Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

เรื่องสั้น คนอินเกม โดย mickeygame


mickeygame

Recommended Posts

คนอินเกม

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากครับ เป็นแค่ประสบการณ์การเล่นเกมส์ของผมซึ่งในแต่ละเกมส์ แต่ละรอบมักจะมีความประทับใจต่างๆกันไปเพราะผมเองก็ไม่ใช่คนเล่นเก่งมากอะไร ฉะนั้นในแต่ละเกมส์ที่มีประสบการณ์แปลกๆ ผมจึงได้นำมาแต่งเป็นเรื่องสั้น โดยแบ่งออกเป็นหลายๆตอน มาลงในบอร์ดครับ

ผมพึ่งเริ่มแต่งได้ไม่นาน ถ้าขาดตกบกพร่องอะไร สามารถติชมได้ในคอมเมนท์ครับ

ลงชื่อ mickeygame

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 1 All glory towards the Empire of Rising Sun.

ผมจำไม่ได้เลยว่าก่อนหน้าผมทำอะไรลงไป ตอนนี้ทุกอย่างดำมืดไปหมดสำหรับ

สิ่งที่ผมได้ยินไม่มีอะไรมากได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เสียงใบพัดที่กำลังคำรามอยู่

เสียงเหล่านั้นราวกับว่าผมได้นั่งอยู่ในเครื่องบิน

มันไม่ใช่แค่เสียงเครื่องยนต์ธรรมดา แต่เสียงเหล่านั้นมันดังกึกก้องเกินไป และดูคุ้นเคยเกินไป

นอกจากนี้ยังมีอีกเสียงหนึ่งตะโกนออกมา

"กัปตัน! กัปตัน!"

ผมพยายามลืมตาตื่นขึ้น

เปลือกตาอันหนักอึ้งจึงค่อยๆเปิดออก

แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้นสว่างจ้าผมแทบต้องยกมือขึ้นมาบังตา

มันดวงอาทิตย์ ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม ที่ผมมองผ่านใบพัดหน้าออกไป

ด้านหน้าผมเป็นหน้าปัดบอกสถานะต่างๆของเครื่องบิน เมื่อผมมองออกไปด้านข้าง ผมเห็นปีกสีขาวของเครื่องบิน

ซึ่งมีดวงอาทิตย์สีแดงประดับไว้ มองดูที่ตัวผม ผมสำรวจตนเอง ผมนั่งในเครื่องเพียงคนเดียว

กับผ้าพันคอ และแว่นกันลม ผมยังไม่รู้สึกตัวแต่พอเดาได้ว่าผมอยู่ในเครื่องบินรบของ ญี่ปุ่น

ผมจึงมองหาวิทยุ แล้วจึงตอบกลับไป "เกิดอะไรขึ้น"

"โธ่ กัปตัน ผมติดต่อคุณไม่ได้ตั้งนาน ผมนึกว่าคุณโดนยิงตกไปแล้ว" แม้ว่าเสียงตอบรับจะฟังดูเบาใจ แต่ผมก็พอเดาได้ว่า ผมอยู่ในสนามรบอะไรสักอย่าง

จากนั้นเสียงวิทยุก็ดังขึ้นอีกครั้ง "กัปตัน ฟังผมนะ ตอนนี้มีเครื่องทิ้งระเบิดข้าศึกพยายามโจมตี หน่วยขนส่งภาคพื้นดินของเรา ช่วยคุ้มกันด้วย"

แม้ผมจะยังไม่เรื่องราวดีนัก แต่ตอนนี้คงทำได้แค่เออออไปก่อน "รับทราบ ขอตำแหน่งด้วย"

"6 นาฬิกา ความสูง 1400 ฟุต 4 กิโลเมตรตอนเหนือจากฐาน"

ผมจึงคุมเครื่องบินเพื่อหักเลี้ยวไปด้านหลังและพยายามดึงหัวลงเพื่อเพิ่มความเร็ว  แต่น่าแปลกที่ผมสามารถควบคุมได้ ทังที่ไม่เคยควบคุมมาก่อน

เบื้องล่างผมเป็นเทือกเขาสลับ ซับซ้อนจากการผมพิจารณาแล้วคาดว่าน่าจะเป็นตอนเหนือของจีน

นอกจากนี้ผมยังสังเกตเครื่องค่อนข้างหน่วงเวลาหักเลี้ยว ประกอบใต้เครื่องยังมีทุ่นสำหรับลงจอดบนผิวน้ำแบบเครื่องบินน้ำ รวมกับสภาพเครื่องโดยรอบแล้ว ผมจึงพอเดาได้ว่า ผมกำลังขับ Mitsubishi A6M2 อยู่

ผมพยายามเร่งเครื่อง แล้วมุ่งหน้ากลับไปบริเวณเหนือฐานทัพ ผมเห็นเครื่องทิ้งระเบิดของสหรัฐอยู่ไกลๆ

