Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Pokemon Heart Touching Moment : ฉากประทับใจ ในอนิเมโปเกมอน


ปุยเมฆน้อย ลอยตามลม

Recommended Posts

กระทู้นี้ เป็นกระทู้ที่เราจะรีวิวฉากประทับใจ หรือเรื่องราวลึกซึ้งกินใจต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในอนิเมโปเกมอนค่ะ โดยเราจะพยายามเอามารีวิวทุกสัปดาห์นะคะ สำหรับใครเห็นว่ามีตอนไหนที่น่าประทับใจ สามารถแนะนำเข้ามาได้ค่ะ เราจะทยอยๆ นำมาเขียนรีวิวให้ค่ะ

สารบัญ

EP 001 : Pokémon - I Choose You!

EP 011 : Charmander – The Stray Pokémon

EP 021 : Bye Bye Butterfree

EP 039 : Pikachu's Goodbye

EP 048 : Holy Matrimony!

Special EP : Snow Way Out!

EP 070 : Go West Young Meowth

EP 079 : Friend and Foe Alike

EP 096 : Meowth Rules!

 

เรียบเรียงโดย

แอดปุยเมฆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://filb.de/anime

http://bulbapedia.bulbagarden.net/

Edited by ปุยเมฆน้อย ลอยตามลม
  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

EP 001 : Pokémon - I Choose You!

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ซาโตชิ เด็กชายอายุ 10 ขวบรู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ที่จะได้รับโปเกมอนตัวแรกในวันพรุ่งนี้แล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในโลกโปเกมอนแห่งนี้ บุคคลที่อายุครบ 10 ปีบริบูรณ์ จะถูกได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง สามารถมีโปเกมอนในครอบครองได้ และสามารถที่จะออกเดินทางตามความฝันด้วยตัวคนเดียวได้แล้ว ส่วนความฝันยอดฮิตของทุกคนในโลกนี้ ก็คงไม่พ้นคำว่า "โปเกมอนมาสเตอร์" แน่นอน และด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่ในหัว กว่าซาโตชิจะรู้สึกตัวก็สายไปเสียแล้ว เขารีบวิ่งมายังศูนย์วิจัยของ ด็อกเตอร์ออคิด เพื่อรับโปเกมอนตัวแรก แต่ทว่า... โปเกมอนเริ่มต้นทั้งสาม ได้แก่ ฟูชิกิดาเนะ(Bulbasaur), ฮิโตคาเงะ(Charmander) และ เซนิกาเมะ(Squirtle) ได้ถูกเลือกไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ พิคาชู(Pikachu) ที่ไม่ค่อยจะเชื่องเท่านั้นเอง ทำให้ซาโตชิต้องเลือกพิคาชูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

แค่เริ่มต้นการเดินทางก็พบเจออุปสรรคเสียแล้ว ด้วยความที่พิคาชูไม่ยอมที่จะเข้าบอล และไม่ยอมที่จะร่วมเดินทางด้วย ทำให้ต้องมีการบังคับกันบ้าง แต่ทว่า... ก็จบด้วยการที่ซาโตชิถูกไฟฟ้าช็อตไปตามระเบียบ การจับโปเกมอนก็เช่นกัน พาคาชู เองยังไงก็ไม่ฟังคำสั่งของซาโตชิ ทำให้เขาต้องพยายามจับโปเกมอนด้วยตัวเอง แต่ผลก็ออกมาล้มเหลวอย่างที่เห็น

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

และแล้วเรื่องสุดอันตรายก็เกิดขึ้น เมื่อซาโตชิ ปาหินไปโดนหัวของเจ้าโปเกมอนอารมณ์ร้าย โอนิสุสุเมะ(Spearow) จนทำให้มันโมโห หมายเข้าจะเล่นงานพาคาชู เพราะเข้าใจว่าเป็นโปเกมอนของซาโตชิ ทำให้พิคาชูเองต้องออกโรงช็อตไฟฟ้าใส่จนมันหมดสภาพไป ท่ามกลางความดีใจของซาโตชิ "ในที่สุด ก็ยอมเชื่อฟังฉันแล้วสินะ"

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

โอนิสุสุเมะ หลังจากที่โดนไฟฟ้าช็อต ก็ได้เรียกพรรคพวกออกมาแก้แค้น ทำให้ซาโตชิ ต้องพาพิคาชูหนีหัวซุกหัวซุน กระโดดลงน้ำหนีไป และก็บังเอิญถูกคาสึมิตกขึ้นมาได้ คาสึมิเห็นสภาพอันสะบักสบอมของซาโตชิและพาคาชู ก็รู้สึกโมโห จึงจัดการตบสั่งสอนซาโตชิไปหนึ่งที "นายน่ะ เป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ประสาอะไร ทำไมถึงทำให้โปเกมอนอยู่ในสภาพแบบนี้กัน" ซาโตชิก็ไม่สามารถสลดได้นานนัก เนื่องจาก ฝูงโอนิสุสุเมะ ยังคงตามมาอย่างไม่ลดละ ซาโตชิ จึงตัดสินใจขอยืมจักรยานของคาสึมิ เพื่อพาพิคาชูหนีต่อไป

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

สปีดการปั่นจักรยานของคนหรือจะสู้การบินของโอนิสุสุเมะ ในที่สุด จักรยานก็ล้มลง ซาโติชิได้ยื่นข้อเสนอกับพิคาชู ให้กลับเข้าบอล เพื่อที่จะไม่ให้ต้องเจ็บตัวอีก แต่ดูเหมือนการเจรจาจะล้มเหลว ซาโตชิจึงลุกขึ้นเผชิญหน้ากับฝูงโอนิสุสุเมะ แล้วพูดว่า "นี่พวกนาย ไม่รู้เหรอว่าฉันน่ะเป็นใคร ฉันคือซาโตชิจากเมืองมาซาระ ฉันเป็นนักฝึกโปเกมอนชื่อก้องโลกเลยนะ ฉันไม่ยอมแพ้พวกนายหรอก" และเมื่อพิคาชูได้ยินคำนั้น มันพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกระโดดไปเบื้องหน้าซาโตชิ แล้วปล่อยไฟฟ้าออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จนสามารถขับไล่ฝูงโอนิสุสุเมะไปได้

