Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

บันทึกลับหลังโลกแห่งความตายของซายาคามิ


Madame Graya

Recommended Posts

บันทึกลับหลังโลกแห่งความตายของซายาคามิ Part 1 [movie 3 spoil alert!]

ซายาคามิ- สวัสดีชาวพีเคเบสิกทุกคนที่อ่านอยู่ เราคือตัวแทนของ Madame Graya และจะนำฟิคที่เค้าแต่งมาลงให้นะ เพราะันี่เป็นบันทึกลับของเราเอง เราจึงขอเป็นคนเปิดเรื่องเองละกันนะ//แย่งงานเจ้าตัว หุหุ

ซายาคามิ- เพื่อไม่ให้เป็นการเีสียเวลา กด Spoiler เพื่ออ่านได้เลย ส่วนเราขอตัวก่อนนะ บ๋ายบี~

ในพริบตานั้น ตอนที่โซลเจมของเราที่เดิมมีสีฟ้าสดใสกลายเป็นสีดำสนิทด้วยมลทินแห่งคำสาปของความอิจฉาริษยา (ที่เพิ่มพูนขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน) ก็พลันปรากฏร่างของนางฟ้าผมสีชมพูชุดขาวองค์หนึ่งซึ่งคุ้นตามากๆ ว่าเป็นคนคุ้นเคยกัน (แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใครน่ะสิ) นางฟ้าได้ส่งรอยยิ้มให้เรา แล้วโอบมืออยู่เหนือโซลเจม ปาฏิหารก็เริ่มต้นขึ้น

โซลเจมของเรากำลังได้รับการชำระล้าง มลทินสีดำนั้นราวกับถูกดูดออกมา ในรูปของละอองละเอียดสีดำแล้วหายเข้าไปในมือของนางฟ้าองค์นั้น ทิ้งไว้เพียงโซลเจมซึ่งสีสันของมันถูกมลทินกัดกินจนสิ้นไปนานแล้ว

อาห์ เราคงจะสิ้นใจในไม่ช้าสินะ

"ไม่เป็นอะไรแล้วสินะ ซายากะจัง" นางฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน เอ๊ะ เดี๋ยวสิ

นางฟ้ารู้จักเราด้วยเหรอ?

แต่ก่อนจะได้ถามอะไร ร่างกายกลับอ่อนแรงลงเสียดื้อๆ ชีพจรของเรากำลังดับวูบไปงั้นสิ

"ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องเกลียดหรือโกรธใคร ไม่ต้องทุกข์ทรมานแล้วนะ เพราะว่าชั้นน่ะจะมารับเธอไปอยู่ด้วยกันยังไงล่ะ"

นั่นเป็นเสียงใสกังวานเสียงสุดท้ายที่เราได้ยินก่อนที่จะสิ้นลม

ใช่แล้ว หัวใจของเราหยุดนิ่งไปตั้งแต่จังหวะนั้น ร่างกยที่ไร้การควบคุมก็ร่วงหล่นไปตามแรงโน้มถ่วงโลกตามกฏของนิวตันที่เรียนมาเป๊ะ

เรา สาวน้อยเวทมนต์ มิกิ ซายากะ ได้สิ้นลมแล้ว ณ ที่แห่งนี้โดยไม่ทิ้งแม่มดเอาไว้ ส่วนการผจญภัยของดวงวิญญาณเพิ่งจะเริ่มต้น นับจากนี้ไป...

to be continue...

Link to comment
Share on other sites

บันทึกลับหลังโลกแห่งความตายของซายาคามิ Part 2 [movie 3 spoil alert!]

ซายาคามิ- ให้ตายสิ กระทู้ฟิคร้างสนิท-*- เอาเถอะ วันนี้ลง 2 ตอนละกัน แก้ร้างๆ

อืม เราคงตายมาได้พักนึงแ้ล้วสินะ

...

รู้สึกเหงาแปลกๆ แต่กลับสบายสุดๆ ด้วย

...

