Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[FanFic] Eastern Fleet Story (Kantai Collection:KanColle)


ท่านลุงในตำนาน

Recommended Posts

เกริ่นนำ

กล่าวถึงอีกโลกคู่ขนานของมนุษย์ โลกที่เหมือนโลกมนุษย์ แต่มีสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ถูกเรียกว่า "ภูติ" อาศัยร่วมอยู่ด้วย โลกแห่งนี้สงบสุขไร้ซึ่งสงคราม ไม่เหมือนโลกมนุษย์ แม้ว่าจะถูกตัดขาดออกจากกัน แต่โลกแห่งนี้ก็ยังสามารถรู้ข่าวสารของอีกโลกได้

มาวันหนึ่ง โลกที่แสนสงบสุขแห่งนี้ กลับถูกรุกรานน่านน้ำ โดยสิ่งมีชีวิตปริศนาจากท้องทะเล โดยสิ่งมีชีวิตนี้ มีรูปลักษณ์คล้ายดั่งสตรีเพศ แต่ติดตั้งซึ่งอาวุธหนักของเรือรบ มวลมนุษยชาติจึงได้ตั้งชื่อผู้รุกรานนี้ว่า "กองเรือทะเลลึก"

เพื่อมิให้ต้องสูญเสียน่านน้ำและพื้นแผ่นดิน มนุษยชาติได้ร่วมมือกับเหล่า "ภูติ" สร้างอาวุธชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการนำเอาวิญญาณของเรือรบจากอีกโลกมาใส่ไว้ในร่างของหญิงสาว ทำให้มวลมนุษยชาติพอที่จะต่อกรกับศัตรูจากท้องทะเลได้ โดยหญิงสาวเหล่านั้น ถูกเรียกขานว่า "สาวเรือรบ"

ทว่าการใช้งาน "สาวเรือรบ" นั้นมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ดังนั้นจึงต้องมีการคัดเลือก มนุษย์ผู้ที่มีความสามารถที่จะเป็น "ผู้บัญชาการ" ของ "สาวเรือรบ" เข้าต่อกรกับศัตรู

และนี่ คือหนึ่งของเรื่องราวของ "ผู้บัญชาการ" "สาวเรือรบ" "ความสัมพันธ์" และ "ความอยู่รอดของมนุษยชาติ"

เผาน่าดู ขอแยกจากกระทู้เก่าเนื่องจากเป็น แฟนฟิคเต็มตัว อาจจะยาว

ตอนแรก เดี๋ยวมาลง เลิกงานก่อน ถ้าขยันก็เป็นเรื่องยาว ถ้าไม่ขยันก็ จบในตอน

Link to comment
Share on other sites

ศึกที่ทะเลคอรัล

'คิริชิมะ จากกองเรือตะวันออก รายงานค่ะ!! ตรวจพบกลุ่มข้าศึกกลุ่มใหญ่ รังของข้าศึกเขตทะเลคอรัล!! พวกเราพร้อมเข้าปะทะแล้วค่ะ!!'

'ทางนี้ มุทสึ จากกองตะวันตก รายงานค่ะ กองเรือตะวันตก พร้อมโจมตีสนับสนุนแล้วค่ะ รอการปะทะ!!'

เสียงรายงานผ่านลำโพงวิทยุสื่อสารจากเรือธงกองเรือที่หนึ่ง ตามด้วยกองเรือที่สอง ดังขึ้นภายในห้องของผู้บัญชาการ บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ และตึงเครียด ทั้งจากตัวของผู้บัญชาการวัยกลางคน และเหล่าเลขาสาว รวมไปถึงสาวๆ ที่แอบฟังอยู่นอกห้อง

"ก่อนการเข้าปะทะ ช่วยรายงานสภาพของเรือทุกลำหน่อยได้ไหม? คิริชิมะคุง"

ถึงสถานการณ์จะตึงเครียด แต่ตัวของผู้บัญชาการกองเรือบูรพา แห่งท่าเรือสุคุโมะ ยังมีท่าทีสงบ สอบถามสภาพของปลายสาย

'อ..เอ่อ...คือว่า....'

เสียงจากปลายสายตะกุกตะกักไป ทำให้ผู้บัญชาการคาดการณ์ได้ถึงสภาพกองเรือคร่าวๆ

"ไม่ไหวกันสินะ งั้นก็คงต้องถอยก่อน ไว้คราวหน้าค่อยบุกใหม่ละกันนะ"

"คงจะไม่ได้แล้วล่ะคะ ตอนนี้กองเรือของเรามีปัญหาเรื่องขาดแคลนยุทธปัจจัยอย่างหนัก และก็อีกไม่กี่วันนี้ หน่วยรายงานมาว่าจะมีพายุเข้าในเขตนั้นพอดี ซึ่งมันจะอันตรายมากๆ ในการออกทำศึกกลางสายฝนนะคะ"

โอโยโดะ หนึ่งในเลขา เอ่ยเตือนขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ ผู้บัญชาการก็รู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงจะเป็นห่วงพวกสาวเรือรบในแนวหน้า แต่โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว

"อืม....รายงาน สภาพของทุกคนมาก่อน คิริชิมะคุง"

'ค..ค่ะ ได้ค่ะ!! ดิฉัน เรือประจัญบาน คิริชิมะ เรือบรรทุกเครื่องบินมาตรฐาน คากะ ไม่ได้รับความเสียหายอะไร เรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโด โอย เสียหายเล็กน้อย เรือบรรทุกเครื่องบินเบา ริวโจว เสียหายพอสมควร เอ่อ...เรือบรรทุกเครื่องบินมาตรฐาน อาคากิ และเรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโด คิตากามิ เสียหายหนักค่ะ'

สิ้นเสียงรายงาน ผู้บัญชาการวัยกลางคน หลับตาลงครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น

"นี่คิริชิมะคุง ขอคุยกับ อาคากิคุง กับคิตากามิคุง หน่อยนะ ต่อสายตรงมาเลย"

.................

'คิริชิมะ จากกองเรือตะวันออก รายงานค่ะ!! กองเรือข้าศึก ถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว พวกเราได้รับชัยชนะแล้วค่ะ!!'

เสียงรายงานจากปลายสาย ดังพอที่จะได้ทั้งภายในห้องและนอกห้อง ความรู้สึกยินดีเปี่ยมล้น จนเหล่าสาวเรือรบที่รอฟังอยู่นอกห้องหลุดเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ

"ข้างนอก ช่วยเบาเสียงด้วยค่ะ!!"

โอโยโดะ หนึ่งในเลขาร้องเตือนขึ้นเสียงเข้ม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังอมยิ้มอยู่

"ฮิฮิ ก็กว่าจะชนะได้ เหนื่อยกันทุกคนเลยนี่คะ ที่นี้ก็ได้พักกันแล้ว"

ฮะจิ อีกหนึ่งในเลขาพูดต่อ ก่อนจะเริ่มหยิบหนังสือมาอ่าน ตามนิสัย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เธอแทบจะไม่ได้แตะหนังสือเลย

หลังจากเสียงข้างนอกเบาลง ผู้บัญชาการยิ้มน้อยๆ พลางเอนหลังพิงเก้าอี้นวมตัวเก่าอย่างผ่อนคลาย

"เอาล่ะ ฟังนะคิริชิมะคุง ที่เหลือจะมีกองเรือจากหน่วยเหนือไปควบคุมพื้นที่ ทำได้ดีมากทุกคน กลับมากันได้แล้วล่ะ"

'.....ร..รับทราบค่ะ.....อ..เอ่อ...'

เสียงรายงานจากปลายสายตะกุกตะกักอีกครั้ง ครั้งนี้ มีเพียงแค่คนในห้องเท่านั้นที่ได้ยิน และทั้งหมดก็พอเดาได้แล้วว่า ต้องมีเรื่องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน ผู้บัญชาการ ดีดตัวลุกขึ้นยืน สีหน้าเคร่งเครียด

"งั้นเหรอ?....กลับมารายงานที่ฐานก่อนเถอะ"

ผู้บัญชาการ พูดจบก็ค่อยๆ นั่งลง คิดถึงถึงเรื่องว่าจะรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นยังไงต่อไป

แม้ข้างนอกจะครืนแครงแต่ภายในห้องกลับตึงเครียดอีกครั้ง

"เอ่อ...ผู้บัญชาการคะ....."

เสียงของ โชวไค อีกหนึ่งในกลุ่มเลขา เรียกขึ้น ดึงสติของผู้บัญชการกลับมา

"คิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ ยังไงก็...พวกเธอออกไปเตรียมตัวต้อนรับพวกนั้นเถอะ"

ด้วยคำสั่งของผู้บัญชาการ เลขาทั้งสามจำต้องออกไปข้างนอก

"โฮย...นานแล้วนะนี่ที่ไม่ได้เห็น ตาลุงเสี่ยงดวงพลาด"

เสียงของสาวเรือรบอีกคน ดังขึ้นจากด้านหน้าโต๊ะทำงานของผู้บัญชาการบูรพา ซึ่งเจ้าของเสียงกำลังนอนกลิ้งอยู่นั่นเอง

"ตั้งใจจะตอกย้ำกันหรือยังไง? โมจิสึกิ"

ผู้บัญชาการ พูดพลางจงใจโยนเอกสารปึกหนึ่งยังต้นเสียง

"แอ๊ก!!"