ข้าศึกใช้เครื่อง PBY Catalina เครื่องบินน้ำขนาดใหญ่ บรรทุกระเบิดได้มาก แต่เคลื่อนตัว แต่ความน่ากลัวอยู่ที่มีป้อมปืนพร้อมยิงต่อต้านอากาศยานถึง 4 กระบอก

ผมจึงได้กดหัวเครื่องลงให้ต่ำกว่าความสูงของเครื่องข้าศึก เพราะป้อมปืนเหล่านั้นไม่สามารถยิงลงต่ำได้ ผมพยายามเร่งเครื่องตามความเร็วของ Catalina ให้ทัน แล้วจึงเชิดหัวขึ้น เล็งปืนไปยังปีกซ้ายข้าศึก

ผมยิงปืนกลออกไปราวเป็นสัญชาติญาณทั้งที่ผมไม่เคยเครื่องบินรบมาก่อน

กระสุนปืน 7.7 และ 20 mm. จำนวนมากพุ่งออกจากปืนกลที่ติดอยู่บนเครื่องบิน พุ่งเข้าปีกซ้ายอย่างแม่นยำ จนเครื่องข้าศึกต้องกดหัวลงเพื่อให้ผมอยู่ในแนวยิงของมัน

ผมจึงเร่งเครื่องเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพื่อหลบแนวยิง แต่กระสุนจากป้อมปืนทั้ง 4 เริ่มกราดมาแล้ว

ผมพยายามไต่ระดับให้ได้อยู่เหนือเครื่องศัตรู กระสุนบางนัดยิงเข้าใต้ท้อง แต่ความเสียหายยังไม่มีให้เห็นมากนัก

ผมจึงกดหัวลงอีกครั้งเพื่อดิ่งเข้ามาเครื่องศัตรู กราดยิงไปยังปีกซ้ายศัตรู จนปีกซ้ายฉีกขาดออกและ เสียการควบคุมและตกลงสู่เบื้อล่าง

ผมจึงเบาใจ แต่ยังไม่ทันที่จะตั้งตัวอะไร วิทยุก็ตอบกลับมาอีกครั้ง

"กัปตัน ข้าศึกที่ 4 นาฬิกา"

ผมชะโงกหน้ามองข้ามไหล่ซ้ายไปเห็นเครื่อง F4U corsair บินไล่หลังมา ถึงแม้เครื่องข้าศึกจะไม่ใช่เครื่องต่อต้านอากาศยาน แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะหลบการโจมตีจากด้านหลัง

ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดี กระสุนจากเครื่อง corsair ก็เฉี่ยวปีกซ้ายไปเพียงนิดเดียว ผมจึงเร่งความเร็วและพยายามหักซ้ายเต็มที่

เครื่องข้าศึกเป็นเครื่องขับไล่กึ่งทิ้งระเบิด จึงไม่ยากเลยที่ยังคงตามท้ายผมได้เรื่อยๆ ผมจึงเร่งความเร็วและพยายามบินเลียบขอบเขา เครื่องข้าศึกยังคงตามอย่างไม่ลดละ ปืนกลยังคงกราดมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ผมพยายามบินเลียบเขาแล้วหักเข้าซอกเขาจากนั้นจึงเร่งเครื่องเต็มที่เพื่อไต่ให้พ้นยอดเขา เครื่องข้าศึก หักตามแต่ไม่สามารถเชิดหน้าขึ้นตามได้บินวนหลบเขาด้านหน้าไป

ผมจึงเร่งเครื่อง แล้วค่อยๆตีลังกา กลับลงมาแล้วยิงเครื่องข้าศึกจากด้านบน กระสุนปืนจำนวนมากเจาะเข้าบริเวณที่นั่งคนขับ

จากนั้นเครื่องข้าศึกจึงเริ่มเสียการทรงตัวและตกลงผมจึงเดาได้ว่า คนขับของเครื่องข้าศึกได้ตายไปแล้ว

แต่ผมประมาทเกินไป พลปืนกลหลังของเครื่องศัตรูยังคงรอดชีวิตอยู่ ยิงกราดกลับมาชุดหนึ่ง ผมจึงค่อยเบี่ยงตัวออก

ผมไม่พบความเสียหายมากนัก นอกจากเกจน้ำมันที่ลดลงเร็วกว่าปกติจึงพอเดาได้ว่าถังน้ำมันนั้นรั่ว

แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร วิทยุก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

"กัปตัน กองทัพภาคพื้นดินเราปลอดภัยแล้ว แต่.... ข้าศึก..... ทำลายเครื่องบินจู่โจมภาคพื้นดินไปจำนวนมาก เหลือเพียงลำเดียว เสียหายหนัก กำลังบินกลับไปซ่อมบำรุง แต่.... ทหารราบข้าศึก เหลือเพียงสามหน่วย ถ้าทำลายได้ หน่วยทัพอากาศหลักจะเข้ามาสนับสนุนต่อ"

