Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

► [GIJINKA] Pokemon & The Gang ! ◄


+ Pangtor Girl +

Recommended Posts

ฟลายก้อนไม่ใบ้แล้ว!!! #ผิด

เริ่มออกเดินทางแล้วแฮะ แต่อีกไม่นานก็คงจะมีเรื่องไม่คาดคิดตามมาแน่ o.o

รอติดตามอ่านต่อนะงิ 'w'

ข้อแนะนำเดิมน่อ

เทาน์ เปลี่ยนเป็น ทาวน์ พี่ว่าดีกว่า 'w'

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 74
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • + Pangtor Girl +

    23

  • 天ノ花 月子

    14

  • Tym

    13

  • ♏☤ṧ⊥εґ ℉

    9

เย้ๆ ฟลายก้อนพูดได้แล้ว :pika10:#ผิดประเด็น

ออกเดินทางกันแล้ว ขอติดตามต่อเรื่อยๆค่ะเมี้ยว :pika01:

เหมือนข้าน้อยจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือใครนะ

:pika04:

Link to comment
Share on other sites

แวะมาลงตัวอย่างตอนต่อไปเล่นๆค่ะ  :pika01: ต่อไปนี้จะมีช่วงสปอยล์หลุดออกมาท้ายตอนนะคะ ~

ตัวอย่างตอนต่อไป

“มาทำอะไรที่นี่”

“ข้าต่างหาก ที่ต้องถามว่าเจ้าพาข้ามาทำอะไรที่นี่มากกว่า”

“อยากตายมากนักหรือไง? อยู่ในสภาพแบบนั้นยังจะมาปากดีอีก”

“ก็ลองดูสิ”

ชะอ่าว ฟาดฟันกันซะแล้ว ใครกับใครล่ะนี่? ติดตามบทที่ 5 ได้ในวันพรุ่งนี้ ตอน 'หาย?' ค่ะ !

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 5 หาย?

Spoiler

 

ตึก ตึก ตึก

“กระดาษม้วนนี้คืออะไรกันน้า ~” มัสสึกุมะพึมพำก่อนที่จะหยิบกระดาษม้วนออกมาสังเกตดูรอบๆด้วยความอยากรู้

เอเนโคโรโร่ที่เดินตามหลังมัสสึกุมะบ่นพร้อมกับหยิกแขนเบาๆ

“นี่ ! มัสคุง อย่าทำแบบนั้นสิ ถ้าท่านพี่เห็นเข้าล่ะก็โดนเอ็ดแน่ๆ -O-“

“โธ่ ! อย่าหยิกเซ่ -_- ก็คนมันอยากรู้นี่นา พี่สาวคนสวยจะเขียนอะไรไว้น้า..”

“ตาบ้าเอ้ย !!! ไม่พูดด้วยแล้ว =_=” เอเนโคโรโร่บุ้ยปากก่อนที่จะเดินตามหลังฟลายก้อนไป

“หือ?” บาชาโม่ที่เดินนำแถวหยุดกึก ทำเอาคนอื่นๆหยุดกันไปตามๆกัน

“...?” (มีอะไรหรือ...?) ฟลายก้อนที่เดินตามหลังถามก่อนที่จะหันหน้าไปดูด้านหน้า

‘DON’T ... HERE’

“อะไรหรอ...” เอเนโคโรโร่หันมาดู พร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆก็หันมาดู สิ่งที่พวกเขาพบคือป้ายไม้เก่าๆสภาพทรุดโทรม

มีเถาวัลย์พันระโยงระยาง  ตัวอักษรที่เขียนไว้ก็เลือนรางจนแทบมองไม่เห็น

“เขียนว่าอะไรน่ะ...” บาชาโม่ขมวดคิ้ว

“DON’T ... HERE?” ลันตันพยายามแปล “มองไม่เห็นอักษรตรงกลางเลยค่ะ”

“แปลกนะ” เซอร์ไนท์พูด “ถ้าเราตัดผ่านป่าตรงนี้ที่เป็นทางลัดก็ควรจะไปถึงตัวเมืองได้นี่?”

“ป้าดูอะไรผิดรึเปล่า??” มัสสึกุมะออกความเห็น ก่อนที่จะเอียงตัวหลบไซโครคิเนซิสที่พุ่งมา 

“หรือว่าเขาเตือนว่าเป็นป่าอันตราย?” เอเนโคโรโร่เสริมบ้าง

“...” (ดูทางก็ปกติดีนะ เป็นป่าธรรมๆดา)

“เอายังไงล่ะ” บาชาโม่ตัดบท “จะไปหรือไม่ไป?”

“...” ทุกคนเงียบ ก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมๆกัน

“งั้นก็ไปสิ”

-           ต่อมา          -

พวกเขาตัดสินใจเดินเข้ามาตามเส้นทางนั้น ที่ซึ่งเป็นทางลัดตัดผ่าน สามารถตัดไปยังเมืองโอเดล ทาวน์ได้เร็วกว่าทางปกติ

เส้นทางนั้นเป็นทางเข้าไปในป่า พวกเขาเดินเข้ามาเรื่อยๆ ป่าก็เริ่มลึกขึ้น ลึกขึ้น จนทุกคนเห็นความผิดปกติ

ลันตันเอ่ยปากขึ้นมา “คือ ... ดิฉันว่ามันแปลกๆนะคะทุกคน...”

“ข้าก็ว่าหยั่งงั้นนะ” เอเนโคโรโร่เสริม “มันเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆแล้ว มันจะออกไปได้หรอ...”

“ไม่หรอก ทางลัดก็เป็นอย่างงี้แหละ” มัสสึกุมะพูด

ใครจะไปยอมเดินกลับไปเล่า เมื่อยขา ...

“งั้นหรอ” เอเนโคโร่ไม่ได้คิดอะไรอีก แต่ลันตันก็ยังไม่หายกังวล

บาชาโม่เดินนำทางต่อไป พร้อมกับหันซ้ายหันขวาไปพลาง ข้าว่ามันก็เริ่มแปลกๆ ...

“ทุกคน” ในที่สุดบาชาโม่ก็หันกลับไปและออกคำสั่ง “หยุดพักที่นี่ก่อน 15 นาทีแล้วค่อยเดินทางต่อ”

“เยส !” มัสสึกุมะล้มตัวลงทันที

บาชาโม่หันไปรอบๆ ที่นี่ก็โล่งพอที่จะหยุดพักกันได้ เขาพยายามมองทางที่ดูปกติที่สุดและเป็นทางออก

แต่ทว่ามันก็ปกคลุมด้วยป่าและก็ลึกมากเสียด้วย เขาเริ่มกังวลใจ

“....?” ฟลายก้อนเริ่มสังเกตท่าทีของบาชาโม่

“ไม่มีอะไรหรอก” บาชาโม่พูด ก่อนที่จะเดินไปหาเซอร์ไนท์

“ข้าขอออกไปดูต้นทาง”

“หา?” เซอร์ไนท์มองหน้าบาชาโม่อย่างงงๆ ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากแย้ง บาชาโม่ก็ขัดขึ้นก่อน

“ถ้าข้ายังไม่กลับมาภายใน 10 นาทีนี้ ให้เจ้าย้อนกลับไปทางเดิมที่เรามา ข้าทำสัญลักษณ์ข่วนไว้ที่ต้นไม้

ไม่ต้องมาตามหาข้า พวกเจ้าหาทางออกจากป่านี่ก่อน แล้วค่อยมาส่งคนมาตามหาข้า เข้าใจไหม”

“แต่...”

“อย่าขัดคำสั่ง” บาชาโม่พูดขึ้นอย่างเย็นชา เซอร์ไนท์ตกใจเล็กน้อยและไม่กล้าปริปากแย้งอะไรอีก บาชาโม่เริ่มรู้สึกตัว

และกล่าวบางอย่าง “...ถือว่าข้าขอร้อง”

เขาเดินจากไปในป่าลึก เซอร์ไนท์ทอดสายตามองครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหน้ากลับไปดูแลสมาชิกคนอื่นๆ

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

บาชาโม่เดินเข้ามาในป่าลึกคนเดียว สายตาเฉียบคมฉายแววกังวลใจเล็กๆ เขามองซ้ายมองขวาไปพลาง

ฟุ่บ

“[Flamethrower] !!!”

โฟร่วววววว !!!

เปลวเพลิงพุ่งพวยออกมา ปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่และดับไป กลิ่นไหม้คละคลุ้งไปทั่ว

ไม่มีอะไรหรอกหรือ .... 

เขามองไปรอบๆ ไม่มีอะไรผิดปกติ เหมือนข้าจะได้ยินเสียงบางอย่าง? ...อาจจะคิดไปเอง

เมื่อไม่มีอะไรแล้วบาชาโม่ตัดสินใจเดินกลับไปหาทีมของตน ทว่า ..

ฟู่ ~ !!!!!!

“อึก...”

เขาล้มลง เอามือปิดปากปิดจมูกของตนเองก่อนที่จะไอออกมา ดวงตาของเขาพร่ามัวไปหมด

อะไรน่ะ? อย่าบอกนะว่า ... [sleep powder] ?

นี่เป็นความคิดสุดท้ายที่บาชาโม่คิดได้ก่อนที่จะล้มตัวลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

...

-         10    นาทีต่อมา      -

ทำไมบาชาโม่ยังไม่กลับมาอีกนะ ...

เซอร์ไนท์ได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้คนเดียว เธอเริ่มกังวลใจขึ้นมา บาชาโม่บอกว่าให้พาคนอื่นๆออกไปจากป่า ...

“.....” ฟลายก้อนมองไปยังเซอร์ไนท์ แล้วก็มองไปรอบๆ เขาลุกขึ้นแล้วก็ไปแตะไหล่เซอร์ไนท์เบาๆ เธอสะดุ้งเฮือก

“วะ ... ว่าไงฟลายก้อน?”

เจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาสีนิลฉายแววไม่พอใจเล็กๆ

“... .....??” (เป็นอะไร ... แล้วบาชาโม่หายไปไหน??)

เซอร์ไนท์เบือนหน้าหลบ เธอกุมมือตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกไป

“บาชาโม่ ... หายไปแล้ว !”

“...ว่าไงนะ?”

...

“ว่าอะไรนะคะ ! ท่านบาชาโม่หายตัวไป” ลันตันอุทานออกมา เธอแสดงท่าทางกังวลใจเป็นอย่างมาก “ทำไมล่ะคะ?”

“หา ? บอสหายไป?! เป็นไปได้ยังไงน่ะ!!” เอเนโคโรโร่ก็ตกใจมากเช่นกัน

“นั่นสิ เป็นไปได้ยังไง?” มัสสึกุมะก็เสริมพร้อมขมวดคิ้ว เซอร์ไนท์ถอนหายใจเบาๆ

“บาชาโม่บอกว่าจะขอออกไปดูต้นทาง ถ้าไม่กลับมาภายใน 10 นาทีให้พวกเราออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”

“...”

“นี่มันก็ปาไป 15 นาทีแล้วนะคะ” ลันตันบอก “ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ..”

“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ไปช่วยบอสดีไหม?” มัสสึกุมะเสนอ

“ไม่ได้หรอก ถ้าบาชาโม่ยังสู้ไม่ไหว แล้วเราจะเข้าไปยุ่งทำไม” ฟลายก้อนกล่าว ทุกคนตกใจนิดๆ

“แล้วเอาไงกันดี....” เอเนโคโรโร่

“เราต้องหาทางออกจากที่นี่” ฟลายก้อนพูดเรียบๆ ก่อนที่จะลุกขึ้น “และตามคนมาช่วยบาชาโม่ให้เร็วที่สุด”

...

