Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

นิทานบริสุทธิ์, เรื่องโง่ๆที่อยากให้ทุกคนลองอ่าน


KEN

Recommended Posts

ก่อนอื่นผมขออกตัวล้อฟรีก่อนเลยนะครับว่าผมแต่งเรื่องนี้เอง สดๆบนเฟซบุ๊ค และอยากจะแชร์ให้หลายๆคนได้อ่าน เพราะผมว่าผมไม่ได้ชอบเรื่องนี้มากมายนะ แต่เขียนลงไปได้ยังไงไม่รู้ 555

ถ้าเกิดว่าพล็อตมันเดาง่ายไปไม่เหมาะกับแฟนตาซี, เนื้อเรื่องคล้ายอะไรสักอย่างที่เคยอ่านมาแล้ว ผมก็ต้องขอโทษ แต่สาบานว่าผมนั่งเขียนเองจริงๆ

จะวิจารณ์ไม่วิจารณ์ก็ตามสบายนะครับ :D

:pika01:

-------------------------------------------------------------------------------

นิทานเรื่องนี้ แต่งสดและไร้ที่มาที่ไป ทุกบรรทัดเราบรรจงคิดถ้อยคำที่เหมาะสมกับนิทานลงไป อนึ่ืงนิทานเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 20 ปีลงไป อาจจะไม่มีภาพ เสียง หรือเนื้อหา ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม เพราะผมมีให้อ่านอย่างเดียว ผู้ชมที่มีอายุมากกว่า 20 ปีควรได้รับคำแนะนำ

--------------------------------------------------------------------------

กาล ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้าถูกขนานนามว่าเป็นเด็กชายที่โง่ที่สุดในหมู่บ้าน

กาล ครั้งหนึ่งนานพอๆกัน เพราะมันเป็นเวลาเดียวกัน มีเด็กหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งถูกขนานนามว่าฉลาดที่สุดในหมู่บ้านเช่นกัน

เนื่อง ด้วยหมู่บ้านที่เล็กและไม่เจริญเหมือนในเมืองหลวง โรงเรียนในหมู่บ้านจึงมีอยู่แค่แห่งเดียว

ทั้งสองจึงต้องไป โรงเรียนเดียวกัน โดยไม่มีการแยกโรงเรียนคนโง่หรือโรงเรียนคนฉลาด เหมือนในเมืองใกล้ๆของเขา

เด็กชายโง่ได้พบกับเด็กหญิงฉลาด ไม่รู้เพราะเขาโง่หรือเพราะอะไร เขาจึงตกหลุมชอบเด็กหญิงตั้งแต่แรกพบ

เขา สารภาพชอบกับเด็กหญิงทันทีที่เขาได้พบเจอกับเธอ

เด็กหญิงยิ้ม อย่างเขินอาย และบอกกับเด็กชายไปว่า เรายังเด็ก มันยังไม่ถึงเวลา, แน่นอนว่าเพราะเด็กชายโง่ เลยไม่เข้าใจความหมายของมัน

เด็ก ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างไม่น่าเป็นไปได้ พ่อแม่ของเด็กชายก็ดีใจที่เด็กชายได้เป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กหญิง เพราะเด็กชายคงฉลาดขึ้นได้สักวันหนึ่ง

แต่เพราะเด็กชายคนนั้น โง่ เลยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

โง่ก็คือโง่

จน เด็กชายโตเป็นวัยรุ่น, แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร สำหรับเขาการมีชีวิตให้หายใจก็เป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

ณ ตอนนี้เราจึงขอเปลี่ยนเป็นนายโง่แทน

นายโง่ซึ่งรู้จักกับเด็ก หญิงฉลาดมานานจนเธอโตเป็นนางสาวฉลาด, เธอมีหน้าตาที่สดสวยและสามารถเป็นเทพีนพมาศของหมู่บ้านได้สบายๆ , แน่นอนว่าสำหรับนายโง่เขาไม่รู้ว่าอะไรคือนางนพมาศ แต่เขารู้เพียงว่าเขายิ่งชอบเธอมากเข้าไปอีก

