Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

WING แมลง FANG มังกร


Thunderies

Recommended Posts

WING แมลง FANG มังกร

  The Cool Wing of The Rage Fang

            เรื่องราวของแชมป์เปี้ยนโปเกมอนลีคครั้งที่ 7 ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แห่งประเทศไทย

เธอเชี่ยวชาญในการใช้โปเกมอนแมลง และมีบัตเตอร์ฟรีเป็นคู่หู หลังจากคว้าชัยในศึกลีคได้

เธอเลือกที่จะผันตัวเอง มาเป็นผู้นำโรงยิมเล็ก ๆ ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในจังหวัดขอนแก่น

ซึ่งคนในจังหวัดนี้ยังขาดความรู้เรื่องโปเกมอน และขาดผู้นำที่มีความสามารถ หลังจากที่เธอเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน

โรงยิมขอนแก่นก็เริ่มมีชื่อเสียง จนกระทั้ง ชายหนุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า นักล่ามังกร ก็ปรากฏตัวขึ้น

การต่อสู้ระหว่างผู้นำโรงยิม และ นักล่ามังกร จะมีบทสรุปแบบไหน เรื่องที่ติดข้างในใจ

และวิถีทางที่พวกเขาจะไป สุดท้ายจะจบยังไง โปรดติดตามอย่าได้คลาดสายตานะคร้าบ..

ความอ่อนแอที่น่ากลัวและความแข็งแกร่งที่ทรมาน การอยู่ตรงกลางระหว่างสูงสุดและต่ำสุด

เหตุผลที่ต้องมีชีวิต ... the cool wing of the rage fang

Character

หลัก ๆ จะพูดถึงความรู้สึกของโปเกมอนซะส่วนใหญ่ เลยจะมีแค่เทรนเนอร์ 2 คนที่ดำเนินเรื่องอยู่ (พระ กะ นาง นั่นล่ะ)

รวมถึงลูกศิษย์ของนางเอก 3 คน กับตัวประกอบที่จะโผ่ลมาฉากสองฉาก (= =")

ลูน่า บลิซซาร์ด (Luna of Blizard)

แชมป์เปี้ยนประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนล่าสุด ที่สละตำแหน่งแชมป์เปี้ยนและมารับตำแหน่งผู้นำโรงยิม

(เพราะไม่สามารถดำรงตำแหน่งซ้อนกันได้ รองแชมก็จะเลื่อนขึ้นมาเป็นแชมแทน) เธอชำชองการใช้แมลง

สามารถอ่านความคิดจากความเคลื่อนไหวของแมลงได้ มีบัตเตอร์ฟรีเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งอยู่กับเธอมาตั้งแต่ยังเป็นคาเตอร์ปี

แต่ก็ไม่เคยใช้บัตเตอร์ฟรีทำศึกแบทเทิลเลยสักครั้ง

นิสัยทั่วไปจะเป็นคนใจเย็น วิเคราะห์สถาณการณ์ได้อย่างฉลาด สามารถอ่านการโจมตีของคู่แข่งออกและเลือกใช้โปเกมอน

ได้อย่างเหมาะสม รักพวกผอง และพร้อมจะปกป้องโปเกมอนทุกตัว แม้จะเป็นพวกหรือศตรู เป็นเทรนเนอร์ที่เก่งมากคนหนึ่ง

ซึ่งนอกจากแมลง โปเกมอนและโปเกมอนแบทเทิลแล้ว เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย!!

เกิดวันที่ : 29 กุมภาพันธ์  อายุ : 19  กรุ๊ปเลือด : B บ้านเกิด : ขอนแก่น

โปเกมอนในครอบครอง : ไครอส ทรานเซล มอนฟอส พารัส และบัตเตอร์ฟรี

โซล่าร์ วอลแคนโน่ (Solar of Volcano)

ชายหนุมซึ่งเรียกตัวเองว่า นักล่ามังกร เขามีความสามารถในการต่อสู้สูง ใช้มังกรได้อย่างชำนาญ รู้จักเทคนิคต่าง ๆ

ที่มังกรใช้อย่างระเอียด รวมถึงความเข้าใจในโปเกมอนของตัวเอง ออกเดินทางกับไคริวมาตั้งแต่แรก

จนเข้าขากันได้อย่างดี ไม่ต้องพูดอะไรไคริวก็เข้าใจ เป้าหมายของเขาคือครอบครองเข็มกลัดทั้งหมด

นิสัยทั่วไปจะเป็นคนปากร้าย และดูถูกคู่แข่งตลอดเวลาที่สู้กัน มั่นใจในพลังของมังกรที่ตนครอบครอง

ออกจะกร้างขว้างโลกหน่อย ๆ ใจร้อนและจะหัวเสียทุกครั้งที่สถาณการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิด

ทำอะไรไม่มีแผนการ จะทุ่มด้วยพลังที่บ้าคลั้งทุกครั้ง แต่พอจบศึกแบทเทิลเขาจะดูสงบเสงียม สุขุม

ไม่ชุงชิงและไม่ไปหาเรื่องกับใคร เขาจะต่อสู้เฉพาะที่โรงยิมหรือเวลาตัวเองโมโหเท่านั้น

เกิดวันที่ : 8 ตุลาคม อายุ : 20  กรุ๊ปเลือด : B บ้านเกิด : กรุงเทพมหานคร

โปเกมอนในครอบครอง : ฟูเตร่า ลิซาด้อน แกร่าดอสและไคริว

เบิร์น เฟลมเธอร์เวอร์ (Burn Flamethorwer)

ผู้ท้าชิงและเป็นลูกศิษย์คนแรกของลูน่า เป็นคนเลือดร้อน มุทะลุ แต่ก็เชื่อฟังลูน่ามาก ในจำนวนลูกศิษย์ทั้งหมด เขาเก่งที่สุด

เกิดวันที่ : 19 กันยายน  อายุ : 16  กรุ๊ปเลือด : O บ้านเกิด : ขอนแก่น

โปเกมอนในครอบครอง : ซูแบท การ์ดี้

ไอซ์ส ออโรร่า (Ices Aurora)

ติดตามเบิร์นมาตั้งแต่เด็ก และร่วมสู้กับเบิร์นในศึกยิมแบทเทิล เป็นคนสุขุม ฉลาด และรักเพื่อนฝูง

เกิดวันที่ : 26 มีนาคม  อายุ : 16  กรุ๊ปเลือด : AB บ้านเกิด : ขอนแก่น

โปเกมอนในครอบครอง : โพลิก้อน

ไลน์นิ่ง ไดรเวอร์ (Lightning Diver)

เป็นเด็กสุดในกลุ่ม รักไอซ์สที่เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ ๆ เป็นคนขี้อาย พูดน้อย ส่วนใหญ่จะแข่งดับเบิ้ลแบทเทิลร่วมกันไอซ์ส

เกิดวันที่ : 14 มิถุนายน  อายุ : 13  กรุ๊ปเลือด : B บ้านเกิด : ขอนแก่น

โปเกมอนในครอบครอง : อิวาร์ค

นอกจากนี้จะเป็นเทรนเนอร์และตัวประกอบที่จะออกมา 1 ถึง 2 ตอน ซึ่งขอพูดถึงความสำคัญของแต่ละคนในตอนนั้น ๆ

มาทำความเข้าใจกันก่อน

โปเกมอนลีค จะแข่งทุก ๆ 4 ปี ซึ่งแบ่งออกเป็นภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง

(เหมือนกับเขตคันโต โจโต ฯลฯ ครับ และเราจะพูดถึงภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่หลักของเรื่องนี้)

แข่งขันกันเพื่อหาแชมป์เปี้ยนประจำภูมิภาคนั้น ๆ และผู้ชนะเลิศ (อันดับ 1) จะถูกจารึกชื่อไว้ในหอเกียรติยศ (Hell of fame)

ในฐานะแชมป์เปี้ยน โดยผ่านการรับรองจากสมาคมโปเกมอนแห่งประเทศไทย

โรงยิมในประเทศไทย จะมีทั้งหมด 32 แห่ง แบ่งเป็นภูมิภาค ๆ ล่ะ 8 แห่ง รวม 4 ภาค และโรงยิมขอนแก่นก็เป็นหนึ่งในแปดแห่ง

ของโรงยิมในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แห่งประเทศไทย

โรงยิมทั้ง 8 แห่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งอยู่ที่ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด เลย นครราชสีมา ยโสธร บุรีรีมย์ อุดรธานีและขอนแก่น

ผมขอพูดถึงโปเกมอน 151 ตัวแรกในเขตคันโต เท่านั้นนะครับ (เยอะกว่านี้ยังไม่แม่น)

เทคนิคที่โปเกมอนใช้จะจำกัดไว้ที่ภาค emerald ก่อน (มากกว่านี้ยังไม่รู้)

สุดท้ายนี้

ฝากติดตามเรื่อง  WING แมลง  FANG มังกร  ภาค  The Cool Wing of The Rage Fang

ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 17.00 น. และวันเสาร์ เวลา 23.00 น. ด้วยเน้อ

มีทั้งหมด 9 ตอน วันอังคารที่ 20 ส.ค. นี้ เป็นตอนแรก ขอบคุณมากคร้าบ!!..

  "จงบินไปด้วยปีกของตัวเอง จงสู้ไปด้วยเคี้ยวของตัวเอง จงก้าวไปด้วยใจของเจ้าเอง.."

    WING แมลง FANG มังกร - The Cool Wing of The Rage Fang

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 01 :-: ปึกของผู้ชนะ

          ณ สมาคมโปเกมอนแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร อาคารสองชั้นท่ามกลางถนนและสายไฟสีดำลายล้อมวกวน

ในห้องใหญ่ห้องหนึ่งภายในอาคาร ป้ายหน้าห้องเขียนบอกว่า"ประธานสมาคมโปเกมอน" ภายในห้องมีหญิงสาวผมสีดำสนิท

ยาวปะบ่าคนหนึ่ง โดยมีผีเสื้อบัตเตอร์ฟรีที่ดูสนิทและเชี่องเกาะอยู่ที่ไหล่ เธอยืนคุยกับชายวัยประมาณ 50 ต้น ๆ ซึ่งแต่งตัวสุภาพ

ภูมิฐาน น่าเคารพ โต๊ะทำงานของเขามีกองแฟ้มและเอกสารมากมายกองเรียงรายอยู่ มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตั้งอยู่

ซึ่งข้าง ๆ มีถ้วนกาแฟอุ่น ๆ บุคคลเจ้าของโต๊ะนี้เขาคือประธานสมาคมโปเกมอน

          "เธอรู้ใช่ไหม ว่ากฏของของสมาคมเรา เทรนเนอร์ไม่สามารถถือครองตำแหน่งสองตำแหน่งพร้อมกันได้"

          "คะ"

          "รู้อย่างนี้ เธอยังยืนยันแบบนี้งั้นหรือ"

          "คะ ชั้นยินดีสละตำแหน่งแชมป์เปี้ยน เพื่อเป็นผู้นำโรงยิม"

          "ตำแหน่งแชมป์มีชื่อเสียงมากกว่าผู้นำโรงยิมนะ เธอจะถูกลบชื่อออกจาก hall of fame และรองแชมป์ก็จะได้ขึ้นมา

รับตำแหน่งนี้แทนเธอ.. ตกลงนะ"

          "ตกลงคะ และชั้นพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบเป็นผู้นำโรงยิม.." หญิงสาวยังพูดไม่จบ ประธานก็หัวเราะเบา ๆ

        "ไม่จำเป็นหรอก ฝีมือของผู้ชนะเลิศโปเกมอนลีคอย่างเธอจะต้องทดสอบอะไรอีก ชั้นจะอนุมัติคำร้องขอของเธอ

..เอ๋ โรงยิมที่ยังร้างผู้นำอยู่ ก็มี.." ประธานพูดพลางหยิบเอกสารของโรงยิมทั้งหมดมาอ่านดู

          "ชั้นอยากจะอยู่..โรงยิมขอนแก่นอ่ะค่ะ"

        "โรงยิมขอนแก่นงั้นหรือ" ประธานหยิบเอกสารข้อมูลของโรงยิมขอนแก่นขึ้นมาอ่านทันที

        "ที่นี่..โรงยิมเพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อ 5 ปีที่แล้วนี่เอง แต่ยังหาคนที่เหมาะสมมาเฝ้าที่นี้ไม่ได้ ส่วนคนที่เราเคยทาบทามไว้

เขาก็ตอบปฏิเสธกันมาทุกคน เพราะว่าที่นี้อยู่บ้านนอก ห่างจากตัวเมือง และค่อยข้างขาดความเจริญที่จำเป็นหลายอย่าง

เลยไม่อยากจะมาอยู่กัน" ประธานคว้าถ้วนกาแฟขึ้นมาดื่ม ก่อนจะพูดต่อ "ทั้ง ๆ ที่เพิ่งสร้างเสร็จแท้ ๆ ก็ต้องถูกทิ้งร้างไว้ตั้ง 5 ปี"

ประธานมองหน้าหญิงสาวก่อนพูดต่อ "เธอเองเป็น Gym Leader รุ่นแรกของโรงยิมขอนแก่นแห่งนี้ ฝากดูแลให้ดี ๆ นะ"

        "ค่ะ ชั้นจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด" เธอมองหน้าประธานด้วยสายตาจริงจัง "เข็มกลัดของโรงยิมแห่งนี้ ชั้นจะปกป้องด้วยชีวิต"

        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น นับตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่กรุงเทพ ฯ เมื่อคุยกับประธานสมาคมโปเกมอนเรียบร้อย

นับได้ 1 อาทิตย์พอดี วันนี้ ณ ตอนนี้ เธอ กับบัตเตอร์ฟรีที่เกาะหลังเธออยู่และเจ้าหน้าที่ของสมาคมโปเกมอน พวกเขาทั้งสองคน

อยู่หน้าโรงยิมขอนแก่นแล้ว

        "เอาล่ะ ถึงแล้ว ๆ ฝากให้คนงานมาทำความสะอาดให้ซะเอียมอ่องเลย" เจ้าหน้าที่หนุ่มพูดจบ ทั้งคู่ก็กวาดสายตาสำรวจ

โรงยิมที่อยู่เบื้องหน้า เป็นอาคารเดี่ยวชั้นเดียวสีฟ้าอ่อน มีต้นคูณต้นใหญ่ใบสีเขียว ดอกสีเหลืองทอง อายุสิบกว่าปี

ตั้งตระง่าอยู่หน้าโรงยิมเป็นเอกลักษณ์ หลังจากที่เดินเข้ามาในโรงยิม ห้องแรกที่พบเป็นห้องโถ่งกว้าง ๆ เพดานสูง แสงผ่านใด้สะดวก

อากาศถ่ายเทอย่างสบาย ตรงกลางห้องเป็นแบทเทิลฟิลด์ที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานเลยสักครั้ง ถัดไปมีห้องอีก เป็นห้องน้ำ

ห้องพักของเทรนเนอร์ และห้องทำงานของลีคเดอร์ ทั้งคู่รู้สึกพอใจอาคารหลังใหม่แห่งนี้

        "ต่อไปทุกอย่างในโรงยิมแห่งนี้ คนที่จะต้องดูแลมันคือเธอและบัตเตอร์ฟรีของเธอนะ ฝากด้วย"

        "ค่ะ" หญิงสาวรับคำ "ขอบคุณมากนะค่ะ"

        ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะร่ำลากัน บริเวณหน้าโรงยิมใต้ต้นคูณก็มีเทรนเนอร์ 3 คนเดินเข้ามา คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มตัวใหญ่

ผมสีน้ำตาลเข้ม ดูเป็นผู้ใหญ่สุดในกลุ่ม ซึ่งมีหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ผมยาวสีดำเกาะแขนตามมาด้วย และเด็กหนุ่มผมแดงเพลิง

ท่าทางกวน ๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ท่าทางของเขาหัวเสียสุด ๆ เดินปรี่เข้ามาหาคนทั้งสอง

        "อะไรเนี่ย เพิ่งจะเปิดงั้นเรอะ ตอนสร้างเสร็จใหม่ ๆ ไอ้เราก็อุต์สาห์ดีใจ นึกว่าจะได้ฝึกฝีมือซักหน่อย" เทรนเนอร์ผมแดง

พูดกับหญิงสาวด้วยอารมณ์ฉุดเฉียว เจ้าหน้าที่สมาคมเห็นว่าสถาณการณ์ไม่ค่อยดีนัก จึงรีบตัดบท

          "เอ่อ ..ถ้าจะมาท้าสู้ก็ช่วยรอถึงพรุ่งนี้เถอะนะ โรงยิมเปิดพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการน่ะครับ"

        "ชั้นรอมา 5 ปีแล้วนะ วันนี้จะต้องต้อนรับผู้นำคนใหม่ซะหน่อย" เจ้าหน้าที่สมาคมพยายามจะห้าม แต่หญิงสาว

ก็พูดกับเด็กหนุ่มเลือดร้อนที่มาท้าสู้กับตน

        "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เป็นเทรนเนอร์ก็ต้องพร้อมสู้ ยิ่งถ้าเป็นลีดเดอร์ด้วยแล้ว จะหนีคำท้าของผู้ท้าชิงที่อยู่เบื้องหน้า

ได้ยังไง"

        เด็กหนุ่มควักบอลในกระเป๋าออกมา "งั้นชั้นไม่เกรงใจล่ะนะ" เขาตะโกนลั่นพร้อมพุ่งเข้ามา ปล่อยโปเกบอลออกปรากฏเป็นโปเกมอน

ซูแบท เขาและซูแบทมุ่งเข้าประชิดตัวลีดเดอร์ แต่นั่น หญิงสาวก็ไม่ได้ร้อนรน ถือซูปเปอร์บอลในมือซ้ายและกดเปิดสวิทซ์

เพียงพริบตาเดียวทั้งซูแบทและเด็กหนุ่มก็ถูกกระแทกจนกระเด็นออกมา หวันและฝุ่นพุ่งขึ้นปกคลุ่มบริเวณที่สู้กัน

แต่เมื่อหวันจางเห็นเพียงสีหน้าที่ตื่นตระหนกของเด็กหนุ่มและซูแบทที่หมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่เห็นโปเกมอนที่เธอใช้

มีเพียงหลุมปริศนาที่ถูกขุดอยู่ใต้เท้าของลีดเดอร์ เธอหันไปมองเด็กผู้ชายผมน้ำตาลและผู้หญิงผมดำยาวที่มาด้วยกัน

        "พวกเธอจะสู้ด้วยไหม หรือจะแข่งแบบแท็คแบทเทิลก็ได้นะ เข้ามาพร้อมกันเลย" สิ้นประโยค โปเกบอลของทั้งสองคน

ก็ถูกขว้างออกมา เป็นอิวาร์คและโพลีก้อน แต่ไม่ทันที่เท้าของโปเกมอนทั้งสองตัวจะแตะพื้น พื้นดินก็สั่นไหวอย่างรุ่นแรงราวกับ

แผ่นดินไหว เทรนเนอร์ทั้งสามต่างตกใจในสถาณการณ์ ร่วมถึงเจ้าหน้าที่สมาคมที่ยืนดูอยู่ด้วย มีเพียงลีดเดอร์สาว

ที่ไม่ได้ตื่นตูมกับสิ่งที่เกิดขึ้น การสั่นไหวของแผ่นดินยังไม่หยุด แต่อิวาร์คและโพลิก้อนทนไม่ไหวแล้วล้มลงไปพร้อมกันทั้งสองตัว

เมื่อหมดสภาพ แผ่นดินก็หยุดการสั่นไหว เผยให้เห็นโปเกมอนที่ซ่อนตัวเองอยู่ในหลุมที่ถูกขุด ไดรอส เจ้าหน้าที่สมาคมจึงเข้าใจ

        "งั้นที่แผ่นดินไหวเมื่อกี้ก็คือ Earthquake แล้วหลุมที่ถูกขุดก็เป็น Dig ของเจ้านี่สินะ ใช้ไครอสตัวเดียวล้มโปเกมอน

สามตัวได้โดยที่ไม่ถูกโจมตีเลย สุดยอดจริง ๆ " หญิงสาวยิ้มเบา ๆ รับคำชม

        หญิงสาวมองเทรนเนอร์ทั้งสามยืนตะลึงอยู่ "ไม่เป็นไร ชั้นยังอยู่ที่นี้อีกนาน ไว้มาสู้กันใหม่นะ"

        "อยู่อีกนานเหรอ" เด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงพูดขึ้น

        "ใช่จ๊ะ มีอะไรงั้นเหรอ" เทรนเนอร์ผู้ท้าชิงทั้งสามคนคุกเข่าลง เทรนเนอร์เจ้าของซูแบทตะโกนดังบอกกับลีคเดอร์สาว

        "เรารอคนมีฝีมือมานาน คนที่รู้เรื่องโปเกมอน คนที่จะสอนเราได้ เพื่อที่เราจะได้เก่งขึ้นกว่านี้ เพราะงั้น.."

