว้นะครับ ติดตามต่อกันได้เลย!

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 1

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงนาฬิกาปลุกรูปคาแม็กดังเสียดหูขึ้นพร้อมๆกับแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณสาดแสงสีทองผ่านหน้าต่างเข้ามา เด็กหนุ่มคนคนหนึ่งพลิกตัวงัวเงีย คว้านาฬิกาปลุกมาตั้งที่หมอนข้างๆหัว เด็กหนุ่มปรือตามองหน้าปัดนาฬิกาปลุก เขามีใบหน้าทรงไข่ ผมสีดำชี้ไม่เป็นทรง ดวงตาฉายแววเบื่อหน่าย

6 โมงเอง จะรีบปลุกไปไหนว้าเด็กหนุ่มส่งเสียงอู้อี้อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก พร้อมกับกดหัวคาแม็กให้หดเข้าไปในกระดอง เสียงนาฬิกาปลุกหยุดลงทันที แต่ทันใดนั้นเอง...

แม็กซ์! วันนี้ลูกมีนัดกับด็อกเตอร์อุทซึกิตั้งแต่เช้ามืดไม่ใช่เหรอ!เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งดังลอดธรณีประตู เข้ามาสู่โสตประสาทของเด็กหนุ่ม เสียงตะโกนปลุกแบบนี้เขาได้ยินจนชินแล้ว แต่ถ้อยคำนั้นทำให้เขาต้องลืมตาโพลง

ชิบหาย! สายแล้ว! เด็กหนุ่มกระโจนพรวดออกจากเตียงนอน ไม่สนใจใยดีต่อผ้าห่มหรือเครื่องนอนใดๆ ทั้งสิ้น กิจวัตรประจำยามเช้าถูกปฏิบัติอย่างลวกๆ มือขวาแปรงฟัน มือซ้ายคว้าฮู้ดสีแดงตัวโปรด มาใส่ไว้แบบครึ่งๆกลางๆ หลังจากบ้วนปากเป็นที่เรียบร้อย ฮู้ดที่ใส่ไว้แบบครึ่งๆกลางก็ถูกดึงขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อย แม็กซ์ถลันออกจากห้องน้ำโดยไม่ลืมคว้ากางเกงยีนส์ที่แขวนอยู่มาสวมทับกางเกงขาสั้นที่ใส่นอน สองเท้าซอยลงบันใดดังปึงๆๆๆ ตลอดทาง

เอ้าๆ รีบขนาดนั้นเดี๋ยวก็ตกบันไดตายหรอกเสียงของแม่ดังมาจากในครัว เหลือบันไดอีกอีกไม่กี่ขั้น แม็กตัดสินใจกระโดดลงพื้นไปแทนที่จะวิ่งลง เขารีบกระโจนเข้าไปในครัวทันที

กินอะไรก็ก่อนก็ได้นะแม็กซ์ ไม่ต้องรีบมากก็ได้ แม่ของแม็กซ์เป็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างดี ผมหยักศก เธอกำลังง่วนอยู่กับบรรดาเครื่องครัวต่างๆ แต่ดูเหมือนแม็กจะไม่สนใจ เขารีบคว้าขนมปัง 2- 3 ชิ้นบนโต๊ะใส่ปาก

อ็อกเอ้อร์ ออกอ้า อั้งอี้อ๋ำอันอ้าก อ๊าไอ้ไอ้อ้ะ(ดอกเตอร์บอกว่าครั้งนี้สำคัญมากช้าไม่ได้ฮะ)แม็กซ์พูดทั้งๆที่ขนมปังเต็มปาก ยังไม่ทันเคี้ยวขนมปังจนหมด เขาก็พรวดพราดออกไปจากบ้าน แม่ของแม็กซ์เห็นพฤติกรรมแล้วก็ต้องถอนหายเฮือกใหญ่

เจ้าลูกคนนี้

เมือง บรรยากาศในเมืองค่อนข้างร่มรื่น ต้นไม้ใบหญ้าโบกสะบัดตามแรงลมที่พัดเอื่อยๆ พีเจี้ยน และโอนิซึซึเมะ บินฉวัดเฉวียนไปมา จ้องหาเหยื่อกิน บ้านของด็อกเตอร์อุทซึกิโผล่มาในระยะสายตาแล้ว มันเป็นบ้านหลังใหญ่เด่นสะดุดตาที่สุด รอบบ้านทาสีขาว มีกระจกบานใหญ่ติดรอบบ้าน มองเห็นข้างในซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นสถานีวิจัยได้อย่างชัดเจน ตอนนี้ยังเช้า เจ้าหน้าที่ของสถานีวิจัยยังมาไม่เยอะเท่าไรนัก

ด็อกเตอร์ผมมาแล้ว แม็กพรวดพราดผลักประตูกระจกเข้าไป โดยไม่ทันสังเกตพื้นที่ยกระดับขึ้นมาจากธรณีประตู เขาสะดุดล้มหน้าคะมำเสียงดังโครม เจ้าหน้าที่ในห้องวิจัยหันมามองเป็นสายตาเดียว บางก็อมยิ้มให้กับแม็กซ์ที่มาเป็นสีสันให้กับพวกเขาในเช้าวันนี้

ไงแม็กซ์ เซ่อซ่าแต่เช้าเลยนะ เจ็บมั้ยจ๊ะเสียงเย้ยหยันดังขึ้น แม็กซ์เงยหน้าขึ้นดูต้นเสียง เจ้าของเสียงเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผมสีน้ำตาลแก่ มัดผมทรงทวินเทล ดวงตากลมใส สวมเสื้อยืดคอกลมทับด้วยเสื้อฮู้ดสีชมพูตัวเล็ก สวมกระโปรงสั้นสีน้ำเงิน กำลังนั่งคุกเข่ากอดมาริลอยู่ตรงหน้าเขา

โอย ไม่เคยได้ยินรึไงคนล้มอย่าข้ามน่ะมารีนแม็กซ์ว่าพลางพยายามลุกขึ้น มารีนลุกขึ้นก่อนแล้วยื่นมือข้างหนึ่งให้แม็กซ์ แต่พอแม็กซ์จะเอื้อมมือไปจับเธอกลับยกมือขึ้นเสยผมหน้าตาเฉย

คิดจะจับมือฉันเหรอ ทำหน้าตาให้ดีกว่านี้ก่อนนะ โฮ๊ะๆๆ

เชอะ! สวยตายล่ะแม็กซ์บ่นงึมงำพลางยันตัวลุกขึ้น

บ่นอะไรยะ!

เอ้าๆ หนุ่มสาว อย่าเพิ่งทะเลาะกันเสียงๆ หนึ่งดังสอดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มวัยสามสิบเศษๆ รูปร่างสูง หัวเถิก สวมแว่นทรงรี เขาดูท่าทางเป็นคนใจเย็นอารมณ์ดี

สวัสดีครับ ด็อกเตอร์แม็กซ์ทักทายก่อน มีเรื่องอะไรหรอครับถึงต้องให้ผมมาตั้งแต่เช้าแบบนี้

อ๋อ มีจดหมายจากด็อกเตอร์ออร์คิดจากเขตคันโตน่ะ บอกให้ฉันไปหา แต่ฉันไม่ว่างก็เลยจะให้เธอไปเป็นตัวแทนของฉันน่ะ

ด็อกเตอร์จากเขตคันโต... แปลว่าจะให้ผมเดินจากไปคันโตเหรอครับ แม็กซ์โพล่งออกมาอย่างประหลาดใจ การเดินทางไปคันโตต้องไปขึ้นเรือที่เมืองอาซากิ ซึ่งไกลจากเมืองวาคาบะนี้มาก

เปล่าๆ ตอนนี้เขาเดินทางมาอยู่ในเขตโจโตแล้ว อยู่ที่บ้านพักชายเมืองโยชิโนะใกล้ๆ นี่แหละ

อ้อคำตอบของด็อกเตอร์ทำให้แม็กซ์โล่งอก เขานึกว่าเขาจะต้องไปถึงเมืองอาซากิเสียแล้ว

แต่ว่าระหว่างทางอาจจะต้องเจอโปเกมอนป่าที่ไม่เชื่องเท่าไร เธอยังไม่มีโปเกมอนใช่มั้ยแม็กซ์ด็อกเตอร์ถาม

อ่า...ใช่...ใช่ครับแม็กซ์ตอบตะกุกตะกักเหมือนลังเลใจจะตอบ แต่ด็อกเตอร์อุทซึกิไม่ได้สนใจท่าที่ของแม็กซ์ เขาส่งสัญญาณบางอย่างให้ลูกน้องของเขา ไม่นานนัก นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งก็ถือถาดที่มีบอลสามลูกวางอยู่บนนั้นมาทางพวกเขา บอลทั้งสามลูกมีสติ้กเกอร์สีแดง สีเขียวและสีฟ้า แปะอยู่ลูกละสี

อ้ะ! คุณอา นั่นมันโปเกมอนหายากที่กำลังวิจัยอยู่ไม่ใช่เหรอคะมารีนร้องขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นบอกทั้งสามลูก มารีนตกใจจนเผลอปล่อยมาริลในอ้อมกอดหล่นกระแทกพื้นจนหัวโน มาริลน้อยโมโห ที่ถูกปล่อยทิ้งลงพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว มันส่งเสียงร้องไม่พอใจพร้อมกับพ่นน้ำมั่วๆ ไปรอบทิศ โดนถาดบอลที่ลูกน้องของด็อกเตอร์อุทซึกิถือมาหล่น แล้วก็วิ่งงอนตุ้บป่องหายเข้าไปในบ้าน

มาริลจัง~มารินรีบวิ่งตามโปเกมอนตัวโปรดของเธอไป

เฮ้อ มาริลตัวนี้ก่อเรื่องอีกแล้วสิด็อกเตอร์อุทสึกิบ่นพลางถอดแว่นออกมาเช็ด เขาโดนมาริลพ่นน้ำใส่หน้าเต็มๆ

เขาว่าคนเลี้ยงเป็นยังไงโปเกมอนก็เป็นแบบนั้นแหละครับ ฮะฮะฮะแม็กซ์พูดพลางหัวเราะ เขาพูดเหมือนให้เป็นเรื่องขำขันแต่ความจริงแล้วแอบแดกดันมารินไปในถ้อยคำ

แม็กซ์ ปากนี้ผู้หญิงเขาจะเมินเอาน้า ด็อกเตอร์อุทซึกิแซวพลางก้มลงเก็บบอลที่หล่นไป

เมินไม่กลัว กลัวไม่เมินแม็กซ์ตอบพลางก้มหยิบบอลที่อยู่ใกล้เขาที่สุด เขาสังเกตเห็นว่าบอลลูกนี้ถลอกเป็นรอย

ด็อกเตอร์ครับ บอลลูกนี้เป็นรอยแน่ะ

งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวฉันค่อยเปลี่ยนบอลใหม่ เธอเอาตัวอื่นไปก่อนแล้วกันนะ ลองตัวนี้ฉันว่าเหมาะกับเธอดี ด็อกเตอร์อุทซึกิยืนบอลที่มีสติ้กเกอร์สีแดงมาให้แม็กซ์ แม็กซ์ลองเปิดบอลปล่อยออกมาดูก็พบว่าโปเกมอนที่มาคือ ฮิโนอาราชิ ทันทีที่มันออกมาจากบอล มันก็เร่งไฟบนหลังพร้อมสู้ทันที

โอ้โห นิสัยเอาเรื่องดีซะด้วยแฮะแม็กซ์ว่าพลางเก็บมันกลับเข้าบอล

ฉันบอกแล้วว่าเหมาะกับเธอไง อ้อโปเกเกียร์ของเธอน่ะ ซ่อมเสร็จแล้วนะพูดจบด็อกเตอร์อุทซึงิก็ล้วงเอาโปเกเกียร์จากกระเป๋าส่งให้แม็กซ์

ขอบคุณครับ

รีบไปเถอะ ออกเดินทางตอนนี้คงถึงเมืองโยชิโนะตอนเย็นพอดี คืนนี้ก็ไปค้างกับด็อกเตอร์ออร์คิดเลย ฉันว่าเขาต้องมีอะไรจะเล่าให้เธอฟังเยอะเลยล่ะ

งั้นผมไปก่อนนะครับด็อกเตอร์

ล่ำลากันเสร็จทั้งสองก็แยกย้ายกันออกไป โดยไม่ทันสังเกตเลยว่า ที่กระจกด้านหลังห้องวิจัยปรากฏเงาของชายลึกลับผู้หนึ่ง

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่2 หนี!

เอาล่ะ ไหนเรามาลองทำความคุ้นเคยกันไว้ก่อนดีกว่านะ แม็กซ์นั่งลงพูดกับฮิโนอาราชิของเขา พวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งวันแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่กลางป่าระหว่างทาง สภาพป่าเป็นป่าโปร่ง ส่วนใหญ่เป็นหญ้าเตี้ยๆ มีต้นไม้สูงไม่เยอะนัก พื้นที่สลับสูงต่ำมีหน้าผาสูงเป็นแห่งๆ

เรามาลองฝึกฝนการต่อสู้กันดีกว่า เอาล่ะหาฝึกอะไรดีแม็กซ์ว่าพลางหันมองไปรอบๆ แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับ ป็อปโปะตัวหนึ่ง กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่บนพุ่มไม้เตี้ยๆ ป็อปโปะเป็นเพียงโปเกมอนลูกนก ความดุร้ายยังไม่มาก เหมาะแก่การฝึกฝนโปเกมอนหัดใหม่

เอาล่ะฮิโนอาราชิ พุ่งชนป็อปโปะตัวนั้นเลยแม็กซ์สั่งพร้อมชี้ไปที่ป็อปโปะ

เฉย... ไม่มีปฏิกริยาจากฮิโนอาราชิ มันจ้องหน้าแม็กซ์อย่างไร้เดียงสา ... เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง

แกอย่าบอกฉันนะ ว่าแกพุ่งชนก็ไม่เป็นน่ะ

ฮิโนอาราชิผงกหัวหงึกๆ คำตอบอย่างไร้เดียงสาของฮิโนอาราชิทำให้แม็กซ์อยากจะบ้าตายเสียตอนนั้น แต่เขาก็จำเป้นต้องฝึกมันให้ไ

ด้

นี่ๆ ดูนี่น่ะ พุ่งชนก็คือแบบนี้ เอาตัวกระแทกแบบนี้แม็กอธิบายพลางพยายามเอาตัวกระแทกต้นไม้ เป็นการแสดงท่าทางประกอบ

แล้วแกนะ ก็ต้องทำแบบนี้ใส่ป็อปโปะตัวนี้แม็กซ์เดินเข้ามาใกล้ป็อปโปะ ที่ยังไม่ไปไหน

เข้าใจมั้ย?

ฮิโนอาราชิ ผงกหัวหงึกๆ

ดีล่ะ งั้นก็พุ่งชนเลย

ฮิโนอาราชิผงกหัวรับ ก่อนที่จะพ่นไฟเป็นลำยาวเฉียดหน้าแม็กซ์ไปนิดเดียว

ไม่ใช่แล้วฮิโนอาราชิ! นี่เขาเรียกว่า พ่นไฟ เอาใหม่พุ่งชนต้องทำแบบนี้แม็กซ์กำลังจะหันกลับไปแสดงท่าทางใส่ต้นไม้อีกครั้ง แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเขาพบว่า ไฟที่ฮิโนอาราชิพ่นไปนั้น โดนป็อปโปะเข้าอย่างจัง ป็อปโปะน้อยกำลังกระพือปีกพั่บๆอย่างอารมณ์เสียเป็นการใหญ่ มันส่งเสียงร้องดังไปทั่ว ไม่นานนัก ก็มีเสียงร้องของป็อปโปะดังประสานขึ้นทั่วสารทิศ พีเจี้ยนจำนวนหนึ่งร่อนเข้ามาเกาะที่กิ่งไม้รอบๆ จ้องมาที่แม็กซ์เขม็ง บรรยากาศเริ่มมาคุ

อ...เอ่อ.... แย่ล่ะสิ สงสัยเราจะไปรังแกลูกผู้มีอิทธิพลแล้วล่ะแม็กซ์พูดอย่างใจคอไม่ค่อยดีนัก พลางก้าวถอยช้าๆไปหาฮิโนอาราชิ เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกจากหน้าที่เริ่มซีด และซีดเข้าไปอีกเมื่อพีจ็อตตัวหนึ่งโฉบลงมาเกาะที่กิ่งไม้ใกล้ๆ มันมีแผลเป็นพาดลากผ่านดวงตาที่โหดร้าย ภาพลักษณ์ของมันแม้เด็กอนุบาลก็ดูออกว่าคงออกแนวนกมาเฟียแน่ๆ

ป็อปโปะตัวปัญหารีบบินเข้าไปหาพีจ็อตทันที มันส่งเสียงร้องแหลมเล็กรัวๆ เหมือนกำลังโวยวาย พีจ็อตจ้องหน้าแม็กซ์เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

อย่าโกรธกันน่า เรื่องเข้าใจผิดน่ะ แฮะๆแม็กซ์พยายามไกล่เกลี่ย แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ดีขึ้นเท่าไร พีจ็อตยังคงนิ่งพร้อมด้วยสายตาอำมหิต และมีสายตาแบบเดียวกันจากป็อปโปะและพีเจี้ยนรอบข้าง นี่ไม่ใช่บรรยากาศที่ชวนคิดให้ทางบวกเท่าไรเลย

อ...เอ่อ พวกเรากำลังยุ่งน่ะ ขอตัวก่อนนะพูดจบแม็กซ์ก็รีบวิ่งไปอุ้มฮิโนอาราชิแล้วทำท่าจะออกวิ่งต่อ แต่ไม่ทันจะได้วิ่งไปไหนพีเจี้ยนตัวหนึ่งก็บินมาดักหน้าไว้

แกว็ก!พีจ็อตส่งเสียงแหลมยาว ฝูงพีเจี้ยนและป็อปโปะจำนวนมากกระพือปีกขึ้นพร้อมๆกัน จนเสียงดังราวกับพายุเข้า พีเจี้ยนหลายตัวเริ่มบินโฉบเข้าใส่แม็กซ์ แม็กซ์อาศัยความคล่องตัวกว่าหลบได้ทุกครั้ง

ดีล่ะพวกแก ถ้างั้นพวกแกต้องเจอท่าไม้ตายแม็กซ์ประกาศกร้าว พวกพีเจี้ยนเริ่มหยุดชะงัก พีจ็อตหัวโจกเองก็เหมือนกัน มันมองมาที่แม็กซ์อย่างสังสัย

พร้อมนะฮิโนอาราชิแม็กซ์พูดกับฮิโนอาราชิในอ้อมแขน แต่ฮิโนอาราชิได้แต่ทำหน้างง

ท่านี้คือ! พวกพีเจี้ยนบางตัวร่อนลงเกาะกับกิ่งไม้เตรียมใช้ท่าเกาะคอนเพื่อเติมพลัง

ท่าโกยเถอะโยม!

แม็กซ์จำอ้าววิ่งออกไปไม่คิดชีวิต พีจ็อตถูกหลอกเต็มประตู มันโกรธแค้นเหลือคณา ส่งเสียงแหลมลั่นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่เหล่าพีเจี้ยน แต่มันเองก็ออกบินตามแม็กซ์ไปด้วย

เหวยๆ แม้เจ้าโว้ย ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าแถวนี้มีมาเฟียกะเขาด้วยแม็กซ์วิ่งหนีไม่คิดชีวิต ช่วงเวลานี้เขาไม่คิดอะไรแล้ว ขอแค่วิ่งให้รอดจากพวกนี้ไปได้ก็พอ แต่ความเร็วแค่สองเท้าหรือจะสู้พีจ็อตได้ เพียงครู่เดียวมันก็ตามทัน มันโฉบใส่แม็กซ์ทันที แม็กซ์ไม่ทันระวังตัวถูกสันปีกของมันฟาดใส่จากข้างหลังจนกระเด็นกลิ้งไป 2- 3 ตลบ เมื่อตั้งตัวได้แม็กซ์ก็พยายามวิ่งต่อ แต่ไม่ได้เสียแล้ว

ข้างหน้าคือหน้าผาลาดชัน ขืนตกลงไปเจ็บหนักแน่ๆ แม็กซ์กัดฟันหันหลังมาเผชิญกับฝูงป็อปโปะอีกครั้ง พีจ็อตตัวนั้น บินต่ำลงมาอยู่ไม่ไกลจากแม็กซ์ มันตั้งต่างเตรียมชาร์จเข้ามาอีกรอบ แม็กซ์ไม่มีที่หนีอีกแล้ว

ไม่เป็นไรน่า ฮิโนอาราชิ แค่ฝูงป็อปโปะน่าแม็กซ์ปลอบพลางลูบหัวฮิโนอาราชิในอ้อมแขนที่ แต่ดุมันจะไม่มีท่าทีกลัวฝูงป็อปโปะเท่าไร ประหนึ่งว่านี่เป็นแค่การเล่นสนุกอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง

แม็กซ์ยืนปักหลักจ้องตากับพีจ็อตมาเฟียเขม็ง สายตาของแม็กซ์ไม่ใช่สายตาของคนขี้เล่นอีกแล้ว มันเป็นสายตาที่สงบนิ่ง ยากจะเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เกาะแน่นๆล่ะแม็กซ์ลดเสียงเป็นกระซิบ เขาหยิบฮิโนอาราชิขึ้นวางไว้บนบ่า แล้วเริ่มตั้งท่าท้าทายพีจ็อต ขาทั้งสองกางออก ย่อตัวลงเล็กน้อย นิ้วชี้และนิ้วกลางสองนิ้วถูกยกขึ้นกระดิกเรียกเชิงเย้ยหยัน

แกว๊กกกกกกกพีจ็อตส่งเสียงออกมาด้วยความโมโห มันสะบัดปีกพุ่งตัวเข้าไปใส่แม็กซ์ด้วยแรงทั้งหมดที่มี หวังเผด็จศึกในท่าเดียว

แม็กซ์กะจังหวะกระโดดม้วนตัวลอยขึ้นบนอากาศหลบการโจมตีของพีจ็อตได้อย่างหวาดเสียว แต่แม็กซ์ไม่ทำเพียงแค่นั้น เขาคว้าหงอนสีเหลืองยาวเหยียดของพีจ็อตไว้ด้วย

วู้ว แบบนี้สิถึงจะมันส์แม็กซ์ทิ้งตัวลงขี่คอพีจ็อตได้อย่างเหมาะเจาะ เจ้านกมาเฟียเสียรู้ มันพยายามจะสะบัดออกแต่ไร้ผล แม็กซ์กำหงอนของมันไว้แน่น ยิ่งสะบัดมันก็ยิ่งเจ็บแทบน้ำตาเล็ด มันได้แต่ส่งเสียงร้องบินฉวัดเฉวียนไปมาท่ามกลางกลุ่มของมันเอง เมื่อหัวหน้าเสียท่า เหล่าลูกน้องก็เสียหลักทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองหน้ากันเองอย่างงงๆ

ฮิโนอาราชิ พร้อมจะฝึกกันรึยัง เอ้า ตำแหน่ง11 นาฬิกา พ่นไฟเลยแม็กซ์สั่งพร้อมชี้ไปยังพีเจี้ยนตัวหนึ่ง ฮิโนอาราชิพ่นไฟออกไปตามทิศที่สั่ง แต่พีเจี้ยนหลบได้อย่างง่ายดาย

เอาใหม่ คราวนี้ใกล้หน่อย เอ้าเจ้านก! บินไปใกล้ๆหน่อยสิ แม็กซ์ดึงหงอนของมันอย่างแรงจนพีจ็อตต้องร้องลั่นน้ำตาซึม มันจำยอมต้องบินเข้าไปใกล้ๆ ฝูงของมันแต่โดยดี

เอาใหม่ คราวนี้ 9 นาฬิกา พ่นไฟเลย ฮิโนอาราชิทำตาม แต่พวกป็อปโปะไม่ใช่เป้านิ่งพวกมันบินหลบได้อยู่ดี

เฮ้อไม่โดนซะทีแฮะแม็กซ์เกาหัวแกรกๆ แต่แล้วเขาฉุดคิดอะไรมาได้บางอย่าง เขามีเป้านิ่งในอยู่มือตั้งตัวเบ้อเริ่ม จะไปหาเป้าอื่นทำไมอีก

ฮิโนอาราชิ พ่นไฟใส่พีจ็อตตัวนี้แหละ!

ฮิโนอาราชิ เริ่มสูดลมหายใจลึก แต่พีจ็อตไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่ มันบินควงสว่านอย่างรวดเร็ว จนฮิโนอาราชิเสียหลักหล่นจากไหล่ของแม็กซ์ แม็กซ์รีบใช้บอลเก็บฮิโนอาราชิไว้ได้อย่างหวุดหวิด และในจังหวะนั้นเอง พีเจี้ยนสองตัวก็โฉบเข้ามา คว้าแขนของแม็กซ์ไว้ตัวละข้าง พาเด็กหนุ่มลอยขึ้นจากหลังหัวหน้าของพวกมัน พีจ็อตเป็นอิสระแล้ว แค้นนี้มันต้องทวงคืน มันบินชาร์จขึ้นสูงลิ่ว

เฮ้ย! วิหคเหินหาว(Sky Attack) เอาจริงเหรอเนี่ยแม็กซ์อดอุทานออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นพีจ็อตเตรียมใช้เทคนิคขั้นสุดยอดของโปเกมอนนก เขาถูกพีเจี้ยนสองล็อคแขนทั้งสองข้างไหว ไม่มีทางหนีได้เลย พีจ็อตบินขึ้นไปสูงจนเห็นเป็นแค่เงาเล็กๆเท่านั้น มันเริ่มทิ้งตัวลงมาแล้ว แม็กซ์หลับตาปี๋ กลางป่าแบบนี้ใครจะมาช่วยเขา ไม่มีหวังรอดแล้ว

ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง แม็กซ์ตกอยู่ในภาวะมืดแปดด้าน เสียงกระพือปีกและเสียงร้องคำรามแหลมเล็กของพีจ็อตเปรียบเหมือนเสียงของมัจจุราช

แต่แล้วเสียงคำรามที่ทุ้มต่ำและน่าเกรงขามก็ดังสนั่นไปทั่วบริวเวณ พีเจี้ยนทั้งสองที่ยึดแขนของแม็กซ์

อยู่ตกใจกับเสียงคำรามที่ดังสนั่น มันปล่อยแขนของแม็กซ์ออกทันที พีจ็อตเองก็หยุดชะงัก มันเปลี่ยนทิศทางนำฝูงป็อปโปะหนีไปทันที

เหวอ อย่าทิ้งกันแบบนี้สิ!แม็กซ์ถึงกับร้องเสียงหลง ร่างของเขาร่วงดิ่งลงเรื่อยๆ แม็กซ์รู้สึกว่าตัวเบาไปหมด หัวใจวูบตกลงไปถึงตาตุ่ม พื้นหินแข็งรออยู่เบื้องล่าง ตกลงไปก็มีแต่ตายกับตาย วันนี้มันเป็นวันซวยของเขาแท้ๆ

พ่อแก้วแม่แก้วจ๋า วันนี้แม็กซ์จะตายแล้วแม็กซ์ตะโกนลั่น

แต่ดวงเขายังไม่ถึงฆาต วินดี้ตัวหนึ่ง กระโดดฝ่าหมู่แมกไม้ออกมารับตัวเขาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนจะพากลับลงพื้นอย่างปลอดภัย แม็กซ์ยังคงนั่งหอบหน้าซีดอยู่บนหลังของวินดิ้ วินาทีนรกผ่านไปแล้ว แต่ความตกใจยังไม่หาย แค่การออกผจญภัยวันแรกก็เกิดเรื่องมากมายขนาดเกือบตายเอาเสียแล้ว

เฮ้ นายน่ะ อย่านั่งนานสิ นั่นไม่ใช่ของนายนะเสียงๆหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาทของแม็กซ์ เด็กหนุ่มหันขวับไปทางต้นเสียง ต้นเสียงเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับแม็กซ์ ผมสีแดงสั้นชี้ ดวงตาแหลมฉายแววความมั่นใจในตัวเองที่สูง สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าบูทที่เขาใส่อยู่ก็เป็นสีเดียวกับกางเกงยีนส์ซึ่งถ้ามองเผินๆ ก็อาจจะแยกไม่ออก

นายน่ะ ไม่มีโปเกมอนแล้วมาเพ่นพ่านในป่าทำไม ถ้าฉันไม่ผ่านมาล่ะ นายตายไปแล้วนะ

ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆที่ช่วยไว้ แม็กซ์รีบลงมาจากวินดี้มายืนผงกหัวขอบคุณงกๆ

ช่างมันเถอะ เรื่องเล็กน้อยชายหนุ่มบอกอย่างไม่ใช่ใจ

เมื้อกี้มันอะไร? คำรามเหรอ?แม็กซ์ถามพลางแหงนหน้ามองฝูงป็อปโปะที่บินหนีไปหมดแล้ว กระทั่งพีจ็อตตัวนั้นด้วย

อืมม์ ว่าแต่นายเถอะมาทำอะไรที่นี่?เด็กหนุ่มถามบ้าง

อ้อ ฉันกำลังจะไปเมืองโยชิโนะน่ะ ไปทำธุระนิดหน่อย

โยชิโนะเหรอ อีกไกลอยู่เหมือนกัน เอางี้แล้วกัน นั่งวินดี้ไปกับฉัน แป๊บเดียวถึงเด็กหนุ่มเสนอ

รบกวนด้วยนะ

ไม่เป็นไร

________________--

ในขณะเดียวกันที่ศูนย์วิจัยของดร.อุทซึกิ

เหล่านักวิจัยพากันหลับใหลกันหมดโดยไม่รู้สาเหตุ ชายคนหนึ่งปีนหน้าต่างเข้ามาอย่างง่ายดาย เขามีผมสีแดงยาวประบ่าสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำขลิบแดงสวมกางเกงยีนส์ขายาวกับรองเท้าผ้าใบ บนหน้าของเขาคาดผ้าปิดปากเอาไว้ด้วย เหนือหัวของเขามีมอร์ฟอนตัวหนึ่งบินอยู่อย่างเงียบเชียบ

ผงหลับของมอร์ฟอน ใช้งานได้เสมอ เขาว่าพลางเดินสำรวจห้องวิจัยราวกับที่นี่เป็นบ้านของเขาเอง และแล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดกับ เครื่องจักรทรงกระบอกที่ตั้งอยู่ริมผนังเครื่องหนึ่ง ข้างบนนั้นมีช่องสำหรับใส่บอลสามช่อง แต่ตอนนี้มีบอลอยู่แค่ 2 ช่องเท่านั้น บอลที่เหลืออยู่อีกสองอยู่ มีสติ้กเกอร์สีฟ้า และสีเขียวแปะอยู่ เขาเดินตรงไปยังเครื่องจักรเครื่องนั้น

นั่นใครหยุดนะ! เสียงๆ หนึ่งดังขึ้น เจ้าของเสียงคือมารินพร้อมกับมาริลคู่ใจของเธอ ชายผมแดงไม่ได้สะทกสะท้านต่อท่าทีของมาริน มอร์ฟอนของเขาบินมาประจันหน้ากับมารินโดยไม่ต้องสั่ง

ริลลู พ่นน้ำใส่มันเลยมารินชิงจังหวะโจมตีก่อน แต่มอร์ฟอนก็หลบสายน้ำเล็กๆของมาริลได้อย่างง่ายดาย

ถูกหลอกแล้วเจ้าหัวโขมย อควา เจ็ท!มาริลหายตัวไปจากข้างมาริน แล้วกระโดดออกมาจากสายน้ำที่พ่นออกไปเมื่อครู่ พุ่งเข้าใส่มอร์ฟอนอย่างรวดเร็ว แต่มาริลกลับพุ่งทะลุมอร์ฟอนไปซะเฉยๆ

อะไรกัน!

หึหึหึ มีฝีมือพอตัว แต่ยังด้อยประสบการณ์ มอร์ฟอนของฉันให้ท่าแยกร่างไว้ตั้งนานแล้ว ชายผมแดงหัวเราะในลำคอ สิ้นเสียง มอร์ฟอนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในห้องพร้อมกับละอองประหลาดมากมาย

ฉันขอเจ้านี่ไปล่ะนะชายผมแดงหยิบบอลลูกหนึ่งขึ้นมาเย้ยหยัน

เอาคืนมานะ มารินทำท่าจะวิ่งออกตามไปแต่เธอกลับรู้สึกว่าขาของเธอหมดแรงเอาเสียดื้อๆ เด็กสาวล้มฟุบลงกับพื้นพร้อมๆ กับสติที่ค่อยๆหมดลงไป เสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินก็คือ เสียงหัวเราะอย่างสะใจของชายผมแดงคนนั้น

_____________-

ขอบใจมากนะที่มาส่งแม็กซ์พูดพลางกระโดดลงจากหลังของวินดี้

ไม่เป็นไรเด็กหนุ่มตอบ

ว่าแต่นายชื่ออะไร ฉันแม็กซ์

ฉัน...เด็กหนุ่มเหมือนได้ยินอะไรบางอย่าง เขารีบควบวินดี้หายเข้าป่าไปทันที

อ้าว เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย!แม็กซ์ตะโกนถามไล่หลังไป แต่ไม่ทันความเร็วของวินดี้ที่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว อะไรของเขา

โอ้ เจ้าหนูมาแล้วเหรอแม็กซ์ยังไม่ทันจะตั้งตัวอะไร ชายแก่คนหนึ่งก็กระโดดพรวดเข้ามาสวมกอดแม็กซ์พร้อมกับร้องตะโกนอย่างดีใจ

ฮ..เฮ้ ลุง อะไรกันเนี่ยแม็กซ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ

เจ้าหนู อย่าเขินไปหน่อยเลยน่า กลับมาก็ดีแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนะชายแก่ว่าพลางสำรวจตัวแม็กซ์อย่างตื่นเต้น

ลุง..ต...แต่ว่า

เจ้าหนูดูบ้านเกิดเมืองนอนของเธอสิ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ โปเกมอนเซ็นเตอร์ก็อยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนพยาบาลคนใหม่เท่านั้นเอง โปเกมาร์ทร้านเดิมก็ยังอยู่ที่เดิม แถมไอ้เจ้าของร้านขี้ตืดมันก็ยังอยู่ด้วยนะ หนังเหนียวตายยากจริงๆ โฮะๆ ชายแก่ไม่เปิดโอกาสให้แม็กซ์พูดอะไรเลย เขาจูงมือแม็กซ์เดินรอบเมืองโยชิโนะ พร้อมกับพล่ามอธิบายสถานที่โน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย

ดูทะเลนี่สิ จำได้มั้ยตอนเด็กๆ เธอเคยมาเล่นบ่อยๆ ไงล่ะชายแก่พาแม็กซ์มาหยุดตรงที่ชายหาดอีกฝากหนึ่งของเมือง เมืองโยชิโนะเป็นเมืองที่ยังมีบรรยกาศของคำว่าชนบทอยู่บ้าง แม้ว่าบ้านเมืองจะค่อนข้างใหญ่โตและมีความเจริญมากกว่าเมืองวาคาบะ ที่ไม่มีแม้แต่โปเกมอนเซ็นเตอร์ ตกเย็นแล้ว ดวงอาทิตย์สีแดงฉายแสงอยู่อีกฝากหนึ่งของทะเลกว้างใหญ่ แสงสีส้มอมแดงของมันทำให้ท้องฟ้ายามสนธยาดูมีเอกลักษณ์ และดึงดูดสายตาอย่างประหลาด

นี่ลุงแม็กพูดขึ้นพร้อมกับสายลมยามเย็นที่พัดผ่าน บรรยากาศช่างเป็นใจจริงๆ

อะไรเหรอ?ชายแก่ถาม น้ำเสียงของเขาเหมือนดีใจที่แม็กซ์พูดเขากับเขาเสียที

ลุงเป็นใคร?

ถ้วยน้ำชาถูกวางกลับลงบนโต๊ะอีกครั้งพร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวของชายแก่

ขอโทษด้วยนะ ฉันจำคนผิดน่ะชายแก่ยอมรับสารภาพ ตอนนี้แม็กซ์มาอยู่ในบ้านของชายแก่แล้ว หลังจากพูดคุย สืบหาต้นตอกันแล้วก็พบว่า ชายแก่นึกว่าแม็กซ์เป็นลูกของเขาที่หายจากบ้านไป 2 ปีแล้ว

เฮ้อ ถ้าวันนั้นฉันไม่พูดแรงกับเขาเกินไป เขาก็อาจจะอยู่กับฉันที่นี่ก็ได้ชายแก่ได้แต่รำพึงรำพัน สีหน้าของเขาสลดลงมากต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกได้ว่าเขากำลังคิดถึงลูกชายเหลือเกิน

ทำไมลุงไม่โทรหาลูกล่ะ

นั่นคือโปเกเกียร์ของเขาชายแก่ตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยพร้อมกับชี้ไปที่โปเกเกียร์อันหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ

ป่านนี้เขาก็อายุเท่าเธอนี่แหละมั้ง

แม็กซ์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แสงอาทิตย์อัสดงสีส้มสาดเข้ามาในตัวบ้าน เตือนสติแม็กซ์ให้กลับมาอีกครั้ง เขาลืมเรื่องของด็อกเตอร์ออร์คิดไปเสียสนิท

ลุง ผมต้องขอตัวก่อนนะแม็กซ์บอก

จะไปไหนล่ะ

ต้องไปทำธุระน่ะครับ อ้อ ลุงพอจะรู้มั้ยว่าตอนนี้ด็อกเตอร์ออร์คิดเขาไปพักอยู่ที่ไหน

ด็อกเตอร์ ออร์คิด...ใช่ตานักวิทยาศาสตร์หัวขาวๆ ที่วิจัยอะไรเกี่ยวกับโปเกมอนอะไรนั่นใช่รึเปล่า

ใช่ๆ คนนั้นแหละ ลุงพอรู้มั้ย

รู้สิ เดี๋ยวฉันจะพาไปหาเขาเอง พูดจบชายแก่ก็ลงจากเก้าอี้ เขาเดินนำออกไปโดยมีแม็กซ์ตามไปติดๆ

ชายแก่นำแม็กซ์ ผ่านตัวเมือง เข้าสู่เขตชานเมือง จนกระทั่งออกนอกเมือง สภาพแวดล้อมรอบๆ ชานเมืองโยชิโนะค่อนข้างทึบกว่าป่าโปร่งที่แม็กซ์ผ่านมาเมื่อตอนกลางวัน แต่กลับมาอู้คนมากขึ้น ระหว่างทางก็พบเทรนเนอร์และชาวบ้านที่ออกมาหาของป่าเป็นระยะๆ

นั่นไง บ้านหลังนั้นแหละ ชายแก่หยุดเดิน เขาชี้ไปทางบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างหมู่แมกไม้ บ้านนั้นเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หลังเล็ก ดูราวกับบ้านในเทพนิยายฝรั่ง

ฉันไปก่อนล่ะนะชายแก่บอกพร้อมกับหันหลังเดินเข้าเมือง

ขอบคุณมากคร้าบแม็กซ์ตะโกนไล่หลังไป

แม็กซ์เดินแหวกพุ่มไม้ ก้าวตรงไปยังบ้านหลังนั้น เขาหยุดที่ตรงหน้าประตูบ้าน บรรยากาศของบ้าน ชวนให้เขานึกถึงเรื่อง สโนวไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดยังไงอย่างงั้น

สวัสดีครับ ด็อกเตอร์ออร์คิดอยู่รึเปล่าครับแม็กซ์เคาะประตูเรียก ในใจก็คิดว่าคงไม่มีคนแคระทั้งเจ็ดโผล่ออกมาหรอกมั้ง

และแล้วประตูบ้านก็เปิดออก สิ่งแรกที่แม็กซ์เห็นทำให้เขาต้องอุทานลั่น

เหวอ! คนแคระ!

ผู้มาเปิดประตูเป็นชายแก่ตัวสั้นป้อม ไว้หนวดเครายาวสีขาว สวมแว่นเรย์แบนด์ สวมหมวกแบบคาวบอยสีดำ สวมชุดสูทสีดำทั้งตัว

น่าเกลียดที่สุด ฉันไม่ใช่คนแคระนะ ฉันเป็นถึงประธานสมาคมโปเกมอนเชียวนะชายแก่โวยวายอย่างหัวเสียทันทีที่ได้ยินคำพูดของแม็กซ์

ขอโทษคร้าบ พอดีตกใจไปหน่อยแม็กซ์รีบก้มหน้าขอโทษขอโพยเจ้าของบ้าน

เชอะ!ชายแก่งอนตุ้บป่อง

อะไรกันท่านประธาน อายุปูนนี้แล้วยังทำขี้งอนไปได้เสียงๆหนึ่งแซวมาจากข้างใน มาหาฉันเหรอ เข้ามาก่อนสิ

ค...ครับแม็กซ์ตอบพร้อมกับเดินเข้าไปในบ้าน โดยมีประธานสมาคมปิดประตูไล่หลังอย่างหงุดหงิด บ้านไม้หลังนี้ตกแต่งไว้ค่อนข้างหรูหรา แบ่งเป็นห้องๆได้สัดส่วน โดยเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเป็นห้องรับแขกที่มีชุดโต๊ะเก้าอี้ที่เข้าชุดกันจัดอยู่กลางห้อง ที่มุมห้องประดับด้วยต้นไม้ทรงเรียวยาวขนาดเล็กในกระถางเซรามิค รอบๆบ้านประดับด้วยดวงไฟเล็กๆ สีเหลืองนวล มันดูเข้ากับบ้านไม้อย่างมาก

ที่ชุดโซฟากลางห้องรับแขก มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งจิบชาอย่างสบายใจ เขามีผมขาวสั้น สวมเสื้อกาวด์แบบนักวิทยาศาสตร์ สวมกางเกงแสล็คสีน้ำตาลเข้ม และรองเท้าหนังสีไม่ต่างกัน ท่าทีของเขาดูภูมิฐานและท่าทางเป็นคนใจดี

ฉันคือ ด็อกเตอร์ ออร์คิด เขาแนะนำตัว เธอคงเป็นคนที่ด็อกเตอร์อุทซึกิส่งมาใช่มั้ย

ครับแม็กซ์ตอบ ด็อกเตอร์ มีธุระอะไรเหรอครับ

แน่นอน ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยนิดหน่อย

อะไรเหรอครั...

แม็กซ์ยังพูดไม่ทันจบ เสียงเรียกจากโปเกเกียร์ของเขาก็ดังขึ้น แต่เสียงโปเกเกียร์คราวนี้ฟังไม่คุ้นหูเลย แม็กซ์จำได้ว่าโปเกเกียร์ของเขาไม่ใช่เสียงแบบนี้ แต่เขาก็ยกมันขึ้นมาดู ที่หน้าจอดิจิตอลมีตัวอักษรขึ้นว่า MAX อันเป็นชื่อของเขาเอง เป็นไปได้ยังไง เขาจะโทรเข้าเครื่องตัวเองได้ยังไงกัน

ขอตัวสักครู่นะครับแม็กซ์ขออนุญาตด็อกเตอร์ออร์คิด ก่อนที่จะผละตัวออกมายืนที่มุมหนึ่งของบ้าน

ฮัลโหล นั่นใครแม็กซ์รับสายอย่างงงๆ

แม็กซ์ ตาบ้า ตาถั่วรึไงหยิบโปเกเกียร์ของฉันไปเสียงของหญิงสาวแว้ดออกมาจากโปเกเกียร์ดังลั่นจนทั้งด็อกเตอร์ออร์คิดและประธานสมาคม หันมาดูพร้อมกัน แม็กซ์จำได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงของมาริน

อะไรของเธอ! ด็อกเตอร์อุทซึกิต่างหากที่หยิบมา ฉันไม่ได้หยิบซักหน่อย

จะใครหยิบก็ช่างเถอะ เรื่องโปเกเกียร์ไว้คุยกันทีหลัง แต่ตอนนี้นายกลับมาก่อนได้มั้ย ที่วาคาบะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

อะไร?

มีคนบุกรุกห้องวิจัยของคุณอา มันเอาโปเกมอนที่คุณอากำลังวิจัยอยู่ไปด้วยตัวนึง นายกลับมาก่อนจะได้มั้ยเผื่อจะได้ช่วยอะไรกันบ้าง

โอเคแล้วฉันจะรีบกลับไป

เร็วๆ ล่ะ ดูแลโปเกเกียร์ฉันดีๆ ด้วยอย่าให้เป็นรอยล่ะพูดจบ เธอก็ตัดสายไปทันที

เอ่อ...ด็อกเตอร์ออร์คิดครับ ผมขอตัวก่อนนะครับแม็กซ์พูดพร้อมกับวิ่งตรงไปที่ประตูบ้าน

ใจเย็นก่อน ด็อกเตอร์ออร์คิดพยายามห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว แม็กซ์เปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยความร้อนใจ แม็กซ์รีบถลันออกมาจากบ้านจนไม่ทันดูทาง เขาชนโครมเข้าไปกับอย่างบางอย่างจนล้มหงายหลัง แม็กซ์ชนเข้ากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เขามีผมสีแดงยาวประบ่า และสวมแจ็กเก็ตสีดำขลิบแดง เขาคือคนที่ขโมยโปเกมอนมาจากห้องวิจัยของดร.อุทสึกิ

_________________=

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 3 ฉันทำถูกแล้วใช่มั้ย

อูยๆ ขอโทษทีนะฉันกำลังรีบ แม็กซ์รีบขอโทษขอโพย แล้วทำท่าจะออกวิ่งต่อ แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นมันสิ่งที่หล่นจากมาจากเด็กหนุ่มคนนั้น มันคือบอลที่มีรอยถลอกอยู่ แม็กซ์จำได้ทันทีว่ามันคือบอลที่ถูกมาริลทำหล่นเมื่อเช้า แม็กซ์ไม่รอช้าเขาปล่อยฮิโนอาราชิออกจากบอลทันที

นี่มันอะไรกัน วิ่งชนฉันแล้วจะหาเรื่องอีกเหรอเจ้าหัวขโมยรีบคว้าบอลกลับเข้าประเป๋า เขาแกล้งตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่อง

อย่ามาทำซื่อไปหน่อยเลย บอลนั้นมันเป็นของด็อกเตอร์อุทซึกิ แกคือหัวขโมย ฮิโนอาราชิ พ่นไฟ

อย่ามาปรักปรำกันมั่วๆนะ มอร์ฟอน ผงหลับใหลหัวขโมยกระโดดไฟของฮิโนอาราชิพร้อมกับปล่อยมอร์ฟอนออกมาตอบโต้

ฮิโนอาราชิ ใช้วงแหวนไฟรอบตัวเอง สิ้นคำสั่ง ไฟบนหลังฮิโนอาราชิก็กระจายออกมาเป็นลูกเพลิงเล็กๆ ล้อมรอบตัวเอง ป้องกันผงหลับไว้ได้อย่างทันท่วงที

มีฝีมือพอตัวนี่หัวโขมยชม

แน่นอนอยู่แล้ว

แต่ดูสิจะไปได้แค่ไหน มอร์ฟอน สะกดจิต

ดวงตาของมอร์ฟอนเริ่มฉายแสงสีม่วงอ่อนๆ มันบินลงไปตรงหน้าฮิโนอาราชิ

ฮิโนอาราชิพ่นควัน

ฮิโนอาราชิ พ่นควันดำโขมงออกมาทั่วบริเวณ บดบังภาพของทุกอย่างในบริเวณนั้นทันที เมื่อไม่เห็นคู่

ต่อสู้ สะกดจิตก็ไร้ผล และไม่ใช่แค่โปเกมอนทั้งสองที่อยู่ภายในม่านควันนี้ ตัวเทรนเนอร์เองก็ถูกบดบังไปด้วย หัวขโมยไม่มีท่าทีตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์นี้เลย เขาสั่งต่อไปอย่างใจเย็น

ลูกไม้ตื้นๆ มอร์ฟอน ใช้ท่าพายุหมุน เป่ามันให้หมดเลย

มอร์ฟอนกระหน่ำลมออกมาจากปีกอย่างรุนแรง แต่ทันใดนั้นหัวขโมยที่นิ่งมานานถึงกับตะลึงเมื่อลมของมอร์ฟอนกลายเป็นพายุเพลิงพุ่งพวยขึ้นมาย่างสดตัวเอง ฮิโนอาราชิแอบลอบเข้าไปข้างใต้มอร์ฟอนตอนที่พ่นควันออกมา เมื่อมอร์ฟอนใช้ท่าพายุหมุน ลมที่รุนแรงก็ช่วยโหมไฟบนหลังของฮิโนอาราชิ ให้กลายเป็นพายุเพลิงขึ้นมาได้ในทันที มอร์ฟอนจะหมดสภาพร่วงลงพื้น แต่กระนั้นหัวขโมยก็ไม่ได้สะทกสะท้าน เขากลับยิ้มแสยะอย่างผู้ชนะ สร้างความประหลาดใจให้แม็กซ์อย่างมาก

แกแพ้แล้ว ยังจะยิ้มอะไรอีก คืนโปเกมอนมา

ฉันแพ้อะไรกัน โปเกมอนฉันยังอยู่นะ สิ้นเสียงหัวขโมย มอร์ฟอนที่นอนสลบเหมือดอยู่บนพื้นก็สลายหายไป พร้อมกับมอร์ฟอนตัวหนึ่งบินโฉบลงมาตรงหน้าแม็กซ์ ผงประหลาดถูกปล่อยออกมาจากปีกของมอร์ฟอนใส่หน้าแม็กซ์โดยตรงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แม็กซ์รู้สึกว่าสติสัมปชัญญะเริ่มหายไป

เจ็บใจนักแม็กซ์ได้แต่พูดในใจอย่างเจ็บแค้น ร่างของเขาอ่อนปวกเปียกล้มฟุบลงไป

__________________-

แม็กซ์ลืมตาขึ้นในความมืด รอบๆตัวเขามืดไปหมด ทั้งมืดและเงียบสงัด เขานอนอยู่บนพื้นเย็นๆ ที่แข็งกระด้างเหมือนคอนกรีต เด็กหนุ่มค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง เขายังคงมองไม่เห็นอะไรเลยแม้จะอยู่ในความมืดมาครู่หนึ่งแล้ว ราวกับมีผ้ามาปิดตาเขาอยู่อย่างนั้นแหละ แต่แล้วแสงสว่างดวงเล็กๆ ก็ส่งประกายขึ้นในความมืด มันค่อยๆ ลอยตรงมายังแม็กซ์

เด็กหนุ่มจ้องมันอย่างฉงน อยากรู้ก็อยากรู้ แต่อีกใจก็กลัวว่ามันจะประสงค์ร้าย แม็กซ์ตัดสินใจนิ่งเฉยเสีย มันอาจจะไม่เห็นเขาก็ได้ แสงสว่างนั้นเข้ามาใกล้เต็มที ใจแม็กซ์ต้นดังตุบตับก้องในหัว เขารู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลอาบแก้มแม้ว่าอากาศจะเย็น

แล้วแม็กซ์ก็โล่งใจ เมื่อเห็นว่าแสงสว่างนั้นก็คือ แสงจากไฟบนหัวของฮิโกะซารุตัวหนึ่ง มันเดินเข้ามาหาแม็กซ์ด้วยท่าทีเชื่องและคุ้นเคย มันยิ้มให้แม็กซ์ แม็กซ์เองก็รู้สึกคุ้นเคยกับมัน เหมือนกับว่าอยู่ด้วยกันมานานปี เขารู้สึกคิดถึงมันอย่างบอกไม่ถูก เขาค่อยๆยื่นมือไปหามัน ทันทีที่มือของเขาแตะตัวของมัน ฮิโกะซารุตัวนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นเพียงเศษผง ทุกอย่างดับมืดลงอีกครั้ง แม็กซ์รู้สึกใจหายวาบ

ไม่!

-----

แม็กซ์ลุกพรวดขึ้นจากที่นอน ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวและเหงื่อแตกเต็มตัว รอบๆตัวเขามีผู้คนยืนล้อมอยู่ 3-4 คน ด็อกเตอร์อุทซึกิ ด็อกเตอร์ออร์คิด แม่ของเขา และ มาริน ดูเหมือนคราวนี้เธอจะไม่ได้เอามาริลตัวโปรดมาด้วย

เป็นยังไงบ้างแม็กซ์แม่ของเขาถามขึ้นทันทีด้วยความเป็นห่วง

ไม่เป็นไรครับแม่ ... ที่นี่ที่ไหนแม็กซ์ตอบพร้อมกับย้อนถามด้วยอาการหอบนิดๆ เขาเหมือนคนที่เพิ่งวิ่งมา

ที่บ้านเราไง ด็อกเตอร์ออร์คิดเป็นคนพาลูกมา เขาบอกว่าลูกโดนผงหลับของโปเกมอนเล่นงานเอา แม่นึกว่าลูกจะไม่ตื่นมาเสียแล้วแม่ของเขาตอบอย่างรวดเร็ว แม้แม็กซ์จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เธอก็ยังอาการอดเป็นห่วงไม่ได้

อ๋อ ใช่แม็กซ์พึมพำกับตัวเอง ความจำของเขาย้อนกลับไปในไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขาสู้กับโจรโขมยโปเกมอนและพลาดท่าแพ้เอา ด็อกเตอร์อุทสึกิ ผมขอโทษด้วยนะครับ ผมเอาโปเกมอนคืนมาไม่ได้

ช่างมันเถอะ เธอปลอดภัยก็ดีแล้วด็อกเตอร์อุทสึกิตอบ

ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกแม็กซ์ ที่โดนมันเล่นงานเอา ฉันเองก็โดนเหมือนกัน ฝีมือของมันเก่งกว่าพวกเรามากเลยมารินเสริม

เจ็บใจจริงๆสิแม็กซ์สบถลอดไรฟันออกมาอย่างคับแค้น

แม็กซ์ เธอเป็นเทรนเนอร์ฝีมือดีคนหนึ่ง อย่าโกรธตัวเองเลย มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะแพ้เจ้าหมอนั่นด็อกเตอร์ออร์คิดปลอบ แม้ในยามนี้เขายังคงมาดอันเคร่งขรึมของเขาอยู่เช่นเดิม

ด็อกเตอร์ รู้จักมันเหรอครับ?แม็กซ์ถามทันควัน

ไม่เชิงรู้จักหรอก ผู้ชายคนนั้น เขาเป็นหนึ่งในสมาชิคระดับสูงของแก็งร็อคเก็ต ที่ถูกทางการหมายหัวอยู่ ตามจับเท่าไรก็ไม่เคยสำเร็จเลย เจอคู่แข่งระดับนี้ เธอยังสู้ได้ดีขนาดนี้ ก็เก่งมากแล้ว

อะไรนะ? แก็งร็อคเก็ต!แม็กซ์โพล่งออกมา อย่างลืมตัว

ใช่ ทำไมเธอต้องตกใจแบบนั้น?

ป...เปล่าครับ ผมแค่เคยได้ยินมากว่า พวกมันคือแก็งใต้ดินที่ร้ายกาจมาก พวกมันออกก่อกวนไปทั่ว

ทั้งเขตคันโตและโจโตเลย

ใช่ เธอได้ยินมาถูกแล้ว และนั่นคือเรื่องที่ฉันต้องการคุยกับเธอ... แม็กซ์ ดูเหมือนด็อกเตอร์ออร์คิดจะเริ่มเข้าประเด็น ท่าทางของเขาดูจริงจังมาก

เราต้องการให้เธอ สืบหาเป้าหมายของพวกแก็งร็อคเก็ตให้ได้ว่ามันต้องการอะไร

คำพูดของด็อกเตอร์ออร์คิด สร้างความตะลึงงันให้กับทุกคนในที่นั้น แม้แต่ ด็อกเตอร์อุทสึกิ ก็คาดไม่ถึง

อะไรกันคะ ด็อกเตอร์ งานนี้มันอันตรายมากนะคะ ทำไมต้องให้เด็กอย่างแม็กซ์ทำด้วย แม่ของแม็กซ์แย้งทันที

เพราะดูเหมือนว่าแก็งร็อคเก็ต จะมีเส้นสายอยู่ในสมาคมโปเกมอนและรัฐบาล ทุกครั้งที่คนของเราเข้าไปตรวจพื้นที่ต้องสงสัย พวกนั้นก็ไหวตัวทันหนีไปได้ทุกที และเทรนเนอร์ที่ฝีมือดีและมีชื่อเสียงก็ยังถูกพวกมันหมายตาไว้ว่าเราจะใช้งานพวกเขา เพราะฉะนั้น ฉันจึงต้องหาเทรนเนอร์ที่พอมีฝีมือและ ไม่มีชื่อเสียงอะไรในเขตโจโตนี่ อย่างเธอนี่แหละ

ด็อกเตอร์คะ แต่ว่า... แม่ของแม็กซ์อ้าปากจะเถียง แต่ด็อกเตอร์ออร์คิดห้ามไว้

ได้โปรดเถอะครับคุณนาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ให้เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเขาเองเถอะครับ

แม็กซ์ นี่เป็นโอกาสดีแล้วนะแม็กซ์ รับเลยสิรับเลยๆมารินร้องเชียร์ด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าคนที่

จะออกเดินทางนั้นคือเธอเอง

แม็กซ์คิดดีๆนะอุทเตอร์อุทซึกิเชียร์อีกแรง

ผม...

คำตอบของแม็กซ์ทำให้ทั้งด็อกเตอร์อุทซึกิและมารีนลุ้นกันจนตัวโก่ง ดูเกินหน้าเกินตา

ไม่รับงานนี้ครับ

และแล้วคำตอบที่ด็อกเตอร์อุทซึกิและมารีนลุ้นกันแทบตายก็ทำให้พวกเขาผิดหวัง ด็อกเตอร์ออร์คิดเองก็เช่นกัน เขารู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่แสดงอาการมากมาย

ทำไมกันแม็กซ์ นายบอกฉันมาสิว่าเพราะอะไรมารีนยังคงออกอาการราวกับว่าคำตอบของแม็กซ์ทำให้เธออดไปด้วย

ฉันไม่ชอบโปเกมอนแบทเทิล ฉันไม่อยากจะยุ่งกับมัน ขอโทษด้วยนะครับ ด็อกเตอร์ออร์คิดแม็กซ์ตอบโดยไม่มองหน้าใครสักคน เขาเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่าง

เห็นแก่ตัว! แค่เพราะตัวเองไม่ชอบก็เลยไม่คิดจะช่วยคนอื่นงั้นเหรอมารินต่อว่าด้วยเสียงอันดัง แล้วปลดโปเกเกียร์ จากข้อมือของเธอขว้างลงบนตักแม็กซ์ ของของนายเอาไปเลยนะ ของของคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ฉันไม่เอาหรอก เอาโปเกเกียร์ของฉันคืนมาด้วย

แม็กซ์ถอดโปเกียร์ยื่นส่งให้มารินโดยที่ยังหันมองหน้าต่างเหมือนเดิม มารินคว้ามันไปอย่างฉุนเฉียว

ด็อกเตอร์ออร์คิดคะ ถ้าไม่ว่าอะไร หนูจะรับหน้าที่นี้เองก็ได้ค่ะ เราไปคุยเรื่องนี้กันที่ห้องวิจัยของคุณอากันดีกว่าค่ะมารินพูดอย่างขุ่นเคืองแล้วหันกลังสะบัดออกไปจากห้องทันที ห้องของแม็กซ์ตกอยุ่ในความเงียบสนิทโดยทันที ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น แม่ของแม็กซ์มีสีหน้าเหมือนโล่งอก ในขณะที่ด็อกเตอร์อุทสึกิทำตัวไม่ถูก และด็อกเตอร์ออร์คิดยังคงจ้องมาที่แม็กซ์อย่างเคร่งขรึม

แม็กซ์ ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอนะ ฉันคงไม่มีเวลาว่างพอจะอยู่รอเธอที่นี่ พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะออกเดินทาง ถ้าเธอเปลี่ยนใจ ก็ไปหาด็อกเตอร์อุทสึกิแล้วกัน ไปกันเถอะอุทสึกิพูดจบด็อกเตอร์ออร์คิดก็ชวนด็อกเตอร์อุทซึกิออกไปจากห้อง ทิ้งไว้แต่แม็กซ์กับแม่ของเขา

แม่ของแม็กซ์ลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน

แม็กซ์ ลูกทำดีแล้วล่ะ อย่าคิดมากเลยนะหญิงสาวปลอบ

ขอผมอยู่คนเดียวนะแม่แม็กซ์พูดเบาๆน้ำเสียงของเขาซึมเศร้าไปถนัด

อย่าคิดมากนะแม็กซ์หญิงสาวกำชับอย่างเป็นห่วงก่อนที่จะจากไปอีกคน แม็กซ์เหลือตัวคนเดียวแล้ว เขาลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปยังโต๊ะหนังสือของเขา ลิ้นชักที่ล็อคไว้ถูกไขกุญแจเปิดออก แม็กซ์ล้วงมือเข้าไปในส่วนในสุดของลิ้นชัก หยิบเขาโปเกบอลลูกหนึ่งออกมา บอลลูกนั้นมีลักษณะที่เก่า เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและสึกหรอจากการใช้งานอย่างหนัก

ฟันบนล่างของแม็กซ์กัดกันแน่น มือที่ถือบอลสั่นระริก ดวงตาทที่ซ่อมอยู่ใต้ปอยผมเริ่มเปียกชื้น น้ำใสๆเริ่มไหลอาบแก้ม

ฉันทำถูกแล้วใช่มั้ย...แกล

______________________-

เหนือหลังคาบ้านของเขา ไคริวตัวใหญ่ตัวหนึ่งกำลังลอยตัวอยู่อย่างเงียบเชียบ มันแทบไม่กระพือปีกก็ร่อนวนไปมาอยู่ได้อย่างสบาย บนหลังของไคริวมีชายสองคนกำลังจับตามองลงมาที่บ้านของแม็กซ์ อย่างสนอกสนใจ

ดูเหมือนตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ 3 ปี ที่แล้วจะทำให้เขาหมดไฟไปเลยนะชายคนหนึ่งพูดขึ้นก่อน

รุ่นพี่วาตารุ เราจะปล่อยเขาไว้แบบนี้เหรอครับ ยังไงเขาก็เป็นศิษย์สำนักมังกรแห่งฟุบุเสะเหมือนเรานะครับ แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับไปที่ถ้ำมังกรนานถึง 3 ปีแล้วก็เถอะ

ชีวิตคนไม่พ้นลิขิตฟ้า ริวอิจิ นายว่า... ฟ้าจะใจดำรึเปล่า?