สาวน้อยผมเผ้ายุ่งเหยิงสีน้ำตาลโผล่พรวดขึ้นมาพร้อมกระดาษเอกสารกระจายว่อน ใบหน้าบูดบึ่ง พอทำให้ผู้บัญชาการพอยิ้มออก

"ตาลุงโรคจิตนี่ก็..เห็นฉันเป็นพวกนิสัยเสียหรือยังไง..."

โมจิสึกิบ่นพลางก้มเก็บเอกสาร แล้ววางกระแทกโต๊ะคืน

ปึก***

"ฉันเอง ก็ไม่ได้ตั้งใจตอกย้ำหรอกนะ แค่อยากจะบอกว่า การตัดสินใจเสี่ยงดวงแบบนั้นน่ะ มันก็ทำให้ยัยนั่นต้องจมไป"

ถึงแม้จะบอกว่าไม่ใช่การตอกย้ำ คำพูดของโมจิสึกิกลับกระแทกเข้าไปในใจของผู้บัญชาการ

"โฮย...ยังไงฉันก็เป็นหนึ่งในเลขาล่ะนะ ขอตัวก่อนล่ะเน้อ"

พูดจบ โมจิสึกิ ก็เดินเอื่อยๆ ออกจากไปห้อง ทิ้งเพียงผู้บัญชาการให้อยู่เพียงลำพัง

..................

เวลาสายๆ ของวันต่อมา ฐานทัพเรือบูรพา แห่งท่าเรือสุคุโมะ ก็ยังดำเนินการฝึกซ้อมรบตามปกติ

และในวันนี้ สองพี่น้องกากุ พร้อมด้วยเรือพิฆาตหน้าใหม่อีกหกลำ ที่เพิ่งเข้ามาประจำการ ก็เริ่มซ้อมรบกันเอง ภายใต้การดูแลของโชวไค ที่มาควบคุมดูแลแทนคิริชิมะ ที่ออกไปปฏิบัติภารกิจ โดยแบ่งเป็นสองฝั่งเท่ากัน

"เฮ้~~!! พวกเรา ตรงนั้นมีอะไรมาด้วยล่ะ เปี้ยว~~!!"

ในระหว่างการซ้อมรบ เสียงของสาวเรือรบคนหนึ่งร้องขึ้น ทันที ที่เหล่ากองเรือทั้งสองกองที่ไปรบที่เขตทะเลคอรัล เดินทางกลับมาถึงเขตท่าเรือสุคุโมะ

"ไหนเหรอ~~ ไหนเหรอ~~"

"แหมๆ ท่าทางจะมีเรื่องสนใจด้วยล่ะ ฮิฮิ"

สาวน้อยเรือพิฆาตอีกสองในสามลำ เริ่มวางมือจากการฝึก หันไปให้ความสนใจกับบางอย่างทางเส้นขอบฟ้า

"เฮ้ๆ!! เจ้าเด็กใหม่นั่น กลับเข้ามาขบวนคุ้มกันฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"

เสียงซุยกากุ ที่ทำหน้าที่เป็นเรือธง ร้องเรียกสาวน้อยที่แตกขบวน แต่เหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว

"ข้าศึกแตกขบวนแล้ว เริ่มโจมตีได้!!"

สิ้นเสียงของโซวกากุ ฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด และกระสุนปืนใหญ่ ถูกสาดซัดเข้าใส่ซุยกากุและเรือพิฆาตคุ้มกัน ที่เหลืออยู่เพียงลำเดียว ทันที

"เอ๋!! เดี๋ยวก่อนสิพี่ เดี๋ยวก่อนนนนนน"

ตูมๆๆๆๆ***

กระสุนสี ระเบิดสี เปรอะเปื้อน ไปทั่วร่างของ ทั้งสองทันที

"เรือธงของทีมตะวันตก ได้รับความเสียหายหนัก ทีมตะวันออกเป็นฝ่ายชนะ!!"

โชวไคประกาศผลการฝึกซ้อม ก่อนจดบันทึกรายละเอียด

"อ๋า!! ซุยจัง ยาโยยจัง ไม่เป็นอะไรนะ!!?"

โชวกากุ รีบวิ่งมาดูอาการน้องสาวกับยาโยย ที่รับหน้าที่คุ้มกันอย่างสุดความสามารถ

โชคดีที่ การซ้อมรบ ใช้กระสุนสี ไม่เป็นอันตราย แต่ก็เลอะเทอะสุดๆ ทั้งซุยกากุ และยาโยย ต่างก็เลอะสีไปทั้งตัว

"ย....ยาโยย.....ไม่เป็นไรค่ะ..."

"พี่ขี้โกงนี่ เล่นโจมตีทีเผลอนี่นะ และก็ที่สำคัญ เด็กใหม่พวกนั้นไม่ทำหน้าที่คุ้มกันนั่นแหละ เอ๊ะ?"

ซุยกากุ กำลังจะหันไปเอาเรื่องสามสาวเรือพิฆาตทีละทิ้งหน้าที่ไป แต่ก็พบว่า กองเรือที่ออกไปรบที่เขตทะเลคอรัล เดินทางกลับมาถึงแล้ว

"งั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก็แล้วกันนะคะ หลังจากนี้ก็ กลับไปเติมเสบียง และก็เข้าอู่ซ่อมบำรุงด้วยนะคะ"

โชวไค พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

"ดูสิๆ พวกคิริชิมะซัง กลับมาแล้วล่ะ เปี้ยว~~!!"

"นี่ๆ ได้ยินจาก โมจิสึกิจัง ว่า ชนะด้วยล่ะ"

"แหมๆ แต่ก็กลับมาสภาพดูไม่จืดเลยนะ ฮิฮิ"

สภาพกองเรือที่กลับมานั้น ดูไม่จืดจริงๆ สภาพของแต่ละคนล้วนแต่บาดเจ็บ เสียหายกลับมาทั้งสิ้น

"ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะ คิริชิมะซัง มุทสึซัง เหนื่อยหน่อยนะคะ ครั้งนี้"

โชวไคเดินเข้ามาทำความเคารพ เรือธงของทั้งสองกองเรือที่เพิ่งกลับมา

"อ่า...กลับมาแล้วล่ะ เจอเธอก็ดีแล้ว ฝากพา มุทสึซัง กับคนอื่นๆ ไปเติมเสบียง แล้วก็เข้าอู่ซ่อมบำรุงด้วยนะ ฉันจะไปรายงานผลการรบกับผู้บัญชาการ"

คิริชิมะสั่งการ ด้วยท่าทีที่เป็นปกติ ต่างกับสาวเรือคนอื่น ที่มีท่าทางเหนื่อยล้า และซึมเศร้าชอบกล

"เหนื่อยหน่อยนะค้า~~!! / เปี้ยว~~!!"

ส่วนสามสาวเรือพิฆาตเลียนแบบโชวไค ตั้งแถวทำวันทยาหัตถ์ ทำความเคารพบ้าง แต่ก็ไม่วายมีคนนึงทำผิดข้าง จนคนอื่นๆ หลุดอมยิ้ม

"ฮิฮิ ได้ค่ะคิริชิมะซัง เอ๊ะ?"

โชวไคขานรับอย่างอารมณ์ดี แล้วเธอก็สังเกตได้ถึงสิ่งที่แปลกไป

"....เหมือนว่า...จะกลับมากันไม่ครบล่ะ....."

ยาโยยพูดขึ้น เหล่าสาวเรือรบที่ไม่ได้ไปรบ ต่างก็กวาดสายตามองฝ่ายที่ไปรบ

"เอ๋~~ ใครหายไปเหรอเปี้ยว~~?"

"ใครกัน ใครกันนะ?"

"อืม...ใครหายไปน้า?"

ทั้งสามไม่รู้ว่าใครหายไป แต่สองพี่น้องกากุสังเกตุแล้วว่าใครหายไป เพราะพอรู้ว่ามีสาวเรือรบคนไหนบ้างที่ออกไปทำภารกิจ แต่กลับมาไม่ครบ เลยต้องมองหาคนที่รู้จักก่อน

"ร..รุ่นพี่คากะ กับรุ่นพี่อาคากิ...อยู่ไหนล่ะคะ?"

ซุยกากุ เป็นฝ่ายถามขึ้น

"ตายจริง สภาพแบบนั้น ยังอ่อนหัดจริงๆ นะ"

คากะปรากฏตัวขึ้น ตอบด้วยสีหน้า และน้ำเสียงเรียบๆ พร้อมประคองร่างของอาคากิที่ได้รับความเสียหายหนักก้าวออกมาข้างหน้า

"รุ่นพี่ก็สภาพไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกนะ!!"

พอเห็นว่ารุ่นพี่ทั้งสองกลับมาอย่างปลอดภัย สองพี่น้องกากุรู้สึกดีใจ แต่เฉพาะซุยกากุที่ดีใจมากกว่าใคร แต่ก็ยังปากร้ายโต้ตอบกลับไปตามนิสัยเท่านั้น

"อ๋า...ซุยจัง..อย่าพูดอย่างนั้นสิกับรุ่นพี่สิ"

"เหะๆ ร..เรือบรรทุกเครื่องบิน อ..อาคากิ ก..กลับมาแล้วจ้า~~"

อาคากิ พูดพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ สภาพโทรมสุดๆ เสื้อผ้าขาดวิ่น ลานบินพังยับ คันธนูหัก

"ดีจัง ที่ปลอดภัยกลับมาทุกคนนะ"

ถึงจะเสียหายหนัก แต่เมื่อกลับมาถึงฐานทัพได้ ก็ถือว่าปลอดภัยแล้ว

".....แต่ก็ยังไม่ครบอยู่ดี....."