...

...

"ซายากะจัง ถึงแล้วนะ"

หืม เสียงนี้...? นี่เรากำลังหลับฝันอยู่เหรอ? จากนั้นเราก็ค่อยๆ ขยับเปลือกตา (?) ขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนหยีตาลงอย่างไว-*-

แสงตรงหน้าสว่างจ้าสุดๆ ตาจะบอดก่อนไม๊เนี่ย-*-? คิดพลางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นนางฟ้าคนเดิมที่มารับเรากำลังวางมือไว้บนหน้าท้องของเรา

หน้าท้องเหรอ?

"หุหุหุ ยินดีต้อนรับสู่โลกของชั้นนะจ๊ะ ซายากะจัง" นางฟ้าเอ่ยขึ้น "หรือเรียกง่ายๆ คือมิติคู่ขนานที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจักรวาลที่ชั้นใช้พลังสร้างขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าพลังนั้นมาจากคำอธิษฐานของชั้นเองในฐานะของสาวน้อยเวทมนต์"

"ที่แห่งนี้ ชั้นจะพาเหล่าสาวน้อยเวทมนต์ที่หมดอายุขัยมาอาศัยอยู่ด้วย" นางฟ้า (ที่พอมองดูดีๆ แล้วเขามีดวงตาสีทอง) ยังอธิบายให้ผู้มาใหม่อย่างเราฟังอย่างกระตือรือล้นต่อไป "แต่น่าเสียดายที่ชั้นพามาได้แค่วิญญาณ ชั้นเลยแก้ด้วยการจำลองร่างเดิมของเธอ เพื่อเธอจะได้ใช้มันยังไงล่ะจ๊ะ"

เราจึงก้มลงสำรวจตัวเอง... นี่เป็นรูปร่างหน้าตาของ "มิกิ ซายากะ" เป๊ะๆ แถมในมือยังมีโซลเจมสีฟ้้าอันเดิมนอนนิ่งอยู่อีกด้วย!

"สีสันของเจม ชั้นก็เติมกลับมาให้" นางฟ้าใจดีเสริม "ก็ชีวิตของสาวน้อยเวทนต์อย่างเธอมันน่าเสียดายเกินกว่าจะปล่อยให้ตายไปน่ะนะ ยังไงก็ขอโทษด้วยละกันถ้าชั้นถือวิสาสะทำเรื่องแบบนี้..."

"ไม่หรอก... เอ่อ ค่ะ" เราเริิ่่มพูดขึ้นมาบ้าง (แต่การพูดสุภาพมันยากนี่นา ยิ่งกับคนแปลกหน้าด้วยยิ่งแล้วใหญ่) "เรา... คือ หม่อมชั้นสิคะที่ต้องขอบคุณ เธอ... หมายถึง... ท่าน ช่างเมตตาต่อหม่อมชั้น... มากมายเหลือเกิน" (รู้สึกได้เลยว่าเหงื่อไหลเป็นทาง น่าเกลียดจริงๆ-*- )

ฟังดูไม่เข้ากับบทพูดของยัยเด็กกะโปโลอย่างเราเลย เนอะ (อมยิ้ม)

ช่วยไม่ได้นี่นา สถานการณ์มันพาไป

"ดีจัง นึกว่าเธอจะโกรธชั้นเสียอีกนะ ซายากะจัง" นางฟ้าตอบ พลางซับเหงื่อให้ด้วย (ใจดีอีกแล้ว) "ได้ยินเธอพูดแบบนั้น ชั้นดีใจนะ มากๆ ด้วย"

(เงียบลงไปอีกพักใหญ่)

"จริงสิ" ในที่สุด เราก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบลง "ท่านรู้ชื่อของหม่อมชั้นได้อย่างไรหรือคะ?"