ริวอิจิไม่ตอบอะไร เขานิ่งเงียบและจ้องมองมายังบ้านของแม็กซ์อย่างไม่วางตา

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 4 การกลับมา

มารินกำลังจะออกเดินทางจากหมู่บ้านแล้ว คนในหมู่บ้านชนบทสนิทสนมกันดี ชาวบ้านทุกคนมาส่ง

มารินกันถ้วนหน้า บ้างก็มีของใช้ติดไม้ติดมือมาให้คนละอย่างสองอย่าง แม็กซ์เองก็แอบแฝงมาในกลุ่มชาวบ้านด้วย

ขอบคุณค่ะ มารีนกล่าวพลางรับของจากชาวบ้านทีละคนๆ เข้าใกล้แม็กซ์มาเรื่อยๆ แม็กซ์ไม่มีอะไรมาให้เธอ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะยอมพูดคุยกับเขา และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มารินเดินผ่านเขาไปเสียเฉยๆ ราวกับเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้

มารินรับข้าวของแพ็คใส่กระเป๋า แล้วเอาไปพาดไว้บนหลังของแอร์มูโด้ตัวหนึ่งที่ยืนคอยท่าอยู่ ข้างๆแอร์มูโด้ตัวนั้น ด็อกเตอร์อุทซึกิกำลังง่วนอยู่กับการตรวจเช็คร่างกาจของแอร์มูโด้เป็นการใหญ่

แข็งแรงดี พร้อมจะออกเดินทางเขาพูดขึ้นอย่างร่าเริงเมื่อตรวจเสร็จ

ถ้าอย่างงั้น หนูไปแล้วนะคะทุกคนมารินโบกมือให้กับทุกคนในหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม แม้เป็นการจากลา แต่บรรยกาศกลับรื่นเริงเสมือนงานเลี้ยง

โชคดีนะนะมารินคนในหมู่บ้านต่างอวยพรเป็นเสียงเดียว ด็อกเตอร์อุทซึกิช่วยยกหลานสาวขึ้นนั่งบนหลังของแอร์มูโด้ที่คอยท่าอยู่แล้ว

โชคดีนะมาริน ระวังตัวนะ แอร์มูโด้ตัวนี้คงไปส่งได้แค่คิเคียวซิตี้ หลังจากนั้นหลานต้องเดินทางเองนะเขากำชับอย่างเป็นห่วง

ค่ะคุณอามารินรับคำ พูดจบเธอก็ตบหลังแอร์มูโด้เบาๆ เป็นการให้สัญญาณ ด็อกเตอร์อุทซึกิถอยออกห่างจากบริเวณนั้น แอร์มูโด้กางปีกเหล็กของมันออกแล้วสะบัดอย่างแรง ร่างของมันกระตุกลอยขึ้นจากพื้นแล้วค่อยๆ ลอยสูงขึ้นไปช้าๆ โดยที่ตัวมันเองคอยกระพือปีกทรงตัวเป็นระยะๆ เหล่าชาววาคาบะ เฝ้ามองมารินอย่างไม่ละสายตา พลางส่งเสียงร้องอวยพร แอร์มูโด้ลอยขึ้นจนกระทั่งตั้งตัวติด มันกระพือปีกเพียงแค่ครั้งเดียวก็พามารินร่อนหวือหายลับไปในหมู่แมกไม้

มารินไปแล้ว เหล่าชาวบ้านก็เริ่มแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรกระจำวันของตนเองต่อ ยกเว้นแม็กซ์ เขายืนเหม่อมองทองฟ้าอยู่อย่างนั้น สายลมที่พัดผ่าน เสียงคุยจ้อกแจ้กของคนในหมู่บ้าน เสียงโปเกมอนนกที่เจื้อแจ้วจากในป่า ไม่อยู่ในการรับรู้ของแม็กซ์เลยสักอย่างเดียว

ในใจของแม็กซ์ไม่คิดตำหนิมารินเลยที่ทำกับเขาแบบนี้ มารินทำถูกแล้ว และเขาทำผิด แม้จะรู้แต่ก็ไม่อยากจะแก้ตัวใดๆทั้งนั้น ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน มันทำให้เขาไม่อยากเดินกลับไปสู่หนทางที่เขาเคยเดินไป เขากลัวและหนีมันมาเป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว

แม็กซ์ถอนหายใจแล้วเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้าน เขาเดินตัดหมู่บ้านไปยังอีกฝากหนึ่งของวาคาบะทาวน์ ผ่านถนนหินสีขาว และบ้านร้านที่เรียงราย แม็กซ์ออกมาไกลตัวหมู่บ้านค่อนข้างมาก ออกมายังริมแม่น้ำสายใหญ่ที่นิ่งสงบ ดูราวกับเป็นทะเลสาบย่อมๆ มองไปไกลลิบๆ เป็นภูเขาใหญ่ มีน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันซึ่งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าเขา รอบๆเขาเป็นป่าดงดิบที่มีแต่ต้นไม้ทึบ มันเป็นป่าที่ลึกลับและยากนักที่ใครจะเข้าไปได้ และผู้ที่ผ่านมันไปได้คือผู้ที่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปสู่แชมเปี้ยนโร้ด ถนนแห่งชัยชนะซึ่งสร้างชื่อให้กับเทรนเนอร์มากมายหลายคนในอดีต

แม็กซ์ทิ้งตัวลงนั่งที่ริมตลิ่ง ในใจเขาเหม่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อย มือก็หยิบก้อนหินร่อนให้มันกระดอนไปบนผิวน้ำด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

แม็กซ์ ศิษย์สำนักมังกรรุ่นที่ 300 ทำไมมานั่งเศร้าอยู่ตรงนี้ได้ล่ะเสียงๆหนึ่งดังเรียกแม็กซ์ออกมาจากภวังค์ มันดังจากบนฟ้า ชายคนหนึ่งกระโดดลงมาจากหลังของปุเตร่าลงมายืนบนผิวน้ำไม่ไกลจะแม็กซ์ แม้จะกระโดลงมาสูง แต่เขาก็ทรงตัวลงบนผิวน้ำได้อย่างเงียบกริบ มีเพียงคลื่นเล็กๆ กระจายออกมาเป็นวงเท่านั้น แม็กซ์ลุกพรวดขึ้นทันทีด้วยสัญญาตญาณป้องกันตัว

ผู้มาใหม่เป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ หน้าตี๋ ผิวขาว ผมสั้นรูปร่างเป็นคนตัวใหญ่ สวมแจ็คเก็ตสีแดงเข้ม กางเกงยีนส์ขายาวและรองเท้าบูทหนัง

ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยด้วยหรอกนะแม็กซ์บอกเสียงห้วน เขาไม่มีความสงสัยเลยว่าชายผู้นี้คือใคร ราวกับรู้จักกันดี

แต่ฉันอยากคุยชายหนุ่มสวนทันควัน

ฉันอยากอยู่คนเดียวแม็กซ์พูดพร้อมกับหันหลังหนี

แม็กซ์ นายกำลังทรยศโปเกมอนที่เป็นเพื่อนของนายเอง และทรยศความรู้สึกตัวเองด้วย

คำพูดของชายแปลกหน้าทำให้แม็กซ์หยุดกึก ไม่มีใครพูดเรื่องนี้กับเขานานแล้ว

ทรยศเหรอ... มันเป็นโทษที่ฉันควรจะได้รับต่างหาก โปเกมอน 6 ตัว ฉันปกป้องได้แค่ตัวเดียว มันก็สมควรแล้วที่ฉันจะไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมในการใช้โปเกมอนแบทเทิลอีกต่อไป

นั่นนายคิดมันเองต่างหาก เรื่องนั้นนายไม่อยากให้เกิดขึ้นซักหน่อย มันเป็นแค่อุบัติเหตุ มันไม่ผิดหรอกถ้านายจะกลัว แต่อย่าลืมสิว่ามันเป็นอะไรอดีตไปแล้ว และที่นายยืนอยู่นี่คือปัจจุบัน และที่รอนายอยู่คืออนาคต อดีตน่ะมันผ่านไปแล้วแม็กซ์

แล้วนายจะฉันทำยังไง! จะให้ฉันไปชิงโปเกมอนของฉันคืนมางั้นเหรอ คิดง่ายไปรึเปล่า ป่านนี้พวกนั้นตายไปหมดแล้ว!แม็กซ์หันกลับมาบันดาลโทสะใส่ แต่ขาก็ทำเพียงเพื่อปกปิดความเศร้าในใจเท่านั้นเอง และดวงตาของเขามันฟ้อง

ฉันไม่ได้บอกให้นายไปชิงพวกมันคืนมาชายแปลกหน้ายังคงรักษาความสงบของทั้งน้ำเสียงและอารมณ์ไว้ได้ เขาเข้าใจแม็กซ์ดีราวกับเป็นคนคุ้นเคยกันมาก่อน

มันก็ถูกของนาย พวกนั้นอาจจะตายหมดแล้ว แต่แก็งร็อคเก็ตยังไม่ตาย ตอนนี้ทั้งสมาคมโปเกมอน สำนักมังกร และเหล่าเทรนเนอร์หลายกลุ่มต่างเฝ้าจับตาดูพวกมัน พวกมันมีเป้าหมายบางอย่างที่เราไม่รู้เสียที แต่ทีแน่ๆ มันไม่หวังดีต่อโลกนี้ ทุกคนกำลังพยายาม แล้วนายล่ะแม็กซ์ นายจะยอมแพ้พวกมันแล้วหมกตัวอยู่ที่นี่น่ะเหรอ แบบนี้มันจะไม่ขี้ขลาดไปหน่อยรึไง นายคิดดูสิว่า โปเกมอนของนายจะคิดยังไงถ้าพวกเขาคือต้นเหตุให้นายกลายเป็นแบบนี้ พวกเขาที่อาจจะตายไปหมดแล้วจะหลับอย่างเป็นสุขได้เหรอ แล้วแกลน่ะ ฉันรู้ว่านายยังเก็บเจ้านั่นไว้ เจ้านั่นจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่านายไม่ใช่คนคนเดีมที่มันเคยซื่อสัตย์ภักดี อย่าเอาแต่ใจนักสิ แม็กซ์

คำพูดของชายแปลกหน้าจี้ใจแม็กซ์อย่างจัง ทั้งเรื่องของแก็งร็อคเก็ต เรื่องที่ทุกคนกำลังพยายาม และที่สำคัญที่สุด โปเกมอนเก่าของเขาทั้งหมด แม็กซ์รู้เรื่องนี้ดีตลอดมา แต่เขากลับเลือกที่จะนิ่งเฉย

...เห็นแก่ตัว!..คำพูดและสีหน้าของมารินสะท้อนขึ้นมาในสมองของแม็กซ์ เมื่อคืนมันแทบไม่มีผลอะไรเลย แต่ตอนนี้กลับสะเทือนใจแม็กซ์ไม่น้อย

...นั่นสินะ ... เจ้าพวกนั้น...คงไม่อยากให้ฉันเป็นแบบนี้...

แล้วฉันควรจะทำยังไงแม็กซ์เริ่มลดน้ำเสียงลง แววตาเศร้าหมองสลายไปแล้ว ชายแปลกหน้ายิ้มอย่างพอใจ เขาดึงแม็กซ์คนเดิมกลับมาได้แล้วครึ่งหนึ่ง ดวงตาของแม็กซ์ดวงตาที่มีแต่ไฟของการต่อสู้ลุกโชนมันเป็นดวงตาที่ศิษย์ของสำนักมังกรทุกคนควรจะมี

ยกโทษให้ตัวเองแล้วกลับไป กลับไปใช้ฝีมือของนายให้เป็นประโยชน์ กลับไปร่วมสู้กับทุกคนอีกครั้ง

แล้วฉันจะกลับไปคนเดียวรึเปล่า?"

ทุกคนรอนายอยู่แม็กซ์ คนอื่นอาจจะไม่รอ แต่พวกเราสำนักมังกรรอนายอยู่เสมอ เอานี่ไปชายแปลกหน้าโยนบอลลูกหนึ่งให้แม็กซ์

อะไร

โยกิรัสชายแปลกหน้าตอบทันควัน เกียราดอสของนายไม่อยู่แล้ว และศิษย์สำนักมังกรควรจะมีมังกรติดตัวถูกมั้ย

คิดจะให้ผมเปลี่ยนจากแนวจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยรึไงครับ รุ่นพี่ริวอิจิแม็กซ์ตอบยิ้มๆ น้ำเสียงกระด้างของเขาหายไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นน้ำเสียงร่าเริงตามปกติ แม็กซ์หันหลังทำท่าจะเดินเข้าหมู่บ้าน แต่เขาชะงักหยุดเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

อ้ออย่าเก็กให้นานนักล่ะครับรุ่นพี่ หลายนาทีแล้วเดี๋ยวไคริวสำลักน้ำแล้วจะเก็กไม่ออกเอานะ แม็กซ์พูดข้ามไหล่มาแล้วเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้าน

ฮะฮะฮะ ถ้าเป็นเมื่อสามปีที่แล้ว ก็อาจจะใช่นะแม็กซ์สิ้นเสียงริวอิจิ ผิวน้ำก็กระเพื่อมนูนขึ้นมาเป็นวงกว้าง น้ำแยกออก ผิวหนังหนาสีส้มเข้มแหวกขึ้นมาแทนที่ ไคริวขนาดยักษ์ตัวหนึ่งโผล่พ้นน้ำขึ้นมา น้ำที่หล่นลงมาจากตัวของมันกระทบผิวน้ำรอบๆ อย่างแรงจนกลายเป็นคลื่นเล็กๆ กระจายออกไปทั่วบริเวณ ริวอิจิยืนอยู่บนบ่าของไคริวพอดี มือข้างหนึ่งค้ำทรงตัวอยู่กับคอของไคริว ริวอิจิที่เป็นคนรูปร่างใหญ่แต่เมื่อเทียบกับไคริวแล้ว เขาดูตัวเล็กไปถนัดตา แม้จะดำลงไปอยู่ในน้ำเป็นเวลานานแล้ว แต่ไคริวกับไม่มีท่าทางเหมือนว่าเหน็ดเหนื่อยจากการขาดอากาศหายใจเลย สีหน้าแหละท่าทางของมันยังดูเข้มแข็ง มีกำลังวังชา ราวกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย

อย่าดูถูกไคริวของฉันนักสิ แม็กซ์

____________________-

เสียงส้นรองเท้าบูทกรพแทกพื้นดังขึ้นตามจังหวะการเดิน เหล่าแก็งร็อคเก็ตซึ่งเป็นชายชุดดำ สวมหมวกเปเล่สีดำ มีสัญลักษณ์ตัว R สีแดงที่หน้าอก ต่างหลีกทางให้แก่เจ้าของรองเท้าบูท พร้อมกับก้มหัวทำความเคารพ เจ้าของรองเท้าบูทมีผมสีแดงประบ่า ส่วนกางเกงยีนส์และแจ็กเก็ตมีสีดำขลิบแดง เขาคือคนคนเดียวกับที่ขโมยโปเกมอนจากห้องวิจัยของด็อกเตอร์อุทซึกิ

เขาเดินไปตามทางเดินที่ปูกระเบื้องเซรามิคอย่างดี ผนังสองข้างเป็นผนังปูนสีเหลืองอ่อน มีเสาประดับเรียงรายไปจนสุดทางเดินซึ่งเป็นประตูไม้เนื้อแข็งแบบสองบาน แกะสลักเป็นลวดลายสวยงาม

มาแล้วเหรอ? เข้ามาสิเสียงๆหนึ่งดังมาจากข้างใน ชายผมแดงเปิดประตูไม้ออกก้าวเข้ามาข้างในแล้วปิดประตูเข้าที่เดิม ข้างในเป็นห้องทำงานกว้างขวาง ประดับด้วยภาพวาดโปเกมอนในตำนานหลายต่อหลายภาพ ซึ่งมาจากศิลปินมีชื่อเสียง ในห้องมีตู้หนังสือจำนวนมาก มีชุดรับแขกเป็นเก้าอี้สีทองบุด้วยเบาะสีแดง ทั้งเป็นชุดอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ตามข้างตู้หนังสือต่างๆ ก็มีเก้าอี้นวมแบบปรับเอนได้ตั้งอยู่พร้อมกับโต๊ะเล็กๆ และตรงกลางของผนังห้องด้านที่ตรงข้ามกับประตูนั้นมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ทำด้วยไม้แกะสลักอย่างสวยงามตั้งอยู่ บนโต๊ะมีกองเอกสารมากมาย หลังโต๊ะ มีเก้าอี้ทำงานสีทองตัวใหญ่ตั้งหันหลังอยู่ มีควันกลุ่มเล็กๆลอยออกมาจากด้านหน้าของเก้าอี้ตัวนั้นซึ่งหันหน้าให้ผนัง

โปเกมอนของด็อกเตอร์อุทสึกิเป็นยังไงบ้างคำถามดังมาจากหน้าเก้าอี้

โปเกมอนหายาก มีจำนวนน้อยแล้วในธรรมชาติ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังตามหาชายผมแดงตอบ

อืม ถ้าอย่างนั้นเธอก็เก็บไว้เลยแล้วกันนะ โปเกมอนหายากน่ะ ฉันมีเยอะแล้วชายลึกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วเรื่องของที่เราต้องการล่ะ สืบไปถึงไหนแล้ว

ไม่มีหลักฐานแน่นอนแม้แต่ชิ้นเดียว มีแต่คำบอกเล่าแบบปากต่อปาก แต่ทุกอย่างยืนยันตรงกันกับข้อมูลเดิมของเรา หอคอย และถ้ำใต้ดิน จะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการ

อืมม์ ไม่แปลกหรอกที่ข้อมูลไม่ได้เพิ่มมามากเท่าไร หากมันหากันง่ายขนาดนั้นคงมีคนทำก่อนเราไปนานแล้ว ถ้ามีข้อมูลแค่นั้นจริงๆ เราก็ต้องใช้ข้อมูลนั่นแหละ สำรวจถ้ำใต้ดินและหอคอยโบราณทุกที่ในเขตโจโต อย่าทำให้มันเอิกเกริกนัก พวกสมาคมโปเกมอนมันเริ่มรู้ตัวกันแล้ว

ครับชายผมแดงก้มหัวรับคำสั่ง

ฝากด้วยนะ เรฟ

ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังครับ

______________________-

ฉันล่ะดีใจจริงๆเลยแม็กซ์ ที่เธอยอมรับงานนี้ได้ ด็อกเตอร์ออร์คิดก็บอกแล้วว่ายังไงเธอก็ต้องรับงานนี้ แต่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นด็อกเตอรอุทซึกิพูดด้วยความปลื้มปิติพลางค้นหาของบนโต๊ะทำงานให้วุ่น เขาดีใจมากทีเดียวที่แม็กซ์รับงานนี้ได้

นี่ไงๆ เจอแล้วเขาพูดพร้อมกับ หยิบแฟ้มหนาๆ แฟ้มหนึ่งขึ้นมากางบนโต๊ะ แม็กซ์ชะโงกมาหน้ามาดูด้วยความสนใจ

เป้าหมายของแก็งร็อคเก็ตตอนนี้ไม่ชัดเจนก็จริงนะ แต่มีรายงานว่ามักจะพบพวกมันในที่ที่มีโบราณสถาน ปกติแล้วพวกนี้จะทำธุรกิจผิดกฎหมาย เช่นคาสิโนเถื่อน ค้าโปเกมอนหายาก แต่ช่วงนี้พวกมันกลับเพลามือเรื่องนี้ลง ไม่มีใครรู้ว่าทำไมและนั่นคือหน้าที่ของเธอแม็กซ์ ข้อมูลสถานที่โบราณทั้งหมดฉันกำลังอัพเดทใส่โปเกเกียร์ของเธอให้ด็อกเตอร์อธิบาย

แล้วถ้าผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับพวกนั้น ผมต้องทำยังไงครับ?แม็กซ์ถาม

ให้เธอใช้บริการของไปรณีย์ป็อปโปะรายงานมาที่ฉัน ใช้โปเกเกียร์มันเสี่ยงเกินไป พวกนั้นมันอาจจะดักฟังได้

ครับ

ประตูสถานีวิจัยเลื่อนเปิดออก แม่ของแม็กซ์เดินเข้ามาพร้อมด้วยกระเป๋าเป้ใบใหญ่

แม็กซ์ แม่จัดของให้เสร็จแล้วนะหล่อนบอกพร้อมกับวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆแม็กซ์

ขอบคุณครับแม่ ด็อกเตอร์อุทสึกิ งั้นผมไปก่อนนะครับ

เดี๋ยวแม็กซ์ ฉันมีของจะให้เธอสัก 2-3 อย่างด็อกเตอร์หันไปค้นในลิ้นชักโต๊ะทำงาน แล้วก็หยิบเอา สายหนังเส้นหนึ่งยาวประมาณฟุตเศษๆ ปลายทั้งสองข้างมีขอเกี่ยว และบนสายหนังนั้นมีโปเกมอลลูกหนึ่งติดอยู่ขึ้นมา

นี่คือสายหนังพิเศษที่เอาไว้พกโปเกบอลน่ะ มันเป็นสายหนังที่สามารถเอาโปเกบอลมาติดไว้ได้แบบนี้ แล้วมันจะไม่หล่นไม่ว่าจะเหวี่ยงแรงแค่ไหน หรือ จะกระแทกแรงขนาดไหนด็อกเตอร์ว่าพลางสะบัดสายหนังในมืออย่างแรง บอลที่ติดอยู่ก็ติดอยู่อย่างเหนียวแน่น ไม่กระเด็นหลุดออกไปตามแรงเหวี่ยง

ส่วนวิธีเอาบอลออกก็ง่ายๆ เพียงแค่ บิดบอลไปทางขวา ครึ่งรอบก็สามารถเอาออกมาใช้ได้พูดจบด็อกเตอร์ก็ทำให้ดู บอลลูกนั้นหลุดออกมาโดยแทบไม่ต้องใช้แรงเลย

ส่วนวิธีติดบอลก็แค่เอาด้านหลังบอลติดเข้าไปบนสายหนัง แค่นั้นแหละด็อกเตอร์พูดพร้อมกับเอาโปเกบอลที่ติดอยู่แต่แรก ติดกลับลงไป แล้วยื่นให้แม็กซ์

ขอบคุณครับด็อกเตอร์ แต่โปเกมอนน่ะตอนนี้ผมมีแล้วครับแม็กซ์รับสายหนังมาแล้วบิดโปเกบอลลูกนั้นออกส่งคืนให้ด็อกเตอร์อุทสึกิ

ไม่ต้องเอามาคืนฉันหรอกแม็กซ์ ฉันเอามันมาวิจัยนานเกินไปแล้ว วานิโนโกะ โดนขโมยไป จิโกริต้า มารินก็เอาไป ฮิโนอาราชิตัวนั้น ก็ถึงเวลาจะออกไปผจญภัยบ้างแล้วล่ะ ให้มันได้ออกไปพบกับโลกกว้างมันจะดีกว่าที่ให้อุดอู้อยู่ในห้องวิจัยนี่ เธอรับไปเถอะแม็กซ์

แม็กซ์ยืนมองบอลอย่างครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจึงตอบออกมา

ครับ ด็อกตอร์

งั้นผมไปล่ะนะครับ

เดี๋ยวแม็กซ์คราวนี้แม่ของเขาเป็นคนท้วงขึ้นบ้าง

ครับแม่ มีอะไรเหรอ?

แม่คิดว่าลูกลืมเจ้านี่นะแม่ของแม็กซ์หยิบเอาโปเกบอลลูกหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรง มันค่อนข้างเป็นบอลที่เก่า ปุ่มบอลมีร่องรอยจากการถูกกดจนสึกไปเยอะ รอบๆบอลมีรอยขีดข่วนมากมายบ่งบอกจากการใช้การที่สมบุกสมบัน ในบ้านเขาไม่มีโปเกมอนที่ถูกใช้งานมาหนักขนาดนี้เลย นอกเสียจากโปเกบอลที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะของเขา

แม่! แม็กซ์อุทาน แม็กซ์ไม่คิดเลยว่าแม่จะรู้ว่าเขายังมีมันอยู่

มันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของลูกไม่ใช่เหรอ จะทิ้งมันไว้ได้ไงล่ะแม่ของแม็กซ์บอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆอย่างอ่อนโยน แม็กซ์ไม่ตอบอะไรเขาสวมกอดแม่ของเขาแทนคำขอบคุณ แม่ของแม็กซ์ลูบหัวลูกชายอย่างเข้าใจ

ไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะมืดก่อนถึงเมืองโยชิโนะนะแม่บอก

ครับแม่แม็กซ์ปล่อยมือออกจากแม่ของเขา แล้วเดินไปยังประตูห้องวิจัย

ลาก่อนครับ

แม็กซ์หันหลังมาบอกก่อนที่จะสูดลมหายใจลึก เขากำลังหวนคืนสู่ชีวิตแบบเดิม ชีวิตของโปเกมอนเทรนเนอร์ที่เขาเคยดำเนินมันมาแล้ว

_____________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 5 โยกิรัส

เร็วๆๆ มันจะหนีแล้วเสียงเด็กหนุ่มตะโกนพลางหอบดังก้องในถ้ำเล็กๆ ที่มืดเกือบสนิทแห่งหนึ่ง เสียงแห่งความวุ่นวายดังอยู่รอบตัว ทั้งเสียงปีกของสัตว์ที่กระพืออยู่ว่อนไปหมด และเสียงฝีเท้าที่ดังสับสน ดวงไฟดวงหนึ่งเคลื่อนที่วนไปวนมาอยู่แถวๆพื้นถ้ำ ในบางจังหวะก็พ่นไฟใส่เจ้าของเสียงกระพือปีกที่บินว่อนอยู่เต็มไปหมด

ตัวนั้น เอาตัวนั้น ตัวที่อยู่หน้าสุด เร็วเข้ามันจะออกนอกถ้ำแล้วเสียงเด็กหนุ่มร้องสั่งอย่างร้อนรน ดวงไฟที่พื้นถ้ำทำตามเขา มันพ่นไฟไปยังเงาของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่กำลังจะออกนอกถ้ำ เปลวไฟนั้นโดนมันอย่างจัง สิ่งมีชีวิตเล็กๆ นั้นเริ่มบินโซซัดโซเซ เด็กหนุ่มวิ่งชาร์จกระโจนขึ้นคว้าตัวมัน แรงส่งจากการกระโจนเต็มแรงทำให้ตัวเขาลอยออกมานอกปากถ้ำ หล่นกลิ้งลงบนพื้นดินหน้าถ้ำ

รอบๆตัวเขาเป็นป่าโปร่งที่ไม่ค่อยมีต้นไม้มากนัก ถ้ำที่เขากระโดดออกมาก็เป็นเพียงซอกหินบนหน้าผาใหญ่โตมโหฬาร เด็กหนุ่มรีบใช้โปเกบอลเคาะที่ตัวซูแบทในอ้อมแขนของเขาเบาๆ โปเกบอลเปิดออกแล้วส่องแสงออกหุ้มตัวซูแบทไว้แล้วดึงกลับเข้าไปในบอล ทันทีที่บอลปิด ปุ่มทรงกระบอกเล็กๆ ตรงหน้าบอลก็เด้งขึ้นเป็นสัญญาณว่าการจับโปเกมอนเรียบร้อยแล้ว

สำเร็จ! แม็กซ์ลุกขึ้นกระโดดร้องตะโกนอย่างดีใจ ฮิโนอาราชิค่อยๆเดินตามออกมาจากถ้ำอย่างเชื่องช้า ตัวของมันเลอะมอมแมมไปหมด

นี่ไงๆ ฮิโนอาราชิ ฉันได้เพื่อนใหม่ให้แกแล้วแม็กซ์ยื่นบอลมาตรงหน้าฮิโนอาราชิ มันก็ยิ้มรับผงกหัวอย่างยินดี

เนื้อตัวมอมแมมหมดเลย ขอบใจมากนะฮิโนอาราชิแม็กซ์พูดพลาง เปิดกระเป๋าเป้ หยิบผ้าขนหนูเล็กๆ ออกมาผืนหนึ่ง ฮิโนอาราชิดับไฟของมันลงราวกับมันรู้ว่าไฟของมันจะทำให้ผ้าไหม้ได้ แม็กซ์เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้มันอย่างเอ็นดู

เหนื่อยมากแล้วเข้ามาพักก่อนนะ

แม็กซ์เก็บฮิโนอาราชิเข้าบอล แล้วติดบอลทั้งสองลูกเข้ากับสายหนังซึ่งแม็กซ์เอาเกี่ยวไว้กับหูกางเกง ตอนนี้มีบอลติดอยู่ 4 ลูกแล้ว เด็กหนุ่มยืนบิดเนื้อตัวให้หายเมื่อย เขารีบออกเดินทางจากโยชิโนะตั้งแต่ตี 2 เพื่อมาถึงที่นี่ให้ทันเวลาเช้ามืดซึ่งเป็นเวลาที่เหล่าซูแบทจะกลับจากออกหากินพอดี

ขอบฟ้าสีทองเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ อากาศสดชื่นของยามทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง มาดาสึโบมิกลุ่มใหญ่ออกมายืนรับแสงสว่างหลังจากที่หลับมาทั้งคืน เลดี้แอนและเลดีบ้ากลุ่มเล็กๆ ร่อนออกมาหาน้ำค้างยามเช้า โปเกเกียร์บอกเวลา 6โมงครึ่งแล้ว ท้องของแม็กซ์ก็เริ่มส่งเสียงร้องบอกเวลาอาหารแล้วเช่นกัน แม็กซ์หันซ้ายขวาสำรวจสภาพรอบๆแล้วเปิดโปเกเกียร์ดูแผนที่

ทิศตะวันตก อีกนิดเดียว ก็จะถึงคิเคียวซิตี้แล้วนี่นา เยี่ยมไปเลยแม็กซ์พูดพร้อมกับปิดโปเกเกียร์ หันหลังให้ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าสู่เมืองที่สองหลังจากออกมาจากเมืองวาคาบะ คิเคียวซิตี้

__________-

เมืองคิเคียวซิตี้เป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมของบ้านในเมืองส่วนใหญ่เป็นแบบญี่ปุ่นโบราณ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งโปเกมอนเซนเตอร์ โปเกมาร์ท และยังมีโรงเรียนอีกด้วย ที่ทางเหนือของเมือง มีหอคอยไม้สูงตระหง่าน เห็นได้จากทุกๆที่ของเมือง เป็นเมืองที่ผสมผสานความสมัยใหม่และศิลปแบบเก่าได้อย่างดีทีเดียว

แม็กซ์แวะหาร้านสำหรับเติมเต็มพลังงานของเขาก่อนที่จะไปพักรักษาโปเกมอนที่โปเกมอนเซนเตอร์ของเมือง ในระหว่างที่อยู่ที่ร้านอาหาร แม็กซ์ปล่อยฮิโนอาราชิและซูแบทออกมาตั้งชื่อ และให้ข้อมูลทั้งหมดของแก็งร็อคเก็ตและจัดแจงอธิบายหน้าที่ของพวกมันทุกอย่างให้ฟัง นัดแนะถึงสิ่งที่ควรทำในสถานการณ์ต่างๆ

ที่โปเกมอนเซ็นเตอร์ ระหว่างรอการฟื้นฟูโปเกมอน แม็กซ์เปิดโปเกเกียร์สำรวจแหล่งสถานที่โบราณ ที่ต้องไปสำรวจหาร่องรอยของแก็งร็อคเก็ต เขากำลังนั่งอยู่ที่ชุดรับแขกมุมหนึ่งของโปเกมอนเซ็นเตอร์

ดูเหมือนจะมาถูกเมืองแฮะ หอคอยมาดาสึโบมิ ก็อยู่ในข่ายต้องสงสัยเหมือนกันแม็กซ์พูดพลางปิดโปเกเกียร์

จะไปหอคอยมาดาสึโบมิเหรอคะ เสียงหวานๆ แทรกขึ้นพร้อมกับมือที่ดูนุ่มน่าสัมผัสคู่หนึ่งค่อยๆ วางถาดโปเกบอลลงตรงหน้าแม็กซ์ บนนั้นมีโปเกบอลอยู่สองลูก

อ..เอ่อ ครับแม็กซ์ตอบ

มาถึงเมืองคิเคียว แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นไปหอคอยมาดาสึโบมิ ก็มาไม่ถึงเมืองคิเคียวหรอกนะคะเจ้าของเสียงเป็นหญิงสาววัย 20 เศษๆ ผมสีแดงม้วนเป็นวงสวย รูปร่างผิวพรรณดูงดงาม กริยาท่าทางสุภาพเรียบร้อย สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน สวมหมวกนางพยาบาล เธอคือพยาบาลประจำโปเกมอนเซนเตอร์ที่นี่

ขอให้เที่ยวเมืองคิเคียวให้สนุกนะคะเธออวยพรพร้อมด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์ จนแม็กซ์อดหลงใหลไม่ได้

ครับแม็กซ์ตอบพลางเก็บโปเกบอลบนถาดทั้งสอง ...สวยเป็นบ้าเลย...แม็กซ์แอบคิดในใจ

นางพยาบาลเก็บถาดจากไปเมื่อเสร็จหน้าที่ของเธอ แม็กซ์เองก็ไม่ว่างมาหลีสาวตอนนี้ เขาต้องรีบไปที่หอคอยมาดาสีโบมิ ที่ทางเหนือของเมือง แม็กซ์รีบยกเป้ขึ้นสะพายแล้วลุกตรงไปยังที่ประตู เขายืนรอให้ประตูอัติโนมัติเปิดออก ในเวลาเร่งรีบอะไรๆมันก็ไม่ทันใจเอาเสียเลย แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อพบกับภาพหลังประตู มารีนยืนอยู่ที่นั่น ทั้งสองหยุดนิ่งตัวแข็งในอาการกึ่งตกใจกึ่งประหลาดใจ ดวงตาทั้งสองจ้องประสานกันอย่างถอนไม่ออก มารินไม่ได้อยู่คนเดียว เธอมีเด็กสาวผมสีฟ้า ตัวเล็ก แววตาใสซื่ออยู่ด้วย

พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อกันดี แม็กซ์คิดว่ามารินคงโกรธจนไม่อยากจะคุยกับเขา แต่เขาก็ไม่กล้าจะทำเป็นไม่รู้จักเธอด้วยความที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ส่วนมารินนั้นก็ไม่คาดฝันเหมือนกันว่าจะมาเจอแม็กซ์ที่นี่ เธอหายโกรธแม็กซ์ไปแล้ว แต่เธอก็ว่าแม็กซ์ไว้แรงและทำกริยาไม่ดีกับเขาไว้ตอนที่ชาวบ้านพากันมาส่งเธอ เธอจึงไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แต่แล้วมารินก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน

มิโดริจัง เราไปที่อื่นกันก่อนเถอะมารินพูดพร้อมกับจูงมือเด็กสาวที่มากับเธอเบี่ยงตัวไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

อะไรกันมาริน มีอะไรเหรอเด็กหญิงพยายามถามแต่มารินไม่ตอบอะไร เธอจ้ำไปข้างหน้าอย่างเดียว

แม็กซ์ยังยืนงงทำตัวไม่ถูก แต่แล้วเขาก็คิดได้ว่าถ้าเขาเป็นฝ่ายง้อเธอคงจะดีที่สุด

มาริน รอเดี๋ยวสิ แม็กซ์รีบถลันออกตามไป มารินก็เหมือนว่าจะเร่งฝีเท้าหนีไปเรื่อยๆ ผู้คนที่ดูหนาแน่นขึ้นเรื่อยทำให้แม็กซ์วิ่งตามไม่ได้ถนัดนัก แม็กซ์ร้อนใจรีบตามจนไม่ทันดูทางชนกับชาวบ้านชาวช่องที่สัญจรไปมาจนล้มหน้าคะมำ เขารีบยันตัวลุกขึ้นโดยไม่สนใจจะขอโทษคนที่เขาไปชนแต่อย่างใด แต่ทว่าเด็กสาวทั้งสองกลืนหายไปฝูงชนที่หนาแน่นเบื้องหน้าเสียแล้ว ผู้คนดูหนาแน่นขึ้นจนผิดหูผิดตาแตกต่างกับแถวโปเกมอนเซนเตอร์ตรงหน้าเมืองลิบลับ เมื่อแม็กซ์เห็นมองทางด้านขวา เขาก็รู้ถึงสาเหตุที่ผู้คนหนาตาขึ้น หอคอยมาดาสึโบมิตั้งสูงตระหง่านเหนือสิ่งก่อสร้างใดทั้งปวง มันตั้งอยู่กลางทะเลสาบเล็กๆ มีสะพานไม้เชื่อมจากถนนที่แม็กซ์อยู่ไปยังหน้าหอคอย นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ คนย่อมเยอะเป็นธรรมดา

แต่แล้ว แม็กซ์ก็ต้องลืมเรื่องของมารินไปจนหมดเมื่อ สายตาของเขาสะดุดเข้ากับเรือนผมสีแดงยาว ประบ่า และเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำขลิบแดง แม็กจำได้ไม่เคยลืม นั่นคือโจรโขมยโปเกมอน! และทิศทางที่ชายผู้นั้นมุ่งหน้าไปก็คือ หอคอยมาดาสึโบมิ หมอนั่นคือแก็งร็อคเก็ต จังหวะช่างประจวบเหมาะ ยังไงเสียหน้าที่ก็ต้องสำคัญกว่า จะยอมเสียงานไม่ได้เด็ดขาด แม็กซ์จึงเริ่มแอบสะกดรอยตามไปอย่างเงียบๆ

ชายผมแดงทำท่าทางเหมือนเป็นเพียงนักท่องเที่ยวทั่วไป เขาเดินข้ามสะพานไม้ตรงไปยังหอคอยมาดาสึโบมิโดยไม่มีท่าทีจะรู้ตัวเลยว่าแม็กซ์แอบสะกดรอยตามอยู่ห่างๆ โดยการเดินปะปนอยู่กับฝูงชน

แม็กซ์ตามโจรขโมยโปเกมอนมาจนถึงข้างในหอคอยมาดาสึโบมิ ข้างในนั้นกว้างขวาง เป็นลักษณะห้องสี่เหลี่ยมมีกำแพงไม้ กั้นเป็นห้องๆ ตรงกลางของหอคอยมีเสาไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ราว 3 คนโอบ ตั้งอยู่ ที่มุมขวาบนและซ้ายล่างเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นต่อไป ที่บันได และจุดต่างๆของหอคอยมีนักบวชของศาสนาชินโตยืนเฝ้าอยู่ พระแต่ละรูปดูมีร่างกายกำยำล่ำสัน บ่งบอกว่าพวกเขาไม่ได้ฝึกแต่พระธรรม แต่ยังฝึกวิชาการต่อสู้อีกด้วย

ชายผมแดงเดินเข้าไปในห้อง ๆหนึ่งของหอคอย ซึ่งมีผู้คนอยู่หนาแน่น และส่งเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นเป็นระยะๆ เมื่อแม็กซ์ตามเข้าไปก็พบว่า ในห้องกันกำลังมีการแสดงของมาดาสึโบมิสองตัวซึ่งกำลังสู้กันอยู่ในลานซึ่งมีฝูงชนจำนวนมากล้อมอยู่โดยรอบ

ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าตื่นเต้น มาดาสึโบมิใช้ใบไม้ข้างตัวต่างมือและแขน โจมตีรุกรับกันอย่างถึงพริกถึงขิง ความน่าตื่นเต้นทำให้แม็กซ์ที่เห็นหน้าที่เป็นสำคัญกว่าสิ่งใดเผลละสายตาจากโจรโขมยโปเกมอนมายังการต่อสู้จนได้ การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นดำเนินไปจนกระทั่ง มาดาสึโบมิตัวหนึ่งกระโดดตีลังกาข้ามหัวคู่ต่อสู้แล้วสะบัดรากที่เหมือนเท้าของมันเตะตัดกลางลำตัวของอีกฝ่ายล้มสลบ เสียงเฮและเสียงปรบมือจากคนดูก็ดังลั่น เศษเหรียญถูกโยนออกไปเป็นรางวัลแก่การแสดงแม้แต่แม็กซ์ก็ยังไปร่วมวงกับเขา

มาดาสึโบมิพวกนี้เก่งชะมัดเลยแฮะแม็กซ์อดชมไม่ได้ ในใจก็อยากได้มาไว้สักตัว แต่แล้วสติของเขาก็เตือนขึ้นมาว่าเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูการแสดงแต่มาเพื่อจับตาดูโจรโขมยโปเกมอนนั่น แม็กซ์รีบกวาดสายตาหาชายผมแดงไปรอบๆ ห้อง

...เสร็จกัน คลาดสายตาซะแล้ว

แม็กซ์รีบเบียดฝูงชนออกมานอกห้อง เขาบิดบอลลูกหนึ่งออกมาจากสายหนังที่คล้องไว้ด้านข้างกางเกงแล้วเปิดออกมา โปเกมอนที่ออกมาคือซูแบท

เซ็ท ขอรบกวนเวลานอนนิดนะ แกช่วยตามหาชายผมแดงที่ฉันให้ดูรูปเมื่อเช้าทีได้มั้ย

ซูแบทพยักหน้ารับ มันบินล่วงหน้าออกไปก่อนทันที เมื่อปล่อยซูแบทไปแล้ว แม็กซ์ก็ปล่อยฮิโนอาราชิออกมาต่อ

เจสแกยังจำกลิ่นของโจรโขมยโปเกมอนคนนั้นได้มั้ย

ฮิโนอาราชิพยักหน้ารับ

ดี แกช่วยดมกลิ่นตามหาทีนะ หมอนั่นคงไม่อยู่ชั้นนี้แล้วล่ะ ไปชั้นสองกันเถอะ

แม็กซ์ กับฮิโนอาราชิวิ่งวนรอบหอคอย วิ่งขึ้นลงหลายรอบ แต่ก็ไม่พบร่องรอยอะไร หอคอยชั้นอื่นก็เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็สถานที่สมวิว ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปเลย จนกระทั่งแม็กซ์ตัดใจทรุดตัวนั่งลงที่จุดชมวิวชั้นบนสุดของหอคอย ซึ่งไม่มีใครอยู่เลย ผู้คนตื่นตาตื่นใจอยู่กบัการแสดงที่ชั้นหนึ่งมากกว่า

หาทุกชั้นแล้ว หมอนั่นหายไปไหนกันนะ หรือว่าคิดแล้วว่าหอคอยนี้ไม่มีอะไรเลยกลับไปแล้วแม็กซ์ตั้งสันนิษฐาน

เจสแกว่ามันจะไปแล้วยัง

ฮิโนอาราชิส่ายหน้า มันเร่งไฟบนหลังกระโดดไปรอบๆอย่างกระตือรือร้น

แกจะบอกว่าฉันไม่ควรยอมแพ้งั้นเหรอ? แต่จะให้ไปหาที่ไหนต่อล่ะ ถ้าจะให้หาต่อต้องรอเซ็ทกลับมาก่อน

ไม่ทันขาดคำ ซูแบทของแม็กซ์บินลอดหน้าต่างชมวิวเข้ามา มันบินเงยหน้าขึ้นบนเพดานแล้วบินวนไปวนมารอบๆเพดานห้อง

อะไรน่ะเซ็ท? จะบอกว่าอยู่บนเพดานรึไง สับสนรึเปล่านี่มันชั้นบนสุดนะ

ซูแบทส่งเสียงร้องซู~แหลมเล็กพร้อมกับพยักหน้ายืนยันสิ่งที่มันได้เห็น

เซ็ทรู้นะว่าง่วง ถ้าเบลอมากขนาดนั้นก็พักก่อนก็ได้แม็กซ์พูดอย่างเซ็งๆ พร้อมกับยกบอลขึ้นเก็บซูแบทของเขากลับเข้าบอล แต่ท่าทางซูแบทเหมือนเสียดายอะไรบางอย่างแต่ก็หลีกเลี่ยงการกลับเข้าบอลไม่ได้

แกก็ด้วยนะเจสกลับมาได้แล้วแม็กซ์เก็บฮิโนอาราชิเข้าบอลเป็นตัวต่อมา เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ สงสัยว่าภารกิจแรกของเขาจะล้มเหลวเสียแล้ว แม็กซ์ถอดใจเดินตรงไปยังบันได

ไม่ทันเท้าแรกจะก้าวลงบันได เสียงโครมเหมือนอะไรมาอย่างถูกทุบอย่างแรงจนแตกกระจายก็ดังขึ้นด้านหลังแม็กซ์ ตามด้วยเสียงของหนักหล่นลงพื้นอย่างแรง แม็กซ์หันกลับด้วยสัญชาตญาณ เพดานจุดหนึ่งถล่มลงมาเป็นรูปเบ้อเริ่ม จุดที่เพดานพังลงมานั้นมีเศษไม้และพระชราภาพรูปหนึ่งนอนโอดครวญกองอยู่กับเศษไม้ ร่างกายของพระรูปนั้นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายหลายจุด ไม่ทันที่แม็กซ์จะได้ทำอะไร อาริเก็ทตัวหนึ่งก็กระโดดลงมายืนคร่อมร่างของพระรูปนั้น และผู้ที่กระโดดตามลงมาทำให้แม็กซ์ตื่นตัว เขาคือโจรขโมยโปเกมอน!

แก!แม็กซ์โพล่งออกมา หัวขโมยหันหน้ามาหาแม็กซ์ช้าๆ พลางเสยผมอย่างใจเย็น

อะไรกัน? แกอีกแล้วเหรอ แกคงเป็นพวกเทรนเนอร์มือใหม่ไฟแรง มาท้าประลองกับยิมลีดเดอร์เมืองนี้สิท่าหัวขโมยพูดอย่างใจเย็น เหมือนกับแม็กซ์ไม่ใช่อุปสรรคอะไรของเขา

แกทำอะไรกับพระรูปนั้น!แม็กซ์ตวาดถาม

ก็อย่างที่เห็น แต่แกไม่ต้องรู้เหตุผลหรอกนะ อ้อแล้วถ้าอยากทำตัวเป็นฮีโร่ล่ะก็ไปขอให้หัวหน้ายิมมาช่วยดีกว่า วันนี้ฉันไม่มีเวลามาเล่นเมื่อวันก่อนหรอกนะ

...บ้าจริง! โปเกมอนของมันชนะทางเรา แถมยังพัฒนาร่างแล้วอีก เพิ่งขโมยไปไม่กี่วันแท้ๆ น่ากลัวจริงๆ เซ็ทกับเจส คงไม่สามารถสู้กับมันได้แน่...แม็กซ์คิดพลางเอื้อมมือไปยังโปเกบอลที่เอว เขาเอามือแตะเข้าที่โปเกบอลเก่าๆของเขา แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจบิดเอาลูกถัดไปออกมา

ต้องเดิมพันกับเจ้านี่แหละ โยกิรัสแม็กซ์ขว้างบอลปล่อยโยกิรัสที่ริวอิจิให้มาออกไป โยกิรัสตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากบอล แม็กซ์รีบสั่งทันทีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว

โยกิรัส ร้อยพันจู่โจม(Thrash)

หัวขโมยได้ยินดังนั้นก็รีบกระโดดถอยหลังเตรียมหลบ แต่โยกิรัสกลับหันหลังให้ศัตรูแล้วกระทืบเท้าอย่างแรงจนแผ่นไม้แผ่นหนึ่งกระเด็นพุ่งใส่แม็กซ์ แม็กซ์เบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด โยกิรัสยืนตาขวางจ้องเขม็งมาทางแม็กซ์ ดวงตานั้นเย็นชาต่อผู้เป็นนายเหลือเกิน

______________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 6 ศึกบนยอดหอคอย

โย! โยกิรัสแผดเสียงอย่างไม่พอใจ แม็กซ์เองก็ไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรให้มัน แต่ดูท่ามันจะไม่ฟังเขาซะแล้ว แม็กซ์หยิบบอลขึ้นมาจะเก็บมันกลับเข้าบอล แต่มันกลับหลบลำแสงของบอล ไปคว้าเศษไม้ขึ้นหนึ่งขึ้นมาไล่ขว้างแม็กซ์จนต้องหลบกันให้วุ่น

อะไรของมันวะเนี่ย!แม็กซ์ร้องเสียงหลง

อะไรกัน โปเกมอนกับเจ้าของทะเลาะกันเองซะแล้วเหรอ อนาถาจริงนะเรฟหัวเราะเยาะเย้ย ช่าง

เถอะ หลวงพ่อเรามาทำธุระของเรากันต่อเถอะ บอกว่าซะว่ามันอยู่ที่ไหน

หัวขโมยไม่สนใจแม็กซ์ เขาหันมาพูดกับพระชินโตที่ถูกอาริเก็ทยืนกดเอาไว้

แค่กๆ ของบ้าบอบแบบนั้นพวกเราจะไปมีได้ยังไง หลวงพ่อตอบด้วยน้ำเสียงแหบคล้ายกับว่าแรงพูดก็แทบไม่มีแล้ว

โกหก ต้องให้เล่นรุนแรงใช้มั้ย แฟร็งค์! สิ้นเสียงคำสั่ง อาริเก็ท เงื้อหมัดขึ้นอัดกระแทกเข้าใส่หน้าอกของพระรูปนั้นอย่างแรงจนกระอักเลือดออกมา

ทีนี้จะบอกได้รึยัง!

พระอย่างเรา...แค่กๆ ไม่รู้เรื่องพวกนั้นหรอกพระชินโตยังคงปฏิเสธ

ปากแข็งดีนักนะ แฟร็งค์ กรงเล็บมังกร

หยุดนะเฟ้ย!เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นแทรก พร้อมกับวัตถุบางอย่างพุ่งเข้ามากระแทกเข้าใส่อาริเก็ทจนล้มหน้าหงาย สิ่งที่เข้ามาโจมตีอาริเก็ทก็คือโยกิรัส แต่สภาพของมันไม่เหมือนพุ่งเข้ามาโจมตีเลย มันไม่ได้ยืนตั้งหลักเตรียมโจมตีต่อไป แต่มันนอนกองรวมอยู่กับอาริเก็ทเหมือนว่ามันไม่ได้จงใจโจมตีแต่การโจมตีครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่มันก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน

โยกิรัส ดีดตัวขึ้นมัน ชี้หน้าแม็กซ์พร้อมกับแผดเสียงร้องลั่น

แกไม่มีหน้ามาว่าฉัน! ถ้าแกของฟังฉันดีๆล่ะก็ฉันไม่จับแกขว้างไปใส่มันอยู่แล้ว!แม็กซ์ชี้หน้าตวาดกลับ

โยกิรัสแผดเสียงอย่างโกรธแค้น มันคว้าเศษไม้แถวนั้นขึ้นตั้งท่าจะขว้างใส่แม็กซ์อีกครั้ง

แกจะทำอะไรโยกิรัส ก่อนจะโจมตีฉันอีกเอาตัวให้รอดก่อนดีมั้ย มองข้างหลังดูสิ!แม็กซ์ตะโกนบอก

เมื่อโยกิรัสหันมองข้างหลังก็ต้องปะหน้าเข้ากับอาริเก็ทที่กำลังอ้าปากกว้าง เตรียมพร้อมโจมตี โยกิรัสฟาดเศษไม้ใส่กรามล่างของอาริเก็ทอย่างรุนแรง จนกรามล่างสะบัดขึ้นไปกระแทกกรามบน อารเก็ทสหงายหน้าล้มตึงทันที

เรฟเห็นท่าไม่ดีจึงปล่อยมอร์ฟอนออกมาช่วยอีกแรง มอร์ฟอนพรุ่งตรงเข้าใล่โยกิรัสอย่างรวดเร็ว

เฮ้ย!โยกิรัส พวกดีแต่แรงอย่างแกเสร็จแน่ มอร์ฟอนตัวมีทั้งแยกร่างแล้วก็ผงหลับเลยนะเฟ้ยแม็กซ์เย้ยหยัน แต่มีความนัยแฝงในการบอกข้อมูลของอีกฝ่ายให้โยกิรัส

โยกิรัส กระโดดขึ้นมา ดักหน้ามอร์ฟอน มันยิ้มแสยะพร้อมกับส่งสายตาเหยียดหยามดูกถูกให้มอร์ฟอน เจ้าผีเสื้อกลางคืนโดนยั่วเข้าก็สติแตก มันไม่สนใจจะทำตามหน้าที่ของมันต่อไปมันเริ่มบินไล่เอาปีกฟาดโยกิรัสแทน โยกิรัสกระโดดหลบมอร์ฟอนที่พุ่งตรงเข้ามา แล้วทิ้งตัวลงกระทืบหัวของมอร์ฟอนจนกระพื้นไม้ดังลั่น โยกิรัสทุบทั้งแขนขาลงใส่มอร์ฟอนแบบไม่ยั้งมือ โยกิรัสมัวแต่อาละวาดใส่มอร์ฟอนจนลืมสนใจว่า ในที่นี้ไม่ได้มีโปเกมอนอยู่แค่มันกับมอร์ฟอน ลำน้ำลายหนึ่งพุ่งมาจากอาริเก็ท ตรงเข้าใส่โยกิรัส

โยกิรัส ระวัง!

ช้าไปแล้ว โยกิรัสโดนลำน้ำพุ่งเข้าใส่แบบเต็มๆ จนลอยกระเด็นไปชนผนังหอคอย และที่เลวร้ายที่สุด ร่างกายที่เป็นหินล้วนๆของโยกิรัส ทำให้เกิดแรงกระแทกมหาศาลเกินกว่าผนังหอคอยจะทนไว้

โยกิรัส! แม็กซ์ร้องเสียงหลง เขารีบพุ่งตัวกระโดดออกไฟคว้าโยกิรัสไว้อีกมือหนึ่งคว้า ผนังหอคอยได้อย่างหวุดหวิด แต่ทว่าผนังไม้ที่แตกหักนั้นเต็มไปด้วยเสี้ยนหนาม บาดมือแม็กซ์จนเลือกไหลซิบ แม็กซ์กัดฟันแน่น แม้จะปวดไปทั้งมือเหมือนนิ้วทั้ง 5 จะขาดออกไป ก็ต้องอดทนไว้ให้ถึงที่สุดไม่อย่างนั้น ชีวิตเขาคงต้องจบเพียงแค่นี้

โอ้โห ใจถึงชะมัดเลย น่าชื่นชมๆ แต่ก็มาได้แค่นี้แหละ แฟร็งค์ เผด็จศึกเลยเรฟสั่งอย่างไม่ปราณี อาริเก็ทเองก็คงมีหัวใจที่เหี้ยมโหดเช่นนายออกมัน มันทำแก้มป่องเตรียมพ่นกระสุนน้ำ

แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่อยากให้แม็กซ์ถึงฆาตตอนนี้ ฮิโนอาราชิม้วนตัวพุ่งเข้าใส่อาริเก็ทจนเสียหลักเกือบล้มลง พร้อมกันนั้น ซูแบทก็สะบัดปีกฟาดคลื่นอากาศเข้าใส่เรฟ ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวโดนคลื่นอากาศฟาดใส่จนกระเด็น ในขณะเดียวกันแม็กซ์ก็ปีนหอคอยขึ้นมาได้พอดี โยกิรัสที่หมดสติไปแล้วถูกเก็บกลับเข้าบอลเรียบร้อย

เกือบไปแล้วๆ จากนี้จะเปิดฉากเอาคืนล่ะนะ เจ้าหัวขโมย

เรฟยืนขึ้นเหลือบตามองแม็กซ์

แกนี่จุ้นจ้านจริงๆ แฟรงค์! เขาไม่ต้องสั่งอะไรเลย อาริเก็ทที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีในช่วงเวลาสั้นๆ ทำหน้าที่ของมันเอง มันพ่นน้ำเข้าใส่ฮิโนอาราชิซึ่งเสียเปรียบต่อน้ำทันที

เจสพ่นไฟสวนเลย

ฮิโนอาราชิพ่นไฟออกมาเป็นลำยาว ปะทะเข้ากับสายน้ำของฮาริเก็ท ความร้อนจัดปะทะกับความเย็นอย่างกะทันหันจนกลายเป็นควันโขมงปกคลุมไปทั่ว

...แย่ล่ะ! มอร์ฟอนโดนจัดการไปแล้ว ไม่มีโปเกมอนที่จะไล่ควันได้ด้วย คงต้องรอควันพวกนี้หายไป ระหว่างนี้ยังไงซะ มันก็มองไม่เห็นเราและโจมตีเราไม่ได้เหมือนกัน...เรฟคิด แต่เขาคิดผิด สายลมวูบขึ้นพร้อมกับอาริเก็ทกระเด็นหงายหลังล้มโครมลงกับพื้น บนหน้าท้องมีรอยเหมือนโดนมีดเล็กๆ กรีดเป็นทางยาว

แกคงคิดว่าฉันจะไม่รู้ว่าแกอยู่ตรงไหนสินะ ผิดแล้วฉันรู้ดีมากๆ เลย ฮิโนอาราชิของฉันอาจจะทำอะไรแกไม่ได้ แต่ซูแบทของฉันทำได้ดีเลยล่ะ เซ็ท ใบมีดสายลม(Air cutter)เสียงของแม็กซ์ดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ไม่นานเกินรอ สายลมก็วูบขึ้นอีก ทั้งอาริเก็ทและเรฟ ใช้ปฏิกิริยาตอบโต้หลบได้อย่างหวุดหวิด และในจังหวะนั้นเองเรฟก็ต้องสะดุ้งเพราะรู้สึกร้อนที่ข้อศอก เขาหันขวับทันที

ที่ข้อศอกของเขา มีเปลวเพลิงเล็กๆ ลอยอยู่ ไม่ใช่แค่ตรงนั้น แต่จะยังมีเพลงเปลวเพลิงเล็กๆ อีกมากสายอยู่รอบๆตัวพวกเขา

...จริงสิ ฮิโนอาราชิของเจ้าหมอนั่น ใช้วงแหวนไฟล้อมเราไว้นี่นา แสงจากเปลวเพลิงพวกนี้คงเป็นตัวบอกตำแหน่ง ดีล่ะ!...

แฟร็งค์ ไฟนี่คือตัวบอกตำแหน่งพวกเรา ดับไฟนี่ซะ

อาริเก็ททำตาม มันเริ่มพ่นน้ำดับไฟรอบๆ ทางด้านแม็กซ์ที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอก เห็นว่าแสงไฟดับลงแล้วก็รู้ทันทีว่า อีกฝ่ายรู้ทัน แต่แม็กซ์ก็ยังยิ้ม

ไม่มีประโยชน์หรอก ซูแบทน่ะ หูดีนะเฟ้ย ไม่ว่าพวกแกจะอยู่ที่ไหน ก็รู้ทั้งนั้นแหละ เซ็ท! จัดการได้แล้ว

ซูแบทตวัดปีกฟาดอากาศแหวกหมอกเข้าไปอีกครั้ง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังตามขึ้นมา พร้อมกับเสียงอะไรบางอย่างกระแทกกำแพงไม้อย่างรุนแรง

สำเร็จ! งานนี้โดนเต็มๆ ได้เวลาเอาตัวอาริเก็ทส่งคืนด็อกเตอร์แล้วแม็กซ์ร้องตะโกนอย่างดีใจ เขามั่นใจว่าคราวนี้อีกฝ่ายต้องเสร็จเขาแน่นอน แม็กซ์ก้าวเดินเข้าไปในกลุ่มไอน้ำนั่น โดยมีซูแบทนำทางเข้าไป เขาเข้าไปจนถึงที่ที่คิดว่าหัวขโมยน่าจะอยู่ แต่แล้ว กลับไม่พบอะไรเลย พบแต่เศษไม้ใหญ่เล็กเท่านั้นเอง

หายไปได้ยังไงกัน! เซ็ท ลองใช้คลื่นเสียงหาดูสิ

ซูแบททำท่าเงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วมันก็สั่นหัวบอกว่ามันไม่รู้อะไรเลย

เป็นไปได้ยังไงกัน จะเคลื่อนที่ยังไงก็ต้องมีเสียงบ้างล่ะน่า ลองฟังใหม่สิเซ็ท

คราวนี้ซูแบท ทำท่าเหมือนกันได้ยินอะไรบางอย่าง มันแสดงอาการลนลานบินวนไปวนมา พร้อมกับส่งเสียงร้องแหลมเล็กอย่างตื่นตระหนก

...ท่าทางของเซ็ทแปลกๆไป... หรือว่า!...ด้วยสัญชาติญาณของแม็กซ์บอกเขาว่า หายนะกำลังจะตามมาอีกในไม่ช้า แม็กซ์ทิ้งความประมาทไปหมดสิ้น เขาเริ่มก้าวถอยออกจากที่นั้นช้าๆ อย่างระมัดระวัง สายตามองซ้าย-ขวา

เสียง เปรี๊ยะ! ดังขึ้นมาในโสตประสาทของแม็กซ์

เซ็ทหนีเร็ว!ใจของแม็กซ์ที่เริ่มไม่ดีอยู่แล้ว บอกว่าเกิดเรื่องร้ายแน่ เขารีบหันหลังวิ่งทันที

โจ...ระเบิดเพลิงสายฟ้า(Discharge)

เกิดเสียงระเบิดเปรี๊ยะ!ดังลั่น แม็กซ์ร้องเสียงหลงพร้อมกับกระโดดคว้าซูแบทออกจากกลุ่มไอน้ำ แสงสีเหลืองแลบขึ้นมาจากด้านหลังของเขา เป็นแสงที่รวดเร็วและทรงพลัง มันไม่ใช่แสงธรรมดา แต่มันคือขึ้นสายฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นโดยโปเกมอนและกำลังแล่นมาบนไอน้ำในอากาศ วัดดวงระหว่างแม็กซ์ที่กระโดดพุ่งตัวออกมาจากกลุ่มไอน้ำและสายฟ้าที่ไล่หลังมาติดๆ

เพียงเสี้ยววินาที สายฟ้าระเบิดเปรี้ยงขึ้น แม็กซ์หลุดออกมาจากกลุ่มไอน้ำแบบฉิวเฉียด แต่แรงดันจากระเบิดก็ผลักร่างของแม็กซ์กระเด็นหล่นกลิ้งไปบนพื้นไม้ ทั้งเขาและซูแบทในอ้อมกอด หลบสายฟ้าสังหารออกมาได้อย่างปลอดภัย ฮิโนอาราชิรีบลนลานวิ่งเข้ามาหาแม็กซ์ด้วยความเป็นห่วง

ฟู่ เกือบไปแล้ว ดีนะที่สายฟ้านั่นเกิดระเบิดขึ้นก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะโดนอย่างสดแน่ๆ แม็กซ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก แรงระเบิดเริ่มทำให้หมอกจางลงจนเริ่มมองเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนขึ้น ตรงนั้นไม่มีอะไรอยู่แล้วกำแพงด้านหลังโดนทะลวงเป็นรูโบ๋ หัวขโมยคงหนีออกไปทางรูนั้น แม็กซ์รีบวิ่งตามออกไปดูที่รูนั้น ข้างนอกว่างเปล่า มีเพียงสายลมพัดแรงเป็นช่วงๆ เท่านั้น นี่เป็นชั้น บนสุดของหอคอย กระโดดลงไปถึงโชคดีไม่ตายก็ต้องสาหัส หัวขโมยนั่นคงไม่โง่ทำแบบนั้น มันใช้วิธีไหนหนีไปกันแน่นะ ระหว่างที่แม็กซ์กำลังสงสัยนั่นเอง เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น

เรฟ ๆ ได้ยิ...แคร่กๆๆ ได้ยินมั้ย...แคร่กๆ บ้าเอ้ย สั...ญา...แคร่กๆๆ... ไม่ดีอะไรเขาตอนนี้ฟะ

แม็กซ์หันไปตามเสียงนั่นทันที มันดังมาจากพื้นใกล้ๆเขา ที่นั่นมีโปเกเกียร์อันหนึ่งตกอยู่ โปเกเกียร์นั่นมีสีดำสนิท ด้านข้างของมันมีตัว R สีแดงประทับอยู่ นั่นเป็นของโจรขโมยโปเกมอนคนนั้นแน่ แม็กซ์มองอยู่พักหนึ่งแล้วก็ยิ้มแฉ่งออกมาอย่างมีเลศนัย เขาเก็บโปเกเกียร์นั่นขึ้นมาแล้วสวมบทบาทเป็นหัวขโมยทันที

นี่ฉันเอง มีอะไร

ให้ ตา...แคร่กๆ...สิ แกยังเย็นชาเหมือ...ด..เดิม...แคร่กๆ เดิม เลยนะ ช่างเถอะ ...แคร่ก... ได้ข้อมู...แคร่กๆ...จากที่หอคอยนั่นแล้...แคร่กๆๆ ...รีบไปที่สถานโบราณ...แคร่กๆๆ อัลฟ์...เลยนะ...แคร่กๆ ห...หัวหน้า...จะ..แคร่กๆ ไอ้บ้าเอ้ย! พ่อซัดทิ้งซะนี่ แคร่กๆๆๆ อยู่ได้!...เออ...แคร่ก รีบไปล่ะ ไอ้โปเกเกียร์บัดซบ ไปตายซะ!

มีเสียงกระแทกดังลั่นหลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไปทันที แม็กซ์ยิ้มรับกับของขวัญหลังจากต่อสู้ แม้ว่าเขาจะพลาดการจับตัวโจรขโมยโปเกมอน แต่กลับทำหน้าที่ของเขาได้สำเร็จ หัวหน้าแก็งร็อคเก็ตกำลังอยู่ที่สถานโบราณอัลฟ์ ไม่ไกลจากเมืองนี่ ข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยมในการลากหัวพวกมันใส่ตะราง

แค่กๆเสียงไอ ดังขึ้นด้านหลังแม็กซ์ พระชินโตรูปนั้นถูกลืมไปเสียสนิทระหว่างการต่อสู้

โยม...มาหาอาตมาหน่อยหลวงพ่อชินโตเรียกแม็กซ์เข้าไปหา พลางลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ

นี่ๆ หลวงพ่ออย่าเพิ่งลุกขึ้นก่อนสิ โดนทุบขนาดนั้น นอนพักก่อนก็ได้ ผมจะไปตามพระรูปอื่นๆ มาช่วยแม็กซ์รีบห้าม

ไม่เป็นไรหรอกโยม คนหนุ่มๆสมัยนี้ ชอบดูถูกคนแก่กันจริงๆ ว่าแต่โยมเป็นคนของสมาคมโปเกมอนใช่มั้ย

ป...เปล่าหรอกผมเป็นแค่เทรนเนอร์คนนึงเท่านั้นแหละ เจ้านั่นขโมยโปเกมอนคนรู้จักผมมาผมก็แค่มาทวงคืนแม็กซ์ตอบ

พระชินโตจ้องมองตาแม็กซ์ สายตาเขาเหมือนจะทะลุทะลวงเข้าไปในใจแม็กซ์ สายตานั่นมันทำให้เขานึกถึงสายตาที่สงบนิ่งและเยือกเย็นของผู้เฒ่ามังกรที่เมืองฟุบุเสะ เขายังจำได้ดีถึงความน่าเกรงขามของผู้เฒ่าที่สามารถควบคุมมังกรทุกตัวได้ดี ความน่าเกรงขามนั่น เคยทำให้เขารู้สึกกลัวจนไม่กล้าแม้ที่จะอยู่ใกล้ แม็กซ์จึงพยายามหลบสายตานั่นเสีย

เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้นอาตมาของฝากข้อความไปให้สมาคมโปเกมอนได้มั้ย

เอ่อ...ครับแม็กซ์รู้สึกเกรงใจพระรูปนี้ขึ้นมาเสียดื้อๆ

เรื่องที่แก็งร็อคเก็ตบุกสถานที่โบราณหลายๆแห่ง อาตมาก็ยังคิดไม่ออกมาว่าพวกมันต้องการอะไร แต่ว่าเหล่าผู้ดูแลสถานที่โบราณแต่ละรุ่นๆ ก็ได้รับสืบทอดหน้าที่ให้ดูแลสถานที่ในความรับผิดชอบของพวกเขาให้ดีที่สุดห้ามให้ใครมาย่างกราย โดยที่พวกเราก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไมกัน ทั้งๆที่ในสถานโบราณเหล่านั้นก็มักจะมีแค่บันทึกเรื่องเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือตำนานต่างๆบนโลกนี้ แต่ก็พิสูจน์กันได้นานแล้วว่า ตำนานพวกนี้เป็นเพียงความเชื่อของคนโบราณเท่านั้น พวกแก็งร็อคเก็ต คงไม่ทำเพื่อตำนานอะไรที่ลมๆแล้งๆแบบนั้นหรอก เพราะถ้ามันมีจริงก็คงจะมีคนทำไปได้ก่อนหน้าพวกมันนานแล้ว และข้อมูลเดียวที่อาตมามีก็คือ ของที่มันถามหาจากอาตมา...

พระชินโตหยุดพูดไป แม็กซ์ตั้งตารอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

ของนั่นคืออะไรเหรอครับ หลวงพ่อแม็กซ์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพระรูปนั้นเงียบนานเกินไป

ลืมแล้วล่ะพระชินโตตอบเสียงสูง หน้าตาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกสำนึกผิดแต่น้อย

...

________________-

ชายป่าไม่ไกลจากคิเคียวซิตี้

แสงสีม่วงอ่อนสว่างวาบขึ้น กลุ่มแสงนั้นไม่ได้ส่องกระจายออกไปตามที่ควรจะเป็น มันกลับรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันเป็นก้อนแล้วค่อยๆ บิดตัวกลายเป็นรูปของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง สีต่างๆค่อยๆปรากฏขึ้นทีละสีๆ จนกลายเป็นรูปของยุนเกเลอร์ตัวหนึ่งพร้อมกับร่างของเทรนเนอร์ เสื้อแจ็กเก็ตสีดำและผมสีแดงยาวประบ่าบ่งบอกว่าเขาคือเรฟ

มีตัวเกะกะออกมานิดหน่อย เสียดายไม่มีเวลาพอจะมาเล่นกับมัน ต้องเทเลพอร์ตหนีมาแบบนี้แกคงจะไม่สบอารมณ์เท่าไรใช่มั้ย เครวานเรฟหันไปพูดกับยุนเกเลอร์ มันแต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร เรฟยกข้อมือขึ้นแล้วขยับแขนเสื้อออก ดวงตาของเขาแสดงอาการตกใจน้อยๆ เมื่อเห็นแต่ข้อมือเปล่าๆ

หายตอนไหนกัน หวังว่าคงไม่มีข่าวอะไรเข้ามาตอนนี้นะ ต้องรีบกลับฐานซะแล้วสิ เครวาน

ยุนเกเลอร์พยักหน้ารับ แสงสีม่วงสว่างวาบขึ้น เพียงชั่วครู่เท่านั้น เมื่อแสงจางลง ก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นอีก

_________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 7 โบราณสถานอัลฟ์

ภายในโบราณอัลฟ์

ว้าวๆ มาริน ดูนี่สิ รูปภาพโปเกมอนโบราณล่ะเสียงของเด็กสาวดังก้องสะท้อนไปมาในโบราณสถานแห่งหนึ่ง ที่ดูคล้ายถ้ำโบราณ พื้นและผนัง ทำจากหินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเอามาประกอบกัน บนผนังมีรอยแกะสลักเป็นรูปต่างๆ ซึ่งมิโดริกำลังให้ความสนใจ ตามข้างทางประดับไปด้วย รูปปั้นหินรูปโปเกมอนโบราณ บ้างก็เป็นมังกร บ้างก็เป็นโปเกมอนรูปร่างหน้าตาประหลาดดูไม่ออกว่าเป็นตัวอะไร ตรงผนังส่วนที่ติดกับเพดาน เจาะเป็นช่องรูปสี่เหลี่ยมแคบๆ เว้นระยะห่างเท่าๆกัน เป็นที่ทางให้แสงผ่านเข้ามารวมถึงยังเป็นที่ระบายความร้อนออกไปอีกด้วย ทำให้อากาศในนี้ค่อนข้างเย็น และไม่มีกลิ่นอับ

มารินและมิโดริ เข้ามาที่นี่ได้สักพักใหญ่แล้ว โดยปกติที่นี่ไม่อนุญาติให้คนทั่วไปเข้า แต่มารินใช้เส้นสายของด็อกเตอร์อุทสึกิเข้ามาจนได้

ดูลึกลับดีจังเลยมิโดริออกความเห็น

ชอบภาพพวกนี้ด้วยเหรอ มิโดริจังมารินถาม

ไม่รู้สิ ก็ไม่เคยคิดจะชอบหรอก แต่พอเห็นเข้าแล้วมันกลับดูมีอะไรที่ดึงดูดมากเลยล่ะเด็กสาวตอบด้วยท่าทางไร้เดียงสา ว่าแต่มารินจะมาทำอะไรที่นี่เหรอ?

