Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

ฟิคโปเกมอน *<~The Pokemon Future Destiny (Remake)~>*


bluewind

Recommended Posts

สปอร์*คิซาเ...............

*โดนตบกระเด็น*

ฮาชื่อตอนกับกลาเซีย ฮ่าๆ

(คอมเมนต์อะไรไม่ไ่ด้มาก เดี๋ยวลงละเอียดตอนต่อไป~)

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...
  • Replies 262
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • bluewind

    36

  • ChaosPhoenix

    18

  • Loveless Nova

    18

  • Hermit

    16

ตั้งใจจะพิมพ์ว่า เดียลก้า?

คนสองคนท้ายเรื่องนั้นใครหว่า

เกรเซียน่ารัก อิอิ XD

ปล.ตอนนี้ไม่มีภาพประกอบ... *โดนตบร่วง*

ลืมแก้ครับ - - นี่ก็เป็นตอนที่เอามาแก้จากก่อนรีเมคเช่นกัน

มีนาฬิกาแขวนอยู่ตั้ง 5 เรือนแน๊ะ ช่างเป็นอะไรที่รอบคอบจริงๆ

เดียลก้า ถ่ายทอดพลังแห่งเวลาให้เซเลบีด้วย เป็นเหมือนท่านอาจารย์เซเลบีสินะ

ต่อไปก็ไปเก็บดินละ จะเก็บยังไงต้องไปรอลุ้นกันต่อนะนิ =w=

ปล.น่าจะบอกด้วยว่าทรายสีฟ้าสดใสทำจากอะไร ถึงได้มีพลังมากมายขนาดนี้ (อาจบรรยายสรรพคุณเวิ่นเวอร์เข้าไปเช่น เกล็กทรายสีฟ้าสดใส่นี้ทำจากขี้เล็บของข้า เป็นต้น)

/-me โดนถีบ

อืม ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะส่วนนั้นไม่ได้สำคัญอะไรมากสำหรับผมเลยไม่ได้บรรยายลงไป(จริงๆก็คิดไม่ออกน่ะแหละว่าเป็นทรายอะไร)

มาอ่านแล้วนะ ท่าทางลางสังหรณ์ของเดียอัลก้าจะแม่นยำน่าดูเลยแฮะ

ท่านเดียลก้าหยั่งรู้อนาคต = =

อ่านตอนที่14ละ นาฬิกาทรายหยุดเวลานั่นแก้ปัญหาได้ดีจริงๆ ส่วนสองคนที่โผล่มาทีหลัง แต่ไม่เผยชื่อนั่นใครหว่า  :pika01:

แหมๆ เคยร่วมงานกันมาแล้ว น่าจะรู้นะว่าหนึ่งในสองคนนั้นเป็นใคร

ตอนนนี่ตัดกลับมาอีกกลุ่มแล้วนึกว่าเรื่องจะตัดไปที่บ้านต้นไม้ซะอีก

เมืองนี่ท่าจะนาน

ตัวละครมีดาบในนี่มีไม่กีคนหรอกมั้งครับ :pika01:

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยืดไปอีก 2-3 ตอนมั้งครับ แต่รับรองว่าไม่เกินจำนวนเท่านี้หรอก

เดียลก้าเป็นพระราชา หรือว่าหัวหน้าเทอร์เรอร์จะเป็น!! หรือจะหักมุมกันนะ :pika01:

โคงาเนะแบบสมัยเก่าก็น่าเที่ยวดี แต่แอบชอบโหมดไฮเทคมากกว่า

ไฮเทคอันนั้นยกให้เมืองของพัลเคียไปแล้วครับ = = (อุ้ย เผลอสปอยล์)

เหมือนกับว่าจะเดินทางย้อนเวลาไปในอดีตเลยนะเนี้ย หุๆๆ มนุษย์ทั้งหลายทำเอาอาเจ๊โปเกม่อนจิ้งจอกน้ำแข็งจ๋อยไปได้เลย

มาแป๊บเดียวก็มีกองทัพบุกมาแล้ว ต้องต่อสู้ไวกันจังเลยน้า~ ถ้าตอนต่อไปมาไวๆก็คงจะดีสินะ

มาไวไปไว ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ..อ...อ..อ (ไม่ใช่ละ)

เห็นแล้วคิดถึง อยากแต่งฟิกบ้าง

ไว้วันว่าง ๆ จะมาอ่าน

อ๊าก พี่อิเมจินนนนนนน ปลื้มมากที่เฮียมาอ่านของผม TwT

:pika01: คนข้างบนคุ้นๆ

คนในฟิคตอนนี้โน้ตก็น่าจะคุ้นบ้างนะ :pika01:

สปอร์*คิซาเ...............

