Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ : The Lost Alphabet Santuary


Version5

Recommended Posts

เวลาว่างๆ ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็เลยอยากลองแต่งนิยายมา(เพราะไม่มีอะไรทำ)

ส่วนจินตนาการก็ไปไกลเกินกว่าที่จะจำได้ เลยรัวคีย์บอร์ด เขียนนิยายเอา หวังว่าจะสนุกนะครับ :pika01:

ฟิคเรื่องนี้ก็เกิดจากการที่ผมจิ้นคิดขึ้น อาจจะแต่งไม่ดี แต่ก็อยากให้คนอื่นมาอ่าน ติได้นะครับ ไม่ว่าครับ :pika01:

____________________________________________________________________________

สารบัญ

Noname Legend                                                                        P. 1

Noname Legend : Limit Storm                                                  P. 8

The Dark Bright <Side Story>                                                    P. 13

The Lost Alphabet Santuary                                                      P. 14

___________________________________________________________________________

บทนำ

ณ ดาวดวงหนึ่ง ที่ห่างไกลจากโลกมากนัก เป็นดาวที่มองแล้วสบายตา

      มีสีฟ้าสลับเขียวมองให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของดาวดวงนี้ แต่บนอวกาศ ก็มียานอวกาศลำใหญ่ลอยดูอยู่ไกลๆ

      “ดาวดวงนี้สินะ ที่มีโปเกมอนกับมนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ”  เสียงของชายสูงอายุพูดขึ้น

      “ถ้านำโปเกมอนที่มีพลังแข็งแกร่งละก็ โลกคงจะชนะสงครามนี้ได้แน่”  อีกเสียงของชาย น่าจะวัย 30 ต้นๆ พูดต่อ

      “แต่เราจะทำยังไงละ คงไม่มีโปเกมอนตัวไหนยอมเข้าพวกเรา”  เสียงของผู้หญิงเลยวัยสาวบอก

      “ไม่ต้องห่วง มาร์ มีโปเกมอนตัวหนึ่งที่ฉันแอบติดต่อลับๆแล้ว และจะให้ความร่วมมือกับเราด้วย หึหึหึ”

      เสียงของชายสูงอายุทำให้คนในห้องประชุมเฮขึ้น

      “สงครามนี้ เราต้องชนะ” เสียงกระหึ่มในห้องประชุมบนยาน เสียงคนตะโกนจนฟังไม่ได้ศัพท์

      “แต่ก่อนอื่น โปเกมอนขอให้เราช่วยทดลองบางอย่าง เกี่ยวกับมนุษย์คนหนึ่ง และโปเกมอนตัวหนึ่งที่โปเกมอนตัวนั้นส่งมาให้เราแล้ว”

        หึหึหึ ส่วนเจ้ามนุษย์นั่น ก็คงจะโดนจับได้เร็วๆนี้

      ณ บนดาวนั้น มีแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล มีผืนน้ำที่ใหญ่ไม่แพ้กัน แต่ดูจะต่างจากโลกโดยสิ้นเชิง

      ผืนน้ำที่สะอาดสดใส กว้างโอบล้อมแผ่นดินทั้งหมดไว้ จะมีเกาะบ้างเล็กน้อย

      ดาวดวงนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยบางอย่าง เช่น ใช้เสก็ตบอร์ดติดเครื่องยนต์ซึ่งง่ายต่อการเดินทางแทนจักรยาน

      ในโลกใบนี้ เวลาจับโปเกมอน จะขึ้นอยู่กับความพอใจของโปเกมอนตัวนั้น ว่าจะยอมร่วมทีมหรือไม่

      ถ้าอยากได้โปเกมอนที่แข็งแกร่ง ย่อมต้องมีการทดสอบความสามารถ เช่น ต่อสู้จนกว่าโปเกมอนตัวนั้นจะยอมรับเราได้

      แต่เมื่อโปเกมอนเข้าไปในโปเกบอลแล้ว ไม่ว่าจะอยู่กับเจ้านายเพราะเหตุใด มันจะต้องปกป้องเจ้านายจนกว่าจะชีวิตหาไม่

เกริ่นมาพอแล้ว คงจะเริ่มเรื่องได้แล้วนะ =w=

_____________________________The First Chapter_____________________________________

บทที่1

นี่ฉันอยู่ไหนเนี่ย จำได้ว่าก่อนหน้านั้น ฉันไปทำงานที่โปเกมาร์ทอยู่เลย แล้วหลังจากเลิกงาน เหมือนหัวจะมึนๆแหะ

      ทำไมฉันมานอนอยู่ในห้องนี้ได้ละเนี่ย เตียงก็แข็ง เหมือนเตียงผ่าตัด ห่างซัก5เมตร เห็นหลอดทดลองใหญ่มาก บรรจุโปเกมอนอยู่

      ตัวไรเนี่ยทำไมมันคุ้นตาจัง ทำไมสภาพห้องนี้เหมือนห้องทดลองเลย หรือว่าเพราะฉันเถียงลูกค้านั่นเลยถูกจับส่งมาที่นี่ ...

      ไม่มั้ง คุณเชสเป็นเจ้านายที่ดีเสมอเลย ใจดีด้วย ดีเกินไปมากๆ ไม่มีทางทำงี้แน่

        ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อย ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาจากประตูหาฉัน

        “!#@&^$&@^&!#!@$(“  ผู้ชายคนนั้นพูด แต่ฉันฟังไม่ออกเลย= =”

        จู่ๆ เค้าก็ยกเข็มฉัดยาที่มีน้ำสีม่วงๆอมฟ้าอยู่ จ้องหมายจะฉีดใส่ฉัน

        “เห้ย อย่านะเฟร้ย ฉันไม่ชอบเข็มฉีดยา”  พูดไปงั้นแหละ พวกนั้นคงฟังออกละ

        พอเข็มเริ่มเจาะเข้าสู่เส้นเลือดแล้ว เหมือนมีพลังบางอย่างอยากจะพุ่งออกมาจากมือฉัน เจ็บก็เจ็บ ทำไมเริ่มปวดหัว ... แรงขึ้นเรื่อยๆ

        “@@@@!!!” พวกโรคจิต (ฉันตั้งให้) เริ่มกุมหัวเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วก็สลบไปหมด สิ่งที่ทำจากแก้ว เริ่มร้าว และ...

        “เพล้งๆๆๆ” เสียงกระจกดังขึ้น หลอดทดลองแตก พอโปเกมอนเริ่มรู้สึกตัว แรีบมาหาฉัน จ้องตาฉัน แล้วฉันจะสลบไป

        และเสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือ “Teleport”

___________________________________________________________________________________________

        “ช่วย....เรา......ด้วย” เสียงเหมือนเสียงโปเกมอนพูดขึ้น แต่ฉันไม่น่าจะฟังได้เลยหนิ แล้วนี่เราอยู่ไหนกัน (ฟระ)

        แล้วก็มีโปเกมอนตัวหนึ่ง เป็นมังกรใหญ่มาก สีขาวลายดำสลับแดง

        “หึหึ โลกนี้ต้อง.........”เสียงเจ้ามังกรนั่นพูดขึ้น แต่อยู่ดีๆเหมือนฉันฟังไม่ออกขึ้น

        “ส่วนแก ตายๆไปซะเถอะ”คราวนี้ฉันฟังได้แม่น มันพ่นไฟใส่ฉันมา อร๊ากกก ฉันยังไม่อยากถูกย่างสดตอนนี้

        แต่แล้วก็มีโปเกมอนตัวหนึ่งมากันฉันไว้ แต่อยู่ดีๆ

        “แฮ่ก แฮ่ก” นี่ฉันจะตื่นไมวะเนี่ยยยย กำลังไคลแมกซ์ T T

        “ฝันร้ายหรอเนี่ย” ... แต่แปลกจัง ฝันร้าย2ครั้งในความฝันครั้งเดียว ฉันไม่เคยเป็นมาก่อนนะ

        ฉันก็มองไปดูที่แขน แล้วเห็น.... รอยเข็มฉีดยานั่น อ่า... ฝันร้ายเรื่องแรกที่สงสัยจะเป็นจริงนะ ถ้าเป็นจริง แล้วเรามาอยู่บ้านได้ไง

        แล้วโปเกมอนทำอะไรเรา แล้วฝันร้ายเรื่องที่ 2 ละ ?

        พอมองไปรอบๆ ก็อยู่ในห้องฉันหนิ ไม่มีทางเป็นห้องคนอื่นได้แน่ เพราะห้องฉันซีกซ้ายเป็นสีฟ้าทะเล

        ส่วนซีกขวาเป็นสีเขียวอ่อนนะสิ ไม่มีใครคิดบ้ามาลอกเลียนแน่

        พอเหลือบไปมองข้างๆ ก็เห็น ... โปเกมอนตัวที่ทำให้ฉันหลับ มันกำลังหลับอยู่....

        “เห้ยยยยยยยยย” ฉันเริ่มอยากบ้าละตอนนี้ เกิดมายังไม่เคยนอนกับโปเกมอนเลยนะเฟร้ย

        แต่เหมือนโปเกมมอนตัวนั้นเริ่มตื่นเพราะเสียงตะโกน

        “นี่นายเป็นอะไรนะ ขอหลับแบบมีสุขจะได้ไหม” ไม่จริงนะ นี่ฉันฟังโปเกมอนพูดออกได้ด้วยหรอ ไม่จริงม้างงง หูฝาดแหงมๆ

        “นายไม่ได้หูฝาดหรอก” อ่าวเห้ย โปเกมอนตัวนี้มันอ่านใจฉันออกด้วยเรอะ

        “เห้อ ขอบใจนะ ที่ช่วยฉันออกจากห้องบ้าๆนั่น แล้ว นี่ฉันอยู่ไหนอะ แล้วนายชื่อไร” อยากจะบอกอีก ว่าตอนนี้ งงไปหมดแล้ว

        “โอเคๆ ตอนนี้ นายอยู่ในคอนโดของนาย ในห้องของนายน่ะ ส่วนฉัน ชื่อมิวทู น่าจะเคยได้ยินนะ” ฉันอึ้ง อึ้งสุดๆ

        ก็ไอตัวนี้เคยเป็นข่าวอยู่ว่าเป็นโปเกมอนลึกลับ แล้วทำไมถึงอยู่ในห้องทดลองโรคจิตนั่นได้

        “ฉันโดนโปเกมอนที่มีพลังสูงกว่าฉันจับมานะสิ แล้วโดนเจ้านั้นส่งไปให้องค์กรบ้านั่นทดลองอะไรก็ไม่รู้”

        มิวทูพูดเสียงเหมือนจะอาย อายอะไรนะ

        “ว่าแต่ นายรู้มั้ย ว่าโปเกมอนในตำนาน หรือ เทพบางตัวน่ะ มีเพศด้วยนะ!” เอาจริงนะ ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าเจ้านี่มันจะมีเพศด้วย

        “แล้วนายจะบอกฉันทำไมละ หรือว่าจะบอกว่านายไม่มีเพศ”

        “ปากเสีย เหตุผลไม่รู้หรอก แล้วก็...” เหมือนแสงอาทิตย์กับมุมมองเต็มใจทั้งที่ห้องนี้แสงไม่น่าจะเข้ามาได้เลย

        แต่ตอนนี้แสงอาทิตย์กลับเข้ามาซะงั้น พอมิวทูเริ่มพูดอีกประโยค

        “จริงๆแล้ว ฉันนะ เพศเมียนะ!!” นี่ฉันคิดไปเองหรือเปล่า ว่า..

        พอมิวทูพูดประโยคแบบนี้ มันน่ารักขึ้นมานิดนึงด้วย.. สงสัยจะคิดไปเอง=w=

_____________________________________________________________________

อาจจะสั้นไปบ้าง ขอโทษด้วยนะครับ เพราะที่ผมแต่งค้างไว้ มันแต่งจนเพลิน= =" :pika11:

ปล. ขอบคุณศจ.นะครับ ที่สอนวิธีโพสฟิคลงบอร์ดนี้ ขอบคุณจากใจเลยคร้าบบ~~~

(ก้มหัวให้ดูดีดูอย่างที่เคยเข้าร่วมมารยามงามที่ไม่อยากไปแต่ก็โดนบังคับได้ที่1มา)

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 387
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Version5

    164

  • Loveless Nova

    93

  • SKYNET

    66

  • Tym

    34

Top Posters In This Topic

อุ๊บ....เจอเรื่องน่าสนใจที่จะอ่านแล้วสิ ครึๆๆๆ

มิวทูตัวเมียนี้น่าสนแฮะ....>w<

ปล.อธิบายเรื่องช้าๆก็ได้ ไม่ต้องรีบหรอก แรกๆเกือบตามเรื่องไม่ทัน ^^"

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณครับ >< จะพยายามต่อไปครับ :pika01:

บทที่ 2

“จริงง่ะ ไม่เชื่อสุดๆ” ฉันครางขึ้น แต่ก็โดนมิวทูสวนที่ท้อง เจ็บเป็นบ้าหงะ

        “จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ ว่าแต่นายชื่อไรหน่ะ” มิวทูถามขึ้น แต่ฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆเหมือนมีใครหรือตัวอะไรมองอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

        “เบต้า ฉันชื่อเบต้า ไซด์เดอร์ เรียก บี ก็ได้ ว่าจะ อยากถามนานละ ทำไมฉันฟังเธอพูดได้นะ” เกือบพูดเป็น นาย ไม่ก็แกแล้ว

        ไม่งั้นนะ เหอๆ โดนสวนอีกรอบชัวร์

          “นายจำตอนที่นายโดนสารฉีดเข้าร่างกายนายไหม นั่นนะ เป็นDNAของฉัน ฉันคิดว่า เจ้าพวกนั้นมันทดลองให้มนุษย์กลางร่างเป็นฉัน

          แต่DNAที่มันฉีดนายเข้าไป พวกมันทำให้มันเข้มข้นมากไป แต่พอฉีดเข้าร่างกายนาย เหมือนมันรวมตัวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

          นายจึงสามารถใช้พลังจิตได้บางครั้ง และก็เป็นผลให้นายสามารถฟังและพูดกับโปเกมอนได้” 

          เป็นประโยคแรก ที่มิวทูพูดยาวมาก และสมองฉันจะรับได้ไหมเนี่ย

          “ฉันอธิบายเยอะแล้วนะ นายน่าจะอธิบายต่อได้แล้วมั้ง วิคตินี่ นายมองนานแล้ว” พอมิวทูพูดขึ้น ฉันก็เห็นโปเกมอนน่ารักๆลอยมา

