Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Fiction!!]Martial Arts Fighters-ศึกศิลปะการต่อสู้ สะท้านยุทธ


Kimur@

Recommended Posts

บทนำ เปิดการแข่งขัน World of Fighters

ณ ที่ประเทศจีน ที่หน้าสำนักฝึกวิทยายุทธเรือนงาม ศิลปะแบบลวดลายจีนแห่งหนึ่ง กำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยนักข่าว รถตู้ราวสิบกว่าคันจอดเรียงจนแน่น นักข่าวชาวจีน และชาวต่างชาติ พร้อมทั้งตากล้อง และพวกคนมุงทั้งหลายต่างต่างยืนออกันหน้าสำนักฝึกยุทธแห่งนี้ จนแทบจะไม่มีที่เหลือให้คนแทรกเข้ามาได้อีก

พวกนักข่าวทั้งในและต่างประเทศทั้งหลาย ต่างมาร่วมเป็นสักขีพยานในการประลองศิลปะการต่อสู้ครั้งสำคัญของประเทศจีน ระหว่างฉางฟง ปรมาจารย์กังฟูด้านเพลงหมัดทลายภูผา กับผู้ท้าชิง ลี มยอง กิม ผู้ที่อ้างว่าใช้เพียงเทควันโด้รูปแบบใหม่เท่านั้น

ทั้งฉางฟง และลี มยอง กิม ตกลงว่าจะประลองกันแบบปิด ไม่ให้นักข่าวถ่ายภาพเคล็ดลับที่จะถูกงัดออกมาใช้ในการต่อสู้ครั้งนี้  เพราะบางกระบวนท่า ก็เป็นท่าไม้ตายลับที่สืบทอดกันมา

หลังจากการรอคอยอันแสนจะยาวนาน ของพวกนักข่าวที่ยืนรอกันหลังขดหลังแข็ง ประตูห้องประลองที่ปิดกั้นสายตาจากคนภายนอก ได้ถูกเปิดออกจากด้านใน  นักข่าวที่ยืนออกันเพื่อรอทำข่าว ต่างตื่นเต้นกันถ้วนหน้า

ผู้ที่ชนะการประลอง กำลังจะออกมาแล้ว เตรียมถ่ายภาพได้ เสียงนักข่าวชายชาวจีน ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูของลานประลองมากที่สุด ตะโกนสุดเสียง กล้องถ่ายภาพนับหลายสิบ ถูกยกขึ้นมาเพื่อเตรียมกดชัตเตอร์

ทันทีที่ผู้ชนะก้าวเท้าออกมา แสงแฟลชของกล้องแต่ละชนิดก็กดรัว ราวกับแสงจากปากกระบอกปืนกลในยามค่ำคืนก็ไม่ปาน

นักข่าวทุกคนต่างตกตะลึง ผู้ที่ชนะนั้นไม่ใช่ปรมาจารย์ฉางฟง เจ้าของเพลงหมัดทลายภูผาที่พวกเขาหวังเอาไว้ หากแต่เป็นผู้ท้าชิงจากเกาหลีใต้ ลี มยอง กิม เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปี

เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้ารูปไข่  ผิวขาว ไว้ผมรองทรงสูง สวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมไร้กรอบ ดวงตาสีดำสนิทที่แสนจะเย็นชา ถูกบดบังไว้ภายใต้กรอบใสของแว่น เขาอยู่ในชุดพละของโรงเรียน ก้าวเท้าเดินออกมาจากประตูด้วยท่าทีสบายๆ เขายิ้มทักตอบให้กับนักข่าวที่กรูกันมาสัมภาษณ์เขา

แสงไฟจากชัตเตอร์ กระทบเข้าที่ใบหน้าเขาไม่หยุด  เด็กหนุ่ม ลี มยอง กิม กำลังถูกห้อมล้อมด้วยนักข่าว ที่ต่างเตรียมสัมภาษณ์ถึงชัยชนะครั้งนี้ และความรู้สึกที่ได้ประลองการต่อสู้

คุณลีครับ ออกมาแบบนี้ แสดงว่าเจ้าสำนักฉางแพ้สิครับ นักข่าวที่ใกล้ที่สุด เอ่ยถามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะยื่นไมค์ไปจ่อที่ปากของลี มยอง กิมกังฟูตระกูลฉางแพ้ให้กับวิชาของเกาหลีอย่างนั้นหรือครับ

ลีนิ่งสงบอยู่พักหนึ่ง พลางมองไปยังนักข่าวทุกคนที่จับจ้องเขาอยู่ด้วยท่าทีตื่นเต้น นักข่าวพวกนี้ มักใส่ไข่เสมอ หากเขาไม่พูดให้ดีๆ มีหวังเขาอาจไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่เขาคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากคนพวกนี้ได้

ราวชั่วอึดใจ คำพูดที่เขาคิดว่าผ่านการกลั่นกรองออกมาดีแล้ว จึงถูกเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ  

ใช่ครับ ผมชนะเขาได้ แต่วิชาหมัดทลายภูผาเองก็ร้ายกาจเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ลี มยอง กิม พูดพลางยิ้มให้กับนักข่าว เพราะหมัดทลายภูผา แต่ก่อนเคยถูกจัดว่าเป็นวรยุทธ ที่อาศัยพลังลมปราณเข้าช่วย วิชานี้สืบทอดกันเฉพาะรุ่นต่อรุ่น ไม่เหมือนกับพวกวิชาสำเร็จรูปทั่วไป

เมื่อมาถึงจังหวะนี้ เขาเผยธาตุแท้ของเขาออกมาทันที ผมคิดว่าวิชาของประเทศอื่นเอง ก็คงไม่ค่อยหน้ากลัวสักเท่าไหร่ เพราะเนื่องด้วยมีความสำเร็จรูปที่ถ่ายทอดกันมา คนอื่นเขาก็รู้กระบวนท่ากันหมดแล้ว ว่าจะออกอาวุธอะไร แค่ไปหาตำราของวิชานั้นมาอ่านสักรอบสองรอบ ก็ชนะใสๆ

ลีพูดอย่างกระชับ แต่แฝงไปด้วยความท้าทายศิลปะการต่อสู้ของทั่วโลก เป้าหมายของเขาคือทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ สั่นสะเทือน จะต้องมีการเปรียบมวยกันให้มากกว่านี้

และเป้าหมายของคุณลีนั้น จะประลองกับยอดฝีมือคนไหนของจีนต่อหรือครับ คำถามถูกยิงมาจากนักข่าวที่ใกล้ที่สุด

มีข่าวว่าคุณลีจะเดินทางไปสู้ที่ประเทศไทยก่อนญี่ปุ่น เพราะอะไรหรือคะ นักข่าวสาวชาวต่างชาติ เอ่ยถามด้วยภาษาจีนที่สำเนียงแปลกเล็กน้อย แต่เขายังคงเลือกที่จะนิ่ง

นักข่าวยังคงสอบถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ หรือว่าสิ่งที่ได้ยินมาอยู่ตลอด แต่เจตจำนงของลี ได้ถูกถ่ายทอดไปในฟิล์มของพวกนักข่าวเรียบร้อยแล้ว การตอบปัญหาของเขา จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ได้เวลากลับบ้านซะที

