Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

PMD 2 - Road To Pokemon Asia Championship X (บทที่ 5 ช่วงที่ 2)


ไมยาเตะ (เชมี่)

Recommended Posts

มาอัพแล้วครับกระผม

ในที่สุดก็จบบทที่ 3 สักทีหลังจากพยายามปั่นจนเกือบตาย  :pika09:

ช่วงที่สุดท้านนี้ ถือได้ว่าเป็นช่วงตกต่ำสุดเลยก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป

เพราะคนๆนั้นที่เรารอมานานในที่สุดก็ได้ปรากฏตัวแล้ว!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

อาจจะไม่มี comment มากเท่าไรนะคะ

เนื้อเรื่อง ยาวเยียดมาก

เดี๋ยวจะแวบๆมาอ่านต่อคะ ฮาๆ ^^"

ไม่เป็นไรครับกระผมเข้าใจดี

ตอนนี้ก็มีแผนที่จะทำตอนสั่นๆออกมาเหมือนกัน

@วาว่าคุง - กระผมดีใจมากๆที่วาว่าคุงยังไม่ลืมกระผมนะครับ ลืมนิดหน่อยก็ไม่เป็นหรอกน่ะ  :pika01:

ปล. อาจยาวไปนิด... และก็คำไหนพิมพ์ผิดขออภัยด้วยนะครับรีบลงก่อน เดี๋ยวตามแก้ทีหลัง  :pika11:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

เหตุคาดไม่ฝัน!

พวกบาชาโม่มาถึงก่อนเวลาแข่งห้านาทีทำให้พวกเขาสบายใจได้บ้างเพราะนึกว่าจะมาไม่ทันเสียแล้ว ถึงกระถึงพวกเขาก็ยังไม่ลืมที่จะสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว

รู้สึกคุณย่าของเด็กหนุ่มนั้นมาไม่มานะ โพจามะมองบริเวณใกล้ๆอีกครั้ง ไม่อยู่จริงๆนะ

รู้แล้วหน่า โพจามะ บาชาโม่ตอบ ถ้าจำไม่ผิดบาชาโม่จำได้ว่าคุณย่าหายไปตอนช่วงแข่งรอบรอง เพราะก่อนหน้านั้นยังได้ยินเสียงคุณย่าส่งเสียงเชียร์อยู่เลยพอมาถึงรอบรองคุณย่าก็เงียบๆไป ตอนแรกบาชาโม่คิดว่าเจ้าตัวคงเหนื่อยแต่พอลองมองไปข้างหลัง (คุณย่าจะนั่งอยู่ข้างหลังส่วนโปเกมอนนั่งอยู่ข้างหน้า) ก็ไม่พบแล้ว อีกนั้นล่ะบาชาโม่ ไม่สิ ทุกคนต่างคิดว่าคุณย่าคงออกไปทำธุระเล็กน้อยอีกเดี๋ยวคงกลับ แต่นี้ก็...

*บี๊บๆ บี๊บๆ*

บาชาโม่ ปลอกแขนนายมีเสียงด้วย... ฮิโกะซารุพูด

เอ๋!? จ...จริงด้วยสิ บาชาโม่ตรวจดูปลอกแขนของตน

ท่านผู้อ่านจำปลอกแขนกันได้ไหมครับ มันเป็นปลอกแขนสารพัดประโยชน์สีแดงสดมีลวดลายเป็นเปลวไฟสีเหลืองขนาดกำลังดีกับแขนของบาชาโม่ ปลอกแขนนี้สามารถทำอะไรก็ได้หลายอย่างพูดได้ว่ามีปลอกแขนนี้ก็เหมือนมีอุปกรณ์ต่างๆนาๆครบชุด เพียงแต่...

*บี๊บๆ บี๊บๆ*

กดตรงไหนล่ะเนี่ย... บาชาโม่กดปุ่มนั้นปุ่มนี้มั่วไปหมดแต่เสียงก็ยังไม่เงียบ

อย่าบอกนะว่านายใช้เจ้านี้ไม่เป็น โพจามะยิ้มแหยๆ

ก็นึกว่ามีไว้ประดับตัวเฉยๆนี่หน่า บาชาโม่ยังคงวุ่นอยู่กับเสียง แต่หลังจากดังได้ประมาณหนึ่งนาทีเสียงก็เงียบลง

เงียบสักที... บาชาโม่พูดอย่างโล่งใจ ที่ปลอกแขนปรากฏเป็นตัวเลขสี่ตัวขึ้นมา ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่ามันคือเวลานั้นเอง ณ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงห้าสิบเจ็ดนาที เอ๋!? แบบนี้ก็แสดงว่า... บาชาโม่กำลังคิด พวกเขาพักตอนเที่ยงตรงพอดีที่แน่ๆช่วงนั้นคุณย่าก็ไม่อยู่แล้วแปลกว่าหายตัว...ไม่ใช้คำนี้ดีกว่า ไปทำธุระก่อนหรืออาจระหว่างแข่งรอบรอง ตอนนั้นน่าจะประมาณสิบเอ็ดโมงถ้าไปตั้งแต่ตอนนั้นจริงก็คงพูดได้ว่าคุณย่าออกไปทำธุระมาได้เกือบๆสองชั่วโมงแล้ว

นานเหมือนกัน... บาชาโม่พูดเหมือนบ่นกับตัวเอง

อืม...ใช่ ไม่แข่งสักที ฮิโกะซารุพูดคนละเรื่องกันเลย

อ่ะ! ท่าทางจะเริ่มแล้วล่ะ! จิโคริต้าบอก

ด้านเวทีต่อสู้ได้มีการนำกรงเหล็กลงมาแล้ว อืม...เห็นบอกว่าประมาณห้าคูณห้าเมตรก็กว้างใช่เล่น กติกาเหรอ...ก็แค่ต่อสู้กันในกรงเหล็กสี่นาทีโดยต้องระวังไม่ให้ไปโดนตรงกรงเหล็กเพราะมันมีระเบิด (คล้ายๆประทัด) ติดอยู่ทั่วทั้งสี่ด้าน ที่น่ากลัวสุดๆคงเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ติดไว้ด้านนอกกรงเหล็กพอครบสี่นาทีประตูกรงจะเปิดเพื่อให้หนีออกมา ฝ่ายไหนก็ตามที่หนีออกมาได้และปิดประตูขังคู่แข่งก็จะเป็นฝ่ายชนะพร้อมกับระเบิดคู่ต่อสู้ไปในทีเดียว (รู้สึกมีการนับถอยหลังก่อนระเบิดด้วยนะ)

พอได้เห็นกรงเหล็กอยู่ตรงหน้าแบบนี้รู้สึกกลัวๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักก่อนะบาชาโม่คิด

แต่น่าเสียดายที่บาชาโม่คิดถูก...เมื่อมาคิดทีหลังมันก็กำลังเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ...และจะเป็นเหตุการณ์ที่บาชาโม่และเพื่อนๆจะไม่มีวันลืมแน่นอน

อ่อ...ต้องขออภัยท่านผู้ชมสักพักนะค่ะ เสียงพิธีกรหญิงดังขึ้น ยังมีกรรมการอีกหนึ่งคนยังไม่มาตอนนี้ทางเรากำลังตามอยู่... แต่ยังพูดไม่จบกรรมการคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นท่าทางจะรีบร้อนมากๆด้วย ดูเหมือนจะมีการพูดคุยนิดหน่อย

เอาล่ะค่ะท่านผู้ชมกรรมการมากันครบงั้นก็เริ่มการแข่งขันรอบชิงได้เลยค่ะ~

รอบชิงชนะเลิศ

ลีเฟีย VS มานิวร่า (Exploding Cage Timebomb Deathmatch)

สองนาทีแรกเป็นการต่อสู้ที่ไม่ได้เน้นท่าอะไรมากนักจึงขอตัดมาที่นาทีที่สามเลยแล้วกัน

พอเข้าช่วงครึ่งหลังความเครียดก็เริ่มก่อตัวทั้งสองฝ่าย แน่นอนคงไม่ต้องบอกว่าห้ามโดนกรงด้วย

มานิวร่าพยายามทำให้ลีเฟียช้าลงด้วยท่า Icy Wind แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าไรจึงเปลี่ยนท่าไปเป็น Faint Attack

ลีเฟียระวังตัวเต็มที่แต่กระนั้นก็ไม่สามารถสู้อีกฝ่ายได้เลย ลีเฟียตกเป็นรองสักแล้ว! แถมยังเริ่มออกอาการแปลกๆอีกตั้งหาก

เอ๋!? บาชาโม่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ดูเหมือนลีเฟียจะยืนทรงตัวไม่ได้ยังไงชอบกลดวงตาบอกที่ความไร้เรี่ยวแรง หรือว่าลีเฟียจะเริ่มง่วงนอน! เพราะท่า Icy Wind เหรอ?...ไม่สิ...ท่านั้นก็แค่ทำให้ลีเฟียช้าลงเท่านั้นเอง จะว่าเหนื่อยก็ไม่น่าใช่แล้วสาเหตุใดลีเฟียถึง...

ในที่สุดก็ครบสี่นาทีประตูกรงเปิดออก ลีเฟียที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดน่าจะออกไปได้อยู่แล้วถ้าไม่ใช่อกการแปลกๆที่เป็นอยู่

มานิวร่าจึงอาศัยจังหวะนี้เดินแซงลีเฟียไปอย่างสบายใจ...ช่างประมาทสักจริงๆ

ปล่อยให้ลีเฟียง่วงจริงก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้ ลีเฟียจับมานิวร่าใช้แรงเท่าที่มีทั้งหมดเหวี่ยงไปข้างหลังแล้วใช้ท่า Quick Attack พุ่งใส่ตัวมานิวร่าเต็มที่จนมานิวร่ากระเด็นไปโดนกรง...

*ตูม* เสียงดังไปทั่วสนามพร้อมๆกับประกายไฟและควัน ถึงจะเป็นการระเบิดด้านเดียวแต่แรงจากระเบิดนั้นก็ทำเอาลีเฟียลอยออกมานอกกรงเลยทีเดียว

ยังดีที่สติยังไม่หายลีเฟียเลยทำการปิดกรงสักก่อนจะค่อยๆเดินหนีออกจากกรงก่อนล่มลงไปกับพื้น...

*ตูม* ระเบิดลูกใหญ่ทำให้พื้นสั่นสะเทือนทั่วสนามควันกลุ่มใหญ่ลอยขึ้นข้างบนรูปร่างคล้ายเห็ดก่อนจะหายไป

ในที่สุดรอบชิงชนะเลิศก็จบงลสักที

สรุปผล

รอบชิงชนะเลิศ

ลีเฟีย ชนะ มานิวร่า

ลีเฟีย! กษิเดชร้องตะโกนก่อนวิ่งเข้าไปหาลีเฟียทันที ลีเฟีย! ลีเฟีย! กษิเดชยังเรียกต่ออีกสองสามครั้งแต่ลีเฟียยังคงหลับไม่ได้สติต้องรีบพาไปโปเกมอนเซ็นเตอร์ เมื่อคิดดังนั้นกษิเดชก็รีบวิ่งออกไปทันที

ก...เกิดอะไรขึ้น...ลีเฟียเป็นอะไรไปเหรอ เชมี่หน้าซีดไม่แพ้กลาเซียที่อยู่ข้างๆ

ฉันคิดอยู่แล้วว่ามันแปลกๆ บาชาโม่พูด เรารีบตามไปเถอะ

ทุกคนพยักหน้าแล้วทั้งหมดก๊อกจากที่นั่งคนดูมุ่งหน้าไปที่โปเกมอนเซ็นเตอร์

ที่โปเกมอนเซ็นเตอร์...อืม...ไม่ว่าที่ไหนๆก็เหมือนกันหมดเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้สักหน่อย!

พวกบาชาโม่เดินเข้าไปข้างในก็พบกษิเดชนั่งคอตกอยู่หน้าประตูบานนึง หือ... กษิเดชหันมามองพวกบาชาโม่แต่ก็แค่แปบเดียวเท่านั้น ฉันให้คุณจอยตรวจดูให้แล้ว หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมาก กษิเดชหยุดพูดอยู่แค่นั้นเพราะคุณจอยนางพยาบาลออกมาสักก่อน ลีเฟียเป็นยังไงบางครับ

ค่ะคือ... คุณจอยหยุดหายใจหนึ่งครั้งก่อนพูด ไม่เป็นอะไรมากค่ะ เท่าที่ตรวจดูแค่หลับไปเท่านั้นล่ะค่ะ

งั้นเหรอครับ กษิเดชโล่งใจพอๆกับพวกบาชาโม่ เขาแค่เหนื่อยใช่ไหมครับ

เรื่องนั้น... อยู่คุณจอยก็ทำสีหน้าเครียดๆ อาจเป็นความจริงที่น่าตกใจ

หมายความว่าไงครับ

ลีเฟียของเธอไม่ได้เหนื่อยแต่อย่างใดเลย จะว่าไปเธอบอกว่าอยู่ลีเฟียก็มีอาการใช่ไหม ระหว่างตรวจฉันเลยคิดอยู่อย่างนึง

คิดอยู่อย่างนึง... กษิเดชพูดซ้ำ

คุณจอยไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไงให้อีกฝ่ายไม่ตกใจแต่มันไม่มีทางอื่นนอกจากพูดไปตรงๆ บางที...ลีเฟียของเธออาจจะโดนวางยา...

กษิเดชรวมไปถึงพวกบาชาโม่ถึงกับช๊อกจนพูดอะไรไม่ออก เป็น...เป็นความจริงหรือครับ หลังเงียบอยู่นานกษิเดชก็พูดขึ้น

ฉันก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกันแต่ก็แจ้งตำรวจให้ไปสืบดูแล้วค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นยานอนหลับชนิดอ่อนๆ ใครกันนะกล้าทำกับโปเกมอนแบบนี้....

กษิเดชเห็นด้วยถึงยังไงก็ต้องให้ทางนั้นตรวจสอบดูก่อนจะตัดสินใจ ที่สำคัญลีเฟียก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แต่เขาเองก็คงไม่ยกโทษให้ใครก็ตามที่กับลีเฟียได้แน่นอนพวกบาชาโม่เองก็คงคิดเช่นเดียวกัน

แล้วนั้นก็เป็นโปเกมอนของเธอเหรอจ้ะ

คำถามของคุณจอยทำให้กษิเดชได้สติ ป...เปล่าครับ...คือพวกเขาเป็นเพื่อนของลีเฟียครับ... กษิเดชทำทางเหมือนนึกอะไรออก จริงสิ คุณย่า! ใช่แล้วทีผ่านมายังไม่เห็นคุณย่าเลย หรือว่ายังอยู่ในตึกใบหยก

กษิเดชกำลังจะรีบวิ่งออกไปแต่กลับต้องเจอกับนายตำรวจคนนึงแทน เอ่อ...กษิเดชใช่ไหมครับ

ครับ...ม...มีอะไรครับ กษิเดชรู้สึกกลัวๆอย่างบอกไม่ถูก

เชิญมากับเราด้วยครับ อืม...ทำใจไว้หน่อยก็ดีนะครับ รายละเอียดเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง นายตำรวจคนนั้นกำลังจะพากษิเดชออกไปข้างนอก

เดี๋ยวนะครับ ไม่ทราบจะพาผมไปที่ไหน

ตึกใบหยก หรือให้ถูกจริงๆคือห้องๆหนึ่งในตึกใบหยก2ครับ นายตำรวจตอบ

ตอนนนั้นเองบาชาโม่ตัดสินใจบางอย่าง นิวร่า แซนกูส โรค่อน ผมอยากให้รออยู่ที่นี้ค่อยดูอาการลีเฟียไว้นะครับ

ได้สิ ไม่มีปัญหา นิวร่าตอบ

นายจะทำอะไรบาชาโม่ บุยเซลถาม

ไม่เห็นต้องถามก็ตามเด็กหนุ่มคนนั้นไปไงล่ะ บาชาโม่ตอบ ก่อนจะวิ่งไปหากษิเดช

เด็กหนุ่มรู้ในทันทีว่าบาชาโม่ต้องการอะไรเลยหันไปกับนายตำรวจ โปเกมอนพวกนี้เป็นของผมให้พวกเขามาด้วยนะครับขอร้อง

ด้วยเหตุนี้กษิเดชและพวกบาชาโม่จึงมายังที่ตึกใบหยกอีกครั้งต่างกันตรงที่มีตรงทางเข้าตึกมีรถตำรวจกับรถพยาบาลอยู่ด้วย เชิญที่รถพยาบาลก่อนครับ นายตำรวจพากษิเดชกับพวกโปเกมอนไปที่รถพยาบาล

พอมาถึงท้ายรถทั้งกษิเดชและพวกบาชาโม่ก็ตกใจจนบรรยายไม่ถูก

คุณย่าครับ! กษิเดชร้องออกมา คุณย่านอนไร้สติอยู่บนเปลกำลังมีหน่วยพยาบาลตรวจร่ายกายอยู่ คุณย่าครับๆ! กษิเดชเกือบจะถึงตัวคุณย่าแต่นายตำรวจห้ามไว้สักก่อน

เขาไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องเป็นห่วง นายตำรวจพูด ที่ปัญหาจริงๆคือตรงที่ๆเราพบคุณย่าของนายตั้งหาก

หา!? กษิเดชออกอาการงงๆ นายตำรวจเลยพาเด็กหนุ่ม (พวกบาชาโม่ด้วย) ไปยังห้องๆนึงในตึก

โดยห้องนั้นอยู่บนชั้นสามสิบสองระหว่างทางเดินไปนั้นมีตำตรวจหลายสิบคนเดินเต็มพื้นที่ไปหมด

ที่นี้แหละ...อ่อถ้าขวัญอ่อนก็ไม่ต้องดูก็ได้นะ นายตำตวจอาจพูดช้าไปหน่อยเพราะเด็กหนุ่มกับพวกโปเกมอนได้มองเข้าไปห้องสักแล้ว

ภายในห้องก็เป็นห้องสำนักงานขนาดย่อธรรมดาๆ ลักษณะห้องเป็นทรงกลมมีเครื่องใช้ต่างๆตามที่สำนักควรมี  ที่ดูแปลกตาก็คงเป็นโต๊ะทำงานสีน้ำตาลเข้มกับคนที่นั่งหน้าหมอบกับโต๊ะ... เอ๋!?

เหวอ~! กษิเดชร้องเสียงหลงส่วนพวกบาชาโม่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง ใครก็ตามที่นั่งอยู่ตรงนั้นดูยังไงก็ไม่น่ามีชีวิตอยู่แล้ว...เขาตายแล้ว!

สำหรับพวกบาชาโม่นี้เป็นการเห็นศพครั้งแรกสักด้วยสีหน้าแต่ตัวนั้นยากที่อธิบายได้ว่าเป็นยังไง

คุณตำรวจครับ...คุณพบคุณย่าที่นี้...

ใช่ อันที่จริงมีคนมาพบก่อนและเขาแจ้งมาที่เรา เขาเล่าว่าพบผู้ตายกับคุณย่าที่นอนหมดสติอยู่บนรถเข็น

ใครเหรอครับ

ฉันเองล่ะ เสียงหนึ่งดังขึ้น

กษิเดชจำเสียงนั่นได้เสียงแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นเขาหันไปทางต้นเสียงทันที พี่ครับ!!

ใช่พี่เอง... เด็กหนุ่มผู้นั้นใส่ชุดตามสบายราวกับอยู่บ้านแต่ถ้าดูดีๆมันก็เป็นชุดสำหรับใส่ออกไปเที่ยว

พี่...พี่มาได้ไงครับ ก็ไหน...

เรื่องมันยาวเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังหลังสอบปากคำเสร็จก็แล้วกัน

พวกบาชาโม่ที่อยู่ด้วยต่างมองหน้ากันพูดคุยอะไรบางอย่าง ยกเว้นบาชาโม่ที่จ้องมองเด็กคนนั้นราวกับไม่เชื่อสายตา เขาไม่มีทางจำคนผิดแน่ เด็กคนนั้นคือเจ้านายของเขา โคซึเกะ ยามาชิตะ!

Link to comment
Share on other sites

มาแล้วๆ ตอนต่อมา มาแล้ว~!!! เย้~!!!!