“อึก ....” บาชาโม่เริ่มรู้สึกตัว เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ปวดหัวชะมัด ... ที่นี่ที่ไหน ...

บาชาโม่พยายามขยับตัว แต่ขยับไม่ได้ เขาก้มลงมองดู เถาวัลย์มัดเขาอย่างแน่นหนา ทั้งข้อมือและข้อเท้า

นอกจากนี้ยังรู้สึกชาไปทั้งตัว อะไรกัน ... ติดสภาพอัมพาตหรือ?  บาชาโม่กวาดตามองไปรอบๆ พบว่าที่นี่เป็นเหมือนถ้ำ

มีเถาวัลย์อยู่ทั่ว พื้นถ้ำและผนังเย็นเฉียบ ปากถ้ำด้านหน้าปิดด้วยเถาวัลย์หลายอันห้อยซ้อนกัน ดูมืดสลัว

เขากำลังนั่งพิงผนังถ้ำโดยถูกมัดด้วยเถาวัลย์ จู่ๆก็มีคนแหวกเถาวัลย์เดินเข้ามาจากปากถ้ำ

ผู้ชายค่อนข้างสูงเดินเข้ามา ความมืดในถ้ำทำให้มองเห็นหน้าไม่ชัดนัก แต่ทว่าดวงตาของเขาเป็นสีอำพันสว่าง

เหมือนเรืองแสงได้ ผิวออกแนวเหลือง รวบมัดผมสีเขียวเข้ม สวมเสื้อคล้ายยูคาตะ แต่เป็นกางเกง ชุดโดยรวมออกโทน

สีเขียว ข้างเอวมีดาบยาวเหน็บอยู่  ลักษณะแบบนี้ ... จุปทอล(Grovyle)รึ?

ดวงตาสีอำพันจับจ้องมายังบาชาโม่ก่อนที่จะเอ่ยปาก

“มาทำอะไรที่นี่”

“มาทำอะไร?” บาชาโม่ทวนคำถามเสียงเย็น “ข้าต่างหาก ที่ต้องถามว่าเจ้าพาข้ามาทำอะไรที่นี่มากกว่า”

ชายปริศนาขมวดคิ้วมุ่น ฝ่ามือจับสันดาบ “อยากตายมากนักหรือไง? อยู่ในสภาพแบบนั้นยังจะมาปากดีอีก”

บาชาโม่ตวัดสายตาเฉียบคมไปอย่างท้าทาย “ก็ลองดูสิ”

“แก...”

ไฟที่ข้อมือของบาชาโม่เริ่มลุกโชน เผาเถาวัลย์ที่มัดอยู่อย่างง่ายดาย ทว่ายังขยับตัวไม่ถนัดเพราะติดสภาพอัมพาต

ทั้งสองคนต่างจ้องซึ่งกันและกันไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งเถาวัลย์ของบาชาโม่ขาดออกจากกัน ช่วงที่จุปทอลเผลอ

บาชาโม่ก็ฉวยโอกาสทันที

“[slash]!”

เล็บของบาชาโม่ยาวและแหลมคมขึ้นก่อนที่จะตัดเถาวัลย์ที่ขาออกอย่างรวดเร็ว จุปทอลตั้งตัวกำลังจะหยิบดาบ

ออกมา ทว่าบาชาโม่ก็ผลักร่างของเขาจนเซถลาล้มลงออกไปนอกถ้ำซะก่อน บาชาโม่ตั้งท่าวิ่งหนี จุปทอลลุกขึ้นทันที

“ไม่ปล่อยให้หนีไปง่ายๆหรอก !” จุปทอลตะโกนด้วยความโกรธ เขาชักดาบออกมาและพุ่งไปยังบาชาโม่ทันที

“[Leaf blade] !!” ดาบเรียวคมเปล่งแสงประกายสีเขียวออกมา จุปทอลตวัดมันขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะฟัน

เข้าใส่บาชาโม่ทันที บาชาโม่หลบทันอย่างฉิวเฉียดแต่ทว่าถูกคมดาบข่วนเข้าที่ใบหน้าเลือดออกเล็กน้อย เขาสวนกลับด้วย

ท่า [Fire punch]

ปั้ก !!!

“อั่ก !” จุปทอลโดนเข้าที่ใบหน้าเต็มๆ เลือดไหลออกจากมุมปาก เขาเช็ดมันออกแบบลวกๆ

โปเกม่อนธาตุไฟ ... มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน! ท่าทางยุ่งยากแล้วสิ...

บาชาโม่ไม่สู้ต่อ แต่วิ่งหนีแทน ถ้าสู้ล่ะก็ยื้อเยื้อแน่ๆ ต้องรีบกลับไปหาทุกคน ... 

“ทุกคน !!! จับมัน !!!!!!!”

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ

“อะไรน่ะ?” บาชาโม่กวาดสายตามองไปรอบๆ พุ่มไม้แถวนั้นเริ่มขยับ เสียงใบไม้เริ่มเคลื่อนไหว

เหล่าคิโมริ(Treecko)ต่างผลุ่บโผล่ขึ้นตามพุ่มไม้และต้นไม้ เป็นเด็กตัวเล็กๆอายุประมาณ 8-9 ปี ทั้งชายและหญิง แต่งชุด

โทนสีเขียวอ่อนประดับใบไม้ ในมือแต่ละคนถือเถาวัลย์

“จับมันไว้ ! อย่าให้หนีไปไหน !!!”

“รับทราบ !” เหล่าคิโมริล้อมบาชาโม่ไว้เป็นวงกลม จากนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน

ไม่นานนัก ตัวบาชาโม่ก็ถูกพันไปด้วยเถาวัลย์และถูกยึดไว้ด้วยเหล่าคิโมริ บาชาโม่ขมวดคิ้วมุ่น

บ้าจริง ...

เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นที่ข้อมือบาชาโม่อีกรอบ และเริ่มลนไปที่เถาวัลย์ ขณะนั้นบาชาโม่ก็เริ่มต่อต้านเหล่าคิโมริ

เขาพ่นเปลวเพลิงไปรอบๆตัว ทำให้เหล่าคิโมริโดนสะเก็ดไฟและกระจายไปทั่ว ทำให้เถาวัลย์ที่รัดตัวอ่อนลง

“หน็อย ! รุมมันเลย !!!!!!!!”

“ช่วยไม่ได้ คงต้องเอาจริงแล้วสินะ” บาชาโม่พึมพำ ก่อนที่จะเริ่มต่อสู้กับพวกคิโมริที่กระโจนเข้ามาตามคำสั่ง

โฟร่วววววว ~!! พลั่ก ! พลั่ก !! โครม !!!!!

บริเวณนั้นเต็มไปด้วยรอยไหม้และกลิ่นควันของไฟ บาชาโม่ต่อต้านคิโมริได้เรื่อยๆ ทว่าจำนวนของอีกฝ่ายเยอะมาก

ทำให้บาชาโม่เริ่มพลาดท่าและบาดเจ็บขึ้นเรื่อยๆ

“อั่ก !!” คิโมริตัวหนึ่งกระแทกเข้าที่แผ่นหลังของบาชาโม่อย่างจัง ทำให้เขาพลาดท่าและล้มลง

“ตอนนี้แหละ ! จับมัน !!”

และแล้วบาชาโม่ก็โดนมัดด้วยเถาวัลย์เช่นเดิม แถมยังขยับไม่ได้อีกด้วย บาชาโม่หมดแรงพร้อมกับหอบหายใจถี่ๆ

หยาดเหงื่อไหลที่ใบหน้า เขานั่งคุกเข่ากัดฟันกรอด

“หมดฤทธิ์แล้วสิท่า” จุปทอลด้วยนั้นพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ ก่อนที่จะชักดาบออกมา

“เจ้าจะต้องได้รับโทษ...” เขาเงื้อดาบขึ้นเหนือศีรษะบาชาโม่ แสงสีเขียวอ่อนเปล่งออกมา “ข้าไม่ทำให้เจ้าตายหรอกน่า...”

บาชาโม่ก้มหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร จุปทอลหัวเสียและลงมือทันที

“หยุดนะ !!!”

เสียงมีอำนาจกังวานดังขึ้น จุปทอลที่เงื้อดาบอยู่ชะงักกึก บาชาโม่เงยหน้าขึ้นช้าๆอย่างหมดแรง

ใครน่ะ?

ผู้หญิงรูปร่างสูงเพรียวเดินเข้ามากลางวงศึกเล็กๆอย่างสง่างาม มัดผมแกละเล็กและปล่อยผมสีเขียวอ่อนยาวสลวย

สวมยูคาตะประยุกต์สวยงาม ใบหน้าเง้มงวดและน่าเกรงขาม ผิวสีขาวดุจหิมะ นัยน์ตาสีเหลืองประกายหม่นดุดัน

“เก็บดาบซะ จุปทอล”

แต่จุปทอลยังไม่วายเก็บดาบ

“ข้าบอกให้เก็บดาบซะ จุปทอล” น้ำเสียงหญิงสาวเข้มขึ้น จุปทอลอึกอักสักพักก่อนที่จะเก็บดาบเข้าฝัก

และหันมาประจันหน้ากับเธอ เขาคุกเข่าลงและก้มหัว

“นายหญิงมีธุระอะไรหรือขอรับ ข้ากำลังจะจัดการผู้บุกรุก...”

“เงียบซะจุปทอล” เธอกล่าวเสียงเย็น “ปล่อยเขาและพาทุกคนไปพักผ่อนซะ”

“แต่...”

“ไม่มีอะไรขัดข้องใช่ไหม?”

“...ขอรับ”

บาชาโม่ถูกปล่อยตัวออก เหล่าคิโมริทยอยเดินจากไปในการดูแลของจุปทอล บาชาโม่พยายามยันตัวขึ้น

หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนที่จะทอดสายตาลงมามองเขา บาชาโม่เงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาสีอำพันคู่นั้น

ก่อนที่จะสลบล้มลงไป

To Be Continue …

Spoiler

 

แวะมาอัพให้แล้วค่าาาาาาาาา \\>_<//

หวาๆๆ พระเอกของเราโดนจับไปซะแล้วสิ !! อีกไม่กี่ตอนจะมี "ฉากต่อสู้" แบบจัดเต็มมาฝากค่ะ

เตรียมนับถอยหลังกันได้เลย !!  :pika01: เอาล่ะเราไปดูตัวอย่างตอนต่อไปกันดีกว่า ~

 

Spoiler

 

“...โดดเลย”

“ห้ะ?”

“ข้าบอกให้โดด ... โดดไปเลย !!!”

--------------------------------------------------

“เจ้า ... มาจากโลกอื่นสินะ...”

“หือ?”