          “กิ๊ๆๆ ฉันว่าเธอจะเล่าหมดเลยซะอีกนะ มิวทู” วิคตินี่พูดขึ้น แต่ทำไม เสียงกิ๊ๆ นี่มันหัวเราะหรอ น่ากลัวชะมัด

          “ให้นายอธิบายดีแล้ว แล้วไดอัลเกีย กับ พัลเกียละ ยังทะเลาะเรื่องเดิมๆอยู่ใช่เปล่า” มิวทูพูดขึ้นต่อ แต่ตอนนี้ ฉันงงไปหมดแล้ว

          โปเกมอนตัวไรอีกเนี่ย

          “อืม ทะเลาะจนเชมี่ อัลเซอุสกับเครซเซอเรียปวดหัว แต่ฉันว่า เชมี่กับอัลเซอุสปวดหัวอยู่สองคน (ตัว)

          ส่วนเครซเซอเรียมีดาร์กไรปลอบคงไม่เป็นไรมั้ง”

          “ว่าแต่ว่า โปเกมอนที่พวกนายพูดนะ คืออะไรหรอ” ฉันพูดบ้าง แต่เหมือนกับวิคตินี่เพิ่งรู้ว่าฉันอยู่นานแล้ว

          มันน่ากระทืบทิ้งแต่เพราะความน่ารักทำให้กระทืบไม่ลงเลยแหะ

          “นายเป็นใคร อ่อ คนที่ถูกองค์กรนั่นทดลองสินะ ไดอัลเกีย เป็นเทพควบคุมเวลา ส่วนพัลเกียเป็นเทพควบคุมมิติ

          ทั้งสองต้องอยู่ด้วยกันเสมอ แต่พออยู่ด้วยกันทีไร ต้องทะเลาะเรื่องเชมี่ทุกที เห้อ ฉันละเบื่อ” วิคตินี่ลอยมาหาฉันแล้วพูดขึ้น

          แล้วลอยกลับไปกระซิบกับมิวทู พอกระซิบได้ไม่กี่คำ มิวทูก็หน้าแดง... แดงเรื่องไรวะ แต่นี่ฉันคิดไปเองอีกรึเปล่า

          ว่าตอนมิวทูหน้าแดง น่ารักอะ สมองท่าจะเพี้ยนไปแล้วแหงมๆ

          “ส่วนเชมี่หน่ะ เป็นโปเกมมอนในตำนาน แต่ที่มันสามารถอยู่กับเจ้าพวกนี้ได้ เพราะมีพลังสูงอยู่ แต่ฉันว่า

          พอไดอัลเกีย กับ พัลเกียเจอเชมี่พร้อมกันนี่สิ เห้อ หนักใจ” วิคตินี่ พูดไปก็บ่นไป แต่พอมันจ้องตาฉัน

          มันก็ลอบไปกระซิบหามิวทูอีกที แล้วเหมือนมิวทูก็หน้าแดงขึ้นด้วย เพราะอะไร ฟระ อยากรู้จริงๆ แต่สมองท่าจะเพี้ยน

          มิวทูหน้าแดงแบบนี้ก็น่ารักแหะ

          แต่พอวิคตินี่จ้องฉันใหม่ ก็หันไปกระซิบมิวทูอีกที คราวนี้ มิวทูหันหน้าหนีเลย เพราะอะไรหว่า ส่วนเจ้าวิคตินี่ก็หัวเราะกิ๊ๆ

          เหมือนสะใจ แต่ฉันฟังแล้วขนลุกเลย ว่าโดนแกล้งแหงมๆ พอเจ้านี่หัวเราะอย่างพอใจแล้วมาอธิบายต่อ

          “ส่วนอัลเซอุสเป็นผู้คุมความสมดุลธาตุของโลกใบนี้ ส่วนดาร์กไรเป็นผู้ควบคุมความมืด และเครซเซอเรียเป็นผู้คุมแสงจันทร์

          ไม่ให้สว่างน้อยหรือมากเกินไป เพราะจะทำให้โปเกมอนบางกลุ่มที่ต้องเปลี่ยนร่างตอนที่มีแสงจันทร์เปลี่ยนร่างไม่ได้ หรือ

          อาจจะกลายเป็นแบบอื่น” ฉันงง งงมากด้วย ว่าทำไมต้องมานั่งฟังเรื่องแบบนี้

          “เอ้อ ขอแฉอีกอย่างนะ เจ้าดาร์กไรกับเครซเซอเรียนะ กำลังหวานได้ที่เลยละ!!” เห้ย มีงี้ด้วยหรอ

          โปเกมอนรักกันไม่ว่า แต่เทพรักกันมันแหม่งๆนะ

          ส่วนเจ้าตัวนี้ไม่สนใจ หัวเราะแบบสะใจกิ๊ๆ แล้วพูดต่อว่า

          “อย่างสุดท้ายนะ ฉันอ่านใจคนได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่นายคิดในใจแล้วพอฉันบอกมิวทู มันสะใจสุดยอดเลยละ ไปละนะ บายยยย~~”

          พูดเสร็จก็รีบหนี เห้ย อย่าบอกนะ ว่าไอ้ที่มิวทูหน้าแดง เพราะนายน่ะ ไม่จริงงงง

          ระหว่างบ่นก็เห็นมิวทู เอาหมอนซุกใบหน้าตัวเองเหมือนจะอายมาก ฉันเห็นแล้ว น่ารักแหะ เห้ย นี่ฉันคิดไรอยู่เนี่ยย~~~

          ว่าแต่ เจ้าวิคตินี่กวนชะมัด เห็นน่ารักประมาทไม่ได้เลย แต่มันยังไม่บอกอีกอย่างเลยหนิ ว่าไดอัลเกีย กับ พัลเกียทะเลาะเรื่องไรหว่า

ว่างๆจะทำข้อมูลตัวละครนะครับ :pika11:(ถ้าว่างนะ)

Link to comment
Share on other sites

วันนี้เลิกช้า เลยอัพช้านิดนึง

บทที่ 3

  “นี่ เธอน่ะ จะซุกอยู่ในหมอนอีกนานแค่ไหน” ถึงจะบอกแบบนี้ ฉันก็อายนะ เจ้าวิคตินี่มันเล่นอ่านในคนเลย แต่

          มิวทูอ่านใจคนได้หนิ ทำไมเหมือนกับเพิ่งรู้หว่า

          “ก็ฉันอายนี่ ฉันอ่านใจคนทางสีหน้านะ” มิวทูเริ่มบอกเหตุผล

          “ว่าแต่ พวกองค์กรนั่นจับตัวเราไปทำไมน่ะ” ฉันถามขึ้น เพราะมันงงจริงๆ

          “จริงๆแล้ว ฉันมีภารกิจอย่างนึงอยู่ ซึ่งต้องไปหานาย แต่ระหว่างทาง ถูกกราติน่าจับไป ฉันว่า กราติน่า

          กับ องค์กรนั่นน่าจะร่วมมือทำอะไรซักอย่างอยู่แน่” มิวทูบอกมาแบบนี้ ฉันก็งงดิ โปเกมอนตัวไรอีก

          พอทำหน้างง ทิวทูเลยให้ความกระจ่าง

          “กราติน่า เป็นเทพลึกลับ ฉันไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้ว มันทำอะไรได้ เพราะคนที่รู้ มีแค่อัลเซอุสกับดาร์กไร ฉันได้ยินแค่ชื่อกับรูปร่าง”

          “แล้ว เธอทำไมต้องมาหาฉันละ” นี่ก็อีกเรื่องที่งง

          “ท่านเชมี่บอกมาให้มาหานาย แต่ท่านบอกว่า ระหว่างทางอาจจะอายนิดนึง ฉันเข้าใจเลย ทำไมถึงบอกแบบนั้น”

          ยิ่งพูด ยิ่งแดง แล้วสร้อยคอที่มาจากไหนก็ไม่รู้กับกำไล โผล่มาจากมือของมิวทู

          “ท่านเชมี่ให้นายมา สร้อยคอขนนกทำให้นายสามารถควบคุมพลังได้ แต่ต้องพยายามนิดนึง ส่วนกำไลใบไม้

          ให้ใส่เฉพาะตอนที่นายเปลี่ยนร่าง เพราะมันจะทำให้นายกลายเป็นมนุษย์ได้ 3 ชั่วโมง หลังจากใช้แล้ว

          ต้องรออีก 7 วันถึงจะใช้ใหม่ได้” ห๊ะ ว่าไงนะ นี่ฉันเปลี่ยนร่างได้เรอะ ไม่จริงน่า โม้แหงๆ

          “สาเหตุก็เพราะนายไปรับDNAของฉันซึ่งถูกองค์กรบ้านั่นทำให้มันเข้มข้นขึ้นอีก ทุกๆ 15 วัน นายจะกลายร่างเป็นมิวทูเหมือนฉัน 1 วัน

          แค่ครึ่งร่างนะ และ อาจจะทำให้นายมีความรู้สึกแปลกๆด้วย” พอมิวทูอธิบายจบ สมองฉันเริ่มหยุดทำงาน นี่มันบ้าอะไรกัน

          “แล้วมันจับตัวฉันทำไม” อันนี้ยังสงสัยไม่หาย

          “ก็เพราะฉันต้องใช้พลังจิตหานายไง พอฉันโดนจับไป มันก็ใช้เครื่องอะไรไม่รู้ ทำให้เห็นพลังจิตที่ฉันส่งไปหานาย

          มันก็เลยคิดว่า นายจะสามารถควบคุมฉันได้มั้ง” มีมั้งด้วย เห้อ ชีวิตเราช่างลำบากอะไรอย่างนี้นะ

          “ขอถามอีกอย่างนะ ไดอัลเกีย กับ พัลเกียทะเลาะกันทำไม” เป็นอีกเรื่องที่ยังสงสัยไม่ใช่น้อย

        “ก็เพราะทั้งสองคน(ตัว) แอบชอบท่านเชมี่นะสิ!!” เย้ย กลายเป็นทะเลาะเพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ ชักสงสารท่านเชมี่ซะแล้วสิ เอ๊ ท่านเชมี่ ทำไม?

        “ทำไมเธอต้องเรียกเชมี่ ว่า ‘ท่านเชมี่’ ด้วย”

        “ความลับ” โอ้โห สุดยอดจริงๆ มีความลับซะด้วย

        “เตรียมตัวเสร็จยัง เราต้องไปพบท่านเชมี่นะ”

        “ไปทำไมนะ ฉันยังไม่มีโปเกมอนเลยนะ ถ้าฉันเอาเธอออกมาสู้นะ รับรอง เราสองคน (?)

        ได้ขึ้นหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ชัวร์” ฉันเริ่มเถียง แต่ความจริง ไม่อยากออกจากเมืองแถบนี้ต่างหาก

        “ต้องไปพบนะ แล้วนายจะได้รู้เรื่องทั้งหมดที่อยากรู้”

        “โอเคๆ สรุปคือต้องไปสินะ เดี๋ยวขอไปลางานแปป ฉันว่าคุณเชสน่าจะให้นะ” หลังจากพูดเสร็จ ก็เข้าไปอาบน้ำ

        แปปเดียวก็ออกมาในชุดสบายๆ เหมาะแก่การเดินทาง ชุดเข้ากับผมสีดำของฉัน(พี่เชสซื้อให้)

        “จะไปกันยัง” มิวทูพูดขึ้น

        “แล้วฉันจะเก็บเธอยังไงน่ะ ฉันไม่มีโปเกบอลนะ” พอฉันพูดถึงตรงนี้เสร็จ มิวทูก็สวนขึ้นแบบทันที

        “ฉันไม่เข้าไปในโปเกบอลที่เค้าวางขายหรอก ไม่มีวันและ ไม่มีทาง!”

          คือ อยากจะรู้ว่า ทำไมอะ แต่มิวทูก็อ่านสีหน้าแล้วตอบฉัน

        “นายไม่รู้สินะ ว่าเมื่อโปเกมอนเข้าไปในโปเกบอลแล้ว จะเหมือนกับการล้างสมองดีๆนี่เอง

        มันจะจำได้เฉพาะเรายอมรับคนๆนั้นไปแล้ว แต่จะไม่รู้ ว่า เหตุผลจริงๆ คืออะไร” พอมิวทูระบายเสร็จ ฉันก็เข้าใจเลย

        “ขอโทษนะ ที่ต้องใส่อารมณ์แบบนี้” เธอขอโทษฉัน แล้วทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้ แต่ฉันเห็นแล้ว น่ารักมาก อ๊าก

          นี่ฉันคิดไรอยู่เนี่ยยย! พอคิดเสร็จ เสียงอธิบายที่มิวทูเคยพูดก็ดังอยู่ในหัว

‘ทำให้นายมีความรู้สึกแปลกๆด้วย’

        “ไม่เป็นไรหรอก แล้วจะทำยังไงละ” ฉันถามเพราะไม่รู้แล้ว ว่าจะซ่อนยังไง

        “ไม่ต้องห่วง ฉันไปแอบขโมยโปเกบอลที่ไม่สมบูรณ์มาแล้ว ทำให้ไม่โดนล้างสมอง แต่ยังเก็บโปเกมอนได้อยู่” พอบอกแบบนี้ ฉันก็โล่งอก

        “แต่ว่า นายมีข้อจำกัดนะ” พอคุณเธอบอกแบบนี้ ฉันเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ

        “จริงๆ ทุกคนสามารถพกโปเกมอนได้สูงสุด 6 ตัว แต่สำหรับนาย พกได้แค่ 5 ตัวนะ!” อ่าวเห้ย ทำไมเป็นงี้ละ

        “เพราะว่า 1ใน6 นั้นมีฉันอยู่ ทำให้นายพกได้แค่ 5 และเมื่อตอนที่นายเปลี่ยนร่างแล้ว มันก็จะนับนายเป็นโปเกมอนด้วยนะ!”

          ฉันต่อสู้ไม่เป็น อย่าเอาฉันไปมีเอี่ยวสิฟระ ฉันเคยแค่เรียนวิชาป้องกันตัวจากพี่เชสนะ

          เจ๊แกยัดทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันตัวให้ฉันหมดเลยเนี่ย แต่ความตกใจขอฉันยังไม่หมด เมื่อมองไปที่กระจกก่อนถึงประตู

          “ว่าแต่ ฉันจำได้นะ ว่าสีตาฉัน สีน้ำตาลไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงกลายเป็นสีน้ำตาล กับ สีม่วงละ” ถ้าเป็นงี้แล้วจะอธิบายให้พี่เชสไงดีวะเนี่ย~

Link to comment
Share on other sites

ดูสองคน...ไม่สิ...หนึ่งคนกับหนึ่งครึ่งตัวครึ่งคน(เรียกไงดีฟ่ะ)พูดคุยกันแล้วอดอมยิ้มไม่ได้เลยสินา ไม่ได้โม้นะ!  :pika01:

จะเฝ้าดูต่อไปนะขอร้าบ!!

