Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[นิยาย] "What Who Where Why" เราเป็นยังไงใครรู้บ้าง


♏☤ṧ⊥εґ ℉

Recommended Posts

What%20Who%20Where%20Why%20Logo_zps337u1

 


 

 

มันเป็นเรื่องราวของเศษเสี้ยวเล็กๆ บนโลกอันแสนจะกว้างใหญ่..

ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นมีเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่รู้

พวกเขาเป็นเพียงแค่วัยรุ่นธรรมดาๆที่อยู่ในวัยเรียนเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่

เพียงแต่ว่าโชคชตามักเล่นตลกกับเราเสมอ วันดีคืนดีพวกเขาตื่นขึ้นมากลับพบว่า

ตัวเองอยู่ในที่ไม่คุ้นตา มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ แม้แต่พวกเขาเองก็ยังไม่รู้

นี้เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งในเศษเสี้ยวของประสบการณ์ทั้งหมดที่พวกได้พบเจอในชีวิต

เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นเช่นไรโปรดติดตามได้ใน

"What Who Where Why"

               เราเป็นยังไงใครรู้บ้าง

 

 

 ถึงผู้อ่าน

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ก็นะครับนี้เป็นนิยายเรื่องที่ 3 แต่เป็นนิยายเรื่องที่ 2 ที่แต่งและเผยแพร่บนโลกออน์ไลน์

คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่านิยายเรื่องเก่า "The Story Of Life เรื่องราวของชีวิต (TSOL)" ผู้เขียนได้ทำการค้างคาไว้อยู่ที่ Part 41ผู้แต่งยอมรับเลยว่าหากแต่งต่ออีกกลัวว่าจะแต่งไม่จบ เนื่องจากเรื่องนี้ผู้แต่งได้วางโครงเรื่องไว้ยาวมากจึงคิดว่าหากแต่งเป็นแบบตอน คงอีกนานกว่าจะจบผู้แต่งเลยตัดใจหยุดแต่งไว้ที่ Part 41 ซึ่งผู้ผม มิสเตอร์เอฟขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านนิยายเรื่องแรกที่ผมเผยแพร่ลงในเว็บออน์ไลน์ จากนิยายเรื่องแรกของผมทำให้ผมมีประสบการณ์การแต่งนิยายมากขึ้นผมต้องขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก และไม่ต้องห่วงว่าผมจะทิ้งนิยาย TSOL เพราะผมวางแผนไว้ว่าในอนาคตผมจะแต่งยาวไม่เป็นแบบตอน

ให้เป็นแบบตอนยาวไปเลย ยังไงก็ติดตามด้วยนะครับ กลับมาที่นิยายเรื่องใหม่

""What Who Where Why"" เราเป็นยังไงใครรู้บ้าง สำหรับนิยายเรื่องนี้นะครับจุดประสงค์จริงๆคืออยากลองแต่งนิยายหลายๆแนวในเรื่องเดียว นิยายเรื่องนี้จริงๆกะจะให้เป็นคอมมิกแต่ว่าเอาเข้าจริงๆผมยังมีปัญหาด้านการวาดรูปอยู่

จึงยกมาเป็นนิยายอย่างที่เห็น ถ้ายังไงก็ฝากติดตามนิยายเรื่องใหม่นี้ด้วยนะครับ ^ ^

                                                 

                                         Mister F

                                        (ชายธรรมดาที่อยากแต่งนิยาย)

 

 

 

    

[เนื้อหาหน้านี้ยังไม่เสร็จรอเพิ่ม]      

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

“What Who Where Why”

Episode 0

“พวกเราอยู่ที่ไหน?”

(Plot)

 

939d82aa-4fe6-4cbe-ac46-db4523609bf3_zps

 

ทุกอย่างมืดไปหมด...

ได้ยินเพียงแค่เสียงของ วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังคุยกัน....

 

ตื่นได้แล้ว เฮียเลน ยั้ยขี้ขลาด

 

เสียงผู้ชายกำลังพูดอยู่กับใครสักคน

เมื่อลืมตาขึ้น เฮียเลน ได้เห็นชายคนหนึ่งกำลังเขย่าตัวเธอพร้อมตบหน้าเธอ..

เมื่อมองไปรอบๆเธอรู้สึกว่าเธออยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นตา ในห้องเป็นที่เก็บของ อากาศค่อนข้างร้อน...

เมื่อเฮียเลนตั้งสติได้เธอตกใจและตัวสั่นหวาดกลัว ภายในห้องนั้นมีผู้ชายอยู่ 3 คนกำลังมึนๆ

 

เฮียเลน:นี้มัน!! ที่ไหนเนียยยยย!!

เฮียเลน:บอกฉันมา พาร์เทล! ที่นี้ที่ไหนนนนน!?

 

เฮียเลน จับคอเสื้อและเขย่า พาร์เทล อย่างรุนแรงด้วยความตกใจหวาดกลัว!

พาร์เทล ชายหนุ่มใส่เสื้อสีส้มสลับฟ้าและใส่เสื้อคลุมสีน้ำเงิน ผลัก เฮียเลน

หญิงสาวผมสีน้ำตาลใส่เสื้อสีเขียวอ่อนและเสื้อคลุมสีน้ำตาล

 

พาร์เทล:ใจเย็นๆ ฉันก็ไม่รู้!

 

เฮียเลน:ถ้า! ถ้าที่นี้เป็นที่ทดลองของมนุษย์ต่างดาวจับตัวพวกเราหละ!?

เฮียเลน:หรือไม่เป็นคุกกักกันนักโทษษษ!!

เฮียเลน:ม๊ายยยยย!! เราตายแน่!!

เฮียเลน: เราตายแน่!! เราตายแน่!!! เราจะทำยังไงกันดี!!! พาร์เทล!!

 

เฮียเลน เขย่าคอเสื้อ พาร์เทล อย่างรุนแรงด้วยความตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจาก

เธอเป็นคนขี้กลัว

 

พาร์เทล:อ้า!! ใจเย็นๆ!!

เฮียเลน:พวกเรากำลังจะตายยยยยยย!!!

เฮียเลน:ไม่! ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย!

เงียบๆกันสิ! คนจะนอน!!”

 

ชายผมบรอนใส่เสื้อสีเหลืองและใส่เสื้อกันหนาวสีน้ำเงินอ่อนใส่แว่นตาดำตื่นขึ้นมาในสภาพผมไม่เป็นทรง..

 

เฮียเลน: ชูส!! นาย!! นายยังไม่ตาย!!

 

เฮียเลน เขย่าตัว พาร์เทล รุนแรงด้วยความดีใจ ตกใจ และ หวาดกลัว!

 

เฮียเลน: ชูส! ยังไม่ตาย!! ชูส!! ยังไม่ตาย!!!

พาร์เทล:แค่ก! เบาๆก็ได้ไม่ต้องดีใจขนาดนั้น...

 

ชูส หันหน้าไปมองกระจกที่วางไว้บริเวณนั้นแล้วตกใจ..

 

ชูส:ไม่!!!!!!!

 

เฮียเลน ผลัก พาร์เทล ออกไปและมองไปที่ ชูส

 

ชูส:ฉัน!......ฉัน!!..

ชูส:ผมฉันเสียทรง!!!!

เฮียเลน:ฮะ!!!

พาร์เทล: นั้นแย่มากเลยนะนั้น!!

 

ชูส หยิบหวีขึ้นมาหวีผมตัวเอง

 

เปาะ!! เปาะ!! เปาะ!!

 

เสียงเคาะกระดานดังขึ้น ทุกคนเงียบสงบและหันไปมองต้นทางของเสียงนั้น

ชายอีกคนหน้าตาหงุดหงิดผมสีดำ ใส่เสื้อสีน้ำเงินสลับฟ้าและเสื้อคลุมสีน้ำตาล

ถือกระดานดำพร้อมข้อความเขียนไว้ว่า

 

พวกงี่เง่าเสียงดังอะไรกันห่ะ!”

เฮียเลน: ลูปพีย์!!

 

ลูปพีย์ ลบกระดานอย่างรวดเร็วและเขียนข้อความให่ขึ้นมาว่า

 

ฉันบอกให้เงียบๆไงยัยงี่เง่า

 

ลูปพีย์ ลบกระดานและเขียนข้อความลงไปในกระดาน

 

พวกงี่เง่าทั้งหลาย เราอยู่กันที่ไหน?”

 

พาร์เทล:ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...

 

ลูปพีย์ มองไปรอบๆบริเวณนั้น...

ลูปพีย์ ลบกระดานและเขียนข้อความลงไปในกระดาน

 

เหมือนเราจะอยู่ในโกดังที่ไหนสักทีนะ..”

 

ชูส หวีผมจัดทรงหน้ากระจกที่อยู่แถวๆนั้น

 

เฮียเลน:แล้วพวกเรามานี้ได้ยังไง....

เฮียเลน ตอบด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว..

ลูปพีย์ ลบกระดานและเขียนข้อความลงไปในกระดาน..

 

น่าจะเป็นตอนที่พวกเราลงไปหลับในลังเก็บของตอนประมาณ 4 ทุ่ม...”

 

ลูปพีย์ ลบกระดานและเขียนลงไปอีกว่า

 

และจากที่ฉันดูจากข้อความที่เขียนลงบนลังแล้ว....อย่าตกใจแหละ

เรากำลังอยู่ไกลจากบ้านมาหลายกิโลเมตรเลยแหละ...”

พาร์เทล:อะไรนะ!?

เฮียเลน:จริงหรอ!?

 

เฮียเลน ร้องไหนั่งกอดเข่าน้ำตาซึ่ม

 

ชูส:แล้ว...พี่เฉิม ลูปพีย์... เราอยู่ห่างจากบ้านกี่กิโลพอเดาได้ไหม..

 

ลูปพีย์ ลบกระดานและเขียนข้าความใหม่ลงไปว่า

 

ฉัน...ไม่แน่ใจเหมือนกันต้องออกไปจากที่นี้ก่อนฉันถึงจะมั่นใจกว่านี้...”

 

พาร์เทล:งั้นทุกคน! ได้เวลาสำรวจกันแล้ว!

เฮียเลน:ฉันกลัว...

ชูส:คุณผู้หญิงขี้ขลาดไม่ต้องห่วงมีสุดหล่อทั้งคนไม่ต้องกลัวอันตราย..

 

ชูส ลูบผมบรอนที่เขาพึ่งจะหวีเสร็จ..

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปบนกระดาน..

 

พวกงี่เง่าเอ๋ย...”

หลังจากนั้นทุกคนก็เดินสำรวจที่ๆน่าจะเป็นโกดัง แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปยังไง

ก็เห็นแต่ลังไม้ลังพลาสติกเต็มไปหมด...

 

เฮียเลน:พวกเรายังไม่เห็นทางออกอีกหรอ?

เฮียเลน เดินตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

พาร์เทล:อืมใช่พวกเรายังไม่เห็นเลย...

 

พาร์เทล เดินกางมือไว้ข้างลำตัวแล้วเดินไปอย่างร่าเริง

 

เฮ้ยพวกที่อยู่ตรงนั้นนะ เข้ามาทำอะไรที่นี้!!”

 

ยามอ้วนหนวดรุงรังกับชุดยามรัดรูปถือไม้กระบองวิ่งเข้ามาหา ทั้ง 4 คน

 

เฮียเลน:เอายังไงกันดีทุกคนนนน!?

พาร์เทล:เราก็ถามทางออกที่นี้ซะเลยสิ...

 

ลูปพีย์ เขียงข้อความลงไปในกระดาน

 

ฉันว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ค่อยจะดีเลยนะ

 

ยามอ้วนคนนั้นหยุดและมองไปที่พวกเขาที่ 4 คน...

 

พวกแกมาทำอะไรที่นี้...”

 

ชูส เดินเก็กท่าสะบัดผมและมองไปที่ยามอ้วนแล้วบอกว่า

 

ชูส:คือ..พวกกระผมตื่นขึ้นมาก็พบว่าพวกเราอยู่ในที่ๆไม่คุ้นตา..

ชูส:คุณลุงยามครับ บอกทางออกพวกผมที...

 

พวกแกคิดจะมาขโมยของแล้วยังจะถามทางออกฉันอีกหรอ!”

เฮียเลน:อย่าทำร้ายพวกเราเลยนะคะ!?

พาร์เทล:พวกเราหลงจริงๆนะครับตามที่ ชูส บอก..

 

ไอ้พวกเด็กโกหก อย่ามาหลอกฉัน!”

 

แปะ!! แปะ!! แปะ!! แปะ!!

เสียงเคาะกระดานดังมาจากทาง ลูปพีย์

 

บนกระดานเขียนข้อความไว้ว่า..

 

วิ่ง!!”

 

ทุกคนเงียบลงและมองหน้ากัน..

หลังจากนั้นทุกคนก็พากันวิ่งหนีกันโดยที่ยามอ้วนวิ่งไล่ตามกัน....

หยุดนะ!! ไอ้พวกเด็กหัวขโมย!!”

พาร์เทล วิ่งตามหลังทุกคนไป..

 

พาร์เทล:แล้ว เฮียเลน หายไปไหน!?

 

ชูส:ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงเธอวิ่งนำหน้าพวกเราอีกนะ!!

 

ชูส:เป็นห่วงตัวเองเถอะ!

 

ทุกคนวิ่งไล่กันจนรอบโกดังเก็บของเป็นเวลานานกว่า สามสิบนาที ตนกระทัง...

 

พาร์เทล:ฉัน...เริ่มเหนื่อยแล้วนะ......

ชูส:วิ่งแบบนี้...ถึงฉันจะแข็งแรงแต่ฉันก็เริ่มเหนื่อยแล้วนะ...

เฮียเลน:แต่ว่าลุงยามอ้วนนั้นยังวิ่งมาไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยนะ...

พาร์เทล:ฉัน....ฉันไม่ไหวแล้ว.....

 

พาร์เทล ล้มลงไปนอนกับพื้น ทุกคนหยุดและไปช่วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้

ยามอ้วนตามมาทัน...

 

กว่าฉันจะมาจับพวกแกได้นานเป็นบ้า

ไม่มีใครรอดยาม ฮัสเทอร์ หรอก!”

 

ฮัสเทอร์:ไปๆไปอยู่ในห้องพักฉันแล้วรอเจ้านายฉันมาจัดการพวกแก

ชูส:พวกเรามีกัน 4 คนนะไม่กลัวตัวเองจะมีภัยหรอลุง

 

ชูส เอามือลูปผมตัวเอง

 

ฮัสเทอร์:พวกแกจะลองดูไหมแหละ

 

ยามอ้วน ฮัสเทอร์ เอามือต่อยไปที่กำแพง กำแพงมีรอยร้าว

เฮียเลน มองแล้วลมลงเป็นลมลงไปนอนกองกับพื้น

 

พาร์เทล:ก็ได้ๆพวกเรายอมไปก็ได้...

..

ทุกคนเดินตามยามอ้วนที่ชื่อ ฮัสเทอร์ ไปโดยไม่ขัดขืน

 

ฮัสเทอร์:งั้นตามมาอย่าขัดขืน

ฮัสเทอร์:ฉันจะโทรไปบอกเจ้านายฉันว่าฉันจัดการพวกวัยรุ่นที่คิดจะมาขโมยของได้แล้ว

ลูปพีย์ แบก เฮียเลน ที่กำลังเป็นลมเดินตามไปพร้อมทำท่าหงุดหงิดในขณะที่

 

ชูส และ พาร์เทล เดินลอยหน้าลอยตาด้วยความเบิกบาน...

 

ฮัสเทอร์:เอาแหละถึงแล้ว! อย่าคิดวิ่งหนีออกจากห้องแหละเพราะที่นี้กว้างเป็น กิโลเมตรเลยแหละ!

ฮัสเทอร์:ฉันจะโทรหาเจ้านายฉันเงียบๆด้วยแหละ!

ฮัสเทอร์ เปิดประตูเข้าไปในห้อง ทุกคนเดินตามกันเข้าไป ลูปพีย์ ล้มลงไปกองกับพื้นโดยที่ เฮียเลน นอนทับอยู่

ชูส:นายเอายาดมมาไหม พาร์เทล

พาร์เทล:ขอฉันค้นดูก่อน...

 

ในขณะที่ ลูปพีย์ นอนสลบ ชูส พาร์เทล กำลังหายาดม ยามที่ชื่อว่า ฮัสเทอร์ กำลังติดต่อหาเจ้านายของตัวเอง

 

(โทรศัพท์)

ฮัสเทอร์:สวัสดีครับ คุณนาย  นี้ผมยาม ลูปพีย์ โกดัง ลีฟอิล

ฮัสเทอร์:เราจับพวกหัวขโมยวัยรุ่นที่ส่งจดหมายมาได้แล้วครับ..

คุณนาย :ฉันคิดว่าพวกเขาไม่ใช่หัวขโมยหรอก...

ฮัสเทอร์:ทำไมถึงคิดอย่างงั้นครับ

คุณนาย :พวกนั้นไม่ได้จับง่ายขนาดนั้นหรอก...

คุณนาย :ปล่อยพวกเขาไปเถอะ

ฮัสเทอร์:แต่พวกเขาเขามาในโกดังนะครับ

คุณนาย :ทำตามที่ฉันบอก! หรืออยากโดนไล่ออก!

ฮัสเทอร์:ครับๆผมจะปล่อยตัวพวกเขาครับ...

 

คุณนาย  วางสายโทรศัพท์

 

.........

...

 

ภาพหลังสายโทรศัพท์ของเจ้านาย ฮัสเทอร์ เป็นโต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบพร้อมหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในห้องสลัวๆ

เห็นเพียงเงาของเจ้านาย ฮัสเทอร์เท่านั้น....

 

...

 

ฮัสเทอร์:พวกแกออกไปได้แล้ว!

พาร์เทล:หว่า...แย่จังนึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้..

พาร์เทล:เซ็งเลย...

 

พาร์เทล ทำหน้าเบื่อ เฮียเลน ลุกขึ้นจากอาการสลบพร้อมตบหน้า พาร์เทล

 

เฮียเลน:มีเรื่องแค่นี้ก็ดีแล้วยังจะให้มีเรื่องอะไรนักหนาเหะ!

 

เฮียเลน จับคอเสื้อ พาร์เทล แล้วเขย่าด้วยความกลัวและความโกรธพร้อมกัน

เฮียเลน หันหน้าไปที่ยาม ฮัสเทอร์ พร้อมกล่าวขอบคุณ...

 

...

 

หลังจากนั้นทุกคนก็เดินออกจากห้องเพื่อออกไปจากโกดังโดยเดินตาม ยาม ฮัสเทอร์ ออกไป...

แต่แล้วระหว่างทางนั้นเอง...

 

พาร์เทล:นี้ ชูส เมื่อวานนี้นายว่าปราตี้บ้านฉันสนุกไหม?

ชูส:ฉันว่านะ..

 

ชูส เอามือลูบผม พร้อมเดินเก็กท่า

 

ชูส:มันก็สนุกดีนะ...แต่ว่าบ้านฉันเดือนที่แล้วสนุกกว่านี้อีก

พาร์เทล:ฉันว่ามันสนุกพอๆกันเลยนะ ชูส~

พาร์เทล:ฮ่าๆ

 

พาร์เทล เดินกระโดดด้วยความร่าเริง

เฮียเลน:พวกนายยยย! เงียบไปเลยนะ!

เฮียเลน:เพราะปราตื้นั้นแหละทำให้พวกเราต้องเป็นแบบนี้...

เฮียเลน เดินคอตกน้ำตาซึ่ม

เฮียเลน:ฉันคิดถึงพ่อกับแม่...

พาร์เทล:พูดถึงพ่อกับแม่ฉันหิวข้าวขึ้นมาเลยเหะ!

พาร์เทล:ถ้าได้กลับไปฉันจะกินให้พุงกลางเลยฮาๆ

ชูส:เอาหน่าๆ อยู่กับฉันแล้วหมดห่วงปลอดภัยไร้กังวล

 

ชูส ขยิบตาด้าซ้ายพร้อมยิ้มเก็ก เฮียเลน เดินคอตกน้ำตายซึ่ม

พาร์เทล เดินหัวเราะอย่างร่าเริง

ยาม ฮัสเทอร์ และ ลูปพีย์ เดินนำหน้าทั้ง 3 คน

ยาม ฮัสเทอร์ เดินไปกระชิบ ลูปพีย์ ไป

 

ฮัสเทอร์:นายก็อยู่กับพวกงี่เง่านี้ได้นะ เป็นฉันฉันเป็นโรคประสาทไปนานแล้วนะ..

 

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปในกระดาน

 

ตอนนี้ผมก็กำลังจะเป็นแล้ว ผมเกลียดพวกงี่เง่าพวกนี้มันยัดเยียดความเป็นเพื่อนให้ผม

ฮัสเทอร์:เอาเถอะนะ ฉันก็เคยผ่านช่วงเวลางี่เง่าแบบนายมาแล้วเหมือนกัน...

 

ลูปพีย์ สังเกตอะไรบ้างอย่างที่ผิดปกติมี แสงเกิดขึ้นบริเวณกำแพง จึงสกิตยาม

 

ฮัสเทอร์:มีอะไร?

 

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปในกระดาน

 

ผมเห็นอะไรแปลกๆตรงนั้น

 

ลูปพีย์ ชี้ไปที่ตรงจุดที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

 

ฮัสเทอร์:บอกให้ทุกคนหาที่หลบเร็วฉันเจอโจทย์ จริงๆแล้ว...

 

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปในกระดาน

 

พวกนายหุบปากและหาที่หลบเร็ว

 

และยื่นไปหาทุกคน แต่ทุกคนไม่สนใจ

ฮัสเทอร์ เอามือตบหน้าผากตัวเองแล้วคิดในใจ

 

นี้มันบ้าอะไรกันเนีย

 

ฮัสเทอร์:เดินไปบอกทุกคนให้เงียบและหาที่หลบ..

 

ตูม!! ปัง!!

(เสียงระเบิด)

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

เกิดระเบิดขึ้นที่กำแพง มีควันจาฝุ่นลอยออกมา หลังควันได้มีเสียงคนพูดและบ่น

 

ฉันไม่ย่องเบามันแล้วฉันเบื่อ!! ระเบิดมันทิ้งก็สิ้นเรื่อง!”

เอื้อก! เอื้อก! ระเบิดของนายทำฉันสะอึกหมดเห็นไหม!”

เอาน่าๆ ไม่ต้องห่วงเรามืออาชีพกันอยู่แล้ว

พวกนาย! เงียบ! กันได้แล้ว!”