มาดูอะไรนิดหน่อยน่ะ แต่ว่าไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ได้นะมิโดริจัง

อะไรกันมาริน เพื่อนกันจะทิ้งกันได้ยังไงล่ะ

ขอบคุณจ้ามารินยิ้มให้

อื้มจ้า ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกได้นะ

งั้น เราลองแยกกันสำรวจที่นี่นะ ถ้าเจออะไรน่าสนใจก็ให้มาบอกฉัน

จ้ะ มิโดริรับปากแล้วก็แยกไปอีกทางหนึ่ง ดูท่าทางเธอจะไม่รู้เลยว่ามารินกำลังหาร่องรอยของแก็งร็อคเก็ตอยู่

อ้ะจริงสิ เอาลิลลี่ออกมาช่วยอีกแรงดีกว่ามารินบิดโปเกบอลลูกหนึ่งออกมาจากสายสะพายของกระเป๋าเป้แบบสายเดียวของเธอ แล้วปล่อยมาริลโปเกมอนตัวโปรดออกมา

ลิลลี่ ช่วยฉันสำรวจที่นี่หน่อยนะ เจออะไรน่าสนใจล่ะก็ มาบอกฉันทันทีเลยนะ

ริล~มาริลร้องตอบรับด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง ก่อนที่เดินเตาะแตะไปยังอีกทาง มารินเฝ้าดูจนกระทั่งมาริลหายตัวลับมุมกำแพงไป แล้วจึงเริ่มงานของของตัวเองบ้าง มารินเริ่มจากการใช้โปเกียร์ถ่ายภาพรูปต่างๆจากกำแพงไว้สำหรับส่งไปให้ด็อกเตอร์อุทสึงิผู้เป็นอา

ทั้งสามเริ่มการสำรวจไปได้ครู่หนึ่ง เสียงของมิโดริก็ดังขึ้น

มาริน มาดูนี่สิ

อะไรเหรอ? มารินขานรับ พร้อมกับออกวิ่ง เสียงของมิโดริดังมาจากทางเลี้ยวข้างหน้า เมื่อมารินวิ่งเข้าไป ก็พบว่าตรงนั้นเป็นทางสั้นๆ ที่แยกออกมาจากทางหลัก บนผนังสุดทางมีรูปสลักนูนต่ำบนผนังสุดทาง รูปสลักนั้นประกอบจากแผ่นหินเล็กๆ จำนวนมาก ลวดลายของแต่ละแผ่นดูยุ่งเหยิงและไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ละเส้นไม่ต่อกัน ราวกับว่ามันถูกแยกออกจากกันแล้วสลับกันจนไม่เป็นรูป มิโดริกำลังยืนดูด้วยความสนใจ

เหมือนจิ้กซอว์เลยนะมาริน ว่ามั้ย?มิโดริพูดพลางกวาดสายตาไปรอบๆรูปเบื้องหน้า

นั่นน่ะสิ ว่าแต่ แผ่นใหญ่ชะมัดเลยมารินเสริม หญิงสาวสองคนเมื่อยืนต่อหน้าแผ่นจิ้กซอว์ยักษ์นี้ เปรียบเหมือนหนูตัวเล็กๆ เท่านั้นเอง

ลองต่อดูมั้ย พวกเราอาจจะต่อได้ก็ได้นะ ฮิฮิมิโดริเสนออย่างไร้เดียงสา พร้อมกับหันมายิ้มกว้างขอความเห็นจากมาริน

นั่นสิื น่าลองเหมือนกันนะมารินยิ้ม แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไร เสียงร้องแหลมเล็กอย่างตื่นตระหนก ก็ดังขึ้น มารินจำได้ว่าเสียงนั้นคือเสียงของลิลลี่ มาริลของตัวเอง หญิงสาวละความสนใจออกจากแผ่นจิ้กซอว์ยักษ์ตรงหน้าทันที

ลิลลี่ อยู่ที่ไหนน่ะมารินร้องเรียก

เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของมาริลจากทางแยกด้านตรงข้าม มาริลวิ่งเข้ามากระโจนเข้ากอดมารินทันที

เป็นอะไรลิลลี่มารินถามพร้อมกับอุ้มมันขึ้นมา

มาริลชี้เข้าไปยังทางที่มันวิ่งมาแล้วส่งเสียวร้องเหมือนลนลาน มารินมองตามเข้าไปอย่างสงสัย แสงสว่างที่มีอยู่น้อย ทำให้ มองเข้าไปไม่ชัด

ลิลลี่ไปเจอมาอะไรมาเหรอ มารินมิโดริถามขึ้น

ไม่รู้สิ ลองไปกันดูมั้ย

เอาสิ

สองสาวตัดสินใจเดินเข้าไปตามทางที่มาริลวิ่งออกมา มันเป็นทางแยกเล็กๆ ออกมาจากทางหลัก ซึ่งเป็นทางที่พวกมารินใช้เดินเข้ามาในโบราณสถานแห่งนี้ และอยู่ตรงข้ามกับทางแยกที่มีจิ้กซอว์ยักษ์อยู่ ในทางนั้น ผนังทั้งสองข้ามเต็มไปด้วยตัวอักษรประหลาด เรียงเป็นแถวยาว แถวเดียว ไม่มีภาพแกะสลักใดๆ อย่างที่เคยมีมา

พวกมารินเข้ามาจนถึงสุดทางเดินก็พบกับ แท่นหินสูงประมาณเมตรเศษๆ ความยาวราวๆ 1เมตร กว้างราวๆ ครึ่งเมตร บนแท่นหินมีรูปคล้ายกับจิ้กซอว์เล็กๆ ที่ต่อเสร็จแล้ว ลายเส้นบนจิ้กซอว์นั้นเรียงต่อกันเป็นรูปของคาบูโตะ โปเกมอนโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

ว้าว จิ้กซอว์อีกแล้ว แต่อันนี้ต่อเสร็จแล้วนี่นามิโดริพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เด็กหญิงรีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ แต่มาริลกลับชี้ไปที่มันพร้อมกับร้องออกมาด้วยความกลัว แล้วหันหน้าเข้าซุกกับอกมาริน

อะไรกันลิลลี่ กลัวเจ้านี่งั้นเหรอ? ฮะฮะฮะ ไม่ต้องกลัวหรอกเป็นแค่รูปวาดน่ะมารินปลอบ แต่ดูเหมือนมาริลยังกลัวอยู่

ไม่ต้องกลัวนะรูปวาดจริงๆมารินย้ำ

มาริลหันหน้าออกมาจากอกมารินมันค่อยๆเหลือบมองจิ้กซอว์อย่างวาดระแวง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรก็ค่อยๆ หันออกมามองเต็มที่

เอ จิ้กซอว์นี่ไม่น่าจะมีคนมาต่อไว้นะ พวกนักโบราณคดีก็ไม่น่าจะใช่ พวกนั้นคงไม่เคลื่อนย้ายอะไรในนี้หรอกมารินตั้งข้อสังเกต เมื่อได้ยินอย่างนั้น มาริลก็กระโดดลงจากอ้อมแขนของมารินไปยืนข้างๆรูป แล้ว ยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

อะไรกัน ลิลลี่เป็นคนต่อเหรอมิโดริถามขึ้น

มาริลพยักหน้าหงึกๆ

ต่อเองกลัวเองแบบนี้ก็มีแฮะมิโดริพูดขึ้นอย่างแปลกใจ มาริลงอนทำแก้มป่องสะบัดหน้าใส่มิโดริทันที

ฮะๆ ลิลลี่ เก่งแล้วล่ะที่ทำได้น่ะ มารินหัวเราะ แต่เมื่อเธอกวาดสายตาดูบนรูปตัวต่อ เธอก็สังเกตุเห็นความผิดปกติ

ตานี่ มันแปลกๆนะ เหมือนกลับข้างกันอยู่เลย เมื่อเห็นอย่างนั้น มารินจึงหยิบแผ่นมีที่รูปดวงตาทั้งสองขึ้นมาพิจารณาดู แล้วลองวางสลับที่กันลงไป

ทันทีที่แผ่นหินทั้งสองวางลงกับแท่นหินเรียบร้อยดี ก็เกิดเสียงอะไรบางอย่างดังลั่น เป็นเสียงหินขนาดใหญ่มาก ครูดกันดังสนั่น พื้นสั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหว ฝุ่นทรายร่วงกราวจนลงเพดาน

อะไรกันแผ่นหินไหวเหรอ แย่แล้วมิโดริร้องลนลาน

รีบหนีกันเถอะมารินบอก แต่ทันทีที่หญิงสาวก้าวท้าวแรกออกไป พื้นที่ทำด้วยหินปูเรียงกันนั้นก็พังทลายลงร่วงลงไป พร้อมกับตัวคนทั้งสองที่ยืนอยู่บนนั้น มิโดริส่งเสียงกรี้ดลั่น มารินรวบรวมสติคว้าข้อมือมิโดริเอาไว้พร้อมกับยืดมือออกไปสุดแขน เธอคว้าขอบหลุมเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด

บนนาทีความเป็นความตาย มารินกัดฟันแน่น เกร็งมือที่จับขอบหลุมไว้เต็มที่ ในขณะที่มิโดริลนลานทำอะไรไม่ถูก ด้านล่างของหลุมนั้น มืดสนิท ไม่รู้ว่าลึกลงไปเท่าไร มาริลยังคงยืนอยู่บนแท่นหินซึ่งไม่ได้พังลงไปด้วย มันตกใจไม่รู้จะช่วยเจ้าของยังไงดี มาริลตัดสินใจกระโดดลงไปยังพื้นด้านข้างซึ่งยังไม่พังลงไปแล้วรีบวิ่งอ้อมไปยังด้านที่มารินอยู่

ด้วยความหวังดีจะช่วยผู้เป็นนาย มาริลตรงเข้าไปยังมือของมารินหวังจะช่วยดึงขึ้น มันรีบวิ่งเข้าไปใกล้ แรงสั่นสะเทือนจากการที่มาริลกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดเข้าไป ทำให้หินก้อนที่มารินเกาะอยู่ไม่สามารถทนรับน้ำ

หนักได้อีกต่อไป มันหลุดร่วงลงไปทันที

ทั้งมารินและมิโดริกรีดร้องเสียงหลง ทั้งสองร่วงหล่นลงไปยังหลุมลึกเบื้องล่าง มาริลได้แต่ตะโกนร้องเรียกอยู่บนขอบหลุมเท่านั้น

________________--

หลายชั่วโมงต่อมา หน้าโบราณสถานอัลฟ์

ใหญ่โตจริงๆแฮะ แม็กซ์ชื่นชมพลางแหงนหน้ามองทางซึ่งเป็นซุ้มประตูขนาดยักษ์ทำด้วยหินขนาดใหญ่หลายๆก้อนเรียงต่อกันเป็นรูปประตูโค้งในสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมันโบราณ ภายในเป็นทางเดินหินที่ทอดเข้าไปในสถานที่กว้างใหญ่ มีอาคารโบราณที่ทำด้วยหินสีน้ำตาลอ่อนๆแกมเหลืองคล้ายสีทรายอยู่จำนวนมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นอาคารชั้นเดียว พวกมันตั้งรวมอยู่เป็นกลุ่มๆ บ้างก็แฝงอยู่กับป่ารกทะมึนมีไม้เลื้อย และตะไคร่เกาะเต็มไปหมด บ้างก็พังจนเหลือแต่ฐานอยู่เล็กน้อยเหมือนเป็นแค่กองหิน บ้างก็โผล่พ้นดินมาเพียงส่วยหนึ่งและมีต้นไม้ขึ้นทับอยู่จนรกไปหมด อาคารแต่ละที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินหินที่ผุพังจนมีหญ้าและไม้เลื้อยเล็กๆขึ้นมาระหว่างซอกหิน บรรยกาศดูคล้ายกับศาสนสถานอะไรบางอย่าง ที่ถูกล้อมด้วยป่ารกทึบ

ที่ทางเข้าที่แม็กซ์อยู่ มีป้ายเล็กๆตั้งอยู่ บนป้ายเขียนว่า

ห้ามเข้าไปในโบราณสถานก่อนได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่

เฮ้อ เรื่องมากอีกแล้ว แต่ถ้าอาศัยชื่อ ด็อกเตอร์อุทสึกิน่าจะเข้าไปสำรวจได้นะแม็กซ์บ่นเกาหัวแกรกๆ เมื่อเห็นป้ายนั่น

ไปกันเถอะเจส เราต้องไปหาที่อยู่ของพวกเจ้าหน้าที่พวกนี้กันก่อนแม็กซ์หันไปพูดกับแม็กมาราชิข้างๆ เขา มันก็คือฮิโนอาราชิตัวเก่าที่เพิ่งจะแปลงร่างได้ไม่นานหลังจากที่สู้กับเรฟ

แม็กซ์กับแม็กมาราชิเดินไปทางตามทางหินที่ผุพังนั้น ตามข้างทางมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ จึงไม่ต้องสุ่มเดินมั่วเอา แม็กซ์เดินมาได้ไม่นานก็เจอกับเต็นท์ลายพรางรูปทรงครึ่งวงกลม ขนาดใหญ่ กางรวมกันเป็นกลุ่มๆ อยู่บริเวณชายป่าทึบ ตรงหน้าของแต่ละเต็นท์มีกองไฟคุกรุ่นถูกจุดทิ้งไว้ ผู้คนที่เดินเข้าออกระหว่างเต็นท์พวกนั้นใส่ชุดกาวน์เดินถือแฟ้มใหญ่ๆ บ้างก็ใส่เชื้อเชิ้ตสีทรายกับกางเกงยีนส์ซอมซ่อและรองเท้าบูท พวกนั้นต้องป็นพวกนักโบราณคดีและพวกนักวิจัยแน่ๆ

เจอแล้วๆ ไปกันเร็วเจส แม็กซ์พูดอย่างดีใจพร้อมกับเริ่มออกวิ่งนำตรงไปยังที่นั้น แต่ยังไม่ทันที่แม็กซ์จะไปถึง เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น มาริลตัวหนึ่งก็ลอยปลิวออกมานอกเต็นท์หล่นปุ๊ลงบนพื้นหินหน้าเต็นท์ มันส่งเสียงร้องให้จ้า

หนวกหูจริงๆ จะไปไหนก็ไปไป๊ ไม่รู้ว่ามาหลงอยู่แถวนี้ได้ยังไง แต่อย่ามารบกวนการทำงานของพวกเราให้มันมากนักนะเว้ย เดี๋ยวพ่อเอาไปเชือดหมกป่าซะนี่นักโบราณคดีคนหนึ่งโผล่หน้าจากเต็นท์ออกมาตะคอกใส่มาริลอย่ากราดเกรี้ยวแล้วหันหน้ากลับเข้าเต็นท์รูดซิบปิดไม่ให้มาริลเข้ามาได้อีก

มาริลพยายามตามตื้อวิ่งเข้าไปเอาตัวกระแทก ประตูเต็นท์ที่ถูกรูดซิบปิดไปแล้วพร้อมกับส่งเสียงร้องไม่หยุด แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือ รองเท้าบูทข้างหนึ่งที่เหวี่ยงผ่านซิบประตูเต็นท์ที่เปิดออกมาอีกครั้ง จนมาริลกระเด็นออกมากลิ้งไปหลาย ตลบ มาริลนั่งแปะอยู่กับพื้นร้องไห้จ้าอย่างน่าสงสาร

แม็กซ์ยืนพินิจอยู่ชั่วครู่ก็จำได้ว่ามาริลตัวนั้นคือลิลลี่มาริลตัวโปรดของมาริน แม้จะไม่มีสัญลักษณ์อะไรบนตัวที่ต่างจากมาริลตัวอื่นแต่ด้วยความคุ้นเคยแหละเห็นกันจนชินทำให้แม็กซ์จำมันได้อย่างแม่นยำ แม็กซ์รีบวิ่งเข้าไปหามัน มาริลเมื่อเห็นแม็กซ์ก็รีบแจ้นเข้าไปหา กระโดดขึ้นกอดทันที

อะไรกันลิลลี่ ทำไมมาซนอะไรแถวนี้ แล้วมารินล่ะหลงทางกันรึไงแม็กซ์ถามพร้อมกับอุ้มขึ้นมา

นี่ไอ้หนู เป็นเจ้าของมันเหรอ มาก็ดีแล้วรีบๆเอามันกลับไปเลย แล้วอย่าปล่อยให้มารบกวนพวกฉันอีกล่ะนักโบราณคดีคนเดิมโผล่หน้าออกมาจากเต็นท์สีหน้าของเขาแสดงชัดว่ายังคงอารมณ์เสียไม่หาย

เปล่าครับ ผมไม่ใช่เจ้าของมัน แต่ผมรู้จักเจ้าของมัน มันไปทำอะไรให้พวกคุณเหรอครับแม็กซ์ถาม

ก็เจ้านี่น่ะ มันมาวิ่งวนแถวที่ทำงานของพวกเรามาเป็นชั่วโมงๆแล้ว ส่งเสียงร้องโวยวายไปทั่ว พวกเราไม่สนใจก็พยายามปีนโต๊ะขึ้นมาทำข้าวของหล่นเสียหายหมด เอากลับไปแล้วอย่าให้มันมาที่นี่อีกนะพูดจบนักโบราณคดีก็กลับเข้าไปในเต็นท์กระชากผ้าเต็นท์ปิดทันที แม็กซ์ก้มลงมองมาริลในอ้อมแขนตัวเองที่กำลังร้องไห้กระซิกๆ

เกิดอะไรขึ้น ลิลลี่แม็กซ์ถามด้วยความสงสัย มาริลตัวนี้ถึงจะชอบเล่นซนแต่ก็ไม่ใช่โปเกมอนที่ชอบก่อกวนคนอื่นให้ได้รับความเดือดร้อนโดยตั้งใจ

มาริลหยุดร้องไห้มันรีบเช็ดน้ำตาแล้วกระโดดลงจากอ้อมแขมของแม็กซ์ ชี้ไปยังโบราณสถานกลุ่มหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างไกลพร้อมกับส่งเสียงร้องริลๆอย่างร้อนรน แล้วรีบวิ่งออกนำหน้าไปทันที สัญชาตญาณของแม็กซ์

บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ลิลลี่กับมารินแทบไม่เคยอยู่ห่างกันเลย กลับมาหลงทางแยกกันแบบนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา

รีบไปตามกันเถอะ เจส แม็กซ์รีบออกวิ่งตามไปพร้อมกับแม็กมาราชิ มาริลพาแม็กซ์วิ่งตามถนนหินเข้ามาในหมู่โบราณสถาน ผ่านกลุ่มอาคารมาได้กลุ่มสองกลุ่ม จนมาถึงอาคารขนาดใหญ่หลังหนึ่ง อาคารหลังนั้นแม้จะมีความสูงเท่าๆกับอาคารหลังอื่น แต่ความกว้างและความยาวนั้นโดดเด่นกว่าอาคารอื่นๆในโบราณสถานจนบอกได้ว่า นี่ต้องเป็นอาคารหลังสำคัญแน่ๆ

มาริลชี้เข้าไปในอาคารหลังนั้นพร้อมกับส่งเสียงร้องบอกด้วยท่าทางร้อนรน

ในนี้เหรอ แม็กซ์ถาม

มาริลพยักหน้าแล้วรีบวิ่งนำแม็กซ์และแมกมาราชิเข้าไปในนั้น ทั้งสามวิ่งไปตามเส้นทางที่มาริลนำไป ซึ่งมาริลจดจำเส้นทางได้เป็นอย่างดี เพียงครู่เดียวมันก็นำมาจนถึงจุดที่เป็นหลุมขนาดใหญ่ซึ่งมารินตกลงไป

โห หลุมอะไรกันเนี่ย มองไม่เห็นพื้นเลยแม็กซ์อุทานเมื่อเห็นหลุมเบื้องหน้า กลิ่นเหม็นอับโชยออกมาจางๆ ก้นหลุมนั้นดำมืดดูลึกลับ น่าท้าทายสำหรับผู้ชอบการผจญภัย แต่เหมือนประตูสู่นรกของคนขลาด

ลิลลี่ มารินตกลงไปในหลุมนี้เหรอ?

มาริลพยักหน้าหงึกๆ

ทำอีท่าไหนถึงตกลงไปล่ะเนี่ย มองไม่เห็นพื้นแบบนี้ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตซะล่ะมั้ง

คำพูดอัปมงคลต่อเจ้านายดังเข้าหู มาริลกระโดดส่งเสียงร้องไม่พอใจจนแผ่นหินที่แม็กซ์ยืนอยู่สั่นเบาๆ เล่นเอาแม็กซ์เสียวสันหลังวาบ มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากมาริลกระโดดจนทำให้แผ่นหินที่ยืนอยู่ทรุดตัวและเขาร่วงลงไปด้วยอีกคน

โอเคลิลลี่โอเค ฉันเข้าใจแล้ว มารินคงตกลงไปในนี้ใช่มั้ย แม็กซ์ปรามพร้อมกับคว้าตัวมาริลขึ้นมาอุ้มไว้ก่อนที่มันจะทำให้เหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิด

แต่ก่อนอื่น เราต้องแน่ใจก่อนนะว่าเราจะลงไปในนี้ได้ แม็กซ์ถอยออกมานั่งอยู่ห่างๆจากปากหลุม โดยที่มีมาริลทำท่าทางกระสับส่ายอยู่ในอ้อมแขน เร่งให้แม็กซ์ลงไปในหลุมโดยเร็ว แต่แม็กซ์ก็เพิกเฉยเสีย เขาเปิดประเป๋าเป้แล้วคุ้ยเขาเชือกขดหนึ่งขึ้นมา ตามด้วยเปิดบอลเรียกซูแบทออกมา

เซ็ท คาบเชือกนี้ลงไปในหลุมนั่นนะ ถ้าเจอก้นหลุมเมื่อไรก็ขึ้นมา แต่ถ้าเชือกตึงแล้วยังไม่เจอก้นหลุมก็ให้กลับขึ้นมาเหมือนกันแม็กซ์สั่งพร้อมกันยื่นปลายเชือกข้างหนึ่งในซูแบทโดยที่ตัวเองจับปลายข้างหนึ่งไว้

ซูแบทคาบปลายเชือกไว้แล้วบินร่อนลงไปในหลุม เพียงอึดใจเดียว ซูแบทก็บินกลับขึ้นมาโดยที่เชือกยังไม่ทันตึง

แสดงว่าไม่ลึกมากแฮะ ขอบใจมากเซ็ทแม็กซ์พูดพร้อมกับเรียกซูแบทกลับเข้าบอล แล้วติดไว้ที่ข้างเอวเหมือนเดิม

เอาล่ะลิลลี่ เราจะลงช่วยมารินกัน ขึ้นไปเกาะเป้ฉันก่อนนะ มาริลทำตามคำพูดแม็กซ์อย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มเก็บแม็กมาราชิเข้าโปเกบอลไว้ก่อน มันจะลำบากน่าดูถ้าให้แมกมาราชิต้องปีนเชือกลงไปด้วย

แม็กซ์ลุกขึ้นเดินย่องไปตามพื้นส่วนที่ติดกับกำแพงซึ่งยังไม่ถล่มลงไป เขาเดินอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขารู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนปากเหวยังไงอย่างงั้น แม้ว่าดูจากความยาวเชือกที่ลงไปแล้วจะไม่ยาวนัก แต่ความมืดเบื้องล่างนั่นย่อมก่อให้เกิดความกลัวเพราะไม่รู้ว่าข้างล่างนั่นจะมีอะไรอยู่บ้าง ทันทีที่พ้นทางเดินแคบๆ ที่ปากหลุมนั่นแม็กซ์ก็รีบกระโดดออกมายืนตรงพื้นกว้างๆทันที เขาว่ารู้สึกสบายใจและปลอดภัยกว่ากันเยอะ

แม็กซ์ใช้เท้าถีบยันแท่นหินที่มีจิ้กซอว์รูปคาบูโตะอยู่สองสามครั้งเพื่อทดสอบความแข็งแรง เมื่อแน่ใจแล้วว่ามันไม่พังลงไปแน่ จึงเริ่มขมดเชือกเป็นเงื่อนบันไดลิงแล้วมัดเชือกเข้ากับแท่นหินนั้น แม็กซ์ดึงเชือกทดสอบความแข็งแรงอีกครั้งแล้วจึงเริ่มสูดหายใจลึกๆ

พร้อมนะลิลลี่

ริลมาริลพยักหน้ารับพร้อมส่งเสียงร้องอย่างมีมานะ

งั้นก็ไปกันเลย

________________-

ข้างใต้โบราณสถาน

มารินซึ่งตกลงมาก่อนหน้านี้ กำลังนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ ความกลางมืดและความว่างเปล่าในหัวของมาริน ความรู้สึกของอะไรบางอย่างกลมๆ ยาวๆ สากๆ กำลังเคล้าเคลียไปมาน้อยๆอยู่บนร่างของเธออย่างน่าขยะแขยง สัญชาติญาณการเอาตัวรอดปลุกมารินให้ลืมตาโพลงขึ้นมา แสงสว่างจากปากหลุมด้านบนส่องลงมาได้เพียงรางๆ มันไม่พอที่จะให้เธอเห็นอะไรได้ชัดเจนนัก ดูเหมือนหัวของเธอจะกระแทกในตอนที่หล่นลงมา มารินจำอะไรไม่ได้มากนักและยังมึนๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ความรู้สึกของอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนที่ไปมาอยู่บนตัวเธอนั้น ดึงให้เธอสนใจอยู่กับมันมากกว่าจะจะย้อนไปคิดว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร รู้สึกกลัวแต่ก็อยากรู้บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ มารินรวบรวมความกล้าพยายามลองคลำๆ สัมผัสมันดูในความมืด มันมีขนาดเท่าเชือกเส้นใหญ่ๆ มีขนเล็กๆเต็มไปหมด มันหยาบกระด้าง บางจุดขมวดเป็นปมใหญ่ มันเคลื่อนไหวด้วยการสั่นเป็นจังหวะ มารินพยายามทำใจไล่คลำตามสิ่งนั้นเพื่อตรวจสอบขนาดสั้นยาว ปรากฏว่าแม้ว่าเธอเอื้อมมือสูงขึ้นไปสุดแขนก็ยังสัมผัสถึงมันได้ มันคืออะไรกันแน่ มันยาวเท่าไรกันแน่นะ

มารินเริ่มใจไม่ดี เธอกลัวมันเหลือเกิน ความมืดที่มองไม่เห็นอะไรมันเพิ่มความกลัวในจิตใจเข้าไปทวีคูณ ขอเพียงแค่เห็นหน้าตามันสักหน่อยก็จะโล่งใจกว่านี้มาก อย่างน้อยได้รู้ว่ามันคืออะไร น้ำตาของเธอแทบจะไหล แต่เสียงมันไม่ยอมออกมาเลย และขาก็ไม่ยอมขยับ แต่แล้วก็มีฟันเฟืองมาขับเคลื่อนให้ร่างกายของมารินทำงานมากขึ้นเมื่อหูทั้งสองของเธอรับเอาเสียงพูดคุยที่ดังก้องไปทั่ว เสียงหนึ่งแหลมเล็กและเสียงหนึ่งต่ำกว่าคล้ายเสียงมนุษย์เพศชาย

ใจคอของเธอที่รู้สึกไม่ดีอยู่แล้วก็ย่ำแย่ลงไปอีก เธอตัดสินใจเงยหน้าขึ้นด้านบนอันเป็นแสงสว่างสุดท้าย แต่นั่นเปรียบเหมือนแสงเพลิงจากนรกเมื่อ มารินเห็นเงาตะคุ่มๆเงาหนึ่งกำลังลงมาช้าๆ จากปากหลุม

กรี้ดดดดดดดดดดดมารินกรีดร้องเสียงพร้อมกับออกวิ่งไปโดยไม่รู้หนทาง

________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 8 อันโนน!

รองเท้าผ้าใบเท้าข้างหนี่งหย่อนลงถึงพื้นหินในความมืด และตามมาด้วยอีกข้างหนึ่งพย่อนตามลงมาอย่างระมัดระวัง ร่างๆหนึ่งยืนอยู่ในความมืด

มืดเป็นบ้า เจสออกมาช่วยหน่อยนะ

พลันแสงไฟดวงเล็กสองดวงก็สว่างขึ้น ต้นกำเนิดไปพวกนั้นคือแมกมาราชิ

ในตอนนี้แม็กซ์และมาริลลงมาถึงพื้นแล้ว เด็กหนุ่มหันมองไปรอบๆ แสงไฟของแมกมาราชิ ส่องให้เห็นถึงสภาพที่ค่อนข้างกว้างของทางเดินนี้ บรรยากาศอับชื้นเพียงเล็กน้อย กำแพงทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยอักษรประหลาดเรียงรายอยู่ตลอดทาง อักษรพวกนั้นดูราวกับมีชีวิต พวกมันให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่และน่าพิศวง แต่แม็กซ์ไม่พิศวาศกับมันเท่าใดนัก เขากวาดสายตามองหาอย่างอื่น

นี่ลิลลี่แน่ใจเหรอว่า หลุมนี้น่ะ ถ้าตกลงมาก็น่าจะอยู่แถวๆนี้สิแม็กซ์ถามเมื่อไม่เห็นร่องรอยของมารินเลย

ริลมาริลส่งเสียงร้องบอกอย่างมั่นใจ มันเชื่อมั่นใจความจำของตัวเองว่าหลุมนี้ไม่ผิดแน่

เอ หรือว่าจะฟื้นขึ้นมาระหว่างนี้ แล้วเดินไปที่อื่นกันนะแม็กซ์เริ่มตั้งสมมติฐาน

หรือว่าอาจจโดนผีจับตัวไปแล้วก็ได้นะ เหอๆๆๆ~น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงเย็นเฉียบพร้อมกับทำใบหน้าหลอน หันมาทางมาริล มาริลแผดเสียงร้องลั่นพร้อมกับระดมตบมือเล็กๆของมันเข้าใส่หน้าแม็กซ์ด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งกลัว จนแม็กซ์ต้องรีบห้าม

โอ้ย พอๆๆๆ ล้อเล่นน่า

มาริลยอมหยุดมือ แต่สีหน้ายังคงบูดบึ้งตึง

จะว่าไปเมื่อกี้ก็เหมือนได้ยินเสียงผู้หญิงแฮะ อาจจะเป็นเสียงของยัยนั่นก็ได้นะ ไปกันเถอะพูดจบแม็กซ์ก็ตัดสินใจออกเดินไปทางซ้าย โดยไม่ทันดูทาง ลักษณะเส้นทางที่ลาดลงแบบกะทันหัน ทำให้แม็กซ์ลื่นเสียหลักไถลล้มลงพร้อมกับร้องเสียงหลง แมกมาราชิที่ยืนอยู่พื้นเรียบตกใจรีบกระโดดคว้าตัวนายของมันแต่ด้วยน้ำหนักที่ต่างกันมากเกินไปและพื้นที่ลื่นเพราะตะไคร่ ทำให้ทั้งหมดต้องไถลลงไปตามทางลาดนั้นพร้อมกัน

_______________-

ทางด้านมารินที่วิ่งเตลิดมาแบบไม่รู้ตัวนั้น เมื่อรู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองอยู่ในความมืดที่มองไม่เห็นอะไรเลย ความหวาดกลัวต่อความมืดและเงียบสงัด ทำให้มารินต้องพยายามคลำหาทางในความมืดจนได้เจอกับผนัง เด็กสาวยึดตรงนั้นเป็นที่นั่ง มารินคิดว่าหยุดอยู่ตรงนี้คิดหาทางออกก่อนดีกว่า ก่อนที่จะหลงทางไปมากกว่า แต่ในสภาพที่หันซ้ายก็ไม่มีใคร หันขวาก็ไม่มีใครแบบนี้มันช่างว้าเหว่และน่ากลัวเสียเหลือเกิน ในความมืดแบบนี้ต้องหาแสงสว่างมาก่อนคงจะดีที่สุด

มารินคลำหากระเป๋าตัวเอง เคราะห์เหลือเกินที่มันยังอยู่ เด็กสาวควานหาไฟฉายในกระเป๋าและในที่สุดเธอก็พบมัน

แสงจากไฟฉายสว่างวาบขึ้นมาท่ามกลางความมืด แสงสว่างวาบนั้นทำให้มารินตาพร่าไปชั่วขณะ จนครู่หนึ่งถึงปรับสายตาได้ เมื่อสายตาชินกับแสงแล้ว มารินก็พบว่าตัวเองอยู่ในโบราณสถานแห่งหนึ่งที่เก่าแก่เอามากๆ บนผนักสลักตัวด้วยอักษรประหลาดที่ไม่เคยเจอเรียงเป็นแถวยาว รากไม้และตะไคร่น้ำ ปะปนอยู่บนหลังคาและผนัง

แย่ชะมัดเลยแฮะ หลงทางมาได้ที่แบบนี้แล้วจะออกไปได้ยังไงล่ะเนี่ย ไหนจะมิโดริจังอีก คลาดกันจนได้มารินโอดครวญ

เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านหลัง มารินหันขวับพร้อมกับสาดไฟฉายใส่ด้วยสัญชาติญาณ แสงไฟส่องเข้ากับรูปปั้นของนกประหลาดขนาดใหญ่มหึมา แสงไฟฉายที่ส่งเข้าไปจากด้านใต้ทำให้มันดูน่าสะพรึงกลัว ใบหน้าที่กำลังอ้าปากกว้างและสายตาจ้องเขม็งนั้นดูราวกับมันมีชีวิตและกำลังจ้องมายังเด็กสาว

กรี้ดดดดดดดมารินตกใจส่งเสียงกรีดร้องลั่น พร้อมกับทำไฟฉายหลุดจากมือ แสงทั้งหมดดับลง ความมืดมาเยือนอีกครั้ง แต่ความสงบหาได้กลับมาด้วย เสียงกระซิบกระซาบแหบโหยหวนดังขึ้นรอบตัวมาริน เป็นเสียงที่เหมือนกับว่ากำลังเพรียกหาอะไรสักอย่าง มารินเริ่มใจคอไม่ดี เด็กสาวรีบควานหาไฟฉายที่หล่นไป

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเรื่อยๆ มารินก็ยิ่งรีบร้อนขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นลนลาน และทันทีที่เธอคว้าไฟฉายได้ เธอก็รีบยกมันขึ้นส่องทันที

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง...

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม

เฮ้อ... อุปทานไปเองเหรอเนี่ยมารินถอนหายใจ

และในวินาทีแห่งความโล่งใจนั้นเอง ตัวอักษรบนผนังค่อยๆมีสีดำเติมเข้ามาพร้อมกับค่อยๆดึงเอาตัวเองขึ้นมาจากผนัง มารินหัวใจหล่นวูบ มันไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวแต่ในสถานการณ์แบบนี้กลับทำให้ขนลุกซู่ ตัวอักษรเหล่านั้นค่อยๆลอยอีกมาทีละตัวๆ มารินเอื้อมมือที่สั่นเทาไปยังโปเกบอลบนสายสะพายกระเป๋า

เหล่าตัวอักษรลอยออกมาล้อมรอบตัวมารินไว้ มารินแข็งใจบิดโปเกบอลลูกหนึ่งออกมาสู้กับมัน โปเกมอนที่เธอเลือกมาก็คือ จิโกริต้า

เหล่าตัวอักษรไม่ปล่อยให้เธอชิงลงมือก่อน พวกมันเปล่งแสงสว่างวาบออกมาพร้อมกัน มารินรู้สึกเหมือนโดนแรงลมอัดกระแทกอย่างมหาศาลจนเธอกระเด็นไปไกล จิโกริต้าเองก็โดนไปด้วยเหมือนกัน

เสียงกระซิบกระซาบแหบๆ ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มารินรู้ชัดแล้วว่ามันคือเสียงของอะไร เธอไม่กลัวเสียงนั้นอีกแล้ว

อาร์บี้ กำแพงแสง (Light screen)

ดวงตาของจิโกริต้าเปล่งแสงขึ้น วูบหนึ่งแล้วกลับเป็นเหมือนเดิม ระหว่างมารินและเหล่าตัวอักษรปริศนาปรากฏกำแพงแสงสว่างวาบขึ้น

เร็วเข้าอาร์บี้ เราหนีกันก่อนเถอะพูดจบมารินก็ออกวิ่งทันที จิโดริต้าวิ่งตามมาติดๆ ทั้งสองวิ่งหลบเข้ามายังทางแยกเล็กๆ ที่แยกออกมาจากทางใหญ่ เธอรีบใช้ไฟฉายส่องที่กระเป๋าแล้วเริ่มค้นหาอะไรบางอย่าง

อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคชิ้นหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าของมาริน มันมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง เปิดปิดได้คล้ายกลับสมุด เมื่อเปิดออกมาด้านหนึ่งเป็นปุ่มหลายปุ่ม อีกด้านหนึ่งเป็นจอภาพ ด้านล่างจอภาพเป็นปุ่มอีก2-3ปุ่ม

ท่าที่พวกมันใช้เมื่อกี้ ไม่ผิดแน่ ท่าปราณซ่อนเร้น (Hidden power) พวกมันเป็นโปเกมอนแน่ๆ โชคดีจังที่ด็อกเตอร์ให้โปเกเด็กซ์มาก่อนจากกันไป พวกมันเป็นตัวอะไรกันแน่นะ...มารินคิดพลางเปิดโปเกเด็กซ์ค้นหา ในระหว่างที่มารินกำลังพยายามหาข้อมูลของโปเกมอนประหลาดนั้น จิโกริต้าก็ส่งเสียงร้องเตือน ไม่ทันขาดคำ ตัวอักษรเหล่านั้นก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าทั้งสอง มารินต้องหยุดการค้นหาชั่วคราว แล้วหัวมาสั่งจิโดริต้า

อาร์บี้ ใช้กระสุนเมล็ดพืช (Bullet seed)สกัดมันใว้ก่อน

จิโกริต้าทำแก้มป่องแล้วพ่นเมล็ดพืชจำนวนมากมายออกมาอย่างรวดเร็ว เหล่าโปเกมอนปริศนากระจายตัวกันออก หลบกระสุนเมล็ดพืชที่พ่นมาราวกับห่าฝน พร้อมกับพุ่งตรงมายังมารินและจิโกริต้า

อาร์บี้ ใช้ผงพิษ (Poison powder)

จิโกริต้าโบกใบไม้บนหัว ผงสีม่วงกระจายออกมาทั่ว มารินรีบใช้ผ้าปิดปากเอาไว้ก่อน แต่เหล่าโปเกมอนปริศนาที่กำลังพุ่งเข้ามาล้วนแต่ได้รับเอาผงพิษนั้นไปอย่างจัง ผงพิษออกฤทธิ์ทันใจ เหล่าโปเกมอนปริศนาส่วนหนึ่งพากันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเริ่มลอยเซไปเซมาเหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่

อาร์บี้ใช้ คัตเตอร์ใบไม้แหวกทางออกไปเลยเร็วเข้า

จิโกริต้าสะบัดใบไม้บนหัวอีกครั้ง คราวนี้มีใบไม้เล็กๆกระจายออกมา จิโกริต้าใช้ใบไม้บนหัวฟาดใบไม้ที่กระจายออกมานั้นให้พุ่งเข้าใส่เหล่าโปเกมอนปริศนา ใบไม้นั้นคมกริบ ตัวใดก็ตามที่หลบไม่ทันต่างก็เป็นอันต้องร่วงหล่นลงพื้น แต่ดูเหมือนโปเกมอนปริศนาส่วนใหญ่จะรู้ทัน พวกมันเปล่งแสงวาบอีกครั้ง คราวนี้จากระยะประชิดทั้งมารินและจิโกริต้าต่างกระเด็นไปไกล

อูย~ คราวนี้แรงชะมัดเลยมารินโอดครวญพลางค่อยๆยันตัวลุกขึ้น หัวไหล่ของเธอกระแทกพื้นอย่างแรงจนปวดไปหมด ออกแรงลำบากเหลือเกิน ส่วนจิโกริต้าเองก็เหมือนกัน ทั้งที่คราวก่อนยังได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่คราวนี้ต่างกัน สภาพของมันสะบักสะบอมเต็มที บนผิวหนังมีร่องรอยช้ำไปหมด

อาร์บี้ อาร์บี้ ไหวรึเปล่ามารินร้องถามอย่างเป็นห่วง

ไม่มีเวลาให้ตอบคำถามใดๆ เหล่าโปเกมอนปริศนาเริ่มตามเธอมาอีกครั้งและคราวนี้ไม่ธรรมดา ตลอดทางที่พวกมันผ่านไป ตัวอักษรบนกำแพงก็ลอยออกมารวมกลุ่มกับพวกมันเพิ่มด้วย ทำให้กลุ่มของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

มารินรีบเก็บจิโกริต้าเข้าบอลแล้วออกวิ่งต่อทันที มือหนึ่งถือไฟฉายอีกมือหนึ่งก็กดค้นหาในโปเกเด็กซ์ไปด้วย และแล้วเธอก็เจอภาพของมัน

เจอแล้ว หมายเลข 201 อันโนน ข้อมูลล่ะ...

มารินกดปุ่มอีก2-3ปุ่ม

พบตามโบราณสถานเก่าแก่ที่อยู่ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ ข้อมูลอย่างอื่น...

มารินกดปุ่มเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม แต่แล้วเธอก็ต้องร้องอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

อะไรกัน! ไม่มีงั้นเหรอ นี่เป็นโปเกเด็กซ์ที่ด็อกเตอร์บอกว่ารวบรวมข้อมูลโปเกมอนบนโลกนี้มาจนครบทุกตัวเลยนะ ขนาด ปูเตร่า คาบูโตะ ออมไนท์ อโนปุส ริริร่า ยังมีครับถ้วนเลย โปเกมอนพวกนี้มันอะไรกันแน่เนี่ย

แสงสว่างวาบขึ้นด้านหลังมารินอีกครั้ง ปราณซ่อนเร้นระลอกใหม่ถูกปล่อยออกมา

ว้ายยยยยยยยย!

_________________-

ทางด้านแม็กซ์ซึ่งไถลลงมา ตามทางลาดนั้นกำลังแช่อยู่ในน้ำเหลือแต่คอลอยขึ้นมา แขนสองข้างวางพาดอยู่บนพื้นหิน จากแสงสว่างของแมกมาราชิที่เกาะอยู่บนหัว ส่องให้เห็นว่าที่นี่คือถ้ำกว้างใหญ่ มีแม่น้ำสายหนึ่งไกลผ่านตรงกลาง ด้านข้างแม่น้ำมีพื้นหินยื่นออกมา พอเป็นที่เดินได้ พื้นหินนั้นเรียบเหมือนกับว่าไม่ใช่ฝีมือของธรรมชาติ

ฟู่ว~ เกือบไป ถ้านายตกน้ำล่ะแย่เลยนะ เจส แม็กซ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เขาสามารถเกาะฝั่งไว้ได้ ทำให้แมกมาราชิที่ไถลตามลงมาด้วยไม่พลอยตกน้ำไปด้วย หากมันตกน้ำไป เขาคงไม่เพียงแต่สูญเสียแสงสว่างในการสำรวจถ้ำนี้ แต่คงต้องเสียมันไปด้วยอย่างแน่นอน

แม็กซ์ไต่แผ่นหินขึ้นฝั่ง วางเป้ลงแล้วถอดแจ็กเก็ตออก

แย่เลยแฮะ นี่ถ้ามารินตกลงไปในน้ำแล้วไหลไปตามน้ำแล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย แม็กซ์พูดพลางบิดแจ็กเก็ตที่เปียกโชก มาริลไม่ได้สนใจคำของแม็กซ์ มันก้มๆเงยๆ สูดดมกลิ่นอยู่ตามพื้น

จริงสิ แกจมูกดีนี่นาลิลลี่ ว่าไง มารินตกมาในนี้รึเปล่า

มาริลส่ายหน้า นับเป็นสัญญาณที่ดีที่มารินไม่ได้ตกลงมาที่นี่

เอาล่ะไปตามหากันต่อเถอะแม็กซ์พูดพลางคว้าเป้ขึ้นสะพายบ่า แล้วเอาแจ็กเก็ตขึ้นพาดทับ เขาทำท่าจะก้าวออกเดินไปตามตลิ่งโดยไม่ย้อนกลับขึ้นไป แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดกึกเมื่อพบว่าทางด้านหน้า เต็มไปด้วยตัวอักษรประหลาดลอยเต็มไปหมด พวกมันมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเขาไม่รู้ตัวเลย

อะไรกันเนี่ยพวกแก ตัวอักษรลอยได้เรอะ!แม็กซ์ร้องอุทานเสียงหลง เขาเคยออกเดินทางมาไม่น้อยน เจอโปเกมอนก็หลายแบบ กระทั่งหอคอยผีสิงก็ตะลุยมาแล้วหลายที่จนคุ้นเคยกับโปเกมอนผีดี แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบตัวของเด็กหนุ่ม เหล่าอันโนนค่อยๆ ตีวงล้อมเข้ามาเรื่อยๆ

จะผีแบบไหนก็ช่างเถอะ ฉันไม่กลัวผีหรอกเฟ้ย! ลิลลี่ลงน้ำไป เจสระวังตัวให้ดีล่ะ เดี๋ยวจะโชว์การต่อสู้บนน้ำให้ดู

เหล่าอันโนนคาดเดาออกว่าแม็กซ์จะทำอะไรมันรีบลอยพุ่งเข้ามาหวังสกัดมาริลไม่ให้ลงน้ำได้

เจส ใช้วงแหวนไฟจับพวกบ้านั่นไว้

แมกมาราชิทำตาม มันเร่งไฟบนหัวขึ้น แล้วสะบัดออกไปกลายเป็นลูกไฟ เล็กๆหลายดวงลอยล้อมรอบพวกอันโนนเอาไว้ ทำให้พวกมันไม่สามารถเคลื่อนตัวออกไปไหนได้อีก ทำให้มาริลกระโดดลงไปในน้ำได้สำเร็จ

ลิลลี่ใช้ คลื่นยักษ์(surf) ถล่มพวกมันเลยแม็กซ์เริ่มสั่งเปิดฉากทันที มาริลดำลงไปใต้น้ำ พลันผิวน้ำที่เรียบสงบก็ปั่นป่วน คลื่นลูกเล็กๆ เริ่มก่อตัว มาริลกระโดดขึ้นมาจากน้ำพร้อมด้วยคลื่นยักษ์ติดเท้าขึ้นมาด้วย มาริลยืนอยู่เหนือคลื่นยักษ์ราวกับว่ามันเป็นผู้ควบคุมยังไงอย่างงั้น คลื่นยักษ์ก่อตัวขึ้นสูงจรดเพดานแล้วเทครืนลงมาใส่ฝูงอันโนน แม็กซ์ขยับเข้ามาเอาตัวบังแมกมาราชิไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มันโดนน้ำ

ฝูงอันโนนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ยอมอยู่เฉย พวกมันเปล่งแสงขึ้นพร้อมๆกัน แรงอัดที่รุนแรงมหาศาลถูกปล่อยออกมา ทำลายคลื่นยักษ์และดวงไฟที่ล้อมรอบมัน

คลื่นยักษ์พังลงมาก่อนที่จะถึงตัวเหล่าอันโนน มาริลที่ยืนอยู่เหนือคลื่นยักษ์ก็หล่นตามลงมาด้วย แม็กซ์ไม่ปล่อยให้โอกาสเสียปล่า มารินหล่าจากที่สูงแบบนี้แรงกระแทกย่อมมากพอควร

ลิลลี่ มังกรสะบัดหาง(Aqua tail)

มาริลตั้งตัวกลางอากาศ กะจังหวะที่กำลังจะลงกระแทกพื้นน้ำ ฟาดหางใส่น้ำเต็มแรงจนผิวน้ำแตกกระจายเป็นคลื่นลูกย่อมๆ กระแทกใส่เหล่าอันโนน

อย่าให้มันพักนะลิลลี่ อควาเจ็ท!แม็กซ์สั่งต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย

มาริลวิ่งไปตามผิวน้ำอย่างรวดเร็ว มันใช้ความเร็วที่เหนือชั้นพุ่งเข้ากระแทกอันโนนตัวแล้วตัวเล่า แต่พวกอันโนนมีจำนวนเยอะกว่าที่มาริลจะจัดการได้หมดในการโจมตีไม่กี่ครั้ง พวกที่ยังไม่โดนโจมตีไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยพวกมันปล่อยปราณซ่อนเร้นออกมาใส่มาริลจนเสียหลักกระเด็นกลับลงไปในน้ำ ทันทีที่จัดการมาริลได้ อันโนนส่วนหนึ่งก็พุ่งตรงมายังแม็กซ์ทันที ราวกับจงใจจะเล่นงานแม็กซ์โดยเฉพาะ แต่แล้วพวกมันก็ต้องชะงักเมื่อ ตัวที่ไปถึงแม็กว์ตัวแรกได้รับการต้อนรับอย่างดีด้วยพื้นร้องเท้าผ้าใบที่ประทับเข้าหน้าอย่างจัง

พวกแก! ฉันไม่ใช่หมูในอวยให้พวกแกเชือกเล่นๆหรอกนะแม็กซ์ตะโกนสวนกลับ วิธีสกปรกอย่างการโจมตีเทรนเนอร์น่ะ ฉันเจอมาเยอะแล้ว ใช้เองก็เยอะแล้วด้วย เจส พ่นไฟเก็บพวกมันเลย

สิ้นเสียงสั่ง เปลวเพลิงก็ถูกพ่นออกจากปากฮิโนอาราชิแบบไม่ขาดสาย จนพวกอันโนนต้องหลบกันจ้าล่ะหวั่น แต่พวกมันไม่หลบเปล่า พวกมันหลบพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาแม็กซ์ด้วย

ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ผล!แม็กซ์ตวาดพร้อมกับเหวี่ยงกำปั้นตั้นหน้าอันโนนที่เข้ามาใกล้เขา มันร่วงผล็อยลงกับพื้น แต่แม็กซ์ก็ไม่ทันสังเกตอันโนนตัวหนึ่งที่ลอบเข้ามาจากทางด้านหลังได้สำเร็จ มันเปล่องแสงวาบ แสงจากอันโนนทำให้แม็กซ์รีบหันกลับไปด้านหลัง

เสร็จกัน!แม็กซ์อุทานพร้อมกับรีบยกมือขึ้นตั้งการ์ดป้องกันใบหน้า

ในวินาทีที่ แม็กซ์กำลังคิดว่าโดนโจมตีแน่แล้วนั่นเอง อันโนนตัวนั้นก็ถูกอะไรบางอย่างพุ่งเข้ากระแทกอย่างรวดเร็ว และผู้ที่มาช่วยเขาคือมาริลที่ใช้อควาเจ็ทมาจากในน้ำนั่นเอง

ขอบใจมากนะลิลลี่

ริลลูมารินเท้าสะเอวยืดอกรับ

พวกนี้มันเยอะเป็นบ้า รีบหนีกันก่อนเถอะ เจส พ่นควันเร็ว

ควันดำถูกพ่นออกมาจากปากของแมกมาราชิ จนบริเวณนั้นมืดดำไปหมด แม็กซ์และโปเกมอนทั้งสองรีบฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีทันที

พวกแม็กซ์ตามมาตามตลิ่งแบบไม่คิดหยุดพัก

ลิลลี่ เจส คิดว่าพวกยังตามมาอีกมั้ยแม็กซ์ถามเมื่อวิ่งมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

มาริลและแมกมาราชิ วิ่งไปพลางยกจมูดขึ้นสูดกลิ่นในอากาศไปพลาง แล้วทั้งสองก็พยักหน้าพร้อมกับส่งเสียงร้องยืนยันออกมาพร้อมกัน

ไอ้บ้าเอ้ย พวกนั้นมันตัวอะไรกันเนี่ย

ทันใดนั้น มาริลก็ทำจมูกฟุดฟิด มันได้กลิ่นอะไรที่แปลกไปจากกลิ่นอันโนน

ริลๆๆมันรีบส่งเสียงร้องรัวๆ ราวกับต้องการบอกแม็กซ์ว่าเจออะไรบางอย่างเข้าแล้ว

อะไรน่ะลิลลี่ ได้กลิ่นอะไร

มาริลไม่พูดต่อ มันกระโจนลงน้ำแล้วรีบว่ายน้ำนำหน้าแม็กซ์ไป ความเร็วของมันตอนวิ่งบนบกกับตอนว่ายน้ำช่างต่างกันลิบลับ มันว่ายน้ำออกไปน้ำหน้าไปจนห่างได้ระยะหนึ่งพอที่แสงจากแมกมาราชิยังส่องเห็นอยู่ แล้วก็กระโดดขึ้นจากน้ำ หันมาทางแม็กซ์ ส่งเสียงร้องริลลูๆ อย่างดีอกดีใจพร้อมกับชี้ไปด้านข้าง แสงจากแมกม่าราชิ ส่องให้เห็นว่าตรงนั้นมีทางลาดขึ้นไปเหมือนกับทางลาดที่แม็กซ์หล่นลงมาไม่มีผิด

เยี่ยมเลย มีความหวังแล้ว แม็กซ์เร่งฝีเท้าตรงไปยังที่มาริลยืนอยู่ หูของเขาแว่วเสียงกรี๊ดดังลั่น แต่เขาไม่สนใจคิดว่าคงเป็นแค่เสียงหูฝาดไปเท่านั้น

เมื่อแม็กซ์ไปถึงยังทางขึ้นนั้น เขารีบวิ่งเลี้ยวเข้าไปด้วยอารามดีใจจึงไม่ทันสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่กลิ้งตกลงมาตามทางนั้น กระแทกใส่เขาอย่างจังจนทกระเด็นตกลงไปในน้ำด้วยกัน มาริลและแมกมาราชิส่งเสียงร้องลั่นด้วยความตกใจ

____________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 9 ฉันขอร้องได้มั้ย

มือข้างหนึ่งโผล่พรวดจากน้ำขึ้นมาเกาะฝั่งที่เป็นหินเรียบสนิท ตามด้วยอีกข้างหนึ่ง สองมือดึงร่ายกายให้ขึ้นจากน้ำตามมา

แฮ่กๆๆ โอยเกือบตาย อะไรกันเนี่ยเสียงบ่นดังขึ้นทันทีที่ใบหน้าโผล่พ้นน้ำ

แม็กซ์ที่ถูกอะไรบางอย่างชนจนตกน้ำไปรีบตะเกียกตะกายลนลานกลับขึ้นมาบนตลิ่งอย่างรวดเร็ว เขานั่งหอบพลางเอามือกุมอก บนบ่าเขาไม่มีเสื้อแจ็กเก็ตที่เคยถือมาอีกแล้ว แม็กซ์โดนชนตกน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว ตั้งสติไม่ทันทำอะไรไม่ถูก ยังดีที่สิ่งที่ชนเข้านั้นผละออกไปทันทีเมื่อจมน้ำลงไปด้วยกัน ถ้ามันเกาติดกับเขาและดึงลงน้ำไปด้วยกันชีวิตคงจบเห่

อะไรบางอย่างโผล่พรวดขึ้นจากน้ำ ขึ้นมาบนฝั่งข้างๆแม็กซ์ตามด้วยเสียงบ่นที่ดังขึ้นต่อทันที

นั่นสิ ถ้ำนี้มันอะไรกันเนี่ย อยู่ๆทางก็ลาดลงมาซะงั้นแน่ะ

มันก็แปลกๆ แบบนี้แหละ เฮ้ เดี๋ยวสิ! แม็กซ์ตอบกลับโดยไม่ได้หันมองสิ่งนั้น แต่แล้วเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าเขากำลังพูดกับอะไรนะ เด็กหนุ่มรีบหันขวับไปตามเสียง

ข้างๆ ตัวเขาตอนนี้คือหญิงสาววัย17 เศษๆ ผมยาวถักเปียคู่ สวมเสื้อยืดสีดำทับด้วยฮู้ดสั้นๆสีชมพูมีลายแถบสีดำที่ขอบแขนและชายเสื้อ กางเกงยีนส์สามส่วนรัดรูป คาดเข็มขัดหนังเส้นเล็กๆ ทับอยู่นอกหูกางเกง หล่อนมีกระเป๋าแบบมีสายสะพายเส้นเดียวสะพายเฉียงอยู่บนบ่า และใบหน้านั้น ใบหน้าทรงไข่ค่อนไปทางกลม ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ริมฝีปากเล็กๆที่ดูอวบอิ่ม จมูกขนาดพอดีเข้ากับรูปหน้า แม็กซ์จำหน้าเธอได้ในทันที

เธอ!แม็กซ์อุทานลั่นด้วยความตกใจพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้น มาริลรีบวิ่งไปหาเด็กสาว มันกระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่

อ้าวลิลลี่ ลงมาด้วยเหรอเนี่ย มาตามหาฉันเหรอ ขอบใจมากนะ ว่าแต่ใครพาลงมาล่ะเนี่ยเด็กสาวยิ้มรับลูบหัวมาริลอย่างเอ็นดู พลางเห็นหน้ามาทางแม็กซ์ แล้วเธอก็ต้องอุทานขึ้นเหมือนกันเมื่อพบกับบุคคลที่เธอไม่คิดว่าจะพบเจอในตอนนี้

แม็กซ์!

มาริน!

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ สายตาของทั้งคู่จ้องมองกัน ทั้งสองต่างอ้ำอึ้ง สถานการณ์ของการพบกันมันฉุกละหุกเกินไป แม็กซ์แม้ว่าจะทำใจไว้แล้วว่าถ้าเจอหน้ามารินเขาต้องขอโทษเธอได้แน่ แต่ถึงเวลาจริงกลับพูดไม่ออก มันติดอยู่ในลำคอ ส่วนมารินนั้นไม่เคยไม่ฝันเลยว่าจะได้เจอแม็กซ์ในที่แบบนี้ เขาจะมาช่วยเธอ หรือจะแค่หลงมาเหมือนกันกันแน่นะ อาจจะแค่หลงมาเหมือนกันก็ได้ จะขอบคุณก็กลัวเขาหน้าแตก จะตัดพ้อก็กลัวเขาโกรธ มารินพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

แต่เวลาการตัดสินใจของทั้งคู่ไม่มีมากนัก เมื่อแมกมาราชิส่งเสียงร้องเตือนว่า เหล่าอันโนนตามมากล้าแล้ว

บ้าจริง!แม็กซ์สบถอย่างไม่สบอารมณ์เขารีบลุกขึ้น คว้าข้อมือมารินแล้วฉุดให้วิ่งออกไปด้วยกันทันที

ด...เดี๋ยวสิ แม็กซ์

จะพูดอะไรไว้พูดทีหลังก็ได้ ตอนนี้หนีก่อนเถอะแม็กซ์ตัดบท มารินไม่พูดอะไรต่ออีก ทั้งสี่วิ่งไปตามทางไล่เรียบตามรีบแม่น้ำวิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต ในยามวิกฤติ ความเหนื่อยไม่อาจหยุดพวกเขาได้ ตลอกทางแม็กซ์สนใจแต่เรื่องหนีจนไม่ทันรู้ตัวว่าเขาจับข้อมือมารินไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหลุดมือหายไป ส่วนมารินนั้นรู้ตัวตลอดและได้แต่หน้าแดงมาตลอดทาง พวกเขาวิ่งมาได้ระยะหนึ่งแสงไฟจากแมกมาราชิก็ส่องให้เห็นทางลาดสำหรับขึ้นไปยังชั้นบนอีกครั้ง

เจส ลิลลี่ ขึ้นไปข้างบนกันแม็กซ์บอกโปเกมอนทั้งสอง

แม็กซ์ไม่ได้นะข้างบนน่ะ...มารินช้าเกินไปแม็กซ์พาเธอเลี้ยวขึ้นทางลาดไป เมื่อพวกเขาขึ้นทางลาดไป แสงไฟของแมกมาราชิก็ส่องให้เห็นสิ่งที่มารินหนีมาเมื่อครู่อย่างจัง ฝูงอันโนนอีกฝูงใหญ่ลอยอยู่เหนือทางลาดนั้น และดูเหมือนมันจะกลุ่มใหญ่ขึ้นกว่าตอนที่ไล่มารินมาด้วยซ้ำ

เอาเข้าไป หนีเสือปะจระเข้เข้าจนได้มารินโอดครวญ

เสียงกระซิบกระซาบแหบห้าวดังขึ้นรอบๆตัว เหล่าอันโนนล้วนแสดงถึงประสงค์ร้ายต่อพวกเขาที่ลุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของมัน อันโนนจ้องเขม็งมายังทั้งสี่ด้วยสายตาที่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แม็กซ์กัดฟันกรอด เขาคิดว่าจะใจเย็นกับปัญหาต่างๆที่รุมเร้า และจะพยายามไม่ใช้ความรุนแรง แต่การเจอปัญหาเดิมซ้ำซากมันทำให้เขาเบื่อหน่ายและไม่อยากจะอดทนอีกต่อไป

หมดความอดทนแล้วนะเฟ้ย! เซ็ทออกมาเลยแม็กซ์ตวาดออกมาอย่างเหลืออดพร้อมกัมปล่อยซูแบทออกมา ลิลลี่ดูแลเจ้านายแกไว้ดีๆนะ มาริน เอาจิโกริต้าออกมาหน่อยสิ

อ..อืม ได้สิ แต่ว่าคงทำอะไรไม่ได้มากนะ พลังชีวิตเหลือน้อยแล้ว

เดี๋ยวมันจะเยอะแล้วล่ะแม็กซ์ตอบแบบผ่านๆไป แต่ในหัวของเขาแผนการทั้งหมดถูกเตรียมไว้เรียบร้อย มารินปล่อยจิโกริต้าออกมาตามคำบอกของแม็กซ์ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าเพื่อนหนุ่มของเธอจะทำอะไร

เช่นเคยพวกอันโนนไม่เคยปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายโจมตีพวกมันก่อนฟรีๆ พวกมันเริ่มส่องแสง

ก็ดูสิว่าใครจะเร็วกว่า เซ็ท ปล่อยซุปเปอร์โซนิคออกมาเลย

ด้วยความเร็วของซูแบทที่เร็วที่สุดในถ้ำ ย่อมไม่แพ้ใครง่ายๆอยู่แล้ว ซูแบทชิงตัดหน้าพวกอันโนนด้วยการปล่อยคลื่นเสียงแหลมสูงออกมา มันบังคับทางคลื่นเสียงให้ไปยังพวกอันโนนเท่านั้น ส่วนทางพวกแม็กซ์ได้ยินเพียงเสียงแหลมๆเล็กๆ ที่ไม่ส่งผลอะไรเท่าไรนัก

พวกอันโนนต่างพากันเสียหลักเพราะคลื่นเสียงที่สูงเกินกว่าโสตประสาทที่น้อยนิดของพวกมันจะรับได้ พวกมันเริ่มลอยตัวไม่คงที่ บางตัวถึงกับลอยชนกำแพงซ้ำแล้วซ้ำเล่า บ้างก็ลอยชนกันเองเหมือนเสียสติ

จังหวะนี้แหละ มารินให้จิโกริต้าใช้ด้วยเมล็ดกาฝาก เร็วเข้า

ได้เลย อาร์บี้ ใช้เมล็ดกาฝากยิงออกไปเลยมารินสั่ง

จิโกริต้าทำแก้มป่องแล้วพ่นเมล็ดพืชใส่อันโนนตัวหนึ่ง เมล็ดพืชปักฝังเข้าไปในตัวอันโนนแล้วเริ่มแตกหน่อออกมาอย่างรวดเร็ว

ไม่ทันใจเลย ลิลลี่พ่นน้ำรดน้ำให้มันหน่อย เร็วเข้าก่อนที่พวกมันจะตั้งสติได้

มาริลเข้าใจสถานการณ์ดีมันรีบทำตามอย่างรวดเร็ว มันเม้มปากแล้วพ่นน้ำออกมา น้ำที่พ่นออกมาได้ไม่ได้เป็นสายน้ำตรงๆ แต่แตกกระจายออกมาเป็นหยุดน้ำเล็กๆจำนวนมากคล้ายรดออกมาจากบัวรดน้ำ เมล็ดกาฝากเมื่อได้รับน้ำมันก็เจริญเติบโตเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ จากอันโนนหนึ่งตัว ขยายออกเป็นสองตัว สามตัวอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็ยังไม่ทันการณ์ อันโนนมีมากเกินไปพวกมันเริ่มตั้งตัวได้แล้ว พวกมันเปล่งแสงวาบ ปราณซ่อนเร้นระลอกใหญ่ถูกปล่อยออกมา

เสร็จกัน!แม็กซ์อุทานพร้อมกับยกมือขึ้นป้องหน้าตามสัญชาติญาณ แต่เขาลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

อาร์บี้ กำแพงแสง

บังเกิดแสงสว่างขึ้นตรงหน้าพวกแม็กซ์ คลื่นพลังของอันโนนถูกบรรเทาลงจนไม่สามารถทำอะไรพวกแม็กซ์ได้ กลายเป็นเพียงลมปะทะแบบแรงๆวูบหนึ่งเท่านั้น แม็กซ์รู้สึกแปลกใจจึงลดมือที่ป้องกันหน้าอยู่ลง เมื่อเขาหันไปข้างหลังก็พบกับมารินพร้อมด้วยรอยยิ้มแห่งความมั่นใจปรากฏอยู่บนใบหน้า

ฉันอยู่ด้วยนะแม็กซ์ อย่าคิดว่าเก่งคนเดียวสิ

ช่วยกันทำมาหากินดีนี่แม็กซ์ยิ้มรับ

รอยยิ้มและการช่วยเหลือกันครั้งนี้นับเป็นสัญญาณว่าไม่มีใครโกรธใครอีกแล้ว ข้อสงสัยในใจของทั้งสองถูกคลี่คลายออกมาจนหมด

กำแพงแสงคลายลง พวกอันโนนถูกเมล็ดการฝากกลืนกินจนดูเหมือนเป็นเป็นดงไม้เลื้อยขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าพวกแม็กซ์ ไม้เลื้อยพวกนั้นเจาะชอนไชเข้าไปในตัวของพวกอันโนนพร้อมกับดูดพลังชีวิตมาให้จิโดริต้าผ่านทางรากไม้เส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อมายังตัวโปเกมอน

อันโนนฝูงใหญ่ถูกโปเกมอนเพียงไม่กี่ตัวสกัดเอาไว้จนสิ้นฤทธิ์

เอาล่ะ ถึงเวลาปิดฉาก ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด เจสแม็กซ์เดินมายืนอยู่ตรงหน้าพวกอันโนน เขาเรียกแมกม่าราชิเข้ามาใกล้

ฉันจะสอนอะไรอีกอย่างให้แก ความเห็นใจและความสงสาร สิ่งนั้นมีไว้มอบให้แก่พวกพ้องเท่านั้น หากไม่แล้วก็ไม่มีความหมายอะไรที่จะต้องหยิบสิ่งนั้นมาพิจารณา ไม้เลื้อยพวกนี้ล้วนเป็นเชื้อเพลิงชั้นยอด

มารินเดาออกมาว่าแม็กซ์จะสั่งอะไรให้กับแมกมาราชิ เด็กหนุ่มกำลังจะให้แมกมาราชิเผาอันโนนพวกนั้นทั้งเป็น แม้อันโนนจะทำร้ายเธอไว้มาก แต่เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติรรมเลยที่จะสนองคืนด้วยการสังหารหมู่แบบนี้ มันโหดร้ายเกินไป

แม็กซ์อย่านะมารินรีบวิ่งเข้ามายืนขวางแมกมาราชิไว้

จะทำอะไรน่ะมาริน ถ้าไม่จัดการพวกมัน เมื่อไรที่พวกมันฟื้นขึ้นมาอีก มันจะสร้างปัญหาให้เราไม่รู้จบนะ