@วาว่าคุง - กระผมดีใจมากๆที่วาว่าคุงยังไม่ลืมกระผมนะครับ ลืมนิดหน่อยก็ไม่เป็นหรอกน่ะ

ไม่ลืมเด็ดขาด จะไม่มีวันลืมท่านเลยชั่วชีวิตครับ ผมชื่นชอบคนที่มีความรับผิดชอบสูงลิบแบบท่านนี้ละ(เคารพและนับถือเลยด้วย) ที่สามารถแต่งนิยายให้จบได้ และยังลงฟิคแบบสม่ำเสมออีก ที่แบบว่าถึงจะมีคนโพสน้อยแต่ก็ยังคงแต่งอยู่เสมอ.....ขอนับถือจากใจจริง!!!!

คุณนี้ละ....นักแต่งฟิคตัวอย่างเลยละครับ!!!!

ท่านผู้อ่านจำปลอกแขนกันได้ไหมครับ มันเป็นปลอกแขนสารพัดประโยชน์สีแดงสดมีลวดลายเป็นเปลวไฟสีเหลืองขนาดกำลังดี กับแขนของบาชาโม่ ปลอกแขนนี้สามารถทำอะไรก็ได้หลายอย่างพูดได้ว่ามีปลอกแขนนี้ก็เหมือนมี อุปกรณ์ต่างๆนาๆครบชุด เพียงแต่...

*บี๊บๆ บี๊บๆ*

“กดตรงไหนล่ะเนี่ย...” บาชาโม่กดปุ่มนั้นปุ่มนี้มั่วไปหมดแต่เสียงก็ยังไม่เงียบ

“อย่าบอกนะว่านายใช้เจ้านี้ไม่เป็น” โพจามะยิ้มแหยๆ

“ก็นึกว่ามีไว้ประดับตัวเฉยๆนี่หน่า” บาชาโม่ยังคงวุ่นอยู่กับเสียง แต่หลังจากดังได้ประมาณหนึ่งนาทีเสียงก็เงียบลง

เจ้าตัวรู้ได้ไงว่ามันนานาประโยชน์.....ทั้งๆที่ใช้ไม่เป็นสักอย่าง -*-

ด้านเวทีต่อสู้ได้มีการนำกรงเหล็กลงมาแล้ว อืม...เห็นบอกว่าประมาณห้าคูณห้าเมตรก็กว้างใช่เล่น กติกาเหรอ...ก็แค่ต่อสู้กันในกรงเหล็กสี่นาทีโดยต้องระวังไม่ให้ไปโดนตรงกรง เหล็กเพราะมันมีระเบิด (คล้ายๆประทัด) ติดอยู่ทั่วทั้งสี่ด้าน ที่น่ากลัวสุดๆคงเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ติดไว้ด้านนอกกรงเหล็กพอครบสี่ นาทีประตูกรงจะเปิดเพื่อให้หนีออกมา ฝ่ายไหนก็ตามที่หนีออกมาได้และปิดประตูขังคู่แข่งก็จะเป็นฝ่ายชนะพร้อมกับ ระเบิดคู่ต่อสู้ไปในทีเดียว (รู้สึกมีการนับถอยหลังก่อนระเบิดด้วยนะ)

ส....สนามอะไรกันเนี้ย....ช่างดูเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายทารุณที่สุดเลย!!!

คุณจอยไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไงให้อีกฝ่ายไม่ตกใจแต่มันไม่มีทางอื่นนอกจากพูดไปตรงๆ “บางที...ลีเฟียของเธออาจจะโดนวางยา...”

กษิเดชรวมไปถึงพวกบาชาโม่ถึงกับช๊อกจนพูดอะไรไม่ออก “เป็น...เป็นความจริงหรือครับ” หลังเงียบอยู่นานกษิเดชก็พูดขึ้น

“ฉัน ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกันแต่ก็แจ้งตำรวจให้ไปสืบดูแล้วค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นยานอนหลับชนิดอ่อนๆ ใครกันนะกล้าทำกับโปเกมอนแบบนี้....”

ขนาดโดนวางยายังทำได้ถึงขนาดนี้ ผมของนับถือความเก่งของเจ้าเลย ลีเฟีย!!!!

ภายในห้องก็เป็นห้องสำนักงานขนาดย่อธรรมดาๆ ลักษณะห้องเป็นทรงกลมมีเครื่องใช้ต่างๆตามที่สำนักควรมี  ที่ดูแปลกตาก็คงเป็นโต๊ะทำงานสีน้ำตาลเข้มกับคนที่นั่งหน้าหมอบกับโต๊ะ... เอ๋!?

“เหวอ~!” กษิเดชร้องเสียงหลงส่วนพวกบาชาโม่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง ใครก็ตามที่นั่งอยู่ตรงนั้นดูยังไงก็ไม่น่ามีชีวิตอยู่แล้ว...เขาตายแล้ว!

สำหรับพวกบาชาโม่นี้เป็นการเห็นศพครั้งแรกสักด้วยสีหน้าแต่ตัวนั้นยากที่อธิบายได้ว่าเป็นยังไง

“คุณตำรวจครับ...คุณพบคุณย่าที่นี้...”

“ใช่ อันที่จริงมีคนมาพบก่อนและเขาแจ้งมาที่เรา เขาเล่าว่าพบผู้ตายกับคุณย่าที่นอนหมดสติอยู่บนรถเข็น”

ทำไมถึงทิ้งคนตายไว้ให้แมลงวันบินเล่นละคุณตำรวจ~!!! หรือว่าหน่วยพิสูต์ซากจะยังไม่มากัน...(ปกติตำรวจมักจะไม่ให้คนนอกเข้าไปในห้องที่เกิดคดีฆาตกรรมไม่ใช่เหรอ?)

พวกบาชาโม่ที่อยู่ด้วยต่างมองหน้ากันพูดคุยอะไรบางอย่าง ยกเว้นบาชาโม่ที่จ้องมองเด็กคนนั้นราวกับไม่เชื่อสายตา เขาไม่มีทางจำคนผิดแน่ เด็กคนนั้นคือเจ้านายของเขา โคซึเกะ ยามาชิตะ!

มาแล้ว~!!! โปเกม่อนกับเจ้านายมาเจอกันแล้ว!!! อยากร้องเพลงงานแต่งงานเลยว่า "แต่เราก็หา~ กันจนเจอ" เหอๆๆ

แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไต่อไปนะ โคซึเกะจะจำบาชาโม่ได้ไหมน้า~

Me/ ปักหลักรอติดตามชมตอนต่อไป....

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

มาอัพแล้วครับผม

จากนี้ไปข้าพเจ้าจะลองแต่งนิยายสืบสอนตามแบบที่ข้าพเจ้าอยากลองมานานแล้ว (จริงๆก็ตั้งแต่ต้นนะแหละ)

โดยบทนี้ข้าพเจ้าจะย้อนเวลามาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเอกอีกคนนามว่า โคซึเกะ ยามาชิตะ

หวังว่าท่านผู้อ่านจะไม่เบื่อไปสักก่อนนะครับ (กลัวนิดๆ -*-)

ปล. ยาวนะจ้ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไม่ลืมเด็ดขาด จะไม่มีวันลืมท่านเลยชั่วชีวิตครับ ผมชื่นชอบคนที่มีความรับผิดชอบสูงลิบแบบท่านนี้ละ(เคารพและนับถือเลยด้วย) ที่สามารถแต่งนิยายให้จบได้ และยังลงฟิคแบบสม่ำเสมออีก ที่แบบว่าถึงจะมีคนโพสน้อยแต่ก็ยังคงแต่งอยู่เสมอ.....ขอนับถือจากใจจริง!!!!

คุณนี้ละ....นักแต่งฟิคตัวอย่างเลยละครับ!!!!

ชมแบบนี้ข้าพเจ้าอายนะจะบอกให้ (กรี๊ด~)

เจ้าตัวรู้ได้ไงว่ามันนานาประโยชน์.....ทั้งๆที่ใช้ไม่เป็นสักอย่าง -*-

เจ้าตัวไม่รู้ครับ ข้าพเจ้านี้แหละรู้แต่ไม่เคยไปบอกเจ้าตัว -*-

ส....สนามอะไรกันเนี้ย....ช่างดูเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายทารุณที่สุดเลย!!!

การแสดงครับ การแสดง -*-

ขนาดโดนวางยายังทำได้ถึงขนาดนี้ ผมของนับถือความเก่งของเจ้าเลย ลีเฟีย!!!!

ลีเฟียมันเทพครับ! (ฝีมือจริงๆมิใช่การแสดง)

ทำไมถึงทิ้งคนตายไว้ให้แมลงวันบินเล่นละคุณตำรวจ~!!! หรือว่าหน่วยพิสูต์ซากจะยังไม่มากัน...(ปกติตำรวจมักจะไม่ให้คนนอกเข้าไปในห้องที่เกิดคดีฆาตกรรมไม่ใช่เหรอ?)

คดีมันเพิ่งเกิดครับ ส่วนเรื่องทำไมให้คนนอกเข้ามาดูเดี๋ยวจะอธิบายในช่วงหลัง

มาแล้ว~!!! โปเกม่อนกับเจ้านายมาเจอกันแล้ว!!! อยากร้องเพลงงานแต่งงานเลยว่า "แต่เราก็หา~ กันจนเจอ" เหอๆๆ

แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไต่อไปนะ โคซึเกะจะจำบาชาโม่ได้ไหมน้า~

จำได้รู้แล้วครับ แต่ข้าพเจ้าว่าอย่าเพิ่งคาวหวังอะไรไว้มากจะดีกว่า!?

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ ก่อนอื่นข้าพเจ้าขอแจ้งผู้อ่านไว้สักเล็กน้อยว่า ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะเล่าความเป็นมาเป็นไปของตัวเอกอีกคน โคซึเกะ ยามาชิตะ นั้นเอง ว่าเหตุใดเขาถึงมาที่นี้และระหว่างนั้นมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบาง

ข้าพเจ้าทราบดีว่าท่านผู้อ่านหลายท่านอยากทราบเหตุการณ์ต่อจากนี้มากกว่าจะมาทราบความเป็นมา แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าไม่นำมาเล่าสักตอนนี้แล้วมาเล่าตอนหลังอาจทำให้ท่านผู้อ่านงงได้และทำให้เนื้อเรื่องยาวกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอใช้บทที่ 4 นี้เป็นเกริ่นนำการเดินทางของเด็กหนุ่มจากแดนปลาดิบ โคซึเกะ ยามาชิตะตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเหตุการณ์นั้นได้เริ่มต้นขึ้นก่อนหน้าที่พวกบาชาโม่จะได้รับจดหมายจากลีเฟียถึงหนึ่งอาทิตย์

1  พฤศจิกายน

บทที่ 4 โคซึเกะ ยามาชิตะ ปรากฏตัว

~ ช่วงที่ 1 ~

โคซึเกะ ยามาชิตะ กับ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักสืบสมัครเล่น!?

ยามาชิตะ มานี่หน่อยลูก เสียงของคุณแม่ดังมาจากข้างล่าง

เด็กหนุ่มชื่อโคซึเกะ ยามาชิตะรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง อืม...ปกติแม่ก็เรียกแบบนี้อยู่แล้วนิ แต่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าต้องมีอะไรให้ผมทำแน่ๆ ครับๆ ยามาชิตะร้องตอบก่อนจะเดินลงมาข้างล่างอย่างช้าๆ

บ้านที่ยามาชิตะอาศัยอยู่ไม่ใช่บ้านใหญ่โตอะไรเป็นทาวน์เฮ้าส์ธรรมดาๆที่พออยู่ด้วยสามคนสบายๆ ก็มี เจ้าตัว พ่อและก็แม่ ตัวยามาชิตะนั้นภายนอกก็เรียกได้ว่าเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนนึงถึงจะเป็นคนต่างประเทศและเคยพบกับอุบัติเหตุจนเกือบตายมาแล้วก็เถอะ แต่จะว่าไปสิ่งที่ทำให้เขาแต่ต่างจากเด็กหนุ่มทั่วๆไปคงเป็น...

มีอะไรครับแม่

คือ มีโปเกมอนตัวนึงร้องอยู่หน้าบ้านเหมือนอยากจะได้อะไรก็ไม่รู้ ลูกช่วยไปดูแทนแม่ทีสิ

ครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้ ยามาชิตะตอบแบบเซ็งๆเล็กน้อย แต่เขาก็ชินกับการถูกใช้สักแล้ว

ยามาชิตะลองเปิดประตูหน้าบ้านก็พบโคลิงค์ตัวน้อยนั่งใบหน้ายิ้มๆ (?) อยู่หน้าประตู ว่าไงโคลิงค์ มีอะไรเหรอ

บ้าน โคลิงค์ตอบ

เอ๋!? บ้าน... ยามาชิตะงงตัวเขาอยู่ในบ้านก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ...ไม่สิโคลิงค์ไม่น่าจะหมายถึงแบบนั้น หลงทางเหรอ

เปล่าสักหน่อยโง่จัง!

ยามาชิตะมองหน้าโคลิงค์แต่เขาก็โกรธไม่ลง บ่อยครั้งไปที่เขามักถูกโปเกมอนกัดด้วยคำพูด แต่ก็ช่วยไม่ได้ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากมีความสามารถฟังภาษาโปเกมอนได้สักหน่อย! สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาต่างจากคนอื่นๆ

แล้ว...

แล้ว? โคลิงค์พูดซ้ำ

อยากให้ฉันพากลับบ้านเหรอ

ถูกต้องแล้วครับ~! โคลิงค์ดีใจจนดูโอเวอร์ไปหน่อยสงสัยยังเด็กอยู่แน่ๆ พาผมไปหน่อยๆ!

แล้วฉันจะไปรู้ได้ไงแล้วบ้านนายอยู่ไหน! ยามาชิตะพยายามทำหน้าแบบใส่อารมณ์แต่ใบหน้าอย่างเขาทำไปก็คงมีแต่เด็กประถมเท่านั้นแหละที่กลัว

ผมจำทางได้ครับแค่อยากให้ไปด้วยกันหน่อยจะได้ปลอบภัย

แล้วไปขอบ้านอื่นไม่ได้หรือไง ใช่ว่ายามาชิตะจะไร้น้ำใจแต่บ้านทาวน์เฮ้าส์แบบนี้คงไม่เป็นไม่ได้ที่จะไม่ใครอยู่เลย

อย่าบอกนะว่าคุณก็ปฏิเสธ โคลิงค์เริ่มทำหน้าเศร้า ไปบ้านไหนเขาก็ไล่ให้ผมออกไปทั้งนั้น ทำไมมนุษย์สมัยนี้ไม่มีน้ำใจกันบ้างเลยนะ

ในฐานะมนุษย์คนนึงยามาชิตะถึงกับเจ็บนิดๆกับคำพูดของโคลิงค์น้อยตัวนี้ ก็ได้ๆ ฉันไปเป็นเพื่อนก็ได้ ยามาชิตะจำใจต้องตอบตกลงอย่างช่วยไม่ได้

จริงเหรอ!?...ขอบคุณนะครับ มนุษย์ยังพวกที่ดีๆอยู่จริงๆด้วย พวกที่ดีๆ... ยามาชิตะไม่คิดว่ามันจะเป็นคำชมตรงไหน

เป็นไงบ้างยามาชิตะ คุณแม่ซึ่งให้ลูกชายรับภาระแทนตนเข้ามาหาเพื่อดูเหตุการณ์ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า

ไม่มีครับ ยามาชิตะตอบในทันที แต่ผมคงต้องออกไปข้างนอกสักนึง

งั้นหรือ...ระวังตัวด้วยแล้วกัน

ยามาชิตะมองหน้าแม่ด้วยสายตาที่ตกใจเล็กน้อยก่อนจะตอบ ครับ ยามาชิตะพยายามตอบแบบไม่คิดอะไร แต่ในใจก็คิดว่าคำพูดของแม่เมื่อกี้ให้ความรู้สึกเหมือนจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆเลย แต่เขาคงคิดไปเอง... งั้นผมไปนะครับ พูดเสร็จยามาชิตะก็สวมรองเท้าแตะตัวเก่าๆแล้วเดินออกไปโดยมีโคลิงค์เดินนำ คุณแม่ของยามาชิตะทำได้แต่เพียงมองลูกชายค่อยๆเดินห่างออกไปเท่านั้น...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ณ ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาบ่ายโมงตรงปกติแถวนี้รถจะเยอะ แต่วันนี้กลับไม่มีรถขับอยู่ถนนเลยสักคัน

ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องมาเป็นเพื่อนด้วย ยามาชิตะพูดอย่างเซ็งๆ เส้นทางกลับบ้านก็รู้ดี แต่ยังลำบากหาคนไปเป็นเพื่อน"

นั้นสิผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

เอ๋!? ยามาชิตะมองโคลิงค์เหมือนต้องการคำตอบ

แน่นอนว่าตอนนี้พวกเขายังเดินอยู่ภายในหมู่บ้านโดยโคลิงค์บอกว่าให้เดินไปตามถนนสายหลักจนถึงซอยที่สิบสองก็จะพบบ้านของเขาซึ่งอยู่ด้านในซอย ยามาชิตะกับโคลิงค์เดินชิดขอบซ้ายของถนนสายหลัก ทำไมต้องเรียกสายหลักนะเหรอ? เพราะว่าหมู่บ้านที่ยามาชิตะอยู่มีถนนสายหลักตัดเชื่อมต่อถนนของหมู่บ้านนะสิ

กลับมาเข้าเรื่อง สีหน้าของโคลิงค์ในตอนนี้ถ้าเทียบกับตอนเจอครั้งแรกถือว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน โคลิงค์ในตอนนี้มีสีหน้าเหมือนคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจในชีวิต

คงเป็นสัญชาตญาณมั้งครับ โคลิงค์พูดต่อกันเงียบอยู่นาน คุณจะโกรธผมหรือเปล่าถ้าผมบอกเหตุผลที่ตัวผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน"

ฉันไม่เห็นว่าต้องโกรธนายตรงไหน สัญชาตญาณ...นายพูดแบบนั้นใช่ไหม ใครๆเขาก็มีด้วยกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่มนุษย์

ครับ...ก็จริง โคลิงค์ยังคงมีสีหน้าสับสนอย่างบอกไม่ถูก ช่วงนี้มีคนแปลกหน้าชอบมาที่บ้านผมบ่อยมากๆ

หมายความว่าไง

ผมไม่รู้ชัดเจนหรอกครับ ที่แน่ๆเป็นมนุษย์คนเดียวกันแน่นอน...มนุษย์มีใบหน้าไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ

อ่อ...ใช่... ยามาชิตะไม่ค่อยแน่ใจเช่นกัน จากการทำงานของคุณพ่อที่เป็นตำรวจทำให้ตัวยามาชิตะก็พอทราบมาบางว่ามีไม่น้อยเหมือนกันที่คนร้ายจะปลอมตัวเป็นคนอื่นแถมยังปลอมได้เหมือนมากอีกตั้งหาก

ยังไงก็เถอะ เวลามนุษย์คนนั้นมาทีไรเจ้านายผมต้องออกอาการกลัวทุกที

เดี๋ยวก่อนนะ ยามาชิตะรีบขัด แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับนายด้วย ถึงกับมาหามนุษย์อย่างฉันมาเป็นเพื่อนคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาสินะ

ครับ คือจะพูดยังไงดีล่ะ...ผมเองก็ไม่อยากคิดในแง่ร้ายเท่าไร โคลิงค์มองซ้ายมองขวาราวกับกลัวใครได้ยิน คือเจ้านายผมเคยพูดกับผมด้วยสีหน้าหวาดกลัวว่า ระวังด้วยนะ และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาให้รีบหนีไปซะ

ยามาชิตะมองโคลิงค์อีกครั้ง ตัวเขาเองก็เคยทำงานร่วมกับพ่อมาก่อนจึงรู้ว่าคำพูดที่เจ้านายของโคลิงค์พูดต้องมีความหมายบางอย่างแอบแฝงอยู่ เรื่องระวังตัวใครก็พอเข้าใจแต่ที่บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาให้รีบหนีไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเจ้าตัวจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตน

ยามาชิตะรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะยังไงชอบกล โคลิงค์...วันนี้ที่บ้านนาย...ไม่สิ นอกจากเจ้านายแล้วมีใครอยู่อีกไหม

จริงๆแล้วอยู่... แต่วันนี้พวกเขาไม่อยู่บ้านเพราะไปต่างจังหวัดเจ้านายผมเขาไม่ชอบไปไหนเลยอยู่บ้าน จะว่าไปวันนี้เขาดูแปลกๆ

แปลกๆ

ครับ คือมีใครก็ไม่รู้โทรศัพท์เข้ามาที่บ้านเจ้านายผมไปรับสาย พูดกันได้ไม่กี่วินาทีเจ้านายก็เหมือนจะช๊อก...หลังจากนั้นก็สั่งให้ผมออกไปจากบ้านไปหาหรืออยู่กับใครสักพัก

เดี๋ยวสิ! ยามาชิตะเริ่มแน่ใจกับสิ่งที่ตนเองคิดในโดยตลอดแล้ว แล้วทำไมไม่เล่าแต่แรก! ต้องรีบไปหาเจ้านายของนายโดยเร็วที่สุดแล้ว!

