Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

► [GIJINKA] Pokemon & The Gang ! ◄


+ Pangtor Girl +

Recommended Posts

# F I C T I O N #

[ GIJINKA ]

 “POKEMON & THE GANG!

large.waitme3.jpg.179c683be8c2a0d26afec2

 


[OPENING]

Spoiler

 

 


[TALK WITH WRITER]

# 18/04/2014

Spoiler

สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วนะคะ !

วันนี้แก้มมาเปิดฟิคใหม่ค่ะ ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยว่าจะได้เสียงตอบรับดีรึเปล่า ฮ่าๆๆ ก็นะ

ฟิคนี้[PTG]เป็นเนื้อเรื่องแยกจากฟิคหลัก [TTG] นะคะ ซึ่งจะกล่าวถึงการผจญภัยของโปเกม่อนของมีนาระ

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ช่วยติดตามชมกันด้วยนะคะ !!

Spoiler

ฟิคนี่ถึงจะดอง ก็ดองตอนที่ 8 ล่ะนะ ! เพราะตอนนี้แต่งไปไกลถึงบทที่ 8 แล้วค่ะ xD

อาทิตย์นึงอัพที ไม่ก็สองอาทิตย์อัพทีตามอารมณ์(?)ค่ะ ตอนนี้ทยอยออกแบบตัวละครอยู่

ยังไงก็ ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ !!

# 12/10/2016

Spoiler

ไง ... หายไป 2 ปี ก็แค่คิดถึงเลยกลับมาทักทาย

ทยอยแก้ไขกระทู้ซะส่วนใหญ่แล้ว เนื้อเรื่องรีเมคไปได้แค่ 2 บท แต่ก็ยังเขียนอยู่น่ะนะ

คงยากที่จะหยิบขึ้นมาแต่งต่อจริงๆ แต่ก็ทิ้งไม่ลงเหมือนกัน เอาเป็นว่า

ถ้ามีโอกาส ... ก็จะกลับมาเขียนต่ออีก

ก็แค่คิดถึง ... คิดถึงจริงๆ : ) 

 


[CHARACTER]

- coming soon -


[INDEX]

  • "บทนำ" (เก่า / ใหม่)  # หน้าที่ 1 
  • "บทที่ 1" :  Another World ในโลกที่เราไม่รู้จัก # หน้าที่ 3
  • "บทที่ 2 ":  Beginning จุดเริ่มต้น  # หน้าที่ 3
  • "บทที่ 3" :  Wait Me รอคอยตัวตนของเรา  # หน้าที่ 3
  • "บทที่ 4" :  Prove Yourself จงพิสูจน์ตนเอง # หน้าที่ 3

 


[SPECIAL CHAPTER]

Spoiler

 

 


[OLD PROLOGUE]

Spoiler

 

ผมก็แค่โปเกม่อนธรรมดาตัวหนึ่ง

ผมยอมรับเลยว่าประโยคนี้โปเกม่อนตัวอื่นๆก็พูดได้ งั้นผมขอเพิ่มเติมอีกหน่อยแล้วกัน

จะให้พูดตรงๆ ผมก็แค่โปเกม่อนตัวหนึ่งที่มีความรักต่อเจ้าของมากกว่าโปเกม่อนตัวอื่นๆ

รักมากจนกระทั่งจะตายแทนได้ ผมมีพวกพ้อง 6 คน ผมก็รักพวกเขามาก มากเสียจนอธิบายไม่ได้

พวกเราใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเท่าที่เทรนเนอร์คนนึงกับโปเกม่อนของเธอจะมีได้  เราก็ใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนทุกๆวัน

วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ยังไงๆก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เทรนเนอร์ของผมเป็นเด็กผู้หญิง ชื่อว่า ซายากิ มีนาระ

เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ห้าว และซนมากๆ ไม่เหมือนเด็กผู้หญิงเลยซักนิด แต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอ ความรู้สึกแรกของผม

คือเธอเป็นคนที่อ่อนโยนมาก เธอยิ้มให้ผม ลูบหัวของผม กอดผม และร้องเพลงได้ไพเราะมาก ผมรักเธอ และเธอก็รักผม

ทุกครั้งที่เห็นเธอร้องไห้ ผมจะเจ็บปวด

ทุกครั้งที่เห็นเธอโดนรังแก ผมจะโกรธ

ทุกครั้งที่เห็นเธอร้องเพลง ผมจะมีความสุข

มันนับว่าเหมือนหัวใจของผมเคลือบแคลงไปด้วยจิตที่จงรักภักดีต่อเธอผู้เดียว และผมสามารถจะตายแทนเธอได้โดยไม่

เสียดายชีวิตของผมเอง

ต่อมาก็มีสมาชิกในทีมมากขึ้นเรื่อยๆ พวกนั้นนิสัยไม่เหมือนกันสักนิด เรียกได้ว่าคนละขั้ว ทุกๆครั้งที่พวกเรา

6 คนออกมาเจอหน้ากัน มันจะมีบางอย่างที่ผมรู้สึกได้ และผมขอเรียกมันว่า ‘ความอบอุ่น’ ทีมของเรามีความสุข

เมื่อผมอยู่กับพวกเขา ใบหน้าเย็นยะเยือกที่เหมือนน้ำแข็งของผมก็แทบมลายหายไปทันที ผมทั้งยิ้ม และหัวเราะ

ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆที่ผมปล่อยรอยยิ้มออกมาบางๆหรือหัวเราะในลำคอ แต่มันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษ เพราะ

ผมไม่ได้เป็นนิสัยประเภทปล่อยความรู้สึกง่ายๆ นี่คือความพิเศษของสมาชิกในทีมผม

มันปกติซะจนไม่มีอะไรพิเศษเสียแล้ว และผมก็ไม่ต้องการให้พิเศษไปมากกว่านี้อีก และแล้วเรื่องพิเศษบ้าๆนั่นก็เกิดขึ้น

กับผมและพวกพ้องจนได้ ... ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้

ผมกับพวกพ้องถูกเธอปล่อยทิ้งไว้ในป่าพร้อมกับคำมั่นสัญญาว่าจะกลับมารับตอนเย็น ซึ่งแน่นอนเธอกลับมาแน่

พวกเราเลยรับปากว่าจะรอที่นั่น จู่ๆแสงสว่างสีขาวก็ว้าบออกมา โอเค ผมยอมรับเลยว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ แถมมันยังเป็นสิ่งที่ผมคาดคิดไม่ถึง ...

ผมก็แค่โปเกม่อนธรรมดาตัวหนึ่ง

ตอนนี้กลับขอเปลี่ยนสรรพนามใหม่

‘ผมก็แค่ครึ่งมนุษย์ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง’

เรื่องบ้าอะไร? ผมคิดคำถามได้แค่นี้จริงๆ

ผมก้มมองลงที่ริมแม่น้ำอีกที ใบหน้ามนุษย์ผู้ชายคมคายก็ปรากฏอยู่ที่แม่น้ำไม่เปลี่ยนแปลง สายตาคมกริบดุจดั่ง

เหยี่ยวอันดุร้ายแฝงความสงสัยปนมึนงง ผมปรกหน้าสีแดงเพลิงและผมยาวสลวยสีเหลืองนวล ผมจับใบหน้าของผม

มันก็สะท้อนกลับเหมือนกัน นั่นคือตัวผมจริงๆ?

ผมลองเรียกเปลวไฟที่ข้อมือแล้วส่องที่แม่น้ำ เปลวเพลิงปรากฏขึ้นที่ข้อมือของผมแต่ไม่รู้สึกร้อน นี่ตัวผมจริงๆสินะ ...

นี่มันเรื่องอะไรกัน !?

 

 

 


[NEW PROLOGUE]

Spoiler

 

§ Prologue §

 

 “ ถ้าเจตจำนงของเธอคือการต่อสู้

 

เธอพร้อมจะเป็นทางเดินให้ฉันไปถึงความฝันได้ไหม ? ”

 

เธอยิ้ม นั่งลง ทอดสายตามองผมด้วยความอ่อนโยน

ยื่นมือเข้ามาใกล้ แต่ครั้งนั้นกลับถอยหลังให้ เพราะไม่ไว้วางใจ

เธอยิ้มอีก ยิ้มกว้างจนตาหยี เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ได้จะทำอะไร

แต่ผมก็ยังนิ่ง

จากนั้นสายลมก็พัดมา พร้อมกับเสียงของเธอที่แผ่วเบา

ถ้าเจตจำนงของเธอคือการต่อสู้ เธอพร้อมจะเป็นทางเดินให้ฉันไปถึงความฝันได้ไหม ?

 

ผมจ้องมองเธอกลับอย่างนึกคิด

แต่เมื่อได้ยินดังนั้น ก็นิ่งไป ฝ่ามือเล็กๆนั่นลูบหัวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่อาจรู้เลย

นี่เป็นประโยคแรกที่เธอพูดกับผม และผมก็ไม่เคยลืม

ตัวผมในวันนั้น กลายมาเป็นผมในวันนี้ เหมือนเป็นเพียงแค่ความฝัน

ผมนอนราบลงกับพื้นหญ้านุ่ม ลืมตาขึ้นออกจากห้วงอดีต ทอดมองไปยังท้องฟ้าสีคราม

หมู่เมฆลอยเหนือหัว ลมร้อนพัดพานำใบไม้ปลิวว่อน

เธอนั่งอยู่ข้างๆ ลูบหัวของผม ยิ้มให้ ผมหลับตาลงช้าๆอีกครั้ง เพื่อฟังเสียงเพลงหวานใสของเธอ

ที่ขับขานไปตามสายลม

 onnaji tokoro guru guru mawatte

แม้ว่าตัวฉันจะเติบโตมาอย่างยากลำบาก
 tsukarekitte shimatte mo

วนไปวนมาอยู่ที่เดิม
 donna hikari sae sasanai basho kara

เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นที่ที่ไม่อาจมีแสงส่องถึง
te wo nobashi tsuzuketetan da yo

ฉันก็ยังคงเอื้อมมือออกไปเสมอ..”

เพลงนี้เป็นเพลงที่เธอคอยร้องอยู่เสมอๆ เธอบอกว่าเป็นเพลงที่สำคัญต่อเธอ

ผมรักบทเพลงนี้ และผมก็ชอบที่จะฟังเธอขับขานมัน

เธอคอยเลี้ยงดูผมและพวกพ้องด้วยความอบอุ่น

ก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

นับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้วจริงๆ ...

ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้วล่ะ

ซายากิ มีนาระ ต้องขอขอบคุณเธอจริงๆ ที่ทำให้มีผมในวันนี้

ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างเธอ ตัวผม และทุกๆคนขึ้นมา

ขอบคุณโชคชะตาที่พาให้ผมมาพบเธอและพวกพ้อง ขอบคุณมาก ...

...

แต่บางครั้ง โชคชะตาก็ชอบเล่นตลกแฮะ

End Prologue : To Be Continue…

 

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

  • Replies 74
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • + Pangtor Girl +

    23

  • 天ノ花 月子

    14

  • Tym

    13

  • ♏☤ṧ⊥εґ ℉

    9

โปเกมอนกลายเป็นมนุษย์ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร....

แล้วจะทำยังไงต่อไป......แล้วโปเกมอนตัวอื่นบนโลกละเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหม??....แล้วมนุษย์จะตกใจไหม??

หรือพลัง ของโปเกมอนในตำนานบังเอิญหลงใช้ไม่รู้ว่าได้รับผลตัวอื่นด้วย??

คงต้องติดตามชมตอนต่อไป...

Link to comment
Share on other sites

บาชาโม่~~~~~~!!!

อะไรไม่รู้ล่ะ เห็นโม่แล้วอวยไว้ก่อน~ #ผิด

ล้อเล่นนะ อินโทรขึ้นมาได้น่าสนใจดี รอติดตามอ่านต่อเน่อ

Link to comment
Share on other sites

กรี๊ดๆ ท่านบาชาโม่~!!! รอติดตามตอนต่อไปค่ะ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 1 ครึ่งมนุษย์ที่ไม่ธรรมดา

Spoiler

 

ผู้ชายเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายกำลังส่องตนเองอยู่ที่ริมแม่น้ำ นัยน์ตาสีแดงเพลิงของเขาเจือปนไปด้วยความสงสัย

เขาส่ายหน้าไปมาและส่องดูที่ริมแม่น้ำอีกหลายครั้งก่อนที่จะเดินไปรอบๆ สักพักหนึ่งเขาก็ต้องตวัดสายตาเฉียบคม

ขึ้นไปบนต้นไม้เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างที่รู้สึกคุ้นหูเอามากๆ ..

“ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วยยยยยยย แง้วววววววววว !!!!!”

เสียงใสแหลมเล็กดังออกมาจากต้นไม้ที่สูงพอสมควร ชายผมยาวสลวยเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนก็พบกับแมว ...

ไม่สิ เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 16 ปีผมสั้นประบ่าสีม่วงชมพูกำลังเกาะกิ่งไม้อย่างหน้าหวาดเสียว

“จะตกแล้ว ! จะตกแล้ว ! แง้วววว !!!!!!!” เธอหลับตาปี๋ร้องโวยวายพร้อมกับดิ้นไปมา

ชายหนุ่มเหงื่อตกพร้อมกับตัดสินใจขึ้นไปช่วยเธอ เขาปีนขึ้นต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว และค่อยๆยึดกับกิ่งไม้ที่เด็กสาว

ติดอยู่พร้อมกับกล่าวเสียงทุ้ม “อยู่นิ่งๆนะ”

เด็กสาวหันมาทางต้นเสียงยังไม่ทันที่จะพูดชายหนุ่มก็คว้าเอวบางคอดของเธอพาดขึ้นบ่าแล้วโดดลงจากต้นไม้ทันที

ตุ้บ !

ฝุ่นคละคลุ้งเล็กน้อย เขาวางตัวเธอบนพื้นหญ้านุ่มก่อนจะจ้องหน้าของเธอและพูดขึ้น

“เอเนโคโรโร่?”

เจ้าของชื่อทำตาโตขึ้นเล็กน้อยและจ้องหน้าตอบกลับ

“บะ ... บาชาโม่ !?”

บาชาโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ทำไมถึงไปติดอยู่บนต้นไม้?”

“ไม่รู้ง่ะ ...” เจ้าตัวตอบเสียงค่อย “ตอนรู้สึกตัวก็อยู่ในท่านั้นแล้วอ่า”

“ว่าแต่ว่าทำไม ... เราถึงเป็นมนุษย์ล่ะ !!?” เอเนโคโรโร่ถามอย่างใสซื่อ บาชาโม่ส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ

“ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้สึกว่าเราไม่ใช่มนุษย์มากกว่า” บาชาโม่ตอบเสียงเย็น

“เอ๊ะ?” เอเนโคโรโร่เอียงคองง ยังไม่ทันที่เธอจะถามต่อ เธอกับบาชาโม่ก็ได้ยินเสียงโอดครวญดังมาจากพุ่มไม้

“โอย ....”

เด็กชายวัยรุ่นผมสั้นระคอสีเนื้อนวลไฮไลต์น้ำตาลจับหัวตัวเองป้อยๆพร้อมครวญคราง “เจ็บชะมัด !”

เขาค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ผ้าคลุมขนสัตว์ลายทางสีน้ำตาลปลิวตามแรงขยับ ดวงตากลมมนสีครามหันมาเจอกับ

บาชาโม่และเอเนโคโรโร่พอดี เจ้าตัวอุทานออกมา “อ๊ะ นั่น ....”

“มัสคุงงง !” เอเนโคโรโร่เรียกมัสสึกุมะที่อยู่ไกลๆพร้อมโบกมือ

“เอเนโคโรโร่? บะ .. บอส?” เขากล่าวเบาๆก่อนที่จะวิ่งไปหาทั้งสองคน

“เกิดอะไรขึ้น ...” มัสสึกุมะถามยังไม่จบคำ บาชาโม่ก็ส่งสายตาเย็นยะเยือกไปหามัสสึกุมะ

“เจ้าคิดว่าใครจะรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น”

“มะ ... ไม่มีคร้าบบบบบ” มัสสึกุมะตอบทันท่วงทีพร้อมกับท่าทางเกรงกลัวสุดฤทธิ์ เอเนโคโรโร่เหงื่อตกพล็อยๆ

“ว่าแต่ว่า ฟลายก้อน ลันจัง กับป้าหายไปไหน... อ๊ากกกกกกก !” จู่ๆร่างของมัสสึกุมะก็เฉี่ยวคลื่นพลังรุนแรงมาจาก

ด้านหลัง บาชาโม่เบิกตาขึ้นเล็กน้อย

ไซโครคิเนซิส ? หรือว่า ...

“ใครเป็นป้ากันยะ ?” หญิงสาวรูปร่างผอมสูงชูกำมือขึ้นมาบ่งบอกว่าเด็กชายวัยรุ่นกำลังจะโดนทำโทษ ผมสีเขียว

สั้นโค้งเข้าหาใบหน้าขาวอิ่ม ดวงตาสีเขียวมรกตหม่นฉายแววโกรธเคือง

“ท่านพี่เซอร์ไนท์ ~ !” เอเนโคโรโร่ร้อง พร้อมโผเข้ากอดเซอร์ไนท์และประจบประแจงทันที “พี่สวยมากเลยค่ะ !”

“ชิ ทำเป็นประจบ” มัสสึกุมะบุ้ยปาก เอเนโคโรโร่หันควับมาทันที

“อย่ามาหาเรื่องนะ !”

“อะไรเล่า !!!”

และสงครามเล็กๆก็เกิดขึ้น ... บาชาโม่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาอุ่นใจขึ้นเมื่อเหตุการณ์ไม่

ตึงเครียดมากนัก แม้วิกฤตการณ์ครั้งนี้จะยิ่งใหญ่และพิลึกมากๆก็ตาม เซอร์ไนท์เดินมาตบบ่าเขาเบาๆ

“ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้าอีกเยอะ” เธอกล่าว

“เอาไว้คุยตอนมีทุกคนครบ” เขาพูดเสียงเรียบ เซอร์ไนท์ไม่โกรธเคืองเพราะน้ำเสียงแบบนี้เป็นปกติเสียแล้ว

บาชาโม่แยกตัวออกมาพร้อมกับฝากให้เซอร์ไนท์ดูแลเด็กทั้งสองคน เขาเดินออกมาตามหาสมาชิกที่เหลืออีก 2 คน

ที่ยังหาไม่เจอ บาชาโม่แอบหวั่นเล็กๆว่าถ้าไม่เจอทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร แต่แล้วความหวั่นนั้นก็ต้องหายไป ...

เมื่อเขาเจอกับเด็กสาวร่างเล็กบอบบางผมยาวสีฟ้ามัดปลายกำลังพยุงวัยรุ่นผู้ชายรูปร่างสูงผมสั้นสีเขียวเข้ม มีผ้าพันคอ

ลายทางสลับสีปิดปากเผยให้เห็นแค่ดวงตาสีนิล กำลังเดินด้วยท่าทางแปลกๆโดยมีหญิงสาวช่วยจับ ดวงตากลมโต

อ่อนหวานสีม่วงใสหันมามองบาชาโม่ด้วยความประหลาดใจ “ท่านบาชาโม่?”

บาชาโม่รีบปรี่เข้าไปช่วยพยุงทันที พร้อมกับกล่าวถาม “ฟลายก้อนเป็นอะไร?”

“รู้สึกเหมือนขาพลิกค่ะ” ลันตันพูดด้วยท่าทางสุภาพ “สาเหตุน่าจะมาจากตอนที่หลุดเข้ามาน่ะค่ะ”

“...” ฟลายก้อนไม่พูดอะไรเพียงแต่หยักหน้าเบาๆ พร้อมกับส่งภาษาใบ้ที่ไม่รู้ว่าสมาชิกในทีมเข้าใจได้ยังไง

“ไว้ค่อยไปคุยกันทีหลังนะ” บาชาโม่ตอบปัด

ลันตันเดินตามหลังบาชาโม่ที่พยุงฟลายก้อน จนในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เซอร์ไนท์กำลังนั่งบนก้อนหินส่วน

มัสสึกุมะกับเอเนโคโรโร่นั่งบนพื้นหญ้า ลันตันทักทายสมาชิกในทีมด้วยท่าทางสุภาพ จากนั้นก็มีการพูดคุยอะไรกัน

นิดหน่อยตามประสาระหว่างที่รอการปฐมพยาบาลฟลายก้อน สักพักบาชาโม่ก็วนเข้าเรื่อง

“ว่าแต่ เซอร์ไนท์ ตอนที่เจ้ามาเจ้าใช้ท่า [Psychic] ได้หรือ?”