เขาสารภาพชอบกับ นางสาวฉลาดอีกครั้ง นางสาวยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะบอกเขาว่า เรายังอยากจะเรียนต่อในเมือง ไว้จบแล้วเราค่อยมาคุยกันนะ

แน่ นอนว่านายโง่ไม่รู้ว่าการเรียนต่อคืออะไร เขากลับไปถามพ่อกับแม่จึงรู้ว่าการเรียนคือการไปโรงเรียน การไปเรียนต่อคือการเรียนในโรงเรียนที่ใหญ่กว่านั่นเอง

นาย โง่ซึ่งตีความคำว่าโรงเรียนเป็นสนามเด็กเล่น, เพราะเขาเอาแต่เล่นตอนไปโรงเรียน, คิดว่าการเรียนต่อต้องสนุกมากแน่ๆ ได้เรียนในที่ที่กว้างใหญ่ แถมยังเติบโตพอที่จะปีนต้นไม้ได้ด้วย นายโง่จึงแอบโกรธนางสาวฉลาดที่จะไปเรียนโดยไม่พาตนไปด้วย

เด็ก หนุ่มจึงขอพ่อกับแม่เข้าเมือง เพื่อจะไปเรียนให้สนุกตามที่เขาต้องการ, แต่พ่อแม่กลับดีใจที่เขาอยากจะเรียนต่อ

พ่อกับแม่พานายโง่ไป สมัครเรียนในเมือง แต่เพราะความโง่จึงไม่มีใครรับเขาเข้าเรียน

เด็ก หนุ่มเสียใจว่าทำไมจึงไม่มีใครรับตนให้ไปเรียน..เอ่อ เล่นด้วย จึงเสียใจและร้องไห้อย่างหนัก

และตอนนั้นเองที่เพื่อนสมัย เด็กของเขาชักชวนให้เขาลองยาที่เขาได้ยินว่ามันจะทำให้สนุก, แน่นอนเพราะว่าเขาโง่ จึงกินมันโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง.... ที่จริงคือไม่คิดอยู่แล้ว

เขาติดยาเม็ดนั้นทันที และต้องรับจากเพื่อนมากินอยู่บ่อยๆ จนพ่อแม่จับได้.. ไม่สิ เขาไปบอกพ่อแม่ให้ลองด้วยซ้ำ

เขาถูกพ่อแม่พาไปที่ที่หนึ่ง แน่นอนเพราะเขาโง่เลยจำชื่อไม่ได้ สะถานหรือสะพานอะไรสักอย่าง

เขา อยากกินยาเม็ดนั้นมากแต่คุณครูที่ใส่ชุดแปลกๆบอกว่ามันไม่ดี เขาจึงต้องอดทนกินลูกอมแทน

เป็นเวลานานนับห้าปีที่เขา ต้องอยู่ในสะถาน..เอ้ยสะพาน.. เอ่อช่างมันเถอะ จนเขากลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ พบว่าพ่อเขาเสียแล้ว!

เขาเสียใจมากที่ไม่มีใครพาพ่อของเขาไป ซ่อม เขาจึงเก็บตัวเงียบ เพื่อนคนเดิมนำยาตัวเดิมมาให้เขากิน แต่เขาไม่อยากกลับไปอยู่ในที่ที่แบบนั้นอีกแล้ว เพราะเขากลัวว่าจะไม่มีใครพาแม่ของเขาไปซ่อม

ในปีนั้นเองที่ นางสาวฉลาดได้กลับมายังหมู่บ้านพร้อมด้วยแผ่นแข็งๆสีดำๆ และชุดประหลาดๆสีดำๆดูเก้งก้าง กับหมวกหน้าตาน่าเกลียดที่เขาคิดว่าหมวกอาบน้ำลายกบสีเขียวของเขายังน่าใส่ กว่าเยอะ

