Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[TEST] Prologue 1


+ Pangtor Girl +

Recommended Posts

§ Prologue §

 

ท้องฟ้ามืดครึ้มสีเทาเข้มดูอึดอัดไม่มีแม้แต่แสงแดดที่จะส่องลงมาสู่ผืนดิน เมฆฝนค่อยๆใกล้เข้ามาก่อนที่จะร่วงหล่นเป็น

สายฝนดังเปาะแปะเหมือนเสียงเพลงที่สะกดทุกสิ่งไว้ในภวังค์ ท่ามกลางพื้นดินที่แตกร้าวพังพินาศ มีชายผมยาวสีเหลือง

นวลที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลนั่งคุกเข่าอยู่ ในอ้อมแขนของเขามีหญิงสาวร่างเล็กสีถูกชโลมไปด้วยเลือดสีแดง

ชายคนนั้นกอดร่างเล็กไว้แน่นเหมือนกลัวว่าสิ่งที่กอดอยู่จะสลายหายไปตรงหน้า หญิงสาวในอ้อมแขนค่อยๆลืมตาขึ้นเผย

ให้เห็นสีฟ้าน้ำทะเลใสที่แสนสะดุดตา แววตานั้นแสนจะอ่อนล้าแต่ก็ไม่บดบังความสวยงามของนัยน์ตานั้นเลย ... น้ำใสๆ

ค่อยๆไหลรินจากดวงตาสีเพลิงลงอาบแก้มทั้งสองของชายหนุ่ม หญิงสาวคนนั้นยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆเอื้อม

มือขาวซีดที่เปรอะคราบเลือดไปเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบาก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ตามบ้าง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีรอยยิ้มบน

ใบหน้า ... หญิงสาวตาฟ้าค่อยๆขยับปากพูดอย่างอ่อนล้า

“...”

เสียงนั้นแหบแห้งและแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ชายที่กอดร่างเล็กนั้นได้ยินชัดเจนดีและน้ำตาก็ไหลรินลงมากกว่าเดิม

แต่ทว่ากลับมีรอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่ใบหน้าแม้จะดูฝืนก็ตาม

anata ga daisukidesu...”

มือขาวซีดของเธอนั้นค่อยๆลากไล้ลงจากแก้มของชายหนุ่มมาถึงปลายคางก่อนจะเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนพร้อมกับน้ำตา

ที่พรั่งพรูออกมา ชายคนนั้นกุมมือของเธอไว้ให้หยุดอยู่ที่แก้มของเขาก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง มือของเธอค่อยๆ

อ่อนลงจนกระทั่งมันหลุดออกจากฝ่ามือใหญ่ของเขา ...

 

ตราบเท่าฟ้าดินสลายยังไม่เจ็บปวดเท่ากับหัวใจของเขาที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

เสียงสายฝนดังระคนเสียงร้องแสนเศร้า

ท้องฟ้ามืดครึ้มสีเทา

หมอกเงาจางหาย

และดวงใจที่แตกสลาย ...

...

นัยน์ตาสีแดงพลันเบิกขึ้น

                           tumblr_mrbl5tydGy1s9g6xgo1_500.jpg

 

 

- {Gijinka} Pokemon & The Gang -

By : gamza

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

ใครตายน่ะ!?!? แล้วทำไมต้องพูดคำๆนี้ตอนตายด้วย โฮฮฮฮฮฮ

ยังไม่รู้แน่ชัด แต่คนที่อุ้มผู้หญิงไว้น่าจะเป็นเบรเซียสนะ...

 

บรรยายได้สวยงามและมีอารมณ์เต็มเปี่ยมครับ แต่บางทีเหมือนจะใช้คำซ้ำนะ

 

เสียงนั้นแหบแห้งและแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ชายที่กอดร่างเล็กนั้นได้ยินชัดเจนดีและน้ำตาก็ไหลรินลงมากกว่าเดิม

แต่ทว่ากลับมีรอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่ใบหน้าแม้จะดูฝืนก็ตาม

ไอ้แต่ทว่าอันหลังอ่ะ ตัดออกไปก็ได้ ยังคงให้ความหมายเดิมได้อยู่

 

แค่เทสต์ก็น่าสนุกแล้วครับ //ฮา :pika01:

Link to comment
Share on other sites

  • 1 year later...