ยาโยยพูดต่อเสียงเรียบ คากะ หันดูในกองเรือที่เพิ่งกลับมา เพียงครู่เดียวก็รู้ว่าใครหายไป

"ยัยนั่นเอง แย่ล่ะ คิริชิมะ รีบไปหาผู้บัญชาการเร็วเถอะ"

"เอ๊ะ? มีอะไรเปล่าคะ คากะซัง"

"เร็วเข้าเถอะ อาจจะมีเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ได้ ยัยเด็กใหม่ ฝากดูแลอาคากิซังก่อนนะ เร็วสิ!!"

คากะประคองอาคากิ ส่งให้สองพี่น้องกากุ ดูแลต่อ ก่อนจะเร่งฝีเท้ารีบเดินทางไปยังห้องของผู้บัญชาการทันที ด้วยท่าทีที่ร้อนรนอันผิดปกติของคากะทำเอาทุกคนสงสัย

"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?"

..................

ก๊อกๆๆ***

"เข้ามาได้!!"

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผู้บัญชาการร้องอนุญาติ ประตูค่อยๆ เปิดออกช้าๆ

ผู้ที่อยู่หน้าประตู คือ สาวเรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโด โอย หนึ่งในสาวเรือรบที่

"อ๊ะ? โอยซัง แล้วคิริชิมะ ไปไหนแล้วล่ะ?"

โอโยโดะ ร้องถามขึ้น อีกฝ่ายได้แต่นิ่งเงียบ เดินเข้ามายังโต๊ะผู้บัญชาการ ท่าทีนิ่งเงียบไร้ซึ่งคำตอบ และไม่สแสดงความเคารพ สร้างความงุนงงให้แก่เธอมาก

ฝ่ายผู้บัญชาการบูรพานั่งเงียบ มองอีกฝ่ายเหมือนรู้ตัวแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ผัวะ!!***

หนึ่งหมัดแทนคำตอบ ร่างของผู้บัญชาการกระเด็นตกเก้าอี้ทันที

"ไอ้ผู้การ!!"

โอย ไม่ได้หยุดแค่เพียงหมัดเดียว เธอเข้าไปกระชากคอเสื้อ ซัดหมัดตามไปอีกหลายหมัด โดยที่ผู้การไม่มีท่าทีโต้ตอบแม้แต่น้อย โอโยโดะ กับฮะจิ รีบเข้ามาขวาง

"โอยซัง!! หยุดนะคะ!! โอ๊ย!!"

ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ปัดสองเลขาสาวเสียกระเด็นไปคนละทาง

"เป็นเพราะแก ไอ้ผู้การบัดซบ!! ค..คำสั่งของแก..พ..เพราะแก..!! คิตากามิซัง!! คิตากามิซัง!!"

เสียงของโอย สั่นเครือ พูดทั้งน้ำตา โอโยโดะสะดุ้งเฮือก เธอรู้แล้วว่า มีการสูญเสียเพื่อนร่วมกองทัพไปแล้ว

"ผู้การ!!"

"ชิ!! เกิดเรื่องจนได้ หยุดเธอไว้เร็ว!!"

เป็นจังหวะพอดีกับ คากะ และคิริชิมะ มาถึงพอดี ทั้งสองรีบเข้าไปหยุดสาวเรือรบที่บ้าคลั่งทันที

"ปล่อยนะ!! คิริชิมะซัง ฉันจะฆ่ามัน!! ฆ่าคนที่ออกคำสั่งให้คิตากามิซัง!! ฉันจะฆ่ามัน!!"

โอย ยังไม่หยุดคลั่ง แต่เรี่ยวแรงของเธอ ก็สู้เรี่ยวแรงระดับเรือประจัญบาน ของคิริชิมะไม่ได้ สุดท้ายถูกจับตัว ถึงจะถูกล๊อคตัว แต่โอยก็พยายามดิ้นรนขัดขืนตลอด

โอโยโดะ กับฮะจิ สองเลขารีบเข้าไปประคองร่างของผู้บัญชาการขึ้น ใบหน้าเขียวช้ำ ดวงตาข้างตาบวมปูดจนไม่อาจลืมตา ปากแตกเลือดท่วม

"ปล่อยเธอไป คิริชิมะคุง"

ผู้บัญชาการออกคำสั่ง พร้อมปาดเลือดที่ริมฝีปากออกเท่านั้น สร้างความประหลาดใจให้แก่สองเลขามาก

"เดี๋ยวก่อนค่ะ ถ้าปล่อยเธอ..."

คิริชิมะแย้งขึ้น มองหน้าผู้บัญชาการ หวังว่าให้ยกเลิกคำสั่งเมื่อครู่

"ไม่เป็นไรหรอก ให้เธอได้ระบายเถอะ"

เมื่อได้รับยืนยันคำสั่ง คิริชิมะ ได้แต่จำใจปล่อยตัว พอหลุดจากการคุมตัว โอยก็ก้าวขาออก ไปหมายจะเอาชีวิตผู้บัญชาการให้ได้ มีเพียงคากะ ยืนขวางไว้

"พอได้แล้ว"

"คากะซัง หลีกไปนะ"

เพียะ!!***

คากะตบหน้าของโอย อย่างแรง ฝ่ายถูกตบไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว เงื้อหมัดกำลังจะสวนกลับ แต่คากะ ลงมือไวกว่า หยุดหมัดไว้ได้

"พอเถอะ ถ้าเธอทำแบบนี้ แล้วคิตาคามิของเธอจะดีใจไหม? แล้วถ้าตาลุงนี่ตายไป คิตาคามิของเธอ จะฟื้นขึ้นมาได้ไหมล่ะ?"

คำพูดของคากะ ทำเอาโอย ชะงักคลายหมัด คากะเองก็ปล่อยมือเช่นกัน

"ระหว่างเรื่องส่วนตัว กับ หน้าที่ ถ้าเป็นคิตาคามิซังของเธอ เขาจะเลือกเรื่องไหน?"

"คิตาคามิซัง....คิตาคามิซัง!! ฮือๆๆ"

โอยทรุดตัวลง ร้องไห้อย่างอายใคร เสียงร้องของเธอ ดึงดูดให้สาวเรือรบข้างนอกมายังต้นเสียง

"เฮ้!! เกิดอะไรขึ้น!!"

ท่ามกลางความงุนงง โอโยโดะ รีบลุกขึ้นออกคำสั่งทันที

"โอยซังทำร้ายผู้บัญชาการ ทุกคนช่วยคุมตัวเธอไปขังไว้รอลงโทษก่อนค่ะ!!"

....................

การอาละวาดทำร้ายผู้บัญชาการของโอย ครั้งนี้ ส่งผลให้เธอถูกคุมตัวส่งเข้าไปสงบสติอารมณ์ที่เรือนจำทหาร ส่วนทั้งคิริชิมะ กับคากะ ยังอยู่รายงานผลการรบ

"ฟู่~~ จากที่ฟังดูแล้ว เป็นศึกที่เหนื่อยจริงๆ นะคะ"

หลังจากรับฟังการรายงานผลการสู้รบจบ โอโยโดะ ถอนหายใจยาว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปเอง แค่รับฟังกับจดบันทึกรายงานก็รับรู้ได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยของแนวหน้า

"ศึกนี้ เราเองก็สูญเสียไปไม่น้อยเช่นกัน ทั้งทรัพยากร และก็....คิตาคามิซัง.."

ฮะจิพูดเสริม บรรยากาศเริ่มเครียดอีกครั้ง จนเธอต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

"ว่าแต่ คากะซัง รู้ได้ยังไงว่า โอยซัง จะเข้ามาทำร้ายผู้การล่ะคะ?"

คากะเงียบ ไม่ยอมพูดอะไร สีหน้าที่สงบนิ่ง เริ่มมีอาการแปลกๆ

"ฉันคิดว่า ถ้าหากเป็นอาคากิคุง ที่จมไป คนที่ลงมือครั้งนี้ คงไม่ใช่ โอย แน่ๆ"

ผู้บัญชาการบูรพา ที่นิ่งเงียบมานาน เป็นคนตอบแทน เพราะเขารู้ถึงนิสัยส่วนตัวของสาวเรือรบที่ใกล้ชิดพอสมควร

"ถูกไหม? คากะคุง"

คากะพยักหน้าช้าๆ ก่อนก้มหน้าหลบสายตาทุกคู่ภายในห้อง เพราะเป็นเช่นนี้ เธอถึงรู้ตัวว่าโอยจะเข้ามาอาละวาดผู้บัญชาการ

"เอาล่ะ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พวกเธอเหนื่อยกลับมา ยังไง ก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ"

ผู้บัญชาการเอ่ยขึ้น พร้อมรอยยิ้มจางๆ สองสาวรับคำและทำความเรารพก่อนจะทยอยกันออกไป

"ผู้การเองก็ ทำแผลหน่อยนะคะ"

ฮะจิพูดขึ้น

"อ่า...ก็ดีเหมือนกัน เริ่มเจ็บขึ้นมาซะแล้วสิ ฮ่ะๆๆ"

ผู้บัญชาการรับคำ พร้อมเสียงหัวเราะฝืดๆ ฮะจิยกกล่องเครื่องมือปฐมพยาบาล เข้ามาทำแผล

"โอโยโดะคุง ขอรายละเอียดภารกิจถัดไปด้วยนะ โอ๊ย!!เจ็บๆ"

"เอ่อ...ผู้การคะ...? ตอนนี้ ยังไม่มีภารกิจจากหน่วยเหนือส่งมาค่ะ แต่ว่าถึงจะมีมา ทั้งทรัพยากร และสาวเรือรบภายในกองเรือของเรายังไม่พร้อมเลยนะคะ"

โอโยโดะ แย้งขึ้น ฝ่ายผู้บัญชาการยิ้มน้อยๆ แค่ฝืนยิ้มก็เจ็บแผล ร้องอูย

"อูย..เอาน่า ก็แค่เตรียมพร้อมล่วงหน้าเฉยๆ อ้อ ฮัจจัง แล้วเรื่องการขนส่งยุทธปัจจัยในเขตทะเลใต้ เป็นยังไงบ้าง?"