*โดนตบกระเด็น*

ฮาชื่อตอนกับกลาเซีย ฮ่าๆ

(คอมเมนต์อะไรไม่ไ่ด้มาก เดี๋ยวลงละเอียดตอนต่อไป~)

คุณจิ้นได้ถูกคู่แล้ว อิอิ

*************************************

ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกคนครับ

ตอนต่อไป ลงภายในวันนี้ แน่นอน ชัวร์ป้าบ แต่เป็นเวลาไหนกันนะ....

Link to comment
Share on other sites

ไม่รู้ว่าเกิดคึกอะไรขึ้นมา แต่ง 2 วันจบ = =

***********************************

ความเดิมตอนที่แล้ว – คาออส คิซาเนะ สปอร์ และฟูร์นิเยร์ได้เดินทางเข้าสู่ปราสาทของเดียลก้า ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองหลวงโคงาเนะ เพื่อรายงานการเดินทางมาโลกโปเกมอนของมนุษย์อย่างพวกคาออส และวางแผนการรับมือกับกองทัพเทอร์เรอร์ที่กำลังจะบุกโจมตีโลกโปเกมอน แต่ในระหว่างนั้นเอง กลับมีสัญญาณการบุกจู่โจมของพวกเทอร์เรอร์ขึ้น ในขณะเดียวกัน พวกคาออสก็จำต้องรีบไปเก็บดินไนโตรจัน ณ สวนสาธารณะของเมืองนี้เสียก่อน...

The Pokemon Future Destiny ตอนที่ 15 ปล้นกลางวันแสกๆ

ทันทีที่คาออส ฟูร์นิเยร์ สปอร์ และคิซาเนะออกจากปราสาท พวกเขาก็ได้พบกับกองทหารของเดียลก้าที่เริ่มเคลื่อนทัพออกไปขับไล่พวกเทอร์เรอร์ ซึ่งกำลังจะบุกเข้าโจมตีเมืองโคงาเนะในอีกไม่กี่อึดใจ พวกคาออสต้องเสียเวลาไปพอสมควรกับการหลบพวกทหารจำนวนมากที่กำลังเดินทัพออกไปนอกปราสาท ซึ่งพวกเขาสามารถออกไปได้ทางประตูหลักที่พวกทหารกำลังเดินทัพอยู่เพียงทางเดียวเท่านั้น

“วู้ เกะกะตายชัก ทำไมพวกเขาต้องมาเดินกันตอนที่พวกเรากำลังจะออกจากปราสาทด้วยล่ะเนี่ย?” สปอร์แอบบ่นหลังจากที่พวกเขาออกมาจากเขตปราสาทได้แล้ว

คิซาเนะที่แสนจะหูดีกับเรื่องวลีกวนตา วาจากวนเท้าของสปอร์ ก็เริ่มต่อว่าเขาอีกครา “สปอร์! ฉันสังเกตมาหลายรอบแล้วนะที่เธอแสดงกิริยาที่น่ารังเกียจแบบนี้น่ะ ทั้งตอนที่พวกเราเพิ่งเจอกันตอนมาโลกโปเกมอน ทั้งตอนที่บ้านต้นไม้ แล้วก็ตอนที่มาเมืองนี้อีก ให้มันน้อยๆเถอะนะคะ ทำไมเธอถึงปากเสีย แถมยังเห็นแก่ตัวแบบนี้ล่ะคะ?”

IMG-7.jpg

“เฮ้ยเดี๋ยวก่อน? ที่บ้านต้นไม้ฉันไปทำอะไรให้เธอไม่ถูกใจล่ะ? ฉันยังไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเลยนะ?” สปอร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แม้กระทั่งปิจูที่อยู่บนไหล่เขาก็ทำหน้ามึนแบบสปอร์ไปด้วย

“ยังจะทำเป็นไก๋อีก ก็ที่พวกเรากินข้าวเย็นกันเมื่อวาน วันที่เกรเซียแบ่งงานให้พวกเราทำกันน่ะ พวกเรากำลังช่วยกันเก็บจาน แต่เธอกลับขอตัวขึ้นไปจัดการที่นอนก่อนเฉยเลย ทั้งๆที่หน้าที่นั้นพวกโปเกมอนเขาจะช่วยจัดการให้เองอยู่แล้วน่ะ!”