ถึงแม้ว่าชุดจะประหลาดเพียงใด แต่นายโง่ก็ยังคงชอบสาวฉลาดไม่มีเปลี่ยนแปลง เธอดูสวยขึ้นสาวขึ้นมาก เขาจึงไปสารภาพชอบกับเธออีกครั้ง

เธอมองหน้านายโง่พร้อมทำ หน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ก่อนบอกว่าเพราะเขาติดยาบ้า เธอจึงไม่อยากให้อนาคตของเธอต้องมาจบที่เขา

เขาถามเธอว่าอะไร คืออนาคต เธอตอบว่าอนาคตคือสิ่งที่อยู่ข้างหน้า แต่เราไม่มีวันมองเห็น

แน่ นอนว่านายโง่จะไปเข้าใจได้ยังไง เขาจึงถามเธอต่อว่า แล้วถ้ามันไม่เห็น เธอจะรู้ได้ยังไงว่าอนาคตมันจะจบที่เขา

เธอบอกว่า เพราะเธออยากหางานทำและมีครอบครัวที่ดีที่เมืองหลวง และนั่นคืออนาคตที่ดีของเธอ ถ้าเธออยู่กับเขามันจะไม่ใช่อนาคตที่ดีแน่

นาย โง่ทำหน้างงๆแต่ก็บอกนางสาวฉลาดไปว่า เราไม่เข้าใจนะ แต่เราจะรอ...

หลัง จากนั้นนางสาวฉลาดก็เข้าไปหางานทำในตัวเมือง นายโง่ก็ได้งานเป็นงานเก็บมะพร้าวในสวน

เพราะเขาโง่เขาจึงไม่ รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวที่ปลอดภัยต้องปีนยังไง, แต่นั่นไม่โง่เท่าการที่เขาไม่รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวให้ตกนั้นมันทำยังไง

เขา ไม่เคยตกต้นมะพร้าวนั่นเอง เขาจึงกลายเป็นนักเก็บมะพร้าวอันดับหนึ่งของโลก

เวลา ผ่า่นไปหลายปี นายโง่ยังคงเก็บมะพร้าวของเขาต่อไป และเฝ้ารอวันที่นางสาวฉลาดจะกลับมา

จนวันที่เขารอคอยก็มาถึง นางสาวฉลาดกลับมาพร้อมด้วยท้องที่ใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตา

แม้ชาว บ้านจะพูดอะไรกันแต่เขาไม่สนใจ, เพราะเขาไม่รู้เรื่อง เขารู้แต่เขาดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง

เขาถามเธอว่าเธอไปกิน อะไรมา ทำไมอ้วนจัง

เธอตอบว่าเธอท้องไม่มีพ่อ บริษัทที่เธอทำงานอยู่ก็ล้มละลาย เธอไม่มีที่ไปเลยกลับมาที่หมู่บ้าน

เขา ไม่เข้าใจว่าท้องไม่มีพ่อคืออะไร อาจจะแปลว่าพ่อของเธอตายไปแล้วก็ได้ นั่นแปลว่าเขาก็ท้องไม่มีพ่อเหมือนกันงั้นสิ, นายโง่คิดในใจ

แล้ว บริษัทล้มละลายคืออะไรกัน มันอาจจะเป็นเพราะเธอทำงานในโรงงานน้ำแข็ง แล้วน้ำแข็งละลายก็เป็นได้, ช่างเป็นความคิดที่โง่อะไรแบบนี้

เธอ ร้องไห้ฟูมฟายและถามนายโง่ว่า เขายังรอเธออยู่หรือเปล่า, เขาตอบว่าไม่ เขากำลังเก็บมะพร้าวอยู่

