Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Fiction อาวุธขุมพลัง


ป.โหล่

Recommended Posts

อาวุธขุมพลัง(The Powerful Weapon)

จากผู้แต่ง

~Rotom

สวัสดีครับทุกท่าน อาวุธขุมพลังเป็นฟิครับสมัครฟิคแรกที่ผมแต่ง เนื้อเรื่องในครั้งแรกที่ผมคิดไว้แตกต่างจากครั้งนี้มาก แต่เกิดความผิดพลาดในการแต่งทําให้ภาคปรับปรุงได้กำเนิดขึ้นแทนภาคเก่า

หลังจากนั้นผมก็ได้แต่งที่บอร์ดพีเคเบสิกเก่า(pkbasic.invisionplus.net) แบบรวนๆ(ที่ดีกว่าเดิม)ซึ่งเมื่อผมลงไปได้สักตอนที่3 พี่เบนซ์หรือ Annocesaur ก็ได้เข้ามาพูดคุยและเป็นผู้ร่วมแต่งด้วยอีกคน

แต่ด้วยเหตุว่าบอร์ดเก่านั้นถูกแสปมบุกทําให้พัง จึงมีการอพยพย้ายบอร์ดมายังบอร์ดใหม่หรือบอร์ดปัจจุบัน(www.pkbasic.com)ผมและพี่เบนซ์จึงปรึกษากันและได้ข้อสรุปว่า "จะแต่งเนื้อเรื่องเหมือนฉบับปรับปรุง คือพล็อตเดียวกัน แต่จะปรับแต่งการใช้ภาษาให้ดีขึ้น"ซึ่งฉบับโมก็คือภาคนี้ครับ

ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

~Annocesaur

ฟิคชั่นเรื่องนี้ที่เริ่มต้นแต่งโดย Rotom ต่อมาข้ากระผมเห็นว่าเนื้อพล๊อตเรื่องน่าสนใจจึงติดต่อโรตอม และมาช่วยแต่งด้วย

ต่อมาเนื้อเรื่องเริ่มจะรวน กระผมจึงอาสามาเป็นEditor โมเนื้อเรื่องให้

ดังนั้นเนื้อเรื่องนี้ก็เหมือนว่าจะผ่านตาทุกท่านมาบ้างแล้ว

แต่อีดิทใหม่รอบนี้ก็ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะครับ

จะพยายามให้ดีที่สุด ขอรับ//

_____________________________

บทนำ

ห้วงเวลาอันมืดมิด

ไม่มีซึ่งสายลมพัด ไม่มีซึ่งแสงแดดสาดส่อง

มีเพียงความมืดและกาลเวลาที่หยุดนิ่ง และผืนดินอันไร้ซึ่งชีวิต

สถานที่ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

และไม่อนุญาตให้ใครสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ได้

นอกจากสิ่งมีชีวิตอันมีพลังอันน่าเกรงขาม และอำนาจดั่งมารร้าย

ซึ่งถูกกักขังเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้

แต่แล้วเมื่อเวลาล่วงเลยไป

ช่องว่าง จึงได้ถูกเปิดขึ้น

ด้วยพลังจากผู้ที่อยู่ในโลกภายนอก

ผู้ซึ่งหวังที่จะใช้พลังของสิ่งที่หลับใหลอยู่ในห้วงเวลานี้

โดยไม่รู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของมัน...

.....

สายลมแห่งกาลเวลาเริ่มพัดผ่านเข้ามาจากช่องว่างที่ถูกเปิดขึ้น

เป็นสิ่งกระตุ้นให้มันตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน

หมอนั่น....

สิ่งมีชีวิตปริศนาตื่นขึ้นพร้อมเสียงทุ้มต่ำและเริ่มสัมผัสถึงการมีตัวตนอยู่ ณ ห้วงเวลาแห่งนี้

หมอนั่น กล้ากักขังข้าเชียวรึ

ปีกของมันที่เริ่มสยายออกจากแผ่นหลัง พร้อมพัดพาสายลมจากโลกภายนอก เข้ามาสู่ห้วงเวลา

อา.... ปีกสีดำขลับของมันเริ่มกระพือรุนแรงขึ้น พัดพาเอาสายลมจากช่องว่างเข้ามา

ข้าถูกกักขังไว้ที่นี่มานานเท่าใดแล้ว....

