Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[สาระ]โรควุ้นในลูกตาเสื่อม


~ทีทีฟาร์ม~

Recommended Posts

อันตราย จากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

โรควุ้นในลูกตาเสื่อม

2gh11.jpg

คนที่เล่นคอมพ์เกือบทุกคน เป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ตอนนี้ในประเทศไทย มีคนเป็นโรคนี้ถึง 14 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ (นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้ คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นจะมากขนาดไหน?)

อาการก็คือ !

คุณ จะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนหยากใย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก็คือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่?)

สาเหตุ ของโรคนี้คือ !

'การใช้สายตามากเกินไป' (เล่นคอม) แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ที่สายตามากๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย ! ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ เล่นคอม (คุณฟังไม่ผิดหรอก เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ)

ทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก?

ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต, เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ, อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอนเพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอนกว่า กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่ แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่คมชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส ( เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป )

(จอ LCD เราก็ต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือน อยู่บนแผ่นกระดาษ)

การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน บวกกับ ลักษณะการอ่านหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง เพื่อที่จะอ่านบรรทัดด้านล่างได้หรือไม่ก้อใช้ลูกหมุ นที่อยู่บนเม้าส์หมุน เพื่อเลื่อ

นบรรทัดหนังสือ แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้ ไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ ที่แขนกับคอเราจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู ) มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะจะต้องลากลูกตาเลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว ว่ากดตำแหน่งบนแป้นพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ คุณจะปวดตามากๆ ตัวอย่างเช่นกรณีเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน ! สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดใช้โปรแกรม word ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีขาวสว่าง (ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือสีดำบนพื้นสีขาว) สีพื้นที่สว่างจ้านี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็คนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อย ๆมักจะมีการปรับแสงสว่าง เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ

โปรแกรม ของคุณอาจไม่สนับสนุนการแสดงรูปภาพนี้

ภาพของลูกตา สรุปก็คือ...

1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย'

2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ทำให้สายตาเสีย

3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา 'ทำให้สายตาเสีย '

4. การปรับจอภาพที่! มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว 'ทำให้สายตาเสีย' (คล้ายๆ กับการเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)

5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !! (จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!) เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว)

แต่จอคอมสมัย ใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกิน

ระยะ กวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง (ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา)

ถาม กลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร ที่ใช้ในการอ่านการเขียนทั่วไปจึงมีขนาด A4 ?

คำ ตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดีกับการกวาดสายตามอง และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่าทำไมขนาดของจอคอมคุณที่ใช ้ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง

ส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวันนั้น จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดอาการรุนแรงเพราะกว่าจะรู้ตัวแล้วไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่า

คุณ ไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!

เครดิด JKG

ใครเป็นอาการนี้บ้าง 

ผมเริ่มเป็นนิดๆแล้ว 

Link to comment
Share on other sites

บทความนี้ไซโคมากไปหน่อยนะ ไม่ใช่โรคร้ายแรงขนาดนั้นซะหน่อย = ="

เราก็เป็น เป็นมานานมากแล้วด้วย ตั้งแต่ม.ต้นก็รู้สึกว่ามีจุดอะไรลอยไปลอยมาอยู่ในตาเวลากลอกตาและมองที่สว่างๆ เพิ่งจะมารำคาญเมื่อ 2-3 ปีก่อนก็เลยไปหาหมอ เลยรู้ว่าเป็นโรคนี้

ในลูกตาทุกคนจะมีสารคล้ายวุ้นบรรจุอยู่ ทำให้ลูกตาคงรูปอยู่ได้

เมื่อแรกเกิด ของเหลวที่ว่าจะมีลักษณะเป็นวุ้น (ของแข็ง) แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ของเหลวนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวมากขึ้น ทำให้เราเห็นเศษวุ้นนั้นลอยไปลอยมาในตาได้ ซึ่งก็คือหยากไย่ที่เห็นนั่นเอง

ลำพังอาการนี้ไม่มีอันตรายอะไร แค่ทำให้รำคาญ แต่ที่อันตรายคือถ้าเกิดวุ้นที่เหลวลงไปกระชากเอาจอประสาทตาที่อยู่ติดกันจนขาด และของเหลวซึมลงไปในจอประสาทตา อาจทำให้ตาบอดได้

เราถามหมอว่าต้องทำตัวยังไง หมอบอกว่าไม่ต้องทำอะไร แค่คอยสังเกตว่าการมองเห็นเปลี่ยนไปบ้างไหม