เมื่อลีไม่มีทีท่าว่าจะคุยกับนักข่าว คนคุ้มกันราวสิบกว่าคน ซึ่งตามติดอยู่ด้านหลัง จะช่วยกันเคลียร์ทางให้ผู้เป็นนายจ้าง ได้เดินทางไปยังรถยนต์ส่วนตัว

ขอเวลาสักครู่ค่ะ คุณหลี่เอ๋อ น้ำเสียงของนักข่าวสาวที่คุ้นหู ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ลี มยอง กิม หันกลับไปมอง เขาสงสัยว่าใครกัน ที่รู้ชื่อจีนของเขา

นักข่าวที่รู้ชื่อของเขานั้น เป็นผู้หญิงอายุราวยี่สิบกว่าปี ใบหน้าเธอช่างคุ้นหน้านัก ลีรู้สึกว่าพวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อน ใบหน้าเรียว ผมรวบยาว นัยน์ตาที่แสดงถึงความอ่อนโยนแบบนั้น เขาเคยเจอมาก่อนแน่นอน แต่นานมาแล้ว

คุณเป็นใคร ทำไมถึงรู้ชื่อเก่าผม ลีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว แต่ยังคงวางมาดเย็นชา กรุณารีบคุยนะครับ เพราะผมต้องเตรียมเดินทางกลับเกาหลีพรุ่งนี้

ไม่แปลกที่เธอจะจำฉันไม่ได้ หลี่เอ๋อ นักข่าวสาวเริ่มพูดจาอย่างเป็นกันเอง ฉันชื่อว่าเหวินฟาง สมัยก่อนฉันเป็นเพื่อนบ้านเธอไงละ ตอนที่เธอมาอยู่กับคุณตาที่จีน ฉันยังคิดว่าจะทักคนผิดซะด้วยซ้ำ

แปลกใจละสิ ใช่มั้ยครับ ลีเริ่มการสนทนาอย่างเป็นกันเองบ้าง ที่หลานของเจ้าสำนักหมัดมังกรแปดทิศ กลับกลายมาเป็นอริกับวิทยายุทธจีนซะได้

นั่นเป็นเพราะอะไรหรือจ๊ะ ช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ย ในฐานะเพื่อนบ้านที่เคยรู้จักกัน เธอกล่าวเชิงขอร้องในเมื่อเธอเองก็มีสิทธิฝึกวิชาของสำนักอยู่เต็มเปี่ยม

พ่อผมเป็นครูสอนเทควันโด้ ลีเอ่ยสั้นๆ ผมจะไปเรียนวิชาของที่อื่นทำไมละครับ เขาพูดพลางถอนหายใจ

หรือว่าเป้าหมายของเธอ คือประลองกับตาของเธอ เหวินฟางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น การต่อสู้ของวิชาประจำตระกูลหลง กับวิชาของลี น่าตื่นเต้นจริงๆนะ เธอกล่าว พลางเลื่อนเครื่องอัดเสียงที่อยู่ด้านหลัง ให้กระชับ

นั่นสิครับ  ลีเห็นกิริยาของเหวินฟาง จึงรู้ว่าเป็นเครื่องอัดเสียง เขาจึงยิ้มน้อยๆ แต่น่าเสียดาย ที่หมัดมังกรแปดทิศของตระกูลหลง มัวแต่หลบอยู่ในซอกหลืบ ไม่เคยเอามาออกมาสู้เลย ผมละ สงสัยจริงๆ ว่าวิชาของสกุลหลง จะเป็นแค่ปาหี่เท่านั้น

อย่างงั้นหรือจ๊ะ เหวินฟางพูดเออออตามไปด้วย แต่ในใจคงมีน้ำโหละ เล่นดูถูกวิชาของประเทศเธอซะขนาดนั้น แต่สกุลหลงมีกฎไม่สู้พร่ำเพรื่อ เพื่อกันวิชาถูกอ่านทางออกนี่จ๊ะ ลี

ผมไม่สนว่าเขาจะคิดยังไงครับ และหวังว่า ข้อมูลที่คุณบันทึก คงจะเพียงพอให้คุณทำข่าวนะครับ ผมขอตัวก่อน  ลีส่งยิ้มให้ พลางมองไปยังด้านหลังของเหวินฟาง เธอยิ้มแห้งๆ เมื่อลีรู้ตัว

ไว้ทำข่าวผมอีกที ตอนผมจัดการเอาชนะหมัดมังกรแปดทิศละกันนะครับ

ลีกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะขึ้นรถ โดยไม่มองปฏิกิริยาของนักข่าว ประตูรถ ถูกปิดกระแทกจนเกิดเสียง ผ้าม่านถูกชักจนบดบังหน้าต่าง เขายิ้มอย่างสะใจน้อยๆ ก่อนที่จะโบกมือให้รถออก เขาหลอกด่าสกุลหลงไป ต่อหน้าประชาชนที่ดูโทรทัศน์ ในขณะที่สกุลหลงนั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย  

รถแล่นออกอย่างนุ่มนวล ห่างไกลพวกนักข่าวออกไปทุกที ลีสูดหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนที่จะปล่อยออกมา ไอร้อนพวยพุ่งออกจากรูจมูกจนเต็มใบหน้าของเขา

ผมพูดขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าสมาคมศิลปะการต่อสู้ต่างๆ รวมทั้งสกุลหลง จะต้องไม่อยู่เฉยแน่นอน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอันเหนื่อยล้า พลางเอนหลังไปยังเบาะ

ผมจะจัดการพวกสกุลหลงทุกคน และจะขึ้นเป็นที่หนึ่งในวงการต่อสู้ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง  

สิ้นเสียงสุดท้าย เขาก็หลับตาลง เพื่อพักผ่อน เตรียมรับศึกอีกยาวนาน

ไม่นาน หลังจากที่ข่าวเรื่อง ลี มยอง กิม สามารถเอาชนะวิชาหมัดทลายภูผาของปรมาจารย์ฉางฟงได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่วิชาของจีน ที่ปิดตาย ไม่เปิดสอนให้บุคคลทั่วไป เขาก็ถูกเรียกขานว่าปรมาจารย์ลี

ปรมาจารย์ลี มยอง กิม ได้ถูกบันทึกว่าเป็นนักสู้อัจฉริยะที่อายุน้อยคนหนึ่ง เขาเดินสายสู้กับเจ้าสำนักวิชากังฟูของจีนไปทั่ว และแทบทุกครั้ง เขาจะได้รับชัยชนะ หรือไม่ก็ไม่รู้ผล

จนในที่สุด สกุลหลง ผู้เป็นเจ้าของสำนักหมัดมังกรแปดทิศ ก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้ เขาได้ประชุมกับเจ้าตระกูลสำนักวิทยายุทธทั่วทั้งจีน เพื่อหารือกันถึงเรื่องที่จะปราบความผยองของ ลี มยอง กิม หากปล่อยไว้เช่นนี้แล้ว วิทยายุทธจีนที่สืบทอดกันมานาน จะเสื่อมเสียชื่อเสียง

แต่เพื่อไม่ให้สายตาจากชาวโลก ดูแคลนได้ว่า ทั่วทั้งจีน กำลังหาเรื่องเด็กเพียงคนเดียว จึงได้จัดตั้ง World of Fightersขึ้นมา โดยให้ทุกประเทศ สามารถเข้าร่วมการประลองได้ ผู้ที่ชนะในการประลองครั้งนี้ จะได้รับการถ่ายทอดวิชาหมัดมังกรแปดทิศ ประจำสกุลหลง พร้อมทั้งได้รับการยอมรับ ว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก

การประลองศิลปะการต่อสู้ของทั้งโลก จึงเริ่มต้นขึ้น !!