“ข้ารู้เรื่องของเจ้าแล้วล่ะ บาชาโม่”

อ่ะๆ ตัดมาให้สองฉาก เนื้อหาตอนหน้าจะเป็นแบ่งระหว่างฝ่ายฟลายก้อน+สมาชิกที่เหลือกับฝ่ายบาชาโม่ + จูไคน์

ติดตามได้ในบทหน้า ... ตอน "โดด" ค่ะ  :pika01: ฝากเม้นให้กับคนแต่งขี้น้อยใจคนนี้ด้วยนะคะ ฮาาา

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

ช่วงสปอยล์คือบาชาโม่กับจุปทอลนี่เอง :pika01: แย่จัง โดนจับตัวไปซะแล้ว :pika04: ยังไงก็สู้ๆนะบาชาโม่ จูไคน์ปรากฏตัวแล้ว เป็นถึงนายหญิงแน่ะ :pika01:

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

เห็นด้วยกับพี่แจ็คค่ะ "ทาวน์" ดีกว่า

Link to comment
Share on other sites

พื้นถ้ำและ"พ"นังเย็นเฉียบ <- ผนังลูก

อืม เหมือนจะเอาโฮเอนเป็นหลัก เหมือนกับการเดินลีคทั่วๆไป

จะเจอพวกแม๊กม่ากับอควาด้วยมั๊ยเนี่ย = =lll

บาชาโม่เฉียบได้ใจ แต่บางทีดูโหดเกินเหมือนไร้เหตุผลแฮะ = =lll

Link to comment
Share on other sites

บอสลุยเดี่ยวเลยรึ จะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย น่าติดตาม น่าติดตาม O_o

จูไคน์เป็นนายหญิงเองเหรอนี่ ท่าทางเข้มงวดพอตัว

รออ่านต่อเน่อ

Link to comment
Share on other sites

บาซาลุยเดียวเลยหรือเนีย lol

งานนี้จะได้ดู ร่าง 3 ขอโปเกมอนเริ่มต้นสู้กันละ

พึงแวบอ่านอ่านยาวๆมาตั้งแต่ ตอนที่ 4 เลย น

Link to comment
Share on other sites

ประกาศ ประกาศ !!

อาทิตย์นี้ ของดอัพฟิคค่ะ เนื่องจากยังไม่ได้แต่งต่อเลย เกรงว่าถ้าอัพต่อไปเรื่อยๆจะดองค่ะ ฉะนั้นรอไปก่อน

ขอเลื่อนโดยไม่มีระยะเวลาที่แน่นอนค่ะ ... แต่ว่าไม่ต้องห่วง ! งดอัพฟิคครั้งนี้ไม่ศูนย์เปล่าแน่นอนค่ะ !

หนูได้ทำการเริ่ม "วาดหน้าปก" ในแต่ละตอนแล้ว หลายคนอาจจะงง แต่ถ้าคนอ่านมังงะในเน็ตอาจจะเคยเห็นบ้าง

ตย.เช่น แฟรี่เทล อาจารย์แกจะวาดรูปขึ้นต้นในแต่ละคนโดยพาดคำว่า "Fairy Tail" ตรงกลางและมีคำอธิบาย

dkhYQhD.jpg

FairyTail314_001.jpg

Fairy+tail+196-210_298.jpg

FairyTail326_Niceoppai_001.jpg

สังเกตว่าจะมีคำอธิบายสั้นๆและรูปภาพไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องค่ะ 'w'

เกริ่นมาซะเยอะ ฟฟฟ ก็นะ ตอนนี้ทยอยออกแบบอยู่ค่ะ แต่ด้วยความกาก(?)ของจขกท.ทำให้คืบหน้าช้าไปหน่อย ...

แถมตอนนี้ยังลองทำ "อนิเมชั่น" สั้นๆอีกด้วยค่ะ เช่น ฉากน้ำตาไหล หรือฉากพูดพึมพำ อะไรประมาณนี้

ตระเวนหาโปรแกรม + วิธีทำอยู่ค่ะ น ... พูดมาซะยาว

ขอบคุณที่รับฟังค่ะ !  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

  • ประกาศศศศศศศศศศ !!! # อีกแล้ว ...?

    แวะมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิคชั่นเรื่องนี้ค่ะ โดยทั้งหมดมีเรื่องใหญ่ๆ 3 เรื่อง ซึ่งเรื่องหนึ่งเป็นความผิด(มั้ง?)ของหนูเอง TwT

    มาดูกันเลยดีกว่า ...

    • เรื่องเลเวลของตัวละคร

: อนึ่ง ที่หนูเขียนไว้ใน กระทู้รวมตัวละคร จะเห็นว่าหนูมีการกำหนด "เลเวล" ไว้ ซึ่งตอนนี้ได้มีความไม่ลงตัวบางอย่าง

ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น ฉะนั้นจึงขอเรียนให้ทราบว่า "เลเวล" ที่กำหนดไว้ ไม่ใช่เลเวลในปัจจุบัน (ในฟิคชั่นขณะนี้) นะคะ !

ฉะนั้นตอนนี้ตัวละครหลักในเรื่อง ยังไม่มีเลเวลตายตัว ค่ะ

ต้องขออภัยที่ทำให้สับสนนะคะ T T

  • เรื่องโปเกดอลล์

: อันนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ แต่อยากเรียนไว้ให้ทราบ ตอนอ่านจะได้นึกภาพออก

1 โปเกดอลล์ ประมาณ 10 บาทของไทยค่ะ (ขออนุญาติให้สกุลบาทเพื่อความเข้าใจ)

ฉะนั้นเวลาตัวละครหลักไปทำมิชชั่น (ภารกิจ) การได้เงิน 10 ดอลล์จะประมาณ 100 บาทนะคะ

  • เรื่องของโปเกม่อนเซ็นเตอร์

: ทำไมต้องหาเงิน? ทำไมต้องหามิชชั่น? ในเมื่อมี โปเกม่อนเซ็นเตอร์ เป็นที่พักและที่ทานอาหารฟรีอยู่แล้ว?

คำตอบก็คือ โปเกม่อนเซ็นเตอร์ เป็นเพียงที่พักเล็กๆ ที่สามารถรองรับผู้พักอาศัยฟรีได้แค่ไม่กี่คนค่ะ

ลองคิดดูเล่นๆนะคะ 1 ทีมมี 6 คน 6 คนประมาณ 2 ห้อง (ถ้าแยก) โปเกม่อนเซ็นเตอร์ใหญ่ๆก็มีแค่ประมาณ 3-4 ชั้น

1 ชั้นจะมีห้องซักเท่าไหร่? ถ้าไม่นับห้องผู้ป่วยและห้องรักษาอื่นๆ ฉะนั้นการเช่าอยู่ในโปเกม่อนเซ็นเตอร์ "ฟรี" ยากมากๆค่ะ

นอกจากนี "คนที่ไม่ได้พักในโปเกม่อนเซ็นเตอร์" ไม่มีสิทธิที่จะได้ทานอาหารฟรีที่นั่นอีกด้วยค่ะ (จะมีการพูดถึงเรื่องนี้

ในบทที่ 9)

ที่บอกข้อมูลในวันนี้ หวังว่าจะเคลียร์ข้อสงสัยได้ในบางส่วนนะคะ ทั้งนี้เพื่อเวลาอ่านฟิคชั่นจะได้เข้าใจมากขึ้นค่ะ

ENJOY READING ค่ะ !  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 6 โดด

Spoiler

 

หญิงนิรนามเดินตรงบนทางเดินยาวที่ประดับหินหลากสีโทนน้ำตาลพร้อมถือกล่องบางอย่างในมือ

นัยน์ตาสีอำพันหม่นทอดสายตายาวไปด้านหน้า และเธอก็หยุดกึกที่ถ้ำขนาดใหญ่ถ้ำหนึ่งที่มีพืชปกคลุมทั่วจนกลาย

เป็นสีเขียวชอุ่ม ประตูไม้สีน้ำตาลแดงบานใหญ่มีพืชเล็กๆขึ้นตามร่องรอยของประตูและมีไม้เลื้อยสีเขียวประดับ

“เปิด”

ครืดดด ...

ประตูนั้นเปิดเองโดยอัตโนมัติ หญิงสาวย่างก้าวเข้าไปในถ้ำ ก่อนที่ประตูจะปิดลง

ภายในถ้ำเป็นที่กว้างและใหญ่ พนังถ้ำสีเหลืองนวล มีไม้เลื้อยเลื้อยยาวขึ้นไปจรดโคมไฟระย้าเก่าๆด้านบนดูสวยงาม

มีโต๊ะเรียงชิดติดกันและติดกับพนังถ้ำทำให้เป็นวงกลม บนโต๊ะจะมีขวดบรรจุน้ำสีแปลกๆบ้าง บรรจุผงบางอย่างบ้าง

และบ้างก็มีผลเบอร์รี่วางอยู่ ตรงกลางห้องจะเป็นกองฟางปูบางๆและมีใบไม้ทับคล้ายเตียง บนนั้นมีชายหนุ่มผมยาว

สีเหลืองนวลนอนอยู่ หญิงสาวเดินตรงเข้ามาหาและย่อตัวนั่งคุกเข่าที่ข้างเตียง เธอวางกล่องลงบนพื้น

นัยน์ตาสีอำพันจ้องมองไปยังชายหนุ่ม เธอค่อยๆยื่นมือไปด้านหน้าเพื่อที่จะแตะใบหน้าของเขา ทว่า ...

พรึ่บ ! ฟุ่บ หมับ !

บาชาโม่ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ยันตัวขึ้นให้อยู่ในท่านั่งและจับมือของหญิงสาวด้วยสัญชาตญาณ เธอตกใจ

ชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยปากถามอย่างใจเย็น

“เจ้าคือ ... บาชาโม่สินะ?”

...

“....!” (ทางนี้ !)

ฟลายก้อนเดินนำทางย้อนกลับมาที่เดิม ทางเข้าป่านั่นเอง

“เจ้าจะเอายังไงต่อ? จะกลับเมืองลิตเติ้ลรูท หรือไปเมืองโอเดลทาวน์?” เซอร์ไนท์หอบน้อยๆก่อนที่จะเอ่ยปากถาม

สมาชิกคนอื่นๆวิ่งตามหลังออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบหลังจากที่วิ่งออกจากป่ามา

“...” ฟลายก้อนครุ่นคิดซักพักก่อนจะตัดสินใจ “...” (เราควรไปเมืองโอเดลทาวน์มากกว่า เพราะไหนๆเราก็เดินทางมา

ได้ครึ่งทางแล้ว อีกอย่าง เมืองลิตเติ้ลรูททาวน์เป็นเมืองเล็ก อาจจะช่วยเรื่องนี้ได้ไม่เต็มที่)

“อือ !”

“แฮ่ก แฮ่ก โอย เหนื่อย T^T” มัสสึกุมะคร่ำครวญเบาๆ เขาเพิ่งวิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่นาน

“ไปเร็วมัสคุง !! “ เอเนโคโรโร่ลากมัสสึกุมะที่กำลังเหนื่อยไปด้วย เด็กหนุ่มได้แต่วิ่งตามแรงฉุดของเด็กสาวไป

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

ถ้าพ้นจากป่านี่ได้ล่ะก็ .... ถ้าพ้นออกไปได้ ...

กึก ! จู่ๆฟลายก้อนก็หยุดกะทันหัน

“ว้าย ! อะ.. อะไรหรอคะ?” ลันตันที่วิ่งตามหลังฟลายก้อนมาชะงักและทำให้หน้าผากของเธอชนแผ่นหลังของเขาเต็มๆ

“....” (ข้างหน้าเรา...)