มีชาย สาม คนกำลังหญิงอีก หนึ่ง คนเดินออกมาจากหลังกลุ่มควันพวกเขา

ใส่ชุดสีดำราวกับเป็นหน่วยงานสายลับมีอาวุธและอุปกรณถือมาด้วย

ชายคนแรกทางขวาสุด ผมสีเทาข้างหน้าผมยาวเป็นตาเอาไว้ข้างหนึ่งเดินมาพร้อมบาซูก้า

เดินมาพร้อมความมั่นใจและดูเยือกเย็น

ชายคนที่สองถัดมาผมกระยุ่งเหยิงลงมีสิวขึ้นเต็มที่หน้าแคะขี้มูกพร้อมถือกล่องอุปกรณ์

คนถัดมาเป็นผู้หญิงผมสั้นสีแดง แววตาดูเยือกเย็นแฝงไปด้วยความหน้ากลัวถือปืนพกสั้น และ

คนสุดท้ายทางซ้ายสุดผมสั้นสีดำ ดูอารมณ์ร้อนและถือระเบิดอยู่ในมือ

 

พวกนาย เป้าหมายของเราอยู่ห่างไปอีก 100 เมตรกล่องรหัส 2048i”

 

รับทราบครับ รับทราบคุณหญิง โบว์

 

โบว์:นี้ไม่ใช่เวลามาประชดฉันนะ เฮนลี่

โบว์: ฮิกเทอร์ กับ มาวทู ดูต้นทางเอาไว้ฉันจะไปกับ เฮนลี่

ฮิกเทอร์:ได้ครับ

 

ฮิกเทอร์ ยืนแคะขี้มูกและเกาหัวจนรังแคร่วงลงมาใส่แซนวิสที่ ฮิกเตอร์ ถือเอาไว้

 

มาวทู:ดีเหมือนกันฉันกำลังหิวอยู่พอดีเลย

 

มาวทู กินแซนวิสที่รังแคที่เป็นพลึกๆสีขาวๆของ ฮิกเทอร์ เกาหัวแล้วบังเอิญหล่นใส่

 

เฮนลี่:แย่แล้ว โบว์ ฉันคิดว่าพวกยามคงหลบอยู่แถวๆนี้แน่เลย..

 

เฮนลี่ เอามือปัดผมที่ปิดตา

 

โบว์:แย่จังเลยนะนาย....

 

เฮนลี่ และ โบว์ เดินไปยังเป้าหมายที่ระบุ

ยาม ฮัสเทอร์ พาร์เทล เฮียเลน ชูส ลูปพีย์ หลบอยู่หลังกล่องใกล้ๆบริเวณที่ระเบิด

 

ฮัสเทอร์:พวกเธอรีบหนีไปซะ...

เฮียเลน:ฉัน...ฉันก้าวขาไม่ออกฉันกลัว....

 

เฮียเลน ตัวสั่นเพราะความกลัว

 

พาร์เทล:แล้วไม่เป็นอะไรหรอครับยาม

ฮัสเทอร์:พวกนี้ยังเป็นแค่พวกฝึกหัดแค่นี้ฉันเอาอยู่

 

ชูส เอามือลูบผมของตัวเอง

 

ชูส:แต่พวกนั้นมีปืนนะลุง

ฮัสเทอร์:ของแค่นั้นฉันมีวิธีจัดการ

 

ฮัสเทอร์:ฉันจะออกไปล่อ 2 คนนั้นแล้วพวกเธอรีบหนีออกไปตรงรูที่ระเบิดวิ่งไปให้ไกลที่สุดแล้วกัน

 

ยาม ฮัสเทอร์ ลุกขึ้นออกจากที่ซ่อน และ ชี้ไปที่ มาวทู ฮิกเทอร์

 

ฮัสเทอร์:ฉันขอคัดค้าน!

 

มาวทู และ ฮิกเทอร์ ยืนเกาหัวและมองหน้ายาม ฮัสเทอร์

 

ฮิกเทอร์:ลุงเป็นใคร?

มาวทู:ทำไมมาทำอะไรตรงนี้ลุง

ฮัสเทอร์:ฉันเป็นยามและฉันจะมาจับหัวขโมยไง?

ฮิกเทอร์:ยาม....

ฮิกเทอร์:ยามงั้นหรอ!?

 

ฮิกเทอร์ และ มาวทู ถือปืนพกจ่อไปที่ยาม ฮัสเทอร์

มาวทู:อย่าขยับ! ถ้าไม่อยากตาย!

ฮัสเทอร์:คิดว่าเอาของแค่นั้นมาขู่แล้วฉันจะกลัวงั้นหรอ?

ฮัสเทอร์:พวกแกไม่น่ามาทำเรื่องแบบนี้เลยไม่รุ่ง

มาวทู:หุบปากไปหน่ะ!

 

พาร์เทล,ชูส,เฮียเลน,ลูปพีย์ แอบย่องออกไปทางกำแพงที่ถูกระเบิด

มาวทู และ ฮิกเทอร์ หันหน้าและหันปืนพกไปที่ พวกของ พาร์เทล เฮียเลน ตกใจมากจนขยับไปไหนไม่ได้ ทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่

 

มาวทู:พวกแกคิดจะไปไหน!

 

จังหวะที่ มาวทู หันหน้าไป ยาม ฮัสเทอร์ วิ่งเข้าไปปัดปืนและล๊อกตัว มาวทูและ ฮีกเทอร์

 

มาวทู:ปล่อยฉัน! ยามบ้า!

พาร์เทล:ยามเก่งไปแล้วนะยาม สุดยอด!

ชูส:แบบนี้....สุดยอดไปเลยนะยาม..

ฮัสเทอร์:พวกนาย สี่ คนอย่ายืนงี่เง่าไปหาเชือกมามัด สอง คนนี้เร็ว

พาร์เทล:ครับๆยาม

....

...

 

โบว์และเฮนลี่ยืนอยู่หน้าสิ่งของขนาดใหญ่ที่อยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม

 

โบว์:เฮนลี่เราโดนหลอก

โบว์:พวกมันรู้ตัวแล้ว

โบว์:พวกนั้นแอบทำของปลอมมาหลอกพวกเรา

เฮนลี่:เธอพลาดแล้วแหละคุณหัวหน้า

เฮนลี่:ฉันบอกแล้วไงให้เข้ามาแบบเงียบๆ

โบว์:เงียบไปเลย!

เฮนลี่:ฉันว่า..พวกเราถอยกันไปก่อนจะดีไหม?

โบว์:เข้าท่ารีบไปก่อนที่คุณนายนั้นจะขนคนกันมาเยอะ

 

"ฉันว่าพวกแกพลาดแล้วนะ"

 

ยามฮิกเตอร์เดินมาพร้อมไม้กระบอง

 

เฮนลี่:เอายังไงดี

โบว์:ฉันว่าไม่มีความจำเป็นต้องสู้กลับกันเถอะ

 

โบว์และเฮนลี่ รีบวิ่งไปที่จุดที่กำแพงเป็นรูเนื่องจากระเบิด

ยาม ฮัสเทอร์วิ่งตามอย่างรวดเร็ว

 

 

ฮัสเทอร์:คิดหนีงั้นหรอ!?

ฮัสเทอร์:ฉันจับตัวพวกของแกไว้แล้ว สองคน!

 

โบว์:แย่แล้ว! พวกนั้นต้องรีบไปช่วย

โบว์:เฮนลี่ไปถ่วงเวลายามนั้นฉันจะไปช่วยพวกนั้น

เฮนลี่:รับทราบ

โบว์:ฉันหวังว่าพวกนั้นจะยังอยู่ที่เดิมนะ

 

....

...

 

พาร์เทล ชูส นั่งมอง ฮิกเตอร์และมาวทูที่ถูกมัดอย่างไม่มีอะไรทำ

ส่วนเฮียเลนกำลังนั่งภาวนาขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความกลัว

 

....

...

 

พาร์เทล:นี้พวกนาย สองคน

มาวทู:มีอะไร!

พาร์เทล:พวกนายทำงานนี้สนุกกันไหม?

มาวทู:มันก็สนุกดีถ้าไม่ถูกพวกแกจับได้

พาร์เทล:ฉันไม่ได้จับนายยามเป็นคนจับ

มาวทู:ฉันรู้แล้ว!

 

มาวทูตอบไปด้วยความรำคาญ

 

พาร์เทล:ดีแล้วที่รู้ ฉันยกโทษให้

มาวทู:ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมฉันต้องไปขอโทษแกด้วย

พาร์เทล:งั้นหรอ?

 

พาร์เทล:อืม.....

พาร์เทล:ฉันลืมแล้วว่าจะพูดอะไร

มาวทู:เงียบไปเลยแกนะ!

 

พาร์เทลนั่งเงียบและมองไปที่สองคนที่ถูกมัด

 

พาร์เทล:คือว่าฉันจะร้องเพลงให้ฟังแก้เซงไหม~?

มาวทู:เงียบไปเลย!

 

พาร์เทล:งั้นมาเล่นเกมแต่งกลอนกันไหม?

มาวทู:ฉันบอกว่าเงียบ!!

 

พาร์เทล:งั้นมาเล่าเรื่องตลก

มาวทู:เงียบ!!!

 

พาร์เทล:งั้นมาท้ายคำถามกัน

มาวทู:เงียบ!!!!

 

พาร์เทลนั่งเงียบและมองไปที่สองคนที่ถูกมัด

 

พาร์เทล:บางที่เราน่าจะมา--

มาวทู:ฉัน!!

มาวทู:บอก!!

มาวทู:ว่า!!!

มาวทู:ให้!!

มาวทู:เงียบ!!!

 

พาร์เทลนั่งเงียบและมองไปที่สองคนที่ถูกมัด

 

พาร์เทล:อากาศที่นี้ร้อนนะกินลูกอมกันไหม?

พาร์เทล:ฉันชอบลูกอม~

พาร์เทล:ฮาๆ

มาวทู:อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!

 

 

"พวกนายเป็นอะไรกันไหม"

 

เสียงตะโกนดังขึ้น โบว์วิ่งมาด้วยความรวดเร็ว

 

มาวทู:ฉันรู้ฉันไม่เป็นอะไรฉันแค่...

มาวทู:รำคาญไอ้บ้านี้!!

 

มาวทูมองหน้าและทำหน้าโกรธหงุดหงิดรำคาญ

 

ฮิกเทอร์:แล้ว เฮนลี่แหละ?

โบว์:เดียวก็ตามมาที่หลังนั้นแหละ

 

โบว์รีบแก้มัด มาวทู ฮิกเทอร์

 

พาร์เทล:ฮาๆ ฮาๆ

 

พาร์เทล ชัี้หน้าไปที่โบว์

 

พาร์เทล:อย่าคิดว่าจะเอาตัวพวกนี้ไปง่ายๆนะ!

พาร์เทล:ฉันมีพวกของฉันอยู่

 

ฮิกเตอร์:พวกแกหนีไปตั้งแต่โบวตะโกนแล้ว

 

พาร์เทล มองรอบๆไม่พบใครเลยนอกจากตัวเขาเองกับพวก โบว์

 

พาร์เทล:แฮ่ๆ

 

โบว์:แก้มัดแล้วเอาปืนจ่อไปที่พาร์เทล

พาร์เทลนั่งคุกเข่า

 

พาร์เทล:ฉันขอโทษอย่าฆ่าฉันเลย

พาร์เทล:ฉันแค่พูดไปอย่างั้นแหละอย่าถือสาเลย

 

โบว์ มองหน้าพาร์เทลนิ่งประมาณ 10 วินาที

 

โบว์:ฉันไม่ฆ่าแกหรอกเปลืองกระสูน

 

"อย่าทำอะไรพาร์เทล หน่าาาาาา~!!"

 

เฮียเลนวิ่งมาพร้อมไม้หน้าสามและพุ่งตรงไปที่โบว์

 

ชูส:เฮ้ย! เดียวรอก่อนเฮียเลนมันไม่ได้เป็นไปตามแผนเรานะ!

 

ชูสวิ่งมากับลูปพีย์

 

พร้อมข้อความบนกระดานที่ลูปพีย์เขียนเอาไว้

"ยั้ยงี่เง่า"

 

เฮียเลน ฟาดไปที่โบว์ แต่โบว์หยิบไม้ได้และปัดออกไปจากมือเฮียเลน

หลังจากนั้นโบว์ก็จับแขนเฮียเลนอย่างแน่นและมองหน้าเฮียเลน

ด้วยความโมโห ทุกคนหยุดนิ่งและมองไปที่ โบว์กับเฮียเลน

 

โบว์:อย่า! มาทิ้งชีวิตด้วยการทำแบบนี้อีก!

โบว์:ฉันเกลียดพวกที่ไม่มีปัญญา แต่ยังอยากมาช่วย...

 

โบว์บีบแขนเฮียเลน เฮียเลนรู้สึกเจ็บปวด

 

เฮียเลน:ปล่อยยยยฉันนนหน่า!! ฉันเจ็บ!

โบว์:อย่ามาสละชีวิตแบบโง่ๆให้ฉันเห็นอีกแหละ!!

 

"เฮ้! ช่วยพวกนั้นได้แล้วใช่ไหม?"

 

เฮนลี่ วิ่งมาพร้อมกับยามฮัสเทอร์ ที่วิ่งตามหลังมา

โบว์ปล่อยมือจากเฮียเลน

 

โบว์:ไปกันเถอะพวกเรา!

 

เฮนลี่ โบว์ ฮิกเทอร์ มาวทู ทั้งสี่คนวิ่งไปที่รถตู้ที่จอดไว้ข้างนอก

เมื่อขึ้นไปบนรถได้ก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว...

 

เฮียเลน ล้มลงไปนั่งกับพื้นพร้อมร้องไห้และตัวสั่น

เพราะความกลัวอย่างสุดขีด

 

ชูส:เป็นอะไรไหมเฮียเลน

 

ชูส เดินล้วงกระเป๋าแล้วเดินเข้ามาหาเฮียเลน

 

เฮียเลน:อย่ามายุ่งกับฉัน!!

เฮียเลน:ฉัน.....ฉันรู้สึกผิด.....

 

พาร์เทล:เฮ! พวกนายทิ้งฉันไว้คนเดียวทำไมหะ?

 

ชูส หยิบหวีในกระเป๋ามาหวีผม

แล้วเดินไปหาพาร์เทล

 

ชูส:ฉันสกิดนายหลายที่แล้วเจ้าโง่!

ชูส:มั่วแต่ไปกวนพวกนั้นอยู่ได้!!

พาร์เทล:ไม่เป็นอะไรฉันยกโทษให้

ชูส:ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยไอ้เจ้าโง่!!

 

ลูปพีย์ เดินมาหาชูสและพาร์เทลพร้อมถือกระดานที่มีข้อความเขียนไว้ว่า

 

"มันแสดงให้เห็นว่าพวกแกมันเป็นพวกเอาตัวรอด

ทิ้งเพื่อน ทำอะไรไม่คิด งี่เง่า"

 

ชูส:นายหนีไปก่อนฉันเลยไม่ใช่หรือไง?

 

ลูปพีย์ ลบข้อความแล้วเขียนข้อความใหม่่

 

"ฉันไม่ได้หนีฉันไปเตรียมอาวุธมาให้พวกนาย

เพราะฉันรู้ว่ามันต้องเกินอะไรขึ้น ฉันรู้ว่า

พวกนายมันพลาดแค่ไหน"

 

ลูปพีย์ ชี้ไปที่กองอาวุธที่มีพวกมีด ดาบ ปืน

 

ฮัสเทอร์:เอาหน่าใจเย็นๆกันก่อนวัยรุ่น

ฮัสเทอร์:พวกเธอกลับบ้านกันได้แล้ว

พาร์เทล:เราคงกลับไม่ถูกหรอกคุณยาม

พาร์เทล:เรายังไม่รู้ด้วยซ่ำว่าเรามาที่นี้ได้ยังไง

 

ลูปพีย์สกิดลุงยามและแสดงข้อความบนกระดาน

 

"พวกเรามาจากประเทศ เคนโซ ภาคตะวันออกเฉียงใต้

และอยากรู้ว่าที่นี้คือประเทศ อิล ใช่หรือไม่"

 

พาร์เทล:อะไรนะ! ประเทศ อิล นี้มันอีกซีกโลกเลยนะเป็นไปไม่ได้หรอก!

ฮัสเทอร์:ใช่ ที่นี้คือ ประเทศอิล เขตลีฟอิล

ฮัสเทอร์:ฉันคิดว่าคงยากที่จะกลับแล้วแหละนะ

ฮัสเทอร์:..........

ฮัสเทอร์:ถ้ายังไงไปพักบ้านฉันกันก่อนไหม

ฮัสเทอร์:จนกว่าจะหาวิธีกลับได้ฉันให้พวกนายพักได้

ชูส:จะดีหรอครับ ยาม

ฮัสเทอร์:ไม่เป็นอะไรคนกันเอง

....

..

End Answer

**หมายเหตุ ตอนนี้เป็นตอนวางพล๊อตเรื่อง น

PS แก้ไขสีผมและสีชุดตัวละคร วันที่ 01 /05/2015

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

อ่านแล้วรู้สึกฮา xD ตัวละครคาแร็คเตอร์โดดเด่นมาก ชอบๆ

 

แล้วก็ เดี๋ยวว่างๆจะ FA ให้ละกัน ~

Link to comment
Share on other sites

"What Who Where Why"

Episode 01

"ทำไมเราต้องอยู่เฉยๆกันด้วย"

Ep01_zpsap6rmcx9.png

 

ภาพโดย: Mr.F

 

ช่วงเวลายามเช้าอันแสนจะสดใส แสงแดดอ่อนๆค่อยๆสาดส่องเข้ามายังตัวเมือง

ผู้คนเริ่มตื่น บางคนก็กำลังเดินไปทำงานกันแต่เช้ามืด บรรยากาศในเมืองถึงจะดูโทรมๆ

ในบางที่แต่ก็ดูสดใสเพราะชาวเมืองมีความสุข ที่นี้คือ เมือง พ๊อตออฟลีฟ (Pot of Left) เขตลิฟอิล

เมืองท่าทางทิศตะวันตกของเกาะ อิล (el)

 

แต่ว่า...

ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่มีวันสดใสในเมืองตอนเช้า...

 

ฮัสเตอร์:ฉันไปก่อนแหละฝากดูแลบ้านด้วยแหละ

 

ลูปปี เขียนข้อความลงในกระดานและยื่นให้ฮัสเตอร์ดู

“ได้ครับยาม”

 

นี้ก็เป็นอีกวันที่ยามฮัสเตอร์ต้องออกไปทำงานแต่เช้าเขาทำหน้าที่

ของเขาได้ดีเยี่ยมทุกๆวัน

 

เวลาผ่านไปเร็วมากหลังจากที่พวกเขามาอยู่ได้

สี่วันเต็มๆในประเทศที่ไม่คุ้นแห่งนี้

ทุกๆวันพวกเขาออกไปหาวิธีกลับบ้านของเขา

 

แต่ว่า....

ก็ไม่คืบหน้าไปเลยสักนิดเดียว..

 

......

....

 

ลูปพีย์ หลังจากที่มาส่งยามไปทำงานลูปพีย์ได้

แต่คิดว่าเขาใช่เวลาโดยเปล่าประโยชน์ทุกๆวันที่ผ่านมา..

 

ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ

(เสียงเคาะประตู)

 

พาร์เทล:เข้ามาได้~!? ประตูไม่ได้ล๊อก

 

เอียดดดดดด...

(เสียงเปิดประตูเบาๆ)

 

พาร์เทล:สวัสดียามเช้า ลูปพีย์

 

พาร์เทลนอนตากแดดอ่อนๆยามเช้าจากหน้าต่าง

พร้อมหน้าตาอันยิ้มแย้มแจ่มใสเช่นทุกวัน

 

ชูส:สวัสดีตอนเช้า..

 

ชูสใส่แว่นกันแดดและนั่งหวีผมตัวเองพร้อมส่องกระจก

และก็เป็นอย่างเช่นทุกๆวัน เขาพยายามทำตัวเท่แบบทุกๆวัน

 

 

เฮียเลน:สวัสดี.....ยามเช้า....

 

เฮียเลนนั่งหดตัวตรงมุมห้องด้วยความหวาดระแวง

ตามนิสัยเดิมๆอย่างเช่นทุกวัน

 

ลูปพีย์เขียนข้อความบนกระดาน

"อืม...สวัสดีทุกคน.."

 

ลูปพีย์ยืนมองรอบๆห้อง โดยใช้สายตาที่ดูไม่เป็นมิตรเช่นทุกๆวัน

ภายในห้องเป็นห้องโล่งมีแต่ใยแมงมุมและผนังห้องโทรมๆ

เขาถอนหายใจก่อนเขียนข้อความลงในกระดานแล้วเคาะประตูเบาๆ

ให้ทุกคนหันมาอ่าน

 

"ฉันว่าเราต้องอยู่ที่นี้อีกนาน

ฉันอยากให้ทุกคนออกไปทำงานหาเงิน

แบ่งเบาภาระลุงยามจะได้ไม่ต้องมาจ่ายเงิน

เลี้ยงพวกเราที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแค่นี้ก็รบกวน

มามากพอแล้ว"

 

พาร์เทล เดินไปหาลูปพีย์แล้วกอดคอลูปพีย์อย่างเป็นมิตร

 

พาร์เทล:เครียดแต่เช้าเลยนะลูปพีย์

พาร์เทล:ใจร่มๆแล้วผ่อนคลาย

พาร์เทล:มองออกไปนอกหน้าต่างสิ

พาร์เทล:แสงแดดอ่อนๆสาดส่องเขามา

พาร์เทล:ราวกับว่าเตือนเราให้รู้ว่ามันกำลังจะเทียง...

 

พาร์เทลทำหน้าผ่อนคลายพร้อมกอดคอลูปพีย์

แสดงอาการบรรยายภาพราวกับว่าเป็นศิลปินอธิบายผลงานศิลปะ

..

ลูปพีย์หยิบกระดานมาฝาดหน้าพาร์เทลด้วยความหงุดหงิด

ลูปพีย์เป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจังทุกๆครั้งที่เขาตั้งใจอะไรสักอย่าง

ทุกอย่างต้องเป็นตามใจเขา

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดาน

"นายเคยคิดสงสัยไหมว่าทำไมเราต้องอยู่เฉยๆกันด้วย"

"เพราะเราต้องอยู่นานมากจากที่ฉันวิเคราะห์แล้ว"

 

เฮียเลนลุกขึ้นและมองหน้าลูปพีย์

ลูปพีย์พยายามหลบสายตาที่ขี้สงสัยของเฮียเลน

 

เฮียเลน:นานขนาดไหนนนน~!?