Link to comment
Share on other sites

อ่านบทนำ ก็น่าสนุกแล้ว จะติดตามอย่างต่อเนื่องเลยครับ

Link to comment
Share on other sites

บทนำทำให้ชวนน่าติดตามต่อไป งุงุ

นักสู้แต่ละคนจะงัดวิธีสู้+โกงยังไงกันน้า~ อิอิ

โอ๊ะ! เจอจุดผิด

สิ้นเสียงสุดท้าย เขาก็หลบตาลง เพื่อพักผ่อน เตรียมรับศึกอีกยาวนาน

"หลับตา" เหรอเปล่า

Link to comment
Share on other sites

จะFollowให้ถึงที่สุด ฮี่ๆ

Link to comment
Share on other sites

เรื่องราวหน้าติดตาม

ฟิคยำ? แบบนี้ อ่านอยู่แล้ว~*

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว~ตามมาดูแล้วค่า

บรรยายบรรยากาศได้ดีมากเลยนะคะท่าน=w=

จะติดตามดูไปเรื่อยๆค่า

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านแล้วครับ~ แต่อายุ 18 แล้วยังจะใส่ชุดพละไปสู้เนี่ยนะ -*- แต่ผมเห็นจุดแปลกๆอย่างนึงนะ

“ผู้ที่ชนะการประลอง กำลังจะออกมาแล้ว เตรียมถ่ายภาพได้” เสียงนักข่าวชายชาวจีน ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูของลานประลองมากที่สุด ตะโกนสุดเสียง กล้องถ่ายภาพนับหลายสิบ ถูกยกขึ้นมาเพื่อเตรียมกดชัตเตอร์

คือว่า...ปกติไม่มีใครตะโกนสั่งแบบเป็นทางการกันอย่างนั้นหรอกครับ ที่สำคัญนักข่าวที่อยู่ที่นั่นก็ใช่ว่าจะสังกัดเดียวกันหมด นักข่าวคนอื่นคงเขม่นเอาแน่ๆว่า"เอ๊ะไอ้นี่เป็นใคร บังอาจสั่งเราเรอะ"

ความจริงเขาน่าจะพูดประมาณว่า "เฮ้ย ผู้ชนะการประลองจะออกมาแล้ว เตรียมกล้องเร็วๆ" จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่านะ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณทุกคนครับ และก็ขอบคุณก้อย ที่ชี้จุดผิด ^^"

ปล.ขอบคุณBluewindมากครับ สำหรับคำแนะนำ

Link to comment
Share on other sites

จะเกาะฟิกนี้เหมือนหมากฝรั่งติดเส้นผมเลย~! >w<

Link to comment
Share on other sites

โดย รวมถือว่าดีครับ แต่ผมว่าประโยคนี้มันขัดๆนะครับ

รถตู้ราวสิบกว่าคันจอดเรียงจนแน่น

(ราวสิบกว่าคัน กว่าคันมันเหมือนบ่งบอกจำนวณที่ ต่ำกว่า 10 อะหากใช้คำว่ากว่า) ราวสิบๆ คันควรเน้นคำซ้ำอาจจะดูให้ในปริมาณที่มากกว่า>

ราวสิบกว่าคน(ไม่ควร ใช้คำซ้อน อย่าง ว่า ราวสิบกว่าคน)

(น่าจะใช้ว่า ราวสิบคน(บอกจำนวนเจาะจง) หรือ ประมาณ 10คนไปเลยคับ)

ที่ตรินี่คำแนะนำเล็กน้อยๆของผมเฉยๆคับ^^

เนื้อเรื่องน่าอ่านน่าติดตามดีจ้า^^

Link to comment
Share on other sites

เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้ารูปไข่  ผิวขาว ไว้ผมรองทรงสูง สวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมไร้กรอบ ดวงตาสีดำสนิทที่แสนจะเย็นชา ถูกบดบังไว้ภายใต้กรอบใสของแว่น เขาอยู่ในชุดพละของโรงเรียน ก้าวเท้าเดินออกมาจากประตูด้วยท่าทีสบายๆ เขายิ้มทักตอบให้กับนักข่าวที่กรูกันมาสัมภาษณ์เขา

รู้สึกได้ถึงความเกรียนแปลกๆ เห? อ้าว? มันรองทรงนี่หว่า?

นึกไม่ถึงว่าอัจฉริยะแห่งการต่อสู้เป็น ไอ้หนุ่มแว่นคนนี้เลย = =

อื่นๆ ที่จะบ่น......

ไม่มี

จริงสิ

แต่เพื่อไม่ให้สายตาจากชาวโลก ดูแคลนได้ว่า ทั่วทั้งจีน กำลังหาเรื่องเด็กเพียงคนเดียว จึงได้จัดตั้ง World of Fightersขึ้นมา โดยให้ทุกประเทศ สามารถเข้าร่วมการประลองได้ ผู้ที่ชนะในการประลองครั้งนี้ จะได้รับการถ่ายทอดวิชาหมัดมังกรแปดทิศ ประจำสกุลหลง พร้อมทั้งได้รับการยอมรับ ว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก

World of Fighters เน้นๆ ก็ใส่ "' หน่อยก็ดี ถือว่าเอ่ยถึงเป็นครั้งแรก แล้วก็รางวัลน้อยไปหน่อย (เอาเงินมาล่อด้วย!!)

Link to comment
Share on other sites

ผมไม่ค่อยแนะนำให้ใส่ "" แทนการเน้นนะ

Link to comment
Share on other sites

บทที่1 การหาพรรคพวก

World of Fighters ได้ถูกประกาศขึ้น ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นแหล่งรวมศิลปะการต่อสู้ ทุกประเทศต่างตื่นเต้นกับการประลองครั้งใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีมา ศิลปะการต่อสู้จากทั่วโลก จะถูกจับมาแข่งรวมกัน

ซ้ำสมาคมการต่อสู้สากลของยุโรป และอเมริกา ได้ตกลงว่าจะเข้าแข่งขันคัดอันดับหนึ่งด้วย เพราะพวกเขาเอง ก็ต้องการวัดฝีมือศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาเช่นกัน

โดยหลังจากตกลงกันในเรื่องของกฎกติกาแบบทั่วไป และกฏกติกาแบบพิเศษ รวมถึงทุนร่วมสร้าง ก็ได้สรุปผลว่า การประลอง จะจัดแข่งเป็นทีมละห้าคน ในรอบแรกและรอบสอง ซึ่งทีมที่ชนะอันดับหนึ่งถึงสิบในรอบที่สอง จะได้รับส่วนแบ่งของค่าสมัครการแข่งขันทั้งหมด ไปคนละหนึ่งเปอร์เซน

ส่วนในรอบประลองเดี่ยว ซึ่งคัดมาจากผู้ชนะอีกสิบทีม จะประลองให้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น และหนึ่งคนที่เหลือ จะได้ประลองกับผู้นำสกุลหลง ผู้ใช้วิชาหมัดมังกรแปดทิศ และดำรงตำแหน่งผู้นำศิลปะการต่อสู้ของจีนในปัจจุบัน