หา!? โคลิงค์พยายามวิ่งตามยามาชิตะไปติดๆ ยามาชิตะเองตอนที่กำลังวิ่งอยู่เขาก็คิดในใจว่า ที่เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่...ตัวเขาไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน แต่...แต่ที่เราคิดเป็นจริงล่ะก็...คนๆนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย!

อ่ะ! โคลิงค์ร้องออกมาด้วยความตกใจ นั้นเจ้านายตัวเอง

ยามาชิตะเห็นเด็กหนุ่มคนนึงอายุน่าจะราวๆสิบห้าสิบหกวิ่งออกมาจากซอยก่อนจะหยุดวิ่งแล้วหันมามองยามาชิตะกับโคลิงค์

เจ้านายครับ โคลิงค์ร้องเรียก แต่เจ้านายทำเพียงแค่ยิ้ม...พร้อมกับน้ำตา! ไม่ผิดแน่ยามาชิตะคิด

อีกเพียงร้อยเมตรกว่าๆก็จะถึงซอยนั้นแล้วแต่ก็กลับเกิดเหตุไม่คาดขึ้นแม้แต่ยามาชิตะเองก็คงไม่ลืมไปตลอดชีวิต

*โครม!!* อยู่ๆก็มีรถเบนซ์สีดำพุ่งออกมาจากซอยชนร่างของเด็กหนุ่มนั้นจนลอยจากพื้นแล้วตกลงมาที่พื้นอย่างแรง รถเบนซ์คันนั้นหยุดจอดครู่เดียวก็ขับออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจ้านายครับ~! โคลิงค์ร้องเหมือนคนสติแตกไปแล้วจนยสมาชิตะต้องอุ้มโคลิงค์ร้องขึ้นมากอดในอ้อมอกไว้

ตั้งสติไว้ก่อนโคลิงค์! ยามาชิตะใช้มือข้างนึงกอดโคลิงค์ร้องไว้อีกข้างก็รีบแจ้ง 191 ทันที หลังจากแจ้งที่เกิดเหตุเสร็จยามาชิตะเพิ่งสังเกตว่าเด็กหนุ่มยังขยับตัวได้

เฮ้ยๆ! ยามาชิตะรีบวิ่งเข้าไปดูทันที ได้โปรดอย่ามองนะ ยามาชิตะเตือนโคลิงค์ไว้ก่อนเพราะภาพต่อไปนี้คงไม่เหมาะสำหรับโปเกมอนตัวน้อยๆ

เด็กหนุ่มคนนั้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดจนดูเหมือนว่าเขาใส่เสื้อสีแดงสด ยามาชิตะเองพอเห็นใกล้ๆก็ยังต้องหันหน้าหนี แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากลัวถึงแจ้ง191ไปแล้วแต่อาจไม่ทันการได้ โชคดีจริงๆที่ตอนอยู่ญี่ปุ่นยามาชิตะเคยเรียนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อน ถึงทำอะไรไม่ได้มากแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ไม่นานหลังจากนั้นรถพยาบาลพร้อมกับรถตำรวจก็มาถึง แน่นอนว่าด้วยเสียงจากรถทั้งสองทำให้ชาวบ้านเริ่มออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มถูกนำขึ้นรถพยาบาลพร้อมโคลิงค์ ส่วนยามาชิตะให้ปากคำกับตำรวจโดยเขาบอกป้ายทะเทียนรถที่จำได้ให้กับตำรวจฟัง หลังจากนั้นก็โดยสอบถามนี้นั้นจนสมองแถบระเบิด ซึ่งกว่าเขาจะปล่อยตัวให้กลับได้เวลาก็ผ่านมาได้กว่าหนึ่งชั่วโมง

คงไม่ต้องก็คงรู้...งานนี้ยามาชิตะมีเรื่องอธิบายให้คุณแม่ฟังอีกยาว!

Link to comment
Share on other sites

ตื่นขึ้นมาพร้อมความสามารถพิเศษ พูดคุยภาษาโปเกม่อนรู้เรื่องหรือเนี้ย ยามาชิตะคุง~

“เปล่าสักหน่อยโง่จัง!”

ยามาชิตะมองหน้าโคลิงค์แต่เขาก็โกรธไม่ลง บ่อยครั้งไปที่เขามักถูกโปเกมอนกัดด้วยคำพูด แต่ก็ช่วยไม่ได้ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากมีความสามารถฟังภาษาโปเกมอนได้สักหน่อย! สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาต่างจากคนอื่นๆ

เป็นโคลิงค์ที่ปากร้าย และกวนเหลือเกิน -*-

“ครับ คือจะพูดยังไงดีล่ะ...ผมเองก็ไม่อยากคิดในแง่ร้ายเท่าไร” โคลิงค์มองซ้ายมองขวาราวกับกลัวใครได้ยิน “คือเจ้านายผมเคยพูดกับผมด้วยสีหน้าหวาดกลัวว่า ระวังด้วยนะ และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาให้รีบหนีไปซะ”

ใครจะฟังแกพูดรู้เรื่องนะ โคลิงค์ -*-

“เฮ้ยๆ!” ยามาชิตะรีบวิ่งเข้าไปดูทันที “ได้โปรดอย่ามองนะ” ยามาชิตะเตือนโคลิงค์ไว้ก่อนเพราะภาพต่อไปนี้คงไม่เหมาะสำหรับโปเกมอนตัวน้อยๆ

เด็กหนุ่มคนนั้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดจนดูเหมือนว่าเขาใส่เสื้อสีแดงสด ยามาชิตะเองพอเห็นใกล้ๆก็ยังต้องหันหน้าหนี แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากลัวถึงแจ้ง191ไปแล้วแต่อาจไม่ทันการได้ โชคดีจริงๆที่ตอนอยู่ญี่ปุ่นยามาชิตะเคยเรียนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อน ถึงทำอะไรไม่ได้มากแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

I understand your feel...Yamashita-Cung

ตอนต่อไป! ตอนต่อไป! ตอนต่อไป!!!

Link to comment
Share on other sites

  • 4 weeks later...

มาอัพต่อแล้วครับ และเป็นการขุดที่แรงที่สุดที่เคยทำมาเลย

ที่หายจากบอร์ดไปนานก็เพราะไปหาที่ระบายอารมณ์ชั่วคราว ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่ 100%

เอาหน่า! ยังไงก็กลับมาแล้วอ่ะน่ะ จากนี้ต้องสู้ต่อไป!

ปล. ข้าพเจ้ารู้สึกว่าบทนี้คงไม่ได้จบที่ช่วงที่ 4 อาจมีสัก 5-6 ช่วง แต่จะไม่ให้เยอะไปกว่านี้

ถึงจะหายไปหน่อยแต่ข้าพเจ้าบอกได้เลยว่าบท (ตอน) ต่อไปรับรองความสนุก (มั้ง...)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ตอนต่อไป! ตอนต่อไป! ตอนต่อไป!!!

มาแล้ว! มาแล้ว! มาแล้ว!!!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

คำขอร้องของคุณย่า

ยามาชิตะ มานี่หน่อยลูก เสียงของคุณแม่ดังมาจากข้างล่าง

เกือบช่วงบ่ายในวันต่อมา วันนี้ยามาชิตะก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างเหมือนกับเมื่อวาน ก็ไม่รู้ว่าทำไมหรอกแต่มันรู้สึกจริงๆนะ! คุณแม่เรียกแบบนี้ทีไรก็มีเรื่องยุ่งๆทุกที ครับๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ แต่สุดท้ายยามาชิตะคิดว่าก็ต้องไปถ้ายิ่งไม่ไปงานเข้าหนักกว่าเก่าแน่ๆ

มีโปเกมอนตัวไหนมาหาอีกเหรอครับ

ไม่ใช่โปเกมอนแต่เป็นคนตั้งหาก

อ้าว!? แล้วทำไมผมต้อง...

ยามาชิตะพูดไม่ทันจบคุณแม่ก็พูดแทรกสักก่อน ฟังก่อนสิ คุณย่าเขาส่งจดหมายมา เนื้อความก็ประมาณว่าอยากให้ยาชิ (ชื่อย่อของยามาชิตะ) ไปช่วยงานที่นั้นหน่อย"

จริงสิ! ผมพอจะนึกออกแล้ว ยามาชิตะจำได้ว่าแม่เคยเล่าให้เขาฟังมาแล้วว่าคุณย่าเป็นเจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แต่เขากับจำที่อยู่แล้วชื่อร้านไม่ค่อยได้แล้ว ทางนั้นมีปัญหาหรือครับ

อืม~ เขาก็ไม่ได้เขียนไว้นะ คุณแม่ส่งจดหมายฉบับนั้นให้ยามาชิตะลองอ่านดู ซึ่งในเนื้อความก็เหมือนดังที่คุณแม่พูดไว้ คือแค่ขอร้องให้ไปช่วยงานที่ร้านเท่านั้น ก็ที่ได้อ่าน เขาไม่ได้ขอให้ยาชิไปทันทีหรอกนะ แม่ว่าไปวันศุกร์นี้ก็ได้

งั้นก็อีกสามวัน... ยามาชิตะพูดก่อนมองจดหมายฉบับนั้นอีกรอบ พร้อมกันนั้นยามาชิตะกลับรู้สึกเหมือนจะมีอะไรบ้างอย่างเกิดขึ้น...อืม...แต่ก็แค่รู้สึกล่ะน่ะ แม่ครับ น้องชายผมที่อยู่นั้นก็ยังสบายดีอยู่ใช่ไหม

อ่า...จะเรียกว่าสบายดีก็ใช่ แต่ยาชิก็รู้ดีว่าคุณย่าเขาอายุเยอะขนาดนั้นคงทำงานในร้านไม่ค่อยไว้กษิเดชเลยต้องทำงานแทนคุณย่าตลอด

นั้นสินะ... ยามาชิตะรู้สึกเศร้านิดๆ ตัวเขาเองยังไม่เคยเห็นหน้าน้องชายสักครั้ง...จริงๆก็เคยเห็นในรูปถ่าย ยามาชิตะรู้ทีหลังว่าน้องชายเขาเคยไปหาเขาตอนประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนนั้นด้วย มาคิดตอนหลังทีไรก็อดเสียดายทุกที

จะว่าไปเดี๋ยวนี้พ่อเขาออกไปแต่เช้าเลยนะครับ ยามาชิตะพูดด้วยความสงสัย แน่นอนล่ะว่ายามาชิตะเองก็มีพ่อ แต่มักจะไม่ได้พูดถึงบ่อยนัก

เห็นเขาบอกว่ามีธุระ ฝ่ายคุณแม่ทำทางสงสัยไม่แพ้ลูก คงเป็นเรื่องสำคัญของเขานะล่ะ

ก็ไม่สำคัญมากเท่าไรหรอก คุณพ่อพูดขณะเข้ามาในบ้าน สองแม่ลูกพร้อมใจกันหันไปมอง

วันนี้กลับเร็วกว่าทุกวันนะ ยามาชิตะพูดแซ่วเล็กน้อย

ใช่ คุณพ่อตอบสั้นๆ พ่อมีเรื่องสำคัญที่จะบอกแม่ ขอโทษนะแต่พ่อขออยู่กับแม่เพียงสองคนได้ไหม

เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าลูกคนไหนๆก็ต้องสงสัยว่าเรื่องสำคัญที่ว่าคือเรื่องอะไร แต่ยามาชิตะเข้าใจสถานการณ์ดีเขาจึงจำใจต้องทำตาม ได้ครับ พูดเสร็จยามาชิตะก็กลับขึ้นห้องของตนไป

มีเรื่องอะไรเหรอค่ะ พอเห็นว่าลูกชายจะไม่ได้ยินแล้วคุณแม่ก็พูดเข้าเรื่องทันที

จำเรื่องรถชนแล้วหนีที่ลูกเราอยู่ในเหตุการณ์ได้ไหม

เรื่องเมื่อวาน

ใช่ รถเบนซ์สีดำคันนั้นที่ลูกชายบอกน่ะ ตอนนี้รถคันนั้นหายไปอย่างแล้ว คุณพ่อพูดแบบตรงไปตรงมา

เอ๋! ทำไมล่ะ!

ทางตำรวจก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตอนพวกเขาทราบมาว่ามีคนเห็นรถคันเดียวที่ย่านบางลำพูพวกเขาก็รีบไปทันทีแต่พอมาถึงก็พบว่ารถคันนั้นหายไปแล้ว"

เดี๋ยวนะค่ะ ที่ย่านบางลำพูเหรอ คุณแม่หน้าตาดูตื่นตกใจ

ทำไมเหรอ

เพราะอีกสามวันจากนี้ยาชิจะต้องไปที่นั้นนะสิ!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

และแล้วสามวันที่ว่าก็ผ่านไปไวเหมือนกับในนิยายทั่วๆไป (จะเขียนประชดทำไมล่ะเนี่ย) เวลาประมาณเกือบๆจะสิบโมงได้แล้ว ยามาชิตะกำลังเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่ลงไปในกระเป๋า

ยาชิคุง พ่อขอพูดกับลูกหน่อยได้ไหม แม้แต่คุณพ่อก็ยังเรียกยามาชิตะว่า ยาชิ

ได้ครับ

นี้อาจเป็นเรื่องจริงจังหน่อยนะ คุณพ่อพูดขณะเข้ามาในห้อง

เรื่องรถคันนั้นหรือครับ ยามาชิตะรู้ในทันทีว่าต้องเป็นเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็เพิ่งรู้มาเมื่อวานนี้เอง

ใช่ เพราะลูกเป็นคนเดียวที่เป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทางตำรวจเองก็คาดหวังในตัวยาชิเหมือนกัน

ครับๆ ผมเข้าใจ ถึงยามาชิตะจะตอบไปอย่างนั้น แต่ตัวเขาเองก็ไม่รับประกันหรอกว่าจะพบรถเบนซ์คันนั้นไหม

เรื่องของเรื่องคือ รถเบนซ์ที่หายไปนั้นมีการพบเห็นครั้งสุดท้ายในบริเวณที่ยามาชิตะกำลังไป ในฐานะที่เขาเคยเห็นรถเบนซ์คันนั้นมาก่อนทางตำรวจถึงคาดหวังยามาชิตะจะยังจำรถคันนั้นได้ซึ่งท่าเขาพบเมื่อไรก็จะได้แจ้งมาทันที เพียงแต่...มันก็มีความเป็นไปได้สูงว่ารถเบนซ์คันดังกล่างอาจหายไปอยู่ที่อื่นแล้วก็เป็นได้

เข้าใจแล้วก็ดี ฝากสวัสดีน้องชายแทนพ่อด้วยนะ

ครับได้เลย ยามาชิตะทำทางเหมือนจะนึกอะไรออก แล้วพ่อกับแม่จะทำอะไรต่อไปครับ

ตอนนี้พ่อมีแผนบางอย่างอยู่ รับรองว่ายาชิต้องชอบแน่ๆ

งั้นเหรอครับ... ยามาชิตะยิ้มแหยๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอไปบอกลาแม่หน่อนนะครับ

คุณพ่อพยักหน้ายามาชิตะเลยถือเดินออกจากห้องไปหาแม่ที่ชั้นล่าง

ผมจะไปแล้วนะครับ มีอะไรจะบอกหรือเปล่า

แม่ขอแค่อย่างเดียวคือ อยากให้ลูกระวังตัวไว้ด้วย ในเมืองมีอันตรายเยอะไปหมด

ครับ ผมจะระวัง แต่ถึงกระนั้นยามาชิตะก็ยังรู้สึกกลัวนิดๆ หรือว่าจะคิดมากไปเองนะ?

ยามาชิตะออกจากบ้านเวลาสิบโมงสิบห้านาทีพอดี โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้มันร้ายแรงมากกว่าที่คิด

Link to comment
Share on other sites

นักสืบสมัครเล่น....เด็กหนุ่มตัวน้อย(แน่เรอะ!) กำลังจะกลายเป็นนักสืบชื่อดัง ที่ทางการต้องการตัว(ไปช่วยสืบคดี)แล้วหรือเนี้ย นายสุดยอดมากยามาชิตะ!!!!

หรือว่านี้คงเป็นโชคชะตาลิขิตให้นายกับโปเกม่อนที่นายรักยิ่งจะได้มาพบเจอกันอีกครั้ง แต่.....ได้โปรดเถอะ....

อย่าทำให้ฉันต้องจินนายกับบาชาโม่เลยจะได้ไหม อ๊ากกกก!!!

Me/ อาการแพ้ Y กำเริบก่อนจะถูกไฟปริศนาเผาตาย....

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

อัพช่วงที่ 3 แล้วครับ

อยากจะร้อง แม่เจ้า! จริงๆพยายามที่จะแต่งให้เสร็จก่อนปีใหม่แท้ แต่กลับต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องครั้งใหญ่สักได้ -*-

เลยลงช้ามาก~  :pika06:

ปล. อาจจะยาวหน่อยนะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แต่.....ได้โปรดเถอะ.... อย่าทำให้ฉันต้องจินนายกับบาชาโม่เลยจะได้ไหม อ๊ากกกก!!!

Me/ อาการแพ้ Y กำเริบก่อนจะถูกไฟปริศนาเผาตาย....

ออกแนว Y เหรอ -*- ผมว่าพยายามที่จะไม่ให้จิ้นแล้วนะเนี่ย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

บุคคลต้องห้าม

อยากจะบ้าตาย! ยามาชิตะบ่น แต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะกว่าจะมาถึงได้มันใช้เวลาเยอะกว่าที่คิดไว้มาก ถึงยังไงเราก็มันบ้านนอกเข้ากรุงสินะ ตามนั้นแหละ...คนที่ไม่เคยไปที่อื่นอย่างเขาคงไม่มีทางไปถูกทางอยู่แล้วต้องค่อยถามคนนั้นคนนี้อย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็เริ่มชินแล้วล่ะ

ยามาชิตะใช้เวลาเกือบๆสามชั่วโมงในการเดินทางมาถึงบ้ายของคุณย่า ใหญ่กว่าที่คิดไว้นะเนี่ย ยามาชิตะพูดเสร็จก็เดินเข้าบ้านทันที...เพียงแต่บ้านที่เข้าไปกลับเป็นบ้านหลังผสมหรือบ้านของโปเกมอนนั้นเอง

... ... ... ชั่วครู่นั้นยามาชิตะรู้สึกเหมือนตัวเองมาผิดที่ก็ไม่แปลกเพราะข้างหน้าเขามีโปเกมอนกลุ่มหนึ่งหันมามองเขาเป็นสายตาเดียวกัน

มนุษย์งั้นเหรอ หนึ่งในโปเกมอนกลุ่มนั้นพูดขึ้น ใครล่ะเนี่ย...เป็นพวกเดียวกับเจ้าพวกนั้นนั้นหรือเปล่า

ไม่น่าใช่นะแอปโซล โปเกมอนอีกตัวพูด

ทำไมถึงรู้ว่าไม่ใช่ล่ะลีเฟีย แอปโซลตอบ

สีหน้ามนุษย์คนนี้ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร ดูเหมือนเพิ่งเคยมาที่นี้เป็นครั้งเดียวด้วย ลีเฟียพูดถูกทุกอย่างเพียงแต่ยามาชิตะผู้ฟังภาษาโปเกมอนรู้เรื่องกลับรู้สึกเศร้าใจแปลกๆ

เอ่อ... ยามาชิตะอยากจะพูดสักคำแต่ก็โดนพวกโปเกมอนมองกลับจนต้องเงียบทุกที

พวกเราไม่ควรจะแกล้งเขานะ โปเกมอนมังกรพูด

อิอิ นานๆทีไม่เห็นเป็นไรเลยไคริว ลีเฟียยิ้มด้วยความชอบใจ ถือสักว่าเป็นการแก้เครียดไปอีกแบบ

ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ... ไคริวคงอยากพูดต่อแต่กลัวว่าจะไม่เหมายสมเลยเปลี่ยนใจไม่พูด

ส่วนยามาชิตะที่ยืนฟังอยู่ตั้งนานเห็นว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้มีคาดโดนพวกโปเกมอนพูดล้อไม่มีวันจบแน่จึงรีบเดินออกมาทันที

อะไรกันนะโปเกมอนพวกนั้น... ยามาชิตะยังแปลกใจบวกเศร้าใจไม่หาย ไม่เห็นรู้เลยว่าคุณย่าก็เลี้ยงโปเกมอนด้วย ว่าแล้วยามาชิตะก็เดินไปที่บ้านหลังเก่าซึ่งเป็นหลังที่ถูกต้อง

ยามาชิตะเดินไปที่ห้องของคุณย่าที่อยู่ชั้นล่างแต่ดังที่เคยบอกไปแล้วว่าชั้นล่างของบ้านหล้งเก่าเป็นพื้นต่างระดับเลยดูเหมือนเดินลงชั้นใต้ดินไม่มีผิด คุณย่าอยู่ไหมครับ ยามาชิตะลองเรียกดู นับว่าโชคดีที่เขาเข้าถูกห้อง

เอ้า!? มาแล้วเหรอ คุณย่าทักอย่างดีใจ คงเหนื่อยเลยล่ะสิ

ครับ...จริงๆก็ไม่เท่าไร ยามาชิตะไม่อยากพูดตามความเป็นจริงมากนัก อันที่จริง...เขาอยากทราบเรื่องอื่นมากกว่า พวกโปเกมอนพวกนั้นคุณย่าเป็นผู้ดูแลหรือครับ

ก็ไม่เชิง คุณย่าทำหน้าเศร้าเล็กน้อย โปเกมอนพวกนั้นเป็นโปเกมอนที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่ก็มีแล้วก็โดนเจ้าของทิ้ง...บางตัวต้องสูญเสียเจ้าของไปด้วยซ้ำ

งั้นเหรอครับ ยามาชิตะเข้าใจแล้วว่าทำไมโปเกมอนพวกนั้นถึงมีกิริยาท่าทางไม่ค่อยดีต่อมนุษย์ถึงจะเป็นบางตัวก็เถอะนะ...