 

Spoiler

 

0

เป็นวันที่ท้องฟ้าไร้ซึ่งแสงอาทิตย์

 

 

นภามืดครึ้มประดับเมฆก้อนใหญ่สีดำทะมึนดูน่ากลัว ประกอบสายลมพัดกรรโชกแรงจนได้ยิน

เสียงหวีดหวิวเป็นสัญญาณบอกว่าพายุกำลังจะเข้าเป็นอย่างดี ... ถึงกระนั้นก็ยังมีร่างของชายปริศนา

ปรากฏขึ้นบนลานกว้าง เขากำลังวิ่งเหมือนไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของสภาพอากาศ ผ้าคลุมตัวยาวไหว

สะบัดตามแรงลม ในอ้อมอกของเขามีเด็กทารกอยู่ด้วย

 

 

เขาวิ่งไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ฮู้ดที่สวมปิดใบหน้าทำให้มิอาจทราบได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

หากเป็นทั่วไป ก็คงมีเหล่าผู้คนที่เดินขวักไขว่เรียกให้เขาเข้าไปหลบพายุ หรือไม่ก็ตำหนิที่เขาพาทารก

ออกมาท่ามกลางสภาพอากาศแบบนี้ ทว่าน่าแปลกที่ไร้ซึ่งผู้คน ... ไม่เห็นแม้แต่เงา

            ลมพายุรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนจะพัดพาให้ชายร่างใหญ่ปลิวออกไปจากตรงนั้น แต่เขาก็ยังคงวิ่งฝ่า

สายลมไปโดยไม่มีท่าทีสั่นไหว ... เด็กทารกในอกเริ่มร้องไห้

 

 

ในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง

 

 

สายฝนพลันตกลงมา

 

 

            ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างทั้งหลายเป็นตัวบ่งบอกว่าสถานที่นี้ถูกทำลายย่อยยับ สภาพของบ้านเรือน

ร้านค้าไม่เหลือเค้าโครงแม้แต่น้อย บรรดาสิ่งของที่เคยตั้งเรียงกลับมอดไหม้เป็นขี้เถ้าปลิวไปตามสายลม

รอยไหม้เกรียมของไม้และรอยผุกร่อนของศิลาใหญ่ดูอนาถจนยากจะเชื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้น กลิ่นคาวแรงเป็น

เอกลักษณ์คละคลุ้งในอากาศ เลือดสีแดงฉานสาดกระจายไปทั่วพื้นจนไม่เห็นสีของพสุธา แม้ว่าสายฝนที่

โหมกระหน่ำลงมาก็มิอาจชำระล้างออกได้ เขาเงยหน้าขึ้น เผยใบหน้าคมเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยบาดแผล

หยาดน้ำที่ไหลลงอาบแก้มนั้นเป็นน้ำตาหรือสายฝนก็มิอาจรู้เลย

 

 

           เขาทอดมองไปด้านหน้า

 

 

          สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาเคลื่อนตัวอยู่ในความมืดอย่างเชื่องช้า มันยืนผงาดอยู่บนปราสาทหินอ่อนที่ตอนนี้

เป็นเพียงซากพินาศย่อยยับ ดวงตาสีสนิมเหล็กเรืองไหวในความมืด ทันทีที่สายฟ้าฟาดลงมา แสงสว่าง

วาบในตอนนั้นทำให้เขาเห็นว่าปีศาจตนนี้คือ “มังกร”

ปีกค้างคาวขยายออกจนแทบบังท้องนภา เกล็ดสีแดงโลหิตเลื่อมเรืองรองเมื่อกระทบแสง ปากใหญ่กว้าง

อ้าเผยอเห็นเขี้ยวแหลมคมดั่งมีด เขามากมายที่ประดับหัวของมันเหมือนมงกุฎแสดงอำนาจ มันมอง ...