Link to comment
Share on other sites

ตอนใหม่มาแล้วง้าบ เพิ่งกลับมาก็ขอลงก่อนเลย  :pika01: :pika01:

บทที่ 4

          ฉันเดินออกมาจากคอนโดสำหรับคนฐานะปานกลาง สูง45ชั้น แล้วขี่ สเก็ตบอร์ดที่ฝากไว้กับพนักงานเดินไปทางยังโปเกมาร์ทที่ดีที่สุด

          ในละแวกนี้ พอเข้าไปแล้ว เสียงคุ้นๆก็ดังออกมา

          “สวัสดีคะ คุณเบต้า ไซด์เดอร์” เสียงที่คนอื่นฟังแล้วเคลิ้ม แต่กับฉันนะหรอ มีตายแหง ฟังแล้วขนลุกเลย เจ๊พูดชื่อเต็มซะด้วย

          “เฮ้อ บี ถ้านายอยากมาสายก็ไม่ว่านะแต่ช่วยโทรบอกก่อนก็ได้ โทรศัพท์ฉันซื้อให้เป็นของขวัญนายตั้งแต่ปีที่แล้วนะ

          ทำไมถึงไม่ยอมใช้ซะที แล้วทำไมสีตานาย...” พอเจ๊พูดถึงประโยคนี้ ฉันรีบวิ่งไปอุดปากเจ๊แล้วรีบลากพาไปบนห้องเจ๊

          ถึงรู้ว่าถ้าทำงี้มีเคลียร์ทีหลังก็เหอะ แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องสีตา ก็ต้องทำ

          “เบต้า มีเรื่องไรรึเปล่า เพราะได้ข่าวว่า นายถูกลักพาตัวไปเมื่อวานนะ ฉันเห็นกับตาเลย แต่ตอนนั้นฉันคิดว่าตาฝาด

          แต่พอจับต้นชนปลายแล้ว ฉันว่ามันมีเอื่ยวแน่ๆ และที่นายต้องพาฉันขึ้นข้างบน ไม่ให้ใครได้ยิน คงเพราะเรื่องนี้กับ... เรื่องอื่นสินะ”

          โอ้โห สมเป็นเจ๊จริงๆ ซิกเซนส์เจ๊ยังคงดีเหมือนเดิม แต่คราวนี้รู้สึกจะดีเกินไปหน่อยนะ

          “ผมขอบอกแค่เรื่องสีตานะฮะ แต่เรื่องอื่นขอไม่พูดได้เปล่าฮะ” เพราะไม่อยากบอกว่าไปเจออะไรซวยๆมา เจ๊เชสเลิกคิ้วแปลกใจ แต่ก็บอกว่า

          “โอเค ไม่เป็นไรหรอก ว่ามา” เจ๊พูดเหมือนมันง่ายจังที่จะบอกเนี่ย

          “คือ ผมไปโดนฉีดDNAของโปเกมอนเข้านะฮะ เลยกลายเป็นแบบนี้” จริงๆ ฉันละเรื่องขององค์กรนั่นไว้

          “เลยอยากขอพักงาน เพราะเจอเรื่องที่ทำใจไม่ได้นะครับ” พอแถเข้าไป เจ๊ก็ยิ้มชั่วร้ายทันที

          “แน่ใจนะ ว่าขอพักงานเพราะเรื่องนี้ แต่ ฉันจะไม่ถามนายเพราะฉันรู้ ว่านายมีธุระส่วนตัว แต่ก็ขอให้นาย

          ติดต่อฉันทุกวันด้วยมือถือนะ ถ้าไม่ติดต่อแม้แต่วันเดียวละก็...” เจ๊จะหยุดทำไมคร้าบบบ แค่นี้ฟังก็เสียวแล้ว

          “เอ้อ นายจะไปเมืองอื่นใช่ไหม แต่นายยังไม่มีโปเกมอนเลยนะ แต่ไม่ต้องห่วง ระหว่างทางกลับบ้านเมื่อวาน

          ฉันเจอโปเกมอนตัวที่นายชอบให้อาหารมันประจำ มันมาอ้อนฉันเหมือนอยากอยู่กับนาย ฉันเลยจับมาให้นายไง”

          โปเกมอนตัวไหนละฮะ ผมให้อาหารทุกตัวที่ผมเดินผ่านตอนขากลับนะ

          “เอ้า ลองเรียกดูสิ” เจ๊เชสให้โปเกบอล ฉันก็รับงงๆ แต่พอลองเรียกดูถึงรู้ ว่าโปเกมอนตัวไหนติดฉันมากที่สุด

          “ลีฟ~~” โปเกมอนคล้ายๆหมาป่าแต่ตัวเล็กกว่า แต่มีส่วนหาง หู และขาบางจุด เป็นใบไม้

          “นี่มันลีเฟียนิ” ฉันยกมันขึ้นมาดู มันก็ยิ้มน่ารักพร้อมพูดว่า

          “พี่คะ เล่นกัน” เห้ย นี่ฉันฟังโปเกมอนพูดได้ อ่อ ลืมไป มีDNAอยู่นี่หน่า

          “ฉันมีลางให้ใช้โปเกบอลที่ไม่สมบูรณ์ซะด้วย เลยใช้ลูกนั้นจับตัวนี้มาน่ะ” เจ๊พูดเสร็จก็เดินออกจากห้อง

          พอทำความรู้จักกับลีเฟียเสร็จแล้ว เจ๊เชสซึ่งหายไปจากห้อง เดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าเดินทาง

          “อะนี่ ของจำเป็น ข้างในมีพวกของฟื้นพลัง แผนที่กับเบอรี่บางชนิดไว้นะ แล้วก็ลางสังหรณ์ฉันบอกว่า

            นายไม่ต้องใช้โปเกบอลเลยไม่ได้ใส่ให้” พอพูดเสร็จก็ให้กระเป๋าฉันมา

          “ขอบคุณมากฮะ พี่เชส”

          “ไม่เป็นไรหรอก สำหรับฉัน นายน่ะ เป็นน้องชายที่น่ารักของฉันเลยนะ” พูดเสร็จ ฉันก็ซึ้งเลย ก็แน่ละสิ

            ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ 10ขวบได้แล้ว คนที่เก็บมาเลี้ยงก็คือพี่เชส พออายุ12 พี่เชสก็หางานมาให้ทำ จะได้มีรายได้

            หาเงินเองได้ พออายุ13 พี่เชสก็เปิดร้านขายของ ฉันเลยมีงานทำแบบถาวร

          “ขอบคุณมากนะฮะ ลาก่อนครับ” พูดเสร็จก็เก็บลีเฟียเข้ากระเป๋า แล้วเดินออกจากห้องไป

          ‘ลาก่อนนะ น้องรัก’ คพูดที่เหมือนจะเบามากลอยผ่านหูฉัน แต่พอหันไป ก็ไม่มีใครอยู่ แล้วก็ขี่สเก็ตบอร์ดจากไป

          “ไปกันแล้วละ ทางนี้คงต้องมีเคลียร์กับกลุ่มที่ทำแบบนี้กับเบต้าให้ได้” เชสต้าพูดคนเดียว แล้วสีตาข้างขวาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต...

          พอขี่สเก็ตบอร์ดเข้าไปกลางเมือง อยู่ดีๆ แดดก็เปรี้ยงเข้าตา แสบตาชะมัด แต่แค่นั้นแหละ เสียงตะโกนกับเสียงเหมือนระเบิดก็ดังออกมา

          “ตู้มๆ”

          “เห้ย ร้านฉัน” เสียงโวยวายพร้อมกับเสียงของมิวทูที่ดังอยู่ในหัวก็พูดขึ้น

          ‘นี่นายทำบ้าอะไรนะ ควบคุมพลังตัวเองให้ดีหน่อยสิ ทำร้านคนอื่นพังหมด’ มิวทูเริ่มโวยวาย

          เห้ย เสียงมิวทูดังมาได้ไง ก็มันอยู่ในโปเกบอลหนิ

          ‘ฉันใช้โทรจิตสื่อสารนาย นายก็น่าจะใช้ได้นะ ลองคิดในใจแล้วคิดจะพูดกับใครดูสิ’

          ‘โหลๆ ได้ยินไหม’ ฉันลองทำตามที่บอก

          ‘ได้ยินน่า นายควบคุมสมาธิให้ดีละกัน ไม่งั้นร้านคนอื่นพังอีกแน่’ มิวทูเริ่มบอกวิธีการใช้พลัง แต่เพราะมัวแต่ใช้โทรจิตคุย

            เลยชนกับคนอื่นเข้า

          “เห้ย นี่แกชนทำไม ตาไม่ได้ดูเลยหรอวะ” ทำไมต้องชนกับแก๊งค์อันธพาลด้วยนะ

            ‘ทำไงดีละ ไม่อยากมีเรื่องด้วย’ ฉันเริ่มปรึกษากับมิวทูแล้ว

            ‘สะกดจิตให้หลับไง เหมือนตอนที่ฉันใช้ให้นายหลับแล้วพากลับมานะ’

          “เห้ย นี่นายฟังอยู่เปล่า หูตึงหรอ” แก๊งค์อันธพาลก็โวยใหญ่ ชักรำคาญละ ทำให้หลับใช่ไหม ได้

          พอเริ่มคุมสมาธิ สีตาฉันที่มีสีน้ำตาลข้างนึงเริ่มเป็นสีม่วง และ

          “นี่ นายฟังอยู่เปล่าน.... คร่อกก” หลับทั้งแก๊งค์เลย ไม่รู้ทำไง เผ่นก่อนดีกว่า เพราะถ้าหลับแถวมุมอับคงไม่เป็นไร

          แต่นี่เล่นหลับกลางเมืองเลย ยังดีนะ ที่ไม่มีใครสงสัย เพราะไปจดจ่ออยู่ที่ร้านพังหมดแล้ว

Link to comment
Share on other sites

อืม อืม อืม....เร็วดีจริงๆ

เป็นเจ็ที่นิสัยดีจริงๆแฮะ หุ ลีเฟียรึ...

[ไม่หรอกนา....ไม่มีทางเป็นไปได้....เบต้าต้องไม่ใช่สายโลลิค่อนแน่...] = ="

เอสเปอร์ปรากฏตัวแว้ว!!!

Me/ พึมพำคนเดียวไปเรื่อย...

Link to comment
Share on other sites

อิอิ มาอัพต่อแล้วง้าบ

บทที่ 5

บทที่ 5

          ‘นี่มิวทู แล้วเราต้องไปไหนต่อละ’ ฉันถาม เพราะไม่รู้ว่าต้องไปไหนต่อ แถมยังไม่เคยออกจากเมืองนี้เลยด้วย เลยยังปรับตัวไม่ถูก

          ‘ตอนนี้เราอยู่เมืองอัลเทอร์ เราต้องไปที่เมืองมอเรีย แต่มันไกลไป เพราะงั้นเลยต้องใช้ทางลัด ถ้านายอยากใช้นะ’ มิวทูตอบกลับ

          ‘ทางลัดไหน ในแผนที่ไม่เห็นมีทางลัดเลย’

          ‘ก็ให้ฉันใช้ Teleport ไง แต่ยิ่งระยะไกล ยิ่งใช้พลังมาก แต่ถ้านายอยากขี่สเก็ตบอร์ดไป ก็คงราวๆ2-3วัน กว่าจะถึง’

          อะไรนะ 2-3เลย ก่อนหน้านั้นไม่มีเมืองให้หยุดพักเลยหรอ

          ‘ก่อนหน้านั้นก็มีเมือง นายอาจจะไปก่อนถึงเมืองมอเรียก่อน แล้วค่อยใช้เทเลพอร์ทเอาก็ได้นะ’ มิวทูพูดแล้วบอกแผนการณ์เดินทางต่อ

          ‘ทางที่ดี ฉันว่าให้เดินทางให้ได้ซัก1-2เมือง เพราะนายจะได้ฝึกให้ลีเฟียต่อสู้เป็นได้บ้างนะ

          แต่ถ้าอยากเอาแบบรวบรัดละก็ ไปยิมเลย แถวนั้นมียิมสำหรับเริ่มต้นด้วย’

          ‘ยิมคืออะไรอะ’ ฉันถามแบบหน้าด้าน ก็ไม่รู้หนิ มันคืออะไร สถานที่ออกกำลังกาย?

          ‘ยิมก็เหมือน สถานที่ไว้ต่อสู้กับโปเกมอนนั้นแหละ ถ้าเกิดไปชนะหัวหน้าเข้า ก็จะได้เข็มกลัดมา

          เข็มกลัดแต่ละชิ้นมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันไป เอาไง อยากลองไหม ขอบอกอย่างนึงนะ มันโหดมากสำหรับคนเริ่มต้นอย่างนาย’

          ‘ทำไมละ ไม่น่าจะโหดหนิ มันเป็นยิมเริ่มต้นนะ’

          ‘ใช่ มันไม่ควรโหด ถ้าตอนนี้คือเมื่อ100ปีก่อน’ เห 100ปีก่อนไม่เห็นจะมีใครมาปฏิวัติยิมเลยหนิ ถ้ามี พี่เชสคงยัดเรื่องนี้ไปด้วยแหงๆ

          ‘จริงๆก็คือ เมื่อก่อน แผนที่ไม่ใช่แบบนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เพราะมันกว้างขวางมากเกินไป และมีทะเลมากั้นแผ่นดินบางส่วน

            ทำให้การปกครองนั้นยากลำบากขึ้น โปเกมอนเทพจึงได้ตกลงกัน เวลาจะทำให้แผ่นดินรวมเป็นหนึ่งเดียว แล้วมีทะเลล้อมรอบ

            โดยแผ่นดินจะมีทะเลสาบและแม่น้ำให้เยอะ เพื่อที่จะสามารถตกปลา หรือนำน้ำไปใช้อุปโภค บริโภค’

            ฉันฟังแล้ว เริ่มชักจะ’ปวดตับ’ ขึ้นมาอย่างกะทันหัน

          ‘โดยที่กราวด้อน ผู้ควบคุมแผ่นดิน และ ไคออก้า ผู้ควบคุมท้องทะเล เป็นแกนนำในการทำครั้งนี้น่ะ แต่พอรวมกันแล้ว

            ผู้คนในแผ่นดินนี้จึงเยอะมากขึ้น และมีผลทำให้การคัดเลือกจตุรเทพ หัวหน้ายิม คนภายในยิม มีความโหดมากขึ้นกว่าเดิมไง

