Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Fiction] World War 3 : The North Korea War


Retia Adolf

Recommended Posts

จุดเริ่มต้น

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว... ที่มนุษย์เริ่มก่อสงครามกัน... เพื่อแย่งชิงบางสิ่ง "สมดุลย์ทางอำนาจ" มนุษย์ก่อสงครามเพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่งมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ถึงแม้มนุษย์จะพัฒนาขึ้นเพียงใด.. ก็ไม่มีทีท่าว่าสิ่งนั้นจะหายไป...

สัญชาติญาณดิบที่ถูกปลูกฝังเอาไว้ไม่เคยถูกกำจัดออกไป.. เมื่อ 2 ประเทศ มีความเห็นที่ไม่ลงลอยกัน... และไม่สามารถส่อสารกันโดยดีได้.. สงครามจึงบังเกิด...

World War 3 : The North Korea War

มันเริ่มต้นในปี 2010...

สหรัฐอเมริกา ประเทศที่ครอบครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกยุคปัจจุบัน ลงมือขั้นเด็ดขาด โดยยื่นข้อเสนอง่ายๆให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ประเทศคอมมิวนิวสต์ที่ยังคงกุมสมดุลย์ทางอำนาจเริ่มกับจีนอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก...

"ถ้าพวกท่าน ยอมที่จะปลดระบบอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดที่ครอบครองอยู่.. เราสัญญาว่าจะดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนของท่าน และช่วยเหลือในทุกๆด้าน... แต่ถ้าไม่ยอม.. ก็เตรียมพบกับฝันร้ายที่สุดได้เลย"

ถึงแม้จะดูเป็นทางเลือกที่ดี แต่เมื่อ "อำนาจ" ค้ำคอ ใครเล่าจะยอมสูยเสียมันไป... เมื่อเกาหลีเหนือไม่อาจยอมรับตามขอเรียกร้องได้ รวมทั้งจีนเองก็ออกมาแย้ง

"อำนาจ" ปีศาจร้ายที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้...

15 ตุลาคม ปี 2010 เวลา 15:40 น.

เครื่องบินรบแบบ MIG-29S สังกัดกองทัพอากาศ เกาหลีเหนือ บุกโจมตีฐานทัพอากาศในเกาหลีใต้ และ กองเรือรบของจีน ได้บุกเข้าโจมตีกองเรือรบญี่ปุ่น..

ถือเป็นการประกาศสงครามกับชาติพันธมิตรอย่างเต็มตัว และเป็นการท้าทายต่อสหรัฐอเมริกา...

16 ตุลาคม.. สหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีน อย่างเป็นทางการ

This is... The Beginning of World War 3...

------------------------------------------------

อนึ่ง ผมขอกลับมาเป็นแนวเดิมละกัน เพราะดูท่า ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ผมชอบจริงๆ ผมแต่งไม่รอดแน่ๆ ประกาศโปรเจ็คนี้เป็นโปรเจ็คใหญ่คำ ภาคละไม่เกิน 10 ตอน มีราวๆ 4 ภาค รวบรวมข้อมูลจากความน่าจะเป็น(ข่าวเรื่องข้อพิพาทของเกาหลีเหนือและสหรัฐที่ออกมาบ่อยๆ ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ ผนวกกับคำทำนายของยายเฒ่าท่านหนึ่ง) จึงทำให้ผมอยากจะเสนอมันออกมาในรูปแบบของนิยายคาดเดาเหตุการณ์ด้วยความน่าจะเป็นทั้งหมด ขอทุกท่านเชิญออกความเห็นได้เลยครับ

Day.1 - The Dawn of War *Complete Rep.7*

Day.2 - The New Member *Complete Rep.14*

Day.3 - The Air Battle *Complete Rep.15*

Day.4 - The Frontier War - *Complete Rep.19*

Day.5 - New Dawn With The Dead - WIP

Link to comment
Share on other sites

:pika01: เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้แต่งให้จบนะครับ จะตามอ่าน
Link to comment
Share on other sites

ข่าวเรื่องข้อพิพาทของเกาหลีเหนือและสหรัฐที่ออกมาบ่อยๆ ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ ผนวกกับคำทำนายของยายเฒ่าท่านหนึ่ง

คุณยายวอสก้าสินะครับ เคยอ่านอยู่

แนวนี้ผมก็ชอบนะ แต่งให้จบล่ะครับ(มีแต่คนอยากให้จบนะ) ผมจะตามอ่านเอง  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

คุณยายวอสก้าสินะครับ เคยอ่านอยู่

แนวนี้ผมก็ชอบนะ แต่งให้จบล่ะครับ(มีแต่คนอยากให้จบนะ) ผมจะตามอ่านเอง  :pika01:

ครับ คราวนี้เป็นพล็อตที่ผมวิเคราะห์อยู่ในหัวทั้งหมด ถ้ามีคนคอมเม้นต์ละก็ รับรองได้ว่าจบแน่นอนครับ... ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่จะติดตามนะครับ ขอขอบคุณจริงๆ เพราะครั้งนี้อาจจะเป็นผลงานสุดท้ายของผมก็เป็นได้...

โปรเจ็คใหญ่ 4 ภาค จะให้จบให้ได้ ผมขอสัญญาครับ!

Link to comment
Share on other sites

เพราะครั้งนี้อาจจะเป็นผลงานสุดท้ายของผมก็เป็นได้...

รู้สึกไม่ชอบคำนี้ยังไงก็ไม่รู้ดิ  :pika05:

Link to comment
Share on other sites

เอ๊ย  ระวังท่านผู้นำ คิม จอง *ปิ๊บ*  ยิงแตโปดองใส่นะ  :pika08:

Link to comment
Share on other sites

Day 1 : The Dawn of War

10 มกราคม ปี 2011

เสียงเดินเครื่องคำรามดังสนั่นไปทั่วทั้งสนามบิน ที่รันเวย์ยาวในฐานทัพอากาศติดทะเล.. เครื่องบินรบขนาดกลางแบบ F-16C ที่นั่งเดี่ยว 3 ลำ กำลังจอดเช็คระบบเล็กน้อยก่อนเริ่มปฏิบัติการและรอคำสั่ง

เช็คระบบทั้งหมดเรียบร้อย GPS ออนไลน์... เอ็นจิ้นเดินเครื่องเต็มอัตรา รอคำสั่งออกตัว...ชายหนุ่มหน้าคม ดวงตาสีฟ้าผมสีบลอนด์ยาวปิดตาข้างหนึ่งเอ่ยขึ้น ขณะกำลังยื่นมือไปจัดการกับปุ่มต่างๆที่มีอยู่มากกมายตรงหน้า...

เครื่องบินรบขนาดกลางจอดอยู่ในรูปขบวนแบบ 3 เหลี่ยม คือมีลำจ่าฝูงอยู่หน้าสุด และอีก 2 ลำ จอดต่อหลังออกมาทางด้านข้าง.. หางเสือของทั้ง 3 เครื่องถูกยกขึ้นลง เพื่อเช็คระบบหางเสือครั้งสุดท้าย

Warlock ถึงทุกเครื่อง ได้รับสัญญาณปฏิบัติการ Black Out แล้ว ขอให้ทุกเครื่องทำการขึ้นบินได้ ขอให้โชคดีเสียงติดต่อมาจากหอบังคับการบินดังขึ้นในหูฟังจากหมวกนักบินที่ถูกสวมแบบหลวมๆบนหัวของหนุ่มสาวทั้ง 3 คน

เอาล่ะ.. ไปกันเถอะ...ชายผมบลอนด์เอ่ยขึ้นพลางยกมือขึ้นดึงแว่นของหมวกนักบินลง แล้วหยิบสายอ็อกซิเจนขึ้นมาสวมเข้าไปกับหมวก

ท่อไอพ่นด้านหลัง ขยายตัวออก คลื่นความร้อนพวยพุ่งออกมาจนอากาศบริเวณนั้นบิดเบือนเป็นคลื่น กำลังท่อเจ็ทถูกส่งเป็นครั้งสุดท้าย หัวเครื่องถูกกดลง พร้อมทั้งปลายท่อหุบลงเพื่อเร่งกำลังขับ.. ในจุดนั้นเองที่เครื่องทั้ง 3 ค่อยๆวิ่งไปตามรันเวย์พร้อมๆกัน โดยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเกิดไฟสว่างขึ้นมาจากในท่อไอพ่นอย่างชัดเจน..

Viper-1 Take-off!ชายผมบลอนด์พูดขึ้นอีกครั้ง หางเสือของเขาถูกหักขึ้น เพื่อทำให้หัวเครื่องยกขึ้นจากพื้น และเข้าสู่การทะยานเพื่อบินขึ้น..

Viper-2 Take-off!

Viper-3 Take-off!

ลูกฝูงทั้ง 2 คนของเขาทะยานขึ้นตามมาติดๆ หลังจากขึ้นไปได้ในระยะหนึ่ง พวกเขาก็สังเกตเห็น ฝูงบินขนาดใหญ่ที่กำลังตรงเข้ามาหาพวกเขาได้อย่างชัดเจน..

ฝูงบินขนาดใหญ่ที่ตรงกลางเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบสเตลท์ B-2 2 ลำ และถูกเครื่องบินขับไล่ขนาดหนักแบบสเตลท์ F-22A 12 ลำบินขนาบอยู่รอบๆ ทางปีกขวาของฝูงมี F-15E จำนวน 4 เครื่องบินคุ้มกันอยู่รอบนอก โดยฝั่งซ้ายยังคงว่างอยู่ ไม่ไกลนักมีเครื่องบินตรวจการแบบ E-3 ที่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้ฝูงและเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ KC-10 บินตามมาไม่ห่างนัก

มากันแล้วล่ะ.... Viper Team เข้าร่วมฝูงบิน เริ่มหน้าที่คุ้มกันรอบนอก ไปได้

รับทราบ!!

พวกเขาเอียงขวา แล้วไต่ระดับขึ้นไปเพื่อเข้าร่วมฝูงบิน โดยเข้าประจำที่บริเวณปีกซ้ายที่ว่างอยู่ในทันที

Viper Team เข้าประจำที่ พร้อมเริ่มปฏิบัติการ Black Out แล้วครับชายผมบลอนด์เอ่ยขึ้นเพื่อติดต่อไปยังผู้ฝูงของฝูงบินขนาดใหญ่นี้ คือหัวหน้าฝูงบิน F-22 ที่บินนำหน้าฝูงใหญ่นี้อยู่

Viper Team เยี่ยมมาก ขอมอบหมายหน้าที่ในการจัดการศัตรูนอกชายฝั่งเกาหลีเหนือ ส่วน Mustang Team ให้ทำหนี้ที่คุ้มกันเครื่อง AWACS ส่วน Ghost Team ให้ทำหน้าที่คุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดและถล่มฐานอาวุธและโรงงานไฟฟ้าของเกาหลีเหนือเท่าที่ทำได้ ทราบ!