ลันตันและสมาชิกคนอื่นๆทอดสายตามองไปด้านหน้าและก็ตะลึงไปตามๆกัน ข้างหน้าของพวกเขาเป็นเมืองโอเดลทาวน์

ที่พวกเขาตามหา เป็นเมืองไม่ใหญ่มากแต่เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ติดกัน  แต่ที่พวกเขาตรงไปไม่ได้ก็เพราะว่า ...

ข้างหน้าเป็นหน้าผาชันสูงประมาณชั้น 3 ครึ่ง

“...” คนอื่นๆมองหน้ากัน เพราะข้างหน้าเป็นเมืองแล้วแท้ๆทว่ากลับไปไม่ได้ มิหน้ำซ้ำยังมีทางแยกสองทางที่อยู่ริม

ทางชันเพื่ออ้อมเข้าเมือง เมื่อมองตามทางนั้นมันจะลากอ้อมยาวลงไปไกลเพื่อเดินเข้าตัวเมือง

แต่ถ้าเราโดดลงไป .... ก็จะถึงเมืองได้เลย !

“...โดดเลย” ฟลายก้อนกล่าว

“ห้ะ?” สมาชิกคนอื่นๆอุทานพร้อมกัน

“ข้าบอกให้โดด ... โดดไปเลย !!!” สุดเสียงฟลายก้อน ลันตันกับเอเนโคโรโร่โดดตามๆกันลงไปแบบไม่ทันตั้งตัว

ตามด้วยเซอร์ไนท์และมัสสึกุมะ ตบท้ายด้วยฟลายก้อน เขากระโดดลงมาพร้อมกับปีกสีเขียวขอบแดงที่คุ้นตา

และพุ่งลงมาตามเพื่อนๆของเขา

“กรี๊ดดดดดดดดดด !!” เอเนโคโรโร่กรีดร้องพร้อมหลับตาปี๋ ลันตันจับร่างของเธอไว้

“อยู่นิ่งๆค่ะท่านเอเน !” เธอพูดด้วยเสียงใจเย็น “[Hydro Pump] !”

แรงดันน้ำสูงพุ่งออกมาจากปากของลันตัน ชนเข้ากับพื้นด้านล่าง ลันตันใช้แรงดันน้ำยันตัวไว้และค่อยๆลงสู่พื้นอย่าง

ปลอดภัย

“กะ ... เกือบไปแล้ว...” ลันตันปาดเหงื่อพร้อมกับพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เอเนโคโรโร่ได้แต่นั่งหอบด้วยความกลัว

“อ่อย ... ขอบคุณนะลันจัง T^T”

เซอร์ไนท์แสดงสีหน้าหวาดหวั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะมีฝ่ามือมาจับมือของเธอไว้

“ฟู่ว์ ข้านึกแล้วเชียว” เซอร์ไนท์กล่าวแบบโล่งอก “ทำเอาใจหายหมดเลย”

เซอร์ไนท์เปลี่ยนมาโอบคอของฟลายก้อนแทน เขาบินโฉบตามมัสสึกุมะมาติดๆ

“อ๊ากกกกกกกกกก นี่ข้าทำบ้าอะไรอยู่ !!!?” มัสสึกุมะโหวกเหวกพร้อมกับร่างตัวเองที่ร่วงหล่น “จะถึงพื้นแล้ว !!!

ข้าตายแน่ๆ T[]T”

ต้องทันสิ ... ทันแน่ๆ  ฟลายก้อนกัดฟันกรอด

หมับ ! ฟุ่บ ครืดดดดดดดด !!

ฟลายก้อนจับมือของมัสสึกุมะไว้ตอนที่เกือบจะถึงพื้นแบบพอดี จังหวะนั้นเซอร์ไนท์ก็ลงพื้นก่อนที่ฟลายก้อนจะรับตัวของ

มัสสึกุมะไว้อย่างฉิวเฉียดและพุ่งไปครูดพื้นด้านหน้า

“มัสคุง !”

“ท่านฟลายก้อน !!”

ฟู่วววววว ...

ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว เผยให้เห็นร่างของฟลายก้อนและมัสสึกุมะที่แผ่อยู่กับพื้นพร้อมกับเปื้อนดินเต็มตัว

“รอดตายแล้ว ...” มัสสึกุมะพึมพำ ใบหน้าซีดใจสั่น

“...” ฟลายก้อนยิ้มทางสายตาและโล่งอกไปตามๆกัน

...

“อะไรนะ !!! โปเกม่อนกิลด์ที่นี่ปิดไปแล้ว !!!!?” เซอร์ไนท์กล่าวเสียงดังด้วยความตกใจ

“ใช่ฮะ ... ปิดไปนานมากแล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะใช้โปเกม่อนกิลด์ร่วมกับเมืองลิตเติ้ลรูท ทาวน์น่ะฮะ”

โคโนฮานะ(Nuzleaf)คนหนึ่งพูด “อีกอย่าง การเดินทางจากที่นี่ไปเมืองลิตเติ้ลรูททาวน์ไม่ได้ไกลมากด้วย เมืองของเรา

ก็ไม่ได้ใหญ่มาก ฉะนั้น โปเกม่อนกิลด์จึงถูกปิดไปฮะ”

“แล้วที่นี้เราจะทำยังไงกันล่ะ !!” มัสสึกุมะโวยวาย “เราหาคนจะไปช่วยบอสได้ยังไง !!”

“ใจเย็นๆก่อนค่ะ” ลันตันพูดอย่างใจเย็น “ที่นี่ไม่มีคนที่พอจะช่วยเราได้เลยหรอคะ?”

“ฮะ คนของเราที่นี่ก็มีเฉพาะพวกเด็กๆกับคนชรากลับบ้านเกิดเท่านั้นแหล่ะฮะ”

ฟลายก้อนขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกัดฟันกรอด เซอร์ไนท์กอดอกอย่างไม่พอใจ

“...หือ?”

“มีอะไรหรอคะท่านฟลายก้อน?”

“นั่น ... อะไรน่ะ?”

...

ฟ้าวววววว ~~~~ !!!!!!!!!!!

“ว้าววววว  เยี่ยมไปเลย !!!” เอเนโคโรโร่ยืดมือขึ้นพร้อมกับร้องด้วยท่าทางตื่นเต้น มัสสึกุมะที่นั่งอยู่ด้านหลังบ่นทันที

“อยู่นิ่งๆเซ่ เดี๋ยวข้าก็ตกพอดี -_-!”

“ตกไปเลย ! แบร่”

“หน็อย ...”

“พอได้แล้วทั้งสองคน” เซอร์ไนท์เอ็ด “ข้ากำลังใช้สมาธิอยู่”

“จะว่าไปเครื่องนี่ก็เร็วดีเหมือนกันนะคะ...” ลันตันที่นั่งอยู่หลังฟลายก้อนอีกเครื่องหนึ่งพึมพำ

“....” (อื้อ)

พวกฟลายก้อนกำลังนั่งอยู่บนพาหนะชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ‘แม็กเน็ต แมชชีน’ เป็นคล้ายๆกับเจ็ตสกีขนาดปานกลาง

ที่สามารถนั่งได้ประมาณ 2-3 คน (นั่งต่อกันเป็นแถว) ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงดันตัวเครื่องขึ้นจากพื้น และสามารถ

ใช้ขับเป็นพาหนะได้ ฟลายก้อนไปเจอแมชชีนก่าๆนี้ที่ข้างโปเกม่อนกิลด์ คลับคล้ายคลับคลาว่าจะไม่มีใครใช้แล้ว

จึงเอ่ยปากถาม คิเรฮานะคนนั้นบอกว่า ทุกโปเกม่อนกิลด์ส่วนใหญ่ย่อมมีให้เช่าขับไปที่อื่นๆได้  ซึ่งเมื่อก่อนโปเกม่อนกิลด์

ที่นี่มีก็มีให้เช่า แต่ทว่าราคาการเช่านั้นสูงเกินไปเลยไม่ค่อยมีคนนิยมใช้และในเมืองนี้ไม่ค่อยมีคนเดินทางซักเท่าไหร่

จึงถูกปิดการใช้งาน ฟลายก้อนไปสำรวจแมชชีนนั้นก็พบว่ามันยังสามารถใช้การได้อยู่ เลยให้ลันตันช็อตไฟฟ้าปลุก

ตัวเครื่องขึ้นมา ตอนนี้กำลังขับแมชชีนตัดผ่านถนน 102 มุ่งหน้าไปยังเมืองเพทัลเบิร์กทาวน์

...

“เจ้ารู้จักข้า?”

บาชาโม่ขมวดคิ้ว นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มประกายหม่นเจือปนความสงสัย หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะพูด

“อืม” เธอตอบกลับสั้นๆ ยังไม่ทันที่บาชาโม่จะได้ถามอะไรต่อ หญิงสาวก็พูดต่อขึ้นมาเอง

“ข้าชื่อจูไคน์(Sceptile) เป็นนายหญิงของเหล่าคิโมริทั้งปวง” เธอกล่าว

“เจ้าเข้ามาในป่าคิโมริได้อย่างไร ในเมื่อมันเป็นเขตห้ามเข้า”

“เขตห้ามเข้า? มันไม่ได้มีบอกไว้นี่”

“มีสิ” จูไคน์ตอบ “ป้ายด้านหน้าป่าไง”

“ป้าย ...” บาชาโม่นึกย้อนกลับไป “ป้ายเก่าๆที่มองไม่เห็นตัวอักษรน่ะหรอ”

“ใช่ สงสัยมาคงจะเก่าเกินไปแล้วล่ะสิ....” จูไคน์หัวเราะเบาๆ “เอาล่ะ ไหนขอข้าดูแผลหน่อยซิ”

“แผล?” บาชาโม่ทวนคำอีกรอบพร้อมทำหน้ามึนงง จูไคน์ยิ้มก่อนที่จะเข้ามาลูบบาดแผลตรงใบหน้าของเขา “นี่ไง”

“งั้นหรอ..” บาชาโม่ตอบกลับเบาๆ

“ทานนี่ซะก่อนสิ” จูไคน์ยื่นเบอร์รี่ลูกกลมเล็กสีเหลืองที่บรรจุในกล่องมาให้บาชาโม่  “ขอโทษที่มีน้อย มันหายากน่ะ”

“ซิทรัสเบอร์รี่?”

“อืม”

จูไคน์เดินไปหยิบอุปกรณ์การรักษาอื่นๆบนโต๊ะ บาชาโม่นั่งทานเบอร์รี่ไปพลางจนหมด เธอเดินกลับมาพร้อม

[Paralyze Heal] และ [Hyper Potion]เธอเริ่มฉีดยาลงไปที่แผลของบาชาโม่ สักพักจูไคน์ก็พึมพำออกมาเบาๆ

“พอข้าเห็นเจ้า ข้าก็นึกถึงเพื่อนเก่าของข้าเลย”

“งั้นรึ ..” บาชาโม่ตอบเรียบๆ “แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ”

จูไคน์สะอึกไปเล็กน้อยก่อนที่จะพูดด้วยเสียงเรียบๆ “... ตายไปแล้ว”

บาชาโม่เบิกตาขึ้นเล็กน้อย เขาทำท่าอึกอัก จูไคน์ยิ้มบางๆกลั้วหัวเราะ “ช่างมันเถอะ ... ว่าแต่ว่า”

“...”

“เจ้า ... มาจากโลกอื่นสินะ...”

“หือ?”