แต่โปเกมอนพวกนั้นก็นิสัยดีนะ พยายามทำความรู้จักไว้บางก็ดี คุณย่าอธิบาย

ยามาชิตะคิดในใจว่า ถึงเขาจะตีสนิทกับโปเกมอนได้ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกโปเกมอนจะต้องชอบเขา ก็มีตัวอย่างให้เห็นกันบ่อยๆ ครับๆ ทราบแล้ว จริงสิ! ลืมคนๆนั้นไปเลย แล้วน้องชายผมล่ะครับ

อ่อ รู้สึกจะทำความสะอาดร้านอยู่น่ะ ไหนๆหลานก็มาแล้วไปช่วยเขาอีกแรงหน่อยสิ

ครับ... ยามาชิตะตอบสั้นๆ ในใจก็คิดว่าตลอดกรระยะเวลาที่มาที่นี้คงมีแต่เรื่องแบบนี้แน่ๆ

ยามาชิตะเดินออกจากบ้านเดินตรงเข้าร้านที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน ที่จริงวันนี้ร้านปิดแต่ก็ต้องทำความสะอาดไว้ก่อน แน่นอนว่าในร้านนอกจากน้องชายของยามาชิตะแล้วยังมีพนักงานอีกสองสามคนทำงานอยู่

อ่ะ!? พี่มาแล้วเหรอ

อืม มาแล้ว... ยามาชิตะยังพูดไม่จบก็โดนน้องชายกระโดดเข้ากอดสักแล้ว เฮ้ยๆ...เบาๆหน่อยสิ

ตั้งแต่พี่เขาโรงพยาบาลตอนนั้นผมก็กลัวมาโดยตลอด...กลัวว่าพี่จะไม่ออกมาจากที่นั้นอีก

... ... ... ยามาชิตะเงียบไปสักพัก ตัวเขาก็อยากกอดน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนานเหมือนกันถ้าไม่ใช่เพราะมีคนอื่นในร้านด้วย เห็นแม่บอกว่ามาเยี่ยมพี่งั้นเหรอ

ครับ แต่ตอนไปพี่ยังไม่ฟื้นเลย ตอนนี้น้องชายของยามาชิตะหรือกษิเดชได้ปล่อยยามาชิตะออกจากอ้อมกอดแล้ว ผมไปเยี่ยมพี่ได้ราวสองสามวันก็ต้องกลับมาช่วยคุณย่าทำงาน...พี่คงเห็นแล้วว่าสภาพร่างกายคุณย่าเริ่มที่จะ... กษิเดชไม่พูดไปมากกว่านี้

ยามาชิตะเข้าดีว่ากษิเดชอยากจะพูดอะไร ถึงอย่างงั้นสำหรับคุณย่าแล้วถ้าเทียบกับคนวัยเดียวกันยังถือว่าแข็งแรงอยู่นะ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมก็คิดเหมือนกัน

นายรู้เรื่องที่คุณย่าเลี้ยงโปเกมอนไว้หรือเปล่า

ตอนแรกไม่รู้ครับ...ผมหมายถึงตอนที่ไปเยี่ยมพี่นะ พอกลับมาที่นี้ก็พบว่าคุณย่าพาโปเกมอนจากไหนไม่รู้มาพักที่บ้านหลังผสมสักเยอะเลย

แปลว่าท่านคงเหงาสินะ ยามาชิตะคิด แล้วสนิทกับตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า

อืม... กษิเดชทำท่าคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก็ไม่ได้สนิทมากเท่าไรนะครับ... โดยเฉพาะแอปโซล...พี่เห็นแล้วหรือยังรู้สึกแอปโซลตัวนั้นเป็นผู้หญิงที่ออกแนวทอมบอยนิดๆด้วยนะ

อ่า พี่เห็นแล้วล่ะ ยามาชิตะรู้ว่าแอปโซลเป็นผู้หญิงก็จากที่เขาฟังภาษาโปเกมอนได้นี้แหละแต่ออกแนวทอมบอย...อันนี้ดูไม่ค่อยออก

ไคริวก็พอสนิทนิดๆ กับตัวอื่นๆก็พอไว้...ใช่แล้ว! ผมสนิทกับลีเฟียมากที่สุดเลยครับ ที่จริงตอนนี้เป็นถึงคู่หูแล้วด้วย

งั้นก็ดีสิ

แต่ว่านะพี่ กษิเดชทำหน้าเป็นกังวน ถึงผมจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ผมว่าลีเฟียชอบมีท่าทีแปลกๆ

งั้นเหรอ ยามาชิตะเองก็คิดเช่นเดียวกันดูจากการพูดของลีเฟียแล้ว ลีเฟียต้องมีความรู้สึกไม่ถูกกับมนุษย์เท่าไรนัก ไม่สิ...เราไม่แน่เรื่องนี้มากนักปต่ต้องมีอะไรบ้างอย่างในตัวลีเฟียที่เรายังไม่รู้แน่ๆ

ขอโทษนะครับ เสียงของผู้ชายที่ไม่ได้มาจากคนในร้านและไม่น่าจะเป็นคนที่มาถามทางแน่ๆ ขอโทษนะครับ ชายคนนั้นพูดอีกรอบแต่ครั้งนี้น้ำเสียงดูค่อยข้างจะดุๆ

กษิเดชหันไปมองชายคนนั้นตอนแรกก็ตกใจเล็กน้อยแต่ไม่นานก็เปลี่ยนไปเป็นท่าทางไม่พอใจแทน พวกคุณอีกแล้วเหรอ ที่กษิเดชพูดว่า พวกคุณ ก็เพราะข้างหลังชายผู้นั้นยังมีอีกสองคนเป็นชายและหญิง

ยามาชิตะสังเกตว่า ชายผู้เป็นคนถามนั้นอายุน่าประมาณ 30 ปี สวมชุดสูทกับกางเกงสีน้ำตาลดูเข้ากัน หน้าตาก็พอใช้ได้ ผิดกับชายอีกคนที่ดูอายุน่าจะประมาณ 40 ปีขึ้นไปเนื่องจากใบหน้ามีรอยย่นตามวัยคนแก่ สวมชุดสูทแบบเดียวกัน ฝ่ายหญิงดูอายุราวๆ 25-26 ปี หน้าตาสาวดีแต่กัลบสวมแว่นตาขอบดำอันโต...ดูเหมือนจะเป็นแว่นสายตา คนนี้แปลกกว่าเพื่อนเพราะสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มและสวมกระโปรงยาวประมาณเข่า

คือ...จริงๆแล้วแค่อยากมาพูดคุยอะไรนิดหน่อย ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังพูด ดูเหมือนจะเป็นคนที่ใจเย็นกว่าชายที่อยู่ข้างหน้าสักอีก

คุณย่าอยู่ข้างใน แต่ถ้าท่านเป็นอะไรอีก ครั้งนี้จะแจ้งตำรวจ! กษิเดชพูดด้วยความเหลืออดเต็มที ยามาชิตะเพิ่งจะเคยเห็นน้องชายโกรธก็ครั้ง

อย่างไรก็ตามดูเหมือนคนทั้งสามจะไม่กลัวต่อคำขู่ของกษิเดชเลย ตำรวจเหรอ ของที่สามารถใช้เงินซื้อได้แบบนั้นไม่มีวันกลัวหรอก! ชายที่อยู่ด้านหน้าพูดในขณะที่คู่ชายหญิงข้างหลังหันมามองหน้ากันเล็กน้อย หลังจากนั้นคนทั้งสามก็เดินออกจากร้านไป

ไม่ใช่แค่กษิเดชเท่านั้นดูเหมือนพนักงานคนอื่นเองก็ดูไม่ค่อยชอบหน้าคนทั้งสามนั้นเท่าไร ยามาชิตะรู้สึกราวกับว่าคนทั้งสามนั้นเป็นบุคคลต้องห้ามของที่นี้ไม่มีผิด!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ตกลงคนพวกนั้นเป็นใครกันแน่ ยามาชิตะถามด้วยความสงสัยไม่หาย คิดว่าเงินสามารถซื้อตำรวจได้แบบนี้คงเป็นคนใหญ่คนโตน่าดู"

ใช่ครับ กษิเดชตอบสั้นๆ

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ การพูดคุยของคนทั้งสามกับคุณย่าใช้เวลาไม่มากนัก หลังจากคนพวกนั้นออกจากบ้านไปยามาชิตะกับกษิเดชก็มาที่ตึกคอนโดในห้องๆหนึ่ง (ซึ่งก็เป็นห้องพักของยามาชิตะนั้นแหละ) ภายในห้องถือว่าจัดตกแต่งได้สวยงามพอดู ถ้าเป็นโรงแรมก็คงประมาณสามหรือสี่ดาวแน่ๆ

หลังเงียบไปสักนึงกษิเดชก็พูดต่อ คือเรื่องนี้มันมีความเป็นมาเป็นไปค่อยข้างยาว... อ่อ...ถ้าพี่ไม่อยากฟัง...

เปล่าๆ! เล่ามาเถอะพี่ก็อยากรู้เหมือนว่ามันเป็นยังไงกันแน่

ครับ คือว่า... กษิเดชหยุดถอนหายใจหนึ่งครั้งเกือบทำให้ยามาชิตะพี่ชายต้องถอนหายใจไปด้วย พี่รู้เรื่องที่คุณย่ามีหนี้กว่าสองแสนไหมครับ"

สองแสนเลยเหรอ! ยามาชิตะพูดเสียงด้วยความตกใจแต่ก็ยังตั้งสติไว้ พี่ไม่เคยรู้หรอก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เคยเล่า

บางทีคุณพ่อกับคุณแม่อาจจะยังไม่รู้ก็เป็นได้ ร้านกาแฟหน้าบ้านที่พี่เห็นพี่อาจคิดว่าคุณย่าเป็นคนทำทั้งหมด แต่ไม่ใช่เลย...คุณย่าสร้างร้านนั้นพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกคนซึ่งเขาคนนั้นได้ออกค่าต่างๆที่คุณย่าไม่สามารถออกได้"

ถ้างั้นเพื่อนคนนั้นก็...

เปล่าครับไม่ใช่! กษิเดชรีบพูดตัดบท เพื่อนของคุณย่าไม่มีวันทำแบบนั้น! ตัวผมเคยเจอตัวจริงมาแล้ว...เอาเป็นว่าเขายอมเสียเงินส่วนนั้นไปโดยไม่คิดอะไรไม่หวังที่จะขอคืนด้วยซ้ำ

แล้วทำไมถึง มาแบบนี้ยามาชิตะก็งงคิดอะไรไม่ออก

เพื่อนของคุณย่าเสียไปครับ ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกจะเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้แต่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นที่ไหน

ถ้างั้นคนที่มานั้นล่ะ

คนที่ทำตัวเป็นใหญ่คือลูกชายคนเล็กของเขาครับ ผู้หญิงที่สวมแว่นเป็นเลขาของเขา ส่วนชายอีกคนเป็นพี่ชายคนโตแต่ดูเหมือนจะเป็นทาสรับใช้คนน้องมากกว่า

งั้นเหรอ ยามาชิตะพอจะคาดการณ์ได้ว่า บางทีพอคุณพ่อที่เสียเงินไปทั้งๆที่รายได้ก็ไม่มีแต่กลับไม่ขอคืนแต่อย่างใดพอคุณพ่อเสียไปพวกลูกๆเลยใช้โอกาสนี้เอาเงินที่เสียไปคืนมา กษิเดช พี่ขอถามอะไรนอกเรื่องสักหน่อยสิ"

ครับ

เกี่ยวกับโปเกมอนน่ะ พวกนั้นรู้เรื่องนี้หรือเปล่า

คิดว่ารู้นะครับ ถ้าทั้งสามคนนั้นไปบ้านหลังผสมเมื่อไรต้องโดนโปเกมอนในนั้นไล่ออกมาจนแทบวิ่งไม่ทันโดยเฉพาะแอปโซลรายนั้นชอบเล่นหนักๆอยู่เรื่อย

แล้วลีเฟียล่ะ เขาไม่ชอบพวกนั้นมากหรือเปล่า

อืม...ไม่รู้สิ...บางทีอาจไม่ชอบแต่ถึงจะไม่ถูกกับคนพวกนั้นลีเฟียก็มักทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นนิสัยเขาชอบเป็นแบบนั้นล่ะ...ว่าแต่พี่ถามผมเกี่ยวกับลีเฟียทำไม

ป...เปล่า...แค่อยากรู้น่ะ ยามาชิตะตอบแบบเลี่ยงๆ จริงเขามีเหตุผลที่ต้องถามเพราะก่อนหน้านั้น...ตอนที่คนทั้งสามนั้นเดินออกจากบ้านไปยามาชิตะรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองดูจึงหันไปมองตามความรู้สึกแล้วพบว่าลีเฟียแอบมองดูอยู่...ยามาชิตะไม่มีวันลืมสายตานั้นแน่ๆ สายตาของลีเฟียนั้นเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยของความอยากฆ่าให้ตาย!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แถมๆ กับคลิปแก้เครียด

เมื่อ GTA 4 ก็ฮาได้ (ถ้ามั่นใจว่า 18+ ก็กดดูได้)

IJQW7UgQmgI

Link to comment
Share on other sites

มาแล้วมาแล้ว ว๊ากกก!!! คิดถึงจัง มาให้กอดหน่อยสิ~!!!!

Me/ กระโดดกอดคนแต่งก่อนจะถูกถีบออกมา...

“มนุษย์งั้นเหรอ” หนึ่งในโปเกมอนกลุ่มนั้นพูดขึ้น “ใครล่ะเนี่ย...เป็นพวกเดียวกับเจ้าพวกนั้นนั้นหรือเปล่า”

“ไม่น่าใช่นะแอปโซล” โปเกมอนอีกตัวพูด

“ทำไมถึงรู้ว่าไม่ใช่ล่ะลีเฟีย” แอปโซลตอบ

“สี หน้ามนุษย์คนนี้ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร ดูเหมือนเพิ่งเคยมาที่นี้เป็นครั้งเดียวด้วย” ลีเฟียพูดถูกทุกอย่างเพียงแต่ยามาชิตะผู้ฟังภาษาโปเกมอนรู้เรื่องกลับรู้สึก เศร้าใจแปลกๆ

“เอ่อ...” ยามาชิตะอยากจะพูดสักคำแต่ก็โดนพวกโปเกมอนมองกลับจนต้องเงียบทุกที

“พวกเราไม่ควรจะแกล้งเขานะ” โปเกมอนมังกรพูด

“อิอิ นานๆทีไม่เห็นเป็นไรเลยไคริว” ลีเฟียยิ้มด้วยความชอบใจ “ถือสักว่าเป็นการแก้เครียดไปอีกแบบ”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...” ไคริวคงอยากพูดต่อแต่กลัวว่าจะไม่เหมายสมเลยเปลี่ยนใจไม่พูด

ส่วนยามาชิตะที่ยืนฟังอยู่ตั้งนานเห็นว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้มีคาดโดนพวกโปเกมอนพูดล้อไม่มีวันจบแน่จึงรีบเดินออกมาทันที

ลำบากใจรึเปล่าเนี้ยยามาชิตะ ที่ได้ยินเสียงพวกโกเมม่อนพูดรู้เรื่องนะ เหอๆๆ มองภายนอกอาจไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงคิดอะไรกับเราอยู่ อาจจะทำตัวเป็นสัตว์ที่น่ารักก็ได้ แต่ถ้าได้ฟังที่มันพูดสวนทางกับความน่ารักแล้ว เราจะรักสัตว์เลี้ยงตัวเองได้อีกหรือเปล่าน้า...

แล้วข้าน้อยพูดเรื่องนี้ทำเพื่ออะไรหว่า -*-

ยามาชิตะเข้าดีว่ากษิเดชอยากจะพูดอะไร “ถึงอย่างงั้นสำหรับคุณย่าแล้วถ้าเทียบกับคนวัยเดียวกันยังถือว่าแข็งแรงอยู่นะ”

แข็งแรงโคตรเลยละ!!! (ควมเดิมจากตอนที่แล้วๆมา เหอๆๆ)

แปลว่าท่านคงเหงาสินะ ยามาชิตะคิด “แล้วสนิทกับตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”

“อืม...” กษิเดชทำท่าคิดอยู่ครู่ใหญ่ “ก็ไม่ได้สนิทมากเท่าไรนะครับ... โดยเฉพาะแอปโซล...พี่เห็นแล้วหรือยังรู้สึกแอปโซลตัวนั้นเป็นผู้หญิงที่ออก แนวทอมบอยนิดๆด้วยนะ”

“อ่า พี่เห็นแล้วล่ะ” ยามาชิตะรู้ว่าแอปโซลเป็นผู้หญิงก็จากที่เขาฟังภาษาโปเกมอนได้นี้แหละแต่ออกแนวทอมบอย...อันนี้ดูไม่ค่อยออก

รู้นิสัยได้อย่างถ่องแท้เลยเชียว แอปโซลเป็นพวกทอมบอยเหรอ อ้ายยย~!!! >[]<

คาเร็คเตอร์แบบนี้เขาชอบ น่าจับจิ้นกับคนในคณะบาชาโม่จริงๆเลย~!!!

ME/ ถูกความมืดกลืนกินดับดิ้นตาย...

อย่างไรก็ตามดูเหมือนคนทั้งสามจะไม่กลัวต่อคำขู่ของกษิเดชเลย “ตำรวจเหรอ ของที่สามารถใช้เงินซื้อได้แบบนั้นไม่มีวันกลัวหรอก!” ชายที่อยู่ด้านหน้าพูดในขณะที่คู่ชายหญิงข้างหลังหันมามองหน้ากันเล็กน้อย หลังจากนั้นคนทั้งสามก็เดินออกจากร้านไป

ค...คำ.....คำพูดนี้มันอะไรกัน! ทำไมมันช่างน่าสะอิดสะเอียนอะไรยังงี้ ชวนให้นึกเกลียดชักเสียเหรือเกิน โอ้ไมยาตะเอ่ย!! นายใช้คำสื่อความหมายถึงคนเลวได้ตรงใจเขามาก!!!

รับไปเลย 5 ดาว!!!

“งั้นเหรอ” ยามาชิตะพอจะคาดการณ์ได้ว่า บางทีพอคุณพ่อที่เสียเงินไปทั้งๆที่รายได้ก็ไม่มีแต่กลับไม่ขอคืนแต่อย่างใด พอคุณพ่อเสียไปพวกลูกๆเลยใช้โอกาสนี้เอาเงินที่เสียไปคืนมา “กษิเดช พี่ขอถามอะไรนอกเรื่องสักหน่อยสิ"

เลวโคตร ข้าขอสาปแช่ง!!! ว๊ากกกกก!!!