“อะไรกันนักหนา? ที่ฉันไปจัดการที่นอนนั่นก็งานเหมือนกันนะ มันต่างกับไปช่วยเก็บจานล้างชามตรงไหนเรอะ? แถมฉันยังได้ไปช่วยงานพวกโปเกมอน ได้ไปทำความสัมพันธ์กระชับมิตรสนิทสนมกันเข้าไว้แท้ๆ? ไม่ดีรึไง?”

“ก...ก็มันเป็นมารยาทนี่นา! เธอไม่เข้าใจเหรอ? ถ้ากลุ่มพวกเราได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไร คนที่เหลือในกลุ่มพวกเราก็ต้องมาทำด้วยกันสิถึงจะถูก ไม่ใช่แยกกันไปทำนู่นทำนี่เองตามใจชอบ มันแสดงถึงความไม่มีน้ำใจนะเธอรู้มั้ย!?”

เกรเซียตรงเข้ามาขัดจังหวะการต่อปากต่อคำของทั้งสองอย่างจงใจ

“เอาละเด็กๆ! การทะเลาะกันจบลงตรงนี้และแค่นี้ พวกเรายังอยู่ในระหว่างการทำภารกิจอยู่นะ ฉันว่าถ้าเอาเวลาเถียงกันไปเก็บดินไนโตรจันให้นายน้อยละก็ ป่านนี้เกือบเสร็จแล้ว พวกเธอเป็นมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกใบเดียวกันแท้ๆ มีปัญหากันด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้น่ะไม่ดีนะ”

ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกเสียอารมณ์ที่ต้องมาทะเลาะกัน แม้พวกเขาจะยอมสงบปากสงบคำตามที่เกรเซียบอกแต่โดยดี แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมมองหน้ากันเลย

“(ช่างสรรหาอะไรมาหาเรื่องซะจริง ไม่น่ารักเอาซะเล้ยยัยนี่เนี่ย...)”

“(ฉันไม่ยอมทำงานกับคนที่ไร้มารยาท ปากไม่ดี เห็นแก่ตัวแบบเขาแน่ๆ เชอะ!)”

ในใจของสปอร์และคิซาเนะต่างก็คิดเช่นนี้

“พวกเราเสียเวลามากแล้ว รีบไปกันเถอะ! ก่อนที่พวกเทอร์เรอร์จะบุกมา ไม่งั้นพวกเราจะทำงานกันลำบากกว่าเดิมแน่” เกรเซียบอกกับทุกคน เพิ่อมุ่งหน้าตรงไปยังสวนสาธารณะทางเหนือ ซึ่งเป็นจุดหมายของพวกเขา

[glow=tan,3,300]O………………………………………………………………………..O[/glow]

พวกคาออสวิ่งไปตามถนนที่เต็มไปด้วยพวกโปเกมอนเดินผ่านกันไปมา ที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งก็คือปฏิกิริยาของพวกชาวเมืองที่มีท่าทางหวั่นไหวกับการที่พวกเทอร์เรอร์จะบุกเข้าโจมตีเมืองนี้ ทำให้บนท้องถนนดูมีประชากรหนาแน่นกว่าตอนที่พวกคาออสเพิ่งเข้ามาในเมือง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่พวกเขาต้องกังวล เพราะห่างออกไปอีกไม่ถึงกิโลเมตรพวกเขาก็จะถึงบริเวณสวนสาธารณะของเมืองโคงาเนะแล้ว

ตูม!!!! เพล้งงงงงงงงง!!!!!!

ทันใดนั้นเองธนาคารที่อยู่ก่อนถึงสวนสาธารณะก็ถูกอะไรซักอย่างทุบจนกระจกหน้าธนาคารแตกเสียงดังลั่น พวกโปเกมอนจากในธนาคารหรือแม้แต่ที่อยู่ข้างนอกต่างก็พากันวิ่งหนีออกจากธนาคารอย่างอลหม่าน

“อ๊ะ! อะไรกันนั่นน่ะขอรับ!” ไคริวอุทาน

“โจรปล้นธนาคารเหรอ!? ฉันว่ารีบไปจัดการก่อนดีกว่านะ!” คาออสบอก

“อื้ม! ตกลง รีบไปดูกันเถอะ!” เกรเซียเห็นด้วยกับชายหนุ่ม พวกเขาเปลี่ยนเป้าหมายไปยังธนาคารที่พวกเขาเพิ่งวิ่งมาถึงทันที

