Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Another kind of love : ความรักต่างพันธุ์ !!ตอนจบ!!* *มีภาพประกอบ!!*


Loveless Nova

Recommended Posts

แม้ว่าตอนนี้ข้าน้อยจะกลายเป็น Artist เต็มตัวแล้ว แต่จินนวิญญาณความเป็น Writer นั้นยังไม่หายไปหรอกนะ ตอนนี้ก็อยากเคาะสนิมทักษะการเขียนหน่อย ก็เลยเอาการวาดภาพกับการแต่งนิยายมารวมกันซะเลย!!!

------------------------------------------------------------------

Another Kind Of Love

ความรักต่างพันธุ์

Story By : Vavacung  Picture By : Vavacung

ตอนที่ 1 ความฝัน

ณ ภายในป่าลึกซึ่งเหลือเพียงผืนสุดท้ายบนโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนามว่ามนุษย์

“โลกใบนี้นั้นแสนโหดร้ายสำหรับเจ้า ตัวตนของเจ้าล้วนเป็นที่ต้องการจากมนุษย์ซึ่งมีความโลภทั้งหลาย”

มือหยาบกร้างลูบหัวสิ่งมีชีวิตตัวเล็กอย่างนุ่มนวล ลูกเสือน้อยขนสีขาวเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นเจ้านายของตนและรู้สึกประหลาดกับคำพูดของเขา ชายเบื้องหน้านั้นร้องไห้และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง มือข้างหนึ่งของเขากุมสีข้างที่ชุ่มไปด้วยโลหิตจนชุดกาวที่เขาใส่นั้นกลายเป็นลวดลายของบุพผาสีแดงที่ดูน่ากลัว

“นั่น! มันอยู่ทางนั้น!!”

“เจ้าลูกพยัคฆ์ขาวนั้นผู้ว่าจ้างให้ราคาแพงมาก ยังไงก็ต้องจับมันมาให้ได้!!”

เสียงสองเสียงดังมาแต่ไกลจากด้านหลังร่างที่บาดเจ็บ ชายชุดดำสองคนโผล่ออกมาจากแนวต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป ชายชุดกาวขาวคว้าปืนออโตเมติกที่วางไว้กับพื้นขึ้นหันไปยิงพวกนั้นจนต้องหลบตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ ชายชุดกาวหันไปพูดกับลูกเสือขาวที่ยืนสั่นเทาอยู่

hdTff324.png

“หนีไปซะไวส์เกอร์! หนีเข้าไปในป่า ใช้ชีวิตของเจ้าในที่แห่งนั้น และไม่ต้องหันกลับมายังโลกของพวกมนุษย์อีก!! อั๊ก!”

กระสุนตอบโต้จากฝ่ายชายชุดดำ เจาะทะลวงไหล่ซ้ายของชายชุดกาวน์จนทำให้เขาซวนเซและทรุดเข่าลง ปืนในมือร่วงหล่นลงพื้น ไวส์เกอร์(ลูกเสือขนสีขาวทั้งตัว)วิ่งเข้าไปใกล้เขา แต่มือที่เปื้อนเลือดก็สั่งห้ามให้มันหยุดอยู่ตรงนั้น

“ได้โปรด.... หนีไปให้ไกลเพื่อข้า....อย่าทำให้ความพยายามของข้า ที่สู้พาเจ้ามาถึงที่แห่งนี้นั้นต้องสูญเปล่า ข้ารักเจ้ามากนะรู้ไหม...”

“กรรรร”

เสือน้อยน้ำตาคลอ ตัวมันนั้นอยากเข้าใกล้เจ้านายผู้แสนอบอุ่น แต่ว่าคำสั่งของเจ้านายนั้นมันก็ไม่อาจจะขัดได้ มันค่อยๆหันหลังให้ผู้เป็นนาย และออกวิ่งหายไปในความมืดของป่าลึกอย่างรวดเร็ว ชายชุดกาวยิ้มอย่างยินดี และหลับตาลงพร้อมกับรับชะตากรรมสุดท้ายของตน ที่จะเกิดขึ้นด้วยปลายกระบอกปืนสีดำสนิทที่จ่อมาที่ศีรษะของเขา

“ขอให้เจ้าจงโชคดี ลูกชายของข้า....”

2-E004f5.png

-----------------------------------------------------------------------------

“เจ้านาย!! แฮ่กๆๆ”

ร่างสีขาวตัวเล็กผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจากพื้นหินแข็ง และหอบอย่างแรงราวกับวิ่งมาเป็นระยะทางยาวไกล ความฝันอันเป็นความจริงในครั้งวันวานย้อนเข้ามาให้เขาต้องคิดเศร้าใจอีกครั้ง

พยัคฆ์ขาวตัวน้อยหันไปมองซ้ายมองขวาของถ้ำส่วนตัวของเขา ก่อนจะออกเดินอย่างช้าๆไปยังหน้าถ้ำที่ยื่นออกไปเป็นเชิงผา สถานที่แห่งนี้เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ๆที่มีถ้ำอยู่หลายถ้ำเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเชิงหินเล็กๆ ซึ่งเป็นที่อาศัยของแมวป่ากลุ่มหนึ่งภายในป่าใหญ่แห่งนี้ เป็นกลุ่มแมวป่าที่รับเขาซึ่งเป็นเสือสีแปลกและเป็นสัตว์จากเมืองให้อยู่ร่วมกลุ่มด้วย

“ตั้งแต่เวลานั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว แต่ความทรงจำที่แสนเศร้านี้ทำไมถึงไม่หายไปสักที”

ไวส์เกอร์ทรุดตัวลงนอนอกแนบพื้นที่เชิงขอบผา มองลงไปยังป่าสีดำเพราะยามค่ำคืนเบื้องล่างที่ยาวออกไปจนสุดตา ทว่าที่เส้นขอบฟ้านั้นกลับมีแสงเรืองรองของมหานครของมนุษย์ สถานที่ซึ่งไม่เคยมีวันเวลาจะหลับใหล เป็นที่ๆเขากับเจ้านายนั้นเคยได้อยู่ด้วยกันมาก่อน

“นอนนอกถ้ำตากน้ำค้างเช่นนั้น เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอกไวส์เกอร์”

ไวส์เกอร์สะดุ้งโหย่งกับเสียงที่จู่ๆมาดังกรอกหูเขา จนเกือบพลัดตกหน้าผาไป ร่างสีขาวเกาะขอบหน้าผาและตะเกียกตะกายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่เกือบทำเขาตายนั้นด้วยใบหน้าโกรธเคือง

3@F115d0.png

“โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงอีกแล้วนะ นาร่า!!”

ลูกแมวป่าสาวสีเหลืองที่มีลายสีดำบริเวณหน้าผากหมุนวนเล็กน้อย มองดูคล้ายลูกเสือ หัวเราะเบาๆกับท่าทีของไวส์เกอร์ เธอเดินไปใกล้ๆเขาและพูดแนบหูจนทำให้อีกฝ่ายต้องไหวหวั่น

“ฉันก็พูดให้เสียงไปแล้ว แต่ปฏิกิริยาของนายต่อเสียงฉันมันเป็นอย่างนั้นเองนี้ อีกอย่าง ปกติฉันเข้าใกล้ตั้งขนาดนี้นายก็น่าจะได้กลิ่นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ก....ก็ผมยังไม่ถนัดการดมจำแนกกลิ่น คุณก็รู้!!”