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงในกระดาน

"อาจมากกว่า 4 เดือนเพราะตั๋วเครื่องบินที่นี้มันแพงมาก!

ถ้าทุกคนรวมกันก็ประมาณ 250000el"

 

ชูส เก็บหวีและกระจกไว้ในกระเป๋าที่เขาถือมาด้วย

ชูสหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาและดูปฎิทิน

 

ชูส:ฉันคิดว่าลูปพีย์พูดถูกฉันออกไปหางานดีกว่า

.....

...

 

ชูสเอามือล้วงกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากห้องแบบเท่ๆ

...

ลูปพีย์ลากคอเสื้อชูสกลับมาพร้อมแสดงข้อความบนกระดาน

"อย่าพึงไป กวาดห้อง กวาดใยแมงมุมปัดฝุ่นก่อนแล้วค่อยไป"

"อย่าช้ารีบไปทำซะ"

 

ชูส:เรื่องมากจังนะนายเนีย

 

หลังจากนั้นทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาดห้อง

เสร็จอย่างรวดเร็วและแยกย้ายกันออกไปหางาน

 

.......

....

 

บนทางเดินอันแสนจะธรรมดาบรรยากาศรอบๆถนนมีแต่ทุ่งนาและลมพัด

ผ่านเบาๆ พาร์เทลและเฮียเลนเดินออกมาหางานทำด้วยกัน

 

เฮียเลน:ทำไมฉันต้องมากับนายด้วยเนียยยย

เฮียเลน:แล้วนี้นายจะไปไหนนน

เฮียเลน:ที่นี้มันจะมีงานจริงๆหรอออ?

 

เฮียเลนยืนกอดอกและเดินตามหลังพาเทลและบ่นมาตามทาง

 

พาร์เทล:มันเป็นความผิดของเธอที่กลัวระแวงไปซะทุกอย่าง

พาร์เทล:เจ้าแว่นขี้หงุดหงิดลูปพีย์เลยส่งฉันมากับเธอ

 

พาร์เทล เดินกระโดดเล่นไปตามทาง

 

เฮียเลน:แล้วนั้นนายกำลังจะไปไหน?

พาร์เทล:แหล่งขุมทรัพย์ที่จะไปเติมเต็มห้องที่ว่างเปล่า..

พาร์เทล:พูดถึงปุ๊บก็ใกล้จะถึงแล้ว

เฮียเลน:นายแน่ใจนะว่าที่นี้แหล่งขุมทรัพย์อะ

 

พาร์เทล และ เฮียเลน ยืนมองหน้าประตูทางเข้ากองขยะประจำเมือง

กลิ่นที่นี้ก็เหมือนขยะแต่ยังดีที่ที่นี้เป็นที่แยกขยะรีไซเคลมีขยะเศษเหล็ก

ของใช้ไฟฟ้าเก่าๆถูกทิ้งไว้ที่นี้อยู่เต็มไปหมด

 

พาร์เทล:นี้แหละไม่ผิดหรอก..

 

พาร์เทล และ เฮียเลน เดินเข้าไปในกองขยะ

สีหน้าเฮียเลนดูจะแอบรังเกียจกองขยะเล็กน้อยเพราะเธอ

ค่อนข้างจะกลัวว่าที่นี้มันจะมีอุบัติเหตุ ด้วยความเคยชินของเฮียเลน

เฮียเลนจึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาและใช้มือกำ กำปั้นแล้วไปปิดไว้บริเวณปาก

 

พาร์เทล:ตอนฉันยังเด็กฉันชอบหนีมาหาของในกองขยะแบบนี้แหละ

พาร์เทล:ฉันเบื่อพ่อกับแม่ของฉันที่พยายามให้ฉันเรียนพิเศษ

เฮียเลน:ฉันว่าเรากลับกันเถอะนะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยย..

พาร์เทล:ฮาๆ เธอนี้ขี้ระแวงจริงๆ

 

พาร์เทลหยุดเดินเฮียเลนหยุดเดินตามไปด้วย

 

พาร์เทล:อ่า..นี้เลยฉันเจอของดีแล้ว

 

เฮียเลนทำหน้าสงสัย

พาร์เทลไปค้นกองขยะอย่างสนุกสนานและขนโทรทัศนเก่าๆออกมา

จากกองขยะให้เฮียเลนดู

 

พาร์เทล:นี้ไง สภาพพอได้หน้าจอไม่แตก

เฮียเลน:ฉันว่า....มันพังแล้วนะ..

พาร์เทล:ของแบบนี้ไม่แบกกลับไปลองเสียบปลั๊กดูไม่รู้หรอก

 

"เฮ้!! สงโทรทัศนนั้นมาให้ฉันนะ!"

 

ชายผมรกรุงรังแต่งตัวมอมแมม ใส่แว่นตากรอบกลมๆมีรอยร้าวที่เลนต์

ใส่ชุดเสื้อคลุมสีขาวที่เปือนคราบน้ำมันและฝุ่นมาเยอะราวกับไม่ได้ซัก

มานานหลายปี เขาเดินล้วงกระเป๋าในเสื้อคลุมเดินท่าทางเหมือนคนเมา

มาหาพาเทล

 

พาร์เทล:นี้น้าเป็นใคร ทีวีนี้ผมเจอก่อนนะ!

 

"ถ้าถามว่าฉันเป็นใครแหละก็ฉันก็พร้อมที่จะแถลงไข"

"เพื่อปกป้องโลกจากการถูกทำลาย"

 

เฮียเลน:ดะ เดียวนะคะน้านั้นมันประโยค การ์ตูนช่วงเช้าไม่ใช่หรอ

 

"อย่าขัดตอนคนอื่นพูดมันเสียมารยาทนะคุณผู้หญิง"

"เสียความรู้สึกหมด!"

 

อีเวนเทอร์:ฉันชื่อ อีเวนเทอร์!

อีเวนเทอร์:ฉันเป็นนักประดิษฐที่เก่งที่สุดใน ศตวรรษที่ 22!

*หมายเหตุ ในเรื่องนี้นับ ศักราช หลังเหตุการณ์ AfterWar (A.W) ซึ่งปัจจุบันเป็นปี A.W 2116

พาร์เทล:อย่ามาโกหกเลยน้า

เฮียเลน:แต่งตัวมอมแมมแบบนี้ไม่น่าจะใช่นะน้าคะ

พาร์เทล:ใครๆก็รู้ ประดิษฐ์ ดี เป็นเจ้าแห่งนักประดิษฐ์แห่งศตวรรษนี้

พาร์เทล:เป็นผู้ที่ปฎิวัติวงการนักประดิษฐ์และเป็นต้นแบบแกยุคใหม่ที่แท้จริง!

อีเวนเทอร์:อ้า! อย่าพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยิน!

อีเวนเทอร์:ฉันเป็นรองแค่ยั้ยเด็กผู้หญิงนั้นคนเดียวเท่านั้นแหละ

อีเวนเทอร์:ถ้าไม่ใช่เพราะยั้ยนั้นฉันอาจกลายเป็นสุดยอดและไม่ได้มาอยู่ในกองขยะแบบนี้หรอก!

พาร์เทล:ถ้าน่าเก่งจริงงั้นซ่อมทีวีนี้ให้ผมหน่อย

เฮียเลน:ไหนนายบอกว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ไง?

พาร์เทล:งั้นหรอ งั้นฉันกลับคำมันพังแล้วแหละ

อีเวนเทอร์:ฉันจะพิสูจน์ให้นายดูว่าฉันเก่งแค่ไหน แค่ทีวีฉันซ่อมได้อยู่แล้ว

อีเวนเทอร์:ตามฉันมาที่ห้องเครื่อง!

 

พาร์เทลหันหน้าขยิบตาด้านซ้ายของตัวเองให้เฮียเลนดู

 

 

......

....

 

บ้านของอีเวนเทอร์ห่างจากกองขยะไม่กี่เมตรก็ถึงแล้ว

 

อีเวนเทอร์:ยินดีตอนรับสู่ห้องประดิษฐ์ของฉัน

 

พาร์เทลและเฮียเลนเดินเขามาในห้องมองไปรอบๆ เห็นอุปกรณครบแต่ดูเก่าๆโทรมๆ

มีเศษเหล็กเศษต่างๆกองเต็มพื้นราวกับว่าห้องนี้เป็นกองขยะแหล่งที่ 2

 

พาร์เทล:ก็ไม่เลวนะครับ

อีเวนเทอร์:เอาทีวีมานี้!

 

อีเวนเทอร์ แบกทีวีจากมือพาร์เทลแล้วเอาไปวางบนโต๊ะทำงานของเขา

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มซ่อมมันโดยใช่อุปกรณ์ที่อยู่บนโต๊ะ

 

อีเวนเทอร์:รอฉันสัก 3 ช.ม ฉันจะซ่อมให้นายและแฟนของนาย

เฮียเลน:ฉันไม่ใช่แฟนของเจ้าบ้านี้นะ!?

พาร์เทล:ใช่ๆฉันไม่ใช่แฟนของยั้ยจอมมโนขี้ขลาดนี้หรอก

พาร์เทล:ผมลืมแนะนำตัว ผมพาร์เทลยั้ยขี้ขลาดนี้ เฮียเลน

 

อีเวนเทอร์:อืมๆ เป็นแค่เพื่อนสินะ หน้าเศร้าจังเลยนะ

เฮียเลน:ก็เพื่อนนะสิ!

อีเวนเทอร์:ระหว่างรอลองเดินไปรอบๆดูสิ่งประดิษฐิของฉันไปนะ

 

......

....

 

ตอนเริ่มสาย แดดเริ่มร้อน บรรยากาศในเมืองเริ่มมีผู้คนออกมาเดิน

มีตึกรายล้อมแต่ไม่สูงมากยังคงธรรมชาติของเมืองเล็กๆ

 

ชูส ได้เดินมาหางานในเมืองแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรดี

 

ชูส:เฮ้อ..ถึงจะบอกให้ฉันหางานแต่ฉันไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรดี

 

ชูสเดินเตะฝุ่นเดินในเมืองราวกับคนตกงาน

 

"เฮ! นี้คุณคนใส่แว่นดำตรงนั้นแหนะ"

 

ชายคนหนึ่งใส่ชุดลายแปลกๆ ใส่หมวกรูปตัวเค ใส่แว่นตา ร่างกายผอมบาง กวักมือเรียกชูส

ด้วยความนิ่มนวล

 

"พอจะมีเวลาว่างไหมครับ พอดีผมกำลังขนของไปจัดแสดงอยากให้ช่วยหน่อยครับ"

 

ชูส:ผมกำลังหางานและต้องการเงินถ้าไม่ได้ค่าตอบแทนทำไม่ทำนะครับ

 

"ก็ได้ครับผมจะให้ค่าตอบแทนแต่มาช่วยผมขนของก่อน"

 

ชูส:ก็ได้ครับ ผมชูสยินดีที่ได้รู้จัก

 

.....

...

พาร์เทล:นี้น้านักประดิษฐ์ อะไรใหญ่ๆที่มีผ้าคลุมไว้เนียรูปปั้นหรอครับ

 

พาร์เทลยืนมองสิ่งประดิษฐ์ขนาดใหญ่ที่ผ้าคลุมไว้

ในขณะเดียวกัน เฮียเลนก็นั่งพักตีปิงปองใส่กำแพงเล่น

 

เฮียเลน:ฉันรักปิงปองฉันชอบมัน

 

เฮียเลนตีปิงปองกระเด็นมาโดนหน้าตัวเอง

 

เฮียเลน:เฮ้อ...

 

อีเวนเทอร์ นั่งซ่อมโทรทัศนอยู่บนโต๊ะทำงาน

 

อีเวนเทอร์:เจ้าสิ่งนั้นนะหรอ!!

 

อีเวนเทอร์ เอามีทุบโต๊ะและชี้ไปที่สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้

 

อีเวนเทอร์:นั่นคือ อีวี สองหนึ่งศูนย์ศูนย์ เซนจูรีย์สเปเชียล โปรเจก

(Ev 2100 CenturySpecialProject)

อีเวนเทอร์:หรือเรียกย่อๆว่า อีวี สองพันหนึ่งร้อย ซีเอสพี

พาร์เทล:มันคืออะไรอะครับ?

อีเวนเทอร์:ลองเปิดผ้าดูสิ

 

อีเวนเทอร์นั่งลงและรีบซ่อมโทรทัศนให้เสร็จ

พาร์เทล ลองเปิดผ้าคลุมออก สิ่งที่พาร์เทลเห็นทำให้พาร์เทลตะลึง

 

พาร์เทล:นี้มัน...

 

พาร์เทลอ้าปากค้างสายตาของพาร์เทลเป็นประกาย

 

อีเวนเทอร์:ใช่แล้วนี้คือหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ใช้คนบังคับ มีระบบอัจริยะ

สามารถป้อนคำสั่งให้มันทำงานอัตโนมัติได้

 

พาร์เทล:มันดูเหมือนหุ่นยนต์ในการ์ตูนที่มันโหดๆตูมตามเลยนะเนีย

 

อีเวนเทอร์:มันเคยเป็นหุ่นยนต์ต้นแบบที่เคยรบมาก่อน

อีเวนเทอร์:แต่ว่ามันก็เก่าแล้วอะนะ

อีเวนเทอร์:ระบบมันก็ชอบรวน

อีเวนเทอร์:ฉันเลยเก็บเข้ากรุไว้แบบนี้แหละ

อีเวนเทอร์:เอาแหละทีวีซ่อมเสร็จแล้ว

 

ตูม!!

(เสียงระเบิด)

เพล้ง พลั่ง แกร๊ก

(เสียงสังกระสี และอื่นๆหล่นลงมา)

 

หลังคาบ้านของอีเวนเทอร์เป็นรู้โหว่เนื่องจากหุ่นยนต์ได้ต่อยหลังคาบ้าน

ในหุ่นยนต์ พาร์เทลเข้าไปลองนั่งขับอยู่ข้างใน

พาร์เทลมองลงไปข้างล่างผ่านกระจกบางๆตรงที่นั่งคนขับที่อยู่บนหัวหุ่นยนต์

 

 

อีเวนเทอร์:พูดไม่ขาดคำ ลงมาเดียวนี้นะ!

พาร์เทล:แฮ่ๆ โทษทีครับ

 

พาร์เทลปีนลงมาจากที่นั่งคนขับแต่ว่าพลาดไปดูปุ่มบ้างอย่างเข้า

 

พาร์เทล:นี้น้าปุ่มเหลืองๆนี้มันอะไรครับ

อีเวนเทอร์:แกรีบเข้าไปปิดเดียวนี้!

 

"เริ่มระบบทำงานอัตโนมัติ"

(เสียงระบบในหุ่นยนต์ดังขึ้น)

 

หุ่นยนต์เริ่มขยับ พาร์เทลร่วงลงมาจากหุ่นยนต์ด้วยความตกใจ

เฮียเลนที่กำลังตีปิงปองอยู่หันไปมองแล้วตกใจอย่างสุดขีด

 

เฮียเลน:นั้นมันอารายยยยยยยยยย!!!

เฮียเลน:มันกำลังขยับ!!

เฮียเลน:หายนะกำลังเกิดแล้วววว!!!

 

เฮียเลนสติแตกเพราะความกลัว

จึงวิ่งออกจากบ้านของอีเวเทอร์ด้วยความกลัวและตกใจ

 

พาร์เทล:แล้วต่อจากนี้มันจะทำอะไรต่อหนิน้า

 

อีเวนเทอร์:ฉันตั้งระบบเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเก็บมันเข้ากรุ

 

อีเวนเทอร์:มันก็จะเดินตรงดิ่งไปที่เมืองและทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า!

พาร์เทล:รวมเราด้วยใช่ไหมน้า

อีเวนเทอร์:อืม..

 

หุ่นยนต์เริ่มเดินไปข้างหน้าช้าๆและเริ่มทำลายสิ่งของที่ขว้างทางด้วย

แขนมือและเท้าของมันมันหมุนแขนยกแขน

ขยับแขนและทำลาย อย่างบ้าคลั่ง

ทุกอย่างรอบๆแตก ระเบิด กระจาย

พาร์เทลและอีเวนเทอร์ วิ่งหนีหุ่นยนต์

 

พาร์เทล:มีวิธีหยุดมันไหมน้า!!

อีเวนเทอร์:มี! แกต้องขึ้นไปปิดข้างบนปุ่มเหลืองนั้น

อีเวนเทอร์:ต้องรีบไปปิดก่อนที่มันจะไปถึงในเมือง!!

พาร์เทล:แล้วผมจะขึ้นไปข้างบนนั้นยังไง!

อีเวนเทอร์:ฉันคิดแผนดีๆออกแล้วตามฉันมาเร็ว!

 

พาร์เทลวิ่งตามอีเวนเทอร์ไปด้วยความตื่นเต้น

 

.....

...

 

 

อินเวนเทอร์:มันมาแล้ว! เอาเลย! พาร์เทล!

พาร์เทล:ได้เลยครับน้า!

โชคยังดีที่บริเวณแถวบ้านอีเวนเทอร์เป็นทุ่งนาโล่ง

จึงไม่มีความเสียหายมากนัก!

พาร์เทลใช้ลวดสลิงมาพันขาของหุ่นยนต์

ด้วยการวิ่งรอบๆหุ่นยนต์

 

พาร์เทล:เอาเลยน้า!

อีเวนเทอร์:เอาแหละ!

 

อีเวนเทอร์ ใช้ปลายอีกด้านของลวดสลิงเกียวไว้กับรถยนต์คันเก่าๆของเขา

และขี่รถยนต์สวนทางกับการเดินของหุ่นยนต์

 

พาร์เทล:พยายามเข้าน้ามันใกล้จะล้มแล้ว

อีเวนเทอร์:ไปเลยลูกพ่อ!

 

อีเวนเทอร์หยีบคันเร่งเต็มสปีด

แต่ว่า..

....

สายสลิงขาดและรถของอีเวนเทอร์ที่หยีบคันเร่งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว

อีเวนเทอร์กระโดดออกมาจากรถได้ทันก่อนรถจะพุ่ง

 

ตูม!!

(เสียงระเบิด)

 

รถที่พุ่งไปชนกับต้นไม้แถวนั้นจนรถระเบิด

พาร์เทลอ้าปากค้างกับรถที่ระเบิด หุ่นยนต์ก็กำลังเคลือนที่เข้าสู่เมือง

อย่างบ้างคลั่ง

 

พาร์เทลวิ่งเข้าไปช่วยอีเวนเทอร์ที่กำลังกองอยู่กับพื้น

 

พาร์เทล:เป็นอะไรไหมน้า!

อีเวนเทอร์:ไม่เป็นอะไรหรอก!

พาร์เทล:อย่าพึงท้อสิน้าเรายังไม่ลองระเบิดมันดูเลย

อีเวนเทอร์:หุ่นตัวนี้มันทนแรงระเบิด

อีเวนเทอร์:มันจบสิ้นแล้ว...เมืองแห่งนี้...

 

พาร์เทล และ อีเวนเทอร์ หลับตาไว้อาลัยแก่เมือง

สายลมพัดอ่อนๆราวกับว่าจะย่ำเตือนว่าพวกเขานั้นทำผิดพลาด

 

 

.........

.....

..

 

 

 

"แก!! หุ่นยนต์บ้า! สัตว์ประหลาด! แก! แก!"

"อ๊ากกกกกก!!"

 

เฮียเลน วิ่งเข้าไปหาหุ่นยนต์พร้อมกับปาก้อนหินใส่หุ่นยนต์อย่างคนเสียสติ

 

อีเวนเทอร์:เพื่อนหญิงของนายบ้าไปแล้ว

พาร์เทล:เฮียเลน!!

 

เฮียเลน:ออกไป! ออกไป! ออกปายยยยยยยย!!

 

เฮียเลนใช้ก้อนหินปาเข้าไปที่หุ่นยนต์แบบไม่หยุด

หุ่นยนต์ใช้แขนของมันพุ่งเข้าไปฟาดที่เฮียเลน

                                                          

พาร์เทล:เฮียเลน!!!

 

แพล้ง!!

(เสียงกระจกแตก)

 

หุ่นยนต์ตัวนั้นหยุดลงพร้อมท่าที่กำลังฟาดค้างไว้

 

พาร์เทล:............

อีเวเทอร์:......................

 

เฮียเลนยังไม่หยุดปาก้อนหินใส่หุ่นยนต์

 

เฮียเลน:หยุด! หยุดทำไม!

เฮียเลน:หรือว่า หรือว่าแกจะราาาาเบิดดดด!!

เฮียเลน:ว๊ายยยยยยยยยยยย!

 

เฮียเลนวิ่งสติแตกหนีเข้าไปในเมือง

 

พาร์เทล:มันเกิดอะไรขึ้น

อีเวนเทอร์:ก้อนหินน่าจะบังเอิญไปโดนปุ่มคนขับ

พาร์เทล:ไหนน้าบอกว่ามันทนระเบิดไงโดนแค่ก่อนหินกระจกห้องคนขับก็แตกแล้ว

พาร์เทล:ช่างมันเถอะครับ...คือ......ผมไปเอาทีวีของผมแล้วกลับนะน้า

พาร์เทล:ขอให้โชคดีกับการเก็บกวาดขยะพวกนี้นะครับ...

 

 

พาร์เทลวิ่งหนีออกมาจากอีเวนเทอร์

 

.......

....

 

อาทิตย์เริ่มตกดินแสงเริ่มสลัว เข้าสู่ช่วงเย็น

ชาวเมืองที่ไปทำงานต่างกลับไปยังที่พักของตัวเอง

และพักผ่อนร่างกายจากการเหนื่อย...

.....

..

 

พาร์เทล:พวกนายต้องไม่เชื่อแน่ฉันว่าฉันได้อะไรมา

 

พาร์เทลนำเสนอ

"โทรทัศนจอสีรุ่นเก่า"

 

ชูส:นายได้มันมาได้ยังไงเนีย

พาร์เทล:ฉันไปเก็บมาจากกองขยะ

ชูส:แล้วลูปพีย์ได้อะไรกลับมามั่ง?

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงในกระดาน

"ฉันได้เงินมา 50el จากการไปล้างจานทำความสะอาดร้านอาหาร"

 

ชูส:พวกนายนี้โชคดีจังเลยนะ

ชูส:ฉันช่วยไอ้คนงี่เง่าคนนึงทั้งวันแต่ได้แค่...

.....

...

ย้อนกลับไปตอนที่ชูสเลิกงาน

ชายคนที่จ้างชูสหยิบภาพเขียนจากในห้องของเขาออกมา

 

ชูส:ของหมดแล้วครับ

 

"อืม ขอบคุณมากเลยนะครับ"

"นี้ค่าจ้างของคุณครับ"

"มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก มากที่สุด~"

 

ชายคนที่จ้างชูสยื่นภาพเขียนของตัวเองให้ชูส

 

ชูส:ล้อเล่นใช่ไหมครับ?