        "ช่วยรับเราเป็นศิษย์ด้วยเถอะครับ" เทรนเนอร์ทั้งสามคนพูดพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่แนวแน่

        "ได้สิ แต่การฝึกของพี่ 'ลูน่า ลูน่า บลิซซาร์ค' คนนี้ มันหนักมากเลยนะ"

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

เป็นพล็อตเรื่องที่น่าสนใจดีครับ เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในประเทศไทยซะด้วย

รอติดตามต่อ ๆ ไปนะครับ :hito01:

มีคำแนะนำนิดหน่อยครับ

เท่าที่อ่านดูผมเห็นคำผิดอยู่บ้างบางจุด เช่น Hell of Fame (ต้องเป็น Hall of Fame ครับ) เอกรักษ์ (เอกลักษณ์)

แล้วก็บางย่อหน้าบรรทัดจะติดกันมากไปหน่อยน่ะครับ ทำให้บางครั้งก็อ่านลำบากนิดหน่อย

ถ้าลองเว้นช่องว่างหรือแบ่งย่อหน้าให้มากกว่านี้หน่อยผมว่าก็น่าจะอ่านง่ายขึ้นครับ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณคร้าบ มีคำติชมยังไงพูดได้เต็มที่เลย ส่วนเรื่องคำผิด พิมพ์ตก หรือสะกดผิด

ถ้าเห็นอีกก็บอกได้เลยน้า จะพัฒนาให้ดีขึ้น มีคำแนะนำอะไรบอกได้เลยนะจ๊ะ

ขอบคุณครับ

Link to comment
Share on other sites

ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่เกิดเรื่อง ช่างกล้ามากเลยนะ!  :pika03:

แต่มันก็ทำให้เรื่องราวน่าสนใจขึ้นเช่นกัน พวกพระเอกจะมาแถวบ้านผมบ้างไหมน่ะ ฮ่ะๆๆ  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

ประเทศไทยนี่ล่ะ จะได้คิดภาพตามง่าย ๆ ส่วนจะไปโผล่บ้านใครบ้าง ก็ลุ้นเอานะ ฮ่าๆ

ปล.หน่อย ถ้าเห็นชื่อโปเกมอนตัวไหนผิดก็บอกได้เลยน้า

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 02 :-: ปึกของผู้นำ

        โรงยิมของแก่น ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นอาคารเดี่ยวชั้นเดียว ตึกสีฟ้าอ่อน

มีต้นคูณอายุกว่าสิบปีขึ้นอยู่ต้นหนึ่งหน้าโรงยิมเป็นเอกลักษณ์ โรงยิมแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อ 5 ปีก่อน แต่เพิ่งเปิดทำการได้เพียง

3 อาทิตย์ ภายใต้การนำของ 'ลูน่า บลิซซาร์ด' แต่ถึงแม้จะเปิดทำการได้ไม่นานนัก โรงยิมขอนแก่นแห่งนี้ก็เริ่มมีชื่อเสียง

ด้วยความเก่งกาจของผู้นำโรงยิม ทำให้ผู้ท้าชิงทั้งในจังหวัดขอนแก่นเอง และจังหวัดรอบ ๆ ข้างเคียงที่มาท้าสู้

ก็ผ่ายแพ้กลับไปทุกราย และด้วยความสามารถที่ยากจะรับมือได้นี้ ชื่อของลูน่าก็กระโชนไปทั่วทั้งจังหวัด

จนมีเทรนเนอร์ต่างจังหวัดเข้ามาขอท้าสู้เพื่อพิสูจน์ฝีมือ และด้วยจำนวณของเทรนเนอร์ที่หลั่งไหลเข้ามา งานของเธอจึงยุ่งมาก

การที่จะสู้กับผู้ท้าชิงทุกวัน วันละหลาย ๆ รอบนั้นหนักเกินไป เพราะเธอเองก็มีงานพัฒนาเมืองขอนแก่นในฐานะผู้นำโรงยิมที่ต้องทำ

ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น รวมทั้งการฝึกหัดเทรนเนอร์มือใหม่ งานอณุรักษ์โปเกมอนธรรมชาติท้องถิ่น

งานเผยแพร่ความรู้เรื่องโปเกมอนในชุมชน และงานระหว่างโรงยิมในภูมิภาคเดียวกัน บางทีเธอต้องวางงานในโรงยิม

เพื่อปฏิบัติงานภาคสนาม นอกสถานที่ โรงยิมก็ทิ้งร้างไม่ได้ เพราะฉะนั้น ระหว่างที่ลูน่าไม่อยู่ ผู้ที่เฝ้าโรงยิมจึงเป็นพวกเขา 3 คนนี้

        เบิร์น เฟลมเธอร์เวอร์ เด็กหนุ่มวัย 16 ผมสีแดงเพลิง ใจร้อน เจ้าของซูแบท เป็นหัวหน้ากลุ่ม

        ไอซ์ส ออโรร่า เพื่อนสนิทของเบิร์น ผมสีน้ำาลเข้มที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเบิร์นซะอีก

        ไลท์นื่ง ไดรเวอร์ สาวน้อยวัย 13 ที่ติดตามไอซ์สมาตั้งแต่เด็ก รักไอซ์สมากเสมือนพี่น้องแท้ ๆ

        ทั้งสามคนเป็นเทรนเนอร์กลุ่มแรกที่มาท้าสู้ที่โรงยิมแห่งนี้ และผ่ายแพ้แบบหมดรูป แต่ทั้ง 3 คนก็ขอเป็นลูกศิษย์ของลูน่า

และด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้าและอนาคตที่สดใส ลูน่าจึงรับพวกเขาทั้งหมด และสอนวิชาให้ ด้วยความตั้งใจของทั้ง 3 คน

พวกเขาพัฒนาขึ้นมาก ซูแบทของเบิร์น อิวาร์คของไอซ์ส และโพลิก้อนของไลท์นิ่ง ทั้ง 3 ตัวเองก็มีเทคนิคเพิ่มมากขึ้น

โดยเฉพาะการดับเบิ้ลแบทเทิลของอิวาร์คและโพลิก้อน ก็เข้าขากันมากขึ้น ฝีมือที่สูงขึ้น ลูน่าจึงไว้ใจให้พวกเขาร่วมสู้ในศึกยิมแบทเทิล

หมายถึงว่า หากจะสู้กับยิมลีคเดอร์ จะต้องผ่าน เบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่งซะก่อน จึงจะสามารถสู้กับลูน่าได้ พวกเขาทั้ง 3 คนเป็นที่ผึ่ง

ของลูน่าได้ดีทีเดียว ทำให้งานของเธอเบาลงเยอะมาก และมีพวกเขาช่วยดูแลโรงยิมเวลาที่ลูน่าไปทำงานนอกสถาณที่

และด้วยความยอดเยี่ยมของทั้ง 3 คน ก็สามารถเอาชนะผู้ท้าชิงมากมายได้ แต่ก็ตามที ในวัน ๆ หนึ่งก็ยังคงมีเทรนเนอร์อยู่

1 - 2 คนจากจำนวณหลายสิบคนผ่านพวกเขามาถึงลูน่าได้ และวันนี้ก็เช่นกัน

        "มีคนเคยบอกว่า โปเกมอนหญ้าเสียเปรียบโปเกมอนแมลง ชั้นได้ยินมาว่าเธอเชี่ยวชาญแมลง เลยจะมาขอพิสูจน์สักหน่อย"

หญิงสาวผมยาวสีม่วงเข้ม ผู้ท้าชิงคนล่าสุดของลูน่า พูดท้าทายผู้นำโรงยิมที่ยืนอยู่คนล่ะฝั่งของแบทเทิลฟิลด์ โดยมีไอซ์สและไลท์นิ่งนั่งดูอยู่

และเบิร์นยืนถือธงเป็นกรรมการอยู่กลางสนาม

          "ยินดีจ๊ะ" ลีคเดอร์สาวรับคำท้า ควักซูปเปอร์บอลออกมา โดยมีบัตเตอร์ฟรีบินให้กำลังใจผู้เป็นนายอยู่ด้านหลังของเธอ

          "ชั้นชื่อ 'เอิร์ธ' นักฝึกฝนโปเกมอนหญ้า ขอทุ่มสุดกำลังล่ะนะ" ผู้ท้าชิงผมม่วงประกาศกร้าวก่อนจะโยนโปเกบอลออกมา

อย่างรวดเร็ว เป็น คุไซฮานะ ที่พุ่งออกมาประจัญหน้ากับ ไครอส ที่ออกมาจากซูปเปอร์บอลของลีคเดอร์

          "ชั้น 'ลูน่า แห่งโรงยิมขอนแก่น' ก็ไม่ยอมยกเข็มกลัดให้ใครง่าย ๆ หรอกนะ" สิ้นเสียงผู้นำ โปเกมอนทั้งสองก็เข้าปะทะกัน

อย่างดุเดือด แต่ด้วยความเสียเปรียบเรื่องของชนิด คุไซฮานะไม่สารามาต้านท้านการบุกของไครอสไหว แม้จะใช้ Sweet Scent

และ Stun Spore เพื่อลดสปีดของไครอสและทำให้ไครอสเป็นอัมพาตได้ แต่ Megahorn ที่ทรงพลังก็เอาชนะคุไซฮานะ

ได้อย่างรวดเร็ว

        "การต่อสู้แบบ 4 ต่อ 4 ล้มได้ตัวเดียวอย่าเพิ่งดีใจล่ะ" ผู้ท้าชิงพูดขึ้นอย่างไม่ถอดใจ และขว้างโปเกบอลลูกที่สองออกมา

เป็น อุทสืโบ๊ท Razor Leaf ของอุทสึโบ๊ทไล่โจมตีอย่างต่อเนื่อง และด้วยความเร็วที่ช้ากว่าของไครอสจึงเข้าถึงตัวอุทสึโบ๊ท

ไม่ทันสักที แต่ด้วยประสปการณ์ของผู้นำ Earthquake ของไครอสโจมตีอุทสึโบ็ทได้อย่างรุงแรง ทันทีที่อุทสึโบ๊ทเสียการทรงตัว

ไครอสก็เข้าประชิดได้ และจบด้วย Megahorn จนอุทสึโบ๊ทหมดสภาพไปในที่สุด

          เพียงไครอสตัวเดียวก็ล้มโปเกมอน 2 ตัวของผู้ท้าชิงได้ แต่ไครอสเองก็อ่อนแรงเต็มที และยังติดอัมพาตด้วย ตัวที่ 3

ของเอิร์ธคือ มอนซาร่า การโจมตีต่อเนื่องของผู้ท้าชิงล้มไครอสลงได้สำเร็จ และก็ได้ทำให้บรรยากาศภายในโรงยิมแจ่มใส

นั่นคือ Sunny Day ที่มอนซาร่าปล่อยออกมา

        "ชั้นไม่ยอมแพ้หรอกนะ" เอิร์ธยังคงไม่ย่อท้อถึงแม้จำนวณโปเกมอนจะเป็นรอง Sunny Day ก็ส่งผลดีให้มอนซาร่า

เพื่อยิงพลังที่รุนแรงได้โดยไม่ต้องชาร์ช แต่ลูน่าอ่านเกมออก เลือกใช้โปเกมอนที่สามารถรับการโจมตีที่ทรงพลังนี้ได้

ทันทีที่ซูปเปอร์บอลของลูน่าถูกเปิดออก Solar Beam ของมอนซาล่าก็ถูกยิงออกมา ด้วยความรุนแรงของเทคนิค เกิดควันฟุงขึ้น

คลุ่มแบทเทิลฟิลด์ จนทุกคนมองไม่เห็นอะไร และเมื่อหวันจางลง สิ่งที่เห็นคือโปเกมอนตัวสีเขียว คล้ายดักเด้ นั้นคือ ทรานเซล

ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย มอนซาร่ายังคงรุกโจมตีต่อเนื่องโดยที่ทรานเซลทำได้เพียง Harden แต่นั่นก็ทำให้เอิร์ธ

และมอนซาร่าหัวเสียเพราะไม่สามารถอะไรทรานเซลได้เลยแม้แต่น้อย และทรานเซลเองนั้น ก็ไม่ได้ป้องกันอย่างเดียว

ระหว่างที่มอนซาร่าโจมตีอยู่ ลูน่าก็สั่งให้ยิง String Shot ใส่ทีละเส้น ๆ โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว จนสปีดของมอนซาร่า

แทบไม่เหลือ เอิร์ธรู้ตัวก็ช้าเกินไป ลูน่าเปลี่ยนตัว เรียกทรานเซลกลับเข้าซูปเปอร์บอลและส่ง มอนฟอส ออกมาทันที

มอนซาร่าที่ช้ากว่าไม่อาจหนี Silver Wind ที่รุนแรงนี่ไปได้ หมดสภาพไปอีกตัว ต่อนี้ผู้ท้าชิงเหลือโปเกมอนตัวเดียว

แต่ใจเธอยังสู้ไม่ถอย

        "ตัวสุดท้ายของชั้น ต้องชนะเธอให้ได้" น้ำเสียงเธอยังมุ่งมั่นไม่สั่นคลอน นัซซี่ ของเอิร์ธคือความหวังสุดท้ายในการชิง

เข็มกลัด มอนฟอสชิงโจมตีก่อนด้วย Silver Wind หวังปิดเกมเร็ว แต่ถูกป้องกันด้วย Light Screen และโต้ตอบด้วย Egg Bomb

ที่รุนแรง และแรงพอที่มอนฟอสจะหมดสภาพไป ลูน่าไม่ได้ร้อนรนกับพลังที่นัซซี่ และส่งทรานเซลออกไป แต่คราวนี้ทรานเซลไม่ได้

ป้องกันเพียงอย่างเดียว แต่ยิง String Shot อย่างต่อเนื่อง เพื่ดลดสปีดของนัซซี่ ถึงอย่างนั้น นัซซี่ก็ยังไล่กระทืบ Stomp

ใส่ทรานเซลอย่างต่อเนื่องจนทนไม่ไหวและหมดสภาพไปในที่สุด ลูน่าเองก็ประหลาดใจในพลังที่มหาศาลของนัซซี่ แต่ก็ไม่ได้ตื่นกลัว

สถาณการณ์เหลือคนล่ะตัวเท่ากัน ลูน่าเองก็เพิ่งสัมผัสการต่อสู้ที่สูสีขนาดนี้ได้หลังจากเข้ารับตำแหน่ง เธอรู้สึกสนุกในแบทเทิลครั้งนี้

        "ขอบคุณมากเลยนะ ที่แวะเข้ามาที่โรงยิมแห่งนี้ แต่ก็อย่างที่บอกไป เข็มกลัดของที่นี้คงไม่ได้ให้ใครง่าย ๆ หรอก" ลูน่าพูด

อย่างใจเย็น ลูกศิษยืทั้ง 3 คนที่นั่งดูก็ลุ้นอย่างสนุก และตัวสุดท้ายของลูน่าที่อยู่ในซูปเปอร์บอลก็คือ พารัส

          "ชนิดแมลงกับพืช การโจมตีของนัซซี่คงไม่มีผลแล้วล่ะ" เบิร์นหันไปบ่นพรำกับเพื่อนอีก 2 คน ไม่ช้า Poison Powder

ก็ฟุ่งทั่วแบทเทิลฟิลด์ ทั้งนัซซี่และพารัสต่างใช้เทคนิดเดียวกัน จนโดนพิษเล่นงานทั้งคู่ นัซซี่ปลูก Bullet Seed เพื่อเพิ่มพลังให้

ตนเอง แต่พารัสก็ใช้ Giga Drain ดูดพลังเช่นกัน เป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน กินกันไม่ลงจริง ๆ แต่ว่า..

        "มีเทคนิคที่ชั้นฝึกให้นัซซี่ สำหรับล้มเธอโดยเฉพาะ.." เอิร์ธเอยขึ้นและเตรียมการโจมตีสุดท้าย ลูน่าเองก็เตรียมตั้งรับเต็มที่

นัซซี่ชาร์ชและยิงลำแสงที่ทรงพลังที่สุดออกมา นั่นคือแสงมฤตยู Hyper Beam โจมตีโดนพารัสอย่างจัง ควันพุ่งขึ้นคลุมบริเวณ

แบทเทิลฟิลด์อีกครั้ง ลูกศิษย์ทั้ง 3 คนต่างตกใจที่พารัสโดนพลังขนาดนั้น ไม่คิดว่าพารัสจะทนได้ เอิร์ธเองก็ยิ้มด้วยความมั่นใจ

แต่ลูน่าก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร ยังสงบดูสถาณการณ์

          และหวันจางลง ปรากฏภาพที่ทำให้พวกของเบิร์น และเอิร์ธต้องตกตะลึง เมื่อสิ่งที่เห็นกลับเป็นนัซซี่ที่ล้มลงไป แต่พารัสที่อยู่

ในสภาพสาหัสยังยืนอยู่ได้ เบิร์ธชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตั้งสติได้ และยกธงไปฝั่งลีคเดอร์

          "นัซซี่หมดสภาพต่อสู้ ..พารัสเป็นฝ่ายชนะ" เบิร์ธยังพูดด้วยความงุงงง "ผู้ที่ชนะคือ ยิมลีคเดอร์ ลูน่า บลิซซาร์ด"

          "ก่อนจะโดน Hyper Beam พารัสใช้ Leech Life ดูดพลังของนัซซี่ก่อนสินะ เลยทนพลังที่รุนแรงนี้ไหว" เอิร์ธพูดและ

ขาอ่อนล้มพับลงไปตรงนั้น

          "เพราะสปีดที่ถูกลดลงไป ทำให้พารัสโจมตีได้ก่อนน่ะสิ และการใช้ Leech Life กับนัซซี่ที่เป็นพืชกับเอสเปอร์

จึงรุนแรงพอที่จะล้มมันได้ และก็ดูดพลังได้มากพอที่จะทน Hyper Beam ได้" ลูน่าอธิบาย

          "พอนัซซี่ยิง Hyper Beam ออกมาแล้วก็ล้มลงไปสินะ" เอิร์ธพูดอย่างเข้าใจ

        จบการแบทเทิล ลูน่าเดินเข้ามาหาผู้ท้าชิงที่แพ้พ่าย และยื่นเข็มกลัดของโรงยิมขอนแก่นให้กับเอิร์ธ

          "ถึงเธอจะแพ้ แต่เธอก็สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชนิดจะเสียเปรียบหรือสถานการณ์จะตกเป็นรอง ก็ยังสู้อย่างไม่ถอดใจ

ชั้นขอชื่นชมนะ" เอิร์ธมองหน้าลูน่าที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตน "มอบเข็มกลัดให้คนแพ้ มันจะดีเหรอ"

        "สมาคมโปเกมอนบอกว่า ให้มอบมันให้กับคนที่คู่ควร และชั้นก็ยอมรับความสามารถของเธอนะเอิร์ธ เธอเป็นคนแรก

ของโรงยิมขอนแก่นแห่งนี้ ที่จะได้ครอบครองมัน จงรับไปด้วยความภาคภูมิเถอะ" ลูน่ายิ้มด้วยความจริงใจ และก้มลงติดเข็มกลัด

ที่อกเสื้อของผู้ท้าชิง โดยที่เอิร์ธยังมองหน้าขอลลูน่า และเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้

        "หรือว่าเธอคือ แชมป์เปี้ยนโปเกมอนลีคคนล่าสุด ใช่แน่ ๆ ชั้นเคยเห็นในทีวี" เอิร์ธพูดและทำหน้าตกใจ แต่เบิร์นก็ขัดขึ้นมา

          "โธ่ เลอะเลือนน่า คนเก่งขนาดนั้น จะมาอยู่ที่บ้านนอกอย่างนี้ได้ไง"

        "นั่นนะสิครับ เราอยู่กับพี่ลูน่ามาหลายอาทิตย์ ยืนยันได้เลย ว่าไม่ใช่หรอก" ไอซ์สเสริมทับโดยมีไลท์นิ่งพยักหน้าเห็นด้วย

        "งั้นเหรอ แต่เหมือนมากเลยนะ" เอิร์ธยังมั่นใจว่าตัวเองจำไม่ผิด "งั้นชั้นกลับก่อนดีกว่า ชั้นจะพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้น