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

หลังจากเหตุการณ์อันยุ่งเหยิงจบลง ทั้งสองต่างมองตากันและเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น ซาโตชิมองขึ้นไปบนฟ้าปรากฏโปเกมอนที่ไม่เคยพบเห็นขึ้น ข้อมูลในโปเกเด็กซ์บอกเอาไว้ว่า ไม่มีข้อมูลโปเกมอนตัวนี้ นั่นทำให้เขาได้ตระหนักว่า โลกใบนี้ยังมีเรื่องราวที่ยังไม่รู้อีกมากมายนัก และการเดินทางของซาโตชิ ก็ยังคงดำนเนินต่อไป

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

EP 021 : Bye Bye Butterfree

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

ระหว่างการเดินทางไปยังเมืองยามาบุกิ(Saffron City) เพื่อชิงเข็มกลัดชิ้นที่สี่ พวกซาโตชิ ก็ได้มาหยุดพักที่หน้าผาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีฝูงบัตเตอร์ฟรี(Butterfree) อยู่เต็มไปหมด ทาเคชิได้อธิบายว่า ที่นี่ เป็นที่ที่เหล่าบัตเตอร์ฟรีจะมารวมตัวกันเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์กัน ซาโตชิ จึงนำบัตเตอร์ฟรีของตนออกมาทักทายเพื่อนๆ บ้าง บัตเตอร์ฟรีของซาโตชิ กลับตกหลุมรักบัตเตอร์ฟรีสีชมพูตัวหนึ่ง แต่ดูเหมือนสาวเจ้าจะไม่สนใจเอาเสียเลย บัตเตอร์ฟรีของซาโตชิ จึงได้แต่หงอยกลับมา

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

พวกซาโตชิ พยายามเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ให้บัตเตอร์ฟรีใหม่ แต่ทว่า... ยังไม่ทันได้อวดโฉม แก๊งร็อคเก็ตได้ถือโอกาสมาจับบัตเตอร์ฟรีเสียแล้ว

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

ด้วยพลังแห่งความรัก ทำให้บัตเตอร์ฟรีของซาโตชิ พยายามพุ่งเข้าชนกรงขังอย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งสามารถปลดปล่อยบัตเตอร์ฟรีทั้งหมดหนีไปได้ และยังสามารถเอาชนะใจบัตเตอร์ฟรีสีชมพูได้อีกด้วย

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

หลังเรื่องราวทั้งหมดสิ้นสุดลง ก็ถึงเวลาที่ต้องจากลา ซาโตชิตัดสินใจที่จะปล่อยบัตเตอร์ฟรีของเขา ให้ไปมีคู่ เริ่มต้นชีวิตใหม่กับบัตเตอร์ฟรีสีชมพู "เจ้านี่น่ะเป็นคนดีมากเลยนะ ฉันฝากด้วยนะ" ซาโตชิพูดกับบัตเตอร์ฟรีสีชมพู และหลังจากนั้นทุกคนต่างล่ำรากันด้วยน้ำตา แล้วยืนส่งบัตเตอร์ฟรีทั้งคู่บินจากไป

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

ภาพความทรงจำทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาภายในหัว ตั้งแต่วันแรกที่พบกับแคตาปี้(Caterpie) จนกระทั่งวันที่เปลี่ยนร่างเป็นทรานเซล(Metapod) วันที่เปลี่ยนร่างเป็นบัตเตอร์ฟรี วันที่เคยใช้ชีวิตร่วมกัน สำหรับซาโตชิแล้ว บัตเตอร์ฟรี ถือเป็นโปเกมอนตัวแรกที่เขาจับมาได้ด้วยตัวเอง ถือเป็นโปเกมอนตัวแรกที่เขาได้เลี้ยงดูจากร่างแรกไปจนถึงร่างสุดท้าย ถือเป็นโปเกมอนกลุ่มแรกที่เขามักจะพกติดตัวเวลาเดินทางโดยตลอด และแล้ววันนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องจากลากันแล้ว

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

แน่นอนว่าการจากลาที่ดีไม่ควรที่จะต้องมีน้ำตา ซาโตชิกลั้นใจฝืนทนเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ พร้อมโบกมือส่งลาบัตเตอร์ฟรี และจ้องมองพวกมัน บินจากไปจนลับตา

 

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

EP 039 : Pikachu's Goodbye

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

พวกซาโตชิ ได้เดินทางมาถึงที่ป่าแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีฝูงพิคาชู(Pikachu) อาศัยอยู่มากมาย ทำให้พิคาชูของซาโตชิ มีเพื่อนเล่นเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ทว่า แก๊งร็อคเก็ตก็ดันถือโอกาสเข้ามาขโมยพิคาชูเข้าอีกจนได้ และด้วยความสามารถที่ถูกฝึกมาอย่างดีของพิคาชูของซาโตชิ ทำให้พวกเขา และฝูงพิคาชู สามารถเอาชนะแก๊งร็อคเก็ตไปจนได้ และในคืนนั้นเอง เหล่าฝูงพิคาชูทั้งหมาย ก็ได้เต้นเพื่อเฉลิมฉลองแด่ชัยชนะ