 

"นี้ค่าจ้างจริงๆครับ"

"ผมคงต้องไปแล้ว"

"ผมชื่อ จิตรกร เค หรือเรียกสั่นๆว่า เค ก็ได้ครับ"

 

จิตรกร เค ขึ้นรถขนของแล้วขับออกไปปล่อยให้ชูสยืน

นิ่งๆพร้อมภาพเขียน

 

....

..

 

พาร์เทล:แล้วนายทำยังไงกับภาพนั้น?

 

ชูส:ระหว่างเดินกลับแถวๆทางไปกองขยะ

ชูส:มีคนมาขอภาพหน่ะ

ชูส:ฉันเลยยกภาพนั้นให้

 

ชูสนั่งหวีผม

 

พาร์เทล:นายน่าจะเอามาแปะผนังห้องนะ

พาร์เทล:ช่างมันเถอะนะไปดูทีวีกันเถอะนะ

 

พาร์เทล เปิดโทรทัศน์ และ ทุกคนก็นั่งดูด้วยกันอย่างตื่นเต้น

 

(เสียงในโทรทัศน์)

 

"สวัสดีครับนี้คือรายการ.."

"พบศิลปิน"

"วันนี้เราได้เชิญแขกรับเชิญมาในวันนี้ขอเชิญพบกับ"

"จิตรกร เค ช่างทาสีที่เก่งที่สุดในโลก"

 

ชูส:ไอ้หมอนี้แหละ...ที่มันให้ภาพฉัน

 

(เสียงในโทรทัศน์)

"ก่อนอื่นเลยขอถามก่อนเลยนะครับ"

"ได้ข่าวว่าคุณจัดงานแสดงภาพวาดของคุณที่ ไลคอิล"

"มีการประมูลภาพของคุณด้วยหรอครับ"

"มันก็...ก็ใช่ครับนอกจากประมูลแล้ว"

"ผมก็อยากให้ ภาพของผมไปอยู่ในที่ๆคนอื่นต้องการ"

"ทุกๆภาพของผมมีความหมาย ผมรักพวกมัน~"

"ได้ข่าวว่าภาพเขียนของคุณราคาภาพขั้นต่ำทุกภาพที่คนประเมินค่า"

"ประมาณ 1000000 el นี้จริงหรอครับ"

"ไม่ๆ ทุกภาพของผมประเมินค่ามิได้แต่ว่าผมต้องใช้เงินจึงจำเป็นต้องขาย~"

"แล้วพวกเขาก็ตั้งราคาเองทั้งนั้นครับ"

"แล้ว--

....

..

 

ชูส:.........

ลูปพีย์ และ พาร์เทล มองหน้าชูสที่นั่งอ้าปากค้าง

 

พาร์เทล:...

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดาน

"พาร์เทล เฮียเลนหายไปไหน?"

 

พาร์เทล:แย่แหละสิ!...

พาร์เทล:เฮียเลน!

.....

...

 

เฮียเลนนั่งร้องไห้คนเดียว

 

เฮียเลน:หือๆใครก็ด้ายช่วยฉันที~

เฮียเลน:ฉันอยากกลับบ้าน..

เฮียเลน:ทุกคนนไปไหนกันหมด...

 

ในเมืองยามค่ำคืนอันแสนจะเงียบสงบ

ผู้คนต่างพากันหลับนอนเพียงแต่ว่า..

มีผู้หญิงตัวคนเดียวนามว่าเฮียเลนนั่งกลัว ความมืดและอันตราย

ที่ซอกตึกอยู่ในเมืองตามลำพังคนเดียว

 

....

...

 

Answer

End

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

เวรกำ เฮียเลยโดนทิ้งซะงั้น พาร์เทล นายดูแลเพื่อนยังไงเนี่ย =A=''

 

ฮาตอนหุ่นยนต์ lol ส่วนชูสก็ซื่อบื้อจริงๆเล้ยยยย

 

เริ่มมีการเอา OC ออกมาใช้แล้วสินะ อยากเห็นหมอกับโปรแกรมเมอร์เร็วๆจัง *-*

Link to comment
Share on other sites

“What Who Where Why”

Episode 02

“อะไรคือต้นไม้ในกระถาง”

Ep02_zps9bzgixoo.jpg

 

มันก็ผ่านมาอีกวันสำหรับการเดินทางของกาลเวลา

คนกลุ่มนี้ก็เช่นกันนับตั้งแต่พวกเขามาอยู่ในที่ๆไม่คุ้นตา

ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว พวกเขาได้เริ่มต้นทุกอย่างใหม่

ภายในบ้านอันแสนจะอบอุ่นที่ทรุดโทรมของชายแก่

นามว่าฮัสเทอร์ พวกเขาได้เริ่มเสกสรรค์ปั้นแต่ง

จากห้องโล่งๆจนตอนนี้กลายเป็นห้องที่เริ่มจะมีของที่จำเป็นทุกอย่างแล้ว

ด้วยความพยายามของพวกเขา ทั้ง โต๊ะเก่าๆ เก้าอี้เก่าๆ เตียงขนาดใหญ่เก่าๆ

ผ้าปูพื้น นาฬิกาเก่าๆ ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ เป็นต้น

และตอนนี้พวกเขาเริ่มจะตั้งตัวด้วยการออกไปทำงานเพื่อ

ที่จะเก็บเงินกลับบ้านของพวกเขาเพื่อไปเรียนหนังสือและ

กลับไปหาพ่อกับแม่ของพวกเขา...

....

..

 

บนมือของลูปพีย์ถือกระดานเอาไว้พร้อมข้อความบนกระดาน

"นี้คือโหลเก็บเงินของพวกเรา"

"ทำงานกลับมาแต่ละวันควรหยอดอย่างน้อย 35% ของเงินที่ได้มา"

 

ลูปพีย์ลบกระดานด้วยความเร็วปกติพร้อมเขียนข้อความลงไป

"เฮียเลน,พาร์เทล เธอได้งานทำหรือยัง"

 

พาร์เทล นั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้วบอกกับลูปพีย์ว่า

 

พาร์เทล:ฉันยังไม่ได้งานเลย~

 

เฮียเลนยกมือขึ้นและมองไปที่ลูปพีย์

 

เฮียเลน:ฉัน...ฉันได้งานแล้ว..วันพรุ่งนี้ฉันจะไปดูแลสวนแถวๆทางเหนือของเมืองงงง

พาร์เทล:ให้ฉันไปทำงานด้วยได้ไหม?

เฮียเลน:ให้ฉันไปตายซะดีกว่าที่จะไปกับนาย..

 

เฮียเลน จับคอเสื้อพาร์เทลพร้อมเขย่าตัวพาร์เทล

 

เฮียเลน:ตลอดวันที่ผ่านมาฉันเกือบตายเพราะนายหลายทีแล้วรู้ม๊าย!!!

พาร์เทล:หยุด! หยุดได้ม๊ายยย!

 

เฮียเลนเขย่าคอเสื้อพาร์เทลออย่างรุนแรงด้วยความโมโห

 

.....

...

 

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มสว่างเต็มที่ ก็ถึงเวลางานกันแล้ว

ลูปพีย์ ทำงานอยู่ร้านอาหารเป็นพนักงานล้างจานและทำความสะอาด

รายได้ของเขาดีขึ้นหลังจากที่ลูปพีย์ทำความสะอาดร้านอาหารและล้างจาน

ด้วยนิสัยของเขาที่เป็นคนทำอะไรต้องเปะสุดๆจึงทำให้เขาประสบความสำเร็จกับงานนี้

ชูส หลังจากที่ทุกคนไปทำงาน สิบ นาทีก็ตื่นนอนและไปทำงานที่ร้านขายของเป็น

พนักงานขายของด้วยความอดทนของชูสจึงทำให้งานราบรื่นไปด้วยดี

พาร์เทล ความเรื่องมากและงี่เง่าของพาร์เทลทำไม่มีงานทำในตอนนี้แต่พาร์เทลก็

พยายามหางานทำแม้ว่าพาร์เทลจะค่อนข้างขี้เกียจก็ตาม บางวันพาร์เทลก็ไปช่วย

อีเวนเทอร์ทำงาน เพื่อหาของใช้ที่จำเป็นมาไว้ในห้องของพาร์เทลเพื่อนๆ

และวันนี้...เป็นวันที่ เฮียเลนได้งานเป็นครั้งแรกหลังจากได้มาอยู่ที่เมือง พ๊อตออฟลีฟ

เธอไปเจอประกาศโดยบังเอิญหลังจากที่เธอออกไปเดินเล่นเพื่อหางาน

 

....

..

 

ช่วงทางตอนเหนือของเมือง บรรยากาศเป็นป่าพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่

แต่ว่าก็ยังมีบ้านคนเล็กน้อยที่บริเวณรอบๆทางเข้าป่า

และที่นี้มีสถานที่แห่งหนึ่งโรงกระจกที่น่าจะนำมาเพาะพันธุ์พืชมีพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมาก

ราวกับว่าที่นี้คือแหล่งจัดแสดงพรรณไม้แห่งหนึ่งของโลก..

 

เฮียเลน กดกริ่งหน้ารั่วประตูทางเข้าสถานที่

ที่เรียกว่า "หอต้นไม้แห่งพ๊อตออฟลีฟ"

 

เฮียเลน:มีใครอยู่ไหมคะ!

เฮียเลน:ฮัลโหล!?

เฮียเลน:ฉันมาสมัครงานตามใบนี้..

 

แกร๊ง! ครืด.........

(เสียงประตูรั่งเปิดออก)

 

ฟิววววว......

(เสียงลม)

 

เมือประตูเปิดออกเฮียเลนได้เดินเขาไป

บรรยากาศค่อนข้างจะดูหน้าวังเวงลมเย็นๆพัดผ่านตัวเฮียเลน

เฮียเลนรู้สึกกลัวนิดๆ ขาของเธอเริ่มสั่นเพราะความเย็น

ถ้าเป็นเธอยามปกติเธอจะพยายามเดินเลี่ยงออกไปจากสถานที่แบบนี้

แต่เธอไม่เธอก้าวขาเข้าไปด้วยความกล้าของเธอเพื่อให้ได้งาน

ด้วยความเคยชินเวลาเธอกลัวเธอจึงเฮียเลนจึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมา

และใช้มือกำกำปั้นแล้วไปปิดไว้บริเวณปาก

ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆใบไม้พัดปลิวมาจากต้นไม้เมือเดินเขาไปเรื่อยๆ

บริเวณรอบๆเริ่มเป็นสถานที่คล้ายๆป่า บรรยากาศยิ่งดูวังเวงยิ่งขึ้น

ถ้าเปรียบเป็นเสียงเพลงก็คงประมาณว่าเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกวังเวง

เหงื่อของเฮียเลนเริ่มออกทั้งๆที่อากาศรอบๆเย็นๆ

และเธอก็มาถึงหน้าตึกสีขาวๆที่มีเถาวัลย์และตะไคร้น้ำเกาะไว้

เธอยืนอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ด้วยความตื่นเต้น

 

เฮียเลน:มีใครอยู่ไหมค่ะฉันมาสมัครงานคะ

 

ประตูไม้บานใหญ่เปิดออก ...

มีชายผมยาวแต่ไม่ยาวมาก ผูกผ้าคาดผมสีสันสดใส

แต่งตัวสีสันสดใส่ใส่เสื้อกั้กสีน้ำตาล ตรงคอห้อยสร้อยสัญลักษณ์สันติภาพ

เดินหลังแอนไปข้างหน้า

ทำหน้านิ่งๆและเดินเข้ามาหาเฮียเลนพร้อมบัวรดน้ำ

 

เฮียเลน:คุณคือคนรับสมัครงานใช่ไหมค่ะ?

 

ชายคนนั้นมองไปรอบๆ

 

"อ้า สายลม... มันพัดผ่านที่นี้"

"มันพัดทุกๆวัน โดยที่มันไม่รู้ตัว"

"ทุกสิ่ง ทุกอย่าง"

"มันเกิดขึ้นและมันก็หายไป"

 

วอล์:ฉันชื่อ วอล์ เป็นคนดูแลที่นี้

วอล์:เจ้านาย...ของฉันให้ฉันมาดูแลที่นี้...

วอล์:และให้ฉัน...รับสมัครคนงานถ้าฉันต้องการ

เฮียเลน:คือว่าฉันชื่อเฮีย--

วอล์:ตอนนี้ฉันต้องการผู้ช่วย...

วอล์:และฉันได้เห็น....ดอกไม้ที่ผลัดหลงเขามาในพงหญ้า

วอล์:ไม่ทราบว่าดอกไม้ ของฉันชื่ออะไรหรอครับ?

เฮียเลน:ฉัน...ชื่อเฮียเลน...

วอล์:เฮียเลน งั้นหรอ? ดูเหมือนคุณจะเป็นดอกไม้ฝั่งตะวันออก

วอล์:ดูจาก...ตัวคุณแล้วคุณเหมือนดอกไม้ที่กำลังหวาดกลัว

วอล์:ผมขอเรียกคุณว่า เลน แล้วกัน...

วอล์:เอาแหละเชิญเข้ามาชม ดินแดนมหัสจรรย์และแฟนตาชีกันเถอะ..

 

วอล์เดินนำหน้า เฮียเลนเข้าไประหว่างทางเดินเป็นตู้กระจก

ที่หลังบานกระจกเป็นพืชพรรณไม้นานาชนิดเต็มไปหมด

มีทั้งแปลกตาและธรรมดาๆ ด้วยความที่เฮียเลนเป็นคนขี้สงสัย

จึงทำให้ตื่นเต้นมากและคิดคำถามไว้ในสมองเต็มไปหมด..

 

วอล์:นี้ เลน คุณจะมาทำงานที่นี้คุณรู้จักพืชพวกนี้ดีหรือยัง?

เฮียเลน:ฮะ... คือไม่มีพื้นฐานเลยคะ

วอล์:เลน คุณรู้ไหมต้นไม้พวกนี้มันก็เหมือนกับคนมันมีทัศน ความต้องการไม่เหมือนกัน

วอล์:ถ้าจะให้คุณทำงานจริงๆ ผมจะไม่ให้คุณแตะแม้กระทั้งรดน้ำ

วอล์:คุณต้องไปศึกษาตำรามาให้ระเอียดเกี่ยวกับต้นไม้

วอล์:ที่เหลือถ้าไม่มีในตำราผมจะบอก

 

วอล์ หยิบกระดาษออกมาพร้อมปากกา

 

วอล์:เลนครับนี้่คือหนังสือสัญญาว่าจ้างงาน

วอล์:ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับที่นี้ก็เหมือน

วอล์:โลกแฟนตาซีมีทั้งความสวยงามและโหดร้าย

วอล์: เลน คุณเลือกเอาว่าจะเป็นดอกไม้ในป่าใหญ่ที่นี้

วอล์:หรือ ไปเป็นดอกไม้นักเดินทางต่อไป...

วอล์:เงินที่นี้รับเป็นรายวันวันละ 80el

วอล์:แต่คุณจะได้อะไรมากกว่าเงิน 80el แน่นอนผมสัญญา

 

เฮียเลนรู้สึกตื่นเต้นและพยายามตัดสินใจ

ด้วยความที่เธอสงสัยในธรรมชาติของที่นี้เธอจึงตัดสินใจเซนต์สัญญาจ้าง

 

วอล์:เอาแหละ เลน ดอกไม้ผู้สงสัยและระแวง

วอล์:ผมจะให้คุณไปดูงานแรกของคุณกันเลยนะครับ

เฮียเลน:ค่ะ...

 

วอล์เดินนำหน้าเฮียเลนไปยังห้องแห่งหนึ่งเมือเปิดประตูเข้าไปในห้อง

ก็พบกับหนังสือและตัวอย่างพรรณไม้อยู่เต็มห้อง

ราวกับว่าที่นี้เป็นห้องสมุดยังไงอย่างงั้น

 

วอล์:เอาแหละงานแรกของคุณคือ อ่านหนังสือพวกนี้ให้หมดทุกเล่ม

วอล์:แล้วพยายามวิเคราะห์ ผมจะให้ทดสอบคุณเมื่อคุณพร้อม

วอล์:หากผ่านการทดสอบของผมผมจะเลื่อนขั้นให้คุณเป็นคนรดน้ำต้นไม้

วอล์:และขึ้นเงินเดินให้คุณเป็น 250el

 

เฮียเลนกำลังคิดในใจตอนนี้เฮียเลนกำลังเจอบททดสอบหนัก

เฮียเลนมีความรู้สึกเหมือนว่าเธอได้เรียนรู้และได้มีความรู้สึกเหมือนสอบเข้า

มหาวิทยาลัย เธอรู้สึกตื่นเต้นแบบสุดๆในสมองของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่า

หลงรักงานนี้ไปซะแล้ว

 

วอล์:วันนี้เป็นวันแรก ผมจะพาไปเดินทัวร์ ที่นี้พื้นที่ที่นี้ยาวหลาย ก.ม

วอล์:ป่าข้างหลังนี้ก็คือทรัพย์สินของเราเช่นกัน

วอล์:ที่นี้เป็นที่ๆ มนุษย์อย่างเราไม่ควรมาอยู่แต่มันก็นะ..

 

วอล์พาเฮียเลนเดินทัวร์สถานที่ๆวิเศษแห่งนี้ ที่นี้ราวกับว่าเป็นแหล่งความรู้

มีป้ายติดไว้บอกว่าพรรณพืชไหนเป็นพรรณพืชไหนเต็มไปหมด

ที่นี้เงียบสงบได้ยินเสียงน้ำตกจากไกลๆ บรรยากาศที่นี้ราวกับนิยายแฟนตาชี

มีพืชพรรณที่แปลกประหลาดหลากหลายชนิด

วอล์พาเฮียเลนเดินชมและเข้าไปในป่าลึก

แม้ว่าเฮียเลนจะกลัวแมลง ระแวงป่าก็ตาม

แต่เธอก็มีความสุขเหมือนเธอได้มาเดินเทียว

 

วอล์:ที่นี้มีกฎอยู่ข้อนึงห้ามทำเด็ดขาดถ้าไม่ขออนุญาติ

เฮียเลน:อะไรหรอค่ะ?

วอล์:ห้ามเปิดประตูหลังตู้หนังสือเด็ดขาดไม่ว่าจะยังไง

วอล์:มันจะเกิดเรื่องวุ่นวายมากถ้าเธอเปิด

เฮียเลน:มันจะเป็นยังไงหรอค่ะ?

วอล์:มันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันต้องบอกเธอ

....

..

 

"ฮัลโหล!? มีใครอยู่ที่นี้ไหม"

"ผมจะมาสมัครงาน"

 

เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังมาจากหน้าประตูรั่ว

 

วอล์:อ่า... คุณ เลน ดูเหมือนว่าคุณจะมีคู่แข่งแล้วนะครับ

เฮียเลน:คู่แข่งหรอ ค่ะ?

วอล์:คุณเลนครับไปรอผมที่ห้องรวมหนังสือนะครับ

วอล์:ผมต้องแนะนำอะไรบ้างอย่างให้คนที่พึงมาใหม่

 

วอล์เดินจากเฮียเลนไป

 

....

..

 

หลังจากนั้นไม่นานวอล์ก็เดินกลับมาที่ห้องรวมหนังสือ

มาพร้อมกับชายที่เฮียเลนเคยเห็นหน้ามาก่อนตอนที่เธอมาที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก

ผมสีเทาข้างหน้าผมยาวเป็นตาเอาไว้ข้างหนึ่ง

แต่คราวนี้แต่งชุดแบบคนปกติใส่เสื้อสีดำลายหัวกระโหลกกางเกงขาสั้น

หลังจากที่เฮียเลนได้เห็นชายคนนั้นเธอตกใจมากและเริ่มรู้สึกกลัวนิดๆ

ชายคนนั้นได้ยื่นต่อหน้าเธอและแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

 

ฮิกเทอร์:สวัสดีครับผมชื่อฮิกเทอร์ยินดีที่ได้รู้จัก..

 

ด้วยความกลัวชายคนนี้นิดๆของเฮียเลน

เธอพยายามข่มความกลัวเอาไว้ในใจของเธอ

และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ

 

เฮียเลน:ฉัน..ชื่อเฮียเลน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ

....

..

 

ในใจของเฮียเลนเต็มไปด้วยความกลัวถึงเธอพยายามข่มความกลัวเอาไว้

แต่หารู้ไม่ว่า วอล์ได้สังเกตจากท่าทางและดวงตาของเธอ

 

เฮียเลน และ ฮิกเทอร์ เงียบลงหลังแนะนำตัวกันเสร็จ

ทั้งสองหันหน้าไปหาวอล์

วอล์หลับตาลงและได้พูดประโยคหนึ่งออกมาจากปากของเขาหลังตั้งสมาธิ

 

"ต้นไม้ในกระถาง"

"สองต้นในหนึ่งกระถาง"

"ธรรมชาติที่ต่างกัน"

"ทั้งดอกไม้ และ ดอกหญ้า"

 

วอล์ลืมตาขึ้นมาและมองหน้า เฮียเลน และ ฮิกเทอร์

 

วอล์:ประโยคที่ฉันพูดเมื่อกี้เก็บเอาไปคิดด้วยนะ

วอล์:โดยเฉพาะคุณเลน

วอล์:พรุ่งนี้ ตีห้าตรึ่งมาที่นี้ห้ามสายเด็ดขาด

วอล์:วันพรุ่งนี้ผมจะพาลุยงาน

 

....

..

 

หลังจากที่สนทนากันเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับไปยังที่ของคนเอง

เพื่อไปพักผ่อนและเริ่มงานในตอนเช้า

....

..

 

บรรยากาศยามเย็นในบ้านที่เป็นอาคาร สองชั้นลักษณะโทรมๆ

ยามฮัสเทอร์ ลูปพีย์ ชูส และ พาร์เทล กำลังนั่งกินอาหารเย็น

ด้วยกันบนโต๊ะยาวที่อยู่บริเวณห้องครัว และ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เว้นแต่ลูปพีย์ที่นั่งกินเงียบๆคนเดียวบนโต๊ะ

 

กริ๊งๆ

(เสียงกริ่งหน้าประตู)

 

ฮัสเทอร์:ฉันไปเปิดเอง

 

ยามฮัสเทอร์เดินไปเปิดประตูและ

เห็นเฮียเลนเดินมาด้วยท่าทางที่เมื่อยล้า

พร้อมแบกหนังสือมาหลายเล่มเต็มหลัง

 

ฮัสเทอร์:ทำงานเป็นยังไงบ้างเฮียเลน?