และจะกลับมาคว้าชัยที่นี้ให้ได้" หันไปมองลูน่า "รอชั้นหน่อยนะ ชั้นจะมาแก้มือ" ลูน่ายิ้มรับ โดยมีบัตเตอร์ฟรีหลับอยู่บนหัว

        เอิร์ธจากไปก็ตะวันตกดินพอดี ถึงเวลาปิดทำการของโรงยิมแล้ว ลูน่านั่งทำงานอยู่ โดยมีไอซ์สและไลท์นิ่ง

ทำควาสะอาดแบทเทิลฟิลด์อย่างแข็งขัน ขณะที่เบิร์นกำลังปิดประตูโรงยิม เขาก็อดคิดถึงคำพูดของเอิร์ธไม่ได้

          "ไม่รู้เจ๊แกคิดได้ยังไงเนอะ ว่าแชมป์เปี้ยนที่เก่งกาจจะมาเป็นผู้นำโรงยิมได้ ใครเขาจะโง่ทิ้งยิ่งความยิ่งใหญ่มาอยู่บ้านนอก

แบบนี้" ลูน่าสะดุ้งหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเบิร์น

        "จะว่าไปผมเห็นบัตเตอร์ฟรีตัวนี้มาตลอด แต่ผมไม่เห็นเห็นพี่ลูน่าใช้มันสู้เลย ทำไมเหรอครับ" ไอซ์ถามด้วยความสสงสัย

        "เจ้านี่อยู่กะชั้นมานาน แก่แล้ว อ่อนแอเกินกว่าจะสู้แล้วล่ะ" ลูน่าตอบพล่างลูบค้างของบัตเตอร์ฟรีที่บินอยู่ข้างหลัง

        "เอาล่ะ ผ่านวันที่หนักหนาไปอีกวัน วันนี้พักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ก็สู้ต่อไป" ลูน่าพูดจบ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

เยอะ+ยาว จริงๆ...ว่างๆจะพยายามอ่านให้ทันเรื่องนะครับ (^w^")

Link to comment
Share on other sites

ทั้งหมดมี 9 ตอน ลงอาทิตย์ละ 2 คอน มันเลยอาจจะยาวหน่อย แต่อยากให้ติดตามนะ

จากนี้ไปเนื้อเรื่องจะจริงจังขึ้นแล้ว ตอนหน้าพระเอกเราออกมาแล้วด้วย

ขอบคุณนะคร้าบ

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 03 :-: ปึกนักล่า

        หลังจบศึกยิมแบทเทิลระหว่าง ลูน่า และเอิร์ธ ก็ผ่านมา 2 อาทิตย์ ด้วยความเก่งกาจของลูน่า ตลอด 1 เดือนเศษ ๆ เธอเสียเข็มกลัดไปแค่ชิ้นเดียว

ด้วยเหตุนี้ ชื่อเสียงของโรงยิมขอนแก่นก็ถูกโจษจันไปทั่วภูมิภาค เทรนเนอร์มากมายมาท้าสู้ไม่ขาดสาย และลูกศิษย์ทั้ง 3 คนก็แข็งแกร่งขึ้นมาก

        กลางดึกของคืนหนึ่ง หน้าโรงยิมขอนแก่น ปรากฏชายหนุ่มปริศนาท่าทางลึกลับ สวมเสื้อโค้ทยาวสีขาวตัดสีดำ มีขนยาวสีดำสนิทปกคลุ่มทั่วบริเวณไหล่ของเสื้อ ชายหนุ่มผมดำซึ่งรายล้อมด้วยโปเกมอนมังกร 4 ตัว คือ ฟูเตร่า แกราดอส ลิซาด้อนและไคริว

เขายืนมองโรงยิมอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะหันไปพรืมพรำกับมังกรสีเหลืองทอง

        "นั่นคือโรงยิมขอนแก่นสินะ ช่างบ้านนอกดีแท้.." เขาลูบคางไคริว "แต่เราก็ชอบที่นี่นะ ใช่ไหมไคริว"

        "พวกแกเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เราไปอาลวาดให้ราบเป็นหน้ากลองเลย" เขาหันไปพูดกับมังกรของตน

และขึ้นขี่ฟูเตร่าบินจากไป เหล่ามังกรก็บินตาม

        เช้าตรู่ของวันเดียวกัน เบิร์นกำลังเปิดประตูของโรงยิมซึ่งเป็นปกติ แต่เขาก็สังเกตเห็นกล่องใบหนึ่งวางอยู่ใต้ต้นคูณหน้าโรงยิม

เขาเดินไปสำรวจดู เห็นลูกการ์ดี้ที่ดูท่าทางอ่อนแอนอนเปียกโฉกเพราะอากาศที่ร้อนมากในกล่องไม้ที่ปิดทึบ ไม่มีอากาศ

ข้าง ๆ มีกระดาษเขียนข้อความไว้ 'ฝากดูแลมันด้วยเถอะนะ' นั่นหมายถึงว่ามันถูกทิ้ง เขาจึงพาลูกการ์ดี้ไปพบลูน่า

โดยมีโกลแบทที่พัฒนาร่างระหว่างการต่อสู้กระพืบปีกเบา ๆ ให้ความเย็นแก่การ์ดี้

        "ชั้นไม่คิดเลยว่า ยังมีเทรนเนอร์ที่ทิ้งโปเกมอนของตนเองอย่างไม่ใยดีแบบนี้" ลูน่าตัดท้อเมื่อเห็นสภาพของการ์ดี้ที่เบิร์น

เอามาให้ดู

        "เพราะเมืองขอนแก่นเรามันบ้านนอกไงครับ คนจนก็เยอะ พวกที่ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูก็ปล่อยมันกลับไปเป็นโปเกมอนป่า

หรือไม่ก็ทิ้งไว้ตามวัด ตามบ้านคนอื่นแบบนี้"

        "เจ้านี้ยังเด็กเกินไป จะปล่อยเป็นโปเกมอนป่าคงตายแน่ ๆ " ลูน่านั่งคิดหาทาง

        "งั้นชั้นจะส่งโปเกมอนสังคมสงเคราะห์ดีกว่า ทางนั้นเขาช่วยเรื่องนี้ได้.." ลูน่ากำลังกดโทรศัพท์ แต่เบิร์นห้ามไว้

          "งั้นให้ผมดูแลมันเถอะครับ" ลูน่าชะงัก

        "นายแน่ใจเหรอ ว่าจะดูแลมันได้.." เบิร์นเงียบไม่มั่นใจ

        ตกตอนเย็นในวันนั้น เบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่งกำลังช่วยกันปิดโรงยิมและทำความสะอาดอย่างเช่นทุกวัน ลูน่าก็กำลัง

ทำงานอยู่ในห้องโดยมีบัตเตอร์ฟรีอยู่เป็นเพื่อน แล้วเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของลูน่าก็ดังขึ้น

        "สวัสดีคะ ลูน่าแห่งโรงยิมขอนแก่นพูดสายอยู่ค่ะ" เธอรับสายและพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใส

        "จ้า ชั้นเอง" ปลายสายตอบกลับด้วยเสียงห้าว ๆ ของผู้หญิง เขาคือ ไฟร์ ผู้เชี่ยวชาญโปเกมอนไฟ และเป็นผู้นำโรงยิม

อุดรธานี ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูน่านั่นเอง โดยหลังจากที่ลูน่าเข้ารับตำแหน่ง ไฟร์ ในฐานะรุ่นพี่ก็คอยมาให้คำแนะนำ เพราะจังหวัดที่ตั้ง

โรงยิมอยู่ใกล้กัน ทั้งคู่จึงสนิทกันมาก

        "นี่ลูน่า ชั้นได้รับการ์ดี้ที่เธอส่งมาให้แล้วนะ อาการหนักพอดูเลย" ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

        "ใช่ ชั้นเลยส่งไปให้เธอรักษาหน่อย เห็นว่าเธอเชี่ยวชาญเรื่องโปเกมอนไฟ ยังไงก็รบกวนด้วยนะ" ลูน่าร้องวอน

        "ก็เพราะว่าเจ้าเบิร์นรับปากไว้นี่ ว่าไม่ว่ายังไงก็จะดูแลมันให้ได้" ลูน่าพูดพลางนึกภูมิใจในตัวของเบิร์น

        "อย่าห่วงไป ถึงมือชั้นแล้วปลอดภัยแน่นอน" ไฟร์ยืนยันหนักแน่น "อ๊ะ จริงสิ วันก่อนมีเทรนเนอร์คนหนึ่งมาท้าดวลที่ยิม

ของชั้น ไม่ยอมบอกชื่อ ทำตัวลึกลับ แถมยังเรียกตัวเองว่า 'นักล่ามังกร' ซะด้วย และที่สำคัญ เจ้านี่มันชนะชั้นและมีเข็มกลัด

ของภูมิภาคเราในครอบครองไป 7 อันแล้วด้วย" ลูน่าฟังอย่างตั้งใจ

        "เขาใช้มังกรต่อสู้หรือค่ะ" ลูน่าถาม "ใช่ ถ้าเขาสะสมเข็มกลัดล่ะก็ คิดว่าคงจะไปท้าสู้กับเธอในไม่ช้า.."

        "โดยเฉพาะเจ้าไคริวนั่น ไฟที่เจ้านั่นปล่อยออกมา ขนาดชั้นที่ใช้ไฟมาทั้งชีวิตยังตกใจเลย มันร้อนแรงมากจริง ๆ "

น้ำเสียงของไฟร์เรียบ ๆ ไม่ได้ตื่นกลัว

        "คะ ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะค่ะ ชั้นจะเตรียมการรับมือ" ระหว่างที่ลูน่าพูดนั้น ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่ห้องโถงบริเวณ

แบทเทิลฟิลด์

        "นี่ แกน่ะ บอกว่าโรงยิมปิดแล้ว ถ้าจะมาท้าสู้ก็รอพรุ้งนี้เด่ะ" เสียงเบิร์นตะโกนดังลั่น ร้องห้ามเทรนเนอร์หนุ่มคนหนึ่งที่

ถือวิสาสะเข้ามาในโรงยิม

        "ชั้นจะสู้กับลีคเดอร์ที่นี่ เดี๋ยวนี้ด้วย" ชายหนุ่มภายใต้เสื้อโค้ทยาวพูดขึ้น และสายตาที่เย็นเฉียบ โดยมีมังกรล้อมรอบตัว

        "ไอ้นี่ พูดไม่รู้เรื่องแฮะ เห็นทีต้องจัดการหน่อยแล้ว" โกลแบทพุ่งเข้าใส่ทันที โดยที่ไอซ์สพยายามจะห้ามปราบอยู่ด้านหลัง

        "ชั้นจะสู้กับ..ลีดเดอร์เท่านั้น" สิ้นประโยค Whirlwind จากฟูเตร่าก็พัดโกลแบทและเทรนเนอร์ปลิวกระเด็นไป

รวมทั้งไอซ์สและไลท์นิ่งก็แทบยืนไม่ติดพื้น ลมกรรโชกที่พัดแรงจนสิ่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องปลิวว่อนไปหมด

        "นี่มันอะไรกัน" ลูน่าที่เพิ่งมาถึงลานประลอง เห็นภาพการณ์ถึงกับตกใจ และมองไปที่เจ้าของฟูเตร่า "หรือว่า นายคือ.."

        "แกใช่ไหม ผู้นำของที่นี้.." น้ำเสียงเย็นยะเยือกของชายหนุ่มเอ่ยถาม "นักรบมังกรสินะ" ลูน่าเข้าใจสถาณการณ์

        "ถ้ารู้จักชั้นก็คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ ส่งเข็มกลัดมาให้ชั้น" ฟูเตร่าพุ่ง Steel Wing ประชิดตัวลูน่าทันทีเมื่อสิ้นประโยค แต่ไม่ผ่านการป้องกันของทรานเซลที่ออกจากซูปเปอร์บอลในมือซ้ายของลูน่า

        "ถึงจะเป็นแค่ดักแด้ แต่ก็มีประสปการณ์พอตัวเลยนี่" ลิซาด้อนพ่นไฟอย่างรู้งาน Flamethrower ที่ร้อนแรงโจมตีใส่

ทรานเซล แต่การป้องกันของทรานเซลยังแข็งแกร่ง "จำเทคนิค Protect ได้ด้วยงั้นเรอะ" ชายหนุ่มมองการป้องกันออก

ลูน่ายังสงบอ่านเกม

        "ถึงยังไงซะ แค่แมลงกระจอก ๆ จะทำอะไรทัพมังกรที่แข็งแกร่งเล่านี้ได้" ลิซาด้อนบินสูงขึ้นไป นั่นคือเทคนิค Fly

        ลูน่าเริ่มเคลื่อนไหว "คิดว่าพลังของโปเกมอนอย่างเดียวจะทำให้ชนะแบทเทิลหรือไง ชั้นไม่คิดแบบนั้นสักนิด" จบคำพูด

เสียงระเบิดดังตูมที่ด้านหลังของนักล่ามังกร นั่นคือไครอสที่ขุดหลุมและขึ้นไปบนฟ้าประชิดตัวลิซาด้อนได้สำเร็จ

          "ทำอะไร Dig โจมตีชนิดบินไม่ถึงหรอกน่า"

        "Dig นั่นใช้เพื่อมุดดินไปข้างหลังแบบไม่ให้นายรู้ตัว เพื่อเข้าประชิดลิซาด้อน และ.." ระหว่างนั้น ก็มีก้อนหินจำนวณมาก

ถล่มใส่ลิซาด้อนจากบนฟ้า

            "โจมตีด้วย Rock Tomb แบบเผาขนยังไงล่ะ" ลิซาด้อนโดนน็อกกลางอากาศและตกลงมาที่แบทเทิลฟิลด์

          เทรนเนอร์หนุ่มเริ่มหงุดหงิด "ชั้นไม่มีเวลามาเล่นกับแกหรอกนะ แกราดอส ไคริว" มังกรทั้งสองตัวเริ่มการโจมตีต่อไป

Twister ที่รุนแรงของแกราดอสหมุนวนอย่างทรงพลังอยู่รอบตัวของไคริว "พอเท่านี้แหละ ไคริว" เพียงเรียกชื่อ ไคริวก็เข้าใจ

Dragonbreath ถูกยิงออกมาจากปากของไคริว เป็นระเบิดลมอันรุนแรง และ รวมเข้ากับพายุที่พัดอยู่อย่างไร้รูปร่างกลายเป็นการ

โจมตีประสานระหว่างวาตะแห่งมังกร 2 ชนิด ที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล การโจมตีนี้พุ่งตรงมายังลูน่า เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น

พลังทำลายล้างของสองเทคนิดทำลายโรงยิมจนเหลือแต่ซาก เกิดเพลิงไหม้บริเวณที่ต่อสู้ เศษอิฐ หินก็กระเด็นกระจัดกระจายออกไป

ตามแรงกระแทก สิ้นการโจมตี นักล่ามังกรเดินมาดูผลงาน เขามีรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อมองซากปะหลักหักพังของโรงยิมที่ถูกทำลายไป

เกือบจะทั้งหมดด

        "ใช้เทคนิค Dig หนีไปได้สินะ หึ หึ" เขามองดูหลุมที่ถูกขุดอยู่ตรงกลางซากอิฐซึ้งปกคลุ่มไปด้วยคว้นไฟและฝุ่นที่ลอยฟุ่ง

ทั่วบริเวณ

        "ครั้งหน้า แกหนี'โซล่าร์ โซล่าร์ วอลแดนโน่' นักล่ามังกรคนนี้ไม่พ้นหรอก" เขาหันไปลูบท้องของไคริว และบินหายไป

ท่ามกลางความมืดของค่ำคืน

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

        Episode 04 :-: ปีกที่ถูกซ่อนไว้

      ณ โรงยิมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากการต่อสู้ที่รุนแรง ท่ามกลางเศษอิฐ หิน ดิน ทรายและหวันไฟที่ยังโชยฟุง

ห้องโถงของโรงยิมบริเวณแบทเทิลฟิวด์ถล่มพังทั้งหมด เหลือเพียงห้องทำงานและห้องพักผ่อนที่ยังพอคงสภาพเดิม ต้นคูณหน้าโรงยิม

ก็ถูกไฟไหม้ แต่ยังพอมีดอกใบเหลือบ้างอยู่ ลูน่า ซึ่งยืนดูสภาพของโรงยิมตัวเองแทบไม่อยากเชื่อสายตา เบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่ง

ที่ยืนดูอยู่ข้างหลังต่างโมโหโกธากับสิ่งที่เทรนเนอร์คนนั้นทำกับโรงยิมของพวกเขา

      "เละ เละ พังพินาศหมด ..ไอ้บ้านั้น กล้าดียังไงถึงได้ทำแบบนี้" เบิร์นหัวเสียสุด ๆ

      "Twister ของแกราดอส และ Dragonbreath ของไคริว ลมร้อนของเทคนิคทั้งสอง เสริมพลังของกันและกัน กลายเป็นการระเบิดลม

ที่รุนแรง" ลูน่าวิเคราะห์การโจมตี "ลมร้อนที่มังกรปล่อยออกมา ร้อนกว่าไฟทั่ว ๆ ไปอีกนะเนี๊ย.."

      "ต่อไป..เอายังไงต่อดี" ไอซ์สถามขึ้น

      "ก็ต้องช่วยกันซ่อมแซมล่ะนะ" ลูน่าเดินไปดูความเสียหายของระบบต่าง ๆ "เครื่องฟื้นฟูพลังโปเกมอนก็พัง โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้

โปเกเกียร์ก็พัง.."

      "ถ้าเรื่องเครื่องยนต์กลไกนี่อย่ามายุ่งกับผมนะ" เบิร์นรีบออกตัว

      "ชั้นจะไปโปเกมอนเซ็นเตอร์ในตัวเมือง เพื่อติดต่อสมาคมให้ส่งคนมาช่วยเราหน่อย และจะหาช่างซ่อมคอมพิวเตอร์

มาดูความเสียหายของคอมพิวเตอร์เราด้วย"

            ลูน่ามองที่ไครอสกับทรานเซลที่สิ้นพลังอยู่ในซูปเปอร์บอล "อย่างน้อยก็ต้องซ่อมระบบรักษาโปเกมอนให้ได้ก่อน"

      "เอาบอลของโกลแบท อิวาร์คกับโพลิก้อนมาให้ชั้นสิ จะได้เอาไปรักษาที่เซ็นเตอร์ด้วยเลย" ทั้งสามคนส่งโปเกมอนให้กับลูน่า

แล้วลูน่าก็เปิดซูปเปอร์บอลอีก 2 ลูก

ซึ่งก็คือพารัสกับมอนฟอส "เจ้า 2 ตัวนี้ไม่ได้สู้กับนักล่ามังกร เลยยังมีพลังเต็มถัง ยังไงก็ฝากพวกนายเฝ้าที่นี้ไว้ก่อนนะ" โปเกมอน

ทั้ง 2 ตัวรับคำ

      "เอาล่ะ ชั้นไปก่อน แล้วจะรีบกลับ" ลูน่าลาลูกศิษย์ทั้ง 3

      "ได้ครับ ผมก็จะทำสิ่งที่พอจะทำได้ไปก่อนระหว่างรอ" ไอซ์สกล่าว

      ระหว่างทาง ลูน่าเดินไปเรื่อย ๆ โดยมีบัตเตอร์ฟรีบินตามอยู่ข้างหลัง เส้นทางท่ามกลางทุ่งหญ้าใบ้เขียวขจี ยาวสุดลูกตา

สายลมเบา ๆ และเศษใบ้ไม้ที่ปลิวไสวลอยผ่านลูน่าไป ระหว่างนั้น บัตเตอร์ฟรีพยายามจะบอกอะไรบางอย่างให้ลูน่ารับรู้

      "มีอะไรงั้นเหรอ" ด้วยความที่เชี่ยวชาญสายแมลง ลูน่าอ่านจากท่าทางของบัตเตอร์ฟรี จนพอจะเข้าใจ

      "เธอรับรู้อะไรบางอย่างได้ ในระหว่างการแบทเทิลเมื่อคืนงั้นเหรอ" บัตเตอร์ฟรียังพยายามจะเล่าสิ่งที่ตนรับรู้ จากการ

แสดงออกนี้ลูน่ารับรู้ได้ว่า 'ไคริวเศร้า'

      "ระหว่างการต่อสู้ ชั้นไม่ได้สังเกตเลย แต่เธอสัมผัสได้ผ่านสายตาของไคริว.. เจ้ามังกรนั้นกำลังเศร้างั้นเหรอ"

      "ทำไมกันนะ.." ระหว่างที่ลูน่าเดินไปคิดไป เธอก็สังเกตเห็นว่าทางที่เธอเดินมาผิดปกติ ทุ่งหญ้าที่เคยเขียวขจีถูกเผาเป็นแถบ

เกิดร่องรอยการต่อสู้เป็นบริเวณกว้าง มีหลุมใหญ่ หลุมน้อยซึ่งเกิดจากการระเบิด ลูน่ากวาดสายตามองดูด้วยความสงสัย

และเหมือนบัตเตอร์ฟรีจะเห็นอะไรเข้าแล้ว ผีเสื้อบินเข้าไปในพุ่มไม้ข้าง ๆ ทางทันที ลูน่าวิ่งตามไปติด ๆ และสิ่งที่เห็นทำให้ลูน่า

ถึงกับตกใจ ภาพเบืองหน้าของหญิงสาวคือเทรนเนอร์หนุ่มที่มาท้าสู้กับเธอนั่นเอง สภาพของเขาสบัดสบอมสุด ๆ เสื้อผ้าฉีกขาด

มีบาดแผลค่อยข้างฉกรรจ์รอบตัวของเขา นี่คือนักรบมังกรที่มาถล่มโรงยิมเมื่อคืน โดยรอบกายมีฟูเตร่า แกราดอสและลิซาด้อน

ซึ่งก็บาดเจ็บหนักไม่น้อยไปกว่าเจ้านายของมัน ราวกับพวกเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้อันหนักหนามายังไงอย่างนั้น

      "นายเป็นอะไรไปน่ะ" ลูน่าประครองเทรนเนอร์หนุ่มด้วยความตกใจ

      "ไคริว ไคริวหนีชั้นไปแล้ว.." ชายหนุ่มพรืบพรำอยู่ในลำคอ ทั้ง ๆ ที่ตนเองหมดสติ ลูน่าเองก็เพิ่งสังเกตว่าไคริวไม่ได้อยู่ที่นี้

      "ไม่ได้การณ์ล่ะ กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลตั้งไกล กลับไปที่โรงยิมก่อนดีกว่า อย่างน้อยสปอร์ของพารัสก็ใช้เป็นยา

สมานแผลได้"

      ลูน่าคว้าซูปเปอร์บอลเอาไครอสออกมา "นี่ไครอส ใช้เทคนิค Dig พาพวกเรากลับไปที่โรงยิมที" แต่เหมือนไครอสไม่อยาก

จะช่วย เพราะยังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่ "นี่ ชั้นรู้ว่านายไม่พอใจผู้ชายคนนี้ เขาเป็นคนที่ทำให้นายเจ็บตัวขนาดนี้ แต่ชั้นเอง

ทิ้งเทรนเนอร์ด้วยกันไม่ได้หรอกนะ แล้วก็.."