หนึ่งเดือนผ่านไป จดหมายเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน ได้ถูกส่งไปถึงหอพักของ ลี มยอง กิม ผู้เป็นต้นเหตุ และต้นเรื่องให้มีการจัดประลองครั้งนี้ เขาอ่านมันผ่านๆ และวางไว้บนโต๊ะหนังสือ

ตอนแรกกะแค่ให้ภูมิภาคเอเชียสั่นสะเทือนเขากล่าวขณะสะพายกระเป๋า พลางเดินไปยังหน้าประตูห้องแต่พวกยุโรปและอเมริกาดันอยากร่วมด้วย งานนี้คงจะนานกว่าที่คาดเอาไว้  

เขาสวมรองเท้าผ้าใบที่วางไว้หน้าห้อง ก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกไป ปิดล็อคห้องของเขาด้วยกุญแจถึงสองชั้น และลงลิฟต์จากหอพักเพื่อไปเรียนในระดับมหาลัย วันนี้เป็นวันแรก ในการเริ่มชีวิตเด็กมหาลัยของเขา

สายตาทุกคู่ในชั้นเรียน ได้จับจ้องมาที่เขา ทันทีที่ลี ได้มายืนหน้าห้องเรียน เขาเองก็ไม่ค่อยแปลกใจ เพราะเขาทำเรื่องท้าทาย ในวงการต่อสู้เอาไว้มาก

ขออนุญาตครับ ลีกล่าวสั้นๆ ก่อนที่จะเดินเข้ามานั่ง โดยไม่สนปฏิกิริยาอาจารย์ชายวัยทอง  สวมแว่นหน้าเตอะ และอ้วนลงพุง ที่มองเขาด้วยสายตาแปลกใจ

ตัวอาจารย์เองคงไม่คิดว่า ลี มยอง กิม นักสู้ชื่อดังในขณะนี้ จะมาเข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับการชอบใช้กำลังของเขา

อ่า..อ้อ ตามสบายเลย พ่อหนุ่มคนเก่ง น้ำเสียงที่แหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ  ลียิ้มตอบกลับพอเป็นมารยาท ก่อนที่จะฟังบรรยายการสอนไปจนจบชั่วโมง

ตอนนี้เขากำลังเป็นหัวข้อประเด็นสำคัญ ในศึก World of Fighters ไม่เพียงแต่ในชั้นเรียนของเขา แม้แต่คณะ ภาควิชา หรือแม้กระทั่งชมรม ก็เอ่ยถึงเรื่องที่เขาทำให้เกิดการประลองระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรก

โดยเฉพาะชมรมเทควันโด ชมรมที่ใช้ศาสตร์การต่อสู้เหมือนกับลี กำลังยกเรื่องของลีมาพูด ในขณะที่ชมรมเทควันโด พึ่งจะเปิดการรับสมาชิกใหม่เป็นวันแรกเท่านั้น

ผู้เข้าร่วมวงสนทนา มีไม่น้อยกว่าสิบคน แต่ละคนก็นำข่าวสารที่ตัวเองรู้ มาแลกเปลี่ยนกัน

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นใครหรอกนะ เก่งมาจากไหน แต่ฉันชอบที่มันบุกถล่มกังฟูจีนด้วยตัวคนเดียวว่ะ

แม่ฉันบอกว่าหัวข้อข่าวออกมาตอนแรก กล่าวว่าเป็นเด็กโรคจิตคิดอาจหาญลองของประเทศจีน แต่พอชนะที เปลี่ยนยศถาบรรดาศักดิ์เป็นปรมาจารย์แทนที่ทันทีเลยละ

ที่เขาใช้คำว่าปรมาจารย์ได้ เพราะสืบต่อโรงเรียนสอนเทควันโดของบิดา ที่ปิดกิจการอยู่สินะ

มีใครรู้มั้ย ว่าสำนักเขาอยู่ที่ไหน ฉันจะไปสมัครเรียนด้วย ไอ้วิชาที่ชื่อว่า เทควันโด้ฉบับใหม่นี่ เพราะพูดก็พูดเถอะ เตะอย่างเดียวมันคงแทนอาวุธทุกส่วนไม่ได้หมดหรอก นอกจากเขาจะมีลูกเตะพลังจิต

ทุกคนในชมรม กำลังลือกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาไม่ทันสังเกตเลยว่า ลี มยอง กิม กำลังยืนรออยู่หน้าทางเข้า และระหว่างที่รอ เขาถอดแว่นตาออกมาเช็ดทำความสะอาด

บังเอิญว่ามีคนในกลุ่ม ที่กำลังจับเข่าคุยกัน เหลือบมาเห็นเขาพอดี

เฮ้ย เงียบก่อน นั่นลี มยอง กิมนี่!!

เสียงคุยอย่างออกรสของคนนับสิบ เงียบในทันที ทุกสายตาพร้อมใจกันหันไปทางเดียวกันหมด

เมื่อทุกคนรู้ว่าเขามาแล้ว เขาใส่แว่นกลับเข้าที่ใบหน้า ก่อนที่จะเดินมาถอดรองเท้าไว้หน้าประตู เข้ามาด้วยท่าทีสงบนิ่ง ไม่มีใครรู้ ว่าเขามาที่นี่ทำไม แต่คิดว่าคงจะไม่ได้มาสมัครเพื่อฝึกซ้อมเป็นแน่แท้ เพราะฝีมือของเขา มันเหนือกว่านั้น

สวัสดีคะ มีไรให้ช่วยคะ ดิฉันเป็นเลขานุการของชมรมเทควันโด หญิงสาวผมดำหน้าม้า ที่ดูท่าทางแล้ว น่าจะเป็นรุ่นพี่มหาลัยปีสอง เดินเข้ามาหา และเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม

ลีดึงเอกสารซึ่งพับไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมา มันเป็นใบรายชื่อนักกีฬาของมหาลัย เขาคลี่มันออกมาเพื่อดูรายชื่อ

ผมมาขอพบประธานชมรมเทควันโดของที่นี่ครับ รู้สึกจะชื่อว่า คุณโอ ซัง จิน ลีตอบกลับไปด้วยท่าทีนิ่งสงบ เขาไม่สะทกสะท้านกับท่าทีของรุ่นพี่สาวเลย สายตายังคงจ้องอยู่ที่ใบรายชื่อ

ท่านประธานของเราตอนนี้ยังไม่มานะคะ ถ้ายังไง จะให้ฉันบอกให้ ว่าคุณลีมาขอพบดีมั้ยคะ

เขาถอนสายตาจากเอกสาร และหันหน้ามามองเลขาของชมรม

ถ้าอย่างนั้นรบกวนบอกด้วยว่าผมมาหาเขา เพื่อจะชวนเขาเข้าทีมแข่งขัน World of Fightersครับ ได้ข่าวมาว่าฝีมือของเขา ถูกจองตัวไปแข่งในระดับประเทศ

ชวนท่านประธานร่วมทีมกับคุณ!! เลขาสาวเอ่ยอย่างประหลาดใจ เธอคิดว่ายังไง ประธานเขาก็คือเด็กปีสี่ ไม่ใช่นักสู้มืออาชีพ หรือว่าเป็นระดับปรมาจารย์อย่างลี