“อืม” เซอร์ไนท์ตอบ “พวกเราสามารถใช้ท่าต่างๆได้ตามปกติ เพียงแต่เราอยู่ในรูปร่างของคน ไม่รู้ว่าความสามารถ

ของเราจะเท่าเดิมรึเปล่า เพราะข้ารู้สึกแปลกๆเวลาเคลื่อนที่” เธอบ่นอุบพร้อมกับมองเรียวขาของตนเอง

“เหมือนข้าอ้วนขึ้นนะ -_-; “

“ป้าก็อ้วนแต่ไหนแต่ไร ... อ๊ากกกกกก !” ไซโครคิเนซิสโดนมัสสึกุมะเต็มๆ บาชาโม่ถอนหายใจอีกรอบ

“ข้าก็ว่าเช่นนั้น” .พูดจบเปลวเพลิงที่ข้อมือของเขาก็ลุกโชนขึ้น “เราเหมือนเดิมทุกอย่าง งั้นข้าขอทดสอบอะไรหน่อย..”

บาชาโม่ลุกขึ้นท่ามกลางความมึนงงของทุกคน เขาวิ่งห่างจากกลุ่มด้วยความเร็วสูงพร้อมพึมพำ “กำลังขาใช้ได้”

เขาหยุดกึกพร้อมฝุ่นตีตลบคละคลุ้ง จากนั้นก็ย่อตัวลงและกระโดดขึ้นฟ้าทำเอาทุกคนต้องเงยหน้ามองตามๆกัน

“กระโดดสูง 3 เมตร ... กำลังขาเท่าเดิม ” เขาพึมพำอีก พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆและ ...

“[Flamethrower] !!!”

โฟร่ววววววววววว ~ !!!!!!!!!

เปลวไฟพุ่งพวยออกมาจากปากของบาชาโม่อย่างมหาศาล  พุ่งลงที่พื้นน้ำทำให้ไฟหายไป ร่างของเขาร่วงลงมา

และลงสู่พื้น

ตุ้บ !

อย่างสง่างามซะด้วย ...

สายตาเฉียบคมของบาชาโม่กวาดตามองสมาชิกในทีมที่กำลังอึ้ง เซอร์ไนท์กล่าวถามหวั่นๆ

“ทำไมเจ้าต้องออกแรงเยอะขนาดนั้น ! แค่ทดสอบไม่ใช่รึ ! ถ้าเกิดไฟนั่นพุ่งลงที่พื้นหญ้าล่ะก็ ...เกิดไฟไหม้ป่าแน่เชียว !!”

“... ข้าแค่ออกแรงเยอะกว่าปกติ” เขาตอบเย็นๆ “กลัวว่าพลังของข้าจะไม่แกร่งเท่าเดิม”

“ทำไมบอสต้องกลัว?” เอเนโคโรโร่ถามซื่อๆ

“..เจ้าก็รู้ดี” บาชาโม่ตอบพร้อมเบือนหน้าไปทางอื่น

จู่ๆเอเนโคโรโร่ก็นึกขึ้นได้ “แหม บอสก็...”

บาชาโม่หน้าระเรื่อขึ้น “เจ้าอย่าขุดเรื่องเก่าๆได้ไหม” เขาพูด “เรื่องนั้นมันนานมากแล้ว”

“ตั้งแต่บอสยังร่างสองอยู่เลย!” มัสกล่าว “ท่านเคยบอกเหตุผลว่าทำไมท่านต้องการที่จะแข็งแกร่ง !”

“ท่านอยากปกป้องเธอและพวกเราสินะ...” ลันตันกล่าวเบาๆด้วยท่าทางเขินอาย

“...” ฟลายก้อนไม่พูดอะไร แต่มันแปลว่า ‘เห็นด้วย’

สมาชิกทั้งทีมยิ้มกริ่ม บาชาโม่จึงหันหลังหลบตาสมาชิกอื่นๆพร้อมกับกล่าวขัด

“พวกเจ้าทุกคน .. มาฝึกท่าเดี๋ยวนี้ หากเกิดใช้ไม่เป็นขึ้นมาจะแย่”

สมาชิกทั้งทีมยกเว้นฟลายก้อนลุกขึ้นอย่างว่าง่าย และทดลองท่าไปตามๆกัน

10 นาทีต่อมา ...

ทุกคนปาดเหงื่อที่เกาะพราวบนใบหน้า บาชาโม่กล่าวเบาๆ

“ใช้ท่าเป็นทุกคนสินะ ... ไม่มีปัญหา” เขาปาดเหงื่อด้วย เมื่อเขามองขึ้นบนท้องฟ้านี่ก็ปาเข้าไปประมาณบ่ายๆแล้ว

อากาศร้อนอบอ้าว เขาทรุดตัวลงข้างริมน้ำพร้อมส่องเงาของตนเองที่สะท้อนออกมาด้วยความเลื่อนลอย

“ข้าต้องหาทางกลับไปให้ได้....”

Spoiler

 

ก็ แวะมาอัพบทที่ 1 ค่ะ เพราะว่าติดไปเที่ยว + มี OCFF ซึ่งอาจจะได้อัพ

ตอน 2 อาทิตย์หน้า กลัวว่าลงบทนำอย่างเดียวจะไม่พอ เหอๆ ก็นะ ขอโทษที่ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ !

ตอนหน้า ยาวกว่านี้แน่นอน ติดตามชมด้วยนะคะ !!!

 

 

To Be Continue …

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

ท่านบาชาโม่!!! เท่อ้าาา ติดตามตอนต่อไปเจ้าค่ะ >w<

Link to comment
Share on other sites

อืม...กลิ่นอายแนวโรแมนซ์....=w="

ใช้คำบรรยายได้ลื่นดีฮะ แต่การแสดงอารมณ์ตกใจของพวกโปเกมอนที่พึ่งกลายเป็นคนยังแปลกๆอยู่...

เหมือนไม่ได้ตกใจเลยซักนิดอ่ะ= =lll(รึถ้าเรางงเนื้อเรื่องเองก็ขออภัยฮะ//พอดีอ่านฟิคไปอ่านการ์ตูนไปน่ะ....=w=lll )

ไงก็ติดตามอ่านงับ~~สู้ๆน้อ~~~~~~~~~~

//ปล.เราไม่ค่อยถูกชะตากับแนวโรแมนซ์ซักเท่าไหร่ เพราะงั้นอาจมีการต้านนิดๆถ้าเผลอหลุดพูดอะไรแปลกๆออกมามาขออภัยงับๆ

Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้ยังไม่ได้เคลื่อนไหวหรือออกเดินทางเหะ...ตอนนี้แค่ฝึกอยู่...

สงสัยอยางนึง พวกนั้นจะรอเจ้าของมารับไหมนะ.... เพราะถ้าเจ้าของไม่มารับ

จะทำให้เจ้าของเสียใจมากๆเลยละนะ!

รอชมตอนต่อไป....น

Link to comment
Share on other sites

สมกับเป็นหัวหน้า บาชาโม่ดูพึ่งพาได้สุดๆ รออ่านต่อเน่อ ชอบ :hito01:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 2 จุดเริ่มต้น

Spoiler

 

“หะ .... หิวข้าวจังเลย ~ ! “ เอเนโคโรโร่บ่น เธอทิ้งตัวนอนลงบนพื้นหญ้าก่อนที่จะกลิ้งไปมา

“ข้าก็หิว ~ “ มัสสึกุมะลงไปกลิ้งด้วย

พวกเจ้าจะกลิ้งกันทำไม ...

ฟลายก้อนที่นั่งอยู่แถวๆนั้นเหงื่อตก เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าและกุมท้องตัวเองไปด้วย

“หิวหรอคะท่านฟลายก้อน?” ลันตันที่เดินมาพักสังเกตเห็นท่าทางของฟลายก้อน เขาพยักหน้าหงึกๆ

“ดิฉันเองก็เริ่มหิวแล้วค่ะ ... “ เธอกล่าวเบาๆ “หมดแรงแล้วด้วย”

ฟลายก้อนเอามือลูบหัวเธอเบาๆ พร้อมกับส่งท่าทางไปพลาง

“ทะ ... ท่านฟลายก้อนล่ะก็ ... อย่าแซวดิฉันสิคะ ...” ลันตันก้มหน้างุดพร้อมเอานิ้วจิ้มกัน

บาชาโม่ยังคงนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำตามเดิม เซอร์ไนท์เดินไปหาเขา

“คิดอะไรอยู่หรอ?”

บาชาโม่หันไปทางต้นเสียงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เซอร์ไนท์ถอนหายใจหน่ายๆ “อย่าเครียดไปเลยน่ะ!” เธอตบบ่าเขา

“...ข้าไม่ได้เครียด” บาชาโม่ตอบปัด เซอร์ไนท์ยิ้มเจื่อน ยังจะมาปากแข็งอีก !

“คนอื่นๆเริ่มหิวแล้วนะ รวมข้าด้วย” เซอร์ไนท์พูด “แล้วเจ้าล่ะ”

“นิดหน่อย” บาชาโม่ตอบ ก่อนที่จะลุกขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ไปหาอะไรกินกันก่อนก็แล้วกัน”

“ก็ได้ งั้นข้าไปบอกคนอื่นก่อน....” เซอร์ไนท์กล่าวพร้อมหันหลัง แต่แล้วก็ต้องหันกลับมา บาชาโม่ก็เหมือนจะนึกอะไรออก

“ว่าแต่ว่าเราจะไปหาอาหารที่ไหน? / ว่าแต่ว่าเราจะไปหาอาหารที่ไหน? “ ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน

“...เอาเป็นว่าหาทางเข้าเมืองก่อนเถอะ” บาชาโม่เสนอ “ไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ... ดูจากที่นี่แล้วเราน่าจะอยู่ในป่านะ”

เขากวาดสายตามองโดยรอบ มีต้นไม้ปกคลุมทั่ว ที่ๆพวกเขาอยู่เป็นลานหญ้ากว้างโดยมีแม่น้ำตัดผ่าน

“เราจะรู้ทางเข้าเมืองได้ยังไง?” เซอร์ไนท์ถาม

นั่นสินะ ... จะลองเสี่ยงเดินตัดผ่านป่าหรือเดินตามสายแม่น้ำดี? บาชาโม่คิด จู่ๆเขาก็นึกอะไรได้จึงเดินไปหาฟลายก้อน

“ฟลายก้อน” เขาเรียก เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมส่งสายตาถามว่า ‘มีอะไรหรือ?’