          "นายจะทิ้งให้เพื่อนโปเกมอนด้วยกันตายไปต่อหน้าเลยงั้นเหรอ" ลูน่าพูดกับไครอสอย่างจริงจัง

      โรงยิมขอนแก่น ขณะที่เบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่งกำลังช่วยกันเก็บกวาดเศษอิฐเศษปูนอยู่ ก็เกิดหลุมผลุดขึ้นมาใต้ต้นคูณ

นั่นคือไครอสและลูน่า ซึ่งได้พานักล่ามังกรมาด้วย ลูน่าประครองชายหนุ่มลงบนพื้น โดยบัตเตอร์ฟรีบินไปหากล่องพยาบาลในห้อง

ทำงานของลูน่า พวกของเบิร์นที่ยืนดูอยู่ก็ต่างพากันประหลาดใจ ไม่รู้ความเป็นมาเป็นไปในเรื่องนี้

      "นี่มันอะไรกันพี่ลูน่า ทำไม่ถึงกลับมาพร้อมไอ้หมอนี้ แล้วทำไมมันอยู่ในสภาพแบบนี้ มันเรื่ออะไรกัน" เบิร์นถามด้วยความโมโห

      "ใจเย็นเบิร์น ชั้นก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ตอนนี้เราต้องช่วยคนเจ็บก่อน"

      "ช่วยมันงั้นเหรอ ทั้ง ๆ ที่มันถล่มยิมของเรานะพี่ เรายังต้องช่วยมันด้วยเหรอ" เบิร์นไม่พอใจ แต่บัตเตอร์ฟรีก็เอากล่อง

พยาบาลมาให้ลูน่า โดยมีพารัสผสมสปอร์ในตัวเป็นยาสมานแผลอย่างดีทีเดียว ลูน่ายังคงปฐมพยาบาลต่อไป โดยพวกเบิร์นยืนดู

อย่างไม่เห็นด้วย

      "ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันพี่ลูน่า เราจำเป็นต้องช่วยคนแบบนี้ด้วยเหรอ" ไอซ์สถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

      "ถ้าเราเรียกตัวเองว่าเทรนเนอร์ เมื่อมีใครมาท้าสู้ เราก็ต้องสู้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณการณ์ใด.." ลูน่ายังใจเย็น

      "แล้วถ้าเราเรียกตัวเองว่าเทรนเนอร์ ถ้าเห็นคนอื่นเดือดร้อน เราก็ต้องช่วย ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณะใด ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู

ชั้นก็จะไม่ยอมให้ใครตายไปต่อหน้าต่อตาชั้นเด็ดขาด" เบิร์นยังไม่อยากจะเข้าใจ แต่แววตาของลูน่าทำให้เบิร์นเถียงไม่ออก

          "ยังไงชั้นก็จะช่วย พวกนายไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร.." ลูน่ายืนยันอย่างเด็ดเดี่ยว

      หลายวันต่อมา โรงยิมขอนแก่นถูกบูรณะไปมาก เมื่อคนของสมาคมโปเกมอนส่งคนมาช่วย ระบบรักษาโปเกมอนก็ใช้การได้

เป็นปกติ แต่ถึงจะซ่อมแซมได้เยอะ แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถเปิดทำการได้ กลางดึกของวันนั้น คนงานต่างก็เข้านอนพักผ่อน

ในเต๊นท์ที่กางอยู่หน้าโรงยิม

      ในห้องพักของเทรนเนอร์ ชายหนุ่มที่บาดเจ็บยังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง โดยมีลูน่าหลับฟุบอยู่ตรงขอบเตียงนั้น ชายหนุ่ม

เริ่มรู้สึกตัวหลังจากสลบไปหลายวัน

      "ที่.. นี้.." ลูน่าสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของนักล่ามังกร

      "ฟื้นแล้วสินะ ค่อยโล่งอกหน่อย" ลูน่าพูดพลางขยี้ตาตัวเอง

      "แก ..ช่วยชั้นไว้งั้นเหรอ"

      "ก็..นะ แต่พวกเจ้าเบิร์นไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ จะไล่นายท่าเดียวเลย ชั้นเลยต้องมานอนเฝ้านี่แหละ" ลูน่าหัวเราะเบา ๆ

      "นายลองดูนั้นสิ" ลูน่าชี้นิ้วไปทางหน้าต่าง ชายหนุ่มก็มองตาม เห็นฟูเตร่า แกราดอสและลิซาด้อนเกาะหน้าต่างมองเข้ามาด้วยความดีใจ

      "ทั้ง 3 ตัวเป็นห่วงนายมากเลยนะ"

      "ไคริว.." ชายหนุ่มพูดเบา ๆ กับตัวเอง แต่ลูน่าได้ยินจึงนึกเอะใจขึ้นมา

        "นั่นสิ ไคริวของนายเป็นอะไรไปเหรอ" ลูน่าถาม แต่คำตอบคือความเงียบ

      "อ่า นั่นสินะ นายควรต้องพักผ่อนให้มาก ๆ สิ ชั้นไม่น่าชวนคุยเลย ขอโทษทีนะ" ลูน่ารู้ตัวว่าไม่ควรถาม จึงหาข้ออ้างและลุกขึ้น

เพื่อจะเดินออกจากห้อง แต่ชายหนุ่มคว้ามือของลูน่าไว้ก่อน ลูน่าชะงักเล็กน้อย

      "ช่วยฟังชั้นหน่อยเถอะนะ.." ลูน่าสลัดมือของชายหนุ่มออกและถอยไปไกลจากเตียง "มีอะไรงั้นเหรอ" เธอถามด้วยความตกใจ

      "ถ้าเป็นเธอ ..อาจจะทำให้ชั้นรู้สึกดีขึ้น ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้.."

      ....

....

Link to comment
Share on other sites

เกิดอะไรขึ้นกับนักรบมังกรคนนี้กันแน่น้อ แล้วไคริวหายไปไหนหว่า

รอติดตามตอนต่อไปนะครับ :hito01:

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

        Episode 05 :-: ปีกที่กางออก

        ณ โรงยิมขอนแก่น กลางดึกที่แสนเงียบสงัน แต่ไฟของห้องพักเทรนเนอร์ภายในโรงยิมขอนแก่นยังสว่างอยู่

ลูน่าเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องนี้พร้อมกับชามข้าวต้มอุ่น ๆ ในมือ เธอเดินเข้ามา เห็นชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำ

เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาภายในห้อง ลูน่ามองเขาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ ทั้ง ๆ ที่ยังบาดเจ็บ

และเพิ่งฟื้นคืนสติแท้ ๆ แต่ก็ทำตัวเหมือนไม่ได้เป็นอะไร ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ เธอวางชามข้าวต้น ไว้บนโต๊ะข้างโซฟาที่ชายหนุ่มนั่งอยู่

ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวนั่งลงไปที่โซฟาอีกตัวหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกันโดยมีบัตเตอร์ฟรีหลับตัวบนหัว

        "นี่..ข้าวต้มร้อน ๆ ที่คนงานเขากินเหลืออ่ะ ชั้นอุ่นมาให้น่ะ พอดีไม่มีวัตถุดิบอะไรเหลือเลย แต่ถึงเหลือชั้นก็ทำอาหาร

ไม่เป็นอยู่ดี ฮ่ะ ฮ่ะ" ลูน่าหาเรื่องคุยทำลายความเงียบภายในห้อง ชายหนุ่มนั่งมองชามข้าวต้ม เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

          "หวังว่านายจะกินได้นะ คงไม่ท้องเสียหรอก ยังไม่ข้ามคืนเลย.."

        "ชั้นชื่อ โซล่าร์ ..โซล่า วอลแคนโน่" เขาแนะนำต้วเองอย่างเป็นทางการ "ชั้นชื่อลูน่า บลิซซาร์ด.." เธอตอบกลับ

        "ที่ว่ามีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังน่ะ เรื่องอะไรงั้นเหรอ" ลูน่าเริ่มเข้าประเด็น

        "..." โซล่าร์ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ยังคงนั่งมองชามข้าวต้มอยู่ แล้วก็คว้าช้อนมาตักเข้าปากไปหนึ่งคำ

        "ช่วยฟังชั้นหน่อยนะ.." เขาวางช้อนลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ

        "สมัยเด็ก ชั้นเคยสัญญากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้ ว่าชั้นจะเอาชนะโรงยิมทั้งหมด และรวบรวมเข็มกลัดให้ครบ 32 อันให้ได้

ถ้าทำได้เมื่อไหร่ ชั้นจะเอาเข็มกลัดพวกนั้นไปอวดเธอ"

        "แต่ช่วงนั้นไข้หวัดนกระบาดหนัก โดยเฉพาะบ้านของชั้น ที่ขอนแก่นแห่งนี้ ไข้หวัดนกระบาดอย่างรุนแรง พื้นเพครอบครัว

ของเธอไม่ได้อยู่ที่ขอนแก่นอยู่แล้ว พ่อแม่ของเธอจึงพากันย้ายบ้านหนีโรคระบาดที่ขอนแก่นไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เราไม่มีโอกาส

ได้ลากัน ชั้นก็เลยติดต่อเธอไม่ได้อีกเลย.."

        "หนำซ้ำ ชั้นยังโชคร้ายติดโรคไข้หวัดนกนี่อีก และเป็นหนักมากด้วย เกือบตายเลยแหละ แต่ก็ยังรอดชีวิตมาได้"

        "ความทรมานที่นอนป่วยอยู่ตอนนั้นชั้นยังไม่ลืมเลย มันโหดร้ายมากจริง ๆ ..ชั้นที่ผ่านความตายมาแล้ว รู้ว่ามันทรมาน

มากแค่ไหน เลยฝึกฝนตัวเอง ออกกำลังกาย ทำทุกอย่างเพียงลำพังเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น และแข็งแรงพอที่จะไม่ให้ตัวเอง

กลับไปป่วยแบบนั้นอีก.."

        "พอโรคไข้หวัดนกเริ่มซาไปแล้ว ก็มีนักวิทยาศาสตร์เยอะแยะไปหมดมาที่บ้านนอก ๆ แห่งนี้ ชั้นก็ไม่รู้หรอกว่าเขามาทำ

อะไรกัน บางคนก็พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่อง แต่คนที่พูดไทยได้ก็มีเหมือนกัน เท่าที่ชั้นได้ยินเขาคุยกันก็ประมาณว่า

'มาวิจัยระบบนิเวศโปเกมอนประจำท้องถิ่น' อะไรประมาณนั้น"

        "แล้วจู่ ๆ ก็มีตาลุงคนหนึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ เข้ามาคุยกับชั้น คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง แต่เขามอบมอนสเตอร์บอล

มาให้ลูกหนึ่ง เป็นเน็ตบอลที่ข้างในมีโปเกมอนหนอน พีเดิ้ล อยู่ แล้วเขาก็พูดอะไรกับชั้นก็ไม่รู้ ฟังไม่ออก แต่มีนักวิทยาศาสคร์คนหนึ่ง

เดินมาบอกว่า'เฮ้ เจ้าหนุ่มน้อย..ดีใจด้วยนะ ด๊อกเตอร์โปเกมอนแห่งคันโตมอบโปเกมอนให้แบบนี้ แสดงว่านายต้องมีแวว

ที่จะเป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ที่เก่งกาจแน่ ๆ เลย'.."

        "ชั้นไม่รู้หรอกว่าด๊อกเตอร์โปเกมอนแห่งคันโตคืออะไร แต่พีเดิ้ลที่ได้รับจากเขามา นั่นคือโปเกมอนตัวแรกที่ชั้นมีเลยนะ

ตั้งแต่วันนั้นแหละ ที่ชั้นตัดสินใจที่จะออกเดินทางเพื่อทำตามความฝันสักที ชั้นเล่าให้พีเดิ้ลฟังแล้วด้วยเรื่องสัญญาที่จะต้องทำให้สำเร็จ

ถึงแม้ว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอกันอีกก็ตามเถอะ.."

        ลูน่าตั้งใจฟังโซล่าร์เล่าอย่างใจจดใจจ่อ พลางคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร "แล้ว..พีเดิ้ลของนายล่ะ"

        "ประมาณ 10 ปีได้แล้วมั้ง ที่ชั้นสัญญาเอาไว้แล้วยังทำไม่ได้เลย" โซล่าร์นึกเจ็บใจตัวเอง

        "ชั้นออกเดินทางร่วมกับพีเดิ้ลอยู่พักใหญ่ ๆ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมต่อสู้ และก็ร่วมกินร่วมนอนกันมาตลอด เราต่างฝึกวิชา

จนเก่งขึ้นเรื่อย ๆ .." โซล่าร์ถือช้อนทำท่าจะตักข้าวต้ม แต่ก็วางช้อนลงที่เก่า ลูน่าก็ลุกขึ้นไปรินน้ำในตู้เย็นหน้าห้องใส่แก้วเพื่อจะเอา

มาให้โซล่าร์ได้ดื่มระหว่างทานข้าว ขณะที่ลูน่ากำลังเดินกลับมานั่งที่โซฟ้าตัวเก่า โซล่าร์ก็เริ่มเล่าต่อ "จนกระทั้ง วันนั้น.."

        ลูน่าวางแก้วน้ำลงข้าง ๆ กับชามข้าวต้มและฟังเรื่องของโซล่าร์ต่ออย่างสนใจ "..วันที่ชั้นได้เจอกับไคริว"

        "ชั้นหลงไหลมันมาก ความสง่า ความน่าเกรงขาม พอลองสู้กับมันยิ่งทำให้ชั้นอยากได้มันมาก ยิ่งเห็นความสุดยอดของมัน

ก็ยิ่งอยากจะจับให้ได้ ชั้นให้พีเดิ้ลสู้กับเจ้ามังกรนั้น แต่ก็เทียบไม่ได้เลยสักนิดเดียว พอแพ้ก็พากลับไปรักษาที่เซ็นเตอร์

แล้วก็กลับไปสู้กับไคริวอีกครั้ง แต่ก็แพ้ทุกครั้ง แล้วพอแพ้ก็กลับมารักษาที่เซ็นเตอร์และกลับไปสู้กับมันอีกที ทำแบบนี้ครั้งแล้ว

ครั้งเล่า จนในที่สุดก็จับมันยัดลงไปในไฮเปอร์บอลได้ในที่สุด.. ชั้นดีใจมาก"

        "ชั้นดีใจมากจนลืมพีเดิ้ลของตัวเอง พอชั้นรู้ตัวก็เห็นมันนอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้น มันอ่อนแอมากและเหมือนว่ามันกำลัง

จะตาย ชั้นเองด้วยความที่ยังเด็ก ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยปล่อยมันไว้ตรงนั้น ..การให้หนอนสู้กับมังกรแบบนั้นอาจจะเกินกำลังก็ได้

แถมพอมันหมดสภาพปุ๊บก็ไปรักษาปั๊บ พอรักษาเสร็จก็พาไปสู้ต่อทันนี้ ไม่ให้มันได้พักผ่อนเลย คงจะถึงขีดจำกัดของมันแล้วล่ะ.."

        "ชั้นทิ้งพีเดิ้ลไว้แล้วก็ออกเดินทางร่วมกับไคริว แต่ชั้นเองก็รู้สึกผิดก็เลยกลับมาเพื่อจะเอาพีเดิ้ลไปรักษาอีกครั้ง

แต่พอไปถึงที่ ๆ ชั้นทิ้งพีเดิ้ลไว้ กลับกลายเป็นมีรังของโปะโปะกับพีเจียนเต็มไปหมด ชั้นคิดในใจว่าเจ้าพีเดิ้ลที่อ่อนแอขนาดนั้น

คงไม่รอดแล้ว ชั้นจึงตัดใจแล้วไปกับไคริวตั้งแต่ตอนนั้นมา"

        "ตลอดเกือบ 10 ปีมานี่ ชั้นเดินทางทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อฝึกฝน เพราะไม่อยากให้โปเกมอนของตัวเอง

ต้องตายอีก ชั้นเลยเลือกใช้แต่โปเกมอนที่แข็งแกร่งอย่างพวกมังกร แล้วระหว่างทางก็เจอฟูเตร่า แกราดอสกับลิซาด้อนเลยจับมา

ร่วมทีม"

        "งั้นชื่อ 'นักล่ามังกร' ก็มาจากแบบนี้สินะ.." ลูน่าพูดขึ้น

        "แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ชั้นยังไม่ลืมความผิดครั้งยิ่งใหญ่ที่ทิ้งพีเดิ้ลไว้ตรงนั้น จนวันนี้ยังรู้สึกผิดอยู่.." น้ำเสียงโซล่าร์ดูสั้นคลอน

เหมือนจะร้องไห้ เขาล้วงกระเป๋าและหยิบ เน็ตบอล ขึ้นมาวางบนโต๊ะให้ลูน่าดู "บ้านของเจ้านั่น ชั้นยังทิ้งมันไม่ลงเลย.."

        โซล่าร์เก็บเน็ตบอลใส่กระเป๋าและคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว "โทษทีนะ เล่าเรื่องแปลก ๆ ให้ฟังแบบนี้.."

