Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[แชร์ประสบการณ์] เพื่อนสนิทของคุณเป็นคนยังไง


Dreammaker

Recommended Posts

ก็นะ หลายๆ ครั้งที่ตัวเราเองอยากจะบอกความรู้สึกอะไรกับเพื่อนบ้าง แต่พออยู่ด้วยกันก็ทำอะไรซึ้งๆ ไม่ค่อยออก ทำเป็นแต่ทำเอาฮาอย่างเดียว

บางทีก็อยากจะบอกอะไรเพื่อนบ้างเหมือนกัน ถึงไม่เค้าจะไม่ได้อ่าน หรือเค้าจะเข้ามาอ่าน แต่ก็ถือว่าผมได้บอกความรู้สึกไปแล้วละนะ

:masterball: เพื่อนสนิทๆ ตอนนี้

คนแรก รู้จักกันมาสี่ห้าปีแล้ว ร่วมเป็นร่วมตายกันมาแล้ว เขาเป็นที่ชอบทำอะไรไม่ค่อยคิด ก็พอจะเข้าใจว่าเขาอาจจะคิดในแบบของเขา แต่ผมก็คิดว่ามันยังไม่รอบคอบพอ ถึงแม้ผมจะคิดว่าผมไม่ค่อยรอบคอบแล้วนะ แต่เขาคิดได้ลวกกว่าผมอีก เขาเป็นคนทำให้ผมได้รู้ว่า ผู้ชายมันก็คนธรรมดาๆ เจ็บได้ ร้องไห้เป็น ทำให้ผมได้รู้ว่า การที่ผู้ชายจะร้องไห้น่ะ ถ้าไม่ใช่กับคนสำคัญ หรือเรื่องสำคัญแล้วละก็ คงไม่มีทางเห็นน้ำตาของเขาง่ายๆ หรอก เขาเป็นคนเห็นความสำคัญของเพื่อนนะ แต่คงจะขี้ลืมไปหน่อยเท่านั้นเอง ช่วงนี้เหมือนผมพูดจาหาเรื่องเขาบ่อยขึ้นมากๆ ก็รู้แหละว่ามันจะทำให้เขาโกรธ แต่ก็ยังพูด ไม่รู้จะว่ายังไงดี ผมมันก็บ้าๆ งี้แหละ เขาคงเข้าใจ ผมกับเขาทะเลาะกันบ่อยมากเลยเรื่องงาน เพราะเรามองกันตรงกันข้ามกันมาก แต่ยังจะอุตส่าห์เข้ากันได้แฮะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว ก็นะ เขาคงไปมีความสุขกับแฟนของเขา เราก็อยู่แบบนี้ต่อไป แต่ว่านะ ถึงจะทะเลาะกันจะเป็นจะตายยังไง ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาก็ยังเหมือนเดิมนะ เรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัวซักหน่อย อาจจะมีเหวงๆ บ้าง แต่ก็... เอาเถอะ จะเลือกเพื่อนหรือเลือกทิฐิล่ะ ผมถามตัวเองบ่อยมากๆ เลย

คนที่สอง เป็นคนที่น่ารำคาญมาก ถ้าไม่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาก่อนน่ะนะ ตอนที่เรารู้จักกันไม่นาน เขาก็กล้าร้องไห้กับผมซะแล้ว ถึงแม้ตอนนั้นผมจะยังไม่ใช่คนสำคัญ แต่เขาก็ร้องเพราะเรื่องสำคัญสินะ เพราะผมได้รู้เรื่องสำคัญของเขา ผมก็เลยกลายเป็นคนสำคัญของเขาไปด้วย ชีวิตเขาเหมือนเจออะไรต่ออะไรมาเยอะ แต่ดูไม่ค่อยสู้ชีวิตเลย ท้อแท้ง่ายชะมัด ทำอะไรก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอมีปัญหาก็มารบกวนผมตลอด กลายเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งของเค้าไปแล้วละ จนถึงตอนนี้ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วนะ ยังสร้างความเดือดร้อนให้ผมไม่หยุดเลยแฮะ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากหรอก บ่นๆ ไปงั้นเอง ก็แค่ช่วงเวลาร้ายๆ ของชีวิตน่ะนะ อนาคตเขาจะทำให้ผมสบายใจได้บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้สิ แต่ว่า แค่โทรมาคุยเล่นๆ บ้างอะไรบ้าง ผมก็พอใจแล้วละ อย่าไปเครียด อิอิ

คนที่สาม รู้จักกันตั้งแต่ตอนเข้าค่าย เพราะเราบังเอิญแต่งฟิคเหมือนกัน เขาเป็นเด็กเรียนที่เอาจริงเอาจังมาก แต่พออยู่กับเพื่อนก็ขี้เล่นตลอด หลายๆ คนบอกว่า เขาน่าตาดุมาก ทำเหมือนโกรธตลอดเวลา ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นนะ แต่เดี๋ยวนี้ก็เฉยๆ แล้ว ชอบไปแกล้งเขาเรื่อยๆ ตามนิสัยของผมน่ะนะ หลายครั้งที่เราความคิดตรงกัน หลายครั้งเวอร์ๆ อ่ะ จู่ๆ ก็คิดเรื่องเดียวกัน แล้วก็พูดออกมาพร้อมกัน หรือไม่ก็จู่ๆ ก็คิดจะทำอย่างเดียวกันพร้อมกัน คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันนี่หายากนะ แต่ผมไม่ได้ชอบเหมือนเขาหมดหรอก เขาชอบลากผมไปชมรมถ่ายรูป ทั้งๆ ที่ผมไม่ชอบถ่ายรูปเลย แต่ก็ไปจนได้แหละ เขาเคยพูดเปิดใจกับผมว่า จริงๆ แล้วเขามองผมในแง่ลบมาตลอด จนถึงตอนนี้เขาก้มองผมในแง่ลบนะ ก็ผมทำตัวแบบนี้นี่นา แต่ก็นะ เขาก็ยอมรับว่าผมเป็นเพื่อนแท้ละ ตัวติดกันตลอดเลย อิอิ