มองลงมาที่ชายคนนั้น แล้วขยับตัวอย่างเยือกเย็น

 

 

            “ข้าขอโทษ” เสียงเอื้อนเอ่ยนั้นออกมาจากปากชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา

เสียงคำรามลั่นของมังกรดังขึ้นคู่กับเสียงฟ้าที่ผ่าลงมา มังกรสยายปีกกว้าง โฉบบินลงมายังพื้นพสุธา

แรงกระพือหอบลมใหญ่จนฮู้ดของเขาหลุดออก

 

 

“ข้าขอโทษ ... ขอโทษจริงๆ” เขาพูดอีก เสียงสั่นเครือ

มันขยับตัวใกล้เข้ามา ส่งเสียงครืดคราดยามหายใจ มันไม่ได้ทำอะไร แค่ทอดสายตามองเด็กน้อยในอ้อม

แขนของเขา จ้องอยู่นานทีเดียว

 

 

            ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง

 

 

           เด็กน้อยร้องไห้จ้า มังกรหรี่ตาเล็กลง ก่อนจะถอยหลังกลับและโผบินกลับขึ้นไปที่ปราสาท

            “...”

          ชายหนุ่มพึมพำบางอย่าง แต่เสียงนั้นแผ่วเบาจนไม่ได้ยิน ขณะนั้นเขายิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นเหลือเกิน

ทันใดนั้นสายลมวูบหนึ่งก็พัดผ่านมา ร่างของเขาก็หายไป ทิ้งไว้เพียงตราบาปบนผืนดินเท่านั้น

 เสียงคำรามกู่ก้องของมังกรดังขึ้นอีก ... ดังกว่าเดิม หากแต่เป็นเสียงที่เศร้าเหลือเกิน

 


 

 

-  ปกรณัมแห่ง บัลลังก์ไร้ราชา } -

Edited by + Pangtor Girl +
Link to comment
Share on other sites

ชายหนุ่มคนนั้นอาจจะเป็นพ่อของเด็ก...แล้วมังกรรับเด็กไปเลี้ยงต่อสินะ หรือว่านี่จะเป็นนัตสึกับอิกนีล---//ผิด

Link to comment
Share on other sites

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน บทนำน่าสนใจมากค่ะ ใครตายกัน? :pika12:

อีกบทก็เหมือนกัน รอติดตามนะคะ :pika01:

  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

  • 2 months later...

§ One-short §

ยินดีที่ไม่รู้จัก

            ชายหนุ่มวัยรุ่นร่างสูงยืนยิ้มให้กับสาวๆที่อยู่รอบกายของเขา เสียงวี้ดว้าย

ดังมาเป็นระยะๆคงเป็นเพราะใบหน้าเกลี้ยงเกลาประกอบกับดวงตาสีน้ำตาลไหม้

แสนเสน่ห์นั้นสะกดให้พวกเธอร้องออกมาอย่างลืมตัว

            ในขณะที่เขายืนคุยอยู่นั้น เสียงแหลมเล็กก็ขัดขึ้น ดูจากน้ำเสียงแล้ว

เจ้าตัวคงหงุดหงิดอยู่เป็นแน่

            “ถ้าจะมายืนคุยกันล่ะก็ อย่ามายืนขวางทางได้ไหม?”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น ใครกันนะที่กล้าพูดแบบนี้ ... เขาหันซ้ายขวามองหาเจ้าของ

เสียงแต่ก็ไม่พบ จู่ๆสาวๆที่ห้อมล้อมเขาก็ถูกแหวกออกมา เรียกเสียงบ่นและตำหนิ

ต่อว่า แต่เธอคนนั้นไม่คิดจะสนใจแม้แต่น้อย กลับใช้ดวงตากลมโตสีน้ำเงิน

ตวัดมามองอย่างเอาเรื่องจนเสียงนินทาค่อยๆเงียบลงไป

            เขาก้มมองลง เด็กสาวค่อนข้างตัวเล็ก ท่าทางยังเป็นเด็ก แต่ก็พัฒนาเป็น

ร่างสุดท้ายแล้ว ในขณะที่เขาจ้องเธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาเช่นกัน

            ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักกำลังดูไม่พอใจติดอยากหาเรื่อง ดวงตากลมโตมีแวว

ขุ่นมัว ปากบางกระจับนั้นบึ้งตึงลง แต่เขากลับคิดว่าทั้งหมดที่เธอแสดงออกนั้น ...

มันน่ารัก

           

          ตึกตัก

 

            “มองอะไร” เด็กสาวถามแยกเขี้ยว

            “เจ้าชื่ออะไร สาวน้อย” เขาเมินคำถามนั้น แล้วเป็นฝ่ายถามกลับไป

            เธอถลึงตาใส่อย่างหงุดหงิดแล้วผลักเขาออก ชายหนุ่มเซเล็กน้อย สำหรับ

เด็กสาวแล้วก็ถือว่าแรงเยอะทีเดียว ...