"ฮิฮิ ทุกหน่วยราบรื่นดีค่ะ พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับกันมาหมดแล้วล่ะค่ะ"

"อืม...ถ้ากลับมาแล้ว ก็ให้ ทุกหน่วยหยุดพักซักวันก็แล้วกันนะ เรื่องภารกิจต่อไป คงต้องเว้นช่วงซักระยะล่ะนะ"

ผู้บัญชาการ ออกคำสั่งพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง สองเลขาสาวค่อยรู้สึกผ่อนคลายตาม รีบออกไปจัดแจงทุกเรื่องตามคำสั่ง

หลังจากสองเลขาออกไปแล้ว ก็ยังเหลืออีกหนึ่งเลขา ที่หลบนอนอยู่ใต้โต๊ะทำงาน

"ทุกเรื่องเหมือนจะผ่านไปด้วยดีนะ ตาลุง"

โมจิสึกิ โผล่หัวขึ้นมาพูด ฝ่ายผู้บัญชาการ ไม่มีรอยยิ้มเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว

"ก็คิดแผนรับมือกับวันพรุ่งนี้อยู่น่ะ คิดมาก ปวดหัวสุดๆ ไปเลยล่ะ"

อยู่ต่อหน้าเลขาคนอื่นๆ เขาทำตัวเป็นปกติ แต่เมื่ออยู่กับเลขาเก่าแก่ คนนี้ กลับเปิดเผยความในใจออกมา

"ทั้งเรื่องในกองทัพ และเรื่องของสาวๆ สินะ ไม่ว่าเรื่องไหน ก็ชวนปวดหัวได้ทั้งนั้น ตาลุง คงคิดเรื่องหลังมากไปนะ"

โมจิสึกิ พูดขึ้น ผู้บัญชาการบูรพา พยักหน้า

"อา...เรื่องเรือทดแทนเรือที่เสียไป หรือไม่ทรัพยากร หามาทดแทนไม่ยากนักหรอก แต่จิตใจของพวกเธอสิ สูญเสียไป ทำยังไงดีถึงได้กลับคืนมา"

ผู้บัญชาการลุกขึ้น มองไปนอกหน้าต่าง มองสาวเรือรบภายใต้บังคับชาฝึกซ้อม และทำงานอย่างขยันขันแข็ง

"ห่วงแต่คนอื่น หัดห่วงตัวเองบ้างก็ดีนะ โฮย...ช่างเถอะๆ เรื่องของวันพรุ่งนี้ ช่างมันเถอะ ออกไปหาอะไรกินกันซักหน่อยมะ?"

คำพูดของโมจิสึกิ ทำให้ผู้บัญชาการผ่อนคลายลง

"นั่นสินะ หลังกินให้อิ่มท้อง ก็ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไข ไปทีละอย่างก็แล้วกัน"

...................

เช้าวันต่อมา ท้องฟ้ามืดครึมไปด้วยเมฆฝน สายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ค่อยคลายบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งคืนลงได้บ้าง

'นี่ๆ โอยอิจิ พรุ่งนี้ผู้การ ให้ออกไปเที่ยวข้างนอกได้ จะออกไปไหนกันดีล่ะ?'

'อ..เอ่อ...ก็แล้วแต่ คิตาคามิซังก็แล้วกันค่ะ ฉันยังไงก็ได้'

'ไปเที่ยวสวนสนุกกันไหม? ไม่ได้ไปนานแล้วล่ะ'

'ก็ดีนะคะ แต่ว่าฉันไม่เคยไปสวนสนุกเลย แล้วก็ โชวไคซังบอกให้ พวกเราเรือลาดตระเวนเบา ดูแลพวกเรือพิฆาตด้วยนะคะ'

'ฮี่ฮี่ อย่าลืมสิ ตอนนี้เราสองคนเป็นเรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโดแล้วนะ พวกเด็กๆ นั่นปล่อยให้คนอื่นดูแลไป แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว เน๊อะ โอยอิจิ'

'แต่ว่า ถ้าผู้การรู้..เขาต้องเอาเรื่องพวกเราแน่ๆ เลยนะคะ'

'ก็ก่อนหน้านี้ ฉันทำผลงานการรบออกมาดีน่ะ ฮี่ๆ ตาลุงนั่น แอบบอกเรื่องนี้ ให้ฉันแล้วล่ะ แล้วก็ให้นี่มาด้วย ตั๋วส่วนลดร้านไอศกรีมล่ะ หลังเที่ยวสวนสนุกก็ไปกินด้วยกันนะ'

'ค..ค่ะ!!'

ผ่านไปหนึ่งคืน โอย ที่สูญเสียคนรักไป ใช้เวลาคิดทบทวนอดีต ทั้งตลอดคืนภายในเรือนจำ เธอยังคงทำใจกับการจากไปของเพื่อนรักไม่ได้

แม้ว่าภายในเรือนจำจะไม่ค่อยมีคนกล้าก้าวเข้ามา แต่ก็มีสาวเรือรบคนนี้เดินเข้ามาแบบเงียบๆ

"ใช้เวลาคิดคืนนึงแล้ว ได้คำตอบแล้วหรือยัง?"

ผู้ที่มาก็คือ คากะ นั่นเอง โอยได้แต่เงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะก้มหน้าสะอื้นต่อ

สภาพดวงตาที่แดงก่ำเพราะร้องไห้ทั้งคืน บวกกับสภาพร่างกายที่ยังไม่ได้เข้าอู่ซ่อมบำรุง รวมดูแล้วดูทรุดโทรม ไม่ว่าใครก็คงต้องเมินหน้าหนี แต่คากะมองดูเงียบๆ แต่ในใจเกิดอาการหวั่นไหว พอคิดถึงว่า ถ้าเปลี่ยนจาก คิตาคามิ เพื่อนรักของโอย เป็น อาคากิ เพื่อนรักของเธอ เธอก็คงมีสภาพไม่ต่างกันซักเท่าไหร่

"หน้าที่ หรือว่า ส่วนตัว อย่างไหนสำคัญกว่ากัน?"

ถึงจะเป็นคำถามที่แม้แต่ตัวคากะเองก็ยากให้คำตอบ แต่เธอก็ถามมันไปอีกครั้ง

'ค..คิตาคามิซัง...เมื่อกี้ ผู้การสั่งให้ถอยเหรอคะ'

'เหะๆ ม...ไม่หรอก ตาลุงนั่นบอกว่า ถ..ถ้ารอดกลับไป เขาจะให้เราไปเที่ยว ด..ด้วยล่ะ'

'แต่ว่า คิตาคามิซัง ตอนนี้คุณน่ะ เสียหายหนัก มันอันตรายมากนะคะ คิริชิมะซัง ช่วยออกคำสั่งถอยด้วยค่ะ'

'ม...ไม่เป็นไรหรอก คำสั่งของผู้การ ฉ..ฉันต้องทำให้ได้ อ..เอ้า..คิริชิมะซัง ม..มาเริ่มกันเลยดีกว่า'

เพียงแต่เริ่มปะทะกันได้ไม่นาน เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองเรือทะเลลึกจำนวนหนึ่ง เล็ดรอด จากฝูงบินขับไล่ของคากะไปได้ แม้จะถูกยิงจนเสียหายหนัก แต่มันก็ยังพุ่งตรงเข้าใส่กลุ่มของสาวเรือรบ ทำให้ร่างของเธอจมลงใต้ผิวน้ำแทบจะทันที

"คิตาคามิซางงงงงงงงงงง!!!!!"

พอนึกถึงเหตุการณ์ตอนนี้ โอย เองก็ยังกรีดร้อง

เสียงกรีดร้องของเธอ มิต่างอะไรกับเหล็กแหลมที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของคากะ จนต้องหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว

"ท...ทำไมกัน...ทำไมกัน...ทำไมคิตากามิซังถึงต้องทำตามคำสั่งของผู้การนั่น...ทำไม!!? ทำไมถึงต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพียงแค่คำสั่งของไอ้ผู้การนั่นด้วย!!?"

คากะสั่นสะท้าน หวนคิดถึงเหตุการณ์หลายๆ ครั้งก่อน ที่อาคากิ เพื่อนรักของเธอ ที่เสี่ยงชีวิตเพราะคำสั่งของผู้บัญชาการ แต่ก็ยังโชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง

"โฮย....ให้ตายเถอะ..เสียงดังจริงนะ..เบาๆ หน่อย..โอ๊ะ? คากะซัง? อยู่ด้วยเหรอ"

มีคนมาเยือนโดยไม่นัดหมาย คากะ สะดุ้ง รีบหลบหน้าปาดน้ำตาทันที

ในเรือนจำที่แทบจะไม่มีคนมาเยือนเลย กลับเป็น โมจิสึกิ หนึ่งในเลขาของผู้การ

"เป็นเลขา แต่มาที่นี่ทำไมกันเหรอ? โมจิสึกิ?"