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

จากภาพความสนุกสนานทั้งหลาย จากรอยยิ้มซึ่งไร้การเสแสร้งที่พิคาชูแสดงออกผ่านทางสีหน้า ซาโตชิได้ปรึกษาเพื่อนๆ และตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า จะทิ้งพาคาชูไว้ที่นี่ พวกเขาดึงรีบเก็บของตั้งแต่กลางดึก หวังที่จะรีบหนีไปก่อนที่พิคาชูจะตื่น แต่ว่า... พิคาชูก็รู้ทันจนได้ ซาโตชิ ยังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เขาได้บอกให้พิคาชู อยู่กับพรรคพวกของมันที่นี่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ฝ่ายพิคาชูที่ยังงุนงงกับคำพูดของซาโตชิอยู่ ก็เดินตามซาโตชิมาติดๆ จนซาโตชิต้องพูดออกไปว่า "อย่าตามมานะ ทุกคนในป่านี้จำเป็นต้องมีนายนะ เพราะฉะนั้น อย่าตามมาเลยนะ" พลางวิ่งออกไปอย่างไม่หันหลังกลับ 

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

ภาพความทรงจำต่างๆ ของช่วงเวลาที่เคยอยู่ร่วมกัน ถูกฉายขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวของซาโตชิ ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับพิคาชูมาดูแล พวกเขาก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนี้หรอกนะ ชัยชนะครั้งแรกในโปเกมอนแบทเทิลมันรู้สึกดรีจังเลยนะ สุดท้ายแล้ว จากเรื่องที่ไม่ถูกกันในวันนั้น กลับกลายเป็นโปเกมอนที่เขาภาคภูมิใจที่สุดในวันนี้ มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยผ่านด้วยกันมา ทั้งการต่อสู้เอาชนะยิมต่างๆ หรือการตัดสินใจที่จะไม่เปลี่ยนร่างเป็นไรชูที่โปเกมอนเซ็นเตอร์เมืองคุชิบะ(Vermilion City) แบบนี้ดีแล้วสินะ ปล่อยให้พิคาชูอยู่กับเพื่อนๆ แบบนี้นี่แหละ ดีที่สุดแล้ว

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

ถึงแม้ซาโตชิจะพยายามวิ่งออกไปไกลแค่ไหนก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า ขาของเขาก็ยังไม่ยอมขยับไปมากกว่านี้ ความรู้สึกทั้งสองอย่างตีกันอยู่ภายในหัวของเขา แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงไม่หันหลังกลับไปมอง จนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

เสียงที่คุ้นเคยดังก้องเข้ามาให้หูของซาโตชิ ทำให้เขาต้องหันกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ และภาพที่เขาเห็นนั้นก็คือ พาคาชูของเขาเอง และฝูงพิคาชูออกมายืนส่งลาพวกเขาอยู่ ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่ฝูงพิคาชูกำลังส่งลาอยู่ก็คือ พิคาชูของซาโตชิต่างหาก

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

ในที่สุดพิคาชูก็ตัดสินใจได้แล้วว่า มันต้องการที่จะเดินทางต่อไปกับซาโตชิ โซโตชิ รับพิคาชูที่กระโดดเข้าหา เข้ามาสู่อ้อมอก และทรุดลงร้องไห้ตรงนั้นด้วยความดีใจ จากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ พิคาชู

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

EP 048 : Holy Matrimony!

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

พวกซาโตชิ ระหว่างที่กำลังเดินทาง ก็พบกับป้ายตามหาคนหาย ซึ่งภาพคนหายในป้ายนั้น กลับเป็นบุคคลที่พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นก็คือ โคจิโร่แห่งแก๊งร็อคเก็ตนั่นเอง พวกซาโตชิ ได้ติดต่อกับพ่อบ้านผู้เป็นเจ้าของประกาศว่า ตนเองรู้จักกับโคจิโร่ และถ้าเจอจะติดต่อให้ แต่พ่อบ้านกลับบอกเล่าเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของครอบครัวโคจิโร่ พ่อแม่ของเขาเพิ่งจะเสียไปไม่นาน และจำเป็นที่จะต้องให้โคจิโร่มาแต่งงานกับคู่ครองที่พ่อและแม่จัดไว้ให้ มิฉะนั้น สมบัติทั้งหมดจะต้องตกเป็นของการกุศล

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

พวกซาโตชิ ได้นำเรื่องราวมาเล่าให้แก๊งร็อตเก็ตฟัง เพื่อที่จะส่งตัวโคจิโร่ไปให้กับพ่อบ้าน แต่ทว่า โคจิโร่กลับไม่ยอมกลับไปยังบ้านของตน พร้อมทั้งได้เล่าอดีตอันแสนเจ็บปวดของตัวเอง ที่หนีออกจากบ้านไปพร้อมกับ การ์จัง การ์ดี้(Growlithe) ของตน และต้องมาตายอยู่ข้างถนน ซึ่งพวกซาโตชิ ก็จับโกหกได้อย่างชัดเจน ทำให้โคจิโร่ จำต้องโดนบังคับกลับบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

เมื่อพวกซาโตชิ ได้พาโคจิโร่กลับมาถึงคฤหาสน์ ก็พบว่า เรื่องที่พ่อแม่ของโคจิโร่เสียชีวิตนั้น เป็นเพียงเรื่องโกหก เพื่อให้โคจิโร่ยอมกลับมาเท่านั้น และนอกจากนั้นแล้ว พ่อก้บแม่ของโคจิโร่ ยังได้เตรียมงานแต่งงานของโคจิโร่กับ รูมิกะ ผู้หญิงที่พ่อและแม่หาให้อีกด้วย แต่ทว่า... รูมิกะนั้น เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างโหดร้าย เธอได้ให้รัฟเฟลเซีย(Vileplume) ของเธอใช้ผงชาใส่โคจิโร่ เพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวไม่ให้หนีไปไหน แต่โชคยังดีที่ได้การ์จัง การ์ดี้ของโคจิโร่ช่วยเอาไว้ ทำให้โคจิโร่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือของ รูมิกะ มาได้