 ไม่ทราบว่าที่ชมรมนี้ ซ้อมวันไหนบ้างครับ ลีเอ่ยถาม พลางมองไปรอบชมรม เพื่อที่จะดูคนฝึกซ้อม แต่ไม่มีใครฝึกซ้อมสักคน เพราะว่าทุกคน กำลังมุงดูเขากันอยู่

ซ้อมทุกวันค่ะ ยกเว้นวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด เลขาตอบคำถามด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม

ครับ ถ้าอย่างนั้น วันพรุ่งนี้ ผมจะมารับคำตอบนะครับ ลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย ก่อนที่จะเดินออกไปหน้าชมรม

คุณลีคะ เลขาสาวตะโกนไล่หลัง ทำเอาลีหันมามอง ไม่สนใจมาฝึกซ้อมที่ชมรมนี้หรือคะ ถ้ายังไงทางเราจะได้แลกเปลี่ยนเทคนิคกันบ้างนะคะ

ขอบคุณสำหรับคำชวนครับ ลีหันหลังมามอง พลางโค้งคำนับขอบคุณ แต่ผมมีคนที่จะไปจองตัวมาเข้าทีมต่อน่ะครับ ถ้ายังไง ผมขอตัวก่อน

ลีเดินออกไปจากชมรมทันที หลังกล่าวคำอำลาเสร็จ

เขาดูเป็นเด็กสุภาพเรียบร้อยมากกว่านะ ว่ามั้ย เสียงคนในชมรมดังขึ้น รูปร่างไม่ได้กำยำ เด็กแว่น ดูเรียบร้อย ไม่นึกว่าหน้าอย่างนั้นจะเป็นระดับปรมาจารย์

สรุปว่ามันดูกันที่ภายนอกไม่ได้จริงๆสินะ เลขาสาวเอ่ย พลางยิ้มปริ่ม ตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะหยิ่งซะอีก

หลังจบธุระที่ชมรมเทควันโด เขาก็มุ่งตรงมายังชมรมมวยสากลของมหาลัย ที่นี่ มีนักชกชื่อดังที่ลงแข่งรายการทัวร์นาเม้น เพื่อล่าเงินรางวัลอยู่ ชื่อว่าแฮยอง

ผมมาขอพบแฮยองครับ ลีเดินตรงมาคุยกับสมาชิกคนหนึ่งในชมรมมวยสากล เขาทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบไปตามตัวแฮยองมา

แฮยอง เป็นชายผิวคล้ำตัวล่ำ รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดุดัน ผมหยิกราวกับนิโกร ซึ่งเหมาะสมเป็นนักสู้ขาโหดโดยสมบูรณ์ เขาเดินมาเผชิญหน้ากับลีอย่างท้าทาย พลางใช้สายตามองลีอย่างวิเคราะห์  เขาตัวสูงกว่าลี หัวของลีนั้น อยู่ระหว่างคอเขาเท่านั้นเอง

ผมทราบว่าคุณมีฝีมือ เลยจะมาชวนคุณไปเข้าร่วม World of Fighters ลีพูดเปิดประเด็นหลักทันที ฝ่ายตรงข้ามมีสีหน้าเหมือนโดนหาเรื่อง

ฉันจะลงสมัคร ในฐานะหัวหน้าทีม ฝ่ายตรงข้ามพูดประโยคเชิงปฏิเสธ ดังนั้นฉันจะไม่เข้าร่วมกับนาย เว้นซะแต่ว่านายจะยอมมาเข้าทีมฉันเอง

สีเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจ พลางเอาเท้าเอวข้างหนึ่ง เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย สายตาเอาเรื่องมองลอดผ่านออกมาจากกรอบแว่น

มันไม่สำคัญหรอก ว่าฉันจะได้เป็นหัวหน้าหรือไม่ แต่ฉันไม่ไว้ใจทีมที่เหลือคนอื่นๆของนาย ลีกล่าวอย่างไม่เกรงใจ สีหน้าเขาเคร่งเครียด

ถ้าอย่างนั้น จะลองทดสอบดูมั้ยพรรคพวก แฮยองยื่นข้อเสนอ

งั้นเริ่มเลยละกัน ลีตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ ก่อนที่เขาจะถอดแว่น และเก็บเข้ากล่อง

ลีเดินขึ้นไปยังสังเวียนของนักมวย เขาอยู่ในชุดลำลองสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่สนับแข้งแบบมีที่กันหลังเท้า อันเป็นของที่เขาเตรียมมาเอง พร้อมกับนวมสีน้ำเงินที่ทางชมรมมวยสากลจัดหามาให้

ส่วนทางด้านคู่ชกของเขานั้น เป็นคนในชมรมมวยสากล ซึ่งจะเข้าร่วมทีมของแฮยองด้วย เขาไม่จำเป็นต้องจำชื่อ เพราะว่าอีกไม่นาน หมอนี่ก็จะโดนออกจากทีมไปแล้ว

เริ่มได้!

เสียงประกาศของแฮยอง ซึ่งเป็นกรรมการตัดสิน ตะโกนขึ้นท่ามกลางสนาม ฝั่งซ้าย ลียืนประจำอยู่ ส่วนทางฝั่งขวา นักมวยไม่รู้ชื่อยืนประจำอยู่ เขาใส่นวมสีแดง และเฮดการ์ดครบเซ็ต สีหน้าเขาดูตื่นเต้นและเคร่งเครียดในเวลาเดียวกัน

นักมวยไร้ชื่อทางฝั่งขวาเริ่มเต้นฟุตเวิร์ค และยกการ์ดขึ้นสูงระดับกกหู แบบที่ได้รับการฝึกมา ช่วงใบหน้าเขานั้น แทบไม่ปล่อยช่องว่างเอาไว้ เขาไม่ยอมเข้าหาลี เพราะเขาคิดว่าลีนั้น น่าจะใช้เท้าเป็นอาวุธหลัก ทำให้ได้ระยะมากกว่าหมัดของเขา ดังนั้นเขาควรจะหาจังหวะตอนลีเปิดช่องว่างแทน

ลียิ้มอย่างสบายใจ พลางส่ายหน้ากับความคิดตื้นๆของนักมวยไร้ชื่อ เขาเดาความคิดของนักมวยคนนี้ออกจนหมดสิ้น

ในเมื่ออยากให้เขาเข้าหา เขาก็จัดให้ เขาใช้แรงส่งจากปลายเท้า ดีดพุ่งตัวเข้าไปหานักมวยด้วยความเร็ว พร้อมกับยกขาขวาของเขาขึ้นตรง จนเลยระดับใบหน้าของนักมวย และใช้ส้นเท้าตอกฟาดลงไปสุดแรง

ปลั่กก!!