“ข้ารู้เรื่องของเจ้าแล้วล่ะ บาชาโม่”

To Be Continue …

Spoiler

 

ขออภัยกับชื่อตอนสุดกาก ...

ชื่อตอนไม่ได้สื่อถึงเนื้อเรื่องเลยอ่ะ ฮือๆๆ แต่ช่างมันเถอะ สลับฉากกันไปกันมาจับใจความเรื่องไม่ได้  :pika13:

เอาล่ะค่ะ หลังจากที่เลทมา 3 วันก็มาอัพให้แล้วนะคะ (จริงๆกะจะอัพพรุ่งนี้) แต่ก็นะ ...

ก็ หลังจากที่ฝ่าฟันอุปสรรคในบทที่ 10 มาได้แล้ว ก็เลยอัพซะเลยน่ะค่ะ แล้วค่อยอัพอีกทีอาทิตย์หน้าเลย

ก็นะ ตอนนี้ก็บอกไปหลายอย่างอยู่ ไว้ติดตามกันในตอนหน้านะคะ !!

 

Spoiler

 

“ข้า โอสึบาเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยกองปราบปรามอันธพาลเขตเมือง ผู้หญิงคนเดียวที่ทำหน้าที่นี้ในประวัติศาสตร์

โปเกโพลิส สเตชั่น ปัจจุบันทำหน้าที่ประจำที่โปเกม่อนกิลด์เพทัลเบิร์กเทาน์ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ”

ตัดมาให้แค่นี้พอ กิ๊ๆๆๆ ไว้พบกันใหม่ในตอนหน้า ตอน "แม่ยอดหญิง" ค่ะ !! :pika01:

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

รู้สึกว่าจูไคน์กับบาชาโม่จะมีอดีตอะไรางอย่าง..

[me=Solanis]รออ่านต่อ[/me]

Link to comment
Share on other sites

จูไคน์กับบาชาโม่ อืม...น่าจิ้นแฮะ :psyduck02: #โดนเก็บ ยังไงก็รอติดตามค่ะ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

บาซาโม่ ความหลัง และ จูไคน์

ถ้าจูไคน์รู้จัก บาซาโมจริง แล้วรู้จักได้ยังไงนะ...

1)เป็นเครือญาติกัน

2)เกี่ยวกับเรื่องมิติและเวลา (แอบคิดไว้อยู่ แต่อธิบายไม่ถูกเหะ)

3)เป็นเพื่อนกัน ในวัยเด็ก

เอาเป็นว่ารอดูต่อไปดีกว่า

Link to comment
Share on other sites

อืม เปิดตัวละครใหม่อีกคัว ตำรวจนก?

แต่ว่า จูไคน์กับบาชาโม่ แถมจูไคน์รู้เรื่องด้วย น่าจะเป็น 1 ในตัวละครKeyเรื่อง ไม่ก็ บอกKeyสำคัญในเรื่องซินะ

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

บทที่ 7 แม่ยอดหญิง

Spoiler

 

เอี๊ยดดดดดดดดด !!!

แม็กเน็ต แมชชีนสองเครื่องลงจอดที่หน้าโปเกม่อนกิลด์ที่เมืองเพทัลเบิร์ก  เมืองนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่ มีบ้านเรือนและ

ห้างสินค้าอยู่ระราน ผู้คนเดินขวักไขว่ ถือเป็นเมืองที่คนเยอะและเจริญพอสมควร เมื่อเทียบกับสองเมืองที่แล้ว

ชายผมสีเขียวเข้มลงมาจากแมชชีนพร้อมกับหญิงร่างเล็กผมยาวสีฟ้ามัดปลายทันที ทั้งสองวิ่งเข้าไปในโปเกม่อนกิลด์

ขนาดใหญ่ที่พื้นเป็นหินอ่อนและมีโคมไฟระย้าด้านบนดูไฮโซขึ้นมาอีกนิด ตามด้วยวัยรุ่นชายหญิงสองคนและผู้หญิง

รูปร่างสูง

“ขอโทษนะคะ !” ลันตันกดกริ่งที่เคาน์เตอร์พร้อมกับเรียกเสียงดัง “มีใครอยู่มั้ยคะ?”

มีร่างอรชรผอมเพรียวเยื้องออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ เป็นหญิงรูปร่างสูงโปร่งมัดรวบผมสีน้ำเงินประกาย สวมผ้าคลุม

ยาวสีกรมท่า สวมเสื้อแขนยาวสีแดงสดและกระโปรงสั้นสีดำ รองเท้าส้นตึกกระทบพื้นหินอ่อนดังก้อง เธอเดินตรงมาที่

เคาน์เตอร์พร้อม

“มีอะไรให้ช่วยรึ?”

ฟลายก้อนขมวดคิ้วแว้บหนึ่ง ก่อนจะส่งท่าทางให้กับลันตัน เธอมองหน้าหญิงสาวและพยักหน้าหงึกๆ

“เอ่อ ... ใช่ท่านโอสึบาเมะรึเปล่าคะ?”

“หือ? ใช่แล้ว มีธุระอะไรหรอ?”

ลันตันกวักมือเรียกมัสสึกุมะให้เข้ามาใกล้ๆ

“ส่งจดหมายนั่นให้เธอสิมัสคุง”

“อ้อ ได้เลย” มัสสึกุมะค้นตัวและยื่นกระดาษม้วนหนึ่งให้กับโอสึบาเมะ “จดหมายจากอาเมโมส เจ้าหน้าที่โปเกม่อนกิลด์

เมืองลิตเติ้ลรูท ทาวน์ครับ !!”

“อาเมโมส?” โอสีบาเมะทวนเสียงสูงพร้อมกับรับจดหมายมา “ขออนุญาตสักครู่” เธอบรรจงเปิดม้วนกระดาษออก

และอ่านข้อความข้างใน สักพักเธอก็ขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกับปิดกระดาษลง โอสึบาเมะหันมาหาพวกฟลายก้อน

“เอาล่ะ พวกท่านมีธุระอะไรรึ?”

เซอร์ไนท์ไม่รอช้า เธอตอบกลับทันที “พวกเราต้องการความช่วยเหลือ !”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ?”

“คือว่า ...”

“บอสของเราหายไป !” เอเนโคโรโร่พูดแบบตัดบท ไม่มีน้ำมีแต่เนื้อ

“เราคิดว่าบอสถูกจับตัวไป เพราะปกติบอสของเราต้อสู้เก่งมากๆเลยล่ะ !!” เอเนโคโรโร่พูดพร้อมทำท่ามั่นใจสุดๆ

นัยน์ตาสีชมพูประกายแสดงถึงความมั่นใจ

“จับตัว?” โอสึบาเมะเบิกตาขึ้นเลิกน้อย “หรือว่าจะเป็น...”

“เป็น?”

“เอาล่ะ พวกเจ้า ตามข้ามานะ...”

-      ต่อมา        -

สมาชิกทีม Wait Me นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของโอสึบาเมะ เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์เรียบๆ

บนโต๊ะทำงานมีโน๊ตบุ๊คตั้งอยู่และกองเอกสารอื่นๆอีกมากมาย

พวกเขานั่งอยู่บนโซฟาสีดำนุ่มนิ่มล้อมรอบโต๊ะกระจกที่มีถ้วยชาวางอยู่ โอสึบาเมะจิบชาเล็กน้อยก็ที่จะเกริ่นเรื่อง

“ที่ข้าเชิญพวกเจ้ามา เพราะว่าข้ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย” โอสึบาเมะกล่าว “หัวหน้ากลุ่มของพวกเจ้าหายตัวไป

ในป่า 102 ใช่ไหม?”

“ใช่” เซอร์ไนท์ตอบ

“ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามา ... เพราะว่าข้าเกรงว่าบอสของพวกเจ้าจะถูกจับตัวไป ไม่ก็ถูกลักพาตัวไป” เธอกล่าว

“แต่โดยปกติ ไม่ค่อยจะมีเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก จะมีก็ต่อเมื่อ ... พวกอันธพาลย้อนกลับน่ะ และในจดหมายนี้”

โอสึบาเมะชูกระดาษม้วนขึ้นและกล่าวต่อ “ในจดหมายนี้มีเรื่องแจ้งสำคัญ กล่าวคือ พวกอันธพาลโพชิเอน่า

ได้ไปเชิญบอสใหญ่กราเอน่ามาจากเมืองอื่น ได้ข่าวจากโปเกโพลิส สเตชั่นว่ามันบุกมาที่นี่ บริเวณถนน 101

102 และป่าต้องห้าม”

“ป่าต้องห้าม?” ลันตันทวน

“อื้อ ป่าต้องห้าม ป่าของพวกคิโมริน่ะ” โอสึบาเมะอธิบาย “ที่มีป้ายเตือนไว้นั่นไง”

“ป้ายเตือน ... หรือว่า !!” มัสสึกุมะ

“ป่านั่น !” ทุกคนพูดพร้อมกัน

“หา?” โอสึบาเมะขมวดคิ้ว

“บอสเราหายไปที่นั่นแหล่ะ !” เอเนโคโรโร่ร้อง

“งั้นรึ งั้นก็มีโอกาสเสี่ยง” เธอตอบ “พวกเราต้องรีบส่งกำลังไปช่วย แต่ตอนนี้ยังมีกำลังไม่พอ รอเจ้าหน้าที่ไรโวลท์

ที่จะย้ายมาอีกสักครู่นะ”

“ข้าขออธิบายรายละเอียดต่อนะ”

“สาเหตุที่บอสใหญ่ย้ายมาเพราะว่ามีจุดประสงค์บางอย่าง นั่นคือการล้างแค้น ... ได้ยินมาว่ามีทีมๆนึงไปกระตุกหนวดเสือ

เข้าน่ะนะ ...”

“ทะ ... ทีมๆนึง?” ทุกคนหน้าซีด

“ใช่ ทำไมรึ?”

ทุกคนมองหน้ากัน ลันตันปริปากพูกออกไป “ทีมนั้น ... คือพวกเราเองค่ะ”

“ว่าอย่างไรนะ !?” โอสึบาเมะเบิกตาโพลง “ทำไมพวกเจ้าทำแบบนั้นล่ะ !”

“คือว่า ... “ ลันตันอธิบาย “พวกเราไปช่วยคนบริสุทธิ์น่ะค่ะ ไม่ได้ไปหาเรื่องเลย อาจจะมาจากสาเหตุนี้ค่ะ”

“งั้นรึ” เธอตอบกลับพร้อมขมวดคิ้ว “ข้าคิดว่า พวกอันธพาลตอนนี้น่าจะกำลังเคลื่อนย้ายกำลังมายังบริเวณถนน 102

ใกล้ๆป่าต้องห้าม การที่บอสของพวกเจ้าหายตัวไปอาจจะถูกกราเอน่าพาตัวไป ที่น่ากังวลอีกอย่าง หากพวกเจ้า

เข้าไปในป่าต้องห้ามล่ะก็ พวกเจ้าจะพูกพวกคิโมริโจมตีเนื่องจากเป็น ‘ผู้บุกรุก’ บอสของเจ้าอาจจะตกอยู่ในอันตราย

ได้ 2 ทาง ... แต่หากพวกกราเอน่าหลุดเข้ามายังป่าต้องห้ามด้วยล่ะก็ พวกมันก็จะถูกโจมตีด้วยเช่นกัน แต่ข้าไม่แน่ใจ

ว่าพวกคิโมริจะต่อต้านได้หรอกนะ ... แก๊งอันธพาลนี่ก็ฝีมือไม่ใช่ธรรมดาทีเดียว”

“งั้นหรอคะ...” ลันตัน

“แล้วทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องดีขนาดนั้นล่ะ?” เซอร์ไนท์ถามพลางขมวดคิ้ว

“อ้อ ทำไมน่ะหรอ...” โอสึบาเมะลากเสียงยาว “งั้นข้าขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยแล้วกันนะ” เธอกล่าวยิ้มๆ

“ข้า โอสึบาเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยกองปราบปรามอันธพาลเขตเมือง ผู้หญิงคนเดียวที่ทำหน้าที่นี้ในประวัติศาสตร์

โปเกโพลิส สเตชั่น ปัจจุบันทำหน้าที่ประจำที่โปเกม่อนกิลด์เพทัลเบิร์กทาวน์ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ”

ผะ ... ผู้หญิงคนเดียว ... หัวหน้าหน่วยกองปราบปราม !?