"หืม ถามแปลกจังนะจ๊ะ?" นางฟ้าตอบ พลางลูบหัวเราอย่างอ่อนโยน "ชั้นน่ะ เป็นถึง "เองคันโนะ โคะโตวาริ" เชียวนะ การรู้ว่าเธอชื่อ "มิกิ ซายากะจัง" มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชั้นเลยนะ"

"แบบนั้น... หรือคะ" เราครางตอบ (ก็เป็นฝ่ายโดนลูบหัวหนิ) แต่แอบสังเกตเห็นแววตาสีทองอันเศร้าสร้อยจากท่านเองคันฯ เหมือนกับท่านกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่ แต่กลับต้องผิดหวังในเวลาต่อมาแน่ๆ (หรือจะเป็นเพราะเรา? สงสัยจะคิดมากไปแฮะ) จากนั้นท่านก็ยกมือออกไปจากหัวของเรา

"จริงสิ" ท่านเองคันฯ เอ่ยขึ้นมา "เพื่อนๆ สาวน้อยเวทมนต์ของเธอกำลังรอเธออยู่... ไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆ กันเถอะ"

หลังจากนั้น เราก็จูงมือกับท่านเองคันฯ แล้วเดินไปจากที่ตรงนี้ มือข้างที่เหลือก็กำลังจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้กลับมาอยู่ทรงสวยเช่นเดิม

จะมีอะไรรอเราอยู่บ้างนะ ตื่นเต้นจริงๆ

to be continue...

บันทึกลับหลังโลกแห่งความตายของซายาคามิ Part 3 [movie 3 spoil alert!][madoXsaya haters alert]

ที่นี่เป็นศูนย์รวมสาวน้อยเวทมนต์หรือไง!? เสื้อสีสันละลานตาไปหมดเลย เราที่ยืนรออยู่ริมลานกว้างได้แต่ตกตะลึงจริงๆ นี่พูดเลย

"สวัสดีจ้า สาวน้อยเวทมนต์ทั้งหลาย" ท่านเองคันฯ ที่ตอนนี้ยืนเด่นอยู่บนเวทีกลางลานกว้างได้ประกาศเสียงใส ทว่าน่าแปลกใจที่มันดังกังวาลไปทั่วทั้งๆ ที่ไม่มีเครื่องขยายเสียง "เมื่อวันก่อน ชั้นไปรับเพื่อนใหม่มาล่ะ และตอนนี้ เธอก็มาอยู่ที่นี่แล้ว เข้ามาเลยจ๊ะ ซายากะจัง"

ห๊ะ รีบไปไม๊คะท่าน? แต่เมื่อเห็นท่่านขยิบตาให้ เราก็ต้องทำใจสู้ แล้วก้าวเท้าเข้าไปหา เพราะสายตาสีทองนั่นแท้ๆ เชียว

เมื่อเราหยุดเดินอยู่ข้างๆ ท่านเองคันฯ ท่านก็ประกาศต่อไป (แต่ฟังไม่ค่อยถนัดนักหรอก... นี่มันต่อหน้าคนเป็นแสนเลยนะ=0= เขินชะมัดเลย)

"เอาล่ะ แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักหน่อย"

"..." เรา (ที่ตอนนี้หน้าแดงไม่ต่างกับแอปเปิ้ลสุก) ได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง วางตัวไม่ถูกแล้ว (ฟร๊อย!) จนท่านเองคันฯ เอาศอกกระทุ้งสีข้างเบาๆ นั่นแหละ-*- ค่ะๆ พูดก็พูดค่ะ

"เอ่อ... ย... ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ... มิกิ ซายากะค่ะ... เป็นตัวแทนคนนึงของเมืองมิตากิฮาระ ประเทศญี่ปุ่น... นับจากนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"

ผ่านไปแบบติดๆ ขัดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เราเปิดตัวกับมหาชนเลยนะ-*- แถมดูๆ แล้วมันเป็นมหาชนนานาชาติด้วยซ้ำ (ก็ชุดมางคนมาสไตล์ตะวันออกกลางเลยนี่นา ยังกับคลีโอพัตราที่หลุดมาจากหนังสือภาพประวัติศาสตร์กันเลย ณ จุดๆ นี้)

แต่ฟังสิ ผลตอบรับเกินความคาดหมาย ทุกคนปรบมือกันเกลียว บางคนแถมด้วยการผิวปากอีกด้วย

เอาเข้าจริง สาวๆ พวกนี้ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายนักหรอก บางทีเราอาจจะได้เพื่อนใหม่ที่นี่สักคน 2 คนก็ได้นะ

จะเว้นก็แต่...