คนที่สี่ คนนี้รู้จักกันตอนชมรมญี่ปุ่น ตอนแรกนึกว่าเป็นรุ่นพี่ปีสี่ หรือไม่ก็อาจารย์ เพราะเขาหน้าแก่มาก แถมพูดญี่ปุ่นเก่งมากด้วย เขาชอบอนิเมเหมือนกัน แต่เขาชอบไปทางการ์ตูนสาวน้อยมากกว่า ไม่รู้นะว่ามาสนิทกันได้ยังไง รู้จักกันคุยกันแต่ที่ชมรมญี่ปุ่น แล้วดันเพิ่งมารู้ว่าเรียนอยู่ภาควิชาเดียวกัน แถมเซคเดียวกันด้วย ก็ต่างคนต่างก็ไม่ค่อยเข้านี่นา เขาเป้นคนชอบเพ้ออ่ะ เพ้อได้ตลอดเวลา ทำหน้าโหดๆ มีคำพูดประจำตัว แถมเก๊กเสียงบ่อยด้วย เป็นที่โดนล้อของเพื่อนๆ ในกลุ่มบ่อยมาก ปกติผมกับเขาจะไปกินข้าวด้วยกันตลอด เวลาเขาจะกินข้าวทีไรก็จะโทรมาตามไปกิน บางทีกินข้าวตอนสี่โมงเย็น แล้วก้นั่งคุยกันเพลินๆ รู้สึกตัวอีกทีก็สี่ทุ่มแล้ว เป็นแบบนี้บ่อยมาก เขาเป็นที่อัลกอลิทึ่มดีมากๆ ได้ top ของภาควิชาด้วย วิชาปฏิบัติด้านโปรแกรมมิ่งจะได้คะแนนเยอะตลอด แต่วิชาอื่นๆ ก็ฉิวเฉียด

คนที่ห้า คนนี้รู้จักกันได้ยังไงไม่รู้ จำได้ว่าตอนนั้นจู่ๆ ก็มีโทรศัพท์ปริศนามา ขอให้สอนวิชาโปรแกรมมิ่ง ก็ไปสอน ก็ไม่ได้จดจำอะไรมากมาย จนกระทั่งไปเจอมันกลับมาจากบ้าน ก็เลยจะเดินไปส่งที่หอมัน จากนั้นก็เห็นมอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าตรอกๆ หนึ่ง ก็สงสัยพร้อมกันว่าในตอกนั้นมีอะไร ก็เลยลองเดินไปดู เดินไปหลายกิโลอยู่ ก็ยังไม่เจออะไร ก็เดินกลับ ระหว่างนั้นก็ได้คุยกันหลายเรื่อง เลยสินทกัน แถมมารู้ทีหลังอีกด้วยว่า มันสนิทกับเพื่อนผมคนที่เก่งอัลกอลิทึ่ม(คนที่สี่) ก็นะ ในกลุ่มผม มันเป้นคนที่โชคดีที่สุด ความรู้เรื่องเรียนมันต่ำมากๆ ความจำต่ำมากๆ แต่ความสามารถในการเดาของมันนี่ ขั้นเทพ ตอนสอบ Math 3 ผมอ่านแทบตายได้มาไม่เท่าไหร่เอง มันไม่ได้อ่าน ไม่ได้ตอน มัวแต่ไปเล่นเกม เข้ามากาๆๆ มันได้เท่าผมเลย ในกลุ่มผมพวกเราเปรียบมันเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นสัตว์ครึ่งเซลล์อ่านะ

คนที่หก คนนี้ก็ไม่ได้สนิทมากหรอกนะ เพิ่งจะเริ่มทำตัวสนิทกับเขาไม่นานมานี้เอง เขาเป็นคนที่ความรู้รอบตัวเยอะมากๆ ถ้าไม่ใช่ความรู้เรื่องเรียนอ่ะนะ เขาจะเก่งเอามากๆ เลย เป็นพวกเจ้าพ่อข่าวคราวต่างๆ มีข่าวอะไรน่าสนใจมา เขาจะรู้ก่อนทันทีเลย เขาไปกลับบ้าน ก็เลยไม่ค่อยจะสนิท แต่มีอยู่ครั้งนึง ตอนที่ผมป่วย เขาพยายามขอร้อง วิงวอน อ้อนวอนให้ผมไปโรงพยาบาลให้ได้ สุดท้าย ผมก็ต้องยอมไปโรงพยาบาล เขาพยายามคุมอาหารการกินให้ผม เพราะรู้ว่าผมเป็นคนชอบกินรสจัด เขาเป็นคนขยันแต่หัวไม่ให้ แต่ก็ยังรอดมาได้เรื่อยๆ น่ะนะ ยังไงก็ต้องคอยช่วยกันเรื่อยๆ แหละ

:masterball: เพื่อนสนิทๆ เมื่อก่อน (ตอนนี้ก็แยกย้ายกันไปแล้ว นานๆ เจอกันที จะยังเหมือนเดิมหรือเปล่านะ)