เป็นคำตอบที่โง่จริงๆ

เธอ ยิ่งร้องไห้หนักเพราะแม้แต่เพื่อนเก่าของเธอก็ไม่คิดถึงเธอ

นาย โง่เหมือนนึกอะไรออกจึงบอกไปว่า จริงสิ ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเก็บมะพร้าว เขาก็กำลังรอเธออยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้คงไม่ต้องรออีกแล้ว, เพราะเธออยู่ตรงนี้แล้ว

เขายิ้มแบบโง่ๆ

นางสาว โง่จึงยิ้ัมมุมปากทั้งๆที่น้ำตายังคลอ ก่อนตอบว่า ขอบใจนะ

นาย โง่ไม่เข้าใจ จึงบอกไปว่าทำไมต้องขอบใจ เพราะการที่เขารอเธอมันไม่ใช่เรื่องที่เธอขอเขา ทำไมต้องมาขอบใจเขาด้วย

นาง สาวหยุดนิ่งไปสักพัก

นายโง่ซึ่งเหมือนนึกอะไรออกอีกแล้วก็พูด ขึ้นว่า เธอยังสวยสำหรับเขาเสมอ มันคงเป็นการสารภาพชอบอีกครั้งของเขา

นาง สาวยิ้มก่อนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง เธอบอกว่าอนาคตของเธอไม่เหลือแล้ว อย่าให้อนาคตของเขาต้องมาจบที่เธอเลย

นายโง่ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจึงบอกเธอไปว่า

เมื่อก่อนเธอบอกว่าอนาคตของเธอจะ มาจบที่ฉัน และเธออยากจะมีอนาคตที่ดี

ตอนนี้เธอบอกว่าอนาคตของเธอมันจบแล้ว และเธอไม่อยากให้ชั้นจบอนาคตไปด้วย

ฉัน ไม่รู้หรอกว่าอนาคตคืออะไร เธอบอกว่ามันคือสิ่งที่อยู่ข้างหน้าแต่มองไม่เห็น

ฉันไม่รู้หรอกนะว่าอะไรคืออนาคตของฉัน เพราะฉันคงมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ได้

แต่ที่ฉันรู้คือข้างหน้าฉันตอนนี้ คือ เธอ

นาง สาวฉลาดหยุดนิ่งก่อนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง เขามองเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอคือรอยยิ้มเหมือนครั้งที่เขาสาร ภาำพชอบเธอในวัยเด็ก

ก่อนที่เขาจะไม่เห็นรอยยิ้มนั้นอีก, เพราะเธอเข้ามากอดเขาและซบหน้าบนตัวเขานั่นเอง

งานแต่งงานถูก จัดขึ้นในหมู่บ้าน มันถูกเรียกว่างานแต่งงานที่พิลึกที่สุดที่เคยมีมาเพราะเป็นการแต่งงานของ หญิงสาวที่ฉลาดที่สุดกับชายหนุ่มที่โง่ที่สุด

เขาบอกกับทุกคน ว่าเขาจะเก็บมะพร้าวดูแลเธอและเด็กในท้องเอง ดูเหมือนจะมีใครบอกเขาว่ามีเด็กในท้องของเธอ

แม้จะมีคนบอกว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา แต่เขาบอกไม่เป็นไร เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือลูก

ก่อน จะมีใครบอกว่าเขาว่าการเป็นพ่อคนทำอย่างไร และการมีครอบครัวเป็นอย่างไร เรื่องเดียวที่เขารู้แน่นอนคือเขาต้องมีความสุขแน่ๆเพราะเขาได้อยู่กับคนที่ เขาชอบ

แม้ไม่มีใครมาบอกเขา, แต่เขาคงรู้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

แม้ไม่มี ใครบอกเรา, แต่เราคงรู้ว่าเขาจะเป็นคนโง่ที่มีความสุขที่สุดในโลกเช่นกัน

---------------------------------------------------------------------------------