"เย้ๆ ซายะตันบันซายยย... ย/ซายากะบอมบาเย่~ ซายากะบอมบาเย่~/มาเป็นภรรเมียชั้นเถอะ ซายะตัน"

โอตาคุชัดเจน-*- ขอถามจริงเถอะ อีพวกนี้จริงๆ แปลงเพศมาสินะ? แถมหลอกคิวเบตาถั่วมาทำพันธสัญญาได้ด้วย (ขยะแขยงT^T )(@- ขำแปบ)

"เอ่อ อ่า..." ดูสิ ขนาดท่านเองคันฯ ยังอ้ำอึ้ง พูดไม่ออกเลย-*-

"ถ้าอย่างงั้น... ชั้นเองก็... (งื๊อ พูดไม่ออกอ่า) ยังไง... ก็ช่วยเป็นเพื่อนที่ดีกับซายากะจังเค้าด้วยนะจ๊ะ"

"นี่ๆ โชว์ร่างแม่มดให้ดูหน่อยค่ะ ซายากะเน่ซัง" เอ๊ะ อะไรนะ ร่างแม่มด?

"ของแบบนั้นจะไปทำได้ไงเล่า?" เรายิงคำถามกลับไป "ว่าแต่ เธอชื่อ?"

"โมโมเอะ นางิสะค่ะ หนูมาจากมิตากิฮาระเหมือนเน่ซังนั่นแหละค่ะ" เด็กสาวที่ขออะไรแปลกๆ แนะนำตัว "ถ้าเน่ซังเรียกแม่มดไม่เป็น ลองนึกถึงแม่มดดู แล้วใช้เลือดตัวเองเป็นสื่อ ลองดูนะคะ แม่มดของเน่ซังต้องตื่นขึ้นมาแน่ค่ะ"

...

"ตกลง" หลังจากคิดไตร่ตรองอยู่นาน เราก็ตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้หัวตื้อไปหมดแล้ว "พี่จะลองดูแล้วกัน"

หลังจากนั้น ลานกว้างก็เงียบกริบ... อาจจะเป็นเพราะแรงกดดันหรือความตื่นเต้นก็ได้ ตอนนี้เรารู้สึกว่าผีเสื้อยักษ์ในท้องกำลังกระพือปีกอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ นึกถึงแม่มด... ใช้เลือด... งั้นเหรอ? เราเองก็มีแม่มดสินะ

เราหลับตาลงตั้งจิตอยู่นาน ก่อนที่จะยกดาบประจำตัวมากรีดเข้าที่ต้นแขนซ้าย โลหิตสีแดงสดไหลซึมออกมา แล้วบริเวณรอบๆ ตัวก็เกิดลมหมุนค่อนข้างเร็วราวกับร่ายเวท สังเกตจากใบไม้แห้งถูกพัดตีขึ้นมากลางอากาศเสียเฉยๆ เอาละกัน

ในชั่วอึดใจก็เกิดสัญลักษณ์บางอย่าง หน้าตาคล้ายๆ ประตูกลสีดำขนาดใหญ่ พอประตูเปิดอ้าออกก็เห็นนางเงือกยักษ์สวมชุดเกราะปรากฏแทนที่ประตูกล จากนั้น นางเงือกยักษ์ก็หันมาทางเราที่แขนมีเลือดซิบอยู่ (และเราก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบตามมาอีกเพียบ)

"ท่านสินะที่อันเชิญข้ามา องค์หญิง" นางเงือกพูดก่อนจะโน้มตัวลงมา (พูดได้ด้วย?) "นามของข้าคือ "อ็อกเตเวีย วอน ชิเกลนดอล์ฟ" เป็นแม่มดนางเงือกผู้โหยหาความรัก นับจากนี้ ท่านก็ใช้ชื่อของข้าเรียกข้าแทนโลหิตของท่านเองได้ตามประสงค์เจ้าค่ะ"

"นั่นน่ะเหรอ แม่มดของเน่ซัง" นางิสะเอ่ยถามขึ้นมา "เท่จังเลยค่ะ"

"ขอบใจจ๊ะ นางิสะ" เราหันไปตอบเด็กน้อยพร้อมกับเหงื่อเม็ดเป้งข้างหางตา ก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้แม่มดเงือกที่ก้มลงมามองอยู่ "เราเองก็ยินดีที่ได้เจอเธอนะ อ็อกเตเวีย เราชื่อ มิกิ ซายากะ นับจากนี้ก็ขอรบกวนด้วยนะ"

"ข้าเองก็เช่นกันเจ้าค่ะ "ซายากะซามะ" ..."

"ซ... ซายากะก็พอจ๊ะ- - "

"แต่ข้าเปรียบเพียงอัศวินผู้น้อยของท่านเท่านั้น..."

"เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ แม่คุณ-*- "

"คือ... แค่พอหอมปากหอมคอแล้วกันนะ ซายากะจัง" ท่านเองคันฯ เอ่ยขึ้นเพื่อปิดบทสนทนาระหว่างสาวน้อยเวทมนต์กับแม่มดลง "ไว้ไปคุยกันนอกรอบแล้วกันนะจ๊ะ เอาล่ะ ชั้นขอตัวไปสอดส่องดูแลสาวน้อยเวทมนต์บนโลกก่อนนะ เจอกันนะจ๊ะทุกคน" หลังจากนั้นท่านก็เดินไปจากเวที และหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ โดยที่ทุกคนได้แต่มองตามเท่านั้น

แต่พอก้าวเท้าลงจากเวทีเท่านั้นแหละ เหล่าสาวน้อยเวทมนต์ (รวมทั้งจำพวกโอตาคุด้วย) ก็วิ่งมารุมล้อมเราทั้ง 8 ด้านทันที ส่วนอ็อกเตเวียนั้น ได้แต้ยืนมองบนครีบหางตัวเองอย่างห่วงๆ ก่อนตัดสินใจโฉบมารับเราจากบนฟ้าแล้วว่ายอากาศหนีไปก่อนที่เจ้านายตนจะเป็นลมกลางฝูงชน (อ่านะ)

...

หลังจากนั้นหลายวันเข้า เราได้อาศัยอยู่ในห้องแถวเล็กๆ ห้องหนึ่งในโลกแห่งนั้น ห้องนี้มันอยู่บนตึกสูงทีเดียวล่ะ

นานๆ ทีเราถึงจะได้เรียกอ็อกเตเวียออกมาคุยนิดๆ หน่อยๆ (เพราะมันดันติดอินดี้ มามั่งไม่มามั่ง เฮ้อ) ได้ความว่าเขาขอโทษที่เคยทำร้ายเด็กผู้หญิงอยู่จำนวนหนึ่งด้วยรู้ทั้งรู้ว่าสาวๆ พวกนั้นเป็นเพื่อนของเรา แถมหนึ่งในนั้นดันมีคนที่ไว้ผมทรงทวินเทลสีชมพูด้วย แต่ที่ทำไปนั่นมันว่าด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดเท่านั้น

แล้วมาวันหนึ่ง นางิสะก็มาหาถึงห้อง

"เน่ซังคะ ท่านเองคันฯ ฝากจดหมายมาให้ค่ะ" หืม จดหมายเหรอ? ใช้วิธีดั้งเดิมจัง "บอกว่าเป็นเรื่องด่วนด้วยล่ะค่ะ ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ"