คนแรก เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉาพะตัวมาก คือนอกจากจะตัวใหญ่แล้ว เวลาเดิน หัวของเขาไม่ค่อยจะคงที่เลย ส่ายไปมาตลอด เขาเป็นคนเก่งด้านคำนวณมากๆ ชอบไปเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ แล้วเอามาสอนผมบ่อยๆ ผมเลยได้เรื่องคำนวณมาจากเขาเยอะมากๆ เขาเป็นคนทำตัวมีแบบแผนของตัวเอง แต่ก็เข้ากับคนที่ไม่มีแบบแผนแบบผมได้แฮะ เขาเป็นผู้ฟังที่ดี เป้นผู้ช่วยเหลือที่หลายๆ คนเรียกพระมาณว่า "พ่อพระ" เขาเป็นคนเปิดเผยนะ พูดเรื่องบางเรื่อง ที่เป็นเรื่องลับๆ ได้ด้วยอารมณ์ธรรมดาๆ เขามักจะชอบอะไรตามแบบที่ผมชอบ อ่านการ์ตูนตามแบบที่ผมอ่าน เหมือนผมเป็นเปิดโลกให้เขาเลยละ

คนที่สอง รู้จักกันตั้งแต่ประถมแล้ว เขาชอบโปเกมอนมากๆ แล้วก้คอยถามผมเรื่องเกมโปเกมอนตลอด ทั้งๆ ที่จริงตอนนั้น เขารู้เรื่องโปเกมอนมากกว่าผมอีก เขาเป็นคนเดียวที่ยังชอบโปเกมอนอยู่ถึงปัจจุบัน เขาทำให้ผมได้เปิดโลกอะไรหลายๆ อย่าง เพราะปกติเวลาเขาได้อะไรใหม่ๆ มาก็มักจะเอามาให้เพื่อนๆ ในกลุ่มดูอยู่เสมอๆ เป็นคนที่หลายๆ คนเรียกว่าเฮีย โดยจะเรียกกันว่า "เฮียตุง" เพราะเฮียแกอะไรๆ ก็ตุงไปหมด กระเป๋าเฮียแกใส่แต่แผ่นหนังกับหนังสือการ์ตูน แต่เฮียก็เรียนเก่งนะเออ ตอนนั้นได้ข่าวว่าอยู่อันดับต้นๆ เลยละ แต่ไหงหลังๆ ถึงแผ่วลงหว่า เป็นคนเดียวที่ยังติดต่อผมบ่อยที่สุดตอนนี้

คนที่สาม รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมเหมือนกัน โดนผมแกล้งประจำทุกวันเลยละ บางวันก็แกล้งแรงๆ ด้วยแหละเออ อาจารย์เคยมาว่าพวกผมกับเพื่อนที่คอยเอาแต่แกล้งมัน มันก็บอกว่า มันอยากให้แกล้งต่อไป เพราะมันชอบ มันเป็นคนชอบเก๊กหน้าเวลาขึ้นเวทีหรือออกมาหน้าชั้นเรียน มันบอกว่า มันอยากดูดีที่สุดเสมอๆ ปกติคุยกับมันไม่คุยเรื่องการ์ตูน ก็จะคุยกันแต่เรื่องเครียดๆ หรือเรื่องดราม่าในชีวิต แต่บางวันก็คุยกันเรื่องที่โคตรจะไร้สาระเหมือนกัน มันเองต้องปรับตัวอย่างหนักมากตอนที่เข้ามหาลัย ใครจะไปคิดว่าคนที่ไม่ค่อยจะวาดรูปอย่างมัน คิดจะไปเข้าสถาปัตล่ะ ทั้งๆ ที่มันหัวดีด้านคำนวณแท้ๆ

คนที่สี่ มันย้ายเข้ามาตอน ป.สาม มันเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักโปเกมอน เมื่อก่อน ก่อนที่โปเกมอนจะเข้ามาฉาย มันเอาบทสรุปโปเกมอนมาให้ผมดู และนั่น ผมก็ได้รู้จักเกมโปเกมอน มันท้าผมให้เล่นโปเกมอนแข่งกัน โดยภาคที่เล่นก็คือภาคโกลด์ แต่มันก็เล่นได้ไกลและเก่งกว่าผมตลอด มันชอบเล่นทายคำถามด้านการ์ตูนกับผม จนผมต้องหันไปศึกษาโปเกมอน คำพูดของมันกลับกลอกไปมาได้ตลอดเวลา เอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่าพยายามไปเถียงกับมันเข้าล่ะ มันแถไปได้เรื่อยๆ แหละ ตอนนี้มันไปเปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว มันบอกว่า ชื่อเดิมเพื่อนไม่คบ เพราะเพื่อนรับไม่ได้กับชื่อ ผมก็งงนะ ชื่อมันไม่ดีตรงไหน

คนที่ห้า คนนี้สนิทกับมันเพราะมันเข้ามาทักเอง มันรู้ว่าผมเป็นคนสุภาพ มันเลยอยากฟังผมพูดคำหยาบบ้าง สุดท้าย ผมก็ไม่ได้พูดให้มันฟังนะ ปกติมันมักจะชวนผมคุยแต่เรื่องแบบว่า ก็แบบว่าอ่ะนะ มันก็หื่นนี่แหละ ส่วนใหญ่เป้นคุยแลกเปลี่ยนความเห็นมากกว่า เพราะมันมีแฟนอยู่ห้องเดียวกันนี่นา มันก้จะมาถามอะไรๆ บ่อยๆ แหละ จนกระทั่งตอนนี้เลิกไปแล้ว มันไม่โกรธผมนะ ที่ไปจีบแฟนมันน่ะ มันก็แค่ถามว่า ชอบเหมือนกันเหรอ พอผมตอบใช่ มันก็แค่บอกว่า โทษนะ ให้ไม่ได้ว่ะ แค่นั้นเอง มันเคยต่อยผมด้วยแหละตอนเมา แถมอ้วกเรี่ยราดต้องเช็ดให้อีก มันเลยบอกผมว่า มันจะไม่กินเหล้าให้เมาแล้ว