ส้นเท้าของลีกระแทกเข้ากลางกบาลของนักมวยไร้ชื่ออย่างจัง เขาล้มลงแน่นิ่งในทันที โดยไม่มีแม้แต่โอกาสจะส่งเสียงร้อง เพราะเฮดการ์ดของมวยสากล เน้นกันแถวใบหน้าและกกหูเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ออกแบบมาให้รับกับส้นเท้าที่ฟาดลงมาจากที่สูง

ทุกคนที่ชมการประลองพากันนิ่งเงียบ ไม่ถึงสิบวินาที ลีก็สามารถจบเกมได้อย่างรวดเร็ว สมกับที่เขาสามารถออกไปต่อสู้กับพวกเจ้าสำนักต่างๆได้

แฮยองอึ้งไปพักนึง ก่อนที่จะประกาศ ฝ่ายน้ำเงิน ลี มยอง กิม ชนะน็อคครับ

หลังจากทุกคนเห็นตัวอย่างที่ลีจัดการกับนักมวยคนแรกไป ก็ไม่มีใครคิดจะลองดีกับเขาอีก ลีจึงท้าแฮยองแทน โดยมีตำแหน่งหัวหน้าทีมเป็นเดิมพัน แฮยองกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ ก่อนที่จะตอบตกลง เพราะเขาเอง ก็ปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งชมรมไม่ได้

ฉันมีอะไรจะถามนาย แฮยองเริ่มเปิดประเด็นสนทนาขึ้นมาก่อน ระหว่างที่พวกเขาใส่เครื่องป้องกัน

ว่ามาสิ ลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลางตรวจสอบว่านวมสีแดงของเขาชำรุดหรือไม่ เพราะมีมันรอยขาดจากการใช้งาน

คนเก่งระดับนาย หรือเหนือกว่านาย มีอีกมั้ย แฮยองถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

มีเยอะมาก และฉันก็จะโค่นมันลงมาด้วยมือฉัน ทุกคนลีกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ก่อนที่จะสวมนวมและเดินขึ้นไปยังสนามประลอง

นายนี่พูดติดตลกนะ ฮะๆ แฮยองพูดแบบขำๆ ก่อนที่จะเดินตามไป

ลียิ้มกริ่มน้อยๆ การที่คู่ต่อสู้ของเรา เริ่มชวนคุย หรือถามถึงฝีมือเรา มีสองอย่าง ไม่เขาเหนือกว่า ก็คือเขาอยู่ในอาการประหม่า และกำลังตื่นเต้น รวมถึงหวาดกลัว

เริ่มได้

คนในชมรมเป็นกรรมการให้กับแฮยอง และลี แฮยองในฝั่งน้ำเงินระวังตัวเต็มที่ เขาพยายามไม่อยู่นิ่ง เต้นฟุตเวิร์ควนรอบสนามไปทั่ว เพื่อไม่ให้ลีรวมกำลังโจมตีเขาได้ในทีเดียว

               เมื่อแฮยองวนรอบสนาม จนเข้ามาในระยะเท้าของลี ลีตัดสินใจหมุนตัววนทวนเข็มนาฬิกา เหวี่ยงขาหลังปล่อยลูกเตะส้นตอกเข้าที่กกหูของแฮยอง จังหวะนี้ทำให้แฮยองคิดว่าเขาได้เปรียบแล้ว

เขาก้มหัวหลบ จนพ้นลูกเตะตามแบบฉบับของมวยสากล ก่อนที่จะย่อตัว เพื่อส่งแรงหมัดเสยด้านขวาเข้าที่ท้องของลี ตอนที่ลีเก็บขาที่เหวี่ยงลงมาที่พื้นเรียบร้อยแล้ว

จังหวะที่ลีนำขากลับลงมาไว้เป็นหลักที่พื้นเหมือนเดิม เขาพลาดเปิดช่องที่ท้อง ทำให้โดนหมัดเสยข้างขวาเข้าอย่างจัง

หมัดขวาของแฮยอง โดนเข้าที่ท้องของลี แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงแรงปะทะเลย เขารู้สึกว่ามันสัมผัสได้แค่นิดเดียว ก่อนที่ท้องของลี จะถอยห่างออกไปจากระยะของหมัด

ที่จริงแล้ว ลีจงใจทำให้ตัวเองเสียหลักถอยไปข้างหลัง ด้วยใช้แรงดันจากจมูกเท้าเข้าช่วย ทำให้เขาพ้นจากระยะหมัดของแฮยอง

ซึ่งท่าการต่อสู้ของแฮยองในขณะนี้ คือกำลังย่อตัว และยกหมัดขวาต่อยเสยค้างไว้เลยเหนือหัว โดยกลางกบาลเขาเปิดโจ่งแจ้ง ไร้การป้องกัน

และภาพสุดท้ายที่แฮยองเห็น ก็คือ ลีพุ่งเข้ามา และยกส้นเท้าไว้เหนือหัวเขา ก่อนที่จะฟาดมันลงมาที่กลางกบาล

แฮยองตื่นขึ้นมาอีกที เขาก็อยู่ในห้องพักนักกีฬา โดยมีนักมวยที่ลีน็อคไปก่อนหน้านี้ ตื่นขึ้นมาไล่เลี่ยกัน

แฮยองจำคำพูดของลีได้ ที่เขาบอกว่ายังมีคนเก่งกว่าเขาอีกมาก

ฉันตัดสินใจละ งานWorld od Fighters ฉันจะไม่ลง ฉันล่าเอาเงินรางวัลในทัวร์นาเม้นมวยสากลเหมือนเดิมดีกว่า

...

ณ ประเทศไทย โรงเรียนมัธยมของรัฐบาลแห่งหนึ่ง

หลังโรงเรียนในช่วงเย็นถึงค่ำ อาจารย์มักจะปละปล่อยละเลย ในการมาตรวจตรา ทำให้ที่นี่คือแหล่งมั่วสุมชั้นดี ของพวกเด็กอันธพาลทั้งหลาย ที่มาจากต่างที่กัน แต่มารวมกันเพราะความถูกคอ

เด็กอันธพาลส่วนมาก เป็นเด็กที่แค่มีชื่อในโรงเรียนเท่านั้น รวมทั้งบางคนก็โดนไล่ออกไปแล้ว รวมถึงพวกที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในโรงเรียนนี้ตั้งแต่ต้น

และการที่เด็กอันธพาลพวกนี้ มามั่วสุมกันหลังโรงเรียน สร้างความเดือดร้อนให้กับภารโรงเป็นอย่างมาก ทั้งคราบบุหรี่ ที่ทิ้งเอาไว้ หมากฝรั่ง ขวดน้ำ ขวดเบียร์กระป๋อง และถุงขนมห่ออีกมากมาย

รวมทั้งเด็กที่เรียนเกษตร ที่มีเวรมาดูแลแปลงผัก ก็ต้องทำการเก็บกวาดของพวกนี้เป็นอย่างแรก ในกรณีที่ภารโรงยังทำความสะอาดไม่ถึงตรงส่วนนี้

และแน่นอน อาจารย์รู้อยู่แก่ใจ แต่เบื่อหน่ายที่จะปราบ เนื่องจากปราบยังไง พวกเด็กก็ไม่เข็ด กลับมากันต่อ และอยู่นานกว่าเดิม เพื่อเป็นการต่อต้านอาจารย์ บริเวณหลังโรงเรียนแห่งนี้ จึงเป็นถิ่นของเด็กพวกนี้ไปโดยปริยาย

แต่บางที นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ของการก่อตั้งกลุ่มอันธพาลพวกนี้ก็ได้ เมื่อกลุ่มสารวัตรนักเรียน ซึ่งเป็นทีมงานนักเรียนมัธยมปลาย ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า จะทำการปราบปรามกลุ่มอันธพาลพวกนี้อย่างจริงจัง

ถ้าผมไล่กุ๊ยพวกนี้ไปได้อย่างถาวร เรื่องที่ผมต่อยกับเพื่อนร่วมชั้น จะไม่ไปถึงหูอาจารย์ ใช่มั้ยครับ