จากนั้นเราก็รับจดหมายมา ก่อนจะลูบแก้มสาวน้อยแทนคำขอบคุณ

"อย่าไปเล่าให้ใครฟังเชียวนะ ว่าพี่อยู่ที่นี่" สุดท้ายก็บอกไปแบบเขินนิดๆ "ก็คนพวกนั้นน่ะน่ากลัว พี่ไม่อยากเจอ"

นั่นเป็นเหตุผลหลักๆ เลยที่เราเช่าห้องนี้อยู่

"ค่ะ หนูจะเก็บเรื่องเน่ซังไว้เป็นความลับค่ะ" เด็กสาวรับคำ ก่อนจะเดินจากไป

เราคลี่จดหมายขึ้นมาอ่าน ลายมือของท่านเองคันฯ เรียบร้อยดีจังนะ

"ถึง ซายากะจัง

ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่ไม่ได้มาบอกด้วยตัวเอง เพราะชั้นอยากให้เป็นความลับของเรา 2 คนเท่านั้น

คืนพรุ่งนี้มาหาชั้นที่ "สวนสีเงิน" ด้วยนะจ๊ะ แผนที่อยู่ด้านหลังจ๊ะ

จาก เองคันโนะ โคะโตวาริ"

สวนสีเงิน? มันจะเป็นที่แบบไหนกันนะ? แล้วทำไมท่านถึงอยากเจอเรา?

สงสัยคงต้องไปด้วยตัวเองแล้วล่ะ

to be continue...

Link to comment
Share on other sites

เป็นเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์หลังจากที่ตายไปแล้วสินะ น่าติดตามดีครับ :hito01:

Link to comment
Share on other sites

ซายาคามิ- ชั้นลงไป 3 ตอนละเพ่งจะมาคอมเมนต์คนเดียว ฮว๊ากกก... ก

[me=Madame Graya]รั้งซายาคามิไ้ว้[/me]

กราย่า- ใจเย็นๆ สิ :pika11:

Link to comment
Share on other sites

คิวเบย์ต้องใช้เครื่องสแกนเพศซะแล้ว(นับวันการแยกเพศดูได้ยาก)

อะ....เดียวนะ :pika08: งันสาวน้อยเวทย์มนต์บางคนก็เป็นกับดักนะซิ!

//สะพรึง

(ป.ล. เข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆนะครับแต่ไม่รู้จะคอมเมน์อะไร )

Link to comment
Share on other sites

บันทึกลับหลังโลกแห่งความตายของซายาคามิ Part 4 [movie 3 spoil alert!][madoXsaya haters alert]

ซายาคามิ- แล้วก็มาถึงตอนจบจนได้สินะ (เดี๋ยวนะ เดี๋ยวๆ) หวังว่าทุกคนจะเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ข้างตัวนะ เพราะตอนนี้แต่งเอาซึ้ง

ผ่านไปอีก 1 วันเงียบๆ เนือยๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราหยิบจดหมายกับแผนที่มาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนอ็อกเตเวีย? ช่างแม่นั่นเถอะ ปล่อยให้อินดี้ไป (สงสัยต้องจ่ายด้วยเลือดเพื่อเรียกจริงๆ น่ะแหละ)-*-

ตอนนี้เย็นละ และเราจำรายละเอียดทุกตัวอักษรได้หมดแล้ว คืนนี้จะได้ไปสวนแห่งนั้นได้โดยไม่หลงทาง อีกในไม่กี่อึดใจเราจะออกเดินทางไปหาท่านเองคันฯ ละ เก็บข้าวเก็บของให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า

...