............

ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา นอกจากลำแสงที่สาดส่องลงมาจากช่องว่างที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ราวกับจะต้อนรับให้พุ่งทะยานออกไป

หึหึหึ.....

แสงที่สาดส่องลงมา ทำให้เห็นเป็นร่างของอมนุษย์ผมยาวสีดำขลับที่ปกปิดใบหน้า

ปรากฏเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยอง

มันเงยหน้าขึ้นมองช่องว่างที่ค่อย ๆ ขยายออก

ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถกักขังข้าได้!

ร่างของมันเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นกลุ่มก้อนความมืด พุ่งทะลวงช่องว่างที่เปิดออกสู่โลกภายนอกที่มันโหยหา

วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

มันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงดังสะท้อนไปทั่วราวจะสั่นสะเทือนมิติ ส่งท้ายการมีตัวตนอยู่ในห้วงมิตินี้

ช่องว่างสู่โลกภายนอกถูกปิดตัวลง

พร้อม ๆ กับปีศาจร้าย...ที่ได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้ว

_______________________________________________

ในโลกแห่งนี้มีสิ่งของอย่างหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวขานว่า เป็นสิ่งที่ทรงอานุภาพ และสามารถก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่มวลมนุษย์ได้อย่างใหญ่หลวงได้ ขึ้นอยู่กับพลังของผู้ที่ได้ถูกรับเลือกให้ได้ใช้พลังของมัน

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำไปใช้อย่างผิด ๆ

โรงเรียนแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่สำหรับฝึกฝนเหล่าผู้ที่มีพลังในการควบคุมสิ่งนั้นมาแต่กำเนิดให้ใช้พลังของมันอย่างถูกต้อง เป็นไปในทางที่ควร

โรงเรียนขุมพลัง ก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนไม่กี่แห่งในโลกนี้ ที่ยังคงทำการเปิดสอนศาสตร์ในการใช้สิ่งนั้น ให้แก่ผู้ที่ได้รับเลือกทั้งหลาย

ที่กำลังเคร่งเครียด กับการสอบที่กำลังจะมาถึง!!!!

เหล่าเด็กนักเรียนในเครื่องแบบสีขาวกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มทั้งหลายในโรงเรียนนี้

กำลังคร่ำเคร่งในการทบทวนสิ่งที่ตนเรียนรู้มา เพื่อที่จะผ่านพ้นการสอบนี้ไปให้ได้

*******

-Intro End-

โปรดติดตามตอนต่อไป

*******

Link to comment
Share on other sites

การบรรยายพัฒนาขึ้นมามากเลยครับ จนเอาไปเทียบกับในช่วงแรก คงจะนึกว่าคนแต่งคนละคนแน่นอนอ จะติดตามนะครับ

Link to comment
Share on other sites

นายเปลี่ยนคนแต่งเหรอ!

ต่างจากตอนแรกที่ลงอย่างเห็นได้ชัด 55+

Link to comment
Share on other sites

กระผมจึงอาสามาเป็นEditor โมเนื้อเรื่องให้

กล่าวโดยสรุป ข้าน้อยลองหัดแต่งขอรับ เนื้อเรื่องไอเดียโรตอมคุง ถ่ายทอดฝีมือแชร์ ๆ กัน

แต่อ๊ะ! อย่าเข้าใจผิดว่าผมแต่งและบรรยายเองหมดนะขอรับ~!