รับทราบ!!เสียงตอบกลับดังสนั่นเมื่อทุกคนรับทราบคำสั่งแล้ว ฝูงบินขนาดยักษ์ก็ทะยานขึ้นสู่ชั้นเมฆหนา เพื่อทะยานผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก โดยปลายทางคือเกาหลีเหนือ

................................................................................

........................................

11 มกราคม ปี 2011 เวลา 05:18 น.

หลังจากบินเข้ามาในเขตน่านน้ำของเกาหลีใต้ ด้วยระยะเวลาเกือบครึ่งค่อนวัน พวกเขากำลังเข้าใกล้จุดหมายขึ้นเรื่อยๆ เครื่องบินหลายเครื่องต้องถอยออกไปเติมน้ำมัน ก่อนที่จะกลับมารวมฝูงอีกครั้ง ในตอนนี้ พวกเขาพร้อมรบขั้นสูงสุด และกำลังเข้าสู่เขตน่านฟ้าศัตรู...

ตรวจพบสัญญาณของศัตรู.. กำลังตรงมาจากทิศ 2 นาฬิกาความสูง 30,000 ฟุต กำลังไต่ระดับขึ้นมา จำนวนหนึ่งเครื่องสัญญาณเตือนจาก AWACS ดังขึ้นในหูฟังของนักบินทุกคนในฝูงบินขนาดใหญ่ ทำให้พวกเขาตื่นตัวกันเต็มที่

ผมจัดการเอง

ว่าแล้วก็ไม่รอช้าชายหนุ่มผมบลอนด์นามมาเวอริค แกนน่อนหมุนตัวกลับหัวเครื่อง พร้อมกดหัวเครื่องดิ่งลงไปเพื่อผละออกจากฝูงบินในทันที

หัวหน้าคะ...

ฉันคนเดียวจัดการไหวน่า ไม่ต้องห่วงหรอก Viper-3 แล้วฉันจะกลับมามาเวอริคตอบกลับพร้อมยิ้มเล็กๆ เขาพลิกหัวเครื่องกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่จะเอียงไปทางขวาเต็มแรง แล้วกดหัวเครื่องดิ่งลงไปทางขวา เพื่อรับมือกับศัตรูที่ใกล้เข้ามา...

..............................................

........................................................

ไม่กี่อึดใจที่บินลงไปถึงระดับ 40,000 ฟุต ในที่สุดเขาก็เจอกับศัตรู เครื่องบินรบขนาดกลางแบบ MIG-29S สีดำกำลังไต่ระดับขึ้นมาหาเขาด้วยความเร็วสูง!

ตื้ดๆๆๆๆๆเสียงเตือนภัยดังขึ้นในห้องนักบินของมาเวอริค เข้าถูกล็อคเป้าเสียแล้ว!

เร็วชะมัด หนอยแน่ะ...เขาสบถเสียงดังขึ้นพร้อมกำคันบังคับเอาไว้แน่น

ไม่กี่อึดใจนั้นเอง เมื่อพอจะมองเห็นหัวเครื่องศัตรูได้อย่างชัดเจน.. ขีปนาวุธทรงยาวสีขาวที่มีปีก 4 ข้างอยู่รอบๆ ก็ถูกปล่อยออกจากแท่นใต้ปีก.. ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากด้านท้าย ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าหามาเวอริคอย่างรวดเร็ว!

มาเวอริคปล่อยพลุล่อเป้าความร้อนสูงออกจากท้ายเครื่อง ก่อนที่จะโยกคันบังคับตรงกลางอย่างรุนแรง เพื่อเหวี่ยงเครื่อง F-16 ของเขาให้ควงสว่านหลบออกไป พร้อมกับพลุล่อเป้าที่ถูกปล่อยออกมาในรูปแบบกระจายตัวไปทั่วฟ้า ทำให้ขีปนาวุธสีขาวพุ่งเข้าใส่พลุล่อเป้าได้อย่างง่ายดาย

มาเวอริคดิ่งสวนกับ MIG-29 ลงไป ในขณะเดียวกัน นักบินเกาหลีเหนือก็ตีลังกาแล้วดิ่งลงมาหาเขาเช่นกัน!

ตามตื้อไม่เลิกเลยนะ!มาเวอริคหักคันบังคับไปด้านขวาเมื่อลงมาถึงระดับ 20,000 ฟุต F-16 เหวี่ยงเครื่องไปทางขวา ก่อนที่จะคงองศาการเลี้ยวซ้ายอย่างช้าๆเอาไว้ เพื่อหลบหลีกการไล่ล่าของศัตรู!

ในขณะที่ MIG-29 บินตามมาติดๆ เขาหักคันบังคับไปทางขวาอย่างแรง ทำให้ F-16 เอียงขวา ก่อนที่จะแหวกอากาศตัดกับ MIG-29 ที่เลี้ยวซ้ายอยู่ไปทันที!

พวกเขาเอียงตัวเครื่องแล้วเหวี่ยงเข้าหากันหลายรอบ ก่อนที่จะอออกมาคงระดับไว้ในการคุมเชิงกันแบบนั้น ดูท่านักบินทั้งคู่จะมีฝีมือที่เหนือชั้นพอๆกัน..

แต่ทันใดนั้นเองที่ MIG เลี้ยวกลับเข้ามาได้ทัน จึงกลับมาอยู่ทางด้านหลังของ F-16 อีกครั้ง มาเวอริค จำต้องใช้ความสามารถในการบินสุดชีวิตเพื่อหลบการโจมตีของศัตรูอีกครั้ง!

ขณะที่เลี้ยวเพื่อหลบหลีกหลายครั้ง นักบินเกาหลีเหนือก็เลี้ยวตามมาอยู่ทางด้านหลังของเขาได้ทุกครั้ง คราวนี้มาเวอริคตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว...

เปรี๊ยะ!

ในพริบตาที่ MIG-29 เข้าสู่ทิศ 6 นาฬิกาของเขาได้สำเร็จ.. กระสุนปืนกลอากาศขนาด 20 มม. พุ่งเฉียดหน้าต่างห้องนักบินของมาเวอริคไปเพียงเล็กน้อย และมีนัดนึงที่พุ่งเข้ากระแทกกับกระจกข้างเต็มๆจนทำให้มันร้าว! ถ้าเขาเลี้ยวหลบไม่ทันคงได้ไปนอนเล่นในทะเลไปแล้ว..

มาเวอริคเลี้ยวซ้ายทีขวาทีอย่างสุดชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอด และในจังหวะที่ MIG-29 เร่งเครื่องขึ้นมานั้นเอง ที่เขางัดเทคนิคสุดท้ายมาใช้...

เขาลดความเร็วลงต่ำ แล้วดังคันบังคับเข้าหาตัวสุดแรง! ทำให้ F-16 ของเขาเชิดหัวขึ้น และคงความเร็วต่ำเอาไว้ อยู่ในสภาพที่เอียงหัวขึ้นใช้ท้องเอียงปะทะกับอากาศ ในท่า Cobra!

และมันก็ได้ผล เมื่อมาเวอริคเข้าสู่ความเร็วต่ำ.. นักบินเกาหลีเหนือที่เร่งความเร็ว บินผ่านหัวเขาไปในทันที!

และในวินาทีนั้นเอง ที่มาเวอริค กลับเข้าสู่ความเร็วปกติ แล้วกดหัวเครื่องลงอยู่ในสภาพปกติดังเดิม และเข้าสู่ระยะ 6 นาฬิกาของ MIG-29 ได้สำเร็จ!!

เสร็จฉันล่ะ... Fox Two!

ทันทีที่เขาสามารถล็อคเป้า MIG-29 ได้ ขีปนาวุธสีขาวก็ถูกทิ้งลงจากปีกข้างหนึ่งของเขา ควันสีขาวพวยพุ่งไปในอากาศเป็นทางยาว เมื่อมันพุ่งเข้าหาศัตรูของเขาในทันที!

นักบินเกาหลีเหนือปล่อยพลุล่อเป้าออกมาจำนวนมาก มันทำให้ขีปนาวุธของมาเวอริคเลี้ยวเข้าใส่พลุล่อเป้าได้สำเร็จ แต่เขากลับลืมที่จะเลี้ยวเครื่องหนี..

แท่ดๆๆๆๆๆ

กระสุนปืนกลอากาศขนาด 20 มม. จากด้านข้างแก้มของ F-16 สาดเข้าใส่ MIG-29 ในทันที.. เมื่อกระสุนเจาะเกราะเข้าไป.. ในพริบตานั้นเองที่ถังน้ำมันข้างหลังห้องนักบินเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดไฟลุกท่วมเครื่อง MIG-29 ในพริบตา..

มาเวอริคเร่งเครื่องโฉบผ่านไป ขณะที่เขามองกลับไป นักบินเกาหลีเหนือดีดตัวออกจากเครื่องได้สำเร็จ ก่อนที่ MIG-29 จะควงสว่านดิ่งลงสู่พื้นทะเลไปในที่สุด...

มาเวอริคควงสว่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเชิดหัวทะยานกลับขึ้นไปหาฝูงบินในทันที... การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขาไม่อาจประมาทต่อฝีมือของนักบินเกาหลีเหนือได้.. ถ้าเขาพลาดท่า แม้แต่วินาทีเดียว นั่นอาจหมายถึงชีวิตของเขาจะถูกพรากไปตลอดกาล..

.........................................................

.................................

หลังจากนั้น... ปฏิบัติการ Black Out สำเร็จไปได้ด้วยดี.. สหรัฐอเมริกาสามารถทำลายโรงงานผลิตไฟฟ้าของเกาหลีเหนือได้ถึง 5 โรง และยังสามารถทำลายฐานทัพอากาศได้อีกจำนวนหนึ่ง... รวมทั้งยิงเครื่องบินขับไล่ของเกาหลีเหนือตก 12 ลำ โดนสูญเสียเครื่อง F-15 และ F-22 อย่างละ 1 ลำเท่านั้น...

ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกเหนือแผ่นดินเกาหลีเหนือหลังจาก 3 เดือนที่ทหารของสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก จากสงครามชายแดนที่ปะทุขึ้นอย่างดุเดือด...

จำนวนทหารที่เสียชีวิตมีมากกว่า 1 แสนนายแล้ว... ซากศพของทหารผู้ปกป้องประเทศชาติต่างนอนนิ่งไร้วิญญาณอยู่ตามป่าลึกในเขตแดนเกาหลีที่อาบไปด้วยเลือดรักชาติที่หลั่งไหลจนเกือบท่วมแผ่นดิน...

Day 1 Ending สงครามยังคงดำเนินต่อไป..