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ไม่เห็นเหรอ พวกมันสู้ไม่ได้แล้ว พวกมันกับเราไม่มีความแค้นหนักหนาอะไรต่อกันมาก่อนจบมันไว้เท่านี้เถอะนะ อย่าทำร้ายกันไปมากกว่านี้เลย ฉันเชื่อว่าพวกมันก็ต้องมีเหตุผลที่ต้องไล่ล่าพวกเราขนาดนี้เหมือนกัน

พวกเราก็มีเหตุผลที่ต้องมีชีวิตรอดจากที่นี่เหมือนกัน ถอยไปซะมาริน เราต้องออกจากที่นี่ให้ได้ภายในวันนี้ พวกเราไม่มีน้ำไม่มีอาหาร ขืนต้องสู้กับพวกนี้เรื่อยๆ ไม่หมดแรงตายก็ต้องอดอาหารตาย ฉันก็ใช่ว่าอยากทำแต่มันเพื่อความอยู่รอดของเราเองนะ

ใช่แม็กซ์นายพูดถูกข้อนี้ฉันก็ยอมรับ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่ฉันคิดมันจะถูกแค่ไหนแต่ฉันเชื่อว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะ พวกนี้อาจจะช่วยเราได้ในอนาคต

มันไม่มีหลักฐานยืนยันเลยมารินว่าพวกนี้จะช่วยเรา หากมันคิดอย่างนั้นจริงมันคงไม่ไล่ล่าเราแต่แรกแล้ว ถอยไปซะมาริน

ฉันขอร้องได้มั้ยมารินมาพยามอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงและสายตา สองมือยกขึ้นพนมอยู่ที่หน้าอก สั่งนั้นไม่อาจเปลี่ยนความคิดที่เด็ดขาดของแม็กซ์ได้

แม็กซ์เพิกเฉยต่อมาริน เขาก้าวเลี่ยงเด็กสาวไปอีกทาง พลันร่างกายเอาก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยอ้อมแขนเรียวบางที่พยายามรัดเขาไว้ด้วยแรงที่มี มารินสวมกอดแม็กซ์จากด้านหลัง ซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังนั้น แม็กซ์จะกระชากตัวออกจากอ้อมแขนนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับรู้สึกว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้

หยุดได้มั้ย ฉันไม่อยากเห็นนายทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้เลยคำพูดเบาๆ ดังออกมาจากปากของเด็กสาว น้ำเสียงนั้นเศร้าหมอง มารินไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องรู้สึกแบบนี้

แม็กซ์ยืนนิ่ง จิตใจของเขาเริ่มสับสน เหตุผลถูกละเลย หัวใจของเขาที่อ่อนลงมันบอกให้เขายอมแพ้ต่อเธอคนนี้

ก็ได้แม็กซ์ตอบสั้นๆ

มารินปล่อยมือออก เธออ้อมเข้ามาข้างหน้าแม็กซ์ด้วยอาการดีใจ

จริงนะ

จริง

คำตอบที่ชัดเจนทำให้มารินรู้สึกตื้นตัน แม้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี้ไม่มีอะไรให้น่าดีใจเท่าไรเลย แต่เธอกลับรู้สึกปิติ ดีใจ ดีใจที่เขายอมฟังสิ่งที่เธอพูด ดีใจที่เขาไม่เฉยชาต่อเธอ

ขอบคุณมากนะแม็กซ์

รอยยิ้มที่อ่อนโยนของสาวน้อยตรงหน้าทำให้แม็กซ์อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกตัวว่าหน้าเริ่มแดงจึงรีบผละตัวออกเสีย

เอาเถอะ แต่ฉันคงปล่อยให้พวกนี้ไปรังควานเราอีกไม่ได้ มารินช่วยสั่งให้จิโกริต้าของเธอให้เมล็ดกาฝากคลุมทับให้พวกนี้อีก สัก2-3เมล็ดนะ อย่างน้อยพวกมันจะได้โดนดูดพลังอยู่ตลอดเวลา ไม่หลุดออกมารังควาญเราอีกง่ายๆ

ถ้าแค่นั้นล่ะก็ได้เลยอาร์บี้ทำตามเขาบอกหน่อยนะมารินหันไปพูดกับจิโกริต้าของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ปิติ เธอยังดีใจไม่หาย จิโกริต้าพ่นเมล็ดพืชใส่พวกอันโนนอีก2-3เมล็ด เมล็ดเหล่านั้นฝังลงไปในร่างของอันโนน แล้วก็ค่อยๆงอกแตกหน่อออกมา

เอาล่ะไปกันเถอะ เจส หรี่ไฟตอนเดินข้ามพวกนี้หน่อยล่ะแม็กซ์กำชับก่อนที่จะเดินฝ่าดงไม้ออกไปเป็นคนแรก ตามด้วยมาริน มาริล จิโกริต้า และแมกมาราชิกับซูแบทปิดท้ายกลุ่ม

ทั้งหมด เดินมาตามทางที่เหมือนกับโบราณสถานใต้ดินทั่วๆไป ระหว่างนี้พวกเขาไม่พบเหล่าอันโนนเลย ทำให้การเดินทางหาทางออกค่อนข้างราบอื่น แต่การเดินไปๆในสถานที่ที่ไม่รู้จักโดยไม่มีแผนที่ ก็ไม่ต่างอะไรเลยกับการคลำทางในความมืด ยากซึ่งจะหาทางออก ในที่สุดมารินก็หมดแรงลงเป็นคนแรก เธอทรุดลงนั่งพิงกับกำแพง

แม็กซ์ ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันหิวมากแล้วด้วยมารินโอดครวญ เธอเปิดโปเกียร์ดูก็พบว่าขณะนี้ล่วงเข้าไป บ่ายสามโมงเศษแล้ว สัญลักษณ์อย่างหนึ่งบนหน้าจอบอกว่า ที่นี่ไม่สามารถใช้การติดต่อสื่อสารใดๆได้

เฮ้อ เธอนี่น้า งั้นเราพักกันก่อนก็ได้แม็กซ์ถอนหายใจ พลางนั่งลงที่กำแพงอีกฟากหนึ่ง โปเกมอนของมารินไปนั่งรวมอยู่กับกลุ่มเจ้าของ แต่โปเกมอนของแม็กซ์กลับแยกย้ายกันไป ซูแบทขึ้นไปห้อยหัวอยู่บนหลังคา ส่วนแมกมาราชิมานอนหมอบอยู่ตรงกลางวง ทำหน้าที่เป็นแสงสว่างให้กับทั้งกลุ่ม ทั้งสองได้ทำตามที่แม็กซ์เคยนัดแนะไว้ที่คิเคียวซิตี้

แม็กซ์มีอะไรกินบ้างมั้ย ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยมารินถามเสียงอ๋อย เธอดูเหมือนเรี่ยวหมดแรงเต็มที

ฮะๆๆ ว่าแล้ว เธอต้องถามถึงเรื่องนี้แม็กซ์หัวเราะแล้วลุกมานั่งใกล้ๆเพื่อนสาวที่นั่งกอดเข่าหน้าจ่ฮยอยู่ เขาเปิดกระเป๋าเป้ควานหาของอยู่พักหนึ่งก็หยิบเอาอาหารกระป๋องขึ้นมาสองกระป๋อง พร้อมกับช้อนคันเล็กๆอีกคันหนึ่ง

ว้าว มีจริงๆด้วยๆมารินร้องขึ้นอย่างดีใจ

ฮะๆๆ เวลาจะเดินทางข้ามป่าข้ามเขาน่ะ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ในเป้หลังของเรามันต้องมีทุกอย่าง ที่พอจะประทังชีวิตที่นอกเหนือการคาดหมายได้ซักวันสองวัน อันนี้พื้นฐานของการเดินป่าเลยนะแม็กซ์อธิบายกึ่งสอน

ท่าทางนายจะผ่านอะไรมาเยอะนะ จริงสิ นายเพิ่งจะมาวาคาบะเมื่อ 3 ปีที่แล้วเองนี่นา เมื่อก่อนนายเป็นคนที่ไหนเหรอมารินถามพลางหยิบอาหารกระป๋องขึ้นมาดึงห่วงเปิดฝา

เป็นคนโจโตนี่แหละ แต่อยู่ที่เมืองฟุบุเสะน่ะแม็กซ์ตอบพลางหยิบอาหารกระป๋องของเขาขึ้นมาเปิดฝาเช่นกัน

ว้าวฟุบุเสะเหรอ ที่นั่นมันเมืองแห่งมังกรนี่นา นายเคยเห็นมังกรบ้างมั้ย อย่าง... ไคริว หรือ ฮาคุริวน่ะมารินถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ

คุ้นเคยมากเลยล่ะแม็กซ์ตอบด้วยท่าทีเฉยๆ คำว่ามังกรเป็นอะไรที่เขาได้ยินมากเสียจนเป็นคำธรรมดาๆไปแล้ว

จริงเหรอ น่าอิจฉาจังเลย ฉันนะ อยากได้มินิริวมาเลี้ยงซักตัว มันเป็นความฝันของฉันตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ เห็นเขาว่ามังกรน่ะบินเร็วมากๆเลย ฉันอยากลองขี่มังกรดูเหมือนกันนะ เอ้อแล้วนายเคยเห็นหนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งโปเกมอนลีก วาตารุมั้ย

วา-ตา-รุ เหอะๆๆๆแม็กซ์หัวเราะแห้งๆ ความทรงจำของเขาย้อนนึกกลับไปถึง ชายคนหนึ่งที่วันๆอยู่แต่ในโลกส่วนตัว พูดจาภาษากวีจนยากจะฟังรู้เรื่อง ไม่มีความเท่ห์หรือความน่าชื่นชมอะไรเลยนอกจากฝีมือการฝึกฝนและต่อสู้โดยใช้โปเกมอนมังกร

ทำไมเหรอ หรือว่านายรู้จักเขา

ก็...อะไรแบบนั้นแหละแม็กซ์ตอบพลางกลอกตาไปมาอย่างเซ็งๆ

อะไรกัน นายนี่มันน่าอิจฉาชะมัดเลย ฉันเองก็เคยเห็นเขาในทีวีนะ ตอนที่ถ่านทอดสดการชิงแชมป์โปเกมอนลีกน่ะ เขาเท่ห์มากๆ เลย ตลอดการแข่งขันไม่พูดเลยสักคำ ไม่รู้เหมือนกันว่าสั่งโปเกมอนของเขาได้ยัง แต่มันก็ทำให้เขาดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่มากๆ เห็นว่าเขาอายุแค่ 26 เองนี่ ห่างกับพวกเราไม่กี่ปีเอง ถ้าเป็นไปได้ล่ะ ฉันอยากได้แฟนแบบเขาจังเลย คนอะไรก็ไม่รู้ เท่ห์ที่สุดเลยสีหน้าของมารินแสดงถึงอาการหลงใหลในสิ่งที่เธอพูดถึงอย่างชัดเจน

...เหอะๆๆ ถ้าฉันทำให้ความฝันของผู้หญิงคนนึงต้องพังทลายมันจะบาปมากมั้ยเนี่ย...แม็กซ์คิด ในหัวของเขามีเรื่องที่สามารถจะลบภาพลักษณ์ที่แสนเท่ห์ของวาตารุให้พังลงได้ในพริบตา โดยเฉพาะเรื่องที่พูดจาแต่ภาษากวี จนคนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ

ทั้งคู่พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างสนุกสนาน แม้อาหารมือนี้จะเป็นเพียงอาหารกระป๋องธรรมดา แต่เสียงหัวเราะสุขสันต์มันทำให้กลายเป็นอาหารมือวิเศษมื้อหนึ่ง พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วเสมอ สำหรับพวกเขาทั้งสองเองก็เช่นกัน ความหรรษจบลงเมื่อซูแบทตีปีกพั่บๆ ส่งเสียงร้องเตือนภัย แมกมาราชิที่นอนมาตลอด ก็ลุกขึ้นยืนสี่ขาส่งเสียงขู่อยู่ในลำคอ จิโกริต้าและมาริลเองก็มีปฏิกิริยาเหมือนกัน แม็กซ์วางอาหารกระป๋องลงทันที

มารินเก็บข้าวเก็บของเร็วเข้า

อะไรเหรอ พวกอันโนนอีกรึเปล่ามารินเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน แต่ไม่นานนักคำตอบของเธอก็กระจ่าง เสียงกระซิบกระซาบดังก้องไปทั่วถ้ำชวนให้รู้สึกหลอนๆพิกล

พวกนั้นชื่ออันโนนเองเหรอ แต่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นพวกที่เราจัดการไปแล้วหรอกนะ น่าจะเป็นพวกที่ไล่ตามฉันมามากกว่าแม็กซ์พูดพลางยกเป้ขึ้นสะพายหลังแล้วเรียกซูแบทกลับเข้าบอล

อ้าวแม็กซ์ เรียกซูแบทกลับทำไมล่ะ แบบนั้นเราก็ใช้แผนเดิมไม่ได้สิมารินถามขึ้นเมื่อเห็นแม็กซ์เก็บซูแบทซึ่งเป็นตัวเปิดเกมที่สำคัญกลับเข้าบอล

ก็เพราะมันสำคัญน่ะสิ ถึงต้องเก็บไว้ใช้ในเวลาสำคัญ เธอเองก็เหมือนกันนะ มาริน เก็บลิลลี่เข้าบอลซะ ส่วนจิโกริต้าให้เกาะไหล่เธอไว้

อื้ม

เจส หรี่ไฟลงแล้วขึ้นมาเกาะบนหัวฉันไว้นะแม็กซ์บอกพร้อมกับย่อตัวลง แมกมาราชิดับไฟที่สะโพกลง แล้วกระโดดไต่ขึ้นไปบนหัวแม็กซ์อย่างรวดเร็ว

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมาเรื่อยๆ พวกอันโนนฝูงใหญ่ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

เอาล่ะมาริน พร้อมนะแม็กซ์พูดพร้อมจับมือเธอไว้

วิ่ง!

_________________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 10 ชี้ชะตา

เสียงหอบดังขึ้นเป็นระยะๆ แม็กซ์กับมาริน ยังคงถูกอันโนนไล่ล่าอย่างไม่ลดละ กึ่งวิ่งกึ่งหลบปราณซ่อนเร้นตลอดเวลา

ไหนว่าถ้าใช้ม่านควันของแมกมาราชิบังตาพวกมันแล้วจะรอดแน่ๆไงแม็กซ์ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลยนะมารินบ่นพลางเหลียวหลังมองเหล่าอันโนน

โทษทีฉันคำนวนผิดน่ะแม็กซ์ยอมรับแต่โดยดี พวกเขาเพิ่งให้แมกมาราชิพ่นควันดำบังกลุ่มอันโนนไว้เพื่อวิ่งหนีออกมาตั้งหลักต่อสู้อีกครั้ง ตอนแรกที่ฉันใช้ม่านควันแล้วสำเร็จเพราะมีทางถึง 3 ทางให้เลือกไป นั่นก็คือ วิ่งกลับขึ้นข้างบน วิ่งหนีไปด้านตรงข้าม และวิ่งเข้าใส่พวกอันโนนเอง แต่คราวนี้ มีทางเลือกแค่สองทางคือวิ่งมาด้านตรงข้ามกับวิ่งสวนพวกอันโนนเข้าไป พวกอันโนนมันรู้ว่าถ้าเราไม่ฝ่าพวกมันเข้าไปก็ต้องมาด้านตรงข้ามแน่ มันเลยตามมาทันทีไม่รอให้ควันจางหายไป โทษทีนะ

งั้นก็เอาซูแบทออกมาเปิดฉากเลยสิมารินเสนอ

ไม่ได้หรอก ซูแบทไม่ใช่โปเกมอนที่จะทนการโจมตีของพวกอันโนนได้แบบสบายๆ ตอนนี้พวกมันโจมตีเราอยู่เป็นระยะๆ ไม่ได้ดูเชิงกันอยู่เหมือนคราวที่แล้ว ถ้าเอาออกมาแล้วถูกมันโจมตีสลบก็จบกัน

ทำไมมันลำบาก แบบนี้นะมารินแทบอยากจะร้องไห้ เธอเหนื่อยเสียจนวิ่งต่อไปไหวแล้ว ใบหน้าของเธอซีดขาว เหงื่อแตกเปียกโชก

นั่นไงทางเลี้ยวข้างหน้า แบบนี้ก็ใช้ม่านควันตั้งหลักได้แล้วแม็กซ์ชี้ไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง แสงไฟของแมกมาราชิส่องให้เห็นว่า กำแพงด้านหน้ามีทางเลี้ยวแยกออกไปเป็นสามแยก แม็กซ์รีบคว้ามือมารินเร่งฝีเท้าออกไป

ว้าย! เสียงร้องดังขึ้นด้านหลังแม็กซ์ พร้อมกันนั้นเขารู้สึกว่า เขาดึงมือมารินวิ่งต่อไปไม่ได้ แม็กซ์หันขวับทันที

มารินล้มลงบพื้น เหงื่อแตกเต็มตัว ใบหน้าซีดเผือด เด็กสาวหลับตาแน่น ปากอ้าหอบไม่หยุด เธอคงมาถึงขีดกำจัดของร่างกายแล้ว

มารินอดทนอีกนิดนะแม็กซ์พยายามเข้าไปประคอง แต่การเสียหลังของทั้งคู่ทำให้เหล่าอันโนนเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น พวกมันส่องแสงวาบ

ตูม!!!

ปราณซ่อนเร้นอีกระลอกใหญ่ถูกปล่อยออกมา แรงระเบิดทำให้แม็กซ์ มารินและโปเกมอนของพวกเขากระเด็นกลิ้งไปไกลหลายตลบ พวกเขาห่างออกจากกลุ่มอันโนนมาไกลทีเดียว แม็กซ์ฉวยโอกาสนี้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสเขารีบปล่อยซูแบทออกมา

เซ็ทใช้ซูปเปอร์โซนิคอีกครั้งเร็ว

ซูแบทอ้าปากกว้างปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงออกมา มันยังคงได้ผลเสมอ พวกอันโนนชะงักไป บางตัวเริ่มโซเซตั้งตัวไม่ติด

เอาเลยมาริน ใช้เมล็ดกาฝาก

แย่แล้วแม็กซ์ อาร์บี้เป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้เสียงที่ตื่นตระหนกของมารินดังขึ้นจากด้านหลัง แม็กซ์รีบหันกลับไปดู จิโกริต้านอนหมดสภาพอยู่บนถื้น มารินนั่งอยู่ข้างมีอารมณ์กระวนกระวายพยายามเขย่าตัวจิโกริต้ายกใหญ่ แม็กซ์รีบเข้าไปดูอาการ

แย่ล่ะสิ ท่าทางจะสลบไปแล้ว มารินก่อนหน้านี้จิโกริต้ามีอาการผิดปกติมาก่อนรึเปล่าแม็กซ์ถาม เขาเองก็กระวนกระวายใจไม่แพ้กัน ถ้าจิโกริต้าซึ่งเป็นตัวหลักของแผนหมดสภาพลงแล้ว แผนนี้ก็คงต้องพังทลายลงด้วยเช่นกัน

ไม่มีเลย แข็งแรงดีมาตลอด จนกระทั่ง โดนโจมตีด้วยปราณซ่อนเร้นเมื่อกี้ อาการก็ทรุดหนักผิดกับที่ผ่านๆมา

แม็กซ์รีบหันดูแมกมาราชิของตัวเอง แม้ว่ามันจะโดนปราณซ่อนเร้นเข้าไปเหมือนกัน แต่มันก็ไม่มีท่าทางบาดเจ็บร้ายแรงเลย

...จะว่าแมกมาราชิพัฒนาร่างแล้วเลยมีความอดทนมากกว่าจิโกริต้าก็ไม่ได้ นับถึงเรื่องความอดทนและพลังป้องกันแล้ว จิโกริต้ากับแมกมาราชิถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ความเสียหายไม่น่าจะต่างกันถึงขนาดนี้แม็กซ์คิด

สงสัย คงเป็นเรื่องธาตุของโปเกมอนน่ะเด็กหนุ่มตั้งสมมติฐาน

หมายความว่าไงกันแม็กซ์ ปราณซ่อนเร้น เป็นธาตุอะไรงั้นเหรอ แต่ว่าก่อนหน้านี้จิโกริต้าโดนเข้าไปหลายครั้งก็ไม่เห็นจะได้รับบาดเจ็บขนาดนี้เลยนี่นามารินถามด้วยความแปลกใจ

ไม่แปลกหรอก ธาตุของปราณซ่อนเร้นจะขึ้นอยู่กับตามพลังที่ซ่อนอยู่ในโปเกมอนแต่ละตัว เพราะฉะนั้นปราณซ่อนเร้นจึงเปลี่ยนธาตุไปตามแต่โปเกมอนที่ใช้และคาดเดาธาตุได้ยากหากไม่เคยเจอมาก่อน ที่จิโกริต้าของเธอโดนหนักแต่แมกมาราชิของฉันแทบไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยคงเป็นเพราะปราณซ่อนเร้นเมื่อกี้ เป็นธาตุ ไฟ น้ำแข็ง หรือ แมลง อย่างใดอย่างหนึ่ง

อะไรกัน...มารินพูดเสียงอ๋อย

ดูเหมือนเราจะแย่ซะแล้วล่ะแม็กซ์หันกลับมามองเหล่าอันโนน

ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น อันโนนก็กลับมาทั้งสติได้อีกครั้ง พวกมันเปล่งแสงวาบปล่อยปราณซ่อนเร้นระลอกใหม่ออกมาโจมตีพวกแม็กซ์จนกระเด็นไปอีก แต่คราวนี้แม็กซ์ไม่เสียหลักล้มลงอีกแล้วเขากะจังหวะกระโดดขึ้นตั้งหลักขึ้นได้อย่างพอเหมาะพอดี

มาริน เธอคงวิ่งไม่ไหวแล้วใช่มั้ย

ฉันไหวมารินตอบพลางพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง เธอไม่อยากทำตัวเป็นตัวถ่วงเท่าไร แต่แม็กซ์กลับยกมือห้ามไว้

ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เราไม่มีเวลาแล้ว อาหารและน้ำหมดลงแล้ว ถึงรอดชีวิตจากตรงนี้ไปได้ก็ต้องตายอยู่ดี เธอดูแลตัวเองให้ดีอย่าให้พวกอันโนนมาโจมตีได้ก็พอแล้ว ฉันคงมาปกป้องเธอไม่ได้ซักพัก

หมายความว่ายังไง?

เราคงต้องเสี่ยงแล้วล่ะแม็กซ์ตัดสินใจหยิบบอลของโยกิรัสออกมา

เดี๋ยวสิมารินยื่นบอลลูกหนึ่งเข้ามาขวางหน้าแม็กซ์

ทำไมนายต้องคิดว่าฉันช่วยนายไม่ได้ตลดเวลาเลยนะแม็กซ์

เพราะฉันรู้ฝีมือของเธอไงมาริน อย่าประมาทอันโนนพวกนั้นเด็ดขาดมาริน ฉันไม่คิดว่ามันจะอ่อนแอหรอกนะ แม้ว่าเราจะชนะมันได้ง่ายๆมาแล้วก็เถอะแม็กซ์ค้าน

ทำไมนายไม่เชื่อใจฉันบ้าง! ออกมาลิลลี่

มารินไม่ฟังแม็กซ์อีกต่อไป เธอปล่อยลิลลี่ออกมาทันที

อควาเจ็ท

มาริลพ่นน้ำออกไปใส่ฝูงอันโนน เหล่าตัวอักษรแหวกทางหลีกออก แต่เป้าหมายของมาริลไม่ใช่การยิงน้ำให้โดนแต่แรก มันวิ่งขึ้นไปบนลำน้ำที่พ่นออกไปอย่างรวดเร็วราวกับจรวด พุ่งตรงเข้ากระแทกพวกอันโนนจนแตกฝูง

เห็นมั้ยมารินหันกลับมาพูดกับแม็กซ์อย่างภาคภูมิใจ

ยัยบ้า ประมาทไปแล้วแม็กซ์รีบเข้าไปแย่งบอลของมารินมาเพื่อจะเรียกมาริลกลับ แต่ช้าไปแล้ว พวกอันโนนส่องแสงวาบ ทั้งๆที่มาริลยังอยู่ท่ามกลางฝูงพวกมัน

แย่แล้วลิลลี่มารินร้องเสียงหลง แม็กซ์รีบคว้าเอาตัวของเพื่อนสาวและเหล่าโปเกมอนของเขาหมอบคว่ำลงกับพื้น แม็กซ์ใช้แขนของเขาเองเป็นกำบังไม่ให้หน้าของมารินกระแทกกับพื้น

ปราญซ่อนเร้นระเบิดตูม แรงลมแล่นวูบผ่านแม็กซ์กับมารินไป ทั้งคู่หลับตาแน่น แต่เพราะหมอบอยู่กับพื้นจึงไม่ได้รับแรงแบบเต็มๆ

แรงระเบิดจางลง แม็กซ์ซึ่งนอนคว่ำกดทับตัวมารินไว้รีบยันตัวลุกขึ้นมา

เซ็ท รีบใช้ซุเปอร์โซนิคสกัดพวกอันโนนไว้ก่อนเร็ว

ซูแบทซึ่งรอดจากการโจมตีของอันโนนเพราะแม็กซ์กดเอาตัวไว้เหมือนบินขึ้นปล่อยคลื่นเสียงใส่พวกอันโนนอย่างรวดเร็ว แม้จะมุกเดิมๆ แต่ก็ได้ผลเสมอ

มารินเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้าแล้วเธอก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้า ไม่ใช่ภาพของเหล่าอันโนนที่เสียการทรงตัว แต่เป็นภาพของมาริลที่นอนสลบอยู่ท่ามกลางฝูงอันโนน เพื่อนคู่ใจเธอถูกทำร้ายโดยที่เธอช่วยอะไรไม่ได้เลย เด็กสาวพูดอะไรไม่ได้ออกได้แต่นั่งก้มหน้ากัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น แต่ไม่ใช่โกรธพวกอันโนนที่ทำร้ายเพื่อน แต่โกรธตัวเอง ที่วู่วาม

แม็กซ์หยิบบอลของมาริลขึ้นมา เรียกมันกลับเข้าบอลแล้ววางลงข้างหน้ามาริน

พวกอันโนนมันรู้ทางของพวกเราแล้ว จะสู้กับมันต้องระวังยิ่งขึ้น

มือของเด็กหนุ่มวางลงบนหัวของมารินอย่างอ่อนโยน

ฉันไม่เคยไม่ไว้ใจเธอเลย แต่ตอนนี้ความปลอดภัยขอเธอเป็นสิ่งสำคัญนะ

เด็กสาวเงยขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ตลอดเวลาที่วาคาบะ เธอกับแม็กซ์ไม่เคยพูดกันดีๆมาก่อนเลย แต่เวลานี้กลับเปลี่ยนไปอย่างลิบลับ รวมทั้งความสึกภายในใจ สายตาของเธอเงยขึ้นประสานกับรอยยิ้มของเด็กหนุ่ม เขาพยักหน้าให้เธออย่างอบอุ่น มารินยิ้มตอบ

อื้มเธอพยักหน้ารับการรอยยิ้มนั้น

เอาล่ะต้องเสี่ยงกันหน่อยแล้ว โยกิรัสแม็กซ์โยนบอล ปล่อยโยกิรัสออกมา มันหันหน้าส่งตาขวางเข้าหาเขาโดยไม่สนใจเหล่าพวกอันโนนที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด

โย!มันกระทืบพื้นอย่างแรงจนหินที่ปูพื้นอยู่แตกกระเด็นขึ้นมา โยกิรัสคว้าเศษหินเอาไว้แล้วทำท่าจะคว้างมายังแม็กซ์

พายุทราย

น่าแปลก โยกิรัสที่ดื้อรั้นกลับหยุดชะงักโดยพลันเมื่อแม็กซ์พูดขึ้น มันเหงื่อตกเนื้อตัวสั่นจนหินที่อยู่ในมือร่วงลงพื้น มารินรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดที่แผ่ออกมาจากตัวของเพื่อนชาย สายตาของเขาจ้องมองโยกิรัสอย่างดุดัน ท่าทางสงบนิ่งน่ากลัว น้ำเสียงที่หนักแน่นแผ่ความน่าเกรงขามออกมาอย่างประหลาด

ฉันบอกให้ใช้พายุทรายแม็กซ์ย้ำอีกครั้ง คราวนี้ไม่แค่น่าเกรงขาม แต่เขาน่ากลัวเสียจนมารินยังอดกลืนน้ำลายด้วยความกลัวไม่ได้

โยกิรัสกัดฟันกรอด มันหันหลังหลับไปหาพวกอันโนน ทรายจำนวนมากถูกปล่อยออกมาจากช่องรูปสี่เหลียมข้าวหลามตัดบนตัวมัน ตามด้วยแรงลมที่หนักหน่วง ทรายและสายลมรวมผสมกันเป็นพายุทรายโหมกระหน่ำไปทั่วบิดบังโยกิรัสและเหล่าอันโนนไว้จนไม่สามารถมองเห็นะไรได้นอกทรายสีเหลืองๆ ที่พัดกระหน่ำ

แม็กก้าวย่างเข้าไปในพายุทรายด้วยท่าทีที่น่าเกรงขาม บอลเก่าๆที่ติดตัวเขาถูกปลดออกมาแล้ว

มารินจ้องมองตามหลังของเพื่อนชายเข้าไปในพายุทรายด้วยความทึ่งและชื่นชมเล็กๆ เพียงคำพูดและสายตาก็สามารถสะกดโยกิรัสที่ดื้อรั้นได้อย่างอยู่หมัด ข้างตัวเธอยังมีแมกมาราชิและซูแบทคอยเคียงข้างทำให้เธอไม่รู้สึกว่าโดนทอดทิ้ง

เสียงระเบิดตูมดังมาจากข้างในพายุคล้ายเสียงระเบิดที่เกิดจากปราณซ่อนเร้นของพวกอันโนน แต่ดังและทรงอานุภาพกว่ากันโข ขนาดว่าเสียงพายุทรายที่พักโหมยังไม่อาจกลบเสียงและแรงอัดจากการโจมตีนั้นได้

...ข้างในนั่น เป็นยังไงบ้างนะ

พายุทรายสงบลงแล้ว เม็ดทรายค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้น มารินแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองดลย อันโนนฝูงใหญ่นอนกองทับๆกันอยู่เป็นกองพะเนินโดยมีโยกิรัสยืนหอบอยู่ด้านบน โปเกมอนลูกเก่าในมือของแม็กซ์ปิดลงพอดี มารินไม่ทันมองว่าที่เพิ่งกลับเข้าบอลไปนั้นคือตัวอะไรกันแน่ ความน่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขามหายไปจากดวงตาของแม็กซ์ เขากลับมาเป็นคนเดิม

แม็กซ์...สุดยอดเลยมารินพูดชมด้วยความทึ่ง นายทำได้ยังไง เมื่อกี้มันเป็นอะไรกัน

อ้อ ฉันยังไม่ได้บอกเธอใช่มั้ยว่าฉันเคยฝึกการเป็นเทรนเนอร์อยู่ในถ้ำมังกรของฟุบุเสะมาตั้งแต่เริ่มจำความได้เลยล่ะ เลยมีความถนัดในการใช้โปเกมอนที่มีอยู่ที่นั่นหลายๆตัวน่ะ โยกิรัสก็เป็นหนึ่งในนั้นน่ะนะแม็กซ์ตอบพลางเก็บโยกิรัสเข้าบอล ก่อนที่มันจะอาละวาดออกมาอีก พร้อมกับเก็บซูแบทด้วยเพื่อให้มันพักผ่อน เหลือแต่แมกมาราชิไว้เป็นแสงสว่าง

ไม่ใช่ๆ ตอนที่นายสั่งโยกิรัสน่ะ นายทำอะไรน่ะ ตอนนั้นนายน่ากลัวมากๆเลย

อ๋อ เมื่อกี้เป็นหนึ่งในเทคนิคการควบคุมโปเกมอนที่ไม่เชื่องให้อยู่ใต้คำสั่งชั่วคราว เรียกว่าเทคนิค บัญชาสวรรค์ เป็นการใช้จิตใจที่เข้มแข็งกว่ากดดันโปเกมอนให้เกรงกลัวน่ะ ความสามารถในการข่มโปเกมอนของเทรนเนอร์แต่ละคนจะแตกต่างกันไป สำหรับฉันยังอยู่ในขั้นฝึกหัด สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างก็ขึ้นกับดวงน่ะ เลยไม่เอามาใช้แต่แรก ยิ่งเป็นโปเกมอนที่แข็งแกร่งมากๆอย่าง ไคริวหรือบันกิราสล่ะก็ หมดสิทธิ์แม็กซ์ตอบ

สุดยอดเลย...ฉันไม่เห็นรู้เลยว่ามีของแบบนี้อยู่ด้วย

ฮะๆๆ ไม่แปลกหรอก สำหรับโปเกมอนที่จับมาได้หรือแลกเปลี่ยนมา ถึงจะไม่เชื่องแต่ก็ยังฝึกฝนกันได้ในระยะเวลาสั้นๆ เทคนิคนี้เลยไม่มีใครคิดค้นมาขึ้นใช้สำหรับเทรนเนอร์ทั่วไป แต่การเข้าไปอยู่ในถ้ำมังกรซึ่งมีแต่โปเกมอนมังกรที่มีฐิติมานะและความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีของตัวเองสูงน่ะ จำเป็นต้องมีเทคนิคในการควบคุมบ้าง ไม่งั้นก็อยู่ไม่ได้หรอก

แล้วทำไมนายไม่ใช้เทคนิคนี้กับพวกอันโนนแต่แรกล่ะมารินถามต่อ

ใช้กับพวกอันโนนไปก็เท่านั้นแหละ พวกอันโนนพวกนี้...ฉันว่ามันมีอายุมากกว่าร้อยปีแน่ๆ โปเกมอนที่อายุขนาดนั้นน่ะ มีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าฉันเยอะ พวกมันไม่กลัวฉันหรอก เราอย่าชักช้าอยู่เลย รีบไปเถอะแม็กซ์ตอบพร้อมกับชวนออกเดินทางต่อ มารินรับคำพร้อมกับเก้บจิโกริต้ากลับเข้าบอลแล้วลุกขึ้นเดินตามแม็กซ์ไป

พวกเขาหันหน้าเดินไปตามทางเส้นเดิมที่เดินไว้แต่แรก โดยไม่สนใจทางเลี้ยวที่แยกออกไป ยังไม่ทันที่แม็กซ์จะก้าวไปได้ครบสิบก้าว พวกอันโนนที่เพิ่งโดนจัดการหมอบไปเมื่อครู่ก็พุ่งฉิวเข้ามาเรียงตัวกันเป็นกำแพงขวางทางไว้ สภาพของพวกมันแต่ละตัวนั้นแค่ทรงตัวให้ลอยอยู่ยังไม่ไหวแล้ว แต่พวกมันก็พยายามตั้งเป็นกำแพงขวางพวกแม็กซ์ไว้ด้วยแรงเฮือกสุดท้าย พวกมันส่งเสียงกระซิบกระซาบไม่หยุดหย่อน

อะไรกัน จะดื้อด้านอะไรขนาดนี้ เจส กงล้อเพลิง (Flame Wheel)แม็กซ์สั่งอย่างขัดใจ

แมกมาราชิเร่งไฟทั้งบนหัวและสะโพกจนลุกท่วมตัว พร้อมกับม้วนตัวกลิ้งเข้าไปกระแทกใส่เหล่าอันโนนอย่างรุนแรง กำแพงอันโนนแตกกระจายออกทันที พวกอันโนนร่วงกราวลงกองกับพื้น

อโหสิเถอะ พวกเราก็ต้องรอดชีวิตไปเหมือนกันแม็กซ์พูดพลางเหลือบมองเหล่าอันโนนที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น

ไปกันต่อเถอะมาริน

แม็กซ์ ฉันว่ามันแปลกๆนะมารินสงสัย เธอกวาดสายตามองไปยังอันโนนที่กระจายอยู่รอบๆตัว พวกมันแต่ละตัวล้วนอาการสาหัส แต่ยังพยายามที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้งจนร่างกายสั่นสะท้าน เสียงกระซิบกระซาบยังดังไม่ขาดสาย แม็กซ์มองพวกมันบ้าง พวกมันพยายามลอยขึ้นมาให้ได้ บางตัวก็ลอยขึ้นมาได้แล้วก็ร่วงลงอีก อันโนนตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆแม็กซ์ พยายามใช้ส่วนที่ยื่นออกมาจากดวงตาอันใหญ่โตของมันเกี่ยวกับขาแม็กซ์ไว้ แต่แมกมาราชิก็พุ่งเข้ามาตวัดกรงเล็บตบมันออกไป

ความพยายามของพวกมันทำให้มารินรู้สึกสงสารจับใจ สิ่งที่พวกมันกระทำเกินกว่าสัญชาตญาณของโปเกมอนป่าที่ต้องการแต่จะป้องกันตัวเองจากผู้บุกรุก

ฉันอยากรู้จัง ว่าพวกมันทำอย่างนี้ทำไมมารินพูดขึ้นอย่างเห้นใจพวกอันโนน เธอก้มลงลูบบนตัวอันโนนตัวหนึ่งด้วยความเวทนา

ทางใครทางมัน พวกมันมีทางของพวกมัน แต่พวกเราก็มีทางของพวกเรา พวกเราก็แค่ทำสิ่งที่พวกเราต้องทำเท่านั้น ไม่ว่าสิ่งที่พวกมันพยายามทำจะสำคัญแค่ไหน แต่สิ่งที่เราจะทำก็สำคัญไม่แพ้กัน ตอนนี้พวกเราคือความหวังของสมาคมโปเกมอน ถ้าพวกเรามาจบชีวิตลงตรงนี้ ความหวังนั้นก็ต้องกลายเป็นแค่ความหวัง ไปเถอะมาริน เราต้องรีบ

พูดจบแม็กซ์ก็เดินต่อออกไป อันโนนกลุ่มหนึ่งฝืนตัวเองพรุ่งเข้ามาเกาะขาของแม็กซ์ไว้ แต่ก็โดนแมกมาราชิตบกระจายออกไปเหมือนเดิม

เหมือนพวกมันไม่ต้องการจะให้เราไปทางนั้นเลย แม็กซ์เราลองไปทางอื่นดูก็ได้นะมารินเสนอ เด็กสาวรู้สึกสงสารพวกอันโนนเหล่านี้เหลือเกิน พวกมันกำลังพยายาม แต่ความพยามนั้นไร้ผลอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งพวกมันไม่อยากให้เราไปยิ่งน่าสงสัย นั่นอาจจะเป็นทางออกก็ได้ ถ้าเธอไม่อยากไปก็เรื่องของเธอ คราวนี้ฉันก็จะไม่สนใจคำขอร้องอีกแล้วนะแม็กซ์พูดพร้อมเดินต่อไป เขาพูดจริง แม็กซ์ไม่เหลียวหลังกลับมาอีกเลย

มารินได้แต่มองเหล่าอันโนนพวกนั้นด้วยความสงสาร แต่เธอจะทำอะไรได้เล่า เธอเองก็ไม่อยากตายอยู่ที่นี่เหมือนกัน ในที่สุดมารินก็ออกวิ่งตามไปให้ทันแม็กซ์ข้ามพวกอันโนนไป

ทั้งสองยังคงใช้แสงสว่างจากแมกมาราชิต่างตะเกียง ทางเดินเงียบสงบมีแต่เสียงรองเท้าของพวกเขาเท่านั้น เสียงรองเท้าที่สะท้อนก้องไปมาทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม บรรยกาศน่าขนลุก มารินพยายามเร่งฝีเท้าให้ทันแม็กซ์ที่ก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยความกลัวหูของมารินอุปทานไปว่าได้ยินเสียงของอะไรบ้างอย่างจากด้านหลัง มารินรีบหันขวับ ด้านหลังมีแต่ความมืดมองไม่เห็นอะไรเลย มารินขนลุกซู่ เธอรีบเร่งฝีเท้าโดยไม่ทันมองข้างหน้าเลยชนเข้ากับเป้ของแม็กซ์เข้าอย่างจัง

อูย~แม็กซ์หยุดทำไมน่ะ

มารินดูนั่นสิ เด็กหนุ่มตอบพร้อมชี้ไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองเธอ ราวกับว่าสายตาของเขาโดนสะกดไว้ด้วยอะไรบางอย่าง เมื่อมารินชะโงกหน้ามองข้ามไหล่แม็กซ์ไปก็พบกับสิ่งที่สะกดสายตาของแม็กซ์ไว้

ข้างหน้าทั้งสองยังปรากฏแสงสว่างสีทองแกมส้ม ส่งลงมาจากช่องด้านบน แสงสีทองแกมส้มนั้นส่องลงมายัง รูปปั้นทองคำของนกยักษ์ตัวหนึ่ง บนแท่นสูง รูปปั้นของนกยักษ์นั้นมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร อยู่ในลักษณะกำลังสยายปีกออก และแหงนหน้าขึ้นไปยังช่องที่แสงส่องลงมา ประกายของทองคำแท้สะท้อนแสงออกมาสว่างไสว รูปปั้นถูกแกะสลักอย่างละเอียดยิบกระทั้งรายละเอียดของขนที่สวยงามทุกเส้น ขนปีกเรียงตัวโค้งไปตามรูปปีกอย่างเป็นระเบียบ ที่ปลายปีกมีขนเส้นยาวสยายออกไปอยู่น่าเกรงขาม บนหัวมีหงอโค้งสวย หางของมันบานออกเหมือนพัด

เบื้องหน้าของรูปปั้นทองคำ มีโครงกระดูกของมนุษย์ผู้หนึ่ง อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ รอบๆแท่นของรูปปั้นทองคำนั้นห้อมล้อมไปด้วย โครงกระดูกสีขาวโพลนของสิ่งมีชีวิตประหลาดบางอย่างที่เหมือนจะเป็นโปเกมอนมากกว่าคน พวกมันยืนสองขา หันหน้าออกมาจากรูปปั้น ทุกตัวมีมือเป็นเคียวโค้งยาว และทั้งท่าพร้อมต่อสู้ แม้พวกกายเนื้อของพวกมันจะสลายหายไปจนเหลือแค่โครงกระดูกแต่พวกมันยังคงยืนอยู่ได้และไม่ผุสลายไปตามการเวลาราวกับถูกปกป้องไว้ด้ยพลังที่ลึกลับ

ว้าว...สุดยอดเลย ในที่แบบนี้มีของแบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ยมารินพูดออกมาเหมือนไม่รู้สึกตัว ดวงตาของเธอจ้องอยู่กับรูปปั้นเหมือนโดนสะกด

นั่นน่ะสิ ฉันเองยังมีเคยเห็นอะไรแบบนี้เลยแม็กซ์เองก็มีอาการไม่ต่างกับมาริน เจส ใช้วงแหวนไฟล้อมรอบให้ทั่วห้องนี้เลยนะ เขาให้สว่างทั้งห้องเลย

แมกมาราชิพยักหน้ารับ มันแร่งไฟขึ้นแล้วสะบัดให้กระจายออกไปทั่ว ดวงไฟดวงเล็กๆ กระจายออกไปลอยวนอยู่ทั่วห้อง แม้เป็นเพียงดวงไฟเล็กๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วก็ให้แสงสว่างได้มาก ทั้งห้องสว่างขึ้นมาทันที เมื่อได้เห็นสภาพของห้องทั้งหมด แม็กซ์กับมารินก็ยิ่งตกตะลึงในความยิ่งใหญ่ที่ได้เห็น

ทั้งคู่อยู่ในห้องกว้างใหญ่ประมาณสนามฟุตบอล มีรูปปั้นนกทองคำตั้งเด่นเป็นสง่า ความใหญ่โตของห้องไม่ให้ทำให้นกทองคำดูเล็กลงเลยแม้แต่น้อย รอบๆแท่นของนกทองคำมีสระน้ำกว้างใหญ่ล้อมรอบ มีสะพานหินเชื่อมจากทางเดินรอบๆ ไปยังรูปปั้นทองคำสี่ทาง ตลอดสองข้างทางของสะพานทั้งสี่ มีโครงกระดูกแบบเดียวกันกับที่รอบๆแท่นรูปปั้นยืนเรียงรายอยู่สองข้างทาง บนสระน้ำก็มีเสาขนาดย่อมยื่นโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำมากมาย บนยอดเสานั้นมีเปลือกหอยขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ลักษณะเป็นหอยฝาเดียวขดเป็นวงกลม บนขอบเปลือกหอยมีหนามแหลมยื่นออกมาเรียงกันเป็นแถว

กำแพงรอบๆห้องเป็นผนังหิน สลับกับเสาขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ในตัวผนังครึ่งหนึ่ง เสานั้นสูงตระหง่านไปจนถึงเพดานที่สูงลิ่ว บนเสาแต่ละต้นมีรูปแกะสลักแบบลอยตัวเป็นรูปคบเพลิงอยู่ และบนผนังระหว่างเสาแต่ละต้นก็มีอักษรโบราณคล้ายพวกอันโนนสลักอยู่เต็มทุกๆช่อง

ดูรูปปั้นนั้นสิ สวยงามและดูน่าเกรงขามมากเลย ฉันไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามและยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้ ที่นี่คงเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญมากเลยสินะมารินพูดขึ้นมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

โปเกมอนโบราณพวกนี้ คงปกป้องที่นี่มาตลอดเลยสินะ ชักรู้สึกผิดนิดๆแฮะที่ลงมือกับพวกอันโนนไปขนาดนั้นแม็กซ์พูดพลางพิจารณามองโครงกระดูกของโปเกมอนตัวหนึ่งใกล้ๆเขา เมื่อได้มองเหล่ากระดูกที่ยืนหยัดข้ามกาลเวลาพวกนี้แล้ว ก็อดขนลุกไม่ได้ ไม่ใช่เพราะความกลัว หากแต่เป็นความประทับใจที่ยากจะเปรียบ

แหม สำนึกผิดเป็นด้วยเหรอยะมารินค้อนพร้อมเหน็บแนม

แต่ถ้าฉันฟังคำพูดไร้สาระของเธอ เราคงไม่ได้มาเจอทางออกแม็กซ์พูดหน้าตาย แต่คำพูดนั้นตอกกลับเข้าไปแทงใจดำมารินดังฉึก

เชอะ! คนเราก็ผิดพลาดกันได้บ้างล่ะน่ามารินสะบัดหน้างอน

ฮะๆๆๆ ช่างเถอะๆ ยังไงก็รอดมาได้แล้ว มารินเอาโปเกเกียร์ของเธอมาหน่อย

เอาไปทำอะไรเหรอ?มารินถอดให้อย่างงงๆ

ก็จะเอาให้ซูแบทเอาไปให้พวกนักวิจัยน่ะสิ ให้พวกนักวิจัยใช้โปเกเกียร์ของเธอโทรเข้ามาหาโปเกเกียร์ของฉัน จะได้ติดต่อพวกนักวิจัยให้มาช่วยพวกเราได้ไงล่ะแม็กซ์ตอบพลางกดปุ่มหลายปุ่มบนโปเกเกียร์ มารินดูท่าทางไม่ค่อยพอใจในคำตอบสักเท่าไร เด็กสาวพูดออกมาอย่างเคืองๆ

แล้วทำไมต้องเอาของฉันด้วยล่ะ จะของใครก็เหมือนกันนี่

ก็ตอนที่โปเกมอนถูกโขมยน่ะ เธอใช้โปเกเกียร์ของฉันโทรเข้ามาหาของเธอที่ฉันเอาไป แล้วโปเกียร์ของเธอมันก็ขึ้นเป็นชื่อฉันขึ้นมา ไม่ได้ขึ้นเป็นเบอร์เปล่าๆ แปลว่าเธอน่ะมีเบอร์ฉัน แต่ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยบันทึกเบอร์ของเธอลงไปในโปเกียร์ของฉันเลย เพราะฉะนั้น ต้องให้พวกนักวิจัยโทรจากของเธอเข้ามายังของฉันยังไงล่ะ

อ๋อ

แม็กซ์จัดการเรียกซูแบทออกมา เอาโปเกเกียร์ให้มันคาดเอาไว้ กระซิบสั่งสองสามคำแล้วก็ปล่อยมันให้บินขึ้นไปทางช่องด้านบน

เดี๋ยวสิแม็กซ์ แล้วพวกนักวิจัยจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า ต้องโทรมาหาใครยังไงน่ะมารินท้วงขึ้น

รู้สิ ก็ฉันเขียนข้อความไว้บนโปเกเกียร์ของเธอแล้ว แล้วก็ไม่ต้องสงสัยถามอะไรแล้วนะ ที่เหลือก็แค่รอพวกนักวิจัยมารับ ไปพักผ่อนเถอะแม็กซ์บอกพลาง ทิ้งตัวนั่งลงข้างกำแพงอย่างเหนื่อยล้า มารินเองก็เช่นกัน เธอทั้งตัวลงนั่งลงที่กำแพงในจุดใกล้ๆกับแม็กซ์ เธอหลับตาลงอย่างหมดแรง วันนี้นับเป็นวันที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตของเธอจริงๆ มารินพยายามเรียกหาความทรงจำดีๆ และมีแต่รอยยิ้มเพื่อกลบความเหนื่อยล้า และแล้วเธอก็ลืมตาโพลงพร้อมดีดตัวขึ้นมา

แม็กซ์ แย่แล้วล่ะ

อะไรแม็กซ์ตอบอย่างเหนื่อยๆ

คือตอนที่เราเจอกันที่คิเคียวซิตี้ นายจำได้มั้ยว่าฉันอยู่กับเพื่อนฉันอีกคนนึง

ใช่...แล้วไง

คือว่าเธอคนนั้นก็ตกลงมาที่นี่กับฉันด้วยน่ะสิ ระหว่างทางเจอแต่เรื่องตลอดก็เลยลืมไปเลย ทำไงดีล่ะแม็กซ์มารินพูดอย่างลนลาน

ว่าไงนะ!?แม็กซ์ร้องอุทาน

ทำไงดีล่ะๆๆๆๆมารินลนลานใหญ่

เป็นเรื่องอีกแล้วสิ แต่เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว เราไม่รู้เส้นทางในถ้ำนั้นนี่ ถ้ากลับเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าก็ต้องหลงทางแน่ๆ ก็คงต้องรอให้พวกนักวิจัยมาแล้วขอให้พวกนั้นช่วยกันหา

โอ้ย~ แย่จังเลย ป่านนี้มิโดริจังจะเป็นไงมั่งแล้วเนี่ยมารินโอดครวญ

อย่ากังวลเลยน่า มันไม่ช่วยอะไรหรอก อ้ะนี่ไง พวกนักวิจัยติดต่อกลับมาแล้ว

แม็กซ์หยิบโปเกเกียร์ขึ้นมาแล้วรีบรับสาย

ครับ นั่นนักวิจัยของโบราณสถานอัลฟ์รึเปล่าครับ

ครับ นี่เจ้าหน้าที่สถานีวิจัย เราได้รับข้อความขอความช่วยเหลือและกำลังจะจัดทีมสำรวจออกติดตามซูแบทของคุณไป กรุณารอสักครู่นะครับ

แม็กซ์ยังไม่ทันตอบรับอะไร เสียงของเด็กสาวเสียงหนึ่งก็ดังแทรกเข้ามา

ฮัลโหลๆ มารินอยู่ที่นั่นรึเปล่า ฮัลโหล ได้ยินแล้วตอบฉันหน่อยสิมาริน ฉันมิโดริเองนะ

มิโดริจัง!มารินโพล่งขึ้นทันที

______________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 11 คำเตือน

แม็กซ์และมาริน ได้รับการช่วยเหลือหลังจากที่ติดต่อไปยังศูนย์วิจัยประจำโบราณสถานอัลฟ์ เหตุการณ์ทั้งหมดจบลงด้วยดี

มารินมิโดริ โผเข้ากอดมารินด้วยความเป็นห่วงทันทีที่คณะสำรวจโบราณสถานพาแม็กซ์และมาริน

กลับมายังค่ายวิจัย ดีใจที่สุดเลย พวกนักวิจัยกำลังจะไปตามหาเธอพอดี

ขอบใจที่มีห่วงนะมิโดริจัง แต่ว่าเธอออกมาที่ได้ยังไงเหรอ?มารินถามอย่างสงสัย เธอจำได้ดีว่ามิโดริตกลงไปก่อนเธอเสียอีก

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอฟื้นก็มาก็มาอยู่ที่ค่ายวิจัยนี่แล้ว ถามพวกนักวิจัย เขาก็บอกว่า ฉันลอยมากับลำน้ำใต้ดิน ที่พวกเขาใช้เป็นแหล่งน้ำในการอยู่ที่นี่น่ะมิโดริอธิบาย

คงเป็นเพราะ เธอตกลงไปบนทางลาดพอดีล่ะมั้ง เพราะจุดที่พวกเธอตกลงไป ใกล้กับทางลาดลงไปแม่น้ำนิดเดียวเองแม็กซ์แทรกขึ้น เขากำลังนั่งพักอยู่บนเก้าอี้สนามตัวหนึ่งหน้าเต็นท์วิจัย

มาริน นี่ใครเหรอ รู้สึกเคยเจอกันที่คิเคียวซิตี้ครั้งนึงแล้วนี่นามิโดริถามพร้อมกับชี้มาทางแม็กซ์

อ๋อ นี่แม็กซ์ เพื่อนของฉันที่วาคาบะทาวน์น่ะมารินแนะนำ

สวัสดีจ้าแม็กซ์มิโดริทักทายอย่างร่าเริง แต่แม็กซ์เพียงแค่ส่งเสียง ฮือ แล้วยกมือขึ้นรับการทักทายอย่างอ่อนแรง ใช่ว่าเด็กหนุ่มอยากจะทำตัวไร้มนุษย์สัมพันธ์ แต่เขาเหนื่อยและอยากจะนอนเต็มทีแล้ว

แม็กซ์อะไรกัน อย่าทำตัวไม่มีมนุษยสัมพันธ์แบบนั้นจะได้มั้ยมารินดุ

อย่าบ่นจะได้มั้ย ฉันไม่ได้นั่งพักสบายๆ ดูคนอื่นสู้กับอันโนนแทบเป็นแทบตายซะหน่อยแม็กซ์เหน็บแนม จนมารินหน้าแดง

เชอะ! ฉันไม่ได้เป็นพวกรักความรุนแรงนี่นามารินแถไปดื้อๆ

ฮิฮิฮิ พวกเธอเนี่ย ดูสนิทกันดีจังนะมิโดริอดขำไม่ได้ แล้วพวกเธอไปเจอกันในถ้ำนั่นได้ยังไงเหรอ

เขา...มารินหยุดพูดนิดนึง เมื่อเห็นมิโดริจ้องหน้าจะเอาคำตอบจึงรีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว เขาหลงทางมาเจอฉันน่ะ

ให้มันได้งี้สิทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆเด็กหนุ่มตัดพ้อ

ไม่ต้องมาพูดเลยนะ! ถ้าลิลลี่ไม่ไปขอร้องมีเหรอนายจะลงไปในถ้ำนั่นได้ มานี่ เรายังไม่ได้ขอบคุณ พวกนักวิจัยเลยมารินรีบฉวยแขนแม็กซ์แล้วฉุดลากเข้าไปหากลุ่มนักสำรวจที่กำลังเปิดก๊อกน้ำเล็กๆบนพื้น ล้างเนื้อล้างตัวเตรียมกลับเข้าไปในเต็นท์การวิจัยอีกครั้งหนึ่ง

ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะคะที่มาช่วยพวกเรามารินก้มห้มหัวขอบคุณพร้อมกับกดหัวแม็กซ์ลงมาด้วย

ขอบคุณคร้าบแม็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

พูดให้มันเต็มใจหน่อยได้มั้ย!มารินเอ็ด

ฮะๆๆๆ ไม่เป็นไร พวกเราต้องขอบคุณพวกเธอเหมือนกันนะนักวิจัยคนหนึ่งตอบด้วยท่าทีที่ดูเกรงใจทั้งสองคน

ขอบคุณพวกเรา...เรื่องอะไรเหรอคะ

ก็เรื่องที่พวกเธอไปเจอห้องใต้ดินนั่นยังไงล่ะ นั่นน่ะคือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่เลยนะ ในนั้นมีรูปปั้นทองของโฮโอ พร้อมกับฟอสซิลโบราณเยอะมากๆเลย แถมยังมีบันทึกประวัติศาสตร์ของอันโนนอยู่เต็มไปหมด ฉันลองอ่านคร่าวๆ แล้วรู้สึกว่าโฮโอจะเคยใช้ชีวิตร่วมกับชนดั้งเดิมของที่นี่ด้วย เป็นการค้นพบที่เยี่ยมยอดมากเลยล่ะนักวิจัยพูดด้วยน้ำเสียงดีใจแกมตื่นเต้น เหมือนว่าเขาแทบจะรอไม่ไหวแล้วสำหรับการสำรวจที่นั่นอย่างละเอียดที่สุด

ใช่แล้วล่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนนะ คืนนี้พวกเธอนอนค้างที่นี่ได้เลยนะ เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงพวกเรามีเยอะแยะเลยล่ะนักวิจัยอีกคนหนึ่งเสริม เขามีท่าทีดีใจไม่แพ้กัน

จริงเหรอคะมารินร้องขึ้นอย่างดีใจ ดีจังเลยเนาะ แม็กซ์

แต่ดูเหมือนแม็กซ์ไม่ได้มีท่าทีดีใจไปกับมารินเลย เขาออกท่าทางลำบากใจมากกว่า แม็กซ์ยังไม่ลืมคำพูดจากโปเกเกียร์นั้น

...หัวหน้าจะรออยู่ที่โบราณสถานอัลฟ์...

แม็กซ์ เป็นอะไรน่ะมารินถามขึ้นเมื่อเห็นแม็กซ์นิ่งไป

เปล่า ไปเตรียมที่พักกับอาหารกันเถอะแม็กซ์บอกปัดไป มารินรู้สึกผิดสังเกตแต่ก็ตัดสินใจไม่คิดมากอะไร

ที่พักของแม็กซ์และมารินเป็นเต็นท์สองเต็นท์ที่แยกออกมาจากที่พักของพวกนักวิจัย แม็กซ์นอนคนเดียว ส่วนมารินกับมิโดรินอนด้วยกัน เนื่องจากทั้งสามตั้งเต็นท์แยกออกมาจากคณะวิจัย หลังเวลาอาหารทั้งสามจึงมานั่งคุยกันหน้าเต็นท์ก่อนนอน เรื่องที่คุยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล่าที่แม็กซ์และมารินพบเจอในโบราณสถานใต้ดิน

แม็กซ์นี่เก่งจังเลยเนาะ มิโดริ อดชมไม่ได้เมื่อ ได้ฟังวีรกรรมของเขา ปาจิริสุตัวหนึ่งวิ่งกระโดดไปรอบๆแม็กซ์พลางโกยเศษหญ้าเศษใบไม้ขึ้นยกย่องเด็กหนุ่ม มันคือปาจิริสุของมิโดริที่มิโดริเรียกว่า จิจัง

ก็ ยังไม่ขนาดนั้นหรอก คนเก่งกว่าฉันยังมีอีกเยอะเลยนะแม็กซ์ถ่อมตัว จริงสิ เธอเป็นคนเขตโฮเอ็นเหรอ

ใช่แล้วล่ะมิโดริตอบ

เขตโฮเอ็นเหรอ เคยแค่ผ่านๆ ไปนะ แต่ฉันเคยไปแช่น้ำร้อนที่ฟูเอ็นด้วยล่ะ เยี่ยมมากเลย

ว้าว น่าอิจฉาจัง ฉันเป็นคนโฮเอ็นแท้ๆ ยังไม่เคยไปถึงฟูเอ็นเลย ความจริงก็มีแผนการจะไปนะ แต่มาที่โจโตนี่ซะก่อน

แล้วมิโดริมาที่โจโตนี่ทำไมล่ะ?

ฉันอยากไปที่ป่าอุบาเมะน่ะ เห็นว่าที่นั่นมีโปเกมอนในตำนานอยู่

เพราะฉะนั้นมิโดริจังจะเดินทางไปกับเราด้วยจนกว่าจะถึงเมืองฮิวาดะมารินสรุปแทรกขึ้นมา

พวกเรา? นี่อย่าพูดเองเออเองสิมาริน เราไม่ได้มาเที่ยวเล่นนะ จะได้ไปไหนมาไหนตามใจชอบน่ะแม็กซ์ค้าน

เสียใจย่ะ นายดูนี่ซะก่อนมารินพูดพร้อมกับยกโปเกเกียร์ของเธอขึ้นมา บนหน้าจอของโปเกียร์มีรายชื่อสถานที่โบราณต่างๆอยู่

ตอนนี้สถานที่ใกล้ที่สุดของเราก็คือ บ่อน้ำยาดอน ที่ฮิวาดะทาวน์ ยังไงๆ เราก็ต้องไปฮิวาดะทาวน์กันอยู่แล้ว นายคงไม่ใจดำพาเด็กคนนึงไปด้วยไม่ได้หรอกนะ

งั้นก็ได้ ไปก็ไปแม็กซ์ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงด้วย

เอ่อ... พวกเธอมีธุระอะไรกันรึเปล่า ถ้ามีก็ไม่เป็นไรหรอกนะมิโดริแทรกขึ้นมาด้วยท่าทีค่อนข้างเกรงใจ

ไม่มีอะไรหรอกจ้า มิโดริจัง อีตานี่มันใจดำแบบนี้แหละมารินหันมาปลอบมิโดริพร้อมกับเหน็บแนมเพื่อนชายไปในที

เอ้อแม็กซ์ ฉันเพิ่งสังเกตแน่ะ ปกตินายจะใส่แจ็กเก็ตสีแดงตัวนั้นตลอดเลยไม่ใช่เหรอ แล้วมันหายไปไหนซะแล้วล่ะ รู้สึกว่าจะไม่เห็นตั้งแต่ในถ้ำแล้วนะ

เฮอะๆแม็กซ์ทำหน้าแหยหัวเราะแห้งๆ ก็ฉันเอามันพาดบ่าไว้ตอนวิ่งหนีพวกอันโนน แล้วก็มีใครก็ไม่รู้พุ่งเข้ามากระแทกฉันหล่นน้ำรอบสอง ทีนี้เสื้อตัวนั้นก็หลุดมือหายไปเลย

เอ๋~ ใครกันทำเรื่องแบบนั้นได้มารินแกล้งตีหน้าซื่อ

นั่นน่ะสิ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้แน่ๆคือตัวหนักเป็นบ้าเลยแม็กซ์กลอกตาทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนกัน

มารินชะงักกึก เธอถึงกับหัวเราะไม่ออก

เอาล่ะ ฉันไปนอนก่อนนะ เหนื่อยมากแล้ว พวกเธอก็เหมือนกัน อย่านอนดึกกันมากล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะออกเดินทางตั้งแต่ก่อนตะวันขึ้น ถ้าพวกเธอลุกไม่ไหวฉันไม่รอหรอกนะแม็กซ์บอกพร้อมกับลุกขึ้นหันหลังกลับเข้าเต็นท์

อะไรกันแม็กซ์ทำไมต้องรีบขนาดนั้นมารินท้วง

เอาน่ะ แล้วจะบอกทีหลัง

__________________-

ท่ามกลางความมืดแห่งยามราตรี กลุ่มก้อนหินแห่งโบราณสถานอัลฟ์ ช่างดูคลับคล้ายคลับคลากับสิ่งมีชีวิตประหลาดขนาดยักษ์ที่กำลังนอนหมอบ เฝ้ารอคอยเหยื่ออย่างใจเย็น สายลมเย็นเฉียบพัดหวิว ท่ามกลางกองหินแห่งนั้นชายคนหนึ่งกำลังยืนแหงนหน้ารับลมอย่างสบายอารมณ์ เขาเงยหน้าชมจันทร์ที่ส่องแสงสีเหลืองนวลอยู่เหนือหัว ความมืดมิดยามรัตติกาลทำให้ไม่เห็นใบหน้าของชายผู้นั้น

ไม่ได้ออกมายืนรับลมใต้แสงจันทร์อย่างสงบๆ แบบนี้...นานเท่าไรแล้วนะเขารำพันกับตัวเอง พลันหูของเขาสัมผัสได้กับเสียงของอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ยังนิ่งเฉย ราวกับว่าเขารู้ดีว่ามันคืออะไร

สวัสดียามดึกครับ ป๊ะป๋า~เสียงของชายหนุ่มทักขึ้นอย่างอารมณ์ดี ผู้มาใหม่ไม่ได้มาคนเดียว หากแต่มีเงาของคนอีกคนมากับเขาด้วย ทั้งสองไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแต่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของโบราณสถาน

มาไม่ครบนี่ผู้ถูกเรียกว่าป๊ะป๋าตั้งข้อสังเกต ใครเป็นคนส่งข้อความเรียกประชุม

ผมเองครับป๊ะป๋า

หึหึหึ งั้นก็ไม่แปลกหรอกป๊ะป๋าหัวเราะในลำคอ

โถ่ป๊ะป๋า มันช่วยไม่ได้นี่นา ก็ไอ้โปเกเกียร์นั่นมันดันพังนี่ แต่ว่า ผมได้ยินเสียงเรฟมันรับสายแล้วนะ แน่นอนล้านเปอร์เซ็นเลยหนึ่งในผู้มาใหม่แก้ตัว

หุบปากน่ะผู้มาใหม่อีกคนตัดบทด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ

อะไรกัน! พูดกับพวกพ้องให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้รึไงหา! ทีแบบนี้อย่าเงียบเซ่!