“เจ้าใช้ท่า [Fly] ได้รึเปล่า?”

ฟลายก้อนส่ายหน้า “...” (ไม่รู้ ยังไม่ได้ลอง ไม่มีปีกแล้วจะบินได้ยังไง?)

“ไม่ลองไม่รู้” บาชาโม่กล่าวเรียบๆ “ลองดูก่อนสิ”

ฟลายก้อนค่อยๆลุกขึ้น เขาทำท่าไม่มั่นใจนัก เขาเริ่มใช้ท่า “[Fly]!”

แสงสีขาวเล็กๆจับตัวกันเป็นรูปร่างที่แผ่นหลังของฟลายก้อนก่อนที่จะกระจายออกเผยให้เห็นปีกสีเขียวขอบแดง

เขาตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะทดลองโฉบขึ้นฟ้า

ฟิ้ววววววว !!!!

“บินได้สินะ” บาชาโม่พึมพำ “ลองดูว่ามีเมืองอยู่ไหม !” เขาตะโกนขึ้นไป

ฟลายก้อนพยักหน้าก่อนที่จะโฉบบินไปมารอบๆ สักพักเขาก็บินลงมาพร้อมให้คำตอบ

“...” (มี ต้องเดินลัดป่าไปทางทิศตะวันออก จะมีเมืองเล็กๆอยู่น่ะ)

“อืม ขอบใจมาก” บาชาโม่ตอบ “งั้นเราไปกันเถอะ”

-     30นาทีต่อมา    -

โครกกกก ~

เสียงท้องของใครบางคนร้องขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหน ... คนที่บ่นว่าหิวเมื่อก่อนหน้านี้นี่เอง

“หิวววว เมื่อไหร่จะถึงเมือง ~” มัสสึกุมะบ่นอุบ

“ข้าก็หิวเหมือนกัน หิวมากกกกก ~” เอเนโคโรโร่เสริม

เข้าขากันดีจริงๆ ... คนอื่นๆได้แต่คิดในใจ

“อดทนหน่อยนะคะท่านเอเน ท่านมัส เดี๋ยวคงใกล้ถึงแล้วล่ะค่ะ” อย่างน้อยก็มีแม่พระปลอบให้อีกหนึ่ง ...

“ลันจังเก่งเกินไปแล้วนะ ! ไม่หิวบ้างเลยหรอ ...” เอเนโคโรโร่ถามแกมโอดครวญ

“ก็หิวนะคะ...”

“เลิกบ่นกันสักที” บาชาโม่เริ่มพูด “บ่นไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก”

“แต่บอสครับ ....” มัสกำลังจะเถียงตามสัญชาตญาณ แต่แล้วก็ต้องหุบปากทันทีเมื่อสายตาน้ำแข็งหันมาสบตา

“แต่?”

“ไม่มีแต่คร้าบบบ !”

สมาชิกคนอื่นๆเดินเป็นแถวไปเรื่อยๆโดยมีฟลายก้อนนำทางต่อด้วยบาชาโม่ เอเนโคโรโร่ มัสสึกุมะ ลันตันอยู่ตรงกลาง

ปิดท้ายด้วยเซอร์ไนท์ จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น

“กรี๊ดดดดดดดด !!!”

ทุกคนหันไปตามต้นเสียง ทอดสายตาไปก็มีแต่ป่าลึก ทว่า ...

“ทางนี้ !” เอเนโคโรโร่เงียหูฟัง ด้วยความว่องไว เธอพุ่งนำทางไปทันที คนอื่นๆไม่รอช้าตามไปทันที บาชาโม่

วิ่งขนาบเอเนโคโรโร่ไปด้วยความเร็ว และแล้วก็ถึงต้นเสียง

ฝูงโพชิเอน่า(poochyena) ไม่สิ ต้องใช้คำว่า ฝูงมนุษย์หมาป่าโพชิเอน่ากำลังห้อมล้อมเด็กสาวตัวเล็กที่ดูคลับคล้าย

โปเกม่อนที่ชื่อว่า ‘รัลโทส(Ralts)’ เป็นวงกลม มนุษย์หมาป่าโพชิเอน่าแต่ละคนแต่งตัวคล้ายกัน มีผมสีเทาเข้มเงางาม

ดวงตาสีแดงโลหิต บ้างก็สีเหลือง มีเขี้ยวเล็กแหลมที่มุมปาก  ดูเป็นเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 14-15 ปี

ราตัสเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก อายุไม่น่าเกิน 14 ปี ผมสั้นสีเขียวอ่อน สวมเดรสสีขาวสะอาดที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยเศษดิน

หมายความว่า ... ในโลกนี้เป็นโลกของครึ่งมนุษย์? บาชาโม่ครุ่นคิด คงมีความสามารถเหมือนโปเกม่อนธรรมดาแต่

อยู่ในร่างของมนุษย์เท่านั้นเองสินะ ....

“ไหนบอกว่าจะเอาของกินมาให้เรา !” โพชิเอน่าที่ดูเหมือนเป็นจ่าฝูงกรรโชกขึ้นใส่เด็กสาวตัวน้อย เธอคุกเข่าก้มหน้าลง

พร้อมตอบเสียงสั่น “วันนี้ฉันหาไม่ได้ ...”

“เฮอะ ! กระจอก ! “ เขาพูดพร้อมเตะไปที่หน้าท้องของเธอ

พลั่ก !

“อย่างนี้มันต้องสั่งสอน .... อั่ก !! “

ร่างของเด็กวัยรุ่นปลิวไปชนกับต้นไม้อย่างแรงพร้อมกับกระอั่กเลือดออกมา จู่ๆชายผมยาวสีเหลืองนวลน่าเกรงขาม

ก็กระโดดเข้ามาที่กลางวงพร้อมกับอัดท่า [blaze Kick] ใส่จ่าฝูงอย่างแรง เปลวเพลิงลุกโชนออกมาจากข้อมือ

ขัดกับสายตาเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งที่กวาดตามองลูกน้องมนุษย์หมาป่าแต่ละคนที่กำลังตะลึงปนหวาดกลัว 

เขายืนบังร่างเล็กเอาไว้ด้านหลัง เปลวเพลิงค่อยๆพลั่งพรูออกมาจากปากคล้ายลมหายใจ เสียงทุ้มเยือกแข็ง

กังวานขึ้นอย่างน่ากลัว

“ใครสั่งสอนให้พวกเจ้า... รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า...” เปลวเพลิงลุกโชนที่กำปั้นของชายหนุ่ม หมาป่าตัวน้อยเริ่มหวาดหวั่น

“พวกเจ้าต่างหาก ... ที่ต้องโดนสั่งสอน !!!!!!!!!!” หมัดเพลิงทุบลงไปที่พื้นอย่างแรงจนเกิดรอยร้าว เปลวไฟลุกโชน

ออกมา ฝูงโพชิเอน่าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ไม่เว้นแม้แต่จ่าฝูง แค่พริบตาเดียวก็ไม่มีใครหลงเหลืออยู่นอกจากฝุ่นที่ตลบไปทั่ว

สมาชิกในทีมคนอื่นๆกำลังนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมัสสึกุมะที่แข็งไปแล้ว ... บาชาโม่หันกลับไปหาเด็กสาวตัวเล็ก

“เจ้า ... ไม่เป็นอะไรนะ?” บาชาโม่คุกเข่าลงพร้อมยื่นมือออกไป

“ค่ะ ... ขะ ขอบคุณมากค่ะ!” เธอก้มหน้างุดพร้อมกับจับมือของบาชาโม่และยันตัวขึ้น พร้อมกับปัดฝุ่นที่เปื้อนกระโปรง

และแล้วบาชาโม่และสมาชิกคนอื่นๆก็ได้ยินคำขอบคุณนับสิบรอบ ...

-     ต่อมา    -

“อร่อยจังเลย ~ !!!” มัสสึกุมะอุทานขณะที่กำลังทานข้าวเต็มปาก

“ทานข้าวให้หมดก่อนค่อยพูดสิยะ !” เอเนโคโรโร่ว่า

“เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ !”

“ว่าไงน้า !!!”

“นี่ อย่าทะเลาะกันบนโต๊ะอาหารสิ ...” เซอร์ไนท์

“เอ่อ ... ท่านมัส ท่านเอเน ...” ลันตัน

“...” (มีมารยาทหน่อย....)

ปึง !!!!!!!!

เงียบกริบ ...

“หัดมีมารยาทซะบ้างนะ ... พวกเธอทั้งสองคน ...”

เอเนโคโรโร่และมัสสึกุมะนั่งทานอาหารอย่างว่าง่าย จะว่าไป ... รวมถึงทุกคนด้วยนะ ...

“ขอโทษที่เกิดเรื่องวุ่นวาย ... แล้วก็ ... ขอบคุณสำหรับอาหาร” บาชาโม่หันไปกล่าวกับเด็กหญิงน่ารักคนหนึ่ง

ที่มัดผมแกละสูงสองข้าง ผมสีเขียวยาวสลวย หรือ ‘คิลเลีย(Kirlia)’ นั่นเอง เธอกำลังยกถาดเบอร์รี่มาให้ทุกคน

และยิ้มหวาน

“ด้วยความยินดี และต้องขอบคุณอีกรอบนะคะที่ช่วยน้องสาวของฉันไว้”

“ไม่เป็นไรครับ”

ตอนนี้ทุกคนอยู่ในกระท่อมไม้เล็กๆและกำลังทานอาหารแสนอร่อยที่คิลเลียอุตส่าห์ทำให้เป็นค่าตอบแทน

ราตัสกำลังนอนพักฟื้นอยู่ในห้อง ตอนแรกบาชาโม่กะจะปฏิเสธเรื่องอาหารที่เป็นค่าตอบแทน แต่ทว่าเมื่อดูจาก

สภาพสมาชิกในทีมแล้วเขาจึงต้องตอบตกลง

เมื่อทุกคนอิ่มแล้วจึงขอลาเดินทางต่อ ก่อนจะไปบาชาโม่ได้ถามเกี่ยวกับข้อมูลในเมือง

“หืม? พวกท่านกำลังจะหาทางไปเมืองหรอ?” คิลเลียกล่าว “เมืองที่ใกล้ที่สุดตอนนี้คือเมืองลิตเติ้ลรูทเทาน์น่ะค่ะ”

“แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนหรอ?”