สมาชิกคนอื่นๆคิดแบบเหวอ แข็งทื่อไปซะแล้ว เอวัง ....

...

“กองกำลัง A สำรวจพื้นที่รอบถนน 102 จับตาดูการเคลื่อนไหวให้ดี อ้อ ! เอานี่ไป เครื่องตรวจจับสัญญาณ

สำรวจให้ทั่วด้วยนะ เจ้าหน้าที่ฟูดินคอยเป็นกองกำลังเสริมนะคะ เอาล่ะ กองกำลัง B เข้าตรวจพื้นที่ในป่านะ !

กองกำลัง C จับตาดูพื้นที่ป่าต้องห้าม มีอะไรเคลื่อนไหวรายงานมาบอกทันที อย่าลืมให้เจ้าหน้าที่ฟูดินตรวจจับ

สัญญาณล่ะ ... อ่าฮะ กองกำลังเสริมติดตามกองกำลังหลักให้ดีนะ ! มีการแจ้งขอความช่วยเหลือเมื่อไหร่ให้รีบไปทันที

แล้วก็... “

โอสึบาเมะกำลังจัดแจงกองกำลังทั้งหมดที่ย้ายเข้ามาในเมือง เธอยืนเท้าสะเอวชี้นิ้วพร้อมกับพูดตัดสินใจอย่าง

คล่องแคล่ว ถึงแม้ว่าจะหมดหน้าที่หัวหน้าหน่วยกองปราบปรามไปแล้วแต่เธอก็ยังคงไฟแรงอยู่ดี

สมาชิกทีม Wait Me ยืนรออย่างสงบ แน่นอนว่าพวกเขามีส่วนร่วมด้วย พวกเขาคือกองกำลังพิเศษที่จะเข้าปราบปราม

อันธพาลโดยตรง และสามารถจะตามหาบาชาโม่ได้อีกด้วย

“....?” (พร้อมกันรึยังทุกคน?)

“พร้อมยิ่งกว่าพร้อม !!” เอเนโคโรโร่

“พร้อมแล้ว ~ !” มัสสึกุมะ

“พร้อมแล้วค่ะ ...” ลันตัน

“... ตามนั้น !” เซอร์ไนท์

...

“จะ ... เจ้ารู้ได้ยังไง?” บาชาโม่เบิกตาขึ้นเล็กน้อย สีหน้าแสดงถึงความตกใจปนสงสัย

จูไคน์ยิ้ม เธอตอบกลับเบาๆ “เราต้องคุยกันอีกยาว ... บาชาโม่”

ขณะนี้จูไคน์และบาชาโม่กำลังนั่งอยู่บนกองฟางนุ่มที่คล้ายเบาะนวม จูไคน์ยกกาน้ำชาขึ้นเทใส่แก้วชาโบราณทั้งสองแก้ว

เธอยกขึ้นมาจิบอย่างสบายๆ ทว่านัยน์ตาสีอำพันของเธอไม่ได้สื่อถึงความสบายมากนัก

บาชาโม่ขมวดคิ้วมุ่น นัยน์ตาสีแดงเพลิงแสดงถึงความสงสัย

“ข้ารู้จักเจ้า เพราะว่ามีคนมาบอกข้า”

“ใคร?”

“ข้าจะเล่าให้แต่ต้นเรื่องเลยแล้วกันนะ ..” จูไคน์วางแก้วน้ำชาลงพร้อมกับเริ่มเล่า

“เมื่อคืนวานนี้ ... ข้าฝันเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีร่างสีขาวสว่างและเลือนราง เธอยิ้มก่อนจะพูดกับข้า...”

เด็กสาวคนหนึ่ง ... ร่างเลือนราง ... หรืออาจจะเป็นแสงสีขาวนั่น ... บาชาโม่เก็บความคิดนี้ไว้ในใจและฟังต่อ

“เธอบอกว่า จะมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาจากโลกอื่น เจ้าของผมยาวสลวยสีเหลืองนวล นัยน์ตาสีแดงเพลิงดั่งพระสุริยันทอแสง

เป็นตัวแทนแห่งไฟ และเธอก็บอกต่ออีกว่า ... เขาคือบาชาโม่ เมื่อข้าพบเจ้า ให้มอบสิ่งนี้แก่เจ้า ....”

เมื่อจูไคน์พูดจบ เธอก็หยิบบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อ บาชาโม่เบิกตาขึ้นเล็กน้อย

“ของๆเจ้าสินะ?”

“นั่นมัน....”

ล็อกเก็ตสีทองสลักอักษร ‘M’ ประกายแสงอยู่เบื้องหน้า บาชาโม่รับมันมาพร้อมกับบรรจงเปิดล็อกเก็ตออกมาดู

ภายในนั้นเป็นรูปเด็กสาวมัดรวบผมสีน้ำตาลแดงยิ้มหวาน ยืนอยู่ตรงกลางภาพขนาบกับเด็กชายผมสีน้ำตาลเข้ม

ซอยสั้นที่อยู่ด้านขวา และเด็กสาวผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มอยู่ด้านซ้าย เป็นภาพเก่าๆขาดๆไม่ค่อยสมประกอบ

ทว่าเด็กสาวตรงกลางเป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดในรูป บาชาโม่ปิดล็อกเก็ตลงพร้อมนำมันสวมคอ

จูไคน์กล่าวต่ออย่างแผ่วเบา “เธอบอกว่า ... เจ้าคือคนสำคัญ .....”

“หือ?”

“บาชาโม่ และพวกพ้องของเขา ... เป็นคนสำคัญ ... ”

“...”

“ความหวังจะอยู่ที่พวกเจ้านะ” จูไคน์กล่าวพร้อมจ้องหน้าบาชาโม่ เจ้าตัวแสดงสีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่เข้าใจ

“ซักวันเจ้าจะเข้าใจเอง” จูไคน์บอก “ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก ... นอกจากตัวเจ้าจะกำหนดเอง...”

“...”

บรึ้ม !!!!!!!!!!!!!

เสียงระเบิดดังออกมาจากข้างนอก แรงสั่นสะเทือนสะเทือนมาถึงในถ้ำ บาชาโม่และจูไคน์รีบออกไปดูด้านนอกทันที

“จุปทอล !!!” จูไคน์ตะโกน

จุปทอลกำลังฟาดฟันกับกลุ่มโพชิเอน่าวัยรุ่นที่ล้อมตัวอยู่ 3 คน บนใบหน้ามีรอยข่วนและเลือดซิบๆ เขาจับดาบในมือแน่น

ก่อนที่จะหวดดาบฟันมนุษย์หมาป่าสามคนเป็นทางยาวและล้มไปตามๆกัน จุปทอลหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อย

“นะ ... นายหญิง?” สายตาของจุปทอลมาปะทะกับจูไคน์และบาชาโม่ที่ยืนอยู่นอกถ้ำ

“เจ้า !!” จุปทอลตะโกนใส่บาชาโม่ “เจ้าเป็นคนพาพวกกราเอน่ามาที่นี่ใช่มั้ย !!?”

“ใจเย็นๆก่อนจุปทอล” จูไคน์ถลาเข้ามาหา “บาชาโม่เป็นคนดี .. เชื่อข้าสิ แล้วพวกเด็กๆล่ะ?”

“ย้ายเข้าไปอยู่ในเขตปลอดภัยแล้วขอรับ ตอนนี้มีแค่พวกคิโมริรุ่นพี่ที่กำลังต่อต้านฝูงโพชิเอน่าอยู่ขอรับ”

“งั้นหรอ ... แล้วนี่เจ้าไหวรึเปล่า ไหนขอข้าดูแผลหน่อยซิ”

“มะ .. ไม่ ! ข้าไม่เป็นไร” จุปทอลถอยหน้าออก ใบหน้าแดงระเรื่อ “ตอนนี้ข้าต้องจัดการพวกโพชิเอน่าอีกเยอะขอรับ”

“งั้นเจ้าคอยจัดการไปก่อนนะ ข้าจะไปดูพวกคิโมริรุ่นพี่หน่อย ...” จูไคน์ตอบกลับและกำลังจะหันหลัง ทว่า ...

“นายหญิง ! ระวัง !!!”

ชลัวะ !!!!!!!

กรงเล็บยาวของบาชาโม่ฟันเข้าที่กลางหลังของโพชิเอน่าลอบกัดคนหนึ่งทันที สายตาคมกริบทอดมายังจุปทอล

“ให้ข้าร่วมด้วยคน”

จุปทอลมองหน้าตอบกลับ สักพักเขาก็ยิ้มอย่างนึกสนุก

“เอาสิ”

To Be Continue …

Spoiler

 

สวัสดีค่ะ มาอัพให้แล้วนะคะ !

ก็ ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก(มั้ง) เปิดตัวแม่ยอดหญิงแล้วน้า  :pika01: ตอนหน้ามันส์แน่ค่ะ ! สู้จัดเต็ม เอากันให้ตายไปข้าง !

และเผยความหลังของจูไคน์ !! พบกันในบทที่ 8 กราเอน่าค่ะ !!!!!!! ติดตามกันด้วยนะคะ !

Ps. พูดถึงความหลังของจูไคน์ พบกับบทพิเศษได้ในตอนหน้า หลังบทที่ 8 ค่ะ รับประกันความสนุก ไว้พบกันค่ะ :)

 

Spoiler

 

“ข้าแค่แวะมา ‘ทักทายเพื่อนเก่า’ เท่านั้นเอง”

“ข้าไม่เคยเป็นเพื่อนกับเจ้า !”

“เจ้าทำเพื่อนของเจ้าตายน่ะ ... จำได้ไหม?”

“จะ ... เจ้า !!”

เอาแหล่ว เอาแหล่ว สงครามเล็กๆได้เกิดขึ้นซะแล้ว ติดตามได้ในตอนหน้าค่ะ !!!!