            และถ้ารวมๆแล้วนะ ทั้งแผ่นดินมียิมทั้งหมด 17ยิม 8ยิมเริ่มต้น 8ยิมธรรมดา กับอีก1ยิมสุดท้าย ซึ่งทุกยิมนั้น จะมีธาตุที่ต่างกันไป

            ส่วนจตุรเทพนั้นมี4คน กับแชมเปี้ยนอีก1คน’ โอย ฟังแล้วมึนหัวจริงๆ เรื่องแบบนี้ พี่เชสน่าจะเล่าให้ฟังนะ ทำไมถึงไม่เล่า

            ‘ที่ฉันเล่า เผื่อนายสนใจ เพราะฉันว่า นายควรจะมีเข็มกลัดติดตัวไว้บ้างสักนิดก็ยังดี เพราะบางเข็มกลัด

            ทำให้โปเกมอนนายเชื่อฟังเวลามันแข็งแกร่งขึ้นด้วยนะ แต่ฉันว่า ยิมเริ่มต้นที่จะถึงนะ นายชนะได้ง่ายมากๆเลยแหละ’

            ไหนบอกโหดไง แล้วมาบอกว่าฉันชนะง่ายๆอีก สรุปจะโหดหรือง่ายกันแน่

            ‘ที่บอกว่าง่าย เพราะมันเป็นธาตุหิน แล้วลีเฟียนายน่ะ ธาตุพืช ชนะสบายๆอยู่แล้ว ถ้าโปเกมอนนายมีความสามารถพอนะ’

            พอพูดถึงตรงนี้ ก็เข้าใจเกือบหมดแล้ว

            ‘สรุป ที่บอกให้เดินทางเอาเพราะฉันจะได้ฝึกลีเฟียภายในตัว และหาโปเกมอนตัวใหม่มาฝึกด้วยใช่มะ มิวทู’

            ‘ใช่แล้ว บี’ มิวทูบอก แต่มันเพิ่งบอกชื่อเล่นฉันครั้งแรกนะ ทำไมเนี่ย

___________________________________________________________________________________________

ด้านหนึ่งของมิติ

            “ไดอัลเกีย พัลเกีย หยุดทะเลาะซักทีจะได้ไหม ฉันรำคาญจะแย่แล้วนะ” อัลเซอุสเริ่มสั่งแกมบังคับ แต่ทั้งสองเทพก็สวนขึ้นมาเลย

            “ไม่ จนกว่าจะรู้ ว่าใครจะได้เดทกับเชมี่”

            แต่ในที่สุด เชมี่ก็สวนขึ้นมาให้ทุกคนอึ้ง

            “งั้นก็เดทหมู่นั่นแหละ ฉันรำคาญแล้ว” คำพูดนี้ ทุกคนอึ้ง แต่มีวิคตินี่เท่านั้น ที่หัวเราะเป็นบ้า กิ๊ๆๆ

            “ไปเดทที่เมืองมอเรียนะ เพราะฉันมีธุระด้วย และเมืองนั้นดอกไม้สวยมาก ฉันอยากไปดูสักครั้ง แต่ก่อนหน้านั้น

              ฉันว่าพวกนายควรแปลงร่างไม่ให้ใครสงสัยนะ เพราะถ้าออกไปแบบนั้นละก็ ฉันละปวดหัว”

            “เดี๋ยวฉันไปคุมด้วย ขืนแปลงร่างเป็นโปเกมอนปกติแบบนั้น มีสิทธ์โดนจับได้ เดี๋ยวฉันแปลงร่างเป็นเจ้าของพวกนายให้ละกัน”

            ‘จริงๆ ฉันเป็นห่วงเชมี่มากกว่า กลัวปวดหัวตาย’

            “โอเคคร้าบบ” ทั้งสองเทพเปลี่ยนนิสัยเป็นโหมดเด็กดี แต่พอเชมี่ทิ้งระเบิด

            “ถ้านายแปลงร่างเป็นโปเกมอนที่ฉันถูกใจ มีรางวัลให้นะ”

            “รางวัลไรนะ” สองเทพบ่นกับตัวเอง แต่มีวิคตินี่อยู่ทั้งคน(ตัว) เลยสร้างความปั่นป่วนซักนิดหอมปากหอมคอ ลอยมาหาทั้งสอง

            แล้วกระซิบว่า

            “ถ้าแปลงร่างเป็นตัวที่ถูกใจ เชมี่จะยอมคบแถมหอมแก้มด้วยนะ” แค่นั้นแหละ ระเบิดลูกเดียวยังไม่พอ แถมด้วยระเบิดลูกนี้เข้า

            ทั้งสองเทพเลยทะเลาะกันต่อไป

            “เห้ย ฉันจะแปลงเป็นตัวนี้นะ”

            “ไม่ยอม ฉันจะเป็นตัวนี้”

            ‘เมื่อไหร่ ไดอัลเกียกับพัลเกียจะดูเป็นเทพขึ้นมาบ้าง และเมื่อไหร่ วิคตินี่จะเลิกแกล้งคนซักทีเนี่ย เฮ้อ เหนื่อย’

            เทพที่เหลือในมิติต่างบ่นเป็นเรื่องเดียวกันหมด ส่วนวิคตินี่นะหรอ กิ๊ๆๆๆ

อยากแต่งตอนพิเศษช่วงคริสมาสจัง แต่กลัวตัวละครจะโผล่ออกมาก่อนนี่สิ  :pika06:

Link to comment
Share on other sites

ersion_[5]" post=60154" timestamp="1324467135]

อยากแต่งตอนพิเศษช่วงคริสมาสจัง แต่กลัวตัวละครจะโผล่ออกมาก่อนนี่สิ  :pika06:

กลัวอะไรเล่า ภาพยนตร์หลายๆเรื่องก็เปิดตัวตัวละครใหม่ภาคต่อไปในเรื่องก็มี

Link to comment
Share on other sites

เทพทะเลาะกันแล้วน่ารักดีแฮะ หุๆๆ  :pika01:

รู้สึกเหมือนจะมีการเว้นบรรทัดผิดอยู่เยอะเลยนะเนี้ย...  :pika04:

Link to comment
Share on other sites

กลับมาก็มอัพต่อเลยครับ :pika01:

บทที่ 6

หลังจากที่มาถึงเมืองมอเรีย ซึ่งผ่านมา2วันแล้ว จริงๆลีเฟียก็เก่งแหะ มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว แถมมีท่าสังเคราะห์แสง(Synthesis) ด้วย

        ไม่น่าจะห่วงมากนะ เลยผ่านยิมเริ่มต้นที่1 ได้แบบสบายๆ... ละมั้ง แต่จริงๆก็โหดสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีโปเกมอนชนะทางมันหนิ

        มาถึงยิมนี้เล่นธาตุหินเลยสบายหน่อย ไม่ต้องเปลืองแรง เจอเทรนเนอร์ในยิมคนไหน ใช้คัดเตอร์ใบไม้ (Razor Leaf) เลย

        เข็มกลัดยิมนี้เพิ่มค่าพลังโจมตีกายภาพและความสนิทสนมของโปเกมอนที่เลเวลมากสุดคือ30 ซึ่งถือว่าคุ้มกับการลองเข้ายิมครั้งแรก

        เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่งของทวีปก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าดอกไม้ไหนจะออกดอกยาก

        ถ้าปลูกที่เมืองนี้ก็จะออกดอกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่นี่ สวนดอกไม้เลยสวยงามมาก(จากคำบรรยายของพี่เชส) มิวทูเลยอยากเดินดูเมืองบ้าง

        ‘มิวทู จะดีหรอ ขืนเธอออกมากรับรองได้เลย ข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน แล้วที่นี้ เราจะดังข้ามวันข้ามคืน ชัวร์’

        ฉันก็อยากให้มิวทูมาดูด้วยนะ ถ้าไม่ติดตรงนี้นะ

      ‘ไม่เป็นไร ฉันมีท่าแปลงร่าง (Transform) ท่านี้จริงๆฉันไม่มีหรอก แต่ท่านมิวสอนถ่ายพลังให้ฉันมา

        แต่พอแปลงร่าง มันรู้สึกทำอะไรไม่สะดวกซักเท่าไหร่ เหมือนไม่ชินน่ะ’

        ‘แล้วเธอจะแปลงร่างเป็นตัวอะไร’

        ‘คิดๆดูแล้ว อยากลองเป็นมนุษย์บ้างน่ะ’ หืม อะไรนะ

        ‘งั้นเดี๋ยวฉันหาโรงแรมไว้นอนในคืนนี้แปปนะ จะได้พักแบบสบายๆบ้าง’ ฉันบอกกับมิวทู หาเรื่องเบี่ยงเบน

        เพราะไม่อยากเชื่อว่ามิวทูอยากแปลงร่างเป็นมนุษย์

        ‘โอเคๆ’

        หลังจากผ่านไปซัก15นาที ฉันก็ไปจองโรงแรมที่ดูสำหรับคนฐานะปานกลางได้มาพักหนึ่งคืน

        จริงๆถ้าไม่ได้รางวัลที่สู้กับคนในยิมและหัวหน้ายิม ฉันก็ไม่คิดจะพักโรงแรมหรอก

        หลังจากขึ้นห้องแล้ว ล็อคห้องเผื่อพนักงานเปิดประตูมาเห็นเข้า แล้วเรียกมิวทูออกมา

        “เอาละน่ะ 1 2 3 แปลงร่าง” ปุ๊ง~!

        ฉันมองตาค้าง เป็นใครก็ต้องค้างละฟระ มิวทูแปลงร่างเป็นสาววัย16-17ปี นัยน์ตาสีม่วง ใบหน้าเข้ารูปกับดวงตาและจมูก

        ใส่ชุดกระโปรงสีขาวยาวเลยเข่า ขาเรียวบาง ผิวขาวเนียน ผมสีขาวยาวถึงเอว ส่วนเรื่องสัดส่วนปล่อยๆไปเหอะ

        ก็ฉันไม่ใช่คนหื่นขนาดนั้น เอาเป็นว่า หุ่นดีละกัน ว่าแต่ ที่ฉันคาใจคือ เธอรู้ได้ไงว่าคนใส่ชุดแบบนี้กัน

        ชุดแบบนั้นมันไว้ใส่ไว้ออกไปเดทไม่ใช่หรอไง และสุดท้าย นี่ใส่ชั้นในรึเปล่าเนี่ย แต่ข้อหลัง ไม่กล้าถามแหะ แต่รู้อย่างเดียว

        น่ารักสุดยอดเลยอ่า

        ถึงอย่างนั้น มิวทูก็อ่านสีหน้า แล้วบอกคำตอบเป็นข้อๆเลย

        “ขอตอบเป็นข้อๆนะ ข้อ1 ฉันเคยแปลงร่างเป็นมนุษย์ แต่ไม่ใช่ร่างนี้ เพราะต้องแอบไปขโมยโปเกบอลที่ไม่สมบูรณ์มา

        ข้อ2 ขอผ่านนะ ส่วนข้อ3 ระหว่างที่ไปขโมย โดนเจ้าของร้านเรียกไปถามเพราะฉันไม่รู้ว่าต้องใส่ ถึงตอนนี้ฉันก็รู้แล้ว

        ว่ามนุษย์เค้าใส่อะไรบ้าง” พูดไปก็หน้าแดงไป ยิ่งพอฉันจ้องนานๆเข้าก็ยิ่งหน้าแดง อยู่ในร่างมนุษย์เนี่ย น่ารักมากเลย

        ฉันเดินไปหยิบหมวกสีเหลืองใบหนึ่งบานนิดนึง ไปให้มิวทูใส่

        “เอ้า ใส่ไว้นะ เผื่อแดดจะแรง จะได้ไม่ร้อน”

        “อืม ขอบใจนะ” มิวทูพูดแล้วหน้าแดง

          พอมองจากหน้าต่างเพื่อดูเมือง แอบคิดในใจ นี่มันวันอะไรกัน มีแต่คู่รักมาเดตกันเนี่ย

          ฉันเก็บข้อสงสัยนี้ไว้ แล้วมาข้างล่าง ลงมาที่ล็อบบี้โรงแรม ผู้ชายจ้องมิวทูตาเป็นมัน พร้อมส่งสายตาอำมหิตใส่ฉัน

          แต่พอฉันจ้องเค้าแบบใส่พลังลงไปด้วย หึหึ บังอาจแผ่รังสีดีนัก มิวทูก็อาย เอามือมาจับฉัน อร๊าก

          นี่ฉันเพิ่งเคยจับมือกับสาวน่ารักครั้งแรกเลยนะ ส่วนทางด้านผู้หญิงก็ไม่แพ้กัน จ้องมองฉันอยู่ได้ แค่ใส่ชุดที่มันเข้ากับมิวทูเองนะ(แค่?)