ผมกำวิทยุอย่างใจสั่น แล้วจึงถามข้อมูลเพิ่มเติม "จำนวนอากาศยานข้าศึกล่ะ"

"เครื่องขับไล่.... 4 ลำ"

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่เครื่องจู่โจมภาคพื้นดินเสียหายหนักเพียงลำเดียวคงทำอะไรศัตรูไม่ได้ ท่ามกลางเครื่องขับไล่ข้าศึกจำนวน 4 ลำ

แต่ปืนกล 20 mm. ของเครื่องผม น่าจะทำอะไรได้บ้าง ผมจึงเร่งเครื่อง ห่างออกไปจากสนามบิน พลางมองกลับไปยังสนามบิน ที่ผมอาจไม่ได้กลับมาลงจอดอีก

ผมเร่งเครื่องเต็มที่ โดยไม่กลัวน้ำมันที่คงเหลืออยู่ไม่มาก และไต่ไปตามขอบเขา บินเลียบยอดไม้ มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายภาคพื้นดิน

จนผมสังเกตเห็นรถคนพลสองคัน และรถต่อต้านอากาศยานหนึ่งลำ ผมจึงเชิดหัว แล้วกดหัวลงเล็กน้อย เริ่มทำการโจมตีข้าศึก ปืนกลชุดแรก ทำลายรถขนพลคันหน้าสุดได้อย่างไม่ยากเย็น

เครื่องข้าศึกซึ่งตอนแรกไม่ได้สังเกตเห็นผมเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากโจมตีเครื่องของพวกผม มาเป็นเครื่องของผมแทน ผมพยายามตีวงเลี้ยว แต่ศัตรูจำนวน สองลำก็เริ่มยิงกราดมาที่เครื่องผม เคราะห์ดีที่ข้าศึกมีความแม่นยำต่ำ ยิงผมแทบไม่โดน จนผมตีวงเสร็จแล้วจึงเริ่มจู่โจมภาคพื้นดินอีกรอบ รถขนพลอีกคันถูกทำลายไป ข้าศึกอีกสองลำที่เหลือเริ่มหันเข้ามาจู่โจมผม ผมพยายามส่ายหนี โดยเพิ่มความเร็ว และระดับความสูง แต่มันกลับไม่เป็นผล เลยเมื่อเผชิญกับเครื่องขับไล่ ผมจึงตัดสินใจหันเครื่องดิ่งลงเป้าหมายสุดท้าย พุ่งเข้ารถต่อต้านอากาศยาน... เป้าหมายสุดท้าย

เครื่องข้าศึกทุกลำยิงมาที่ผม กระสุนจำนวนมากพุ่งเข้าเครื่องผมแทบทุกด้าน ผมพยายามยิงปืนกล แต่กระสุนที่เหลืออยู่น้อยนิด กลับหมดก่อนที่ข้าศึกจะถูกทำลาย ผมจึงไม่มีทางเลือกนอกจาก เร่งความเร็ว ด้วยน้ำมันหยดสุดท้าย เพื่อให้เครื่องตนเองเป็นลูกระเบิดทำลายเป้าหมายภาคพื้นดินสุดท้าย แล้วค่อยดีดตัวออกจากเครื่องก่อนการชน

ระยะ 200 เมตร สุดท้ายช่างไกลยิ่งนัก กระสุนจำนวนมากยังคงพุ่งทะลุตัวเครื่องบิน ปีกซ้าย ขวาผม แทบทนไม่ไหว

ผมมองไปยังท้ายเครื่อง พบว่าตัวเบี่ยงความสูง(rudder) เสียหายหนัก หากดีดตัวออก คงไม่โดนเป้าหมายเป็นแน่แท้

ผมพุ่งดิ่งเข้าสู่เป้าหมายสุดท้าย แม้ผมยังไม่แน่ชัดว่าผมทำอะไรอยู่ แต่ผมคงไม่รอดเป็นแน่แท้ ผมมองไปยังเป้าหมาย ปืนกลต่อต้านอากาศยานยิงมาที่ผมอย่างไม่ลดละ ผมก็เช่นกัน ปีกซ้ายผมหลุดออกไป เครื่องเสียการทรงตัว เป็นไม่ได้ สำหรับการดีดตัว แต่ผมยังคงเร่งความเร็วเข้าสู่เป้าหมาย

เครื่องบินผมกระแทกเป้าหมายอย่างแรง จนเกิดเป็นลูกไฟ ซึ่งทลายเป้าหมาย และสติสัมปชัญญะของผมก็ได้กลับสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง

Game : War thunder

Result : Win (เป้าหมายภาคพื้นดินศัตรูถูกทำลายทั้งหมด)

Date of game : มิถุนายน 2556

Link to comment
Share on other sites

สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า จิตใต้สำนึก หรือ ไม่ก็จิตนาการ