            “ใครเป็นสาวน้อยกัน หลบไป !” เธอตะคอก แล้วเดินออกจากวงไป

            “เดี๋ยวก่อน !!

            ชายหนุ่มรีบวิ่งไปขวางทางเธอไว้ แล้วก็ยิ้มออกมา “ข้าชื่อริวเซย์ .. ริวเซย์

            เดอะ ลิซาด้อน”

            “ใครอยากรู้กัน !” เด็กสาวผลักเขาออกอีกที

            “ถ้าเจ้าไม่บอกชื่อ ข้าจะเรียกเจ้าว่าสาวน้อยนะ” ริวเซย์ไม่ยอมแพ้

            “ ... คาน่า เดอะ คาเม็กซ์” เธอกัดฟันตอบ “ทีนี้ก็หลบไป เจ้าซาลามันเดอร์

            บินได้ !

            ริวเซย์ซี๊ดกับคำพูดของคาน่า ก่อนจะหลีกทางให้เธอเดินปึงปังออกไป

ท่าทางหัวเสียทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ชายหนุ่มป้องมือแล้วตะโกนออกไป

            “ยินดีที่ได้รู้จักนะ คาน่าจัง !

เด็กสาวชะงัก แล้วหันกลับมาด้วยสายตาที่จะพร้อมจะกินหัวเขาอยู่แล้ว

“ยิน – ดี – ที่ – ไม่ – รู้ – จัก !!!” คาน่าตะโกนกลับมา พร้อมเน้นที่คำว่า

ไม่เป็นพิเศษ แล้วก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ริวเซย์ยืนนิ่ง มองร่างเล็กที่ไกล

ออกไป ...

 

ไม่รู้ทำไม แต่เขาหยุดยิ้มไม่ได้เลย

 

หลายสัปดาห์ต่อมา

            ริวเซย์กำลังเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าร้านขนมแห่งหนึ่ง พร้อมกับเอามือยีผม

สีส้มของตัวเอง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแสดงให้เห็นถึงความคิดที่ตีกันจนยุ่งเหยิง อืม ...

ยุ่งเหมือนกับผมของเขาตอนนี้ล่ะนะ

            ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านพอดี ในมือมีถุงขนมชมพูเล็กๆ

น่ารักอยู่ด้วย เขาหันมามองริวเซย์ที่ทำหน้ายุ่งเหยิงด้วยด้วยแววตาเอ็นดูเล็กน้อย

ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นมิตร

            “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยรึเปล่า?”

            เด็กหนุ่มที่ถูกถามเงยหน้าขึ้นมาสบตากับนัยน์ตาสีม่วงของอีกฝ่ายด้วย

ความประหลาดใจ

            “อ่า ... ถ้าช่วยผมได้ก็จะดีมากเลยล่ะครับ !! เอ่อ แบบว่า หมายถึงถ้าไม่

            รบกวนท่านจนเกินไป ..”

ริวเซย์โบกมือเป็นพัลวันด้วยความประหม่า เพราะอีกฝ่ายดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเขา ทำให้

ชายคนนั้นลอบขำเบาๆ

            “ไม่ต้องเกร็งไป มีอะไรที่ข้าช่วยได้ก็จะช่วย”

            “ครับผม ขอบคุณมากครับ” ริวเซย์ยิ้มแหยๆ “คือผมจะเข้ามาดูขนมในร้าน

            นี้ แต่ว่าเพิ่งมาเป็นครั้งแรก ... แล้วก็มันเป็นร้านขนมของผู้หญิงใช่ไหมครับ

            ผมก็เลยรู้สึกแปลกๆ แบบว่าจะเข้าไปก็ไม่กล้า ...”

            “ครับ แล้ว ...?”