เป็นสวนที่สวยเหลือเกินนะ มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับ "สีเงิน" สมชื่อสวน ปลูกเรียงรายอยู่ทั้ง 2 ข้างทางที่ทอดยาวออกไปสุดสายตา เรามองซ้าย-ขวาอย่างเพลินตาในขณะที่สาวเท้าเข้าไปในสวนลึกขึ้นเรื่อยๆ...

จนสุดท้ายก็มาถึงศาลาสีเงินหลังเล็กที่ท่านเองคันฯ นั่งรออยู่ข้างใน ท่านช่างงดงามเหลือเกิน อีกทั้งสีเงินทั้งหลายยังช่วยสะท้อนให้ท่านดูเปล่งประกายยิ่งกว่าที่เคยอีกด้วย

"อะ กำลังรออยู่เลย" เมื่อท่านมองมาทางเรา ท่านก็ร้องทักมาและลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง "เข้ามาก่อนสิจ๊ะ ซายากะจัง"

เมื่อท่านเชิ้อเชิญ เราจึงตัดสินใจก้าวเท้าขึ้นไปบนศาลา ทำความเคารพท่าน แล้วนั่งลงพร้อมกับท่าน โดยเลือกที่นั่งฝั่งตรงข้ามกัน

"ท่านต้องการให้หม่อมชั้นมาพบกับท่านที่นี่สินะคะ" เมื่อนั่งลงไป เราตัดสินใจเปิดประเด็นทันที "ท่านต้องการพูดเรื่องใดกับหม่อมชั้นคะ"

"อืม ชั้นอยากคุยเรื่องเกี่ยวกับเธอหน่อยน่ะจ๊ะ" ท่านเองคันฯ กล่าว "ช่วยเล่าให้ชั้นฟังหน่อยจ๊ะ ซายากะจัง"

...

เราตัดสินใจเล่าทุกๆ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนตาย ทั้งพันธสัญญาที่ทำกับคิวเบ ซึ่งโยงไปหาคามิโจว์ เคียวสุเกะ เพื่อนสนิทคนหนึ่งซึ่งประสบอุบัติเหตุกลายเป็นอัมพาตที่แขน เหตุการณ์ตอนที่ซาสึกิ ฮิโตมิ เพื่อนสนิทอีกคนที่ตัดสินใจสารภาพรักกับเคียวสุเกะ (มันเป็นจุดพลิกผันของชีวิตเราที่ทำให้โซลเจมสะสมมลทินแห่งความสิ้นหวังมากขึ้นๆ จนในที่สุดก็พังลง) รวมทั้ง ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับสาวน้อยเวทมนต์ซากุระ เคียวโกะ เพื่อนใหม่ที่ทะเลาะกันแทบทุกวัน อีกด้วย

แต่พอมองดีๆ เราว่าเราเห็นหยาดน้ำตาสะท้อนแสงสีเงินบนหน้ามนของท่านเองคันฯ (?) ด้วย นี่เราพูดอะไรผิดไปหรือ?

"กะแล้วเชียว ชีวิตของเธอผ่านมรสุมมาเยอะจริงๆ ด้วย" ท่านพูดในขณะที่ยกมือมาปาดน้ำตาออกไป "แต่คาดไม่ถึงว่าเธอจะศูนย์ความทรงจำที่สำคัญมากไป... ใช่ สำคัญมากๆ ด้วย"

"ความทรงจำ?"

"ไม่นึกว่าเธอจะลืมเพื่อนรักที่สุดอย่างชั้นไปได้นะ ซายากะจัง" หลังจากนั้นท่านก็หันหลังกลับไป ส่วนเราน่ะเหรอ ก็ยังนั่งงงกับที่ท่านพูดอยู่น่ะสิ-*-

ฉับพลันร่างทั้งร่างของท่านเกิดแสงสีทองสว่างขึ้น ผมของท่านสั้นลงไปเท่ากับของเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเรา ริบบิ้นก็เปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีชมพูเข้มและบางลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนชุดก็เปลี่ยนไป กลายเป็นชุดนักเรียน โรงเรียนเดียวกับเรา!