พอแล้วๆ ทาซิก้า วูล์ฟป๊ะป๋าส่งเสียงห้าม ผู้มาใหม่เงียบลงโดยพลัน ราวกับคำสั่งของเขาคืออาญาสิทธิ์ครั้งนี้ไม่มีใครผิดหรอกนะ สงสัยคงจะมีพวกหนูสกปรกมาป้วนเปี้ยนในงานของเราอีกแล้ว ระวังกันหน่อยแล้วกัน แล้วผลการสำรวจที่ศาลเจ้ามังกร กับภูเขาชิโรเก็นล่ะเป็นยังไงบ้าง

ศาลเจ้ามังกรไม่ได้อะไรเลย ทั้งโปเกมอนป่าและเทรนเนอร์ที่นั่นเก่งมาก ขออภัยด้วยค่ะ

ส่วนภูเขาชิโรเก็น ไม่มีอะไรเลยครับป๊ะป๋า ผู้มาใหม่ทั้งสองรายงาน

อืม ส่วนที่อัลฟ์นี่มีอะไรเยอะเลย แต่ยังต้องรอการตีความจากพวกนักวิจัยที่นี่ซะก่อน ส่วนเรื่องศาลเจ้ามังกรไว้ฉันจะไปสำรวจเองทีหลังก็ได้ หอคอยมาดาซึโบมิก็ให้เรฟไปสำรวจแล้ว ยังเหลือ เกาะน้ำวน หอคอยไฟไหม้ บ่อน้ำยาดอน และป่าอุบาเมะ สินะ พวกเรารีบแยกย้ายเถอะ อยู่นานไปจะไม่ดี แผนการของพวกเราท่าทางจะไม่ลื่นซะแล้ว

ค่ะ

ครับ ป๊ะป๋า

สิ้นสุดการสนทนา ชายที่มารอเป็นคนแรก และผู้มาใหม่คนหนึ่งก็หายตัวเข้าไปในความมืดทันที แต่ยังมีอีกคนหนึ่งยังยืนนิ่งอยู่

ขอโทษทีนะครับป๊ะป๋า แต่ผมได้กลิ่นสกปรกที่นี่นิดหน่อย

__________________-

แม็กซ์ลืมตาโพลงขึ้นในความมืด ซูแบทของเขาบินแทรกผ่านทางเข้าเต็นท์เข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน

มาจริงๆ ด้วย แม็กซ์พูดพลางยันตัวลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง

เซ็ท พาไปเร็ว

สิ้นเสียงสั่ง ซูแบทโผออกไปจากเต็นท์ทันที แม็กซ์ลุกตามออกไปด้วย แต่คราวนี้...เขาหยิบบอลติดมือไปด้วยเพียงลูกเดียวเท่านั้น บอลลูกที่เก่าที่สุดของเขา

ซูแบทบินนำแม็กซ์ตัดผ่านเต็นท์ของมารินและมิโดริที่มีกองเพลิงเล็กๆ คุกกรุ่นอยู่ด้านหน้า ทั้งคู่คงเข้านอนไปนานแล้ว แม็กซ์ก้าวผ่านไปอย่างเงียบเชียบที่สุด เต็นท์ของพวกนักวิจัย อยู่ห่างไปไม่ไกลในเต็นท์ยังสว่างอยู่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นแม็กซ์ เด็กหนุ่มแฝงตัวเข้าไปกับเงามืด ตามซูแบทไป ซูแบทบินนำเขาเข้าไปในป่าใกล้ๆ ทันทีที่แม็กซ์ย่างก้าวเข้าไปในบริเวณป่า เขาก็สัมผัสได้ถึงบรรยกาศที่แปลกประหลาด ป่าไม่เหมือนเหมือนป่า ทุกๆที่ที่มีเงา เหมือนมีสายตาอันน่าสยดสยองจ้องมองอยู่ทุกฝีก้าว แต่แม็กซ์ไม่กลัวเลยสักนิด เขาเดินตามซูแบทไปอย่างระมัดระวัง

ซู!ซูแบทส่งเสียงร้องเตือนขึ้นมากะหัน พลันคลื่นพลังงานสีดำสนิทก็พุ่งตรงเข้ามาหาแม็กซ์เป็นแนวนอน แม็กซ์ เอนตัวลงขนานกับพื้นคลื่นนั้นพุ่งเฉียดหน้าท้องเขาไปนิดเดียว เขารู้สึกขอบคุณการฝึกในถ้ำมังกรเหลือเกินที่ไม่ได้สอนให้เขาฝึกแต่โปเกมอน แต่ให้ฝึกร่างกายตัวเองด้วย แม็กว์รีบดีดตัวกลับมา

เซ็ท ทางนั้น ใบมีดสายลมแม็กซ์รีบสั่งทันที ซูแบทสะบัดปีกออกไป สายลมพัดเข้าตัดพุ่มไม้เบื้องหน้าแตกกระจาย เงาของสิ่งมีชีวิตบางอย่างกระโดดพรวดออกมา ออกมาจากตรงนั้น พุ่งหายเข้าไปในเงามืดของป่า แม็กซ์กดปุ่มเปิดบอลในมือออกมา ควันสีม่วงเข้มกระจายตัวออกมาจากบอลทันที พร้อมเสียงที่ฟังเหมือนเสียงแก๊ซของน้ำอัดลมดังสะท้อนไปสะท้อนมา

อีกฝ่ายหนึ่งไม่เปิดโอกาสใดๆให้แม็กซ์ เสียงร้องแกว๊กแหลมเล็กที่แสนชวนให้เสียวสันหลังดังขึ้น ตามด้วยฝูงยามิการาสุจำนวนหนึ่ง กระพือปีกพั่บๆบินพุ่งเข้าหาแม็กซ์

แม็กซ์รีบยกแขนขึ้นตั้งการ์ด แต่ฝูงยามิการาสุนั้น กลับบินผ่านไปเฉยๆ เหมือนว่าต้องการจะตัดจังหวะแม็กซ์เท่านั้น

ใจเย็นๆ พี่ชาย ฉันไม่ได้มาเพื่อสู้กับพี่ชายที่นี่หรอกเสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากเงามืดเมื่อฝูงยามิการาสุผ่านไป แม็กซ์พยายามเพ่งมองตามเสียงไป แต่เขาเห็นเพียงแค่เงาของคนๆหนึ่งยืนพิงอยู่กับต้นไม้เท่านั้น

แต่คงไม่ได้มาคุยเฉยๆ หรอกนะแม็กซ์พูดอย่างรู้ทัน

แน่นอนอยู่แล้ว ฉันแค่มาเตือน อย่ามายุ่งกับพวกเราอีก ฉันจำเสียงพี่ชายได้ พี่ชายเป็นคนที่รับสายแทนเรฟใช่มั้ย ตอนนั้นฉันยังไม่เอะใจจนกระทั่งป๊ะป๋าพูดขึ้นมา เอาเป็นว่าถ้าพี่ชายยังมายุ่งกับพวกเราอีก คราวหน้าจะไม่ใช่แค่การเตือน

แม็กซ์เงียบไม่ตอบอะไร

หวังว่าการเงียบคงหมายถึง ได้นะพี่ชายสิ้นเสียง ฝูงยามิการสุจำนวนมากก็บินพรวดออกมาจากความมืด จนดำพรึบไปหมด เพียงครู่เดียวพวกมันก็แยกตัวออกไป สภาพป่ากลับมาเป็นดังเดิม ไม่มีร่องรอยแห่งความน่าสะพรึงกลัวอีกแล้ว

ชิ! คิดว่าเป็นใครกันถึงกล้ามาขู่ฉันแม็กซ์สบถพร้อมกับชี้บอลไปทางมุมมืดมุมหนึ่งของป่า แสงจากบอลดูดโปเกมอนตัวหนึ่งกลับมาเข้าบอล

_________________-

ประตูไม้บานหนึ่งค่อยๆเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ ราวกับผู้เปิดจงใจจะไม่ให้มันเกิดเสียงใดๆ ร่างของคนๆ หนึ่งชะโงกหัวผ่านประตูเข้ามา เหลียวซ้ายและขวาราวกับต้องการจะแน่ใจอะไรบางอย่าง เมื่อแน่ใจแล้วก็ค่อยๆ ก้าวย่องเข้ามาด้านใน แล้วค่อยๆ หันหลังกลับไปเลื่อนปิดประตูอย่างเบาที่สุด แต่ประตูไม่เป็นใจกับเขาเสียเลย มันฝืดขึ้นมาเสียได้ ร่างนั้นพยายามออกแรง เพื่อเลื่อนประตูปิดให้ได้ แล้วประตูก็หายฝืดขึ้นมาดื้อๆ มันเลื่อนปิดดังโครม!

ไฟสีเหลืองนวลจากโคมไฟตั้งโต๊ะตัวหนึ่งก็สว่างขึ้นทันทีทันใดจนร่างที่หน้าประตูสะดุ้งโหยง

ไปไหนมา? ฉันสั่งให้กลับพร้อมกันไม่ใส่เหรอเสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนดังขึ้น แสงไฟจากโคมไฟฉายให้เห็นร่างของคนๆ หนึ่งที่ค่อนข้างตัวใหญ่รูปร่างดีในชุดสูทสีดำสนิท กำลังนั่งอยู่บนโซฟาสีเหลืองด้านจข้างโคมไฟนั้น ในมือของเขาถือแก้วไวน์ที่มีไวน์แดงอยู่ในแก้ว ใบหน้าของเขาซ่อนอยู่ในความมืดอย่างลึกลับ

แฮะๆ ขอโทษครับป๊ะป๋าร่างที่หน้าประตูหัวเราะแห้งๆ พร้อมกับก้มหัวลงต่ำราวกับจะก้มให้ติดดิน แสงไฟอ่อนๆ ส่องให้เห็นร่างนั้นเขาเป็นผู้ชายมีใบหน้ากว้างดวงตาแหลมเรียวฉายแววของความขี้เล่นอยู่ภายใน เขามีผมสีแดงชี้ฟูออกไปรอบด้าน ใส่เจ๊กเก็ตหนังสีดำ ทับบนเสื้อยืดสีเหลืองมีลวดลายเป็นเส้นแอ็บแตร็คสีดำเล็กน้อย สวมกางเกงขายาวและรองเท้าบูทสีดำสนิท

ตอบผิดคำถามชายบนโซฟาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย

ตักเตือนไอ้คนที่มายุ่งกับเรื่องของเรานิดหน่อยน่ะป๊ะป๋าชายหน้าประตูรีบเปลี่ยนคำตอบใหม่

ใครสั่ง?

ม...ไม่มี...ขอโทษครับป๊ะป๋าเขาพยายามขอโทษขอโพยน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความกลัวต่อการถูกลงโทษ

ถ้าถูกจับขึ้นมาจะทำยังไง!ชายบนโซฟาเริ่มใส่อารมณ์ หึ อยากทำ ทำไมไม่บอก อย่างน้อยฉันได้คอยดูที่ดูทางให้จะได้ปลอดภัย

คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้วครับป๊ะป๋า

ดี...แต่เอาเถอะ ถึงแกไม่ทำฉันก็จะทำอยู่แล้ว

ชายหน้าประตูเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ

หมายความว่าจะให้ผม...ไปอีกรอบเหรอครับ

ไม่ต้องหรอก วูล์ฟ แกไปพักผ่อนซะ เรื่องขี้ปะติ๋วแค่นี้ไม่ต้องถึงมือ ทหารเสือ อย่างแกหรอก

ค...ครับป๊ะป๋าพูดจบวูล์ฟก็รีบเดินเลี่ยงไปยังอีกด้านทันที ส่วนชายในชุดสูทยังคงนั่งจิบไวน์ในมือ เขากำลังครุ่นคิด

_________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 12 หนุ่มสาวใต้แสงจันทร์

นี่น่ะเหรอ แหล่งตกปลาบนถนน 32 ที่มีชื่อของโจโตมิโดริร้องด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับวิ่งนำหน้าแม็กซ์กับมารินขึ้นไปบนสะพานไม้ที่ทอดเข้าไปในทะเลสาบขนาดใหญ่ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาอย่างลิงโลด ปาจิรุสิน้อย จิจัง นั้นวิ่งกระโดดอย่างร่าเริงนำหน้าเจ้าของไปเสียอีก

แม้กำหนดการเดินทางจะคลาดเคลื่อนไปเพราะแม็กซ์ดันตื่นสาย แต่ทั้งสามก็ได้กินข้าวเช้าที่ค่ายวิจัยเป็นของทดแทน จากนั้นก็รีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว ทั้งสามมาถึงแหล่งตกปลาบนถนนสาย 32 ในเวลาสาย

สถานที่ที่เรียกว่าแหล่งตกปลาแห่งนี้มีลักษณะเป็นอ่าวที่น้ำค่อนข้างสงบ มีโปเกมอนน้ำชุกชุมหลายประเภท ด้านข้างทะเลสาบเป็นป่าชายเลน ลึกเข้าไปเป็นป่าโปร่ง มีสะพานไม้ยื่นยาวเข้าไปในตัวอ่าว ให้เป็นที่สำหรับให้นักตกปลามากหน้าหลายตาได้ใช้เป็นที่ตกปลากัน ซึ่งทุกวันก็มันจะมีนักตกปลาจำนวนไม่น้อยมาที่นี่ และวันนี้ก็เช่นกัน มองไปตลอดสองข้างทางของสะพานไม้ ต่างก็มีนักตกปลายืนหรือนั่งอยู่เป็นระยะๆ บ้างก็เป็นนักท่องเที่ยว ที่มาลองตกปลาพิสูจน์ชื่อเสียงของสถานที่

เอ๋ น้ำขุ่นจังเลยมิโดริ คุกลงตรงขอบทางเดินแล้ววักน้ำขึ้นมาดู เธอดูมีท่าทางประหลาดใจ

น้ำขุ่นน่ะถูกแล้วล่ะมิโดริจังมารินตอบพลางนั่งลงวักน้ำขึ้นมาดู สีหน้าของเธอดูตื่นเต้นมากเมื่อได้สัมผัสกับน้ำในแหล่งตกปลาอ้ะ!เยี่ยมเลย อุณหภูมิน้ำยังพอเหมาะอีกด้วยแฮะ

หมายความว่าไงเหรอมารินมิโดริถามอย่างไม่เข้าใจ

ก็ปลาน่ะ มันจะอยู่ในน้ำที่ค่อนข้างขุ่น เพราะจะปลอดภัยจากศัตรูตามธรรมชาติ ถ้าน้ำใสเกินไปปลาก็จะไม่อยู่เพราะว่าจะตกเป็นเป็าจากนักล่าได้ง่ายยังไงล่ะ ส่วนอุณหภูมิน้ำน่ะจะเป็นตัวกำหนดความอุดมสมบูรณ์ของพวกพืชน้ำซึ่งเป็นอาหารของปลากินพืชยังไงล่ะ ถ้าอุณหภูมิเหมาะสมพืชน้ำก็จะเยอะ พวกโปเกมอนปลากินพืชก็จะเยอะ ปลากินพืชเยอะ โปเกมอนปลากินเนื้อก็จะเยอะตามไปด้วยมารินอธิบาย

รู้เยอะนี่แม็กซ์ชมอย่างไม่เชื่อหู

แน่นอนอยู่แล้วย่ะ ฉันเป็นถึงหลานของด็อกเตอร์อุทซึกินะ แล้วเรื่องของโปเกมอนน้ำทุกอย่าง ตั้งแต่การจับจนถึงการเลี้ยง ฉันถนัดที่สุดเลยล่ะมารินยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

เหอะๆ เนียวโรโทโนะร้องดังเท่าไรก็ไม่มีแรงเท่าเคนทารอสที่ร้องเบากว่าหรอก*แม็กซ์พูดเหมือนจะไม่เกี่ยวกับหัวเรื่องที่พูด แต่มารินรู้ทันว่าแม็กซ์กำลังหลอกด่าเธอว่าขี้โม้โอ้อวด

งั้นก็มีใครบางคนเป็นเนียวโรโทนะซะแล้วล่ะ เมื่อคืนก็บอกอย่างดิบดี จะออกก่อนตะวันขึ้น แต่ตื่นตอนตะวันโด่งซะงั้นมารินย้อน

เฮอะๆแม็กซ์หัวเราะแห้งๆ ...แน่ล่ะสิ ลองมาไล่ล่าศัตรูกลางดึกแบบฉันมั้ยล่ะ...

เอ้อนี่ แล้วทำไมเมื่อคืนที่บอกว่าจะบอกเหตุผลที่ต้องรีบตื่นแต่เช้าทีหลังน่ะ เพราะอะไรเหรอมารินถามขึ้นเมื่อเห็นมิโดริมัวแต่เพลิดเพลินอยู่กับสภาพแวดล้อมของแหล่งตกปลาจนไม่สนใจพวกเขา

ก่อนหน้าที่จะมาที่สถานโบราณอัลฟ์ ฉันได้ข้อมูลมาว่า หัวหน้าของแก็งร็อคเก็ตจะมานั่นน่ะสิ ทั้งๆ ที่หัวหน้ามาแต่กลับไม่มีแก็งร็อคเก็ตโผล่มาเลยซักคน ฉันเลยสงสัยว่าแก็งร็อคเก็ตอาจจะแฝงตัวอยู่กับพวกนักวิจัย เลยไม่อยากอยู่ที่นั่นนานแม็กซ์ตอบ

อะไรนะแม็กซ์! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกฉันด้วยล่ะมารินมีท่าทีตกใจ

ก็ฉันไม่อยากให้พวกเธอแตกตื่นกันไปก่อนน่ะสิ เพราะไม่แน่เหมือนกันว่าพวกมันจะรู้รึเปล่าว่าพวกเราคือพวกตามรอยพวกมันอยู่ ถ้าไม่รู้ก็ให้แล้วกันไป แต่พวกมันรู้แล้วล่ะ ไม่รู้ว่าพวกมันจะรู้เรื่องของเธอด้วยรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ พวกมันรู้เรื่องของฉันแล้ว

นายรู้ได้ยังไง?

ก็เมื่อคืนน่ะ ฉันให้เซ็ทออกตรวจรอบๆ ตลอดทั้งคืน แล้วก็เจอจริงๆ พวกมันคนนึงมาหาฉัน ขู่ฉันว่าอย่าไปยุ่งเรื่องกับเรื่องของพวกมันอีก

...แปลว่า ที่นายตื่นสายเพราะเมื่อคืนคอยเฝ้าพวกแก็งร็อคเก็ตจนไม่ได้นอนงั้นเหรอ...มารินแอบคิดในใจ เธอรู้สึกทึ่งในตัวของแม็กซ์น้อยๆ ทั้งๆที่อายุไล่เลี่ยกันแท้ๆ แต่เขากลับเป็นที่พึ่งในได้มากในยามคับขัน

แต่ยังไงก็เถอะ เธอระวังตัวไว้ดีกว่า ดูเหมือนระดับแนวหน้าของพวกมันจะมีฝีมือไม่น้อยเลย จากนี้ไปฉันจะเป็นแนวหน้าคอยปะทะหลอกพวกมัน ทำทีว่าคนที่สืบเรื่องพวกมันมีแค่ฉันคนเดียว ส่วนเธอต้องทำงานแบบลับๆ ห้ามปะทะกับพวกมันโดยตรงเหมือนที่ฉันทำเด็ดขาด

อื้มมารินรับคำ

มาริน แม็กซ์ ฉันเช่าเบ็ดมาด้วยล่ะ มาตกปลากันเถอะมิโดริร้องเรียกมาแต่ไกล เด็กหญิงบนเบ็ดสามคันไว้บนบ่า ขนาดของคันเบ็ดดูใหญ่โตเกินตัว ยิ่งแบกไว้ถึงสามคันทำให้ดูน่าตลกปนน่าชื่นชม

ไม่ได้ตกปลามานานแล้วเหมือนกันแฮะ ฉันกำลังอยากจะได้จอนจี้มาเข้าทีมซักตัวอยู่พอดีเลยแม็กซ์พูดพลางถูมืออย่างตื่นเต้น

เอ๋จอนจี้เหรอน่าสนใจนี่นา แต่ฉันอยากได้ฮาริเซ็นมากกว่าแฮะมารินพูดถึงความคิดของตัวเอง แล้วเธอก็นึกสนุกขึ้นมา แม็กซ์ มาแข่งกันตกปลามั้ย ใครจะได้ตัวที่ต้องการก่อน

เอาสิ ถ้าเธอแพ้ล่ะก็ข้าวเย็นเธอต้องเลี้ยงนะ

ได้เลย แต่ถ้านายแพ้ล่ะก็นายจ่าย

_____________________-

หลายชั่วโมงต่อมา

ฮ๊า~ ฮ่าๆๆๆๆ มารินหัวเราะเยาะยกใหญ่ เมื่อเห็นสีหน้าซังกะตายของแม็กซ์ที่กำลังมองคอยคิงที่ติดขึ้นมากับเบ็ด คอยคิงนิ่งสนิทไม่กระดุกกระดิก หน้าของมันเหม่อลอยเหมือนมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำมาติดเบ็ดมาแล้วแม็กซ์ จ้องมันเขม็ง เขายกนิ้วขึ้นจิ้ม มันเคลื่อนไปตามสายเบ็ดที่เคลื่อนไหวเพราะแรงจิ้ม แต่ตัวมันยังคงนิ่งเหมือนเดิม

ไปตายซะเถอะ ไอ้กวนประสาท!แม็กซ์ระเบิดอารมณ์จับมันขว้างออกไปในตกในน้ำ ไกลจากที่เขายืนอยู่มากทีเดียว หลายชั่วโมงมานี่ เขาแทบตกไม่ได้ตัวอะไรเลยนอกจากคอยคิงและโดคุคุราเกะ ไม่มีวี่แววของจอนจี้แม้แต่น้อย

ฮะๆๆ อย่าโมโหสิ ตกปลาน่ะต้องใช้ความใจเย็นมารินปลอบพลางหยอกเพื่อนชายด้วยการลูบหัว

นายไม่ต้องพยายามแล้วนะแม็กซ์ ยังไงนายก็ต้องเลี้ยงข้าวเย็นเพราะฮาริเซ็นอยู่นี่แล้ว

โฮ๊ๆๆๆสีหน้าของมารินเปลี่ยนเป็นเยาะเย้ยทันใด เด็กสาวยกโปเกบอลลูกหนึ่งขึ้นมาประกอบคำพูด มันเป็นบอลที่จับฮาริเซ็นใส่ไว้ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว

ทำไมจอนจี้ถึงไม่ติดเบ็ดฉันล่ะเนี่ย!แม็กซ์ตะโกนระบายอารมณ์ออกมาจนเหล่านักตกปลาพากันหันมามอง

เฮ้อ จอนจี้อีกแล้วเหรอเสียงถอนหายใจดังขึ้นจากอีกข้างของแม็กซ์ เพียงแค่คำว่าจอนจี้เข้าหูแม็กซ์ก็หันขวับทันที ที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าคือภาพของ มิโดริกำลังทำหน้าเซ็งใส่จอนจี้ที่ดิ้นอยู่ปลายเบ็ด แต่สำหรับแม็กซ์จอนจี้ตัวนั้นคือความหวังอันสดใสเพียงหนึ่งเดียวของเขา แสงสีเหลืองที่ส่องออกมาจากปลายหนวดของจอนจี้เปรียบเหมือนแสงทองอร่ามที่แสนล้ำค่าของแม็กซ์

มิโดริ~ ขอจอนจี้ให้ ฉ...

ตุ๋ม!

เสียงวัตถุตกลงในน้ำทำให้แม็กซ์พูดต่อไม่ออก มิโดริ ปลดจอนจี้ออกจากเบ็ดแล้วปล่อยลงน้ำไปอย่างไม่เสียดายเลย ความหวังสุดท้ายของแม็กซ์มลายไปแล้ว

มิโดริ~ ปล่อยมันไปทำไมก๊าน~แม็กซ์ร้องเสียงหลง ท่าทางของแม็กซ์ทำให้มารินหยุดหัวเราะไม่อยู่

ก็ฉันไม่อยากได้จอนจี้นี่นา ฉันอยากได้เกียราดอส ตัวใหญ่ๆเลยมาโดริตอบพร้อมกับกางแขนออกกว้างๆประกอบคำพูดที่แสนไร้เดียงสา

...เธอจะโดนมันจับกินมากกว่านะสิ...แม็กซ์อดคิดเปรียบเทียบถึงขนาดตัวของมิโดริกับเกียราดอสไม่ได้

ฮะๆๆๆ แม็กซ์ สู้ๆเข้านะจ๊ะมารินว่าพลางตบบ่าเพื่อนชาย น้ำเสียงของเธอฟังดูคล้ายเยาะเย้ยมากกว่าปลอบ

ไปเถอะมิโดริ เที่ยงแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า ปลาย่างที่นี่น่ะขึ้นชื่อมากเลยนะมารินชวน

จริงเหรอมาริน ไปกันสิไปๆมิโดริตอบรับอย่างสนใจ เด็กหญิงวางเบ็ดแล้วลุกขึ้นทันที แต่ปาจิริสุเร็วว่าเจ้าของเสียอีก มันกระโจนพรวดๆไปรออยู่หน้ามารินแล้ว

ฮะๆๆ ท่าทางจิจังจะหิวแล้วนะมิโดริมารินขำในความตรงไปตรงมาของปาจิริสุ

จิจังอย่าแสดงอาการออกนอกหน้าสิมิโดริดุ อ้าวแม็กซ์ ไม่ไปด้วยกันเหรอ

แม็กซ์กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ริมทางเดิน เขาจ้องมองลองไปในน้ำอย่างอาลัยอาวรณ์ท่าทางเขาจะไม่ได้ยินทำพูดของมิโดริแม้แต่น้อย มัวแต่เพ้อร่ำไรกับจอนจี้ที่หายไป

จอนจี้~ ไปซะแล้ว~ จอนจี้~

ฮะๆๆ ไม่ต้องสนใจหรอก มิโดริ แม็กซ์จะนั่งเฝ้าคันเบ็ดให้เราน่ะ

จริงเหรอ แม็กซ์ใจดีจังเลยเนาะ รีบไปกันเถอะมารินพูดจบมิโดริกับปาจิริสุก็ออกนำหน้าไปทันที ส่วนมารินแอบชำเลืองามองแม็กซ์ที่กำลังคร่ำครวญถึงจอนจี้แวบหนึ่งก่อนจะเดินตามไป แม็กซ์ตอนนี้ช่างน่าขำจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าอีกด้านเขาจะเป็นคนที่สุขุมนุ่มลึก และพึ่งพาได้

...เป็นคนยังไงกันนะ ตานี่น่ะ...

_________________--

จนแล้วจนรอด แม็กซ์ก็ตกจอนจี้ไม่ได้ตลอดบ่ายวันนั้น ตกเย็นแม็กซ์ก็ถอดใจเก็บเบ็ดเดินคอตกกลับที่พักซึ่งเป็นเต็นท์ให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว พวกเขายังคงแยกเป็นสองเต็นท์เหมือนเดิม เต็นท์ของพวกเขาตั้งรวมอยู่ในกลุ่มกับนักท่องเที่ยวและนักตกปลาคนอื่นๆ บรรยากาศรอบๆจึงค่อนข้างดูคึกครื้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อแม็กซ์กลับถึงเต็นท์ ก็พวกว่ามารินกับมิโดริกำลังนั่งกินปลาย่างของกินขึ้นชื่ออย่างเอร็ดเอร็คอร่อย

ไงแม็กซ์ ได้จอนจี้รึเปล่ามิโดริร้องทักเมื่อเห็นแม็กซ์เดินเข้ามา

แม็กซ์ ไม่ตอบ เขาส่ายหัวอย่างอ่อนแรง มารินเห็นอย่างนั้นจึงยื่นปลาย่างไม้หนึ่งเป็นของปลอบใจ

ปลาอะไรแม็กถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆ มาริน เขารับปลาย่างมา

จอนจี้

คำตอบของมารินทำให้แม็กซ์ที่กำลังอ้าปากชะงักกึก

จ...จริง...เดะแม็กซ์ตะกุกตะกักด้วยความตกตะลึง จอนจี้ที่เขาเฝ้าตกมาทั้งวันกลายเป็นปลาย่างไปแล้ว แต่แล้วมารินก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

ฮะๆๆๆๆๆ ให้ตายสิแม็กซ์ นายนี่มันตลกชะมัดเลย ฉันล้อเล่นหรอกย่ะ นี่มันเทปโปอุโอะตะหาก อะไรกันน่ะมาริน ตอนแรกตกลงว่าจะหลอกแม็กซ์โดยไม่บอกไม่ใช่เหรอ~มิโดริท้วงขึ้น

ฮะๆๆๆ เอาเถอะน่า ฉันสงสารน่ะมารินยังหัวเราะไม่หยุด

ไม่สนุกเลยมิโดริหน้าบูดกัดปลาอีกคำใหญ่

แกล้งกันได้นะแม็กซ์เบ้ปากช่างเถอะ กินเลยดีกว่า หิวจะตายแล้ว เขาอ้าปากจะกัดเนื้อปลาที่ติดอยู่กับไม้ในมือ แต่มารินกลับฉวยปลาย่างออกไปจากมือของเขา

เดี๋ยวสิ ลืมอะไรรึเปล่า

อะไรของเธออีกล่ะ!

แทนคำตอบ มารินชี้ไปทางร้านเล็กๆ ที่มีเจ้าของร้านกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการเสียบปลาขึ้นปิ้ง และเอาปลาใส่ถาดบริการลูกค้าที่ต่อแถวยาว

ฉันแปะโป้งเอาไว้ บอกว่าอีกเดี๋ยวจะมีคนมาจ่ายให้ นายไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย

หา! เอาจริงเหรอแม็กซ์ไม่คิดเลยว่าคำพูดที่เขาพูดเล่นๆ มารินจะเอาจริง

สัญญาเป็นสัญญาจ๊ะ นายคงไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอกใช่มั้ย

เมื่อถูกคำพูดของตัวเองมัดตัว แม็กซ์จึงไม่มีทางเลือก เขาต้องยอมควักกระเป๋าแต่โดยดี

ตกค่ำแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เริ่มเข้านอน พวกแม็กซ์เองก็เช่นกัน แม็กซ์ยังคงเข้านอนก่อนใครเพื่อนเหมือนเดิม ส่วนมารินนั้นกลับนอนไม่หลับ แม้ว่าจะเข้ามานอนในเต็นท์นานแล้วแต่ดวงตาของเธอก็ยังคงเบิกกว้างอยู่ เธอพยายามบังคับสมองไม่ให้นึกถึงความทรงจำในช่วงเวลาที่อยู่กับแม็กซ์ในถ้ำอันโนน แต่ไม่ว่าจะพยายมคิดเรื่องอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความคิดมากแค่ไหน สมองของเธอก็ทรยศตัวเองย้อนกลับมายังแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่คอยช่วยเหลือเธอในยามคับขันโดยไม่ทิ้งเธอไปไหน

....ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะปกป้องเธอเอง... คำพูดของแม็กซ์ดื้อดึงวนเวียนอยู่ในสมองของเด็กสาว ยิ่งเธอนึกถึงความรู้สึกในยามที่เขาเอามือแตะบ่าของเธอ มันก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นรัว ใบหน้าร้อนผ่าว

...ฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย ไม่สมเป็นเธอเลยนะมาริน... กระแสความคิดในหัวของมารินวิ่งวุ่นวายสับสน ยิ่งติดยิ่งสับสน

...ฉัน เป็นอะไรไป ฉันเป็นอะไรไป ไม่นะหรือว่าฉันจะ...ไม่นะ มารินไม่ใช่ๆๆๆ ตายแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย...

ในระหว่างที่เด็กสาวกำลังลนลาน หูของเธอก็แว่วเข้ากับเสียงเอะอะเบาๆ สมาธิของเธอละจากความคิดที่สับสน จับเข้าไปเสียงนั้น มารินดันตัวขึ้นนั่ง ข้างๆเธอนั้นมิโดริกำลังนอนหลับสนิทใบหน้าอมยิ้มเหมือนว่ากำลังฝนดี ปาจิริสุที่นอนอยู่บนหมอนเดียวกันเองก็มีท่าทางเช่นเดียวกัน ทั้งสองช่างเหมือนกันจริงๆ

มารินลุกขึ้นคลานไปยังทางเข้าเต็นท์ เธอโผล่หน้าออกมาหันซ้ายหันขวาสำรวจดูสภาพโดยรอบ คืนนี้ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสุกสกาวอยู่บนฟากฟ้า เปล่งรัศมีบดบังดวงดาวรอบๆ จนสิ้น แสงไฟจากไฟที่คุกกรุ่นหลายกองจากเต็นท์ต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายกันไปทำให้พอมองเห็นรอบๆได้อย่างเป็นรูปเป็นร่าง รอบๆบริเวณล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ของป่าโปร่ง ไกลออกไปในทะเลสาบเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่เป็นระยะๆ สายลมของทะเลที่พักต้องเหล่าต้นไม้ริมฝั่ง ทำให้ต้นโกงกางดูคล้ายสัตว์ประหลาดที่มีลำตัวแขนและขายาวเก้งก้าง และจากทางนั้นเอง มารินสังเกตเห็นเงาคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่แถวๆ ป่าชายเลน

ที่ริมป่าชายเลนนั้น แม็กซ์กับโยกิรัส กำลังยืนหอบประจันหน้ากันอยู่

แกจะยอมเชื่อฟังฉันดีๆ ได้มั้ยแม็กซ์ขอร้องแกมบังคับ เขาหอบแฮ่กเหมือนเหนื่อยจากการทำอะไรซักอย่าง

โย!โยกิรัสตอบสะบัดเสียงจนห้วน เป็นการบอกว่าไม่อย่างชัดเจน

โถ่ ขอร้องล่ะโยกิรัส ไหนๆ ก็มาเป็นพวกเดียวกันแล้วน่าแม็กซ์พยายามขอร้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแลง แต่โยกิรัสยังคงดื้อด้าน มันแผดเสียงกระโดนถีบใส่แม็กซ์จนเสียหลักล้มลง โยกิรัสกระโดดขึ้นจะกระทืบซ้ำ แต่แม็กว์ไวกว่า เขารีบฉวยบอลขึ้นมายิงลำแสงเก็บโยกิรัสเข้าบอล

พูดยากชะมัดเลยแม็กซ์บ่นพลางมองดูที่บอลในมือ

ไงแม็กซ์ พยายามฝึกโยกิรัสอยู่เหรอเสียงของหญิงสาวดังทักขึ้น เขาหันมองไปตามเสียง ต้นเสียงคือมารินที่กำลังเดินฝ่ากอหญ้าสูงเทียมเข่า เข้ามาหาเขา

อ้าวมาริน ยังไม่นอนอีกเหรอ?แม็กซ์ถาม

อืม นอนไม่หลับน่ะมารินตอบพลางเอียงคอเล็กน้อย ท่าทางของเธอดูเคอะเขินแต่เธอก็พยายามปิดบังไว้ ว่าแต่ โยกิรัสตัวนี้ ท่าทางจะดุน่าดูเลยนะ

ใช่... นี่เป็นตัวที่ดื้อด้านที่สุดเลยเท่าที่ฉันเคยฝึกมาแม็กซ์ตอบอย่างเหนื่อยใจ

เอ~ที่จริงนายใช้ บัญชาสวรรค์ สั่งมันก็ได้นี่นามารินเสนอความเห็น

ก็ใช่น่ะแหละ แต่นั่นน่ะมันไม่ถาวรหรอกนะ อีกอย่างฉันไม่อยากปกครองด้วยความกลัวเท่าไรหรอก ฉันอยากมีความสัมพันธ์กับพวกโปเกมอนในฐานะพวกพ้องมากกว่า

อืมม์ แบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าทำไมนายต้องมาฝึกดึกๆ แบบนี้ด้วยล่ะ

ก็...นอนไม่หลับเหมือนกันนั่นแหละ ก็เลยมาหาอะไรทำให้มันเหนื่อยๆสักนิดน่ะ แต่ว่าฉันยังไม่ง่วงเลย

อะไรเหนื่อยๆ เหรอมารินคิดพลางกลอกตาเอานิ้วชี้แตะคาง งั้น นายรอฉันแปปนึงแล้วกันนะ

พูดจบมารินก็ออกวิ่งกลับไปยังเต็นท์ทันทีโดยไม่ทันให้แม็กซ์ได้ถามอะไรทั้งสิ้น เวลาเดินผ่านไปไม่นานเด็กสาวก็กลับมาพร้อมกับเบ็ดตกปลาคันหนึ่ง ที่เอวของเธอมีสายหนังสำหรับติดโปเกบอลคาดมาด้วย

เฮ้ๆ เอามันมาทำไมน่ะ คงจะไม่ตกปลาตอนนี้หรอกนะแม็กซ์ร้องถามอย่างประหลาดใจ

ถูกแล้วล่ะ เราจะตกปลากันตอนนี้แหละมารินตอบสวนความคิดของแม็กซ์

มาด้วยกันสิ

พูดจบ มารินก็คว้ามือแม็กซ์แล้วดึงให้ลุกขึ้นวิ่งไปบนสะพานที่ใช้สำหรับตกปลาทันที บนสะพานเวลานี้ช่างเงียบสงบเหลือเกิน ตลอดทางไร้ซึ่งผู้คน ราวกับว่าตอนนี้สะพานทั้งหมดนี่เป็นของพวกเขาเพียงสองคนเท่านั้น บนสะพานมีโคมไฟแขวนอยู่ตามเสาเป็นระยะๆ พวกเขาจึงสามารถมองเห็นทางที่จะวิ่งไปได้

มารินที่วิ่งจูงมือแม็กซ์มาได้พักหนึ่งแล้วหยุดวิ่งลง ตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลจากที่พักมากทีเดียว

เอาล่ะตรงนี้แหละมารินหันมองสำรวจรอบๆ แล้วพยักหน้ายืนยันความคิดตัวเอง

ทำไมต้องออกมาไกลขนาดนี้ด้วยล่ะ จะตกปลาตกตรงโน้นก็ได้นี่นาแม็กซ์ถาม

ไม่ได้หรอก ตรงนั้นไม่มีโปเกมอนปลาที่เราต้องการน่ะสิ

เธอรู้ได้ยังไง

ดูนั่นมารินชี้ลงไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า ที่ผิวน้ำปรากฏแสงสีเหลืองเล็กๆ ส่องสว่างขึ้นมาจากใต้น้ำ แล้วก็ดับลง สักพักหนึ่งก็สว่างขึ้นมาใหม่ ดวงไฟสีเหลืองนั้นไม่ได้มีเพียงดวงเดียวแต่มีอยู่หลายต่อหลายดวงด้วยกัน พวกมันกระพริบสลับกับเป็นจังหวะ ดูแล้วสวยงามเหลือเกิน ราวกับนั่นเป็นดาวที่ส่องประกายอยู่ใต้พื้นน้ำที่ดำสนิทเหมือนท้องฟ้ายามราตรี

สวยจัง นั่นอะไรน่ะแม็กซ์ชื่นชมกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า

จอนจี้ไง

คำตอบของมารินทำให้แม็กซ์ถึงกับอึ้ง เขาจ้องหน้าเธอ

ถ้าจะตกจอนจี้ให้ได้แน่ๆ น่ะ มันต้องกลางคืนแบบนี้แหละ เพราะแสงที่ปลายหนวดของมันจะช่วยบอกตำแหน่งให้กับเราได้

มารินพูดพร้อมขว้างเบ็ดออกไปยังจุดที่มีแสงไฟส่องกระพริบขึ้นมา แล้วยื่นคันเบ็ดให้แม็กซ์

เอ้ามองหน้าฉันอยู่ทำไมล่ะ เอาไปสิเธอย้ำ

แม็กซ์รับคันเบ็ดมาอย่างตื้นตัน เขาอยากขะขอบคุณเธอเหลือเกิน มารินนั้นเมื่อแม็กซ์รับเบ็ดไปแล้วก็นั่งลงบนขอบสะพาน หย่อนขาเอาเท้าเขี่ยน้ำเขี่ย แม็กซ์เองก็นั่งลงทำเหมือนเธอ

มารินข...

ราวกับเด็กสาวรู้ทัน เธอรีบใช้นิ้วชี้แตะปากของแม็กซ์ไว้ ท่าทางของเธอดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

นั่นมันคำพูดของฉัน ขอบคุณนะแม็กซ์ที่ไปช่วยฉันที่โบราณสถานอัลฟ์

รอยยิ้มของเด็กสาวใต้แสงจันทร์ช่างดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหลจนแม็กซ์อดหน้าแดงไม่ได้ เขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

อ...เอ่อ ไม่ต้องขอบใจอะไรหรอกแม็กซ์รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงจึงรีบสะบัดหน้าหนี

แล้วก็...ขอโทษด้วยนะ เรื่องที่วาคาบะน่ะมารินอมยิ้มอย่างเคอะเขิน ก้มตามองลงไปในน้ำที่เธอกำลังใช้เท้าเขี่ยเล่นจนเป็นคลื่นเล็กๆ จริงแล้วๆ แล้วนายคงมีเหตุผลส่วนตัวใช่ม้าน้ำเสียงของเธอแสดงอาการเขินอย่างเห็นได้ชัด

ทำนองนั้นแหละแม็กซ์ถอนหายใจ เขาจับตามองไปยังทุ่นเบ็ดที่ส่ายไปมาเบาๆ ตามแรงคลื่นแต่สมองของเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องทุ่นเบ็ดแม้แต่น้อย

มันเป็นประสบการณ์ที่ปวดร้าวมาก สำหรับฉันแม็กซ์เงียบไป สีหน้าเขาซึมลงไปอย่างเห็นชัด

ผู้ชนะย่อมได้ทุกอย่าง มันเป็นความจริงที่ไม่ตาย...แม็กซ์พูดขึ้นมาเหมือนเหม่อ เหยียบย่ำไปบนความพ่ายแพ้ของคนอื่น สร้างบาดแผลทั้งทางกายและทางใจให้ผู้แพ้คนแล้วคนเล่า ไม่ว่าจะใช้การคำที่สวยหรูแค่ไหนในการปิดบัง จะมีเหตุผลที่ดีงามแค่ไหนในการกระทำ แต่การต่อสู้มันก็เป็นแบบนั้นแหละ น่ารังเกียจ...แต่ถ้าไม่สู้ก็เอาชีวิตไม่รอด เหมือนที่พวกเราต้องสู้กับอันโนนพวกนั้น ชีวิตน่ะ...มันโหดร้ายจริงๆนะ

มารินเลิกคิ้วเบิกตามองแม็กซ์อย่างแปลกใจ

น่าตกใจจริงๆแฮะ คนที่มีความคิดที่โหดเหี้ยมเด็ดขาดถึงขนาดเคยคิดสังหารหมู่อันโนนอย่างนายจะมีความคิดแบบนี้ด้วย น่าตกใจจริงๆ

งั้นเหรอแม็กซ์ตอบเบาๆ

แต่ว่านะแม็กซ์ ฉันคิดว่า...ผู้ชนะได้ทุกอย่างน่ะถูกต้องแล้ว แต่ผู้แพ้น่ะ ไม่ได้สูญเสียทุกอย่างหรอกนะ

คราวนี้แม็กซ์เป็นฝ่ายจ้องหน้ามารินกลับ จ้องด้วยสายตาที่ต้องการคำตอบ มารินยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เด็กสาววางมือของเธอทับลงบนมือของเพื่อนชายพร้อมกับกุมไว้เบาๆ

ในอดีตนายอาจจะเคยพ่ายแพ้ในการต่อสู้ และถูกช่วงชิงบางอย่างไป แต่นายก็ยังมีความสามารถอยู่ ความสามารถ ความเก่งกาจของนายที่ไม่อาจจะมีใครช่วงชิงไปได้ และความสามารถของนายก็...

เธอหยุดพูดก้มมหน้ามองน้ำ แก้มทั้งสองเป็นชมพูดระเรื่อ อมยิ้มน้อยปรากฏขึ้นบนหน้า เธอฝืนความเขินอายทั้งหมด หันหน้ากลับมามองหน้าแม็กซ์แล้วพูดต่อให้ครบสิ่งที่ต้องการบอก

ช่วยชีวิตฉันมาแล้วนะ

คำพูดของมารินทำให้แม็กซ์รู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้าอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่อาจหนีจากสายตาเป็นประกายสดใสของเด็กสาวได้อีกแล้ว

ดวงตาของหนุ่มสาวจ้องประสานกันภายใต้แสงจันทร์นวลผ่องด้วยความรู้สึกพิเศษที่มีต่อกัน แม็กซ์ยกมือขึ้นจับคางมารินแล้วยกเชิดขึ้นเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว สติของเด็กหนุ่มหลุดลอยไปกับใบหน้าแดงก่ำแสนทรงสเน่ห์เบื้องหน้าแล้ว แม็กซ์หลับตาเคลื่อนริมฝีปากเข้าไปหาเธอช้าๆ

มารินแม้ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอรู้สึกกับแม็กซ์คืออะไร แต่หัวใจของเธอก็ไม่ได้สั่งให้ต่อต้านต้านเขาให้เวลานี้ ได้เพียงแต่ปล่อยให้มันเป็นไป ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันเสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจซึ่งกันและกัน หัวใจของทั้งสองเต้นแรง

จุ๋ม!

เสียงทุ่นเบ็ดกระแทกน้ำอย่างแรงดึงทั้งคู่ให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ มารินรีบผลักแม็กซ์ออกทันที ด้วยความเขินอาย ส่วนแม็กซ์ถูกดึงความสนใจไปยังแรงดึงหนักๆจากปลายคันเบ็ด เขาออกแรงต้านและพยายามดึงมันขึ้นมา

เอ๋ จอนจี้ติดเบ็ดแล้วเหรอมารินสังเกตเห็นเหมือนกัน เธอทำเป็นลืมเรื่องเมื่อครู่

คงงั้น แต่ว่าแรงเยอะชะมัดเลย ไม่เห็นรู้เลยว่าพวกจอนจี้จะมีแรงเยอะขนาดนี้ แม็กซ์กัดฟันแน่น เขาเปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นยืน เกร็งแขนสู้แรงกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ปลายสายเบ็ด เบ็ดของเขาโค้งลงจนดูน่ากลัวว่ามันจะหัก

แปลกจัง จากที่ดูท่าจะเป็นแค่ฝูงจอนจี้นี่นาไม่น่าจะมีพวกอื่นมาอยู่ได้เลย มาฉันช่วย มารินช่วยจับคันเบ็ดอีกแรง ทั้งสองช่วยกันออกแรงดึงเต็มที่ แสงสว่างจ้าส่องออกมาจากจุดที่สายเบ็ดของแม็กซ์อยู่ น้ำนูนสุงขึ้นมาเป็นวงกว้าง

สิ่งมีชีวิตสีฟ้าขนาดตัวราวๆ เมตรเศษพุ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำ บนหัวของมันมีหนวดเส้นหนึ่งยาวโค้งออกมา ปลายหนวดเส้นนั้นมีวัตถุทรงกลมส่องแสงสว่างจ้าดั่งจันทร์ดวงที่สอง ทั้งแม็กซ์และมารินอ้าปากค้าง

แลนเทิร์น!

แม็กซ์ตั้งสติได้ก่อน เขารีบบิดบอลลูกหนึ่งออกมาจากสายหนังข้างๆ เอวแล้วขว้างใส่แลนเทิร์นโดยไม่ให้มันตั้งตัว ลำแสงจากบอลหุ้มเอาตัวแลนเทิร์นเอาไว้แล้วดูดเข้าไปในบอล ฝาทั้งสองของบอลปิดสนิทแล้วร่วงหล่นลงบนพื้นสะพาน แต่ปุ่มเปิด-ปิดบอลยังไม่เด้งขึ้นมาการจับยังไม่เรียบร้อย บอลกลิ้งขลุกขลิกไปมาแม็กซ์ทิ้งเบ็ดพุ่งเข้าไปหาบอล แล้วใส่สองมือรวมน้ำหนักตัวทั้งหมดของเขากดทับบอลไว้ ฝาบอลเผยอขึ้นมาเล็กน้อยแสงจ้าส่งออกมาจากในนั้น แม็กซ์รีบออกแรงกดมันให้กลับเข้าไปอีกครั้ง ฝาบอลปิดลง คราวนี้ปุ่มปิดบอล เด้งขึ้นมา การจับสำเร็จแล้ว

เป็นยังไงบ้างแม็กซ์ เรียบร้อยมั้ย มารินวิ่งเข้ามาดูผลงาน แม็กซ์หลับตาแน่นแม้มปากด้วยความตื้นตัน

สำเร็จแล้ว!เด็กหนุ่มร้องตะโกนออกมาพร้อมกับยืดตัวขึ้น ด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น

ยะฮู้ววววววววว

ขอบใจมากเลยนะมาริน ถ้าไม่ได้เธอ ฉันคงไม่ได้แลนเทิร์นตัวนี้มาแน่ๆเลยแม็กซ์รีบขอบคุณมารินเป็นการใหญ่

เล็กน้อยหรอกน่ะ ดีใจด้วยนะมารินยิ้มรับ

มาริน แม็กซ์ อยู่ไหนกันน่ะเสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่งดังขึ้นมา แม็กซ์กับมารินหันไปตามเสียง มิโดริกำลังถือไฟฉายเดินมาตามสะพาน พลางร้องเรียกทั้งสองไม่ขาดสาย

มิโดริจัง ตรงนี้ๆมารินพยายามโบกมือร้องเรียก

แบบนั้นไม่เห็นหรอกมาริน ต้องแบบนี้ ออกมาเลยแลนเทิร์นแม็กซ์พูดพร้อมกับเปิดบอลเรียกแลนเทิร์นออกมา แลนเทิร์นลงไปอยู่ในน้ำโดนโผล่ขึ้นมาแค่ส่วนหัวเท่านั้น

แลนเทิร์น เปล่งแสงออกมาสว่างๆเลยนะ แม็กซ์สั่ง ท่าทางของเขายังดีใจไม่หาย

แลนเทิร์นส่งเสียงร้องตอบรับ วัตถุทรงกลมบนหัวของมันเปล่งแสงวาบ จนมารินกับแม็กซ์ต้องหันหลังให้แลนเทิร์น เพราะไม่อาจจะสู้แสงสว่างนั้นได้

จับได้ปุ้ปก็ใช้งานปั้ปเลยนะมารินแซว

ซักหน่อยน่าแม็กซ์ฉีกยิ้มกว้าง ทั้งสองหัวเราะคิกคักให้กัน

แสงสว่างของแลนเทิร์นให้ได้ผลจริงๆ มิโดริเห็นได้จากระยะไกลและรีบวิ่งเข้ามาหาทั้งสองทันที

เอาล่ะแลนเทิร์นลดแสงลงได้แล้วแม็กซ์สั่งเมื่อเห็นมิโดริเข้ามาใกล้ แสงสว่างของแลนเทิร์นลดลงจนเหลือเท่ากับแสงของตะเกียงดวงหนึ่งเท่านั้น

แม็กซ์ มารินมิโดริร้องเรียกพลางวิ่งพลาง เมื่อเข้ามาใกล้เด็กหญิงก็ต้องชะงักกึก เธอยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาเบิกโพลงหน้าซีดเผือดแล้วชี้ไปยังด้านหลังแม็กซ์ นิ้วของเธอสั่นเทา

แม็กซ์ มาริน...น...นั่นมัน

อ๋อ แลนเทิร์นของฉันเองแหละ เพิ่งจับได้เมื่อกี้เลยเจ๋งใช่มั้ยล่ะแม็กซ์บอกอย่างภาคภูมิใจ

ม...ไม่ใช่แลนเทิร์น...นั่นมัน...กรี๊ด!มิโดริแผดเสียงกรี๊ดลั่น

_________________-

*ตรงนี้ผมต้องการเปรียบเทียบถึงปรัชญาของคาลิลล์ ยิบรานที่บอกว่า อึ่งอ่างแม้มีเสียงร้องที่ดัง ก็ไม่อาจใช้งานได้เช่นวัวควายที่ร้องเบากว่า

ในตอนนี้จะด่าว่าพระเอกของเราว่ามือไวใจเร็วยังไงก็เชิญนะครับ

เพราะว่า ผมต้องการแสดงตัวอย่างให้ดูอยู่แล้วว่า

"หนุ่มสาวเอย พวกเธอว์จงอย่าอยู่กันสองต่อสองในที่ลับตาคน"

ต่อให้มั่นใจว่าฝ่ายชายสุภาพบุรุษแค่ไหน ก็ไม่ควรจะเธอว์ ไม่ใช่แค่เรื่องความไม่เหมาะสม

แต่เป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าใจมันไปแล้วก้จบเลยนะจ๊ะ

ปล. รู้สึกว่าเริ่มติดสำนวนของโก้วเล้งมาแฮะ

____________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 13 เฉือนคมแก็งร็อคเก็ต

เสียงกรีดร้องของมิโดริ ทำให้แม็กซ์และมารินฉุกคิดทันทีว่า นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ทั้งสองหันหลังขวับ แลนเทิร์นกำลังปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาแล่นอยู่รอบตัวพร้อมต่อสู้ ดวงตาเกรี้ยดกราด คู่ต่อสู้ของมันคือ เกียราดอสขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง และที่ยิ่งไปกว่านั้น เกล็ดของมันส่องประกายสีแดงฉานดั่งอาบไปด้วยโลหิตสด มารินหัวใจหล่นวูบ ทำอะไรไม่ถูกทั้งๆ ที่เธอมักจะมีสติดีเสมอในยามคับขัน

ม...ไม่จริงแม็กซ์แม้จะมีแต่ท่างตกใจสุดขีด แต่แววตาของเขาไม่ได้กลัวดังเช่นมารินและมิโดริ สีหน้าเขาบอกถึงความตกตะลึงจากการไม่เชื่อสายตาตัวเองเสียมากกว่า น้ำเสียงของเขา ตะกุกตะกัก

ระหว่างที่ทั้งสามกำลังตกตะลึง เกียราดอสอ้าปากกว้างส่งเสียงคำรามลั่นลงมือจู่โจมใส่ทั้งสามอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนสะพานไม้ที่พวกเขายืนอยู่แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆดุจแก้วที่หล่นพื้น พื้นน้ำแตกกระจายออกเหมือนโดนระเบิด แม็กซ์ มาริน และ มิโดริ กระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทาง แลนเทิร์นรีบหยุดกระแสไฟฟ้า มันรีบว่ายน้ำตรงเข้าไปหาแม็กซ์เพื่อช่วยนายของมัน แต่เกียราดอสไม่ยอมให้ทำอย่างนั้น มันฟาดหางมายังแลนเทิร์น

ตูม!

พื้นน้ำแตกกระจายออกอย่างแรงอีกครั้ง แต่ทว่าไม่ได้เกิดจากหางของเกียราดอสที่ถูกสะท้อนกลับไป เกิดเสียงคำรามดังสนั่นขึ้น สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โผล่พรวดขึ้นมาเหนือน้ำ มันมีลำตัวเป็นทรงรีอ้วนกลม และมีคอยาว มันอ้าปากยิงลำแสงสีขาวอมฟ้า เข้าไปใส่เกียราดอส

ลำแสงนั้นเปล่งแสงสว่างวาบจนทุกอย่างกลายเป็นสีขาวแสบ แสงนั้นดับลง สิ่งมีชีวิตปริศนา แม็กซ์ มาริน มิโดริ รวมถึงแลนเทิร์นก็หายไปจากที่นั้น เหลือทิ้งไว้แต่ทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งไปส่วนหนึ่ง และเกียราดอสที่ถูกแช่แข็งรวมเข้าไปกับแผ่นน้ำแข็งเหนือทะเลสาบตรงนั้น

____________________-

หลายชั่วโมงต่อมา คฤหาสน์หลังหนึ่งใจกลางเมืองโคงาเนะ

ฮ่าๆๆๆ เยี่ยมยอด มันมีอยู่จริงๆเสียงหัวเราะอย่างพอใจดังขึ้นมาจากชายคนหนึ่งในห้องที่กว้างใหญ่ เขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้ขัดมันดูหรูหรา ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานใหญ่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดานสองบาน บนหน้าต่างมีแกนเหล็กสีทองพาดอยู่เป็นลายตาราง หน้าต่างถูกขนาบข้างด้วยตู้หนังสือขนาดใหญ่ แสงจากหน้าต่างขนาดใหญ่ทั้งสองบานสาดเข้ามาเป็นฉากหลังให้กับชายบนโต๊ะทำงาน ทำให้ใบหน้าของเขาอยู่ใต้เงามืด เขาดูมีท่าทางสุขุมแต่น่าเกรงขาม

เบื้องหน้าเขามีคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานกันอยู่ 4 คน ทุกคนไม่ได้ยืนตรงเป็นระเบียบ แต่ยืนในอิริยาบถที่ตัวเองชอบ

เอาหล่ะ มันถึงเวลาแล้วเขาพูดพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างยันโต๊ะลุกขึ้น แต่เรายังต้องการการวางแผนการที่ดี คิมูระ ลองบอกสถานการณ์คร่าวๆ ตอนนี้ให้ฉันฟังหน่อย

เขาเงยหน้าขึ้นพูดกับหนึ่งในสี่คนนั้น

ครับ ... สำหรับเรื่องข้อมูล ผมคิดว่าเราต้องกลับไปที่โบราณสถานอัลฟ์อีกครั้งผู้ตอบเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบเศษๆ หน้าตาหล่อเหลามีผมสีน้ำตาลลอนสลวย ดวงตาเย็นชาสีเขียวเข้ม ผิวพรรณผ่องใส สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อกาวน์สีดำยาวถึงเข่า ผูกเนคไทท์สีดำแบบหลวมๆ สวมกางเกงขายาวสีดำและรองเท้าหนัง ท่าทางของเขานิ่งและดูเยือกเย็นมั่นคงดุจภูเขาหิมะ เขาพูดพลางกวาดสายไปบนสมุดโน้ตขนาดกะทัดรัดในมือ

จากข้อมูลที่สายของเราได้มาจากนักวิจัย ส่วนที่ตีความนั้นบอกได้ว่าสิ่งนั้นเคยปรากฏอยู่บนโลกนี้จริง แต่ส่วนที่นักวิจัยยังไม่ได้ตีความนั้น ผมลองทำดูเท่าที่จะทำได้ และได้ความว่าจำเป็นใช้สิ่งของและสถานที่ที่เหมาะสมในการอัญเชิญ ซึ่งเรื่องนั้นต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ ส่วนเรื่องคนก่อก่วน จากการลองคำนวณดูตามข้อมูลเรื่องหน้าตาที่เรฟให้มานั้นตรงกับข้อมูลของแม็กซ์ อดีตเทรนเนอร์แนวหน้าที่เรา เคยไล่ล่ามันมาแล้วครั้งหนึ่ง คิดว่ามันคงรายงานเรื่องที่เจอเราที่โบราณสถานอัลฟ์ และหอคอยมาดาสึโบมิให้กับสมาคมโปเกมอนไปแล้ว

ตอนนี้สมาคมโปเกมอนเองก็คงต้องเอาข้อมูลจากพวกนักวิจัยที่โบราณสถานอัลฟ์ไปด้วยเหมือนกัน และมันคงเอะใจเรื่องเป้าหมายของเราแล้ว แต่คงยังไม่ทำอะไรกะโตกกะตากเหมือนเดิม เราต้องเร่งมือและเพิ่มความรัดกุมในการทำงานให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว และที่สำคัญที่สุด ที่โบราณสถานอัลฟ์มีข้อมูลอยู่เดียวแค่สิ่งเดียวเท่านั้น...เรายังต้องการอีกสิ่งทำให้เราต้องไล่ล่าตามโบราณสถานต่อไปครับ

โอ้โห นานๆป๊ะป๋าจะเรียกใช้ พอโดนเรียกใช้ทีก็เตรียมของมาเอาใจป๊ะป๋าเพียบเลยนะแกวูล์ฟที่ยืนอยู่ถัดไปชะโงกหน้าเข้ามาแขวะด้วยสีหน้าล้อเลียน แต่คิมูระหลับตาเมินเสียราวกับรู้ว่ายังไงก็ต้องมีคนมาห้ามเจ้าหมอนี่

หุบปาก หนวกหูเสียงดุอย่างเย็นชาดังมาจากหญิงสาวข้างๆวูล์ฟ เธอดูมีอายุใกล้เคียงกับคนอื่น มีผมสีม่วงเข้ม ผมหน้าปาดไปปิดหน้าซีกซ้ายไว้ ผมด้านหลังรวมขึ้นหนีบไว้ด้วยกิ้บสีดำตัวใหญ่ ใบหน้าทรงไข่เรียวสวย ดวงตาชั้นเดียวดูนิ่งสนิทราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุมถึงคอ ทับด้วยเสื้อนอกผ้ากำมะหยี่สีม่วง สวมกระโปรงรัดรูปยาวถึงเข่า หญิงสาวยืนตรงเอามือทั้งสองจับศอกของแขนอีกข้างไว้คล้ายกอดอก

อะไรกัน ทาซิก้า เธอเป็นอะไรกับฉันนักหนา มีปัญหาอะไรบอกมาเด๊~วูล์ฟยื่นหน้าเข้าใกล้กัดฟันกรอดๆอย่างไม่สบอารมณ์

สามีภรรยาทะเลาะกันอีกแล้ว เฮ้อ รักกันดีจริงจริ๊งเรฟแอบถอนหายใจ แต่ดูเหมือนคำพูดของเขาจะไม่ได้รับการสนใจ

อย่าเอาหน้าสกปรกเข้ามาใกล้ฉันทาซิก้ายังคงตอบอย่างเย็นชา

ว่าไงนะ! ยัย...