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว เบ้นซ์ มาช่วยโรตอมแต่งฟิคเหรอนี้ จะคอยติดตามนะครับ

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่1 - การทดสอบที่เพิ่งจะเริ่มต้น

ห้องเรียน 8

ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสนามสอบเช่นกัน โต๊ะถูกจักเรียงเป็นแถวพร้อมสำหรับสอบ บรรยากาศในห้องเรียนยังจ้อกแจ้กด้วยเสียงของการปรึกษาเรื่องเนื้อหาบทเรียน

เด็กหนุ่มผมเหลืองนามโรตอมผู้สวมชุดไหมพรมสีฟ้า กำลังนั่งอย่างสบายใจเฉิบบนที่นั่งของตนเอง ควงไม้บรรทัดพลาสติกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว มองกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่จับกลุ่มไม่ห่างที่กำลังเพ่งพลังออร่าหลากสีกันไปแล้วแต่คน ให้ออกมาจากมือของตนอยู่ เพ่งได้สักพักก็จางไป พลางหยุดคุยปรึกษากัน แล้วก็เพ่งอีก มาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

โรตอมมองดูด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายพลางมองไปที่ประตูห้อง เพื่อนเขามาแล้ว

โรตอมรอเพื่อนที่เดินเข้ามานั่งเข้าที่ แล้วก็

เพี้ยะ~!

ไม้บรรทัดพลาสติกถูกฟาดลงกลางหลังของนักเรียนหัวเกรียนผู้มาใหม่แทนการทักทายทันที

“โอ๊ย เจ็บนะ” เขาร้องนิดหน่อยแล้วหันหลังไปหาโรตอม โรตอมทำหน้ายิ้ม ๆ ลุกขึ้นไปหาข้าง ๆพร้อมขอความช่วยเหลือ

“รอตั้งนาน ช่วยฉันหน่อยสิ คาเดียส”

“ขอคนอื่นช่วย ทำกันอย่างนี้เหรอ”

“น่า...ช่วยหน่อย นายเป็นคนที่สอบได้คะแนนดีสุดที่ฉันรู้จักแล้วนะ ช่วยติวที”

“ดีสุด? ทำไมไม่ไปขอความช่วยเหลือกับเลออน่าล่ะ? นั่นไง มาแล้ว” คาเดียสชี้มือที่ประตูที่กำลังเปิด

โรตอมมองตาม ก็เจอกับเด็กที่ตัวเล็กใส่ผ้าคลุมดูโทรม ๆ เดินเข้ามา พลางมองมือที่มีคลื่นพลังสีดำเคลื่อนวนราวเล่นกล เลออน่าเดินตรงไปยังที่นั่งของตน

โรตอมได้แต่มองตามอย่างตกตะลึงจนเขานั่งที่ พร้อม ๆ กับพลังสีดำจางหายไปจากมือของเลออน่า จึงเริ่มคุยกันต่อ

“โห...สุดยอดเลยวุ้ย....”

“ฉันยังทำไม่ได้ขนาดนั้นเลย วิชานี้ยากจะตาย ฉันช่วยนายไม่ได้หรอก เนี่ย ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำไป” คาเดียสบรรยายเสริม

“อย่างน้อยก็ยังดีกว่าฉันแหละน่า----” โรตอมตื้อต่อ สักพักประตูห้องก็เปิดอย่างแรง

ครืด!!

นักเรียนในห้องที่กระจายอยู่ทั่วห้องรีบวิ่งเข้าที่ทันที อาจารย์มาถึงแล้ว โรตอมก็วิ่งแจ้นเข้าที่ทันทีเช่นกัน

อาจารย์ชายวัยกลางคนหน้าตาดุดัน เดินเข้ามาประจำโต๊ะคุมสอบที่มุมหน้าห้อง พอเห็นสภาพความวุ่นวายกลางห้องก็ตะโกนดุทันใดพร้อม ๆ กับนั่งลง

“เฮ้ย! ไปเด็กบ้าพวกนี้ วันนี้วันสอบนะโว้ยยย!”