“ฮะๆๆ เสือทั่วไปนี้เกิดมาก็ดมกลิ่นเป็นแล้ว นายนี้แปลกเสือจริงๆเลย”

นาร่าเลียแก้มอีกฝ่ายเบาๆแล้วถอยกลับไป ไวส์เกอร์ประหม่ากับการกระทำของเธอจนทำอะไรไม่ถูก เขาพูดด้วยเสียงตะกุกตะกักออกไปว่า

“ย...ยั่วกันแบบนี้....เดี๋ยวก็ได้มีลูกก่อนจะได้โตกันซะหรอก!!”

นาร่าไม่พูดอะไรนอกจากหัวเราะและเดินจากไป ไวส์เกอร์เปลี่ยนท่าทีจากร้อนรนกลับมายืนยิ้มในขณะที่มองร่างเล็กๆเดินเข้าถ้ำที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัวแมวป่าผู้นำกลุ่ม นาร่านั้นเป็นลูกแมวป่าสาวเพียงตัวเดียวของหัวหน้า และเธอก็เป็นคู่ของไวส์เกอร์ ที่ได้ต่อสู้กับแมวป่าหนุ่มหลายตัวได้ตามลำพัง เป็นการแสดงความแข็งแกร่งว่าเขานั้นคู่ควรกับเธอ

“นาร่าที่รักของผม ทำตัวน่ารักได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆสินา..”

และตัวเขาเองก็เดินกลับเข้าถ้ำ ล้มตัวลงสู่ราตรีไปอีกตัว เพื่อเฝ้ารอคอยวิถีชีวิตในวันรุ่งพรุ่งนี้ ที่แสนสดใสเฉกเช่นทุกวันที่ผ่านมา ทว่าตัวเขากลับไม่รู้เลยว่า

ในช่วงเวลาของวันถัดไปนั้น วิถีชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...

-----------------------------------------------------------------------------

ไม่ไกลจากภูผาถ้ำเสือออกไป มีชายสองคนที่แต่งกายด้วยชุดที่ยังไงก็ไม่เข้ากับบรรยากาศของป่า คนหนึ่งใส่ชุดสีสูทสีดำเสื้อในสีขาวและใส่แว่นตาดำทั้งๆที่เป็นเวลากลางคืน ไว้ผมชี้ฟู กำลังนั่งขัดปืนกลขนาดเล็ก(Uzi)ที่อยู่ในมือบนกระโปรงหน้ารถจิ๊บ สายตาจับจ้องไปยังภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า

40G22635.png

“ตามสืบอยู่เสียตั้งนาน ในที่สุดก็เจอจนได้ เป็นแค่สัตว์สีขาวแท้ๆมาทำให้คนอย่างข้าต้องลำบาก ตามหาอยู่ในป่ากว้างๆนี้เสียหลายวัน...”

ชายชุดดำอีกคนที่สวมชุดเหมือนกัน แต่ไม่สวมแว่นตาดำโผล่ขึ้นมาจากรถจิ๊บและเอ่ยพูดขึ้นว่า

“ลูกพี่ครับ พวกนายพรานบอกว่าแมวป่าที่เป้าหมายของเราเองก็อยู่รวมกลุ่มกับพวกมันด้วย ปกติมักจะไปล่าสัตว์บริเวณแถวทุ่งราบเชิงเขาที่อยู่ไม่ไกลไปจากที่นี้ ถ้าเราไปดักซุ่มอยู่ที่นั้นก็มีโอกาสเจอได้ อีกอย่าง....รู้สึกว่าเป้าหมายของเรามักจะแยกตัวไปกับแมวป่าตัวหนึ่งตามลำพังด้วยในช่วงเวลานั้น...”

“หึๆๆ งั้นเหรอ...พรุ่งนี้ละ เจ้าพยัคฆ์ขาวตัวแสบที่มีค่าราคาถึงสองล้านเหรียญจะมาอยู่ในมือของเรา และพวกเราก็จะรวยกันสักที....ฮ่าๆๆๆ”

--------------------------------------------------------------------------------

“ตอนนี้พวกเรามาอยู่ใต้ลมแล้ว นายลองดมกลิ่นดูสิ ว่าเหนือลมนั้นมีสัตว์ประเภทไหนบ้าง”

นาร่าสั่งไวส์เกอร์ขณะที่พวกเขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเขามายังพื้นที่ใต้ลมแห่งนี้ ขณะที่พวกผู้ใหญ่นั้นกำลังล่าสัตว์อยู่ เพื่อฝึกให้ไวส์เกอร์นั้นสามารถจำแนกกลิ่นของสัตว์ต่างๆที่ลอยมาตามลมได้ ซึ่งเป็นเพียงอย่างเดียวที่ไวส์เกอร์นั้นไม่ถนัด

“อืม....กลิ่นเสือลอยมาจางๆนะ และก็เป็นลียงผา....หืม! รู้สึกว่าจะมีกลิ่นช้างด้วยแฮะ โอ๊ะ! กลิ่นของตัวตุ่นก็มี...”

“น...นายนี้มัน....เสือแถบนี้นะก็มีแค่นายเท่านั้น… แล้วแถวนี้ก็ไม่มีช้างด้วย แถมเลียงผาที่นายว่านะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว และตุ่นมันก็อยู่ใต้ดินจะได้กลิ่นได้ไงกันย่ะ!!”

ลูกแมวป่าสาวกุมหัวอย่างหน่ายใจ ในขณะที่ผู้ถูกต่อว่านั้นก็ได้แต่เกาแก้มอย่างอายๆ เหล่าสิ่งที่เขานั้นได้ทายออกไปนั้นแทบทุกอย่างล้วนสูญพันธุ์ไปหมดแล้วเพราะการรุกล้ำทำลายป่าของพวกมนุษย์ ดังนั้น คำตอบของเขาจึงถือว่าผิดเต็มประตูชนิดที่หาข้อแก้ตัวไม่ได้ และเป็นการเดาที่ไม่ได้เรื่องเลย

“นายนี้มันจริงๆเลยนะ ทักษะการต่อสู้ ปฏิกิริยาตอบโต้ ความว่องไว ความแม่นยำ ทุกอย่างออกจะดีเยี่ยมเหนือแมวป่าอย่างพวกเรา แต่ทำไมถึงได้มาอ่อนหัดในเรื่องการดมกลิ่นที่เป็นความสามารถพื้นฐานของพวกเสือทั่วไปได้”

“เสือเรามันก็ต้องมีสักอย่างละที่ตัวเองไม่ถนัด...เฮ้! บางทีนะ เพราะความสามารถมันไหลไปทางอื่นหมด ก็เลยเหลือจุดด้อยตรงการดมกลิ่นอยู่อย่างเดียวละมั้ง แต่แค่ความสามารถในการต่อสู้ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ?”