คนที่หก คนนี้สนิทกันมากๆ เพราะเราเข้าเรียนสายพร้อมๆ กัน แล้วมันก็ไม่เหลือที่นั่ง ก็เลยจำเป็นต้องนั่งข้างๆ กัน มันเป็นคนที่วิ่งเร็วมาก แต่มันเตี้ยนะ มันเป็นคนที่ตำตัวแปลกๆ ตอนโมโห ตอนมันโมโหมันจะไม่คุยกับคนที่ทำให้มันโกรธเลย นอกจากจะถามเรื่องเกมเท่านั้นเอง เคยทำมันโกรธอยู่นะ มันยอมคุยกับผมแค่เรื่องเกมโปเกมอนน่ะ เรื่องอื่นๆ ไม่ยอมคุยเลย มันเอาเกมบอยโปเกมอนซิลเวอร์มาเล่นทุกวันเลย มันเอาชื่อเพื่อนไปตั้งเป็นชื่อโปเกมอน ผมได้เป็นจิโกริต้าด้วยแหละ เสียดายที่มันโดนจับย้ายไปห้องอื่น หลังๆ เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ แต่มันคิดถึงผมทุกครั้งนะ ที่ดูการ์ตูนหรือหนังนักสืบ

แล้วคนอื่นๆ ล่ะครับ เพื่อนสนิทของแต่ละคนเป็นยังไงกันบ้าง มาแชร์ๆ กันหน่อยได้ไหม?

Link to comment
Share on other sites

เพื่อนสนิทๆ ตอนนี้

คิดว่าไม่มีมั้งน่าจะเรียกว่า อา หลาน ป้า น้า กันเลยมากกว่าเพราะอายุคนมาเรียน ป.โท 30-60 ปี

เพื่อนสนิทเมื่อก่อนถ้าจะให้พูดก็มีเยอะ

3-4 คนได้เพราะทำงานกลุ่มเดียวกันตลอดเค้าช่วยเข็นผมจนจบ

:masterball:ที่สนิทตอนเรียนโรงเรียนก็มีเยอะส่วนใหญ่จะ เป็น ผู้หญิงข้ามเพศสะส่วนใหญ่ เพราะพวกผู้ชายมันชอบ

แกล้งผมจนผมไม่อยากคุยด้วยคบพวกนี่สบายใจกว่าเพราะเป็นคนเรียนเก่งทำงานเก่ง

:masterball:เพื่อนผู้ชายก็มีส่วนมากคุยกันเรื่องเกมเคยรู้จักคนนึงเรียนเก่งเล่นเกมเก่งด้วย

ประมาณว่าจบ rockman x 4 ตัวเปล่าใน 30 นาทีได้ ข่าวล่าสุดตอนนี่คงเป้นหมอที่ไหนซักแห่งล่ะมั้ง

:masterball:อีกคนก็เพื่อนสนิทเหมือนกันช่วยเอาการบ้านมาให้ผมลอก

ตอนนี่ทำงาน สายการบินที่ไหนซักแห่งเรื่องรายละเอียดจำได้ไม่หมดน่ะครับ

:masterball:มาอีกราย คนนี่ปัจจุบันทำงานเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา สมัยก่อนบ้าบอลมาก

ถึงขนาดภาคบอลในทีวีกับผมมาแล้ว

:masterball:อีกคนสำคัญของผมตอนนี่ก็ยังติดต่อกันอยู่เป็นตำรวจคนนี่เป็นคนแรกและคนเดียวเลย

ที่ซื้อของขวัญวันเกิดมาให้ผมทำให้ผมสนิทกับเค้ามาก

Link to comment
Share on other sites

เพื่อนสนิทมากเหรอ? เอ่ยชื่อได้เนอะ เพราะไม่เข้ามาอ่านหรอก

ก็คนแรกก็ ฟักแฟง ตั้งแต่อนุบาลยันปัจจุบัน คบกันมาได้ไงไม่รู้ อาจจะเพราะบ้าพอกัน พูดอะไรแล้วเข้าใจตรงกันในหลายๆเรื่อง เวลาลำบากอะไรก็ได้มันนี้แหละช่วยตลอด

คนที่สอง ก็ ชิเอะจัง><~ เพื่อนผู้หญิงที่อยากขอแต่งงานด้วย รักจริงๆจังๆเลยนะคนนี้นะ รักมากกกกกกกก><~

คนที่สามก็ เพื่อนเอ้ไอนี้แบบมหัศจรรย์มาก=_=ฝันเห็นแล้วก็ได้มาเจอตัวเป็นๆวันเปิดเรียนตอนม.1เลย55+แล้วก็อยุ่กันเรื่อยมา ตอนนั้นบ้าเพลงญี่ปุ่น ฟังวงW-inds. เลยพากันแหกปากร้อง

มันเป้นทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ในเวลาเดียวกัน ในกลุ่มเรียกว่า หนูเอ้

คนที่สี่ก็ ไอโม่ ติงต๊องไร้แก่นสาร=_=ขาดมวลของการเข้าใจถึงตัวมัน ตอนนี้ก็ยังไม่รุ่ระบุเพศได้หรือยัง

แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดี แม้บางที่จะมองออกว่ามันกำลังโกหกกะทำตัวเจ้าเล่ห์อยุ่ก็เหอะ

คนที่ห้าก็ ศร หรือ ตาแบด ><เจอกันครั้งแรกย้อนกลับไปนี้คงเป็นตราบาปมันมากเลยแหละ

เพราะจำได้ว่ามันไปมีเรื่องทะเลาะแล้วโดนคนต่อยตาแล้วเราเป็นคนเขาไปช่วยแถมพาไปห้องพยาบาลแล้วก็ไปหาเรื่องคนที่ต่อยมัน55+จากนั้นก็พากันมาเข้าสมาคมรักการ์ตูน เอิ้ก!