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

เริ่มถึงฉากต่อสู้แล้ว ลุ้น ๆๆ

โอสึบาเมะนี่สั่งการได้สุดยอดมาก รัวซะ

เรื่องราวของจูไคน์กำลังจะเปิดเผยสินะ อืมมม รอติดตาม

Link to comment
Share on other sites

มี 2 โลก แต่ราวกับว่ามีช่องว่าบางอย่างถูกบิดเบือน แต่ก็มีปมบางๆที่ยังเชื่อมกันอยู่

จิราชินั่น ตัวละครkeyซินะ ค่อนข้างชัดเจน แต่ยอสใหญ่ตบกัยบอสบาชาโม่เหรอ? น่าสนใจจริง

Link to comment
Share on other sites

บอสบทน้อยจัง :pika04: แต่เอาเถอะ ได้มานิดนึงก็ยังดี จะได้สนุกกับฉากต่อสู้แล้ว :pika10: แล้วเรื่องราวของจูไคน์จะเป็นยังไงนะ? รอติดตามค่ะ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

บทที่ 8 กราเอน่า VS จูไคน์

Spoiler

 

หมับ ผลั่ก ผลัวะ !!!

บาชาโม่และจุปทอลรุมกระหน่ำสู้ฝูงโพชิเอน่าที่เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาเข้าขาต่อสู้กันได้เป็นอย่างดี

ฟุ่บ

“โอ๊ะ?”

“อ๊ะ?”

แผ่นหลังของทั้งสองชนกันโดยบังเอิญ

“หึ สู้ได้ไม่เลวเลยนี่...” จุปทอลหอบและกล่าวยิ้มๆ

“เจ้าก็เหมือนกัน ...” บาชาโม่ปาดเหงื่อและยิ้มมุมปาก

-     อีกด้านหนึ่ง    -

“จัดการเรียบร้อยแล้วสินะทุกคน” เมื่อจูไคน์มาถึงอีกฝั่งหนึ่ง เหล่าคิโมริรุ่นพี่ก็จัดการฝูงโพชิเอน่าส่วนน้อยได้หมดแล้ว

“พวกเจ้าไปพักเถอะ” เธอกล่าว “ข้าเตรียมอุปกรณ์ยาและผลเบอร์รี่ไว้กับเด็กๆแล้ว”

เหล่าคิโมริทยอยออกไปอย่างเหนื่อยๆ จูไคน์ทอดสายตามองไปรอบๆ เธอสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ....

มีบางอย่างเฉี่ยวหน้าท้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ ...” จูไคน์ร้อง เธอลูบหน้าท้องตัวเองไปมา ลักษณะนี้ ... ท่า [Thief] ?

“โอ๊ะโอ๋? สวัสดียามบ่ายนะนายหญิง ... ฮิฮิฮิ”

เสียงทุ้มกวนโสตประสาทดังขึ้นที่ข้างหูของจูไคน์ เธอเบิกตาโพลงก่อนที่จะหันไปประจัญบานกับเจ้าของเสียงทันที

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งยืนยิ้มกริ่ม มีรอยแผลเป็นยาวใต้ตาด้านซ้าย ผมยาวสีนิลปรกใบหน้า เขามัดรวบผม

ยาวต่ำอย่างลวกๆ ผมชี้ไปมาคล้ายขนสัตว์ มีใบหูหมาป่า นัยน์ตาสีแดงอมดำหม่น เขากระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากเผย

ให้เห็นเขี้ยวคมเล็กๆ มีผ้าผูกคอสีแดงสด ผู้ชายหน้าคมเข้มคนนี้ยืนเท้าเอวด้วยท่าสบายๆพร้อมกับชูแกนแอปเปิ้ลขึ้น

“เอ [Leftover] ของใครกันน้า หึหึหึ”

“เจ้า ....” จูไคน์กัดฟันกรอด “ต้องการอะไร !! กราเอน่า !!!”

“ท่าทางแบบนี้ไม่สมกับเป็นเจ้าเลยนะ จูไคน์” ‘กราเอน่า’ ยักคิ้วขึ้นพร้อมทำน้ำเสียงขบขัน

จูไคน์หลับตาสูดหายใจเข้าลึก เธอลืมตาขึ้นพร้อมกับกล่าวเสียงเย็น “ต้องการอะไร”

“โอ้ ค่อยสมกับเป็นเจ้าหน่อย” กราเอร่าพูดพร้อมโยนแกนแอปเปิ้ลไปมา “เจ้าไม่ใช่จูไคน์คนนั้นแล้วนี่นา...”

“หุบปาก !!!” จูไคน์ตะคอกอย่างเหลืออด กราเอน่ายิ้มกวน

“เอาล่ะๆ มาคุยกันแบบแฟร์ๆกันดีกว่านะ !”

“เจ้ามันอันธพาล ข้าไม่เชื่อว่าคนอย่างเจ้าจะมีความยุติธรรมในตัวหรอก”

“หึ ปากดีนักนะ !” กราเอน่าตะคอก เขาเก็บ [Leftover] ใส่เสื้อก่อนที่จะเดินตรงมายังจูไคน์

“ข้าไม่ได้มีธุระกับเจ้า“ เขาก้มหน้ามาใกล้และเชยคางจูไคน์ขึ้น นัยน์ตาสีนิลจับจ้องไปยังนัยน์ตาสีอำพันใสคู่นั้น

“ข้าแค่แวะมา ‘ทักทายเพื่อนเก่า’ เท่านั้นเอง”

“ข้าไม่เคยเป็นเพื่อนกับเจ้า !” จูไคน์กัดฟันกรอด

“เจ้าทำเพื่อนของเจ้าตายน่ะ ... จำได้ไหม?” กราเอน่ากระตุ้กยิ้มอย่างสะใจ จูไคน์หน้าซีดทันที

“จะ ... เจ้า !!”

“เฮอะ” กราเอน่าผละปลายคางของจูไคน์ออก แว้บนึงหูหมาป่าของเขาก็กระดิก ฝ่ามือของเขาพุ่งไปจับแขนของจูไคน์ทันที

“อย่าเล่นโกงๆแบบนี้สิ ... หึหึ” กราเอน่าพูด “ติดสถานะอัมพาตน่ะ ข้าเกลียดสุดๆไปเลย”

สเปรย์บรรจุผงสีเหลืองร่วงออกจากมือของจูไคน์ เธอตวัดสายตาจ้องชายหนุ่ม

“คนอย่างเจ้า มีหรือจะหาความยุติธรรมได้!”

“ก็ได้ ! ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็” กราเอน่าขึ้นเสียง “มาสู้กันเลยดีกว่า !!”

“ว่าไงนะ !”

“ข้าจะล้างแค้นให้กับรอยแผลนี่เอง หึ !” กราเอน่าสบถ “มาเริ่มกันเลยดีกว่า ! ข้าอยากรู้นักว่าฝีมือของเจ้าจะเหมือนเดิม

หรือไม่ !!!”

“เฮอะ”

จูไคน์เริ่มก่อน เธอวิ่งวนซิกแซกไปมาด้วยความเร็วสูงและคล่องแคล่ว กราเอน่ากระตุกยิ้มขึ้น

“รวดเร็วเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ... แต่ว่า”

ออร่าสีแดงครอบตัวกราเอน่าไว้ สายตาของเขาจับจ้องไปยังจูไคน์  สักพัก เธอก็ค่อยๆลดสปีดลง

อะ ... อะไรน่ะ ...  จูไคน์คิดในใจ เธอลดสปีดลงเรื่อยๆ เพราะว่าในหัวของเธอกำลังหมุนและสับสน หรือว่า …. [swagger] !?

“ท่าทางรู้ตัวแล้วล่ะสิ” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆในลำคอ เขาค่อยๆเดินมาหาจูไคน์ที่กำลังหยุดนิ่งและหอบหน่อยๆ

“ข้าอยากจะบอกว่า สปีดของเจ้ายังน่ารำคาญไม่เคยเปลี่ยนเลย !!” กราเอน่าจ้องหน้าจูไคน์ ก่อนจะทำหน้า

ที่ดูน่ากลัวและแยกเขี้ยวออก ดวงตาเบิกกว้าง จูไคน์สะดุ้งเฮือก เธอตอบสนองท่า [scary Face] ของกราเอน่าทันที

“แค่นี้สปีดของเจ้าก็ลดลงแล้วล่ะนะ ฮิฮิฮิ”

“ฮึ ...” จูไคน์ปาดเหงื่อ “มันก็แค่เริ่มต้น !”

จูไคน์พยายามสลัดความมึนงงออก และพุ่งชนด้วยท่า [slam] ใส่กราเอน่าที่อยู่ใกล้ตัวเธอทันที ชายหนุ่มกระเด็นออกไป

เขากำลังตั้งหลักได้ จูไคน์ไม่เปิดช่องว่าง เธอก้มตัวพุ่งชนกราเอน่าต่อด้วยความเร็วสูงด้วยท่า [Quick Attack] ทันที

“โอ้ ไม่มีช่องว่างเลยแหะ” กราเอน่าพูดพร้อมลูบหน้าท้องตัวเองที่โดนกระแทกถึงสองครั้ง “แต่อยู่ใกล้ๆแบบนี้แหละดี”

เขี้ยวของกราเอน่ายาวและเปล่งแสงขึ้นเรียงทุกซี่ และกัดเข้าที่แขนของจูไคน์ทันที

“โอ๊ย !!” จูไคน์ร้องด้วยความเจ็บปวด เสื้อที่แขนซ้ายของเธอขาด เผยให้เห็นรอยกัดสีแดง เลือดไหลออกมาซิบๆ

กราเอน่าตั้งหลัก กรงเล็บของเขายาวขึ้นพร้อมกับเตรียมจะข่วนด้วยท่า [Thief] ที่ตอนนี้กลายเป็นท่าโจมตีแทน

จูไคน์มึนงงเล็กน้อย เธอตั้งสติขึ้นได้และสวนกลับด้วยท่า [False Swipe]

เปรี้ยง !!

กรงเล็บทั้งสองปะทะกัน จูไคน์และกราเอน่าจ้องหน้าซึ่งกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“แรงเยอะดีนี่”

“เฮอะ !”

ใบไม้ที่แขนเสื้อของจูไคน์ยาวขึ้นและเปล่งแสงประกายสีเขียวออกมา กราเอน่าเบิกตาขึ้นเล็กน้อย

ฟึ่บ !!

[Leaf Blade] ของจูไคน์วืดผ่านตัวกราเอน่าไป กราเอน่าเบี่ยงตัวลงข้างล่างหลบอย่างฉิวเฉียด ทว่า...

ชลัวะ !!!!!

[Leaf Blade] ของแขนอีกข้างของจูไคน์ยังเหลือ เธอฟันเข้าที่แขนขวาของกราเอน่าเต็มๆ

“อ๊ากกกก !”

ช่วงจังหวะนี้จูไคน์ก็พุ่งชนเข้ากับกราเอน่าอีกรอบ เขากระเด็นไปไกลและกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง

พลั่ก !!!

จูไคน์หอบเล็กน้อย ขณะนี้เธอเป็นฝ่ายได้เปรียบ นัยน์ตาสีอำพันมองมนุษย์หมาป่าอย่างใจเย็น

“พอสักที กราเอน่า”

“ไม่ !!!!!” กราเอน่าตะโกน ดวงตาสีแดงลุกโชนขึ้นแสดงถึงความโกรธ กัดฟันกรอด “ข้าไม่มีวันแพ้เจ้า จูไคน์ ! ไม่มีวัน !!!”

พูดจบ กราเอน่าก็กระโดดขึ้นพุ่งตัวจมลงในดิน

“ท่า [Dig] ?!” จูไคน์เบิกตาขึ้นเล็กน้อย เธอตวัดสายตามองไปรอบๆอย่างชั่งใจ แผ่นดินเริ่มสะเทือนขึ้นอย่างช้าๆ

กึก กึก กึก กึก กึก

“...”