          แต่พอมองดูกระจกแล้ว ชัดเลย DNAยังคงทำงานได้ดี โครงหน้าฉันเริ่มเปลี่ยนดูดีขึ้นเข้ากับตาสีน้ำตาลกับม่วง ซึ่งมันดูตัดกัน

          แต่มันดูเข้ากับหน้าฉันมาก นี่ฉันหลงตัวเองรึเปล่าเนี่ย พนักงานที่เคาเตอร์ก็บอกมาว่า

          “ขอให้โชคดีในเทศกาลมานาฟี่คะ”

          “มิวทู ไหนละท่านเชมี่” ฉันนั่งอยู่หน้าน้ำพุพร้อมกับมิวทู ซึ่งมีสายตาคนเป็นร้อย (ที่ฉันกับมิวทูไม่สังเกตเลย) มุงดูไอคู่นี้อยู่

          “ท่านเชมี่บอกว่า จะรออยู่ที่สวนดอกไม้” มิวทูบอกมา

          “งั้นไปกันเถอะ” ฉันลุกขึ้นมาเลยจับมิวทูให้ลุกขึ้นด้วย แล้วกำมือเดินไปที่สวนดอกไม้ ส่วนหน้ามิวทูน่ะหรอ แดงอ่อนๆไปนานแล้ว

          “สวัสดี เบต้า” พอเข้าไปในสวนดอกไม้ ผู้ชายหน้าตาดีอย่างกับนักแสดงก็พูดกับฉัน

          “เอ่อ คุณคือใครอะครับ” ฉันตอบตะกุกตะกัก ก็ไม่เคยเจอคนที่หน้าตาเหมือนดาราหนิ

          “ฉันชื่ออัลเซอุส มาดูแลเด็กพวกนี้ เพราะกลัวก่อเรื่อง” พูดเสร็จก็ผายมือไปหาโปเกมอน3ตัว ที่เหมือนออกมาปิกนิคด้วยกัน

          มีทั้งผ้าปูรองพื้น กล่องอาหาร กับโปเกมอนสามตัว ตัวที่คล้ายๆหมาป่าสีขาวเขียว แต่มองไม่ชัดหรอก เพราะหันหลังอยู่

          กับอีกสองตัวซึ่งฉันเจอบ่อย แต่ไม่ค่อยเยอะ (สรุปจะเอายังไงเนี่ย) โซโรอาร์คกับรูคาริโอะ เหมือนทั้งสองคน (ตัว) นี้

          จะไม่ถูกกันและความสงสัยก็กระจ่าง เมื่อมิวทูเดินไปหาแล้วพูดขึ้น

          “ท่านเชมี่ ทำไม ไดอัลเกีย พัลเกีย ถึงมาอยู่ด้วยละ แถมวิคตินี่ไม่ต้องมาหลบเลยนะ ฉันเห็นตั้งแต่เข้ามาก็เจอเลย

          นายนะเล่นซ่อนแอบได้ห่วยที่สุดรู้ไหม” เอ่อ ซ่อนแอบ พวกโปเกมอนเทพกับโปเกมอนในตำนานเล่นด้วยหรอ แล้วเมื่อกี้ไรนะ

          ไดอัลเกียกับพัลเกีย มาอยู่ได้ไง ถ้างั้นหมาป่าสีเขียวก็ท่านเชมี่น่ะสิ

          “อ้อ มาพอดีเลยนะ มิวทู ที่ฉันให้เธอมาที่นี่ก็เพราะเจ้าสิ่งนี้กับที่ฉันเรียกเธอ (ฉัน) มาด้วยก็เพราะอุปกรณ์นี้”

          ท่านเชมี่หันกลับมาพูด เห็นแล้วฉันฟันธงได้เลยว่าทำไม ไดอัลเกียกับพัลเกียถึงชอบ

          ‘เทพสองตัวนั้นมันเป็นพวกโลลิค่อนนี่หว่า’ แต่ฉันว่า ท่านเชมี่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอะไรดี น้องสาวมั้ง

          เพราะท่าทางน่ารักบวกกับหน้าตาที่เหมือนเด็กสาวน่ารัก

          ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อย ท่านเชมี่ก็นำสิ่งของออกมา เป็นลูกแก้วลูกหนึ่ง กับแหวนวงหนึ่ง แต่แหวนวงนี้มันให้ความรู้สึกแปลกๆแหะ

          “ก่อนอื่นขอมอบของให้เบต้าก่อนนะ วงแหวนผู้พิทักษ์นี้จะเห็นได้ว่า มันแปลกๆนะ จริงๆมันแยกได้ออกเป็นสองวง วงสีฟ้าให้เธอใส่

          มันสามารถทำให้เพิ่มความสมดุลกับพลังของเธอ และสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ทุกๆวันที่มีเลขคู่ ส่วนแหวนสีแดง ให้ใครใส่ก็ได้

          ทำให้นายและคนที่ใส่ รู้ที่อยู่และสภาพอาการของคนๆนั้นได้” ฉันรับวงแหวนนั้นมา แล้วดึงสองวงให้ออกจากกัน

          แล้วเอาวงแหวนสีแดงให้มิวทู พอมิวทูรับก็หน้าแดง แต่ก็ใส่นิ้วนางข้างซ้าย ฉันเลยเอาบ้าง ใส่แหวนสีฟ้าไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย

          แต่วิคตินี่มาดูแล้วหัวเราะ กิ๊ๆๆ แบบไม่พูดอะไรเลย ส่วนเทพทั้งอัลเซอุสในร่างมนุษย์

          ไดอัลเกียในร่างรูคาริโอะกับพัลเกียในร่างโซโรอาร์ค ก็หัวเราะในลำคอ

          “ส่วนที่ฉันเรียกให้พวกเธอมาอีกอย่างก็คือ ให้มารับฟัง และรับรู้เรื่องทั้งหมดที่ตอนนี้เป็นปัญหา และเหตุผลในการจับตัวเธอไปนะ”

Link to comment
Share on other sites

กลับมาก็ขออัพก่อนเลย งานเยอะมากมาย เพอ่งสอบPre Onetไป สุดยอดไปเลย มั่วสุดๆ= =

บทที่ 7

          “จากสายสืบของโปเกมอนเรา พบว่า นอกอวกาศนั้น ยังมีดาวอื่นที่มีมนุษย์อาศัยอยู่อีก และอีกทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่ยังไม่ถูกค้นพบ

          และไม่สามารถบอกได้ว่า มันคือตัวอะไร...” ท่านเชมี่บอกกล่าว แต่มิวทูก็รีบเบรก

          “เอ่อ เข้าเรื่องเถอะคะ ขืนพูดต่อไป รับรองไม่จบในวันนี้แน่”

          “ขอโทษทีนะ สายสืบเรา พบว่า มีมนุษย์มาขอพลังจากโปเกมอน เพื่อไปทำอะไรบางอย่างมานะ”

          ท่านเชมี่พูดเสียงเครียด แต่ฉันว่า มีแต่วิคตินี่เท่านั้นที่หัวเราะกิ๊ๆๆ อยู่ได้

          “ส่วนสายสืบหลักของเรานั้น บอกว่า พวกมนุษย์ที่มาจากโลกอื่นต้องการชนะสงครามในกาแล็กซี่ และครอบครองดาวทุกดวงทั้งหมด

          หากเรายังไม่รีบป้องกันแล้วถ้ามันชนะจริงๆละก็ โปเกมอนทุกตัวตกเป็นเชลย โปเกมอนที่ใช้ประโยชน์ได้จะกลายเป็นทาส

          และโปเกมอนที่มีพลังแข็งแกร่งจะถูกส่งไปเข้าร่วมสงคราม หรือจะเรียกอีกอย่างว่า ไปตายก็ได้” พูดถึงตรงนี้ มิวทูก็จับมือ

          และบีบมือฉัน ฉันเลยบีบมือตอบกลับให้กำลังใจ

          “แล้วโปเกมอนสายสืบเรานี่ เก่งไหมครับ” ฉันลองถามดู หลังจากอัดอั้นมานานกับความมึนงง

          “เก่งไม่เก่งไม่รู้ แค่มีพลังเทียบเท่าเราได้เลยละ” ไดอัลเกียพูดขึ้น เหมือนรู้แผนการนี้ดี แต่ช่วยอธิบายให้คนที่ไม่รู้หน่อยจะได้ไหม

            ยิ่งฟังแล้วยิ่งงงอะ

          “ส่วนที่พวกมันจับตัวเธอไป เพราะว่า สายสืบฉันเป็นถึงไส้ศึกของพวกมัน เลยบอกไปว่า ‘จะส่งโปเกมอนตัวหนึ่งไปให้ทดลอง

            และให้ตามหามนุษย์คนหนึ่งในโลกเรา’ แต่ไม่บอกเหตุผล เพราะแค่นี้ มันก็รีบตกลงเลย ยังดีนะ ที่ทดลองไม่ถึงขั้นเกินเลย

            ไม่งั้น ห้องทดลองพวกมันคงพังเละแน่” ท่านเชมี่พูดแล้วหัวเราะ

            “ไม่เละ แต่ก็พังของเค้าไปเยอะนะ ก็เล่นตรวจสอบฉันตั้งแต่ส่วนสูงจนถึงจุดบ้าจี้เนี่ย พอได้ออกจากห้องบ้านั่นเลยขอพังแก้แค้นหน่อย”

              อ่อ มิน่าละ ถึงหน้าแดง เพราะอายนี่เอง สงสัยคงบ้าจี้ขั้นรุนแรงมั้ง น่าแกล้งจริงๆ หึหึ

            “เอาละ เธอน่าจะกระจ่างหมดแล้วนะ ขอจบการประชุมนี้แล้วกันนะ” ท่านเชมี่บอก และกำลังจะเก็บของที่มาปิ๊กนิกกัน

            “แล้วท่านเครซเซอร์เลียกับท่านดาร์กไรละครับ จะรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ”

            “ฉันเล่าให้ฟังก่อนที่จะมาแล้ว ไปละนะ นี่ไดอัลเกีย พัลเกีย จะกลับแล้วนะ เดี๋ยวทิ้งซะหรอก” ท่านเชมี่พูดแล้วหันไปพูดกับสองเทพ

            “เดี๋ยว ปัญหายังไม่จบ” ไดอัลเกีย กับพัลเกีย พูดขึ้นพร้อมกัน

            “สรุป เธอถูกใจร่างไหนนะ ของฉันหรือเจ้าหมาน้ำเงินนั่น” พัลเกียพูดขึ้นต่อ

            “ทำไมนะ ฉันตกข่าวอะไรหรอ” ท่านเชมี่พูดขึ้นแบบทำหน้างงๆ

            “วิคตินี่บอกว่า ถ้าแปลงร่างเป็นตัวที่ถูกใจ เชมี่จะยอมคบแถมหอมแก้มด้วย” พูดถึงตรงนี้

            เชมี่ก็ค้อนใส่วิคตินี่ที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว... ส่วนฉันกับมิวทูก็ยืนอึ้ง วิคตินี่สุดยอดมาก

            “เอ่อ.. ก็ได้ รู้สึกพวกนายสองคน (ตัว) จะเอาจริงกับเรื่องนี้มากเลยนะ ส่วนฉันชอบร่างไหนละก็..”

            ท่านเชมี่พูดแล้วหน้าแดงนิดๆ แล้วหอมแก้มทั้งสอง

            “ฉันชอบทั้งสองคนเลย ไปละนะ” ท่านเชมี่พูดจบแล้วรีบออกไป

            “เฮ้อ จบปัญหานี้ซะที เอ้ากลับกันเถอะ ใครช้าสุดไม่ตายดีแน่” อัลเซอุสพูดเสียงเข้มมาก เทพทั้งสองที่กำลังเคลิ้มรีบบึ่งกลับไป

            “แล้วพวกเราละ จะเอาไงต่อ”

            “เมืองนี้มียิมอยู่นะ ลองไปสู้ก็ได้ ได้เงินดีหนิ เห็นว่ามีกิจกรรมพิเศษด้วย” มิวทูบอก

            “งั้นหรอ ดีเลย ยิมธาตุอะไรนะ” ถ้าธาตุไฟ ลม แมลง พิษ น้ำแข็ง ขอบาย ถ้าอยากชนะโดยไม่กลัวข่าวหน้าหนึ่งก็น่าสน

            “อืม รู้สึกจะธาตุน้ำนะ” ขอบคุณสวรรค์ ธาตุที่ต้องการมาแล้ว TwT

Link to comment
Share on other sites

โลลิค่อน[เชมี่]กะจะรวบสองทำฮาเร็มเลยรึเนี้ย[เรื่องขนาดช่างมัน...]

เรื่องราวสลับซับซ้อนดีเหลือเกิน ครึๆๆๆ

Link to comment
Share on other sites

มาลงนิยายต่อครับ

บทที่8

พอกำลังเดินไปหายิมรู้สึกแหม่งๆ คนที่เคยอยู่แถวนี้ต้องเยอะสิ ไปไหนหมด ระหว่างนึกก็ได้ยินเสียงดังๆออกมา

          “เอ้า แพ้ไปอีกแล้วครับ ตอนนี้ หัวหน้ายิมชนะไปแล้ว 75คู่ ของรางวัลก็เริ่มเพิ่มขึ้นนะครับ ใครอยากประลองก็เชิญมาครับ”

          เห ประลอง ลองไปดูหน่อยดีกว่า

          “พี่ครับ เค้ามีกฏการแข่งอะไรเปล่าครับ” ฉันถามคนประกาศ

          “กฏก็เหมือนสู้ยิมทั่วๆไป แต่เพิ่มมาอีกข้อนะ คือ ต้องแข่งแบบ2-2..”ชักงานเข้าละ

          “ซึ่ง ต้องมีโปเกมอน2ตัวขึ้นไป แต่นี่เป็นเทศกาลมานาฟี่ การต่อสู้2-2คือ คุณต้องหาทีมมาแข่ง โปเกมอนของคุณจะได้ไม่ต้องมี2ตัวไง”

            ไงๆก็คือ ต้องมีโปเกมอน 2 ตัวขึ้นไปสินะ เพราะจากดูๆแล้ว ไม่มีเทรนเนอร์คนไหนที่น่าจะสู้หัวหน้ายิมได้เลย

          “งั้นขอบคุณครับ ที่เล่ารายละเอียดให้ฟัง” พูดเสร็จก็หันมาหามิวทู แล้วยิงคำถาม

            “แล้ว จะไปหาโปเกมอนที่ไหนดี จับตัวไรดี” มิวทูก็บอกกลับไป

            “ไปที่ถ้ำน้ำแข็งสิ มีโปเกมอนน้ำแข็งอยู่เยอะนะ” ‘ขอโทษนะที่ต้องไปที่นั่น มันมีภารกิจเพิ่มเข้ามา’

          “ทำไมสีหน้าเธอเหมือนอยากจะขอโทษน่ะ”

          “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ หน้าถ้ำมีสิ่งกีดขวางนิดหน่อย จะใช้เทเลพอร์ทไปนะ”

          “เดี๋ยวๆ จะใช้ตรงนี้เลยเหรอ ฉันว่าไปหามุมอับแล้วใช้ดีกว่าเปล่า”

          “โอเค บี” พูดเสร็จก็เดินไปเข้าซอกจุดหนึ่งที่คิดว่าไม่น่าจะมีคนเห็น

          “เอาละนะ เทเลพอร์ท” มิวทูพูดเสร็จก็มีลำแสงสีม่วงแผ่ออกมาเล็กน้อยเพราะกำชับไว้แล้ว ขืนแผ่ไปเยอะคนก็แห่มาดูสิ

______________________________________________________________________________________

ในถ้ำน้ำแข็ง

            ถ้ำน้ำแข็ง บอกตรงๆ ถ้าไม่ติดที่ว่าหนาวนะ จะสวยมากๆเลย

            “มิวทู หนาวไหม” ถามเพราะว่ามันหนาวจริงๆนะ

            “นิดหน่อยน่ะ” บอกนิดหน่อย แต่กอดตัวเองซะแน่นเลย

            “เอ้านี่ ใส่ไว้นะ” ฉันถอดเสื้อนอกออก ให้มิวทูใส่

            “ขอบใจนะ” มิวทูรับเสื้อหน้าแดง

            คิดอีกที ไม่น่าถอดเลย หนาวโครต แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ยอมได้!!