เฮียเลน:ก็...ดีคะ...

เฮียเลน:ขอตัวก่อนนะคะ

 

เฮียเลนเดินขึ้นไปในห้องแบบเงียบๆพร้อมหนังสือที่แบกมาเยอะ

ลูปพีย์นั่งมองเฮียเลนด้วยความสงสัยแบบเงียบๆ

เช่นเดียวกันกับทุกคนที่เริ่มรู้สึกเครียดหลังได้เห็นหน้าของเฮียเลน

 

ฮัสเทอร์ปิดประตูและเดินเกาหัวมานั่งที่โต๊ะอาหาร

 

ฮัสเทอร์:เฮียเลนไปทำงานอะไรมา เห็นสีหน้าเครียดๆ

ชูส:เห็นเธอบอกว่าไปทำงานเป็นคนดูแลต้นไม้แถวๆทางเหนือของเมือง

 

ฮัสเทอร์:ที่นั้นเองนะหรอ?

ฮัสเทอร์:ฉันเคยไปเที่ยวที่นั้นอยู่เหมือนกันนะ

ฮัสเทอร์:ฉันบอกตรงๆว่ารู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก

ฮัสเทอร์:ราวกับว่ามีใคร อะไร บ้างอย่างกำลังจับจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

ฮัสเทอร์:ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้เธอออกมาหางานใหม่ซะ..

 

 

รรยากาศยามเย็นในบ้านที่เป็นอาคาร สองชั้นลักษณะโทรมๆ

ยามฮัสเทอร์ ลูปพีย์ ชูส และ พาร์เทล กำลังนั่งกินอาหารเย็น

ด้วยกันบนโต๊ะยาวที่อยู่บริเวณห้องครัว และ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เว้นแต่ลูปพีย์ที่นั่งกินเงียบๆคนเดียวบนโต๊ะ

 

กริ๊งๆ

(เสียงกริ่งหน้าประตู)

 

ฮัสเทอร์:ฉันไปเปิดเอง

 

ยามฮัสเทอร์เดินไปเปิดประตูและ

เห็นเฮียเลนเดินมาด้วยท่าทางที่เมื่อยล้าและเครียด

พร้อมแบกหนังสือมาหลายเล่มเต็มหลัง

 

ฮัสเทอร์:ทำงานเป็นยังไงบ้างเฮียเลน?

เฮียเลน:ก็...ดีคะ...

เฮียเลน:ขอตัวก่อนนะคะ

 

เฮียเลนเดินขึ้นไปในห้องแบบเงียบๆพร้อมหนังสือที่แบกมาเยอะ

ลูปพีย์นั่งมองเฮียเลนด้วยความสงสัยแบบเงียบๆ

เช่นเดียวกันกับทุกคนที่เริ่มรู้สึกเครียดหลังได้เห็นหน้าของเฮียเลน

แต่ยกเว้นพาร์เทลที่นั่งกินอาหารด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส

 

ฮัสเทอร์ปิดประตูและเดินเกาหัวมานั่งที่โต๊ะอาหาร

 

ฮัสเทอร์:เฮียเลนไปทำงานอะไรมา เห็นสีหน้าเครียดๆ

ชูส:เห็นเธอบอกว่าไปทำงานเป็นคนดูแลต้นไม้แถวๆทางเหนือของเมือง

 

ฮัสเทอร์:ที่นั้นเองนะหรอ?

ฮัสเทอร์:ฉันเคยไปเที่ยวที่นั้นอยู่เหมือนกันนะ

ฮัสเทอร์:ฉันบอกตรงๆว่ารู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก

ฮัสเทอร์:ราวกับว่ามีใคร อะไร บ้างอย่างกำลังจับจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

ฮัสเทอร์:ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้เธอออกมาหางานใหม่ซะ..

 

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปในกระดานแล้วยืนให้ทุกคนดู

"ฉันว่าฉันไปถ้าเฮียเลนดูดีกว่านะ ฉันไม่ค่อยเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นเลยนะ"

 

พาร์เทล แอบนั่งอมยิ้มและขำเบาๆพร้อมอาหารเต็มปาก

 

พาร์เทล:เป็นห่วงกันจังเลยนะ

พาร์เทล: ฮาๆ ฮะๆ แอ๊ก--

 

แค่ก! แค่ก!

(เสียงพาร์เทลสำลักอาหาร)

 

ลูปพีย์หยิบน้ำในแก้วมากรอกปากพาร์เทล

 

พาร์เทล:อ่า...นึกว่าจะตายซะแล้ว..

พาร์เทล:ไม่ต้องเป็นห่วงยั้ยนั้นหรอกหน่ะ

พาร์เทล:เฮียเลนก็เป็นแบบนั้นแหละตอนกำลังตื่นเต้นและดีใจ

พาร์เทล:ฉันสัมผัสได้จากจิตใจและอารมณ์ในจิตใต้สำนึก

 

พาร์เทล นั่งกินอาหารต่อแบบสบายใจ

 

ชูส:ก็นะเราเครียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก

ชูส:พาร์เทลพูดถูกแล้ว เชื่อท่านชูสเถอะนะ

 

ชูส นั่งหวีผมตัวเองและส่องกระจก

ลูปพีย์ ทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนั่งหยิบหนังสือที่แอบไปยืมห้องสมุดขึ้นมาอ่าน

 

ฮัสเทอร์:จะว่าไปพวกนายฉันเห็นใส่ชุดเดิมตั้งแต่มาที่นี้แล้วไม่เน่าบ้างเลยหรือไง?

พาร์เทล:ไม่หรอกครับ พวกเราโชคดีมีเงินติดกระเป๋าตังเลยได้ซื้อเสื้อราคาถูกๆเอาไว้

พาร์เทล:พวกเราใส่ชุดแบบนี้เฉพาะตอนออกไปทำงานครับ

พาร์เทล:อีกอย่างพวกเราซื้อเสื้อคล้ายๆแบบนี้มาหลายตัวด้วยครับ..

ฮัสเทอร์:อืมๆ

 

.....

...

 

ลูปพีย์ เขียนข้อความลงไปในกระดานแล้วยืนให้ทุกคนดู

"ฉันว่าฉันไปถ้าเฮียเลนดูดีกว่านะ ฉันไม่ค่อยเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นเลยนะ"

 

พาร์เทล แอบนั่งอมยิ้มและขำเบาๆพร้อมอาหารเต็มปาก

 

พาร์เทล:เป็นห่วงกันจังเลยนะ

พาร์เทล: ฮาๆ ฮะๆ แอ๊ก--

 

แค่ก! แค่ก!

(เสียงพาร์เทลสำลักอาหาร)

 

ลูปพีย์หยิบน้ำในแก้วมากรอกปากพาร์เทล

 

พาร์เทล:อ่า...นึกว่าจะตายซะแล้ว..

พาร์เทล:ไม่ต้องเป็นห่วงยั้ยนั้นหรอกหน่ะ

พาร์เทล:เฮียเลนก็เป็นแบบนั้นแหละตอนกำลังตื่นเต้นและดีใจ

พาร์เทล:ฉันสัมผัสได้จากจิตใจและอารมณ์ในจิตใต้สำนึก

 

พาร์เทล นั่งกินอาหารต่อแบบสบายใจ

 

ชูส:ก็นะเราเครียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก

ชูส:พาร์เทลพูดถูกแล้ว เชื่อท่านชูสเถอะนะ

 

ชูส นั่งหวีผมตัวเองและส่องกระจก

ลูปพีย์ ทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนั่งหยิบหนังสือที่แอบไปยืมห้องสมุดขึ้นมาอ่าน

 

ฮัสเทอร์:จะว่าไปพวกนายฉันเห็นใส่ชุดเดิมตั้งแต่มาที่นี้แล้วไม่เน่าบ้างเลยหรือไง?

พาร์เทล:ไม่หรอกครับ พวกเราโชคดีมีเงินติดกระเป๋าตังเลยได้ซื้อเสื้อราคาถูกๆเอาไว้

พาร์เทล:พวกเราใส่ชุดแบบนี้เฉพาะตอนออกไปทำงานครับ

พาร์เทล:อีกอย่างพวกเราซื้อเสื้อคล้ายๆแบบนี้มาหลายตัวด้วยครับ..

ฮัสเทอร์:อืมๆ

 

.....

...

 

ในห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยที่ลูปพีย์ดูแลเป็นอย่างดีเพราะความเจ้าระเบียบ

ในขณะที่ทุกคนไปกินข้าวเย็น เฮียเลนได้นั่งอ่านหนังสือบนโต๊ะ

อย่างสนใจและตั้งใจ เธอไม่ได้อ่านเพราะอยากเลื่อนขั้น

เธอไม่ได้อ่านเพราะกลัวแพ้ เธอไม่ได้อ่านเพราะความกลัว

แต่เธออ่านเพราะความสนใจ เฮียเลนนั่งอ่านหนังสือจนดึก

ในขณะที่คนอื่นๆหลับกันหมด แต่ด้วยความเมื่อยล้าเธอจึงฟุบหลังที่โต๊ะของเธอ

อากาศเย็นพัดผ่านมาจากทางหน้าต่าง ในยามค่ำคืนได้ยินแต่เสียงลมพัด

บรรยากาศเงียบสงบ เฮียเลนนอนหนาวอยู่บนเก้าอี้คนเดียว

เก้าอี้สั่นดัง ปักๆ ปักๆ เป็นจังหวะราวกับเครื่องเคาะจังหวะ

ด้วยความที่ลูปพีย์เป็นคนนอนหลับยาก

ลูปพีย์จึงหอบผ้าห่มไปห่มให้ เฮียเลนด้วยความลำคาญ

และ ปิดโคมไฟที่โต๊ะเฮียเลนด้วยที่ว่าแสงนั้นแสบตา

เฮียเลนปัดผ้าห่มออกจากตัวและนอนสั่นเหมือนเดิม

ลูปพีย์ห่มให้อีกครั้งด้วยความลำคาญ

แต่หารู้ไม่ว่าเฮียเลน นั้นตื่นอยู่และนอนยิ้มอยู่คนเดียวด้วยความตลก

ที่เธอได้แกล้งลูปพีย์ให้นอนดึกได้สำเร็จ

....

..

หลังจากที่ทุกคนในห้องหลับกันหมดทุกคน

ได้มีแสงประหลาดลอยอยู่นอกหน้าต่างราวกับว่า

มันกำลังแอบจ้องมองใครบ้างคนอยู่

......

..

 

เฮียเลน วิ่งมาทำงานด้วยความรีบเร่งให้ตรงเวลา

เธอตื่นสายเพราะอ่านหนังสือดึกและแกล้งลูปพีย์ทั้งคืน

 

เฮียเลน:ฉันมาแล้วคะคุณวอลลลลล

 

เฮียเลนมายืนข้างหน้าวอล์โดยที่เฮนลี่ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว

 

วอล์: เลน คุณมาสายเกิน 1 นาทีผมของหักเงินวันนี้ 10el

เฮียเลน:ว่ายังไงนะ?

วอล์:ในหนังสือสัญญามันเขียนไว้อยู่

วอล์:ทุกนาที ที่เธอมาช้าต้นไม้กำลังรออาหารของพวกมันอยู่นะครับ

วอล์:เอาหล่ะทุกคนแบกของทั้งหมดนี้แล้วตามผมมา..

วอล์:ได้เวลาดูแลโลกอันแสนจะสวยงามนี้แล้ว

....

...

 

เวลาเดินทางไปตามหน้าที่ของมัน มนุษย์ก็ทำหน้าที่ขอมนุษย์

ต้นไม้ก็ทำหน้าที่ของต้นไม้ ในบางครั้งเราก็เลียงไม่ได้ที่จะไม่พบเจอกับความลำบาก

สิ่งที่คิดอยู่ในใจของเฮียเลนในตอนนี้มีแต่ความเมื่อยล้า เธอต้องแบกบัวรดน้ำ พรัว จอบ เสียม

หนังสือ อาหารเที่ยง และอุปกรณ์อื่นๆ กลางแสงแดดและความชื้นอบอาวของป่า

แต่เธอยังดีกว่า ฮิกเทอร์ที่ต้องแบกกระสอบปุ๋ย ในตอนช่วงเช้าตัวเธอต้องเปียกเพราะน้ำค้าง

พอตอนเทียงเธอต้องทนตากแดด พอตกเย็นเธอต้องทนอากาศหนาว

ที่สำคัญเธอก็ยังรู้สึกกดดันกับบ้างสิ่งที่เธอรู้สึกนิดๆ

แต่ที่หน้าแปลกคือ วอล์กลับไม่เป็นอะไรเลยราวกับว่าเขาไม่มีวันเหนื่อย

แต่เฮียเลนก็ทนทำงานหนังเพราะความชอบและทุ่มเทกับงานของเธอ

เธอทำงานแบบนี้ ทุกวัน ทุกวัน สิ่งที่เธอได้มันไม่ใช่แค่เงิน

แต่มันเป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้จากวอล์และความรู้จากประสบการ์ณที่เธอสร้างมันขึ้นมาเอง

เฮียเลนยังได้เป็นเพื่อนกับฮิกเทอร์ หลังจากทำงานได้สักพักเธอก็เริ่มไม่กลัวฮิกเทอร์

และไว้ว่างใจฮิกเทอร์เป็นอย่างมากในฐานะเพื่อนร่วมงาน

เธอมีความสุขมากกับงาน

แต่เธอต้องแลกด้วยความเมื่อยล้าที่เธอได้รับหลังกลับบ้าน

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง...

 

เฮียเลน:ฉันไปก่อนนะฮิกเทอร์ฝากล๊อกประตูห้องรวมหนังสือด้วยนะ

ฮิกเทอร์: .....ไม่ต้องห่วง

 

เฮียเลน เดินออกนอกประตูรั่วและเธอก็พบว่าเธอลืมกระเป๋าเงินไว้ในห้องหนังสือ

เฮียเลนกุมขมับและเดินกลับเข้าไปเอาแบบเงียบๆ..

ในระหว่างที่เธอเดินเข้าไปเธอรู้สึกกดดันมากกว่าปกติราวกับว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

สัญชาตญาณของเฮียเลนรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมา

เธอตัวสั่นมาก ในใจเฮียเลนคิดอย่างเดียว่ารีบไปเอาแล้วรีบออกมา

บรรยากาศทางระหว่างเข้าไปดูหมองมัวเพราะเป็นตอนเย็นใกล้จะค่ำ

เสียงแมลงพวกจิ้งหรีด เริ่มร้องดังหลังตู้กระจกข้างๆทาง

มีลมเย็นๆพัดเข้ามาเบาๆที่ให้เฮียเลนขนลุก

....

..

เมื่อเธอแง้มประตูกำลังจะเข้าไปในห้องหนังสือเธอสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ

....

...

เธอพบว่าฮิกเทอร์กำลังทำอะไรบ้างอย่างในห้องรวมหนังสือ

ซึ่งถ้าสังเกตดีๆแล้ววอล์ถูกจับมัดไว้พร้อมคราบเลือดที่อยู่ตรงศรีษะ

เลือดไหลนองเต็มพื้นไปหมด

 

ตัวใจเธอเต้นรั่วมาก เฮียเลนตื่นเต้น และ กลัวมาก

เหงื่อของเธอไหลออกมาเยอะซะยิ่งกว่าตอนเดินแบกของตอนกลางวัน

 

แกร๊ก!

(เสียงลูกบิดดัง)

 

เฮียเลนเผลอบิดลูกบิด

 

ฮิกเทอร์หันหน้ามาพร้อมกับประแจที่อยู่ในมือ

เฮียเลนตกใจมากจึงรีบวิ่งไปหลบที่หลังประตู

.....

...

..

 

ตึก! ตึก!....

(เสียงฝีเท้าที่เดินบนไม้กระดานในห้องรวมหนังสือ)

..

...

 

เลือดหยดไหลตามมือฮิกเทอร์มาเป็นทาง

เฮียเลนได้กลิ่นคาวเลือด

.....

...

เสียงเริ่มดังเข้ามาใกล้เฮียเลนเรื่อยๆ

..

...

เอียดดดด

(เสียงเปิดประตู)

.....

ฮิกเทอร์มองไปรอบๆข้างนอกแต่ไม่เห็นใคร

เฮียเลนพยายามข่มตัวเองไม่ให้สั่น

ฮิกเทอร์ปิดประตูเบาๆ..

.....

...

 

หลังจากที่ฮิกเทอร์ปิดประตูเฮียเลนก็แอบส่องดูทางช่องเสียบคุณแจด้วยความสงสัย

และเธอหยิบโทรศัพท์มือถือเธอออกมากดเบอร์โทรศัพท์โทรหาตำรวจ แต่ว่าสัญญาณไม่มี

 

....

..

 

ปัง!!

(เสียงประตูกระแทกหน้าเฮียเลน)

.....

..

เฮียเลนล้มละและหมดสติและพร้อมเลือดที่ไหลออกจากศรีษะ

ฮิกเทอร์ตกใจมากจึงลากเฮียเลนเข้าไปไว้ในห้อง

...

..

.

 

ตึง!!

(เสียงกระแทกอย่างรุนแรง)

 

เมื่อออกจากความมืดเฮียเลนลืมตาขึ้นและเธอมองไปรอบๆพบว่า

ภายในห้องหนังสือมีสภาพรกรุงรัง ราวกับว่าเกิดหารต่อสู้กันเกิดขึ้น

เมือเธอตั้งสติได้ เธอพบว่ามีแสงประหลาดกำลังสู้อยู่กับฮิกเทอร์

มันใช้ตัวของมันกระแทกเข้าไปที่เป้าของฮิดเทอร์ทำให้ฮิกเทอร์ล้มลง

เมื่อตั้งสติได้ฮิกเทอร์รีบวิ่งหนีออกจากสถานที่แห่งนี้...

เฮียเลนนั่งมองตาปริบๆ ไปที่แสงประหลาดนั่น

และ เผลอหลับลงไป

....

..

 

โง่!

(เสียงดังมาจากแสงประหลาด)

 

เฮียเลน:ฮะ! เกิดอะไรขึ้น!

 

เฮียเลนตื่นจากการหลับ

 

โง่! โง่! โง่! โง่

(เสียงดังออกมาจากแสงประหลาดอีกรอบ)

 

เฮียเลน:นายหรือเธอ ช่วยฉันไว้หรอ...

 

โง่!

(เสียงดังออกมาจากแสงประหลาดอีกครั้ง)

 

เฮียเลน:อ๊ากกก! ฉันพูดดีๆแล้วหน๊าาา!

เฮียเลน:ไอ้เจ้าโง่ฉันจะเรียกแกว่าอย่างนี้นะ

 

แสงประหลาดวิ่งรอบเฮียเลน

 

โง่:มองไปนอกหน้าต่าง! มองไปนอกหน้าต่าง!

เฮียเลน:อะไรหรอ?

 

เฮียเลน มองออกไปนอกหน้าต่าง

 

เฮียเลน:ไม่เห็นมีอะไรเลยยยย

 

โง่: โง่!

 

เฮียเลน:อ๊ากกกกกกก!

 

แสงประหลาดวิ่งรอบเฮียเลนด้วยความตื่นเต้น

 

โง่:ฉันขอเงินหน่อย!

เฮียเลน:ไม่!

โง่:มองไปนอกหน้าต่าง

 

เฮียเลนเผลอมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

โง่:โง่! โง่!

 

เฮียเลนวิ่งไล่จับ เจ้าแสงประหลาดที่เธอตั้งชื่อว่า โง่

 

วอล์ตื่นขึ้นจากอาการสลบ

วอล์มองไปรอบๆเห็นสภาพที่รกรุงรังเ

เมื่อตั้งสติได้วอล์เห็นเฮียเลนกำลังวิ่งไล่ โง่

 

วอล์:หยุด!!

วอล์:เฮียเลนเธอมาทำอะไรที่นี้ อย่าบอกนะว่าเธอมาเปิดประตูหลังตู้นั้น!

เฮียเลน:ฉันเปล่านะ ฉันมาช่วยคุณ และคนที่ทำแบบนี้คือ ฮิกเทอร์

วอล์:ฉันผิดหวังกับเธอมากเลยนะ เลน

วอล์:ฉันคาดหวังกับดอกไม้อย่างเธอมากเกินไปสินะ

วอล์:โอ้วไม่...

เฮียเลน:ไม่เชื่อถามเจ้านี้ได้นะ!

 

เฮียเลนชี้ไปที่แสงประหลาด

 

วอล์:อืม...

วอล์:เจ้านั้นมากับเธอได้ยังไง?

เฮียเลน:ฉันโดนฮิกเทอร์เอาประตูกระแทกหน้าพอตื่นขึ้นมาก็เห็นเจ้านี้มาช่วยฉัน

วอล์:เฮ้อ....

วอล์:ช่วยไม่ได้..

วอล์:ฉันจะไม่เอาผิดกับเธอฐานเข้ามาเปิดประตูและไม่ไล่เธอออก

เฮียเลน:ก็บอกแล้วไงฉันไม่ได้ทำ ถามเจ้าโง่นี้ได้

โง่:มองไปนอกหน้าต่าง มองไปนอกหน้าต่าง

เฮียเลน:อย่าหันนะ คุณวอล์

วอล์:หันออกไปทางหน้าต่าง

...

..

โง่: "โง่"

 

วอล์เอามือกุมขมับแล้วบ่นว่า

 

วอล์:เจ้านี้กลายภูตต้นไม้ประจำตัวเธอแล้วนะ

วอล์:มันเกิดจากจิตใต้สำนึกของเธอ

วอล์:ดูแลมันดีๆและขยันรดน้ำมันด้วยแหละ

วอล์:ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับการยอมรับจากต้นไม้พวกนี้แล้ว

วอล์:ฉัน..ฉันไปนอนก่อนนะอย่าลืมเก็บกวาดด้วยแหละ...

 

วอล์เปิดประตูแล้วเดินออกไปอย่างเงียบ..

พร้อมกับเลือดที่เต็มหน้าเขา

ปล่อยให้เฮียเลนยืนงงอยู่คนเดียวกับโง่

 

เฮียเลน:คือ....มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนีย.....

โง่:ขอเงินหน่อย

เฮียเลน:ไม่!

โง่:มองไปนอกหน้าต่าง

 

เฮียเลนเผลอมองไปนอกหน้าต่าง

 

โง่:โง่!

 

เฮียเลน:อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!

 

END

Answer

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

What Who Where Why”

Episode 03

ใครคือพระเจ้า

 

Ep03s_zpszskwzokz.jpg

....