            “อันที่จริงผมจะซื้อขนมไปฝากผู้หญิงคนหนึ่งและผมเลือกขนมไม่เก่งด้วยสิ

            ... จะว่ายังไงดี สรุปก็คือผมกำลังกลุ้มใจที่จะเข้าไปเลือกขนมในร้านน่ะ

            ครับ แฮ่ะๆ”

            ชายหนุ่มยิ้มออกมากับคำพูดเงอะงะของอีกฝ่าย ริวเซย์ก็เกาหัวตัวเอง

หัวเราะแก้เก้อไป

            “งั้นให้ข้าช่วยก็แล้วกัน”

ในที่สุดชายหนุ่มตอนนั้นก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

            “ข้าแวะมาซื้อที่ร้านนี้บ่อย น้องสาวข้าชอบน่ะ ฮ่ะๆ”

            “จริงหรอครับ ขอบคุณมากๆเลย !” ริวเซย์โค้งตัวขอบคุณอย่างกระตือรือร้น

“อ๊ะ ผมลืมแนะนำตัวไปซะได้ ! ผมชื่อริวเซย์ ... ริวเซย์ เดอะ ลิซาด้อนนะ   ครับ”

            ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มพยักหน้ารับ “ฟุคาเสะ เดอะ ฟูชิกิบานะครับ”

...

            สุดท้ายแล้วชายหนุ่มทั้งสองก็เลือกซื้อขนมออกมาเป็นที่เรียบร้อย ริวเซย์เกา

หน้าเขินๆเพราะเขาดันเลือกซื้อตามฟุคาเสะไปซะได้ ก็เขาไม่รู้จะซื้ออะไรดีนี่นา ...

            “จะไปไหนต่อหรือ ?” ชายหนุ่มผมเขียวเอ่ยปากถามยิ้มๆ

            “เอ้อ ผมว่าจะไปที่สวนสาธารณะน่ะครับ” ริวเซย์ตอบ “เวลาแบบนี้

            เธอคงจะอยู่ที่นั่นแล้วล่ะ”

            “ข้าก็จะไปที่นั่นเหมือนกัน บังเอิญจังนะครับ ฮ่ะๆ”

            ริวเซย์ไม่ได้ติดใจอะไรกับความบังเอิญนั้นเลย ทั้งสองคนเดินคู่กันไปเรื่อยๆ

จนถึงจุดหมายคือสวนสาธารณะโล่งๆที่ไม่ได้กว้างมากนัก แต่มีต้นไม้ร่มรื่นเยอแยะ

สบายตา มีเครื่องเล่นพลาสติกให้เด็กๆและม้านั่งสวยๆตั้งอยู่โดยรอบ อากาศยาม

เย็นไม่ร้อนมากนักทำให้ผู้คนเริ่มออกมานั่งเล่นให้เห็นละลานตา

            ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มทั้งสองจะเอ่ยลากัน เสียงแหลมเล็กก็ดึงความสนใจ

จากทั้งคู่เสียก่อน

            “ท่านพี่ ! อ๊ะ ...” คาน่าที่กำลังโบกมือเรียกและวิ่งเข้าหาฟุคาเสะกลับหยุด

ชะงักเมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้าง ท่านพี่ของเธอ “จะ ... เจ้า ...”

            “คาน่าจัง...” ริวเซย์พูดเหวอๆแล้วหันไปหาคนข้างๆ “ท่านพี่ ...?”

            ฟุคาเสะเองก็เลิกคิ้วขึ้น มองคาน่าสลับกับริวเซย์

            “ทั้งสองคนรู้จักกันหรอกหรือ?”

            “คนนี้ไงที่ข้าพูดถึง ท่านพี่ ! เจ้าซาลามันเดอร์โรคจิตที่ชอบตามข้าบ่อยๆ

            ตอนนี้น่ะ !!!

            ซาลามันเดอร์โรคจิต ... ? ริวเซย์รู้สึกห่อเหี่ยวกับคำเรียกของตัวเองขึ้น

ทุกวัน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ !

            “คาน่า อย่าเสียมารยาทสิ” ฟุคาเสะดุน้องสาวของตัวเอง ทำให้คาน่าทำ

            แก้มป่องฮึดฮัด

            “ข้าพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆตอนนี้แล้วล่ะ”

ฟุคาเสะพูดแล้วก็ลูบหัวง้อคาน่าอย่างเอ็นดู

            “ข้าเป็นพี่ชายบุญธรรมของคาน่าเอง ส่วนเจ้า ... ริวเซย์ ช่วงนี้เจ้าเองก็ตาม

            ตื๊อคาน่าอยู่สินะ”

            “คะ ... ครับ แฮ่ะๆ” ริวเซย์หัวเราะเขินๆเมื่อรู้ความจริง ให้ตายสิ นี่เขาพูด

อยู่กับพี่ชายของคาน่าจัง ... เขาพูดอยู่กับพี่ชายของคาน่าจัง ! แถมยังเคยเดินไปซื้อ

ขนมด้วยกันด้วย !! โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว

            “แล้วขนมนั่น ...?” ฟุคาเสะทักขึ้นเบาๆ

            ริวเซย์นึกขึ้นได้ เขาหยิบถุงขนมเล็กๆสีชมพูยื่นให้กับคาน่าทันที

           “คาน่าจัง ข้าซื้อมาฝากเจ้านะ !