            “เรียกลีเฟียออกมาดีกว่า เผื่อเจอโปเกมอนกะทันหัน” ฉันพูดแล้วเรียกลีเฟียออกมา

            “พี่คะ เล่นกันๆ” ลีเฟียอ้อนถาม

            “จะดีหรอ ที่นี่มันหนาวนะ แล้วลีเฟียธาตุพืชด้วย ยิ่งหนาว4เท่าเลย”

            “ไม่เป็นไร เหมือนพี่เชสจะรู้ดีเกินคาด เอาผ้าพันคอสำหรับโปเกมอนใส่ไว้ในกระเป๋าเป้อีกทีด้วย

              ดูเหมือนผ้าพันคอจะช่วยลดความหนาวโดยเฉพาะเลย”

            “หรอ งั้นก็ดีไปนะ ไปกันเถอะ” มิวทูพูดเสร็จก็เดินนำไปเลย

            “ไปเถอะ ลีเฟีย” รอให้ลีเฟียมาถึงก่อน แล้วค่อยไป เพราะรู้สึกมีสายตาคู่หนึ่งที่ไม่น่าจะใช่มนุษย์ดูอยู่

“กรา~~”

______________________________________________________________________________

ส่วนลึกของถ้ำ

          “นี่ มิวทู ได้ยินเสียงอะไรไหม” และรู้สึกยิ่งเดิน ก็ยิ่งดังขึ้นนะ

          “รู้สึกสิ และดูเหมือนจะเห็นด้วยนะ” มิวทูชี้ไปทางขวา

          ฉันย่องเข้าไปใกล้ๆ เห็นผู้ชายสองคนกำลังสู้ด้วยกันอยู่ คนผมแดงรู้สึกคุ้นๆเหมือนเห็นในทีวีแหะ ส่วนอีกคนใส่เสื้อที่มีตัวอักษร T ไม่รู้จัก

          แต่ดูแล้ว คนผมแดงชนะชัวร์ แต่ทำไมดูเหนื่อยๆ

          “นี่พวกนายจะเยอะกันไปไหน นี่คนที่61แล้วนะ” คนผมแดงพูดขึ้น ฉันฟังอยู่ก็รู้เลย ไม่น่าทำไมเหนื่อย

            ก็สู้มา60คนนี่เอง ถึงเก่งแค่ไหน โปเกมอนก็มีขีดจำกัด ไปขวางการแข่งดีกว่า เดินเข้าไปแล้วบอกกับมิวทูว่า

          “มิวทู มาดูการแข่งสิ กำลังมันส์ได้ที่เลย มีข้าวโพดขั่วมะ”

          “ขืนมีก็แข็งกันพอดีสิ แล้ว แชมป์เปี้ยน เดลต้ามาทำอะไรที่นี่” อะไรนะ แชมป์เปี้ยน มิน่าละ ถึงเคยเห็นทีวี

          “พวกเธอเป็นใครนะ ปากถ้ำถูกตัดขาดแล้วนะ ทำไมถึงมาที่นี่ได้” คนใส่เสื้อตัวT บอกมา ฉันก็ทำหน้างง แต่มิวทูก็พูดขึ้นมาดื้อๆ

          “มันมีทางเข้าอีกทางคะ คือ ฉันอยากรู้ว่ามันคือที่ไหนเลยพาแฟนมาดู” เห้ยย แหลได้แต่อย่าเหมาตูไปรวมสิฟระ

          “พวกเธอมีเข็มกลัดยิม1หนิ น่าจะพอสู้ไหวนะ ฝากทางนี้ด้วยนะ เจ้าพวกนั่นถ้าจะไปถึงแล้ว” อ่าวเห้ย พูดเสร็จแล้วรีบวิ่งไปต่ออีก

            อย่ามาโยนงานมาทางนี้สิ

          “ในเมื่อพวกเธอเห็นแล้ว ฉัน หัวหน้าหน่วยที่15 จากแก๊งไทม์เลส คงต้องฆ่าพวกเธอสินะ” เห แก๊งไทม์เลส แก๊งอะไร

          “ออกมา โกลแบท” เห้ย แย่ละ โกลแบทมันทั้งธาตุพิษ แถมบินได้อีก อย่างงี้ลีเฟียก็ทำอะไรไม่ได้สิ

          “สั่งสอนมันหน่อย แอร์คัดเตอร์ (Air Cutter)” เห้ย แย่แล้ว แต่เมื่อกี้เห็นอะไรแวบๆ

          “กรา~~” หมาป่าสีฟ้ามาจากไหนกัน ทำไมถึงมากันไว้

          “ชิ เกะกะ ถอยไปนะ เขี้ยวพิษ (Poison Fang) ขย้ำมันเลย” คิดไปเองรึเปล่านะ ว่าแถวๆนี้ อากาศมันหนาวขึ้นเรื่อยๆ

          “สายลมแช่แข็ง (Icy Wind) คงไม่เป็นไรแล้วละ ชนะแล้ว” มิวทูพูด ท่าของหมาป่าสีฟ้าหรอ

          “อ๊าก แก อย่างงี้ต้องสั่งสอนมันหน่อย” เห้ย ไอบ้านั่นมันคิดจะจับเรอะ ฝันไปเหอะ

          “ลีเฟีย คัดเตอร์ใบไม้ (Razor Leaf)”

          “คะ” ลีเฟียพูดขึ้น ใบไม้ฝูงใหญ่ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ก็พุ่งเข้าไปหาหัวหน้าหน่วยที่15

          “อ๊าก~” เฮ้อ จบซะที

          “ไม่เป็นไรนะ” หมาป่าตัวนั้นพูดขึ้น

          “อืม ขอบใจนะที่ช่วย” ลีเฟียก็พูดต่อ หมาป่าตัวนั้นก็เหมือนจะหน้าแดงที่สงสัยคงมีแต่ฉันคิดไปเอง

          “ว่าแต่ นายมาช่วยพวกเราทำไม” ฉันยิงคำถามใส่เลย

          “เจ้านายเธอเข้าใจเสียงพวกเราด้วยเหรอ”

          “อืม เจ้านายใจดีมากนะ แต่ตอนนี้คงต้องหาทีม นายมาเข้าร่วมทีมเถอะ นะๆๆ” ลีเฟียก็อ้อนเข้าให้ เฮ้อ

          “ก็.. ก็ได้ เจ้านายเธอไม่ว่าหรอ”

          “ไม่เป็นไรหรอก ฉันใช้โปเกบอลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ต้องกลัวเสียความทรงจำ”

          “งั้นก็ ปาใส่ผมเลยฮะ” ฉันก็ปาใส่เลย มันก็ไม่ขัดขืน

          “มิวทู มันคือตัวอะไรอะ” ฉันถามมิวทู

          “กราเซีย โปเกมอนธาตุน้ำแข็ง สายพันธุ์เดียวกับลีเฟีย แต่ที่แน่ๆ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่ไม่น่าจะมีซะหน่อย”

          “แต่ที่แน่ๆ เห็นแชมป์เปี้ยนรีบร้อนขนาดนั้น ที่นี่คงมีอะไรไม่ดีแน่ๆ จะเข้าหรือจะถอยละ เพราะได้โปเกมอนตัวที่2แล้ว”

          “คงต้องเข้าไปช่วยนั่นแหละ” เฮ้อ เข้าไปหรอ เห็นแล้วหนาวอะ

Link to comment
Share on other sites

เช้าวันคริสมาส ก็มาลงต่อง้าบ

          เข้าไปในส่วนลึกของถ้ำน้ำแข็ง ใครจะไปเชื่อละ ยิ่งเข้าลึก โปเกมอนป่าก็ยิ่งแข็งแกร่ง อันนี้รู้อยู่แล้ว

          แต่แค่เข้าประตู(ที่โดนระเบิด) ไปแล้ว จากหน้ามือเป็นหลังมือเลย โหดชะมัด

          วิ่งไปเรื่อยๆก็เจอแชมป์เปี้ยนกำลังต่อสู้อยู่ ต่อสู้กับใครน่ะ ถ้าจะเก่งใช่เล่น แล้วน้ำแข็งที่หุ้มโปเกมอนนั่นคือตัวอะไร ไม่เคยเห็นเลย

          “บันกิรัส กิก้า อิมแพ็ก (Giga Impact)” เอฟเฟ็คสุดยอดมาก สมแล้วที่เป็นแชมป์ ทีเดียวดับเลย

          “จะดีหรอ ทำอย่างงั้น ออกมา มันมู” อีกคนก็ไม่น้อยหน้า เรียกช้าง (?) ออกมา

          “มันมู หิมะถล่ม (Avalanche)” คนนี้ก็โหด ทีเดียวดับ

          “ชิ ออกมา รูคาริโอะ” เดลต้าก็เรียกโปเกมอนตัวใหม่ออกมา

          ‘มิวทู เอาไงดี ดูท่าจะอีกนานเลยนะ กว่าสองคนนี้จะสู้เสร็จ’ ฉันคุยทางกระแสจิต

          ‘เห็นแก๊งไทม์เลสตรงแถวๆก้อนน้ำแข็งนั่นไหม ค่อยๆเข้าไป แล้วทำให้สลบเลย’ มิวทูตอบกลับ

          ‘จริงๆ ที่บอกให้มาที่นี่ เพราะอัลเซอุสบอกว่า ให้มาที่นี่เพื่อมาคลายผนึกฟรีซเซอร์ แล้วส่งไปให้เจ้าของที่แท้จริงของมันโดยปลอดภัย’

          ‘งั้น ที่แชมป์เปี้ยนมาที่นี่ก็หมายความว่า’

          ‘ใช่ เดลต้า เป็นผู้ครอบครองฟรีซเซอร์ตั้งแต่เด็กแล้ว แต่แก๊งไทม์เลสก็ใช่ย่อย ใช้เจ้านายเป็นตัวประกัน

            ให้ฟรีซเซอร์ยอมจำนน แต่พอพวกนั้นปาบอลใส่ ทุกบอลก็เด้งออก พวกมันเลยแช่แข็งไว้เพื่อที่จะไม่มีใครมาเป็นขวากหนามพวกมัน’

          ‘โอเค ใช้พลังจิตให้พวกมันหลับพอนะ’

            ฉันย่องเข้าไปใกล้ๆ ใกล้พอให้พวกนั้นคิดว่า เราเป็นพวกมัน(?)

          “เห้ย มาช่วยกันหน่อยดิ ไม่งั้นมันตื่นแน่” แก๊งไทม์เลสคนนึงตะโกนสั่ง โดยไม่ดูคนอื่นที่หลับไปแล้ว

          “ให้ช่วยอะไรหรอครับ” หึหึ หน้าด้านสุดๆ ตู หันมาสิ หลับแน่

          “มาช่วยยิงเลเซอร์หน่อย” ยังจะโง่ไม่หันอีก ต่อยซักทีดีไหมวะ

          “ยิงยังไงอะ”

          “ปากมากจริง นี่แกฝึกออกภาคสนามด้วยรึเปล่า” น่าน หันมาสิ

          “เห้...” แล้วผู้ชายคนนั้นก็หลับไป ง่ายชะมัด

          ‘แล้ว จะทำไงกับตรงนี้ดี’ พอหมดหน้าที่ ฉันเริ่มยืนบื้อ

          ‘ละลายน้ำแข็ง ลองเรียกกราเซียมาละลายดู เพราะถ้าไม่มีไฟ ก็ต้องเอาน้ำแข็งสู้น้ำแข็ง น่าจะได้นะ’

          ‘หรอ จะลองดู เธอก็มาใกล้ๆสิ’ พอมิวทูเข้ามาใกล้เสร็จ ก็เรียกกราเซียออกมา

          “พวกนายมาที่ห้องน้ำแข็งแห่งความลับทำไม ที่นี่ท่านฟรีซเซอร์นอนอยู่นะ” มาถึงก็พูดซะละ เฮ้อ

          “ได้เวลาที่ฟรีซเซอร์ต้องตื่น แล้วพบเจ้านายที่แท้จริงแล้ว มันถึงเวลาแล้วนะ” มิวทูพูดขึ้น

          “แต่ผมไม่มีพลังพอที่จะทำลายน้ำแข็งนะฮะ”

          “ไม่ต้องห่วง มานี่” กราเซียก็ไปหามิวทูแต่โดยดี แล้วมิวทูก็แตะหัวกราเซีย จากนั้นก็หลับตาซักพักนึง

          “จำที่สอนไว้นะ เดี๋ยวฉันจะให้พลัง จบนี่ก็มาคืนด้วยละ พลังสลับ (Power Swap)” แสงสีม่วงเปล่งประกาย แล้วเข้าสู่ตัวกราเซีย

            แล้วออกมากลับใส่มิวทูเหมือนเดิม

            “เอาละนะฮะ พายุหิมะ (Blizzard)”

            “ตู้มๆๆๆๆๆ” เห้ยละ สงสัยแรงเกินคาด ถ้ำถล่มแล้วว

            “กะ กะ” เสียงอะไรสักอย่างก็ดังขึ้น พร้อมมีปีกของนกยาวสยายสีฟ้ากางออก

            “แกว๊กกกก” ฟรีซเซอร์บินขึ้นไปบนท้องฟ้า เหมือนยินดีที่ได้ออกมา เมื่อพอใจแล้วก็บินกลับมาหาเดลต้า

            “ชิ โผล่ออกมาแล้ว ลาก่อนนะ เดลต้า แชมป์เปี้ยนที่อ่อนแอ เทเลพอร์ท” ชิ หนีไปละ

            “แล้วจะทำไงต่อละ จบงานนี้แล้วนะ” ฉันถามมิวทู

            “งั้นก็ไปสู้สิ ใกล้จะหมดเวลาแล้วนะ”

            “เธอจะไปสู้ยิม2หรอ” เดลต้าถาม ว่าแต่ มันแปลกๆนะ

            “เอ่อ คุณเดลต้า ผมจำได้ว่าสีตาคุณสีแดงนะครับ ทำไม..” ทำไมมันสีฟ้าข้างนึงไปได้ละ

            “อ่อ เพราะมีฟรีซเซอร์อยู่น่ะ คนที่ถูกเลือก เมื่อโปเกมอนในตำนานอยู่กับเจ้าของที่แท้จริง สีตาของเจ้าของจะเปลี่ยนสีไปข้างนึงน่ะ

            นายก็มีใช่ไหม เพราะสีตานายสีม่วงข้างนึง” ซวยละ ไม่น่าไปซักถามเลย

            “เอ่อ ผมใส่คอนแทคเลนส์อยู่ฮะ ผมชอบตาสองสี” ตายละ ความจะแตกไหมเนี่ย

            “คอนแทคเลนส์ข้างเดียว?” ดูมัน ยังจะถามต่ออีก ไม่ไหวละ

            ‘มิวทู หนีเหอะ’ ฉันพูดทางจิต

            ‘ก็ได้ เทเลพอร์ท’ ตัวมิวทูก็เปล่งแสงขึ้น แว้บเดียวแล้วทั้งคู่ก็หายไป

            “รอดไปได้ซินะ ไปกันเถอะ” พูดจบ เดลต้าก็เดินจากไป ฉันก็ได้ยินเสียงแว่วๆของผู้หญิง

            “คะ มาสเตอร์”