ME/ ตอกตุ๊กตาคำสาปไม่เลี้ยง

“ป...เปล่า...แค่อยากรู้น่ะ” ยามาชิตะตอบแบบเลี่ยงๆ จริงเขามีเหตุผลที่ต้องถามเพราะก่อนหน้านั้น...ตอนที่คนทั้งสามนั้นเดินออก จากบ้านไปยามาชิตะรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองดูจึงหันไปมองตามความรู้สึกแล้ว พบว่าลีเฟียแอบมองดูอยู่...ยามาชิตะไม่มีวันลืมสายตานั้นแน่ๆ สายตาของลีเฟียนั้นเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยของความอยากฆ่าให้ตาย!

ขอมองแบบนั้นด้วยคนนะลิเฟีย แง่งงงงง!!!!

----------------------------------------------------------------------

ขอคาระวะท่ารนอีกรอบสำหรับความรับผิดชอบที่ข้าน้อยคนนี้ต้องขอชื่มชม จากนี้ต่อไปข้าน้อยขอสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟิคท่าน!!! ไม่ว่าท่านจะแต่งฟิคอะไร ข้าน้อยจะขอติดตามไปสุดล้าฟ้าเขียวเลย!!!

Me/ กระโดดกอดคนแต่งก่อนจะถูกถีบออกมา...อีกครั้ง

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

กลับมาอัพแล้วครับ!!!

ช่วงใกล้ปิดเทอมใหญ่แล้ว (อีกอาทิตย์เดียวแล้วล่ะ) งานที่ต้องตามเก็บเลยเยอะมากๆจนไม่มีเวลาแต่ง

ต้องขอโทษผู้ที่รออ่านด้วยนะครับ

me /  :pika06:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ลำบากใจรึเปล่าเนี้ยยามาชิตะ ที่ได้ยินเสียงพวกโกเมม่อนพูดรู้เรื่องนะ เหอๆๆ มองภายนอกอาจไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงคิดอะไรกับเราอยู่ อาจจะทำตัวเป็นสัตว์ที่น่ารักก็ได้ แต่ถ้าได้ฟังที่มันพูดสวนทางกับความน่ารักแล้ว เราจะรักสัตว์เลี้ยงตัวเองได้อีกหรือเปล่าน้า...

แล้วข้าน้อยพูดเรื่องนี้ทำเพื่ออะไรหว่า -*-

ดีแล้วครับที่พูด เพราะผมเองก็อยากให้ลองคิดแบบนี้ดูบ้างเหมือนกัน

แข็งแรงโคตรเลยละ!!! (ควมเดิมจากตอนที่แล้วๆมา เหอๆๆ)

ชัดเจนครับ อิอิ

รู้นิสัยได้อย่างถ่องแท้เลยเชียว แอปโซลเป็นพวกทอมบอยเหรอ อ้ายยย~!!! >[]<

คาเร็คเตอร์แบบนี้เขาชอบ น่าจับจิ้นกับคนในคณะบาชาโม่จริงๆเลย~!!!

ME/ ถูกความมืดกลืนกินดับดิ้นตาย...

วาว่าคุงชอบหรือครับ ผมอยากลองใช้คาเร็คเตอร์ทอมบอยมาตั้งนานแล้วล่ะ

จะว่าไปตัวละครหญิงก็น้อยๆอยู่สักด้วยสิ อืม~...

me / ทำท่าคิดออะไรบ้างอย่าง

ค...คำ.....คำพูดนี้มันอะไรกัน! ทำไมมันช่างน่าสะอิดสะเอียนอะไรยังงี้ ชวนให้นึกเกลียดชักเสียเหรือเกิน โอ้ไมยาตะเอ่ย!! นายใช้คำสื่อความหมายถึงคนเลวได้ตรงใจเขามาก!!!

รับไปเลย 5 ดาว!!!

ขอบคุณครับ...

เลวโคตร ข้าขอสาปแช่ง!!! ว๊ากกกกก!!!

ME/ ตอกตุ๊กตาคำสาปไม่เลี้ยง

ใจเย็นๆ -*-

ขอมองแบบนั้นด้วยคนนะลิเฟีย แง่งงงงง!!!!

เห็นภาพเลยวาว่าคุง ^^

ขอคาระวะท่ารนอีกรอบสำหรับความรับผิดชอบที่ข้าน้อยคนนี้ต้องขอชื่มชม จากนี้ต่อไปข้าน้อยขอสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟิคท่าน!!! ไม่ว่าท่านจะแต่งฟิคอะไร ข้าน้อยจะขอติดตามไปสุดล้าฟ้าเขียวเลย!!!

Me/ กระโดดกอดคนแต่งก่อนจะถูกถีบออกมา...อีกครั้ง

ขอบคุณครับที่ติดตาม และผมเองก็ต้องขอโทษไว้ก่อนเพราะว่าผมเองก็อ่านฟิควาว่าคุงบ่อยมากแต่ไม่ค่อยได้ตอบกระทู้เลย (แบบว่าไม่รู้จะตอบยังไงดี - -)

สุดท้ายก็ กอดได้ตามใจชอบครับและจะไม่ถีบด้วย! (ชอบให้กอด)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

พบเพื่อนเก่า

3 วันก่อนถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน วันนี้ยามาชิตะกำลังจะได้พบกับเรื่องบังเอิญที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังคาดไม่ถึงและเพราะเรื่องบังเอิญนั้นเองทำให้เขาได้มาพบกับพวกบาชาโม่ในภายหลัง เรื่องที่ว่าเป็นดังนี้...

ช่วงเวลาสิบโมงกว่าๆ (จริงๆก็เกือบสิบเอ็ดโมง) ยามาชิตะกำลังช่วยกษิเดชทำความสะอาดบ้านหลังเก่าซึ่งในตอนนั้นเองที่คุณย่าเดินมาหาจากชั้นล่าง

ยามาชิตะ

ครับคุณย่า

หลานช่วยพาแขกไปห้องพักทีสิ

แขก? ยามาชิตะถามอย่างงงๆ ถ้าเป็นสามคนนั้นไม่มีทางที่คุณย่าจะต้อนรับแบบนี้แน่ๆ

เขามาเช่าห้องที่ตึกคอนโดของเราตั้งนานแล้วล่ะ และตอนนี้เขาก็มาแล้วหลานช่วยพาเขาไปห้องพักที...ห้องพักเขาอยู่ข้างๆห้องของหลานพอดีเลย

ครับ... งั้นพี่ไปก่อนนะ

อืม... กษิเดชยิ้มให้พี่ชายก่อนทำความสะอาดต่อ ส่วนยามาชิตะเดินไปพร้อมกับคุณย่า

ระหว่างเดินไปรับแขกยามาชิตะได้พูดคุยกับคุณย่าเล็กน้อย นานๆจะมีคนมาเช่าตึกคอนโดนะครับ แล้วมีเขาคนเดียวเหรอครับ

อืม...จริงๆแล้วมีอีกหกคนนะ ทางนั้นขอเช่าห้องที่ใหญ่ที่สุด

ก็คือห้องที่อยู่ข้างๆห้องผมสินะ...ความเงียบก็หายไปแล้วสินะ

หือ? อะไรนะ ดูเหมือนคุณย่าไม่ทันฟังเลยถามกลับ

ป...เปล่าครับ...ไม่มีอะไร

แถมห้องนั้นเป็นห้องที่แพงที่สุดสักด้วย ดีจริงๆแบบนี้ก็ได้กำไรจากการให้หลานเข้าพักฟรีแล้ว คุณย่ายิ้มอย่างดีใจ ยามาชิตะนะเหรอ...ทำได้แต่ยิ้มแหยๆ

เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านก็พบเด็กหนุ่มคนนึงนั่งรออยู่คุณย่าจึงรีบพูดทักทันที ขอโทษทีให้รอนานนะพ่อหนุ่ม

เด็กหนุ่มคนนั้นหันมาตอบ ไม่เป็นไรครับ... เด็กหนุ่มคนนั้นเหมือนอยากพูดต่อแต่หยุดไปเมื่อเขาได้เห็นยามาชิตะ แน่นอนว่ายามาชิตะเองก็จ้องเขาแบบไม่หันไปไหน

นัด...ทำไมนายมาที่นี้ได้ ยามาชิตะไม่ได้พูดธรรมดาแต่ชี้หน้าอีกฝ่ายด้วย

แล้วนายล่ะทำไมถึงอยู่ที่นี้ได้ ทางนี้เองก็ชี้หน้าอีกฝ่ายเหมือนกัน

เอ้า!? รู้จักกันเหรอ คุณย่าพูดอย่างงงๆ

นัด หรือชื่อจริง ชนิตพล ณิชาภา เป็นเพื่อนที่ยามาชิตะสนิทมากที่สุดตอนมาประเทศไทยใหม่ๆ

ผู้แต่ง : ผู้อ่านยังจำได้หรือเปล่า เขาเป็นเดียวกันที่เคยปรากฏตัวในภาคแรกในตอนแรกสุด (เด็กหนุ่มที่เรียกยามาชิตะที่สนามบาสเกตบอลในโรงเรียน)

เขาเป็นเพื่อนสนิทผมครับ...ที่จริงก็หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิท แต่ทำไม...

ฉันมาพักที่นี้ชั่วคราวและไม่ใช่แค่ฉันแต่ทุกคนก็มา

ท...ทุกคนเลยเหรอ! ยามาชิตะทั้งตกใจและดีใจ ตอนที่เขามาประเทศไทยในช่วงแรกๆเขาแทบไม่มีเพื่อนเลยสักคน...อาจเป็นเพราะเป็นคนต่างชาติแต่เขาก็คนไทยไม่ใช่เหรอ ซึ่งกลุ่มเพื่อนที่ยามาชิตะพูดเป็นกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจว่ายามาชิตะกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่จากการทักทายเล็กน้อยกลายมาเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทในที่สุด

ใช่... แล้วตกลงทำไมนายถึงมาอยู่ในที่ที่ฉันมาพัก

ก็ที่นี้มันบ้านฉัน! ยามาชิตะพูดเสียงดังโดยไม่ตั้งใจ เพื่อนบางคนก็เป็นแบบนี้แหละ...

งั้นเหรอ สีหน้านัดดูไม่ค่อยตกใจมากนัก พวกเรานัดกันไว้แล้วว่าจะเจอกันที่นี้แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมาถึง

จนป่านนี้ยังมาสายอีกเหรอ

ชนิดที่ว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยล่ะ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทั้งยามาชิตะและนัดหัวเราะชอบใจนี้คงเป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ได้ดังมานานอย่างแน่นอน

แต่ทว่า...ดูเหมือนทั้งคู่จะลืมอะไรไปอย่าง

ย่าว่าพวกเธอสองคนไปคุยในร้านดีกว่าไหมจ้ะ คุณย่าคงกลัวจะเสียมารยาทเลยพูดเสียงเบา

จริงสิ! นัดทำท่าทางเหมือนนึกขึ้นได้ งั้น...ขอเรียกยาชิตะนะ ฉันขอไปเก็บกระเป๋าที่ห้องก่อนยาชิตะรอในร้านแล้วกัน"

ก็ได้ ยามาชิตะตอบสั้นๆ ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน...พวกเขาจะเป็นยังไงกันบ้างน่ะ...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ให้ตายสิ ยาชิตะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ! เด็กสาวอายุราวสิบแปดสิบเก้าแต่งตัวแบบสบายๆผมยาวเกือบถือเอวพูดด้วยความแปลกใจเป็นอย่างมากพร้อมทั้งตบหลังยามาชิตะอย่างมันส์มือ

นั้นสิ ตอนได้เห็นที่โรงพยาบาลยังคิดอยู่เลยว่าจะเป็นไงบ้าง เด็กสาววัยเดียวกันอีกคนพูด รายต่างจากคนก่อนเพราะผมสั้นประมาณบ่าดูคล้ายทรงนักเรียนแถมยังสวมแว่นตากับชุดลำลองอีกแต่ก็ดูเข้ากันดี

แต่เด็กหนุ่มอีกคนที่ไม่ใช่นัดพูดอย่างไม่พอใจนัก อย่าเรื่องตอนนั้นมาพูดได้ไหม เดี๋ยวยามาชิตะก็ทำหน้าเศร้าๆอีกหรอก เด็กหนุ่มคนนี้อยู่มากกว่าเพื่อนน่าจะประมานยี่สิบไม่ก็ยี่สิบเอ็ดปีร่างกายบึกมากและไม่รู้ว่าต้องการอวดให้ใครดูหรือเปล่าเพราะเจ้าตัวเล่นสวมเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงยาวลายทหาร เขาพูดทั้งที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีอยู่

ยามาชิตะรีบส่ายหน้าก่อนตอบ ไม่เป็นไรคิว ฉันจำใจได้แล้ว

งั้นเหรอแล้วไป... คิวตอบขณะกำลังอ่านหนังสือเหมือนเดิม

ก่อนจะฟังบทสนทนาต่อก็ขออธิบายความเป็นมาเล็กน้อย ยามาชิตะกับนัดรอเพื่อนๆที่เหลือที่ร้านกาแฟของคุณย่า พวกเขารอไม่นานนักเพื่อนๆที่เหลือก็มากันครบหลังการทักทายกันเล็กน้อยและเก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็มาที่ร้านกาแฟอีกครั้งเพื่อพูดคุยเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ในตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี

ใช่แล้วต้องแบบนี้ล่ะ! เด็กสาวผู้ที่ตีหลังยามาชิตะไม่ยอมหยุดยิ่งตีแรงขึ้นจนยามาชิตะต้องหลบหลังหนีมีชื่อจริงว่า สุภัสรีญา เหมือนไหม หรือชื่อเล่น โค้ด ส่วนคนที่ชื่อเล่นคิวนั้นมีชื่อจริงว่า รัตถพล คัมภีรภาพ พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทของยามาชิตะแต่...ยังมากันไม่ครบ (ซึ่งผู้แต่งอยากให้ผู้อ่านจำแต่เฉพาะชื่อเล่นอย่างเดียวก็พอ ถึงผมชอบใช้ชื่อจริงก็เถอะ)

ว่าแต่ทำไมมากันแค่นี้ อยู่ๆยามาชิตะก็เล่นถามนอกเรื่องจนคนอื่นๆถึงกับพูดต่อไม่ออก

โดนงานเหวี่ยง โค้ดตอบสีหน้าเรียบเฉย

หา!?

เปล่า...แค่ติดงานน่ะ

... ... ... ยามาชิตะไม่พูดไรต่อ แต่คิดในใจว่าทำไมต้องงานเหวี่ยง...

เหวี่ยงนะยะ!

เป็นไรมากไหมเนี่ย

แค่ผู้หญิงสวยๆที่อยากเล่นมุข

อย่าคิดมากเลยยาชิตะ เวลาโค้ดกินข้าวเกินขนาดก็มักเป็นแบบนี้ล่ะ คิวพูดขณะตาทั้งสองข้างอ่านหนังสือที่เตรียมมา

อ่ะนะ... มีเพื่อนแบบนี้ควรดีใจไหมเนี่ย...ยามาชิตะคิด

จะว่าไป... นัดเป็นฝ่ายพูดบ้าง ทางนั้นเขาก็บอกว่าช่วยจองที่นั่งให้ด้วย

ที่นั่งเนี่ยหมายถึงศึก Pokemon Asia Championship X ใช่ไหม โค้ดถามราวกับนึกขึ้นได้

อ่าใช่... นายเองก็ไปด้วยใช่ไหมยาชิตะ

อ่อ... ยามาชิตะไม่แน่ใจว่าจะพูดดีไหม แต่เอาน่ะเพื่อนกันเองคงไม่เป็นไร น้องชายฉันเขาลงแข่งในศึกนี้ด้วย

ดีสิ! โค้ดออกอาการตกใจอย่างบอกไม่ถูก

ยอดเยี่ยม คิวพูดขณะอ่านหนังสือเล่มเดิม

ถ้างั้นนายก็ไปสินะ จริงๆไม่ต้องถามคำตอบก็เห็นอยู่แล้วแต่นัดอยากได้ยินคำยืนยันจากปากของยามาชิตะ

แน่นอนอยู่แล้ว ยามาชิตะตอบอย่างมั่งใจ

คิวผู้กำลังอ่านหนังสือเงยหน้ามองเพื่อนๆเล็กน้อยก่อนก้มอ่านหนังสือต่อแล้วพูด แล้วโปเกมอนที่ใช้ล่ะ?

นั้นสิ โปเกมอนก็ใช้ได้ตัวเดียวสักด้วย ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร

โค้ดพูดถูก นัดพยักหน้า ฉันได้ยินมาว่าตอนแรกกติกาให้ใช้โปเกมอนหกตัวตามปกติแต่เมื่อราวๆสองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนกติกาเป็นให้ใช้โปเกมอนตัวเดียวแทน

เอ็!? ยามาชิตะคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง ช่วงเวลาที่นัดพูดเป็นช่วงที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีชนแล้วหนี วันต่อมาคุณย่าก็ติดต่อมาทางจดหมายให้ไปพบในตัวเมืองซึ่งทางตำรวจสืบทราบมาว่ามีพยานเห็นรถคันดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย...ว่าแล้ว! คิดอยู่ว่าเหมือนลืมเรื่องนึงไป

นี่ทุกคน ยามาชิตะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้ทุกคนหยุดพูดก่อนหันมาทางยามาชิตะแม้แต่คิวผู้ซึ่งอ่านหนังสือมาโดยตลอดยังต้องหยุดอ่าน ยามาชิตะมองซ้ายมองขวาเมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครนอกเหนือจากนี้จะได้ยินเขาจึงตัดสินใจพูดขึ้น จริงๆเรื่องนี้เป็นความลับมากมีเฉพาะทางตำรวจเท่านั้นที่รู้ฉันอยากให้พวกเราช่วยอีกแรง

ยามาชิตะเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่าทำไมเขาถึงมาที่นี้รวมไปถึงรถเบนซ์ซึ่งน่าจะอยู่ที่นี้ แน่นอนว่าเพื่อนๆของยามาชิตะตอนได้ยินเรื่องนี้ต้องตกใจมากๆแต่ต้องเก็บอาการไว้เพื่อไม่ให้คนที่เดินผ่านไปมาสงสัย

เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะ ยามาชิตะพูดเสร็จทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ คิวที่ผ่านมาเหมือนไม่สนใจอะไรถึงกลับปิดหนังสือที่ตนเองกำลังอ่านอยู่

รถเบนซ์...งั้นเหรอ โค้ดทำท่ากำลังคิด

มีอะไร...หรือว่าเธอนึกอะไรออก ยามาชิตะถามอย่างรีบเร่ง

ฉันก็ไม่แน่ใจแต่ตอนที่ฉันและคิวเดินทางมาที่นี้เราได้เห็นรถเบนซ์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนไม่แน่ว่าอาจจะ...

ต้องใช่แน่ๆ! ยามาชิตะรีบด่วนสรุป

แต่ก็ถูกนัดเตือนไว้สักก่อน อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ เรายังไม่รู้เลยว่าใช่คันเดียวกันหรือเปล่า

เอาอย่างนี้ หลังเงียบตั้งนานคิวก็เปิดปากพูด ฉันเองก็จำรถเบนซ์คันนั้นได้อย่างดี ลองถามจากคนในร้านหรือเจ้าของร้านแถวๆที่พบรถคันนั้นดูไหม

ตอนนี้? ยามาชิตะถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

ก็ตอนนี้นะสิ

ก็ได้ ไปกันเถอะพวกเรา

อืม!

และแล้วคณะยามาชิตะก็เดินออกจากร้านโดยโกหกบอกคุณย่าว่าจะไปเดินเล่นพักนึง คณะยามาชิตะที่กำลังตื่นเต้นกับการสืบสวนไม่รู้เลยว่าพวกเขานั้นกำลังหาเรื่องใหญ่ใส่ตัว ที่สำคัญผู้ต้องสงสัยของพวกเขานั้นกลับเป็นคนที่พวกเขาเองก็ยังคาดไม่ถึง

Link to comment
Share on other sites

“แถมห้องนั้นเป็นห้องที่แพงที่สุดสักด้วย ดีจริงๆแบบนี้ก็ได้กำไรจากการให้หลานเข้าพักฟรีแล้ว” คุณย่ายิ้มอย่างดีใจ ยามาชิตะนะเหรอ...ทำได้แต่ยิ้มแหยๆ

นับกำไรขาดทุนกับหลานตัวเองนี้มันช่าง.....เป็นนักตบมุขจริงๆนะคุณย่า~ ^^"

ผู้แต่ง : ผู้อ่านยังจำได้หรือเปล่า เขาเป็นเดียวกันที่เคยปรากฏตัวในภาคแรกในตอนแรกสุด (เด็กหนุ่มที่เรียกยามาชิตะที่สนามบาสเกตบอลในโรงเรียน)

พูดซะรู้เลยนะเนี้ย ว่าเราก็ลืมไปแล้ว -*-

“งั้นเหรอ” สีหน้านัดดูไม่ค่อยตกใจมากนัก “พวกเรานัดกันไว้แล้วว่าจะเจอกันที่นี้แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมาถึง”

“จน ป่านนี้ยังมาสายอีกเหรอ”

“ชนิดที่ว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยล่ะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งยามาชิตะและนัดหัวเราะชอบใจนี้คงเป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ได้ดังมา นานอย่างแน่นอน

แสดงว่าสายตลอด สายไม่มีเปลี่ยนแปลง สายจนเป็นนิสัยสันดานสินะ

ME/ หกรุมกระทืบ...