ณ ตอนนั้นเอง พวกเขาได้พบกับมนุษย์สองคน และโปเกมอนอีกสองตัวเดินหอบถุงใส่เงินใบใหญ่ออกมาจากธนาคาร คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มผมสีเทา สวมชุดผ้าคลุมสีดำและกางเกงยีนส์ ส่วนอีกคนเป็นเด็กหนุ่มผมกระเซิง ตัวผอมเหมือนพวกนีท(NEET) สวมเสื้อสีขาวและกางเกงขายาวสีเทา

และโปเกมอนอีกสองตัวที่มาพร้อมกับคู่หูของพวกเขา ตัวหนึ่งคือเอ็มเปลโต้(Empoleon) โปเกมอนเพนกวินจักรพรรดิตัวใหญ่ที่มีมงกุฎสวมอยู่บนหัว อีกตัวหนึ่งคือคิวคอน(Ninetales) โปเกมอนจิ้งจอกเก้าหางร่างสีเหลืองสว่าง

“อ๊ะ!! น-นั่นมันมนุษย์นี่นา!? แล้วทำไมมีโปเกมอนคู่หูเหมือนพวกเราเลยล่ะคะ!?” ฟูร์นิเยร์ร้องอย่างตกใจ

“เฮ้~ อะไรกันเนี่ย พวกเรากำลังปล้นธนาคารอยู่นะ อย่ามาขัดขวางเซ่ เดี๋ยวพวกเราก็เอาเงินไปให้ท่านผู้นำไม่ทันกันพอดี” เด็กหนุ่มผมสีเทาเอ่ยเสียงกวนๆ

“งั้นพวกเราขอจัดการพวกแกเลยดีกว่า...ฉันพูลเนล ไวเซดะ...ส่วนไอ้หมอนี่ชื่อมาคุริ ฮิโคตะ” หนุ่มนีทนามว่าพูลเนลแนะนำตัวเองและเพื่อนร่วมงานของเขาให้เสร็จสรรพ “เฮ้ย!! ไปบอกชื่อให้ศัตรูทำไมเล่าเจ้าบ้า!!”

“ท่านผู้นำ? หรือว่าพวกยูคือพวกเทอร์เรอร์ที่แฝงเข้ามาในเมืองนี้สินะ!?” ชิลทาริสร้องถาม

“ใช่...พวกเรานี่แหละคือพวกมนุษย์ที่ได้รับเชิญมาจากท่านผู้นำให้มาร่วมอุดมการณ์ในการยึดครองโลกโปเกมอนด้วยกัน...” พูลเนลบริการเบาะแสให้อย่างหมดเปลือก จนเพื่อนของเขาแทบอยากกระโดดถีบขาคู่ใส่ให้รู้แล้วรู้รอด “โว้ยยยยย!!!! ฉันนี่ไม่น่ามาร่วมงานกับแกเล้ยยยยยย!!!”

“เยี่ยมเลย ดูท่าเราจะเค้นเบาะแสอื่นๆของพวกเทอร์เรอร์จากพวกนี้ได้นะ เราจับเป็นพวกมันดีกว่า” ว่าแล้วเกรเซียก็หันมาสั่งสปอร์และคิซาเนะ “พวกเธอสองคนรีบล่วงหน้าไปเก็บดินไนโตรจันข้างหน้าก่อนเลย! พวกฉันจะจับกุมเจ้าพวกนี้เอง ตกลงนะ!”

“หา!! แล้วทำไมต้องให้ไปกับตาบ้านี่ / ยายนี่ด้วยล่ะ!?” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันทันใด ก่อนที่จะหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ แล้วก็เชิดใส่กันอีกรอบ “ฮึ!”

“ทำตามคำสั่งฉันก่อนแล้วค่อยไปกัดกันทีหลัง” ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาของเกรเซียดุร้ายขึ้นจนสปอร์กับคิซาเนะเหงื่อตก ทั้งสองจำต้องยอมทำตามคำสั่งของเธอแต่โดยดี “ค-ค่ะ! / เข้าใจแล้ว!”

คิซาเนะกับสปอร์ตอบรับอย่างรวดเร็ว และทิ้งพวกเกรเซียไว้ มุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ข้างหน้าทันที

“จะดีเหรอคะ? สองคนนั้นเพิ่งทะเลาะกันมาด้วย?” ฟูร์นิเยร์ถามอย่างเป็นกังวล

“อย่าเพิ่งพูด! เราอยู่ในระหว่างการต่อสู้นะ!”