เสียงของเด็กนักเรียนมัธยมต้น ในชุดพละสีเทาดังขึ้น ที่คอปกปักวงกลมสีแดงไว้สองอัน อันเป็นเครื่องหมายว่า เขาอยู่ปีสองเขามีตาสองชั้นหนึ่ง

ข้างเป็นเอกลักษณ์ สวมแว่นตากรอบหนาสีดำ รูปร่างพอดีสมส่วน เหมือนคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาจะเป็นพวกเด็กเรียน

ตะวันกำลังจะตกดิน กลุ่มเด็กอันธพาลที่มากันจำนวนแปดคน มีที่ท่าไม่สนใจพวกเขา พวกนั้นยังคงส่งเสียงโวยวายดังลั่น รวมทั้งพูดจาหยาบคายให้ได้ยินกันทั่ว

ไม่ต้องห่วง ภารกิจ พี่เองก็ไม่ปล่อยให้น้องต้องสู้คนเดียวหรอก

เสียงของประธานสารวัตรนักเรียนดังขั้น เขามีชื่อว่าเอนก เขาเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายปีที่หก เขาตัวสูงใหญ่และเล่นกล้าม ดูท่าว่าเขาเองก็คงจะเป็นอันธพาลมาก่อน แต่พอรอดมาจนถึงมัธยมปลาย จึงได้รับเลือกให้เป็นสารวัตรนักเรียน

แย่หน่อยนะคะ ที่พาพวกมาเยอะไม่ได้ ไม่งั้นจะเป็นจุดสังเกตุ เสียงที่สามดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงใสของหญิงสาวมัธยมปลาย รุ่นเดียวกับเอนก หน้าตาสละสวยพอตัว เธอไว้ผมยาวและมัดรวบ อยู่ในชุดนักเรียนเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอมีชื่อว่าแอน

เธออาจจะดูไม่เหมาะกับสถานการณ์นี้นัก ถ้าหากในมือทั้งสองของเธอ ไม่ได้สวมสนับมือเหล็กสีเงินหม่น

และทีมสารวัตรนักเรียนหญิงอีกสองคน ไว้ผมสั้นกว่าแอนเล็กน้อย ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังสุด เธอมีหน้าที่คอยดูลาดเลา ว่าจะมีคนมาเห็นมั้ย กับการกระทำการขับไล่เด็กอันธพาลด้วยวิธีเถื่อน ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์

รู้สึกเมื่อวันก่อน จะมีเด็กนักเรียนหญิงโชคร้ายคนหนึ่ง โดนพวกมันรีดไถเงินไปซื้อเบียร์กระป๋อง นักเรียนสาวที่ดูลาดเลาเอ่ยขึ้น เรื่องถึงหูอาจารย์ก็จริง แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอแค่ถูกเตือนว่าอย่าไปแถวนั้นเวลาเย็น

และมีบางคนโดนรุมทำร้ายด้วยนะ ผู้ดูลาดเลาอีกคนเสริมต่อทันที เหตุผลเพียงเพราะว่าพวกมันบอกว่าไม่มีไรทำ ต้องการเป้าซ้อมมวย

ฉันละชื่นชมกับระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนนี้จริงๆ สารวัตรนักเรียนกล่าวลอยๆ พลางเริ่มเดินเข้าไปหาพวกเด็กอันธพาล ภารกิจและแอนก็ตามไปด้วย

พวกอันธพาลใช้หางตามองกลุ่มสารวัตรนักเรียนที่มากันสามคน ราวกับจะถามว่า มีอะไร

ที่นี่ไม่ใช่ที่สุมหัวของพวกแก กลับไปซะมันเป็นที่ของพวกฉัน เอนกกล่าวคำขาด พลางจ้องมองไปยังกลุ่มอันธพาลทั้งแปด

และถ้าไม่ไป จะมีปัญหาอะไรมั้ยวะ หนึ่งในกลุ่มอันธพาลกล่าวขึ้นอย่างลอยๆ ย้อนถามเอนก พลางทำสีหน้ากวนใส่ ระหว่างนี้เอนกเอามือซ้ายเข้าไปในกางเกง และสวมใส่สนับมือให้หมัดขวาที่ด้านหลัง เขาติดอาวุธที่จะต่อกรกับคนมากกว่าไว้พร้อมแล้ว

พวกเอ็งรีบไสหัวไป ก่อนที่พวกข้าจะโมโห อันธพาลที่เหลือช่วยกันโห่ซ้ำ พลางส่งเสียงเชียร์พวกเดียวกัน

เกิดเสียงขวดแก้วแตก มีอันธพาลคนหนึ่ง ตีขวดเบียร์แตก และจ่อปากแหลมของขวดเบียร์ขึ้นมาข่ม พวกมันเตรียมใช้อาวุธเหมือนกัน

อยากเจอไฮเนเก้นปากฉลามมั้ยวะ ยกเว้นแม่สาวนั่นนะ ยินดีเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น อันธพาลที่ถือขวดเบียร์พูดจาข่ม ก่อนที่จะหัวเราะลั่น

ตะวันตกดินโดยสมบูรณ์ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางเริ่มส่องแสงมาแทนที่ตะวัน ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว

เล่นมันให้หมดสภาพ อเนกกล่าวคำขาด เมื่อเห็นว่าการเจรจาไร้ผล

ทันทีที่เขาออกคำสั่ง เขาก็ยัดหมัดขวาของเขาที่ติดสนับ ต่อยเข้าขมับของอันธพาลที่พูดกวนประสาทใส่เขาเมื่อสักครู่ เกิดแผลแตกที่ขมับของอันธพาลคนนั้นทันที เลือดไหลอาบท่วมออกมาจากหัว ก่อนที่อันธพาลจะหมดสภาพ และสลบไป

พวกอันธพาลบางคน ที่มารวมตัวเพื่อความโก้ และคิดว่าพวกมากไม่มีใครกล้าทำอะไร ถึงกับหน้าถอดสี เมื่อเขาเห็นว่าคนพวกนี้เอาจริง และยังมีอาวุธที่สามารถทำให้ถึงตายได้

ภารกิจเห็นท่าว่าต้องรีบใส่ตอนที่พวกมันตกใจ เขาจัดการตรงเข้าไปจับที่ข้อมือของคนที่ถือขวดเบียร์ปากแหลมอยู่ และใช้นิ้วจิ้มกระแทกที่ลูกตาของคนที่ถือขวดเบียร์อย่างแรง จนอันธพาลตกใจไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกระชากแย่งขวดเบียร์นั่นออกมา และฟาดมันเข้าที่กกหูของอดีตเจ้าของขวดเบียร์ ภารกิจฟาดมันสุดแรง ซะจนขวดแตกอีกรอบ

ตอนนี้ อันธพาล หมดสภาพไปแล้วสองคน เหลืออีกหก

ภารกิจถูกเท้าของใครไม่ทราบ ในกลุ่มอันธพาล ถีบใส่ท้องเขา จนเขากลิ้งกลับหลังไปรอบ ดูท่าว่าเขาคงจะกำจัดง่ายสุด เพราะไม่ได้มีอาวุธเหมือนสองคนแรก