อาวุธทางทหารที่ปรากฏในเรื่อง

1.F-16C Fighting Falcon

falcon12.jpg

-เครื่องบินรบขนาดกลาง เป็นเครื่องบินรบที่ถูกใช้มากที่สุดทั่วโลก มีความคล่องตัวทางอากาศสูง แม้ประสิทธิภาพจะไม่มาก แต่มีความสมดุลที่น่าเหลือเชื่อ สามารถใช้ต่อสู้ทางอากาศและทิ้งระเบิดแบบปรูพรมได้

บทบาท : เครื่องบินขับไล่หลากบทบาทขนาดกลาง แบบที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : US Air Force

2.F-15E Strike Eagle

f15-strike-eagle-afghanistan.jpg

-เครื่องบินรบขนาดหนัก เป็นเครื่องบินรบที่มีสมรรถนะสูงกว่า F-16 มาก มีท่อเจ็ทที่ทรงพลังสามารถไต่ระดับถึงยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ภายใน 1 นาที สามารถใช้ต่อสู้ทางอากาศและทิ้งระเบิดแบบปรูพรมได้ ถูกใช้ครั้งแรกในสงครามอิรัก

บทบาท : เครื่องบินขับไล่หลากบทบาทขนาดหนัก แบบที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : US Air Force

3.F-22A Raptor

1f22_raptor1.jpg

-เครื่องบินรบขนาดหนัก ใช้วัสดุพิเศษและสีฉาบรอบตัวเครื่องทำให้มีความสามารถในการสะท้อนเรด้าห์ต่ำ ทำให้มีความสามารถ Stealth(สเตลท์) โดยมีหน้าตัดเรด้าห์เพียง 0.25 มม สามารถใช้ต่อสู้ทางอากาศและทิ้งระเบิดได้

บทบาท : เครื่องบินขับไล่กึ่งล่องหนขนาดหนัก แบบที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : US Air Force

4.E-3 Sentry

e_3.jpg

-เครื่องบินตรวจการขนาดใหญ่ ไม่มีบทบาทในการโจมตีหรือต่อสู้ทางอากาศ แต่มีเรด้าห์อันทรงพลังที่สามารถขับเป้าได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตร คอยเป็นหูเป็นตาให้กับเครื่องบินรบ และสามารถดาต้าลิ้งค์กับ F-22 ได้

บทบาท : เครื่องบินตรวจการ เตือนภัยและควบคุมทางอากาศ(AWACS)

สังกัด : US Air Force

5.KC-10 Extender

kc_10.jpg

-เครื่องบินเติมน้ำมันทางอากาศ ไม่มีบทบาทในการโจมตีหรือต่อสู้ทางอากาศ มีความสามารถในการสนับสนุนการเติมน้ำมันกลางอากาศ

บทบาท : เครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ

สังกัด : US Air Force

6.MIG-29S Fulcrum

mig-29s-3.jpg

-เครื่องบินรบขนาดกลาง ถูกผลิตโดยกองทัพอากาศรัสเซีย เป็นเครื่องบินรบที่ถูกสร้างมาเป็นคู่ปรับกับ F-16 มีความสามารถใกล้เคียงกัน และสามารถทำภารกิจได้คล้ายๆกัน

บทบาท : เครื่องบินขับไล่หลากบทบาทขนาดกลาง แบบที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : Korean Peoples Army Air force

ป.ล. - ปั๊มท์~

Link to comment
Share on other sites

อธิบายศัพท์และชื่อต่างๆใน Day 1

รันเวย์(Runway)

-ทางวิ่ง สำหรับขึ้นบิน/ลงจอด ของ เครื่องบิน

จีพีเอส(GPS)

-ระบบตรวจเช็คสถานที่โดยใช้ดาวเทียมนำร่อง

เอ็นจิ้น(Engine)

-ศัพท์เรียกเครื่องยนต์

เทค-ออฟ(Take-off)

-การบินขึ้นของเครื่องบิน

ฝูงบิน(Squadron)

-สมาชิกของนักบินในฝูงบินหนึ่งๆ บางครั้งใช้เรียกการเกาะกลุ่มบินของเครื่องบินตั้งแต่ 2 ลำ ขึ้นไป

เอแว็คส์(AWACS)

-ระบบที่ติดบนเครื่องบินตรวจการ มีหน้าที่ เตือนภัยและควบคุมทางอากาศ (Airborne Warning and Control System) บางครั้งเป็นศัทพร์ใช้เรียกเครื่องบินตรวจการที่มีระบบนี้ติดตัว

ทิศ ?? นาฬิกา

-เป็นการเปรียบเทียบทิศทางต่างๆ โดยใช้หัวเครื่องบินเป็น 12 นาฬิกา ท้ายเครื่องเป็น 6 นาฬิกา ด้านซ้ายเป็น 9 นาฬิกา ด้านขวาเป็น 3 นาฬิกา เฉียงก็ตามนาฬิกาว่าศัตรูมาจากทิศไหน ส่วนใหญ่จะใช้ประกอบกับระดับความสูงที่ศัตรูบินอยู่ ณ ปัจจุบัน

พลุล่อเป้า(Flare)

-พลุความร้อนสูงที่ถูกจุดออกมาจากท้ายเครื่องบิน มีหน้าที่ล่อเป้าจากจรวดนำวิถีด้วยความร้อนของศัตรู ใช้เพื่อเอาตัวรอด

ท่าทางการบินแบบ Cobra(Pugachevs Cobra)

-ท่าทางการบินที่ค้นพบครั้งแรกโดยนักบินทดสอบของรัสเซีย ใช้การลดความเร็วแล้วยกหัวเครื่องขึ้นเพื่อคงระดับเอาไว้ในรูปแบบโต้ลม ไม่มีประโยชน์ในการสู้รบมากนัก แต่สามารถใช้ได้ในบางจังหวะ

400px-Su-27_Cobra_2b.png

ฟ็อกส์ ทู(Fox Two)

-เป็นรหัสที่ชาตินาโต้ตั้งให้กับจรวดนำวิถีด้วยความร้อนแบบ AIM-9 Sidewinder ขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่ใช้กันในการสู้ระยะใกล้

สเตลท์(Stealth)

-เป็นชื่อที่ใช้เรียกความสามารถในการสะท้อนเรด้าห์ต่ำ หรือการทำให้เรด้าห์ของศัตรูตรวจจับได้ยาก ทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินล่องหน แต่ความจริงเป็น กึ่งล่องหน ยังสามารถมองเห็นด้วยตาได้ แต่ตรวจจับทางเรด้าห์ได้ยาก

Link to comment
Share on other sites

เรื่องน่าสนใจดีครับ รออ่านหลาย ๆ ตอนก่อนเน้อ

Link to comment
Share on other sites

แนะนำว่า ให้ซ่อนรูปดีกว่าครับ บางภาพมันใหญ่เกิน จนต้องมานั่งเลื่อนซ้าย เลื่อนขวา เพื่ออ่านน่ะครับ  :pika01:

ปล.ยังไม่มีอะไรต้องวิจารณ์ครับ จะคอยติดตาม

Link to comment
Share on other sites

แนะนำว่า ให้ซ่อนรูปดีกว่าครับ บางภาพมันใหญ่เกิน จนต้องมานั่งเลื่อนซ้าย เลื่อนขวา เพื่ออ่านน่ะครับ  :pika01:

ปล.ยังไม่มีอะไรต้องวิจารณ์ครับ จะคอยติดตาม

จัดการให้แล้วนะครับ

Link to comment
Share on other sites

อยากเหนการต่อสู้แบบภาคพื้นมั่งแหะ  :pika04:

Link to comment
Share on other sites

อยากเหนการต่อสู้แบบภาคพื้นมั่งแหะ  :pika04:

ส่วนใหญ่ผมเน้นการรบบนฟ้าน่ะ ภาคพื้นมีแน่ครับ แต่อาจไม่เด่น เพราะเป็นการได้รับการสนับสนุนจากอากาศซะมากกว่า

Link to comment
Share on other sites

Day 2 - The New Member

หลังจากปฏิบัติการ Black Out สำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวได้ตัดกำลังของเกาหลีเหนือได้หลายส่วน เนื่องจากโรงงานไฟฟ้าที่ถูกทำลาย ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชิ้นไม่สามารถใช้งานได้ และยังกินวงค์กว้างไปเกือบทั่วประเทศอีกด้วย...

หลังจากจบปฏิบัติการ Viper Team ของ พันเอก มาเวอริค แกนน่อน ก็ถูกมอบหมายหน้าที่ให้ไปประจำการในฐานทัพอากาศเกาหลีใต้ ใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือ ประจำการร่วมกับฝูงบิน 122 เพื่อเตรียมรับมือกับกองทัพอากาศเกาหลีเหนือและทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป..

เมื่อ F-16 ทั้ง 3 ลำ วิ่งลงแตะรันเวย์ และลงจอดอย่างปลอดภัย เพียงแค่พวกเขาลงจากเครื่อง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีราวกับวีรบุรุษ

เหล่านักบิน ช่างเครื่อง ต่างออกมาต้อนรับกันอย่างล้นหลาม ไม่ไกลนัก ในเขตกั้น ประชาชนจำนวนมากยืนเบียดเสียดกันอยู่ด้านนอกราวกั้นเขตฐานทัพอากาศ พลางโห่ร้องด้วยความยินดี พร้อมเสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่ว...

ภาพที่เห็นเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ หลังจากจบงานที่ยากลำบาก พวกเขาได้รับสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าทีเดียว..

พวกคุณคงจะเป็น Viper Team ที่เข้าร่วมปฏิบัติการ Black Out สินะครับเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อพวกมาเวอริคในชุดจีสูทสีเขียวหันไปมองทางต้นเสียงจากด้านหลัง พวกเขาก็พบกับ ชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีน้ำเงินพร้อมตราประดับจำนวนหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าเขาคือ นายพลของกองบินนี้..

ครับ นับจากนี้ Viper Team สังกัด กองทัพอากาศสหรัฐ จะมาประจำการใน กองบิน 122 เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนสงครามชายแดนต่อไปครับมาเวอริคพูดขึ้นพร้อมยกมือขึ้นทำวันทยหัตถ์เพื่อทำความเคารพแก่ผู้บัญชาการ

พวกเด็กสมัยนี้นี่ ไฟแรงกันจริงๆ ยังไงก็ขอบใจมากนะ ผมนาวาอากาศตรี  คัง-กี-ยุล ขอขอบคุณพวกคุณมากนายพลในชุดสีน้ำเงินเอ่ยแนะนำตัว พร้อมวันทยหัตถ์รับในทันที

ขอบคุณมากครับ ผม พันเอก มาเวอริค แกนน่อน รหัส Viper-1 ยินดีที่ได้ช่วยเหลือครับ

ผม พันโท คอร์แซร์ เอส. อาคาเดีย รหัส Viper-2 ขอขอบคุณสำหรับการต้อนรับครับ

ดิฉัน พันโท แคโรไลน์ กาแลนด์ รหัส Viper-3 ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

สมาชิกทั้ง 3 ของฝูงบิน Viper Team เอ่ยทักทายและแนะนำตัวจนครบคัน นายพล คัง ดูจะพอใจกับนักบินทั้ง 3 ที่ท่าทางขึงขังและไว้ใจได้

เอาล่ะ ผมมีอะไรมาเซอร์ไพรซ์พวกคุณเล็กน้อย เธอมานู่นแล้วนายพลคังเอ่ยขึ้นพลางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อบอกให้รู้ว่ามีอะไรบางอย่างมาทางข้างหลังของพวกเขา...