นาร่าฟังแล้วก็ส่ายหน้าเบา

“การดมกลิ่นนะ เป็นการทำนายลักษณะของศัตรูได้ล่วงหน้ารู้ไหม เป็นการทำให้ได้รู้ว่าเราจะเผชิญหน้ากับอะไร แล้วจะได้เตรียมพร้อมในการรับมือได้ถูก...”

“อานะ...”

พยัคฆ์ขาวตัวน้อยตอบแบบขอไปที เขาเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้รับลมที่พัดมาอย่างสบายใจไม่สนคำบ่นจากผู้เป็นที่รัก นาร่าได้แต่ถอนหายใจกับบรรยากาศการสอนที่จบลงแบบนี้มาตลอด เธอเดินไปนั่งข้างๆเขาและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีครามเบื้องบน

“นี้นาร่า....”

ไวส์เกอร์เอ่ยถามทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

“มีอะไร?”

“คุณคิดว่าถ้าพวกเราโตขึ้น จะมีลูกกันสักกี่ตัวดีละ”

คำถามนั้นทำเอานาร่าสะดุ้ง และร้อนผ่าวใบหน้าไปหมด ไวส์เกอร์เปิดตาข้างหนึ่งเหลือบมองทั้งหัวเราะเบาๆ แมวป่าสาวในวัยก่ำกึ่งเด็กและวัยรุ่นเอาเท้าหน้าตบแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ

“กล้าพูดได้นะนายนี้!!”

“ฮะๆๆ ก็เสือมันรักนี้หน่า ช่วยไม่ได้ อยากเห็นครอบครัวของพวกเราจังเลยว่าจะเป็นแบบไหนกันนะ จะอบอุ่นเหมือนกับครอบครัวของเธอรึเปล่า...”

ไวส์เกอร์พูดได้แค่นั้นก็เงียบไป นาร่ามองเขาแล้วรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายดี เพราะไวส์เกอร์นั้นตั้งแต่จำความได้เขาก็อยู่ร่วมกับมนุษย์ผู้เป็นเจ้านายแล้ว พ่อแม่ของเขานั้นเป็นเสือที่ไหนก็ไม่รู้ ทั้งผู้ที่นับถือว่าเป็นพ่ออย่างเจ้านายก็กลับมาตายเพื่อช่วยเขาที่ถูกตามล่าเพียงเพราะสีกายที่แสนแปลกของเขา

“อืม....แต่จะว่าไปแล้ว รู้สึกตั้งแต่เมื่อกี้นี้ ก็มีกลิ่นแปลกๆที่ดูเหมือนไม่ใช่สัตว์แถวนี้ลอยมาตลอดเลยแฮะ รึว่าผมจะจมูกเพี้ยนไปเอง...”

นาร่าฟังดังนั้นก็ลองดมกลิ่นดู แล้วเธอก็ผุดลุกขึ้นทันที ไวส์เกอร์มองท่าทีร้อนรนของอีกฝ่ายอย่างสงสัย แล้วฉุกคิดได้ว่ากลิ่นที่ตัวเองได้รับนั้นมันช่างแสนคุ้นเคยมาก่อน ทั้งสองหันไปมองหน้ากันประหนึ่งความคิดที่ตรงกัน

“มนุษย์!!”

เปรี้ยง!!! กระสุนปืนหนึ่งเฉียดกายของไวส์เกอร์ไปเพียงนิดเดียว เขาตั้งท่าต่อสู้ทันทีแม้ยังไม่เห็นศัตรู

“ไวส์เกอร์! เรารีบหนีกันเถอะ!”

“ไม่! ผมจะถ่วงเวลาเจ้าพวกนี้ไว้ให้ ยังไงซะเป้าหมายของเจ้าพวกนี้มันก็คือผม กลิ่นของผู้ที่สังหารเจ้านายของผมนี้ผมจำมันได้ดี นาร่า คุณรีบไปบอกทุกคนให้หนีไป!!!”

นาร่ายังคงไม่ขยับตัวเพราะเป็นห่วงไวส์เกอร์ กระสุนอีกนัดหนึ่งพุ่งตรงไปหาเธอ แต่ไวส์เกอร์ก็พุ่งเข้าไปงับคอ(เบาๆ)ดึงเธอให้รอดพ้นจากกระสุนสังหารนั้นได้

“ถ้าคุณไม่ไปบอกพวกเขา ทุกคนจะเป็นอันตรายนะ เพราะไม่รู้เจ้าพวกนี้นอกจากตัวผมแล้วยังจะต้องการพวกเธอด้วยหรือเปล่า ได้โปรดเถอะนาร่า!”

“ต....แต่ว่า....”

“เชื่อใจผมสิ ผมจะรอดกลับไปให้ดู!”

51H33764.png

ไวส์เกอร์พูดแค่นั้นก็กลับหลังหันวิ่งตรงไปหาทิศทางของกระสุนทันที นาร่าชะงักไปสักพัก ก่อนที่เธอจะกลับหลังหัน วิ่งขึ้นเหนือที่ๆพวกกลุ่มแมวป่าผู้ใหญ่อยู่ ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเชื่อใจในความสามารถของไวส์เกอร์ และภาวนาให้เขาไม่เป็นอะไร

---------------------------------------------------------

ทุ่มทุนสร้างแล้วนะเนี้ย อย่าลืมคอมเม้นกันละ  :pika03:

------------------------------------------------------

Link to comment
Share on other sites

ชอบเสือขาวอ่ะวาว่า! ^^อยากได้สักตัว

ปล. แอบอุ้มไปแล้ว...

Link to comment
Share on other sites

คิดไปเองรึเปล่า ว่าเสือขาวมันคล้ายๆเสือขาวชื่อทามะ ในเรื่องฮายาเตะ กับคนผมฟ้า มันคือฮายาเตะหรอกหรอครับ = ="

[me=[V]ersion_[5]]เผ่นไปหาอย่างอื่นที่ไร้สาระทำ[/me]

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

- ชุดกาว - ชุดกาวน์

- “นั้น! มันอยู่ทางนั่น!!” - สลับวรรณยุกต์

- “ตั้งแต่เวลานั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเนินนานแล้ว - เนิ่นนาน

- แต่ทำไมถึงได้มาอ่อนหัดในเรื่องการดมกลิ่นที่เป็นความสามารถพื้นฐานเขาพวกเสือทั่วไปได้” - จะพิมพ์คำว่า "ของ" ใช่มั้ยเอ่ย

เสือขาวกับแมวป่าเหลืองช่างน่ารักจริงๆ

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 2 : ความจริง

“ลูกพี่...ยิงแบบนี้ ถ้าเกิดโดนเป้าหมายตาย แล้วมันจะไม่ราคาตกเอาเหรอครับ?”