พอ วูล์ฟเสียงของชายผู้เป็นหัวหน้าดังขึ้นอย่างใจเย็น

ป๊ะป๋า แต่ว่ายัยนี่มัน

ก็เป็นแบบนี้ทุกทีไม่ใช่รึไง ช่างมันเถอะ

วูล์ฟเบ้หน้าอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ยอมหยุดแต่โดยดี

เรื่องของสมาคมโปเกมอน...ให้สายของเราไปปล่อยข่าวว่าเราจะไปที่ภูเขาชิโรเก็น ส่งคนไปเยอะๆ สร้างภาพหลอกพวกมันว่าเราจะกลับไปที่นั่น คิมูระคอยดูสถานการณ์จากที่ฐานเหมือนเดิม วูล์ฟ กับ ทาซิก้าไปกับฉันที่โบราณสถานอัลฟ์ ส่วนเรฟ ไปที่บ่อน้ำยาดอน ที่นั่นมีตำนานประหลาดเกี่ยวกับเสียงเพลงใต้น้ำ ลองไปสำรวจดูๆ ถ้าได้เรื่องก็รีบรายงานฉัน ถ้าไม่มีอะไรก็ตรงไปถ้ำน้ำวนได้เลย

ครับเรฟรับคำ

อ้อ หัวหน้าครับ มีอีกเรื่องนึง ที่ต้องรายงานคิมูระพูดขึ้น

อะไร

เรื่องของแม็กซ์ที่เราส่งเกียราดอสแดงไปจัดการ...ปรากฏกว่าเกียราดอสของเราถูกแช่แข็ง และพวกมันทั้งสามก็หายตัวไปครับ ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน เต็นท์และข้าวของของพวกมันยังถูกทิ้งไว้ที่ที่พักของแหล่งตกปลา ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ครับ

หึหึหึผู้เป็นหัวหน้าหัวเราะในลำคอ เขาหันหลังเดินไปยังหน้ากระจก แสงจากนอกหน้าต่างสองให้เห็นใบหน้าเหลี่ยมกึ่งรี ดวงตาโตฉายแววเจ้าเล่ห์ จมูกโด่งตัดผมทรงสกินเฮด รอยยิ้มของเขาเปี่ยมไปด้วยความั่นใจในตัวเอง

คงมีคนมาช่วยมันไป ช่างมันเถอะ น้ำหน้าอย่างมันตอนนี้ก็ทำได้แค่ก่อกวนเราเล็กๆน้อยๆ เท่านั้นแหละ ไม่ต้องสนใจกับมันหรอก

______________________-

สำนักงานใหญ่ สมาคมโปเกมอน เมืองโคงาเนะ

ภายในห้องของด็อกเตอร์ออร์คิด ที่มีขนาดใหญ่และค่อนข้างรก ในห้องมีโต๊ะหลายตัววางเรียงติดกันเป็นพรืดจนเป็นเหมือนกำแพงของเขาวงกต บนโต๊ะเหล่านั้นมีกองเอกสารวางกองๆซ้อนๆกันแน่นเอี๊ยด

ตลอดแนวผนังห้อง มีตู้ลิ้นชักเหล็กสำหรับใส่เอกสารวางเรียงราย สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงถึงงานที่มากมายก่ายกอง และความรู้ที่ยากจะหาใครเปรียบเทียบของเขา

ตอนนี้ในห้องนี้มีคนอยู่สามคน ด็อกเตอร์ออร์คิดกำลังนั่งประสานมืออย่างสุขุมอยู่บนเก้าอี้ทำงานบุนวมแบบหมุนได้ โต๊ะทำงานของเขาทำด้วยเหล็กปูโต๊ะด้วยแผ่นกระจกใส แม้โต๊ะอื่นๆจะเต็มไปด้วยกองเอกสารหนาแน่นแต่โต๊ะทำงานของเขากลับโล่งเตียน ไม่มีกระดาษใดๆมาวางทับ รูปถ่ายครอบครัวและโน้ตสั้นๆ ที่เป็นข้อความเพิ่มกำลังใจที่เสียบอยู่ใต้แผ่นกระจกเลย เขายังไม่เคยลืมครอบครัวที่เขารักที่สุดแม้ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม

ข้างๆโต๊ะมีชายชราคนหนึ่งท่าทางน่าเกรงขามกำลังนั่งอยู่บนฮาคุริวที่ขดตัวเป็นเสมือนบัลลังค์ เขามีรูปร่างเตี้ย หน้าผากกว้าง ริ้วรอยแห่งวัยแสดงถึงประสบการณ์อันมากโข เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มดูสงบเยือกเย็นเช่นท่าทางของเขาที่สงบนิ่งดวงตาทั้งสองปิดสนิท ในมือข้างหนึ่งประคองไม้เท้าหัวมังกรที่ยาวเกินตัว

ด้านหน้าโต๊ะของด็อกเตอร์ออร์คิด ด็อกเตอร์อุทสึกิกำลังถือแฟ้มเล่มหนึ่งอยู่ในมือ เขากำลังอ่านข้อความจากมัน

จากข้อมูลของแม็กซ์ที่ให้มา สิ่งที่โบราณสถานทุกที่เก็บรักษาไว้ก็คือตำนานโบราณและสิ่งของสำคัญบางอย่างซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร จากตัวอย่างภาพของโบราณสถานอัลฟ์ และข้อมูลจากห้องใต้ดินที่แม็กซ์และมารินไปพบ ซึ่งล้วนเกี่ยวกับตำนานโบราณทั้งสิ้น ทำให้สรุปได้ว่าพวกแก็งร็อคเก็ตกำลังไล่ตามตำนานอย่างหนึ่งอยู่

แม้ความเป็นไปได้จะต่ำแต่ก็มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะคาดการณ์ได้จากข้อมูลที่มีในตอนนี้ และเรายังไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าตำนานอะไรที่พวกมันกำลังไล่ล่าอยู่ครับด็อกเตอร์อุทสึกิปิดแฟ้มในมือแล้วเริ่มพูดต่อด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูเครียดและเป็นกังวล

ข้อมูลจริงๆของเราตอนนี้น้อยมากเลยนะครับ ผมคิดว่าเราต้องรีบส่งเทรนเนอร์ของเราออกตามหาข้อมูลเพิ่มนะครับ อาศัยข้อมูลจากแม็กซ์และมารินอย่างเดียวอาจจะไม่ทัน พวกมันอาจจะคืบหน้าไปเยอะแล้ว และถ้ามันมุ่งหวังในตำนานโบราณพวกนี้จริง ก็เป็นไปได้ว่าพวกมันคิดจะปลุกตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และถ้ามันทำสำเร็จ จะเกิดเรื่องใหญ่นะครับ

ใจเย็นอุทสึกิคุงผู้เฒ่าขัด แค่ไอ้ศิษย์งี่เง่าของข้ามันไปต่อสู้กับแก็งร็อคเก็ตอย่างโจ่งแจ้ง แค่นี้ก็ทำให้พวกมันรู้ตัวแล้ว เราจะกระโตกกระตากไปมากกว่านี้ไม่ได้

ต...แต่ว่า

ท่านผู้เฒ่ามังกรพูดถูกแล้วล่ะอุทสึกิคุงด็อกเตอร์ออร์คิดเห็นด้วย แต่คิดในแง่ดีนะ การที่แม็กซ์เปิดเผยตัวออกไปอย่างโจ่งแจ้งก็เท่ากับว่า พวกมันรู้ตัวแน่ชัดแล้วว่าเทรนเนอร์ใหม่ของเราคือแม็กซ์ มารินก็จะถูกมองข้าม และนั่นก็ทำให้เธอรายงานข้อมูลกับเราได้สะดวกยิ่งขึ้น

มันก็จริงนะครับ แต่ว่า ถ้าเราไม่รีบล่ะก็ด็อกเตอร์อุทสึกิยังคงร้อนใจ

อุทสึกิคุง รีบร้อนไปมันก็ไม่ดีหรอก ทำใจให้สงบบ้างผู้เฒ่ามังกรปราม

จะรีบหรือไม่รีบเราควรดูตามสถานการณ์ด็อกเตอร์ออร์คิดพูดต่อ ในสถานการณ์นี้ พวกแก็งร็อคเก็ตคงไม่มีข้อมูลไปมากกว่าที่เรามี สถานที่ที่มันบุกแล้วในตอนนี้คือ ภูเขาชิโรเก็น หอคอยมาดาสึโบมิ โบราณสถานอัลฟ์ และศาลเจ้ามังกร ภูเขาชิโรเก็นไม่เจออะไร หอคอยมาดาสึโบมิก็เหลว ศาลเจ้ามังกรก็บุกเข้าไปไม่สำเร็จ

จะมีก็แค่โบราณสถานอัลฟ์ อักษรอันโนนไม่ใช่ของจะอ่านกันได้ง่ายๆ แน่นอนว่าพวกมันก็ต้องอาศัยข้อมูลที่นักวิจัยที่นั่นตีความออกมา ซึ่งก็เท่ากับที่เรามีตอนนี้ ถ้ามันจะหาข้อมูลเพิ่มมันก็ต้องกลับไปเร่งหาข้อมูลจากพวกนักวิจัยอีกครั้ง อุทสึกิคุง บอกมาสิข่าวล่าสุดของมันคืออะไร

เอ่อ...กลับไปที่ภูเขาชิโรเก็นใช่รึเปล่าครับด็อกเตอร์อุทสึกิทำท่าลอกแลกเหมือนไม่แน่ใจ

ถูกต้อง ที่นั่นไม่มีอะไรเลย ไม่มีร่องรอยกระทั่งว่าเคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายนั้นได้ แล้วจะมีประวัติศาสตร์หรือตำนานจารึกอยู่ได้ยังไง พวกมันก็แค่ปล่อยข่าวลวง ยังไงซะ

พวกมันต้องกลับไปที่โบราณสถานอัลฟ์แน่เพื่อเร่งหาข้อมูลมาเพิ่มเติม และการตีความข้อมูลก็ต้องอาศัยพวกนักวิจัย

เมื่อพวกนักวิจัยซึ่งเป็นคนของเราตีความอักษรพวกนั้น มีเหรอที่เราจะไม่รู้ไปด้วย เพราะฉะนั้นเราขึ้นภูดูเสือล่าอาหารอย่างสงบดีกว่า รอเวลาเสือเผลอเมื่อไร ก็ค่อยเก็บมันด็อกเตอร์ออร์คิดอธิบาย

อย่างนี้นี่เองด็อกเตอร์อุทสึกิร้องอ๋อ เขายังอ่อนด้อยเกินไปหากจะเทียบกับชายผู้นี้

อุทสึกิคุง ช่วยไปประโคมข่าวตีโพยตีพายเรื่องที่พวกเรารู้ว่ามันจะไปที่ชิโรเก็น แล้วก็ส่งคนไปที่ภูเขาชิโรเก็นให้มากๆล่ะ ขัดขวางพวกมันให้ถึงที่สุด ถ้าจับพวกมันได้ก็ให้จับกลับมาให้ได้มากที่สุดผู้เฒ่ามังกรเสริม

เอ๋แต่ที่นั่นมันที่ที่พวกมันแค่ปล่อยข่าวลวงนี่ครับ ถึงพวกมันส่งคนไปจริง ก็แค่ส่งไปเล่นๆเท่านั้นแหละครับด็อกเตอร์อุทสึกิพูดอย่างงุนงง คนพวกนี้มีความคิดลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้

จะแกล้งโง่ทั้งที มันก็ต้องโง่ให้สมบูรณ์แบบสิ อุทสึกิคุงผู้เฒ่าหัวเราะหึหึ ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ดวงตาเรียวยาวเปิดออกเล็กน้อย ฉายแววความฉลาดลึกล้ำที่ไม่อาจสัมผัส แม้ด็อกเตอร์อุทสึกิจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้เฒ่ามังกรต้องการสื่อแต่ด็อกเตอร์ออร์คิดกลับหัวเราะอย่างพออกพอใจ

ฮ่าๆๆๆ ท่านจะขี้เล่นไปแล้ว ท่านผู้เฒ่า

สมกับเป็นด็อกเตอร์ออร์คิดจริงๆ มองออกจริงๆด้วยผู้เฒ่ามังกรเอ่ยชม

นี่ๆ พูดอะไรกันน่ะครับ ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยสิครับด็อกเตอร์หนุ่มที่ไม่อาจตามทันความคิดของสองเฒ่าได้แต่ถามด้วยความอยากรู้ที่มากล้น

ทำตามที่บอกเถอะด็อกเตอร์ออร์ยิ้ม

ค...ครับ

_______________________--

ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง

ดวงตากลมใส่ของเด็กสาวค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่เธอได้เห็นคือ เพดานหินมีแสงสีฟ้าใสเหมือนสีน้ำทะเลส่องมากระทบจนทั่ว ทั้งเวิ้งถ้ำกลายเป็นสีฟ้าใส แสงสีฟ้าเหล่านั้นสั่นไหวไปมาช้าบ้างเร็วบางราวกับเต้นรำอยู่บนผนังถ้ำ

เสียงน้ำกระฉอกสะท้อนไปมาอยู่ในถ้ำได้พอดีกับจังหวะการเคลื่อนไหวของแสงเหล่านั้นราวกับเป็นดนตรีประกอบการเต้นรำ ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามได้อย่างลงตัว

มารินค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง เด็กสาวรู้สึกว่าทั้งตัวของเธอเปียกชื้นไปหมด และเมื่อเธอก้มลงมองดูตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ชื้นมาก เธอพยายามไล่ทวนความทรงจำทั้งหมดก่อนที่จะตื่นขึ้นมา เธอโดนเกียราดอสโจมตีจนตกน้ำและ จากนั้นก็สำลักน้ำไม่รู้สึกอะไรอีก

มารินหันซ้ายหันขวามองสำรวจสภาพรอบๆเพื่อหาคำตอบ เธอกำลังนั่งอยู่บนกองพืชน้ำแห้งๆและนุ่มเหมือนฟางวางอยู่บนพื้นทรายละเอียดเหมือนทรายในหาดทรายริมทะเล ถ้ำที่เธออยู่กว้างขวางมาก ไม่ไกลจากตัวเธอเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ราวกับแม่น้ำย่อมๆ

น้ำในแม่น้ำไหลเอื่อยๆ หายไปเข้าไปยังอีกฝากหนึ่งซึ่งแสงอันน้อยนิดไม่อาจส่องถึง เธอยังพบอีกว่าแสงสีฟ้ารอบๆตัวเธอเกิดจากแสงที่สาดผ่านรอยแยกของหินขนาดใหญ่ กระทบผิวน้ำ และสะท้อนขึ้นบนผนังถ้ำ น่าแปลกอยู่อย่าง ขอบๆรอยแยกของหินที่แสงสาดผ่านเข้ามามีน้ำแข็งเกาะอยู่ด้วย

นิ้วมือเรียวสวยของเด็กสาวกวาดเข้าไปสัมผัสกับวัติถุบางอย่างข้างตัว มารินสะดุ้งพร้อมกับหันขวับ

ที่ข้างตัวเธอนั้น มีแม็กซ์เพื่อนชายของเธอกำลังนอนหลับอยู่ ร่างกายและเสื้อผ้าของเขาเปียกชื้นไม่ต่างจากเธอ ใบหน้าของเขาซีดแต่เด็กสาวไม่ทันสังเกต

แม็กซ์ แม็กซ์ ตื่นสิเด็กสาวร้องเรียกพลางเหย่าตัวเพื่อนชาย น้ำเสียงของเธอแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน หากแต่เธอมิได้แต่กังวลถึงการนอนหลับไม่ตื่นของเพื่อนชายเท่านั้น แต่ยังกังวลถึงเหตุผลที่เธอมาอยู่ที่นี่อีกด้วย เธอต้องการให้เขาตื่นมาเป็นเพื่อนเธอ อย่างน้อยจะได้อุ่นใจ หากแต่แม็กซ์ไม่ตื่นขึ้นมาตามคำเรียกร้อง

แม็กซ์ อย่าเล่นแบบนี้นะ

ในขณะที่มารินเริ่มใจเสีย เสียงน้ำกระฉอกอย่างแรงแทรกด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานก็ดังแว่วมา มารินหันหน้าไปตามเสียง ลาปรัสตัวหนึ่งว่ายน้ำอย่างรวดเร็วเข้ามาจากรอยแยกของหินพร้อมกับมิโดริบนหลังและปาจิริสุบนหัว ทั้งเด็กหญิง ปาจิริสุ และ ลาปลัสต่างดูสนุกสนาน

ลาปลัสหันมาทางมาริน สายตาของมันสะดุดอยู่ที่เธอ

ตื่นแล้วเหรอ สลบไปนานเหมือนกันนะเสียงๆหนึ่งดังขึ้นในหัวของมาริน เด็กสาวหันซ้ายหันขวาอย่างงุนงง เสียงนั้นเป็นเสียงโทนต่ำ ไม่ใช่เสียงของมิโดริแน่ๆ และต่ำกว่าเสียงของแม็กซ์ด้วย

ฮะๆๆ ไม่ต้องงงหรอก เสียงฉันเองแหละ ลาปลัสข้างหน้าเธอไงเสียงนั้นดังขึ้นอีก มารรินงุนงงมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เสียงนั้นเป็นเสียงของลาปลัส? โปเกมอนพูดได้? จะเป็นไปได้ยังไงกัน

นี่ๆ โคร่า พาฉันขึ้นฝั่งทีสิมิโดริพูดกับลาปลัสตัวนั้น

ได้สิๆเสียงนั้นดังขึ้นในหัวมารินอีก ลาปลัสเคลื่อนไปบนน้ำเหมือนไถลจนมาฝั่งมิโดริกับปาจิริสุกระโดดลงมาด้วยท่าทีที่ร่าเริงเช่นปกติของเธอ

มาริน นี่คือโคร่าเป็นลาปลัสพูดได้ที่ช่วยพวกเราจากเกียราดอสไว้ล่ะมิโดริแนะนำพร้อมกับตบคอลาปลัสอย่างสนิทสนม

เอ๋ ลาปลัสพูดได้?มารินขมวดคิ้วอย่างสังสัย เธอลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาลาปลัสแบบกึ่งระแวงกึ่งอย่างอยากรู้

มีคำถามเยอะเลยสิลาปลัสจ้องมองหน้าเธอด้วยสายตาที่เข้าใจ สายตาของมันอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนคุณตาที่ใจดี

นาย...ชื่อโคร่าเหรอ มารินถามตะกุกตะกัก ในใจของเธอไม่คิดเลยว่าลาปลัสจะตอบกลับมาได้ แต่มันตอบกลับมาจริงๆ

ใช่ ฉันชื่อโคร่า อาศัยอยู่ในถ้ำใต้ดินนี้มา...ไม่รู้สิ ไม่มีปฏิทินน่ะเสียงเดิมดังขึ้นในหัวของมารินอย่างมีอารมณ์ขัน เธอเห็นอย่างชัดเจนว่าลาปลัสไม่ได้ขยับปากแต่อย่างใด ในขณะที่เสียงนั้นดังขึ้นในหัวของเธอ

นายพูดได้ยังไงน่ะ ปากก็ไม่ได้ขยับนี่มารินถามทันควัน

เทเลพาธีน่ะ ฉันมีชีวิตอยู่มานานจนใช้พลังจิตได้ลาปลัสตอบ

แล้วที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังแบบละเอียดได้มั้ยมารินเริ่มคลายความระแวง เธอซักถึงเหตุการณ์ทั้งหมด

ฉันเองๆ ฉันเล่าเองมิโดริชูมือกระโดดอย่างกระตือรือร้น

ฮ่าๆๆ เอาสิมิโดริลาปลัสยิ้มให้เด็กหญิงอย่างเอ็นดู

ก็เมื่อคืนหลังจากเกียราดอสสีแดงสีแดงนิสัยไม่ดีตัวนั้น พุ่งเข้ากระแทกสะพานจนพวกเราตกน้ำ โคร่าก็โผล่ขึ้นมา จัดการแช่แข็งเกียราดอสอันธพาลแล้วก็เทเลพอร์ธมาพวกเรามาที่นี่ แม่น้ำใต้ดินระหว่างบ่อน้ำยาดอนกับถ้ำเชื่อมต่อยังไงล่ะ พวกเราน่ะสลบไปเกือบวันเลยนะ ฉันเพิ่งฟื้นมาก่อหน้านี้ 2-3 ชั่วโมงเอง

เอ๋~ เทเลพอร์ธเหรอ นั่นมันเทคนิคของโปเกมอนพลังจิตนี่นามารินร้องอุทานอย่างแปลกใจ

ใช่ แต่ฉันอยู่มานานจนสามารถใช้พลังจิตได้ทุกรูปแบบเลยล่ะ แต่ยังใช้โจมตีไม่ได้หรอกนะ ฮะๆๆเสียงของลาปลัสยังคงอารมณ์ดีเสมอ เธอน่ะ ถอดเสื้อผ้าออกก่อนเถอะ ใส่เสื้อผ้าเปียกๆมานานแล้ว มันจะไม่ดีต่อสุขภาพนะ ถึงจะใส่มาเกือบวันแล้วก็เถอะ แต่ยังดีกว่าใส่ต่อไปทั้งแบบนั้นนะ

อ๊ะ! จริงด้วยสิมารินก้มลงมองตัวเอง แต่เดี๋ยวสิ แล้วฉันจะใส่อะไรล่ะ กระเป๋าเสื้อผ้ายังอยู่ที่แหล่งตกปลาอยู่เลย

ไม่ต้องอายหรอก หรือถ้ายังไงก็ถอดเสื้อออกอย่างเดียวก็ได้ ยังดีกว่าปอดบวมนะ

นั่นสิๆ มาริน เธอไม่ต้องอายโคร่าหรอกมิโดริเสริม

ฉันไม่ได้อายโคร่า ฉันอาย...มารินหน้าแดงมองไปยังแม็กซ์ที่ยังนอนไม่ได้สติ หากเขาตื่นมาในตอนที่เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เธอคงอายจนไม่กล้าสู้หน้าเขาแน่

ฮะๆๆ นั่นสินะ ถ้างั้นแบบนี้ล่ะ

พูดจบลาปลัส ก็อ้าปากพ่นน้ำแสงสีฟ้าอมขาวไปยังรอยแยกของหินที่เป็นทางเข้าของแสง แผ่นน้ำแข็งปรากฏขึ้นตรงนั้นทันที ลาปลัสค่อยๆลากลำแสงออกมาจากตรงนั้นแผ่นน้ำแข็งก็ขยายตัวตามมาด้วย เพียงครู่เดียวแผ่นน้ำแข็งที่หนาและใหญ่ก็ถูกสร้างขึ้นล้อมพวกมาริน ไว้ พร้อมกับสะท้อนแสงทั้งหมดที่เข้ามาจากรอยแยกของหินมายังพวกพวกเธออีกด้วย ทำให้มารินรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที

แบบนี้พอได้รึเปล่าลาปลัสถามพลางยิ้ม

อ...อื้ม ขอบคุณมากเลยนะมารินก้มหัวขอบคุณ เด็กสาว จัดการถอดเสื้อนอกและ เสื้อยืดที่เปียกชื้นของเธอออก เหลือเพียงแต่ ชุดชั้นในและกางเกงสามส่วนของเธอเท่านั้น

หวาว มารินหุ่นดีจังเลยมิโดริพูดพลางจ้องเรือนร่างของมารินอย่างไม่วางตา

พูดอะไรน่ะ มิโดริ! แล้วอย่าจ้องมากสิถึงผู้หญิงด้วยกันฉันก็อายเป็นนะมารินหน้าแดง

แม็กซ์นี่โชคดีจัง

มิโดริ!คราวนี้มารินหน้าแดงก่ำเพิ่มเป็นทวีคูณ เธอทำเป็นแก้เขินด้วยการหันซ้ายมองขวาเพื่อหาที่สำหรับผึ่งเสื้อเอาไว้ ลาปรัสรู้ทัน มันสร้างลิ่มน้ำแข็งงอกออกจากกำแพงน้ำแข็งให้ๆตัวมาริน เด็กสาวรู้สึกเขินแกมดีใจ เธอหันมายิ้มให้ลาปลัสก่อนจะเอาเสื้อทั้งสองตัวพาดไว้กับลิ่มน้ำแข็ง แล้วทิ้งตัวนั่งแถวๆนั้น

มารินทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ มิโดริไม่วายถามต่อด้วยความไร้เดียงสา

ป...เปล่านี่มารินโกหกเอาซะดื้อๆ

นี่โคร่า แล้วนายทำไมมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ล่ะเธอรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มิโดริจะถามอะไรไปมากกว่านี้

อืมม์... เรื่องมันก็นานมาแล้วน่ะนะ ไหนๆก็ว่างๆ กัน ฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้

ว้าว เรื่องของโคร่าเหรอ ดีสิๆ อยากฟังเหมือนกันการเบี่ยงประเด็นของมารินสำเร็จ มิโดริออกอาการสนใจเรื่องของโคร่าจนไม่สนใจจะถามอะไรจากเธออีก

ฮะๆ เขินเหมือนนะ ไม่ได้เล่าเรื่องชีวิตของตัวเองให้คนฟังนานแล้ว เป็นร้อยปีแล้วมั้ง เอ แต่ฉันก็ไม่ได้เจอกับคนมาเป็นร้อยปีแล้วนี่นา ฮะๆๆลาปลัสไม่วายติดตลกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเล่า

ฮะๆๆๆ โคร่าเนี่ยตลกจังเลย รีบๆเล่าเร็วๆสิมิโดริเร่งด้วยความอยากรู้

เรื่องมันก็ ... หน้าผาริมทะเลแห่งหนึ่งทางตะวันออก ที่นั่นเป็นที่ตั้งของบ้านของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งชื่อว่า ด็อกเตอร์ดาด้า

____________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 14 ความทรงจำ

ริมทะเลทางตะวันออกที่ห่างไกลออกไปในถนนน้ำลาย 41 ใกล้ๆกับเมืองทัมบะซิตี้ซึ่งเป็นเกาะที่ห่างไกลออกไปในทะเล ลาปลัสตัวหนึ่งกำลังลอยคออยู่ในทะเลๆใกล้ๆชายฝั่ง มันชะเง้อมองเข้าไปในตัวเมืองที่อยู่ไกลออกไปลิบๆ เป็นระยะๆ ด้วยสายตามีเต็มไปด้วยความหวังที่ราวกับว่ามันกำลังรอใครอยู่ และแล้วเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น รอยยิ้มกว้างแห่งความดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลาปลัส

โคร่าๆ ดูนี่สิฉันเจออะไรมาชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนเนินหินที่อยู่ถัดจากหาดทรายออกไป เขามีร่างเล็กกว่าคนทั่วไป ลำตัวสั้นป้อม ศีรษะใหญ่เกินตัวใบหน้ากลม สวมแว่นหนาเตอะ หัวล้านเหลือแต่ผมบริเวณรอบๆหูและท้ายทอย ท่าทางของเขาดูเหมือนคนที่สติไม่ค่อยดีเท่าไร เขาคือด็อกเตอร์ดาด้า นักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นเจ้าของลาปลัส ในอ้อมแขนของเขาหอบเอาหนังสือมาด้วยหลายเล่ม หนาบางต่างกันไป แต่มีอยู่เล่มหนึ่งที่เขาชูโบกไปมาด้วยท่าทางที่เหมือนเด็กอยากจะอวดผลงานที่โรงเรียนให้พ่อแม่ดู

เขาวิ่งลงเดินมาหาลาปลัส เปิดกางหนังสือเล่มนั้นบนหาดทรายตรงหน้าลาปลัส ที่ขึ้นมาอยู่บนฝั่งแล้ว

นี่ไงๆเมืองใต้น้ำ โอแลนโด้เขาพูดอย่างภาคภูมิใจพร้อมชี้ลงบนใบหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยน้ำหมึก ลาปลัสชะโงกหน้ามองอย่างสนใจ

มันเป็น ตำนานของเมืองใต้บาดาลที่ว่ากันว่าเมื่อ หลายร้อยปีที่แล้ว เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาก่อน น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ แต่อย่าคิดว่าฉันจะสนใจตำนานหลักลอยนะ ยังไงๆ ฉันก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่นี่มันไม่ใช่ตำนานหลักลอยนี่สิ มันมีหลักฐาน

ด็อกเตอร์ดาด้า เริ่มเอาหนังสืออีกหลายเล่มที่หอบมาด้วยออกมาไล่เปิดทีละเล่มๆ อธิบายสิ่งที่เขาได้พบเจอแก่ลาปลัสอย่างตื่นเต้น

มีประวัติศาสตร์ยืนยันว่ามีเมืองนั้นอยู่จริงๆ ดูนี่สิๆ ดูที่เล่มนี้ เห็นมั้ยมีการขุดพบซากบ้านเรือนที่เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของเมืองโอแลนโด้ด้วยนะ เป็นยังไงล่ะ โคร่าน่าสนใจใช่มั้ย

ลาปลัสชูคอส่งเสียงร้องด้วยสีหน้าระรื่น มันเห็นด้วยกับผู้เป็นนายของมัน

นี่แกก็เห็นด้วยใช่มั้ยโคร่า ดีเลยๆ ถ้าอย่างนั้นแผนการต่อไปของฉันคือการบุกเข้าไปสำรวจเมืองโบราณ โอแลนโด้ ถ้าค้นพบ มันก็จะเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่! ฉันแทบรอวันนั้นไม่ได้แล้ว โคร่าด็อกเตอร์ตื่นเต้นเสียงจนเสียงสั่น

เอาล่ะโคร่า เรามาเริ่มหาข้อมูลของเมืองนี้กันเถอะ!

ลา

จากนั้น แทบทุกวันคืน ด็อกเตอร์ดาด้าก็ใช้เวลาทั้งหมดให้กับการค้นคว้า ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมืองใต้บาดาล โอแลนด้า จนกระทั่งเขาพร้อมและมั่น ใบประกาศรวบรวมนักสำรวจจากทั่วสารทิศเพื่อเริ่มการสำรวจ ถูกกระจายไปทั่วเมือง จนวันหนึ่ง...

ด็อกเตอร์ดาด้ากำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือของเขา เสียงกระดิ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น

โอ๊ะโอ ใครมากันล่ะเนี่ยเขาพูดพลางปิดหนังสือ กระโดดลงจากเก้าอี้ เดินผ่านห้องทำงานที่มีแต่หนังสือเต็มไปหมด ผ่านห้องรับแขกที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร

ประตูบ้านของเขาเปิดออก ผู้ที่อยู่หลังประตูบานนั้นเป็นชายร่างใหญ่ผิวกร้านแดด ลำตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ไว้ผมสั้นเกรียน สวมเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมง แววตาส่องประกายความเจ้าเล่ห์อยู่ข้างใน

คุณเป็นใคร มีธุระอะไรกับฉันเหรอ?ด็อกเตอร์ถาม

ผมคอนตัส ผมเห็นประกาศรับสมัครหน่วยสำรวจเมืองโบราณของคุณแล้วเกิดสนใจ ขอเข้าไปคุยกันข้างในได้มั้ยชายผู้นั้นพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่กระชับตรงไปตรงมา ไม่มีท่าทีอ้อมแอ้มเช่นคนที่เคยพบกันครั้งแรก แต่ด็อกเตอร์ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเขาหลีกทางให้คอนตัสเข้ามาในห้องรับแขกที่ค่อนข้างรกของเขา คอนตัสถือวิสาสะนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่ง ด็อกเตอร์ดาด้านั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกัน

นี่มาคนเดียวหรือว่าเป็นกลุ่มล่ะด็อกเตอร์ดาด้าเริ่มถามก่อน

ผมมีกลุ่มนักสำรวจอยู่ยี่สิบคน พวกเราเคยผ่านประสบการณ์การปีนเขา ขุดถ้ำ รวมถึงเดินป่ามาแล้ว เรื่องฝีมือไว้ใจได้ แต่ประเด็นสำคัญคือ ค่าตอบแทนตอนคัสพูดอย่างตรงไปตรงมา

เรื่องนั้นฉันคิดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงๆด็อกเตอร์ดาด้าตอบแบบสบายๆ ต่างกับคอดตัสที่มีท่าทีเคร่งเครียด จะไม่มีการจ่ายค่ามัดจำ แค่มีค่าตอบแทนหลังทำงานเสร็จแล้วคนละ 1 แสน นั่นอาจจะดูน้อยไป แต่ถ้างานนี้สำเร็จลุล่วง นั่นหมายถึง เราพบเมืองโบราณโอแลนโด้ สมบัติทั้งหมดในเมืองนั้น ฉันจะยกให้พวกนายทั้งหมด ถึงไม่มีสมบัติ แต่วัตถุโบราณคงจะขายได้ราคาดีไม่น้อย เป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่าใช่มั้ย

คอนตัสนิ่งเงียบ เขาครุ่นคิดพลางเอามือลูบคางเบาๆ เขากำลังพิจารณาถึงราคาค่าตอบแทนที่เสนอมา

พวกเราไม่เอาค่าตอบแทน 1 แสน แต่ขอค่าเตรียมอุปกรณ์จะได้มั้ย เพื่อให้งานนี้ลุล่วงไปด้วยดี ผมจะต้องใช้อุปกรณ์ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ

จะเอาแบบนั้นเหรอ? งั้นก็ได้ด็อกเตอร์ดาด้าตอบตกลง

ตกลง แล้วเราจะเริ่มสำรวจกันที่ไหน

ด็อกเตอร์ดาด้าตอบทันควัน

ถ้ำใต้ถ้ำเชื่อมต่อ ฮิวาดะทาวน์

_______________-

หลายวันต่อมา

การขุดสำรวจถ้ำเชื่อมต่อเริ่มขึ้นแล้ว พวกเขาขุดโดยอาศัยสันนิษฐานจากการค้นคว้าของด็อกเตอร์ดาด้าเป็นหลัก การขุดถ้ำดำเนินไปวันแล้ววันเล่า ใช้ทั้งแรงคนและแรงโปเกมอนอย่างไซดอน แซนแพนและดั้กทรีโอของทีมสำรวจ รวมถึงการใช้ลาปลัสของด็อกเตอร์ดาด้า ในการสำรวจใต้น้ำ

วันเดือนผ่านไปพวกเขาแทบไม่พบร่องรอยอะไรเลย จนความหวังเริ่มมลาย กำลังใจสูญหาย เหล่าทีมสำรวจเริ่มหมดกำลังใจจะขุดต่อไป พวกเขาโอดครวญถึงบ้ายและครอบครัว ทุกอย่างถูกฝืนมาจนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัว คอนตัสต้องมาคุยกับด็อกเตอร์ดาด้า ในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในถ้ำที่ขุดลงไป

ด็อกเตอร์ ดูเหมือนงานนี้จะเหลว คุณจะยกเลิกงานเลยรึเปล่าคอนตัสพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก

อะไรกัน คนหนุ่มสมัยนี้ ไม่มีความมานะกันเลยเรอะ พยายามกันอีกนิดเถอะด็อกเตอร์ดาด้าต่อว่าแกมขอร้อง

แต่พวกเราขาดกำลังใจกันหมดแล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงทำงานกันไม่ได้ เว้นเสียแต่ จะมีกำลังใจเพิ่ม

หมายความว่ายังไงกัน?ด็อกเตอร์เริ่มสงสัยในคำพูดของคอนตัส

ถ้ามีเงินเพิ่มพวกเขาก็อาจจะมีกำลังใจเพิ่มคอนตัสตอบแบบตรงๆไม่อ้อมค้อม

เฮ้อ ช่วยไม่ได้นะ เอางั้นก็ได้เงิน คนละ 1 แสน รอรับหลังจากเสร็จงานนี้ด็อกเตอร์ดาด้าถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เป็นพระคุณอย่างยิ่งครับคอนตัสโค้งหัวให้ เขารีบหันหลังมาเพราะมิอาจซ่อนรอยยิ้มกระหยิ่มและดวงตาที่เต็มไปด้วยความละโมบไว้ต่อไปได้ คนนี้ช่างใจป้ำดีจริงๆ เหมาะกับการขูดรีด

ลาปลัสที่กำลังลอยคออยู่ในแม่น้ำใต้ดินแถวๆนั้น รับรู้ได้ถึงจิตใจที่สกปรกของนักสำรวจผู้นี้ มันมองมาทางด็อกเตอร์ดาด้าด้วยสายหากึ่งเตือนกึ่งห่วงใย ด็อกเตอร์ดาด้ารู้ดีว่าลาปลัสหมายความว่ายังไง เขาได้แต่ถอนหายใจแล้วตอบว่า

ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกโคร่า ฉันรู้สันดานคนพวกนี้ตั้งแต่มาขอสมัครแล้วล่ะ วันแรกเขามาขอเบิกเงินค่าอุปกรณ์ เป็นธรรมดาที่ยิ่มเบิกเกินจริง แต่เรื่องเงินพวกนั้นช่างมันเถอะ ขอแค่ฉันได้เจอเมืองใต้บาดาลก็พอแล้ว

ลาปลัสมองเข้าไปในตาที่ดูเหม่อลอยของด็อกเตอร์ดาด้าอย่างสงสัย มันพยายามอ่านว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมเขาถึงต้องทุ่มเทเพื่อเมืองบาดาลขนาดนั้น

อยากรู้เหรอโคร่าด็อกเตอร์ดาด้าจ้องตาลาปลัสกลับ ลาปลัสพยักหน้าช้าๆ

เรื่องมันยาวน่ะ ขอหาที่นั่งหน่อยนะด็อกเตอร์ดาด้าพูดพลางหย่อนก้นลงนั่งพิงหินก้อนหนึ่ง เขายกกระติกน้ำแบบพกพาที่แขวนอยู่ที่เอวขึ้นมาดื่ม 2-3 อึก แล้วเริ่มจึงเล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคิดถึง

คิดถึงในบุคคลที่อยู่ในเรื่องเล่า...

เมื่อตอนฉันยังเป็นเด็กน่ะ ฉันเคยไปเที่ยวที่ทะเลแถวๆเกาะน้ำวน อย่างที่รู้ว่ากระแสน้ำแถวๆนั้นแรงมาก ด้วยความคึกคะนอง ฉันเลยคิดจะท้าทายมัน ฉันว่ายเข้าไปในที่ที่น้ำลึกๆ แล้วฉันก็ถูกกระแสน้ำของที่นั่นดูดเข้าไป ฉันจมน้ำและไม่มีใครเห็นเลย ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันตายแน่แล้ว ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากในตอนนั้น เงาขนาดยักษ์ของสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ใต้ทะเล แล้วจากนั้นฉันก็สลบไป รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่บนฝ่งท่ามกลางญาติพี่น้อง จากนั้นฉันก็เลยศึกษาค้นคว้าเพื่อจะหาว่า สิ่งที่ช่วยฉันวันนั้นคืออะไร แล้วฉันก็เจอ... มันไม่น่าเชื่อ แค่ฉันคิดว่าฉันไม่ได้ตาฝาด...

ด็อกเตอร์หยุดเว้นวรรคนิดหนึ่ง

สิ่งนั้น คือลูเกีย ราชาแห่งท้องทะเล และผู้นำของเหล่านกในตำนาน ตามตำนานกล่าวไว้ ลูเกียได้สะกดพลังของตัวเองไว้และหลับใหลใต้บาดาลแห่งหนึ่ง ซึ่งฉันคิดว่าถ้าฉันเจอเมืองใต้บาดาล ฉันอาจจะเจอกับลูเกียอีกครั้งก็ได้

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้สีหน้าของด็อกเตอร์ก็เปี่ยมไปด้วยความหวัง เขายิ้มอย่างมีสุขที่สุด ลาปลัสไม่รู้จะว่าอะไรได้มันนิ่งเงียบ ถ้าเขามีความสุขกับสิ่งที่ทำแล้วก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป

การขุดดำเนินต่อไป จนกระทั่ง ...

เฮ้ ลูกพี่มาดูนี่สิเสียงของนักสำรวจคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่พบตรงหน้า เขากวักมือเรียกคอนตัสรัวๆ โดยมิอาจถอนสายตาจากสิ่งตรงหน้าได้แต่อย่างใด

อะไรของแกคอนตัสพูดพลางเดินก้าวยาวๆข้ามพื้นถ้ำที่ขรุขระเข้าไปหาลูกน้องคนนั้น เขามีท่าทีรำคาญๆมากกว่าอยากรู้เสียอีก ในหัวของเขาไม่คิดเลยว่าการขุดครั้งนี้จะเจออะไรดีๆได้ แต่แล้วเขาก็ต้องตาลุกวาวไม่ต่างจากลูกน้องของเขาเมื่อพบกับสิ่งตรงหน้า

ดิ้กทรีโอตัวหนึ่งใช้หัวทั้งสามของมันชูหินก้อนหนึ่งขึ้นมา มันดูคล้ายกับหินอัคนีก้อนใหญ่ๆ ธรรมดาก้อนหนึ่ง แต่ที่ไม่ธรรมดา คือผลึกแก้วที่ฝังอยู่ในหินก้อนนั้น มันส่องประกายวาววับน่า สะท้อนแสงไฟจากดวงไฟที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ดูสวยงามและน่าดึงดูด

น...นี่มัน คริสตัลนี่คอนตัสตาลุกวาวทันที เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย นี่คงไม่ใช่ฝัน มันไม่ใช่ฝันแน่ๆ คอนตัสไม่รอช้าหันมาตะโกนสั่งลูกน้องที่เหลือทันที

พวกเรา! เอาไซดอนมาทางนี้ ทั้งหมดเลย เราเจอของดีเข้าแล้วเว้ย

ด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลของไซดอน ไม่นานนัก รอบๆตัวของพวกนักสำรวจก็เต็มไปด้วยหินที่ส่องประกายแวววาวเหมือนดั่งแววตาละโมภของพวกเขา บางคนถึงกับทิ้งตัวนอนลงไปในกองหินพวกนั้น นอกจากที่ขุดมากองไว้แล้ว ยังมีอีกมากที่ฝังอยู่ในผนังถ้ำ แสงประกายจากคริสตัล ส่องประกายแวววาวไปหมด จนที่นี่เหมือนเป็นแดนสวรรค์สุขาวดีสำหรับเหล่านักสำรวจ

เสียงดังเชียว เจออะไรเข้างั้นเหรอเสียงของด็อกเตอร์ดังออกมาจากอีกด้านหนึ่งของผนังถ้ำ ลำแสงแช่แข็งสาดเข้ามาในคูหาถ้ำที่พวกนักสำรวจกำลังดีใจกันอยู่ ตามด้วยถนนน้ำแข็งก่อตัวขึ้นเป็นทางยาว ลาปลัสซึ่งมีด็อกเตอร์อยู่บนหลังไถลมากับทางนั้น

โอ้เจอ ของดีเลยนี่นาด็อกเตอร์ดาด้าเองก็อดตกตะลึงไม่ได้กับภาพตรงหน้าเช่นกัน เขากวาดสายตามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ลาปลัสเองก็เช่นกัน

เฮ้ๆ อย่าสาดลำแสงแช่แข็งเข้ามามั่วๆสิ เดี๋ยวก็โดนของพังเสียหายพอดีนักสำรวจคนหนึ่งบ่นโวยวายขึ้นพร้อมกับรีบคว้าหินที่มีคริสตัลฝังอยู่ให้พ้นออกมาจากถนนน้ำแข็งอย่างหวงแหน อนิจจา ความโลภครอบงำเขาเสียแล้ว

นี่ๆ ด็อกเตอร์ พวกเราหยุดการขุดอยู่ที่นี่เถอะนะ พวกเราไม่ต้องการสมบัติในเมืองบาดาลแล้ว พวกเราเจอสมบัติที่นี่แล้วนักสำรวจอีกคนหนึ่งเสนอขึ้น ในดวงตาของเขามีแต่ภาพของคริสตัลอยู่เต็มไปหมด หาใช่ความรักความชอบความหลงใหล แต่เป็นความละโมบในค่าของสิ่งของมีค่านี้

นั่นน่ะสิด็อกเตอร์ ที่นี่มีค่ายิ่งกว่าเมืองบาดาลเสียอีก เราหยุดอยู่ตรงนี้แล้วขุดเอาคริสตัลพวกนี้ไปขายกันเถอะคอนตัสเสริม

ของพวกนี้ท่าทางจะขายได้ราคาดีนะด็อกเตอร์พูดพลางเดินสำรวจไปรอบๆ คำพูดของด็อกเตอร์ทำให้สีหน้าของพวกนักสำรวจดีขึ้นทันตาเห็น

แต่ว่า...เราจะหยุดแค่นี้ไม่ได้ เราจะไม่หยุดจนกว่าจะเจอเมืองใต้บาดาล โอแลนโด้

พลันสีหน้าของพวกนักสำรวจเปลี่ยนไปทันที พวกเขาพากันถอดสีหน้าไปตามๆกัน บ้างก็ส่งเสียงโฮ่ไม่พอใจ

ทำไมล่ะด็อกเตอร์ ทำไมต้องไล่ตามหาเมืองที่มีแค่ในตำนานนั่นอีก เราไม่จำเป็นต้องหาสมบัติจากเมืองนั่นอีกแล้ว ตอนนี้เราได้สมบัติแล้วคอนตัสแย้งทันควัน

ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันไม่ได้หวังสมบัติอะไรนี่แต่แรกแล้ว ไปกันเถอะโคร่า พวกนายก็เหมือนกัน เก็บข้าวเก็บของ ฉันขีดเส้นทางต่อไปไว้แล้วด็อกเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เขาไม่มีความเสียดายแม้แต่น้อยในสมบัติเบื้องหน้านี่ เมื่อพูดจบเขาก็ขึ้นหลังลาปลัส ออกจากคูหาไปทันที ทิ้งไว้แต่พวกนักสำรวจที่ล้วนจมอยู่ในความผิดหวัง บรรยากาศของพวกเขามีแต่ความสลด ในที่สุดก็มีนักสำรวจคนหนึ่งทำลายความเงียบ

ลูกพี่ เราจะต้องทิ้งสมบัติพวกนี้ไปจริงๆน่ะเหรอน้ำเสียงและสีหน้าของเขาแสดงความเสียดายออกมาอย่างชัดเจน

ไม่...เราจะไม่ทิ้งมันคอนตัสกัดฟันตอบด้วยน้ำเสียงที่แฟงไปด้วยอารมณ์ร้าย ต่างกับนักสำรวจคนอื่นที่กำลังเศร้าเสียดาย สีหน้าของเขานิ่งขรึมอย่างน่ากลัว ดวงตาเจ้าเล่ห์นั้นบ่งบอกว่าเขาเริ่มมีแผนการบางอย่างวิ่งแล่นอยู่ในหัว แผนการที่จะให้ได้มาซึ่งคริสตัลทั้งหมดนี่

_____________________-

คอนตัสกับด็อกเตอร์ดาด้าเดินเลียบริมแม่น้ำใต้ดินไปบนทางที่แคบและมีแต่หินงอกหินย้อย ทำให้การเดินลำบากและต้องระวังเท้าตลอดเวลา ในแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ อยู่ข้างพวกเขามีลาปลัสว่ายช้าๆ เคียงไปกับทั้งสองในมือคอนตัสมีไฟฉายอยู่อันหนึ่ง พวกเขามีแสงนี้เท่านั้นเป็นเครื่องชี้ทาง

พวกเราเจอสิ่งที่น่าสนใจ เป็นเอ่อ... หลุมลึกลงไปใต้น้ำ คิดว่าน่าจะเป็นเบาะแสอย่างดีคอนตัสบอกพลางก้าวเดินไปเรื่อยๆ

จริงเหรอ คราวนี้เราอาจจะเจอเมืองใต้บาดาลแล้วก็ได้ด็อกเตอร์พูดอย่างตื่นเต้น แต่ลาปลัสกลับส่งสายตามองคอนตัสอย่าสงสัย มันรู้สึกไม่ไว้ใจชายผู้นี้เลย แต่จะทำยังไงได้...

นั่นไง ตรงลานกว้างข้างหน้านั่นคอนตัสใช้แสงจากไฟฉายชี้ไปยังลานหินกรวดที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ตรงนั้นเป็นที่เรียบแคบๆ ต่างทางหินขรุขระที่พวกเขาเดินอยู่ตอนนี้ลิบลับ คอนตัสก้าวไปยืนที่ริมฝั่งแม่น้ำ ตรงที่โล่งนั้น เขาใช้ไฟฉายชี้ลงไปในน้ำ

ตรงนี้แหละครับด็อกเตอร์ พวกเรา ลองเอาไม้ที่ยาวที่สุดกว่า 6 เมตรแหย่ลงไปก็ยังไม่ถึงก้นเลยเขาบอก

โอ้ แบบนี้ก็น่าจะมีหวังนะด็อกเตอร์ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก เขาคุกเข่าลงที่ริมแม่น้ำเพ่งมองลงไปยังใต้น้ำที่มืดสนิทพลางขยับแว่นอย่างสนใจ

โคร่ามานี่สิ ลองดำน้ำลงไปดูหน่อยนะด็อกเตอร์ดาด้ากวักมือเรียกลาปลัสเข้าไปใกล้ ลาปลัสว่ายน้ำเข้าไปพลางแอบเหลือบมองคอนตัส ชายหนุ่มมีท่าทีที่นิ่งสนิท ไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่แล้ว หูของลาปลัสก็จับเอาเสียงของโลหะกระทบกันดังแกร็กได้ มันรีบหันซ้ายหันขวาด้วยความตกใจ

เป็นอะไรไปโคร่าด็อกเตอร์ดาด้าถามเมื่อเห็นอาการผิดปกติ

ลาปลัสพยายามกวาดสายตาของมันไปรอบๆ แต่ก็มีแต่ความมืด ไม่มีวี่แววของการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น มันส่ายหัวตอบด็อกเตอร์ดาด้า แล้วก้มคอลงเตรียมที่จะดำน้ำลงไป

ทันใดนั้นแสงไฟฉายของคอนตัสก็ลาดต่ำลงมาส่องที่ด็อกเตอร์ดาด้าพร้อมกับรอยยิ้มแสยะ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เสียงกัปนาทดังขึ้นจนหูชาไปหมด ด็อกเตอร์ดาด้า ลืมตาโพลงอ้าปากค้าง ล้มตุบลงกับพื้นข้างตัว ลาปลัสที่เอาหัวจุ่มน้ำไปแล้วรีบยกหัวขึ้นทันที มันแผดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงกัมปนาทดังขึ้นอีกครั้ง มันรีบก้มหัวหลบ พร้อมกับคาบเอาตัวด็อกเตอร์ดาด้าที่ล้มลงไปขึ้นวางไว้บนหลังมัน

ยิงๆ มัน อย่าให้พวกมันหนีไปได้คอนตัสตะเบ็งเสียงสั่นพร้อมกับฉายไฟมาที่ลาปลัส ลาปลัสเข้าใจทุกอย่างได้ทันที คอนตัสไม่พอใจที่ด็อกเตอร์ไม่ให้พวกเขาขุดคริสตัลต่อจึงวางแผนลอบสังหารครั้งนี้

เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ลาปลัสพ่นไอหมอกสีขาวอุ่นออกมาจากปาก สายหมอกกระจายออกมาจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

ยิงมันๆคอนตัสรีบสั่งไม่หยุดปาก เสียงปืนดังกระหน่ำจนก้องไปทั่วทั้งถ้ำ

จนเมื่อหมอกจางหายไป พวกเขาจึงรู้ว่าลาปลัสพานายของมันหนีไปนานแล้ว

บ้าชิบ!คอนตัสสบถ แต่ก็ช่างเถอะ มันคงกลับมาไม่ได้อีกแล้ว

________________-

ท่ามกลางความมืด ลาปลัสใช้ประสาทสัมผัสทางกายคลำทางไปเหมือนตาบอด ค้นหาฝั่งที่ปลอดภัยแล้วคาบตัวด็อกเตอร์วางลงบนพื้น มันรีบใช้ปากควานเข้าไปในกระเป๋าเป้ของด็อกเตอร์คาบเอาไฟฉายออกมา แสงสว่างเล็กๆ กลับมาสู่ทั้งสองอีกครั้ง

ด็อกเตอร์ดาด้าอยู่ในสภาพที่หายใจหอบหนักๆ ทั้งตัวซีดเซียวเหมือนไม่มีเลือด เสื้อซีกซ้ายเปียกโชกไปด้วยโลหิตสีแดงคล้ำ เขาถูกยิงเข้าอย่างจัง ลาปลัสมองบาดแผลนั้นด้วยความตกใจและกังวล แต่มันก็ไม่รู้จะทำยังไง มันส่งเสียงร้องลนลานด้วยความกลัวและความหวั่นวิตก จนกระทั่งด็อกเตอร์ต้องปลอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

โค...ร่า ไม่ต้องกังวลหรอก หากฟ้าลิขิตให้ฉันตายแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ห้ามไม่ได้

ลาปลัสมิอาจยอมรับในคำนั้น มันส่งเสียงร้องอันเศร้าสลดดังลั่น น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลรินอาบแก้ม

โคร่า... อย่าร้องสิ ดูสิแกเองก็ถูกยิงนี่นา ส่งเสียงมากไปเดี๋ยวอาหารหนักขึ้นหรอกด็อกเตอร์ สังเกตเห็นคราบเลือดจำนวนมากที่ต้นคอและบริเวณไหล่ของลาปลัส เขาพูดปลอบมันโดยไม่ที่คิดถึงชีวิตตัวเองเลย

ลาปลัสส่ายหน้าทำนองว่าไม่เป็นไร มันเลียคราบเลือดพวกนั้นออกไปแล้วสร้างน้ำแข็งอุดปากแผลเอาไว้

แกนี่... นี่จังนะ รักษาตัวเองได้ด้วยด็อกเตอร์ยิ้มให้ทั้งๆที่ลืมตาไม่ไหวแล้ว เขาหายใจหอบหนักขึ้นทุกทีๆ ลาปลัสส่งเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง มันคาบด็อกเตอร์ขึ้นหลังอีกครั้ง

ไม่ต้องหรอกลาปลัส ไม่ต้องดิ้นรนเพื่อฉันอีกแล้ว ถ้าแกไม่ฟังฉัน ฉันจะกระโดดลงน้ำตายซะตอนนี้แหละ

คำขู่ของด็อกเตอร์ดาด้า ทำให้ลาปลัสต้องยอมจำนน

ลาเสียงของมันดังค่อยๆ เหมือนกำลังสะอึดสะอื้น

โคร่า ... คนเราเกิดมาควรดีใจที่ได้มีชีวิตอยู่ ตลอดชีวิต...ฉันไม่เคยเสียใจเลย แต่วันนี้...ที่ต้องตายที่นี่ ฉัน..น้ำเสียงของด็อกเตอร์เริ่มขาดๆหายๆ เขาได้แต่นอนแผ่หลาอยู่บนแผ่นหลังที่แข็งกระด้างของลาปลัส น้ำตาเริ่มคลอ

ฉัน...ฉันเชื่อว่าลูเกียต้องมีจริง ฉันเชื่ออย่างนั้น ฉัน...เชื่อด็อกเตอร์ดาด้ากัดฟันสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพรากจากดวงตาที่ปิดแน่น ฉัน...ฉันไม่อาจจะทำความฝัน...ให้เป็นจริงได้...นี่คือสิ่งเดียวที่ฉันเสียใจ โคร่า

ลาปลัสมิอาจแสดงอาการอื่นใดได้นอกจากโศกเศร้า น้ำตาของมันไหลพรากเช่นกัน มันเอี้ยวคอมาซบหน้ากับนายผู้แสนซื่อบนหลังมัน

ช่วยฉันที...จะ...ได้มั้ย...ตามหา...ลู...

เสียงของด็อกเตอร์ดาด้าขาดหายลงแค่นั้น... ลาปลัสรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นี่เป็นสิ่งที่มันไม่อยากรู้เลย เสียงแผดร้องดังขึ้นทั่วก้องพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก

_________________-

มารินยกมือขึ้นปิดปากดวงตาเบิกโพลงด้วยความสะเทือนใจ ส่วนมิโดรินั้นห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้โฮ ลาปลัสก้มหน้านิ่ง นี่เป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่มันอยากจะลืมที่สุด

หมายความว่า นายอยู่ที่นี่ ตลอดระยะเวลาเกือบร้อยปีนี้ เพื่อตามหาเมืองใต้บาดาลงั้นเหรอมารินถามอย่างไม่เชื่อหู เรื่องที่เธอเคยคิดว่าเศร้าหลายต่อหลายเรื่องในชีวิตของเธอพลันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปในทันที

ใช่ลาปลัสตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

คนเลว พวกนั้น พวกนักสำรวจ เลวมากเลยมิโดริร้องไห้สาปแช่งเหล่านักสำรวจ เด็กหญิงอินไปกับเรื่องมากทีเดียว

ขอโทษทีนะ ที่เล่าเรื่องน่าเศร้าให้ฟัง ว่าแต่เสื้อผ้าเธอคงพอจะใส่ได้แล้วล่ะมั้งลาปลัสรีบเปลี่ยนเรื่อง มารินเข้าใจดี เธอไม่ซักไซ้ไต่ถามต่อ เธอลุกขึ้นไปคลำๆ ดูเสื้อที่ตากไว้ แม้จะยังไม่แห้งดีแต่ก็พอจะใส่ได้แล้ว เด็กสาวรีบสวมมันทันที

แล้วด็อกเตอร์ดาด้าล่ะ โคร่า เขาอยู่ที่ไหนมิโดริถามพลางใช้หลังมือเช็ดน้ำตาแรงๆ

มิโดริ ไม่เอาน่ามารินเตือนพร้อมเอานิ้วชี้แตะปากเป็นสัญญาณให้หยุด

ไม่เป็นไรหรอกมารินลาปลัสยิ้มให้ ลาปลัวก้มหัวลงมองไปยังใต้น้ำที่มันอยู่เขาอยู่ข้างล่าง

เอ๋ ใต้น้ำเหรอมิโดริร้องถาม

นี่โคร่าช่วยคลายกำแพงน้ำแข็งพวกนี้ให้หน่อยได้มั้ย มารินพยายามเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับส่งสายตาดุมายังมิโดริ เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างหงอยๆ

ความจริงฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากหรอกนะ แต่ก็ขอบคุณเธอนะที่เข้าใจลาปลัสตอบ มันอ้าปากออก รวบรวมคลื่นพลังสีม่วงเข้ามาชาร์จเป็นลูกพลังงานสีม่วงในปาก แล้วยิงออกไปเป็นคลื่นพลังทำลายกำแพงน้ำแข็งให้พลังทลายลงอย่างง่ายดาย

ว้าว คลื่นมังกรมิโดริร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

ไม่ใช่หรอกมิโดริจัง ลาปลัสน่ะเป็นโปเกมอนที่ใช้คลื่นมังกรไม่ได้หรอกนะ คงเป็นลำแสงทำลายล้างมากกว่ามารินแย้ง

ฮะๆๆ ไม่ใช่หรอก คลื่นมังกรน่ะถูกแล้วลาปลัสหัวเราะ

เห็นมั้ยล่า~มิโดริชูมือร้องอย่างดีใจ ส่วนมารินขมวดคิ้วแน่นอย่างแปลกใจ

ทุกอย่างน่ะ ไม่ได้เป็นไปตามตำราเสมอไปหรอกนะ มารินลาปลัสตอบเหมือนรู้ทัน แต่ว่าคนนั้นน่ะ ขี้เซาจังนะ

ลาปลัสเพยิดหน้าไปทางแม็กซ์ที่ยังไม่ลุกขึ้นมา

ไม่ไหวเลยมารินส่ายหัวอย่างเอือมระอา แล้วเดินไปยังเด็กหนุ่ม เธอคุกเข่าลงนั่งข้างๆเขา เขย่าตัวเพื่อนชายแรงๆพลางร้องเรียก

นี่ๆ แม็กซ์ จะนอนไปถึงไหนน่ะ ตื่นๆ

แต่เด็กหนุ่มไม่ลืมตาขึ้นมา กลับหลับตาแน่นเข้าไปอีก คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกกันได้ ลมหายใจระรวยถูกพ่นออกอย่างยากลำบาก

เฮ้ๆ แม็กซ์ไม่เล่นแบบนี้นะมารินเริ่มใจไม่ดี

อะไรเหรอมารินมิโดริถามพลางยิ่งเข้ามาหาเมื่อเห็นว่ามีอะไรแปลกๆ

แม็กซ์น่ะสิ ไม่ยอมตื่นน่ะมารินหันมาตอบอย่างร้อนรน มารินเอามือของเธอแตะอังตรงบริเวณ ใบหน้าของแม็กซ์ แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือก

แย่แล้วตัวร้อนจี๋เลย

________________-

บ่อน้ำยาดอน ชานเมืองฮิวาดะ

รองเท้าบู้ทสีดำสนิทข้างหนึ่งเหวี่ยงเข้าเตะยาดอนจนกระเด็นไป ชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงสีดำจำนวนไม่น้อยแห่กันเข้ามาในถ้ำแห่งหนึ่ง พวกเขาทุกคนล้วนมีสัญลักษณ์ตัว R สีแดงบนหน้าอก พวกเขาคือ แก็งร็อคเก็ต

สถาพพื้นที่ในถ้ำค่อนข้างกว้างพื้นเต็มไปด้วยหินกรวด มีโขดหิน และหินงอกหินย้อยใหญ่น้อยกระจายอยู่ทั่วไป จากห้องใหญ่ห้องนี้มีทางแยกออกไปได้อีกหลายทาง ตรงกลางห้องป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีพวกยาดอนอาศัยอยู่มากมาย ตามเนินหินต่างๆก็มีพวกยาดอนอยู่เช่นกัน ท่าทางพวกเหมือนเอื่อยเฉื่อยและเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนเข้ามาในถ้ำแล้ว

ยาดอนเยอะเป็นบ้า เลยว่ะ เห็นแล้วลำคาญลูกตาชะมัดหนึ่งในจำนวนนั้นบ่นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก พลางใช้เท้าเขี่ยๆยาดอนตัวหนึ่งที่นอนแปะอยู่กับพื้น ดูท่าทางแล้วมันไม่น่าจะรู้ตัวเลยว่ากำลังมีคนเอาเท้าแตะมันอยู่

นั่นน่ะ ลองซ้อมมือกันหน่อยดีมั้ยอีกคนหนึ่งพูดอย่างคึกคะนองพลางหยิบเอาโปเกบอลลูกหนึ่งขึ้นมา ทำท่าจะขว้างออกไป แต่แล้วเสียงๆหนึ่งก็ขัดขึ้น

อย่าไปยุ่งกับพวกมันมากนะ เสียงนั้นเรียบเฉยและเย็นชา ชายคนหนึ่งเดินผ่านกลุ่มแก็งร็อคเก็ตที่ล้วนต้องแหวกทางให้เขาพร้อมก้มหัวคำนับ มาจนถึงด้านหน้าสุด เรือนผมสีแดงยาวประบ่า เสื้อแจ็คเก็ตสีดำขลิบแดง กางเกงยีนส์และรองเท้าบูทสีดำ พร้อมด้วยยุนเกเลอร์ข้างกาย เขาคือ เรฟ

_______________---

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 15 ถ้ำยาดอน

เพียงแค่เรฟปรากฏตัว เหล่าสมุนแก๊งร็อคเก็ตก็หงอกันเป็นแถบๆ แสดงถึงอำนาจและความน่าเกรงขามของชายผู้นี้ที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา

ม...แหม ก็แค่ออกกำลังเล็กน้อยน่ะครับแก็งร็อคเก็ตที่ทำท่าจะเล่นงานยาดอน หน้าซีดก้มหัวแก้ตัวงกๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเกรงกลัว

ช่างเถอะ ที่ว่าห้ามยุ่งกับยาดอนเป็นแค่คำเตือน ไม่ใช่คำสั่ง พวกแกจะไม่ทำตามฉันก็ไม่ว่าอะไหรอก แต่คำสั่งคือให้ตามหา ตำนานเสียงเพลงใต้ดิน นั่นคือสิ่งที่พวกแกจะต้องทำ ไม่ใช่มาเล่นกับพวกยาดอนพวกนี้ แยกย้ายกันไปได้แล้ว

ครับสิ้นเสียงคำสั่ง เหล่าแก็งร็อคเก็ตยืดตัวชิดเท้ารับคำสั่งแล้วแยกย้ายกันออกไปทันที

แก็งร็อคเก็ตพวกเดิมจับกลุ่มกัน 3 คนเดินแยกออกมาอย่างๆเอื่อยๆคล้ายว่าพวกเขาไม่ให้ความสำคัญอะไรต่อคำสั่ง

ก็แค่คำเตือนไม่ใช่คำสั่งหนึ่งในนั้นทำหน้าและน้ำเสียงล้อเลียนเรฟ

ตลกว่ะ ยาดอนพวกเนี้ยจะแค่ไหนกันเชียว ออกมาอาโบ้อีกคนเสริมพลางกราดสายตาดูถูกไปยังเหล่ายาดอน เขาเปิดบอลเรียกอาโบ้ของตัวเองออกมา

อาโบ้ ใช้เขี้ยวพิษจัดการมันให้หงายไปเลย ดูสิว่าไอ้ตัวที่1ในทหารเสือยังต้องระวังมันจะแน่ซักแค่ไหนเขาสั่งพร้อมกับใช้ไปยาดอนตัวที่ใกล้ที่สุด

อาโบ้พุ่งเข้าหายาดอนอย่างดุร้าย มันอ้าปากกว้าง กรามที่กว้างเกินตัวของอาโบ้งาบเข้าบนหลังของยาดอนที่ตกเป็นเป้าหมาย อาโบ้ฝังเขี้ยวของมันเข้าไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ยาดอนกลับยังมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ทำเอาทั้งแก้งร็อคเก็ตทั้งสามคนและ อาโบ้ถึงกับตาโตด้วยความประหลาดใจ

เฮ้ๆ จริงเหรอเนี่ย โดนเขี้ยวฝังเข้าไปเต็มๆไม่เป็นไรเลยเหรอ หนึ่งในนั้นโพล่งขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ไม่จริงน่าเจ้าของอาโบ้ เข้าไปนั่งยองๆข้างหน้ายาดอน เขาโบกมือใส่หน้ามันจ้องตามันเขม็ง

ยาดอนยังคงนิ่งเฉย...

เกิดความเงียบขึ้นทันที พวกแก็งร็อคเก็ตกำลังสับสน ยาดอนเก่งจริงหรือโง่จริงกันแน่ ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น ยาดอนก็ส่งเสียงร้องจ้ากออกมาดังลั่น มันดิ้นพราดๆ พยายามสะบัดอาโบ้ออกจากหลังของมัน

...มันเพิ่งเจ็บเหรอวะน่ะ...สามสมุนแก็งร็อคเก็ตถึงกับเหงื่อตกกับความโง่เง่าของยาดอน

ยาดอนพยายามสะบัดอาโบ้ออกจากหลังจนสำเร็จ มันส่ายหน้ากวาดสายตาขวางอย่างเกรี้ยวโกรธ ส่งเสียงฟึดฟัดหาผู้ที่ทำร้ายมัน ดวงตากลมโตทั้งสองจับเข้ามาที่อาโบ้ สายตาขวางจ้องเขม็ง

อาโบแยกเขี้ยวขู่ฝู่อย่างไม่เกรงกลัว แต่แล้วยาดอนกลับส่ายหน้าไปทางอื่น มองหาผู้ที่ทำร้ายมันต่อไป

...มันไม่รู้จริงๆแฮะ สามแก็งร็อคเก็ตคิดอย่างอ่อนใจ

โถ่เอ้ย ไม่เห็นจะได้เรื่อง อาโบ้ ฟาดมันไปให้พ้นๆหน้าฉันหน่อยซิเจ้าของอาโบ้ย่ามใจสั่งออกไปด้วยท่าทางอวดดี

อาโบ้ ฟาดหางเข้าใส่ยาดอนเต็มแรงจนกระเด็นตกบ่อน้ำไป ทั้งสามหน่อหัวเราะก๊ากอย่างสะใจ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องชะงัก พวกเขารู้สึกปวดหัวกะทันหัน ดวงตาของพวกเขาพร่ามัว ทั้งตัวเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วพวกเขาก็ล้มสลบลง อาโบ้เองก็เช่นกัน

ทั้งสามตกอยู่ในวงล้อมของเหล่ายาดอนโดยไม่รู้ตัว เหล่ายาดอนที่เกรี้ยวโกรธจากการที่เห็นพรรคพวกโดนทำร้ายค่อยๆย่างสามขุมเรียงกันเข้ามาหาร่างทั้งสี่ที่สลบล้มลงตาเหลือกอยู่กับพื้น เดาไม่ยากเลยว่าพวกมันหมายสิ่งใดกับร่างทั้งสี่นี้ คงไม่มีทางอื่นนอกจากแก้แค้น

ออกไป!เสียงตวาดดังขึ้น พวกยาดอนที่เคยก้าวเข้ามาอย่างดุร้ายพากันถอดสีหน้าถอยกรูดทันที

เรฟพร้อมด้วยยุนเกเลอร์และแก็งร็อคเก็ตจำนวนหนึ่งก้าวเดินอาดๆ เข้ามายังที่นั้น

ดวงตาของเรฟดูแข็งกร้าวผิดปกติ บรรยากาศแห่งความน่าเกรงขามและน่ากลัวแผ่ออกมาจากตัวของเขา

ออกไป!เรฟตวาดย้ำ คราวนี้พวกยาดอนที่ปกติแล้วจะเชื่องช้ากลับเตลิดหายออกไปหมดอย่างรวดเร็ว ไม่มีเหลือแม้สักตัวเดียว

บรรยากาศรอบตัวเรฟดูสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ สมุนแก็งร็อคเก็ตรีบวิ่งหน้าตาตื่นออกมาดูอาการเพื่อนที่นอนสลบตาเหลือกอยู่กับพื้น พวกเขารีบตรวจเช็คลมหายใจทันที แล้วก็โล่งอกเพื่อพบว่ายังมีชีวิตอยู่ทั้งสามคน รวมถึงอาโบ้อีกหนึ่งตัวด้วย

โดนอะไรเข้าเนี่ย ไม่ตายแต่ก็สาหัสไปเลย บาดแผลก็ไม่มีหนึ่งในกลุ่มที่ออกมาดูอาการพูดขึ้นอย่างสงสัย

ไซโคคิเนซิส (Psychic) น่ะ อุตส่าห์บอกให้ระวังแล้วเรฟตอบ

ยังดีนะครับที่หัวหน้าเรฟใช้ บัญชาสวรรค์ ได้ ลำพังพวกเราคงไม่รอด ท่านหัวหน้านี่สุดยอดจริงๆสมุนแก้งร็อคเก็ตกล่าวอย่างชื่นชม

ไม่ต้องมาเลียขาฉันเรฟตอกกลับแบบไม่ใยดี รีบไปทำหน้าที่ต่อได้แล้ว

ค...ครับเหล่าสมุนรีบรับคำแล้วแยกย้ายกันออกไป

เครวาน ลองใช้พลังจิตของแกตรวจสอบที่นี่หน่อยนะ ถ้าเป็นเจ้านั่นจริงล่ะก็ พลังจิตของแกกับมันต้องเชื่อมต่อกันได้แน่

ยุนเกเลอร์พยักหน้ารับ มันหลับตา พลันรอบๆตัวของมันเริ่มเปล่งออร่าสีม่วงเข้มออกมา

________________________-

แม็กซ์ถูกถอดเสื้อออก มารินใช้เสื้อของแม็กซ์เองชุบน้ำหมาดๆ บรรจงเช็ดตัวให้แม็กซ์โดยมีมิโดริกับลาปลัสเฝ้ามองอยู่ห่างๆ

มาริน แม็กซ์เป็นไงบ้างมิโดริถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ไข้สูงมากเลย ไม่รู้ว่าไปเริ่มเป็นเอาตอนไหนมารินตอบด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก มือของเธอยังคงเช็ดตัวให้แม็กซ์อยู่ ถ้ามียาหน่อยก็คงดี

ความจริง ฉันจะเทเลพอร์ตพาพวกเธอไปข้างนอกเลยก็ได้นะ แต่ฉันไปได้ไกลสุดแค่ บ่อน้ำยาดอน กลัวว่าพวกเธอจะแบกแม็กซ์ให้ไปถึงโรงพยาบาลฮิวาดะไม่ไหว หรือว่าพวกเธอไหว?ลาปลัสเสนอทางออก

ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันช่วยได้นะมิโดริเสนอตัวทันที มารินหันขวับมาอย่างสนใจ

ยังไงเหรอ?