ผลุ่บ !!

กราเอน่าโผล่ขึ้นมาจากดินทางด้านหลังของจูไคน์ และพุ่งเข้าไปกัดที่ต้นคอของเธอทันที

ยังไม่ทันที่จูไคน์จะตั้งตัว กราเอน่าก็ต่อด้วยท่า [Take Down] ชนเธออย่างแรง จูไคน์จุกไปวูบหนึ่ง เธอล้มลงพร้อม

กับกุมท้องตัวเอง สายตาตวัดขึ้นมองมนุษย์หมาป่า

“ข้าไม่มีวันแพ้เจ้า ... ไม่มีวัน !” กราเอน่าพึมพำ นัยน์ตาสีแดงแสดงถึงความเคียดแค้น

“พอสักที!” จูไคน์ตะคอกด้วยความเหลืออด “จบเรื่องนี้สักที !”

กราเอน่าไม่ฟังจะอีกต่อไป กรงเล็บของเขายาวขึ้นด้วยท่า [Thief]

“ข้ากำลังจะจบอยู่นี่ไง ...”

จูไคน์เบิกตาขึ้น กราเอน่าเงื้อกรงเล็บขึ้นหมายจะแทงร่างอรชร ทว่า

กึก !

แสงสีเขียวแว้บขึ้นในนัยน์ตาของจูไคน์ กรงเล็บวืดผ่านตัวเธอ เธอป้องกันกรงเล็บด้วยท่า [Detect] นั่นเอง

จูไคน์ลุกขึ้น ผลักกราเอน่าออกก่อนที่จะกล่าว

“เรื่องนี้มันเกิดที่เราสองคน ... ก็ให้มันจบลงที่เราเถอะ”

หญิงสาวสะบัดมือทั้งสองเข้าด้วยกัน ลูกพลังสีเหลืองสะท้อนแสงค่อยๆรวมตัวกันภายใต้ฝ่ามือ กราเอน่ากระตุกยิ้มขึ้น

เขาเดินออกห่างพร้อมค่อยๆรวบรวมพลังเข้ามาในฝ่ามือเช่นกัน ลูกพลังสีส้มเข้มค่อยๆทยอยรวมตัวกัน...

ลูกพลังของทั้งสองเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ... เรื่อยๆ .... จนกระทั่ง ....

“[solar Beam] / [Hyper Beam] !!!”

ฟ้าววววว เปรี้ยง !!!! บรึ้มมมมมมมมมมมม !!!!!!!!!  แรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั่วป่า

บาชาโม่และจุปทอลหันไปยังต้นเสียงระเบิด ทั้งสองไม่รีรอวิ่งไปยังต้นเหตุทันที และแล้วก็มาถึง

ร่างหญิงสาวผมสาวสีเขียวนอนสลบไสลอยู่บนพื้นดิน พื้นมีรอยดำไหม้เป็นวงกว้าง  บนใบหน้าของเธอมีแผลถลอก

นิดหน่อย จุปทอลปรี่เข้าไปหาจูไคน์โดยพลัน “นายหญิง ! นายหญิง !”

บาชาโม่มองไปรอบๆ สายตาคมกริบปะทะเข้ากับร่างๆหนึ่งที่พิงต้นไม้อยู่ไม่ไกล ผมยาวสีนิลปรกหน้า ร่างกายมีร่องรอย

การต่อสู้ สักพักใบหูมนุษย์หมาป่าก็กระดิก ร่างชายหนุ่มค่อยๆขยับ

“อึก ...”

กราเอน่าค่อยๆขยับตัวแต่ยังคงก้มหน้า สายตาไปเห็นร่างหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงข้าม ริมฝีปากก็กระตุกขึ้นยิ้มอย่างพอใจ

“หึ ... จูไคน์” เขาพึมพำ “ข้าฝากเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะ ...”

กราเอน่าค่อยๆลุกขึ้น จุปทอลหันมาดู บาชาโม่ยืนตรงหน้ากราเอน่าพร้อมกล่าวเสียงเรียบ

“เจ้าสินะ ที่บุกรุกป่าแห่งนี้”

“หือ?” กราเอน่าตวัดดวงตาสีนิลขึ้นมามองบาชาโม่ ก่อนที่จะยักคิ้วอย่างไม่แยแส จุปทอลเลือดขึ้นหน้าพร้อมกับชักดาบ

ออกมาและพุ่งไปหากราเอน่าอย่างรวดเร็ว กราเอน่าเบี่ยงคอหลบได้ ดาบเรียวยาวพุ่งแทงต้นไม้ด้านหลังทันที

จุปทอลจับด้ามดาบแน่น นัยน์ตาสีอำพันแสดงถึงความโกรธ กราเอน่าหัวเราะหึหึก่อนที่จะกล่าว

“ดูแลนายหญิงของเจ้าให้ดีๆล่ะ ...” เขาพูด “เดี๋ยวข้าจะมาล้างแค้นแน่นอน ... หึหึหึ”

“เจ้า !!!”

กราเอน่าทิ้งท้ายไว้ ก่อนที่กระโดดวิ่งหายไปในป่า จุปทอลดึงดาบออกจากต้นไม้ก่อนที่จะเขวี้ยงมันปักลงพื้น

“บ้าเอ๊ย !!!”

บาชาโม่มองกราเอน่าที่หายไปในป่าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ต่อมาเขาก็พูดขึ้น

“กลับไปที่ถ้ำก่อนเถอะ ... เราควรที่จะช่วยจูไคน์ก่อนนะ” บาชาโม่กล่าว “อีกอย่าง พวกเราก็บาดเจ็บเยอะอยู่เหมือนกัน”

“...ฮื้อ”

แซ่ก แซ่ก แซ่ก

เสียงพุ่มไม้ขยับ จุปทอลที่กำลังอุ้มจูไคน์ขึ้นเบิกตา บาชาโม่ตั้งท่าเตรียมสู้ ทว่า ...

“บอส !!!”

เสียงแหลมใสดังขึ้นใกล้ๆ บาชาโม่ขมวดคิ้ว เสียงนี้ ...

“บอสคร้าบบบบ !! อยู่ไหนเนี่ยยย !!!!!”

“ท่านบาชาโม่ !!”

“บาชาโม่ !!! เจ้าอยู่ไหน !!”

เสียงกลุ่มคนดังขึ้นปรายๆ บาชาโม่หันหลังไปประจันหน้ากับจุปทอล

“ข้าต้องไปแล้ว” เขาพูดเรียบๆ

“งั้นหรอ ...” จุปทอลกล่าวเสียงเบา “ลาก่อน”

“อืม ลาก่อน”  บาชาโม่หันหลังกลับ จุปทอลพึมพำเบาๆ “หวังว่าจะได้พบกันอีก ...”

บาชาโม่ไม่ได้หันหลังกลับไป เขายิ้มบางๆพร้อมกับโบกมือจากด้านหลังแทน และก็วิ่งหายเข้าป่าไป

ตึก ตึก ตึก

“บอส ... อ๊ะ !” เอเนโคโรโร่อุทาน เธอเห็นใครบางคนที่อยู่ลิบๆ “ทุกคนนนน มานี่เร็ว !”

“อะไรหรอ...” เซอร์ไนท์กับคนอื่นๆวิ่งตามมา

“นั่นใช่บอสรึเปล่าน่ะ” มัสสึกุมะพูดพร้อมหรี่ตาลงมอง

“น่าจะใช่นะคะ”

บาชาโม่ค่อยๆเดินลัดป่าตรงมายังพวกเขา คนอื่นๆเองที่เดินตรงไปหาบาชาโม่เองเช่นกัน

“บอส ~~ !! / บาชาโม่ !!”

ทันทีที่เห็นร่างชายผมยาวสลวย ทุกคนก็พูดพร้อมกันทันที เจ้าของชื่อยิ้มบางๆ ก่อนที่จะล้มลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น

“เป็นอะไรน่ะบาชาโม่ !” เซอร์ไนท์ร้อง

“ไม่ ไม่ ข้าไม่เป็นไร ...” บาชาโม่ตอบ “ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ”

“บอสแผลเต็มตัวเลย !” เอเนโคโรโร่

“ช่างเถอะ” บาชาโม่ตอบปัด “ว่าแต่ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ แล้วทำไมเปื้อนอะไรแบบนั้น?”

บาชาโม่ทอดสายตามองไปยังสมาชิกในทีมที่ตอนนี้มีแผลเล็กๆน้อยๆและเสื้อผ้าเปื้อนโคลนและดิน

“ไปตะลุมบอนมาน่ะบอส !” มัสสึกุมะพูดติดตลก

“ไว้ค่อยเล่าแล้วกันนะคะ” ลันตันบอก “ตอนนี้ไปพักผ่อนเถอะค่ะ”

“อืม...”

สมาชิกทีม Wait Me อยู่ครบทุกคนแล้ว พวกเขาค่อยๆทยอยเดินออกจากป่าไปพร้อมกับพูดอธิบายเล่าเรื่องไปพลาง

ท่ามกลางความโล่งอก...

To Be Continue …

มา อัพ แล้ววววววว

Spoiler

 

หลังจากที่ไม่ได้อัพมานานซะเหลือเกิน ตอนนี้ก็มาอัพให้แล้วนะคะ ! ตอนนี้นี่แบบว่าสู้กันจัดเต็ม

ตอนแต่งนี่แบบว่า แต่งไปเปิด serebii ไป เอาท่าไหนดีฟระ 555 ก็นะ เพิ่งเคยแต่งสู้กัน

แบบจริงๆจังๆ ขัดตรงไหนอะไรยังไงบอกมาเลยนะคะ จะเอาไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ  :pika01:

เผยความหลังของจูไคน์วับๆแวมๆ เอ เคยทำอะไรไว้กับกราเอน่ากันล่ะเนี่ย? ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ!

ตอนพิเศษ เผยความหลังของจูไคน์ ! เร็วๆนี้ค่ะ

 

 

Spoiler

 

“จูไคน์ ... ระวัง !”

“บะ ... บา .. บาชาโม่?”

“พวกเจ้า ... ไม่เป็นไรนะ?”

เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย ติดตามตอนต่อไป !! เม้นกันเยอะๆนะคะ !!!

 

 

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

ฝีมือต่อสู้ของจูไคน์ก็ไม่เลวนะเนี่ย

อยากรู้อดีตของจูไคน์จังแฮะ รอตามต่อเน่อ

Link to comment
Share on other sites

สนุกมากเลยค่ะ แต่งฉากต่อสู้เก่งจัง อดีตของจูไคน์เป็นมายังไงนะ? รอติดตามตอนต่อไปค่ะ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

หญิงแกร่งจริงๆ นับถือๆ แต่ประเด็นที่สู้กันต่างหากที่น่าติดตาม

ว่าแต่พวกWait Meนอกจากบาชาโม่แล้ว พวกแกไปทำอะไรมากเนี่ย = =lll

เธอก้มตัวพุ่งชนกราเอน่าต่อด้วยความเร็ว"แสง"

แสงเลยเหรอ  =A=lll สูงก็พอมั้ง

จุปทอลจับ"สัน"ดาบแน่น

ไม่ใช่ด้ามดาบเหรอ?

Link to comment
Share on other sites

ทำไมมันช่างรั่วอย่างนี้~

ตีกันได้หนุกมากครับ

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.