จิตนาการ นิยามของมันมีเยอะแต่ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้เยอะสุดคือ

จิตนาการเกิดจาก ประสปการณ์,ความรู้สึก

ปูเสือรอชมต่อไปนะครับ

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 2 An eye for an eye

ผมไม่รู้ว่าผมหลับไปนานเท่าไร ครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้ คือเมื่อเครื่องบินกระแทกเข้ากับ รถปืนต่อต้านอากาศยาน แต่ผมเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เหมือนเดิม หัวผมปวดแทบจะระเบิด

สิ่งที่รู้สึกครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง ทั้งกลิ่นดินปืน กลิ่นเหล็ก กลิ่นน้ำมันเครื่อง

ผมรู้สึกเหมือนผมนั่งอัดอยู่ในกล่องเหล็กแคบๆที่เต็มไปด้วยกระสุนและดินปืน

ผมถึงกับสะดุ้ง และตื่นโดยนัยน์ตาเบิกกว้าง หลังจากได้ยินเสียงหนึ่งดังกึกก้องขึ้น

มันคือเสียงของเครื่องยนต์

"ฝันร้ายเหรอผู้กอง" อีกคนที่นั่งอยู่ระดับเกือบแทบเท้าของผมพูดขึ้นมา

ผมสำรวจตัวเองไปรอบๆ นอกจากผมเองก็มีคนถึง 4 คนอยู่กล่องใบเล็กๆนี้ ผมถึงเริ่มเดาออก ผมมองหาสิ่งที่ดูเหมือนฝากลมๆ ของกล่องเหล็กใบนี้ แล้วผมจึงเปิดออกไป

อากาศภายนอก เย็นสบาย ลมพัดแรงระดับหนึ่ง ภายรอบมองไปผมเห็นรถถังอีกหลายคันจอดอยู่

และเช่นกัน ผมก็อยู่ในรถถัง ที่มีชื่อว่า Cromwell

"ผู้กอง อีก หนึ่งนาที เราจะเริ่มการโจมตีแล้วนะ" คนที่นั่งอยู่บริเวณวิทยุตะโกนออกมา

ผมยังคงอยู่ที่ช่องผู้การรถถัง หรือฝาของรถถัง มองสภาพเมืองเสียหายปานกลาง และมีแนวหินต่อต้านรถถังอยู่ทางตะวันออก ผมพอเดาออกว่าที่นี่คือที่ไหน แต่มันไม่น่าเป็นไปได้

"เตรียมกระสุนเจาะเกราะ เราจะทำการรบระยะใกล้กัน" ผมกล่าวออกไป แล้วจึงมองลงไปในรถถังเห็นพลกระสุน และพลปืนขยับกันอย่างกระฉับกระเฉง

"เราจะจู่โจมไปทางตะวันตกแล้ว ดักการโจมตีจากแนวรบ E1" หลังผมกล่าวข้อมูลเพิ่มเติม พลวิทยุถึงกับชะงักแล้วจึงหันมาถามผม

"ผู้กอง ถ้าแนวหลังไม่ได้ตามเราไป มันฆ่าตัวตาย ชัดๆเลยนะ แถมกว่าจะถึงจุดนั้นมันที่โล่งแจ้งเลยด้วย"

"เอาน่า เสี่ยงหน่อยเป็นอะไรไป พอเราข้ามลานแล้วก็หลบอยู่หลังแนวตึกแถวไง ไม่เป็นปัญหาหรอกน่า" ผมตอบแนวให้กำลังใจ

แต่ใจหนึ่งผมยังสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม กับเครื่องบินเมื่อกี้นี้ หรือ มันเกิดอะไรขึ้นทั้งหมดกันแน่

"พลขับ รอฮิตเลอร์ตัดริบบิ้นเรอะ" สิ้นเสียงของผม ผมเกือบปลิวจากช่องผู้การ เพราะกำลังเครื่องของรถถัง

Cromwell เป็นรถถังกลางซึ่งมีความสามารถในการเคลื่อนที่ และอัตรายิงสูง แต่มีข้อเสียคือเกราะที่มีเหมือนไม่มี และขนาดปืนที่เล็กและความเสียหายได้น้อย

พลขับเริ่มขับไปกลางเมืองแล้วจึงเลี้ยวซ้าย ผมปิดฝาช่องผู้การ และมองจากช่องมองภายในรถถัง

พลางมองไปที่หน้าปัดความเร็วซึ่งรถถังคันนี้สามารถเร่งได้สูงถึง 60 กม. ต่อชั่วโมง

รถถังไปตามถนนขรุขระมุ่งหน้าไปยังจุดที่พลวิทยุกล่าวไว้ ก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าที่โล่ง ผมก็สังเกตรถถังข้าศึกวิ่งตัดหน้าอยู่ที่ระยะกลาง เห็นได้ชัดว่าขับมาเพื่อสอดแนมโดยเฉพาะ