ชายชุดดำผู้ไม่ใส่แว่นตาดำเอ่ยถามชายชุดดำอีกคน ตอนนี้ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างรถจิ๊บ โดยในมือของคนที่ถูกเรียกว่าลูกพี่นั้น กำลังถือปืนไรเฟิลที่เพิ่งถูกใช้เพื่อลั่นกระสุนใส่สัตว์ตระกูลแมววทั้งสองตัว

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนา กระสุนนี้ก็แค่กระสุนยาง โดนเข้าไปไม่ถึงกับตายหรอก แค่สลบเท่านั้นแหละ แต่ถ้าจ่อยิงแบบระยะประชิดนี้ก็ไม่แน่ละนะ ยังไงแกก็เตรียมตัวไว้ละ ดูเหมือนเจ้าเป้าหมายที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั้นมันกำลังจะวิ่งมาหาทางปืนเราแล้ว หึๆๆ”

ลูกพี่(เรียกอย่างนี้คงได้มั้ง)โยนปืนกลเล็กให้กับลูกน้องของเขา ที่ภายในเป็นกระสุนยางเช่นเดียวกัน ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกเสือตัวไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก แต่พวกพรานที่ให้ข้อมูลบอกว่า เจ้านั้นเป็นเสือที่ค่อนข้างร้ายและยังรวดเร็วจนมีพรานนับไม่น้อยที่คิดไปล่ามันต่างเจ็บตัวกันมาแล้วทั้งนั้น

กรรรร!!!!!!

ไวส์เกอร์คำรามขณะที่วิ่งพุ่งไปหานักฆ่าทั้งสองคน ที่ตอนนี้หันปากกระบอกปืนระดมยิงกระสุนเข้าใส่มันแล้ว ไวส์เกอร์รู้จักอาวุธพวกนั้นดีเพราะเคยสู้กับพวกพรานมาก่อน จึงวิ่งหลบไปในแนวต้นไม้

“ลูกพี่! มันหลบเข้าแนวไม้ไปแล้วอ่ะ!!”

“รู้แล้วนา!! จับตามองดูมันอย่าให้คลาดสายตา!”

สองนักฆ่ารัวยิ่งกระสุนใส่ไวส์เกอร์ที่วิ่งรอบวนพวกเขาเพื่อหาช่องว่างในการเข้าโจมตี ทว่าด้วยร่างกายสีขาวนั้นค่อนข้างจะเด่นชัดตัดกับสีเขียวของพื้นป่าและสีน้ำตาลของลำต้นต้นไม้ ทำให้ไวส์เกอร์นั้นถูกมองเห็นตลอด จนในที่สุดมันจึงตัดสินใจ...

กรรรรรรรรรรร!!!!!!

ไวส์เกอร์ปีนขึ้นต้นไม้ด้วยความเร็วสูง วิ่งไปตามกิ่งของต้นไม้อย่างรวดเร็วชนิดที่กระสุนที่ถูกยิงไปด้วยความไวสูงก็ตามไม่ทัน มันวิ่งไปอยู่เหนือนักฆ่าทั้งสองคน จากนั้นก็กระโจนเข้าตะปบเข้ากลางอกของคนที่เป็นลูกน้อง และลากกรงเล็บลงถึงท้อง จนเลือดสาด หน้าท้องเปิดจนลำไส้ที่ขดอยู่ภายในทะลักออกมาอย่างน่ากลัว ชนิดที่แม้แต่เสื้อผ้าก็กันไว้ไม่อยู่

84K4c3e3.png

“อ๊ากกกกก!!!”

“หน่อย ไอ้สัตว์เอ่ย!!!”

ลูกพี่หมุนตัวรัวกระสุนปืนใส่ร่างสีขาว แต่ไวส์เกอร์ก็กระโจนหลบเข้าแนวชายป่าไปได้ ลูกพี่นั้นก้มตัวลงหยิบปืนที่ลูกน้องทำตกขึ้นมา และเล็งไปทั่วเพื่อมองหาเสือร้ายสีขาวนั้น

“ทำแสบนักนะแก....”

ไวส์เกอร์ซุ่มในมุมมืดทึ่สุด รอจังหวะที่ลูกพี่นั้นเล็งปืนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตัวเองอย่างช้า จนเมื่อสบโอกาส ก็กระโจนพรวดออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี เสียงกระโดจนออกจากพุ่มไม้ทำให้ลูกพี่หันกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าก็สายเกินไป เมื่อไวส์เกอร์นั้นกระโดดกัดข้อมือซ้ายของเขา และสะบัดคอกระชากเนื้อทั้งเส้นเลือดที่ข้อมือจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ลูกพี่ตกตะลึงเจ็บจนร้องไม่ออก เส้นประสาทที่ถูกตัดขาดทำให้ปืนนั้นหลุดจากมือ ลูกพี่เหวี่ยงปืนอีกกระบอกระดมยิงใส่ไวส์เกอร์อย่างบ้าคลั่ง ไวส์เกอร์อาศัยความเร็วหลบเข้าไปในแนวป่าได้อีกครั้ง

“อ...ไอ้...ไอ้เสือบ้า.....แฮ่กๆๆ”

เลือดที่พลั่งพรูออกจากข้อมือทำให้พลังกายของลูกพี่เลือนหายลดลงอย่างรวดเร็ว เขาทรุดล้มลงไปนั่งพิงล้อรถจิ๊บ มืออีกข้างที่สั่นเทายังคงเล็งไปปืนไปข้างหน้าตัวเอง

กรรร.....

ไวส์เกอร์ก้าวเดินมาอย่างช้าจากเงามือเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้นั้นหมดฤทธิ์แล้ว มันตรงมาหาร่างที่เลือดไหลจนเกือบถึงขั้นวิกฤติ แรงที่เลือนหายแม้แต่จะถือปืนที่แสนหนักก็ยังทำไม่ได้จนมือนั้นตกลงไปข้างตัว ลูกพี่ที่รู้ตัวเองว่าไม่รอดแล้ว ไม่คิดที่จะร้องไห้แต่กลับเปล่งเสียงหัวเราะแทน

“ฮึๆๆ แพ้ให้กับสัตว์หน้าขนซะได้....มนุษย์เช่นข้าช่างอับอายจริงๆ”

ไวเกอร์หยุดเดิน และยืนมองอยู่ห่างๆ

“น่าเสียดายแท้....แค่เงินสองล้านเหรียญ ทำให้ข้าต้องเอาชีวิตมาทิ้งในป่าที่น่าขยะแขยงเช่นนี้หรือเนี้ย...แต่...”

ลูกพี่ลวงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง และหยิบวัตถุทรงกระบอกที่มีสลักขึ้นมา แม้ไวเกอร์จะเคยสู้กับนายพรานมาหลายหน ทว่าสิ่งที่อยู่ในมือของลูกพี่นั้น มันไม่รู้เลยว่ามีอานุภาพร้ายแรงแค่ไหน

c8O80783.png

“ชีวิตของแก....ก็ขอข้าเอาไปด้วยเถอะ!!”

กริ๊ก! สลักระเบิดถูกปลดออกแล้ว

บรึ้มมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

--------------------------------------------------------

“ไวเกอร์”

นาร่าหันมองกลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาเหนือผืนป่าจากทิศทางที่เธอได้จากมา ตอนนี้เธอกับกลุ่มแมวป่าได้กลับมาซ่อนตัวที่หน้าผาที่พักของพวกตนแล้ว

“เดี๋ยว!! ลูกจะไปไหนนะ ข้างนอกมันอันตรายนะ!!”