ทันทีที่หันไปมอง.. F-16 สีเทาลายพลางน้ำตาล ก็ล่อนลงจอดบนรันเวย์ข้างๆพวกเขาในทันที พวกช่างเครื่องต่างวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมจัดการกับเครื่องบินลำใหม่ที่มาลงจอดบนรันเวย์ บ้างก็หยิบบันไดสำหรับนักบินมาวางพาด บ้างก็เข้าไปเช็คตัวเครื่องรอบๆ...

ขณะที่ประจกฝาครอบถูกเปิดออก นักบินในชุดจีสูทสีเชียวค่อยๆก้าวออกมาจากตัวเครื่องช้าๆ เมื่อเธอลงถึงพื้นก็เดินตรงเข้ามาหาพวก Viper Team ทันที

นั่นอะไรน่ะครับมาเวอริคเอ่ยถามเล็กน้อย

ผีเสื้อน้อยของพวกเราไงล่ะ...นายพลคังเอ่ยตอบ...

ในทันใดนั้นเอง นักบิน F-16 ลำดังกล่าวก็ค่อยๆถอดหมวกนักบินออก เผยใบหน้าขาวในแบบของสาวเอเชีย เรือนผมสีดำยาวเรียบๆถึงกลางหลังสยายออก เธอยิ้มเล็กๆพลางเอาหมวกนักบินแนบลำตัว แล้วเดินเข้ามาหาพวกเขาในทันที..

ขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือนักบินมือหนึ่งของฝูงบินลำ พันตรี คิม-นา-บี นักบิน F-16 เพียงลำเดียวของกองบิน 122 ของเรา

ฉัน พันตรี คิม-นา-บี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะเธอยกมือขึ้นทำวันทยหัตถ์ให้กับมาเวอริคในทันที ทำให้เขาชะงักเล็กน้อย

ผม พันเอก มาเวอริค แกนน่อน ยินดีครับเขารีบยกมือทำวันทยหัตถ์รับในทันที โดยที่ยังไม่ทราบเหตุผลอยู่

ทางกองทัพอากาศสหรัฐบอกว่าฝูงบิน Viper Team มีนักบินน้อยเกินไป จึงให้เราจัดหานักบิน F-16 อีกคนหนึ่งเข้ามาร่วมในฝูงบินเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และรับมือกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงครับนายพลคังอธิบาย มันทำให้พวกเขาตกใจพอสมควร

หมายความว่า.. เธอจะเป็นสมาชิกใหม่ในฝูงบินของเราสินะครับมาเวอริคเอ่ยถามเล็กน้อย

ใช่แล้ว ดูแลผีเสื้อน้อยของพวกเราให้ดีๆล่ะนายพลคังเอ่ยตอบ

อืม.. ยินดีด้วยนะ ต่อไปนี้คุณคือ Viper-4 ฝากตัวด้วยล่ะ พันตรีคิมมาเวอริคยื่นมือไปทักทายเล็กน้อย พร้อมมอบรหัสให้กับ คิม

เช่นกันค่ะเธอยื่นมือมาทักทาย เป็นการเริ่มต้นที่ดี สำหรับฝูงบิน Viper เพื่อรับกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า... ซึ่งจะนำพวกเขา เข้าไปสู่นรกของสงครามอย่างแท้จริง...

........................................................

........................................................................

ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้สิแคโรไลน์พูดด้วยท่าทางอารมณ์เสีย เธอทำหน้าบู้ นั่งลงบนเบาะอย่างแรง แสดงถึงอาการของเธอ

หลังจากมีนักบินใหม่มาร่วมฝูง มาเวอริคก็ขอแยกทางไปกับนักบินใหม่ เพื่อจะพาไปปรับเทคนิคกัน 2 คน โดยปล่อยให้ แคโรไลน์และคอร์แซร์ที่ไม่พูดอะไรแยกตัวออกมายังห้องนั่งเล่นของกองบิน..

ดูท่าจะอารมณ์เสียไม่เบาเลยนะ เธอเนี่ยคอร์แซร์เอ่ยขึ้นเบาๆ พลางเดินไปที่โต๊ะเตี้ยๆที่มีกาน้ำร้อน แก้ว และตะกร้าที่วางซองกาแฟเอาไว้จำนวนหนึ่งอยู่

ก็แหงล่ะสิ! นักบินใหม่คนนั้นจะสนิทสนมกับผู้พันมากไปแล้วนะ!แคโรไลน์สบถอย่างอารมณ์เสียเล็กน้อย ก่อนที่คอร์แซร์จะเดินเข้ามาหา ในมือหนึ่งถือถ้วยกาแฟของเขา ส่วนอีกมือ ค่อยๆวางถ้วยกาแฟอีกถ้วยลงบนโต๊ะข้างหน้าแคโรไลน์

ขะ.. ขอบคุณ...เธอเอ่ยขึ้น พลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเบาๆ

เธอชอบผู้พันมาเวอริคเหรอ

พรู่ดดด!!

ในเสี้ยววิที่คอร์แซร์ลั่นคำนั้นออกไป กาแฟสีน้ำตาลขุ่นที่พึ่งถูกซดเข้าปากแคโรไลน์ไปเมื่อครู่ก็พลันถูกพ่นกระจายออกมาในทันที จนเลอะบริเวณโต๊ะไปหมด

เป็นอะไรไปล่ะ แคโรไลน์คอร์แซร์หันมาถามด้วยหน้านิ่งๆ

ฉันเปล่านะ! ก็แค่กาแฟมันขมเท่านั้นเอง.. แล้วๆๆๆ... ฉันก็ไม่มีทางชอบเจ้าบ้าคนนั้นได้หรอกแคโรไลน์รีบแก้ตัวยกใหญ่ ทั้งๆที่คอร์แซร์ยังไม่ได้ว่าอะไรแม้แต่น้อย..

นี่... ฉันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลยนะเธอ...คอร์แซร์เอ่ยพลางยิ้มนิ่งๆ มันทำให้แคโรไลน์สงบลงเล็กน้อย เธอนิ่งก้มหน้านิ่งอยู่กับโต๊ะและไม่พูดอะไร...

ยังไงก็เถอะ... ถ้าคิดว่าอยากจะทวงตัวผู้พันกลับคืนมาก็ต้องบอกความรู้สึกไปตรงๆนะ.. เอาแต่เก็บไว้ เจ้าผู้ชายบนฟ้าแบบเจ้านั่น ไม่มีทางรู้หรอกคอร์แซร์ให้คำแนะนำ ก่อนที่จะเดินออกไป ทิ้งให้แคโรไลน์นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น...

อืม.... นั่นสินะ... ขอบคุณมากนะ.. คอร์แซร์เธอพูดขึ้นเบาๆ หลังจากที่คอร์แซร์เดินออกจากห้องไปพักนึงแล้ว เธอส่ายหัวเล็กน้อยเพื่อสะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหาผ้ามาทำความสะอาดสิ่งที่ตนทำเลอะเอาไว้...

.....................................................................

.................................................

กลางดึกในคืนนั้น...

ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดยามค่ำคืน มันยังคงส่องสว่างด้วยแสงจันทร์และดวงดาวที่ส่องประกายอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่...

ชายหนุ่มผมบลอนด์ได้แต่เฝ้ามองไปยังท้องฟ้า ผ่านระเบียงของอาคารพักนักบิน เงียบๆอยู่คนเดียว...

นอนไม่หลับเหรอคะ?เสียงทักทายจากสาวน้อยชนชาติเกาหลีดังขึ้น มันทำให้ผู้พันหนุ่มหันกลับไปมองยังต้นเสียง... สาวนักบินค่อยๆเปิดประตูกระจกออกช้าๆ และเดินเข้ามาหาเขาในทันที...

ทำไมถึงรู้ล่ะมาเวอริคเอ่ยขึ้นเบาๆ เขายืนพิงระเบียงปูนอยู่ตรงนั้น ในขณะที่คิมเดินเข้ามาใช้มือเกาะกับราวระเบียง เมื่อมายืนคู่กันแล้ว ร่างสูงใหญ่ของชายอเมริกัน กับ ร่างเล็กๆของสาวเอเชีย ช่างดูแตกต่างกันเหลือเกิน..

ก็.. ตอนที่ฉันนอนไม่หลับ ฉันก็จะมายืนมองดูดาวที่นี่เสมอน่ะค่ะ... ดวงดาวที่นี่สวยมากเลย...เธอหันมามองหน้าเขา ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาวางแบบหลวมๆไว้ที่แก้มซ้าย ในขณะที่ลมกลางคืนจะพัดจนผมของเธอปลิวสไวเล็กน้อยไปตามแรงลมที่พัดโชยมา...

นั่นสินะ... ดวงดาวบนท้องฟ้านี่สวยจริงๆนั่นแหละ...มาเวอริคเอ่ยขึ้น พลางหันกลับไปจ้องมองบนท้องฟ้า... โดยไม่อาจร่วงรู้เลยว่า.... มีใครบางคนกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่

บ้าที่สุด....สาวร่างเล็กสบถเสียงดัง ก่อนที่จะสะบัดหน้าหนี แล้วออกวิ่งออกไปจากหลังกระจกนั่น... แคโรไลน์ที่ไม่มีความกล้าพอ ได้แต่ก้มหน้าหนีความจริงอยู่แบบนั้น โดยไม่อาจเข้าไปขัดขวาง หรือแม้แต่บอกความใจใจออกไปได้ แม้แต่น้อย..

.....................................................................

................................................

14 มกราคม ปี 2011 เวลา 04: 13 น.

เสียงเตือนภัยดังลั่นไปทั่วฐานทัพ ต่างปลุกนักบินให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล หลังจากเรด้าห์ภาคพื้นของกองบิน 122 สามารถจับสัญญาณบางอย่างได้...