"พลปืน เป้าหมายรถถังข้าศึก 12 นาฬิกา เคลื่อนที่เร็ว ยิงเมื่อพร้อม" ผมพูดออกไป พลางนึกถึงบทพูดเท่ๆที่เคยเห็นตามหนังสงคราม

"ยิง!" สิ้นเสียงผมพลปืนยิงปืนออกไป กระสุนรถถังพุ่งมั่วซั่วโดนนกอะไรสักอย่างที่บินอยู่ไกลๆ เพราะเป็นการยิงระหว่างเคลื่อนที่ ทำให้เป้าหมายเลี้ยวเข้ามุมอับ แต่เคราะห์ที่ฝั่งผมได้ทำลายมันทิ้งได้ ทำให้ข้าศึกไม่ได้ข้อมูลฝั่งผมไปมากนัก

จากนั้นผมจึงเริ่มสั่งการ ต่อ "เลี้ยวตัดผ่านลานสวนสนาม ไปยังตำแหน่งที่บอกไว้ตอนแรกสุด"

พลขับหักเลี้ยวขวา เกือบ 90 องศา แม้รถถังจะสามารถควบคุม และเคลื่อนที่ได้ดี แต่คนที่อยู่ภายในนั้นไม่ได้เคลื่อนตามไปด้วยทันที

ด้วยโมเมนตัมที่เกิดขึ้น หัวผมกระแทกผนังรถถังไปครั้งหนึ่ง คนในรถถังยิ้มเยาะกันชั่วครู่ แต่แล้วก็กลับมาหน้าสงบ เพราะใกล้ถึงจุดหมาย

รถถังจอดสนิทในจุดที่กำหนด เป็นมุมตึกซึ่งเป็นยุทธภูมิที่ค่อนข้างสำคัญเพราะสามารถทำการโจมตีได้หลายทิศทาง ซึ่งผมกับลูกทีมมาดักซุ่มรอข้าศึกที่จะคิดเหมือนกัน และผมก็ไม่ได้รอนานเกินคาดไว้เลย

"พลปืนข้าศึกด้านหน้า ยิงเมื่อพร้อม" ไม่ทันขาดคำกระสุนนัดแรกพุ่งเข้ารถถังข้าศึกที่ดูเหมือนรถถังผมเป๊ะ กระสุนมุดเข้าใต้ป้อม เจาะเกราะเข้าไปเกิดความเสียหายภายใน

ข้าศึกไม่ทันตั้งตัว พยายามถอยหลังกลับเข้ามุมตึกอีกฟาก แต่พลกระสุนผมไวยิ่งกว่า "บรรจุ!"

กระสุนอีกนัดพุ่งไปตัดสายพานข้าศึก ข้าศึกสายพานขาดแต่ด้วยความเฉื่อยทำให้ไหลหลบเข้าไปยังมุมตึก

ลูกทีมผมถอนหายใจ แต่ผมกลับตกใจยิ่งกว่า "ข้าศึก รถถังเบา ด้านหน้า ยิงเมื่อพร้อม!"

พลกระสุนจึงรีบยัดกระสุนอีกนัดเข้าปืนไป พลปืนไม่รอช้า ยิงไปอีกนัด กระสุนอีกนัดหนึ่งพุ่งสวนมากจากข้าศึก ทะลุป้อมปืนรถถังผมเฉี่ยวหน้าผมไปเล็กน้อย แล้วทะลุออกหลังไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ถอยเข้ากำบัง!!" ผมตะโกนลั่น

พลขับรีบถอยเข้ากำบังตรงขอบตึก แต่ยังเหลือมุมให้พอยิงออกไปได้เผื่อข้าศึกโผล่มาอีก

ผมเปิดฝารถถังขึ้นไป เห็นด้านหลังมีรถถังฝั่งเราช่วยยิงสนับสนุนอยู่ไกลๆสองคัน และรถถังอีกคันหนึ่ง จอดอยู่ท้ายผม

ผมปิดฝาลงไป แต่พลวิทยุก็รายงานสิ่งไม่คาดฝันขึ้นมา "ข้าศึกตีกระหนาบจากขวา!"