“ใช่แล้วต้องแบบนี้ล่ะ!” เด็กสาวผู้ที่ตีหลังยามาชิตะไม่ยอมหยุดยิ่งตีแรงขึ้นจนยามาชิตะต้องหลบหลัง หนีมีชื่อจริงว่า สุภัสรีญา เหมือนไหม หรือชื่อเล่น โค้ด ส่วนคนที่ชื่อเล่นคิวนั้นมีชื่อจริงว่า รัตถพล คัมภีรภาพ พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทของยามาชิตะแต่...ยังมากันไม่ครบ (ซึ่งผู้แต่งอยากให้ผู้อ่านจำแต่เฉพาะชื่อเล่นอย่างเดียวก็พอ ถึงผมชอบใช้ชื่อจริงก็เถอะ)

ชื่อจริงที่ท่านใช้ ทำเอาผมนึกว่าคนเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริงเลยละ เหอๆๆ

หรือว่านี้จะเป็นกลวิธีของท่านที่จะทำให้คนอานรู้สึกอินไปกับเรื่องราวมากยิ่งขึ้นกันแน่น้า~

“นี่ทุกคน” ยามาชิตะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้ทุกคนหยุดพูดก่อนหันมาทางยามาชิตะแม้แต่คิวผู้ซึ่งอ่านหนังสือมาโดย ตลอดยังต้องหยุดอ่าน ยามาชิตะมองซ้ายมองขวาเมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครนอกเหนือจากนี้จะได้ยินเขาจึง ตัดสินใจพูดขึ้น “จริงๆเรื่องนี้เป็นความลับมากมีเฉพาะทางตำรวจเท่านั้นที่รู้ฉันอยากให้พวก เราช่วยอีกแรง”

ยามาชิตะเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่าทำไมเขาถึงมาที่นี้ รวมไปถึงรถเบนซ์ซึ่งน่าจะอยู่ที่นี้ แน่นอนว่าเพื่อนๆของยามาชิตะตอนได้ยินเรื่องนี้ต้องตกใจมากๆแต่ต้องเก็บ อาการไว้เพื่อไม่ให้คนที่เดินผ่านไปมาสงสัย

กลุ่มนักสืบเยาวชนแห้งโปเกม่อนกำลังถือกำเนิดขึ้นแล้ว!!!

แล้วกลุ่มนี้จะสู้กับกลุ่มโคนันได้รึเปล่ากันน้า~

และแล้วคณะยามาชิตะก็เดินออกจากร้านโดยโกหกบอกคุณย่าว่าจะไปเดินเล่นพักนึง คณะยามาชิตะที่กำลังตื่นเต้นกับการสืบสวนไม่รู้เลยว่าพวกเขานั้นกำลังหา เรื่องใหญ่ใส่ตัว ที่สำคัญผู้ต้องสงสัยของพวกเขานั้นกลับเป็นคนที่พวกเขาเองก็ยังคาดไม่ถึง

ไม่เป็นไรหรอก!!! พวกพวกเจ้าทั้งหลาย....เป็นเด็กนี้หน่า!!!

เด็ก....คือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังดวงสูงที่สุด ในหนังฝรั่ง ต่อให้มีผีหรือสัตว์ประหลาดน่ากลัวแค่ไหน แต่เด็กจะรอดอยู่เสมอทั้งๆที่ผู้ใหญ่ตายแล้วตายอีก!!! ในการ์ตูนญี่ปุ่น แม้ศัตรูจะร้ายกาจเพียงใด อาจต้องเจ็บหรือเกือบตาย แต่จะต้องมีปาติหาริย์หรือพลังแห่งมิตรภาพคอยช่งวยให้พ้นภัยเสมอ!!!

เพราะงั้นเด็กคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดยังไงละ!!!

Me/ โดนตบเกรียน...

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

อัพต่อแล้วครับ ^^

หลังกลับจากญี่ปุ่นเพียงวันเดียวก็เกิดเรื่องแผ่นดินไหวกับสึนามิที่ญี่ปุ่นพอดี เลยอยากเป็นกำลังใจให้ทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยที่ยังอาศัยอยู่ด้วย ณ ที่นี้ครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เด็ก....คือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังดวงสูงที่สุด ในหนังฝรั่ง ต่อให้มีผีหรือสัตว์ประหลาดน่ากลัวแค่ไหน แต่เด็กจะรอดอยู่เสมอทั้งๆที่ผู้ใหญ่ตายแล้วตายอีก!!! ในการ์ตูนญี่ปุ่น แม้ศัตรูจะร้ายกาจเพียงใด อาจต้องเจ็บหรือเกือบตาย แต่จะต้องมีปาติหาริย์หรือพลังแห่งมิตรภาพคอยช่งวยให้พ้นภัยเสมอ!!!

เพราะงั้นเด็กคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดยังไงละ!!!

วาว่าคุงต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอนครับ ^^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 5 ~

ความเหมือนและความแตกต่าง

ฉันคิดผิดหรือเปล่าที่ไว้ใจนาย ยามาชิตะพูดจากความรู้สึกเบื่อที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ใจเย็นหน่อยหน่า การสืบสวนมันก็ยังงี้แหละ โค้ดยังคงอารมณ์ดีแต่สีหน้ากลับตรงกันข้าม

แต่เราเดินวนไปมากว่าสามรอบแล้วนะ... ยามาชิตะบ่นไปงั้นๆ แต่ก็ไม่วายถูกเพื่อนๆจ้องจนไม่กล้าพูดต่อ

โทษทีฉันไม่รู้ว่ามันจะลำบาก คิวพูดพร้อมกับอ่านหนังสืออีกเล่มนึง...ในที่แบบนี้ยังอ่านได้อีกนะ!

ช่วยไม่ได้ นัดถอยหายใจ แต่ไหนๆก็ออกมาข้างนอกทั้งทีเราลองไปตึกใบหยกสองดูไหม

ฉันเห็นด้วยเลยอยู่ไม่ไกลจากที่นี้ด้วยนั่งรถแท็กซี่ไปก็ประมาณสี่สิบห้านาทีน่าจะได้ โค้ดพูดพร้อมกับโบกรถแท็กซี่คันหนึ่งที่กำลังขับมาทางนี้พอดี

ยามาชิตะรู้สึกผิดที่ต้องเลิกการค้นหารถ แต่คิดอย่างที่โค้ดพูด...การสืบสวนก็แบบนี้...

หลังจากบอกสถานที่ที่ไปแล้วทั้งหมดก็ขึ้นรถ ใช้เวลาประมาณห้าสิบนาทีจึงมาถึงตึกใบหยกสอง ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติอย่างยามาชิตะหรือคนไทยก็ตามถ้าได้เห็นตึกใบหยกสองในระยะที่ใกล้ขนาดก็ต้องตื่นตาตื่นใจเป็นเรื่องธรรมดา

แล้วอยู่ขั้นไหนล่ะเนี่ย ยามาชิตะรู้สึกมึนๆหัวเวลาดูตึกสูงๆทุกที แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นคนละเรื่อง

อ่ะ! นั้นฟ้ากับลีใช่ไหม! โค้ดชี้ไปที่สองหนุ่มสาวคู่หนึ่งยืนคุยกันหน้าลิฟท์ ใช่จริงๆด้วย! ฟ้า! ลี!

ทั้งหมดรีบวิ่งไปหาเท่านี้ก็เป็นอันว่ามากันครบแล้ว ฟ้าหรือชื่อจริงพรหมรมณ สรัญญ์นิตาเป็นหญิงสาวที่สวยงามราวกับนางฟ้าก็ว่าได้เธอสวมชุดสบายๆตามแบบของวัยรุ่นสมัยนี้ ส่วนลีหรือชื่อจริงปัญชลีย์ กมลฑัยห์ เป็นเด็กหนุ่มหน้าตี๋ รายนี้สวมเสื้อผ้าเหมือนกับอยู่ที่บ้านยังไงชอบกลแต่ก็ยังดูดีมีสกุล

เอ้าทุกคน! ลีทักก่อนที่ฟ้าจะหันไปมองสักอีก ขอโทษทีนะ พอดีอยากมาดูสนามแข่งขันก่อน

ฟ้าด้วยเหรอ นัดพูด

แน่นอนสิค่ะ ฟ้ายิ้ม

ดีเลยพวกเราเองก็จะไปดูเช่นกัน โค้ดทำมือเป็นท่าทางว่ามีเรื่องสำคัญ เธอสองคนยังไม่รู้เรื่องเดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง โค้ดเล่าเรื่องที่น้องชายของยามาชิตะลงแข่งการแข่งขันนี้กับภารกิจการตามหารถผู้ต้องสงสัยชนคนแล้วหนี

น่าสงสาร... ฟ้าถึงกับนำมือมาปิดปาก เด็กคนนั้นไม่เป็นไรใช่ไหมยาชิตะ

อืม... บาดเจ็บสาหัดก็จริงแต่ฟังมาจากพ่อดูเหมือนอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว

ให้ตายสิ! สมัยนี้ยังมีพวกเลวๆแบบนี้อีกหรือเนี่ย ลีพูดด้วยความรู้สึกโกธร ฉันเอาด้วยยามาชิตะ! จะจับคนร้ายให้ได้เลย

ฉันก็ด้วย ฟ้าพูดเสริม แต่ตอนนี้พวกเราทำอย่างอื่นอยู่ไม่ใช่เหรอ

จริงสิ ฉันกำลังจะถามอยู่พอดีว่าเค้าจัดแข่งกันชั้นไหน

เดี๋ยวฉันพาไปเอง โค้ดเดินนำทุกคนเข้าไปที่ลิฟท์ หลังจากออกมาจากลิฟท์ที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือห้องโถงขนาดใหญ่...หรือจะเรียกว่าสนามต่อสู้ก็ได้มันช่างกว้างใหญ่เกินกว่าจะจินตนาการได้ ที่นั่งของเราอยู่ตรงนั้น ชั้นแรกริมขอบเลย โค้ดวิ่งไปอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งของตน

แบบนี้ก็แปลว่าจองไว้ให้หมดแล้วสินะ ยามาชิตะยิ้ม

ใช่ แต่ต้องจ่ายคืนตอนหลังนะ

หา!?

พูดเล่นจ้า~ โค้ดหัวเราะ แต่ยามาชิตะกลับรู้สึกว่าเหมือนโค้ดไม่ได้พูดเล่นเลยสักนิด

น้องเธอจะไว้หรือเปล่านะ ฟ้าพูด นี่มันระดับประเทศเลยนะ ปล่อยให้ผ่านไปได้ก็ต้องเจอกับคนเก่งๆจากทั่วเอเชียอีก

สำหรับกษิเดชแล้วเขาคงไม่อยากเสียโอกาสนี้อีกแล้ว คุณย่าเองตอนนี้ก็ลำบากมากฉันเข้าใจดีว่าทำไมน้องฉันถึงอยากลงแข่ง... อยู่ๆยามาชิตะก็นึกถึงใบหน้าของน้องชายตนเองขึ้นมา เขาคงรู้อยู่แล้วว่าคงไม่ชนะไปตลอด ...แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะบางทีชีวิตคนเราก็เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝันก็มีนะ

โดยไม่ใช่อย่างในละครด้วย นัดพูดเสริม

ก็ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าในละครนี่หน่า โค้ดพูดเสริมอีกคน พวกเราทุกคนทำได้แค่ให้กำลังใจเท่านั้น

แต่ปกติแล้ว คิวเลิกอ่านหนังสือตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ การแข่งขันใหญ่ๆแบบนี้มักจะมีการโกงเกิดขึ้นด้วยไม่ใช่เหรอ

ทุกครั้งที่คิวพูดไม่รู้ทำไมทุกคนต้องนิ่งเงียบทุกที

คงไม่มั้ง ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่ยามาชิตะรู้ดีว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้

กินข้าวจังเลย~ ฟ้าพูด ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกเมื่อมีฟ้าผ่าลงมากลางวงไม่มีผิด

จ...จริงเหรอ โค้ดหน้าซีดเล็กน้อยคนอื่นๆก็ไม่แพ้กัน

จริงสิ! กินวัวได้ทั้งตัวเลย!

เอาแล้วไง... ยามาชิตะคิด ฟ้าเป็นสาวสวยที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องชอบ แต่...เธอผู้นี้เป็นคนธรรมดาสักที่ไหน ใช่แล้ว...ฟ้าหญิงสาวผู้นี้เป็นคนที่กินจุมากๆ...ขนาดไหนเหรอ...เอาเป็นว่ายังไม่มีใครเคยกินชนะเธอคนนี้ได้ คิดว่าในประเทศไทยคงมีแต่คนๆนี้แหละที่สามารถกินสเต็กรวมกันกว่าสิบกิโลหมดได้ด้วยคนเดียว

ไม่เป็นไรฉันเตรียมตังค์มาแล้วมากพอที่จะซื้อทั้งร้านได้เลย ฟ้ายิ้มให้กับทุกคน วันนี้ฉันเลี้ยงพวกเราเอง

อืม...เป็นลูกคุณหนูด้วยก็ดีอย่างงี้นี่เอง ยามาชิตะคิดในใจ

แล้วเราจะไปร้านไหนกันดี ลีพูด

ฉันอยากลองกินไก่ทอดดู ฟ้ารีบพูดก่อนใครเพื่อน อยากรู้เหมือนกันว่าจะกินได้สักกี่ตัว

อย่าให้หมดทั้งร้านก็แล้วกัน ยามาชิตะพูดด้วยความหวังดีจากใจจริงๆ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

กินได้น้อยกว่าที่คิดนะเนี่ย ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ฟ้ายังคงกินไก่ทอดเข้าไปเรื่อยจนด้านหน้ามีแต่กระดูกไก่กองจนจะกลายเป็นภูเขาแล้ว

น้อยเหรอ...นั้นตัวชิ้นที่สามสิบกว่าๆแล้วนะ ยามาชิตะพูด เขานั่งก้มหน้าแต่ไม่ใช่เพราะกินไม่ลงนะ...อายตั้งหาก แน่นอนว่าคนอื่นๆนอกจากฟ้าต่างนั่งก้มหน้าหลบตาสายจากคนอื่นๆ

จริงๆ! ถ้ามีมันน้อยกว่านี้ร้อนตัวก็ยังไว้! ฟ้าพูด แต่ตอนนี้ฉันอิ่มแล้วล่ะ

ก็ดีเพราะนี้ก็เล่นหมดไปตั้งครึ่งร้านแถมใช้เงินไปตั้งหลักพัน โค้ดพูด

ยิ่งเป็นในตึกใบหยกแล้วยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ นัดพูด ไปๆมาๆพวกเราก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เรื่องการสืบสวนนั้นก็เหมือนกัน

ยามาชิตะสีหน้าเศร้าลงไปมากเพราะคำพูดของนัด

แต่ก็ไม่หมดหวังสักหน่อย ในประเทศไทยน่ะยังมีคำว่า โอกาส อยู่นะ โค้ดพูด เราแค่รอเท่านั้นแหละ

ถ้าง่ายอย่างนั้นก็ดี ยามาชิตะคิด เรากลับที่พักกันเถอะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าช่วงเย็นแล้ว

นั้นสินะ ลีตอบเห็นด้วย แต่เดี๋ยวฉันกับฟ้าต้องไปเอากระเป๋าก่อนยังไงก็รอหน่อยนะ

เข้าใจแล้ว งั้นจะรอตรงทางออกนะ

โอเค ลีกับฟ้าเดินออกจากกลุ่มเพื่อไปเอากระเป๋าส่วนที่เหลือก็ลงลิฟท์ไปรอตรงทางออก

ฉันเชื่อนะว่าน้องเธอต้องได้เข้ารอบแน่นอน โค้ดพูดระหว่างรอฟ้ากับลี

แล้วเรื่องการโกงล่ะ คิวพูด

นายเลิกปากเสียสักทีเถอะ โค้ดพูดเสียงดุ การแข่งขันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นจะมีการโกงได้ยังไง

ในขณะที่ทั้งสี่กำลังรอลีกับฟ้ามีกลุ่มคนสามคนเป็นชายสองหญิงหนึ่งออกมาจากลิฟท์ ทั้งสามสวมชุดสูทและกำลังคุยอะไรกันบางอย่าง ปกติแล้วยามาชิตะกับเพื่อนจะไม่ค่อยสนใจเรื่องที่คนอื่นพูดอยู่แล้วแต่มีช่วงหนึ่งที่ทำให้พวกเขาต้องสนใจ

เรื่องกรรมการในอีกคนตกลงว่ายังไง ชายคนนึงพูด

คุยกันเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวมาไม่ได้จริงๆ ชายอีกคนพูด ช่วงไม่ได้ยังคงต้องเป็นเอง

ว่าแต่ไม่แปลกหรือค่ะที่อยู่ๆก็บอกว่ามาไม่ได้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังยืนยันอยู่เลยว่าจะมา หญิงสาวพูด

เดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่แน่นอนหรอก... รถจอดทางนั้นใช่ไหม

ใช่สิพี่

เอ๋!? เป็นพี่น้องกันเหรอ ยามาชิตะคิด แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ... ยามาชิตะมองตามสามคนนั้นไปอย่างไม่ตั้งใจก็ต้องเผลอทำตาโตขึ้นมาทันที

คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรนะ ปล่อยให้มีเราก็จัดการได้อยู่แล้วเหมือนกับตอนนั้นไง ชายคนที่พูดทำสีหน้ายากจะบรรยาย

เรื่องนั้นพี่ไม่เกี่ยวด้วย! คนพี่ดุเสียงดัง บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าเกิดความแตกขึ้นมาพี่จะบอกทุกอย่าง! ฝ่ายพี่ยังพูดเสียงดังจนฝ่ายน้องหันไปมองอย่างอาฆาตแค้น

ทั้งสามไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นก่อนนะขึ้นรถไป

ขอโทษที่ให้รอนะ! ลีตะโกนขณะวิ่งมาพร้อมกับฟ้า เราพลาดอะไรไปเหรอ? ลีถามเมื่อเห็นยามาชิตะสีหน้าสีไปมาก

รถคันนั้น... ยามาชิตะหันมามองทุกคน คล้ายกับรถที่ฉันเห็นในเหตุการณ์ชนแล้วหนีมากๆเลย! ยามาชิตะพูดด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก

แต่...แต่สีรถและป้ายทะเบียนไม่เห็นเหมือนที่นายเคยบอก... โค้ดพูดด้วยอาการตกใจเช่นกัน

แต่ฉันมั่นใจแน่นอนว่ารูปร่างรถเหมือนกัน! ยามาชิตะพูดหนักแน่น ถึงจะมีความเหมือนและความแตกต่างอยู่บ้างแต่ถ้าใช่เราเจอผู้ต้องสงสัยแล้วล่ะ

แล้วเราจะทำอย่างไรต่อล่ะ รถคันนั้นคงไปไหนแล้วไม่รู้ นัดพูด

ใช่ แต่เรารู้แล้วไม่ใช่เหรอว่ารถคันนั้นเป็นของใครและอยู่ที่ตึกไหน ยามาชิตะพูดพร้อมกับหันไปดูโปสเตอร์โปรโมทศึกแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ในรอบหนึ่งปี ตึกใบหยกสองตั้งเด่นบนกลางโปสเตอร์อย่างชัดเจน

เหล่านักสืบสมัครเล่นรู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้พวกเขาใกล้ความจริงเข้าไปในอีกระดับหนึ่งแล้ว

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

กลุ่มนักสืบเยาวชนของเราเจอเบาะแสคนร้ายแล้ว!!! แบบนี้ช่างน่าติดตามเสียนี้กะำไร

ปล.ตกลงคุณฟ้านี้เป็นคน หรือเครื่องกินล้างกินผลาญกันแน่เนี้ย คนเดียวปาเข้าไปหลักพัน 0.0

ปล2.สถานที่ในฟิคนี้ชวนให้นึกอยากไปเที่ยวตึกใบหยกมากเลยนะเนี้ย!!!(พี่กับพ่อไปกันสองคนไม่ชวนเลย TT^TT)

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

หลังจากดองไว้สักนึงในที่สุดก็อัพแล้วครับ!!! และก็เป็นการปิดบทที่ 4 ด้วย

ในบทหน้าจะเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้วครับ บาชาโม่กับโคซึเกะ...สายสัมพันธ์ของทั้งคู่จะยังคงอยู่ไหมหน่า~

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ตกลงคุณฟ้านี้เป็นคน หรือเครื่องกินล้างกินผลาญกันแน่เนี้ย คนเดียวปาเข้าไปหลักพัน 0.0

ปกติเจ้าตัวกินได้เยอพกว่านั้นอีกนะครับ -*-

สถานที่ในฟิคนี้ชวนให้นึกอยากไปเที่ยวตึกใบหยกมากเลยนะเนี้ย!!!(พี่กับพ่อไปกันสองคนไม่ชวนเลย TT^TT)

น่าสงสารอ่ะ - - (ผมไปมาแล้ว 3 ครั้ง)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 6 ~

คำสารภาพของคนบาป

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง การแข่งขันเพื่อหาตัวแทนของประเทศไทยที่จะมาลงแข่งใน Pokemon Asia Championship X ยิ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพด้วยแล้วการคัดเลือกตัวแทนจึงยิ่งเข้มเป็นพิเศษ แต่เหนือสิ่งอื่นใดโคซึเกะคงไม่คาดคิดว่าเขาจะได้คู่หูของเขาอีกครั้ง!