คากะ ที่เพิ่งปาดน้ำตา ถามโมจิสึกิที่มาเยือนโดยไม่คาดฝัน

"ก็มาตามคำสั่งผู้การน่ะนะ เอ้า!! ออกมาได้แล้ว"

โมจิสึกิตอบ พร้อมไขกุญแจเปิดประตูห้องขัง

"ด...เดี๋ยวก่อนนะ นี่เรื่องจริงเรอะ?"

คากะถามขึ้น เพราะความผิดที่ลงมือทำร้ายผู้บัญชาการนั้น คงจะไม่ใช่น้อยๆ แค่ขังคืนเดียวคงไม่พอแน่ๆ แม้แต่โอย เองก็ฉุกคิดได้เหมือนกัน

"ความจริง ก็ ตาลุงนั่นไม่ได้มีคำสั่งให้ ลงโทษโอยซัง ตั้งแต่แรกแล้วด้วย เรื่องนี้ตอนที่อยู่ที่ห้อง ก็ได้ยินกันนะ ที่มาอยู่ที่นี่ เป็นคำสั่งของโอโยโดะซังใช่ไหม?"

จริงอย่างที่โมจิสึกิตอบ ผู้บัญชาการ ไม่ได้เอ่ยปากเอาผิดโอย เลยแม้แต่น้อย

"ท...ทำไมกัน....ทำไม ผู้การนั่น ถึง ป..ปล่อยฉันล่ะ?"

"เรื่องนั้น ก็ลองไปถามตาลุงนั่นเอาเองก็แล้วกันนะ อ้อ..ถ้าไปด้วยสารรูปโทรมๆ แบบนั้น คงโดนพวกเลขาคนอื่นๆ กันไม่ให้เข้าแหงๆ ขอตัวก่อนละนะ"

โมจิสึกิ ตอบ พร้อมให้คำแนะนำ ก่อนจะเดินเฉื่อยๆ จากไป คากะ หลุดยิ้มน้อยๆ ออกมา

"หึ..นี่คงเป็น หนึ่งในเหตุผลที่ สาวเรือรบหลายคน ยอมทำตามคำสั่งโง่ๆ ของผู้บัญชาการนั่นล่ะนะ"

พูดจบเธอ ถึงเดินจากไปอีกคน ทิ้งไว้เพียง โอย ที่เริ่มมีใจที่อ่อนลง

...................

เวลาเลื่อนคล้อยไปจนยามเย็น สายฝนก็ยังคงโปรยลงมาไม่หยุด

ผู้บัญชาการ กับโอโยโดะ โชวไค คิริชิมะ และฮะจิ สี่เลขาประชุมวางแผนสั่งการเรื่องภายในกองเรืออย่างเคร่งเครียด

"มีใครมีปัญหาอะไรจะเพิ่มเติมไหม?"

ผู้บัญชาการถาม สี่เลขา ปิดท้าย บ่งบอกว่า ในที่สุด การจัดการสะสางงาน และการวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไปใกล้เสร็จสิ้น

"ด้านยุทธวิธีไม่มีปัญหาค่ะ ตารางการฝึกซ้อมก็จัดแจงตามที่ผู้การได้ทั้งหมดค่ะ"

"งานสวัสดิการของสาวเรือรบก็ไม่ปัญหาค่ะ"

"Acht.. โอ๊ะ? ขอโทษค่ะ ด้านการขนส่งยุทธปัจจัย ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันค่ะ"

"ทางด้านการข่าวสารจากหน่วยเหนือและกองเรืออื่นๆ เอง ก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ นอกจากสภาพอากาศช่วงนี้ ที่มีฝนตกบ่อย อาจจะเป็นปัญหาการปฏิบัติงานทั่วไปบ้างคะ"

สี่เลขาทยอยตอบ ผู้บัญชาการพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

"ให้เริ่มดำเนินการทันทีเลยนะ อ้อ...ก็อย่างที่โอโยโดะว่าไปล่ะนะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลสุภาพกันด้วย"

ผู้บัญชาการบูรพา เน้นคำสั่ง ก่อน จะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สี่เลขารับคำ ก่อนจะทยอยออกไป เหลือเพียง โอโยโดะที่ทำหน้าที่จัดการเอกสาร

"เอ๊ะ? แล้วผู้บัญชาการจะไปไหนเหรอคะ?"

โอโยโดะ ร้องถามขึ้น เมื่อเห็นผู้บัญชาการกำลังเดินออกไปจากห้อง

"เย็นแล้ว ขอออกไปเดินเล่นซักหน่อย เธอเองเสร็จงานแล้วก็ไปพักได้นะ"

"ผู้บัญชาการเองก็น่าจะพักผ่อนบ้างเหมือนกันนะคะ โหมงานมากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ"

"ก็ไปเดินเล่นนี่ เป็นการพักของฉันล่ะ ไปก่อนนะ"

ผู้บัญชาการบูรพา โบกมือ โดยไม่หันหลังกลับมา โอโยโดะได้แต่ถอนหายใจ เธอเองก็เป็นอีกหนึ่งเลขาเก่าแก่ ก็พอรู้ถึงทุกๆ อย่างของผู้บัญชาการไม่น้อยไปกว่าโมจิสึกิ การโหมทำงานในทุกๆ ครั้ง หมายถึง เขากำลังเครียดแบบสุดๆ อยู่

..................

ยาวเกินไปต่อ Part 2

Link to comment
Share on other sites

ภายหลังจากออกจากอู่ซ่อมบำรุง โอย สองจิตสองใจ ในเรื่องที่จะเข้าพบผู้บัญชาการอีกครั้ง ใจหนึ่งก็อยากจะรู้จักผู้บัญชาการให้มากขึ้น แต่อีกใจก็กลัวว่าจะถูกเหล่าเลขาขัดขวาง

จนถึงเวลาอาหารเย็น ก็มาทานข้าวที่ ร้านอาหารของมามิยะ ในเขตโรงอาหารของฐานทัพเรือ

สาวเรือรบส่วนใหญ่ ต่างมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ บ้างก็ซุบซิบ บ้างก็ถอยห่าง ข่าวที่เธอทำร้ายผู้บัญชาการ ผ่านไปหนึ่งวัน คงแพร่กระจายไปทั่วทั้งกองเรือบูรพาแล้ว

"ไง ขอนั่งด้วยสิ"

"ค...คิโสะ...ซัง?"

แต่ก็ยังมีสาวเรือรบคนนึงเข้ามาทัก โอยหันมาดู ก็พบกับ เพื่อนร่วมชั้นคุมะ เรือลาดตระเวนเบา คิโสะ แต่สภาพเครื่องแบบที่เปลี่ยนไปพร้อมผ้าคลุมสีดำที่เพิ่มเข้ามา และเครื่องจักรเองก็มีทาสีลายพรางขาวสลับเขียว ทำให้เธอแปลกใจไม่น้อย

"อ่า...ตอนนี้เป็นเรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโดแล้ว ตาลุงผู้การเพิ่งอนุมัติปรับปรุงเมื่อเช้านี่เอง เป็นไงบ้างล่ะ เท่ไหม? หึๆๆ ข้าล่ะอยู่กองเรือนี้มานานหลายปี ตาลุงนั่นไม่ยอมอนุมัติซักที ทีนี้ ข้าจะได้อาละวาดกับไอ้เจ้าพวกทะเลลึกได้สนุกแน่"

"ค..ค่ะ.."

ถึงจะแปลกใจในการเปลี่ยนแปลง แต่โอย ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ทานข้าวต่อไปเงียบๆ

คิโสะเห็นว่า โอย ไม่มีใจจะพูดคุยกับเธอ เธอก็หมดเรื่องจะคุยต่อ

"ให้ตายสิ พอไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับคิตาคามิ แล้วดูเธอไม่สนใจเลยนะ เอาเถอะ หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ"

"อ๊ะ!!? ฝากตัวด้วย หมายความว่าอะไรเหรอคะ?"

โอย ร้องถาม คิโสะชะงักขยี้หัวตัวเอง

"ให้ตายสิ ยัยขี้เกียจนั่นไม่บอกอะไรเลยสินะ ก็ตาลุงผู้การมีคำสั่งให้ปรับปรุงสมรรถนะให้เป็นเรือลาดตระเวนติดตอร์ปิโด ก็เพื่อจะเป็นคู่หูกับเธอ"

"อะไรนะ!! ไม่เอานะ!! ฉันไม่จับคู่กับคนอื่นนอกจากคิตา...อู๊บ!!"

"ใจเย็นๆ ฟังข้าก่อน ข้ารู้จักกับตาลุงมานาน รายละเอียดที่เขาสั่งข้ามา ยังไม่หมดแค่นี้ ลองไปถามตาลุงดูก่อนไหมล่ะ"

คิโสะ พอจะรู้ตัวว่าโอยจะอาละวาดอีก รีบเอามือปิดปาก หยุดไว้ได้ทันท่วงที

โอย เข้าใจที่คิโสะพูด เธอจึงได้ใจเย็นลง คิโสะค่อยคลายมือออก

"ข..ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉัน วู่วามไปหน่อย"

"ไม่เป็นไรๆ งั้นหลังกินข้าวค่อยไปถามด้วยกันเถอะ"

คิโสะพูดพร้อมรอยยิ้ม เรื่องที่โอยกังวลใจเรื่องที่เข้าพบผู้การ ค่อยผ่อนคลายลง

...................