ด้วยความเป็นห่วงไวส์เกอร์ นาร่าจึงตัดสินใจลุกขึ้น วิ่งออกจากถ้ำไปโดยไม่สนใจเสียงทัดทานจากผู้เป็นพ่อ สี่เท้าเล็กเพรียววิ่งไปตามแนวเส้นทางเชิงผาลงสู่พื้นราบด้วยความเร็วสูง สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับไวส์เกอร์ เธอกระโจนไปตามกิ่งต้นไม้จากกิ่งหนึ่งไปยังกิ่งหนึ่งอย่างคล่องแคล้ว จนมาหยุดอยู่ที่หลุมขนาดใหญ่สีทมิฬ

เป็นหลุมที่เกิดจากการระเบิดของลูกพี่ ซึ่งทำให้ต้นไม้รายรอบล้มราบเป็นหน้ากลอง เศษเหล็กของรถจิ๊บที่ถูกไหม้จนเป็นสีดำกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

“ไวส์เกอร์....”

กลิ่นเลือดของเขาโชยมาจากพื้นที่อันไม่ไกลออกไป เธอผละออกจากหลุมระเบิด และดมกลิ่นไล่ตามกลิ่นเลือดของไวส์เกอร์ที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นแปลกปลอมอื่นที่เธอไม่คุ้นเคย เดินอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้เผลอหลุดจากกระแสการไหลของกลิ่น จนพบต้นไม้ต้นหนึ่งที่เหมือนจะถูกอะไรบางอย่างกระแทกอย่างแรงจนเป็นรอยแตกบนเนื้อไม้ กลิ่นของไวส์เกอร์ลอยออกมาจากข้างหลังต้นไม้นั่น

“ไวส์เกอร์! นายเป็นอะไรรึเปล่า!!”

เมื่อแน่ใจแล้วว่าไวส์เกอร์อยู่ข้างหลังต้นไม้นั้น นาร่าจึงรีบวิ่งทันที

“ห้ามเข้ามานะนาร่า!!”

เสียงของอีกฝ่ายสั่งให้เธอหยุด นาร่ายั้งตัวไว้หยุดหน้าต้นไม้

“ทำไมละไวส์เกอร์! เธอบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ รีบไปหาสมุนไพรเพื่อรักษาแผลเถอะไวส์เกอร์”

“ไม่เอา......บาดแผลนี้มันร้ายแรงเกินไป...ผมไม่อยากให้คุณเห็นผม....ในสภาพนี้...”

เสียงที่อ่อนแรงของอีกฝ่ายทำให้น่าร่ายิ่งเป็นห่วง

“ไม่ว่านายจะอยู่ในสภาพไหนฉันก็รับได้ทั้งนั้นละ เพราะฉันรักนายนะ!”

“........ไม่.......ผมเกลียดคุณนาร่า.....ผมเกลียดคุณที่สุด....อย่ามายุ่งกับผม....ไปให้พ้น...”

“ไวส์เกอร์....ทำไมละ....ทำไม...”

“......ยังไงซะชีวิตของผมก็ต้องจบลงตรงนี้.....ไปหาใครอื่นที่รักยิ่งกว่าผมเถอะ.....”

นาร่าตกใจกับคำพูดของอีกฝ่าย ผู้ชายที่เคยบอกว่ารักเธอที่สุด แต่คราวนี้กลับพูดคำว่าเกลียดได้เสียดขั้วหัวใจเธอมากมาย น้ำตาที่สัตว์ปกติไม่น่าจะมีกลับหลั่งไหลออกมาจากหางตาของเธอ

“....ผมไม่รักคุณ.....เกลียดที่สุด.....”

นาร่าก้มหน้าลงรับคำพูดอีกคำของชายผู้เป็นที่รัก เธอเดินถอยหลังสองสามก้าว ก่อนกลับหลังหันเดินจากไปอย่างอ่อนแรง

เมื่อป่าได้เงียบสงบลง ร่างโชกเลือดที่หลบอยู่หลังต้นไม้ค่อยๆชันตัวลุกขึ้น และเดินออกมาจากมุมมืดของต้นไม้ เหม่อมองไปยังทิศทางที่เธอผู้เป็นที่รักได้จากไป ไวส์เกอร์พาร่างของตนมานั่งกลางพุ่มหญ้าที่นาร่าเคยยืน เขาทรุดล้มลงพร้อมร้องไห้

“บ.....แบบนี้ดีแล้วละ.....มันดีแล้ว.....ที่ให้คุณไป.....เพราะยังไงสองเราก็ไม่มีทางรักกันได้อยู่แล้ว...”

ไวส์เกอร์ก้มลงมองขาหน้าข้าหน้าขวาของตนและร้องไห้ไม่หยุด บาดแผลสาหัสจากระเบิดที่ทำให้ผิวหนังหลุดหายไปจนหมดสิ้น หลงเหลือเพียงสิ่งที่สัตว์ทั่วไปไม่สมควรมี ความจริงที่ปรากฏ ณ บาดแผลนั้นเป็นสิ่งที่เขาเคยเห็นมาก่อนเมื่อครั้งอยู่ในเมืองมนุษย์ แต่เขาไม่คิดว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็เป็นเหมือนพวกนั้น

d9P91815.png

“บาดแผลแห่งความจริงที่เกินจะรับไหว ชีวิตเดิมที่เคยเป็นมาได้จบลงแล้ว....กับความจริงนี้....”

ขาหน้าโลหะสีเทาไร้รอยขีดข่วนแม้โดนแรงระเบิดเข้าเต็มๆ แต่เปื้อนเลือดและเศษเนื้อ เป็นหลักฐานที่บอกให้ไวส์เกอร์ได้รู้สถานะของตน ว่าตนนั้นไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเสืออีกแล้ว

แต่เป็นสิ่งเลียนแบบชีวิตที่เรียกว่า “หุ่นยนต์”....

-------------------------------------------------------------------------

To be Continue The end chapter...

Link to comment
Share on other sites

ไวส์เกอร์เป็นหุ่นยนต์เหรอเนี่ย!?