คนที่ห้า ชะเอม สาวน้อยน่ารักที่....ซ่อนความดุไว้!! เจ้าแม่ชะเอม อย่าทำให้ชะเอมได้บ่นเลย ร่ายยาวววววว

แต่รักชะเอมนะ ชะเอมช่วยเหลือเขาตลอด><~ร๊ากกกกกกมากๆเลย ไม่ได้ชะเอมละก็แย่แน่ๆ

คนที่หกก็ป้าวัน

เจอกันครั้งแรกตอนประถม จำได้เลยว่าร้องไห้อยู่แล้วจะเขาไปปลอบแต่เจ้าตัวเขาไม่ต้องการ จากนั้นก็มีได้คุยบ้างเพราะชอบวาดรุปเหมือนกัน ป้าวันชอบวาดโปเกมอน แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกตอนมัธยม...ที่คุณเธอได้ทำชื่อเสียงไว้เป็นที่จดจำไม่รู้ลืม=_=...

แถมหลังจากนั้น แม่คุณสร้างวีรกรรมมากมายที่ทำให้ทั้งโกรธ เสียใจและอื่นๆอีกหลากหลาย มีทั้งเลิกคบกันแล้วก็กลับมาคบใหม่ ยังไงดีอะ ประมาณว่าเห็นแบบนั้นแต่ก็ทิ้งไม่ค่อยได้ละมั้ง..แต่ตอนนี้จะจบปริญญาตรีกันแหละ คงต้องปล่อยๆแหละละ แถมอีกอย่างเจ้าตัวเขาก็มีทัศคติที่ไม่ดีกะเขาด้วยละเลยไม่อยากไปต่อแยมาก...

แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีนะ ถึงแม้บ้างที่อาจจะช่วยในด้านอื่นๆได้น้อยก็ตาม แต่ก็โอเคอะ

คนที่เจ็ด ก็ กะดิก><~

ร๊ากกกกะดิกโคตรๆผู้ชายที่สุดยอดมากๆๆ><~เป็นคนเดียวแหละ ที่ยอมให้เรียก ถังแก๊ส =A=

เวลาที่ลำบากกะดิกไม่เคยถามเหตุผลมากมายเลย เวลาที่เขาไม่สบายกะดิกก็ดูแล ดีวะ

มีกะดิกคนเดียวแหละที่ลูบหัวเขาได้^^~ ทั้งๆที่ลำบากแท้ๆฝนก็ตกหนักมากๆ กะดิกก็ยังมาช่วยเขาเลย><~

ขู่มันไว้แหละว่า ถ้าเกิดมีแฟนนะ พามาให้ดูด้วย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ดีนะ ไม่ให้คบ

กะดิกตอบมาอย่างซึ้งอะว่า..กูขอแค่คนนั้นอะ นิสัยได้ครึ่งหนึ่งของเมิงก็พอ...

โคตรกินใจอะ55+

คนที่แปดก็ กิ๊ก เจอกันตอนแรกๆเรียกมันพี่ๆไปๆมาๆอายุเท่ากันเพียงแต่มันเป้นเด็กพาสชั้นเรียนสูงกว่า อิจฉามันนะ เล่นตลอด แต่ได้3กว่าทุกครั้ง=A= ตอนแรกๆพี่กิ๊กๆหลังๆ ไอกิ๊ก=_=

ตลกแหะ อยุ่กะมันได้เพราะเป็นคนพูดตรงทั้งคู่

คือในกลุ่มมีกฏอยุ่อย่างว่าคิดอะไรก็พดุมาเลย รับได้รับไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเกิดไม่พอใจอะไรก็ขอให้บอกกัน

เพราะเพื่อนกันมันต้องรับฟังได้ทุกๆอย่าง

อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเขาที่เป็นคนตั้งกฏนี้คิดว่า เพื่อนกันไม่ว่าเพื่อนจะเป็นอะไรยังไง ก็ต้องรับได้ทุกอย่างและยอมรับซึ้งกันและกันได้

ก็เลยอยุ่กันยืดยาวดี 55+><~แต่ดีนะที่ทุกๆคนยอมรับในตัวกันและกันได้ ถึงแม้จะมีอีกคนที่...ยังมีปัญหาในตัวเองอยู่บ้างอะนะ=A=

ส่วนที่มาเจอที่นี้ก็มี กล้วย หญิง ชมพู เต้><~คุยกันแล้วถูกคอ><~รักมากเลยนะ55+

แล้วก็ไอเป้..แกหลงมาได้ไงก็ไม่รู้=A= ได้ข่าวว่าคุยกะวันอยุ่ดีๆโดนโยนให้มาคุยกะเขาแทน จะครบปีแล้วปะที่คุยเนี้ย กลายเป็นสนิทเฉยเลย