        "แต่ทำไม่ชั้นถึงอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง..ก็ไม่รู้เหมือนกัน" โซล่าร์หลบสายตาของลูน่าที่นั่งจ้องเขาอยู่ที่โซฟา

ตรงกันข้าม

        "ชั้นเชี่ยวชาญโปเกมอนสายแมลง นายเองก็มีพีเดิ้ลเป็นโปเกมอนตัวแรก เพราะแบบนี้ล่ะมั้ง เราเลยถูกชะตากัน" ลูน่าพูด

        "เรางั้นเหรอ" โซล่าร์สงสัย

        "ฮ่ะ ฮ่ะ นั่นสินะ ตามจริงชั้นน่าจะต่อยหน้านายที่บังอาจมาทำกับโรงยิมของชั้นขนาดนี้ ควรต้องกระทืบนายอย่างที่พวกของ

เบิร์นต้องการ ..แต่ว่านะ ตอนนั้นที่ชั้นเจอนายนอนเจ็บอยู่ตรงนั้น ชั้นทิ้งนายไม่ลงหรอก"

        "..." โซล่าร์เงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

        "จำไว้เถอะนะ ผู้นำโรงยิมทุกคนยินดีที่จะตายไปพร้อมกับโรงยิมเสมอ" ลูน่าพูดอย่างหนักแน่น

        "ชั้นอาจจะทำเกินไปหน่อย แต่ชั้นไม่ขอโทษหรอกนะ" โซล่าร์รู้สึกผิดอยู่ในใจแต่เขินที่จะพูดขอโทษ

          "ย่ะ คิดซะว่ามันเป็นอุบัติเหตุ" ลูน่าประชด

        "นี่ บัตเตอร์ฟรีตัวนี้ อยู่กับชั้นมาตั้งแต่เป็นคาเตอปีแล้ว แล้วคาเตอปีก็เป็นโปเกมอนตัวแรกของชั้น ด๊อกเตอร์คนหนึ่งให้ชั้นมา

ไม่รู่ว่านายจะรู้จักเขาไหม"

          "เขาเป็นคนที่สร้างสมุดรวมภาพโปเกมอน และมอบฟุชิหงิดาแหนะ ฮิโตคาเงะกับเซนิกาเมะกับเทรนเนอร์แห่งคันโต 3 คน

ซึ่งพวกเขา 3 คนนั้นก็เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยยุติเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ ให้สงบลงได้.." ลูน่ายังพูดไม่จบ โซล่าร์ก็แทรกขึ้น

          "ไม่ต้องสาธยายหรอก ชั้นไม่รู้จักหรอกพวกด๊อกเตอร์ทั้งหลายนั่น"

        "แหะ แหะ เอาเป็นว่าด๊อกเตอร์คนหนึ่งมอบคาเตอปีให้ชั้น ชั้นเองก็ออกเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออก

เฉียงเหนือเหมือนนายน่ะแหละ ด้วยความที่ได้คาเตอปีมาเป็นโปเกมอนตัวแรก ชั้นเลยสนใจเรื่องแมลง และใช้แต่โปเกมอนแมลง

เรื่อยมา"

        "แต่ก็นะ พอคาเตอปีพัฒนาเป็นบัตเตอร์ฟรีแล้ว ชั้นก็ไม่ให้เธอสู้อีกเลย.."

        "ทำไม.." โซล่าร์เอ่ยขึ้น "ทั้ง ๆ ที่แมลงอ่อนแอขนาดนั้น.."

        "ชั้นเชื่ออย่างหนึ่งนะ ว่าพลังของโปเกมอนอย่างเดียวน่ะ เอาชนะแบทเทิลไม่ได้หรอก" ลูน่าลูบหัวบัตเตอร์ฟรีที่หลับอยู่

บนหัวของเธอ

        "ความเชื่อมั่นไง ใจของเทรนเนอร์ต้องสื่อถึงใจของโปเกมอนด้วย เทรนเนอร์เชื่อมั่นในตัวของโปเกมอน โปเกมอนก็เชื่อมั่น

ในคำสั่งของเทรนเนอร์ ชั้นว่าแบบนี้แหละ คือสื่งสำคัญในศึกแบทเทิล"

        "ได้เปรียบเรื่องชนิดแล้วยังไง ตัวใหญ่กว่าแล้วยังไง ถ้าขาดความเชื่อใจกันและกันก็ไม่มีวันชนะหรอก" ลูน่าอุ้มบัตเตอร์ฟรี

ที่หลับอยู่บนหัวลงมากอดที่อ้อมแขน โซล่าร์ที่นั่งมองชามข้าวต้มอยู่ก็อิ้งกับคำพูดของลูน่าจนพูดไม่ออก

        ทันใดนั้นเองก็เกิดเสียงระเบิดดังลั่นขึ้นบริเวณหน้าโรงยิม สิ้นเสียงระเบิดก็มีเสียงเอะอะโวยวายของคนงานที่นอนอยู่ในเต็นท์

หน้าโรงยิม บัตเตอร์ฟรีสะดุ้งตื่นเพราะเสียงที่ดังสนั่น และบัตเตอร์ฟรีก็แสดงท่าทางที่ไม่ค่อยดีนัก ราวกับสัมผัสพลังอะไรสักอย่างได้

ทั้งโซล่าร์และลูน่า มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อม ๆ กัน เพราะผ้าม่านที่บังอยู่ จึงเห็นเพียงฟูเตร่า แกราดอสและลิซาด้อนกำลังขู่อะไร

บางอย่างที่อยู่บนท้องฟ้าที่มืดสนิท

        ทั้ง 2 คนวิ่งออกมาหน้าโรงยิม เห็นคนงานต่างวิ่งหนีตายอย่างโกลาหล นอกจากนั้นก็มีมังกร 3 ตัวของโซล่าร์ตั้งท่าเตรียมสู้

อย่างดุดัน และเบิร์น ไอซ์สกับไลท์นิ่งที่ยืนมองท้องฟ้าด้วยอาการช็อกสุด ๆ ลูน่าและโซล่าร์จึงหันขึ้นไปมองตามสายตาของเบิร์น

ภาพที่เห็นคือ ฝูงฮาคุริวนับร้อยตัวบินอยู่เหนือศรีษะของพวกเขา บนท้องฟ้าของโรงยิมที่ยังซ่อมไม่สมบูรณ์ถูกปกคุมไปด้วย

กองทัพฮาคุริว โดยสิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 คนแทบจะช็อกเหมือนกับพวกของเบิร์นคือ 'ไคริว' ที่บินอยู่หน้าสุดของฮาคุริว นั่นคือจ่าฝูงของมังกร

        และแสงมฤตยู Hyper Beam ก็กำลังถูกยิงออกมาโดยไคริว โซล่าร์และลูน่ายังตกตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่อยากจะเชื่อสายตา

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

ขอโทษทุก ๆ คนที่ติดตามนะครับ ที่เอามาโพสลงแบบไม่ค่อยตรงกับกำหนดวันที่บอกไว้เท่าไร

แต่ก็ขอบคุณทุก ๆ คนนะครับ ที่ติดตาม และจากนี้ไป..

การต่อสู้ระหว่างโปเกมอนที่ว่าอ่อนแอที่สุดอย่างแมลง และโปเกมอนที่ว่าแข็งแกร่งที่สุดอย่างมังกรก็เริ่มต้นขึ้น

เส้นทางของปีกและเขี้ยวจะลงเอยยังไงหนอ..

ใกล้จะจบแล้วน้า หวังว่าจะสนุกกับตอนที่เหลือ

ขอบคุณคร้าบ..ผม  :bulba03:

"จงบินไปด้วยปีกของตัวเอง จงสู้ไปด้วยเขี้ยวของตัวเอง จงก้าวไปด้วยใจของเจ้าเอง.."

    WING แมลง FANG มังกร - The Cool Wing of The Rage Fang

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 06 :-: ปีกที่หายไป

        ณ โรงยิมขอนแก่น เมืองขอนแก่น ประเทศไทย ท่ามกลางความโกลาหลและเสียงเอะอะโวยวายของคนงาน มีเพียงเบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่งที่ยืนนิ่ง

ราวกับคนสิ้นสติ โซล่าและลูน่าเองก็ไม่ต่างกันนัก เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด ฮาคุริวนับร้อยบินวนอยู่เหนือโรงยิมแห่งนี้ และ Hyper Beam

ของมังกรไคริวก็ยิงตรงเข้ามาที่โซล่าร์และลูน่าที่ทำอะไรไม่ถูก

        แต่ฟุเตร่า แกร่าดอสและลิซาด้อนก็บินเข้ามารับแสงมฤตยูนี้แทนเจ้านายได้ทัน โดยไครอส ทรานเซล มอนฟอสและพารัสที่อยู่ใน

ซุปเปอร์บอลของลูน่าก็ออกมาร่วมรับพลังนี้เช่นกัน เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนปลอดภัย และเริ่มตั้งสติได้ โซล่าร์จ้องไคริวเขม็ง ลูน่าก็กำลังอ่านสถาณการณ์

        "เบิร์น ไอซ์ส ไลท์นิ่ง" ลูน่าตะโกนลั่นจนพวกเขาตั้งสติได้ และมองมาที่ลูน่า "พวกนายพาคนงานทั้งหมดไปที่ปลอดภัยก่อน ที่นี้พวกชั้น

จะจัดการเอง"

        "พี่ลูน่า นั่นมังกรทั้งฝูงนะครับ แถมอยู่กับไอ้บ้านั่น จะไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้.." เบิร์นห่วงลูน่า และยังระแวงโซล่าร์อยุ่ แต่ไอซ์สเห็นด้วย

กับลุน่าและลากคอเบิร์นไปด้วย พวกเขา 3 คนช่วยกันอพยพคนงานที่แตกตื่นไปยังที่ปลอดภัยที่ไหนสักแห่งหนึ่ง โดยมีบัตเตอร์ฟรีเกาะหลังไลท์นิ่ง

หนีไปด้วย

        "ขอบใจมากไอซ์ส นายเท่านั้นล่ะมั้ง ที่เบิร์นจะรับฟัง.." ลูน่ามองทั้ง 2 คน และกลับมามองกองทัพฮาคุริวบนฟ้าอีกครั้ง

        "นั่นคือ..ไคริวของนายเหรอ"

        "มันอยู่สูง ทั้งไกลแล้วก็มืดมากด้วย มองไม่ชัดเท่าไหร่ แต่รูปร่าง ท่าทางเหมือนมากเลย.."

        "ไคริวของนายพาฮาคุริวมาทำอะไรที่นี่.."

        "จะไปรู้ได้ไง แต่ดูปฏิกิริยาของโปเกมอนของเราแล้ว ไม่ใช่เรื่องดีเลย.." สิ้นคำพูดของโซล่าร์ Hyper Beam จากฮาคุริวนับสิบตัวก็ถูก

ยิงลงมาอย่างไร้เป้าหมาย โจมตีโดนพื้นที่ว่างบ้าง โดนต้นไม้บ้าง โดนโรงยิมบ้าง เป็นการทำลายล้างที่ไม่มีเป้าหมายอะไร เพียงแค่ทำให้บริเวณนี้

ราบเป็นหน้ากลองเท่านั้น

        และฮาคุริวตัวอื่น ๆ ก็เริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่อง โซล่าร์เห็นท่าไม่ดี เขาจับมือลูน่า และวิ่งไปหลบในกองหินที่พังลงของโรงยิม

        "อะไรกัน จู่ ๆ ทำไมมาถล่มยิมของชั้น.." ลูน่ามองโรงยิมที่กำลังจะซ่อมเสร็จ ต้องพังลงอีกครั้งโดยการโจมตีของมังกร

        "ชั้นไม่รู้จะเกี่ยวกันไหมนะ แต่ว่าที่ตรงนี้้..ตอนที่ยังไม่สร้างโรงยิม เป็นป่า แล้วก็มีถ้ำด้วย" โซล่าร์หันไปมองหน้าลูน่า

          "และชั้นเจอไคริวในถ้ำนั่น"

        "บ้าน่า ..ที่นี้เมื่อก่อน..คงไม่ใช่ 'รัง' ของพวกมันหรอกนะ.." ลูน่าพูดอย่างกระอึกกระอัก

        "แต่ถ้าใช่จริง ๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่เจ้านั่นจะอาละวาดเพื่อทวงที่อยู่ของพวกมันคืน.." โซล่าร์มองไคริวอย่างไม่ละสายตา

        "ที่นายบอกว่าไคริวหนีนายไป เพราะเหตุผลนี้งั้นเหรอ.." ลูน่านึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ "สาเหตุที่ไคริวเศร้า ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกันสินะ"

        "ต้นคูณหน้าโรงยิมของเธอ มันอยู่หน้าถ้ำของเจ้านั่น ตอนนั้นต้นยังเล็กอยู่ ตอนชั้นมาถึงที่นี้และเห็นครั้งแรกชั้นก็เลยจำไม่ได้ เพิ่งจะนึกขึ้น

ได้ตะกี้นี้เอง แต่ไคริวมันคงจะจำต้นคูณนี้ได้ แต่ไม่เห็นบ้านของตัวเอง ก็เลยคลั่งไปล่ะมั้ง.." โซล่าร์พยายามนึกไล่เรียงเหตุการณ์ ระหว่างนั้น

โปเกมอนของทั้งคู่ก็สู้อยู่กับฝูงฮาคุริวแต่ด้วยจำนวณที่ต่างกันเกินไป ฝ่ายลูน่าถูกกดดันอย่างหนัก โซล่าร์ที่หลบอยู่ใต้กองหินเห็นโปเกมอนตัวเอง

โดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

        "ไม่ไหวจริง ๆ จำนวณมันมากกว่า เฮอะ ลองมาตัวต่อตัวกะชั้นดิว่ะ" โซล่าร์เจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ทันใดนั้นเอง กองหินที่ป้องกันพวกเขาอยู่

ก็ถูกเป่ากระเด็นด้วย Hyper Beam ที่ยิงแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่หลบซ่อนแล้ว โซล่าร์มองหาที่หลบซ่อนที่ใหม่ เขามองเห็นแล้ว

โซล่าร์จะวิ่งไปหลบที่กองหินกองใหม่แต่ลูน่านั่งนิ่่งไม่ขยับ เพราะทั้งคู่จับมือกันโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่ตอนแรก โซล่าร์จึงไปไหนไม่ได้ ลูน่านั่งมอง

เบื้องหลังของตนเอง นั่นคือโรงยิมที่ถูกทำลาย

        "เป็นอะไรไปลูน่า ไปกับชั้น ที่นี้อันตราย.." โซล่าร์เรียกสติลูน่า "ผู้นำโรงยิม..พร้อมที่จะตายพร้อมไปกับโรงยิมเสมอ" ลูน่าเอ่ยขึ้นเบา ๆ

        "อย่าพุดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นสิ ถอนใจแล้วหรือไง.." โซล่าร์ยังจับมือลูน่าอยู่ เขาเองก็ไม่ทิ้งเธอเช่นกัน

        "นี่..ชั้นมีอะไรจะเล่าให้นายฟัง" โซล่าร์ยิ่งหัวเสียเข้าไปใหญ่ "นี่ใช่เวลาไหมเนี้ย..ไปหาที่หลบก่อนค่อยเล่าก็ได้"

        "สมัยเด็ก..มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาสัญญากับชั้น ว่าจะเอาชนะโรงยิมทั้งหมด และเอาเข็มกลัดของประเทศไทยทั้ง 32 อัน ..มาอวดชั้น"

โซล่าร์ตกใจมากเมื่อสิ้นประโยคของลูน่า "ที่เธอพุด..หมายความว่ายังไง.."

        "ชั้นเลยละทิ้งตำแหน่งแชมป์เปี้ยน เพื่อมาเป็นผู้นำโรงยิมที่นี้แหละ ..โรงยิมขอนแก่น จังหวัดที่ใคร ๆ บอกว่าบ้านนอก แต่ก็เป็นที่ ๆ

เราสัญญากันเอาไว้"

        "เพราะไม่เคยติดต่อกันเลย ชั้นเลยเลือกที่จะมาอยู่ที่นี้ เพราะหวังว่าสักวัน..เราอาจจะได้พบกัน"

        ทั้งคู่เงียบไป ต่างเข้าใจในบทสนทนา โดยที่มือทั้ง 2 คนยังจับกันอยู่ ระหว่างนั้น ฮาคุริวตัวหนึ่งก็กำลังเล็งที่จะยิงพลังใส่ทั้งลูน่า

และโซล่าร์ที่นั่งนิ่งอยู่โดยที่ไม่มีอะไรปกป้องทั้งคู่ ไม่มีทั้งโปเกมอนของตัวเองที่กำลังสู้อยู่ และไม่มีกองหินที่เพิ่งถูกทำลายไป

        "งั้นก็ยิ่งยอมแพ้ไม่ได้ใหญ่ ชั้นยังทำตามสัญญาไม่ได้เลย" โซล่าร์จับมือลูน่าแน่นอย่างรู้ตัว

          "ชั้นก็มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลย" ลูน่าพูดพลางน้ำตาคลอ

          Hyper Beam จากฮาคุริวถูกยิงออกมาตรงเข้าใส่ ทั้งคู่เองทำอะไรไม่ได้ หลับตาและจับมือกันแรงและแน่นขึ้น ..เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น

อย่างน่ากลัว

        สิ้นเสียงระเบิด ลูน่าลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร หันไปมองโซล่าร์ เขาเองก็ปลอดภัย แต่สายตาของโซล่าร์ดูตกใจอะไร

บางอย่างที่อยู่ข้างหน้าตนเอง ลูน่าจึงหันไปมองตามสายตาของโซล่าร์ เห็นโปเกมอนสีเหลือง มีปีกใสและเข็มขนาดใหญ่ที่มือทั้งของข้าง

นั่นคือ สเปียร์ ที่เข้ามารับการโจมตีของฮาคุริวแทนพวกเขา..

        "สเปียร์ตัวนี้ ..หรือว่านาย.." โซล่าร์มองสเปียร์ตัวนี้ด้วยท่าทางแปลก ๆ จากนั้นก็มีเสียง หึ้ง ๆ ดังขึ้น ดังขึ้น และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

เหล่ามังกรฮาคุริวที่ทำลายล้างอยู่ถึงกับชะงักเพราะเสียงดังปริศนานี้ ไคริวที่บินบัญชาการอยู่กลางอากาศก็หันไปมองต้นเสียง เช่นเดียวกับลูน่า

ที่หันไปหาคำตอบว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่

        และภาพที่เห็นคือ ฝูงสเปียร์นับร้อยตัว บินใกล้เข้ามา โดยมีบัตเตอร์ฟรีของลูน่าบินนำฝูงผึ้งเหล่านี้ ฝูงสเปียร์ไม่รีรออะไร พุ่งเข้าปะทะกับ

ฝูงฮาคุริวทันที เมื่อมีสเปียร์มาช่วย ฟูเตร่า แกราดอส ลิซาด้อน ไครอส ทรานเซล มอนฟอสและพารัสที่สู้กับฮาคุริวอยู่ตั้งแต่แรก ก็ล้มลง

เพราะหมดสิ้นกำลัง โปเกมอนของลูน่าและโซล่าร์ ต่อสู้ปกป้องเจ้านายอย่างสุดความสามารถ นอนหมดสภาพอยู่หลังเทรนเนอร์ของตน ลูน่ามองฝูง

สเปียร์ที่ปะทะอยู่กับกองทัพฮาคุริว ทำให้เธอมีความหวังขึ้นมาทันที

        บัตเตอร์ฟรีที่ลูน่าไม่เคยให้แบทเทิลเลยตั้งแต่พัฒนาร่าง ตอนนี้ดูเหมือนว่าอยากจะกลับมาต่อสู้อีกครั้ง และลูน่าก็รู้ว่าโปเกมอนแมลง

ของตัวเองต้องการอะไร ไม่นานสายลมบริเวณนั้นก็พัดแรงขึ้น บรรยากาศก็เย็นขึ้นจนรู้สึกได้ นั่นคือเทคนิคของบัตเตอร์ฟรีที่ลูน่าปกปิดไว้มานาน

หลายปี นั่นคือเทคนิคพายุหิมะ Blizard

        "อะไรกัน บ้าน่า" โซล่าร์เห็นบัตเตอร์ฟรีของลูน่าใช้เทคนิคที่บัตเตอร์ฟรัทั่วไปไม่สามารถจำได้ ถึงกับประหลาดใจ และ Blizard ก็เริ่ม

โจมตีใส่ฮาคุริวที่อยู่บนฟ้า โซล่าร์แทบไม่เชื่อสายตา

        "บัตเตอร์ฟรีของชั้น ออกเดินทางไปทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ยังเป็นคาเตอปีอยู่เลย ฝึกฝนวิชาตามที่ต่าง ๆ รับถ่ายทอด

เทคนิคจากผู้นำโรงยิมตามที่ต่าง ๆ จนคาเตอปีของชั้นจำเทคนิคต่าง ๆ ได้ในระหว่างการเดินทาง และพอพัฒนาเป็นทรานเซลและบัตเตอร์ฟรีด้วยแล้ว

ยิ่งจำเทคนิคได้มากขึ้น จนตอนนี้สามารถใช้ได้ทุกเทคนิคที่โปเกมอนมีเลยล่ะ.." ลูน่าพูดอย่างภูมิใจ

          "แต่นี่อาจจะขี้โกงเกินไปสำหรับโปเกมอนแบทเทิล ชั้นเลยไม่ใช้บัตเตอร์ฟรีต่อสู้อีกเลย"

        "แต่การที่อยู่ ๆ บัตเตอร์ฟรีตัวนี้ที่เหินห่างจากการแบทเทิลไปนาน อยากจะกลับมาต่อสู้อีกครั้งก็เป็นเพราะ.." ลูน่ามองไปที่สเปียร์ที่อยู่

ข้าง ๆ โซล่าร์

        "สเปียร์ของนายตัวนั้นยังไงล่ะ" โซล่าร์ช็อก หันไปมองสเปียร์ "นี่..นายคือ พีเดิ้ลของชั้นจริง ๆ ด้วย.." โซล่าร์แทบทรุดลงไปเมื่อนึกถึง

พีเดิ้ลที่ตนเคยทอดทิ้ง

        "ตอนนั้น พีเดิ้ลของนายอ่อนแอมากก็จริง แต่ก็ไม่ตาย พีเดิ้ลเองเข้าใจว่าที่นายทิ้งเขาไป เพราะตัวเขาอ่อนแอ พีเดิ้ลก็เลยออกฝึกฝนตนเอง

เพียงลำพัง เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จนเขาพัฒนาเป็นโคคูนและสเปียร์ เขาก็ได้ต่อสู้กับสเปียร์ด้วยกันเองเพื่อฝึกฝนตัวเองไปเรื่อย ๆ จนเขาได้เป็น

จ่าฝูง"

        "ซึ่งสเปียร์ที่มาช่วยเราสู้อยู่ตอนนี้ ก็คือลูกน้องของสเปียร์ของนายทั้งนั้น แล้วสเปียร์ของนายก็ขยายอำนาจขึ้นเรื่อย ๆ ผูกมัตรกับฝูงผึ้ง

ทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น ซึ่งสเปียร์ของนายขอร้องฝูงอื่นให้ช่วยออกตามหานาย ทั้งหมดที่เขาทำ ก้เพื่อที่จะบอกกับนายว่า 'ชั้นเก่งขึ้นแล้วนะ'.."