เกิดอะไรขึ้นมาเวอริคที่ออกมาออกกำลังกายยามเช้ามืดอยู่คนเดียว รีบวิ่งเข้ามายังหอวิทยุเพื่อรับรู้สถานการณ์ในทันที

เรด้าห์ภาคพื้นตรวจพบสัญญาณ เครื่องบินรบของเกาหลีเหนือครับ คาดว่าจะเป็น MIG-21  8 ลำ กำลังมุ่งหน้าผ่านชายแดนมาทางนี้นายวิทยุเอ่ยตอบขึ้น หลังจากรับข่าวจากกองเรด้าห์ได้เมื่อครู่

งั้นช่วยเรียก พันตรีคิม กับ นักบินกองบิน 122 ให้ไปที่โรงเก็บแล้วเตรียมออกตัวในทันทีมาเวอริคออกคำสั่งในทันที

รับทราบครับ!!

อาวุธทางทหารที่ปรากฏในเรื่อง

1.B-2 Spirit

b2_04.jpg

-เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบกึ่งล่องหนขนาดใหญ่ สร้างจากโลหะพิเศษและฉาบสีพิเศษทำให้ตรวจจับทางเรด้าห์ได้ยาก ทำหน้าที่ทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี และ ทิ้งระเบิดขนาดหนัก

บทบาท : เครื่องบินทิ้งระเบิดกึ่งล่องหนขนาดหนัก

สังกัด : US Air Force

2.MIG-21PF/PFM Fishbed

mig21.jpg

-เครื่องบินรบขนาดเล็ก ถูกสร้างโดยโซเวียตในช่วงสงครามเย็น มีบทบาทมากในอียิปต์ในสงครามระหว่างอียิปต์และอิสราเอล และ สงครามเย็น MIG-21 เป็นจำนวนมาก มีความคล่องตัวสูงในเครื่องบินรบยุคเดียวกัน แต่ค่อนข้างจะตกรุ่นแล้วในปัจจุบัน

บทบาท : เครื่องบินขับไล่โจมตีภาคพื้นขนาดเล็ก ที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : Korean Peoples Army Air force

Link to comment
Share on other sites

Day 3 - The Air Battle

ฝูงบิน 122 ฝูงบินใกล้เขตชายแดนที่อยู่ในสภาพ Alert อยู่ตลอดเวลา ถ้าตรวจพบสัญญาณศัตรูก็พร้อมขึ้นบินได้ทันที ที่รันเวย์ทางขึ้นนั้น F-16 ลำหนึ่งที่ติดตรารูปดาวที่ล้อมด้วยวงกลมและปีกสี่เหลี่ยม 2 ข้างเป็นแถบสีขาวอยู่ที่ปีกทั้ง 2 ข้าง กำลังจอดนิ่งอยู่ขณะที่ช่างเครื่องเข้าเช็คระบบต่างๆอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมออกตัวได้ทันที

ขอโทษที่ช้าค่ะคิมติดต่อผ่านมาทางวิทยุ ก่อนที่จะนำเครื่อง F-16 สีเทาลายน้ำตาลแล่นเข้ามาจอดเทียบข้างๆ F-16 ลำแรก

ช้ากว่ากำหนด 2 นาที ทำให้มันเร็วกว่านี้หน่อยละกัน ศัตรูมันไม่คอยเวลาของเราหรอกนะมาเวอริคตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่ง เขารีบใส่หมวกและท่ออ็อกซิเจนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ช่างเครื่องบางส่วนเริ่มเปลี่ยนไปเช็คเครื่องของคิมบ้าง

ค่ะ.. คราวหน้าจะไม่ให้พลาดอีกคิมก้มหน้าเล็กน้อย แต่เธอก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมท่าทีมั่นใจ ก่อนที่จะรีบสวมหมวกตามอย่างรวดเร็ว เพื่อผู้ฝูงของเธอเร่งสันดาปท้ายเสียงดังสนั่นเป็นสัญญาณว่าพร้อมออกตัวแล้ว...

ที่อีกรันเวย์หนึ่งติดกับโรงเก็บอีกฝั่ง.. ช่างเครื่องบางส่วนวิ่งออกมาส่งสัญญาณเล็กน้อย ก่อนที่ เครื่องบินทรงจรวดสี ขาวไล่ไปฟ้า พาดไปตามตัวคล้ายลายของเสือแล่นออกมาจากโรงเก็บหลังเช็คระบบเรียบร้อยแล้ว จำนวน 2 ลำ...

เยี่ยม.. ได้เครื่องรุ่นเก๋ามาอีก 2 ลำ... อย่างน้อยก็พอฟัดกับ MIG-21 ได้ละน่ะมาเวอริคถอนหายใจ พลางนึกไปว่าฝูง 122 ประจำการด้วย F-5 ทั้งหมด โดยมี F-16 ของคิมเพียงแค่ลำเดียวเท่านั้น

ในทันทีหลังจากเข้าสู่รันเวย์ในสภาพพร้อม F-5 ทั้ง 2 ลำ ก็จุดระเบิดสันดาปท้าย ก่อนจะเร่งเครื่องออกวิ่งไปตามรันเวย์ และทะยานขึ้นฟ้าไปพร้อมๆกันในทันที..

พวกเราเองก็ไปกันมั่งเถอะมาเวอริคพูดขึ้น ขณะช่างเครื่องตรวจเช็คเครื่องของคิมเสร็จ และกำลังถอยออกไป..

ทั้งคู่ปิดประจกครอบ ก่อนที่จะเร่งสันดาปท้ายเสียงดังสนั่นพร้อมออกวิ่งไปตามรันเวย์ สภาพอากาศกึ่งมืดกึ่งสว่างในยามเช้า ทำให้สามารถมองเห็นแสงที่ทอดออกมาจากท่อไอพ่นได้อย่างชัดเจนราวกับมีไฟลุกออกมาอย่างนั้น..

Viper-1 Take-off

Viper-4 Take-off

ทั้งคู่เชิดหัวขึ้นจากรันเวย์ พร้อมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเช้ามืดในทันที..

..

หลังจากขึ้นบิน พวกเขาบินเกาะกลุ่มกัน เพื่อเตรียมเข้าหาศัตรู ด้วยจำนวน 4 ปะทะ 8 พวกเขาดูจะเสียเปรียบอยู่บ้าง... กลุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยมี F-16 2 ลำ นำหน้า ตามด้วย F-5 อีก 2 ลำ ที่บินตามมาข้างหลัง

เอาล่ะฟังนะ แผนก็ง่ายๆ หลังจากฉันเปิดฉากยิงแล้ว ให้ Tiger Team บินเข้าไปปะทะกับศัตรูที่แตกฝูงออก ที่เหลือ ฉันจะจัดการเองมาเวอริคเอ่ยแผนขึ้น.. ทันใดนั้นเองที่เรด้าห์ขนาดใหญ่ของ F-16 ตรวจพบสัญญาณได้ก่อน F-5

ศัตรู.. ทิศ 12 นาฬิกา จำนวน 8 ลำ ความสูง 3 หมื่นฟุต Tiger Team พร้อม!มาเวอริคให้สัญญาณ เขาไม่ล็อคเป้าไปยังศัตรู แต่กลับลั่นไกออกไป..

Fox Three!

เขาลั่นไกออกไป.. ทันใดนั้นเองที่ขีปนาวุธสีขาวที่ดูมีลักษณะยาวกว่าที่เขาใช้ครั้งแรก ที่ถูกติดที่ปลายปีกข้างซ้ายจะถูกทิ้งออกมา ควันสีขาวพวยพุ่งลากเป็นทางยาว ขณะที่ขีปนาวุธพุ่งด้วยความเร็วสูงเข้าหาศัตรู!

ตามคาด การที่เขาไม่ได้ล็อคเป้า ทำให้ขีปนาวุธพุ่งตรงเข้าไปแบบไม่มีเป้าหมาย แต่มันกลับทำให้ฝูง MIG-21 ทั้ง 8 ลำ บินแตกกลุ่มแยกออกมาได้ทันที

Tiger Team ไปได้!!

รับทราบ!!

F-5 ทั้ง 2 ลำ เร่งเครื่องด้วยความเร็วสูงสุด ก่อนที่จะบินแซงหน้า F-16 ของมาเวอริคออกไปในทันทีที่ตอบกลับมา.. MIG-21 2 เครื่องบินสวนกับ F-5 และผ่านไปทางด้านซ้ายของพวกมาเวอริคไป

เอาล่ะ.. ไหนลองโชว์ฝีมือให้ฉันดูหน่อยสิคิม...มาเวอริคเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะเชิดหัวขึ้น หมุนตัวตีลังกา เพื่อหลบให้พ้นคิม ก่อนที่จะเลี้ยวออกไปทางซ้าย เพื่อไล่ล่า เหยื่อ ของเขาเอง ที่บินผ่านไปเมื่อครู่...

ค... ค่ะ!คิมดูท่าทางไม่มั่นใจเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามสุดความสามารถเช่นกัน!

เข้ามาเลยไอ้หนู!มาเวอริคเร่งเครื่องด้วยสันดาปท้าย เขาบินเข้าใกล้ MIG-21 ทั้ง 2 ลำมากขึ้น.. จนในที่สุดเขาก็ล็อคเป้าไปที่มันได้สำเร็จ!

เสร็จฉันล่ะ! Fox Twoเขาลั่นไกออกไป ขีปนาวุธสีขาวที่สั้นกว่า ถูกทิ้งลงมาจากใต้ปีกของเขา ก่อนที่พุ่งเข้าหา MIG-21 ลำที่อยู่ใกล้ที่สุดในพริบตา!

ตู้ม!!

ตามคาด ขีปนาวุธพุ่งเข้าอัดอย่างแรงจนทำให้เครื่อง MIG-21 ที่ล้าสมัยกลายเป็นลูกไฟกลางอากาศ ปีกทั้ง 2 ข้างหักและลอยขึ้นไป ขณะที่ตัวเครื่องค่อยๆควงสว่านแล้วดิ่งลงสู่พื้นในทันที...

มาเวอริครีบเร่งเครื่องตามอีกลำหนึ่งที่นำหน้าไปทันที... ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า เขาไล่ตามได้ไม่ยาก... ก่อนที่จะลั่นไกปืนออกไป... กระสุนปืนกลอากาศขนาด 20 มม. พุ่งเจาะทะลุเกราะของ MIG-21 ได้อย่างง่ายดาย จนทำให้มันกลายเป็นลูกไฟกลางอากาศและดิ่งลงไปอีกเครื่องนึง

ถ้ามาแต่แบบนี้ ตำแหน่งเสืออากาศก็ไม่ไกลหรอกมาเวอริบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะเชิดหัวเครื่องขึ้น แล้วเรียบกลับแบบตีหลังกา เพื่อกลับไปสู่สนามรบที่คิมกำลังต่อสู้อยู่ในทันที..

MIG-21 กำลังหนีสุดชีวิต... เขาเลี้ยวขวาอย่างแรง ตีวงเลี้ยวเป็นวงกลม ในขณะที่ F-16 ของคิม กำลังไล่ตามมาติดๆ...