แล้วก็ได้ลุกชายกะน้องชาย><~ถึงช่วงนี้จะไม่ว่างแล้วก็ไม่ค่อยได้คุยก็เหอะ^^~

Link to comment
Share on other sites

เพื่อนสนิท.... เรามีแต่คนที่อายุไม่เท่าเราอ่ะนะ

คนแรก พี่สาวใกล้บ้านที่แก่กว่าหนึ่งปี ใจดี แต่ขี้แกล้ง ตอนนี้เรียนอยู่ที่เดียวกัน เป็นพี่สาวโอตาคุใส่แว่น คลั่งพลัีงยูริ จนเราได้รับอิทธิพลไปชอบผู้หญิงตาม เวลาตั้งใจจะทำอะไรแล้วมาพูดให้ฟัง เรื่องนั้นมักจะล่มไม่เป็นท่าเสมอ เป็นที่พักให้เวลาที่ท้อ เวลาร้องไห้ เป็นคนสอนเรื่องสำคัญหลายๆเรื่อง การวางตัว การเรียน ไม่ละเอียดอ่อนเอามากๆ จนบางทีเราแอบงอนเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ เกลียดอะไรยุ่งยาก แต่ถ้ารับปากแล้วไม่ว่าอะไรก็ทำให้หมด มีอะไรดีๆก็มักจะมาแบ่งปันเสมอ ส่วนมากจะไม่พ้นไลท์โนเวล บ้าญี่ปุ่นเข้าเส้นเลือด อยู่กันมาหลายปีแล้วจนตัวติดกัน ถ้าวันไหนพี่สาวเหนื่อยๆก็จะจับให้เรานั่งแล้วก็นอนตัก จากนั้นก็หลับไปเลย บางเรื่องถึงแม้ว่าพี่จะทำให้เดือดร้อน ซึ่งมันก็บ่อยมากเลย แต่ก็ทำให้เรารู้สึกสนุกดีนะ

คนที่สอง พี่สาวที่อายุมากกว่าสี่ปี ตอนนี้ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พี่สาวคนนี้แสนดีมากๆ ถึงแม้จะอยู่ร่วมกันเป็นเวลาไม่นาน แต่ก็ช่วยหนุนหลังเรากับพี่คนแรกอยู่เสมอ ให้คำปรึกษาในเวลาที่หาทางแก้ไม่ได้ เป็นโอเน่จังขี้บ่น จู้จี้มาก แต่ก็เพราะใส่ใจ  แต่บางทีก็มีขี้อ้อนเป็นเด็กๆเหมือนกัน ตัวเล็กจนถูกพี่สาวคนแรกแกล้งบ่อยกว่าเราอีก แต่ตอนนี้พี่ไม่อยู่แล้ว เราก็เลยต้องถูกแกล้งต่อไป เวลาที่พี่เห็นเราเหนื่อยๆก็มักจะจับไปให้พิง เวลาว่างก็จะชวนไปปั่นจักรยานเล่นไปทั่ว ไม่ได้คุยกันนานมาก ตอนนี้คิดถึงมากเลย

ก็มีแค่สองคนนี้แหละ พวกเราเป็นทั้งพี่น้องทั้งเพื่อนเลย ตอนที่อยู่ด้วยกันก็รักกันมากแบบคนในครอบครัวกันเลย ร้องไห้มาด้วยกันก็มาก บ้าอะไรก็บ้าด้วยกัน เลยคุยกันรู้เรื่อง โดยเฉพาะที่นั่งกอดกันดูตั้งแต่เด็ก คือเซ็นไตและไอ้มดแดง ตอนนี้ก็ยังติดอยู่ ถึงแม้ใครๆจะบอกว่าผู้หญิงไม่ควรจะมานั่งดูอะไรแบบนี้ก็เถอะ

Link to comment
Share on other sites

เพื่อนที่สนิทที่สุด?

คนแรกเลย รู้จักกับมันมาตั้งแต่เรียน ป.สี่ คุยกับมันแทบจะตลอดที่เกี่ยวกับเกม ย้ายมาเรียน ม.ต้นก็ยังอยู่ห้องเดียวกัน ไม่รู้จะคุยกับใครก็คุยกับมันนี่แหละ ตอนนี้อยู่คนละโรงเรียนแล้ว แต่กลับไปทุกที คนที่คุยกันได้มากที่สุดก็คือมันนั่นแหละ

คนที่สอง รู้จักกันไม่นานมานี้ ไม่รู้ว่าไปสนิทกันได้ยังไง จำได้ว่าแค่ไปนั่งเรียนข้างมันตอนมันขาหัก แล้วคนข้างๆมันไป AFS  ตั้งแต่นั้น แทบทุกเรื่องที่มีในหัวก็จะต้องมีมันมาผสมโรงด้วยตลอด ไม่ว่าจะเรื่องเหล่หญิง เรื่องบอล เรื่องบาส เรื่องเรียน นินทาคนอื่น กินข้าว เกม บลาๆ ทุกวันนี้เรียนคนละห้องกัน แต่ยังเจอกันทุกวัน

คนที่สาม ก็เจอพร้อมๆคนที่สอง แรกๆมันน่ารำคาญมากเลย นิสัยอ่ะ แต่ไม่รู้ไปสนิทกับมันได้ยังไงอีก เป็นคนที่นิสัยเสียนะ มั่นใจอะไรแปลกๆ แต่เพราะตรงนี้แหละเลยชอบที่จะคุยกับมันเหมือนกัน มันเป็นคนตรงดีนี่แหละ ขอโทษนะเว่ยที่เคยคิดว่าเป็นเกย์ ฮ่าๆ

คนที่สี่ ก็เจอพร้อมสองคนแรก เป็นคนแรกที่คุยด้วยตั้งแต่เข้า ม.สี่เลย! (ด้วยคำว่า "ขอนั่งด้วยได้มั้ย" ) แรกๆก็เงียบๆนะ แต่ไปบ้าตอนไหนไม่รู้ แต่เป็นคนที่ซื่อมากว่ะ ฮ่าๆ เวลาจะคุยเรื่องอะไรในห้อง ก็คุยกับมันนี่แหละ ก็ในห้องมันมีคนที่สนิทน้อยนี่..