        หัวใจของโซล่าร์เต้นแรงขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินแบบนั้น "เธอรู้ความคิดเจ้านี้สินะ รู้ได้ยังไงว่าสเปียร์ตัวนี้ต้องการจะบอกอะไรกับชั้น.."

โซล่าร์ถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบ ก็เพราะว่าลูน่าเชี่ยวชาญแมลง เธอสามารถอ่านความคิดจากท่าทางของโปเกมอนแมลงได้ และนั่นคือสิ่งที่เธอรับรู้ได้

จากสเปียร์ โดยลูน่ายังจับมือโซล่าร์ไว้แน่นแทนการพูดตอบ

        "จริง ๆ ทั้งคาเตอปีของชั้นและพีเดิ้ลของนายก็เป็นโปเกมอนที่เกิดอยู่แถวนี้แหละ ทั้ง 2 ตัวเป็นเพื่อนกันมาแต่แรกแล้ว แล้วด๊อกเตอร์ก็จับ

เจ้าพวกนี้เพื่อไปวิจัยระบบนิเวศของโปเกมอนท้องถิ่น เมื่อจบการวิจัย จึงมอบให้พวกเราดูแลต่อ" ลูน่าอ่านความคิดของบัตเตอร์ฟรีและพูดให้โซล่าร์

ได้ฟังด้วย

        "พอจากกันไปนาน เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันนี้ ทั้ง 2 ตัวก็อยากจะแสดงสิ่งที่พัฒนาขึ้นเพื่ออวดกันและกัน ประมาณนี้ล่ะนะ.." ลูน่า

ยินดีกับผีเสื้อของตัวเองที่ได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้ง

        "จากกันไปนาน - มาเจอกันวันนี้ - ฝึกฝนทั่วภูมิภาค - เพียงลำพัง ..ทั้งเรา ทั้งโปเกมอน มีอะไรเหมือนกันเยอะเลยนะ" โซล่าร์พูดเบา ๆ

ในลำคอ

        ไคริวและฮาคุริวอีกตัวบินลงมาเบื้องหน้าของลูน่าและโซล่าร์ บัตเตอร์ฟรีและสเปียร์ก็บินมาเบื้องหน้าเจ้านายของตนเช่นกัน ทั้ง 4 ตัว

ตั้งท่าพร้อมสู้ ท่ามกลางกองทัพฮาคุริวและสเปียร์ที่ปะทะอยู่บนฟ้าอย่างดุเดือด ทั้งหมดคือฟิวล์แบทเทิลที่อันตรายระหว่างมังกรและแมลง

เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนยังจับมือกันแน่น

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 07 :-: ปีกที่โบกบิน

        ณ โรงยิมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น การต่อสู้บนฟ้าระหว่างฝูงมังกรฮาคุริว และฝูงผึ้งสเปียร์ ยังคงดำเนินต่อมาอย่างดุเดือด ราวกับ

จะทำลายล้างกันจนตายกันไปข้าง ฮาคุริวโจมตีสเปียร์หลายสิบตัวจนหมดสภาพและร่วงหล่นสู่พื้นเบื้องล่าง แต่สเปียร์เองก็สามารถช่วยกันและล้ม

ฮาคุริวได้ไม่น้อยเช่นกัน การต่อสู้ที่ไม่มีใครยอมแพ้ในค่ำคืนที่ยาวนานนั้น ยังดูไม่ออกเลยว่าชัยชนะจะไปเข้าข้างที่ฝ่ายใด

        พื้นดินท่ามกลางควันไฟและฝุ่นที่ลอยฟุ่งซึ่งเกิดจากการโจมตีที่ไร้เป้าหมาย คือสนามประลองดับเบิ้ลแบทเทิลของเทรนเนอร์และมังกร

ผู้เกี้ยวกราด เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนที่จับมือกันต่อสู้กับสถาณการณ์อันเลวร้ายที่ยังมองไม่เห็นบทสรุป บัตเตอร์ฟรีและสเปียร์เองก็สู้เพื่อยับยั้งมังกร

ที่น่าเกรงขามอย่างไม่หวั่นกลัว

        สเปียร์ใช้ความเร็วที่มีโจมตีอย่างต่อเนื่อง Poison Sting โจมตีใส่ฮาคุริวจนติดพิษ บัตเตอร์ฟรีก็ Sand-attack ใส่ไคริว

ทันทีที่มังกรเสียเปรียบ สเปียร์ Pin Missile โจมตีฮาคุริวต่อทันที พร้อมกันกับ Silver Wind ของบัตเตอร์ฟรีที่โจมตีไคริว จนมังกรต้องถอย

ออกไปตั้งหลักเลยทีเดียว เป็นการโจมตีที่รุนแรงของแมลงทั้ง 2 ตัว

        "ถ้าไม่บอกชั้นก็ไม่เชื่อหรอกว่าบัตเตอร์ฟรีตัวนี้จะห่างเหินการต่อสู้ไปนาน ท่าทางมีประสปการณ์มากพอดูเลย.." โซล่าร์รู้สึกชื่นชม

        "สเปียร์เองก็ใช่ย่อยนะ ขนาดสู้ตามลำพังมาตลอด ..ถ้าสู้ร่วมกับนายคงจะแข็งแกร่งสุด ๆ เลย" ลูน่ายอมรับในความเก่งกาจ

        มังกรเริ่มตอบโต้หลังจากถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ฮาคุริวยิง Hyper Beam โจมตีใส่แมลงทั้ง 2 ตัวอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงพุ่งตรงมายัง

สเปียร์แต่ด้วยความเร็วของแมลง Double Team สามารถหลบการโจมตีการโจมตีที่รุนแรงนี้ได้ ไม่ว่าฮาคุริวจะยิง Hyper Beam มาอีกกี่ครัง

ก็ยังตามความเร็วของสเปียร์ไม่ทัน และ Hyper Beam ของฮาคุริวก็เปลี่ยนมาพุ่งเข้าใส่บัตเตอร์ฟรีแทน แต่ด้วย Mirror Coat ที่บัตเตอร์ฟรี

สร้างขึ้น ก็สะท้อนลำแสงที่ทรงพลังนี้กลับไปยังฮาคุริวจนบาดเจ็บสาหัส

        ความสามารถของเทรนเนอร์ทั้ง 2 ที่สื่อใจโปเกมอนของตัวเองจนสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีเช่นนี้ ไม่ธรรมดา บัตเตอร์ฟรีที่สู้ร่วมกับลูน่ามา

ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงรับรู้และสัมผัสความรู้สึกของกันและกันได้ ความยอดเยี่ยมในฐานะเทรนเนอร์ของลูน่า ทำให้บัตเตอร์ฟรีมีความสามารถพิเศษที่

บัตเตอร์ฟรีทั่ว ๆ ไปไม่มี นั่นคือการใช้เทคนิคของโปเกมอนได้ทุกท่า ส่วนสเปียร์ที่ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมเติบโตมาพร้อมกันกับโซล่าร์ แต่ความศรัทษา

ของพีเดิ้ลที่ยังคงเชื่อในตัวของโซล่าร์ รวมทั้งตัวโซล่าร์เองก็ยังนึกถึงความผิดพลาดของตนเองอยู่ตลอดเวลา สายสัมพันธ์บาง ๆ ที่ยังไม่ขาดออก

จากกันทำให้ทั้งคู่แข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวของตัวเอง ด้วยจิตใจของสเปียร์ที่ต้องการพบโซล่าร์อีกครั้ง ก็สู้จนตัวเองเป็นจ่าฝูงของผึ้ง และมีพันธมิตร

ทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น นั่นคือความสามารถพิเศษของสเปียร์

        "ชั้นเองอยากจะแข็งแกร่งขึ้น สู้และเอาชนะโรงยิมทั้งหมดของประเทศไทย จนตอนนี้ได้เข็มกลัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมา 7 อันแล้ว

เหลือแต่ยิมของเธอ.." โซล่าร์พูดพลางมองดูการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้า

        "แต่เธอกลับได้เป็นทั้งแชมป์เปี้ยนโปเกมอนลีคแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยิมลีคเดอร์ แถมยังมีโปเกมอนที่สื่อใจกันได้ด้วย.."

        "ชั้นเทียบเธอไม่ติดจริง ๆ .." โซล่าร์รู้สึกเจ็บใจตัวเอง ที่ยังทำตามสัญญาไม่ได้

        "นายเองก็มีสิ่งที่ชั้นไม่มีเหมือนกันนั่นแหละ" ลูน่าเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ

        "สมัยนั้นชั้นเองต้องย้ายบ้านบ่อย ๆ เลยไม่มีเพื่อนที่สนิทสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่นายนี้แหละที่ชั้นสนิทที่สุดแล้ว นายคือเพื่อนคนเดียวที่ชั้นมี

ตอนที่อยู่ขอนแก่น ตอนนั้นเลยนะ" ลูน่านึกถึงตอนที่เธอยังเป็นเด็กและอาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น

        "ปีกคู่เดียวอาจจะบินได้สูง แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักหรอก.." ลูน่ามองโซล่าร์อย่างจริงจัง

        "ถ้าเป็นไปได้ จบศึกครั้งนี้ เราจะบินไปด้วยกันได้ไหม.." ลูน่าพูดเบา ๆ

        แต่ระหว่างที่ทั้งคู่คุยกันอยู่ ก้เป็นจังหวะที่มังกรโจมตีอย่างได้ผลกว่า เพียงพริบตาที่เทรนเนอร์เสียสมาธิ Dragonbreath ของฮาคุริว

โจมตีโดนสเปียร์เข้าเต็มรัก ในเวลาเดียวกัน Dragon Rage จากไคริวก็โจมตีใส่บัตเตอร์ฟรีเช่นกัน แมลงที่หลบการโจมตีนี้ไม่พ้นก็บาดเจ็บจนบิน

แทบไม่ขึ้นมังกรไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป Flamethrower ของฮาคุริวและ Fire Blast ของไคริวโจมตีใส่แมลงทั้ง 2 ตัวเข้าเต็ม ๆ

โดยที่แมลงไม่อาจหนีรอด ระเบิดเพลิงที่รุนแรงนี้ ทำให้บริเวณรอบ ๆ จุดปะทะเกิดไฟลุกท่วม บรรยากาศที่หนาวเย็นของค่ำคืนก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที

ท้องฟ้าตอนกลางคืนก็สว่างจ้า เพราะระเบิดเพลิงลูกนี้ เมื่อหวันไฟจางลง ภาพที่ปรากฏก็คือบัตเตอร์ฟรีและสเปียร์ที่นอนแน่นิ่งท่ามกลางกองเพลิง

ที่ยังแผดเผาอยู่รอบ ๆ

        เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนต่างตกใจกับเทคนิคที่มังกรโจมตีมา ไฟเป็นไม้ตายของแมลงอยู่แล้ว ลูน่าทรุดลงไปโดยมีมือของโซล่าร์ประครองไว้อยู่

แต่โซล่าร์เองก็พูดไม่ออกและทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

        "ถึงแม้อีกฝ่ายจะได้เปรียบ แต่โปเกมอนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็จะต่อสู้ไปอย่างไม่ลดละ แม้ตนเองจะเป็นรองขนาดไหน ก็จะสู้ไปจนตัวตาย

อย่างไม่ยอมแพ้.. นี่แหละ คือพลังของ 'เขี้ยวมังกร' ยังไงล่ะ.." โซล่าร์คือนักล่ามังกร เขาเข้าใจจุดนี้ดี จึงพูดออกมาให้ลูน่าได้รับรู้

        ไคริวที่อยู่ลอยอยู่กลางอากาศ เห็นเหยี่ยของตัวเองนอนนิ่งอยู่กลางกองไฟก็มั่นใจว่าตนเองจะชนะ ไคริวมองไปรอบ ๆ ตัว เห็นฝูงสเปียร์

ไล่ตอนกองทัพฮาคุริวอยู่ เมื่อจ่าฝูงเห็นอย่างนั้นจึงไม่อยู่เฉย Outrage อันโหดเหี้ยมของมังกรสีเหลืองทอง พุ่งโจมตีสเปียร์ที่อยู่บนฟ้าจนร่วงหล่น

หมดสภาพไปหลายตัว ซึ่งก็มากพอที่จะทำให้ฝูงฮาคุริวของตนเองกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง

        สิ้นการโจมตี ไคริวบินอยู่กับที่บนฟ้าที่ค่อยข้างสูง เพราะอยู่ในสภาวะสับสน ตนจึงออกจากแบทเทิลเพื่อไปพัก ที่เหลือคือฮาคุริวที่ยังติดพิษ

และอาการสาหัสแต่ถึงอย่างนั้น ลูน่าและโซล่าร์ก็ไม่เหลือโปเกมอนที่จะสู้แล้ว

        "นี่ลูน่า.." โซล่าทักขึ้น "มีอะไร" ลูน่าตอบกลับ

        "ไม่รู้ชั้นคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่ชั้นรู้สึกว่า.. เธอจะสวยขึ้นนะ" ลูน่าหน้าแดงทันทีที่ได้ยิน "เธอสวยมากจนชั้นจำเธอไม่ได้.."

        "จะบ้าหรือไง ตอนนั้นชั้น 10 ขวบนะ ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 10 ได้แล้วมั่ง.." ลูน่าพูดทั้ง ๆ ที่เขินอยู่ "แล้วนี่ก็ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นด้วย.."

        และเหมือนว่าบัตเตอร์ฟรีและสเปียร์จะคืนสติได้ แม้จะบาดเจ็บหนัก แต่แมลงทั้ง 2 ตัวยังคงหยัดยืน โซล่าร์ถึงกับประหลาดใจ ไม่คิดว่าแมลงจะทน

การโจมตีด้วยไฟที่รุนแรงแบบนั้นได้

        "ถึงแม้จะพบเจออะไร สายลมจะพัด พายุจะกระหนำรุนแรงแค่ไหน ปีกเล็ก ๆ คู่นี้ก็จะไม่หยุดพัดสบัดโบก จะโบยบินไปจนกว่าจะถึงจุดหมาย

อย่างไม่ถอดใจ..นั่นล่ะ คือพลังของ 'ปีกแมลง' ที่ชั้นภูมิใจล่ะ" ลูน่าผู้เชี่ยวชาญการใช้แมลง พูดอย่างไม่ยอมแพ้

        บัตเตอร์ฟรีและสเปียร์ตั้งท่าสู้อีกครั้งที่ด้านหน้าของเทรนเนอร์ทั้ง 2 แต่สภาพช่างอ่อนแอเหลือเกิน ฮาคุริวที่มองดูอยู่ ก็ไม่รีรอที่จะเผด็จศึก

ครั้งนี้ Twister ถูกปล่อยออกมาโดยฮาคุริว และพัดหมุนอยู่รอบ ๆ แมลงทั้ง 2 ตัว และด้วยความที่อ่อนล้าเต็มที ไม่อาจจะบินหนีให้หลุดพ้นพายุ

ลูกนี้ได้ กลายเป็นถูกสะกดให้อยู่กับที่ เพื่อฮาคุริวจะได้ยิง Hyper Beam ครั้งสุดท้ายเพื่อปิดบัญชี

        "นี่โซล่าร์ พีเดิ้ลตัวนั้นที่นายทิ้งไว้ ยังเชื่อมั่นในตัวนาย เขามีเป้าหมายคือตามหานาย จนสุดท้ายก็หานายเจอ และสู้ร่วมกับนายอยู่

ตอนนี้.." ลูน่าพูด

        "เธอจะบอกอะไรชั้น" โซล่าร์ไม่เข้าใจในคำพูดของลูน่า ลูน่ามองไคริวที่อยู่บนฟ้าแล้วจึงพูดต่อ..

        "นั่นคือปีกแมลงที่ชั้นพูดถึงไง เมื่อเชื่อมั่นอะไรแล้ว ก็จะทำตามสิ่งที่ตนเองเชื่อจนสำเร็จโดยไม่ถอดใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ..แล้วนายล่ะ"

        "นายมีปีกของตัวเองไหม ปีกที่พร้อมจะพัดโบกไปพร้อม ๆ กับเพื่อน ปีกที่เชื่อมั่นในตัวของโปเกมอนที่นายเลี้ยงมาเองกับมือ.."

        "เธออยากจะบอกอะไรชั้นกันแน่ ลูน่า" สิ้นคำถามของโซล่าร์ แสง Hyper Beam ก็ถูกยิงออกมาจากฮาคุริวโดยเป้าหมายอยู่ที่แมลงทั้ง

2 ตัว ที่ยังคงติดอยู่ในพายุ Twister แต่ทว่า..

        ก็เกิดสายลมที่พัดแรงจนเย็นยะเยือกขึ้นชั่วครู่ ซึ่งอาจจะเป็นเพียงสายลมจากแรงระเบิดธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่สายลมนี้กลับทำให้ใจของโซล่าร์

เต้นแรงเหมือนกับว่า สายลมนี้ เป็นสายลมที่เขาคุ้นเคย เป็นสายลมที่พัดหัวใจของเขามาตลอด 10 ปีมานี้ นั่นก็คือ สายลมจากปีกไคริวของเขา

        Ice Beam ถูกยิงออกมาผ่านหน้าโซล่าร์ไป และทำลาย Hyper Beam ของฮาคุริว และลบล้าง Twister ที่โจมตีบัตเตอร์ฟรีและสเปียร์อยู่

นอกจากนั้น ลำแสงแช่แข็งก็พุ่งเข้าไปโจมตีโดนฮาคุริวจนหมดสภาพ โซล่าร์เองจำ Ice Beam นี้ได้ เพราะเป็นเทคนิคที่เขาฝึกให้มังกรของเขา

โซล่าร์หันไปมองต้นทางทันที ภาพที่เห็นคือ ไคริว อีกตัวที่บินอยู่เหนือศรีษะของตน

          โซล่าร์หันไปมองดูไคริวอีกตัวที่อยู่บนฟ้า โดยไคริวตัวนั่นดูโกรธเกรี้ยวมาก ตอนนี้ไคริว 2 ตัวประจัษหน้ากันอยู่ คือไคริวที่เป็นจ่าฝูง

และ ไคริวของโซล่าร์

        โซล่าร์มั่นใจแน่ ว่าไคริวที่อยู่เหนือหัวของตนคือมังกรของตัวเอง

        "นาย.. นายไปไหนมาไคริว" ไคริวบินลงมาเบื้องหน้าโซล่าร์ และตั้งท่าสู้กับไคริวอีกตัวที่อยู่บนฟ้า แต่ลูน่าก็ยังคงมองเห็นความเศร้า

ในแววตาของไคริวอยู่ การรบบนท้องฟ้าเองก็ยังดำเนินต่อไป แต่ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายก็ลดจำนวณลงไปมาก ต่างฝ่ายต่างอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ

บนพื้นดินเอง..ศึกสุดท้ายของมังกร 2 ตัว ก็กำลังจะเริ่มขึ้น..