เด็กนักเรียนที่เพิ่งนั่งเข้าที่สะดุ้งจนนั่งหลังตรงกันทันทีทันใด

“บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่า ให้นั่งเข้าที่เตรียมพร้อมสอบอย่างน้อยสามนาที จะได้ทำสมาธิ—ดูซิเดี๋ยวฉันจะกดคะแนนเลยคอยดู ถ้าทำออกมาไม่ดีนะ! ”

อาจารย์คุมสอบเงียบเสียงลง พลางกวาดสายตามองไปทั่วห้อง จัดชายเสื้อแขนยาวสีฟ้าของเขาแล้วหลับตาสงบอารมณ์สักครู่ ไม่มีใครกล้าซุบซิบ เพราะทุกคนต่างรู้กิตติศักดิ์ความดุของอาจารย์คนนี้ดี

“เอ้อ...นั่งกันเงียบ ๆ แบบนี้แต่แรกก็ไม่ต้องมาตะโกนโหวกเหวกแล้ว เอาล่ะ ทุกคนพร้อมที่จะสอบหรือยัง”

“พร้อมครับ”

“พร้อมค่ะ

“ดีมาก” อาจารย์มองนาฬิกาข้อมือของตนเพื่อเช็คเวลา แล้วจึงเริ่มอธิบายทบทวนเรื่องการสอบวันนี้

“อีกสักพักก็เริ่มสอบพอดี สักพักอาจารย์รับเชิญคงจะมา แต่ฉันจะอธิบายเรื่องการสอบวิชานี้ให้ซะก่อน รับทราบ?”

“ทราบครับ

“ทราบค่ะ”

“ดีมาก...การสอบวันนี้จะเป็นการสอบรายคน ให้ออกมาเพ่งพลังให้ดู สุ่มเลขที่เป็นรายคนไป พออาจารย์เขาขานเลขที่ ก็ให้ออกมาหน้าห้อง แล้วก็ขานชื่อตัวเองให้กับอาจารย์เค้า พออาจารย์เขาให้สัญญาณก็ให้เริ่มเพ่งพลังทันทีเสร็จแล้วเข้าที่....ส่วนการให้คะแนน อาจารย์เขาจะบอกอีกที เข้าใจไหม?”

“เข้าใจครับ”

“เข้าใจค่ะ”

“ดีมาก! เอาล่ะ ดูเหมือนว่าอาจารย์เขาจะมาแล้ว โชคดีในการสอบทุกคน หลังสอบวิชานี้เจอกัน ถ้าหากผลการสอบผ่าน เราก็จะมาเริ่มการสอบรอบบ่ายกัน คนที่ไม่ผ่านก็ซ้ำชั้นไป”

นักเรียนหน้าเหวอไปตาม ๆ กันที่รู้ว่าถ้าไม่ผ่านแล้วจะต้องซ้ำชั้น

อาจารย์เสื้อฟ้าไม่พูดอะไรเดินออกจากห้องไปหลังอธิบายเสร็จ เปิดประตูจะออกจากห้อง ก็สวนทางกับอาจารย์รับเชิญที่เดินเข้ามาพอดี

อาจารย์รับเชิญเดินเข้ามาพร้อมผมสีเงินเป็นประกาย หน้าตาหล่อเหลาในชุดเครื่องแบบสีดำสง่า ทำเอาเด็กนักเรียนหญิงในห้องเกือบจะอดใจร้องกรี้ดไม่ได้กับความหล่อ ลืมความกังวลไปซะทันที แต่ก็อดใจเงียบไว้จนอาจารย์หยุดอยู่กลางหน้าห้อง

“สวัสดีนักเรียนทุกคน อาจารย์ชื่อดาร์คไนต์...ไม่ใช่ชื่อจริงหรอกนะ แต่ก็ให้เรียกอาจารย์อย่างนี้ก็แล้วกัน—ส่วนเกณฑ์การให้คะแนน จะขึ้นอยู่กับความเร็วในการเพ่งพลังออกมาได้ และการควบคุมพลัง ขอให้ทุกคนทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน...เอาล่ะ--” พลางหยิบเอกสารขึ้นมาดู

“เลขที่ 13...”