คนที่ห้า แรกๆ เจอก็ไม่ค่อยชอบมันว่ะ ฮ่าๆ ตัวมันเหม็น แต่มันหล่อซะงั้น เดี๋ยวนี้ผอมลง หล่อขึ้น ไม่รู้รู้สึกไปเองรึเปล่าแต่รู้สึกว่าหยิ่งขึ้นว่ะ แล้วแอบรู้สึกห่างเหินกันนิดนึง เอาเถอะ คงคิดไปเอง ฮ่าๆ ปิดเทอมไม่ได้คุยเอ็มกับใคร ก็คุยกับมันเนี่ยแหละ แทบจะทุกวัน ฮ่าๆ ไม่รุ้จะคิดกับเราเป็นเพื่อนสนิทรึเปล่า แต่เราคิดว่ะ

คนที่หก ไม่รู้เรียกว่าสนิทยังนะ แต่เดี๋ยวนี้จะไปไหนมาไหนก็นึกถึงไอ้นี่ตลอด คงไม่ใช่แค่เหตุผลว่าอยู่หอเดียวกันหรอกนะ ฮ่าๆ เป็นคนที่บางทีก็จริงจัง บางทีก็ไม่ อ่านออกง่ายชะมัด คนอะไรก็ไม่รู้ แต่ขอบคุณที่ร่วมเดินทางด้วยมาตลอดนะเว่ย เป็นประธานตึกก็ทำหน้าที่ดีๆล่ะ

คนที่เจ็ด เจอกันใน AFS เป็นคนแรกเลยที่คุยใน AFS มันไปประเทศใกล้ๆผม เวลาจะระบายอะไร ก็คุยกับมัน มันจะระบายอะไร ก็คุยกับเรา มีเรื่องบ้าบอกคอแตกที่ไหนก็เฮโลไปกัน ฮ่าๆ จะไปต่างประทเศเหมือนกัน จะเข้าใจกันบ้างก็คงไม่แปลกสินะ ฮ่าๆ

คนที่แปด นี่ก็ AFS ไปประเทศเดียวกัน ไม่รู้นะ ผมคิดว่าผมยังสนิทกับมันไม่เท่าที่ควรอ่ะ แต่ก็นั่นแหละไปไหนไปกันเหมือนกันคนนี้ เคยแอบคิดว่ามันฉลาดน้อยกว่าผมนะ ฮ่าๆ ยกเว้นวิชาวิทย์กับเลขน่ะ..

และเพื่อนๆที่ผมหรือคุณคิดว่าสนิทกับผมทุกคน ที่ผมไม่ได้กล่าวถึง

ขอบคุณนะที่เป็นเพื่อนมาจนทุกวันนี้ ไม่รู้จะรำคาญกันบ้างรึเปล่า คิดว่าต้องมีบ้างแหละ

ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับทุกคน

ไม่รู้ว่าจะจำวันแรกที่เริ่มสนิทได้มั้ย

แต่มีวันนี้ก็เพียงพอแล้วแหละนะ

จะไม่เจอกันหนึ่งปี? จะลืมกันรึเปล่านะ?

ผมคงไม่ลืมทุกคนหรอ และถ้าทุกคนลืมผม ผมก็ไม่เสียใจด้วย

แต่ผมคงเสียดายเนื้อที่ในสมองที่ผมใช้จำทุกคนไปน่ะนะ ;P

:pika01:

Link to comment
Share on other sites

เพื่อนสนิทในตอนนี้ก็...

เกรซ  >>>> อยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ป1เลย ตอนนั้นไม่สนิทกันเลยนะ เหมือนเกรซก็ไม่ค่อยชอบเราด้วย 55 ตอนป4คละห้องใหม่ก็อยู่ห้องเดียวกันอีก จำได้ว่าถูกจับให้นั่งอยู่เยื้องๆกัน ต่อมารู้ทีหลังว่าเกรซติดโปเกม่อน แถมชอบวาดรูปเหมือนกัน= ="" [เราไม่ได้ติดโปเกมอนขนาดเกรซนี่นะ] หลังจากนั้นก็เหมือนบังเอินไปสมัครชมรมเดียวกันอีก OTZ ก็สนิดกันเรื่อยๆจนกลายเป็นแบบนี้ไปในที่สุด (หลายคนบอกว่าเรากับเกรซออกจะเพี้ยนๆ - -) แต่ก็นะเด็กชมรมการ์ตูนแถมยังเป็นเด็กคอมก็ต้องแบบนี้อยู่แล้ว วะ555

/โดนถีบ

มิ้น  >>>คนนี้อยู่ห้องเดียวกันตอนป4โดนคละมาจากห้องอื่น ถูกจับนั่งข้างกันเลยคนนี้=A= กลายเป็นว่าคนนี้รักสัตว์เข้าใส้เข้าพุง ซึ่งก็สนิทกับเกรซที่นั่งอยู่ข้างหลังเพราะตอนนั้นเกรซเริ่มอาการบ้าหมา(จนถึงณตอนนี้ม3แล้วก็ยังพล่ามไม่หยุด - -) เป็นเพราะว่านั่งอยู่ข้างๆ+สนิทกับเกรซ>>เกรซสนิทกับเรา จู่ๆก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ OTZ