นิทาน เรื่องนี้สอนให้รู้ได้หลายเรื่อง

เรื่องบางเรื่อง ที่คนฉลาดคิดได้ แต่คนโง่อาจคิดไม่ออก

แต่คนที่ทำ ได้จะเป็นคนโง่หรือไม่ก็ไม่ทราบ :P

ด้วยรัก

ผม เอง

PuppyPappir :P

Link to comment
Share on other sites

อ่านแล้วบางทีฮาๆตัวเอก คิดไปได้ =_=

ชอบเรื่องนี้อะ อ่านแล้วรักนายหนุ่มโง่ขึ้นมาเลย T_T

Link to comment
Share on other sites

นางสาวฉลาดที่สุดแต่ท้องไม่มีพ่อได้ไง  :pika01:

เรื่องการท้องไม่มีพ่อในสังคมปัจจุบันไม่ใช่สาเหตุจากความโง่หรือไม่โง่ครับ แต่เป็นสาเหตุจากความผิดพลาดหรือไม่ตางหาก

ซึ่งหลายครั้งที่คนที่เราไว้ใจกลับไม่ทำอย่างที่เราคิด นั่นคือสาเหตุของความผิดพลาดอันดับต้นๆครับ กรณีสาวฉลาดท้องก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความผิดพลาด

ถามว่าแล้วไปผิดพลาดได้ไง, ผมไม่ตอบประเด็นนนี้เพราะนี่เป็นเรื่องของชายโง่ไม่ใช่สาวฉลาด ฮ่าๆๆ

ผมตั้งใจจะสื่อความบริสุทธิ์โง่ๆที่ชายโง่มีออกมาผ่านเรื่องราวโง่ๆน่ะนะ เพราะงั้นบางประเด็นมันอาจดดูไม่สมเหตุสมผลถ้าใช้ความฉลาดคิดนะครับ 5555

:pika11:

ผมไม่ได้ใช้สาวฉลาดกันหนุ่มโง่เป็นตัวแทนความฉลาดกับโง่ในสังคมนะครับ มันมีมากกว่านั้น ฮ่าๆ

ผมไม่รู้ว่าผมจะพูดอะไรแหะ ฮ่าๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ ^^

Link to comment
Share on other sites

ดูเหมือนการเป็นคนโง่จะทำให้มีความสุขดีนะเนี้ย....

ฉันก็อยากโง่ได้แบบนี้จัง~ ฉลาดแล้วเครียดเพราะรู้มากเกินไป เฮ้อ~

Link to comment
Share on other sites

โง่ก็เลยคิดแบบวิธีโง่ๆคิดอะไรพูดไปแบบนั้น

ฉลาดมากแล้วมักจะแกมโกงอ่ะน่ะ

Link to comment
Share on other sites

ในโลกจริงๆคงไม่มีใครที่โง่แล้วได้ดีแบบคนๆนี้หรอกจริงมั้ยครับ

การโง่ไม่ได้ทำให้มีความสุขขึ้นหรอกนะ

มันอยู่ที่ว่าโง่ หรือแกล้งโง่ได้ถูกเวลารึเปล่าเท่านั้น

ฉลาดไปซะทุกเรื่องคงไม่มีความสุขหรอกใช่มั้ยครับ :P

Link to comment
Share on other sites

Guest bulbabenz

คนแต่งติดพิมพ์อังกฤษสินะ อร๊าย! คอมม่ามาเป็นแถว

**เจอลูกมะพร้าวหล่นกระแทกเฮด**

เป็นนิทานที่สนุกและอ่านได้เพลินมากครับ

เอ่อ ไม่มีอะไรพูดแฮะ

แต่ก็ทำให้นึกวันเก่า ๆ ขึ้นมาได้แปลก ๆ

เอาเป็นว่า มันเคลียร์ในตัวดี

ในที่สุดก็นึกออกว่า นิทานเป็นยังไง...