“อ๊ะ? ว้าย!!!”

ตูมมมมมมม!!!!!!!

ฟูร์นิเยร์วิ่งหลบกระสุนสายน้ำลำใหญ่ที่ยิงตรงมาทางเธออย่างฉับพลัน และเฉียดส่วนมือไปเพียงเล็กน้อย แต่ร้านขายของที่ถูกกระสุนน้ำเข้าไปเต็มๆนั้นหน้าร้านพังจนไม่เหลือดี ข้าวของเสียหายกระจุยกระจาย

“แหม แม่หนูนั่นรอดจากไฮโดรปั๊ม(Hydro Pump)ของเอ็มเปลโต้ได้อีกแฮะ แต่ช่างเถอะ คราวนี้ฉันต้องยิงให้โดนให้ได้!” มาคุริพูดอย่างตื่นเต้น

“อะไรกันน่ะ! ทำข้าวของเสียหายแบบนี้ไม่ดีเลยนะ!” ฟูรินิเยร์เริ่มรู้สึกโกรธที่เด็กหนุ่มไม่แยแสกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป “เกรเซีย หยุดเขาให้ได้นะ!”

“มีใจสู้แล้วสินะ ดีเลย!” เกรเซียเองก็ดูจะตอบรับความมุ่งมั่นของเธอให้เป็นอย่างดี “พายุหิมะ!!(Blizzard)”

จิ้งจอกสาวอ้าปาก และพ่นลมพายุอันหนาวเหน็บที่เต็มไปด้วยละอองหิมะตรงเข้าใส่มาคุริและเอ็มเปลโต้ แต่ทันใดนั้นเอง คิวคอนก็กระโดดมาอยู่ข้างหน้า และพ่นเปลวไฟ(Flamethrower)อันร้อนแรงออกมาปะทะกับพายุหิมะเอาไว้ เปลวเพลิงสลายพลังความเย็นของเกรเซียให้หายไปได้อย่างไม่ยากเย็น จนเกิดไอน้ำกระจายฟุ้ง

“โว้ว! ขอบใจนะพูลเนล ถ้านายไม่ช่วยฉันไว้มีหวังหนาวตายพอดี นายนี่เจ๋งจริงๆ” มาคุริหันมาขอบใจยกใหญ่ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ด่ากันจะเป็นจะตาย

“ฉันว่าไปจัดการคู่ต่อสู้นายอีกคนดีกว่ามั้ง?...” หนุ่มนีททำท่าชี้นิ้วแบบส่งๆเตือนเพื่อนของเขา มาคุริหันไปดู และต้องตกใจกับไคริวที่กำลังจะตรงเข้ามาจัดการกับเขาแทนเกรเซีย

“เหวอออออ!!!! ถอยออกมาแล้วใช้ไฮโดรปั๊มซะ เอ็มเปลโต้!!”

เขาและเจ้าเพนกวินจักรพรรดิวิ่งออกไปตั้งหลัก เมื่อถอยมาได้ไกลพอ มันก็หันกลับมาเตรียมตัวจะพ่นกระสุนน้ำอันทรงพลังของมันจัดการศัตรู

แต่ในตอนนั้นเอง ไคริวกลับกางปีกและทะยานขึ้นจากพื้น ร่างกายของไคริวระเบิดออร่าสีส้มออกมา และบินพุ่งตรงเข้าหาเอ็มเปลโต้อย่างไม่เกรงกลัว ไฮโดรปั้มถูกพ่นออกมาจากปากของเอ็มเปลโต้อย่างเต็มกำลัง

แต่นั่นดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาสำหรับไคริวเลย ภาพที่ไคริวบินฝ่ากระแสน้ำอันรุนแรงของเอ็มเปลโต้เข้ามานั้นเป็นภาพที่ดุดันและทรงพลังมาก น่าเสียดายที่ภาพที่ทุกคนได้เห็นนั้นปรากฏให้เห็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ เพราะไคริวที่อาบไปด้วยออร่าสีส้มนั้นพุ่งเข้าชนเอ็มเปลโต้อย่างรุนแรงจนกระเด็นไปชนกำแพง และล้มกลิ้งไปตามพื้นถนนเรียบร้อยแล้ว