ถ้าใกล้ขนาดนี้ล่ะก็..คิมลั่นไกในทันที.. กระสุนปืนขนาด 20 มม. พุ่งแหวกอากาศออกไป... แต่ด้วยแรงลมระหว่างเลี้ยว ทำให้กระสุนหักหลบออกจาก MIG-21 ไปหมด โดยไม่โดนเลยแม้แต่นัดเดียว...

โธ่.......คิมบ่นออกมาด้วยท่าทางเสียความมั่นใจ เล็กน้อย.. ในขณะนั้นเองที่ MIG-21 อีกลำหนึ่ง เหวี่ยงเข้ามาอยู่ข้างหลังเธอ!

นาบีหลบเร็ว!!นักบิน F-5 คนหนึ่งตะโกนขึ้น เสียงนั้นทำให้เธอหักคันบังคับไปทางซ้ายพร้อมเลี้ยวหลบออกจากการตามล่า และสามารถหลบกระสุนของ MIG-21 ที่อยู่ข้างหลังเธอได้ทัน..

เธอหักคันบังคับสุดแรง เครื่อง F-16 ของเธอเริ่มเลี้ยวซ้ายพร้อมไต่วนขึ้นไป MIG-21 ตามเธอไปติดๆ..

โธ่.. อย่าตามมาสิ!เธอลนลานเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นนักบิน F-16 แต่เธอก็ไม่เคยรบจริงแม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่ได้สู้กับนักบินรบจริงๆ!

หลบไปนาบี!

เสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ F-5 ลำหนึ่งจะเหวี่ยงเข้ามาอยู่ข้างหลัง MIG-21 ที่ไล่ตามเธออยู่.. และในจังหวะนั้นเองที่ คิม เหวี่ยงคันบังคับไปทางขวา เพื่อควงสว่านออกไปจากการไล่ล่าในทันที

เอานี่ไปกิน.. Fox Two!

ขีปนาวุธสีขาวถูกทิ้งลงมาจากใต้ปีกของ F-5 ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่ MIG-21 ลำนั้น และระเบิดร่างของมันเป็นลูกไฟไปในอากาศในพริบตา!

ในจังหวะนั้น ขณะที่คิมกำลังหลบออกมานั้น MIG-21 อีกลำหนึ่ง พุ่งเข้ามาหาเธอ มันลั่นกระสุนเข้าใส่ แต่คิมสามารถเหวีย่งหลบได้ทัน... ในพริบตานั้นเองที่ทั้ง 2 บินสวนทางกัน... แต่ทว่า...

ผู้พันยู ระวัง!!เธอตะโกนเรียกชื่อคนขับ F-5 ที่เข้ามาช่วยเธอเมื่อครู่.. เพราะ MIG-21 ลำดังกล่าว บินดิ่งเข้ามาหาเธอ ก่อนที่จะบินสวนทางกับเธอไป.. และพุ่งลงไปสู่วงเลี้ยวของ F-5 ลำนั้น....

นักบิน F-5 เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย... ภาพข้างนอกกระจกนักบินนั้น... คือภาพของ จมูกเครื่อง MIG-21 ที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเขา... และนั่นคือภาพสุดท้ายที่เขาจะได้เห็น..

ตู้ม!!!!ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร.. MIG-21 และ F-5 พุ่งเข้าประสานงากันอย่างรุนแรง ก่อนที่จะระเบิดกระจุยกลายเป็นเศษเหล็กติดไฟกลางอากาศในพริบตา!

ไม่!!!!!! ผู้พันยู!!!!!

คิมกรีดร้องดังลั่น สมาชิกฝูงบิน 122 ที่เธอรู้จัก มานาน พุ่งจะกลายเป็ฯลูกไฟไปกลางอากาศ ภาพนั้นติดตาและทำให้เธอไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น...

คิมเริ่มเสียการควบคุม.. F-16 ของเธอเปลี่ยนจากท่าทางการบินหลบหนี กลายเป็นบินตรงๆ ซึ่งนั่นก็คือเป้านิ่งดีๆนั่นเอง...

และในจังหวะนั้น.. MIG-21 ลำที่เคยถูกเธอไล่ในตอนแรกก็ทะยานไต่ระดับขึ้นมา.. โดยมีเป้าหมายคือยิงคิม ให้ตกจากฟ้า! เขาประทับปืนให้ตรงตำแหน่ง ก่อนที่จะ!

Fox Two!

F-16 ของมาเวอริค ดิ่งลงมาจากฟ้า เขายิงขีปนาวุธสีขาวออกไป มันพุ่งโค้งเข้าปะทะกับ MIG-21 ที่กำลังไต่ขึ้นมาจนระเบิดกระจุยไปกลางอากาศในทันที...

คิม! ควบคุมสติหน่อย คิม!!มาเวอริคตวาดเสียงดัง.. เสียงของเขาทำให้คิมเริ่มได้สติ...  เธอเริ่มส่งเสียงสะอื้นผ่านวิทยุ โดยไม่พูดอะไร...

ผู้พันยู เสียสละชีวิตเพื่อช่วยเธอเอาไว้... ถ้าเธอตายต่อไปจากเขา เขาคงไม่พอใจแน่.... เขาไปดีแล้วคิม... เขาไปอยู่ในอ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว...มาเวอริคพูดเพื่อเตือนสติ.. ขณะที่บังคับ F-16 ให้เลี้ยวกลับลงมาอยู่ในระดับการบินแบบปกติ...

Tiger-2 รายงานด้วย MIG อีก 2 ลำ เป็นไงบ้าง?เขาเอ่ยปากถามนักบิน F-5 อีกคนหนึ่งซึ่งตาม MIG อีก 2 ลำ ไปเมื่อเรื่มเปิดฉากสู้..

MIG ทั้ง 2 ลำ ตกเรียบร้อยแล้วครับเขาตอบกลับมาในทันที ตอนนี้ พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูได้หมด... ถึงแม้จะต้องเสียพวกพ้องไปคนหนึ่งก็ตามที..

รับทราบ.. ภารกิจเสร็จสิ้น.. กลับกันได้แล้ว...มาเวอริคสั่งพลางถอนหายใจเบาๆ เขาโยกคันบังคับเล็กน้อย เพื่อเลี้ยวเครื่อง F-16 ให้กลับไปยังฐานทัพอากาศของฝูง 122... ก่อนที่คิมจะค่อยๆเลี้ยวตามมาช้าๆโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว...

............................................................

...........................

ในคืนอันมืดมิดและเงียบสงัด.. ท่ามกลางหมู่ดาวมากมายที่เรียงรายอยู่บนฟากฟ้า... สาวน้อยร่างเล็กได้แต่ยืนเกาะระเบียง มองขึ้นไปบนฟ้า... ดวงตากลมโตปริ่มด้วยน้ำใสๆที่พลันจะไหลออกมา เธอไม่อาจรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้เพื่อนร่วมรบคนหนึ่งต้องไปสู่ความตาย..

เป็นอะไรไป คิม

ต้นเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง สาวน้อยร่างบางหันหลังไปมองต้นเสียง.. ชายหนุ่มร่างสูงผมสีบลอนด์ค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ..

ยังนึกถึงเรื่องนั้นอยู่สินะ..

เธอไม่พูดอะไร เธอหลับตาลง และวิ่งเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มในทันที... พร้อมกับน้ำใสๆที่หลั่งหลินออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง.. เสียงสะอื้นที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหัวเธอเพื่อปลอบโยนเบาๆโดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดมาลิขิต...

เขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากปลอบโยนเธอ จนกว่าฝันร้ายของเธอจะผ่านพ้นไปเท่านั้น...

Day 3 Complete สงครามยังคงดำเนินต่อไป

อาวุธทางทหารที่ปรากฏในเรื่อง

1.F-5E Tiger II

Northrop-F-5-Tiger-070.preview.jpg

-เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงในยุคของมันเอง  ปัจจุบันถูกประจำการกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ถึงแม้จะล้าสมัย แต่ก็สามารถใช้ในการรบกับเครื่องรุ่นเก่าในยุคเดียวกันได้ดี

บทบาท : เครื่องบินขับไล่ความเร็วเสียง ที่นั่งเดี่ยว

สังกัด : Republic of Korea Air Force

Link to comment
Share on other sites

อธิบายศัพท์และชื่อต่างๆใน Day 3

ฟ็อกส์ ทรี(Fox Three)

-เป็นรหัสที่ชาตินาโต้ตั้งให้กับจรวดนำวิถีด้วยเรด้าห์แบบ AIM-120 AMRAAM ขีปนาวุธพิสัยกลาง มีระยะยิงแบบ BVR ทำให้สามารถใช้ในการเปิดฉากการรบจากระยะไกลได้

ระยะเหนือสายตา(Beyond Visual Range)

-หรือ BVR การต่อสู้ในปัจจุบันคือการต่อสู้ในระยะเหนือสายตาซะส่วนใหญ่ เพราะในปัจจุบันนั้น เราไม่ได้ใช้ตามองเครื่องของศัตรู แต่ใช้เรด้าห์มองแทน ทำให้สามารถล็อคเป้าได้จากระยะเหนือสายตาราวๆ 100 กิโลเมตร ได้ และสามารถเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธระยะกลางได้ในระยะนั้น สำหรับเครื่องที่ล้าหลังที่ไม่มีเรด้าห์จะไม่สามารถใช้ระบบนี้ได้

เรด้าห์(Radar)

-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการตรวจจับวัตถุในระยะเหนือสายตา ถูกบรรจุอยู่ในเครื่องบินรบยุคปัจจุบันทั่วไป และถูกใช้ในกิจการการบินทั่วไปอีกด้วย สามารถบอกเป้าหมายที่ตรวจพบได้ ก่อนที่ตาคนจะมองเห็น ความละเอียดและระยะที่ได้แตกต่างไปตามรุ่น

ขีปนาวุธนำวิถีด้วยความร้อน(Heat Seeking Missile)

-ขีปนาวุธประเภทที่ใช้กันในระยะใกล้ จะวิ่งหาความร้อนในบริเวณนั้น บนอากาศสันดาปท้ายของเครื่องบินจะปล่อยความร้อนออกมามาก ทำให้มันวิ่งเข้าหาเครื่องบินรบได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าอยู่ในระดับเรียบพื้นจะใช้ขีปนาวุธประเภทนี้ไม่ได้ดีนัก เพราะความร้อนจากพื้นจะมากกว่าสันดาปท้าย ทำให้เป้าคลาดเคลื่อนง่าย

สันดาปท้าย(Afterburner)