ผมจึงรีบเปิดฝาขึ้นไปดูอีกครั้ง

"ข้าศึก 4 นาฬิกา" รถถัง cromwell ของข้าศึกที่พึ่งยิงกันไปเมื่อครู่ พุ่งมาด้วยความเร็วเต็มพิกัด กระแทกอัด รถพิฆาตรถถังที่จอดด้านข้างผมเสียหายหนัก แล้วจึงยิงซ้ำอีกนัด รถถังเพื่อนผมเครื่องยนต์ระเบิด และทำให้รถถังทั้งคันลุกเป็นไฟ

"ถอยหลังๆ" ผมตะโกนบอกพลขับ เขาถอยหลัง เต็มที่จนได้มุมยิง และพลปืนซัดไปหนึ่งนัดทำให้ข้าศึกเผชิญชะตาเดียวกันกับเพื่อนที่ผมพึ่งสูญเสียไป

"ข้าศึกตีกระหนาบจากซ้าย!" เป็นอีกครั้งที่พลวิทยุตะโกนออกมา แต่รอบนี้ แนวปืนสนับสนุน ที่ตื่นตัวจากการเสียเพื่อนไปคนนึง และได้ทำลายรถถังที่พยายามตีกระหนาบได้สำเร็จ

สถานการณ์ฝั่งผมกลับมาเงียบสงบลงอย่างเห็นได้ชัด ฝั่งตะวันออกไกล รถถังหนักของทีมผมกำลังยิงต่อสู้กำลังข้าศึกอย่างเมามัน

"ไปต่อ วิ่งไปให้ฐานศัตรูเลย" สิ่งที่ผมพูด ออกไปเหมือนจะเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวอะไร แต่เมื่อพ้นมุมตึกนี้ออกไป มันคือทุ่งสังหารซึ่ง

แต่เพราะมันเป็นทุ่งสังหาร จึงไม่ค่อยมีใครมาเฝ้าระวังมากนัก

ผมถือคติที่ๆอันตรายที่สุดคือที่ๆปลอดภัยที่สุด และสั่งการพลขับอีกครั้ง

ซึ่ง... ผมคิดผิด

ทันที่ที่ผมเร่งเครื่องจนผ่านพ้นกำบัง กระสุนได้พุ่งเฉี่ยวสายพานไปยังพื้นด้านหลัง

"เร่งเครื่อง เลี้ยวขวา สอดแนมครึ่งทางเตรียมหักกลับเข้าโซนเมือง"

รถถังเริ่มเร่งเร็วขึ้น แม้มองให้เห็นศัตรูที่ยิงมา กระสุนนัดสองพุ่งเข้าไปที่สายพาน แม้สายพานจะเสียหายแต่มันยังไม่ขาด รถถังผมยังพยายามเคลื่อนที่ต่อไปเกือบจะพ้นแล้วกระสุนอีกนัดพุ่งเข้ามีด้านหลัง แม้กระสุนจะเจาะและค้างด้านอยู่ที่เกราะรถถัง แต่แรงกระแทก ทำให้ชอคไปชั่วครู่ราวกับโดนระเบิดแสง ผมรีบเรียกสติก่อนเลี้ยวอีกครั้งเพื่อหาโซนปลอดภัย แต่ก่อนเลี้ยวครั้งสุดท้าย ผมเห็นสิ่งที่น่าตกใจคือสิ่งที่ควรจะยิงสู้กับรถถังหนักฝั่งผมกลับมาจอดอยู่แถวนี้

"สตาลิน!!" ผมตะโกนใส่พลวิทยุ แล้วเขาจึงรีบรายงานตำแหน่ง ผมได้จุดจอดอีกจุดแต่ไม่ปลอดภัย เป็นมุมโล่ง แต่สามารถทำการจู่โจมข้าศึกได้หลายจุด

แต่เคราะห์ซ้ำที่รถถังข้าศึกที่ผมกลัวก็ตามผมมาเช่นกัน

รถถัง IS-1 หรือที่รู้จักกันในชื่อรถถังของสตาลิน ขับโผล่พ้นจุดเลี้ยวที่เป็นซากปรักหักพังออกมา

"ข้าศึก 6 นาฬิกา ยิงเมื่อพร้อม"

พลปืนลั่นไกกระสุนพุ่งเข้าช่วงตัวด้านข้างข้าศึก แต่มันแทบไม่ระคายผิวมันเลย

ข้าศึกยิงสวนมาหนึ่งนัด กระสุนขนาด 122 mm. มุ่งตรงมาที่รถถังผม และมุดใต้ท้องรถผมไป แต่แรงกระแทกทำให้ทั้งผมและลูกทีมในรถถังใจหาย หน่วยปืนสนับสนุนในตอนแรก เริ่มสนับสนุนโจมตีรถถังสตาลิน รถถังของสตาลินเริ่มเสียหายหนัก และมันคงหวังที่จะปลิดชีพรถถังผมก่อนมันถูกทำลายเป็นแน่แท้

แต่กลับกันสำหรับทีมผมการที่สามารถทำลายรถถังสตาลินคันนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับฝั่งผมอีกมาก

กระสุนอีกนัดของรถถังผมบรรจุแล้ว เตรียมพร้อมยิงทันทีที่มันโผล่ออกมา ซึ่งมันก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง

ผมมองผ่านช่องมองของผู้การเห็นปากกระบอกปืนอีกฝั่งชัดแจ้ง พลางสั่งยิง

กระสุนขนาด 105 mm. พุ่งออกจากปากกระบอกปืนในเวลาเดียวกับที่ผมเห็นเปลวไฟจากประบอกปืนข้าศึก