“ถนนสาย 101 ค่ะ ถ้าตรงไปทางเหนือจะเจอเมืองโอเดล เทาน์ค่ะ แต่ทางนั้นจะไกลกว่า” เธออธิบายพร้อมยืนแผนที่ให้

“ฉันคิดว่านี่คงเป็นประโยชน์สำหรับพวกท่าน”

“ขอบคุณ” บาชาโม่รับมา “ว่าแต่ว่า ... ในเมืองนี่มีอะไรบ้างหรือ?”

“พวกท่านไม่รู้จริงรึ !?” เธออุทาน  บาชาโม่หน้าเสีย

“.... ข้ามีเหตุผลที่บอกท่านไม่ได้ว่าทำไมเราถึงไม่รู้”

“อ่า ... ช่างมันเถอะค่ะ งั้นข้าขอบอกอย่างละเอียดนะคะ !”

“ในเมืองต่างๆจะมีสถานที่คล้ายๆกันค่ะ ซึ่งสถานที่สำคัญก็จะมี ...” เธอหยิบปากกาขนนกกับกระดาษใบเล็กขึ้นมา

“ โปเกม่อนเซ็นเตอร์ : ศูนย์รักษาพยาบาลและสถานที่พักฟรี

  โปเกม่อน ช็อป : รับฝาก-ขาย-ฝาก ไอเท็มทุกชนิด

  โปเกม่อน แบทเทิล ฟร้อนท์ : เต้นท์สำหรับต่อสู้โชว์ฝีมือโดยมีรางวัลเป็นไอเท็มต่างๆ

แล้วก็  โปเกม่อน กิลด์ : ศูนย์กลางของเมืองต่างๆ มีไว้ลงหลักประกันการเป็น ‘ทีม’ ของนักผจญภัยเช่นพวกท่าน

หากพวกท่านต้องการสร้างทีมของตนเองต้องมาลงทะเบียนที่นี่ นอกจากนี้ยังมีการรับ-หา ‘มิชชั่น(ภารกิจ)’ต่างๆ

โดยมีรางวัลเป็นเงิน "โปเกดอลล์" ตามระดับความยาก-ง่าย และเป็นศูนย์ประกาศข่าวสารค่ะ

อื่นๆก็มีนะคะ แต่จะมีเฉพาะบางเมืองที่พิเศษ เช่น

โปเกม่อน ยิม : เอาไว้ท้าสู้กับ ‘ยิมลีดเดอร์’ เพื่อชิง ‘เข็มกลัด’ ต่างๆ

โปเกม่อน คอนเทสต์ : ไว้ประกวดโปเกม่อน

โปเกโพลิส สเตชั่น : สถานีตำรวจ ที่นี่มีที่เดียว ตั้งอยู่ที่เมืองเมาวิลเล่ย์ ซิตี้ค่ะ

ตามนี้ค่ะ”

ยิม? เข็มกลัด? หรือว่า ...

“อย่าบอกนะว่าที่นี่มีโปเกม่อน ลีคน่ะ?”

“คะ? มีสิคะ จัดขึ้นทุกๆปีค่ะ”  ทุกๆปี?

“เป็นการแข่งขัน?”

“ค่ะ ใช่ค่ะ”

“จะจัดอีกเมื่อไหร่”

“อีก 3 เดือนค่ะ”

3 เดือน?!

To Be Continue …

Spoiler

บาชาโม่เท่จัง อ๊า ~ # เพ้อแปป# ไม่ใช่ประเด็น !!!

บทนี้ยาวขึ้นกว่าเดิมหน่อยนะงิ บทนี้ก้ยังไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เหอๆๆ เอาเป็นว่าติดตามตอนหน้าแล้วกัน

หวังว่าจะชอบกันนะคะ ฝากอ่านฝากเม้นกันด้วยค่ะ ~ !

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

บาชาโม่อย่างโหด โหดจนมัสกุมะไม่กล้าเถียง เหอ ๆ

บางทีก็งงนะว่าบาชาโม่คุยกับฟลายก้อนรู้เรื่องได้ไง ทั้งที่เจ้าตัวไม่พูดอะไรเลย

แนะนำเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ งิ

Ralts << ตัวนี้ชื่อ รัลโทส นะ ไม่ใช่ราตัส

การใส่ชื่อท่าไว้ในเครื่องหมาย [] พี่มองว่ามันไม่จำเป็นนะ

โดยมีรางวัลเป็นเงิน (โปเกดอลล์) ตามระดับความยาก-ง่าย และเป็นศูนย์ประกาศข่าวสารค่ะ

ตัวสีแดงเองก็ใช้เครื่องหมายคำพูดคลุมเอาดีกว่านะ ใช้วงเล็บแล้วมันแปลก ๆ

รอตามอ่านต่อเน่อ :hito01:

Link to comment
Share on other sites

ท่านบาชาโม่โหดอ่ะ :pika07: ฟลายก้อนนี่ใบ้รึเปล่าคะนี่? ไม่พูดอะไรซักคำ สนุกดีค่ะ จะขอติดตามเรื่อยไป :pika01:

Link to comment
Share on other sites

ไม่รู้ทำไมเราฮาฟลายก้อน

(ใบ้รับประทาน//ฮาาา)

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 3 ทีมของเรา

Spoiler

 

หลังจากที่บาชาโม่อธิบายเกี่ยวกับสถานที่และเมืองต่างๆให้กับสมาชิกคนอื่น พวกเขาก็ตัดสินใจเดินทาง

มายังลิตเติ้ลรูททาวน์เพื่อลงทะเบียนและรับไอเท็มต่างๆให้เรียบร้อยภายในวันนี้

บาชาโม่และพวกพ้องเดินทางมายังเมืองลิตเติ้ลรูททาวน์โดยสำเร็จด้วยความยากลำบาก ลิตเติ้ลรูททาวน์เป็นเมือง

เล็กๆที่มีธรรมชาติล้อมรอบ กลิ่นอายความอบอุ่นตลบไปทั่ว บาชาโม่ทอดสายตายาว พลันหวนคืนถึงความหลัง ..

ที่นี่ ... เป็นครั้งแรกที่เราเจอเธอสินะ ... ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ... ไม่เปลี่ยนเลย ...

เสียงโปเกม่อนวัยเด็กดังกังวานใส มีเสียงหัวเราะและเสียงวิ่งเล่น จะว่าไปที่นี่มีแต่โปเกม่อนรุ่นแรกที่ยังไม่พัฒนาร่าง

การที่พวกเขาย่างก้าวเข้ามาที่นี่ก็เป็นจุดสนใจไม่น้อย เซอร์ไนท์เดินตรงดิ่งเข้าไปในโปเกม่อนกิลด์พร้อมกับมัสสึกุมะ

และเอเนโคโรโร่ บาชาโม่แยกไปซื้อไอเท็มต่างๆ ส่วนลันตันก็พาฟลายก้อนไปรักษาข้อเท้าที่โปเกม่อนเซ็นเตอร์

“โอ้โฮ  ใหญ่กว่าที่คิดแฮะ” มัสสึกุมะอุทาน

โปเกม่อนกิลด์เป็นสถานที่ขนาดปานกลาง ไม่มีประตู  ใหญ่กว่าบ้านทั่วไปประมาณ 2 เท่า ดูไม่ได้หรูหรามีราคามากมาย

แค่สร้างมาจากไม้ธรรมดาเคลือบสี และประดับตกแต่งเรียบๆ ด้านหน้ามีป้ายไม้แกะสลักเป็นคำว่า Pokemon Guild

เมื่อเดินเข้าไปข้างในด้านซ้ายมือจะเป็นมุมหนังสือ และข่าวสารต่างๆ ตรงกลางเป็นห้องโถง มีเคาน์เตอร์ยาว

ที่มีอาเมโมส(masquerain)คนสวยยืนอยู่ในเคาท์เตอร์กำลังถือเอกสารพร้อมยิ้มต้อนรับ มัสสึกุมะตาเป็นประกาย

“แถมมีพี่สาวคนสวยอีก ! ไม่เหมือนใครบางคนแถว... โอ๊ยยยยยย !!” มัสสึกุมะร้องโอดครวญเมื่อโดนเซอร์ไนท์

หยิกหูลากมาที่เคาน์เตอร์ เอเนโคโรโร่ทำหน้าสะใจ

“สวัสดีค่ะ มาทำเรื่องอะไรหรือคะ?” อาเมโมสถามด้วยท่าทางสุภาพ “ไม่นึกว่าร่างสามอย่างพวกคุณจะมาที่เมือง

เล็กๆแบบนี้ด้วย ... มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?”

“ ... พวกเราแค่คิดถึงบ้านเกิดน่ะ” เซอร์ไนท์ตอบปัดๆ “ขอลงทะเบียนหลักประกันเป็นทีมค่ะ”

อาเมโมสเบิกตาขึ้นเล็กน้อย “โอ้โฮ ! เพิ่งตั้งกลุ่มเองหรอคะเนี่ย แต่ท่าทางสมาชิกดูเป็นมืออาชีพดีนะคะ” เธอหัวเราะคิก

...นั่นสินะ พวกเราตั้งร่างสามครบ เลเวลก็สูง แถมเพิ่งลงหลักประกันด้วย ...

ทั้งสามคนคิดในใจพร้อมเหงื่อตก

“กรอกแบบฟอร์มอันนี้เลยค่ะ” อาเมโมสยื่นแบบฟอร์มและปากกาขนนกให้เซอร์ไนท์ เอเนโคโรโร่และมัสสึกุมะยืนขนาบ

เซอร์ไนท์เริ่มลงมือเขียน

แบบฟอร์มหลักประกัน

ชื่อทีม(ภาษาอังกฤษไม่เกิน 4 พยางค์) : ไว้ค่อยเติมละกัน...