Link to comment
Share on other sites

เทพมีแต่ตัวเมียรึไงเนี่ย

= =*

หินแห่งชีวิต : ทำให้เป็นตัวผู้ให้ป่ะ

Link to comment
Share on other sites

version5 แต่งนิยาย น่าติดตาม แต่ทำการบ้านของโรงเรียนให้เสร็จก่อนก็จะดีมากครับ

หึหึหึหึ... (ไว้ว่างๆจะแฟนอาร์ตให้)

Link to comment
Share on other sites

เงียบเถอะน่า = =" การบ้านปล่อยๆไปเถอะ

ว่าแต่ทำไมPhoenix Belerfer ไม่ใช้ชื่อKPละ เหนชอบนักนี่ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

คุณversion5ครับอย่าพูดชื่อจริงกันสิครับ นี่ถ้าคุณไม่อยู่กลุ่มเดียวกับผมการบ้านคุณก็ไม่สำคัญหรอกครับ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

คุณversion5ครับอย่าพูดชื่อจริงกันสิครับ นี่ถ้าคุณไม่อยู่กลุ่มเดียวกับผมการบ้านคุณก็ไม่สำคัญหรอกครับ :pika01:

ในเวปบอร์ดพูดซะดูดี พอตอนไม่เข้าใจคณิตศาสตร์อย่ามาถามนะ ว่าทำไง

__________________________________________________________

เนื่องจากวันนี้เป็นวันคริสค์มาส เลยเขียนตอนพิเศษ แล้วก็

Merry X'mas ครับ :pika01:

ตอนพิเศษ เทศกาลคริสมาส

      ที่นี่ที่ไหน ทำไมรู้สึกหนักแขนจริง ฉันลุกขึ้นมาก็เห็นหมอนที่เคยอยู่บนเตียงทั้งหมดยกเว้นของฉัน มันทับฉันอยู่ ใครทำละเนี่ย

      ปวดแขนไปหมด เห็นแสงไฟในห้องแต่งตัว ใครกันนะ ฉันเดินเข้าไปดู แค่เปิดประตูไปดู

      “กรี๊ด~ อย่าเพิ่งเข้านะ” เห็นมิวทูในร่างมนุษย์ลองเสื้อผ้าอยู่ ฉันรีบหันหลังทำเป็นไม่เห็นอะไรแต่ฉันหน้าแดงมาก

      ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหนิ แต่เมื่อกี้ยังดี ที่มิวทูนุ่งผ้าเช็ดตัวไว้แล้ว ว่าแต่ จะลองชุดทำไม

      “นี่ มิวทู เสร็จยัง ฉันต้องเข้าไปอาบน้ำต่อนะ”

      “เอาผ้าห่มมาในนี้หน่อยสิ” มิวทูบอกมา เอามาทำไมอีกละ แต่ฉันก็ทำตามแต่โดยดี

      “เอ้า นี่” ฉันส่งผ้าห่มโดยเปิดประตูให้แคบที่สุด แล้วปิดตาเพื่อความไม่ประมาท

      “เข้าไปเลย” มิวทูเอาผ้าห่มมาห่มตัวเอง แล้วออกมา ปิดบังอะไรเนี่ย แต่ฉันไม่คิดมากหรอก เข้าไปอาบน้ำ

ผ่านไป10นาที

      อาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวต่อ ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีเทา กางเกงใส่ขายาวสีดำ พอออกมาก็...

      “บี สุขสันต์วันคริสต์มาส”

      ฉันมองมิวทูแล้วอึ้ง ใส่เสื้อกับกระโปรงที่เข้ากับชุดของฉันได้ นี่เธอรู้ได้ไงว่าฉันจะใส่สีอะไร แต่ขอบอกตามความเป็นจริง

      น่ารักจนห้ามไม่ไหว ส่วนลีเฟียกับกราเซียก็ออกมาด้วย ใส่หมวกซานต้าครอส (/me ลีเฟียน่ารักอ่า)

      “สุขสันต์วันคริสต์มาสฮะ/ค่ะ”

      แล้วทั้งมิวทู ลีเฟีย กราเซียก็กระโจนเข้ามาใส่ฉัน ฉันก็ล้มลงไปกองกับพื้น ทั้งสามก็เข้ามากอด

      “นี่ พวกเธอเป็นอะไรกัน”

      “บี ไปดูเมืองกัน สวยมากเลยน้า~” มิวทูอ้อนที ฉันก็ไปไม่เป็นละ พอเจ้าสองตัวอ้อนให้อีก เลยยอมแต่โดยดี

      “โอเคๆ จะไปกันใช่ไหม ขอเตรียมของแปป” ฉันหยิบผ้าพันคอสำหรับโปเกมอน2ผืน ผ้าพันคอปกติอีก2ผืน จะใส่ให้กราเซีย

        ลีเฟียก็เอาส่วนที่เหลือมาห่มคอตัวเอง

      “ไม่เป็นไรแน่นะ” ฉันถามลีเฟีย

      “อะ... ค่ะ” ลีเฟียตอบหน้าแดงนิดๆ กราเซียก็หน้าแดงนิดหน่อยเหมือนกัน ฉันรู้เลย ว่าเจ้าสองตัวนี้แอบชอบกันแหงมๆ

      “มิวทู เอาไปใส่นะ จะได้ไม่หนาว”

      “ไม่เป็นไรหรอก” ฉันก็ไม่คิดมาก เอาผ้าพันคออีกผืนมาใส่ให้ตัวเอง แต่มิวทูก็เอาปลายของผ้าพันคอทั้งสองผืนมาแปะทับด้วยกัน

        แล้วเหมือนจะใช้พลังจิต ทำให้มันยึดติดกัน แล้วก็เอาส่วนที่ยาว มาใส่ให้ตัวเอง

      “ปะ... ไปกันเถอะนะ” มิวทูหน้าแดงมาก จริงๆฉันจะหน้าแดง แต่เก็บอารมณ์อยู่ เลยหน้าไม่แดง ใครจะไม่อายเล่า

        ฉันไม่เคยทำอย่างนี้ซะหน่อย

        ฉันเก็บกระเป๋าสตางค์ออกจากห้อง ล็อคห้อง แล้วไปใจกลางเมืองโดยมีลีเฟีย กราเซียกับมิวทูตามไป

        ระหว่างทาง ก็จะเจอผู้ชายจ้องมิวทูตลอด ส่วนผู้หญิงก็จ้องฉันตลอด ใครจะไปสนละ แต่ที่แปลกคือ โปเกมอนจ้องลีเฟียกับกราเซียเนี่ย

        มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ

        กลางเมือง หิมะก็เริ่มตกลงมาตอนที่ฉันมาถึงพอดี ท้องฟ้าสีฟ้าครึ้มเหมือนตอนกลางคืน อากาศเริ่มหนาวขึ้นไปอีก

      “มิวทู หิมะตกแหนะ” ฉันพูดกับมิวทู มิวทูก็ยื่นมือมารับหิมที่ตกลงมาบนท้องฟ้า

      “อืม สวยจัง”

        พอเดินไปถึงหน้าน้ำพุ ก็มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่อยู่ด้านหลังน้ำพุ มีแสงไฟจากต้นคริสต์มาสอยู่ ให้บรรยากาศดีมากๆ แต่ความดีใจก็หายไป

        เมื่อฉันเห็นคนๆหนึ่ง เดินเข้ามาหาฉัน มีโปเกมอนตามหลัง นั่นมัน…

      “อ่าว ไม่น่าเชื่อแหะ ว่าจะเจอพวกเธอในที่แบบนี้ได้ คราวก่อนรอดไปได้นะ ขอถามหน่อยเถอะ ทำไมตาของนายมันเป็นตาสองสี”

        เดลต้ามาถึงก็ถามคำถามใส่ฉัน นี่นายจะมาที่นี่ทำไม

      “แล้วคุณแชมป์เปี้ยนมาที่นี่ทำไมละครับ”

      “มีเรื่องที่ต้องมาที่นี่น่ะ คงต้องไปแล้ว แปปเดียวก็มา รูคาริโอะ ฝากดูพวกนี้ไม่ให้หนีไปไหนนะ”

      “คะ... เอ้ย ครับ” เสียงรูคาริโอะเอ่ยเสียงเบา แล้วเดลต้าก็ไปที่บ้านแห่งหนึ่ง

        ระหว่างนั้น ฉันก็เดินจูงมามิวทูมานั่งแถวๆน้ำพุ ลีเฟียกับกราเซียก็มา ส่วนรูคาริโอะก็มาคุม ท่าทางมันแปลกๆนะ เลยจ้องรูคาริโอะซะหน่อย

        พอจ้องมากๆ รูคาริโอะก็เริ่มที่จะเอียงหน้าหนี แต่ฉันก็ไม่เลิกจ้อง จนรูคาริโอะบอกมา

      “เลิกจ้องซะทีได้ไหม” เสียงแบบนี้ เคยได้ยินในถ้ำน้ำแข็งนะ นี่อย่าบอกนะว่า...

      “ฉันเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดนะ เธอเป็นตัวเมียใช่ไหมล่ะ” รูคาริโอะเริ่มจะแข็งแล้ว สงสัยจะเป็นตัวเมียแหะ แต่เสียงตอนแรกเป็นตัวผู้หนิ

        หรือว่า... มันเป็นสองเพศ! ไม่จริงมั้ง ไม่มีทางแหงมๆ ถ้าให้เดาคง...

        คิดซักพัก เดลต้าก็มา

      “มาแล้ว ฉันยังไม่ได้คำตอบจากนายเลยนะ” มาถึงก็จะทวงคำตอบ นี่อยากรู้มากขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย

      “นี่เดลต้า รูคาริโอะของนายเป็นตัวเมียหรอ” พอพูดอย่างนี้ เดลต้าก็สะดุ้ง รูคาริโอะก็สะดุ้งไม่แพ้กัน มิวทูก็พูดต่อ

      “รูคาริโอะ ถึงจะทำเหมือนเป็นตัวผู้ขนาดไหน แต่ฉันมองยังไงก็เป็นตัวเมียนะ”

      “ก็ได้ๆ ยอมรับแล้ว รูคาริโอะตัวเมีย แต่อย่าบอกคนอื่นนะ ชื่อเสียงแชมป์เปี้ยนหายวับหมด” ทำไม

        แชมป์เปี้ยนมีกฎต้องใช้โปเกมอนเพศเดียวกับตัวเองด้วยรึไง

      “อืม ว่าแต่ นายมาทำอะไรที่นี่” ฉันถามเดลต้าอย่างจริงจัง

      “มาเยี่ยมน่ะ ไม่ได้เยี่ยมนานแล้ว คนในครอบครัวเป็นห่วง เมื่อกี้ฉันไปซื้อของไว้เยี่ยมน่ะ” มีครอบครัวด้วย ดีจัง

      “งั้นหรอ ดีจังนะ...” ฉันพูดเสียงเบา

      “แล้วครอบครัวเธออยู่ไหนละ” ฉันถามต่อ

      “ตรงไปสุดก็เจอแล้ว มองจากตรงนี้ยังเห็นเลย” ฉันก็มองสุดทาง อย่าบอกนะ ว่าบ้านนาย เป็น...

      “บ้านนาย เป็นปราสาทหรอ”

      “อืม ลองเข้าไปกันไหม” เดลต้าบอกชวน แต่เสียงมิวทูก็ดังขึ้น

      ‘ฉันไม่ห้ามนะ แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าไปเลยเถอะ’

      ‘ทำไม’

      ‘บอกไม่ได้หรอก มันยังไม่ถึงเวลา’

      “จะไปไหม” เสียงเดลต้าก็ดังขึ้น

      “เอ่อ ไปละกัน” จริงๆก็อยากปฏิเศษ แต่ในเมื่อเค้าชวนมาก็ต้องไป

หน้าปราสาท

      “นี่ไง บ้านฉัน” เดลต้าเอ่ยเสียงเรียบ

      “หรอ บ้านนาย ดู... อึก” ทำไมจู่ๆปวดหัว ปวดหัวเหมือนแตกเป็นเสี่ยงๆ นี่เกิดอะไรขึ้น ฉันเอามือทั้งสองข้างมากุมหัวไว้ แล้วเหมือนจะได้ยินเสียงๆหนึ่ง ที่เหมือนจะคุ้น แต่ก็ไม่คุ้น

======================================================================================

      “จะดีหรอ ฉันไม่อยากทิ้งลูกสุดท้องของฉันนะ”

      “มันจำเป็นต้องทำ ฉันรู้ว่ามันทำให้เธอเจ็บปวด แต่มันจำเป็น เพื่ออนาคต ก็ต้องทำ เพราะท่านเชมี่ทำนายไว้แล้ว ว่าถ้าทิ้งเด็กคนนี้

        จะทำให้โลกใบนี้มีผู้ปกป้อง จริงๆ ฉันก็ไม่อยากทิ้งหรอก แต่ฉันก็หวัง หวังว่าจะเจอเด็กคนนี้อีกครั้งในอนาคต”

      “ฉันก็เช่นกันค่ะ [____]” เสียงขาดหายไป

======================================================================================

      “บี เป็นไรไหม” มิวทูเข้ามาหาฉัน

      “มะ ไม่เป็นไรแล้ว” เมื่อกี้มันคืออะไร

      “เข้ามาในปราสาทก่อนไหม” เดลต้าบอกเป็นห่วง

      “ไม่เป็นไร ขอฉันอยู่ข้างนอกนี่เถอะ”

      “งั้นฉันจะรีบออกมานะ” เดลต้าบอกแล้วเข้าไปในปราสาท

      “บี ไม่เป็นไรแน่นะ”

      “ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ”

ผ่านไป5นาที

      “มาแล้ว ขอโทษนะ” เดลต้าบอกมา

      “อืม ไม่เป็นไรแล้วละ ไปดูของกินกัน”

      “อืม ฉันรู้จักร้านอร่อยๆด้วย ไปกันเถอะ” เดลต้าบอกแล้วเดินนำ

ใจกลางเมือง

      “ของกินเยอะดีจัง” ฉันบอกกับตัวเอง บางอันก็ดูน่ากิน บางอันก็ดูน่าอร่อย เห็นแล้วอยากกินอ่ะ

      “ร้านนี้ช็อคโกแลตอร่อย ลองมาซื้อสิ” ฉันก็ซื้อมา4ชิ้น ให้ฉัน มิวทู ลีเฟียกับกราเซียกิน