กระสุนทั้งสองลูกวิ่งสวนทางกัน กระสุนของฝั่งผมวิ่งมุดเข้าใต้ป้อมปืนพุ่งเข้าสู่ที่เก็บกระสุน ระเบิดออกกลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่

ผมมองจากช่องมอง เห็นกระสุนของข้าศึกที่พุ่งเข้ามามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ผมผละตัวออกจากช่องมอง และมุดลงไปข้างพลวิทยุ ภาวนาให้กระสุนนัดมันด้าน

กระสุนเจาะผ่านเกราะส่วนป้อมและช่องมองเข้ามาในตัวรถ และระเบิดออกอยู่ภายใน ทำลายเครื่องจักรและทุกอย่างที่อยู่ภายในกล่องเหล็กอันบอบบาง

ผมพยายามเอามือขึ้นบังหน้าผม แต่มันเหมือนไม่ช่วยอะไรเลย ผมรู้สึกเจ็บปวด และทรมานจากความร้อนที่ออกมาจากแรงระเบิด

และค่อยกลืนกินความรู้สึกของประสาทสัมผัสไปทีละเล็กน้อย และมันเป็นสิ่งสุดท้าย ที่ผมรู้สึกถึง

Game : World of tank (Map : Siegfried Line)

Result : Win (ข้าศึกถูกทำลายทั้งหมด)

Date of Game : กันยายน 2557

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

ตอนที่ 3 Nightmare in NYC

ผมรู้สึกเหมือนโดนเผาทั้งเป็น แต่ไฟที่แผดเผานั้นกลับค่อยร้อนน้อยลงเรื่อยๆ ประสาทสัมผัสผมนั้นค่อยกลับมาเรื่อยๆ ไม่ต่างจากรอบก่อนหน้าเท่าใด ผมลืมตาตื่นขึ้น แต่กลับไม่รู้สึกความคุ้นเคยเหมือนสองครั้งก่อนหน้า

ผมยืนอยู่ที่สนามบินทหารที่ผมไม่รู้จัก กำลังเข้าแถวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ในสนามบิน มี Blackhawk และ Super Stallion ผมพลางมองสังเกตไปดีๆพบว่าข้างๆเฮลิคอปเตอร์มีเขียนคำที่ใบ้ให้ผมพอเดาอะไรได้บ้าง

"Marine"

ผมคงจะอยู่ในสนามบินของนาวิกที่ไหนแน่ๆ จากยุทโธปกรณ์ และอีกทั้งผมยังถือ M16A2 ถ้าผมคิดถูก ผมน่าจะอยู่ในสหรัฐอเมริกา

มันไม่เหมือนกับสองครั้งที่ผมรู้สึกตัวก่อนหน้า ผมแทบไม่รู้ว่าผมต้องทำอะไร ผมค่อยๆเดินขึ้นฮ. ตามคนด้านหน้า หาที่นั่ง เมื่อนั่งลงจึงรัดเข็มขัด ตามสัญชาตญาณ?

ผมยังคงสงสัยว่า มันคืออะไรกันแน่ ครั้งนี้มันช่างต่างจากสองครั้งแรกจริงๆ ต่างจนแทบผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องกันด้วยซ้ำ

ผมนั่งรออีกราวๆ เกือบยี่สิบนาทีจึงค่อยได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์กำลังเร่งเครื่องเพื่อขึ้นบิน เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆยกตัวสูงขึ้นจากพื้นเรื่อยๆ ฮ. เริ่มบินสูงจากพื้นเรื่อยๆ โดยที่ประตูท้ายไม่ได้ปิด ผมเลยเริ่มมั่นใจว่าน่าจะเป็น การบุกโดยใช้ฮ.เพื่อจู่โจมสายฟ้าแลบ

เมื่อ ฮ. เริ่มคงระดับความสูง ผมรู้สึกว่า ฮ. บินนิ่งมาก ผมมองออกไปนอกประตูท้ายที่เปิดไว้ ผมมองเห็นตึกระฟ้ามากมาย อยู่ล้อมรอบ ฮ. จนพอเข้าใจได้ว่า ฮ.ไม่ได้บินสูงมาก

นายทหารที่อยู่ข้างๆผมนั่งอยู่ดานข้าง พูดคุยกับทหารอีกคน ราวๆว่า ดูไว้ดีๆนะ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายได้เห็น Big Apple

Big Apple ในอีกนัยนึงก็สามารถหมายความได้ว่า นี่คือเมือง NYC หรือ New York City หลังผมได้ฟังผมกลับขนลุกมากขึ้นเรื่อยๆ