ทั้ง2คนตอนนี้ก็ยังสนิทกันอยู่เลย> < คิดว่านี่ล่ะเพื่อนสนิทสุดๆแล้ว ตอนนี้เหลือเกรซคนเดียวที่ยังอยู่ที่โรงเรียน เนื่องจากมิ้นฉลาดเว่อเกินไปเลยไปอยู่สาธิตปทุมวัน OTZ แต่ก็แวะกันมาบางครั้งบางคราว

กลุ่มเพื่อนที่ดูยังไงก็ต๊องอ่านะ=w=

Link to comment
Share on other sites

Guest bulbabenz

อ่าน ๆ ดู มีเพื่อนสนิทสนมกันตั้งแต่สมัยประถมทั้งนั้นเลยแฮะ....

แต่เราไม่มี.....

หะ!

อนุบาล ยัน ป.6 เราไม่เคยมีใครที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว(จริง ๆ)

มีเพียง

*เพื่อนขอลอกการบ้าน(ทั้งชายหญิง - เพราะว่าเรียนอันดับต้น ๆ ของห้อง)

*เพื่อนเล่นเกม(วาดเกมลงสมุดแล้วเล่น ก็ขาจรไปวัน ๆ)

*เพื่อนที่แกล้งทุกวัน(ร้องไห้ทุกวัน ไม่ร้องก็ต้องมีเจ็บตัว)

แล้วก็แยกย้ายกันไป ไม่ติดต่ออะไรเลย

อาจจะเพราะ"เข้าเรียนเร็วไปปีนึง" "ขี้แย" หรืออะไรก็ไม่รู้และ

เอาเป็นว่าเกริ่นอย่างมืดมน สำหรับเรา...

จนกระทั่งขึ้นมัธยม เรื่องโดนแกล้งก็ไม่เคยซาลงเท่าใด จนกระทั่ง ม.2 ที่แยกย้ายห้องกัน และผมกับเพื่อนอีกสามคนหลุดไปอยู่ห้อง 4 (จากเดิมห้อง1)

เลยได้เป็นเพื่อนสนิทโดยปริยาย

~ตัวเอง เลขที่ 1

~อาทิตย์ เลขที่2 เป็นคนเกิด"หัวปี"กับผม ขี้แกล้งจริง แต่ก็ทำให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะเหมือนกัน ยังจำได้ถึงนิสัยเสียที่ตัวเองเผลอทำ

"ถ้าไม่ทำให้ เราก็ไม่ให้ลอกการบ้านแล้ว!"

"ช่างมันสิ! คิดแต่อย่างเงี้ยอะเหรอ"

แลละอะไรอีกเยอะแยะ ล้อเราว่าเป็นตุ๊ดมั่งก็จัดให้ บลา ๆ ๆ

แต่โดยรวม ถือว่าสนิทสนมที่สุด ถึงแม้ขึ้น ม.ปลายจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเลย

~มายเดียร์ เลขที่ 3 เงียบขรึมของแท้ มาดนินจามาก ไม่ได้แลดูเก๊กอะไรเลย ถ้าเป็นนินจาได้จริง ๆ สงสัยคงเป็นไปแล้วล่ะมั้ง- -

สนิทในด้านเกม ๆ มาก เป็นคนเดียวที่พาไปเล่นเกมถึงบ้าน รวมถึงมาเล่นNB ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้(แม้ว่าจะไม่ได้ตามมาPO เพราะไปติดdota)

เป็นเพื่อนที่เรียกว่า ไม่เคยผิดใจกันเลยก็ว่าได้ เหะ.

~เลขที่4 เอสซ้อลท์ ที่เรียกซ้อลท์เพราะหมอนี่กลิ่นตัวกลิ่นเป็นเกลือตลอดทุกวัน ไม่รู้เป็นอะไร

จะว่าสนิทไหมก็ไม่เชิง แต่็เป็นคนที่แซวเล่น ๆ ด้วยกันมากที่สุด

จนพอ ม.3 หลุดพ้นวงจรการโดนแกล้งแหลกลาญ และเปลี่ยนตัวเองได้ ม.ปลาย เลยพอจะมีเพื่อนเยอะหน่อย(มั้ง)

ช่วง ม.ปลายก็มีอีกสี่คนหลัก ๆ ยังติดต่อกันอยู่ เรียนสถาบันเดียวกัน สนิทหรือเปล่า ก็ไม่ถือว่าอย่างนั้นเสียทีเดียว

ส่วนปัจจุบันก็ไม่พ้น"กลุ่มสี่คน"

คนนึง เจ้าพ่อจอมซีเรียส

คนนึง เงียบขรึม ๆ

อีกคน เงียบ แต่คุยเก่งทางเอ็ม ถือว่าสนิทที่สุด ณ ปัจจุบัน ช่วยเยียวยาปัญหาจิตใจโดยเฉพาะเวลาโดนอะไรหลอน ๆ บอกได้หมด ถือว่าเชื่อใจได้

ส่วนในบอร์ด.....ไม่เรียกว่าสนิท เพราะไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ เพราะทตัวแบบพืช ๆ เกาะเข่าคุยรายคนไป (เปลี่ยนคนเกาะมาหลายรอบแล้วเพราะคุยจนไม่มีอะไรจะคุย + เกรงใจอย่างแรงซะงั้น ๆ)

ท่านี้ แล.

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.