            คาน่าหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่ริวเซย์ยิ้มสู้ เขาเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิมทำให้

            เด็กสาวต้องรับมันมา

            “ข้าไม่ได้ชอบขนมนี่หรอกนะ ...” เธอบ่นอุบอิบ

            “อ้าว แต่เจ้าฝากพี่ซื้อไม่ใช่หรือ?” ฟุคาเสะมองคาน่าก่อนจะยกถุงขนมนั้น

            มาโชว์ให้ดู

            คาน่าทำตาโต หน้าแดงโวยวายทันที “ท่านพี่ !!!

            ฟุคาเสะหัวเราะกับท่าทางของน้องสาวและยีผมเธอจนยุ่ง คาน่าทำ

แก้มป่องไม่พอใจกว่าเดิม เธอเดินหนีออกมาโดยอ้างว่าจะไปนั่งเล่นที่ชิงช้า

ปล่อยชายหนุ่มสองคนอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

            ฟุคาเสะมองน้องสาวของตนที่นั่งทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยที่ชิงช้าแล้ว

หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะหันมามองเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างกายบ้าง ริวเซย์ที่จ้องคาน่า

อยู่ถึงกับสะดุ้งเล็กๆ และกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม

            “เจ้าชอบน้องสาวข้าหรือ?” ฟุคาเสะถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ทว่าริวเซย์ถึงกับสำลัก

            “แค่กๆๆ อะ .. เอ่อ คือ ...”

            “คาน่าชอบช็อคโกแลต แต่ชอบคุกกี้มากกว่า” จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมา

            “อ่าครับ ...” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างงงๆ

            “ถ้าจะให้ดีซื้อนมมาด้วยก็ได้ ที่ร้านนั้นก็มีขาย” ฟุคาเสะบอกยิ้มๆ

            “พยายามเข้าล่ะ ริวเซย์”

ชายหนุ่มร่างสูงทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป ริวเซย์ถึงกับนิ่งค้างเมื่อได้ยินประโยค

นั้นของฟุคาเสะ กว่าจะตั้งสติได้เขาก็เดินไปไกลพอสมควรแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ...

            “ขะ ... ขอฝากตัวด้วยนะครับ !!!” เขาก็ตะโกนออกไป ซึ่งมันก็ดังพอที่จะ

ทำให้คนฟังชะงักได้ฟุคาเสะไม่ได้หันกลับมา แต่ยกมือข้างขวาขึ้น เหมือนจะบอกว่า

แล้วเจอกัน

            ... รู้สึกว่าเขาจะเข้าใกล้คาน่าจังอีกก้าวแล้วสิ

 

หลายเดือนต่อมา ...

 

            สถานการณ์ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ริวเซย์

ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าใกล้เด็กสาวตัวเล็ก เขาซื้อขนมไปให้ ซื้อของขวัญ หรือ

ดอกไม้สวยๆ พยายามพุดคุยด้วย ไปดักเจอที่สวนสาธารณะ แต่ก็ดูเหมือนว่าคาน่า

จะใจแข็งซะเหลือเกิน เธอไม่เคยตอบรับเขาดีๆ ไม่แม้แต่จะขอบคุณเมื่อรับของ

ที่เลวร้ายที่สุดเลยคือ เธอไม่เคยยิ้มให้เขาแม้แต่ครั้งเดียว ...

            บางทีเขาก็ลองนึกทบทวนตัวเองดูว่าเขาทำอะไรผิดไปรึเปล่า

            หรือบางทีเขาอาจจะคาดหวังมากเกินไปใช่ไหม ... ?