“ส-สุดยอดไปเลย ไคริวของคุณคาออสมีพลังมากขนาดนี้เชียว” ฟูร์นิเยร์อุทาน

“นี่แหละพลังของทหารชั้นสูงที่ทำหน้าที่อารักขาท่านพระราชาเดียลก้าละ” เกรเซียบอกอย่างภาคภูมิใจ

“หนอย~! ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” เอ็มเปลโต้ที่ไม่น่าจะรอดจากการโจมตีอันทรงพลังเมื่อครู่ของไคริวมาได้ ค่อยๆลุกขึ้นมาสู้ต่ออย่างไม่ยากเย็น

“ร่างกายของฉันน่ะคมและแข็งแกร่งเหมือนชุดเกราะเชียวนะ เพราะฉันคือโปเกมอนน้ำที่มีธาตุเหล็กอยู่ในตัว การโจมตีแค่นั้นน่ะล้มฉันไม่ได้หรอก” เอ็มเปลโต้พูดอย่างมั่นใจ พลางเอียงคอซ้ายทีขวาทีเหมือนจะบริหารคอตนเอง

“ว้ากกกกกกกก!!!!!!” ไคริวแผดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง มันยังคงบุกเข้ามาโจมตีอย่างดุร้าย มาคุริที่ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลยก็เอาแต่แตกตื่น “เฮ้ย! ขอเวลานอกบ้างเด้!! ใช้ไฮโดรแคนนอน(Hydro Cannon)เลยเอ็มเปลโต้!!”

เจ้าเพนกวินเหล็กใช้ทั้งสองมือและปาก รวบรวมพลังสร้างลูกบอลน้ำพลังมหาศาลขึ้นมา ลูกบอลน้ำนี้หมุนวนเป็นเกลียวทรงกลมอย่างรุนแรง เอ็มเปลโต้ใช้ลูกบอลน้ำนี้ขว้างซัดเข้าใส่ท้องของไคริวอย่างแรง ลูกบอลน้ำระเบิดแตกกระจายเป็นคลื่นน้ำรุนแรงซัดเจ้ามังกรตัวใหญ่นี้จนปลิวกระเด็นไปตามพื้นถนน

แต่เหลือเชื่อที่ไคริวยังสามารถใช้เท้าลงพื้น กลับมายืนตั้งหลักได้อีก สร้างความประหลาดใจให้กับมาคุริเป็นอย่างมาก “บ-บ้าน่ะ! นี่ขนาดไฮโดรแคนนอน ท่าไม้ตายสุดยอดของเอ็มเปลโต้ของฉันมันยังทนได้อีกเหรอ!?”

ทันใดนั้นเอง จู่ๆแววตาของไคริวก็เปลี่ยนไป ตาปรือๆหน้ามึนๆเหมือนคนเมา เริ่มโซซัดโซเซยืนส่ายซ้ายทีขวาที แถมยังร้องอย่างเมามายฟังไม่รู้เรื่อง “โอยยยยย ที่นี่ที่หนาย~ ฉานเปนคราย~ แล้วฉานทามอารายอยู่เนี่ย~”

“โอ้ว แย่ละ หลังจากใช้ท่ามังกรพิโรธแล้วจะเกิดอาการสับสนนี่นา” คาออสบ่นอย่างผิดหวัง แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ทุกข์ร้อนมากนัก เหมือนเห็นเรื่องตรงหน้าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

“เยี่ยม! จังหวะนี้แหละเอ็มเปลโต้! ซัดมันให้หมอบเลย!” มาคุริเริ่มเห็นโอกาสและหันไปสั่งเอ็มเปลโต้ให้จัดการไคริว

“โฮ่ย แป๊บนึง ขอพักก่อน ยิงไฮโดรแคนนอนแล้วมันเหนื่อยนะเฟ้ยรู้มั้ย” เอ็มเปลโต้หันไปกางเก้าอี้ชายหาดแล้วนอนอาบแดดสบายใจเฉิบ... (มาคุริ – ที่นี่ไม่ใช่ชายหาดนะไอ้เพนกวินบ้า!!)