ขอพักเรื่องนั้นไว้ก่อน จะว่าไปถ้าไม่นับเรื่องพบศพกับได้เจอโปเกมอนคู่หูยังมีอีกเรื่องที่มีผลมากต่อคดีนี้เมื่อนำมาคิดดูย้อนหลัง

โคซึเกะจำได้ดี แปดโมงกว่าๆของเช้าวันนั้นที่ห้องของโคซึเกะ เขารับโทรศัพท์จากพ่อผ่านทางมือถือ (ต่อมาทราบในภายหลังว่าเป็นช่วงที่บุ๊ก คุณย่าและพวกบาชาโม่ออกเดินทางไปที่ตึกใบหยกพอดี)

มีอะไรพ่อ โคซึเกะพูดน้ำเสียงเหมือนคนที่ยังไม่ตื่นเต็มที่

ไม่มีอะไรมากหรอก แต่ผมว่าลูกน่าจะรู้ไว้ น้ำเสียงของคุณพ่อฟังดูก็รู้ว่ากำลังกังวนเป็นอย่างมาก โคซึเกะจึงตั้งใจจึงแม้จะยังสะลึมสะลืออยู่ก็ตาม ทางตำรวจไม่มีเบอร์ลูกเลยฝากให้พ่อเป็นคนพูดแทน

เรื่องสำคัญหรือครับ

ใช่ เรื่องเด็กที่ถูกรถชนนั้นล่ะ

โคซึเกะถึงกับตกใจเล็กน้อยตัวเขาเองก็เทือบจะลืมไปหมดแล้วด้วย เขาฟื้นแล้วเหรอครับ

ฟื้นต้องนานแล้ว... แต่เรื่องที่พ่อจะพูดเป็นอีกเรื่อง ได้ยินเสียงคุณพ่อถอนหายใจเล็กน้อย ลูกรู้เรื่องที่เด็กคนนั้นมีพ่อแม่แล้วหรือยัง

ผมรู้แค่ว่าพ่อแม่ของเด็กคนนั้นอยู่ต่างจังหวัด

นั้นแหละ ทางตำรวจแจ้งมาว่าทั้งสองมาหาเด็กชายที่โรงพยาบาลแล้ว

แล้วมันสำคัญตรงไหน

ฟังให้จบก่อนสิ... รู้สึกว่าหลังจากนั้นแล้วไม่มีใครพบเห็นพ่อแม่ของเด็กคนนั้นอีกเลย

ว่าไงนะครับ! โคซึเกะเผลอตะโกนเสียงดัง หรือว่าพวกเขาจะ...

ไม่พูดเลยเรื่องที่ว่าเลย คุณพ่อรีบพูดตัดบททันที ในทางกลับกันทางตำรวจกลัวว่าพวกเขาจะแก้แค้นแทนลูกชายกว่ามาก

แก้แค้น...หรือครับ

ทางนั้นเชื่อว่าพ่อแม่ของเด็กคงรู้จักอีกฝ่ายแน่นอน ถ้าเป็นยังงั้นจริงพวกเขาอาจแก้แค้นที่คนร้ายทำกับลูกเขาก็เป็นไปได้

พวกเขาจะทำจริงๆเหรอครับ

ทางนั้นถึงให้พ่อถึงโทรมาบอกลูกไง ป้องกันไว้ก่อนก็ดีพ่อเองก็ไม่อยากให้มีคนผิดไปมากกว่านี้อีก

ครับผมเข้าใจแล้ว โคซึเกะเหมือนนึกอะไรได้อย่างนีง ตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหนครับ

เอ่อ...บนเรือน่ะ...แม่ก็อยู่ด้วย

ไปเที่ยวกันเหรอครับ

เปล่า ตามหาเกาะของเราตั้งหาก

เกาะ... อยู่ๆโคซึเกะก็นึกขึ้นได้ หรือจะเป็นเกาะที่พวกเราจากมา!

ใช่ คุณพ่อตอบสั้นๆ พอดีมีการตั้งคณะสำรวจเกาะขึ้นพ่อก็เลยตั้งใจจะให้คณะไปสำรวจเกาะนั้นดูแล้วก็กลายเป็นว่ามีพ่อกับแม่เท่านั้นที่ยังพอจำเส้นทางของเกาะนั้นได้

อย่างงี้เลยเหรอ โคซึเกะคิดในใจ ครับขอให้โชคดีนะพ่อฝากบอกแม่ด้วยล่ะ

ได้สิ งั้นพ่อวางสายน่ะ เสียงปิดโทรศัพท์ดังขึ้น

ยาชิเดี๋ยวเราก็ไปได้... โค้ดเห็นสีหน้าของโคซึเกะดูไม่เหมือนปกติ เกิดอะไรขึ้น

เปล่าไม่มีอะไร โคซึเกะพยายามยิ้มตอบ ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จๆกันเถอะ โคซึเกะเดินออกจากตามด้วยโค้ดซึ่งยังงงๆกับคำพูดของโคซึเกะไม่หาย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ในที่สุดวันแข่งขันก็มาถึงเวลาในตอนนั้นคือเที่ยงตรงโคซึเกะจึงมาหาน้องชายที่ห้องพักของผู้เข้าแข่งขัน (ภายหลังทราบว่าเป็นช่วงที่พวกบาชาโม่ออกไปได้ไม่นาน)

ทำได้ดีเหมือนกันนะ โคซึเกะตบไหล่บุ๊กเบาๆ คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมาถึงรอบนี้ได้

ผมเองก็คิดเหมือนกัน บุ๊กพูดขณะกำลังดูลีเฟียกินอาหารอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะลีเฟียก็ได้วันนี้ดูแรงเยอะกว่าทุกวัน

ก็ผมซ้อมมาดี ลีเฟียพูด แต่มีเพียงโคซึเกะเท่านั้นที่ฟังเป็นแบบนี้

โคซึเกะยิ้มเล็กน้อยแต่ในทันทีสีหน้าก็เปลี่ยน ที่พี่มาเพราะมีเรื่องอยากจะบอก

ครับ บุ๊กยังคงดูลีเฟียกินอาหารอยู่

พี่คงไม่อยู่ตอนน้องแข่งรอบสุดท้ายนะ โคซึเกะพูดสีหน้าเศร้าๆ

อะไรนะครับ! บุ๊กหันมามองพี่ชายในที่สุด แม้แต่ลีเฟียเองก็เช่นกัน มีเรื่องอะไรเหรอครับ

ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก พี่คิดอยู่นานเหมือนกันควรพูดดีไหม...คือพี่ไม่อยากให้น้องเป็นห่วงยิ่งช่วงเวลาอย่างนี้แล้ว

พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ แต่พี่จะว่าผมไหมถ้าถามว่าพี่มีเรื่องอะไรถึงต้องไป

พี่จะว่าทำไม เรื่องเกี่ยวกับพ่อด้วยอีกอย่างพี่มีเพื่อนไปด้วยอีกสักสองสามคน

ครับ ผมเข้าใจแล้ว บุ๊กกอดโคซึเกะพี่ชายของเขา พี่ว่าผมจะชนะไหม

คำถามนี้โคซึเกะรู้สึกว่าตนเองใช้เวลานานมากกว่าจะตอบได้ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงพี่เชื่อว่าน้องทำอย่างเต็มที่แล้ว น้องกล้าหาญมากที่เข้าแข่งเพื่อคุณย่า

คุณย่าท่านใจดีมาก บุ๊กปล่อยโคซึเกะออกจากอ้อมกอดแล้ว อย่างน้อยผมก็อยากตอบแทนคุณย่าบ้าง

พี่รู้ โคซึเกะพูดได้แค่นั้นเพราะมีการประกาศให้ผู้แข่งรอบสุดท้ายลงสนามได้แล้ว ต่อสู้ด้วยความสนุกน้องชาย พี่คงแนะนำได้เท่านี้

ครับ พี่เองก็ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะครับ บุ๊กกับโคซึเกะกอดกันอีกเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากนั้นโคซึเกะก็รีบออกจากห้องทันที

ระหว่างเดินตามทางด้านนอกเพื่อไปหาเพื่อนๆโคซึเกะกลับพบบุคคลที่เขายังต้องมองซ้ำไปมาอย่างรอบ

คุณย่า! โคซึเกะตะโกนเรียก มาทำอะไรตรงนี้ครับ โคซึเกะรีบวิ่งไปหาคุณย่าทันที

อ้าว!? นั้นยาชิเหรอ คุณย่ายิ้มทักทาย อารมณ์ดีสักจริงๆ มีคนเรียกย่านะจ้ะ

ใครหรือครับ

ก็คนที่เคยมาทวงหนี้ไงล่ะยาชิคงเคยเห็นแล้วหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงคนนั้นล่ะที่เรียกย่า

เรียกไปทำไมล่ะครับ

ย่าก็ไม่รู้ เห็นบอกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอยากสารภาพ

หรือว่า... โคซึเกะนึกภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้...บางทีงานนี้อาจจบเร็วกว่าที่คิด โคซึเกะคิดอย่างนั้นในตอนแรก

งั้นผมขอไปด้วยครับ พอดีมีเรื่องอยากสอบถามทางนั้นพอดี โคซึเกะค่อยๆพาคุณย่าเดินไปตามทางจนเจอหญิงสาวคนนั้นในที่สุด เธอยังคงสวมชุดเดิมเหมือนตอนที่พบครั้งแรก

... ... ... หญิงสาวมองโคซึเกะอยู่พักนึงก่อนจะพูด เชิญข้างในค่ะ เธอเปิดประตูให้โคซึเกะกับคุณย่า โคซึเกะแอบมองป้ายชื่อตรงหน้าอกด้านซ้ายตัวอักษรสีดำใหญ่ปรากฏอย่างชัดเจน แสง ชื่อเล่นงั้นเหรอ

เมื่อเข้ามาในห้องโคซึเกะพบว่าภายในห้องไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก มีรูปภาพติดอยู่สองสามรูปบนผนังสีขาว ตรงกลางคือโต๊ะไม้ท่าทางเก่าพอควรแน่นอนว่าบนโต๊ะไม่ได้มีอะไรวางไว้เลย

นึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาด้วย ชายผู้นั่งตรงอีกฝากของโต๊ะโคซึเกะจำได้ว่าเป็นฝ่ายพี่ชายเขาสวมชุดสูทแบบทั้วๆไปตรงหน้าอดด้านซ้ายมีป้ายชื่อติดไว้ เจน อยู่เหมือนคนพวกนี้จะชอบเรียกชื่อเล่นมากกว่า

ผมขอมาด้วยเอง โคซึเกะช่วยคุณย่านั่งบนเก้าอี้ส่วนเจ้าตัวก็ยื่นอยู่ข้างๆ เห็นคุณย่าบอกว่าคุณมีเรื่องอยากจะสารภาพ

อืม...ใช่ สีหน้าของเจนดูไม่มีความเครียดเลยสักนิด เรื่องของคุณที่เกี่ยวกับเงินผมบอกตามตรงนั้นไม่ใช่ปัญหาของเราสักเท่าไร

ถ้าอย่างงั้นทำไมถึงยังตามทวงหนี้อีก โคซึเกะไม่ได้ตั้งใจจะพูดเสียงดังแต่มันอดไม่ได้

ก็เพราะมันเป็นคำสั่ง สายตาของเจนมองลงมาที่โต๊ะเหมือนกับจะพยายามไม่มองโคซึเกะ ถ้าไม่ทำตามความผิดทุกอย่างก็จะตกลงมาที่ผม

ความผิดที่ว่าคือเหตุชนแล้วหนีใช่ไหมครับ โคซึเกะพูดสีหน้าเรียกเฉย

แต่ที่น่าตกใจคืออีกฝ่ายเองก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจเช่นกันเพียงแต่หันมาสบตากับโคซึเกะเท่านั้นก่อนจะหันมามองคุณย่า ผมเป็นคนบาปทำได้แม้กระทั้งเรื่องแบบนั้น เจนหันมองโคซึเกะ นายคงมาเพราะตำรวจส่งมาสินะ ฉันเองก็อยากจะมอบตัว

แต่ว่าทำไมถึงต้องทำด้วยครับถึงจะถูกสั่งก็เถอะแต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตามเลย โคซึเกะคิดว่ามีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เขาอยากรู้

คำขู่น่ะสิ เจนตอบขณะกำลังทำกาแฟบนโต๊ะ

ขู่...ใครกันครับ

คนที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำได้ลงคอ เขาดื่มกาแฟที่ปรุงเสร็จเป็นการพักหายใจ เขาคือ... อยู่เจนก็เงียบไปสีหน้าเริ่มซีดหลังจากนั้นช่างเป็นภาพน่าสยองยิ่งหนัก เจนร้องด้วยความทรมานเลือดออกจากปากก่อนล้มไปบนโต๊ะ เขาไม่มีโอกาสได้ลุกด้วยซ้ำ แสงหญิงสาวกรี๊ดร้องด้วยความตกใจ เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากที่โคซึเกะคิดไว้เขาทำได้จ้องร่างไร้ชีวิตของเจน ส่วนคุณย่า...สลบไปตั้งแต่เห็นเลือดแล้ว

ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งนาทีกว่าโคซึเกะตั้งสติได้เขาขอให้แสงเรียกตำรวจมาส่วนตัวเขาจะดูแลคุณย่าที่ยังสลบอยู่ ไม่ถึงสิบวินาทีตำรวจนายนึงก็มาถึง ได้รับแจ้งว่ามีคนตาย

อยู่ตรงนั้นครับ โคซึเกะชี้ไปที่ศพ ผมอยากขอสายสารวัตรท่านนึงหน่อยแล้วถ้าเป็นไปได้ช่วยตามน้องชายผมด้วยนะครับเขาชื่อ... โคซึเกะได้ยินเสียงประกาศชัยชนะของบุ๊ก โคซึเกะนึกอาการของน้องชายไม่ได้จริงๆเลยว่าจะช๊อกสักขนาดไง...

แต่เพราะคดีที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้เขาพบกับโปเกมอนคู่หูบาชาโม่ในที่สุด!

Link to comment
Share on other sites

เรื่องราวทั้งหลายมันเป็นเช่นนี่นี้เอง เป้นนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่ช่างลึกลับเสียเหลือเกิน

แต่กว่าที่ทั้งสองจะได้มาพบกันเนี้ย ก็เล่นเอาผมลุ้นเรื่องราวการสืบสวนไปจนมันส์เลยนะเนี้ย

แต่เรื่องราวทั้งหลายมันชักจะเข้มข้นขึ้นทุกทีแล้วสิ มีการตายเกิดขึ้นด้วย โอ้!

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

อัพต่อแล้วครับ!!!

ในที่สุดบทที่ 5 ก็มาจนได้เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรกันนะ~

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แต่เรื่องราวทั้งหลายมันชักจะเข้มข้นขึ้นทุกทีแล้วสิ มีการตายเกิดขึ้นด้วย โอ้!

ปริศนาก็เข้นข้นด้วยนะ ^^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

อีก 141 วัน สู่ Pokemon Asia Championship X

บทที่ 5 เทรนเนอร์กับคู่หู

~ ช่วงที่ 1 ~

เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนับตั้งแต่คุณเจนตายทั้งกลุ่มของโคซึเกะกับบาชาโม่กลับมาที่บ้านของคุณย่าอีกครั้ง อาการของคุณย่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่ถึงยังไงทางโรงพยาบาลก็อยากให้คุณย่าอยู่ที่นั้นพักนึงเพื่อดูอาการต่อไป

ตอนนี้ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้วบรรยายกาศในห้องของโคซึเกะเงียบในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นายโอเคนะยาชิ หลังจากเงียบมานานโค้ดได้พูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าโคซึเกะไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน

ปล่อยเขาไว้สักพักเถอะ เขาคงยังโกรธตนเองที่ลืมเรื่องบาชาโมอยู่ คิวกระซิบ

ถูกแล้ว...นี้คือเหตุผลที่โคซึเกะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ก็ไม่ใช่ว่าเขาลืมบาชาโม่แต่เพราะสนใจแต่หน้าที่ของตนจนไม่ทันได้นึกตั้งหาก และถ้าท่านผู้อ่านคิดว่าทำไมโคซึเกะกับบาชาโม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้ นั้นก็เพราะมันเป็นชีวิตจริงไม่ใช่ในละคร ถ้าเป็นในละครที่เห็นกันในทีวีทั้งคู่คงเข้ากอดกันไปนานแล้วแต่ชีวิตจริงไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ บาชาโม่ที่เชื่อว่าเจ้านายได้ตายไปแล้วอยู่ๆก็มาปรากฏตัวตรงหน้าบาชาโม่ช็อคมากจนพูดอะไรไม่ออก ส่วนโคซึเกะเองก็รู้สึกผิดที่ตนเองลืมนึกเรื่องของบาชาโม่ไปถึงแม้จะมีเหตุผลที่อธิบายได้แต่โคซึเกะก็ยังคงรู้สึกผิดกับตัวเองอยู่ดี

พอดูถึงบาชาโม่ทางด้านนั้นเองก็มีบรรยายกาศพอๆกัน แต่คนละเหตุผล

บาชาโม่...นายได้เจอเจ้านายทั้งทีไม่ไปอยู่กับเขาหน่อยเหรอ ฮิโกะซารุพูด

บาชาโม่มองฮิโกะซารุเล็กน้อยก่อนตอบ ฉันอยากขอเวลาอีกสักพัก บาชาโม่ตอบแค่นั้นก่อนพูดจะเปลี่ยนเรื่อง ลีเฟียจะเป็นไรไหมน่ะ

ลีเฟียที่โดนยาพิษเข้าไปนั้นอาการในตอนนี้เริ่มดีขึ้นจนสามารถกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ ตอนนี้ลีเฟียกำลังพักผ่อนอยู่ข้างๆกลุ่มบาชาโม่

บาชาโม่! บุยเซลพูดเมื่อเห็นมนุษย์กลุ่มนึงเดินเข้ามาในห้อง...กลุ่มของโคซึเกะนั้นเองเขากับบาชาโม่มองหน้ากันและยิ้มให้กันเล็กน้อย อย่างน้อยนี้คงเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีของเขาทั้งสอง

มีเพื่อนเยอะอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย โคซึเกะพูดกับบาชาโม่พร้อมกับมองเพื่อนๆของบาชาโม่

เจ้านายมีอะไรเหรอครับ

ได้ยินมาจากน้องฉันว่าลีเฟียที่นอนอยู่ตรงนั้นโดนยาพิษ

ใช่ครับ

ฉันลองให้ตำรวจตรวจสอบอยู่แล้ว มันเป็นยาชาชนิดอ่อนๆดูเหมือนจะกำหนดให้ฤทธิ์ออกตอนกำลังสู้กันพอดีด้วย

ทำได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ ฮิโกะซารุพูด

ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ โคซึเกะตอบ ในขณะที่คนอื่นๆในกลุ่มโคซึเกะต่างมองหน้ากัน ท่าทางโปเกมอนพวกนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