พอท่าน... หมายถึง เธอคนนั้น... หันกลับมา ดวงตาคู่นั้นไม่ใช่สีทองอีกต่อไป พวกมันกลายเป็นสีชมพูเข้มเข้าคู่กับสีริบบิ้นที่เรารู้จักมันดี ราวกับความทรงจำที่หายไปมันหวนกลับมาอีกครั้ง ความทรงจำเกี่ยวกับเพื่อนรักผมทรงทวินเทลสีชมพูคนนั้นหลั่งไหลมาราวกับธารสายน้ำ ในขณะที่น้ำตาแห่งความปิติของเราหลั่งริน และอาบลงข้างแก้ม...

<BGM อันนี้ต้องเปิดฟังเพื่อความอิน

เปรียบดังสิ่งที่จิตใต้สำนึกโหยหามาตลอดชีวิตก็ว่าได้T^T

เด็กสาวคนนี้

เรารู้จักมาตลอด

เพราะเธออยู่ข้างกายเราอยู่เสมอ ทั้งยามดีใจ และโศกเศร้า

แต่กลับลืมเลือนไปได้ยังไงกัน

ใช่แล้ว เธอต้องเป็น "คานาเมะ มาโดกะ" ไม่ผิดตัวแน่

"ม... มา... มาโดกะT[]T" เรายิ่งสะอื้นหนักขึ้นทุกที เธอผู้อยู่ในความทรงจำอันงดงามอยู่ตรงหน้าเราแล้ว

ในจังหวะนั้น เราตัดสินใจผลักโต๊ะที่ขวางอยู่ตรงหน้าเพื่อโผเข้ากอดมาโดกะ

โต๊ะกระเด็นออกไปจากศาลา เด็กสาว 2 คนกำลังกอดกัน ร้องไห้ใส่กันด้วยความคิดถึง หลังจากต้องพรากจากกันไกลชนิดคนละมิติจักรวาล

"ใช่เธอจริงๆ ด้วย มาโดกะT[]T" เราละทิ้งคำสุภาพไปจนสิ้น เหลือไว้แต่ความคุ้นเคยในวันวาน และยิ่งกอดสาวน้อยร่างบางแน่นขึ้นไปอีก ดวงตาเริ่มแดงก่ำ "ชั้นจำเธอได้แล้วล่ะ คิดถึงเธอมากจนแทบบ้าเลยนะ"

"ซายากะจังTvT" ตอนนี้มาโดกะคงสภาพไม่ต่างจากเราเท่าไหร่ (คิดว่านะ) เธอยกแขนอันบอบบางขึ้นมากอดตอบเรา "ชั้นก็คิดถึงเธอจ๊ะ ดีใจที่ในที่สุดเธอก็จำชั้นได้"

...

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ในที่สุด พวกเราก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พวกเรามีความสุขที่สุดเลย นอกจากกันและกันแล้ว พวกเราไม่ต้องการอะไรอีกเลย

...

จนเช้า พวกเราก็ยังอยู่ในศาลาหลังเดิม ต่างคนต่างร้องไห้จนหมดแรงผลอยหลับไป เราตื่นขึ้นมาก่อน และเห็นสาวน้อยข้างกายในร่างของเองคันโนะ โคะโตวาริ ซึ่งกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข

แต่ถึงยังไงเธอก็ยังเป็นมาโดกะอยู่เหมือนเดิมนั่นล่ะ

มาโดกะผู้เป็นที่รักของพวกเรายังไงล่ะ

series end(?)

ซายาคามิ- แม่ของกราย่าประกาศ "ห้ามเล่นคอมจนกว่าจะปิดเทอม" คงหาโอกาสมาแต่งต่อยากขึ้นแล้วล่ะ

Link to comment
Share on other sites

เอ่อ... จบเร็วมาก... จบแบบตั้งตัวแทบไม่ทัน...

แต่ก็สนุกดีครับ

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.