“ยอดไปเลย หมอนั่นใช้ท่าไฮโดรแคนนอนได้ด้วย...ท่าโจมตีธาตุน้ำอันทรงพลังที่โปเกมอนน้อยตัวเท่านั้นจะสามารถเรียนรู้ได้แบบนั้นเนี่ยนะ? ก็สวยสิ! พวกเทอร์เรอร์ที่ฉันรู้จักน่ะไม่ได้มีน้ำยาแค่นี้หรอกจริงมั้ย?” เกรเซียยังคงยิ้มได้แม้ในระหว่างการต่อสู้ และรอยยิ้มของเธอนั้นทำให้คู่หูของเธอสามารถวางใจได้ว่าเธอยังเหลือวิธีที่จะเอาชนะได้อยู่

[glow=black,3,300]O………………………………………………………………………..O[/glow]

โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในตอนที่ 16 ครับ

ปล.เกร็ดความรู้ท้ายตอน

Neet (Not in Education, Employment or Training) หรือนีท เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 16 - 35 ปีที่ไม่มีงานทำ ไม่ได้เรียนหนังสือ (หรือเรียนจบแล้วแต่ไม่ได้เรียนต่อในระดับที่สูงกว่า) กินเล่นเที่ยว เกาะพ่อแม่กินไปวันๆ

เครดิต - http://deltadrive.exteen.com/20070828/neet-freeter-hikikomori-parasite-single

Link to comment
Share on other sites

*พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด*

ฉากหลังภาพประกอบ...ม...มัน........!!! *พรวดดดดดดดดดดดอีกรอบ*

มาคุริ...ว่าเอมเปลโต้บ้าได้ยังไง...

*โดนลากไปเก็บ*

ฮาไคริวตอนท้าย XD

Link to comment
Share on other sites

แต่ในระหว่างนั้นเอง กลับมีสัญญาณการบุกจู่โจมของพวกเทอร์เรอร์ขึ้น ในขณะเดียวกัน พวกคาออสก็จำต้องรีบไปเก็บดินไนโตรจัน ณ สวนสาธารณะของเมืองนี้เสียก่อน...

ประโยคฟังดูเชื่อมแบบแปลก ๆ เล็กน้อย โอมว่านะ...

โอมว่าถ้าเป็น "แต่ทว่า ระหว่างการวางแผนนั้น" "ทำให้" จะฟังดูเข้าท่ากว่านา...

น่าจะมีการเชื่อมแล้วอธิบายเหตุและผลที่มาด้วย

คิซาเนะที่แสนจะหูดีกับเรื่องวลีกวนตา วาจากวนเท้าของสปอร์ ก็เริ่มต่อว่าเขาอีกครา

อีกครา... เอ่อ อีกครั้งหนึ่งก็ได้....

เกรเซียตรงเข้ามาขัดจังหวะการต่อปากต่อคำของทั้งสองอย่างจงใจ

น่าจะเอาอย่างจงใจเป็นอย่างอื่นแทนที่แสดง intention ออกมานะ...

ลองเปลี่ยนบรรยายเป็น "เกรเซียที่เห็นทั้งสองคนที่ทะเลาะกันอยู่จึงเดินตรงเข้ามาเพื่อหยุดพวกเขา" ก็ได้

(มาคุริ ที่นี่ไม่ใช่ชายหาดนะไอ้เพนกวินบ้า!!)

น่าจะตบมุขใส่เครื่องหมายอัญประกาศไปเลย... เอ่อ ก็แค่เสนอแนะนะ แฮะ ๆ

อาจจะเสียเวลาสักหน่อย แต่ก็น่าจะโอเคกว่าเป็นบทพูดแคสแบบนี้ orz

+ + + + + + + + +

นั่นไงล่ะ เราจิ้นคู่ไม่ผิดจริง ๆ ด้วย

[me=Deus ex Machina]โดนสปอร์ตบ[/me]

ไคริวเมา โอย ฮาได้ใจจริงแท้!

รอดูว่าเกรซี่กับไคริจะทำยังไงกันต่อไป..

[me=Deus ex Machina]โดนตบซ้ำข้อหาเปลี่ยนชื่อตัวละคร[/me]

ชอบบทต่อสู้จริง ๆ เลยให้ตายสิ!

...

ดะ เดี๋ยว โปสเตอร์นั่นมัน....

Link to comment
Share on other sites

ป้ายนั้นมันอะไรกานนนนนนนน

แถมไมไ่ด้มีป้ายเดียวด้วย

Link to comment
Share on other sites

ตีกันมันส์จริง =w=(ทั้งโปเกม่อนแบทเทิล ทั้งคนกัดกัน ...ฮา)

โปสเตอร์นั่น!! เจ้าตัวนั้น มันดังขนาดนี้เชียวเรอะ!!