แล้วความรักของทั้งสองจะจบลงยังไงล่ะเนี่ย

Link to comment
Share on other sites

Gold : (นั่งอ่านจากสำนักงานใหญ่SSP)

Gold : อย่างที่เคยพูดนะ ถ้าจะรักกันน่ะ ไม่มีจำกัดสายพันธุ์หรอกไวส์เกอร์

Beast emperor : ทำไมเราต้องมีเสือขาวเหมือนกันด้วย = =*(ชี้ไปที่เสือสีขาวข้างๆตัว)

Tion : (บิดขี้เกียจ)หง่าว~

Beast emperor : หยั่งกะแมว

Link to comment
Share on other sites

หักมุมแบบสุดๆเลยนะเนี่ย

แล้วเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไงกันน่ะ

Link to comment
Share on other sites

เราเองก็ไปเม้นที่ไทยเกมมิ่งแล้วนะว่า  :pika01:  เป็นกำลังใจให้ทั้งทางนี้ และก็ที่นั่น

ปล.ที่นั่นส่วนใหญ๋พวกขาจรครับ คนแต่งฟิคจริงๆอยู่ไม่กี่คนหรอก ดังนั้นถ้าจะไม่มาเม้นเลยก็ไม่แปลกอะไร

Link to comment
Share on other sites

เราเองก็ไปเม้นที่ไทยเกมมิ่งแล้วนะว่า :pika01:เป็นกำลังใจให้ทั้งทางนี้ และก็ที่นั่น

ปล.ที่นั่นส่วนใหญ๋พวกขาจรครับ คนแต่งฟิคจริงๆอยู่ไม่กี่คนหรอก ดังนั้นถ้าจะไม่มาเม้นเลยก็ไม่แปลกอะไร

อืม...ตอนนี้ยุคสมัยของ Fiction มันเงียบเหงาแล้วละ เพราะงั้นข้าน้อยถึงละทิ้งสายทางนักเขียนเพื่อไปเป็นนักวาดนั้นละ...

ตอนสุดท้ายละขอรับ!!

---------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 3 : ความรัก

แม้จะเดินจากมา แม้จะโดนทำร้ายจิตใจแค่ไหน แต่ว่าความรักนั้นก็ทำให้เธอคนห่วงเขาไม่ได้ แม้จะต้องเห็นเขาอยู่ในสภาพไหน หรือจะต้องเห็นเขาตายไปต่อหน้า ทว่าอย่างน้อยเธอก็อยากที่จะเจอหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ได้ฟังแค่เสียงแห่งคำลาจากอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอรักเขามากแค่ไหน...เธออยากจะบอกรักเขาสักครั้ง....

ตอนนี้นาร่าจึงเดินกลับไปหาไวส์เกอร์อีกครั้ง เธอเดินอย่างเงียบเชียบกลับไปเพราะรู้ดีว่าหากไม่ทำเสียงดังแล้วอีกฝ่ายไม่มีทางรู้ตัวถึงการมาของเธอแน่ เพราะไวส์เกอร์นั้นไม่ถนัดการดมกลิ่น

เขายังอยู่ตรงนั้น บนพื้นหญ้าที่เธอเคยยืน แสงตะวันลอดผ่านหมู่แมกไม้และส่องลงตรงที่ๆเขานอนหลับไหลอยู่พอดี ภาพนั้นมันดูเหมือนกับว่าเขาตายไปแล้ว ทว่านาร่ารู้ดีว่ามันไม่ใช่ เสียงหัวใจของไวส์เกอร์ยังคงดังอยู่ เสียงหัวใจที่แปลกกว่าใครอื่นและเธอก็จำเสียงนั้นได้ดี ทว่ากลิ่นที่มาจากตัวเขา กลับมีอีกกลิ่นที่เธอไม่รู้จัก...

นาร่าเดินเข้าใกล้ไวส์เกอร์จนมองเห็นตัวเขาอย่างชัดเจน บาดแผลบนตัวเขานั้นก็ไม่ได้ร้ายแรงมากเท่าที่เธอได้จินตนาการ ดูเหมือนว่าไวส์เกอร์นั้นอยุ่ห่างจากจุดระเบิดอยู่พอสมควรเลยไม่บาดเจ็บมากนัก นอกจากแผลเล็กๆและรอยไหม้บนขนบางจุด แต่ขาหน้าขวาที่เขาใช้หนุนหัวนั้นมีกลิ่นเลือดโชยออกมาทำให้นาร่าต้องกังวล

นาร่าเดินไปอีกด้านเพื่อมองขาหน้าขวานั้นให้ชัดเจน และเธอก็ได้เห็นความจริงที่อีกฝ่ายพยายามซ่อนไว้

ieUd69e1.png

“เพราะเป็นอย่างนี้ ก็เลยกลัวว่าฉันจะเกลียดนาย.....สินะ....”

เสียงแผ่วเบาของแมวป่าสาวปลุกให้ร่างที่หลับใหลตื่นขึ้นมา หลังจากที่สลบไปเพราะได้รับรู้ความจริงที่เกินจะรับไหว ไวส์เกอร์หันหน้าไปมองนาร่าแล้วตกใจ เขาถอยตัวและพยายามซ้อนขาหน้าขวาเอาไว้ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์แล้ว

“กลับมาทำไมกัน....ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเกลียดเธอ...”

“ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเกลียดฉัน....เพราะยังไงฉันก็รักนายไวส์เกอร์....”

นาร่าเดินเข้าไปใกล้ไวส์เกอร์ เธอดึงขาหน้าขวาของอีกฝ่ายมาเลียเลือดที่เปื้อนมือโลหะอย่างไม่หวาดกลัวเหมือนครั้งที่เขาบาดเจ็บในครั้งคราก่อน แม้ตอนนี้มันจะเป็นโลหะไม่ใช่ขนแล้วก็ตาม ไวส์เกอร์ได้แต่นิ่งเงียบ

“.....ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นอะไร.....ฉันไม่สนด้วยว่านายจะอยู่ในสภาพไหน.....เพราะนายก็คือนาย.....ไวส์เกอร์พยัคฆ์ขาวที่ฉันรัก...”

“ไม่มีทางหรอก....เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นอะไร...”

ไวส์เกอร์ชักมือกลับและนั่งหันหลังให้เธอ

“.....พวกเราไม่มีทางรักกันได้......ไม่มีทางที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่นได้.....ตัวฉันมันก็แค่เศษเหล็กที่มีชีวิตเท่านั้น...”

“แต่ก็เป็น....หุ่นยนต์ที่มีหัวใจไม่ใช่เหรอ?”

นาร่าเดินเข้ามาคลอเคลียแก้มของไวส์เกอร์ พยัคฆ์ขาวมองอีกฝ่ายอย่างสนเท่ห์ใจ ทำไมอีกฝ่ายถึงรู้จักหุ่นยนต์ได้

“ทำไมเธอถึง....”

“รู้ไหมไวส์เกอร์.....ในบรรดาแมวป่าทั้งหลายนะ พ่อบอกว่าฉันนะเป็นแมวป่าที่มีความสามารถในการฟังเสียงได้ไวที่สุด และฉันก็เป็นตัวเดียวในกลุ่มที่เคยแอบหนีไปเที่ยวในเมืองของมนุษย์ด้วย....และฉันก็จำเสียงนี้ได้ดี...”

แมวป่าสาวสีเหลืองลายพยัคฆ์แนบหูเข้ากับหน้าอกของไวส์เกอร์ ที่เหมือนจะดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อเธอทำเช่นนั้น

“เสียงหัวใจของหุ่นยนต์......ฉันรู้อยู่ก่อนแล้วละไวส์เกอร์ ว่านายไม่ใช่เสือธรรมดา...แต่เพราะหัวใจของนายที่ไม่เหมือนหุ่นยนต์ตัวอื่น และท่าทีของนายที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ นายแสดงท่าทีเหมือนเสือไปเสียทุกอย่าง จนทำให้ฉันคิดว่าฉันหูเพี้ยนไปเอง....”