"หา? ตาลุงไม่อยู่เรอะ? แล้วออกไปไหนเรอะ?"

คิโสะอุทานออกมาเมื่อมาเข้าพบผู้บัญชาการ แต่พบเพียงโอโยโดะ เลขาประจำห้อง

"ค่ะ ผู้การบอกว่าจะไปเดินเล่นซักหน่อย แล้วก็ออกไปข้างนอกได้พักใหญ่ๆ แล้วค่ะ"

โอโยโดะ ตอบ พลางมองผ่านแว่นมายังโอย ที่ยืนสงบเงียบอยู่ด้านหลังคิโสะ ลึกๆ แล้วเธอก็ยังไม่พอใจที่ผู้บัญชาการไม่เอาผิด แถมยังปล่อยตัวโอยออกมา พอรู้ตัวว่าถูกมองโอยได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา

"งั้นเหรอ? เอาไงต่อล่ะ จะรอหรือว่าไปตามหาดีล่ะ?"

คิโสะหันกลับมาถาม โอย ส่ายหน้าช้าๆ

"ม...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"

"เอ่อ...คิโสะซัง ช่วยกลับไปก่อนนะคะ ขอดิฉันคุยกับโอยซัง เป็นการส่วนตัวหน่อย"

โอโยโดะ เอ่ยขึ้น เรียบๆ คิโสะ หรี่ตามองหน้าตรงๆ ก่อนเหลียวมองโอย

"อืม..งั้นก็ตามใจเธอก็แล้วกัน ข้าไปก่อนล่ะนะ"

หลังจากคิโสะเดินจากไปลับตาแล้ว โอโยโดะ ค่อยขยับตัว เดินกลับเข้าห้องผู้บัญชาการ

"เข้ามาก่อนสิคะ"

โอยเดินตามเข้าไปเงียบๆ เธอรู้สึกแปลกใจที่ถูกชวนเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว พอเข้ามาภายใน บรรยากาศที่เงียบสงบไม่มีคนทำให้โอยรู้สึกกลัวนิดๆ

แม้ว่าก่อนหน้านี้เพราะว่าขาดสติ โอยจึงเผลอลงมืออาละวาดใส่ โอโยโดะไป ซึ่งตัวของโอโยโดะ เป็นเลขาที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด เธอจึงมีอำนาจสั่งลงโทษสาวเรือรบคนอื่นๆ ได้ แน่นอนว่าการโดนเรียกมาเป็นการส่วนตัวแบบนี้อาจจะเป็นพูดถึงบทลงโทษก็เป็นได้

"อ..เอ่อ..ไม่ทราบว่า โอโยโดะซัง มีเรื่องอะไรกับดิฉัน..เหรอคะ?"

โอยลองเชิงถามขึ้นก่อน อีกฝ่ายนิ่งเงียบก่อนหันกลับมาโค้งศีรษะลง

"ก่อนอื่นขอโทษด้วยค่ะ เรื่องที่สั่งขังคุณ และก็เรื่องของคิตาคามิซัง"

"อ...เอ่อ...นี่มันเรื่องอะไรคะ?"

โอโยโดะเอ่ยขอโทษขึ้น ทำเอาโอยทำอะไรไม่ถูก

"ในคำสั่งบุกต่อ จนต้องทำให้คิตาคามิต้องจมลงไป ดิฉันมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยน่ะค่ะ ดิฉันไม่ขอให้คุณยกโทษให้ดิฉันหรอกนะคะ แต่ไม่อยากให้คุณทำร้ายผู้การคนนั้นอีก"

โอยรู้สึกไม่เข้าใจอีกครั้ง เลยถามกลับในเรื่องที่เธอครุ่นคิดมาตลอด

"โอโยโะซัง ดิฉันขอถามหน่อยค่ะ ทำไม สาวเรือรบหลายๆ คนต่างก็ออกมาปกป้องผู้บัญชาการ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนออกคำสั่งให้พวกเราไปเสี่ยงอันตราย ทำไม พวกเรา สาวเรือรบ ถึงต้องเชื่อฟังพวกเขา?"

"โฮย~~ ในที่สุด 'อาการนั้น' ก็ตื่นแล้วสินะ"

เสียงเหนือยๆ ของโมจิสึกิดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะทำงานของผู้บัญชาการ โอย สะดุ้งเฮือก แต่ทางโอโยโดะก็ไม่ได้ตกใจอะไร

"ค่ะ ใช่แล้วล่ะค่ะ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"

โอยไม่เข้าใจกับคำพูดของสองเลขา

"ด...เดี๋ยวก่อน นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? 'อาการนั้น' มันคืออะไรกันคะ?"

โมจิสึกิ ทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้นวมของผู้บัญชาการ ไม่ได้ตอบอะไร ชี้นิ้วไปทางโอโยโดะ

"เป็นอาการที่สาวเรือต่อต้านคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่ยอมทำตาม ซึ่งอาการแบบนี้ ถือว่าสาวเรือรบคนนั้น หมดหน้าที่ของสาวเรือรบ และต้องถูกกำจัดทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในภายหลัง"

โอโยโดะเป็นฝ่ายตอบแทน มันเป็นคำตอบที่สำคัญ ที่โอยต้องพยายามเถียง

"ด...เดี๋ยวก่อนสิคะ ดิฉันจะต้องถูกกำจัดเหรอคะ ม..ไม่จริงหรอกค่ะ ดิฉันไม่มีอาการที่ว่านั่นหรอกค่ะ!!"

"ถึงตอนนี้เธอจะยังปกติ แต่ที่เธออาละวาดทำร้ายตาลุงในวันก่อน นั่นก็คือหลักฐานอย่างดีเลยล่ะ อย่าลึมสิสาวเรือรบมีคำสั่งพื้นฐานอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือ เชื่อฟังและทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ก็ถ้าเผลอทำตามสัญชาตญาณ ก็อีกเรื่องน่ะนะ"

โมจิสึกิพูดขึ้น ทำเอาโอยเถียงอะไรไม่ออกอีก โมจิสึกิ เหยียดแขนบิดขี้เกียจก่อนจะพูดต่ออีก

"โฮย~~ ความจริงเรื่องที่อาการต่อต้านคำสั่งของสาวเรือรบนั้น มีแค่เพียงระดับผู้บัญชาการ กับเลขาคนสนิทเท่านั้นแหละ แต่เรื่องนี้ตาลุงไม่ปกปิดอะไร แถมบอกเรื่องนี้ให้แก่สาวเรือรบทุกคนเลยนะ"

"ค่ะ ทั้งนี้ ทั้งนั้นเพื่อให้สาวเรือรบในกองเรือของเรารู้ตัว และไม่แสดงอาการออกมาจนต้องโดนลงโทษ"

โอโยโดะพูดเสริม พร้อมเดินมาข้างๆ โมจิสึกิ โอยชะงักกึก นึกขึ้นได้ว่าเรื่องนี้ เธอก็เคยได้ยินเรื่องนี้ในช่วงที่เรียนรู้เรื่องภายในกองเรือตอนเข้ามาประจำการใหม่ๆ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่ตัดสินชีวิตตัวเธอเอง

โป๊ก!!!*** "แอ๊ก!! จ..เจ็บนะ โอโยโดะซัง!!"

เสียง โอโยโดะก็ตบหัวโมจิสึกิ จนตกเก้าอี้ ทำเอาโอยสะดุ้งอีกที

"เคยเตือนหลายรอบแล้วนะ ว่าอย่าไปนั่งเก้าอี้ของผู้การน่ะ"

พูดจบก็หันมาทางโอย

"ก็อย่างที่เห็นล่ะค่ะ โมจิสึกิ ก็มีอาการต่อต้านเหมือนกับเธอ ดิฉันก็ด้วย หลายๆ คนในกองเรือรุ่นแรกๆ ที่ประจำในที่นี่ ก็มีอาการนั้น รวมถึงคิตาคามิซังด้วย"

"เดี๋ยวก่อนนะคะ ถ้าหากคิตาคามิซัง รวมถึงคนอื่นๆ มีอาการต่อต้านนั่นจริง ล..แล้วทำไม ไม่ถูกกำจัดล่ะคะ?"