Link to comment
Share on other sites

มาอ่าแล้วฮะ

ยังสนุกเหมือนเดิม^^

...แต่...ปะ โปสเตอร์พวก.....นั้นมัน.....

คะ คะ คะ~~!!!

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว ไคริวบินฝ่ากระแสน้ำ เยี่ยมๆ เท่สุดๆไปเลย

Link to comment
Share on other sites

เห็นโปสเตอร์แล้วนึกว่าตัวเองตาฝาด orz

ฮาเอ็มเปลโต้มาก ><" (มานอนอาบแดดแถวนี้ได้ไงกันฟะ)

Link to comment
Share on other sites

รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ชอบมาเม้นทีนึงหลายๆตอนเเฮะ = = (สมองตันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง..)

ตอนที่ 14 - นึกไม่ออกว่าจะคอมเมนต์อะไรดี ขอโทษค่ะ =A=

ตอนที่ 15 - ตอนนี้เป็นตอนจิ้นคิซาเนะกับสปอร์สินะ พูดถึงรูปเเล้วรู้สึก เอิ่ม... กับโปสเตอร์มาก 55 เอ็มเปลโต้ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจการต่อสู้เลย ฮะๆ

ครั้งนี้มาคอมเมนต์เเบบสิ้นคิดเช่นเคย รอตอนต่อไปนะคะ!

Link to comment
Share on other sites

ยังไม่ได้อ่านนะ แต่มาเม้นท์เรื่องดีไซน์นิยายลงบอร์ดนิดหน่อย

- หัวตอน (ชื่อตอน)

ตอนนี้ชื่อตอนมันลักษณะ Bold หมดเลย มันเลยกลืน ๆ กันระหว่างชื่อฟิคกับชื่อตอน ลองทำให้มันเห็นชัดเจนขึ้นดู ยกตัวอย่าง

ถ้ามันเป็นชื่อตอน หลังชื่อนิยายในบรรทัดเดียวกัน อาจจะ Bold แค่ส่วนหน้า

The Pokemon Future Destiny ตอนที่ 15 ปล้นกลางวันแสกๆ

- บางทีเราไม่จำเป็นต้องวงเล็บชื่อภาษาอังกฤษหลังคำก็ได้

เพราะเห็นว่ามีการใช้ภาคอธิบายอยู่แล้วชัดเจนอยู่แล้ว เช่นคิวคอนเป็นโปเกมอนบลา ๆ

...ในทางเดียวกันก็พวกชื่อท่า ไม่ว่าจะเป็นชื่อท่าแบบแปล (Blizzard) หรือแบบทับศัพท์ (ไฮโดรแคนน่อน) การแสดงชื่อคำอีกรอบก็ดูซ้ำซ้อนไปนิด

- เกร็ดความรู้ท้ายตอน

อันนี้เราสามารถทำให้มันง่ายกว่านี้ได้เยอะ โดยการใช้ฟังก์ชัน"ตัวยก"ในส่วนตอบกระทู้ ทำให้เป็นเชิงอรรถท้ายตอน จะดูโอเคและโปรกว่า

เพราะเวลาคนอ่านไม่รู้ว่าคำนี้คืออะไร พอเห็นหมายเลขยกขึ้นท้ายคำ ก็จะเป็นเซ้นส์ในตัวเองเลยว่าสามารถเลื่อน Scroll bar ลงมาส่วนล่างของตอน เพื่อมาดูคำอธิบาย (เชิงอรรถ)

ทำให้เข้าใจ ณ ตอนนั้นเลย ไม่ใช่แบบว่างงว่ามันคืออะไรแล้วเพิ่งจะมาเก็ทเอาตอนอ่านจบท้ายกระทู้

ยกเว้นจะมีการอธิบายไปแล้วในตอนก่อน ๆ

ยังไม่ได้อ่านนะ พี่แค่กวาดตาดู

ก็ลองมาแนะนำอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ดู

สุดท้าย... ขอชมว่าแต่งนิยายได้สบายตาดี ไม่มีอักษรอีโมแปลกยั้วเยี้ย ฮะ ๆ

Link to comment
Share on other sites

คิวเบย์มารับสมัครทหารงั้นเหรอ!!!

ทะเลาะกันไปใยเล่า รักกันดีกว่าน้อ

เป็นศึกการต่อสู้ที่ดุเดือดผสานความเป้นกันเองดีจัง

ปล.แยกเอาเองนะว่าผมเม้นอะไรบ้าง เหอๆๆ

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.