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

โคจิโร่ ได้เปิดใจกับพวกซาโตชิว่า เขาถูกบังคับให้หมั้นกับรูมิกะมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่เขาไม่เคยชอบรูมิกะเลย ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเกลียดสังคมของชนชั้นสูง ที่แม้แต่ตอนจะกินข้าว ยังต้องระวังในการใช้ช้อน ซึ่งทำให้ชีวิตเขาอยู่แทบไม่เป็นสุข

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

โคจิโร่ตัดสินใจที่จะกลับไปหาแก๊งร็อคเก็ตอีกครั้ง เขาได้บอกลาการ์จัง "ถึงคุณพ่อคุณแม่ของฉันจะเป็นคนแบบนั้น แต่ก็ต้องขอฝากนายด้วยนะ" แล้วจากไปท่ามกลางเสียงโหยหวนอันแสนโหยหาของการ์จัง

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

ทางด้านมุซาชิ หลังจากที่รอโคจิโร่อยู่นาน ก็ตัดสินใจได้ว่าให้โคจิโร่อยู่กับครอบครัวนี่แหละ ดีแล้ว จึงได้เดินออกมาหมายจะไปขึ้นบอลลูน แต่ทว่า... "ถ้าอยากจะรู้เรื่องราวไห้กระจ่าง" เสียงโคจิโร่ดังขึ้นพร้อมกับตัวตนที่ปรากฏอยู่ในบอลลูน โคจิโร่กลับมาแล้ว "พวกเราก็พร้อมที่จะแถลงไข" มุซาชิตอบ พลางจับมือโคจิโร่แล้วขึ้นบอลลูนไปด้วยกัน มุซาชิได้บอกกับโคจิโร่ว่า มุซาชิ ไม่ได้สนใจเงินทองหรือการเป็นคนรวยหรอก "ถึงจะไม่มีเงินทองมากมาย แต่แก๊งร็อคเก็ตก็มีอิสระ" ทั้งสองคนเชื่ออย่างนั้น และออกเดินทางตามล่าพิคาชูต่อไป

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

Special EP : Snow Way Out!

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

ในระหว่างการเดินทาง พวกซาโตชิต้องผ่านภูเขาน้ำแข็งเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป แต่ทว่า... พวกเขาก็ดันหลงทางซะอย่างนั้น

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

ตัดมาทางด้านของแก๊งร็อคเก็ตที่กำลังหลงทางเช่นกัน มุซาชิได้เผยถึงอดีตของตัวเองว่า เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กนั้น ครอบครัวของเธอยากจนมาก จนถึงขนาดที่ในวันหิมะตก แม่ของเธอต้องนำหิมะมาปั้นเป็น ข้าวปั้น ซูชิ ข้าวห่อสาหร่าย หรือนำมาทำน้ำแข็งไสให้เธอกิน และเธอก็เชื่อแบบนั้นมาตลอดว่าซูชินั้น ทำมาจากหิมะจริงๆ

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

พายุหิมะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ พิคาชูถูกลมพายุหิมะพัดหายไป ทำให้ซาโตชิต้องออกตามหา จนพลัดหลงกับทาเคชิและคาสึมิ ซึ่งหลังจากการตามหาสักพักใหญ่ๆ ก็เจอกับพิคาชูจนได้

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

พายุหิมะยังคงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถเดินย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิมได้ ซาโตชิ จึงตัดสินใจขุดรูที่ภูเขาหิมะ แล้วเข้าไปหลบหนาวในนั้น โดยใช้ไฟที่หางของฮิโตคาเงะ คอยให้ความอบอุ่น

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

แต่ทว่า... พลังงานของฮิโตคาเงะก็มีขีดจำกัด ด้วยอุณภูมิภายนอกที่หนาวเย็นนั้น ทำให้ฮิโตคาเงะหมดแรงลงอย่างรวดเร็ว ซาโตชิจึงไม่มีทางเลือก เขาเรียกโปเกมอนทั้งหมดกลับเข้าบอล แล้วใช้เสื้อนอกห่มบอลไว้หลายๆ ชั้น พลางพยายามเกลี้ยกล่อมพาคาชูให้กลับเข้าบอล แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ 

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

ความหนาวเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาทั่วร่าง ซาโตชิและพิคาชูพยายามกอดกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น โปเกมอนทั้งหลายที่อยู่ในบอล พร้อมใจกันออกมาข้างนอก แล้วโอบกอดซาโตชิเอาไว้ "บ้าที่สุดเลย ขืนเป็นหวัดฉันไม่รู้ด้วยนะ แต่ว่า... อยู่แบบนี้น่ะ มันอุ่นมากๆ เลย" ซาโตชิพูดทั้งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ ก่อนที่จะหลับไป และในเช้าวันต่อมา ซาโตชิ ก็ได้กลับไปหาพรรคพวกอย่างปลอดภัย

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

EP 70 : Go West Young Meowth

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

เรื่องราวในตอนนี้ เป็นเรื่องของเนียส(Meowth) เมื่อครั้งยังเด็ก เนียสเป็นโปเกมอนที่ถูกทิ้ง ไม่มีทั้งพ่อแม่ ไม่มีทั้งคนรู้จัก ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวคนเดียว แย่งอาหารหรือกินของเหลือเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เนียสถูกคนจับได้ และแขวนเอาไว้กันต้นไม้ มันโดนแขวนไว้จนดึกดื่น ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครมาช่วยเลย และในคืนนั้นเอง ก็มีหนังดังจากเมืองฮอลลีวู้ดมาฉายเป็นหนังกลางแปลงให้ดู เนียสได้ดูหนังเรื่องนั้นอย่างใจจดใจจ่อ ในหนังเรื่องนั้น มีทั้งสถานที่ที่ไม่รู้จัก ของกินหรูที่ดูเหมือนจะกินได้ไม่อั้น ทำให้เนียสเริ่มตัดสินใจ ว่าจะต้องไปอยู่ที่เมืองฮอลลีวู้ดให้ได้