จะทำยังไงได้ ก็เขาชอบเธอมากจริงๆนี่ มากเกินไปด้วยซ้ำ .. ริวเซย์ไม่เคยชอบใคร

ขนาดนี้มาก่อน เขาลงทุนโดนปืนใหญ่น้ำของเธอทุกวันเพื่อที่จะได้เข้าไปเฉียดมือ

เธอแค่ซักนิดก็ยังดี เขาเข้าหาเธอมากเกินไปหรือว่าเธอปิดกั้นตัวเองมากเกินไปกันนะ ...

            เด็กหนุ่มล้มตัวลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

            พลางครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรไปให้เธอดี ..

...

            “เจ้าไม่ชอบริวเซย์หรือ คาน่า” ฟุคาเสะเอ่ยถามขึ้นลอยๆในขณะที่กำลัง

หวีผมให้น้องสาวตนเอง

            “พะ ... พูดอะไรของพี่เนี่ย !” คาน่าตอบเสียงดัง

            “พี่แค่ถามเฉยๆเอง” ฟุคาเสะพูดยิ้มๆ

            “ริวเซย์เขาก็เป็นคนดีนะ เอาใจน้องสาวพี่ทุกอย่างเลย”

            เด็กสาวนิ่งเงียบไป ซุกหน้าเข้ากับหมอนใบใหญ่ที่กำลังกอดไว้ตอนนี้แล้ว

ตอบเสียงอู้อี้ออกมา

            “... ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่”

            “งั้นหรอ ...” ผู้เป็นพี่หัวเราะเบาๆให้กับคำตอบของน้องสาว

            “งั้นก็เลิกใจแข็งเถอะ เดี๋ยวริวเซย์เขาจะท้อแท้ซะก่อนนะ ...”

“ข้าไม่ได้ใจแข็งซะหน่อย ข้า ... ข้าแค่ ...” คาน่ามุดหน้าเข้าไปในหมอน

 “...ทำตัวไม่ถูกแค่นั้นเอง”

            จู่ๆใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวก็ระเรื่อขึ้นมานิดหนึ่ง ...

...

            “คาน่าจัง...” ริวเซย์เรียกเด็กสาวตัวน้อยที่กำลังเดินอยู่ คนถูกเรียกหันขวับ

มาอย่างหน่ายๆวันนี้รู้สึกเขาจะเรียกเธอเป็นครั้งที่ร้อยได้แล้วมั้งเนี่ย ...

            “อะไรอีกล่ะ?” เธอตอบกลับไปอย่างระอา แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหน้า

หงอยๆของอีกฝ่าย

            “ข้าทำอะไรผิดไปงั้นหรอ” ริวเซย์มองหน้าเด็กสาวแล้วพูดออกมาด้วยความ

น้อยเนื้อต่ำใจเต็มที

            “ถ้าข้าทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจ ... อันที่จริง เจ้าก็น่าจะไม่ชอบข้าอยู่แล้ว ...

            ข้าขอโทษนะ”

            คาน่ามองริวเซย์อย่างประหลาดใจ แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร

            “ข้าพยายามทำทุกอย่างก็เพราะข้าชอบเจ้านี่นา เจ้าจะให้ข้าทำยังไง ...

            ก็ข้าชอบเจ้าจริงๆนี่”  เขายังคงพูดต่อไป “แต่เจ้าไม่เปิดใจให้ข้าเลย ...”

คาน่ารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่หน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอยู่ดี ริวเซย์เห็นแบบนั้นก็

หงอยกว่าเดิม

            “ถ้าเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ชอบข้า ข้าก็จะไปนะคาน่าจัง”

            ในที่สุดเด็กหนุ่มกลั้นใจพูดออกไป

            “ข้า ...” เมื่อเงียบไปนานคาน่าก็เอ่ยขึ้น “ข้า ... ไม่ ...”

            ริวเซย์เผลอกัดปากตัวเอง รู้สึกเหมือนหัวใจลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

            “ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าซะหน่อย”

            เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขามองเด็กสาว

อย่างอึ้งๆจนเธอต้องเป็นฝ่ายพูดขยายความต่อเอง “ข้าไม่ได้บอกว่าไม่ชอบเจ้านี่

แต่เจ้านั่นแหล่ะทำให้ข้าทำตัวไม่ถูกเองต่างหาก”

            ริวเซย์เงียบ คาน่าก็เงียบ เด็กสาวหน้าระเรื่อขึ้นก่อนจะโวยวาย

            “ก็เจ้าเล่นตามข้ามาอยู่เรื่อยเลย จะให้ข้าทำยังไงเล่า !