มิโดริหันไปยิ้มคิกคักกับปาจิริสุ ที่เกาะอยู่บนหัวลาปลัส เธอรูดซิบกระเป๋าของกระโปรงออก หยิบบอลออกมาลูกหนึ่ง

ออกมาเลย ฟูโร่

เมื่อบอลเปิดออก มารินก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่เพียงสาวน้อยด้อยประสบการณ์อย่างมาริน ผู้เฒ่ากร้านโลกอย่างลาปลัสยังอดทำตาโตไม่ได้ ฟลายก้อนขนาดใหญ่ตัวหนึ่งออกมาจากบอล ขนาดของมันเกือบ 3 เมตร ซึ่งจัดกว่าใหญ่กว่าฟลายก้อนทั่วไปมากนัก

นี่คือฟูโร่ เป็นฟลายก้อนของพ่อฉันน่ะ พ่อให้เอามาไว้ใช้เดินทางในยามจำเป็นมิโดริแนะนำ ปาจิริสุ มีท่าทางดีใจมาที่ฟลายก้อนออกมา มันกระโดด ปีนขึ้นไปเกาะอยู่บนหัวฟลายก้อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฟลายก้อนยิ้มให้มันอย่างเอ็นดู

มีโปเกมอนเจ๋งๆ อยู่นี่นา ทำไมไม่ใช่ตั้งแต่แรกล่ะมารินอดถามไม่ได้ เธอเช็ดตัวให้แม็กซ์เสร็จแล้ว

ฟูโร่น่ะ อายุมากแล้ว แก่กว่าพ่อฉันอีกแน่ะ ฉันเกรงใจเขาน่ะ แต่ตอนนี้จำเป็นนี่นา

เหรอ...ดีจังเลยน้า จะว่าไปฉันก็เพิ่งเคยเห็นมังกรครั้งแรกนี่แหละ ดูน่าเกรงขามแล้วก็เท่ห์ดีจังเลยมารินชื่นชมพลางเดินเข้ามาใกล้

สุดยอดเลยใช่มั้ยล่ะมิโดริยืดอกอย่างภูมิใจ

แบบนี้ก็ดีเลย งั้นรีบไปใส่เสื้อผ้าให้แม็กซ์เถอะ ฉันจะไปตามเพื่อนของพวกเธอก่อนพูดจบลาปลัสก็ดำน้ำลงไปทันที ทิ้งความสงสัยไว้ให้มาริน

เพื่อนเหรอ?มารินจ้องหน้าถามมิโดริ แต่เด็กหญิงส่ายหน้าบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน

ช่างเถอะเดี๋ยวก็รู้เองแหละ มารินตัดสินใจปล่อยวาง แล้วเริ่มจัดการสวมเสื้อกลับให้เพื่อนชายที่ยังไม่ได้สติ ครู่หนึ่งลาปลัสก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับแลนเทิร์นของแม็กซ์ เป็นเวลาหลังจากมารินสวมเสื้อให้แม็กซ์เสร็จและให้ฟลายก้อนพามาถึงริมฝั่งแล้วเพียงเล็กน้อย

เอ๋ มาด้วยเหรอเนี่ยมารินอุทานอย่างประหลาดใจ แต่ก็ดีแล้วล่ะ กว่าจะจับได้แทบตายแน่ะ

ฮ่าๆๆ นั่นสินะลาปลัสแอบหันหน้ามาทางมารินอย่างมีเลศนัย ฉันเห็นนะ วิธีจับแลนเทิร์นของพวกเธอน่ะ เผอิญว่าตอนนั้นฉันไปว่ายน้ำเล่นแถวนั้นน่ะ

มารินหน้าแดงก่ำทันที

อ...อะไรกัน ก็ไม่มี...ไม่มีอะไรนี่นา...ไม่มีอะไรซักหน่อยเด็กสาวร้อนตัวลนลาน

อะไรเหรอมาริน ไม่มีอะไรเหรอมิโดริถามขึ้นอย่างงงเธอไม่ได้ยินคำพูดของลาปลัสเมื่อครู่ จึงไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมจู่ๆมารินต้องแสดงอาการลนลาน ใบหน้าที่ซื่อบริสุทธิ์ของมิโดรินั้นให้มารินลนลานเข้าไปอีก

ไม่มี! ไม่มีอะไรหรอก ไม่มี

อย่าร้อนตัวสิมาริน คำพูดเมื่อกี้ฉันส่งให้เธอคนเดียวนะ คนอื่นไม่ได้ยินหรอก ครั้งนี้ก็เหมือนกันลาปลัสสิ่งยิ้มหยอกเล่นให้มาริน เด็กสาวแกล้งทำเกลือกตามองเพดานถ้ำแก้เขิน

มิโดริเก็บฟลายก้อนเข้าบอลก่อนเถอะค่อยปล่อยออกมาตอนอยู่ข้างบนก็ได้ลาปรัสบอก

อื้มมิโดริทำตามอย่างว่าง่ายฟลายก้อนถูกเก็บกลับเข้าบอล เมื่อฟลายก้อนหายไปปาจิริสุก็ทำหน้าเศร้าดูปาจิริสุจะสนิทสนมกับฟลายก้อนไม่น้อย

อย่าเศร้าสิจิจัง เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก แปปเดียวเองมิโดริปลอบ

พร้อมกันรึยังลาปลัสถาม มิโดริและมารินพยักหน้ารับเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

ดวงตาของลาปลัสเปล่งแสงวาบ จากนั้นทุกอย่างก็ขาวโพลน

______________-

บ่อน้ำยาดอน

ยุนเกเลอร์ซึ่งกำลังรวบรวมพลังจิตตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบ่อน้ำตามคำสั่งนายของมันนั้นลืมตาโพลงขึ้นมา เรฟสังเกตเห็นจึงถามทันที

ว่าไงเครวาน เจออะไร

ยุนเกเลอร์ไม่ตอบโดยใช้เสียง มันใช้ช้อนเงินในมือข้างหนึ่งใช้ไปยังตรงกลางบ่อน้ำที่อยู่กลางถ้ำ ที่บัดนี้ไม่มียาดอนเหลืออยู่เพราะเรฟไล่ออกไปหมดแล้ว เรฟจ้องมองไปตรงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นกลางบ่อน้ำ เรฟกางขาตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้ มือข้างหนึ่งแตะที่บอลทั้ง6 ซึ่งคาดเอวอยู่

แสงนั้นค่อยๆกลายเป็นรูปของลาปลัสตัวหนึ่งพร้อมกับคนบนหลังอีก 3 คนและแลนเทิร์น อีก 1 ตัวอยู่ข้างๆ ทันทีที่เรฟเห็นภาพนั้น เขาก็ผ่อนคลายท่าทางลง แค่นหัวเราะ รอยยิ้มดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้า

แสงสีขาวโพลนตรงหน้าของมารินหายไป ภาพของถ้ำแห่งหนึ่งปรากฏตรงหน้าเธอ แม้ว่าจะอยู่ในแสงมานานแต่ตาของเธอกลับไม่ได้พร่ามัวแม้แต่น้อย และเมื่อเธอมองไปด้านหน้า ผ่านลำคอของลาปลัสไป เธอก็ต้องผงะเมื่อเห็นชายเจ็คเก็ตดำพร้อมด้วย เรือนผมสีแดง เธอยังจำชายผู้นั้นได้ดี ความแค้นเมื่อครั้งห้องวิจัยทำให้เธออารมณ์เดือดพล่ายขึ้นมาทันที

แก! หัวขโมย!มารินโพล่งขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมาทางเรฟอย่างโกรธแค้น

อะไรกันเหรอมารินมิโดริถามขึ้น

หมอนั่น เป็นโจรขโมยโปเกมอน แล้วยังขโมยโปเกมอนของอาฉันไปอีกด้วย!มารินตอบอย่างใส่อารมณ์

เอ๋ งั้นคนนี้ก็เป็นคนไม่ดีงั้นสิมิโดริสรุปง่ายๆ ปาจิริสุดูเหมือนจะมีอารมณ์ร่วมไปด้วย มันกระโดดโลดเต้นด้วยสีหน้าฉุนกึก ควันออกหู

หึหึหึ จะพูดยังไงก็เอาเลย แต่ดูเหมือนฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้ว ตำนานเสียงเพลงใต้น้ำ ที่แท้ก็แค่ลาปลัสนี่เอง กลับกันเถอะเครวานเรฟพูดอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับหันหลังกลับ เขาทำเหมือนมารินไม่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

เดี๋ยวสิ คราวก่อนเรายังสู้กันไม่จบนะมารินท้วงขึ้น เธอหยิบบอลที่คาดเอวไว้ขึ้นมาขว้างออกไป มาริลกระโดดออกมาจากบอล

ฮ่าๆๆๆจะมาเล่นจำอวดอะไรตอนนี้ ดูสิดู นั่นอะไรเรฟเหลือบตามายังแม็กซ์ที่ยังไม่ได้สติอยู่บนหลังของลาปลัส คนที่เก่งที่สุดในหมู่พวกแกเดี้ยงซะแล้ว ลำพังคุณหนูหลานด็อกเตอร์ที่ไม่เคยแม้แต่จะชนะโปเกมอนยิม ลาปลัสแก่ๆ แล้วก็เด็กไม่รู้ประสา จะเอาอะไรมาสู้กับฉันล่ะ

มารินกัดฟันกรอดอย่างแค้นเคือง ในเมื่อที่อีกฝ่ายพูดคือความจริง เธอจะเถียงได้อย่างไร

แม็กซ์ไม่อยู่เราก็สู้ได้นะมาริน ไปเลยบาคุโกะมิโดริไม่สนใจคำดูถูกของเรป เธอขว้างบอลออกไป แมกมาราชิกระโดดออกมาจากบอล ลงไปตรงที่ขอบบ่อน้ำ มันเร่งไฟบนหัวและบั้นท้ายขึ้นทันที ลาปลัสรู้สถานการณ์ดี มันไถลไปบนน้ำรวดเดียวเข้าถึงฝั่ง มารินและมิโดริกระโดดลงจากหลังของลาปลัสลงไปบนพื้น

เรฟหยิบบอลขึ้นมาอีกสองลูกเขาเปิดบอลออกมาอย่างสบายๆ ไม่มีท่าทางตึงเครียด เรฟปล่อยมอร์ฟอนและอาริเก็ทออกมาจากบอล มอร์ฟอนบินพุ่งเข้าใส่ทันทีโดยไม่ต้องสั่ง

ระวังนะมิโดริมอร์ฟอนตัวนี้ แยกร่างแล้วก็ใช้ผงหลับใหลได้มารินเตือน

ไม่ต้องห่วงหรอกมาริน ถ้าแค่นั้นล่ะก็ บาคุโกะ ตบโคลน(mud slap)

แมกมาราชิ ใช้กรงเล็บหน้าปัดโคลนบนพื้นเข้าใส่หน้ามอฟอน โดยที่เรฟไม่ต้องสั่งอะไร มอฟอนสะบัดปีกแรงๆ ผงละอองจำนวนมากก็ กระจายออกมาเป็นเสมือนเกราะกำบังให้กับตัวของมัน โคลนที่แมกมาราชิสาดขึ้นมา ไม่สามารถทะลุกำแพงผงนั้นไปได้อย่างน่าประหลาด ผงนั้นไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เกราะกำบัง พวกมันกระจายตัวออก โปรยเข้าใส่แมกมาราชิจนสลบสไลไม่ได้สติ

บาคุโกะ!มิโดริร้องเสียงหลงเมื่อเห็นแม็กมาราชิสลบล้มพับ แต่แล้วมอฟอนก็ชะงักตาเหลือกร่วงตุ้บลงกับพื้นบ้าง ด้านหลังของมอร์ฟอนปรากฏวัตถุทรงกลมสีน้ำเงินกำลังหมุนตัวกลิ้งข้ามหัวมอร์ฟอนมาด้วยความความเร็วราวกับล้อรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง วัตถุนั้นหยุดกลิ้ง ใช้ขาทั้งสองและมืออีกข้างหนึ่งยันตัวเองไว้กับพื้น แรงส่งจากการพุ่งเข้ามาอย่างแรงทำให้มันครูดไถลไปกับพื้นเป็นระยะทางยาว มันคือลิลลี่ของมาริน

เป็นยังไงล่ะ เสร็จฉันแล้วมารินชูกำปั้นด้วยความดีใจ

หึ ฝีมือไม่ได้พัฒนาเลยเรฟส่ายหัวอย่างเอือมระอา ร่างของมอร์ฟอนสลายไปกลายเป็นเพียงกลุ่มผงธรรมดา

อะไรกัน!

ในระหว่างที่มิโดริและมารินกำลังตกตะลึง อาริเก็ทกระโดดพุ่งขึ้นมาจากน้ำด้านหลังมาริน มันแอบลงน้ำไปโดยที่พวกสาวๆไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย กรามอันแข็งแกร่งและใหญ่โตของอาริเก็ทพุ่งเข้างับมาริลเต็มแรง มาริลตัวน้อยส่งเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด อาริเก็ทไม่หยุดเพียงแค่นั้น มันใช้ปากเหวี่ยงมาริลฟาดเข้ากับโขดหินจนสลบตามแมกมาราชิไปอีกตัว

ลิลลี่!มารินร้องเสียงหลง

สองสาวมัวแต่ตกใจกับความพ่ายแพ้จนไม่ทันสังเกตด้านหลัง ลาปลัสกำลังอ้าปากกว้าง ก้อนแสงสีขาวสว่างอยู่ในปากของมันปากของมัน ลาปลัสยิงลำแสงสีขาวแสบตาเข้าใส่ยุนเกเลอร์ที่ยืนอยู่ใกล้เรฟ

วินาทีนั้นปรากฏแสงสีขาวสว่างวาบ มิโดริและมารินจำแสงแบบนี้ได้ มันเหมือนกับลำแสงที่ปรากฏขึ้นเมื่อตอนที่พวกเธอโดนเกียราดอสแดงโจมตี ท่าไม้ตายสุดยอดอันแสนน่าสะพรึงของเหล่าโปเกมอนน้ำแข็ง ศูนย์องศาสัมบูรณ์ (Sheer cold)

แสงสว่างปรากฏอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยๆจางลง อุณหภูมิในถ้ำเย็นลงเฉียบพลันจนมารินและมิโดริต้องยืนลูบแขนด้วยความหนาวเย็น เบื้องหน้าของพวกเธอกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด กำแพงถ้ำ เพดานถ้ำ โขดหิน กระทั่งพื้น น้ำแข็งลุกลามมาจนเกือบถึงที่มีมารินและมิโดริอยู่ ดูเหมือนลาปลัสจะสามารถควบคุมอาณาเขตน้ำแข็งได้ พวกมารินจึงปลอดภัย

เย้ เสร็จเราแล้วมิโดริร้องอย่างดีใจ ในอ้อมแขนของเธออุ้มแกมามาราชิไว้ ปาจิริสุ ที่เกาะอยู่บนไหล่ชะเง้อมองเพื่อนร่วมทีมอย่างเป็นห่วง

ไม่หรอกดูให้ดีๆสิมารินแย้งพร้อมกับชี้ไปยังถ้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งเบื้องหน้า มีแต่ถ้ำเท่านั้นที่โดนแช่แข็ง แต่พวกมันไม่อยู่

อ้ะจริงด้วยเมื่อมิโดริลองเพ่งดูดีๆก็พบว่าตรงนั้นไม่มีเรฟและยุนเกลเอร์อยู่จริงๆ รวมทั้งอาริเก็ทกับมอร์ฟอนก็หายไปด้วย

ในความตกละตึงของสองสาว เสียงตบมือพร้อมกับเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นมาจากที่ใดที่หนึ่งในถ้ำ มาริน มิโดริและลาปลัสหันไปตามเสียง เรฟและยุนเลอร์กำลังยืนอยู่บนโขดหินสูงจรดเพดานแห่งหนึ่ง เขากำลังปรบมือและส่งยิ้มแสยะมาให้พวกมาริน

ยอดเยี่ยมๆ สมกับเป็นลาปลัสที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานเรฟชมแต่น้ำเสียงคล้ายเสียดสี

เจ้าคนเลว แน่จริงอย่าหนีสิมิโดริชี้นิ้วตะโกนต่อว่าใส่เรฟอย่างกล้าหาญ แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตกใจอะไรกับท่าทีของเด็กหญิงเขากลับหัวเราะเสียอีก มิโดริหน้าบูด เธอเริ่มอารมณ์เสียกับความกวนประสาทของเรฟ

หัวหน้า เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ พวกเราได้ยินเสียงเอะอะเสียงของชายฉกรรจ์ดังสะท้อนขึ้นในถ้ำ แก็งร็อคเก็ตกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากคูหาถ้ำที่แยกออกไปจากห้องกลางซึ่งพวกมารินอยู่ตอนนี้ เหล่าสมุนแก็งร็อคเก็ตต่างต้องตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า หัวหน้าของพวกเขากำลังสู้อยู่กับคน 2 คนและลาปลัสอีก 1 ตัว

เยี่ยม พวกแกมาพอดีเลยเรฟยิ้มแสยะ ฉันเบื่อจะเล่นกับพวกนี้แล้ว ยกเลิกคำสั่งค้นหาตำนานเพลงใต้น้ำ และต่อไปนี้คือคำสั่งใหม่ ระดมพลแก็งร็อคเก็ตทุกคนในถ้ำนี้ จัดการกับสามคนนี้ให้ได้ โดยเฉพาะผู้ชายบนหลังลาปลัส เอามันกลับฐานให้ได้ ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่พวกแก

พูดจบ เรฟและยุนเกเลอร์ก็เปล่งแสงสีม่วงอมขาวออก พวกเขาหายวับไป

หนีไปอีกแล้วมารินกัดฟันพูดอย่างแค้นเคือง

อย่าเพิ่งไปสนใจเจ้านั่นเลย ดูรอบๆตัวซะก่อนเถอะลาปลัสเตือนขึ้น มารินและมิโดริมัวแต่สนใจกับเรฟจนไม่ทันสังเกตเลยว่ารอบๆตัวของพวกเธอตอนนี้ มีแต่แก็งร็อคเก็ตเต็มไปหมด

พวกเธอถูกล้อมเสียแล้ว

แก็งร็อคเก็ตทุกคนต่างยกบอลประจำตัวขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมโจมตี รอยยิ้มแสยะและเสียงหัวเราะดูถูกดึงขึ้นอื้ออึง โปเกมอนที่เหล่าสมุนแก็งร็อคเก็ตปล่อยออกมาต่างมีท่าทีดุร้ายดวงตาขวางจ้องมาทางพวกมารินอย่างกระหายเลือด พวกมันล้วนผ่านการฝึกที่ทำให้นิสัยโหดเหี้ยมอำมหิตมาทั้งนั้น

ที่หน้าตกใจกว่า โปเกมอนของแก็งร็อคเก็ต ไม่ได้ออกมาระเกะระกะ แต่กลับเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ด้านหน้าสุดเป็นโปเกมอนที่รวดเร็วว่องไว อย่างเนียส และอาโบ้ ไล่หลังไปเป็นโปเกมอนที่จู่โจมได้อย่างรุนแรง พร้อมจะสนับสนุนอย่าง แซน และการ์ดี้ นับว่าเป็นการจัดที่มีระเบียบในระดับพื้นฐาน พวกมารินตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติอีกครั้ง

จัดการพวกมันเลย กองทัพอาโบ้และเนียสเสียงสั่งดังมาชายคนหนึ่งผู้ยืนอยู่ด้านหลังสุดขนาบข้างด้วยอาร์บ็อคและแซนแพนของเขา

กองทัพอาโบ้และเนียสส่งเสียงคำรามพุ่งกระโจนเข้าใส่พวกมารินทันที

เชอะ! เรื่องแค่นี้ให้ฟูโร่จัดการทีเดียวก็อยู่หมัดแล้วมิโดริ หยิบบอลของฟูโร่ขึ้นมาเตรียมจะขว้างออกไป

อย่านะมิโดริลาปลัสรีบห้ามพร้อมกับพ่นคลื่นน้ำออกไปเป็นสายกระแทกพวกที่เข้ามาจนกระเด็นกลับไป

ทำไมล่ะ?

ฟูโร่ตัวใหญ่เกินไป ขืนเอามาสู้ในนี้แล้วถ้ำถล่มขึ้นมาเราจะแย่ แค่พวกเราฉันยังช่วยเทเลพอร์ตไปด้วยได้ แต่ฉันเป็นห่วงพวกยาดอนในถ้ำนี้ พวกเขาอาจจะต้องตายโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ลาปลัสตอบ

จริงสิ ลืมคิดเลย

พวกแก็งร็อคเก็ตแทบไม่เว้นจังหวะ เพียงแค่การหันมาคุยกันเพียงนิดเดียว กลุ่มโปเกมอนใหม่ก็พุ่งจู่โจมเข้ามาทันที ลาปลัสกับมิโดริที่ไม่ทันตั้งตัว เพิ่งมองเห็นว่า อาโบ้ตัวหนึ่งเข้ามาใกล้มิโดริแล้ว

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 16 โปเกบอลลูกสุดท้าย

ประกายไฟฟ้าสีเหลืองทองลั่นเปรี๊ยะ อาโบ้ที่ประสงค์ร้ายก็ต้องร่วงลงดิ้นพราดๆอยู่บนพื้นดิน ผู้ที่ยิงสายฟ้าเข้ามาช่วยเหลือคือแลนเทิร์นของแม็กซ์ที่ชูคออยู่ข้างๆ ลาปลัส มันยิ้มให้มิโดริอย่างเป็นมิตร

ขอบใจนะแลนเทิร์นมิโดริยิ้มตอบให้มัน

อย่ามัวแต่ขอบใจกันอยู่เลยมิโดริ มีโปเกมอนตัวอื่นอีกมั้ยลาปลัสเตือนพลางยิงลำแสงแช่แข็งใส่โปเกมอน ที่จู่โจมเข้ามา

มีสิ ออกมาเลยจีโกะมิโดริหยิบขว้างบอลลูกใหม่ออกไป คูจีโต้กระโดดออกมาจากบอล รูปร่างของคูจีโต้ตัวนั้นดูอ้อนแอ้น ดวงตาหวานใส ท่าทางไม่เหมือนกับบโปเกมอนที่ใช้ต่อสู้แม้แต่น้อย แต่ทว่ารูปร่างหน้าตาไม่อาจจะบอกถึงพลังที่ซ่อนเร้น ปากเหล็กของมันเหวี่ยงฟัดกัดโปเกมอนทุกตัวที่ดาหน้าเข้ามาหามันอย่างองอาจ

พยายามเข้าจีโกะมิโดริตะโกนเชียร์ ปาจิริสุส่งเสียงช่วยอีกแรง

อาร์บี้ ออกมามารินปล่อยจิโกริต้าออกมาบ้าง เด็กสาวออกเสียงสั่งทันที

ใช้คัตเตอร์ใบไม้โจมตีพวกมันเลย

จิโก! จิโกริต้าส่งเสียงก้องร้องตอบรับพร้อมกับเปล่งแสงวาบ ร่างกายของมันค่อยๆเปลี่ยนไป คอยืดยาวออก ลำตัวอวบใหญ่ เมล็ดพืชบนคอขยายใหญ่ขึ้น

มันเปลงร่างเป็นเบลีฟแล้ว

ทันทีที่การวิวัฒนาการเสร็จสมบูรณ์ ใบไม้ที่แข็งแกร่งและเฉียบคมก็ถูกขว้างออกไป โจมตีใส่เหล่าแก็งร็อคเก็ตอย่างรุนแรง

เยี่ยมเลย เปลี่ยนร่างแล้วมารินชูกำปั้นร้องตะโกนอย่างดีใจ

ทั้งลาปลัส แลนเทิร์น เบลีฟและคูจีโต้พยายามรับมือแก็งร็อคเก็ตอย่างเต็มความสามารถ แม้โปเกมอนทั้งสี่จะมีความสามารถพอตัวแต่น้ำน้อยก็ไม่อาจจะทำอะไรกองไฟที่ลุกโหม จำนวนมันต่างกันเกินไป

มารินซึ่งใจเย็นเสมอกำลังยืนกัดเล็บอย่างเคร่งเครียด

...ต้องหาทางออกจากสถานการณ์ นี้ให้ได้

แล้วมารินก็คิดออก เธอรีบปีนขึ้นบนหลังขอลาปลัส

ทำอะไรน่ะมารินลาปลัสถาม

ก็จะช่วยน่ะสิ ขอเวลาเดี๋ยวนะมารินตอบรีบๆ เด็กสาวพลิกร่างกายของแม็กซ์สำรวจที่เอวของเขา โปเกบอลทั้ง 5 ลูกยังอยู่ครบ มารินยิ้มออกมาอย่างพอใจ เธอเริ่มสำรวจบอลแต่ละลูกทันที

ลูกแรกน้ำหนักเบากว่าปกติ คงเป็นบอลเปล่าของแลนเทิร์นซึ่งออกมาข้างนอกแล้ว ลูกที่สองและลูกที่สามเป็นบอลที่น้ำหนักและลักษษะภายนอกดูปกติธรรมดาเป็นบอลของแมกมาราชิและซูแบท ลูกที่สี่นั้นด้านบนของบอลสลักคำว่า มังกร เอาไว้ มันเป็นบอลของโยกิรัส และลูกสุดท้าย เก่าแก่คร่ำครึ มารินไม่รู้เลยว่าข้างในเป็นอะไร

มารินตัดสินใจหยิบบอลออกมาเพียงสามลูก โดยละเว้นบอลลูกเก่าที่ยังเป็นปริศนาและบอลเปล่าของแลนเทิร์นไว้ เธอปล่อยโปเกมอนทั้งสามออกมา

พวกนายช่วยฟังฉันหน่อยนะ ช่วยพวกเราต่อสู้กับแกงร็อคเก็ตทีนะ มารินขอร้อง

ซูแบท แมกมาราชิ และโยกิรัสไม่มีท่าทางสนใจกับมารินแม้แต่น้อย แมกมาราชิและซูแบทตรงเข้าไปดูอาการของเจ้านาย ส่วนโยกิรัสมองมาที่แม็กซ์แล้วก็หัวเราะหงาย พวกมันทำเอามารินเสียหน้าพาลเสียความมั่นใจไปด้วย

นี่ๆพวกนาย ฟังฉันหน่อยสิมารินพยายามเรียกร้อง

โยกิรัสหยุดหัวเราะ มันสะบัดแขนปัดหินก่อนหนึ่งเข้าใส่โกรัตต้าที่พุ่งเข้ามาหามัน หินก้อนนั้นพุ่งเข้าแสกกลางหน้าของโกรัตต้าจนหน้าหงายหมดสภาพไปทันที

ว้าว โยกิรัส จะช่วยฉันเหรอมารินร้องขึ้นอย่างดีใจ

โยกิรัสไม่ตอบอะไรมันจับอาโบ้ตัวหนึ่งใกล้ๆมัน ฝาดเข้ากับโขดหินอย่างแรงจนอาโบ้แผดเสียงลั่น มันบไปภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว โยกิรัสม้วนมันขึ้นเป็นเสมือนเก้าอี้แล้วกระโดดขึ้นนั่งพิงหลังอย่างสบายอารมณ์

มารินถึงกับเหวอ ไม่น่าหลงคิดเลยว่าโยกิรัสจะช่วยเธอ

อะไรกัน ขอร้องล่ะฟังฉันทีเถอะ เจส เซ็ทมารินหันมาฝากความหวังไว้กับโปเกมอนที่เหลือ ซึ่งกำลังดูอาการของนายของมัน แต่ว่ามันก็ยังไม่มีท่าทีที่จะฟังเธอเลย

ใส่ความให้พวกแก็งร็อคเก็ตสิเสียงของลาปลัสดังขึ้นในหัวของมาริน โปเกมอนสองตัวนั้น ดูท่าจะเป็นห่วงเจ้านายไม่เบา ถ้าหากใส่ความว่าพวกแก็งร็อคเก็ตเป็นคนทำร้ายมันจะต้องช่วยพวกเราสู้แน่

จะลองดูนะโคร่ามารินตอบพร้อมกับหันมาพยักหน้าให้กับลาปลัส

เจ้าพวกแก็งร็อคเก็ต คอยดูเถอะฉันจะจะต้องล้างแค้นที่พวกแกทำกับเพื่อนฉันแบบนี้มารินชี้นิ้วตะโกนใส่พวกแก็งร็อคเก็ตซึ่งกำลังตะลุมบอนอยู่กับเบย์ลีฟ จูคีโต้ ปาจิริสุ และแลนเทิร์นอยู่อย่างชุลมุน

คำพูดของมารินดังเข้าหูของแมกมาราชิ และซูแบท ทั้งสองหันขวับ แมกมาราชิเร่งไฟลุกโชน ซูแบทบินนำหน้าออกไปทันที มันปล่อยคลื่นเสียงซุปเปอร์โซนิคออกมาทั่ว ทำเอาเหล่าโปเกมอนและแก็งร็อคเก็ตถึงกับต้องหยุดชะงัก บ้างก็มึนเสียสติจนเดินชนกันเองอุดตรุด

ว้าว เยี่ยมเลยมิโดริอุทานอย่างดีใจพร้อมแหงนหน้ามองซูแบทที่บินว่อนคอยโฉบจู่โจมเป็นระยะ

โดริเมื่อเห็นโปเกมอนของแม็กซ์เข้าสู้ร่วมแสดงฝีมือก็เริ่มมีอาการคึกคักอยากแสดงฝีมือบ้าง

ดีล่ะ อย่ายอมแพ้นะจีโกะ ใช้คมเขี้ยวมัจจุราช (Crunch) บดขยี้พวกมันให้แปลกไปเลยมิ

คูจีโต้พุ่งเข้าใช้ปากเหล็กไล่ฟัดศัตรูอย่างอย่างบ้าระห่ำ

บุกไปเลยๆ จีโกะ อย่าย้อมแพ้เขานะมิโดริเชียร์ยกใหญ่

เมื่อได้กำลังใจคูจีโต้ไม่กลัวเหน็ดเหนื่อยอะไรทั้งนั้น มันบุกตะลุยฝ่ายฝูงโกรัตต้าจนเข้าไปกลางวง คูจีโต้ถูกล้อมโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าสายไปแล้ว มันถลำออกมาเกินกว่าระยะสายตาของมิโดริ ไม่มีใครจะช่วยมันได้ในเวลานี้ โกรัตต้ากลุ่มหนึ่งยิ้มแสยะ กระโดดพุ่งเข้ามา อ้าปากโชว์ฟันหน้าที่แข็งแกร่ง คูจีโต้ใช้ปากเหล็กงับเอาตัวหนึ่งไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดพวกที่เหลือไม่ให้เข้ามา มือทั้งสองข้างยกขึ้นการ์ดรับอย่างหมดหนทาง ดวงตาปิดแน่นยอมรับชะตากรรม

เปลวเพลิง ลูกหนึ่งพุ่งเข้ากระแทกเหล่าโกรัตต้าจนกลิ้งล้มระเนระนาด มันช่วยชีวิตคูจีโต้ได้อย่างหวุดหวิด คูจีโต้ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างระมัดระวัง ผู้ที่มาช่วยมันไว้คือแมกมาราชาที่ใช้กงล้อเพลิงโจมตีเข้ามา แต่ดูเหมือนแมกมาราชิจะไม่ได้มีเจตนาเหลือคูจีโต้เท่าไรนัก มันไม่ได้สนใจคูจีโต้เลย มันมุ่งหน้าพุ่งเข้าไปจัดการพวกแก็งร็อคเก็ตเสียมากกว่า

คูจีโต้เห็นอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้ ไล่อาละวาดใส่พวกแก็งร็อคเก็ตต่อไป

ได้ผลจริงๆด้วยมารินซึ่งยังอยู่บนหลังลาปลัสกวาดสายตามองผลงานของซูแบทและแมกมาราชิอย่างทึ่งๆ

_____________-

ทางด้านแก็งร็อคเก็ตซึ่งสถานการณ์ย่ำแย่นั้น เริ่มสับสนกระวนกระวาย โปเกมอนของพวกเขาเป็นร้อยตัวไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายที่มีแค่ไม่กี่ตัวได้

หัวหน้าครับแบบนี้จะดีเหรอครับสมาชิกคนหนึ่งอดไม่ไหวต้องร้องถามผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า ซึ่งยืนอยู่คู่กับอาร์บ็อคของเขา หัวหน้าหน่วยคนนั้นยืนดูเฉยๆมาตั้งแต่ให้สัญญาณบุกครั้งแรกออกไป

ไม่เป็นไรหรอกเขาตอบ

ทำไมล่ะครับ แพ้เรื่อยๆ แบบนี้พวกเราจะเสียกำลังใจเอานะครับ

บอกไปว่าห้ามใครถอยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่อย่างนั้นจะต้องได้รับโทษสูงสุด

แต่ว่า

ไม่ต้องมีแต่! ไปทำ!เสียงตวาดของเขาทำให้ ลูกสมุนไม่สามารถเถียงต่อ แก็งร็อคเก็ตคนนั้นจำยอมต้องตอบรับแล้วรีบเตลิดออกไป สายตาของหัวหน้าหน่วย จับจ้องเขม็งมาที่ลาปลัส ความคิดของเขากำลังแล่นไป

...ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ

_____________-

ทางด้านพวกมาริน มิโดริและคูจีโต้เริ่มเหน็ดเหนื่อยกับการไล่ต่อสู้กับแก็งร็อคเก็ต ปาจิริสุ ทิ้งตัวลงนอนราบกับไหล่ของเด็กหญิงด้วยความเหน็ดเหนื่อย ส่วนคูจีโต้เริ่มหอบแฮ่กท่ามกลางวงล้อมของเหล่าแซนและการ์ดี้

แมกมาราชิ ซูแบทและแลนเทิร์นเองก็เช่นกัน แต่ละตัวเริ่มหายใจหอบแรงๆ และพลังในการโจมตีเริ่มลดความรุนแรงลงเรื่อยๆ

โยกิรัสยังคงนั่งสบายอยู่บนบัลลังค์อาโบ้ มันโจมตีแค่โปเกมอนที่มายุ่มย่ามกับมันเท่านั้น

ท่าทางจะเริ่มเหนื่อยกันแล้วนะลาปลัสตั้งข้อสังเกต มันยังคงยิงสำแสงแช่แข็ง สลับกับกระสุนน้ำใส่โปเกมอนตัวแล้วตัวเล่าโดยไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย

อาร์บี้ ใช้เมล็ดกาฝากฟื้นตัวก่อนเร็วเข้ามารินตะโกนบอกเบย์ลีฟของตนที่เริ่มเหงื่อตกแล้วเหมือนกัน เบย์ลีฟพ่นเมล็ดพืชเข้าใส่เนียสตัวหนึ่ง ที่อยู่ไม่ไกล เมล็ดกาฝากงอกขึ้นพันร่างของเนียสอย่างรวดเร็ว แต่ในจังหวะนั้น เบย์ลีฟไม่ทันระวังการ์ดี้ตัวหนึ่งที่ใช้กงล้อเพลิงพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง

การ์ดี้พุ่งเข้ากระแทกมันล้มลงฟาดพื้นจนแผดเสียงลั่น

อาร์บี้! อย่ายอมแพ้นะมารินพยายามส่งเสียงเชียร์ สองมือของเธอกำแน่น แน่นเสียจนสั่นระริก ลาปลัสอ่านออกว่าเธอกำลังโกรธตัวเองที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือพวกพ้องได้เลย มันจึงพูดขึ้นปลอบเธอ

มาริน เธอทำดีที่สุดแล...อั้ก!

ลาปลัสพูดไม่ทันจบ น้ำเสียงของมันก็ต้องสะดุดลง มันรู้สึกปวดหัวขึ้นอย่างกะทันหันหัวของมันเหมือนโดนบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น ร่างทั้งร่างเจ็บแปล๊บราวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

อ้าก!ลาปลัสทนไม่ไหวแผดเสียงร้องลั่น มันทั้งตัวราบลงกับชายฝั่ง แลนเทิร์นที่ว่ายอยู่ข้างๆหยุดปล่อยกระแสไฟฟ้า หันมามองลาปลัสด้วยความตกใจ

เป็นอะไรไปโคร่ามารินถามหน้าตาตื่น

ฝ่ายมิโดริเมื่อกี้ยินเสียงแผดร้องของลาปลัสก็ตกใจหันขวับกลับมาดู ลืมการต่อสู้เบื้องหน้าไปโดยสิ้นเชิง

มารินเกิดอะไรขึ้นน่ะ มิโดริตะโกนถาม

ไม่รู้ อยู่ๆโคร่าก็ล้มลงไปเลย อ้ะ! มิโดริระวัง!

แซนแพนตัวหนึ่งอาศัยจังหวะที่มิโดริและคูจีโต้เสียสมาธิ กระโดดเงื้อกรงเล็บเข้าใส่

กรี๊ด!มิโดริกรีดร้องลั่น กรงเล็บของแซนแพนเหวี่ยงฟาดลงมา คูจีโต้พยายามยกปากเหล็กขึ้นรับแต่ก็ไม่อาจจะรับไหว แซนแพนจับคูจีโต้ฟาดเข้าใส่มิโดริทำให้ทั้งคู่กระเด็นไปด้านหลังหลายตลบ มิโดริและปาจิริสุสลบไป ส่วนคูจีโต้ก็ไม่อาจจะลุกขึ้นไหว

อาร์บี้ รีบใช้คัตเตอร์ใบไม้ใส่แซนแพนเร็วมารินรีบสั่งเสียงตื่น

เบย์ลีฟสะบัดใบไม้บนหัว คัตเตอร์ใบไม้จำนวนมากพุ่งเข้าหาแซนแพน

มุดดินเสียงสั่งของหัวหน้าหน่วยแก็งร็อคเก็ตดังขึ้น แซนแพนใช้กรงเล็บที่แหลมคมมุดตัวลงไปใต้ดินอย่างรวดเร็ว คัตเตอร์ใบไม้พุ่งไปในอากาศไม่ได้เฉียดแม้หางของแซนแพน

อาร์บี้ระวังนะ มันจะขึ้นมาจากตรงไหนก็ไม่รู้มารินเตือน

เบย์ลีฟกวาดสายตาไปรอบ ๆ เตรียมรับมือการโจมตีแบบฉับพลันของแซนแพน สายตาของเบย์ลีฟกวาดมองไปอย่างระมัดระวังรอบๆด้าน

แต่มันลืมบางสิ่ง ลืมมุมอับสายตาที่มันมองไม่เห็น...ใต้ท้อง

แซนแพนพุ่งพรวดขึ้นมาพร้อมกับอัดกรงเล็บเข้าใส่ท้องของเบย์ลีฟเต็มแรง

ดวงตาทั้งคู่ของเบย์ลีฟแทบจะถลน ปากอ้ากว้างแต่ไร้ซึ่งสุ่มเสียง มันล้มลงไปทั้งยืน

อาร์บี้!

โอกาสมาแล้ว ออกมามาตาโดกัสหัวหน้าหน่วยของแก็งร็อคเก็ตพูดพร้อมปล่อยมาตาโดกัสออกมา อาบ็อคเมื่อเห็นมาตาโดกัสออกมาก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองต้องทำอะไร มาตาโดกัสเองก็เช่นกัน มันทั้งสองพุ่งออกไปทันที

ท่ามกลางฝูงโปเกมอนของแก็งร็อคเก็ต ซูแบทที่เหนื่อยเต็มทีกำลังใช้มีดสายลมเจ้าจู่โจมอมิตรอย่างทุลักทุเล จนไม่อาจสังเกตขากรรไกรสีม่วงพร้อมกับเขี้ยวแหลมเรียงรายส่องประกายสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลังได้ อาร์บ็อคใช้เขี้ยวสายฟ้า(Thunder fang) กัดซูแบทเข้าแบบจังๆ ซูแบทแผดเสียงลั่น ก่อนที่จะหมดสติคาปากของงูยักษ์ อาร์บ็อคขว้างมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

อีกฟากหนึ่งก็แย่ไม่แพ้กัน แมกมาราชิใช้กงล้อเพลิงพุ่งเข้าใส่มาตาโดกัสด้วยแรงเฮือกสุดท้าย แต่โปเกมอนที่เหนื่อยอ่อนไม่อาจจสร้างการโจมตีที่ร้ายกาจได้ มาตาโดกัสที่เด่นเรื่องพลังป้องแทบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยกับการโจมตีของแมกมาราชิ มาตาโดกัสสนองการโจมตีของแมกมาราชิกลับไปด้วยการถ่มก้อนโคลนเลนสีม่วงน่าเกลียดเข้าใส่แมกมาราชิ ทันทีที่ก้อนโคลนถูกตัวเป้าหมายมันก็ระเบิดตูมขึ้น แมกมาราชิโดนแรงระเบิดซัดกระเด็นออกมานอนหมดสติอยู่ไม่ไกลกับ ซูแบท

จังหวะนี้แหละ บุกไปจับตัวพวกมันมาให้ได้ ไม่ต้องกลัวลาปลัสของมัน ลาปลัสของมัน โดนมรณะทำนาย(Future sight) ของเครวานของหัวหน้าเรฟจัดการไปแล้ว ไปเอาตัวไอ้หนุ่มนั่นไปส่งให้ท่านหัวหน้า!หัวหน้าหน่วยตะโกนสั่งเหล่าลูกน้อง

แซนแพนของเขาที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าสุด ชูแขนแผดเสียงลั่นราวกับว่ามันคือแม่ทัพแห่งกองทัพโปเกมอนครั้งนี้ เหล่าโปเกมอนของแก็งร็อคเก็ต ส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดตามผู้นำของมัน เหล่าสมาชิคแก็งร็อคเก็ตก็เช่นกัน เมื่อเห็นหัวหน้าโชว์ความสามารถก็เกิดกำลังใจฮึกเหิม เสียงตะโกนสั่งโปเกมอนของตัวเอง ดังขึ้นทั่วถ้ำ เหล่าโปเกมอนของแก็งร็อคเก็ตที่เหลือพากับเฮโลเข้าใส่พวกมารินทันที

แซนแพนกระโดดเข้าไปยังโยกิรัสที่ยังคงนั่งสบายอยู่บนบัลลังค์อาโบ้

กรงเล็บยาวของแซนแพนเงื้อขึ้นหมายฟลิดชีพศัตรูเบื้องหน้า โยกิรัสจ้องไปที่แซนแพนเขม็ง มันขว้างอาโบ้เข้าใส่หน้าของแซนแพนจนแซนแพนต้องชะงักเสียหลักเพราะมองไม่เห็น โยกิรัสอาศัยจังหวะนี้กระโดดยกแขนเล็กๆ ที่ทรงพลังฟาดเข้าใส่แซนแพนจนกระเด็นออกไป

แซนแพนม้วนตัวกลมกลิ้งไปตามพื้นถ้ำ เพื่อลดแรงกระแทก ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเพิ่มความเร็วในการกลิ้งไปตามพื้น เลี้ยวย้อนกลับตรงเข้าใส่โยกิรัสอีกด้วย โยกิรัสเตรียมตั้งท่าตั้งรับอย่างไม่เกรงกลัว

ทันใดนั้น ฟองจำนวนนับไม่ถ้วน ก็พุ่งเข้าใส่แซนแพนอย่างรวดเร็วเหมือนปืนกล กระแทกแซนแพนจนเสียหลักล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ผู้ที่ยิงลำแสงฟองสบู่เข้ามาก็คือแลนเทิร์น

แต่โยกิรัสไม่ได้ มีท่าขอบคุณแลนเทิร์นเลย มันหันกลับมาส่งเสียงดุแลนเทิร์นจนหน้าจ๋อย แต่เวลาดุของมันมีไม่นานนักเมื่อฝูงโปเกมอนดาหน้ากันเข้ามานับสิบๆตัว โยกิรัส หันไปรับศึกกับพวกมันอย่างบ้าคลั่ง โดยมีแลนเทิร์นคอนยิงกระแสไฟและลำแสงฟองสบู่สนับสนุน

อาร์บ็อค ซึ่งอยู่ดูการต่อสู้มาแต่แรก รู้ถึงความเก่งของโยกิรัสดี มันหลีกไปอีกทาง อ้อมหลังโขดหินสูงอย่างเงียบเชียบ ตรงเข้าไปหามาริน และเธอไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

มารินกำลังสาละวนอยู่กับอาการของลาปลัสที่ดูย่ำแย่ ลาปลัสปล่อยให้ร่างกายทั้งหมดวางราบอยู่กับพื้น ความเจ็บปวดทำให้สีหน้าของมันดูไม่ดีเอาเสียเลย ฟันทั้งบนล่างกัดกันแน่นจนสั่นระริก

เจ้ายุนเกเลอร์ตัวแสบ...บ้าชะมัด มันไม่ใช้การโจมตีแบบปัจจุบันเพื่อให้พวกเราตายใจ แต่ใช้มรณะทำนายทิ้งเอาไว้แถมยังรุนแรงมากเอาซะด้วยฉันประมาทพวกมันเกินไปจริงๆลาปลัสส่งประแสจิตมาหามาริน

โคร่า ทำใจดีๆไว้นะมารินร้องบอกอย่างเป็นห่วง เธอมองดูรอบๆ ว่าพอจะมีอะไรที่เธอจะใช้ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เพราะมีโยกิรัสอยู่ พวกแก็งร็อคเก็ตจึงไม่อาจะถึงตัวเธอ แต่ถ้าหากโยกิรัสหมดแรงเมื่อไร พวกเธอคงจะถูกพวกมันเล่นงานแน่

แล้วสายตาเธอก็ไปสะดุดเข้าไป อาร์บ็อคก็ส่งเสียงขู่ฝ่ออยู่บนโขดหินสูงใกล้ๆ อาร์บ็อคเมื่อเห็นว่าเธอรู้ตัวแล้วจึงไม่เคลื่อนไหวแบบช้าๆอีกต่อไป มันรีบเลี้อยพุ่งมายังเธอทันที มารินไม่ได้ตกใจลนลาน เธอรีบคิดหาหนทางที่จะเอาชีวิตรอด แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ เด็กสาวรีบปีนกลับไปบนหลังของลาปลัสอีกครั้ง แม็กซ์ยังคงไม่ได้สติ แต่อาการของแม็กซ์จะเป็นอย่างไรนั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสนใจในตอนนี้ มารินจับสายตาไปยังสายคาดเอวของแม็กซ์ บนนั้นยังมีโปเกมอนเหลืออีก 2 ลูก หนึ่งนั้นคือโปเกบอลเก่าคร่ำครึ ที่แม็กซ์ไม่เอาเอาออกมาใช้เลย ข้างในจะเป็นโปเกมอนแบบไหนเธอก็ไม่อาจจะรู้ แต่ในเวลาแบบนี้มีแต่ต้องเสี่ยง

อาร์บ็อคเลื้อยเข้ามาจนถึงระยะหวังผล มันกระโจนอ้าปากกว้างกระโจนเข้าใส่มารินทันที

ขอร้องล่ะ ใช้ได้ทีเถอะ

มารินขว้างบอลสวนเข้าใส่อาร์บ็อค กลุ่มแก็ซสีม่วงกระจายตัวออกมาพร้อมกับเสียงแก๊ซที่ฟังคล้ายเสียแก๊ซของน้ำอัดลมดังซ่าขึ้น เสียงนั้นสะท้อนไปทั่วถ้ำ กลุ่มแก๊ซสีม่วงกระจายเข้าล้อมตัวอาร์บ็อคไว้ ในพริบตานั้น กระแสไฟฟ้าก็ลั่นเปรี๊ยะอย่างรุนแรงสว่างแสบตาจนมารินต้องยกมือขึ้นป้องดวงตาไว้

ร่างของอาร์บ็อคร่วงลงชักดิ้นพราดๆกับพื้นอยู่พักหนึ่ง แล้วมันก็แน่นิ่ง

มารินค่อยๆ ลดมือลง เด็กสาวแทบจะร้องกรี๊ดแต่ก็ไร้ซึ่งซุ่มเสียง เธอกำลังปะหน้าดวงตาโตที่มีตาขาวเป็นสีแดงคู่หนึ่งห่างจากหน้าเธอไปไม่ถึงนิ้ว

แต่แล้ว สติสัมปชัญญะของเธอก็เริ่มหลุดลอย ภาพข้างหน้าพร่ามัว แล้วทุกอย่างก็ดับมืดลง

แขนข้างหนึ่งยื่นเข้ามาประคองร่างของเด็กสาวเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ให้เด็กสาวที่หมดสติร่วงลงไปจากหลังขอลาปลัส

แม่นี่ เวลาหลับก็น่ารักไปอีกแบบแฮะรอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้มาช่วย ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกของมาริน ค่อยๆถูกบรรจงวางลงบนหลังของลาปลัส

เท้าคู่หนึ่งกระโดดลงจากหลังของลาปลัส เจ้าของร่างสะบัดแขนขาหักนิ้วเอี้ยวคอไปมาเป็นการวอร์มร่างกาย

น...นายลาปลัสค่อยๆลืมตาขึ้นมองร่างนั้นพร้อมกับส่งกระแสจิตไปหา

นอนให้สบายโคร่า จากนี้ฉันรับต่อเองแม็กซ์หันมายิ้มให้กับลาปลัส ลาปลัสรู้สึกอึ้งๆ แกมสงสัย แม็กซ์รู้ชื่อของมันได้อย่างไร แล้วทำไมเขาถึงไม่สงสัยอะไรเลย อย่างน้อยก็ต้องคำถามพื้นฐาน เช่น เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ทำไมนายถึงดูเหมือนรู้เรื่องราวหมดทุกอย่าง

ไม่ต้องสงสัยอะไรหรอกแม็กซ์ตอบ ฉันรู้สึกตัวตั้งแต่มารินเริ่มเช็ดตัวให้ฉันแล้ว แต่ว่า นานๆทีจะดีกับฉันต่อหน้าคนอื่นบ้าง ก็เลยแกล้งนอนต่อ ที่ไม่ยอมลุกขึ้นมาช่วยพวกนายสู้ก็เพราะอยากฝึกโปเกมอนของฉันสักหน่อยน่ะ

ฝึก?ลาปลัสทวนคำ

ใช่ ฝึกให้ต่อสู้โดยใช้สัญชาตญาณ แต่ตอนนี้การฝึกจบลงแล้วล่ะ ที่เหลือคือการปิดฉาก แกล! สิ้นเสียงเรียกของแม็กซ์ เงาดำๆ เงาหนึ่งก็กระโดดพรวดออกมาจากเงามืดของโขดหิน

กันก้าตัวหนึ่งออกมาลอยอยู่ข้างๆ แม็กซ์ ดวงตาและรอยยิ้มแสยะโชว์ฟันทั้งปากของมันแสดงออกถึงความตื่นเต้นที่ได้ออกจากบอลมาสู่การต่อสู้อีกครั้งราวกับนี่คือสิ่งที่มันรักและคิดถึงหลังจากจากไปนานแสนนาน มันส่งเสียงซ่าที่เหมือนเสียงน้ำอัดลมที่กำลังซ่าได้ที่พลางค้อนสายตามาทางแม็กซ์ ศอกของมันกระแทกเจ้านายเบาๆอย่างหยอกเย้า

ไม่ต้องมาล้อน่ะ หยอกคนนิดหน่อยเป็นไรไป นายน่ะ รีบๆ เอาเซ็ทกับเจสกลับมาเถอะน่ะแม็กซ์พูดกับมันอย่างสนิทสนม

กันก้ายื่นมือออกมาข้างหน้า ร่างของแม็กมาราชิและซูแบทค่อยๆลอยเข้ามายังพื้นใกล้ๆกับลาปลัส

เซ็ท เจส ประสบการณ์วันนี้ฉันหวังว่าพวกนายจะจำไว้เป็นอย่างดีนะ จดจำเอาไว้ ไม่ว่ายามที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากเพียงไหนก็ต้องอดทน ค่อยๆคิดอย่างสุขุม ไม่ใช่บุ่มบ่ามโจมตีเหมือนคราวนี้แม็กซ์หันไปพูดกับแมกมาราชิและซูแบทที่อยู่ในสภาพที่สะบัดสะบอมเต็ม ไม่ทันที่แมกมาราชิและซูแบทจะตอบอะไร แม็กซ์ก็หันไปตะกันพูดกับโยกิรัสต่อทันที

เฮ้ โยกิรัส

โยกิรัสหันขวับ ในใจของมันแอบหวั่นเล็กน้อยว่าแม็กซ์จะใช้บัญชาสวรรค์กับมันอีกรึไม่ มันไม่ชอบใจเอาเสียเลยกับสถานการณ์ที่เหมือนโดนข่มขู่เช่นนั้น

จากนี้ไปฉันจะไม่ใช้ บัญชาสวรรค์กับแกแล้ว ฉันจะให้แกเลือกเลย ถ้าไม่อยากสู้กับฉันจริงๆ ฉันก็จะไม่ห้ามแก แกจะไปไหนก็ไปเลย แต่ถ้าแกยังอยากจะสู้ร่วมกับฉัน

แม็กซ์ปราดเข้าไปเหวี่ยงหมัดใส่โกรัตต้าตัวหนึ่งจนกระเด็นกลับเข้าฝูงไป

ก็ตามฉันมา แม็กซ์หันมาฉีกยิ้มเชิงท้าทายให้กับโยกิรัส ก่อนที่จะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่อาโบ้อีกตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา

การ์ดี้สองตัวกระโจนพุ่งเข้ามายังเด็กหนุ่ม แม็กซ์ง้างหลังมือขึ้นเตรียมฟาดทีเดียวสองตัว แต่ทว่า วัตถุทรงกลมสีดำลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาอัดกระแทกการ์ดี้ทั้งสองตัวจนสลบไปได้ในคราวเดียว การโจมตีนั้นชิงตัดหน้าแม็กซ์ไปแบบซึ่งๆหน้า

แกล ไหงมาตัดหน้ากันงี้ล่ะแม็กซ์หันไปโวยวายใส่กันการ์ที่กำลังเดาะลุกบอลสีดำในมืออย่างสบายอารมณ์ มันบึ่งปากพร้อมกับโชว์นิ้วกลางใส่นายของมัน

แม็กซ์กระทืบโกรัตต้าอีกตัวหนึ่งจมติดดินพร้อมกับส่ายหน้าถอนหายใจ

ก็เป็นซะแบบนี้แหละฉันถึงไม่อยากเอาแกออกมาเลย

กันการ์เล่นหน้ากลอกตาทำปากพูดล้อเลียนแม็กซ์ แต่แล้วมันก็ต้องหยุดแล้วรีบหนีไปทางอื่นเมื่อพบกับสายตาอาฆาตจากนายหนุ่ม

แม็กซ์และกันการ์เข้าร่วมตะลุมบอนกับโปเกมอนและแก็งร็อคเก็ตที่มีจำนวนมากกว่าอย่างไม่เกรงกลัว หลังชนหลัง ไม่มีการออกคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่การยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันในยามคับขันเท่านั้น

โยกิรัสยืนมองด้วยความทึ่ง

ไปสิไอหนูเทเลพาธีจากลาปลัสที่นอนฟุบอยู่กับพื้นดังขึ้นในหัวของโยกิรัส ไปกับเพื่อนของนาย

ลาปลัสแม้อยู่ในอาหารสาหัสก็ยังยิ้มออกมาได้ มันอดดีใจไม่ได้ที่การพบกันกับมนุษย์ครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีนี้ ได้พบกับคนที่น่าประทับใจคนหนึ่ง

โยกิรสหลับตาหัวเราะหึหึในลำคอ เสียงๆ หนึ่งดังก้องขึ้นในความทรงจำของมัน เสียงนั้นเป็นเสียงของชายแก่ผู้น่าเกรงขามผู้หนึ่ง

...จากนี้ไปเธอจะต้องไปอยู่กับเทรนเนอร์คนหนึ่ง แต่จงอย่าได้เชื่อฟังเขา จนกว่าเขาจะแสดงตัวออกมาว่าเขาจะเป็นเพื่อนและเจ้านายของเจ้าได้...

ร่างกายของโยกิรัสค่อยๆส่องแสงและเปลี่ยนรูปร่างไป

__________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 17 เหงารึเปล่า

ท่ามกลางวงล้อมของกองทัพโปเกมอน

แม็กซ์กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับหัวหน้าหน่วยแก็งร็อคเก็ต สองข้างตัวของหัวหน้าหน่วยผู้นั้นมีแซนแพนกับมาตาโดกัสยืนขนาบข้างราวกับเป็นองครักษ์

แกล ดูสิเราเจออะไร โจทก์เก่าว่ะแม็กซ์หันไปพูดกับกันการ์ด้วยน้ำเสียงหลอกล้อ กันก้าร์หัวเราะหึหึรอยยิ้มแสยะฉีกกว้าง นัยน์ตายียวนแฝงรอยของความตื่นเต้นบางอย่าง

เป็นความตื่นเต้นที่ดูน่ากลัวและโหดร้าย กำลังตื่นเต้น กำลังดีใจที่กำลังจะได้ชำระแค้นอันมากมายมหาศาลที่มีต่อแก็งร็อคเก็ต

อดีตของพวกเขายังดำมืดและลึกลับ ความแค้นที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อกันคงมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่รู้

หัวหน้าหน่วยผู้นั้นไม่ได้มีท่าทีพรั่นพรึงหรือตกใจใดๆกับการที่แม็กซ์สามารถตะลุยกองทัพโปเกมอนเข้ามาถึงตนได้เลย เขากลับยังมีท่าทีกระหยิ่มใจว่าตนยังเหนือกว่าคู่แข่งอีกหลายขุม เขากล่าวทักทาย

แกคือ..แม็กซ์ เทรนเนอร์เพียงหนึ่งเดียวผู้ใช้...

นั่นมันอดีตไปแล้วแม็กซ์พูดขัดขึ้นทันควัน

ใช่ อดีต อดีตที่แกเคยพ่ายแพ้ให้กับพวกเราแก็งร็อคเก็ต

นั่นมันก็อดีตแล้วเหมือนกัน ในวันนี้พวกแกก็ไม่ได้ยกฝูงกันมารุมทึ้งฉันแบบเมื่อวันนั้น นับว่าพวกแกพลาดแล้ว แกล

สิ้นเสียงสัญญาณ กันการ์สร้างชาโดว์บอลขึ้นมาในมือแล้วซัดออกไปอย่างรวดเร็ว หัวหน้าสั่งโปเกมอนของตัวเองโต้ตอบทันที

แซนแพน ไจโร่บอล(Gyro ball)

แซนแพนม้วนกลัวกลิ้งหลบชาโดว์พร้อมกับหมุนตัวพุ่งเข้าใส่กันก้าร์อย่างรวดเร็ว

เงาของอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามามาอย่างรวดเร็วเหมือนจรวด กระแทกเข้าใส่แซนแพนอย่างแรงจนเกิดเสียงปะทะดังเปรี้ยง

แซนแพนกระเด็นไปไหลหลายตลบ เจ้าของเงานั้นก็คือ ซานากิรัสที่ใช้ศีรษะเหล็กกล้า (Iron Head) พุ่งเข้ามา โดยใช้แก๊สพิเศษที่ปล่อยออกมาจากตัวเป็นแรงขับเคลื่อนเหมือนจรวด

มาจนได้นะแม็กซ์ยิ้ม

กรรซานากิรัสตอบเสียงต่ำ

แม็กซ์มีพวกมาเพิ่มแล้ว แต่หัวหน้าหน่วยผู้ทระนงตัวยังมีความมั่นใจในตัวเองเสมอ

มีพวกมาเพิ่มงั้นเหรอ ไม่คณามือหรอก มาตาโดกัส!

______________________-

โบราณสถานอัลฟ์

เท้าสองคู่ก้าวเหยียบเข้ามาให้ห้องพิธีที่กว้างใหญ่และมีบรรยกาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ตลบอบอวน ซากากิและวูล์ฟกำลังยืนอยู่ต่อหน้ารูปปั้นโฮโอทองคำ

ซากากิแหงนหน้าขึ้นมองรูปปั้นโฮโอ ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เขาพึมพำเบาๆ

นี่ไง สิ่งที่ข้าต้องการ

ส่วนวูล์ฟนั้นไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับสถานที่แม้แต่น้อย เขาสะบัดหน้าส่ายไปส่ายมาอย่างหงุดหงิด

โครงกระดูกพวกนี้มันอะไรกัน เกะกะชะมัด วูล์ฟว่าพลางยกเท้ายันกระดูกคาบูท็อปตัวหนึ่งหล่นตูมลงไปในน้ำ เสียงน้ำกระฉอกดังก้องไปทั่วห้อง

วูล์ฟ อย่าพึ่งไปแตะต้องอะไรมั่วๆนะซาซากิเอ็ด

คร้าบๆ ป๊ะป๋าวูล์ฟตอบแบบขอไปที

เก็บภาพของตัวอักษรบนฝาผนังไปให้หมด เอากลับไปให้คิมูระแปล จะได้เริ่มก้าวแรกกันซักที

ครับ ป๊ะป๋า

___________________________-

ในอาคารหลังหนึ่งของโบราณสถานอัลฟ์

เอเตบอสวิ่งไต่ขึ้นไปตามร่างกายของหญิงสาวคนหนึ่ง มันขึ้นมาหยุดเกาะบนไหล่ของเธอ หญิงสาวผู้นั้นมีร่างกายที่ผอมเพรียว สวมเสื้อแบบสาวออฟฟิศสีม่วง กระโปรงสีม่วงยาวเสมอเข่า เรือนผมสีม่วงเข้มแวววาวถูกรวบเกล้าขึ้นอย่างมีระเบียบ ผู้แต่งกายในลักษณะนี้คงมีเพียงทาซิก้าแห่งแก็งร็อคเก็ต

เธอกำลังยืนเอามือทั้งสองจับศอกของแขนอีกข้างอันเป็นท่าประจำ มองภาพเบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ในขณะที่เอเตบอสของเธอยิ้มแป้นให้กับผลงานของมัน

จิ้กซอว์ยักษ์ที่มารินและมิโดริพบก่อนหน้าถูกต่อเป็นรูปร่างแล้ว ลายเส้นที่สลักบนแผ่นหิน เรียงต่อกันเป็นรูปของอสูรกายตัวหนึ่ง มันมีรูปร่างคล้ายนกขนาดใหญ่คอยาว รอบๆตามีขอบยื่นออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปีกของมันเหมือนแขนขนาดใหญ่ หางยาวเหมือนหางของสัตว์เลื้อยคลาน

จำตัวอักษระในห้องนี้ได้หมดแล้วใช่มั้ยเธอพูดขึ้น

โบ๊ส!เอเตบอสพนักหน้ารับ

ดี งั้นก็กลับกันได้แล้ว

______________________________-

ภูเขาชิโรเก็น

ในหุบเขาแคบๆ ที่ทอดยาวออกไปจนลับสายตา ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น สายลมอ่อนๆ ที่พัดโกรกในหุบเขาพัดเอาเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงและผมสั้นๆของเขาให้ปลิวไปตามตามแรงลม

มือของเขายกโปเกียร์ขึ้นใกล้ริมฝีปาก

สวัสดีครับด็อกเตอร์เขากล่าวทักทาย

สวัสดีริวอิจิ มีปัญหาอะไรรึเปล่าเสียงปลายสายตอบ

ไม่มีปัญหาครับ แก็งร็อคเก็ตทั้งร้อยคนในภูเขาชิโรเก็น ไม่มีใครหลุดรอดไปได้แม้แต่คนเดียวครับ ชายหนุ่มตอบพลางหันกลับไปดูร่างของสมาชิกแก็งร็อคเก็ตที่นอนสลบอยู่ตามทางในหุบเขา

จำนวนเหล่าสมาชิคแก็งร็อคเก็ตพวกนั้นมากจนในหุบเขาดำพรืดไปหมด

เหนือขึ้นไปบนหน้าผาที่ขนาบอยู่สองข้างทาง ไคริวตัวหนึ่งกำลังใช้แขนละขาข้างหนึ่งห้อยตัวเองอยู่กับหน้าผา สายตาที่เข้มแข็งดุดันไล่กวาดสำรวจเหล่าแก็งร็อคเก็ตเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีคนที่ยังมีสติเหลืออยู่

เยี่ยมไปเลย เดี๋ยวฉันจะรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวพวกนั้นอีกทีนึงนะเสียงปลายสายพูดขึ้นอย่างดีใจ ริวอิจิเพียงตอบรับสั้นๆ

ครับ

สายถูกตัดลงพร้อมกับหูโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของด็อกเตอร์ออร์คิดถูกวางลง

พึ่งพาได้จริงๆนะครับ สมกับเป็นลูกศิษย์ของเทรนเนอร์มือฉมังอย่างท่านผู้เฒ่า ด็อกเตอร์หันไปพูดกับผู้เฒ่ามังกรซึ่งกำลังนั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้นวมที่ใหญ่เกินตัว ท่าทางของเขาดูขรึมอยู่เสมอ

ชมเกินไปแล้ว ฉันก็มีหน้าที่แค่สอน ที่เหลือมันก็ขึ้นกับพวกเขาเองผู้เฒ่าถ่อมตัว

ถ่อมตัวอีกแล้วนะครับท่านผู้เฒ่า อ้ะ!ด็อกเตอร์ออร์คิดรู้สึกได้ถึงแรงสั่นของโปเกเกียร์บนข้อมือ จึงยกมันขึ้นดู

นั่นไง มาอีกรายแล้ว ขอตัวสักครู่นะครับด็อกเตอร์ออร์คิดหันหน้าออกจากท่านผู้เฒ่าแล้วรับสายโปเกียร์

สวัสดี แม็กซ์

สวัสดีครับด็อกเตอร์เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมาจากปลายสาย ตอนนี้ผมจัดการกับพวกลูกกระจ๊อกของแก็งร็อคเก็ตได้ราวๆ ร้อยคน โปเกมอนราวๆ สองร้อย และ หัวหน้าหน่วยแก็งร็อคเก็ตอีก 1 คน จะให้ผมทำยังไงดีครับ

แหม พอดีเลย ริวอิจิก็เพิ่งจะจัดการกับแก็งร็อคเก็ตไปที่ภูเขาชิโรเก็นไป ร้อยคนพอดี บอกตำแหน่งของเธอมาแล้วกันนะแล้วฉันจะรีบส่งคนไปรับตัวพวกนั้นเองด็อกเตอร์ตอบรับอย่างดีใจ เขาไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมีข่าวดีติดกันถึงสองข่าวแบบนี้

เหนื่อยแทบตาย สุดท้ายมีคนตัดหน้า เฮ้อเสียงบ่นตัดพ้อดังขึ้นที่ปลายสาย

เอาน่าๆ เรื่องแบบนี้คงมีแต่พวกเธอเท่านั้นแหละที่จะทำได้น่ะด็อกเตอร์ปลอบ

ครับด็อกเตอร์ ยังไงก็ช่วยส่งคนมาเร็วๆนะครับ ตำแหน่งอยู่ที่บ่อน้ำยาดอนเมืองฮิวาดะ

ได้ๆ แล้วฉันจะรีบดำเนินการให้

สายถูกตัดจบไปแค่นั้น ด็อกเตอร์ออร์คิดแทบเก็บยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

ให้ตายสิ ผมชักอยากจะเห็นวิธีฝึกคนของท่านหน่อยแล้ว

ผู้เฒ่าหัวเราะหึหึ

จะลองบ้างก็ได้นะด็อกเตอร์

ไม่ล่ะครับ อายุปูนนี้แล้ว ไว้ส่งลูกส่งหลานไปฝึกด้วยจะดีกว่า

ผู้เฒ่ามังกรไม่ตอบอะไร สีหน้าเจือด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ การมีลูกศิษย์ที่มีคุณภาพและทำประโยชน์ให้สังคมนั้นนับเป็นความสุขสูงสุดของอาจารย์อย่างเขาแล้ว

ว่าแต่... แบบนี้ก็เท่ากับว่าแผนการขั้นแรกของเราสำเร็จเรียบร้อยดีนะครับ ด็อกเตอร์ออร์คิดพูดขึ้น เขายิ้มแก้มแทบปริ

ใช่ผู้เฒ่ามังกรเห็นด้วย แต่ว่าจากนี้ไปแหละของจริงแน่นอน จับตาดูพวกมันให้ดีแล้วกัน พวกมันคงไม่ประมาทอีกแล้ว

ก็คงอย่างนั้นแหละครับ

_______________________-

ถ้ำยาดอน

แม็กซ์ วางสายโปเกเกียร์ รอบๆตัวเขาเต็มไปด้วยเหล่าแก็งร็อคเก็ตและโปเกมอนนอนกองทับกันเป็กองพะเนิน หัวหน้าหน่วยแก็งร็อคเก็ตนอนสลบอยู่แทบเท้าของแม็กซ์ แซนแพน และมาตาโดกัสเองก็เช่นกัน

แม็กซ์ หันหลังเดินกลับมายังลาปลัส กันการ์และซานากิรัสลอยตามกลับมาด้วย

1 ต่อ ร้อยงั้นเหรอ...หึหึหึ เก่งจริงนะลาปลัสชม อาการบาดเจ็บของมันเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว

ก็แค่ว่าเคยเจอโหดกว่านี้น่ะแม็กซ์ตอบ เขากันไปพูดกับซานากิรัสต่อคลิฟ แกไปแบกมิโดริมาหน่อยสิ

ซานากิรัสหันขวับ มันขมวดคิ้วจ้องมองแม็กซ์ มันเหมือนแปลกใจในคำที่แม็กซ์ใช้เรียกมัน ซ้ำยังไม่ชอบใจ

ไม่ต้องมามอง แกนั่นแหละคลิฟ ไปทำตามคำสั่งไปแม็กซ์ย้ำ เด็กหนุ่มแสดงท่าทีเหมือนไม่สนใจเลยว่าซานากิรัสจะคิดกับชื่อนั้นอย่างไร ซานากิรัสคำรามลั่นพร้อมกับพุ่งเข้ากระแทกหน้าแม็กซ์จนหงายหลังตึง

อาร๊ายยยยย ไม่พอใจอะไรของแก๊ คลิฟแม็กซ์ร้องเหมือนกรี๊ดสองมือกุมแก้มที่บวมเป่ง

ซานากิรัสลอยเข้ามาใกล้แม็กซ์พร้อมทำทำหน้าตาทะมึงทึงเหมือนยักษ์

อะไรของแก น่ะคลิฟ ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง

โยกิรัสพุ่งเข้ากระแทกแม็กซ์จนร้องเสียงหลงอีกรอบ

แว้กกกกก แกต้องการอะไรของแกน่ะคลิฟ

...นี่ไม่รู้จริงๆเหรอน่ะลาปลัสเหงื่อตกไปพลาง ขณะมองดูซานากิรัสไล่ชนแม็กซ์เหมือนหมาไล่รถ

โอเคๆ เข้าใจแล้วแกไม่ชอบชื่อที่ฉันตั้งให้ใช่มั้ยคลิฟในที่สุดแม็กซ์ก็เข้าใจ แล้ว แกจะเอาชื่ออะไรคลิฟ บอกมาสิคลิฟ

กรร!ซานากิรัสขู่คำรามอย่างหัวเสีย แม็กซ์ถามมันเหมือนมันจะสามารถตอบเขาได้ ซานากิรัสเดือดดาลเป็นที่สุด

อะไรนะ จะเอาชื่อ กรร เหรอ ไม่เอาน่าไม่เท่ห์เลย แว้ก แม็กซ์ต้องรีบหลบเพราะซานากิรัสพุ่งเข้าใส่หน้าเขาอย่างเกรี้ยวกราด

ฮ่าๆๆๆพวกนายนี่ตลกดีนะลาปลัสหัวเราะร่า แกลเองก็เช่นกัน มันหัวเราะเสียจนต้องกุมท้อง

ซานากิรัสส่งเสียงฟึดฟัดไม่พอใจที่การกระทำของมันกลายเป็นเรื่องขำขันไปเสียได้

แม็กซ์เลิกสนใจกับซานากิรัส เขาหันมาทางลาปลัส กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมลง

หลายปีมานี่...นายคงเหงามากสินะ

ก็ราวๆนั้นแหละ แต่ก็ไม่ได้เหงามากหรอกนะ ฉันก็ออกไปว่ายน้ำเล่น แก้เบื่อบ่อยๆ

แม็กซ์ไม่ตอบในทันที เขาเดินเข้าไปหาร่างของมารินที่หลับไปเพราะการสะกดจิตของกันก้า แม็กซ์ประคองร่างของเธอขึ้นขี่หลัง

เด็กหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ

ทำไม... ถึงไม่ไปเกิดใหม่สักทีล่ะ

คำพูดของแม็กซ์เปลี่ยนบรรยากาศของห้องไปทันที ลาปลัสอึ้งดวงตาเบิกกว้าง กันการ์หยุดหัวเราะ มันเหลือบมองมาทางนายของมันด้วยสายตาที่สุขุมลงมาก ส่วนซานากิรัสนั้นยังคงขมวดคิ้ว แต่เปลี่ยนจากความเกรี้ยวกราด เป็นความไม่เข้าใจ

แม็กซ์จ้องประสานตากับลาปลัส สายตาของเด็กหนุ่มบอกว่าเขารู้ทุกอย่าง

ลาปลัสก็หลับตาลงแล้วถอนหายใจ

ไม่นึกเลยว่านายจะรู้... ใช่... ฉันตายตั้งแต่วันที่โดนพวกนักสำรวจโลภมากนั่นทำร้ายเอาแล้ว ตายหลังจากที่ด็อกเตอร์ดาด้าตายไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

ลาปลัสหยุดเว้นไปพักหนึ่ง แล้วถามต่อ

นายรู้ได้ยังไง

แกลเองก็เป็นวิญญาณเหมือนกันแม็กซ์ตอบพลางหันมามองกันการ์ของตนซึ่งกำลังทำปากบึ้งมือแคะจมูกป้ายลงที่โขดหินที่อยู่ใกล้ตัวอย่างสุดเซ็ง สำหรับมันแล้ว การที่ต้องดั่งฟังบทสนทนาถึงชีวิตอันแสนเศร้า คือเรื่องน่าเบื่อที่สุดในชีวิตอย่างหนึ่ง

แกล แม้ไม่ใช่โปเกมอนตัวแรก แต่ก็สนิทกับฉันมากที่สุดในบรรดาโปเกมอนชุดก่อนของฉัน ทำให้ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับพวกโปเกมอนวิญญาณเป็นอย่างดี ครั้งแรกที่เห็นนายก็คิดอยู่ว่าไม่ใช่โปเกมอนธรรมดา และเมื่อได้นอนบนหลังนายก็ยิ่งแน่ใจ พวกเราไม่ได้อยู่บนหลังนาย แต่พลังจิตของนายทำให้พวกเราเหมือนอยู่บนนั้น ฉันพูดถูกใช่มั้ย

หึหึหึ เดาเก่งนะลาปลัสหลับตา ยิ้ม

นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะโคร่า ทำไมถึงไม่ไปเกิดล่ะ ติดค้างอะไรรึไง

ฉันบอกกับพวกมารินไปว่า ฉันยังต้องค้นหาเมืองบาดาลต่อจากด็อกเตอร์ดาด้า

หาไม่เจอเหรอ

เปล่า เจอแล้ว

แล้วทำไม...