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

ที่เมืองฮอลลีวู้ด หลายๆ อย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เนียสยังต้องอยู่อย่างอดมื้อกินมื้อเช่นเคย จนสุดท้าย เนียสก็ต้องไปเข้าฝูงกับเปอร์เซียน ผู้ที่ควบคุมฝูงเนียสทั้งหมดในเมืองนี้ ถึงแม้อาหารจะได้กินไม่มากมายนัก แต่เนียสก็ได้กินอาหารตั้งหลายอย่าง ทั้งเนื้อ ปลา ไอศกรีม หรือของที่มันไม่รู้จักมากมาย ทำให้มันเริ่มรู้สึกดีกับสถานที่แห่งนี้

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

และแล้วจุดเปลี่ยนของเนียสก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อมันได้พบกับมาดอนเนีย เนียสของเศรษฐินี เจ้าของธุรกิจหนังรายใหญ่ในเมืองฮอลลีวู้ด แต่ทว่า... มาดอนเนียกลับไม่สนใจแมวจรจัดอย่างเนียส พร้อมบอกเนียสไปว่า เนียสก็เป็นได้แค่แมวข้างถนน ไม่มีทางมอบของสวยๆ งามๆ ให้มาดอนเนียได้หรอก สิ่งที่มาดอนเนียสนใจก็คือเครื่องประดับที่แวววาวและมนุษย์ ให้อยากให้ชอบละก็ ก็ต้องไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ แล้วก็ต้องรวยด้วยนะ ถึงจะสนใจ

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

ด้วยพลังแห่งรัก เนียสจึงพยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นมนุษย์ มันอาศัยอยู่ใต้ฝ้าเพดานของโรงเรียนสอนเต้น คอยฝึกที่จะยืนสองขาเหมือนอย่างมนุษย์ มันเก็บหนังสือภาพจากข้างทางมาฝึกอ่าน ฝึกออกเสียง และคำเรียกที่มันสามารถเข้าใจและพูดได้ก็คือ "Rocket" จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ เนียสก็สามารถที่จะยืนสองขา และพูดภาษามนุษย์ได้ มันจึงไปหามาดอนเนียอีกครั้ง แต่ทว่า... มาดอนเนียก็ยังไม่สนใจเนียสเหมือนเช่นเคย เธอบอกว่า ลองมองดูในกระจกให้ดีๆ สิ ยังไงเนียสก็เป็นได้แค่เนียส แล้วเนียสที่พยายามจะเป็นมนุษย์น่ะ น่ารังเกียจที่สุด เมื่อเนียสได้ฟังดังนั้น จึงเลิกล้มความพยายาม และออกจากเมืองฮอลลีวู้ดไป โดยไม่คิดจะหวนกลับมาอีกเลย

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

กลับมาที่เวลาปัจจุบัน เนียสได้กลับมายังเมืองฮอลลีวู้ดอีกครั้ง และได้ขอแยกตัวกับแก๊งร็อคเก็ต เพื่อทำธุระของตัวเองให้เสร็จก่อน แล้วจะกลับมารวมกลุ่มภายหลัง เนียสได้พบกับเปอร์เซียน จ่าฝูงของมันเมื่อครั้งยังเด็ก เปอร์เซียนได้ชวนมันเข้ากลุ่มอีกครั้ง โดยใช้มาดอนเนียเป็นตัวประกันเพื่อให้เนียสปฏิเสธไม่ได้ เนียสเมื่อเห็นมาดอนเนียก็ตกใจ จึงถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็ได้ความว่า ธุรกิจหนังของเมืองฮอลลีวู้ดแห่งนี้กำลังจะล้มละลาย เจ้าของของมาดอนเนีย จึงต้องทิ้งเธอไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเนียสได้ยินดังนั้น จึงตัดสินใจว่า มันจะบอกป้องมาดอนเนียผู้เป็นที่รักด้วยตัวเอง แม้ว่า จะต้องสู้กับเปอร์เซียนก็ตาม หลังการตัดสินใจนั้น มุซาชิ และ โคจิโร่ก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาบอกว่า จะจัดการฝูงเนียสให้ ให้เนียสพามาดอนเนียหนีไปได้เลย

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

เนียสพามาดอนเนียหนีขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่ง ที่นั่น เปอร์เซียนได้ตามเนียสมา ทำให้เนียสจำเป้นต้องสู้กับเปอร์เซียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ การต่อสู้จบลงในชั่วพริบตา เนียสที่มีประสบการณ์มากกว่า สามารถเอาชนะเปอร์เซียนไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ว่า... ความผิดหวังก็กลับมาเยือนเนียสอีกครั้ง เมื่อมาดอนเนีย ได้วิ่งเข้าไปหาเปอร์เซียน พร้อมแสดงความเป็นห่วงเป้นใยเปอร์เซียนตัวนั้น มาดอนเนียบอกว่า เธอยู่กับเปอร์เซียนมานานจนหลงรักเปอร์เซียนตัวนี้แล้วละ ส่วนเนียส แมวที่พยายามเลียนแบบมนุษย์นั้น ยังไงก็ยังดูน่ารังเกียจอยู่ดี สุดท้ายแล้ว เนียสก็ยังคงตัวคนเดียว มันนั่งมองพระจัทร์ยามค่ำคืนพลางรำพึงรำพันว่า "พระจันทร์ ทำไมถึงได้เป็นวงกลมนะ"