Link to comment
Share on other sites

พูดให้ถูกคือผมเอาคอมม่ามาใช้มากขึ้นครับ มันเอาไว้คั่นประโยค อะไรทำนองนั้นได้ ผมว่ามันทำให้ดูแปลกตาดี (อันที่จริงมีนักเขียนหลายท่านใช้วิธีเขียนแบบนี้น่ะครับ)

สามารถเว้นวรรคการอ่านได้ง่ายขึ้นและมันดูเน้นข้อความที่ผมต้องการเน้นได้ดีมากขึ้นด้วยนะครับ

แล้วมันก็จะได้ไม่รกตาด้วยตัวอักษรหรือด้วยคำเชื่อเช่น เพราะ เนื่องจาก อะไรเหล่านี้เกินไปครับ

แต่อาจจะดูสะดุดตาไปนิดนึงก็ขอโทษครับ ฮ่าๆๆๆ

Link to comment
Share on other sites

โอ้ สุดยอดเลยแฮะ แต่งเก่งมากเลยทีเดียว /เป็ฯผมผมก็คิดอะไรแบบนี้ไม่ออกนะเนี่ย..

ฮ่ะๆๆ... เหมือนงานผมด้อยไปเลยวุ้ย เจอแบบนี้ lllllorz

Link to comment
Share on other sites

สะดุดเหรอ...ไม่นะ ผมมองว่าเหมือนเป็นตัวเบรกอารมณ์ในแต่ละช่วงๆ มันทำให้ผมนึกภาพตามได้ง่ายมากเลยครับเวลาอ่าน เพราะเราอ่านทีละตัว เราก็นึกถึงทีละอย่าง แล้วค่อยๆประกอบกันขึ้นเป็นภาพที่ถูกเติมเต็มในแต่ละบรรทัด

และที่สำคัญอีกอย่างเลยก็คือ การเว้นบรรทัดแบบนี้ดูเป็นเอกลักษณ์มากๆ ดูไม่เหมือนใคร และไม่มีใครในบอร์ดนี้แต่งฟิคแนวแบบนี้ซะด้วยสิ ผมชอบครับ

ตอนแรกๆอ่านแล้วสมเพชนายโง่แฮะ แต่อ่านไปๆมาๆ ผมชักชอบนายโง่นี่ขึ้นมาซะแล้วสิ โคตรพระเอกเลยเว้ย :pika01:

รู้สึกเจ็บใจตัวเองแฮะที่มาเห็นฟิคนี้ช้าไป ขอเก็บฟิคนี้ใช้ศึกษาด้วยละกันนะครับผม

Link to comment
Share on other sites

  • 4 months later...

**กระดื้บโผล่จากมุมมืด**

ก่อนอื่นขออณุญาติขุดกระทู้นิดนึง

พอดีต้องการจะติดต่อเจ้าของฟิคเล็กน้อย(ถึงมาก?) ขอรับ

เนื่องจากปีนี้มีเรียนวิชาComputer Animation แล้วเปิดมา อาจารย์ให้เริ่มทำสตอรี่บอร์ดเลย โดยให้เนื้อหาออกแนวสอนเด็ก สะท้อนสังคม

ให้มีเนื้อหาความยาวสิบห้านาทีโดยประมาณ

ผมเลยคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แล้วก็เสนอให้เพื่อนในกลุ่มดู ก็ตัดสินใจจะเอาเรื่องนี้ไปทำ (แต่อาจจะเปลี่ยนเรื่องอื่น ตอนนี้เสียงอยู่ที่สองต่อสาม)

ก็เลยมาขอคนแต่งหน่อยครับว่า จะเอาพล้อตเรื่องนี้ไปใช้และแก้ไขได้ไหมครับ

ขอบคุณล่วงหน้า

ตอนนี้เปิดบล๊อคกลุ่มไว้ที่ http://hadane.wordpress.com/

อนึ่ง ใครมาเห็นโพสนี้สนใจเสนอเรื่องก็ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับผม

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.