โอยสงสัยในคำพูดโอโยโดะ รีบถามกลับทันที โอโยโดะขยับแว่นนิดนึง ก่อนตอบว่า

"สำหรับพวกเราสาวเรือรบ แม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธของมนุษยชาติ แต่เพราะถูกสร้างเพื่อเป็นอาวุธ หากมีปัญหาข้อบกพร่อง ก็ต้องซ่อมแซม หากซ่อมแซมไม่ได้ก็กำจัดทิ้งเสีย แต่พวกเรามีจิตใจแล้ว จะทำอย่างสิ่งของไม่ได้"

โมจิสึกิค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจับขอบโต๊ะ แล้วพูดต่ออีกว่า

"มันก็ส่วนหนึ่งล่ะนะ ตาลุงนั่น เคยบอกฉันว่า พวกเราสาวเรือรบมีชีวิต มีจิตใจ ไม่ใช่สิ่งของ เป็นมนุษย์คนนึง จริงอยู่ ถ้าสิ่งของมีปัญหาก็พอกำจัดทิ้งได้ แต่สำหรับมนุษย์นั้นทำไม่ได้"

"ค่ะ ในฐานะที่ดิฉันเอง เคยทำงานหน้าที่ส่วนธุรการให้กับกองเรืออื่นๆ ดิฉันยืนยันในเรื่องนี้ได้ มีผู้บัญชาการของสาวเรือรบอย่างเราๆ น้อยคนนัก ที่จะมองเราเป็นมนุษย์ การดูแล และทุกๆ อย่างที่ผู้การของเราได้ทำ ก็น่าจะพิสูจน์ได้นะคะ"

โอโยโดะพูดเสริม โอยก้มหน้าเงียบ หวนคิดถึงเรื่องชีวิตในกองเรือแห่งนี้ในฐานะของสาวเรือรบ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่เธอลืมตาตื่นขึ้นมา เป็นสาวเรือรบ และได้เข้ามาประจำการในกองเรือบูรพา ถึงจะพอรู้มาบ้างว่า ตัวเธอไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ ได้ปฏิบัติต่อตัวเธอในกองเรืออื่นๆ และคนอื่นยังไง ที่เธอรู้ คือภายในกองเรือบูรพาที่เธอประจำการอยู่นั้น ถือได้ว่าอยู่อย่างสุขสบายดี

ก๊อกๆๆ***

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงสติของทั้งโอยกลับมา

"ผ..ผู้บัญชาการกลับมาแล้วเหรอคะ?"

"ไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นตาลุง เขาไม่เคาะประตูก็ได้ นี่มันห้องของเขานี่นะ โฮย~~ เข้ามาเถอะ!!"

โมจิสึกิตอบ พร้อมร้องอนุญาติให้ผู้ที่เคาะประตูเข้ามาได้

ผู้ที่มา เป็นสาวน้อยผมยาวสีฟ้าน้ำทะเล กับเครื่องแบบของเรือพิฆาตสีขาว

"ซามิดาเระ จากกองเรือขนส่งที่สาม ขออนุญาติเข้าไปรายงานผลค่ะ"

เธอทำวันทยาหัตถ์เป็นการทำความเคารพและทักทาย ก่อนจะเดินเข้ามาส่งกระดาษรายงานให้กับโอโยโดะ

"ขอบใจมากจ๊ะ"

"เอ่อ...ไม่ทราบว่ามีอะไรกันหรือเปล่าคะ? "

ซามิดาเระ ถามขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่า ในห้องมีบรรยากาศแปลกๆ

"โฮย~~ ไม่มีอะไรหรอก เราแค่ปรึกษากันเรื่องยุทธวิธีน่ะนะ เธอจะมาร่วมด้วยไหมล่ะ?"

โมจิสึกิตอบด้วยท่าทีสบายๆ โอยหันมามองเธอทันที เรื่องที่คุยกันในตอนนี้ไม่น่าจะควรให้คนอื่นรู้

"จะดีเหรอคะ? ฉันไม่เคยได้ออกไปทำภารกิจร่วมรบกับคนอื่นเลยนะคะ ได้แต่ทำหน้าที่คุ้มกันการขนส่งยุทธปัจจัยเอง"

ซามิดาเระ พูดด้วยความเกรงใจ แต่ท่าทีของเธอค่อนข้างจะดีใจมาก โมจิสึกิ ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเธอ

"เฮอะๆ งั้นเหรอ จริงสิเธอเพิ่งกลับมาจากภารกิจขนส่งสินะ ฉันนึกอะไรออกแล้ว เธอไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวจะมีภารกิจขนส่งต่อไปให้ทำ"

คำพูดของโมจิสึกิ ทำเอาสาวน้อยตรงหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ายโอโยโดะ ได้แต่เมินหน้าหนีโดยไม่โต้แย้งอะไร

"....เข้าใจแล้วค่ะ....ขอตัวก่อนนะคะ.."

พูดจบ ซามิดาเระก็เดินจากไปเงียบๆ ทุกการกระทำและคำพูด สร้างความสงสัยให้กับโอยมาก

"คงสงสัยสินะว่าทำไม พวกฉันต้องทำแบบนี้"

โมจิสึกิหันกลับมาถามขึ้น โอยเองก็รู้สึกข้องใจและรอคำถามนี้

"ค่ะ ทำไมต้องกับเธอแบบนั้นด้วย ถึงจะได้ยินมาว่า พวกเลขาสามารถตัดสินใจแทนผู้บัญชาการได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ ผู้บัญชาการเขาคงไม่น่าจะทำแบบนี้แน่ๆ"

"ถูกต้องแล้วค่ะ แล้วก็ไม่ได้ถูกทั้งหมด เฉพาะเด็กคนนั้น แค่เด็กคนนั้นเท่านั้น ที่พิเศษออกไป...."

โอโยโดะพูดเสริมขึ้น ท่าทางของเธอดูอึดอัดมาก อึดอัดเสียจนตัวเธอเองก็พูดไม่ออกอีก

"พิเศษ.....ออกไป?"

"ให้ตายซี...ก็เพราะยัยนั่นเคยเป็นเลขาของตาลุงมาก่อนไงล่ะ"

"หา? แล้วทำไม เรื่องนี้ดิฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะคะ?"

และแล้วโมจิสึกิก็ทนไม่ไหว เป็นฝ่ายตอบแทน และคำตอบของเธอก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่ที่เธอประจำการมา รู้จักแค่เลขาห้าคน คือ โมจิสึกิ โอโยโดะ โชวไค คิริชิมะ และฮะจิ ที่ผ่านมายังไม่มีการแต่งตั้งเพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอะไรเลย

"เธอมาประจำการอยู่กองเรือนี้มานานเท่าไหร่แล้วล่ะ?"

โมจิสึกิถามต่อ

"เอ่อ...ราวๆ หกเดือนได้แล้วค่ะ"

"เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อซักห้าปีก่อน ตาลุงนั่น เคยตัดสินใจส่งสาวเรือรบเข้าร่วมปฏิบัติการเอโกะกับกองเรืออื่น ตอนนั้นตาลุงนั่นใจร้อนมากไป จนทำให้กองเรือผสมรวน ผลสุดท้าย ก็เลยพ่ายแพ้ยับ จนต้องล่าถอย รายละเอียด โอโยโดะซังที่เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการน่าจะเล่าได้ดีกว่าฉันนะ รายงานการรบครั้งนั้น เธอเป็นคนบันทึกไว้นี่นะ"

"ค..ค่ะ...รายงานการรบครั้งนั้นฉันจำได้ทุกตัวอักษร ในระหว่างการล่าถอย ซามิดาเระ ซึ่งเป็นหนึ่งในเลขาของกองเรือบูรพาตอนนั้น รับหน้าที่คุ้มกันกองเรือผสมถอยทัพ และได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ สุดท้าย....เราก็สูญเสียเธอไปตลอดกาล"

โอโยโดะที่เล่าต่อ ก็ฝืนเล่าต่อจนจบ พอเล่าจบโอยก็นึกอะไรได้

"ส...สูญเสียเธอไปแล้ว...แล้วเด็ก คนเมื่อครู่....?"

"อ่า... ก็เป็นซามิดาเระ คนที่สองยังไงล่ะ เธอน่าจะรู้อยู่แล้วนะว่า สาวเรือรบอย่างเราๆ นั้นไม่ได้มีแค่คนเดียว แม้ว่าที่กองเรือนี้จะทั้งฉัน ทั้งโอโยโดะซัง และก็เธอ แต่ที่กองเรืออื่น หรือฐานทัพเรืออื่น ก็มีทั้งฉันและเธอ อีกไม่รู้กี่คน เมื่อคนแรกจากไป ก็หาคนที่สองก็เข้ามาทดแทน มันก็เท่านั้นเอง"

"เท่านั้นเองเหรอคะ..?"

"ไม่หรอกค่ะ สำหรับพวกเราสาวเรือรบแล้ว หากว่าได้กระทำตามหน้าที่จนถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นเช่นไร มันก็มีความหมายสมกับชื่อของพวกเรา สาวเรือรบแล้วล่ะค่ะ"

คำตอบขอโอโยโดะ ทำให้โอยนึกอะไรขึ้นได้

"นั่นสินะคะ เพราะดิฉันเห็นแต่เรื่องส่วนตัวมากเกินไป คิตาคามิซัง เขาก็ทำหน้าที่ของคิตาคามิอย่างสุดความสามารถแล้วสินะคะ ต่อไปก็ถึงคราวดิฉันที่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ถึงที่สุดบ้าง"

"คิดได้ยังงั้นก็ดีแล้วล่ะนะ"

เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตู ผู้ที่เข้ามาโดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน ก็คือ คิริชิมะ หนึ่งในเลขานั่นเอง

"โอ๊ะ? คิริชิมะซัง เรื่องยุทธวิธีภาคทฤษฎีที่จะสอนเด็กใหม่ของคืนนี้ล่ะคะ?"

โอโยโดะ เป็นฝ่ายร้องถามขึ้น คิริชิมะ ขยับแว่นพลางชูเอกสารปึกหนึ่ง

"เรื่องนั้นให้พวกรุ่นเก่าๆ ช่วยดูแลรุ่นน้องกันไปก่อน ตอนนี้มีเรื่องด่วนเข้ามาน่ะ ตาลุง ไม่อยู่เหรอ?"

"ผู้บัญชาการออกไปเดินเล่นข้างนอกค่ะ มีภารกิจต่อไปเข้ามาสินะคะ?"