ถ้าเกิดเห็นแสงแวบในตาเป็นเส้นๆ หรือเห็นจุดดำๆ เล็กๆ กระจายเยอะๆ เป็นพันๆ จุด ให้รีบไปหาหมอ เพราะนั่นคืออาการของจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก

ที่หมอห้ามเด็ดขาดอีกอย่างคือการขยี้ตาแรงๆ เพราะอาจไปกระเทือนจอประสาทตาเช่นกัน

จริงๆ แล้วคนที่มีโอกาสเป็นมากคือคนสายตาสั้น คนที่ใช้สายตามากๆ และคนสูงอายุ แต่เดี๋ยวนี้มีคนเป็นโรคนี้เยอะ และพบในอายุน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเด็กยุคนี้จ้องคอมเป็นกิจวัตร

คนที่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ ก็ระมัดระวังการใช้สายตาอย่าให้หนักเกินไป อย่าขยี้ตา และคอยสังเกตอาการตัวเองซะ

อย่าไปคอยจ้องหยากไย่พวกนั้นแล้วเก็บมากังวลจนไม่เป็นอันทำอะไรล่ะ

ส่วนคนที่ยังไม่เป็น คนสายตาสั้น ก็อย่าชะล่าใจล่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม ลองอ่านจากนี่ดู

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณพี่แพม มากๆครับ สำหรับความรู้เพิ่มเติม 

ตอนแรกผมก็ว่ามันโอเวอร์ไป  คงจะอย่างนั้นจริงๆ

Link to comment
Share on other sites

หา? ผมนึกว่าไอ้หยากไย่พวกนั้นมันเป็นเส้นเลือดบนลูกตาซะอีกนะเนี่ย -*-

แต่ถึงอย่างนั้น เวลาปกติก็ไม่ได้สังเกตเห็นอยู่แล้ว ต้องคอยสังเกตอย่างเดียวถึงจะเห็นหยากไย่

ขอแนะนำอีกอย่าง ถ้ามองจอคอมมากจนเริ่มรู้สึกว่าปวดตา ให้ลุกจากเก้าอี้หน้าคอมซะ แล้วเดินไปมองต้นไม้แถวๆนั้น รับรองสดชื่นขี้นชัวร์ -_-b+

Link to comment
Share on other sites

เป็นเหมือนกันนะเหมือนเป็นมานานแล้วด้วย=w=

มันเหมือนเป็นหยากไย่ลอยไปลอยมา มันมีแบบกลมๆด้วยนะ..แต่เห็นเป็นใสๆไม่เป็นสีดำ=w="

Link to comment
Share on other sites

ส่วนมากเป็นทั้งนั้นล่ะครับ  ผมด้วย

Link to comment
Share on other sites

รู้สึกว่าผมจะไม่เป็นนะ แต่เวลาขยี้ตาแรงๆ จะมีสวุ้นออกมา  :pika02:

Link to comment
Share on other sites

ผมเห็นอะไรบางอย่างใสๆลอยไปมา ไม่ใช่ดำๆนะ เป็นแท่งๆ แต่ไม่บ่อยอ่ะ เป็นเวลามองฝ้าขาวๆ ใช่รึป่าวครับ

Link to comment
Share on other sites

ผมพึ่งมารูตัวว่าเป็นอาการแบบนี้ ก็ตอนที่ได้อ่านบทความนี่ละครับ แต่รูสึกว่าถ้าไม่ใส่ใจ มันจะไม่มีผลกระทบเลย ^^"

Link to comment
Share on other sites

เป็นทุกอาการ เรียนภาคคอมจนจบถือแค่ว่าเป็นการเริ่มต้นในการทำลายสายตาจนกว่าเกษียรครับ ><

Link to comment
Share on other sites

โอเค สรุปตูก็เป็นด้วย =_=" เป็นมานานมากแล้วด้วย

เวลามองในตอนกลางคืน ตอนกลอกตาไปมาก็เหมือนกับเห็นอะไรบางอย่างด้วย - -"

บางครั้งเวลามองที่ๆมีแสงสะท้อนมา(เช่นหยดน้ำ บลาๆๆๆ) ก็แอบเห็นเป็นเส้นๆจุดๆนิดหน่อยด้วย = ="

ดีนะ ที่ทุกวันนี้ อาการยังไม่ลุกลามอะไรไปไกลมากกว่านั้นอีกเลย

แล้วนี่ผมต้องถึงขั้นผ่าตัดแล้วรึนี่ ;w;

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.