“น....นี้เธอรู้อยู่ก่อนแล้วทำไมถึงไม่บอกผม ทำไมถึงปล่อยให้ผมเป็นหุ่นยนต์โง่เง่า ที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือจริงๆมาโดยตลอด

ไวส์เกอร์ร้องไห้อีกครั้ง สิ่งมีชีวิตเลียนแบบเสือร้องไห้อย่างไม่สนสายตาสิ่งมีชีวิตเพศเมียตรงหน้า นาร่าสะบัดหัวเบาๆเหมือนจะหน่ายๆเช่นครั้งที่สอนไวส์เกอร์ในการดมกลิ่น

“เพราะถ้าบอกนาย ฉันจะต้องเสียใจเพราะนายคิดจะทำแบบนี้นะสิ.....แค่ระหว่างเสือกับแมวมันก็เป็นความรักที่ห่างไกลมากพอแล้ว ยิ่งมาเป็นสิ่งมีชีวิตกับหุ่นยนต์อีก เป็นความรักที่ห่างไกลจนทำให้นายพยายามจะไปให้ไกลจากฉันเหมือนเช่นตอนนี้.....”

“หึๆๆ อย่างนี้ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากแล้วสินะ ถ้าเช่นนั้นเธอก็ควรไปจากฉันได้แล้วละนาร่า ความรักของเราไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันไม่เหมาะสมกับเธอ.....ฉันไม่มีทางมีลูกกับเธอ ทำให้เธอมีครอบครัวอบอุ่นได้อย่างที่เธอฝัน เพราะฉะนั้น...อุ๊บ!”

ตบ....อาจจะฟังดูแปลกสำหรับพวกสัตว์ แต่นาร่านั้นได้ใช้อุ้งเท้าหน้าตบเข้าที่แก้มของอีกฝ่ายจนหน้าหัน พยัคฆ์ขาวยกมือขึ้นลูบแก้มอย่างไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่าย นาร่าร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอยกเท้าหน้าขึ้นปาดน้ำตาของเธอที่ไม่เคยไหลมาก่อน และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือออกมาว่า

kgWf8a23.png

“เห็นแก่ตัว.....ผู้ชายเห็นแก่ตัวที่สุด....”

“น...นาร่า....”

“ทำให้รักมากมาย แล้วก็จากไป เพราะกลัวว่าผู้หญิงจะเกลียดที่ได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริง เห็นแก่ตัวที่สุด....ฮึกๆๆ ใครจะเกลียดนายกัน...นายไม่ได้ยินที่ฉันพร่ำพูดอยู่ตลอดนี้เลยรึไง หรือจะให้ฉันต้องตะโกนให้ดังไปทั่วทั้งป่ากันว่า ฉันรักนาย..... ได้ยินไหม ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย!! ฉัน....ฉันเคยไปพูดว่าเกลียดนายตอนไหน!!!”

“...........”

“อย่ามาทำเป็นรู้ใจคนอื่นดีเลย.....ผู้ชายเห็นแก่ตัว....”

นาร่าทรุดตัวลงและร้องไห้กับพื้นหญ้า สั่นสะท้านและหมดแรง ไวส์เกอร์มองเธออย่างไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรดี เขาไม่ชอบเลยที่ต้องคนตรงหน้าร้องไห้เสียใจ ไม่ชอบเลยที่ทำให้หัวใจของเธอต้องเจ็บปวดแสนสาหัสขนาดนี้ ในขณะที่ตัวเขาเอาแต่เจ็บใจที่ตัวเองเป็นหุ่นยนต์ แต่อีกฝ่ายกลับยอมรับในตัวเขาทั้งๆที่ตัวเขาไม่ยอมรับในตัวเองเลย หรือว่าว่าเขาจะเห็นแก่ตัวจริงๆ

ถ้างั้น......

“ผมขอโทษนาร่า.....เข้าใจแล้ว....”

“........ถ้างั้นก็บอกรักฉัน.....ให้หวานเหมือนเมื่อก่อนสิ....”

นาร่าเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอนั้นดูน่ากลัวจนทำให้ไวส์เกอร์ไหวหวั่นพลันสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอ

“หา....เอ่อ....ผม....ผมรักคุณ...”

“ฉันก็รักนาย.....ไวส์เกอร์!!”

นาร่ากระโจนเข้ากอดไวส์เกอร์ทันที อีกฝ่ายนั้นก็ไม่ทันตั้งตัวว่าเจอการโจมตีแบบนี้จากหญิงสาวที่พึ่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร จึงเสียการทรงตัวล้มกลิ้งไปตามกัน นาร่าอยู่บนตัวของไวส์เกอร์และคลอเคลียหยอกล้อแก้มของเสือ....หุ่นยนต์เสือหนุ่มที่เธอรักยิ่ง

“พ....พอได้แล้วนาร่า.....ฮะๆๆ มัน....มันจั๊กกะจี๊นะ....”

“ไม่พอๆ อยากแกล้งฉันดีนัก เจอท่าไม้ตายไปหน่อยเถอะ”

“อ๊ะ!”

ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ ไวส์เกอร์คิด ชะรอยว่าที่เธอบอกเคยแอบไปเที่ยวในเมืองของมนุษย์นั้นจะเป็นจริง ริมฝีปากของเธอที่ประกบกับริมฝีปากของเขานั้นให้ความรู้สึกดีๆ จนชั่วขณะหนึ่งนั้นได้ทำให้ไวส์เกอร์ลืมไปว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ เพราะความรู้สึกที่สัมผัสนั้นมันช่างเหมือนตอกย้ำความเป็นสิ่งมีชีวิตอีกครึ่งร่างให้กับเขา และไม่ช้านาร่าก็เป็นฝ่ายถอนจุมพิตที่เธอเป็นฝ่ายรุก และหัวเราะ

“ฮะๆๆ มิหน่าละว่าทำไมมนุษย์ที่เป็นคู่ครองกันจึงชอบทำแบบนี้กันนัก”

“อึก....นาร่าเองก็น่ากลัว.....เธอแน่ใจนะว่าตัวเองเป็นแมวป่า ไม่ใช่มนุษย์นะ....”

ใช่....ฉลาดจนน่ากลัว รู้จักแม้แต่หุ่นยนต์ พอฟังได้ไวส์เกอร์พูดเช่นนั้นแล้ว นาร่าก็ยิ้มและหัวเราะร่า เธอก้มหน้าลงมาชิดใกล้กับไวส์เกอร์มากขึ้น พยัคฆ์หนุ่มหัวใจเต้นแรงเมื่อสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้ชินใกล้กว่าที่เคยเป็นมา ทำเอาเขาลืมว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ไปอีกครั้ง

“ครึๆๆ อยากให้ฉันแสดงอะไรที่เหมือนมนุษย์มากกว่านี้ไหมละ.....”

“ด...เดี๋ยวสิ...ผ...ผม.....ผมเป็นหุ่นยนต์นะ....เรื่องแบบนั้นไม่มีทางทำได้หรอก...”