..

เอาแหละ พนักงานทุกคนท่องคำนี้ไว้ในใจ

เงินคือพรวิเศษ

ลูกค้าคือพระเจ้า

"ไปทำงานได้แล้วทุกคน!"

 

เป็นอีกวันที่หน้าเบื่อผมต้องมาทำงานทุกเช้า.. โดนปลุกอุดมการณ์ด้วยคำพูดแบบนี้ทุกเช้า

กับเจ้านายแก่ๆคนนี้ทุกวัน พนักงานประมาน 3-4 คงไม่ต่างกัน

ที่มีวันแย่ๆ แต่ก็เพื่อเงินจำนวน 110el ทุกวันทุกวันกับงานเป็นแคชเชียร์

ทุกๆวันต้องเจอกับลูกค้าหลายประเภท ทั้ง เชื่องช้า นิสัยแย่ งี่เง่า และ อื่นๆ

 

"เฮ้อ..."

 

 แต่ก็ต้องอดทนเพื่อเงิน

นี้มันคือสิ่งที่ผมคิดทุกวันหลังผมทำงานเสร็จทุกวัน

ผมชื่อชูส ชายที่หล่อที่สุดในและเจ๋งที่สุด

ทุกๆเช้าก่อนที่ผมจะไปทำงานก็ต้องเจอกับเพื่อนที่เหมือนเจ้านาย อย่างลูปพีย์

ค่อยสั่งการ สั่งนุ่นสั่งนี้ แต่ผมก็ยอมทำตามเพราะผมเชื่อใจในการบริหารของลูปพีย์

นอกจากเจ้านายแล้วผมก็ยังต้องเจอกับตัวบันทอนประสาทอย่างพาร์เทล

เจ้านี้มันบ้าชัดๆ แต่รู้ไหมเจ้านี้มันก็มีข้อดีของมันอยู่เหมือนกัน

แต่ไม่ค่อยจะแสดงออกมาสักเท่าไหร่คงเป็นเพราะอะไรสักอย่างที่เจ้าตัวไม่กล้าจะเปิดเผย

ต่อมาก็สาวน้อยขี้กลัวและขี้สังสัย เฮียเลน เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม

และเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมคิดว่าไม่มีเสน่ห์อะไรเลยสักนิด

ถึงเธอจะขี้กลัวบ่อยๆ

แต่ถ้าปลุกความกล้าและความบ้าเธอขึ้นมาแม้แต่ผมยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย

แต่ว่าช่วงนี้ตั้งแต่ได้งานเป็นคนสวนเธอก็เงียบๆลงจากที่เป็นคนขี้ระแวง

เธอมั่วแต่ค่อยรดน้ำต้นไม้ให้ต้นไม้ในกระถางเล็กๆ ของเธอ

อ่านหนังสือดึกทุกคืน จนผมคิดว่าเธอจะกลายเป็นพวกเนิร์ดไปซะแล้ว

แต่ก็อย่างว่าผู้หญิงเดาใจยากผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

....

..

 

 

ถึงผมจะหล่ออยู่แล้วแต่ผมก็ต้องรักษาความเนียบของผมเอาไว้

ผมชอบหวีผม หวีผมแบบนี้มานานแล้วมันกลายจากความชอบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้

 

"เฮ้ย! แอบอู้งานมาหวีผมทำไมห่ะ ไปทำงานได้แล้ว!"

เสียงเจ้านายชอบตะโกนใส่ผมแบบดังมาก

 

"ได้ครับ ได้... ครับผู้บัญชาการ"

ผมตอบกลับด้วนน้ำเสียงประชด

 

และก็เป็นทุกครั้งที่ผมโดนด่า

แต่น่าแปลกตรงที่ผมทำแบบนี้ทุกๆวันแต่กลับไม่โดนไล่ออก

 

....

..

 

ติ๊ด.... ติ๊ด.....ติ๊ด....

เสียงสแกนสิ้นค้าที่ผมได้ยินทุกๆวันจนหลอน

 

"ทั้งหมดรวม 13 รายการ 326el ครับ"

 

"รอแปบนะ พ่อหนุ่ม"

ผู้หญิงแก่พูดตอบกลับมาที่ผมหลังจากผมบอกยอดชำระสินค้า

 

ผมมองหน้าลูกค้าหญิงแก่ๆคนหนึ่งที่กำลังหาเงินในกระเป๋าถือ

ในขณะที่แถวเข้าคิวจ่ายเงินยาวมาก บรรยากาศดูวุ่นวายมากจนผมแทบจะบ้า

 

"เฮ้ย! ทำงานช้าจังเลยหะ!"

"ใช่ๆ ลูกค้ามีธุระนะ รีบคิดเงินเร็วๆ"

 

นี้ก็อีกหนึ่งอย่างที่ผมเบื่อมาก..

ลูกค้าไม่ดูลูกค้าด้วยกันเอง ใครเป็นคนผิดกันแน่

ความยุติธรรมไปไหนหมด..

 

"เฮ้อ.."

 

 

.....

..

 

วันนี้ผมได้เลิกงานเร็วอันเนื่องจากวันนี้เป็นวันที่มีพนักงานเกิดอุบัติเหตุที่ร้าน

ลูกค้าแกล้งพนักงานเอากระป๋องมาวางไว้ทางเดินในขณะที่พนักงานแบกของ

เลยทำให้พนักงานลื่นล้มบาดเจ็บหนัก

ถึงพวกที่แกล้งจะเป็นเด็กแต่ก็ควรจะมีจิตสำนึกบ้างนะ

 

"เฮ้อ..."

 

 

แสงแดดอ่อนๆบ่ายโมงใต้ร่มไม้ที่มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา

ผมนั่งตรงสวนสาธารณะตรงริมสระน้ำที่เป็นบึงกลางสวนสาธาณะ

ผมชอบมานั่งอยู่นี้ทุกวันหลังเลิกงานก่อนที่จะกลับบ้าน

แน่นอนผมชอบหวีผมและมองวิวเหมือนเช่นทุกๆวันผมได้แต่นั่งคิดอยู่คนเดียว

กับประโยคที่วนเวียนในหัวผม

 

ทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี้กันนะแล้วฉันเกิดมาทำไม

พระเจ้าท่านต้องการอะไรจากผมครับ

ถ้าท่านมีจริงช่วยบอกผมทีผมมาทำอะไรที่นี้

มีผมจุดหมายอะไร ผมมีจุดประสงค์อะไรในชีวิต ทำไมผมต้องเจอเรื่องแบบนี้

 

 

 

แค่กๆ...

 

และแล้วก็มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นผมนั่งอยู่เฉยๆมีคนมาไอข้างหลังผม

เมื่อผมหันหลังไป เพราะความสงสัยผมเห็นผู้หญิงคนนึ่ง

ผมยาวสีเขียว ใส่ผ้าคลุมสีแดง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสมาก

นัยตาของเธอ เต็มไปด้วยความหวังผมสัมผัสได้

แม้ผมจะไม่ค่อยมีเซนต์เรื่องมองคนเท่าไหร่

 

"คุณเป็นใครครับ มาทำอะไรที่นี้"

 

"ฉันชื่อ บี และฉันบังเอิญเห็นคนนั่งหน้าหงอยอยู่คนเดียวนายเป็นอะไรหรอ?"

 

เธอยิ้มและมองหน้าผมราวกับว่าพยายามอ่านใจผม

 

"ผมชื่อชูส"

"ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกไร้จุดหมาย"

และพูดไปโดยไม่ได้ยั้งคิด

 

นี้มันอะไรกันทำไมผมถึงพูดไปทั้งๆที่ผมไม่อยากพูด

 

เธอมองหน้าผมแล้วยืนยิ้ม

 

"นี้เธอ อ่านใจคนได้งั้นหรอ?"

 

"ฉันอ่านใจใครไม่ได้หรอกนะ แต่สีหน้าดวงตาท่าทางนายมันบอกฉันเอง"

"คนที่พยายามปกปิดอะไรสักอย่างมันจะมีจุดหนึ่งที่เด่นชัดมากเลยนะ.."

 

"เฮ้อ..."

ผมพยายามหันหน้าไปมองท้องฟ้าแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

"มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?"

เธอเดินมานั่งข้างๆผมอย่างไม่มีท่าทางกลัวคนแปลกหน้าอย่างผม

 

"ไม่มีอะไรหรอกครับ"

ผมตอบเธอไปอย่างรวดเร็วเพราะความเกรงใจ

เธอนั่งยิ้มและมองไปที่ท้องฟ้า

ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าเธอคิดอะไรกับผมหรือเปล่า

หรือเธอเป็นเพียงแค่คนเพียนๆที่บังเอิญผ่านมาเจอผม

 

"งั้นฉันขอรบกวนนายหน่อยนะ"

"พอดีีว่าช่วงนี่ฉันกำลังว่างไม่มีอะไรทำ"

"แล้วฉันก็มาเมืองนี้ตัวคนเดียวไม่มีเพื่อน"

"ไปเดินเทียวรอบเมืองกันไหมคะ?"

 

"ฮะ?"

ผมอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

 

"อืม..ก็ได้ครับ"

ผมตอบรับคำเชิญเธอไป

นั้นก็เพราะผมก็กำลังเบื่อๆไม่มีอะไรทำเช่นกัน

 

....

 

ไม่รอช้าผู้หญิงแปลกหน้าที่ชื่อบีคนนั้นก็จับแขนผมและดึงผมไปในขณะที่นั่งอยู่

ผมแทบวิ่งไม่ทันเธอเพราะเธอวิ่งเร็วมากราวกับว่าเธอฝึกมาเพื่อวิ่งโดยเฉพาะ

 

"ดะ...เดียวก่อนครับใจเย็นๆ"

 

เธอหยุดวิ่งกระทันหัน

 

"มีอะไรหรอคะ?"

เธอทำหน้าสงสัยและมองมาที่ผม

 

"คือ...ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ"

 

 

"แฮะๆ... ก็ได้คะ"

เธอยิ้มและเกาศรีษะของเธอ

 

.....

...

 

มันก็..เป็นบรรยากาศในเมืองแบบเดิมๆช่วงบ่ายแก่ๆ

ผมกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ชื่อ บี ก็ได้เดินเทียวในเมืองด้วยกัน

เธอพูดไม่หยุดเลยตั้งแต่เธอชวนผมมาเทียว

เธอแนะนำผมราวกับว่าเธอเป็นไกด์อยู่ที่นี้มาหลายปีแล้ว

แต่ที่หน้าแปลกคือเธอรู้สึกตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยมาที่นี้มาก่อน

ความรู้สึกตอนนี้ของผมทำให้ผมนึกถึงตอนอยู่กับพาร์เทล เธอมีนิสัยคล้ายๆกัน

เพียงแต่เธอเป็นผู้หญิงและไม่ได้บ้าขนาดพาร์เทล

 

....

..

 

"นี้ๆ นายอยู่ที่นี้มานานหรือยัง?"

เธอพูดกับผมในขณะที่พวกเรากำลังเดินเล่นอยู่ในเมือง

 

ผมตอบกลับเธอไปว่า

"ผมหรอครับ?..."

"อยู่มาได้ประมาณเกือบหนึ่งเดือนแล้วครับ"

 

เธอตอบกลับผมมาว่า

"นายมาทำอะไรในเมืองนี้หรอ?"

 

ผมตอบกลับ

"ผมก็..ไม่รู้เหมือนกันครับ..ผมรู้แค่ว่าผมกำลังหาเงินเพื่อที่จะกลับบ้าน"

 

เธอตอบกลับ

"พวกของนายกำลังแย่แล้วสินะ"

 

ผมทำหน้าสงสัยและตอบกลับไปว่า

"แย่อะไรหรอครับ?"

 

เธอทำหน้าจากหน้ายิ้มและมองไปทางอื่น

"เปล่าคะ ไม่มีอะไร"

หลังจากที่ผมเดินเที่ยวอยู่นานกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ชื่อบี

แล้วก็ถึงช่วงเย็นตอนประมาณห้าโมงเย็น

ผมกับเธอเดินผ่านเด็กกลุ่มหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นรุ่นน้องผมสัก 3 ปี

เธอหยุดนิ่งและมองไปที่กลุ่มเด็กกลุ่มนั้น

ในกลุ่มนั้นมีเด็กอยู่สามคนกำลังเล่นเกมการ์ดแอ๊คโทร

เป็นเกมการ์ดที่ผมชอบมากและผมสะสมการ์ดนั้นเป็นชีวิตจิตใจ

 

....

..

 

"มีอะไรหรอพี่สาว"

เด็กชายใส่หมวกแดงใส่เสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ

มองหน้าเธอและได้ถามเธอ

 

"นี้คืออะไรหรอ จ๊ะ?

เธอทำหน้างงเหมือนเธอจะไม่เคยเห็นเกมการ์ดแอ๊คโทร

 

ด้วยการที่ผมชอบเกมนี้มากผมจึงแนะนำเธอเกี่ยวกับเกมนี้ไปทั้งข้อมูล

วิธีการเล่น ดูเหมือนเธอจะสนใจมากผมสังเกตได้จากแววตาที่จ้องมองเด็กกลุ่มนั้น

ทีี่กำลังเล่นเกมการ์ดนั้นอยู่

...

..

 

"และนั้นแหละคือการ์ดแอ๊คโทร"

"อยู่บ้านของผมนั้นมีสะสมอยู่เยอะมาก"

"มีทั้งการ์ดหายาก และ การ์ดสุดยอดเพียบ"

"ก็อย่างว่าแหละนะครับ คนเท่ๆอย่างผมก็ต้องมีของสะสมเยอะเป็นธรรมดา"

 

ผมก็พูดไปคุยไปเรื่อยๆถึงเกมการ์ดแอ๊คโทรแล้วก็เรื่องอื่นๆ

ก็อย่างว่าผมมีดีหลายอย่างและดูดีทุกระเบียบนิ้ว

 

"เฮ้ พี่นี้เจ๋งไปเลยนะ"

"ผมชื่อ กรี พี่ชื่ออะไรหรอครับ"

เด็กผู้ชายที่ทัก เธอในตอนแรกกล่าวแนะนำตัวด้วยความสนใจในตัวผม

 

"พี่นะหรอ"

"พี่ชื่อ ชูส สุดหล่อแห่ง..."

"....ช่างมันเถอะ"

 

ผมก็ลืมแล้วเหมือนกันว่าผมเป็นสุดหล่อแห่งอะไรสักอย่าง

ตามประโยคที่ผมชอบพูดแนะนำตัว มันน่าแปลกมาก

 

แล้วเด็กชายอีก 2 คนหน้าตาคล้ายกันน่าจะเป็นฝ่าแฝด

คนนึงใส่เสื้อสีแดงผมสีแดงกางเกงน่าจะขาสั้นกับอีกคนผมสีน้ำเงินกางเกงขาสั้นสีแดง

เท่าที่จำได้คนที่ผมสีแดงชื่อ บารู อีกคนผมสีน้ำเงินชื่อ เรเดส

สองคนนี้เป็นฝาแฝดที่ค่อนข้างจะชอบเถียงกันเท่าที่จำได้ก็ประมาณว่า

“ฉันว่าต้นไม้ต้นนั้นมันเหมือน เจ้า กรีเลยนะ”

เรเดส พูด

“ฉันว่าต้นหญ้ามากกว่านะที่เหมือนกรี”

บารูพูดตอบกลับ

“ต้นไม้!”

“หญ้า”

“ต้นไม้!!”

“หญ้า!”

......

..

ผมก็ทนนั่งฟังสองคนนี้เถียงกันไปได้นะ

เถียงกันสลับไปมา

เอาแหละกลับเข้าเรื่องหลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องต่างๆให้ผู้หญิงแปลกหน้าที่ชื่อบี

กับเด็กทั้งสามคนนามว่า กรี บารู และ เรเดส ฟังอยู่สักพัก กรีก็เปิดประเด็นเรื่องการ์ดหายาก

...

.....

"ใช่แล้วแหละพี่มีการ์ดใบนั้นอยู่"

ผมพูดให้เด็กพวกนั้นและพูดให้เธอฟัง

 

"มันหายากขนาดนั้นเลยหรอคะ?"

เธอพูดถามพวกเด็กๆและผม

 

"อืมใช่แล้วแหละครับผมเก็บมันไว้อย่างดี"

ผมตอบกลับด้วยความเพอร์เฟค

 

"ขอดูหน่อยสิพี่"

"ขอดูหน่อย"

สองฝาแฝดพูดพร้อมกัน

 

"คงจะไม่ได้แหละนะ เพราะพี่เก็บไว้อยู่บ้านพี่"

ผมพูดตอบกลับ

 

"งั้นพาผมไปบ้านพี่หน่อยได้ไหมครับ"

กรี ตอบมาด้วยแววตาที่อยากเห็นการ์ดหายาก

 

"คือ บ้านของพี่อยู่ไกลมาก คงจะยากที่จะไปเอา"

ผมตอบความจริงไปว่าผมเอามาให้ดูไม่ได้จริงๆ

 

สักพักระหว่างที่ผมกำลังคุยกับเด็กพวกนี้

มีวัยรุ่นสองคนน่าจะเป็นรุ่นพี่ผมประมาณ 2 ปี

เดินมาพร้อมอารมณ์ที่หงุดหงิดเท่าที่ผมจำได้

 

"ฉันแอบฟังพวกแกพูดมานานแล้ว"

ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำกางเกงขาสั้นพร้อมทรงผมแปลกๆถือลูกบาสในมือพูดออกมา

"ถ้ามีจริงๆพวกฉันขอดูหน่อยสิวะ"

ชายใส่เสื้อลายขวางสีดำสลับขาวกางเกงขายาวสีดำพูดเสริมเพื่อนที่มาด้วยกัน

 

แล้วตอนนี้แหละตัวผมรู้สึกตัวว่าผมของผมยุ่งมากเพราะลมแถวๆนั้นมันค่อนข้างจะพัดแรง

ผมเลยหยิบหวีขึ้นมาหวีผม

แล้วผมก็พูดตอบพวกนั้นไปว่า

"คงจะไม่ได้หรอก มันอยู่บ้านของฉันมันอยู่ไกลมาก"

 

"ฉันไม่เชื่อหรอกแกก็แค่ไอ้ขี้โม้นั้นแหละ"

ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำพูดออกมา

 

"เฮ้! พวกเด็กๆตัวน้อยๆพวกนี้ กับ คุณผู้หญิงอย่าไปเชื่อไอ้คนแบบนี้มาก"

ชายใส่เสื้อลายขวางพูดออกมาพร้อมจ้องมองไปที่พวกเด็กๆและคนแปลกหน้าที่ชื่อว่าบี

 

"แกเลิกหวีผมเน่าของแกได้แล้ว"

"ฉันรู้สึกหมั่นไส้แกตั้งแต่เห็นอยู่ที่ ร้านขายของแล้ว"

ชายใส่เสื้อลายกล้ามสีดำเขาพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง

เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมไปทำอะไรให้พวกนี้หมั่นไส้

 

ปัก!!

 

และจังหวะนี้แหละผมถูกชายใส่เสื้อกล้ามสีดำใช้กำปั้นชกเข้ามาที่แก้มด้านซ้ายผม

จนทำให้แว่นกันแดดผมหลุด ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนผมโดนของหนักเข้ามาเต็มๆตาของผม

ร่างกายของผมในตอนนั้นล้มลง ในขณะที่ผมกำลังล้มลงผมคิดได้หลายๆเรื่องในช่วงที่่ล้มลง

โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้ผมฝั่งใจจนถึงทุกวันนี้ในช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่ล้มลง

ผมเห็นภาพเพื่อนสนิทคนหนึ่งในวัยเด็ก เขาชกมาที่ตาของผมด้วยความโกรธ

เท่าที่ผมจะได้เขาเป็นคนที่เก็บกดมากและเพราะผมเองเลยทำให้เขาโกรธ

...

..

เมื่อผมตั้งสติได้ผมก็รู้ตัวแล้วว่าผมนอนกองอยู่บนพื้นพร้อมกับเท้าที่ระดมกระทืบมาที่ตัวผม

ตอนนั้นภาพที่ผมเห็นลางมาก แต่ว่าในระหว่างที่ผมโดนกระทืบ

เธอคนนั้นได้สกิดพวกนั้นที่กระทืบผมและชวนชายสองคนนั้นคุยแบบนิ่มนว

พวกนั้นหยุดกระทืบผมและยกมือไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเคราพ

แล้วพวกนั้นก็วิ่งหนีไป เมื่อผมตั้งตัวและสติได้ผมก็ลุกขึ้นมาแล้วถามเธอว่า

 

"พวกนั้นไปแล้วหรอ?"

 

นั้นคือประโยคสุดท้ายที่ผมพูดก่อนที่ผมจะโดนเธอต่อยไปที่หน้าผม

 

ปัก!!!

 

หมัดของเธอหนักกว่าพวกที่มากระทืบผมซะอีกและประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของเธอ

ก่อนที่ผมจะหมดสติคือ

 

"อย่าไปโทษอะไร อย่าสงสัยอะไร ดูการกระทำของตัวเองเถอะนะคะ"

 

 

ในช่วงที่ผมกำลังหมดสติผมคิดอะไรได้หลายอย่าง

ผมรู้แล้วว่าผมจะทำยังไงต่อไป ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ช่างผมก็ขอขอบคุณเธอด้วยใจจริง

ผมจะจำเธอและใบหน้าอันเต็มไปด้วยยิ้มของผู้หญิงที่ชื่อ บี ตลอดไป

 

........

.....

คนอ่านตอนนี้ก็คงจะงงๆแบบผมนั้นแหละ ผมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งอะนะ

แต่ก็นะ คงไม่มีใครมาอ่านหรอกเพราะผมไม่ยอมให้ใครมาอ่าน ฮาๆ

 

จบแล้วสำหรับอีกวันในเมืองที่ไม่คุ้นตา พร้อมเรื่องราวที่ผมก็งงๆเหมือนกัน

.......

....

..

 

พาร์เทลนั่งยิ้มคนเดียวพร้อมอ่านไดอารี่ของชูสทีี่ลืมเก็บไว้และเอาวางไว้บนโต๊ะในห้องพัก

ทันใดนั้นเอง

....

ชูสเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมเอามือสับไปที่หัวพาเทล

พาร์เทลหลบได้และลุกออกจากเก้าอี้ด้วยความเร็ว

 

ชูส:นี้แกพาร์เทล แกแอบอ่านไดอารี่ของฉันหรอ!?