เล่นไอ้เด็กนั่นก่อน พวกอันธพาลสี่คน ชี้มายังภารกิจ ก่อนที่จะกรูกันเข้ามาหาเขา

ทางด้านของแอน ด้วยเธอเป็นผู้หญิง และแรงไม่หนักเท่าผู้ชาย ถึงแม้ว่าเธอจะมีอุปกรณ์ช่วยก็ตาม จึงทำได้แค่รอยแผลแตกบนใบหน้าของอันธพาลที่เธอกำลังสู้ด้วย ฝ่ายนั้นระวังตัวเต็มที่ ไม่ให้อยู่ในระยะเหวี่ยงหมัดของแอน

ส่วนทางด้านของเอนก อันธพาลหนึ่งคนที่สู้กับเขา ดูท่าว่าจะเรียนมวยมา ที่คิ้วของเขา มีรอยแตกเพราะโดนตีศอก เลือดจากหางคิ้วไหลลงมาไม่ขาดสาย

แย่แล้ว รถของผู้อำนวยการกำลังจะขับผ่านมาทางนี้ เสียงของผู้สังเกตการณ์ดังขึ้น พวกเขาต้องรีบทำเวลา ไม่งั้นพวกเขาอาจไม่โดนแค่ไล่ออก แต่อาจถึงขั้นคุกตาราง

ปล.ตอนนี้ผมเขียนขึ้น เพื่อส้รางเหตุการณ์ให้นำไปสู่ตอนต่อไป ฉากรุนแรง และการใช้อาวุธในเรื่อง เด็กๆไม่ควรทำตามนะครับ เพราะสนับนี่ถึงตายเลยนา  :pika01:

ปล2.มาแก้คำผิดเท่าที่เห็น :pika04:

Link to comment
Share on other sites

ลีกำลังตามล่าหาสมาชิกสินะ

ในขณะที่ ณ จุดหนึ่งของเมืองไทยกำลังทำการปราบอันธพาลด้วยวิธีอันธพาล

เพชรต้องตัดกับเพชรเท่านั้นถึงจะเอาอยู่

ไฮเนเก้นปากฉลามเลยเหรอ บ้านเราที่ต่างจังหวัดเห็นแต่ลีโอ สิงห์ และช้างเอง ไฮเนเก้นนานๆเห็นที

แล้วเหล่าสารวัตรนักเรียนจะเป็นยังไงน้า ลุ้นๆ

Link to comment
Share on other sites

อ่านแ้ล้วครับ แต่มีจุดต้องเม้นต์

เดี๋ยววันอาทิตย์เย็นแล้วกันจะมาเม้นต์ครับ(สอบแกะแพะก่อน = =)

Link to comment
Share on other sites

ลีตอกส้นอย่างไว =_=

และใช้นิ้วจิ้มกระแทกที่ลูกตาของคนที่ถือขวดเบียร์อย่างแรง จนอันธพาลตกใจไปชั่วขณะ

จิ้มตานี่มันไม่ใช่แค่ตกใจแล้วละครับ มันถึงกับร้องโอดโอยเลยนะครับ

“อยากเจอไฮเนเก้นปากฉลามมั้ยวะ ยกเว้นแม่สาวนั่นนะ ยินดีเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น” อันธพาลที่ถือขวดเบียร์พูดจาข่ม ก่อนที่จะหัวเราะลั่น

ตะวันตกดินโดยสมบูรณ์ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางเริ่มส่องแสงมาแทนที่ตะวัน ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว

“เล่นมันให้หมดสภาพ” อเนกกล่าวคำขาด เมื่อเห็นว่าการเจรจาไร้ผล

เท่าที่ดูจากตอนเริ่มอธิบายว่าอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว จนมาถีงตรงนี้ ถ้านับตามเวลาจริงๆนี่พวกเขาคุยกันไม่กี่นาทีเองนะครับ ฉะนั้นด้วยเวลาสั้นๆแค่นั้นเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆจะเปลี่ยนเป็นกลางคืนครับ

แต่ถ้าต้องการให้ฉากต่อสู้เป็นกลางคืน ก็ควรจะบรรยายตั้งแต่แรกว่าตอนนั้นพระอาทิตย์ตกดินไปเรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนฉากต่อสู้นั้นทำได้ดีแล้วครับ สู้ต่อไป!

Link to comment
Share on other sites

ปะ...ปากฉลาม... :pika08:

Link to comment
Share on other sites

ยังไม่เห้นลีใช้ มือหรือศอกเลยแฮะ ยังรู้สึกเหมือนเทควันโด้ดั้งเดิมอยู่อะ

Link to comment
Share on other sites

ขอขัดนึดนึง

อยากเจอไฮเนเก้นปากฉลามมั้ยวะ ยกเว้นแม่สาวนั่นนะ ยินดีเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น

ไฮเนเก้น เป็นเบียร์ค่อนข้างหรู(รสนุ่มลิ้น) ราคาพอสมควร เหล่าพวกอัทธพาลเหล่านี้ไม่น่าจะมีปัญญากระดกหรอก~

ถ้าเป็นพวกผม แค่ ช้าง ลีโอ อาชา ก็แหล่มแล้ว ฮ่ะๆๆๆ (นี่ผมกลายเป็นอัทธพาลตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า? เอาเถอะ เด็กช่างกลนี่นะ)

ปล.18+

Link to comment
Share on other sites

คือว่า การบรรยายค่อนข้างละเอียดในการกระทำดีเจ้าค่ะ

แต่ในเรื่องของเครื่องแต่งกายบางจุด และเรื่องของสภาพรอบข้าง ยังมีไม่มาก

การใช้ภาษาทำได้ค่อนข้างเป้นทางการเจ้าค่ะ จนบางครั้ง เราเองก็รู้สึกว่าเป้นทางการเกินไปนะเจ้าคะ

เรื่อฉากการต่อสู้ บรรยายได้ละเอียดดีมากๆ เจ้าค่ะ แต่การบรรยายที่ละเอียดนี้ ก็เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ก็คือ ภาพที่จินตนาการได้ มันค่อนข้างจะเป้นภาพช้าทุกครั้ง จากความคิดของเราแล้ว การบรรยายฉากต่อสู้นะเจ้าคะ

อยากให้มีการบรรยายแบบลวกๆ และ ละเอียดๆ ผสมกันเจ้าค่ะ (แบบตอนท้ายตอน ทำได้ดีแล้วเจ้าค่ะ)

ที่กล่าวมานี้เป้นเพียงความรู้สึกส่วนตัวนะเจ้าคะ ไม่ต้องไปใส่ใจมากก็ได้เจ้าค่ะ

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

ทุกท่านครับ มาขอประกาศว่า ฟิคเรื่องนี้ ผมจะทำการหยุดแต่งครับ :pika08: เหตุผลเพราะว่าในตอนต่อไปเรื่อยๆ จะมีฉากที่นำไปสู้ความรุนแรง การใช้อาวุธ (ซึ่งอะบายถึงวิธีการทำร้ายแบบละเอียดเลย กลัวว่าจะทำให้จิตตกเอาได้)

ดังนั้น ผมจะไปแต่งเรื่องซอฟต์ลงก่านี้ครับผม ขออภัยสำหรับผู้ติดตามทุกท่านครับ และก็ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาตลอดด้วยเช่นกัน :pika01:

Link to comment
Share on other sites

แง่ว หยุดแต่งเหรอ อ่านะไม่เป็นไร รออ่านเรื่องใหม่ละกัน

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.