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 08 :-: ปีกที่แข็งแกร่ง

          ณ โรงยิมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงและยาวนาน ฝูงฮาคุริวและสเปียร์ที่รบรากันอยู่บนฟ้าต่างอ่อนแรงกันทั้ง 2 ฝ่าย

และการต่อสู้ของไคริวทั้ง 2 ตัวเองก็กำลังจะเริ่มขึ้น เทรนเนอร์ทั้ง 2 คน ลูน่าและโซล่าร์เข้าไปประครองบัตเตอร์ฟรีและสเปียร์ที่นอนหมดสภาพอยู่

โดยที่มือของทั้งคู่ยังจับกันแน่น โซล่าร์ยังคงมองไคริวของตัวเองที่อยู่เบื้องหน้า ในใจเขายังสับสนถึงความรู้สึกของไคริว เจ้ามังกรสีเหลืองทอง

ที่ทำร้ายเขาและบินหนีไป ซึ่งเขาคิดมาตลอดว่าไคริวสู้กันมาแต่แรกเป็นไคริวของเขา แต่กลับเป็นโปเกมอนป่าซะนี่ และที่สำคัญ ไคริวที่จากเขาไป

กลับมาช่วยเขาในศึกครั้งนี้

          สิ่งที่ลูน่าสัมผัสได้จากบัตเตอร์ฟรีของเธอ ก่อนที่บัตเตอร์ฟรีจะหมดสภาพไป เป็นคำอธิบายเรื่องราวครั้งนี้ได้

          "จริง ๆ ชั้นเองก็สงสัยอยู่หน่อย ๆ น่ะ เจ้าไคริวบนฟ้านั่น.." ลูน่าเอ่ยขึ้น ในอ้อมกอดมีบัตเตอร์ฟรีที่อ่อนแอหลับอยู่

          "เพราะไคริวตัวนั้น เหมือนจะโจมตีตามสัญชาตญาณในฐานะโปเกมอนป่าเท่านั้น ดูดุร้ายและก็ไม่มีคามเชื่องเหมือนกับโปเกมอนที่ถูกฝึกมาเลย"

          "มันอยู่ไกลและก็สูง ชั้นเลยมองไม่ชัด ไม่แน่ใจว่าใช่ไคริวของชั้นหรือเปล่า.." โซล่าร์แทรกขึ้น โดยเขาแบกสเปียร์ที่บาดเจ็บไว้บนหลัง

          "แต่ตอนนี้ ชั้นมั่นใจแน่แล้ว เจ้ามังกรที่อยู่เบื้องหน้านี่ คือไคริวของชั้น ..ไม่ใช่ไอ้ตัวที่อยู่บนฟ้านั่น"

          สิ้นบทสนทนา ไคริวป่า แม่ทัพของฮาคุริวพุ่งเข้าใส่ไคริวของโซล่าร์ด้วยความเร็ว โซล่าร์เองแม้ใจเขาจะยังสับสนกับเหตุผลของไคริวที่หนีเขาไป

แต่ด้วยความเป็นเทรนเนอร์ล่ามังกร และไคริวตัวนี้ก็เคียงข้างเขามากว่า 10 ปี โซล่าร์จึงออกคำสั่งไคริว อย่างที่เขาทำเรื่อยมาด้วยความคุ้นชิน

          "ไคริว ชั้นไม่อยากรู้หรอกว่าแกไปไหนมา แต่ตอนนี้แกกลับมาแล้ว และแกยังเป็นโปเกมอนของชั้นอยู่ เพราะฉะนั้น.." ไคริวป่าเข้ามา

ประชิดไคริวของโซล่าร์ในระหว่างที่โซล่าร์คุยกับไคริวอยู่ "เพราะฉะนั้น แกต้องสู้ร่วมกับชั้น"

          ไคริวป่าโจมตีไคริวของโซล่าร์เข้าเต็ม ๆ และยังคงโจมตีไคริวของโซล่าร์อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไคริวของโซล่าร์ทำได้เพียงรับการโจมตี

ที่ดุดันนี้เท่านั้น ไคริวป่ายังคงเล่นงานอย่างบ้าคลั่ง เทคนิค Strength ของไคริวป่ายังเล่นงานไคริวของโซล่าร์อยู่ และ ไคริวป่ากำลังจะใช้

Thunder Wave โซล่าร์มองออก จึงออกคำสั่งไคริวของตนทันที "ไคริว ใช้ Safeguard ป้องกันเร็ว" ..ไคริวของโซล่าร์ยืนนิ่ง

          ไคริวป่า Thunder Wave โดนไคริวของโซล่าร์อย่างจังจนเป็นอัมพาต ไคริวของโซล่าร์รับการโจมตีของอีกฝ่ายโดยไม่ฟังคำสั่งของผู้เป็นนาย

ลูน่าตกใจที่ไคริวไม่เชื่อฟังคำสั้ง แต่เธอเองก็มองเห็นความเศร้าของไคริวตัวนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ และคนที่ประหลาดใจกับเรื่องนี้ที่สุดคือโซล่าร์

เขาร้อนเป็นไฟเพราะโมโหกับไคริวของตนเอง โซล่าร์ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างที่ไคริวของตนทำออกมา

          "แกเป็นอะไรไปไคริว" โซล่าร์มองไคริวด้วยความโกรธ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ศัตรูหยุดการโจมตี ไคริวป่ายังรุกประชิดและโจมตีอย่างต่อเนื่อง

โดยที่ไคริวของโซล่าร์ยังคงยืนนิ่งรับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว และไม่มีทีท่าว่าจะตอบโต้กลับไปเลย

          "แกทำอะไรของแกน่ะไคริว โจมตีสวนไปดิ Counter ..Ice Beam" โซล่าร์เริ่มหัวเสียที่มังกรของตนเองไม่ต่อสู้ตามคำสั่ง

          "โธ่เอ้ย ไคริว เป็นอะไรของแกว่ะ" ไคริวของเขายังคงยืนนิ่งและถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว

          โซล่าร์โมโหหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขาก็เอะใจอะไรบางอย่าง ซึ่งมันทำให้เขาใจเย็นลงทันที โซล่าร์ที่ยืนอยู่ข้างหลังของไคริว มองไคริวของตน

ถูกเล่นงาน ก็ทำให้เขาทบทวนตัวเองในฐานะเทรนเนอร์อยู่ในใจ "นี่แก ไม่เชื่อใจเทรนเนอร์อย่างชั้นแล้วสินะ" เขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกแย่

          ไคริวของโซล่าร์ที่ถูกโจมตีอยู่ เหลือบสายตามามองโซล่าร์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก่อนจะหันหน้าไปตั้งรับกับศัตรูเบื้องหน้าต่อ

          ลูน่าเองที่ยืนดูเหตุการอยู่ข้าง ๆ โซล่าร์ เธอรับรู้ความรู้สึกของโซล่าร์ได้ เธอจับมือเขาแน่น และบอกเล่าในสิ่งที่เธอได้ยินจากเสียงกระซิบ

ของบัตเตอร์ฟรีที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่บัตเตอร์ฟรีของเธอสามารถสัมผัสได้จากไคริว คือเหตุผลของไคริว ของโซล่าร์ทำลงไปทุกอย่าง

          "โซล่าร์ เพราะว่าไคริวเชื่อใจนาย เขาจึงหนีนายไป.." โซล่าร์ตกใจและก็ประหลาดใจกับคำพูดนี้ "มันหมายความว่ายังไง ชั้นไม่เข้าใจ"

ไคริวของโซล่าร์ก็ได้ยินสิ่งที่ลูน่าพูด ไคริวมองมาที่โซล่าร์ เช่นเดียวกับโซล่าร์ที่มองไคริวอยู่ ไคริวหวังว่าเทรนเนอร์ของตนเองจะเข้าใจ..

          "อย่างที่เราเข้าใจตอนแรกน่ะถูกแล้ว" ลูน่าเริ่มอธิบาย "ที่นี้เมื่อ 5 ปีก่อนยังไม่มีโรงยิม และเป็น'รัง'ของพวกมังกรเหล่านี้"

          "ใช่จริง ๆ สินะ" โซล่าร์เริ่มใจเย็นลง

          "ถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมังกรถูกทำลายเพื่อสร้างโรงยิมขอนแก่นตรงบริเวณนี้ แล้วพอหลายวันก่อนที่นายมาที่นี้ ไคริวซึ่งน่าจะดีใจที่ได้กลับมาบ้านเกิด"

          "แต่ไคริวกลับมา ไม่เห็นบ้านเกิดของตัวเองก็เลยผิดหวัง ตอนที่มาสู้ที่ยิมของชั้น เจ้านั่นเองก็เลยสู้ไม่เต็มที่เท่าไหร่.." ลูน่าพูดจบ

โซล่าร์ก็หันไปมองไคริวของตนเองที่ถูกโจมตีอยู่อย่างต่อเนื่อง

          "เจ้านั้น แววตาของไคริวดูเศร้า.." โซล่าร์เพิ่งสังเกตเห็น "นี่ชั้นมองข้ามความรู้สึกโปเกมอนของตัวเอง.. ชั้นทำผิดพลาดอีกแล้วสินะ"

โซล่าร์เหงื่อออกท่วมตัวจนเปียกโชก รู้สึกผิดขึ้นมาที่ตนละเลยโปเกมอนของตัวเอง

          "ตอนแรก..ชั้นก็คิดว่าไคริวเศร้าเพราะกลับมาแล้วไม่เห็นบ้านเกิด แต่จริง ๆ มันไม่ใช่อย่างนั้น" ลูน่าพูดต่อ โซล่าร์เริ่มสับสน

          "จริง ๆ แล้วสาเหตุที่ไคริวของนายเศร้า เพราะไคริวรับรู้ 'จิตสังหารของพวกพ้อง' ได้ยังไงล่ะ"

          "อะไรนะ" โซล่าร์ถึงกับอุทานขึ้นมา

          "พวกมังกรถูกไล่ที่เพราะการก่อสร้างโรงยิมเมื่อ 5 ปีก่อน และมังกรเหล่านั้นก็เคียดแค้นมนุษย์ เพราะมนุษย์ทำลายที่อยู่ของพวกเขา

พวกมังกรก็เลยกลับมาถล่มที่นี้ไง เพื่อทวง 'บ้าน' ของพวกเขาคืน"

          "ตลอด 5 ปีมานี่ พวกมังกรที่ถูกไล่ที่ไป ก็ไปรักษาตัวและสร้างกองทัพขึ้นมา เพราะการก่อสร้างโรงยิม ทำให้มลภาวะเป็นพิษ เกิดน้ำเน่าเสีย

มินิริวและฮาคุริวหลายตัวต้องตายเพราะเรื่องนี้ รวมทั้งโปเกมอนชนิดอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงยิมครั้งนั้นเช่นกัน"

          "แต่ไคริวของนายเมื่อมาถึงที่นี้ ก็รับรู้เรื่องนี้ได้ กลิ่นอายของเผ่าพันธุ์เดียวกันได้บอกเขาว่า มังกรกำลังจะทวงคืนมนุษย์.."

          "และไคริวของนายก็คิดจะไปยับยั่งโทสะของพี่น้อง ด้วยตัวของเขาเอง.." ลูน่าเล่าเรื่องที่รับรู้ได้จากบัตเตอร์ฟรีในอ้อมแขนเธอ

          "ตอนนั้น..หลังจากจบยิมแบทเทิลกับเธอ ชั้นก็ขี่หลังฟูเตร่าบินนำหน้าไป โดยมังกรตัวอื่น ๆ บินตามหลังมา เพิ่งไปได้ไม่ไกลนัก ฟูเตร่า

ของชั้นก็โดน Hyper Beam โจมตีจากด้านหลังจนร่วงลงมา ชั้นซึ่งตกจากที่สูงขนาดนั้น ยังพอมีสติอยู่บ้าง มองรอบ ๆ ตัวก็เห็นฟูเตร่า แกราดอส

กับลิซาด้อนนอนเจ็บอยู่แถวนั้น เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้า เห็นกำลังไคริวบินจากไป แล้วชั้นก็สลบไปเลย.." โซล่าร์ไล่เรียงเหตุการณ์ในคืนนั้น

          "ไคริวไม่ได้หนีนายไปหรอก แต่กำลังตามมังกรที่มาทำร้ายนายต่างหากล่ะ.." ไคริวของโซล่าร์มองมาที่ลูน่า เขาอยากจะขอบคุณเธอ

ที่เล่าความรู้สึกของตนให้ผู้เป็นนายได้รับรู้ โซล่าร์ยืนนิ่งไตร่ตรอง

          ตอนนั้นเอง ระหว่างที่ไคริวของโซล่าร์ทนรับการโจมตีที่บ้าคลั่งของไคริวป่าตัวนี้อยู่ บัตเตอร์ฟรีที่อยู่ในอ้อมแขนของลูน่า และสเปียร์ที่เกาะหลัง

โซล่าร์อยู่ก็คืนสติขึ้นมาอีกครั้ง และแมลงทั้ง 2 ตัวก็บินเข้าไปข้าง ๆ ไคริวของโซล่าร์ เทรนเนอร์ทั้ง 2 ยืนงงอยู่ โดยที่มือยังจับกันแน่น

          และในเวลาเดียวกัน ฟูเตร่า แกร่าดอสและลิซาด้อนของโซล่าร์ ไครอส ทรานเซล มอนฟอสและพารัสของลูน่า ซึ่งนอนหมดสภาพอยู่ ก็คืนสติและลุกขึ้น

และเดินไปเคียงข้างไคริวของโซล่าร์ ตอนนี้ทั้งมังกรของโซล่าร์ และแมลงของลูน่า ยืนประจัษหน้ากับแม่ทัพของมังกรที่โกรธเกรี้ยว

          "นี่มันอะไรกัน แมลงของชั้น..ชั้นสัมผัสความคิดของพวกนั้นไม่ได้เลย" ลูน่ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับภาพที่เห็น "บาดเจ็บขนาดนั้น ยังจะสู้อีกหรือไง"

          โซล่าร์จับมือลูน่าแน่กว่าทุกครั้ง เขาเริ่มใจเย็นลงเมื่อรู้ความเป็นไปทั้งหมด เขามองไคริวของตนด้วยความภูมิใจ ไคริวเองก็มองมาที่เขาเช่นกัน

แน่นอน..สุดท้ายโซล่าร์ย่อมเข้าใจความต้องการของไคริวดีกว่าใคร

          "สิ่งที่โปเกมอนของเรากำลังทำอยู่นี้ ทำไปเพราะความเชื่อมั่น เชื่อมั่นในตัวของไคริวของชั้น" โซล่าร์เอ่ยขึ้น

          "ว่ากันว่าความพิโรธของมังกรจะไม่มีทางเย็นลงไปได้ จนกว่าจะทำลายล้างทุกอย่างจนราบเป็นหน้ากลอง ..ยิ่งถ้าเราสู้กับโทสะของมังกร

มังกรก็จะยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้น เพราะงั้น การที่จะจบสงครามนี้ มีแต่เราต้องยอมถูกทำลายเท่านั้น" โซล่าร์พูดด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

          "จะบ้าหรือไง คิดจะยอมแพ้ ยอมให้มันเล่นงานเราไปเรื่อย ๆ แบบนี้น่ะหรือ" ลูน่าไม่ยอมรับ

          "แต่โปเกมอนของเราก็เลือกแบบนี้นะ" โซล่าร์พูดด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ และชี้นิ้วไปเบื้องหน้าให้ลูน่ามองตาม

          ภาพที่เห็นคือไคริวป่าเตรียมการโจมตีครั้งต่อไป..โดยที่ ไครอส ทรานเซล มอนฟอส พารัส ฟูเตร่า แกราดอส ลิซาด้อน บัตเตอร์ฟรี สเปียร์

ซึ่งโปเกมอนทั้งหมดล้วนบาดเจ็บสาหัสกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่หนีไปไหน โดยมีไคริวของโซล่าร์ ยืนอยู่หน้าสุด

          "ไคริวของชั้นคงจะต้องการบอกอะไรบางอย่างกับมังกรตัวนั้น เป็นเจตนารมณ์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งโปเกมอนของเธอและชั้นก็เห็นด้วยกับเจตนารมณ์นี้" โซล่าร์เอ่ยขึ้นเบา ๆ

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

WING แมลง  FANG มังกร  :  the cool wing of the rage fang

Episode 09 :-: ปีกที่ยิ่งใหญ่

          ณ โรงยิมขแนแก่น จังหวัดขอนแก่น การต่อสู้ที่รุนแรงในค่ำคืนที่ยาวนาน มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ฝูงมังกรฮาคุริว และฝูงผึ้งสเปียร์

โปเกมอนทั้ง 2 ฝ่ายต่างหมดสภาพ รวมทั้งโปเกมอนแมลงของลูน่า และโปเกมอนมังกรของโซล่าร์ ก็นอนหมดสภาพอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นนาย

ตอนนี้ นอกจากหวันไฟและเศษฝุนที่ลอยฟุ่ง ยังมีกองซากอิฐ หินของโรงยิมที่ถล่มจนจำสภาพเดิมไม่ได้ เป็นผลจากการต่อสู้ที่รุนแรง

          ศึกสุดท้าย เหลือโปเกมอนอยู่ 2 ตัวที่ยังสามารถยืนอยู่ได้ มีเพียงไคริว 2 ตัวเท่านั้น ไคริวป่า มังกรผู้เป็นแม่ทัพบัญชาการรบครั้งนี้

และไคริวของโซล่าร์ โดยที่เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนยืนมองอยู่ด้านหลังไกล ๆ ลูน่าและโซล่าร์ยังคงจับมือกันอยู่ สภาพอ่อนแรงและสบัดสะบอมสุด ๆ

          ไคริวของโซล่าร์ ยังคงรับการโจมตีของอีกฝ่ายอยู่และไม่ตอบโต้ใด ๆ นี่คือการยั้บยั้งความโกรธของมังกร ไคริวรู้ข้อนี้ดี

ทั้งหมดที่ไคริวทนบาดเจ็บเช่นนี้ เพราะไคริวมีสิ่งที่อยากจะบอกให้ ไคริว อีกตัวได้เข้าใจ ซึ่งแต่เดิม ไคริว 2 ตัวนี้ก็เคยอาศัยอยู่ที่เดียวกัน

หลังจาก 10 ปีก่อนที่โซล่าร์จับไคริวและไปจากขอนแก่น 5 ปีต่อมาเหล่ามังกรก็ถูกไล่ที่ ซึ่งมังกรเหล่านั้นก็คือพี่น้องของไคริวของโซล่าร์นั้นเอง

          ไคริวของโซล่าร์ทนรับการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้ง Dragonbreath และ Dragon Rage ที่ระดมโจมตีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ของอีกฝ่าย ไคริวของโซล่าร์ก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ ยืนหยัดตั้งรับการโจมตีอย่างไม่ย่อท้อ

          ลูน่าซึ่งยืนมองดูการต่อสู้นี้อยู่ เป็นห่วงไคริว เธอคุยกับโซล่าร์โดยที่ทั้งคู่ยังจับมือกันแน่น อย่างไม่รู้ตัว

          "นี่ ไคริวของนายโดนโจมตีมากไปแล้วนะ ฝืนมากเกินไปแล้ว"

          "ชั้นเองก็เพิ่งเคยเห็นเจ้านั้นอึดซะขนาดนี้ พูดไม่ออกเหมือนกัน.."

          "ดราก้อนอ่อนแอต่อดราก้อนด้วยกัน เป็นไปไม่ได้หรอกที่ไคริวของนายจะทนได้ขนาดนี้.."