หัวหน้าทีม : บาชาโม่  แน่ละ...

รองหัวหน้า : ไม่รู้แฮะ...

สมาชิกในทีม(6 คน) * :

1. ชื่อ : บาชาโม่

อายุ : 17

เพศ : ชาย

2. ชื่อ : มัสสึกุมะ

อายุ : 16

เพศ : ชาย

3. ชื่อ : เซอร์ไนท์

อายุ : 18

เพศ : หญิง

4. ชื่อ : เอเนโคโรโร่

อายุ : 16

เพศ : หญิง

5. ชื่อ : ฟลายก้อน

อายุ : 17

เพศ : ชาย

6. ชื่อ : ลันตัน

อายุ : 16

เพศ : หญิง

* หมายเหตุ เรียงลำดับจากเข้ากลุ่มก่อนไปหลัง

“ว่าไง ลงหลักประกันทีมเสร็จรึยัง?” เสียงทุ้มดังขึ้น บาชาโม่ ฟลายก้อนและลันตันเดินเข้ามาในโปเกม่อนกิลด์

บาชาโม่แบกกระเป๋าเล็กๆสีดำเงาหนึ่งใบมาด้วย

“ยังเลยค่ะ ~!” เอเนโคโรโร่ตอบเสียงใส พร้อมยื่นแบบฟอร์มให้บาชาโม่ดู “ดูสิบอส ! เหลือแค่ 2 ที่อ่า ~”

“หือ?” บาชาโม่รับมาดู  “ชื่อทีมกับรองหัวหน้า ....” เขาพึมพำ “รองหัวหน้าโหวตเอาแล้วกัน”

ผลออกมา ...

“ทำไมท่านพี่เซอร์ไนท์ไม่ได้เป็นรองหัวหน้าอ้ะ !!!!?” เอเนโคโรโร่โวยวาย เซอร์ไนท์ยิ้มเจื่อน

“ช่วยไม่ได้” มัสสึกุมะบุ้ยปาก “เกิดคนอื่นเผลอเรียกเซอร์ไนท์ว่าป้าแล้วอาละวาดขึ้นมาก็จบกันสิภาพลักษณ์กลุ่มเรา”

“แล้วการที่เอา ‘คนใบ้’ เป็นรองหัวหน้ามันดีนักเร้อออออ !!”

“เฮ่อะๆ อย่างน้อยก็คงดีกว่า ... ละมั้ง?  ฟลายก้อนต่อสู้เก่งจะตาย !!!”

ฟลายก้อนเหงื่อตก พร้อมกับมองหน้าบาชาโม่ “...?” (อย่างนี้มันจะดีหรอ....?)

“ก็โหวตกันแล้วล่ะนะ” บาชาโม่ตอบเจื่อนๆ “ต่อไปก็ชื่อทีม ...”

“เอาชื่ออะไรดีนะ...” ลันตันกล่าวเบาๆ

“New Team?” มัสสึกุมะ

“โหลไป ! เอาเป็น Lovely Group ดีไหม *.* “ เอเนโคโรโร่

“จะบ้าหรอ ! ชื่อบ้องแบ๊วนั่นคืออะไร !? เอาให้มันดูน่าเกรงขามหน่อยเซ่ !”

“อะไรย้า !!”

“เฮ้อ...” เซอร์ไนท์ถอนหายใจยาว “คิดไม่ออกเลยแหะ...”

“....?” (เอาอะไรดี...?)

“Want to go back?” ลันตัน

“อืมมมมม เอาเกี่ยวกับการกลับโลกเดิมก็ดีนะ !” เซอร์ไนท์

ทุกเสียงเงียบลง ทุกคนต่างครุ่นคิด จู่ๆ ...

“Wait Me” บาชาโม่กล่าวขึ้นเบาๆ

“....” (หือ...)

“Wait me ... ชื่อเพราะดีแฮะ” มัสสึกุมะ

“ดูมีความหมายจัง แปลว่าอะไรหรอคะ?” ลันตัน

“Wait รอคอย Me ย่อมาจาก Menara หรือ Me ตัวตนของเรา ...” บาชาโม่ตอบ

“รอคอยเธอ ... รอคอยตัวตนของเรางั้นหรอ?” เอเนโคโรโร่พึมพำ  “...นั่นสินะ นี่ไม่ใช่ตัวตนของเรา...”

“ตกลงเอาชื่อนี้แหละ !” เซอร์ไนท์สรุปพร้อมกับเขียน

สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็เคลียร์ด้วยดี การลงหลักประกันเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาได้การ์ดสีทองประกายเขียน

ว่า ‘Wait Me’ อย่างสวยงาม เมื่อนำนิ้วมือไปสัมผัสเป็นรูปสามเหลี่ยมบนการ์ดก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับทีมออกมา

ในโลกใบนี้รู้สึกจะก้าวหน้ากว่าของปัจจุบัน เพราะทั้งไอเท็มต่างๆถูกอัดเป็นแคปซูลบรรจุในขวดแก้วใบเล็ก

เมื่อจะนำมาใช้งานก็หยิบออกมาและโยนขึ้นไปบนอากาศก็จะกลายเป็นไอเท็มต่างๆ รวมทั้งเต้นท์ ที่นอน

เสื้อผ้า อื่นๆก็ถูกอัดเป็นแคปซูลด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องพกอะไรมาก แค่มีกระเป๋าใบเดียวก็สามารถ

รวมทุกอย่างเข้าไปได้ ถ้าสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงมีเงินมาซื้อของต่างๆได้? พวกเขาไม่ได้ซื้อ แต่ทว่าได้รับมาฟรี

เพราะถือเป็นของเริ่มต้นของกลุ่มนักเดินทางที่เพิ่งตั้งทีม

ขณะนี้ทุกคนอยู่ที่โปเกม่อนเซ็นเตอร์ ที่พักนักเดินทางนั่นเอง เป็นศูนย์เล็กๆไม่ใหญ่มาก มีคนมาเข้าพักน้อยเพราะ

ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีนักเดินทางเข้ามาอาศัย พวกเขาจึงถูกต้อนรับอย่างดี

ห้องที่พวกเขาเลือกเป็นห้องขนาดปานกลาง เมื่อเดินเข้ามาในห้องด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำ ถัดมาเป็นกระจกบานใหญ่

มีเตียงสองชั้น 2 เตียงขนาบกำแพง  มีระเบียง ด้านขวาติดกับเตียงเป็นโซฟาและโต๊ะเตี้ย ส่วนด้านซ้ายเป็นตู้

เมื่อมาถึงห้องพัก มัสสึกุมะก็กำลังจะกระโดดลงโซฟา แต่ทว่า ...

ผัวะ !!!!!!

โดนตบหัวหน้าทิ่มซะก่อน ...

“โอ๊ยยยยยยยย !!”

“อย่าเพิ่งขึ้นโซฟาสิยะ ไปอาบน้ำก่อน !” เอเนโคโรโร่ดุ

“โธ่เว้ยยยยยย T T”

หลังจากนั้นคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันไปอาบน้ำ ไล่มาเรื่อยๆจนหมดครบทุกคน และแล้วก็เกิดปัญหาขึ้นอีก ...

“จะว่าไป ... ที่นอนมันมีแค่ 5 ที่เองนะคะ ... ถ้ารวมโซฟา...” ลันตันเป็นคนเปิดประเด็น

“...”

“แล้วใคร ...จะเสียสละดีล่ะ?” เซอร์ไนท์

“ข้าเอง” บาชาโม่ตอบทันควัน “พวกเจ้าไปนอนบนเตียงเถอะ”

“เจ้าหรอ? แต่ว่าเจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ” เซอร์ไนท์แย้ง

สายตาคมกริบตวัดมา “เรื่องของข้า” เขาตอบ

“แต่ ...”

“ข้าเป็นหัวหน้า อย่าขัดคำสั่ง”

ใช้อำนาจโดยพลการนี่นา !  ทุกคนคิด

“แล้วบนโซฟาล่ะคะ?”

“ข้าเองก็ได้” เซอร์ไนท์เสนอตัว

“เอ๋ ~~~ แต่ข้าอยากนอนเตียงเดียวกับท่านพี่อ่ะ !” เอเนโคโรโร่งอแง เซอร์ไนท์เหงื่อตก

“อย่างอแงสิเอเน...”

“งั้นดิฉันเองก็ได้ ....” ลันตันเสนอแต่ทว่า ฟึ่บ !

แขนของฟลายก้อนกั้นตัวลันตันไว้ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา “....” (ไม่เป็นไร ข้าเอง)

“ท่านฟลายก้อน...”

-     ต่อมา    -

ดึกมากแล้ว สมาชิกทุกคนนอนหลับกันหมด เตียงด้านซ้ายเอเนโคโรโร่นอนด้านบน ส่วนเซอร์ไนท์นอนด้านล่าง

อีกเตียงหนึ่งลันตันนอนด้านบน ส่วนมัสสึกุมะนอนด้านล่าง ฟลายก้อนนอนบนโซฟา บาชาโม่ปูที่นอนนอนระหว่าง

เตียงทั้งสอง หลังจากขอที่นอนมาเพิ่ม เขายังนอนไม่หลับ บาชาโม่เอามือขวาทาบหน้าผากตนเอง พร้อมครุ่นคิด

อะไรไปพลาง จู่ๆเขาก็รู้สึกแปลกๆจึงยันตัวขึ้นมามองนอกระเบียง และเขาก็ต้องเจอกับอะไรบางอย่าง ...

To Be Continue …

Spoiler

 

มีรูปประกอบด้วย ฮ่าๆๆๆ (ลงทุนนะเอ็ง # นิดหน่อย # เละด้วย...)