ขอเสริมอีกหน่อยว่า เพื่อนๆของโคซึเกะต่างรู้เรื่องที่เขามีความสามารถที่ฟังภาษาโปเกมอนได้

แต่พี่ครับ สมมุติว่ามีการโกงเกิดขึ้นในการแข่งแล้วคนที่ใส่ยาชาเขาจะรู้ได้ไงว่าผมจะเลือกถุงไหน บุ๊กรีบพูดขึ้นมาทันที ภายในห้องนอกจากผมก็มีคู่แข่งอีกคนเท่านั้นตอนนั้นผมเป็นคนเอาถุงมาเป็นคนแรกถ้าผมเกิดเอาผิดถุงขึ้นมามันก็ไม่เป็นไปตามแผนสิครับ

ไม่แน่นะ คนร้ายอาจไม่ได้จงใจวางยาใส่ลีเฟียของนายแต่เป็นอีกคนมากกว่า นัดพูด

ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่แน่ว่าน้องบุ๊กอาจไปเอาถุงนั้นมาก็ได้ ลีพูด

ไม่ว่าผู้ร้ายจะวางยาใส่ใคร เรื่องสำคัญมันอยู่ที่เหตุผลมากกว่า โคซึเกะพูด

ก็เป็นการโกงไม่ใช่เหรอ บุยเซลพูด

สมมุติให้เป็นการโกงจริงๆทำไปแล้วจะได้อะไร ถ้าเกิดแผนแตกขึ้นมามีหวังโดนตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขันแน่ โคซึเกะพูดดูมีเหตุผลที่ดี ยิ่งเป็นรอบสุดท้ายด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยถ้าเป็นรอบก่อนหน้านั้นก็ยังพอเข้าใจ

ถ้าอย่างนั้นคนร้ายวางยาไว้ทำไมล่ะ เชมี่พูดกลาเซียที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองแต่ไม่ได้พูดอะไร

นั้นคงเป็นปริศนาที่เราต้องไขให้ได้ โคซึเกะมีสีหน้ายากที่จะบรรยายได้ แต่ปริศนาอาจไม่มีเพียงเท่านั้น

หมายความว่าไง ทุกคนรวมถึงพวกโปเกมอนแทบจะพูดพร้อมกัน

ถึงแม้ฉันจะสามารถหาคนร้ายที่ขับรถชนแล้วหนีได้ซึ่งคือคุณเจนที่เป็นหนึ่งในสามที่พวกเราทุกคนเคยเห็น แต่ก็มีคนสั่งให้คุณเจนทำ เขาเป็นใครและใครเป็นคนฆ่าคุณเจน จะใช่คนเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้

ยาชิ ฉันรู้ว่าพวกตำรวจกำลังตามหาพ่อแม่ของเด็กคนที่ถูกชนอยู่ โค้ดถาม

คงแค่อยากสอบปากคำ โคซึเกะตอบ คุณเจนตายเพราะยาพิษที่ยังไม่ทราบชนิดพบแต่ในแก้วที่เขาดื่มอย่างเดียวเท่านั้น และในตอนแรกพวกตำรวจเองก็สงสัยพ่อแม่ของเด็กคนนั้นแต่คุณแสงนะสิตอบว่าเป็นไปไม่ได้

เขาพูดว่าไงเหรอ ฟ้าถาม

ก็ประมาณว่า ห้องของประธานเป็นห้องส่วนบุคคลไม่มีทางที่คนภายนอกจะเข้ามาวางยาได้แน่ๆ รู้สึกจะแบบนี้ โคซึเกะตอบ อีกอย่างพอลองตรวจสอบละเอียดก็พบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆมีคนค่อยเฝ้าห้องตลอดเวลา ยิ่งตอนที่ไม่มีใครอยู่ด้วยแล้วห้องนั้นก็ถูกล็อคอย่างดีเลยแหละ

ก็หมายความว่าถ้าไม่ใช่คนในแถมถ้ายังไม่ใช่สามคนนั้นก็ไม่มีถ้าเข้าห้องนั้นได้แน่ โค้ดพูดเหมือนจะสรุปเรื่องทั้งหมด

เกี่ยวกับสองคนที่เหลือก็ต่างมีหลักฐานที่ไม่แน่ชัด คุณแสงออกเดินตามหาคุณย่าเพื่อหาไปพบคุณเจนแต่ในช่วงก็ไม่มีใครยื่นยันได้ว่าพบเธอจริงๆ ส่วนน้องชายของผู้ตายที่ชื่อ คิม เขาไปเป็นหนึ่งในกรรมการรอบชิงเรื่องนี้ใครๆก็เห็นแต่ถ้าคิดว่ายาพิษถูกใส่ก่อนหน้าที่เขาจะไปปรากฏตัวเรื่องนั้นเขาก็ทำได้เช่นกัน

มีแต่ปัญหาทั้งนั้น โค้ดบ่นเล็กน้อย คนอื่นๆเองก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ก่อนที่โค้ดจะพูดขึ้นอีกครั้ง จากนี้ไปนายจะเอาไงต่อยาชิ

โคซึเกะทำท่าคิดอยู่ครู่นึง หน้าที่ของฉันหมดลงแล้ว แต่ฉันยังไม่สบายใจเรื่องพ่อแม่ของเด็กคนนั้นเลย

ที่พวกเขาหายตัวไปนะเหรอครับ บุ๊กพูด

ก็ไม่แปลกนะถ้าพวกตำรวจจะคิดว่าพ่อแม่เด็กจะเป็นคนวางยาพิษแต่ฉันคิดว่ามันน่าจะด้วยเหตุผลอื่นมากกว่า

ทำไมล่ะ คิวถาม

ถ้าต้องการวางยาพิษก็ไม่จำเป็นต้องใช้ถึงสองคนให้ยุ่งยากและสมมุติว่าใช้คนสองในการวางยาเช่นคนนึงล่อคนเฝ้าหน้าประตูไปได้และอีกคนก็เข้าไปวางยาพิษถ้าตอนนั้นเกิดผิดพลาดคุณเจนจับได้ล่ะก็...จบทันทีเพราะตอนนั้นเขาต้องอยู่ในห้องเพื่อรอคุณย่าอยู่แล้ว

ก็จริง... คิวพยักหน้า ถ้าพ่อแม่ไม่ใช่คนร้ายแล้วทำไมพวกเขาถึงหายตัวไป...ไม่สิเรื่องนั้นพักไว้ก่อน อีกสองคนที่เหลือล่ะน่าสงสัยหรือเปล่า

นี้แหละที่น่าสนใจ โคซึเกะเหมือนจะรอที่จะพูดมานานแล้วทุกคนรวมถึงโปเกมอนที่นั่งฟังอย่างเงียบต่างรอฟังด้วยความตื่นเต้น จากการสอบปากคำพบว่าพวกเขาทั้งสามไม่ถูกหน้ากันเลย

มีปัญหากันเหรอ ลีถาม

ก็คงประมาณนั้น คุณแสงที่เป็นผู้ช่วยอยากหนีออกจากสองพี่น้องเต็มทนเห็นว่าเจ้าตัวมีความฝันที่ตนอยากไว้ตั้งแต่เด็กๆแต่กลับถูกทำลายลงเพราะสองคนนั้นไม่แน่ว่าอาจยังแค้นอยู่ ส่วนคุณคิมน้องชายผู้ตายก็ไม่พอใจมากที่พี่ชายอยากถอนตัวเพื่อไปเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแทนการไล่ตามเจ้าหนี้ รู้สึกว่าเวลามีปัญหาก็มักให้ฝ่ายพี่เป็นผู้รับเคราะห์แทนตนเองด้วยนะ"

น่าสงสัยทั้งคู่ โค้ดพูด

แต่ถึงยังไงเรื่องควรเป็นหน้าที่ของตำรวจ พวกเราเองก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วด้วย

เจ้านายครับ หลังเงียบมานานบาชาโม่ก็พูอออกมาจนได้ เกี่ยวที่เจ้านายพูดมามันเกี่ยวกับเรื่องของพวกผมด้วยหรือเปล่า...หมายถึงเรื่องของลีเฟีย

อะไรทำให้นายคิดอย่างนั้นล่ะคู่หู

ลีเฟียเคยพูดให้พวกผมฟังว่าสามคนนั้นเคยทำทุกอย่างเพื่อให้คุณย่าล้มละลายเพื่อที่จะได้ขายที่ดินแห่งนี้น่ะครับ

นั้นสิอาจเป็นไปได้

อะไรเหรอยาชิ โค้ดถาม

ก็เหตุผลที่น้องบุ๊กเข้าการแข่งขันนี้ก็เพราะอยากรักษาที่ดินของคุณย่าไว้ใช้ไหม ถ้าเกิดเขาแพ้ในการแข่งขันล่ะก็...

ความฝันก็จะจบและเป็นไปได้สูงที่จะเสียที่ดินนี้ไป น้ำเสียงของโค้ดฟังดูตกใจเป็นอย่างมาก

ทุกคนคงรู้ว่าบ้านหลังเก่าถูกสร้างก็นับได้บ้านร้อยๆปีแล้วแถมยังมีของล้ำค่าจากสมัยอีกตั้งเยอะ ถ้าเอาไปขายก็ต้องได้ราคาดีอยู่แล้ว

หรือว่าใครในสามคน...ไม่สิสองคนนั้นวางยาลีเฟียเพื่อให้แพ้เหรอ

เดี๋ยวก่อนสิโค้ด อย่างที่เราเคยคิดนั้นแหละว่าถ้าวางแผนวางยาเพื่อให้แพ้การแข่งเขาหรือเธอใช่วิธีไหนถึงทำให้น้องบุ๊กเลือกถุงได้ถูกต้องตามแผน ถ้าเกิดเลือกผิดแผนก็จะเสียทันที

นั้นสิ... เรื่องนี้โค้ดไม่สามารถเถียงได้ พวกเราควรทำไงดี

ใช้ชีวิตตามปกติ โคซึเกะตอบ เพราะยังไงพวกเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องหยุดเพียงเท่านี้แต่ทุกคนก็เห็นด้วยกับโคซึเกะจากนี้ไปพวกเขาต้องใช้ชีวิตต่อไปโดยหวังว่าพวกเขาจะคิดผิด

Link to comment
Share on other sites

แวบมาอัพก่อนไปนอนครับ~

ไม่ขอเล่าอะไรมาก เพราะอยากนอนเต็มทีแล้ว -*-

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

หน้าที่ที่ยังไม่จบ

เช้าของวันนั้นโคซึเกะไม่อยากจะลุกไปไหนเขาอยากนอนตื่นสักวันหลังจากต้องเหนื่อยมานานแต่สิ่งที่เขาต้องการก็ต้องพังไม่เป็นท่าเมื่อเขาถูกปลุกโดยโค้ด

ยาชิรีบตื่นเร็วๆ โค้ดจับไหล่โคซึเกะเขย่าเพื่อให้ตื่น

อ...อะไร... ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ โคซึเกะรู้สึกรำคาญมากที่ต้องตื่น ขอนอนต่ออีกหน่อยได้ไหม

ไม่ได้ต้องตื่นตอนนี้!  โค้ดตะโกนใกล้หน้าโคซึเกะจนโคซึเกะจำใจต้องตื่น เห็นไหมสุดท้ายเธอก็ต้องตื่นเพราะฉัน

กลิ่นปากเธอตั้งหากหัดแปลงฟันหลังตื่นนอนสักบ้างนะ

*เผี๊ยะ*

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จโคซึเกะก็ไปพบเพื่อนๆที่ร้านกาแฟของคุณย่า ในตอนนี้ร้านกาแฟของคุณย่าเปลี่ยนไปมากเนื่องจากคนเริ่มเข้าร้านเยอะไม่เหมือนที่ผ่านมาและเป็นมาได้อย่างนี้มาหนึ่งอาทิตย์แล้ว

สงสัยเป็นเพราะผมชนะในรอบคัดเลือกล่ะมั้ง บุ๊กเคยพูดแบบนั้น โคซึเกะเองก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าเพียงแค่ชนะในการแข่งขันชีวิตจะเปลี่ยนไปได้ถึงขั้นนี้

อ่า! มาแล้วๆหัวหน้าทีมสืบสวนของพวกเรา นัดพูดพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย โคซึเกะเพิ่งสังเกตเห็นว่าน้องบุ๊กกำลังวุ่นกับการดูแลลูกค้าภายในร้านโดยมีฟ้าค่อยช่วยอีกแรง

หน้านายไม่โดนอะไรมา คิวพูดเมื่อเห็นหน้าโคซึเกะมีรอยแปลกๆ

ไม่มีไรเหรอ โคซึเกะแอบมองโค้ดที่เดินตามหลังมา ถึงกลับปลุกตั้งแต่เช้าคงมีเรื่องไม่ธรรมดาสิน่ะ โคซึเกะพูดขณะกำลังนั่งลงโดยมีโค้ดนั่งข้างๆ

จะว่ายังงั้นก็ได้ ลีพูดเขามองซ้ายขวาราวกับกลัวคนจะได้ยิน ที่จริงพวกเราได้ข้อมูลมาแหละจากตำรวจ

ข้อมูล...? โคซึเกะทำหน้างงๆ

ตำรวจหาเจอแล้วยาชิ พ่อแม่ของเด็กคนนั้น น้ำเสียงของคิวอาจฟังดูธรรมดาแต่ก็ทำให้ตกใจได้มากเช่นกัน

จริงเหรอ! ล...แล้วเป็นไงบ้าง

ทางนั้นอยากให้นายไปช่วยตรวจสอบให้หน่อยนะสิ โค้ดตอบ

ทำไมต้องเป็นฉัน... เรื่องนี้ทำให้โคซึเกะยิ่งไปกันใหญ่

เห็นทางนั้นบอกว่าพ่อแม่ของเด็กคนนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับตำรวจนะสิ ถ้าเป็นนายพวกเขาอาจยอมพูด

คิดอะไรง่ายกันจัง

ใช่...พูดตามตรงฉันเองยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกตำรวจต้องใช้นายด้วย ถึงพ่อนายจะเป็นตำรวจก็เถอะแต่มันคนละประเทศเลยนะ

เหตุผลฉันว่าฉันเข้าใจนะ เพราะคนญี่ปุ่นถูกสั่งสอนให้เคราพระเบียบเป็นอย่างมากพูดให้ถูกคือเข้มงวดเลยแหละ

นั้นสิ คนไทยเองก็รู้กันแทบทุกคนว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนเจ้าระเบียบมาก

ก็คงคิดว่าถ้าเป็นคนญี่ปุ่นต้องทำงานได้ดีกว่าคนไทยล่ะมั้ง

แต่นายมันลูกครึ่งไม่ใช่หรือไง ลีพูด

ถึงยังไงฉันก็อยู่ประเทศญี่ปุ่นมานานกว่าอยู่ในประเทศไทยบ้านเกิดสักอีก

ว่าแต่เรื่องพ่อแม่ของเด็กล่ะยาชิ ไม่รู้เหมือนกันว่าฟ้ามานั่งฟังด้วยตั้งแต่เมื่อไรเล่นเอาทั้งวงตกใจกันทั่วหน้า อะไรกันท่าทางแบบนั้น... ฟ้ายิ้มแหยๆ

เรื่องนั้นถ้าทางนั้นขอมาก็ช่วยไม่ได้ โคซึเกะพูด ฉันช่วยชีวิตเด็กคนนั้นไว้...ถ้านั้นเป็นเหตุผลที่พ่อแม่สามารถตอบคำถามของตำรวจได้ฉันก็จะทำ

ดีล่ะงั้นพวกเราทุกคนจะไปด้วย! โค้ดพูด โคซึเกะถึงกับถอนหายใจเพราะพูดยังไงเพื่อนๆของเขาก็คงตามมาอยู่ดี

ดูถ้าหน้าที่ของฉันยังไม่จบง่ายๆสินะ โคซึเกะบ่นออกมาเบาๆ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ทางด้านของบาชาโม่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นกลับต่างจากโคซึเกะ บาชาโม่ตื่นแต่เช้าซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของเขาอยู่แล้วเขารีบตรงไปดูอาการของลีเฟียทันที

อาการคงดีขึ้นแล้วสินะ บาชาโม่พูดเสียงเบาพร้อมกับยิ้มไปด้วยเมื่อเห็นลีเฟียหลับสบายราวกับเรื่องในตอนแข่งขันไม่เคยเกิดขึ้น

เห็นแบบนี้ก็น่าดีใจนะครับ เซนิกาเมะพูด แบบนี้คงเดินได้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

นั้นสิ...บาชาโม่อยากพูดคำนี้มากๆแต่ก็พูดไม่ออก อาการของลีเฟียในตอนนั้นดูน่ากลัวมากๆตัวเขาเองก็อดโกธรไม่ได้ที่ลีเฟียต้องอยู่สภาพนั้นเพราะแค่ความโกงในตัวของมนุษย์ บาชาโม่อยากหาตัวคนทำผิดแต่เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ เขา จะดีกว่า

เจ้าหน้าของบาชาโม่เนี่ยใจดีจริงๆนะครับ นึกว่ามนุษย์ดีๆแบบนั้นจะหมดโลกแล้วสักอีก

พูดแรงไปแล้วนะเซนิกาเมะ...ในฐานะโปเกมอน...

ครับๆ โทษที เซนิกาเมะเกาหัวอย่างอายๆ

จากนี้ไปงานหนักแน่ๆ บุยเซลเข้าสนทนาอีกคน รอบคัดเลือกจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อต้องเจอกับโปเกมอนต่างแดน

นั้นสิฉันก็คิดเหมือนกัน อีกฝ่ายคงไม่ธรรมดาแน่

คงเก่งสุดยอดเลย เซนิกาเมะพูด

แถมยังต้องอยู่พักแบบนี้อีกไม่รู้ว่าลีเฟียจะไว้หรือเปล่า บุยเซลมองลีเฟียที่ยังหลับอยู่

ต้องไว้สิ! กลาเซียพูดเธอเดินมาเข้าร่วมวงพร้อมกับเชมี่ ลีเฟียเข้มแข็งมากๆเลยนะเขาต้องทำได้แน่นอน

ปล่อยให้ไม่ชนะฉันก็ภูมิเพื่อนคนนี้ เชมี่พูด เพราะทั้งฉันกลาเซียและเขาเองก็เคยเจอสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นมาแล้ว

ที่ว่าหรือจะเป็นเรื่องนั้น จิโคริต้าพูด

เรื่องนั้นฉันว่าเราไม่ควรพูดดีกว่า ฮิโตะคาเงะรีบพูดห้าม

แต่เชมี่ก็หัวเราะเบาๆ ไม่เป็นไรเรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานแล้ว

ใช่แล้วๆ! ต้องร่าเริงแบบนี้แหละดี! ฮิโกะซารุพูดตามแบบของเขา

แต่ฉันว่านายมันเกินไป โพจามะพูด

อะไรกัน... ฮิโกะซารุดูซึมไปทันตาเห็นจนทุกคนอดขำไม่ได้

บาชาโม่เห็นแบบนี้ก็อดดีใจไม่ได้ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว เอาล่ะพวกเราทุกคน ฉันว่าเราปล่อยให้ลีเฟียนอนต่อไปเถอะพวกเราเองก็มีงานที่ต้องทำต่ออีกใช่ไหม

อืม ฉันเห็นด้วย บุยเซลพยักหน้า ทุกคนก็เช่นกันและด้วยเหตุนี้พวกบาชาโม่ถึงเดินออกจากห้องปล่อยให้ลีเฟียอยู่ในห้องคนเดียว

โดย...ไม่รู้เลยว่าลีเฟียแอบมองพวกเขาด้วยสายหาแฝงความหมายบ้างอย่าง...ดูท่าลีเฟียจะไดยินการสนทนาทั้งหมดของพวกบาชาโม่ เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะนอนต่อเหมือนกับไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น...

Link to comment
Share on other sites

อาาา โคซึเกะของเราเนี้ย ไม่มีมารยาทต่อเพื่อนที่อุตส่าห์มาปลุกเลยน้อ

ตื่นมาถึงก็งานเข้าซะงั้น แล้วเมื่อไหร่แกจะได้เจอคู่หูสักทีละฟ่าาา!!!

------------------------------------------

พยายามเข้านะลิเฟีย ยังมีคนที่คอยเอาใจช่วยนายอยู่!!!

Me/ หาโทรโข่งและอุปกรณ์ช่วยเชียร์เตรียมไว้...

Link to comment
Share on other sites

Guest
This topic is now closed to further replies.
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.