โอโยโดะ รับเอกสาร มาอ่าน

"อื้อ เป็นภารกิจซุ่มโจมตีน่ะนะ ศึกนี้อันตรายพอดูเลยล่ะ เลยต้องจัดกองเรือตอร์ปิโดไปซุ่มโจมตี แต่พอได้ยินเรื่องของเธอแล้ว ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลย คนที่อยู่ตอนนี้ก็ต้องสู้กันต่อไป จากนี้ฝากตัวด้วยนะ"

"ค่ะ!!"

...................

ยุทธนาวีเกาะซาว

ตูม~~!!

"ยืนยันเรือลาดตระเวนเบาชั้นเฮะ กับเรือประจัญบาน ชั้นรุ ถูกทำลายเรียบร้อย!!"

โอย ประกาศลั่นหลังจาก เสียงระเบิดของเรือดำน้ำขนาดเล็ก ที่เพิ่งปล่อยไปจากเธอ และคิโสะ ได้ฉีกร่างเรือของศัตรูออกเป็นชิ้นๆ

"หึ หึ หึ~~ น่าเสียดายเหะ น่าจะโดนเรือขนส่งนะ ช่างเถอะ!! ทุกคน!! ปรับขบวนเตรียมตัวเข้าปะทะได้!!"

"รับทราบ!!"

คิโสะ ในฐานะเรือธงในปฏิบัติการ ประกาศลั่น สาวเรือรบทั้งหมดรับคำสั่ง เริ่มปรับเปลี่ยนขบวนเข้าโจมตี

"หึ หึ หึ ข้าจะสอนให้เจ้าพวกนั้นรู้จักการต่อสู้ที่แท้จริงเอง!!"

..................

"ไง คิโสะคุง ผลการรบเป็นยังไงบ้าง? มีใครเป็นอะไรบ้างไหม?"

ผู้บัญชาการร้องถามผ่านวิทยุสื่อสาร ภายหลังมีการแจ้งว่า ภารกิจซุ่มโจมตีเสร็จสิ้นแล้ว กองเรือตอร์ปิโด เริ่มล่าถอย

'เอ่อ...ยังไงดีล่ะ ภารกิจแรกของข้าซะด้วยสิ อ่า..เจ้าเด็กเรือพิฆาตของเราสองลำเสียหายหนักจะจมแหล่ไม่จมแหล่ ต่อไปก็..ลาดตระเวนหนักอีกสองเสียหายพอควร แต่โต้ตอบศัตรูไม่ได้อีก ส่วนข้ากับโอยมีฝีมือเอาตัวรอดได้ เลยแค่เสียหายนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ก็ยังจัดการกับยัยองค์หญิงสงครามไม่ได้'

เสียงจากปลายสายรายงานมา ทำเอาบรรยากาศในห้องผู้บัญชาการตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

'แต่ภารกิจซุ่มโจมตีสำเร็จไปด้วยดีค่ะ ทุกคนแม้จะเสียหายบ้าง แต่ก็ปลอดภัยดีค่ะ!!'

เสียงของโอย ที่รายงานแทรกขึ้น

'เฮ้ย นี่ข้าเป็นเรือธงนะ จะมาแย่งข้าพูดได้ยังไง!!?'

'ก็การรายงานผ่านวิทยุสื่อสารต้องรวดเร็วเรียบง่าย และเข้าใจนะคะ ที่คิโสะซังรายงานไป มันทั้งยาว แต่ก็เข้าใจยาก อีกอย่างภารกิจเราคือซุ่มโจมตีเรือขนส่งของศัตรูนะคะ!!'

'แต่ข้าเป็นเรือธงนะเฟ้ย!! เรื่องรายงานแค่นี้ข้าทำได้อยู่แล้ว!!'

เสียงทั้งสองทะเลาะกันผ่านวิทยุ ทำให้บรรยากาศในห้องผู้บัญชาการผ่อนคลายลง

"เอ่อ...ท่าทางสองคนนั้นจะเข้าขากันได้ดีนะคะ"

โอโยโดะเอ่ยขึ้น พร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ส่วนเลขาคนอื่นหัวเราะกันคิกคัก

"ก็ว่างั้นล่ะนะ เอ้า!! ทะเลาะกันพอหรือยัง? ถ้าพอแล้วก็รีบกลับมากันได้แล้ว!!"

'รับทราบค่ะ!!'  'เฮ้ย!! แย่งข้าอีกแล้ว!!'

ผู้บัญชาการพูดขึ้น ก่อนจะตัดสายวิทยุไป

ก๊อกๆๆ "โชวไคค่ะ!! ขออนุญาตค่ะ!!"

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่โชวโคจะเปิดประตูเข้ามา

"โอ๊ะ? โชวไคคุง มีเรื่องอะไรเหรอ?"

ผู้บัญชาการถามขึ้น อีกฝ่ายยิ้มกว้าง มีเพียงเขากับเธอเท่านั้นที่เข้าใจ เหล่าเลขาคนอื่นๆ ยังงุนงง กับรอยยิ้มทั้งสอง

พอโชวไชวไคขยับตัวหลบ ที่แท้มีสาวเรือรบอีกคนตามหลัง เหล่าเลขาพอเห็นหน้าก็เข้าใจหันกลับไปมองผู้บัญชาพร้อมกัน

"หึหึหึ ที่ฉันทำได้ก็มีเท่านี้ล่ะนะ"

...................

สายๆ ของวันถัดมา กองเรือซุ่มโจมตีที่เกาะชาวได้เดินทางกลับมาถึงท่าเรือสุคุโมะโดยสวัสดิภาพ

เหล่าสาวเรือรบที่ได้รับความเสียหาย ถูกส่งไปยังอู่ซ่อมบำรุง มีเพียง คิโสะ เรือธงของกองเรือซุ่มโจมตี และโอย ที่มุ่งตรงไปยังห้องของผู้บัญชาการเพื่อรายงานผลการรบ

"เอาล่ะ ขอบคุณ ทั้งสองคนมาก ไปพักได้แล้ว"

ผลการปฏิบัติการซุ่มโจมตี ประสบความสำเร็จ ถึงจะมีเรือเสียหายหนักกลับมาเยอะก็ตาม

"อา ขอบใจ งั้นข้าไปล่ะ"

"ข..ขอตัวก่อนนะคะ"

"จริงสิ โอย สำหรับเธอ อย่าเพิ่งไปพัก ช่วยตามฉันมาหน่อยนะ ฉันเตรียมบทลงโทษของเธอไว้ให้แล้วล่ะนะ"

ผู้บัญชาการร้องทัก ทำเอาทั้งสองชะงัก โดยเฉพาะโอย ที่มีสีหน้าซืดลงอย่างเห็นได้ชัด

"ให้ข้าไปด้วยได้ไหมล่ะ?"

คิโสะถามเสียงเครียด เธออยากรู้ว่า ผู้บัญชาการ จะเตรียมบทลงโทษอะไรไว้ให้โอย

"ก็ตามใจสิ"

ทั้งสองเดินตามผู้บัญชาการมายังห้องเรียนของกองเรือ ซึ่งเป็นสถานที่สอนเรื่องยุทธวิธีของสาวเรือรบหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาประจำการ

ในห้องยังมีการเรียนการสอนอยู่ ผู้บัญชาการบูรพา หยุดมองดูจากภายนอก ซึ่งทั้งสองสาวก็มองตามเข้าไปภายในห้อง

"คิตาคามิซัง!! นี่มันอะไรกัน?"

โอยอุทานขึ้นทันที ที่เห็นว่ามี คนที่เธอคุ้นเคยมากที่สุดนั่งเรียนร่วมกับคนอื่นด้วย

"เฮ้ยๆ นี่เจ้ารีบเอาคนใหม่มาประจำการ ไม่เร็วไปหน่อยเรอะ!!?"

คิโสะรู้สึกไม่พอใจ จนพูดออกมา

"โอยอิจิ น่ะเขาเป็นคนขี้เหงา ถ้าฉันเป็นอะไรไปช่วยดูแลเธอด้วยนะ"

จู่ๆ ผู้บัญชาการก็พูดขึ้น ทั้งสองสาวชะงัก

"หา?"

"นี่เป็นคำพูดสุดท้าย ที่คิตาคามิคนก่อนขอไว้ ตอนที่ฉันติดต่อโดยตรงในศึกที่คอรัล คิตาคามิคุง อยู่กับฉันมานาน ยังไงก็ตาม ตัวฉันเองก็ไม่สามารถดูแลพวกเธอได้ดีเท่ากับที่พวกเธอจะดูแลกันเอง"

ผู้บัญชาการบูรพาพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คำพูดของเขา ทำเอาโอยสะดุ้ง หวนนึกถึงวันแรกที่เธอได้เข้ามาประจำการในกองเรือบูรพาแห่งนี้

'โอ้ ดีใจจัง ที่ได้โอยอิจิมาร่วมกองเรือซักที ฉันคิตาคามินะ ตาลุงให้ฉันมาดูแลเธอล่ะ ฝากตัวด้วยนะ'

นี่เป็นคำพูดแรกของคิตาคามิ พูดกับเธอ

ที่แท้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความใจดีของคิตาคามิซังของเธอ ก็คือ ผู้บัญชาการบูรพานี่เอง

"เอาล่ะ โทษของเธอ ก็ช่วยดูแลคิตาคามิ คนนี้ด้วยนะ"

"ค...ค่ะ!!"

...................

จบเรื่องที่ 1

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.