-สันดาปท้ายหรือ อาฟเตอร์เบิร์นเนอร์ คือท่อที่ติดอยู่ด้านหลังหรือที่ปีกของเครื่องบิน มีหน้าที่ส่งกำลังขับจากเครื่องยนต์เจ็ทภายใน เพื่อสร้างเป็นแรงขับ เพื่อให้เครื่องบินสามารถบินออกไปได้ ศัพทร์ทั่วไปเรียกกันว่า ท่อไอพ่น

Link to comment
Share on other sites

การใช้คำพูดขณะปฏิบัติงาน ดูไม่ค่อยเป็นทางการมากซักเท่าไหร่ คิดว่าควรให้ดูจริงจังกว่านี้ เพราะเป็นถึงกองกำลังของรัฐบาลระดับชาติ :pika07:

แล้วก็ การแสดงอารมณ์สวนตัวมากไปในขณะอยู่บนเครื่อง เช่นการโหวกเหวกโวยวาย  มักไม่ปรากฏในนิสัยของผู้ที่เป็นนักบิน  :pika08:

Link to comment
Share on other sites

การใช้คำพูดขณะปฏิบัติงาน ดูไม่ค่อยเป็นทางการมากซักเท่าไหร่ คิดว่าควรให้ดูจริงจังกว่านี้ เพราะเป็นถึงกองกำลังของรัฐบาลระดับชาติ :pika07:

แล้วก็ การแสดงอารมณ์สวนตัวมากไปในขณะอยู่บนเครื่อง เช่นการโหวกเหวกโวยวาย  มักไม่ปรากฏในนิสัยของผู้ที่เป็นนักบิน  :pika08:

ก็จริงนั่นแหละ... แต่แบบนั้นเหมือนจะแต่งยากพอสมควร เลยแต่งเป็นการ์ตูนไปเลยละกัน -*-""....

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

Day 4 - The Frontier War

แท่ดๆๆๆๆๆๆ!

ตู้ม!!!

เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วป่าในเขตชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและใต้.. ผืนป่าที่เงียบสงัดและไม่มีใครกล้าย่างกลายเข้าไป บัดนี้เต็มไปด้วยซากศพของทหารที่ถูกยิงเสียชีวิตนอนเกลื่อนอยู่ทั่วไปหมด.. กลิ่นศพที่เริ่มเน่าเหม็นคละคลุ้งจนเหล่าทหารต้องใส่หน้ากากกันแก๊ซพิษ ในขณะที่มือยังคงเหนี่ยวไกปืนเข้าใส่ทหารฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดชีวิต...

ตู้ม!!!

เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมแรงระเบิดที่ฉีกต้นไม้ใหญ่ให้ล้มลงได้อย่างง่ายดาย เสียงขับเคลื่อนของจักรกลขนาดหนักดังคำรามไปทั่วเขตป่า รถถังสีเทาดำ หัวโค้งแบบ T-62 จำนวนมากกำลังแล่นเข้ามาในบริเวณป่า กองกำลังสนับสนุนจากเกาหลีเหนือเริ่มปรากฏตัว ทำให้ฝ่ายพันธมิตรเริ่มเสียเปรียบมากขึ้น..

โธ่ บ้าเอ้ย... แบบนี้เราแพ้แน่ ทหารเราตายเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ!ชายในชุดทหารบกสหรัฐเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย ขณะใช้ตัวหลบอยู่หลังซากต้นไม้ล้ม ขณะยื่นส่วนหัวและปืนขึ้นไป เพื่อหน่วยไกใส่ศัตรู ตอนนี้ทหารร่วมรบระหว่างกองกำลังผสมของสหรัฐและเกาหลีใต้กำลังตกที่นั่งลำบาก...

ในจังหวะนั้นเอง ที่กระบอกปืนขนาด 115 มม. ของ T-62 ลำหนึ่งหันมาที่พวกเขาในพริบตานั้นเอง!

หมอบ!!!เขาตะโกนเตือนสุดเสียง พร้อมถอนออกจากป่าประทับปืน ลงไปหมอบนอนราบหลังซากต้นไม้ในทันที

ตู้ม!!!

กระสุนหนักพุ่งผ่านหัวเข้าไปในพริบตา ก่อนที่จะระเบิดพื้นป่าที่อยู่ห่างออกไปในพริบตา เศษดินกระจายขึ้นมาจากพื้นกลายเป็นฝุ่นคละคลุ้ง พร้อมกับเศษชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกระเบิดระเบิดฉีกกระชากออกจากลำตัวเป็นชิ้นๆ ลอยขึ้นจากพื้นมาตกที่ตรงหน้าของเขา...

Savior-6 เรียกฐาน กองสนับสนุนยังไม่มาอีกรึไง!!เขาติดต่อไปยังฐานจากวิทยุที่หู.. ในจังหวะนั้นเอง...

ฟ้าว!!.... ตู้ม!!!

ขีปนาวุธทรงอ้วนสีขาวแถบคาดสีเหลืองแบบ AGM-65 Maverick พุ่งเข้ามาจากหลังยอดไม้ ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่รถถัง T-62 ลำหนึ่ง และระเบิดเกราะหนาของมันให้เป็นจุลในพริบตา...

ดูเหมือนพวกเขาจะมาแล้วนี่ Savior-6เสียงติดต่อจากฐานดังขึ้น ก่อนที่เสียงเครื่องบินเจ็ทจะดังกลบจนหมด... เขามองขึ้นไปบนฟ้าผ่านยอดไม้ ก่อนที่จะเห็น F-16 4 ลำบินผ่านหัวของเขาไป...

บนน่านฟ้า เหนือเขตชายแดนเกาหลี... F-16 ชั้นแนวหน้าแห่งฝูงบิน 190 แห่งกองทัพอากาศสหรัฐ Viper Team 4 ลำ กำลังบินนำเข้าสู่สนามรบ ในหมู่บินรูป 3 เหลี่ยม โดยมีนักบินเกาหลีจากกองบิน 122 บินอยู่ด้านหลังหัวหน้าฝูง โดยมีสมาชิกอีก 2 คน ขนาบข้าง เกาะหมู่เข้าสู่สนามรบ...

โดยห่างออกไปไม่มากนัก ฝูงบิน F-5 9 ลำ จากฝูงบิน 122 กำลังบินตามพวกเขามาในรูปแบบกระจายไปรอบๆ ไม่ห่างนัก

พวกรถถังภาคพื้น ขอมอบหน้าที่จัดการให้ ฝูง 122 ที่เหลืออยู่ทั้งหมด Vipwr Team จะจัดการทางอากาศเองมาเวอริคเอ่ยขึ้น เขาสั่งการไปยังนักบินทุกคนที่บินตามเขามา ด้วยตำแหน่งยศสูงสุด..

รับทราบ!

ฝูงบิน 122 ทุกคน ขานรับ... F-5 9 ลำ ที่เหลือค่อยๆฉีกออกจากหมู่บิน โดยดิ่งลงไปเล็กน้อย เพื่อเข้าโรมรันกับภาคพื้นดิน.. โดยฝูง Viper ยังคงมุ่งหน้าเข้าสู่เขตเกาหลีเหนือ ผ่านป่าและหุบเขาต่อไป..

เอาล่ะ.. ระยะ 80 กิโลเมตรข้างหน้า.. ฉันจับสัญญาณ MIG-21 จำนวนมากได้... คาดว่าฐานทัพอากาศที่อยู่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงนั้น ฉันกับ Viper-4 จะจัดการพวกบนฟ้าเอง การทำลายฐาน ขอมอบให้เป็นหน้าที่ Viper-2 และ 3 ไปได้

รับทราบค่ะ!/ครับ!

F-16 ทั้ง 2 ลำ ที่ขนาบข้างหมายเลข 4 อยู่ ค่อยๆลดความเร็ว และฉีกออกด้านข้างเล็กน้อย ขณะที่หัวหน้าฝูง มาเวอริค และผู้ติดตามคิม เพิ่มความเร็วมากขึ้น!...

เอาล่ะคิม... ล็อคเป้าด้วยแอมแรม.. ถ้าฉันให้สัญญาณก็ยิงได้เลย!

รับทราบค่ะ....

ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งตรงเข้าหาสัญญาณของ อากาศยานข้าศึกจำนวนมากกว่า 5 ลำ ตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 ล็อคเป้าพวกมันเอาไว้แล้วบางส่วน... ในขณะเร่งเครื่องเพื่อเข้าสู่ระยะพร้อมยิง...

Fire! Fox Three!!มาเวอริคให้สัญญาณ...

ขีปนาวุธสีขาวถูกปล่อยลงจากปลายปีกของ F-16 ทั้ง 2 ลำ พวกมันทิ้งควันขาวลากผ่านท้องฟ้า ใน๘ระที่พุ่งตัวด้วยความเร็วสูงเข้าหาเป้าหมายด้วยความเร็วสูง!...

ที่ระยะสายตาที่ขอบฟ้า... ลูกไฟขนาดใหญ่ 2 ลูกปรากฏขึ้น พร้อมสัญญาณข้าศึกที่หายไป การยิงเมื่คอรู่ได้ผล ข้าศึกถูกยิงตกแล้ว 2 ลำ..

เยี่ยมมากคิม... ระวังให้ดีล่ะ...มาเวอริคกล่าวขึ้น เขาหักคันบังคับไปทางซ้าย ใน๘ระที่เครื่องของเขา เอียงซ้าย ก่อนที่จะฉีกออกไปจากคิม เพื่อเตรียมเข้าโรมรันกับศัตรู

คิมอยู่ในอาการตกใจเล็กน้อย เธอควบคุมสติ ก่อนที่จะหักคันบังคับไปทางขวา เพื่อจัดการกับศัตรูที่กำลังตรงมาหาเธอในไม่ช้า..

.........................................

.........................

ดูเหมือนกำลังเสริมของพวกมันกำลังจะบินขึ้นนะ... ฉันจัดการหอบังคับเอง Viper-3 จัดการตัดกำลังเสริมซะคอร์แซร์เอ่ยขึ้น เขาเร่งเครื่องนำหน้าแคโรไลน์ออกไป เพื่อเข้าใกล้สนามบินขนาดย่อมที่มีเครื่องบินอยู่บนรันเวย์ ในสภาพพร้อมขึ้นบิน 2 เครื่อง...

รับทราบแล้ว Viper-2 อย่าพลาดล่ะแคโรไลน์ตอบ ก่อนที่จะเร่งเครื่องตามไปติดๆ... เธอเปิดเลเซอร์นำวิถี ชี้ลงไปยังรันเวย์ยาว ขณะที่เครื่องบินฝ่ายศัตรูกำลังเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้น!

ขีปนาวุธทรงอ้วนถูกปล่อยลงจากใต้ปีกของ F-16 เครื่องแคโรไลน์ ก่อนที่มันจะพุ่งตรงตามเลเซอร์ชี้เป้าด้วยความเร็วสูงลงระเบิดรันเวย์ให้กลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ในทันที!...