          "หึ.. พูดไปก็เท่านั้น เมื่อมังกรเลือกที่จะสู้ ก็จะสู้อย่างไม่ยอมแพ้ และไคริวของชั้นเอง เมื่อตัดสินใจทำแบบนี้แล้ว..ต่อให้ตายก็ตาม"

          ลูน่าและโซล่าร์มองการต่อสู้อยู่ไกล ๆ แต่เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนก็อ่อนล้ามาก แรงจะยืนแทบไม่มี อยากจะช่วยเหลือไคริวก็ทำไม่ได้

อยากจะยุติสงครามก็ทำไม่ไหว ด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ ทำได้เพียงแค่ยืนมองเท่านั้น

          ศึกในครั้งนี้ จุดเริ่มต้นก็คือมนุษย์ที่ทำให้มังกรโกรธแค้น และมังกรก็ต้องการบ้านของพวกเขาคืน ซึ่งเทรนเนอร์ทั้ง 2 คนก็พยายามอย่าง

สุดความสามารถแล้วที่จะยับยั่งโทสะของมังกร แม้จะปราชัยแต่ศึกสุดท้ายยังไม่จบ ไคริวของโซล่าร์ แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยอาศัยอยู่ที่นี้ร่วมกันกับ

มังกรตัวอื่น ๆ แต่ไคริวของโซล่าร์ก็เลือกที่จะเข้าข้างมนุษย์ ด้วยเหตุนี้จึงต้องกลายเป็นศัตรูกับพี่น้องของตน ถึงอย่างนั้น ที่ไคริวของโซล่าร์

เลือกทำแบบนี้เพราะมีเหตุผล ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ตนอย่างให้พี่น้องมังกรได้เข้าใจ

          (ไคริวป่า) "ทำไมกัน..เจ้าเลือกที่จะทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเองอย่างนั้นหนือ"

          (ไคริวของโซล่าร์) "ข้าไม่เคยคิดแบบนั้น แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับการทำลายที่ไร้ความหมายแบบนี้"

          (ไคริวป่า) "มนุษย์ก็ทำลายถ้ำของเราอย่างไร้ความหมายเหมือนกัน"

          (ไคริวของโซล่าร์) "นั่นก็เพื่อทำให้โปเกมอนอย่างพวกเราแข็งแกร่งขึ้นต่างหากล่ะท่าน"

          (ไคริวป่า) "หือ.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "การต่อสู้ทั่วไปที่ไม่ได้อะไร ก็เปลี่ยนเป็นการฝึกฝนในโรงยิม เรียกกันว่าศึก 'ยิมแบทเทิล' ยังไงล่ะ.."

          (ไคริวป่า) "เจ้าเข้าข้างมนุษย์ ความเป็นมังกรของเจ้าหมดลงตั้งแต่เข้าไปอยู่ในลูกบอลแล้ว เจ้ายอมให้มนุษย์สั่งหันซ้ายหันขวา

ได้ยังไงกัน.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "นั่นคือการต่อสู้เพื่อพวกพ้อง ไม่ต่างจากท่านที่สู้เพื่อพี่น้องเหล่านี่นั้นแหละ"

          (ไคริวป่า) "มนุษย์ทำร้ายเผ่าพันธุ์เรา ทำร้ายโปเกมอนอย่างเรา"

          (ไคริวของโซล่าร์) "แต่มนุษย์ก็ช่วยปกป้องเราเช่นกัน"

          (ไคริวป่า) "น้องชาย..เจ้าจะบอกอะไรข้ากันแน่"

          (ไคริวของโซล่าร์) "ลำพังพลังของโปเกมอนอย่างเดียว เอาชนะไม่ได้หรอก.. เด็กผู้หญิงตรงนั้นพูดไว้แบบนี้ และข้าเองก็เห็นด้วยกับ

ประโยคนี้"

          (ไคริวของโซล่าร์) "มนุษย์ช่วยฝึกฝนเรา เลี้ยงดูเรา และรักษาเรา ..นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พัฒนาความรู้เรื่องระบบนิเวศโปเกมอน

เพื่อไม่ให้โปเกมอนสูญพันธ์ไป ในต่างประเทศมีนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจมากมาย และบางคนถึงกับสามารถคืนชีพฟอสซิลได้เลยนะ ซึ่งที่มนุษย์ทำ

ก็เพื่อปกป้องโปเกมอนอย่างเรา ๆ ยังไงล่ะ"

          (ไคริวของโซล่าร์) "แล้วแบบนี้..ท่านพอจะเปิดใจได้หรือยัง"

          แม่ทัพมังกรไคริว ละการโจมตีที่บ้าคลั่งและบินสูงขึ้นไป สายตาของไคริวป่ายังคงแสดงความดุดันอันน่ากลัว เขาตั้งท่าจะโจมตีด้วย

เทคนิค Fly ลูน่าและโซล่าร์เห็นท่าไม่ดีนัก การโจมตีสุดท้ายของจ่าฝูงเป้าหมายคือไคริวที่ยืนทนบาดแผลอยู่เบื้องล่าง

          "พอเถอะไคริว พอได้แล้ว.." ลูน่าตะโกนดังลั่นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

          "ชั้นก็ว่ามันเกินไปแล้วนะไคริว อย่าฝืนอีกเลย..ถอยมาเถอะ" โซล่าร์พูดอย่างจริงจัง แต่สายตาเขามองไคริวอย่าเจ็บปวด

          (ไคริวของโซล่าร์) "ไม่หรอกครับท่านวอลแคนโน่ ข้าตั้งใจแน่แล้ว.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "จริง ๆ เมื่อก่อนข้าก็ไม่ไว้ใจมนุษย์เช่นเดียวกันกับพี่น้องมังกรตัวอื่น ๆ แค่หลังจากที่ข้าออกเดินทางร่วมกับท่าน

ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายและข้าก็ได้รู้จักความหมายของ 'โปเกมอนเทรนเนอร์' ซึ่งท่านทำหน้าที่เทรนเนอร์ได้อย่างดีเยี่ยม เด็กผู้หญิงคนนั้น

ก็เช่นกัน.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "และนี่ทำให้ข้าได้รู้ ว่าจริง ๆ แล้ว..มนุษย์กับโปเกมอนอยู่ร่วมกันได้.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "นี่แหละ คือเจตนารมณ์ที่ข้าต้องการให้พี่น้องของข้าได้รับรู้ และเปิดใจรับพวกมนุษย์มากกว่านี้..พวกเราเป็นเพื่อนกันได้"

          (ไคริวป่า) "เจ้าแน่ใจเรอะ บอกข้ามาสิ ว่าเจ้าเชื่อใจมนุษย์จริง ๆ "

          ระหว่างนั้นแม่ทัพมังกรก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็ว และพุ่งตรงมาที่ไคริวของโซล่าร์ เมื่อปะทะ เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น เศษดิน หิน

อิฐ ปูน ก็ปลิวกระจัดกระจายออกไปตามแรงกระแทก เป็นเทคนิค Fly ที่รุนแรงกว่าปกติ ลูน่าและโซล่าร์ได้เพียงแค่มองโดยไม่มีแม้เสียงที่จะ

กรีดร้อง พยายามจะลุกและเดินเข้าไปที่จุดปะทะ แต่เดินได้ครึ่งก้าวก็ต้องล้มลงเพราะอ่อนล้า แต่มือทั้งสองคนยังจับกันแน่น

          (ไคริวของโซล่าร์) "ท่านแข็งแกร่ง สมกับที่เป็นจ่าฝูงจริง ๆ .."

          (ไคริวของโซล่าร์) "พวกเราคือมังกร ถูกเรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ ท่านเองเฝ้ามองดูที่นี้ ก็น่าจะเห็นนะ ว่าตั้งแต่ที่โรงยิมแห่งนี้เปิด

ทุกอย่างก็ดีขึ้น เทรนเนอร์เก่งขึ้น โกเกมอนแข็งแรงขึ้น ผู้คนในเมืองเข้าใจโปเกมอนมากขึ้น ต่างจาก 10 ปีก่อนตอนที่ข้ายังอยู่ที่นี้ ตอนนั้น

ทุกคนหวาดกลัวโปเกมอนอย่างพวกเรา.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเทรนหนุ่มเจ้านายข้า แชมป์เปี้ยนสาวคนนั้น และโรงยิมขอนแก่นแห่งนี้ไง.."

          ฝุ่นหวันจางลง เกิดหลุมขนาดใหญ่บริเวณจุดปะทะ หลุมนี้เกิดจากการโจมตีอย่างรุนแรง โดยที่แม่ทัพมังกรยืนอยู่ใจกลางหลุมนั่น

และไคริวของโซล่าร์นอนหมดสภาพอยู่ในหลุมนั้นเช่นกัน ไคริวป่ายืนมองไคริวอีกตัวที่นอนบาดเจ็บอยู่เบื้องหน้า

          (ไคริวของโซล่าร์) "การอยู่อย่างพวกเราเผ่ามังกร ถ้าการเสียสละที่อยู่อาศัยของเราเพื่อให้สรรพชีวิตได้มีความสุขขึ้น.."

          (ไคริวของโซล่าร์) "สิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ก็ควรจะทำเช่นนั้นนะ.."

          ดวงตาของไคริวของโซล่าร์หลับลงเมื่อได้แสดงเจตนารมณ์ที่แข็งแกร่งนี้แล้ว ลูน่าตกใจมากแต่ไม่มีแรงที่จะเปล่งเสียง แต่โซล่าร์มองออก

การโจมตีสุดท้ายของไคริวป่าไม่ได้โดนไคริวของตน ไม่ว่าจะเป็นเพราะ Sand-attack ที่โดนไปตอนแรกหรือตัวไคริวป่าจงใจไม่โจมตีก็ตามที

แต่การหยัดยืนโดยไม่หวั่นเกรงทำให้ไคริวตัวนั้นยอมสงบและเปิดใจ แม่ทัพมังกรมองมาที่โซล่าร์และลูน่า ก่อนจะหันไปมองฮาคุริวตัวอื่น ๆ ที่

บาดเจ็บจาการต่อสู้ มังกรทุกตัวยอมรับในเจตนารมณ์นี้ และบินจากไป โดยที่ไคริวป่า แม่ทัพของมังกรบินตามหลังไปเป็นตัวสุดท้ายในทิศตะวันออก

ซึ่งเวลาตอนนั้นก็ตรงกับพระอาทิตย์ขึ้นพอดี สายลมและแสงแดดยามเช้าของวันใหม่ที่สดใสสาดส่องมาที่เทรนเนอร์ทั้ง 2 คนที่มองดูอย่างโล่งใจ

          "ไคริวทำสำเร็จสินะ.." โซล่าร์เอ่ยเบา ๆ ก่อนจะทิ้งตัวหมดสติไปเพราะอ่อนล้า

          "ดีจังเลยนะ.." ลูน่ามองดูฝูงมังกรบินจากไปจนลับตา ก่อนจะล้มหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

          ฝูงสเปียร์ที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับมังกรก็ยังบินอยู่แถว ๆ นั้น เพราะจ่าฝูงของตนนอนหมดสภาพอยู่ข้าง ๆ กับบัตเตอร์ฟรี โดยมีโปเกมอน

ฟูเตร่า แกราดอส ลิซาด้อน ไครอส ทรานเซล มอนฟอสและพารัสหลับอยู่ไม่ไกลกัน ทุกคนผ่านศึกในค่ำคืนที่ยาวนาน นอนหลับอยู่บนพื้นด้วยความ

เหนื่อยล้า

          โดยเทรนเนอร์ทั้ง 2 คนนอนหลับอยู่ข้าง ๆ กัน และ 2 มือยังจับกันแน่น..

          ....

....The Cool Wing of The Rage Fang End

=============================================================================================

จบไปแล้วครับกับเรื่องนี้ ขอบคุณทุกคนนะครับที่ร่วมเดินทางกันมา แม้จะมีผิดพลาดเยอะไปหน่อย แตก็ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะครับ

และสุดท้ายนี้ หากเป็นไปได้ ขอให้คอมเม้นกันอีกสักหน่อย ด่า ว่าได้เต็มที่เลยครับ เพื่ออนาคต หากมีโอกาส จะได้พัฒนางานให้ดีขึ้น ดีขึ้นไปอีก

ขอบคุณทุก ๆ คนมากครับ ..Thunderies

=============================================================================================

ปีกแห่งการเริ่มต้น

          1 เดือน นับตั้งแต่ศึกระหว่างปีกแมลงและเขี้ยวมังกร วันนี้กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง โรงยิมถูกบูรณะอยู่ในสภาพเดิม

ต้นคูณที่ถูกไฟไหม้ก็กลับมาบานสะพรั่ง ผู้ท้าชิงก็เข้ามาท้าสู้อย่างไม่ขาดสาย พอจบศึกที่สาหัส ก็ต้องมาเจองานที่หนักอึ้งทันที

นี่แหละคือหน้าที่ของผู้นำโรงยิม

          พอมีเวลาว่าง ลูน่า ผู้นำโรงยิมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ก็มานั่งพักในห้องทำงาน โดยมีบัตเตอร์ฟรีเกาะอยู่บนหัว

ตอนนั้น โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นมาพอดี ลูน่ารับสาย และเสียงปลายสายก็คือ ไฟร์ เพื่อนผู้นำโรงยิมของเธอนั่นเอง

          "เป็นไง นักล่ามังกร เก่งใช่เปล่า.." ไฟร์ทักทายทันทีที่ลูน่ารับสาย

          "ใช่ค่ะ" ลูน่าตอบ

          "แล้วตั้งแต่วันนั้นเป็นยังไงบ้าง"

          "พอชั้นฟื้นขึ้นมา เขาก็หายตัวไปแล้ว พอถามพวกของเบิร์นเขาก็บอกว่า 'ในสมรภูมิ ผมเห็นพี่ลูน่าคนเดียวนะ'.."

          "ทั้ง ๆ ที่ชั้นจำได้แน่ ๆ ว่าชั้นสลบอยู่ข้าง ๆ กับเขา" ลูน่าพูดอย่างแปลกใจ

          "เหอะ ๆ ช่างเถอะ แล้วการ์ดี้ที่ชั้นส่งกลับไปเป็นไงยังมั้ง"

          "อ้อ การ์ดี้ดูแข็งแรงร่าเริงมากเลย เบิร์นเองก็ดีใจมาก เผลอ ๆ 2 คนนี้อาจจะเป็นคู่หูที่ดีได้นะ.."ลูน่าพูดพลางมองออกไป

ผ่านกระจกใสซึ่งสามารถมองเห็นห้องโถ่งบริเวณแบทเทิลฟิวล์ได้ และเธอก็สังเกตเห็นพวกเบิร์น ไอซ์สและไลท์นิ่ง ทั้ง 3 คนสีหน้าไม่ดีนัก

และเหมือนจะมีเสียงดังเอะอะกันด้วย เหมือนพวกเขากับลังทะเลาะกับใคร ลูน่าจึงเงียบหูฟัง

          "ชั้นจะสู้กับลีคเดอร์ที่นี่ เดี๋ยวนี้ด้วย" เสียงของชายหนุมพูดขึ้นอย่างเย็นเฉียบ เขาคือผู้ท้าชิงคนล่าสุด

          "ท้าจะสู้กับพี่ลูน่า แกต้องผ่านพวกชั้น 3 คนไปก่อน" เบิร์นประกาศกร้าว แต่น้ำเสียงยังแสดงถึงความกลัว

          "ชั้นจะสู้กับ..ลีดเดอร์เท่านั้น"

          "ไอ้นี่ พูดไม่รู้เรื่องแฮะ" เบิร์นเริ่มโมโห และควักบอลจากในกระเป๋าออกมา "ลุยเลยการ์ดี้" นั่นคือการ์ดี้ที่เบิร์นช่วยชีวิตเอาไว้

          ลูน่าเห็นท่าไม่ดี แต่เธอจำเขาได้ น้ำเสียงและการใช้คำพูด มีคนเดียวที่เธอนึกถึงคือนักล่ามังกร ตอนนี้โซล่าร์อยู่ที่ยิมของเธออีกครั้ง

เธอวางหูโทรศัพท์ทันทีและรีบวิ่งมายังห้องโถ่ง ระหว่างนั้นเสียงระเบิดจากการต่อสู้ก็ดังเป็นระยะ ๆ และเสียงของผู้ท้าชิงก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

          "พวกแกจะสู้ด้วยไหม หรือจะแข่งแบบแทคแบทเทิลก็ได้นะ เข้ามาพร้อมกันเลย"

          ประโยคนี้หมายถึงเบิร์นแพ้แล้วและไอซ์สกับไลท์นิ่งก็กำลังต่อสู้ ลูน่ามาถึงแบทเทิลฟิวล์ ภาพแรกที่เห็นคือ เน็ตบอล ลอยผ่ายหน้าเธอไป

ลูน่าหันไปมองเจ้าของลูกบอลทันที ผู้ชายที่ยืนอยู่บนแบทเทิลฟิวล์ฝั่งผู้ท้าชิง ชายหนุ่มสวมชุดโค้ทยาว มีขนยาวสีดำปกคลุมอยู่ที่ไหล่ นั่นคือ

โซล่าร์

          ลูน่าดีใจที่ได้เจอ แต่เธอเองก็ต้องเข้าสู่การต่อสู้ทันที เพราะไอซ์สและไลท์นิ่งผ่ายไปแล้ว ตอนนี้เธอต้องทำศึกยิมแบทเทิล

โดยมีเข็มกลัดของโรงยิมเป็นเดิมพัน

          "แกใช่ไหม ผู้นำของที่นี้.." น้ำเสียงเย็นยะเยือกของชายหนุ่มเอ่ยถาม "นักล่ามังกรสินะ" ลูน่าเข้าใจสถาณการณ์

          "ถ้ารู้จักชั้นก็คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ ส่งเข็มกลัดมาให้ชั้น" โซล่าร์พูดอย่างจริงจัง แต่มีรอยยิ้มจากสายตา

          "เข็มกลัดสุดท้ายแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ..มันไม่ง่ายหรอกนะ" ลูน่าเอ่ยอย่างขึงขัง แต่มีรอยยิ้มที่มุมปาก

          สิ้นสุดประโยคสนทนา สเปียร์ ของโซล่าร์ วอลแคนโน่ ก็พุ่งเข้ามา

          โดยมี บัตเตอร์ฟรี ของลูน่า บลิซซาร์ด ตั้งรับอยู่..

          ....

....

Link to comment
Share on other sites

  • 1 year later...
  • 4 months later...

ขออนุญาตน่ะจ๊ะ

ผมชื่อ ก้อง น่ะ ไม่รู้คนเก่า ๆ ยังจำผมได้มั้ย อิอิ ก็ขอแนะนำตัวตรงนี้อีกครั้งครับ สวัสดีเพื่อนใหม่ ๆ ด้วย

เมื่อก่อนเคยมาทักทายบ่อย ๆ แล้วก็หายไปยาว ๆ เลย แค่แอบมาส่องเป็นพัก ๆ

แต่ตอนนี้อะไร ๆ เริ่มลงตัวเริ่มมีเวลาก็ขอกลับมาทำสิ่งที่ชอบที่รักหน่อยน่ะ

ซึ่งผมจะขอเขียนฟิคเรื่องนี้ต่อ เป็นภาค 2 ของวิงแมลงแฟงมังกร (ขำชื่อจัง ตั้งได้ไง = =")

ยังไม่ได้วางโครงเรื่องไว้เลย ขอเวลาแต่งสักพักนึง

 

ไม่รู้มีคนอยากอ่านมั้ย แต่ผมอยากเขียนน่ะ

ขอโทษถ้ากระทู้ผมดันขึ้นมาเกะกะสายตาใคร แต่ผมก็จะเขียนต่อไปตราบที่กระทู้นี้ยังไม่ถูกลบ

 

อิอิ รักทุกคนครับ  :pika01:

Edited by Thunderies
  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

ขออนุญาตน่ะจ๊ะ

ผมชื่อ ก้อง น่ะ ไม่รู้คนเก่า ๆ ยังจำผมได้มั้ย อิอิ ก็ขอแนะนำตัวตรงนี้อีกครั้งครับ สวัสดีเพื่อนใหม่ ๆ ด้วย

เมื่อก่อนเคยมาทักทายบ่อย ๆ แล้วก็หายไปยาว ๆ เลย แค่แอบมาส่องเป็นพัก ๆ

แต่ตอนนี้อะไร ๆ เริ่มลงตัวเริ่มมีเวลาก็ขอกลับมาทำสิ่งที่ชอบที่รักหน่อยน่ะ

ซึ่งผมจะขอเขียนฟิคเรื่องนี้ต่อ เป็นภาค 2 ของวิงแมลงแฟงมังกร (ขำชื่อจัง ตั้งได้ไง = =")

ยังไม่ได้วางโครงเรื่องไว้เลย ขอเวลาแต่งสักพักนึง

 

ไม่รู้มีคนอยากอ่านมั้ย แต่ผมอยากเขียนน่ะ

ขอโทษถ้ากระทู้ผมดันขึ้นมาเกะกะสายตาใคร แต่ผมก็จะเขียนต่อไปตราบที่กระทู้นี้ยังไม่ถูกลบ

 

อิอิ รักทุกคนครับ  :pika01:

ไม่เกะกะหรอกครับ ผมกลับดีใจที่มีคนมาแต่งนิยายในนี้ ~

แต่งต่อไปเลยครับถ้ามีไฟในการแต่ง~!

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.