พาร์เทล:เปล่าๆ ฉันไม่ได้อ่านนะ อิๆ

ชูส:ไอ้คนโกหกมานี้เลยนะแกมาให้ฉัน ตบหัวสักทีเถอะ

พาเทล:ฉันขอโทษ~

พาร์เทล:ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายกับผู้หญิงที่ชื่อบีแล้วก็ได้

ชูส:นี้แกอ่านไปถึงนั้นแล้วหรอ!?

พาร์เทล:เปล่าฉันอ่านหน้าหลังก่อน!

ชูส:แก!!

 

ชูสวิ่งไล่พาเทลภายในบ้านด้วยความโมโห

 

....

..

ตอนนี้ผมเข้าใจคำตอบแล้ว ไม่ใช่ลูกค้า ไม่ใช่ใครหรอกที่เป็นพระเจ้า

และผมก็ไม่คิดจะโทษใครด้วยแม้แต่คนที่มากระทืบผม

ผมเป็นคนกำหนดทิศทางของชีวิตตัวเอง

....

แต่ถึงตอนนี้ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมพวกนั้นถึงมากระทืบผม

ผมไปทำอะไรให้พวกนั้นไม่ชอบหน้ากันนะ..

....

...

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันที่แล้ว

 

ที่หน้าร้านค้าบรรยากาศเงียบๆในช่วงเช้าลมพัดเบาๆแสงแดดอ่อนๆ

ชูสกำลังนั่งรอร้านเปิดในช่วงเช้า

 

"เฮ นายมีอะไรให้ช่วยหน่อย"

ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำเดินมาหาชูส

 

ชูส:มีอะไรหรอครับ?

 

"ช่วยถือกล่องนี้ให้ฉันสักครู่นะอย่าเอาวางไว้พื้นเดียวเปื้อน"

"ฉันหาของแปบนึงนะ"

 

ชูส:ของหนักไม่ใช่เล่นเลยนะครับ

 

"อ่อ นั้นของสำคัญจะให้เพื่อนรักของผมหน่ะครับมันเป็นของสะสมสำคัญของผม"

 

ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำค้นหาของในกระเป๋าหน้าท้องที่เขาเอามาด้วย

 

ชูส:ถ้าพูดถึงของสะสมแล้วผมมีของสะสมเหมือนกันนะครับอยู่บ้าน

 

"จริงหรอครับ"

 

ชูส:ใช่ๆ มันเป็นโมเดลหุ่นยนต์ที่มีไม่กี่ตัวบนโลกเลยนะเป็นของหายากมาก

 

"สุดยอดไปเลยครับ ของที่ผมแบกเอามาด้วยก็เป็นของแพงเหมือนกัน"

 

ในขณะนั้นลมพัดแรงมากทำให้ผมของชูสเสียทรง

 

ชูส:แย่แล้ว!

 

ชูสปล่อยกล่องที่อยู่บนมือลงพื้นแล้วหวีผมของตัวเอง

กล่องที่ปล่อยลงพื้นไปทับนิ้วเท้าของชายที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำ

 

แพล๊ง!!

 

"อ๊ากกกกกก เท้าฉัน"

 

ชูส:อ้าคือ...ว่า...

ชูส:ผมต้องไปทำงานแล้วขอตัวก่อนนะครับ

 

ชูส วิ่งไปที่ร้านขายของที่เปิดพอดีด้วยความรีบเร่ง

 

ในขณะนั้นเองชายใส่เสื้อลายขวางก็เดินเข้ามาหาชายใส่เสื้อกล้ามสีดำ

 

"เมื่อกี้นั้นใครหน่ะ?"

"ช่างเถอะ ฉันของดูถ้วยลายครามของนายหน่อยสิ"

 

ชายใส่เสื้อลายขวางเปิดกล่องดูของภายใน

ขณะที่ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำกำลังเจ็บเท้าเพราะโดนกล่องทับอยู่

 

"เฮ้! ทำไมมันแตกละเอียดแบบนี้เนีย"

ชายใส่เสื้อลายขวางพูดออกมา

 

"ว่ายังไงนะ!!"

ชายใส่เสื้อกล้ามสีดำรีบเปิดเข้าไปดูในกล่องแล้วพบว่าถ้วยลายครามของเขาแตกไม่เหลือชิ้นดี

 

"ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!"

 

....

..

END

Answer

 

 

PS เป็นอีกตอนที่สั้นๆและธรรมดา ถถถถถถ

Edited by Mr.F
  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

เป็นตอนสั้นๆที่สนุกดีนะ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนแนวการแต่งด้วย ชอบมากเลย

 

ตอนธรรมดาๆแต่สนุกดี ชอบนะ บรรยายเนื้อเรื่องเรื่อยๆแล้วก็มีอะไรให้คิดตาม =w=

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

“What Who Where Why”

Episode 04

“ร้านอาหารที่ดีที่สุดอยู่ที่ไหน"

Ep04s_zpswz3nykq4.jpg

 

ฟิวววว.....ฟิววว......

(เสียงลมพัด)

แกรง....แกรง.....

(เสียงกระป๋องกำลังชนไปมากับวัตถุที่แข็งเนืองจากถูกลมพัด)

 

 

เฮียเลน:หาววววววว....

 

เฮียเลนหาวนอนและลุกขึ้นมาจากที่เตียงเดียวของเธอที่มุมห้อง

ในตอนกลางคืนที่เงียบไร้เสียงใดๆ เธอมองไปรอบๆห้อง

 

เฮียเลน:ฉันหิวน้ำจังเลย...

เฮียเลนนั่งอยู่บนเตียงและบ่นคนเดียวเบาๆ

 

เฮียเลนเดินไปที่เตียงลูปพีย์และไปสกิดลูปพีย์

 

เฮียเลน:นี้...ลูปพีย์พาฉันไปกินน้ำชั้นล่างหน่อยสิ..ฉันกลัว...

 

ลูปพีย์ไม่มีอาการโต้ตอบ

 

เฮียเลน:ลูปพีย์....

 

เฮียเลนเปิดผ้าห่มลูปพีย์ออกเธอพบว่าลูปพีย์ไม่ได้อยู่บนที่นอน

 

เฮียเลน:ลูปพีย์...ลูปพีย์ไปไหน?

 

เฮียเลนเดินไปดูอีกฝั่งของเตียงลูปพีย์

 

เฮียเลน:พาร์เทลก็ไม่อยู่..

 

เฮียเลนมองหาชูสบนเตียง

 

เฮียเลน:ชูสก็ไม่อยู่!

เฮียเลน:ทะ...ทุกคนหายไปไหนกันหมด!!

 

เฮียเลนเริ่มเกิดอาการกลัวขึ้นมากระทันหัน

 

เฮียเลน:ทุกคน ถูกลักพาตัวไปงั้นหรอ?

เฮียเลน:ไม่ๆ อาจแกล้งเราก็ได้..

เฮียเลน:แล้วถ้ามันเป็นจริงแหละ !

เฮียเลน:ทุกคนอย่างทิ้งฉันไปนะ!

 

เฮียเลนวิ่งเข้าไปหดตัวในผ้าห่มบนเตียงของตัวเอง

 

แต่ในระหว่างนั้นก็มีแสงสว่างส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง

เฮียเลนที่กำลังตัวมองไปตามแสงที่ส่องเข้ามา

 

เฮียเลน:นั้น...คืออะไรกัน..

 

ด้วยความสงสัยเธอจึงเดินออกไปดูตามแสงนั้นจากทางหน้าต่าง

เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่เธอได้เห็นทำให้เธอตัวแข็งและขนลุกขึ้นมา

 

เฮียเลน:นั้นมัน......

 

มีสิ่งมีชีวิตบ้างอย่างกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าตัวมันใหญ่มาก

ปีกของมันพัดราวกับพายุผิวหนังของมันเป็นสีดำ

แต่แสงสว่างที่ออกมาจากตัวมันกลับเป็นสีขาวมันบินไปอย่างช้าๆ

แสงประกายรอบตัวมันตกลงมายังพื้นราวกับละอองหิมะ

ดวงตาสีรุ้งของมันจับจ้องมาที่เฮียเลน

เธอหวาดกลัวปนตื่นตาตื่นใจเฮียเลนทำอะไรไม่ถูก

เธอได้แต่อุทานออกมาว่า

 

เฮียเลน:มะ...มังกร!

เฮียเลน:นี้มันต้องเป็นฝันแน่ๆ

เฮียเลน:ฮ่าๆ ฉันบ้าไปแล้ว...

 

เฮียเลนสับสนไปหมดจนเธอสลบลงไปนอนกองกับพื้น

และเจ้ามังกรนั้นก็บินหายไปกับความมืดและเมฆหมอก

....

..

 

 

เสียงคลืนกระทบฝังเบาๆเป็นจังหวะ เสียงลมพัดผ่านจากทะเลที่แสนไกล

มีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านอาหารอยู่ริมทะเลเป็นร้านที่

เป็นเหมือนกระท่อมริมฝั่งทะเล

ร้านนี้บรรยากาศภายนอกเป็นแนวร้านของโจรสลัด มีทั้งเรือเก่าๆ เชือก กล่องสมบัติ

ป้ายร้านที่ดูเถื่อนๆเหมือนโจรสลัด ธงโจรสลัด และอื่นๆ

เป็นร้านอาหารที่ได้บรรยากาศแบบโจรสลัด

หากเปิดเข้ามาในร้านก็จะพบกับบรรยากาศแบบในบาร์โจรสลัด

มีทั้งเครื่องดื่ม เคาเตอร์สั่งเครื่องดื่มและอาหาร

มีดนตรีแนวย้อนยุคแบบโจรสลัด

บรรยากาศภายในร้านดูแล้วได้กลิ่นอายของโจรสลัด

พนักงานที่นี้ทุกคนตั้งแต่พนักงานเสริฟจนไปถึง

พ่อครัวทุกคนแต่งชุดเป็นแนวโจรสลัดหมด

ที่นี้ทุกสุดสัปดาห์จะมีลูกค้ามาพักผ่อนกันเยอะ

บรรยากาศดูคึกคักมีทั้งเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน

เด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันสนุกสนาในบรรยากาศของร้านโจรสลัด

แต่ทว่า...

ในช่วงสุดสัปดาห์นี้...

.....

..

พนักงานในร้านนั่งเหงา บรรยากาศในร้านเงียบมากได้ยินแค่

เสียงลมจากทะเลและคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งมา

ชายวัยกลางคนรูปร่างทวมที่เป็นเจ้าของร้านเขาชื่อว่าโจเซฟ

ชายผู้ไว้หนวดเครารุงรังใส่หมวกกับตันเรือ

และชุดโจรสลัดเก่าๆของเขา โจเซฟเดินมากจากหลังร้านด้วยความหงุดหงิด

 

โจเซฟ: เฮ!! ทำไมที่นี้มันเงียบจังเลย!!

โจเซฟ:โจเซฟไม่เข้าใจ นี้เรือโจรสลัดนะพวกแก!!

 

ชายหนุ่มหน้าตาเกลียงเกลานั่งหน้าเบื่ออยู่โต๊ะบาร์ใส่ชุดโจรสลัด

แต่ใส่หูกระต่ายสีดำไว้ที่คอ นามว่า บาร์เบเลียส

นั่งเอามือเท้าคางด้วยความเบื่ออยู่หน้าเคาเตอร์

 

บาร์เบเลียส:โถ่ กับตันร้านเงียบอย่างกะป่าช้า ลูกค้าก็ไม่มีจะให้ไปร่าเริงได้ยังไงกันครับ

 

โจเซฟ:งั้นเปิดเพลง เซ่! เปิดเพลง!

โจเซฟ:ชีวิตกับดนตรีมันคู่กัน!

 

“คงไม่ได้หรอกครับกับตัน....”

ชายวัยกลางคนไว้หนวดเคราเล็กน้อย

หุ่นรูปร่างทวมไม่ถึงกับอ้วนใส่ชุดโจรสลัด นามว่า เรสลองค์

นอนทำหน้าเบื่อเหมือนจะตายอยู่ที่โต๊ะแบบเบื่อๆพูดตอบกลับ

 

เรสลองค์:เครื่องเสียงพังครับกับตัน.....

เรสลองค์:ตอนนี้กำลังส่งซ่อมอยู่ครับ

โจเซฟ:โจเซฟ รับไม่ได้!!

โจเซฟ:ร้านเราจะเงียบแบบนี้ไม่ได้!!

โจเซฟ:โจเซฟไม่เข้าใจมันเป็นเพราะอะไร?

 

แอ๊ดดดด....

(เสียงเปิดประตูเข้ามาในร้าน)

 

โจเซฟ:เฮ้พวกแกตื่นๆ มีคนเข้ามาในร้าน!

 

โจเซฟ เขย่าตัว เรสลอง และ บาร์เบเลียส

หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาในร้าน..

 

โจเซฟ:ยินดีต้อนรับเข้าสู่ร้าน โจเซฟ

 

พาร์เทล ที่เดินเข้ามาในร้านยิ้มแบบรู้สึกอารมณ์ดี

และหัวเราะด้วยความตื่นเต้น

 

พาร์เทล:ที่นี้คือรังโจรสลัดหรอกครับ~

พาร์เทล:ผมชอบโจรสลัดดด~

โจเซฟ:ฮ่าๆ! โจเซฟ ก็ชอบโจรสลัดและที่นี้คือร้านอาหารของโจรสลัด!

พาร์เทล:ดีเลยๆ ผมชอบการผจญภัยเดินทางล้าสมบัติ

พาร์เทล:แกว่งดาบสู่กับคู่ต่อสู้ ฉับๆ ฉับๆ ฮาๆ

 

พาร์เทลทำท่าแกว่งดาบด้วยความอารมณ์ดี

 

โจเซฟ:เอาหน่าๆครับ! เชิญนั่งแล้วสั่งอาหารเลยครับ!

พาร์เทล:กำลังหิวพอดีเลยครับบบ~

พาร์เทล:ขอบคุณมากครับลุงโจรสลัด!

 

โจเซฟพาพาร์เทลเดินไปที่โต๊ะอาหารด้วยความยินดี

 

โจเซฟ:เฮ้! เรสลอง! ไปเอาเมนูมาให้ลูกค้าสิ!

เรสลอง:ครับๆ!

 

เรสลองวิ่งไปเอาเมนูจากหลังร้าน

 

พาร์เทล:ที่นี้มีน้ำกินไหมครับ คือผมเดินมาทั้งวันเลยเหนื่อยมากเลยครับ...

โจเซฟ:เฮ้!! บาร์เบเลียส ขอเครื่องดื่มเย็นๆให้ลูกค้าสิ!!

บาร์เบเลียส:ครับๆ กับตัน!

....

..

เรสลอง:เมนูมาแล้วครับลูกค้

เรสลองยื่นเมนูให้พาร์เทล

พาร์เทลหยิบเมนูมากจาก เรสลองและนั่งอ่าน

 

พาร์เทล:อืม....

พาร์เทล กลับหลังเมนูอาหาร

 

พาร์เทล:อ้า....

พาร์เทลตะแคงดูเมนูอาหาร

 

....

..

 

2 นาทีผ่านไป....

 

พาร์เทล:ฮาๆ

พาร์เทลเอาเมนูอาหารมาฝาดกับโต๊ะเล่น

 

พาร์เทล:แง่มๆ

พาร์เทลแทะเมนูอาหาร

....

..

พาร์เทล:งั้นผมขอ เบอร์เกอร์เนื้อปลา กับ

มันฝรั่งทอด พร้อมเนื้อปลาทอดสูตรต้นตำหรับแวคนาวี

 

เรสลอง:โทษนะครับที่นี้ไม่มีเมนูแบบนั้นหรอกครับ

พาร์เทล:ไม่มีงั้นหรอครับ?

พาร์เทล:อ้า...น่าเบื่อ...

 

บาร์เบเลียส:น้ำองุ่นเย็นๆมาแล้วครับ~

บาร์เบเลียส เดินมาเสริฟน้ำองุ่นเย็นๆในแก้ว

 

พาร์เทล:ไม่มีน้ำอัดลมหรอออครับ!

บาร์เบเลียส:ไม่มีครับ..

พาร์เทล:อ่า...น่าเบื่อ...

พาร์เทล:ผมไปดีกว่า ที่นี้ไม่เห็นดีเท่าร้านแวคนาวีเลย...

 

พาร์เทลลุกออกจากที่นั่ง

 

โจเซฟ:เดียวครับคุณลูกค้าแต่ร้านเรามียำหนุบหนับ กับ สลัดปลาหมึกอยู่นะครับ!

พาร์เทล:ผมอยากกินแวคเบอร์เกอร์ปลา!

พาร์เทล:อ้าหน้าเบื่อ วันนี้ร้านแวคนาวีคนเยอะคงต้องไปต่อคิวรอแล้วแหละ...

 

พาร์เทลเปิดประตูแล้วเดินออกไปจากร้าน

 

โจเซฟ:แวคนาวีงั้นหรอ!?

โจเซฟ:ประชุมด่วน!!

 

พาร์เทลเดินกลับเข้ามาในร้าน

 

โจเซฟ:มีอะไร!?

พาร์เทล:ถ้าจะเดินทางไปล่าสมบัติบอกผมด้วยนะ!

โจเซฟ:แก...รีบไปเลยนะ!!

 

พาร์เทลเดินออกไปนอกร้าน

 

....

..

ปัก! ปัก!

(เสียงคนยกของมาวางพื้น)

 

พนักงานในร้านต่างพากันมานั่งประชุมกันอยู่หลังร้านเพื่อจัดการกับปัญหาร้าน

โดยทุกคนต่างพากันนั่งบนถังไม้ ล้อมวงคุยกัน

 

โจเซฟ: โจเซฟ! ไม่เข้าใจ!

โจเซฟ:ทำไมไม่มีลูกค้า!

โจเซฟ:แล้วทำไมลูกค้าถึงไปกินร้านอาหารนั้น!

 

ชายวัยกลางคนทำหน้าเหม่อลอยและทำตัวเฉื่อยชา

แต่งชุดโจรสลัดแต่ใส่ผ้ากันเปื้อนยกมือขึ้นช้าและตอบคำถามแบบช้าๆ

เขาชื่อ ฟาสติส เป็นพ่อครัวประจำร้านอาหารแห่งนี้..

 

ฟาสติส:ผมมม........คิดว่า...........นั้นคือ.......ร้านคู่แข่ง....ของเรา...

ฟาสติส:เขาคงมีอะไร............ใหม่ๆ......ดีๆ..........ไม่เหมือนพวกเรา........

 

โจเซฟ: เอายังไงกันดี!

บาร์เบเลียส:กับตันคือหัวหน้าพวกเรานะครับ กับตันต้องสั่งพวกเรา

โจเซฟ:นั้นก็จริง!

 

เรสลองยกมือขึ้น

 

เรสลอง:ผมมีขอเสนอ!

เรสลอง:ไปขู่พวกมันให้กลัวดีไหมครับกับตัน!

 

โจเซฟ เอามือตบหัวเรสลองจนเรสลองหัวคว่ำลงพื้นไป

 

โจเซฟ:พวกเราเป็นโจรสลัดก็จริง!!

โจเซฟ:แต่ไม่ได้สถุนขนาดนั้น!

 

บาร์เบเลียส:งั้นขู่ไม่ได้...

บาร์เบเลียส:ไปซื้อกิจการของพวกมันมาแล้วปิดลงไปเถอะครับ

บาร์เบเลียส:แค่นี้ก็ไม่มีคู่แข่งแล้วครับกับตัน

 

โจเซฟ เอามือตบหัวบาร์เบเลียสลงไปคว่ำกับพื้นเช่นเดียวกับเรสลอง

 

โจเซฟ:เงินจะจ่ายพวกแกอีก 2 เดือนฉันเริ่มจะหมดแล้ว

โจเซฟ:จะให้ฉันไปซื้่อร้านพวกมัน ฝันไปเถอะ!!

 

ฟาสติส:งั้น............

ฟาสติส:ขายร้านนี้แล้วเอาเงินไปแบ่งกัน....ดีไหมครับกับตัน.....

ฟาสติส:เปิดไปก็ไม่รอด......

 

เรสลอง:เองโดนตบหัวหลุดแน่ฟาสติส.....

 

โจเซฟนั่งขำแล้วดึงหัวเรสลองกับบาร์เบเลีลสขึ้นมาจากพื้น

 

โจเซฟ:ความคิดเขาท่านะ โจเซฟ ก็เริ่มขี้เกียจทำร้านแล้ว!

โจเซฟ:จะว่าไปไอ้พนักงานล้างจานใบ้ปลีกตัวเองเงียบๆไปไหนหรอ?

บาร์เบเลียส:ถ้าถามถึงเจ้านั้นคงนั่งอ่านหนังสืออยู่หลังร้านเงียบๆครับกับตัน

โจเซฟ:ประชุมสำคัญแท้ๆ โจเซฟรับไม่ได!

โจเซฟ: ฉันจะไปลากตัวมันมา!

โจเซฟ:กับตันสั่งแล้วไม่มาแบบนี้มันน่านัก!

 

....

..

 

ปัง!

(เสียงถีบประตู)

 

โจเซฟ:เฮ! ลูปพีย์! นอกจากแกจะไม่ใส่ชุดโจรสลัดแบบพวกเราแล้ว

โจเซฟ:แกยังอู้ประชุมสำคัญอีกหรอ!?

โจเซฟ:โจเซฟ! รับไม่ได้!

 

ลูปพีย์:.........

ลูปพีย์มองไปที่โจเซฟ แล้วกลับมานั่งปัดฝุ่นต่อ

 

โจเซฟ:เฮ้! ฟังฉันอยู่หรือเปล่า!!

 

ลูปพีย์ลุกขึ้นยืนแล้วเขียนข้อความลงไปในกระดาน

และให้โจเซฟดู

"จะให้ฉันทำยังไงแหละ ร้านโทรมๆ พนักงานแต่งชุดเก่าๆ

ไม่มีการพัฒนา ร้านนี้เดียวก็เน่าไม่มีคนเข้าแล้ว

ลองไปดูร้าน แวคนาวี ดูสิเข้าดูดีกว่าร้านของนายอีก!"

 

โจเซฟ:แล้วจะให้ข้าทำยังไงแหละ!?

 

ลูปพีย์ลบกระดานแล้วเขียนข้อความลงไปอย่างรวดเร็ว

"เปลี่ยนแปลงร้านเน่าๆนี้ซะ!"

 

โจเซฟ:จะให้ข้าเปลี่ยนแปลงอะไรแหละที่นี้มันดีอยู่แล้ว!

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดานแล้วกลับไปนั่งเช็ดฝุ่นที่ติดจาน

"ฉันเป็นแค่พนักงานล้างจานฉันไม่มีอำนาจที่นี้ เอาเป็นว่าถ้าร้านนี้จะปิดตัวเมื่อไหร่

ฉันขอเงินล่วงหน้า 3 วันแล้วกันไม่แพง"

 

โจเซฟ:เฮ้! บอกฉันหน่อยเถอะหน่า!