ก็กลัวนึกภาพไม่ออกอ่าน้า แล้วก็อาจจะมีรูปประกอบเยอะกว่านี้ด้วย (ถ้าไม่ขี้เกียจ)

ยังไม่ได้แต่งต่อเลยอ่าาา แงงงงงงงงงง ดองอยู่ที่บทที่ 8 ;w; ต้องรีบไปแต่งต่อซะและ

ส่วนตอนนี้ อ่าฮะ ทีม wait me ชื่อเพราะมั้ยล่าาา # ได้ข่าวว่าไปลอกชื่อมาจากหนังสือ # TwTb

ส่วนบาชาโม่จะเจอกับอะไร !? ติดตามชมต่อด้วยนะค้า ฝากเม้นด้วยค่าาาาา  :pika01:

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

Wait me รอฉันด้วยยยยยย #ผิด ตกลงฟลายก้อนใบ้จริงๆใช่มั้ยเนี่ย? #โดนตบ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

บาชาโม่ยังคงความโหดได้ดีมาก ฮ่า #ผิด

ได้ทีมแล้ว ต่อไปก็ลุยยิมสินะ 'W'

Wait me ความหมายแฝงลึกซึ้งมาก :like:

รอติดตามอ่านต่อเน่อ

ปล. เหมือนบาชาโม่จะคุยกับฟลายก้อนรู้เรื่องอยู่คนเดียวนะ เหอ ๆ

แนะนำเล็กน้อย : คำว่า town เปลี่ยนเป็น ทาวน์ ดีกว่านะ เขียน เทาว์ แล้วเหมือนมันอ่านสะดุดแปลก ๆ

Link to comment
Share on other sites

บาชาโม่ยังคงความโหดได้ดีมาก ฮ่า #ผิด

ได้ทีมแล้ว ต่อไปก็ลุยยิมสินะ 'W'

Wait me ความหมายแฝงลึกซึ้งมาก :like:

รอติดตามอ่านต่อเน่อ

ปล. เหมือนบาชาโม่จะคุยกับฟลายก้อนรู้เรื่องอยู่คนเดียวนะ เหอ ๆ

แนะนำเล็กน้อย : คำว่า town เปลี่ยนเป็น ทาวน์ ดีกว่านะ เขียน เทาว์ แล้วเหมือนมันอ่านสะดุดแปลก ๆ

เปลี่ยนให้แล้วค่าาาา ขอบคุณที่แนะนำค่ะ  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

บาชาโม่แมนมาก สละที่นอนให้ลูกทีมหมด ตัวเองนอนพื้น

Link to comment
Share on other sites

ประกาศนิดนึง

เปิดเทอมอาจจะอัพช้าหน่อยนะคะ มีแววดองด้วย # ผิด ยังไงก็มาบอกไว้ก่อนอ่าน้า ...

จะพยายามอัพให้นะคะ แล้วก็อาทิตย์นี้ขอเลื่อนไปอัพวันที่ 11 นะงิ พอดีจะไปเที่ยว ...

ไม่มีอะไรและ มาบอกแค่นี้แล จริงๆไม่ต้องมาบอกก็ได้มั้งเพราะมันไม่มีใครสนอยู่แล้ว ... น

Link to comment
Share on other sites

เหรอจ๊ะ ไม่มีใครสนจริงเหรอจ๊ะ

ยังไงก็ตั้งใจเรียนละกัน

Link to comment
Share on other sites

' ' แก้ปัญหาได้ดีมากในเกมกระเป๋าใบเดียวแบกจักรยาน ก้อนหิน บลาๆ นึกว่าโกดัง

"ป.ล มีคนสนใจอยู่นะก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้นที่จะได้รู้ บ้างคนก็มาอ่านแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเม้นอะไรนะ..น 

แต่ก็รู้ว่า 1 เม้นให้กำลังใจได้ หลายตอนยังไงก็แต่งต่อไปให้จบนะ จนกว่าจะถึงตอนจบอย่าพึงบอกว่าไม่มีคนสนใจ!?

"

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 4 ทางกลับบ้าน

Spoiler

 

อะไรน่ะ?

บาชาโม่จ้องมองไปยังแสงสีขาวสว่างไสวเล็กๆที่กำลังลอยอยู่ในอากาศตรงระเบียง เขาค่อยๆลุกขึ้นอย่างเงียบๆ

และเดินออกไปทางระเบียง แสงที่ขาวสว่างขึ้นนิดๆก่อนที่จะบินวนไปมารอบตัวของเขา สายลมพัดมาวูบหนึ่ง

แสงสีขาวหยุดหมุนและลอยไปด้านล่างระเบียง บาชาโม่เกาะขอบระเบียงก่อนที่จะมองลงไปด้านล่าง แสงสีขาว

หมุนเป็นวงกลมลงไปด้านล่างเรื่อยๆ เมื่อถึงพื้นจึงลอยไปมาอยู่แถวนั้น โปเกม่อนเซ็นเตอร์ที่นี่มี 3 ชั้น ชั้นที่เขาพักอยู่

เป็นชั้น 2 และไม่สูงมากนัก บาชาโม่ตัดสินใจตามแสงนั้นไป เขากระโดดลงมาด้านล่างจากชั้น 2 ผมสีเหลืองนวล

ปลิวไสว นัยน์ตาสีแดงเพลิงตวัดซ้ายขวาหายแสงไฟ แสงสีขาวลอยสว่างอยู่ใกล้ๆแถบชายป่า เขาวิ่งตามไป

แสงไฟลอยตรงไปเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายขวาหลบต้นไม้ไปพลาง บาชาโม่วิ่งตามมาเรื่อยๆ จนในที่สุด แสงสีขาวก็มาหยุด

ที่แอ่งน้ำแห่งหนึ่ง

บาชาโม่ย่างเข้าไปหาแสงไฟช้าๆ ค่อยๆยื่นมือออกไปด้านหน้าอย่างลังเลใจ และแล้วเขาก็นำฝ่ามือไปแตะที่แสงสีขาวนั้น

แว้บ !!!!

บาชาโม่เอาแขนป้องหน้าเนื่องจากจู่ๆแสงสีขาวก็ระเบิดขึ้นเป็นแสงเจิดจ้า ซักพักก็ดับลงแล้วก็เผยให้เห็น

เด็กผู้หญิงตัวเล็ก  สวมหมวกรูปร่างคล้ายดาวมียันต์ติดอยู่ ดวงตาหรี่เล็กสีเขียวฟ้าจ้องมองมา นัยย์ตาประหลาดรูปดาว

ทอประกาย ถือคฆายาวทรงดาวหกแฉก มีลูกแก้วบรรจุน้ำกากเพชรสีม่วงเข้มอยู่ด้านในตรงกลาง ร่างของเธอโปร่งแสง

พร้อมมีรัศมีสีขาวทอประกายรอบตัวดูแสบตา บาชาโม่นิ่งอึ้ง

“สวัสดี บาชาโม่” เธอกล่าว “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

“เจอ? เราเคยเจอกันด้วยหรือ?” บาชาโม่ขมวดคิ้วมุ่น เธอยิ้มบางๆ

“เจ้าจำไม่ได้สินะ ... อ่า เรื่องมันนานมากแล้วล่ะ” เธอพึมพำ

“เจ้า .. เป็นใคร?” เธอยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ข้าเป็นใครก็ช่าง แต่ข้าอยากบอกให้เจ้ารู้ว่า ข้าสามารถบอกอะไรก็ได้ที่เจ้าอยากรู้ 1 ข้อ”

“อะไรก็ได้ที่ข้าอยากรู้?” บาชาโม่ทวน สายตาคมกริบหรี่ลง “ข้าอยากรู้วิธีการกลับโลกเดิม”

“นึกแล้วเชียว” เธอยิ้ม “ข้าบอกเจ้าไม่ได้มากหรอกนะ ... แต่วิธีการกลับโลกเดิมก็คือ...”

ร่างของเธอค่อยๆสว่างขึ้น “ทำตัวของเจ้าให้ปกติที่สุด ให้เดินทางไปเรื่อยๆ ทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำ

แล้วเจ้าก็จะได้กลับโลกเดิมเองเมื่อถึงเวลา ...”

“หมายความว่ายังไง?” เขาสับสน นั่นหรอคือวิธีการกลับโลก “ข้าไม่รู้ว่าข้าต้องทำยังไง!”

“ทำตัวให้ปกติ” เธอตอบอีกครั้ง “เจ้าได้กลับไปแน่บาชาโม่ ไม่ต้องห่วง ... และลาก่อน” ร่างของเด็กสาวสว่างขึ้นเรื่อยๆ

“เดี๋ยว ! เจ้า...”

แสงสว่างว้าบขึ้นอีกครั้ง บาชาโม่เบือนหน้าหนีพร้อมหลับตา ....

ปึ้ก !

ร่างของบาชาโม่ร่วงลงกับพื้น เขาลืมตาทันที แสงแดดอ่อนฉายสว่าง เช้าแล้ว? นี่ข้าฝันไปงั้นรึ?

ใบหน้าและฝ่ามือของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจของเขาเต้นเร็ว บาชาโม่ยันตัวขึ้นพร้อมหอบแฮก เขากวาดสายตา

มองไปโดยรอบ แอ่งน้ำ? ป่า?  เขาครุ่นคิด มัน ... ไม่ใช่ความฝัน ....

....

แอ๊ด ~ !

“อ้าว ไปไหนมาเนี่ยบาชาโม่?” เซอร์ไนท์กล่าวถามขณะที่นั่งพับผ้าอยู่บนเตียง “ไปแต่เช้าเชียว

แล้วทำไมเหงื่อแตกพลั่กอย่างนั้น?”

บาชาโม่ขมวดคิ้วมุ่น ไม่ตอบอะไรแต่เดินตรงดิ่งไปยังระเบียง เซอร์ไนท์มองบาชาโม่อย่างสงสัย เป็นอะไรของเขานะ ...

เอเนโคโรโร่ที่นอนอยู่บนเตียงข้างบนโผล่หัวออกมา “บอสกลับมาแล้วหรอ? ไปไหนมาล่ะนั่น?” เอถามอย่างใสซื่อ

“ไม่รู้สิ ....” เซอร์ไนท์ตอบ “ลันตันอาบน้ำเสร็จแล้ว เอเนไปอาบน้ำบ้างไป”

“บู่ .... ขี้เกียจจัง ....” เธอบ่น “มัสคุงยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ”

“....” ฟลายก้อนที่โดนลันตันปลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบากเหลือบมองบาชาโม่ด้านนอก ก่อนที่จะเดินตามออกไป

ลมพัดอ่อนๆเย็นสบาย บาชาโม่ทอดสายตาว่างเปล่าไปไกล ฟลายก้อนเดินมาเกาะระเบียงอยู่ด้านข้าง ผมสีเขียวเข้ม

ปลิวเบาๆ เขามองบาชาโม่ด้วยแววตาสงสัย

“...เจ้าสงสัยมากเลยงั้นรึ” บาชาโม่กล่าวเย็นๆ ฟลายก้อนพยักหน้า

“ข้า .... ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงดี....”