ไวส์เกอร์รู้เสียยิ่งกว่ารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เพราะตัวเขาก็เคยคิดแบบนั้นมาก่อนเมื่อครั้งที่ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แต่ตอนนี้มันไม่มีทางทำแบบนั้นได้อยู่แล้วเพราะตัวเองเป็นเพียงแค่เหล็กที่มีชีวิตเท่านั้น

“เห.....จริงเหรอ......แต่ว่าฉันได้กลิ่นของนายนะ.....ความต้องการของนายที่ปกปิดไม่มิดเลย....ข้างล่างนั้น...”

“เห!! ม....ไม่จริงนา!! อือ!”

73J2bd62.png

ม....มีอยู่จริงๆด้วย! พระเจ้าช่วย ตกลงนี้ผมเป็นหุ่นยนต์จริงๆหรือเปล่า...ท....ทำไมถึงเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดนี้ละ ช่วยบอกผมทีเถอะพระเจ้า !! เฮ้! นาร่า!!! ไม่ได้oนะ! อย่าแตะตรงนั้น!! ที่ตรงนั้นมัน อ้า!!!!!!

นั้นเป็นความคิดของไวส์เกอร์ ก่อนที่เขาจะเสียตัวให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวป่าไป....

----------------------------------------------------------

ณ สถานที่แห่งหนึ่ง

บุรุษสองคนในความมืดที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริงยืนคุยกันอยู่

“ล้มเหลวงั้นเหรอ.....”

“ครับนายท่าน สัญญาณของพวกนั้นขาดหายไปในป่าลึก คาดว่าเสียชีวิตแล้วครับ”

“แล้วเจ้าหุ่นยนต์ตัวนั้นละ”

“ขณะที่เกิดระเบิดขึ้นกับสองคนนั้น ดูเหมือนว่าจะโดนระเบิดไปด้วยครับ”

ตึง!!! เงาชายร่างท่วมทุบกำปั้นลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น

“กรอด! บ้าจริงเชียวไอ้ดอกเตอร์จิตวิบัตินั้น ขนาดตายไปแล้วยังไม่วายทำเรื่องยุ่งยากได้อีกนะ....”

“เจ้าหุ่นยนต์นั้นสำคัญขนาดนั่นเลยรึครับ?”

“หึ! แกไม่รู้หรอกว่าเจ้านั้นมันมีค่ามากแค่ไหน เทคโนโลยีระดับสูงที่มีแค่ดอกเตอร์นั้นทำได้เท่านั้น หุ่นยนต์ที่มีความเสมือนสิ่งมีชีวิตมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังเก็บข้อมูลของเทคโนโลยีสุดยอดอย่าง การสังเคราะห์เซลล์สืบพันธุ์สิ่งมีชีวิตเทียมได้ทุกชนิดและเร่งอัตราการวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดด อีกทั้งยังทำให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว เจ้านั้นละที่จะมาช่วยมนุษย์ในภาวะที่เซลล์สืบพันธุ์ของมนุษย์กำลังค่อยๆเสื่อมสภาพลงในประชากรแต่ละรุ่น......มันคือกุญแจหลักที่ช่วยหยุดยั้งมนุษย์จากการถึงคราวสูญพันธุ์!!”

-----------------------------------------------------------

ย้อนกลับไปในอดีต ยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราว

“ขอให้โชคดี ลูกชายของข้า....”

ชายนักวิทยาศาสตร์พูดเสียงแผ่วเบา มือขวาหยิบปืนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ชายสองคนที่ตามมาข้างหลังยืนมองการกระทำของเขาอย่างตกตะลึง

“หมดเวลาแล้วสำหรับมนุษย์ในการครองโลกใบนี้ พวกเราสร้างบาดแผลให้กับดาวเกิดมามากพอแล้ว....ยุคของมนุษย์นั้นจะต้องสิ้นสุด มันคือชะตากรรมที่ต้องยอมรับ เพราะฉะนั้น...”

ชายชุดกาวยกมือขวาที่ถือปืนขึ้นจ่อขมับของตัวเองอย่างไม่กลัวตาย เขายิ้มให้ชายชุดดำสองคนตรงหน้าและเอ่ยคำพูดสุดท้าย

84K3cea7.png

“จะไม่ยอมให้ข้อมูลที่อยู่ในหัวนี้ ตกไปอยู่ในมือของมนุษย์ผู้มีความโลภไม่มีที่สิ้นสุดเด็ดขาด...โลกต่อจากนี้ไปเป็นของพวกเจ้าแล้ว...ลูกชายข้า...”

.....และวีรบุรุษผู้มีความสามารถในการจะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ได้ ก็ได้ลั่นไกปืนจบชีวิตตัวเองลง พร้อมๆกับชะตากรรมของมนุษย์ทั้งมวลที่จะต้องสิ้นสุดตามไปด้วย...

............................นับจากนั้นหลายพันปี....โลกที่ทรุดโทรมก็กลับมาเขียวขจีอีกครั้ง......และเหล่าสัตว์ทั้งหลายคือผู้ครองโลกในยุคต่อมา....

------------------------------------ THE END  -------------------------------------------------

ก่อนที่โลกนี้จะสิ้นลงไป....

อืม...หวังว่าคงไม่คิดมากกับความโรคจิตของข้าน้อยที่ไม่มีเปลี่ยนแปลงนะ ^^

ปล. ตอนนี้ในคลังยังมีนิยายอีกสามเรื่องที่แต่งไม่จบอยู่ ไว้ถ้าว่าง[มากจริงๆ]เมื่อไหร่ จะลองเอามาลงน้อ!!

Link to comment
Share on other sites

:pika08: :pika08: :pika08:

ไม่จริง มีภาพแบบนี้ด้วย

อดีตของทามะในเรื่องฮายาเตะ มันเป็นแบบนี้เองหรอกหรอเนี่ย

[me=[V]ersion_[5]]โดนถีบไปไกลๆ[/me]

Link to comment
Share on other sites

Gold : ฮึๆๆ รักกันไปนานๆละกัน

Gold : บอกแล้วไวส์เกอร์ ว่าความรักน่ะไม่มี...

(แกร๊ง<<<แขนขวาหลุดออกมากระทบพื้น)

Gold : ...จำกัดสายพันธุ์หรอก(= =*)(หลุดได้ไงวะ)

Gold : หุ่นยนต์กับสิ่งมีชีวิต ใช้การสังเคราะห์เซลล์สืบพันธุ์สิ่งมีชีวิตเทียม

Gold : Humandroidกับโปเกมอน ใช้.....

หินแห่งชีวิต : ของฉันนี่อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ เดี่ยวๆยังได้เลย

ลาติ๊จัง : จะหุ่นยนต์หรือมนุษย์ก็ช่าง แค่รักกันแล้วมีความสุขก็พอแล้วล่ะ เนอะพี่Gold

Link to comment
Share on other sites

ตกลงไวส์เกอร์เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งหุ่นยนต์หรือเปล่านะ...

ช่างเถอะ อน่างน้องก็กลับมารักกันเหมือนเดิมแล้วนี่น่ะ ^^

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.