      “อร่อยแหะ” อร่อยมากเลยต่างหาก ถูกด้วย

      “เดี๋ยวฉันไปซื้อของแปปนะ มีร้านนึงเค้าไม่ให้ฉันพาใครมา แต่ซื้อไปฝากได้ ฝากรูคาริโอะด้วยนะ” เดลต้าพูดเสร็จแล้วก็เข้าไปในซอยเล็ก

      “ซื้อมากินต่อดีกว่า รูคาริโอะ จะเอาอะไร”

      “กล้วยเคลือบช็อคโก้ละกัน” รูคาริโอะก็บอกมา

      “แล้วเธอจะซื้ออะไร” ฉันละคำว่ามิวทูเอาไว้ ไม่งั้นรูคาริโอะได้ยินแล้วคงไปกันใหญ่

      “ขอที่ซื้อเมื่อกี้ซัก2ถุงได้ไหม จะลองทำขนมหวานดู” อืมๆ

      “แล้วลีเฟียกับกราเซียละ”

      “ขอช็อคโกแลตอันใหญ่ๆฮะ จะกันด้วยกันกับลีเฟีย” กราเซียบอกมาแล้วลีเฟียก็บอกเสียงอายๆ

      “อะ... อือ” โหย ถึงขั้นไหนแล้วเนี่ย ฉันขอลุ้นต่อไปละกัน

      “อะนี่ กล้วยเคลือช็อคโก้” ฉันยื่นไปให้รูคาริโอะ

      “อือ” รู้คาริโอะก็รับแล้วก็เลีย... หา เลีย มันต้องกินไม่ใช่หรอ ทำไมต้องเลียฟระ

      “อะ เอ่อ กินไม่ได้หรอ”

      “ก็นายท่านบอกว่าต้องเลียก่อนค่อยกิน” ไอ้แชมป์เปี้ยนโรคจิต กลับมามีเฮแน่

        ‘มิวทู พอเดลต้ากลับมา พวกเรามายำกันเถอะ’ ฉันส่งกระแสจิตหามิวทู

        ‘คิดอยู่เหมือนกัน สอนอะไรไม่เข้าท่า’ มิวทูก็ส่งกระแสจิตหาฉัน

ผ่านไป5นาที

      “มาแล้ว ลูกอมร้านนี้อร่อยมากเลยนะ” เดลต้าก็วิ่งกลับมา พอถึงระยะ 50 ซม. มิวทูก็ต่อยเข้าท้องเดลต้า แล้วก็แท็คมือฉัน

        ฉันก็เอามือสับกะบาลเดลต้าเข้าซักเปรี้ยง

      “นี่พวกเธอทำไรกัน มันเจ็บนะ”

      “สอนอะไรไม่สร้างสรรค์ เวลากินกล้วยเคลือบช็อคโก้ เค้าให้กิน ไม่ใช่เลีย รูคาริโอะนายเลียกล้วยมันไม่ดีรู้ไหม...” ฉันรับไม่ได้อ่ะนะ

      “…” เดลต้าก็เหมือนจะอึ้งนิดๆ

      “ช่างมันเถอะ ไหนละของที่ซื้อมา”

      “อ่อ นี่ไง มันเป็นลูกอมอ่ะนะ แต่ฉันว่า อร่อยที่สุดในสามโลกเลยมั้ง ลองชิมดู” เดลต้าก็ยื่นให้มา4เม็ด มห้มิวทู ฉัน ลีเฟียกับกราเซีย

      “อร่อย ลูกอมอะไรเนี่ย อร่อยมาก”

      “ใช่ไหมละ อร่อยสุดยอดเลย แต่ฉันคงต้องไปแล้วละ ไปกันเถอะ รูคาริโอะ” เดลต้าพูดเสร็จ รูคาริโอะก็เดินตามหลังเดลต้า

      “บาย โชคดีนะ” ฉันลาเดลต้า

      “อือ” แล้วเดลต้ากับรูคาริโอะก็จากไป...

      “กลับกันเถอะ” ฉันเดินแล้วจับมือมิวทูให้มาด้วยกัน เพราะทางที่ฉันเดินมันเป็นซอยคดเคี้ยว ทำไมถึงเดินทางนี้นะหรอ

        ถนนหลักคนเยอะมากถึงมากที่สุดไง

        ฉันเดินไปถึงสะพาน พอถึงกลางสะพาน อยู่ดีๆ... สะพานก็พังลงมา มิวทู ลีเฟีย กราเซียก็ร่วงลงไป

        ผ้าพันคอที่ใส่อยู่ก็หลุดลอยลงไปในแม่น้ำที่หนาวเย็น

      “มิวทู ลีเฟีย กราเซีย” ฉันรีบจับมือมิวทู อีกข้างก็จับมือลีเฟียกับกราเซียไว้ไม่ให้หล่นลงไป แต่มันก็หนักเกินไป ฉันจึงหล่นลงไปด้วย

      “อ้าก~” ฉันกำลังจะหล่นลงไปในแม่น้ำที่เย็นเฉียบ แต่เหมือนพลังฉันจะพุ่งออกมาใส่แม่น้ำ พอฉัน มิวทู ลีเฟียกับกราเซียถึงแม่น้ำ

        จู่ๆมันก็เด้งออกมาคล้ายๆสปริง เด้งจนไปอยู่อีกฟากของสะพาน

        ฉันตกลงมาก่อน แล้วมิวทูก็ทับฉัน แล้วก็กราเซีย จบด้วยลีเฟีย หนักอะ

      “อะ เอ่อ รีบลุกหน่อย หนัก” ลีเฟียกับกราเซียก็รีบลุก แต่พอมิวทูได้สติ ก็หน้าแดง ฉันนอนอยู่ข้างล่าง ส่วนมิวทูอยู่ข้างบน นี่มัน...

      “ขอบใจนะ เบต้า” มิวทูกะผลักให้ฉันนอนละ แล้ว... หอมแก้มฉัน

      “...มิวทู” เป็นใคร ใครก็อึ้งดิ

      “…มิวทู ไม่อยากจะบอกหรอกนะ แต่ลีเฟียกับกราเซียจ้องใหญ่แล้ว” พูดแค่นี้ มิวทูก็หันไปหาเจ้าสองตัวนั้น แล้วก็หน้าแดงสุดๆ

      “จบเรื่องแล้วกลับกันเถอะ”

      “อื้อ” มิวทู ลีเฟีย กราเซียก็ตอบรับ แล้วกลับไปยังห้องพัก...

ตอนกลางคืน

      “นี่ๆ มาดูพลุสิ จะจุดแล้วนะ” ฉันเรียกมิวทู กับเจ้าสองตัวให้มาดู

      “สวยจังเลย” มิวทูบอก

      “อืม” ฉันบอกกลับ แล้วก็หันไปหามิวทู แล้วก็... จูบมิวทู

      “อ๊ะ...” มิวทูหน้าแดงจัด

      “หลับฝันดีนะ” ฉันบอกกับมิวทู แล้วก็นอน

      “อือ”

      วันนี้มีแต่อะไรที่แปลกๆ เสียงนั่นที่ได้ยินหน้าปราสาทคือใครกัน เสียงคุ้นๆเหมือนเคยได้ยิน แล้วจู่ๆพลังนั่นก็โผล่ออกมาตอนที่ฉันไม่ได้ควบคุม

      แต่ที่แน่ๆ ฉันชักชอบมิวทูซะแล้วซิ...

Edit : แก้คำผิด หลังจากที่น้องแฝดผมมาดู= ="

Link to comment
Share on other sites

น่านไง

อาการโรคจิตเริ่มส่งมาเป็นทอดๆแล้ว

วาว่า>>>ศจ./Gold>>>V.5

เจ้าของเรปบนๆ 2 เรปน่ะ

อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาคุยในนี้จะดีกว่า

เหมือนมันมาขัดอรรถรสในการอ่านฟิค

Link to comment
Share on other sites

ผมยังไม่ถึงขั้นศจ.น่า =w= มาลงต่อง้าบ

บทที่ 10

        เฮ้อ เหนื่อยชะมัด ถ้ามิวทูไม่เทเลพอร์ทก็คงแย่แน่ๆ พอถึงเมืองแล้วก็มาฟื้นพลังโปเกมอน ฟื้นพลังเสร็จก็กลับเข้าห้องพัก

        อาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วก็พร้อมที่จะไปสู้ยิม2

        “เอาละ พร้อมแล้ว ไปกันเถอะ มิวทู”

        “อื้ม บี”

          โอโห ไปถึงเสร็จก็ดูเหมือนว่า หัวหน้ายิม2คนนั้นจะโหดน่าดู ชนะไปแล้ว100คู่ ของรางวัลก็ดีมากขึ้นไปอีก

          แต่จำได้ว่าก่อนหน้านั้นใช้แค่สตาร์มี่กับซีดร้าเองนิ ทำไมคราวนี้กลายเป็นมิโลคารอสกับเกียราดอสแล้วหงะ

        “เอ่อ ขอโทษครับ ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้ หัวหน้ายิมใช้แค่สตาร์มี่กับซีดร้า ทำไมกลายเป็น2ตัวนี้ไปได้ละ”

          ฉันถามกรรมการดู กรรมการตอบสวนเลย

        “มีอีกกฎน่ะ คือ ถ้าหัวหน้ายิมชนะได้มากเท่าไหร่ เค้าก็จะเปลี่ยนตัวให้เก่งยิ่งขึ้นไง เพราะจริงๆแล้ว ที่คุณเคยเห็น เค้าใช้ในยิม

          แต่ที่เห็นตอนนี้คือ โปเกมอนบางตัวที่แท้จริงของหัวหน้ายิมไง” อ่อ งั้นหมายความว่าหัวหน้ายิมทุกยิม

          มีโปเกมอนสำรองไว้สู้กับคนเก่งๆนอกยิมสินะ

        “งั้น ขอผมลองสู้นะครับ”

        “โอเคครับ” กรรมการพูดจบแล้วหันไปพูดต่อ

        “เอาละครับ โกสกับสเปียร์ล้มลงไปแล้ว หัวหน้ายิมเป็นฝ่ายชนะครับ เชิญคู่ต่อไปเลยครับ”

          ‘มิวทู ของเธอเป็นกราเซีย ส่วนของฉันเป็นลีเฟีย ตกลงนะ’ ฉันส่งกระแสจิตให้มิวทู

          ‘อืม พยายามเข้านะ’

          “หืม คู่ต่อไปคือพวกเธอหรอ สายตาใช้ได้หนิ หวังว่าคงไม่จบเร็วนะ” หัวหน้ายิมคนนึงก็พูดขึ้น

          “จะพยายามครับ” ฉันส่งยิ้มไปให้หัวหน้ายิม

          “ออกมา ลีเฟีย/กราเซีย” ฉันกับมิวทูพูดขึ้นพร้อมกัน

          “มาแล้วค่ะ/มาแล้วฮะ”

          “พร้อมนะ ลีเฟีย คัตเตอร์ใบไม้(Razor Leaf)ใส่มิโลคารอส” ใบไม้กลุ่มใหญ่ก็ลอยมาเฉือนใส่มิโลคารอส แต่ดูเหมือนมันหนังจะหนามาก

          เฉือนไม่เข้าเลยนะนั่น

          “ยังอ่อนน่า มิโลคารอส ฟื้นพลัง (Recover)” โอ้โห ท่าเหมือนลีเฟียของเราเลยแหะ

          “โอ๊ย” ลีเฟียร้องขึ้น แย่ละ เกียราดอสมาตอนไหน

          “โดนเล็บน้ำแข็ง (Ice Fang) เข้าคงจะเจ็บสินะ งั้นก็หางมังกร (Dragon Tail)” แย่ละ โดนท่านี้มีสลบแน่ ทำไงดี

          “พายุน้ำแข็ง (Blizzard)” เสียงมิวทูก็พูดขึ้น พายุน้ำแข็งถล่มเข้ามาใส่เกียราดอสจังๆ

          ‘ลืมบอกไปนะ ฉันยังไม่สลับพลังคืนนะ’ มิวทูบอก มิน่าละ ถึงแรง

          “แย่ละ มิโลคารอสล้มตอนไหน”

          “เกียราดอสล้มไปแล้ว ผู้ชนะคือผู้ท้าชิงครับ” กรรมการบอกยุติการแข่ง

          “เฮ้อ เก่งเป็นบ้าเลยนะพวกเธอเนี่ย เอ้ารางวัล ขัดกลัดของยิมนี้ มันจะเพิ่มพลังโจมตีพิเศษให้โปเกมอนทุกตัว

          และรางวัสำหรับชนะเลิศ ตั๋วเรือไปเกาะกลอเรีย ที่นั่นวิวสวยมากเลยนา เหมาะไปเดทกับแฟนได้เลยนะ” หง่า เป็นแฟนกันตอนไหน

          หันไปดูมิวทูก็เห็นหน้าแดง น่ารักจริงๆ

          “เรืออยู่ไหนหรอครับ” ฉันถามหัวหน้ายิม

          “ตรงไปด้านหน้าก็เจอแล้ว โชคดีนะ”

          “ครับ ไปกันเถอะ” ฉันพูดกับมิวทู แต่พยายามไม่พูดคำว่ามิวทู ขืนพูดละก็ ข่าวหน้าหนึ่งคงไม่ใช่ฝัน

          “อื้อ” มิวทูยิ้มน่ารักแล้วเดินตามไป

          จะว่าใกล้ก็ใกล้ ไกลก็ไกลอะน่ะ เพราะเดินอีกซัก7นาทีก็ถึง เรือใหญ่เด่นงามสง่า บอกตรงๆเลยว่า

          คงเป็นเรือที่ไว้ใช้งานใหญ่ต่างๆสำหรับคนรวย แค่ดูจากข้างนอกก็เห็นสระว่ายน้ำ สนามกีฬา บลาๆๆ เอาเป็นว่าเยอะละกัน

          ถ้าอยู่ข้างในคงจะเยอะกว่านี้ คงไม่มีบ่อนหรอกนะ

          “เรือนี่หรอ หรูชะมัด” ฉันพูดกับมิวทู

          “เข้าไปกันเถอะ ถ้าเรือออกคงต้องรออีกนาน” มิวทูพูด ฉันก็เดินไปหาคนรับตั๋ว

          “ยินดีต้อนรับครับ ไม่ทราบว่ามีบัตรรึเปล่าครับ” ฉันหยิบบัตรที่ได้มาให้เขาดู

          “โอ้ บัตรVIP สำหรับ2คน เชิญเข้ามาเลยครับ” ฉันกับมิวทูก็เข้าไป แค่นั้นแหละ คนก็มารอต้อนรับ

          “ขอต้อนรับสู่ เรือเซนต์วิคเตอเรียครับ/คะ”

__________________________Chapter End_________________________________

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.