“... เจ้าควรจะเลิกนิสัยเก็บความลับได้แล้วนะ บาชาโม่” ฟลายก้อนปริปาก บาชาโม่เลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฟลายก้อน

“ข้าไม่อยากให้เจ้า ... เก็บเรื่องบางเรื่องไว้คนเดียว” ฟลายก้อนหันมาสบตาบาชาโม่ “มันเป็นภาระของเจ้า รู้ไหม”

“... สงสัยข้าคงต้องเลิกแล้วจริงๆ” บาชาโม่หัวเราะหึๆในลำคอ “ในเมื่อคนอย่างฟลายก้อนยอมปริปากทั้งที”

ฟลายก้อนยิ้มทางสายตา ก่อนที่จะเดินเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ บาชาโม่ถอนหายใจยาว “เฮ้อ ...”

-     ต่อมา    -

ทุกคนกำลังทานอาหารเช้าที่โปเกม่อนเซ็นเตอร์ โต๊ะที่พวกเขานั่งเป็นโต๊ะติดกระจก มีโต๊ะกันตรงกลางมีเก้าอี้

อยู่สองฝั่ง แบ่งฝั่งตามชาย – หญิง บาชาโม่ที่นั่งในสุด(ติดกระจก)กำลังมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย

ซุปในชามเริ่มเย็น สมาชิกคนอื่นๆเริ่มมองหน้ากัน

“เอ่อ ... บอสครับ” มัสสึกุมะเริ่มเปิดปาก “ผมไม่รู้ว่าบอสเครียดเรื่องอะไรอยู่ แต่ว่าดูแลตัวเองด้วยนะครับ...”

บาชาโม่เหลือบหางตามามอง

“บอส มีเรื่องอะไรก็เล่ามาก็ได้นะ !” เอเนโคโรโร่

“ท่านบาชาโม่ ... พวกเราเป็นทีมเดียวกันนะคะ มีอะไรก็ปรึกษากันได้นะคะ” ลันตัน

“...” ฟลายก้อน

“เจ้าน่ะ” เซอร์ไนท์ขมวดคิ้ว “จะทำอะไร หรือมีเรื่องอะไร มันไม่ใช่เรื่องของเจ้าคนเดียว ... นึกถึงจิตใจคนที่

อยู่ด้านหลังเจ้าเสียมั่ง”

“....หึ” บาชาโม่ยิ้ม “ข้า ... ยอมแพ้พวกเจ้าแล้วจริงๆ”

บาชาโม่เริ่มปริปาก เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ทุกคนฟัง รวมถึงวิธีการกลับโลกเดิม ทุกคนฟังอย่างตั้งใจก่อนที่จะเริ่ม

แสดงความคิดเห็นออกมา

“ทำตัวปกติ?” ทุกคนทวนคำตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“บอสแน่ใจนะว่าไม่ได้ฝันไป” มัสสึกุมะถาม

“อืม” บาชาโม่ตอบ “ตอนข้ารู้สึกตัวก็อยู่ที่นั่นแล้ว”

“จะว่าไปคำตอบก็กำกวมจังแฮะ” เซอร์ไนท์กุมขมับ

“....?” (ทำตัวปกติ .... ทำยังไงหรอ?)

“ให้พวกเรานั่งเฉยๆ ทำตัวสบายๆแล้วรอจนกว่าประตูมิติจะเปิดเองรึไง!” เอเนโคโรโร่บุ้ยปาก

“ลองเปรียบเทียบดูดีไหมคะ ว่าที่โลกเดิมเราทำอะไรมั่ง” ลันตันเสนอ “ตอนที่เราอยู่กับเธอตอนเป็นโปเกม่อน

เธอกับพวกเราทำอะไรกัน?”

“ทำอะไรมั่งหรอ....” เซอร์ไนท์ทวน

“เธอให้พวกเราทำอะไรบ้างนะ ..... ตื่นเช้า ฝึกซ้อม ทานข้าว เดินทาง เข้าเมือง สู้ยิม....” มัสสึกุมะ

“...?” (เดินทาง ....?)

“ใช่แล้ว ! เราควรเดินทางไปสู้ยิม รวบรวมเข็มกลัดแล้วแข่งขันลีคดีไหม !?” เอเนโคโรโร่

“อืมมมม ระหว่างนี้ก็รับหาภารกิจไปด้วยเป็นไง?” เซอร์ไนท์

“ก็ดีนะคะ ดูธรรมดาดี” ลันตัน

“ตกลงไหม บาชาโม่?”

ทุกคนจับจ้องไปที่บาชาโม่ เจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่น

“แต่การแข่งขันลีคจะเริ่มขึ้นใน 3 เดือนนี้นะ จะทันหรือ?”

“ทันสิ !” เอเนโคโรโร่พูด “พวกเราทำได้อยู่แล้ว !”

“... ตามนั้น”

-       1 ชม.ต่อมา      -

สมาชิกในทีมเตรียมพร้อมที่จะเดินทาง แน่นอน ต้องมีคนแบกกระเป๋าเก็บไอเท็ม 1 คน ซึ่งเมื่อจับไม้สั้น-ยาวตัดสินแล้ว

ผลออกมาคือ ....

“= =;”

“ไม่เอาน่าฟลายก้อน กระเป๋าใบนิดเดียวเอง” เซอร์ไนท์หัวเราะ

“ถ้าท่านฟลายก้อนไม่อยากถือให้ฉันถือก็ได้นะคะ...” ลันตันพูดเบาๆ

ฟลายก้อนยิ้มทางสายตา ก่อนจะเอามือไปวางบนหัวของลันตัน เธออุบอิบ

“ทำเหมือนข้าเป็นเด็กๆอีกแล้วนะคะ...”

“ดูจากแผนที่ ...” บาชาโม่กางแผนที่ออก “เป้าหมายที่เราจะไปคือโอเดล ทาวน์สินะ..”

“ต้องผ่านถนน 101 ด้วย” มัสสึกุมะอุบอิบ “เมื่อยขาอีกแล้ว....”

“เอาล่ะ ... ไปกันเถอะ” บาชาโม่กล่าวเรียบๆ ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากเมืองลิตเติ้ลรูททาวน์และตรงเข้าสู่ถนน 101

แต่ทว่า ...

“เดี๋ยวก่อนค่ะ !!!” อาเมโมสที่เป็นเจ้าหน้าที่ในโปเกม่อน กิลด์วิ่งตรงมาหาพวกเขาพร้อมถือกระดาษที่ม้วนอยู่มาด้วย

ทุกคนหันไปยังต้นเสียง

“อ๊ะ พี่สาวคนสวยนี่ !” มัสสึกุมะทำตาเป็นประกาย

“พวกท่านกำลังจะไปที่เมืองโอเดล เทาน์สินะคะ” อาเมโมสถาม

“ใช่คร้าบ ~”

“งั้นฝากจดหมายนี่ให้กับโอสึบาเมะ(swallow)ที่เป็นเจ้าหน้าที่โปเกม่อนกิลด์เพทัลเบิร์กให้หน่อยนะคะ

ยังไงก็คงต้องไปเมืองนั้นต่อใช่ไหมคะ?” เธอบอกด้วยท่าทางเกรงใจ

“ใช่ครับ ! ไว้ใจได้เลย !” มัสสึกุมะรับมากพร้อมกับทำท่าตั้งมั่น เธอยิ้มบางๆ

“งั้นขอให้พวกท่านโชคดี นี่เป็นค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆค่ะ” เธอยื่นถุงที่บรรจุเงินเล็กน้อยให้ “ถึงจะไม่มากแต่ก็อาจจะ

พอสำหรับค่าอาหารมื้อหนึ่ง”

“ขอบคุณมาก” บาชาโม่ตอบ “ไปกันเถอะ”

...

อีกฝากหนึ่ง .... ณ เมืองโอเดลทาวน์

“เจ้าได้ยินเรื่องแปลกๆหรือเปล่า...”

“อืม เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ท่านคิดว่าเรื่องจริงรึเปล่าล่ะ”

“ไม่รู้สิ แต่เห็นว่าแก๊งกราเอน่าอันธพาลนั่นน่ะ ไปเรียกบอสใหญ่ที่เมืองอื่นเลยล่ะ”

“เรียกมาทำไมกัน?”

“นั่นสิ ข้าเองก็สงสัย เขาลือกันว่ามีทีมๆนึงไปกระตุกหนวดเข้าน่ะ...”

“ให้ตายสิ ... ซวยจริงๆเลย”

“แต่บางที ข้าก็ว่าอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะ”

“หา?”

“ถ้าในเมื่อจัดการหัวหน้าได้ง่ายๆ อาจจะมีสิทธิ์ล้มบอสใหญ่ก็เป็นได้ ... อันธพาลจะได้หายๆไปเสียที”

สายลมพัดปลิวมา เจ้าของประโยคสุดท้ายสูดหายใจเข้าลึก ผมมัดรวบสีน้ำเงินและผ้าคลุมปลิวไสว นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม

สะท้อนแสงแดดอ่อนประกายสวย รอยยิ้มผุดขึ้นบางๆ แก้มสีชมพูระเรื่อ

“ท่านโอสึบาเมะ ...”

To Be Continue …

Spoiler

 

ฟลายก้อนไม่ใบ้แล้ว !!!!!!!! # ไม่ใช่ประเด็นโว้ย !!

มาอัพให้อย่างว่อง ฮ่าๆๆๆ หลังจากกลับมาเที่ยว จะเปิดเทอมแล้วขอกรีดร้องแปปนะคะ ;-; #ไม่เกี่ยว

ก็นะ หลายคนอาจจะพอรู้ว่าแสงปริศนานั้นคือใคร จุดประสงค์ของการเดินทางคืออะไร !? วิธีการนี้จะได้กลับบ้านจริงหรือไม่

ติดตามชมตอนต่อไปค่ะ  :pika01:

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.