แต่ฉันยังไม่เจอสิ่งที่ดอกเตอร์ดาด้าต้องการจริงๆน่ะสิน้ำเสียงของลาปลัสเริ่มดูเศร้าลงเรื่อยๆ แม็กซ์เงียบไม่พูดอะไรต่อ เขาไม่อยากเซ้าซี้ถึงเรื่องส่วนตัว

หากแต่ลาปลัสยินดีเล่า มันคงต่อขึ้นเอง

สิ่งนั้นคือตำนานแห่งท้องทะเล... ลูเกีย

ลูเกียแม็กซ์ทวนคำอย่างไม่เชื่อหู นักวิทยาศาสตร์เชื่อตำนานหลักลอยแบบนั้นด้วยเหรอ

ใช่ มันก็แค่ตำนานหลักลอย แต่ด็อกเตอร์ดาด้าเชื่อว่า สิ่งที่เขาพบในวัยเด็กและกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็คือลูเกีย เขาคิดเสมอว่าชีวิตเขาดำเนินมาได้เพราะมัน เพราะฉะนั้น ตอนที่ฉันจะได้ไปพบเขาที่โลกหน้า ฉันอยากจะไปบอกเขาว่า สิ่งที่เขาเชื่อนั้นมีจริง เขาไม่ได้หลงคิดไปเอง ฉันคิดว่าสำหรับเขาแล้ว การที่ได้รู้ว่าลูเกียที่เขาเชื่อนักหนามีชีวิตอยู่จริงๆนั้น คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาไปสู่สุคติได้

ฉันคงไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้สินะแม็กซ์เข้าใจมันดี เขาเองก็ยัดชีวิตไว้กับอดีตเช่นกัน

มันก็ไม่เชิงนะ แต่ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา ฉันก็คงจะไม่ฟังนายหรอก ฉันจะไม่ยอมไปไหน จนกว่าจะได้พบกับลูเกีย ต่อให้ต้องรออยู่ที่นี่ นานนับพันปี หมื่นปี หรือจะกว่าโลกจะสูญสลายน้ำเสียงของลาปลัส แสดงความมุ่งมั่นออกมาอย่างแรงกล้า แม็กซ์แกลและซานากิรัส ที่แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมลาปลัสถึงต้องทำขนาดนี้ แต่พวกเขาก็ยอมรับในความมุ่งมั่นนั้น

แม็กซ์ยิ้มและพยักหน้าให้ แกลที่ทำท่าเบื่อหน่ายไม่อยากฟังตอนต้นก็ต้องเปลี่ยนสีหน้า มันฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ลาปลัส ซานากิรัสส่งเสียงคำรามลั่นแต่ฟังดูไม่เหมือนการข่มขู่ มันเหมือนเป็นการปลอบขวัญให้กำลังใจในความมุ่งมั่น

ขอบคุณพวกนายนะ ที่ไม่พยายามห้ามฉันลาปลัสเองก็รู้สึกประทับใจกับขวัญกำลังใจที่ได้รับจนอยากจะร้องไห้หากยังมีน้ำตา นับร้อยปีที่ผ่านมา มันไม่เคยพูดคุยกับมนุษย์หน้าไหนเลย... ความทรงจำร้ายๆเกี่ยวกับมนุษย์ในวันตายของมันยังตราตรึงอยู่ในใจ แต่ในวันนี้ มันได้ตัดสินใจช่วยชีวิตของมนุษย์กลุ่มหนึ่ง และมันตัดสินใจถูกต้องทีเดียว

ตลอดชีวิตของฉัน แทบจะนับจำนานมนุษย์ที่ผ่านเข้ามาในความทรงจำได้เลย และพวกนายก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ดีที่สุด ฉัน...ดีใจจริงๆนะ ที่ได้เจอกับพวกนาย

พวกเราก็ติดหนี้บุญคุณของนายเหมือนกันนะโคร่า ยังไงก็ขอให้เจอลูเกียเร็วๆล่ะแม็กซ์อวยพร

อืมลาปลัสพยักหน้ารับพร้อมด้วยรอยยิ้ม เอาล่ะงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา งานเลี้ยงของพวกเราจบแล้ว จากกันแค่นี้นะ

นั่นสิแม็กซ์อดใจหายไม่ได้ แต่ก็ได้แค่ทำใจ เขาหันไปพูดกับซานากิรัส พยายามทำน้ำเสียงให้ร่าเริง เฮ้!คลิฟ ไปแบกมิโดริมาแล้วยังน่ะ

ซานากิรัสเมื่อได้ยินชื่อคลิฟที่มันแสนจะไม่พอใจอีกครั้งก็เปลี่ยนอารมณ์กะทันหันมันคำรามลั่น

แม็กซ์ไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยอีก เขาส่งสัญญาณให้กันการ์

แกล สอนน้องหน่อย

ทันใดนั้นกันการ์ก็พุ่งเข้าเขกหัวซานากิรัสอย่างแรงจนหน้าคว่ำติดดิน มันยืดอกชูแขนเบ่งกล้ามฉีกยิ้มแสดงพลัง

ซานากิรัสโกรธเป็นฟืนเป็นไป เงยหน้าพรวดขึ้นมาคำรามใส่แกล แต่มันก็ต้องหงอลงไปเมื่อเจอกับรอยยิ้มแสยะที่แผ่รังสีอำมหิตออกมา กันการ์หักนิ้วอยู่กร็อบๆ ซานากิรัส จำใจต้องเข้าไปช้อนตัวมิโดริขึ้นมาไว้บนหลังแต่โดยดี

ฮ่าๆๆๆ พวกนายนี่ ในเวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์ขันกันได้อีกนะลาปลัสหัวเราะร่า

น้องดื้อพี่ก็ต้องสอน เรื่องธรรมดาน่าโคร่า ลาก่อนนะแม็กซ์ยิ้มให้ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันหลังเดินตรงออกไปยังทางออกของถ้ำที่มีแสงจากดวงอาทิตย์สาดแสงจ้าเข้ามา แกลและซานากิรัสลอยตามออกไปติดๆ

ข้างนอกถ้ำยาดอนเป็นป่าโปร่ง มีทางเดินเล็กๆ ยาวลงเนินไป เมืองฮิวาดะปรากฏอยู่ลิบๆ

สายลมยามบ่ายพัดอ่อนๆบรรยากาศน่านอนเสียนี่กระไร เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดรับอากาศบริสุทธิ์เต็มที่พร้อมกับยกขยับตัวมารินบนหลังให้เข้าที่เข้าทาง

แกล... คลิฟ พวกเรา ได้เพื่อนเพิ่ม หรือเสียเพื่อไปกันนะ เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจหายอย่างบอกไม่ถูก โปเกมอนทั้งสองก็รู้สักอย่างนั้นเช่นกัน

พลันคำตอบของแม็กซ์ก็ออกมา เสียงเพลงไพเราะจับใจลอยมาตามลม เสียงที่เหมือนอัปสรสวรรค์ลงมาบรรเลงให้ฟังยังโลกมนุษย์ เสียงเพลงแห่งตำนานเพลงใต้น้ำ....

บทเพลงที่มีท่วงทำนองของความสุขท่ามกลางการจากลาคือตอบที่ลาปลัสมอบให้แก่พวกเขา

แม็กซ์รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก แม้บทเพลงจะไม่มีเนื้อร้องใดๆ มีเพียงเสียงสูงต่ำที่รวมกันได้อย่างเพราะพริ้ง แต่อารมณ์ของเพลงก็สื่อถึงคำขอบคุณที่ลาปลัสอยากมอบให้กับพวกเขา

ได้เพื่อนเพิ่มสินะ

_____________________-

เนินเขาเหนือถ้ำเชื่อมต่อขึ้นไป เด็กหนุ่มผู้หนึ่งกำลังใช้กล้องส่องทางไกลจับตามายังพวกแม็กซ์ บนใบหน้านั้นปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ

อยู่นั่นเอง ตามหาซะให้วุ่นเลย

กล้องส่องทางไกลลดต่ำลงจากออกจากใบหน้า เด็กหนุ่มลุกขึ้น หันหน้าไปพูดกับลูคาริโอ้ตัวหนึ่งใกล้ๆเขา

ไปกันเถอะลูจัง พบเป้าหมายแล้วพูดจบเขาก็หันหลังสะบัดผ้าคลุมปลิวสไวเดินออกจาที่นั้น ลูคาริโอ้กระโดดตามเขาไปอย่างร่าเริง

_______________________-

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 18 อารากิ

ฮิวาดะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณชายป่าอุบาเมะ เมืองจึงถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบและภูเขา บรรยากาศของเมืองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไม่ค่อยมีผู้คน ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้แยกออกไปตามเนินเขา คงมีเพียงโปเกมอนยิมเท่านั้นที่เป็นอาคารสมัยใหม่ในเมืองนี้ พวกแม็กซ์ตั้งหลักพักผ่อนกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งทำด้วยไม้ทั้งหลัง เป็นโรมแรมชั้นเดียวแต่มีความกว้างมาก ภายในแบ่งออกเป็นห้องหลายห้อง ตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่น แต่ละห้องมีชานระเบียงยื่นออกมาเชื่อมถึงกันหมด

แม็กซ์กำลังนั่งอยู่ขัดสมาธิอยู่บนชานระเบียง สายตาทอดมองไปยังสวนที่ตกแต่งแบบญี่ปุ่นเบื้องหน้า สวนนั้นให้ความรู้สึกที่แสนสงบ เสียงกระบอกไม้ไผ่กระทบกันเบาๆและเสียงน้ำไหลจ้อกดังแว่วมาในอากาศ

ข้างๆของเด็กหนุ่มมีแกงก้าตัวหนึ่งกำลังยกขวดน้ำอัดลมซดพรวดๆน่ากลัวว่าจะสำลัก

อ่า!มันลดขวดลงจากปากแล้วส่งเสียงที่เหมือนเสียงแก๊ซน้ำอัดลมอย่างสดชื่น

มันทำท่าจะกระดกซดน้ำอัดลมต่อ แต่ในขวดว่างเปล่าเสียแล้ว

กันการ์!มันส่งเสียงไม่พอใจ หันมาทางแม็กซ์ พร้อมกับเขย่าขวดขึ้นลงรัวๆ

แม็กซ์ หันหน้ามาสบตามันด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาล้วงกระเป๋าตังค์ขึ้นมาคว่ำให้มันดู ไม่มาสิ่งใดตกลงมาแม้แต่เศษเหรียญซักแดงหนึ่ง

กันการ์ทำหน้าบึ้งยกนิ้วกลางชูสวนทันที

บ้ะ! เอะอะก็นิ้วกลาง พ่อยันกลิ้งซะนี่!แม็กซ์ลุกขึ้นกระทืบเท้า พับแขนเสื้อ ชี้หน้าใส่กันการ์ กริยาตึงตัง แต่ไร้ซึ่งความโกรธา

กันการ์กระทืบเท้าเช่นเดียวกัน มันจ้องตาแม็กซ์ตอบอย่างเอาเรื่อง แต่ในใจของมันก็ไร้ซึ่งจิตเคียดแค้นอีกเหมือนกัน สายสัมพันธุ์แน่นแฟ้งสนิทสนมนานนับปี มีหรือจะแตกกันง่ายๆ แต่สายตาและสีหน้าที่จ้องกันเหมือนอย่างจะกินเลือดเนื้อนั่น ชวนให้คิดว่าช่างความสัมพันธ์ที่แปลกดีจริงๆ

ประตูห้องพักเลื่อนเปิดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มารินโผล่ออกมาจากห้องข้างๆอย่างรวดเร็วจนแม็กซ์ตกใจสะดุ้งเฮือก

แม็กซ์ เมื่อกี้เอะอะอะไรน่ะเธอถาม

เอ๋ เปล่านี้แม็กซ์แสร้งทำหน้าตาเฉย ควันสีม่วงบางๆ กลุ่มหนึ่งหายไปด้านหลังเขาอย่างรวดเร็ว

แล้วนั่นอะไรน่ะแม็กซ์มารินชี้มายังควันสีม่วงที่ลอยหายไปนั้นด้านหลังของเขา

อะไร? นั่นไหน? ไม่มีอะไรซักหน่อย แม็กซ์แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้

ก็ควันม่วงๆ นั่นไงมารินชี้ต่อไปด้านหลังแม็กซ์ เด็กหนุ่มทำเป็นหันไปมอง แล้วก็หันกลับมาตีหน้าซื่อต่อ

ไม่เห็นมี

อะไรกันแม็กซ์ ก็ฉันเห็นน่ะมารินขมวดคิ้ว เธอเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางของแม็กซ์ที่ทำเหมือนเธอซื่อบื้อ เธอจ้ำออกมาหาเขา

ไหน หลีกซิ ซ่อนอะไรไว้น่ะเธอพูดพร้อมกับผลักแม็กซ์ออกให้พ้นทาง และเธอก็พบแต่พื้นกระดานไม้เปล่าๆ ไม่มีอะไรอยู่ข้างหลังแม็กซ์

อะไรกัน ไม่เห็นมีอะไรเลยเธอพูดอย่างผิดหวัง

ก็บอกแล้วไงไม่มีอะไร แม็กซ์สวมรอยปดต่อไป ในขณะเดียวกันเขาก็แอบซ่อนโปเกบอลลูกหนึ่งไว้ด้านหลัง

มารินนิ่งไม่พูดอะไรต่อ

ฉันจะพูดอะไรแล้วนะเธอยืนกอดอก ยกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะคางทำท่าครุ่นคิ

แล้วเธอก็นึกออก

เอ้อ แม็กซ์ ตกลงเรื่องในถ้ำน่ะมันเป็นยังไงบ้างเหรอ นายยังไม่ได้เล่าให้ฉันฟังเลย

ไว้ค่อยเล่านะแม็กซ์บอกปัด

ไม่ได้ นายปัดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้ว เล่าซักทีเถอะ ฉันอยากรู้มารินเขย่าแขนแม็กซ์ ส่งสายตาอ้อนวอน น้ำเสียงก็แสนออดอ้อน ท่าทางของมารินต่อเพื่อนชายเปลี่ยนไปลิบลับ จากที่เคยแข็งกร้าวกลายกลับเป็นอ่อนหวาน ยิ่งกว่าหน้ามือกับหลังมือ

เดี๋ยวบอกน่าแม็กซ์พูดเสียงอ่อน เขายื่นหน้าเขาให้หูของเธอ เปลี่ยนเสียงเป็นกระซิบ

เรื่องนี้จะให้เกี่ยวกับแก็งร็อคเก็ต ไว้ส่งมิโดริที่ป่าอุบาเมะแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง

ก็ได้ แต่ไม่มีคราวหน้าแล้วนะมารินฉลาดพอที่จะไม่ตอบตรงๆ เธอแสร้งทำเป็นอิดออดเหมือนแม็กซ์ไม่ได้ให้คำตอบที่ทำให้เธอพอใจได้

เสร็จแล้วล่ะมาริน เสี้ยงใสของมิโดริดังมาจากในห้อง เด็กหญิงก้าวกระโดดออกมาอย่างร่าเริง เธอสวมชุดเดินป่าสีเขียวทะมัดทะแมง เขียนสีทาหน้าพองาม มัดผมแกละทวินเทล ดูน่ารักไปอีกแบบ บนบ่าของเธอยังคงมีปาจิริสุตัวโปรดที่มีสีเขียนหน้าอยู่เหมือนกับเจ้าของ และท่าทางที่ร่าเริงไม่ผิดกัน

แม็กซ์เห็นเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้

ฮะๆๆ มิโดริ ใครบอกให้แต่งตัวแบบนั้น

มารินบอกเด็กหญิงตอบอย่างร่าเริง

แม็กซ์หันหน้าไปขมวดคิ้วใส่มารินแบบกึ่งขำกึ่งสงสัย มารินยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

ทำไมเหรอแม็กซ์ ชุดนี้ไม่สวยเหรอมิโดริเริ่มไม่มั่นใจในตัวเธอ เธอเริ่มบิดซ้ายขวามองสำรวจเครื่องแต่งกาย

เปล่าหรอกๆ แต่ก็ช่างเถอะ ชุดนี้ก็ชุดนี้แม็กซ์บอกปัด เขาหันมาทางมารินต่อ แล้วข้าวของที่เราทิ้งไว้ที่แหล่งตกปลาล่ะมาริน

ไม่ต้องห่วง ฉันโทรไปบอกคุณอาให้ช่วยจัดการให้แล้ว คิดว่าตอนนี้คงมาถึงโปเกมอนเซ็นเตอร์เมืองนี้แล้วล่ะมารินตอบ

ดีเลย งั้นเราไปโปเกมอนเซ็นเตอร์กันก่อน แล้วค่อยไปป่าอุบาเมะกันโอเคมั้ยมิโดริแม็กชี้แจงกำหนดการให้เด็กหญิงฟัง มิโดริพยักหน้ายิ้มตอบรับด้วยความยินดี

ไม่มีปัญหา

แต่ฉันมีปัญหาเสียงๆหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่คาดคิด แม็กซ์ มารินและมิโดริตื่นตัวทันควัน มิโดริหันหน้ากระวนกระวายหาต้นเหตุเสียง กระวนกระวายจนหน้าผิดสังเกต ราวกับเสียงนั้นคือเสียงที่เธอรู้จัก

มารินเองก็ตกใจแต่สะกดท่าที่นิ่งไว้ แม็กซ์ยืนนิ่งใช้มือแตะที่โปเกบอลทั้งห้า

หึหึหึ ไม่ต้องหากันหรอกฉันมาแล้วเสียงนั้นดังขึ้นอีก

ผ้าคลุมสะบัดพรึ่บ สองเท้าแตะลงกับพื้นพร้อมย่อตัวลดแรงกระแทก

ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงปรากฏกายขึ้นบนพื้นสวนญี่ปุ่นเบื้องหน้าพวกแม็กซ์ เขามีใบหน้ายาวชวนขัน ดวงตาส่องประกายความเท่ที่ไม่เข้ากับมาด เขาสวมหมวกปีกกว้างทรงสูงแหลมสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกับเรือนผมหยักศกยาวประบ่า ผ้าคลุมของเขาก็สีน้ำเงินเข้มอีกเช่นเดียวกัน ภายใต้ผ้าคลุมเป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีดำสนิท

ข้างๆเขามีลูคาริโอ้อยู่ด้วย

นายเป็นใครน่ะมารินถามทันควัน

ชายผู้นั้นเอามือขยับปีกหมวกหัวเราะหึหึ

ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใครหรอกนะ ฮีโร่อย่างฉันมีหน้าที่แค่ผดุงคุณธรรม ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย...

พวกเราไปกันเถอะ ท่าทางจะเป็นแค่คนบ้าแม็กซ์ตัดบทเสียดื้อๆ เขาดูไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับชายแปลกหน้าเลย

นั่นสิไปกันเถอะมิโดริ มารินเห็นด้วย เธอเลิกสนใจกับชายแปลกหน้าคนนั้นหันไปคว้าข้อมือมิโดริแทน

การทำเป็นไม่สนใจของหนุ่มสาวทำให้ชายแปลกหน้าถึงกับเสียเความมั่นใจเหวอไปทีเดียว เขารีบพูดต่ออย่างรวดเร็วด้วยอาการลนลาน จนพูดตะกักตะกัก

ฮ...ฮ...เฮ้ ด...เดี๋ยวสิ มิโดริ จะไปไหน

นี่นาย จำผิดคนรึเปล่าแม็กซ์ไม่เชื่อหูว่ามิโดริจะรู้จักกับชายที่เขาคิดว่าเป็นเพียงคนบ้าหนีโรงพยาบาล

นั่นสิ ไปกันเถอะมิโดริมารินเห็นด้วย เธอฉุดข้อมือมิโดริจะพาออกไปจากที่นั้น หากแต่มิโดริยืนตัวแข็ง เด็กหญิงกำลังก้มน่านิ่ง อาการร่าเริงหายไปอย่างน่าประหลาด ปาจิริสุบนบ่ามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย

เป็นอะไรไปน่ะมิโดริมารินถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วงในการแปลกๆของมิโดริ ความรู้สึก แต่เธอไม่ร่าเริงแน่

มิโดริ วันนี้ฉันมารับเธอกลับไปแล้ว ถ้าเธอไม่ยอมกลับไปกับฉันล่ะก็ ฉันคงต้องใช้กำลังชายแปลกหน้าประกาศเสียงเด็ดขาดพร้อมกับชี้มาทางมิโดริ

พอซักทีได้มั้ย ไอ้พี่บ้า!มิโดริตะโกนออกมาอย่างเหลืออด ดวงตาของเธอคลอด้วยน้ำตา

ทำไมเธอต้องร้องไห้?

เอ๋พี่เหรอ?มารินปิดปากร้องตกใจ แม็กซ์หันมามองมิโดริอย่างสงสัย

มันหมายความว่ายังไงกันน่ะมิโดริมารินซักต่อ

ก็อย่างที่ยัยนั่นพูดแหละ ฉันชื่ออารากิ เป็นพี่ชายแท้ๆของมิโดริ ชายแปลกหน้ายืนเท้าสะเอวพูดด้วยท่าทีมั่นใจ และวันนี้ฉันต้องพาตัวเธอกลับไปให้ได้

ไม่ไป! ฉันไม่ไปกับพี่เด็ดขาดเลยมิโดริแผดเสียงลั่น

ถ้างั้นฉันก็คงต้องใช้กำลัง ลูคาริโอ้ อารากิชี้นิ้วไปด้านหน้า ลูคาริโอ้ที่ยืนด้านข้างกระโดดออกมาตั้งท่าพร้อมสู้ทันที

มิโดริกรีดร้องสวนออกไป

เลิกบ้าซะทีได้มั้ย!น้ำเสียงของเธอดูเหลืออดเต็มทน เด็กหญิงขว้างโปเกบอลลูกหนึ่งออกไป ฟลายก้อนขนาดยักษ์บินพุ่งออกมาจากบอล

อ้ะ! ฟูโร่เหรออารากิหน้าผงะ

ถึงจะเป็นโปเกมอนของพ่อฉันก็ไม่กลัวหรอกนะ ลูจัง พิฆาตเหนือแสง (Extremespeed)

ลูคาริโอ้พลันหายวับไปมันปรากฏตัวขึ้นบนข้างๆใบหน้าของฟลายก้อน เหวี่ยงหลังมือตบฉาดใส่ฟลายก้อนจนหน้าหัน

เยี่ยม!อารากิร้องชูหมัดร้องอย่างดีใจ

หากแต่สายอันแสนอำมหิตที่ฟลายก้อนจ้องตอบกลับมานั้น ทำให้ทั้งเขาและลูคาริโอ้ถึงกับถอดสีหน้า บังเกิดความกลัวขึ้นในจิตใจ

หมัดของฟลายก้อนบังเกิดเปลวเพลิงลุกท่วม มันเหวี่ยงหมัดทุบลูคาริโอ้จนหน้าคว่ำติดดิน หมดสภาพไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ลูจัง!อารากิโพล่งขึ้นมาอย่างลืมตัวพร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปดูอาการลูคาริโอ้ตัวโปรดอย่างเป็นห่วง เขาเข้าไปประคองร่างของลูคาริโอ้ขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ร้องเรียกลูคาริโอ้ตลอดเวลา

ลูจัง ๆ ไม่เป็นไรนะ

มิโดริอาศัยช่วงเวลานี้ วิ่งปีนขึ้นไปบนหลังของฟลายก้อน แต่ก็ใช่ว่าจะรอดจากสายตาของอารากิ ทั้งๆที่ยังมีลูคาริโอ้อยู่ในอ้อมแขนเขา หยิบโปเกบอลลูกใหม่ออกมาขว้างออกมา ซานกูสพุ่งตัวออกมาจากบอล ปราดเข้าใส่มิโดริที่อยู่ในสภาพไม่ทันตั้งตัวอย่างรวดเร็ว ปาจิริสุกระโดดเข้าไปปะทะกับซานกูสเพื่อนช่วยเจ้านาย

มิโดริระวังมารินร้องบอกพลางหยิบโปเกบอลขึ้นมาลูกหนึ่ง

มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามายึดข้อมือของมารินไว้

เจ้าของมือคือแม็กซ์ เด็กหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆเป็นเชิงว่าให้หยุด

นั่นเป็นเรื่องในครอบครัวของพวกเขาแม็กซ์อธิบาย

สายฟ้าของปาจิริสุระเบิดเปรี๊ยะรุนแรงจนซานกูสไม่อาจต้านไหว มันจำเป็นต้องกระโดดหลบออกมาตั้งตัวใหม่ ปีกใหญ่ของฟลายก้อนสะบัดพรึ่บจนฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ร่างของมังกรเขียวลอยขึ้นเหนือพื้น ซานกูสกระโดดตามขึ้นไป แต่ก็โดนหางของฟลายก้อนฟาดเข้าใส่แบบเต็มๆ แม้ว่ามันจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นกันไว้ได้ แต่มันก็ต้องเสียหลัก ร่วงกลับมาที่พื้น

ฟลายก้อนลอยตัวสูงขึ้นไปแล้ว ... อารากิไม่สามารถตามได้อีกต่อไป

อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้นนะมิโดริ!เขาตะโกนวิ่งไล่ตามฟลายก้อนหายออกจากโรงแรมไป ...

ที่แห่งนี้เหลือเพียงหนุ่มสาวคู่หนึ่ง

อะไรกันเนี่ยมารินเอ่ยขึ้นอย่างงุนงง

เด็กมีปัญหา ครอบครัวแตกแยก พี่น้องทะเลาะกัน พ่อกินแต่เหล้า แม่เอาทำงาน24 ชั่วโมง อะไรแบบนั้นล่ะมั้งแม็กซ์ยักไหล่

ต๊าย ดูหนังหลังข่าวมากไปรึเปล่ายะมารินกัด

ไม่ดูหรอก แต่มีคนชอบดูแล้วเล่าให้ฟัง คำตอบของแม็กซ์ทำเอามารินสะดุ้งโหยง จะไม่เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อบุคคลที่ถูกพาดพิงคือเธอเอง

งั้นเหรอ งั้นคนคนนั้นคงสวยมากเลยสินะมารินแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ทั้งๆที่ใบหน้าแอบเขินเพราะความเปิ่นของตัวเอง

แม็กซ์หรี่เบ้ปากตอบเชิงหาเรื่องเล็กน้อย

โน คอมเมนต์

หมายความว่าไงยะมารินแว้ดขึ้นมาทันที

อ้าว! จะเดือดร้อนทำไมล่ะ ในเมื่อคนๆนั้นไม่ใช่เธอ

กรี้ดดดดด

____________________-

ในห้องทำงานกว้างใหญ่หรูหราในสไตล์ยุโรป กำปั้นข้างหนึ่งเหวี่ยงทุบลงบนพื้นโต๊ะโดยไม่คิดถึงความเจ็บปวปดที่จะตามมา เป็นอย่างนั้นเพราะความเจ็บปวดทางกายไม่อาจเทียบความเจ็บปวดทางใจของชายผู้นี้ได้

ซากากิ หัวหน้าแห่งแก๊งร็อคเก็ตกำลังเคียดแค้นอะไรบางอย่าง

สองร้อยคนงั้นเรอะ!เขาตวาด

ครับ ที่ภูเขาชิโรเก็นหนึ่งร้อยที่ถ้ำยาดอนหนึ่งร้อย ที่ภูเขาชิโรเก็นใช้กำลังจากศูนย์ใหญ่ที่ชินจูทำให้ไม่กระทบต่อภาพรวมของแก็งเรา แต่การสูญเสียกำลังที่บ่อน้ำยาดอนนั้นทำให้ศูนย์ย่อยในฮิวาดะ ล่มสลายแล้วครับ ผู้รายงานคือคิมูระ เขารายงานด้วยท่าทีนิ่งเฉย แม้ว่าเบื้องหน้าของเขาจะเป็นหัวหน้าผู้โกรธเกรี้ยว

บัดซบ! ที่ภูเขาชิโรเก็นโดนซ้อนแผนยังพอรับไหว แต่ที่ฮิวาดะกลับโดนตีแสกหน้าแบบนี้ฉันยอมไม่ได้! คิมูระ!

ครับ

ไปบอกวูล์ฟกับ ทาซิก้า ออกเดินทางไปฮิวาดะเดี๋ยวนี้ อย่าให้ชื่อ แม็กซ์ มีอยู่บนโลกนี้อีก!ความเกรี้ยวกราดของซากากิถึงขีดสุดแล้ว คำสั่งพิฆาตถูกเปล่งออกไป

ยังมีอีกเรื่องครับคิมูระพูดต่อโดยไม่เกรงกลัวต่ออารมณ์เกรี้ยวกราดของซากากิเลย

อะไร?

เรื่องบันทึกอันโนน ตอนนี้เราตีความได้หมดแล้วและได้สถานที่ที่แน่นอนสำหรับสิ่งแรกแล้ว นั่นก็คือที่หอคอยไฟไหม้ครับ ส่วนกุญแจสำคัญก็คือกระดิ่งคริสตัลซึ่งเราได้เบาะแสของสิ่งนั้นจากทางเขตคันโต และกำลังดำเนินการเอามันมาครับ

สีหน้าของซากากิเปลี่ยนไปกะทันหัน ความดีใจปรากฏขึ้นมาแทนที่ความเกรี้ยวกราดที่จางหายไปเร็วยิ่งกว่า หยดน้ำซึมในทราย

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยอดเยี่ยม ไปบอกเรฟให้ตรงไปที่เอนจูได้นำกำลังจะศูนย์ใหญ่ที่โคงาเนะนี่ไป ทำตัวให้มันโจ่งแจ้งที่สุด บอกวูล์ฟกับทาซิก้าเพิ่มว่า หลังจากจัดการแม็กซ์ได้ ให้ตามไปสมทบทันที

คิมูระขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แผนการของพวกเขาควรจะดำเนินการอย่างลับๆไม่ใช่หรือ ดูเหมือนซากากิรู้ทัน เขาตอบความสงสัยของลูกน้องมือเอกทันที

พวกมันเห็นเราเป็นคนโง่ ถูกซ้อนแผนอย่างง่ายดาย เราก็จะโง่ให้สมใจพวกมัน

คิมูระยิ้ม ปิดสมุดโน้ตในมือ ก้มหัวคำนับแล้วหันหลังเดินออกไป

เดี๋ยวซากากิเรียกไว้ คิมูระหยุดเดินหันกลับมาทางซากากิ ซากากิสั่งรอดไรฟันอกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและอำมหิต เช่นเดียวกับสีหน้าของเขา

เก็บกวาดขยะด้วยล่ะ

ครับ

พวกเขาคุยกันโดยที่ไม่ทันรู้ตัวเลยว่า หน้าประตูห้อง สมุนแก็งร็อคเก็ตคนหนึ่งกำลังยืนแอบฟังอยู่ หมวกที่บุคคลผู้นั้นนั้นเอียงบังหน้าจนไม่อาจจะเห็นใบหน้าที่ชัดเจนได้

เสียงลูกบิดบิดดังแกร็ก ผู้ทำตัวลับๆล่อๆ รีบผละออกจากประตูห้องพุ่งพรวดเข้าไปหลบยังด้านหลังรูปปั้นของนิโดคิงขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากประตูอย่างรวดเร็ว คิมูระเดินออกมาจากห้อง ปิดประตูและก้าวเดินตรงไปยังอีกทาง โดยไม่มีท่าทีเหมือนจะรู้ตัวเลยว่ามียังมีอีกชีวิตแอบมองอยู่

_____________________

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 19 แตกหัก

แม็กซ์และมารินเพิ่งจะรับสัมภาระจากโปเกมอนเซ็นเตอร์ และเข้าเขตป่าอุบาเมะมาได้พักหนึ่งแล้ว 

ป่านี้เงียบ แต่ไม่สงัด บรรยากาศร่มรื่น สงบ และดูมีมนต์ขลัง ป่าอุบาเมะเป็นป่าทึบ ต้นไม้แต่ละต้นล้วนแล้วแต่มีอายุรับร้อยปี ป่ายืนสู้แดดสู้ฝนมาหลายชั่วอายุคนนัก ยอดไม้แต่ละยอดล้วนสูงเทียบฟ้า คาคบไม้ที่ไล่ระดับลงมาแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาทบกันหลายชั้นจนเหลือเพียงแสงแดดรำไรที่สาดถึงพื้น บรรยากาศของป่าจึงดูคล้ายถ้ำไม้ใบไม้อยู่หลายส่วน บนพื้นเต็มไปด้วยใบไม้แห้งและรากไม้ รวมถึงไม้อ่อนที่ขึ้นอยู่ตามโคนต้นไม้ใหญ่โปเกมอนส่วนใหญ่ที่พบได้เป็นโปเกมอนแมลงและนก ยากนักจะพบโปเกมอนขนาดใหญ่

ป่ากว้างใหญ่ ทางเดินคดเคี้ยว ระยะทางไม่เหมาะแก่ผู้ที่ไม่มีความอดทน มารินก็ไม่มีความอดทนมากนัก

แม็กซ์ ฉันเหนื่อยแล้วนะ มารินโอดครวญ หน้าของเธอซีด เหงื่อโทรม เดินแทบจะลากขา

อะไรกันๆ ยังไม่ทันถึงครึ่งทางเลย บอกมาสิว่าที่ต่อไปของเราคือที่ไหน แม็กว์ไม่มีท่าทีเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

มารินตอบเสียงอ่อน

หอคอยไฟไหม้ เมืองเอนจู

พลันเธอก็ต้องโอดครวยอีกครั้งเมื่อนึกถึงเป้าหมาย เมืองเอนจูอยู่ห่างไกลจากป่าอุบาเมะอีกไกลโข แทบจะเรียกได้ว่าอยู่อีกฝากหนึ่งของเขตโจโตอันกว้างใหญ่นี้เลยก็ว่าได้ อย่าว่าแต่เอนจูเลย แค่โคงาเนะซึ่งเป็นเมืองต่อไปก็นับว่าไกลโขแล้วมารินคิดแล้วพานเข่าอ่อนทรุดลงนั่งกับพื้น

แบบนี้จะไหวรึเปล่าเนี่ยแม็กซ์เกาหัวแกรกๆ

ไหวไม่ไหวไม่รู้ล่ะ แต่เราพักกันสักแปปเถอะนะมารินส่งสายตาอ้อนวอน

ไปกันต่ออีกซักนิดเถอะน่าแม็กซ์ไม่เห็นด้วย

พักซักนิดนะที่รักวาจาไม้ตายถูกเปล่งออกมาพร้อมด้วยมารยาหญิงสายตาเป็นประกาย ชายใดเล่าจะต้านทาน

เอาก็เอาแม็กซ์แกล้งตอบเสียงแข็ง แต่หน้าแดงขัดกับกริยา มารินแอบหัวเราะคิก อารมณ์ขำในใจ

แม็กซ์วางเป๋าเป้ลงที่โคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง แล้วทิ้งพรวดลงนั่งกับพื้นปากบอกว่าไม่เหน็ดเหนื่อย แต่อาการกลับยิ่งกว่ามารินเสียอีก

มารินสังเกตเห็นในความผิดปกติ เธอเข้าไปดูอาการเพื่อนชายโดยเร็ว

แม็กซ์มีลมหายใจระรวยผิดปกติ หน้าซีดลงอย่าน่าประหลาด ท่าทางเหมือนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ว่ามารินอยู่ใกล้ๆแล้ว

แม็กซ์ เป็นอะไรน่ะมารินลองเขย่าตัวเขาดู แม็กซ์ทำท่าเหมือนสะลึมสะลือตอบเธอกลับมา

ไม่เป็นไรๆ ปวดหัวนิดหน่อย

ไม่เป็นไรได้ยังไงล่ะน้ำเสียงของมารินฟังดูร้อนรน เธอเอามืออังเข้าไปหน้าผากขอแม็กซ์แล้วถึงกับต้องสะดุ้ง เขาตัวร้อนอีกแล้ว เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก

ตัวร้อนอีกแล้ว นี่นายยังไม่หายอีกเหรอ ตั้งแต่ในถ้ำยาดอนน่ะ

แม็กซ์ไม่ตอบอะไรเขาหายใจระรัว ท่าทางเหมือนพูดไม่ไหว

จริงสิมารินนึกบางอย่างขึ้นได้ นี่เป็นป่านี่นา ต้องมีเบอร์รี่ดีๆ อยู่แน่ๆ

มารินปล่อยมาริลคู่ใจออกมา เธอกระซิบกับแม็กซ์ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย

ฉันไปแปปเดียวนะ นายอย่าเป็นอะไรซะก่อนล่ะ

เธอหันมากำชับมาริลต่อ

ลิลลี่อยู่ดูแม็กซ์ดีๆล่ะ

ลิลมาริลพยักหน้ารับ

เมื่อจัดแจงมอบภาระหน้าที่เสร็จ มารินก็ปล่อยเบย์ลีฟออกมาอีกตัว ออกปากชวน

อาร์บี้ ไปช่วยฉันหาเบอร์รี่

เบย์ลีฟรับคำ มารินออกวิ่งตามด่านสัตว์แยกไปอีกทาง

_________________-

ในห้องทำงานของด็อกเตอร์ออร์คิด

หูโทรศัพท์ถูกยกขึ้นจากแป้น แนบเข้ากับหูผู้รับ

ครับ ด็อกเตอร์ออร์คิดครับด็อกเตอร์ออร์คิดรับสาย

เสียงในสายดังขึ้น

ด็อกเตอร์ครับ แย่แล้ว มีข่าวร้ายเสียงในสายนั้นดูรีบร้อนลนลาน พาเอาสีหน้าของด็อกเตอร์ออร์คิด แย่ลงไปด้วย

เกิดอะไรขึ้น?ด็อกเตอร์ออร์คิดถามเสียงเครียด

ซากากิโกรธแค้นที่แม็กซ์อาละวาดในถ้ำยาดอน เลยส่งสมาชิกระดับ ทหารเสือ สองคนออกไปล่าตัวแม็กซ์แล้วครับ

ว่าไงนะด็อกเตอร์ออร์คิดหลุดปากโพล่งออกมาอย่างลืมตัว แม้เขาจะคาดการณ์ไว้แล้วแต่มันเร็วเกินไป ด็อกเตอร์รีบละล่ำละลั่กถามต่อทันที

แล้วตอนนี้แม็กซ์กับมารินอยู่ที่ไหน

รายงานล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ที่ฮิวาดะ บอกว่าเข้าป่าอุบาเมะไปเมื่อตอนสายครับ

แล้วคนของเราล่ะ

ชาโดว์อยู่ที่ถนนหมายเลข 30 และสปอร์อยู่แถวๆเมืองโคงาเนะครับ

ดีฉันจะคิดต่อทั้งสองคนเอง

ปุ่มวางสายบนโทรศัพท์ถูกกดลง สายถูกตัดไป นิ้วของด็อกเตอร์ออร์คิดจิ้มตัวเลขไปบนเครื่องโทรศัพท์เป็นหมายเลขพิเศษที่จะส่งไปยังโปเกเกียร์ในเครือข่ายได้หลายเครื่องพร้อมกันสำหรับกรณีฉุกเฉิน และคราวนี้ สัญญาณถูกส่งไปยังโปเกเกียร์สองเครื่อง

รอไม่นาน โปเกเกียร์เป้าหมายทั้งสองเครื่องก็ตอบรับสัญญาณ

ครับด็อกเตอร์ ผมชาโดว์เสียงแรกที่รับสายเป็นเสียงแข็งๆ นิ่งๆ ต่างกับเสียงที่สองลิบลับ

คร้าบ มีอะไรให้รับใช้มิทราบครับเสียงที่สองมีถ้อยคำล้อเล่นกึ่งประชดประชัน คาดการณ์จากเสียงได้ว่าเจ้าของเสียงเป็นคนเจ้าสำราญ และไม่ยินดีที่จะรับสายเสียเท่าไร แต่ถึงกระนั้น ด็อกเตอร์ออร์คิดไม่ได้ใส่ใจ

ภารกิจช่วยเหลือ เป้าหมายคือ แม็กซ์และมาริน สมาชิกใหม่ของเรา สถานการณ์คือ แก็งร็อคเก็ตระดับ ทหารเสือ เข้าโจมตีพวกเขาที่ป่าอุบาเมะ เมื่อภารกิจลุล่วงให้พาตัวทั้งคู่มาที่ศูนย์ใหญ่เมืองโคงาเนะ หากผิดพลาดให้รายงานด่วนที่สุด ปฏิบัติทันที

จบคำสั่ง สายถูกตัดแล้ว... ด็อกเตอร์ออร์คิดยังมีใบหน้ากังวล เขาได้แต่ฝากความหวังไว้กับเหล่าเทรนเนอร์ที่เขาหมายมั่นปั้นมากับมือ

________________-

สายลมพัดอ่อน...ต้นหญ้าพริ้วสไว บรรยากาศร่มรื่นผิดกับในใจของชายหนุ่มที่กำลังเร่าร้อนภายใต้ท่าที่ที่เคร่งขรึมจริงจัง

ชายหนุ่มผมแดงชี้ตั้ง สวมเสื้อโค้ทสั้นๆสีน้ำตาล ปกคอขนสัตว์ กางเกงขายาวสีดำดูกลืนไปกับบูทสีดำของเขา เขาคือคนคนเดียวกันกับคนที่มาช่วยแม็กซ์ไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และครั้งนี้เขากำลังจะกลับไปช่วยแม็กซ์อีกครั้ง

ชายหนุ่มเปิดบอลเรียกโอนิดริลตัวหนึ่งออกมา

ป่าอุบาเมะเขาบอกสั้นๆ

โอนิดริลตีปีกพั่บ มันบินขึ้นสูงแล้วโฉบเข้าไปที่ด้านหลังนายหนุ่ม จิกกรงเล็บเข้าไปที่คอเสื้อโค้ทพาร่างของนายทะยานพุ่งขึ้นสู่ฟ้าทันที

__________________-

อีกด้านหนึ่ง ของทวีปโจโต

ว้า งานเข้าอีกแล้วเสียงบ่นดังขึ้นพร้อมกับเสียงคลื่นซัดใส่หินผา

บนหน้าผาสูงริมทะเลเมืองโคงาเนะ เด็กหนุ่มวัยสิบหก ผู้มีผมสีน้ำเงินเข้มหนาปรกต้นคอ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูหล่อเหลาในแบบเอเชีย ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ สวมชุดเสื้อคลุมยาวกรอมเท้าปกคอตั้งสูง กำลังเดาะบอลลูกหนึ่งอยู่ในมืออย่างสบายอารมณ์

จริงสิเขาทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ เด็กหนุ่มยกโปเกเกียร์ที่แขวนคออยู่ขึ้นกดปุ่มสองสามปุ่มแล้วพูดใส่มัน

ชาโดว์ได้ยินมั้ย

อะไรเสียงแข็งๆตอบกลับมา

ดูเหมือนเป้าหมายของเราจะเป็นผู้หญิงหนึ่งผู้ชายหนึ่ง เราแยกกันไปแล้วกันนะ ฉันขอผู้หญิงไม่มีการต่อรอง

แล้วแต่นาย แต่อย่าทำอะไรไม่เข้าท่าก็แล้วกันเสียงในโทรศัพท์ตอบกลับมาเหมือนรู้ทัน ชายหนุ่มฉีดยิ้มเจ้าเล่ห์พูดบ่ายเบี่ยง

โถๆ จะระแวงเกินไปแล้วพ่อคุณ ตกลงตามนี้แล้วกัน

เด็กหนุ่มตัดสายโปเกเกียร์ บอลในมือถูกขว้างออกไปแอร์มูโด้บินออกมา มันไม่ได้อยู่รอนายของมันแต่กลับบินโฉบลงไปข้างล่างพุ่งลงสู่ท้องทะเลเบื้องล่างเลย

เด็กหนุ่มกระโดดตามลงไป เขาทิ้งตัวลงบนหลังของแอร์มูโด้ได้พอดี เขาบอกกับมัน

ปลายทางป่าอุมาเบะ

แอร์มู้โด้ส่งเสียงร้องก้องตอบรับ มันสะบัดปีกพุ่งทะยานเลียดผิวน้ำออกไปอย่างรวดเร็ว

_________________-

ภายใต้ร่มไม้เงียบสงบและรุ่มรื่น ขับกล่อมด้วยลำนำน้องร้องเจื้อยแจ้วที่ผืนป่าเป็นผู้ขับร้อง 

แม็กซ์กำลังสับสน กำลังอยู่ในความวุ่นวาย รอบตัววุ่นวายไปหมด มีแต่เสียงตะโกนโหวกเหวก ตัวเขาก็กำลังร้องตะโกน ไม่ได้มีเพียงผู้คนที่อยู่รอบตัวเขา โปเกมอนก็มีมากมาย ภาพเบื้องหน้าเหมือนดั่งสงคราม ในภาพนั้นแม็กซ์ไม่ได้อยู่เฉย ปากเขาตะโกนก้องเรียกชื่อหนึ่งอยู่ตลอดเวลา

แกล!

กันการ์ตัวหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่ท่ามกลางฝูงโปเกมอนเหล่านั้น ตาของมันแดงฉานประดุจเลือด มีเพียงความอำมหิตเย็นชาไร้ซึ่งจิตมโนธรรม มือของมันทั้งสองข้างไม่ละไปจากบอลกลมๆสีดำทะมึนดูขลุกขลักน่ารังเกียจ และสายฟ้าที่เกรี้ยวกราดทรงพลัง มันขว้างบอลในมือออกไปรัวๆ ราวกับบ้าคลั่ง กราดยิ่งสายฟ้าออกไปทั่วสารทิศ ไม่สนใจว่าจะโดนโปเกมอนตัวไหนหรือใครหน้าไหน

ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ฝัน แม็กซ์กำลังกระสับกระส่ายอยู่กับฝันร้ายที่หลอกหลอน ฝันร้ายจากอดีตที่ยากลืมเลือน

ทุกสิ่งในโลกช่างน่าขัดใจ ที่อยากลืมไม่อาจลืม ที่ไม่อยากลืมกลับลืมเพียงชั่วพริบตาที่เผลอพลั้ง

ภายใต้ภวังค์แห่งฝันร้าย ร่างๆหนึ่งแอบมองแม็กซ์อยู่โดยที่เขาไม่รู้ตัว มาริลที่เฝ้าเขาอยู่ก็ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของร่างลึกลับนั้น ผู้แอบมองเป็นหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียว สวมชุดออฟฟิศสีม่วงเช่นเดียวกับเรือนผมที่รวมเกล้าขึ้น ดวงตาของเธอเย็นชาและนิ่งสงบดูราวภูเขาหิมะ เธอคือทาซิก้า

บนบ่าของเธอมีเอเตบอสที่ดูร่าเริงผิดเจ้าของ ทาซิก้าเพยิดหน้าไปทางแม็กซ์ เอเตบอสเข้าใจในสัญญาณ มันกระโดดลงจากบ่าของทาซิก้า ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่คล่องแคล่ว หายลับไปในหมู่ไม้

ทางด้านมาริล มันพยายามทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างแข็งขัน มันสอดส่ายสายตาและ ตรวจจับทุกความเคลื่อนไหวอย่างเอาจริงเอาจัง

เอเตบอสอาศัยจังหวะที่มาริลหันไปทางอื่น ค่อยๆไต่ลงมาจากกิ่งไม้อย่างเงียบเชียบ เงียบกว่าแมว

มาริลรู้สึกเอะใจหันขวับ

ไม่มีอะไรผิดปกติในสายตาของมัน เอเตบอส อาศัยความเร็วหนีไปซ่อนตัวหลังต้นไม้ได้ทันแบบหวุดหวิด มาริลพินิจมองอยู่พักหนึ่งจึงหันหน้าไปทางอื่น

เอเตบอสตค่อยๆย่องออกมาอีกครา คราวนี้มันระมัดระวังกว่าเดิม มันเคลื่อนตัวมายังแม็กซ์ที่ถูกกักอยู่ในฝันร้าย 

เอเตบอส ตรงเข้าไปปลดบอลที่เอวของแม็กซ์อย่างแผ่วเบา แล้วกระจายพวกมันลงพื้น สอดส่ายสายตาสิ่งหนึ่งในกลุ่มบอล สายตาอันว่องไวสอดคล้องกับหางที่คล่องแคล่ว มันคว้าบอลลูกที่เก่าที่สุดของแม็กซ์แล้วรีบเข้าไปหลบหลังต้นไม้ หางของมันมีสองหางและเพิ่งใช้ไปเพียงหนึ่ง อีกหนึ่งยังว่าง มันใช้ให้เป็นประโยชน์ทันที

หินก้อนหนึ่งถูกขว้างออกไป ลอยหวือเข้ากระแทกหัวของมาริลอย่างแม่นยำ มาริลหัวขวับทันที แต่มันก็ไม่เห็นอะไรนอกจากแม็กซ์ที่นอนหายใจระรัว มาริลไม่ทันสังเกตโปเกมอนที่กระจัดกระจายแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรมันจึงหันหน้ากลับไปทางเดิม ก้อนหินถูกขว้างเข้าใส่หัวมันอีก คราวนี้มันเริ่มใจเสียหันมองรอบๆอย่างหวาดระแวง ไม่ทันไร ก้อนหินอีกก้อนก็ถูกขว้างเข้าใส่มันพร้อมเสียหัวเราะดังแหลมน่ากลัว

มาริลถึงกับขวัญผวา มันลืมหน้าที่วิ่งร้องไห้จ้าออกไปตามทางที่มารินจากไปทันที

เอเตบอสหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ แล้วกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ กระตุกเข็มขัดของแม็กซ์แบบสุดแรง หนึ่งทีแล้วรีบแจ้นขึ้นต้นไม้ไปอย่างว่องไว

แรงกระตุกของเอติบอสปลุกแม็กซ์ขึ้นมาจากฝันร้าย เขาลืมตาโพลง ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน สายตาเขาแม้พร่ามัวเพราะเพิ่งตื่นและพิษไข้ แต่ก็ยังดีพอที่จะมองเห็นโปเกบอลที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวและสังเกตได้ว่า บอลของเขามี สี่ลูก ทั้งทีมันควรจะเป็นห้า แถมบอลที่หายไปยังเป็นบอลที่สำคัญที่สุดของเขา

บอลของกันการ์

เหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นเฉียบ แม็กซ์ได้สติขึ้นมาฉับพลัน อาการสะลืมสะลือของคนที่โดนพิษไข้เล่นงานหายไปหมดสิ้น ในสมองเขาบอกได้อย่างเดียวว่าโปเกบอลของเขาถูกขโมย เขารีบหันไปรอบๆเพื่อหาหลักฐานที่เหลืออยู่ของคนร้าย

มาริลวิ่งหายเข้าไปในแมกไม้ด้วยท่าทีร้อนรน แม็กซ์จำได้ว่ามันคือลิลลี่

หรือมันคือขโมย...

...บางทีมันอาจจะกำลังตามขโมยไปแม็กซ์พยายามคิดในแง่ดี เพราะการสงสัยพวกเดียวกันไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ

แม็กซ์เก็บบอลทั้งสี่ลูกที่เหลืออยู่ติดกลับเข้าไปสายหนังที่คาดเอวไว้สำหรับติดบอล แล้วลุกขึ้นสะกดรอยตามมาริลไปแบบเงียบๆ

_____________-

ดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อไปผลไม้ทรงประหลาดบนกิ่งไม้สูงลิบ มารินและเบย์ลีฟกำลังพยายามที่จะเก็บผลเบอร์รี่ที่เธอคิดว่าน่าจะช่วยรักษาอาการของแม็กซ์ได้

ผลนั้นๆๆมารินพยายามชี้บอก ในขณะที่เบย์ลีฟก็ใช้แส้เถาวัลถ์ยืดขึ้นไปบิดผลเบอร์รี่ให้หลุดจากขั้ว และก็เป็นผลสำเร็จ แส้เถาวัลถ์ทั้งสองเส้นค่อยๆประคองเบอร์รี่ลูกนั้นลงมาช้าๆ ส่งตรงให้ถึงมือของมาริน

ได้แล้วๆมารินพูดพลางรับเอาเบอร์รี่มาไว้ในมืออย่างยินดี เธอกล่าวชวนเบย์ลีฟ

ไปกันเถอะอาร์บี้กลับกัน อุ้ย!

มารินรู้สึกเหมือนโดนอะไรกระแทกเบาๆบนหัว  ตามด้วยเสียงตุ้บ ใกล้ๆตัว เบย์ลีฟวิ่งเข้าไปหาสิ่งนั้น ใช้จมูดดันๆ เขี่ยๆ ดู มันคือโปเกบอลเก่าๆลูกหนึ่ง

มารินเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมา

เอ คุ้นๆแฮะมารินพูดพลางหมุนสำรวจมันไปมา

ลิล~เสียงแหลมเล็กของมาริลดังแว่วขึ้นพร้อมกับเสียงแมกไม้สั่นไหว มาริลโผล่พรวดออกมาจาก พุ่มไม้ปราดเข้าไปมามารินทันที สีหน้ามันเหมือนเจอผีมา

ลิลๆๆๆๆมาริลเขย่าขาเจ้านายอย่างร้อนรน มารินถามอย่างประหลาดใจ

อะไรกันน่ะลิลลี่ ที่โน่นเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ

มาริลสั่นหัว จากสีหน้าของมันเด็กสาวรู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่มาริลต้องการสื่อไม่ใช่ไม่มีอะไร แต่เป็น ไม่รู้ว่าอะไร

แย่ล่ะสิ รีบไปกันเถอะ อ้อเดี๋ยวก่อน

มารินก้มลงมองบอลในมือ เธอกำลังคิดว่า บางทีโปเกมอนตัวนี้อาจจะมีประโยชน์ ลองปล่อยมันออกมาดูไม่น่าจะเสียหาย

มารินเงื้อมือ ทำท่าจะขว้างบอลออกไป เรียกตวาดเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น

หยุดนะมาริน!

เด็กสาวสะดุ้งเฮือกหันขวับ แม็กซ์โซเซออกมาจากพุ่มไม้เขายันตัวเองพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง กล่าวเสียงเย็นยะเยือก

นั่นเธอจะทำอะไร?

อ๋อ ฉ...ฉันกำลัง...มารินติบเสียงสั่น อาการตกใจจากเสียงตวาดยังตกค้างอยู่บ้าง

แม็กซ์กัดฟันพูดต่อ

เธออยากรู้มากว่าโปเกมอนอีกตัวของฉันคืออะไร จนต้องขโมยโปเกมอนของฉันงั้นเหรอ! เขาดูน่ากลัวผิดปกติ เขากำลังโกรธถึงที่สุด... แม็กซ์กำลังหลงอยู่ในภวังค์ของความเข้าใจผิด จากเหตุกาณ์ที่เห็น ทำให้เขาปักใจเชื่อว่า มารินกำลังหักหลังเขา คนที่เขาเชื่อใจที่สุดคนหนึ่ง ทรยศเขา สร้างบาดแผลเป็นหัวใจที่บอบช้ำของเขา และเขาจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด

พูดอะไรของนายน่ะแม็กซ์ ฉันไปขโมยอะไรของนายมารินโดนกล่าวหาซ้ำยังโดนขึ้นเสียงใส่ก็เริ่มรู้สึกเคืองเหมือนกัน ความเคืองนั้นฟังในน้ำเสียงได้ชัดเจน

แม็กซ์ตวาดสวนพร้อมชี้มาที่บอลในมือของมาริน

อย่ามาทำเป็นไก๋ ในมือของเธอมันอะไร! โปเกมอนบอลของฉันใช่มั้ย!

บอลของนาย? จะบ้ารึไงแม็กซ์ บอลนี่ฉันเพิ่งเก็บได้เมื่อกี้เองนะ! มารินเริ่มขึ้นเสียงบ้าง

แม็กซ์แค่นหัวเราะปนสำเนียงอดสู

เก็บได้? เหตุผลงี่เง่า บอกฉันมาหน่อยสิว่า ทำไปพอฉันตื่นมาโปเกบอลของฉันถึงเหลืออยู่แค่สี่ลูกซ้ำยังกระจัดกระจาย แถมมาริลของเธอก็วิ่งหนีออกไป มันเพราะอะไร!

ฉันจะไปรู้เหรอแม็กซ์ ฉันก็กำลังเก็บเบอร์รี่นี่ให้นาย แล้วฉันก็เจอโปเกบอลนี่ พร้อมๆกับที่มาริลวิ่งหนีอะไรก็ไม่รู้มาหาฉัน นายอย่ามากล่าวหากันซี้ซั้วะนะแม็กซ์!

ฉันซี๊ซั๊วะงั้นเหรอ อย่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆนะมาริน ทุกอย่างเห็นชัดอยู่กับตา ฉันจำโปเกบอลของฉันได้ คืนบอลนั่นมาให้ฉัน! แม็กซ์ยื่นมือออกมาทวงของ

ฉันไม่ใช่ขโมย ถ้านายอยากได้นักก็เอาไปเลย!มารินรู้สึกทั้งโมโห ทั้งเสียใจ เจตนาของเธอบริสุทธิ์ แต่กลับโดนกล่าวหารุนแรงแบบนี้ เธอระเบิดอารมณ์ขว้างบอลลูกนั้นใส่แม็กซ์ด้วยแรงโทสะ แม็กซ์คว้ามันเอาไวด้วยแรงโทสะเช่นกัน เขาตวาดขึ้นอีก

ทำไมต้องขว้างข้าวของด้วยมาริน! ส่งดีๆไม่ได้รึไง

มารินตะโกนสวนอย่างไม่ลดราวาศอก

แล้วทำไมล่ะ! นายนั่นแหละ พูดดีๆไม่เป็นรึไง

ต้องให้ฉันพูดดีๆ กับขี้ขโมยอย่างเธอด้วยงั้นเหรอ

ฉันไม่ใช่ขโมย

โกหก

แม็กซ์!มารินแผดเสียงออกมาอย่างเหลืออด โทสะหายไปจากน้ำเสียงกลับกลายเป็นความเสียใจแทนที่ มารินรู้สึกเหมือนเธอโดนตบหน้าเข้าแรงๆหนึ่งฉาด นี่หรือคนที่เธอไว้ใจเขา นี่เหรอคนที่เธออยากฝากชีวิตไว้ ... เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไงกัน

น้ำตาของมารินคลอใสอยู่ในเบ้า เธอกัดฟันแน่น มือก็กำแน่นจนสั่นระริก  เธอรู้สึกผิดหวังกับแม็กซ์แบบยากจะอธิบาย

เธอพูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้

ได้แม็กซ์

พยายามสะกดเสียงสะอึกสะอื้นแล้วพูดต่อ

ถ้านายไม่ไว้ใจฉันขนาดนั้น เราก็แยกทางกันตรงนี้เลย

โทสะบดบังสายตา ความดีที่ทำกันมามลายสิ้น แม็กซ์ไม่ได้เห็นใจในน้ำตานั้นเลย เขากลับตอบอย่างไม่ไว้เยื่อใย

ดี งั้นเราแยกทางกันตรงนี้เลย!

แม็กซ์ก้มลงเก็บโปเกบอลของเขา แล้วหันหลังเดินจากไป... ไม่มีแม้หันมามองครั้งสุดท้าย

แม็กซ์จากไปแล้ว

มารินรู้สึกหมดแรงอย่างไรบอกไม่ถูก หมดแล้วซึ่งความไว้ใจ หมดแล้วซึ่งความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมา เด็กสาวเอนพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง ไถลตัวลงมานั่งซบหน้าลงกับเข่าทั้งสอง แขนกอดเข่าแน่นกอดเข่าแน่น เสียงสะอื้นดังมาจากข้างในนั้น

มาริลกับจิโกริต้าเดินเข้ามาเจตนาอยากปลอบเจ้านายของมัน แต่ก็จนใจจะหาวิธี ได้แต่ยืนหน้าหมองด้วยความเศร้าเหงาหงอย ฟังเสียงสะอื้นไห้ขอผู้เป็นนาย

หึหึหึ อนาถเสียจริงเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น

มารินเงยหน้าขึ้นมาจากเข่า ตาของเธอแดงช้ำและเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา จิโกริต้าและมาริลหันขวับ พวกมันตั้งท่าพร้อมสู้

ร่างๆหนึ่งเดินทอดน่องเข้ามา เอามือและละข้างจับศอกของแขนอีกข้าง ชุดออฟฟิศสีม่วงเข้มและ เรือนผมสีม่วงรวมเกล้าขึ้น ทั้งยังมีเอเตบอสหน้าทะเล้นที่กำลังหัวเราะคิกคักๆ อยู่บนไหล่ไม่มีใครอีกแล้วนอกจาก ทาซิก้า

เธอเป็นใครมารินกล่าวถามพลางเช็ดคราบน้ำตา แต่เมื่อสายตาของเธอจับเข้ากับตัวอักษรR สีแดง บนสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดสีดำ เธอก็รู้ได้ทันที

มารินทิ้งความเศร้าลุกขึ้นยืนพร้อมสู้ทันที เธอกัดฟันทวนชื่อองค์กรของอีกฝ่าย

แก็งร็อคเก็ต!

ทาซิก้าที่ปกติแล้วไร้อารมณ์กลับถามมารินอย่างขบขัน

จะสู้?

แน่นอนอยู่แล้ว มาริล อควาเจ็ท!

____________________-

ไกลออกไปจากตรงนั้น แม็กซ์กำลังหัวเสียเต็มที่ เขาระบายอารมณ์กับกิ้งไม้ใบหญ้าทั่วไปตลอดทาง ปากระบายโทสะที่เก็บกลั้นพลางฟาดกำปั้นเข้าใส่ต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด

เลวที่สุด! ทำกันแบบนี้ได้ยังไง

ในจิตใจของเขากำลังเต็มไปด้วยโทสะ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังตกเป็นหมากในแผนการของทาซิก้า

เสียงอารมณ์ดีเสียงหนึ่งดังขึ้น สำเนียงฟังคล้ายล้อเลียน

โอ้ พี่ชาย ไปอารมณ์เสียอะไรมา

แม็กซ์หันขวับ ชายหนุ่มผมแดงสีไม่เป็นทรง สวมแจ็คเก็ตเสื้อยืดเหลืองดำกางเกงดำ บูทดำกำลังยืนพิงต้นไม้ไม่ไกลจากเขาอย่างสบายอารมณ์ สีหน้านั้นกวนประสาทดีแท้ บนกิ่งไม้ๆใกล้ๆเขา มีดอนการาสุตัวหนึ่งเกาะอยู่

แก!แม็กซ์คำรามในลำคอ มือยื่นไปแตะที่โปเกบอล

ชายผู้นั้นกล่าวสบายๆพลางม้วนกิ่งไม้อ่อนเล่น

พี่ชาย ฉันเคยเตือนไปแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับเราอีก

แล้วไง ฉันต้องฟังที่พวกแกพูดงั้นเหรอ!แม็กซ์ตวาดกลับ โทสะจากเรื่องของมารินพลอยถูกระบายออกมาด้วย

วูล์ฟไม่แยแสในมหิงสา กล่าวเสียงเยือกเย็น

ถ้างั้นก็คงต้องทำให้ฟัง

ดีนี่ ดูสิว่าใครต้องฟังใคร ออกมา เจส!

_________________-

Link to comment
Share on other sites

มาติดตามต่อแล้วครับ  :pika10:

ซาคากิส่งคนมาสองคนเองเหรอ(นึกว่าจะมาเป็นกองทัพอีก)แต่ก็เป็นระดับทหารเสือ แม็กซ์จะสู้ได้รึเปล่าน้อ~

Link to comment
Share on other sites

จำไม่ได้เลยแฮะ ว่าอ่านถึงไหน จะตามมาอ่านต่อนะครับ ^^"

Link to comment
Share on other sites

โอ๊ะ มีคนมาติดตามต่อแล้ว  :pika01:นึกว่าจะหยหมดซะแล้ว :pika06:

Link to comment
Share on other sites

ข้าพเจ้ายังอยู่~! =w=~

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.