            “งะ ... งั้นหรอ ขอโทษนะ” เด็กหนุ่มเหมือนจะงงๆในคำพูดของเด็กสาว

ตัวเล็ก แต่ก็เออออตามน้ำไป เขารู้สึกโล่งใจมากทีเดียว

            “แปลว่าข้า ... ข้ายังมีโอกาสใช่ไหม?”

            “ข้าจะเปิดใจตามที่เจ้าพูดนั่นแหล่ะ...” เธอตอบกลับแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น

            “งั้นตอนนี้เราก็ ... เป็นเพื่อนกัน?”

            “ประมาณนั้น เจ้าจะเป็นอะไรล่ะ ฮะ?” เด็กสาวขมวดคิ้วแยกเขี้ยว

            ริวเซย์เห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมา “นั่นสินะ ฮ่าๆๆ” 

พูดจบเขาก็เดินไปหาเด็กสาวตัวจ้อยที่ยืดกอดอกอยู่ด้านหน้า ด้วยส่วนสูงที่

ต่างกันทำให้เด็กหนุ่มต้องย่อตัวลงมาเพื่อประจันหน้ากับเธอ คาน่าประหม่า

เล็กน้อยเมื่อดวงตาสีน้ำตาลของเขาจับจ้องมายังตน

            “อะไรอีกล่ะ ...” เด็กสาวกล่าวอุบอิบเบาๆ

            ริวเซย์ยิ้มยิงฟันกว้าง ก่อนจะยื่นมือมาด้านหน้าเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

            “ตั้งแต่นี้ไป... เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ คาน่าจัง”

            “ฮื่อ ...” เธอตอบรับในลำคอ แล้วยื่นมือเล็กๆไปจับทำความรู้จัก

            “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เขายิ้ม ... ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

            มันทำให้ ... เธออมยิ้มเล็กๆขึ้นมา

            “ยินดีที่ไม่รู้จัก ... คนบ้า”

FIN.

 

Spoiler

แต่งสนองนี้ดตัวเอง (?) เป็นเซ็ตกิจินกะสตาร์ทเตอร์ของหนูเองล่ะค่ะ

ข้อมูลตัวละครสามารถดูได้ที่กระทู้รวบรวมตัวละครนะคะ ส่วนรูปตอนนี้

มีแค่คาน่าจังในแกล มาลงเผื่อไว้ก่อน คาดว่าอาจจะรีไรท์ ...ไม่กล้าตั้งกระทู้ใหม่

กลัวดองอีก น เอามาแปะไว้ในนี้ก่อน แต่งครบแล้วค่อยว่ากัน lol

 

Edited by + Pangtor Girl +
  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

กรี๊สสสสส!!!!! เป็นสตอรี่ที่น่ารักมากเลยค่าาา :pika14:  อร๊ายยย ฟิน~~~

คาน่าจังเริ่มอ่อนลงแล้วแต่ยังคงความซึนอยู่ ฟุคาเสะคุงก็คอยเอาใจช่วยซะด้วย

ยังไงก็แล้วแต่... พยายามเข้านะคะริวเซย์คุง~~~ >w<b

  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

/me ลงไปดิ้นกับพื้น

โอ้ยยยยยยยย คาน่าซึนโคตรน่ารักกกกกกก //ทุบโต๊ะรัวๆ

คุณพี่ฟุคาเสะจงเป็นพ่อสื่อที่ดีย์ให้ซะ(?):cyndaq02: สู้ต่อไปริวเซย์!

On ‎3‎/‎1‎/‎2560 at 8:39 PM, + Pangtor Girl + said:

  “ข้าไม่ได้ชอบขนมนี่หรอกนะ ...” เธอบ่นอุบอิบ

            “อ้าว แต่เจ้าฝากพี่ซื้อไม่ใช่หรือ?” ฟุคาเสะมองคาน่าก่อนจะยกถุงขนมนั้น

            มาโชว์ให้ดู

            คาน่าทำตาโต หน้าแดงโวยวายทันที “ท่านพี่ !!!

ช็อตนี้ชอบมาก 555555555555 โอ้ย //ลงไปดิ้นอีกรอบ

  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.