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

EP 79 : Friend and Foe Alike

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

ในที่สุด การแข่งขันโปเกมอนลีคก็เริ่มขึ้น ซาโตชิ ได้ชนะผ่านมาเรื่อยๆ จนถึงรอบ 16 คนสุดท้าย แต่ทว่า ก็มีโทรศัพท์ลึกลับอ้างว่ามาจากฮิโรชิ เรียกให้ออกไปข้างนอกตอนกลางคืนแต่เพียงผู้เดียว และแล้ว การลักพาตัวซาโตชิก็เริ่มขึ้น

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

ซาโตชิ พยายามเอาตัวรอดจากแก๊งร็อคเก็ตมาได้ แต่ทว่า... สถานที่ที่เขาหนีมานั้น อยู่ห่างไกลกับสถานที่แข่งขันค่อนข้างมาก ทำให้เขา ต้องพยายามใช้โปเกมอนเพื่อช่วยเหลือให้ไปถึงที่หมายได้โดยเร็วที่สุด และในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่สนามแข่งขัน ฮิโรชิ พยายามโน้มน้าวกรรมการ ให้รอซาโตชิมาถึง เนื่องจาก ฮืโรชิเอง ก็อยากต่อสู้กับซาโตชิ และรับไม่ได้ ที่จะต้องชนะไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สู้แบบนี้ และแล้ว ซาโตชิก็มาถึงสนามแข่งจนได้ โดยที่โปเกมอนของเขานั้น ค่อนข้างจะเหนื่อยล้าเลยทีเดียว

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

กฎการแข่งขันในลีคนี้ ไม่ใช่เพียงการทำให้โปเกมอนหมดสติเท่านั้น แต่หากโปเกมอนถูกทำให้หลับ หรือ ปฏิเสธการต่อสู้ ก็จะถือว่า โปเกมอนตัวนั้นเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วย ซึ่งในรอบ 16 คนสุดท้ายนี้ เป็นการแข่งขันแบบ 3 ต่อ 3 และในคู่แรกของการแข่งขัน เซนิกาเมะ(Squirtle) ปะทะกับบัตเตอร์ฟรี (Butterfree) เซนิกาเมะ การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นได้ไม่นานนัก เซนิกาเมะก็พบกับความพ่ายแพ้ด้วยผงหลับของบัตเตอร์ฟรีไปเรียบร้อย

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

โปเกมอนตัวที่สองของซาโตชิก็คือ พิคาชู (Pikachu) ซึ่งสามารถเอาชนะบัตเตอร์ฟรีไปได้อย่างงดงาม แต่ทว่า ด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมจากการต่อสู่กับแก๊งร็อคเก็ต ก็ทำให้พิคาชู ไม่สามารถเอาชนะฮิโตคาเงะ (Charmander) โปเกมอนตัวต่อไปของฮิโรชิได้ ซึ่งนั่น ทำให้ซาโตชิเข้าสู่สถานการณืคับขัน

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

ซาโตชิหลับตาตั้งสมาธิคิดถึงโปเกมอนของเขา โปเกมอนที่เขาพอจะพึ่งได้ในสถานการณ์เช่นนี้ มีเพียงแค่ลิซาด้อน (Charizard) ตัวเดียวเท่านั้น แต่ว่า... มันจะยอมเชื่อฟังคำสั่งหรือเปล่านะ เวลาครุ่นคิดไม่อยู่ไม่นานนัก ในที่สุด ซาโตชิก็ตัดสินใจเรียกลิซาด้อนออกมา และก็เป็นไปอย่างที่คิด ลิซาด้อนไม่ได้เชื่อฟังซาโตชิเอาเสียเลย แต่ถึงแบบนั้นก็ตาม มันก็สามารถเอาชนะฮิโตคาเงะของฮิโรชิลงได้ ฮิโรชิ ได้ส่งพิคาชู โปเกมอนตัวสุดท้ายของตนออกมา แต่ทว่า ลิซาด้อนของซาโตชิ กลับไม่ยอมที่จะสู้ด้วย แม้ว่าซาโตชิจะพยายามออกคำสั่งสักเท่าไรก็ตาม ลิซาด้อนก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมต่อสู้เลย และเมื่อประมเินจากสถานการณ์แล้ว กรรมการ ก็ให้ซาโตชิเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

ว่ากันว่า ความพ่ายแพ้ที่น่าอัปยศที่สุด คือการพ่ายแพ้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ต่อสู้ ความอัปยศที่สุดของโปเกมอนเทรนเนอร์ คือการที่ไม่สามารถฝึกฝนโปเกมอนให้ทำตามคำสั่งได้ ความอัปยศทั้งสองอย่างนี้ถาโถมเข้ามาในพวังค์ของซาโตชิ เขาค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นยอมรับความพ่ายแพ้ และในเวลาเพียงชั่วครู่ เขาก็ได้ตระหนักว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียใจที่ตัวเองพ่ายแพ้ แค่ควรจะแสดงความยินดีให้กับผู้ชนะมากกว่า ซาโตชิ จึงพยายามฝืนยิ้ม แล้วเดินไปแสดงแสดงความยินดีให้กับฮิโรชิเพื่อนของเขา หากแต่ภายในใจนั้น เขายังคงครุ่นคิดเรื่องความพ่ายแพ้อันน่าอัปยศนี้อยู่ต่อไป

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

EP 11 : Charmander – The Stray Pokémon

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

ระหว่างการเดินทางของซาโตชิ พวกเขา ได้พบกับฮิโตคาเงะ (Charmander) ตัวหนึ่งที่นอนอยู่บนหิน ซาโตชิได้พยายามที่จะจับมัน แต่ทว่า ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร มันก็ไม่ยอมเข้าบอลเสียที และไม่เพียงแค่นั้น มันยังไม่ยอมขยับจากจุดที่มันอยู่เลยด้วย ซาโตชิ จึงถอดใจ และเดินทางต่อ