นักบิน MIG-21 ที่กำลังวิ่งตรงเข้าหาหลุมลึกทั้ง 2 เครื่อง ทำการดีดตัวออกในทันที เครื่องที่วิ่งด้วยเครื่องเจ็ทต้องใช้ระยะรันเวย์ยาวสำหรับเบรก แต่มันก็ศายเกินไปแล้ว.. MIG-21 ทั้ง 2 ลำวิ่งตกหลุม ทำให้ส่วนท้ายของพวกมันยกขึ้น ก่อนที่จะพลิกคว่ำ และกลิ้งไปตามรันเวย์ กลายเป็นลูกไฟในพริบตา...

ตาฉันมั่งล่ะนะ.. Fox Two

คอร์แซร์ลั่นไกออกไป.. ขีปนาวุธสีขาวทรงยาว พุ่งออกไปจากใต้ปีกของเขา ก่อนที่จะเข้าระเบิดทำลายหอบังคับการบินในทันที!

เสร็จงานล่ะ...แคโรไลน์พูดอย่างสบายอารมณ์ เธอและคอร์แซร์ค่อยๆ ไต่ระดับกลับขึ้นไป ก่อนที่จะเลี้ยวกลับเพื่อตรงไปหาพวกมาเวอริค...

นิ่งๆนะไอ้หนู....

แท่ดๆๆๆๆ ตู้ม!

เสียงปืนกลรัวสนั่นออกจากข้างแก้มเครื่อง F-16 จ่าฝูง ลูกกระสุนปืนส่องแสงราวกับไฟเล็กๆกลางอากาศ ก่อนที่จะพุ่งเข้าเจาะเกราะบางของ MIG-21 และทำให้มันกลายเป็นลูกไฟในพริบตา!

แต้มที่ 8 เรียบร้อยมาเวอริคเอ่ยอย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้เขาจัดการศัตรูได้ทั้งหมดแล้ว และดูเหมือนทางคิมก็เช่นกัน..

เอาล่ะ ทุกคนเยี่ยมมากวันนี้ ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว มุ่งหน้ากลับฐานกันเถอะมาเวอริคเอ่ยพลางถอนหายใจผ่านไมค์.. แต่ไม่ทันจะได้หายใจทั่วท้อง... สัญญาณใหม่ก็ปรากฏขึ้น...

อ๊ะ... MIG-29... 2 ลำ ทิศ 7 นาฬิกา ความสูง 3 หมื่นฟุต กำลังเสริมงั้นเหรอ!มาเวอริคไม่รอช้า เขารีบเชิดหัวขึ้นไต่ระดับไปหาศัตรูในทันที.. ในขณะที่ ทุกคน กำลังอยู่ในอันตราย...

ตื้ดๆๆๆๆเสียงเตือนดังถี่ขึ้นในห้องนักบินของคิม เธอตกใจเล็กน้อย พลางมองไปที่หน้าปัด... ไฟสีแดงปรากฏเด่นชัดด้วยตัวอักษร 3 ตัว.... SAM

ฉันถูก SAM ล็อค!คิมพูดด้วยท่าทีตกใจ เธอเชิดหัว F-16 ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สายเกินไปแล้ว..

ขีปนาวุธสีเหลืองหม่นทรงยาว พุ่งขึ้นมาจากใต้ร่มไม้ทึบ คิมหักคันบังคับ เพื่อเร็วอย่างรุนแรง เธอฉีกหลบออกทางซ้าย แต่ขีปนาวุธยังคังบินตามเธออย่างรวดเร็ว!

คิม!

มาเวอริคตะโกนลั่น เขาหันไปมองทางคิม ในขณะที่เขาพลาดท่า... MIG-29 ลำหนึ่ง สาดกระสุนเข้าใส่เขา... กระสุนพุ่งเข้าเฉียดท่อรับลมที่อยู่ด้านใต้ ทำให้อุปกรณ์ลงจอด ส่วนล้อหน้า ถูกทำลายเสียหาย และหลุดออกจากตัวเครื่องไปทันที ก่อนที่พวกมันจะบินสวนกับมาเวอริคไป...

หนอยแก!มาเวอริคเชิดหัวขึ้น เพื่อเลี้ยวตาม MIG-29 ไป... แต่เมื่อหันไปมองในระยะไกลๆ.. ขีปนาวุธสีเหลืองหม่น อีกลูกหนึ่ง ถูกยิงขึ้นจากพื้น ไล่ตามคิมอีกครั้ง!

คิม! ปล่อย แฟรล์ แล้วหักขึ้น!มาเวอริคตะโกนลั่น

คิมปล่อยพลุล่อเป้าออกจากท้ายเครื่อง พลางหักออกด้านขวา.. ขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งเข้าใส่พลุล่อเป้าได้สำเร็จ แต่ทว่า... ขีปนาวุธอีกลูกหนึ่ง กลับทะยานตามเธอไปติดๆ!

คิม!!!

ขอโทษนะคะ... ฉันคงมาได้แค่นี้ล่ะค่ะ.....

..................

เสียงของคิม ดังขึ้นอย่างสิ้นหวังในหูฟังของมาเวอริค จนเขาสามารถได้ยินเต็ม 2 รูหู.....

ตูม!!!

ขีปนาวุธสีทอง พุ่งเข้ากระทบท้องเครื่อง F-16 สีน้ำตาลลาดพลาง... ในพริบตานั่นเองที่มันกลายเป็นลูกไฟ ระเบิดกระจุยกลางอากาศไปในพริบตา.. ชิ้นส่วนติดไฟ หล่นร่วงลงมาจากลูกไฟที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ.. ไม่มีทางที่นักบินจะสามารถรอดได้เป็นแน่....

..................หลังจากเสียงกระแทกดังขึ้นเต็มหูฟังของเขา และตามด้วยสัญญาณที่ถูกตัดไป... มาเวอริคนิ่งเงียบไปพักหนึ่งด้วยอาการช็อค ตอนนี้ เครื่อง F-16 ของเขา บินนิ่งๆในอากาศ จน MIG-29 ลำหนึ่งใช้จังหวะนั้น หักเข้ามาอยู่ในทิศ 6 นาฬิกาของเขาทันที...

หัวหน้าครับ!คอร์แซร์ตะโกนลั่นขึ้น พร้อมหักเครื่อง F-16 เข้ามาทางด้านหลังของ MIG-29 เสียงตะโกนของคอร์แซร์ ทำให้มาเวอริคเรียกสติคืนมาได้ทัน ก่อนที่จะรีบหักเครื่อง F-16 หนีออกจากการไล่ล่า

ในพริบตานั้นเองที่คอร์แซร์จัดการลั่นไกกระสุนปืนกลอากาศเข้าใส่ MIG-29 ที่อยู่ตรงหน้าระเบิดเป็นลูกไฟไปในทันที...

หัวหน้าครับ ตั้งสติหน่อย คุณคิม.......เขาจากเราไปแล้วครับ...คอร์แซร์พูดเตือนสติมาเวอริคอย่างลำบากใจ มาเวอริคเองก็ยังคงรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้..

Sentry-Commander เรียก Viper Team ได้ยินแล้วตอบด้วย

เสียงวิทยุดังขึ้นในหูฟังของนักบินทั้ง 3 คน เสียงในวิทยุนั้นคือเสียงของผู้บัญชาการกองทัพอากาศสูงสุด นามเรียกขานเองก็ตรงกับของ ผู้บัญชาการเช่นกัน...

Viper-1 ได้ยินแล้ว เปลี่ยน..มาเวอริคตอบกลับไปในทันที แต่สิ่งที่ถูกรายงานกลับมา กลับทำให้เขาช็อค

ตอนนี้พวกเกาหลีเหนือมันส่งกำลังทางอากาศ 70% มุ่งหน้ามาทางนี้ ตอนนี้ F/A-18 ของกองทัพเรือ กำลังมุ่งหน้ามารับมือแทน ขอให้ Viper-Team ยกเลิกภารกิจ และกลับประเทศเดี๋ยวนี้ เลิกกันผู้บัญชาการสูงสุดออกคำสั่งอย่างชัดเจน ก่อนที่จะตัดการสื่อสารในทันที...

เครื่องบินสีขาวที่มีจานสีดำหมุนอยู่ด้านบน ค่อยๆเชิดหัวขึ้นไปบนท้องฟ้าเล็กน้อย ขณะลอยเอื่อยๆอยู่บนชั้นเมฆ... พร้อมด้วย F-22 อีก 2 ลำที่บินตามมาติดๆ พร้อมกับเครื่องบินเติมน้ำมัน KC-10

Ghost-Team คุ้มกันเครื่อง KC-10 ให้ไปสมทบกับพวก Viper-Team หลังจากนั้นให้ดำเนินภารกิจสกัดกั้นร่วมกับ F/A-18 ของกองทัพเรือ ตามกำหนดการณ์

Roger! Copy That

เสียงตอบดังขึ้น ก่อนที่ F-22 ทั้ง 2 ลำ จะพลิกลำหงายท้อง แล้วกดหัวดิ่งลงไปใต้ชั้นเมฆ พร้อมกับ KC-10 ที่ค่อยๆ ดิ่งลงตามไปอย่างช้าๆ...

ไม่รู้ว่าพวกแกมาไม้ไหนหรอกนะ... แต่ดูท่าพวกแกจะเดินหมากผิดซะแล้ว...ผู้บัญชาการเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย... ขณะนั้นเอง ที่เส้นขอบฟ้า... F-22 14 ลำ ทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะลดเพดานบินลงไปใต้ชั้นเมฆ ขณะบินลอดใต้ท้องเครื่อง E-3 ที่ผู้บัญชาการนั่งอยู่ไปในเสี้ยววินาที..

กองกำลังใหญ่ที่สุดแห่งกองทัพอากาศเกาหลีเหนือ.. กำลังจะได้เผชิญหน้ากับกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพอากาศและกองทัพเรือ สหรัฐ...

Day 4 Complete สงครามยังคงดำเนินต่อไป

อาวุธทางทหารที่ปรากฏในเรื่อง

1.T-62  

35711.gif

-รถถังประจัญบานแบบเก่าของสหภาพโซเวียต เป็นรถถังขนาดเล็กที่มีใช้กันเป็นจำนวนมาก

สังกัด : Korean Peoples Army Air force

2.AGM-65 Maverick

maverick.jpg

-ขีปนาวุธแบบโจมตีภาคพื้น เป็นอาวุธขำวิถีด้วยอินฟราเรด วิ่งเข้าหาความร้อน สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีพลังทำลายสูง เหมาะสำหรับโจมตีรถถัง

สังกัด : US Air Force

3.KS-1

KS1.jpg

-ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ เป็นขีปนาวุธรุ่นแรกสุดของจีน

สังกัด : People's Liberation Army

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.