นายทหารคนหนึ่งลุกออกมาจากที่นั่งแล้วเริ่มอธิบายสถานการณ์ ว่าเรากำลังจะจู่โจมเกาะ Governor  ซึ่งโดนโซเวียตยึดไว้ ให้ทุกขึ้น เข้าประจำตำแหน่ง โดยการจู่โจมแบบล้อมรอบ แล้วจึงตีกระหนาบ ผมนั่งฟัง แต่ยิ่งนั่งฟัง ผมยิ่งขนลุก ผมมองออกไป เห็นอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ผมนึกออกแล้วว่าที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่างไร แต่มันช่างน่าเสียดาย เวลาผมก็ใกล้หมดแล้วเช่นกัน

นายทหารที่กล่าวอยู่ตรงพูดปิดประมาณว่าเตรียมอาวุธ และกระสุนให้พร้อม ผมก็ได้ยินเสียงจรวด พุ่งเฉี่ยว rotor ท้ายของ ฮ. ไปทิ้งให้ควันสีขาวไว้ เสียงกระสุนปืนกลเริ่มกระทบกับ ฮ. มองไปที่ห้องนักบิน ผมเห็นผู้ช่วยนักบิน กำลังพยายามบังคับ ฮ. พร้อมๆกับพยายามห้ามเลือดช่วยนักบินหลัก แล้วเขาจึงตะโกนมาว่า "จับไว้แน่นๆ"

พบจำเหตุการณ์นี้ได้ดี ผมเช็คเข็มขัดที่รัดผมไว้กับ ฮ. ไว้อีกรอบ มือหนึ่งกอดปืนไว้ อีกมือผมพยายามจับเข็มขัดไว้ แล้วผมจึงมองไปยังห้องนักบิน

ผ่านหน้าต่างห้องนักบิน ผมมอง Black Hawk ของพวกเดียวกันเสียการทรงตัว แล้ว หมุน ค่อยๆ พุ่งเข้ามาหา ฮ. ที่ผมนั่งอยู่อย่างรวดเร็ว เสียงกระแทกระหว่าง ฮ. สองลำดังสนั่น

นายทหารที่ผมคาดว่าเป็นผู้กองซึ่งได้ออกมาอธิบายในตอนแรก ตัวลอยขึ้นไปกระแทกกับเพดาน แล้วจึงกระเด็น หลุดออกไปทางประตูหลัง ผมมองเห็นคนที่ไม่ได้รัดเข็มขัด ค่อยหลุดออกไปทีละ คนสองคน ผมมองไปห้องนักบินหวังว่าจะเห็นแสงแห่งความหวัง

ห้องนักบินบิดเบี้ยว และถูกบีบอัดจากการกระแทกเมื่อครู่ ซึ่งแน่นอน ว่านักบินและผู้ช่วยไม่รอดแน่ๆ

ฮ. เสียการทรงตัว และระดับความสูงก็ตกลงอย่างรวดเร็ว และหมุนรอบตัวเอง ผมชักคลื่นไส้ และเวียนหัว ผมรู้สึกเหมือนปืนที่ผมพยายามกอดไว้ หลุดออกไป แต่มันไม่สำคัญ อย่างไรผมก็น่าจะตายอยู่แล้ว โดยผมยังหวังไว้ว่า การตื่นครั้งต่อไปมันจะราบรื่นกว่านี้

เสียง ฮ. กระแทกพื้นดังสนั่น ตัวผมกระแทก กับ ฮ. ไปมาตามเข็มที่รัดไว้ ผมรู้สึกเหมือนโดนเหล็กบีบอัด ความรู้สึกดับนิ่งไปอีกครั้ง

ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง แต่ผมกลับเจ็บแปลบไปทั้งตัว ผมลืมตาขึ้น ผมเห็นท้องฟ้าสีเทา เต็มไปด้วยควันไฟ และรู้สึกเหมือนมีเศษเหล็กเศษซากกองทับตัวผมอยู่ แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่รู้สึกคือ

"ขาขวา"

ผมพยายามยกเศษซากเหล็กออกจากตัวถึงมันจะไม่มากนัก แต่ก็ใช้เวลามากที่เดียว ผมสังเกตไปรอบๆ ผมพบว่าอยู่ท่ามกลางเศษซาก ฮ. และผมได้กลิ่นน้ำมัน ผมพยายามลุกขึ้นยืน แต่ผมก็ล้มลง พอมองไป มันไม่ใช่เพียงขาขวาผมไม่รู้สึก

แต่มันหายไปเลย

แม้ว่าผมจะรอดจาก ฮ. ตกราวปาฏิหาริย์ แต่เหมือนขาขวาของผมคงไม่โชคดีเท่า ผมพยายามคืบคลานออกจากซากนั้น มองไปที่ท้องฟ้า เห็น ฮ. สองลำสุดท้ายที่ยังไม่ถูกยิงตก ค่อยๆ บินถอยกลับไป การจู่โจมครั้งนี้ล้มเหลว เท่าที่ผมจำได้ แต่ที่ผมจำได้ มันไม่มีบอกว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร....

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.