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

พวกเขาแวะหลบฝนที่โปเกมอนเซ็นเตอร์ใกล้ๆ และระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงของเทรนเนอร์กลุ่มหนึ่งดังขึ้นมา หัวโจกของเทรนเนอร์กลุ่มนั้นก็คือ ไดสุเกะ กำลังโม้ให้กับเทรนเนอร์คนอื่นๆ ถึงการผจญภัยที่ได้ผ่านมา ไดสุเกะเล่าว่า เขาจับโปเกมอนที่เก่งกาจได้มากมายเลยทีเดียว โดยตัวไหนที่เขาจับได้ แต่พอใช้จริงแล้วอ่อนแอ เขาก็จะปล่อยทิ้งไป และเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็เพิ่งทิ้งฮิโตคาเงะไว้ แต่มันไม่ยอมรับว่าตัวเองถูกทิ้งซักที เขาเลยใช้วิธีสั่งให้มันรอแทน ซึ่งมันก็ยอมรอแต่โดยดี

"ตอนนี้ข้างนอกฝนตกอยู่ ไม่รู้มันจะยังรอหรือเปล่านะ" เพื่อนเทรนเนอร์คนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดถึงมา

"ก็ช่างมันสิ โปเกมอนอ่อนแอแบบนั้น จะตายไปก็ไม่เห็นเป็นไรเลย" ไดสุเกะตอบ ซึ่งทำให้ทาเคชิ ที่แอบฟังบทสนทนาอยู่ ถึงกับมีน้ำโหขึ้นมา

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

หลังจากเริ่มมีปากเสียงกัน คุณจอยก็ได้เข้ามาห้ามอย่างทันท่วงที แต่ความเป็นกังวลของทาเคชิ ยังคงไม่หายไป พวกเขา จึงตัสินใจออกไปดูฮิโตคาเงะตัวนั้น แต่ว่า... ทุกอย่างเลวร้ายกว่าที่คิด ฮิโตคาเงะมีเพียงแค่ใบไม้ใบเล็กๆ เท่านั้นที่คอยบังฝนให้กับไฟที่หางของตน อีกทั้งมันยังถูกฝูงโอนิสุสุเมะ (Spearow) รุมทำร้ายอีกด้วย

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

หากไฟที่หางดับเมื่อไหร่ ฮิโตคาเงะก็จะเสียชีวิตเมื่อนั้น พวกซาโตชิ พยายามเคลื่อนย้ายตัวฮิโตคาเงะที่ใกล้จะหมดสภาพ มายังโปเกมอนเซ็นเตอร์อย่างทุลักทุเล แล้วให้คุณจอยรักษาให้ แต่ทว่า ในวันรุ่งขึ้น ฮิโตคาเงะก็หายไปอีกแล้ว มันคงไปรอที่หินก้อนเดิมนั่นแหละ พวกซาโตชิคิดอย่างนั้น

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

ระหว่างทางที่พวกซาโตชิ เดินทางไปหาฮิโตคาเงะอีกครั้งนั่นเอง พวกเขาก็ตกหลุมพรางของแก๊งร็อคเก็ตเข้า คราวนี้แก๊งร็อคเก็ตวางแฟนมาดีมาก พวกซาโตชิหมดหนทางต่อสู้แล้วจริงๆ จนกระทั่งฮิโตคาเงะที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเอาไว้ พลังไฟของฮิโตคาเงะ มีพลังที่รุนแรงมากกว่าปกติมาก ไดสุเกะที่เพิ่งจะออกเดินทางก็กลับมาหาฮิโตคาเงะเช่นกัน ไดสุเกะบอกว่า ได้เห็นพลังไฟของฮิโตคาเงะแล้ว อยากจะให้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ทว่า ฮิโตคาเงะได้ปฏิเสธที่จะอยู่ร่วมกับเทรนเนอร์แบบนั้น

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

ฮิโตคาเงะ ได้เข้ามาหาซาโตชิ และแสดงออกว่า อยากจะร่วมเดินทางไปด้วย และแล้ว ซาโตชิก็ได้ฮิโตคาเงะเป็นเพื่อนร่วมทางอีกตัว...

  • Like 2
Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

EP 096 : Meowth Rules!

1.jpg   2.jpg

3.jpg   4.jpg

จากการต่อสู้กับพวกซาโตชื ทำให้แก๊งร็อคเก็ต กระเด็นไปคนละทิศละทาง โดยเนียส(Meowth) ได้กระเด็นตกมาที่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งในเกาะนั้น มีความเชื่อว่า เนียสจะสามารถนำโชคลาภมาให้ ทำให้เนียส ถูกปรนนิบัติราวกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านทั้งหลาย ต่างเรียกมันว่า "เนียสแห่งความสุข" และด้วยความที่มันเองก็สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ ทำให้ผู้คนของเกาะนี้ ปฏิบัติตามคำขอของมันอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยทีเดียว แน่นอนว่า เนียสมีทั้งความสุขและความสะดวกสะบายอย่างมาก จนเริ่มคิดกับตัวเองว่า "จะดีเหรอ ที่เรามีความสุขคนเดียวแบบนี้"

5.jpg   6.jpg

7.jpg   8.jpg

หลังจากออกจากห้วงความคิดของตัวเอง เนียสก็ได้เห็นพวกซาโตชิ กำลังมุ่งหน้ามายังเกาะนี้ ด้วยความที่กลัวความลับของตนจะถูกเปิดเผย รวมทั้งไม่อยากที่จะสูญเสียความสุขนี้ไป ทำให้เนียส ต้องสั่งการชาวบ้าน ให้ขับไล่พวกซาโตชิออกไปจากเกาะนี้ ซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านได้ไล่พวกซาโตชิออกจากเกาะแล้ว ก็พบกับมุซาชิและโคจิโร่ มาเกยตื้นจึงถูกนำมาให้เนียสพิจารณาว่า ควรจะไล่ออกไปหรือไม่