โจเซฟ: โจเซฟไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว!

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดานแล้วให้โจเซฟดู

"เลื่อนขั้นให้ฉันเป็นผู้จัดการร้านแล้วฉันจะช่วยนาย"

 

โจเซฟ:เลื่อนขั้นงั้นหรอ!?

โจเซฟ: โจเซฟไม่มีทางเลือก..

โจเซฟ: ตกลง โจเซฟรับข้อเสนอ!

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดาน

"ตกลงแล้วนะ เริ่มงานวันพรุ่งนี้ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงร้านเน่าๆนี้แล้ว"

 

.....

..

 

วันแรก ของการเปลี่ยนแปลง

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดานใหญ่กลางร้านอาหาร

โดยมีพนักงานในร้านทุกคนนั่งมองกระดาน

"ฉันเป็นผู้จัดการร้านคนใหม่"

"สิ่งที่ต้องเปลี่ยนสิ่งแรกเลยในวันนี้คือ ตัวพนักงาน"

"ไปเอาชุดที่ฉันซื้อพนักงานที่ฉันซื้อมาไปใส่ซะ!"

 

.....

..

โจเซฟ:ยังดีนะที่ยังเป็นชุดโจรสลัด

โจเซฟ: โจเซฟคิดว่ามันดูใหม่ไปนะ!

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปบนกระดานแล้วให้โจเซฟดู

"สิ่งสำคัญเลยคือความสะอาดของพนักงาน"

"ชุดที่พวกนายใส่มันดูเน่ามาก!"

 

....

..

บาร์เบเลียส:ทำไมพวกเราต้องมาฝึกการทรงตัวแบบนี้กันด้วย

เรสลอง:ใช่ๆทำไมพวกเราต้องมาฝึกด้วย

 

บาร์เบเลียส และ เรสลอง เอาหนังสือมาวางไว้บนหัวแล้วเดินเพื่อฝึกการทรงตัวและการเดิน

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดานและหยิบให้ทั้งสองคนดู

"พวกนายเป็นพนักงานหน้าร้านบุคคลิกเป็นสิ่งสำคัญ"

"การเดินต้องดูสง่าและน่าเชื่อถือ"

 

....

..

 

ฟาสติส:ทำไม....ต้องเอาหมวกมาคลุมผมด้วย.....

ฟาสติส:ฉันไม่ถนัด...มาก....เลยนะ....

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดานแล้วหยิบให้ฟาสติสดู

"ความสะอาดต้องเป็นที่หนึ่งพ่อครัวโสโครกไม่ได้ ต้องให้ถูกลักษณะ"

 

....

..

 

บาร์เบเรียส และ เรสลอง นอนหมดสภาพบนโต๊ะอาหารในร้าน

บาร์เบเรียส:เหนื่อยเป็นบ้าเลย

เรสลอง:ฉันเกรงตัวจนฉันเมื่อยไปหมดแล้ว

 

ลูปพีย์เดินมาหาทั้งสองคนพร้อมเขียนข้อความลงไปในกระดานแล้วให้ทั้งสองดู

"พวกนายต้องฝึกทุกวันหลังจากนี้ ถ้าทำไม่ได้ฉันจะตัดเงินเดือนพวกนาย"

 

บาร์เบเรียส:ครับๆ ไอ้ท่านผู้จัดการ...

 

.....

...

 

วันที่ 3 ของการเปลี่ยนแปลง

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดานใหญ่กลางร้านอาหาร

โดยมีพนักงานในร้านทุกคนนั่งมองกระดานแบบทุกๆวัน

"นอกจากพนักงานแล้วสิ่งต่อไปที่ควรเปลี่ยนคือ สภาพร้าน"

"หยิบอุปกรณ์ไปซ่อมแซม เปลี่ยนร้านใหม่"

 

โจเซฟ: ฮาๆ พวกแกทำงานให้ดีแหละข้าจะรอชมผลงาน

 

ลูปพีย์หยิบกระดานอันเล็กออกมาแล้วเขียนข้อความให้โจเซฟดู

"นายก็ออกไปช่วยด้วย นี้ร้านของนายไปซะ!"

 

โจเซฟ: โจเซฟไม่เข้าใจสรุป โจเซฟเป็นเจ้านายหรือมันเป็นเจ้านายกันนะ

 

....

..

 

บาร์เบเลียส:ตรงนี้ได้หรือยังครับ

เรสลอง:ใช่ๆตรงนี้ได้หรือยังครับ

 

บาร์เบเลียส และ เรสลอง ยกโต๊ะอาหารมาจัดเรียงใหม่ตามแบบที่ลูปพีย์บอก

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดาน

"ขยับไปทางซ้ายฉันอีก 1 ซ.ม"

 

บาร์เบเลียส และ เรสลองยกโต๊ะอาหารขยับไปทางซ้ายตามที่ลูปพีย์บอก

 

ลูปพีย์มองไปที่โต๊ะแล้วเขียนข้อความลงไปในกระดาน

"มากไปขยับกลับไปอีกนิด"

 

บาร์เบเลียส: วางตรงไหนแบบไหนก็เหมือนกันนั้นแหละ จะเรื่องมากไปไหน

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดานแล้วให้บารเบเลียสดูใกล้ๆ

"จะทำดีๆหรือโดนหักเงินประจำวัน"

 

บาร์เบเลียส:ครับๆ เจ้านาย..

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดานแล้วให้ทั้งสองคนดู

"เอาแหละเหลือโต๊ะอีก 10 ตัวตรงนู่นไปขนมาซะ!"

 

เรสลอง:ฮะ!?

 

....

..

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปบนกระดานแล้วให้ฟาสติสดู

"การทำอาหารไม่ใช่สักแต่ว่าทำ แต่งจานให้มันดูดีด้วย!"

 

ฟาสติส:.....ครับ....

 

....

..

 

เวลามันผ่านไปอย่างรวดเร็ว..หลังการฝึกมา 1 อาทิตย์เต็มๆ

ก็ได้เวลาเปิดร้านอย่างเป็นทางการ สภาพร้านและพนักงานดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก

ข้าวของที่ตกแต่งร้านดูเป็นระเบียบขึ้นสภาพร้านดูสะอาดตา

แต่ก็ยังคงไว้ถึงบรรยากาศแบบโจรสลัด

เรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้

เปิดร้านวันแรกมีลูกค้าเข้ามาบ้างแต่ไม่เยอะแต่วันต่อๆไปเริ่มจะมีลูกค้าเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งพนักงานและเจ้าของร้านถูกชมเชยจากลูกค้าและร้านนี้ก็ถูกบอกกันปากต่อปาก

จนทำให้ตอนนี้ลูกค้าเยอะขึ้นเป็นพิเศษ

 

....

..

 

เมื่อตกเย็นพนักงานทุกคนจะมานั่งประชุมกัน

เพื่อพูดคุยกันถึงร้านอาหารแห่งนี้

 

โจเซฟ:ฮาๆ! ลูกค้าเยอะขึ้น โจเซฟชอบ!

โจเซฟ:แต่ว่าก็ยังไม่เยอะทำตอนก่อนที่ร้านแวคนาวี นั้นมาเปิด

โจเซฟ:ลูปพีย์ นายพอมีวิธีให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม!?

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดาน

"มันก็มีวิธีอยู่นะ เราจะช่วยกันโปรโมทร้านนี้ทุกวิธีการ

เริ่มงานวันพรุ่งนี้ตอนเช้ามืด!"

....

..

 

โจเซฟ:นายแน่ใจหรอว่าวันนี้คนจะเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ

 

พนักงานทุกคนยืนประจำที่ของตัวเองในร้านอาหาร

ก่อนเวลาเปิดร้าน

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงไปในกระดาน

"ผมไม่กล้ายืนยัน"

 

....

..

หลังจากนั้นไม่นาน

นักลูกค้าต่างพากันเข้ามาในร้านอาหาร จนที่นั่งเต็มหมดทุกที่

พนักงานทุกคนทำงานกันอย่างไม่มีเวลาพักหายใจ

ลูกค้าเริ่มเข้ามาเรื่อยๆในตอนเที่ยง นี้เป็นประวัติศาสตร์ของร้านอาหารแห่งนี้

ตั้งแต่เปิดกิจการมา ทั้งนี้เป็นเพราะการโปรโมทร้านของลูปพีย์ทั้ง แปะโปสเตอร์

ป้ายโฆษณา และ ใช่อินเตอร์เน็ต

การโปรโมทนี้เองเป็นการดึงดูลูกค้าเข้ามาในร้านได้ดี

 

....

..

อีกฝากหนึ่ง

ณ ร้านที่เงียบสงบ ร้านนี้ชื่อว่าร้าน แวคนาวี เป็นร้านที่ออกแนวร้านอาหารฟาสฟูด

แต่ตกแต่งได้มีระดับ พนักงานทุกคนในร้านนี้แต่งตัวด้วยเครื่องแบบทหารเรือ

และดูเป็นระเบียบมากถ้าเทียบกับร้านโจเซฟ วันนี้เป็นวันที่ลูกค้าน้อยกว่าทุกๆวันตั้งแต่เปิดมา

แทบจะไม่มีใครมาที่นี้เลยในวันนี้

 

"ผู้พันแวคครับ! มีข่าวด่วนมาแจ้ง!"

พนักงานในร้านคนหนึ่งแต่งชุดทหารเรือเดินเข้ามาในห้องเจ้าของร้าน

 

ชายวัยกลางคนไว้หนวดใต้จมูกไม่ยาวมาก ใส่ชุดทหารเรือที่ติดยศไว้เต็มเสื้อ

นั่งอยู่บนเก้าอี้และมองไปที่พนักงานร้านคนนั้นด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

 

ผู้พันแวค:อืม...ไม่ต้องบอกฉันรู้แล้ว

ผู้พันแวค:ร้านพวกโจรสลัดนั้น!

ผู้พันแวค:มันเกิดอะไรขึ้น! ลีฟเปอร์!

 

หญิงสาวผมยาวสีดำคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืด

เธอใส่ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มใส่กระโปรงสีน้ำเงินเข้มและถือกระเป๋าเอกสารใบใหญ่

เธอชื่อ ลีฟเปอร์

เธอยิ้มและเดินมานั่งบนโต๊ะผู้พันแบบมีเสน่ห์และมองหน้าผู้พัน

 

ลีฟเปอร์:ดูเหมือนว่าฝั่งนั้นจะได้หัวหน้าทีมคนใหม่มาคะท่านผู้พัน

ลีฟเปอร์:และจากที่ฉันสังเกตมาเนีย ดูเหมือนว่าเขาจะใช่กลยุทธโปรโมทร้านแบบเต็มคะท่านผู้พัน

ลีฟเปอร์:อิๆ...

 

เธอหัวเราเบาๆแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างในห้องแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

ผู้พันแวค:แล้วจะให้ฉันทำยังไงแหละ?

ลีฟเปอร์:อิๆ งั้นฉันจะบอกให้นะคะ...

 

เธอยิ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างทางด้านร้านอาหารโจวเซฟ

 

ผู้พันแวค:ฉันจะไม่ยอมให้ไอ้พวกโจรสลัดนั้นมาขโมยลูกค้าฉันแน่!

 

....

...

 

เรสลอง:อะไรนะ!?

เรสลอง:ร้านแวคนาวีนั้นจะจัดปารตี้ใหญ่โปรโมทร้านที่กลางเมืองงั้นหรอ!?

บาร์เบเลียส:แถมยังมีโปรโมชันอีกต่างหาก!

บาร์เบเลียส:จะเอายังไงดี ลูปพีย์!

โจเซฟ: โจเซฟ ลองคิดๆ ดูแล้วถ้าร้านนั้นมันจัดปารตี้คืนพรุ่งนี้ลูกค้าเราได้หายไปอีกรอบแน่!

โจเซฟ:เอายังไงลูปพีย์!

 

ลูปพีย์เขียนข้อความลงบนกระดาน

"หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง"

 

....

..

 

"ผู้พันแวคครับ! มีข่าวด่วนพวกนั้นก็จะจัดงานวันเดียวกันกับเราครับ!"

พนักงานร้านแวคนาวียืนตรงแล้วบอกข่าวให้กับผู้พันแวค เจ้าของร้านแวคนาวี

 

ผู้พันแวค:ประกาศสงครามมาแล้วสินะ...

ผู้พันแวค:แล้วเราจะได้เห็นดีกัน...

 

.....

..

 

และแล้วก็ถึงวันจัดงานปาร์ตี้ งานนี้ถูกจัดขึ้นกลางลานกว้างในเมืองในช่วงค่ำ

ทั้งสองเจ้าร้านอาหารเปิดซุ่มกับคนละฝั่ง แต่ก็เรียกได้ว่าเปิดประจันหน้ากันโดยไม่เกรงกลัวกันเลย

ในโซนปาร์ตี้ของแต่ละร้านจัดไว้มีเวที และ อาหารของทางร้านมาให้บริการ

พร้อมดนตรีคนละแนว บรรยากาศคนละแนว เรียกได้ว่าคนไปปาร์ตี้เลือกที่จะสัมผัสได้

โซนของทั้งสองเจ้าห่างกันไม่ถึง 20 เมตรเรียกได้ว่าจัดใกล้กันจนเป็นเหมือนงานเดียวกัน

และ ในขณะนี้ผู้คนทั่วทั้งเมืองต่างพากันมางานปาร์ตี้แห่งนี้

มีผู้คนจำนวนเยอะมากเรียกได้ว่าที่นี้คือแหล่งรวมคนในเมืองกันเลยทีเดียว

....

..

 

ลูปพีย์ยืนมองงานห่างๆใต้ต้นไม้ข้างๆลานกว้าง

 

มีหญิงสาวเดินมาหาลูปพีย์ เธอก็คือลีฟเปอร์ผู้จัดการร้านแวคนาวี

ลิฟเปอร์เธอเดินมายืนข้างๆลูปพีย์

 

ลิฟเปอร์:อิๆ

 

ลิฟเปอร์หัวเราะเบาๆแล้วมองไปที่งานปาร์ตี้

ลูปพีย์มองไปที่ลิฟเปอร์ด้วยอาการสงสัย

หลังจากนั้นเขาก็เดินหลบลิฟเปอร์ด้วยความไม่ไว้ใจ

 

ลิฟเปอร์:จะเดินไปไหนหรอ~

ลิฟเปอร์:อยู่เป็นเพื่อนฉันดูงานหน่อยสิ...

 

ลิฟเปอร์เดินตามลูปพีย์ไปพร้อมหัวเราะเบาๆ

ลูปพีย์พยายามเดินหนีแต่ว่าดันไปสดุดล้มกิ่งไม้จึงทำให้ล้มลงและแว่นตาหลุด

 

ลิฟเปอร์:ซุ่มซามจริงๆเลยนะ~

 

ลิฟเปอร์ที่เดินตามลูปพีย์มาหยิบแว่นตาของลูปพีย์ขึ้นมา

 

ลูปพีย์มองไม่เห็นสิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดและแสงสลัวๆ

ลูปพีย์ที่ล้มอยู่พยายามคล่ำหาแว่นตา

 

ลิฟเปอร์:ตอนนี้แว่นตาอยู่กับฉันพูดขอร้องฉันก็จะให้แว่นตานาย...

 

ลิฟเปอร์ หัวเราะเบาๆ

ในขณะนั้นเองลูปพีย์ที่มองไม่เห็นลุกขึ้นยืนสัมผัสหาตัวผู้หญิงคนนั้นเพื่อเอาแว่นคืน

 

แต่ทว่า...

ลูปพีย์ดันไปเผลอจับหน้าอกลิฟเปอร์ด้วยความที่เขามองไม่เห็น

ลิฟเปอร์หน้าแดง และตบหน้าลูปพีย์ จึงทำให้ลูปพีย์หน้าคว่ำลงกับพื้น

 

ลิฟเปอร์:แก อีตาหื่น! เอาแว่นของนายไป!

ลิฟเปอร์โยนแว่นของลูปพีย์ทิ้งไปแล้วเดินหนีด้วยความหงุดหงิด

 

ลูปพีย์นอนงงกับพื้นและคล่ำหาแว่นตาของตัวเองต่อ

 

....

..

 

ผู้พันแวค และ โจเซฟ ยืนบนเวทีฝั่งตัวเองเพื่อเตรียมเปิดงานปาร์ตี้

แขกทุกคนในงานกินอาหารกันอย่างอร่อยและมองไปที่เวที

 

ผู้พันแวค:ขอเสียง ชาวทหารเรือแวคนาวีหน่อยเร็ว~!?

 

"เฮ้!!!"

"วูววววววว!!"

 

ผู้คนตะโกนโหร้องเสียงตะโกนโหร้องให้ผู้พันแวค

 

โจเซฟ: เฮ้! ขอเสียงเหล่าโจรสลัดหน่อยเร็ว!?

 

"วูวฮู!!"

"โยววว!!"

 

ผู้คนตะโกนโหร้องให้โจเซฟ

 

โจเซฟ:วันนี้ โจเซฟ จะพาทุกคนมาสนุกในปารตี้โจรสลัดของพวกเรา!

โจเซฟ:สนุกมันส์ไปกันเลยเหล่าโจรสลัด!!

 

โจเซฟ:ขอเสียงโจรสลัดหน่อยเร็ว~!?

โจรเซฟ: โจรสลัด!!!

 

"โจรสลัด!!!"

"โจรสลัด"

"โจรสลัด!!"

(เสียงผู้คนตะโกนเชียร์โจเซฟ)

 

ผู้พันแวค:พวกเรา!! ทหารเรือ!

ผู้พันแวค: ขอขอบคุณทุกท่านที่มางานนี้!!

ผู้พันแวค:เราขอขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุนด้วยปาร์ตี้นี้!!

ผู้พันแวค:ตะโกนออกมา ทหารเรือ!!

 

"ทหารเรือ!!!"

"ทหารเรือ"

"ทหารเรือ!!"

(ผู้คนตะโกนเชียร์ผู้พันแวค)

 

และแล้วเรื่องก็เกิดขึ้นผู้คนที่มางานปาร์ตี้เริ่มแบ่งออกเป็นสองฝ่าย

ฝ่ายหนึ่งอยู่ฝั่งโจรสลัด อีกฝ่ายอยู่ฝังแวคนาวี

 

"โจรสลัด!!"

"ทหารเรือ!!"

"โจรสลัด!!"

"ทหารเรือ!!"

 

เสียงตะโกนดังมาจากทั้งสองฝ่ายสลับกันไปมา

 

"สงครามอาหาร!!"

มีชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

 

หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นผู้คนต่างพากันปาอาหารปาข้าวของภายในงานด้วยความคึกคนอง

เสียงดังโวยวายมากสถานะการตอนนี้ควบคุมไม่อยู่และบานปลายจนถึงที่สุด..

 

.....

...

 

ชูส:งานนี้มันบ้ามาก!

ชูส:ฉันจะไม่ไปงานแบบนี้อีกแล้วผมฉันเสียทรงหมด!

 

ชูส พาร์เทล และ ลุงยาม เปิดประตูเข้าไปในบ้านในสภาพมอมแมม

 

พาร์เทล:ฉันว่าสนุกดีนะมีของกินเยอะเลย

 

พาร์เทลยิ้มและหัวเราะ..

ชูสด้วยความหงุดหงิดจึงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและไปอาบน้ำ

ที่ห้องน้ำอยู่ใต้บรรได

 

ฮัสเทอร์:อย่าชวนไปอีกนะ พาร์เทล ตอนนี้ลุงขอหลับก่อนแหละ..

 

ฮัสเทอร์นอนหลับบนโซฟานุ่มๆที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก

 

พาร์เทล:หนีไปกันหมดเลย..

พาร์เทลเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองด้วยความเหนื่อย

 

เอียดดดดด...

(เสียงเปิดประตู)

 

พาร์เทล เปิดประตูเข้าไปในห้องแบบเงียบๆ

เขาเห็นเฮียเลนนอนกองอยู่บนพื้นตัวสั่นแล้วบ่นว่าเห็นมังกร

 

พาร์เทล:เธอเป็นอะไรหรอเฮียเลน?

เฮียเลน:ฉัน...ฉันเห็นมังกร

พาร์เทล:ฮ่าๆ ฉันชอบมังกร

พาร์เทล:ไปนอนบนเตียงดีๆเถอะนะมันขวางการชมวิวของฉัน

เฮียเลน:แต่ฉันเห็นมังกรจริงๆนะ...

เฮียเลน:เชื่อฉันสิ..

พาร์เทล:อ้า...ฉันเชื่อเธอ...

เฮียเลน:แล้วทุกคนแหละ พาร์เทล

พาร์เทล:ก็ อยู่ฉันล่างกันหมด อะนะ

พาร์เทล:จะว่าไปลูปพีย์ไปไหนฉันไม่เห็นลูปพีย์เลย

 

....

..

 

ลูปพีย์คล่ำหาแว่นตาของตัวเองจนเจอและรีบใส่แว่นตา

เขามองไปรอบๆเห็นแต่แสงจันทร์และความมืด

ลมยามกลางคืนพัดผ่านร่างกายของเขาและเชาได้กลิ่นดอกไม้หมอลอยฟุ่งมาตามลม

ลูปพีย์ยืนขึ้นปัดฝุ่นจากเสื้อของเขาและเตรียมที่จะเดินกลับบ้าน

แต่ว่าเขามองเห็นบ้างสิ่งที่ผิดปกติ เขาสังเกตว่าบนท้องฟ้ามีเงาคนกำลังเล่นสเก๊ตอยู่บนท้องฟ้า

ลูปพีย์ที่ยืนมองหยิบแว่นตาของตัวเองออกมาเช็ดและมองไปที่ท้องฟ้าตำแหน่งเดิม

ปรากฎว่าเงานั้นค่อยๆจางหายไป

ลูปพีย์เอามือกุมขมับและเดินออกไปจากริมลานกว้างกลางเมืองเพื่อที่จะกลับบ้าน

....

..

 

END

Answer

Edited by Mr.F
Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้สนุกดี =w=b ชอบมากเลย เป็นตอนของลูปพีย์สินะ

 

อยากให้เปลี่ยนนิดนึงตรงเสียงหัวเราะของลิฟเปอร์ จาก อิๆ เป็น ฮิๆ น่าจะเหมาะกว่า # คหสต.

 

# เรารู้นะว่าลูปพีย์มองเห็นแม้จะไม่ใส่แว่น 

# อยากจับก็บอกมาเถอะ !! //ผิดมาก

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.