มุซาชิและโคจิโร่ ดีใจที่ได้พบกับเนียสอีกครั้ง แต่ก็รู้สึกตกใจที่เนียสกลายเป็นเนียสแห่งความสุขไปเสียแล้ว พวกเขาได้ชวนเนียสกลับเข้ามารวมกลุ่มกันอีกครั้ง แต่ทว่า... เนียสกลับรู้สึกเสียดายช่วยเวลาแห่งความสุขนี้ และบอกให้ชาวบ้าน ขับไล่เพื่อนๆ ของตนออกไป

9.jpg   10.jpg

11.jpg   12.jpg

พวกชาวบ้าน ต้องการที่จะทำพิธีแห่งความสุข โดยให้เนียสให้ท่าโยนเหรียญ (Pay Day) แล้วให้ชาวบ้านเก็บเหรียญนั้นไว้บูชา เพื่อความสุขความเจริญในชีวิต แต่ว่า เนียสเองไม่สามารถใช้ท่านี้ได้แล้ว เนื่องจาก เนียสได้เรียนรู้สกิลการพูดไปแทนการใช้ท่าโยนเหรียญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางฝั่งชาวบ้านเองก็ยังไม่ยอมแพ้ ด้วยความที่หวังว่า ถ้าหากเนียสมีประสบการณ์การต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะสามารถใช้ท่านี้ได้ก็ได้ เนียสจึงถูกนำเข้าไปต่อสู้กับโปเกมอนเก่งๆ มากมาย ซึ่งดูยังไงก็เหมือนเป็นการถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น และในขณะที่เนียสกำลังถูกรัดจนใกล้จะสิ้นสติไปนั่นเอง ก็มีเหรียญจำนวนหนึ่งถูกโยนออกมา

เนียสถูกปล่อยตัวออกไปในสภาพปางตาย โดยที่ยังคงมีเหรียญถูกโยนออกมาเรื่อยๆ ชาวบ้านต่างพากันเก็บเหรียญที่ตกลงมาโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และที่เบื้องหลังในมุมมืดของโคลอสเซียมนนั่นเอง มุซาชิและโคจิโร่ กำลังโยนเหรียญที่เป็นของสะสมของโคจิโร่อยู่ ใช่แล้วละ เหรียญทั้งหมดที่ถูกโยนออกมา ไม่ใช้พลังจากท่าโยนเหรียญของเนียสแต่อย่างใด แต่เป็นฝีมือของมุซาชิและโคจิโร่นี่เอง ทั้งสองโยนเหรียญไปจนหมด และเดินจากไปอย่างเงียบๆ

"นี่ เรามาช่วยเนียสไม่ใช่เหรอ" โคจิโร่ถาม

"ไม่หรอก เจ้านั้นอยู่ที่นี่น่ะ น่าจะมีความสุขกว่านะ" มุซาชิตอบ

13.jpg   14.jpg

15.jpg   16.jpg

เนียสถูกนำกลับมาบูชาอีกครั้ง ผู้คนในเกาะต่างพอใจที่ได้รับเหรียญมาครบครอง จึงขอให้เนียสอยู่เป็นเทพที่นี่ต่อไป หัวหน้าของเกาะ ได้นำเหรียญมาให้เนียสดู ซึ่งเนียสเองก็สังเกตเห็นว่า เหรียญพวกนี้ไม่ใช้เหรียญจากท่าโยนเหรียญ แต่เป็นเหรียญสะสมของโคจิโร่พรรคพวกของเขาเอง น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ความคิดในหัวของเนียสตีกันอย่างยุ่งเหยิง ถึงจะไม่รู้ว่าวิ่งไปตอนนี้ยังจะทันได้พบกับพรรคพวกไหม แต่ขามันก็สั่งให้วิ่งออกไปโดยไม่ต้องคิด

17.jpg   18.jpg

19.jpg   20.jpg

เนียสได้วิ่งออกมาที่ชายฝั่ง แต่ก็ไม่พบกับใครเลย ไม่สิ ไม่ใช่ไม่พบ แต่พวกมุซาชิและโคจิโร่ต่างก็คิดว่า ถ้าหากเจอหน้ากันตอนนี้ละก็ อาจจะพรากความสุขไปจากเนียสอีกก็ได้ จึงได้แต่แอบดูอยู่ใกล้ๆ จากนั้นไม่นาน พวกชาวบ้านก็ได้มาถึง และขอให้เนียสกลับไปยังเกาะเช่นเดิม แต่ทว่า...

"ฉันไม่ใช่ท่านเนียสแห่งความสุขหรอก ฉันเอาความสุขมาสู่ผู้คนไม่ได้หรอกนะ ฉันมีเพื่อนรับที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันอยู่ ถึงพวกเราจะทะเลาะกันบ่อยก็เถอะ แต่เราก็พยายามมองหาความสุขร่วมกัน เพราะงั้น ฉันก็อยากให้ทุกคนไขว่คว้าหาความสุขของตัวเองเหมือนกัน" เนียสพูด

21.jpg   22.jpg

23.jpg   24.jpg

เมื่อได้ยินเช่นนั้น มุซาชิ และ โคจิโร่ จึงยอมแสดงตัวออกมา แล้วพาเนียสกลับไปด้วยกัน เนียสได้บอกลาผู้คนในเกาะ แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตกับแก๊งร็อคเก็ตตามเดิม

Edited by ปุยเมฆน้อย ลอยตามลม
  • Like 1
Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.