“ครับ คาเดียสครับผม” เขาสะดุ้งเล็กน้อยและลุกไปหาอาจารย์

“อื่ม....เริ่มได้”

การสอบเริ่มต้นขึ้น คาเดียสเป็นคนแรก ท่าทางจะตกใจเล็กน้อย เขาใช้เวลาสักประมาณหนึ่งนาที ก็เพ่งพลังสีเทา ๆ ออกมาจากมือได้ แต่สักพักก็หายไป อาจารย์พยักหน้าแล้วจดคะแนน แล้วบอกให้กลับเข้าที่ เรียกคนต่อไป ...เลออน่า พอเขาออกไปปุ๊บก็เพ่งพลังออกมาได้แทบจะทันที ดาร์คไนต์ถึงกับตะลึง แล้วจึงจดคะแนน

การสอบผ่านพ้นไปเรื่อย ๆ นักเรียนชายส่วนใหญ่ทำได้ในระยะเวลาไม่เกิน 2 นาที ส่วนนักเรียนหญิงบางคนเห็นอาจารย์แล้วใจเต้น เลยทำให้เพ่งพลังออกมาได้ช้าหน่อย เฉลี่ยที่ไม่เกิน 3นาที ออร่าที่ออกมาก็มีแตกต่างสีกันไป ทั้งสีแดง สีส้ม น้ำตาล ม่วง ฟ้า และอื่น ๆ รวม ๆ แล้วก็ได้ประมาณ 17 เฉดสีทีเดียว

และสุดท้าย ก็เป็นคิวของโรตอม

“เลขที่50”

“โรตอมครับ” เขาขานชื่ออย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ คงเพราะรอลุ้นนานไปหน่อย

“เอาล่ะ เริ่มได้”

โรตอมยกมือขึ้น และเริ่มเพ่งพลัง....

ผ่านไปหนึ่งนาที สีหน้าโรตอมเริ่มบูดเบี้ยว ดูเหมือนเขาจะเริ่มไม่มั่นใจ มือของเขาไม่มีอะไรเปล่งออกมาเลย แต่ก็ยังฝืนลองต่อไป ก็ยังไม่สำเร็จ เขาเอามือลงสักครู่ นักเรียนคนอื่นก็มอง ให้กำลังใจบ้าง ยิ้มเยาะบ้าง เขายกมือขึ้นมาใหม่ หนึ่งนาทีผ่านไป ดูเหมือนว่าจะยังไม่เกิดอะไรขึ้น ดาร์คไนท์เห็นเช่นนั้นจึงกระแอมพูดเบา ๆ

“เป็นอะไรไปหรือ โรตอมคุง?”

“ม....ไม่มีอะไรครับ”

คาเดียสมองดูก็ทำท่าให้กำลังใจบ้าง ส่วนคนอื่นดูไปหัวเราะคิกคักไป ดูเหมือนว่าโรตอมจะไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นสักเท่าไหร่

อีกหนึ่งนาทีผ่านไป ดูเหมือนว่าโรตอมจะทำไม่สำเร็จ

“เอาล่ะ พอได้ โรตอม....กลับเข้าที่” ดาร์คไนท์พูดด้วยเสียงเรียบ ๆ ให้โรตอมกลับเข้าที่

โรตอมคอตก เดินกลับที่นั่งไป

“เอาล่ะ สอบเสร็จแล้ว เดี๋ยวอาจารย์จะนั่งดูคะแนนให้สักครู่ นั่งคุยกันตามสบายไปก่อนนะ เดี๋ยวอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอจะเข้ามาบอกผลสอบให้เลย”

“ครับ”

“ค่ะ”

อาจารย์ออกจากห้องแล้ว แต่นักเรียนยังนั่งเงียบอยู่ ท่าทางไม่สบายใจเท่าไหร่ สักพักคาเดียสหันไปหาโรตอมที่กำลังเพ่งมองมือตัวเอง

“แย่หน่อยแฮะ...” คาเดียสเอ่ยปากพูด

“เชอะ...ช่างเถอะน่า” โรตอมตอบเสียงหงุดหงิด

“เอาเถอะ ฉันก็หวั่น ๆ เหมือนกัน ตั้งเกือบสองนาทีแนะกว่าจะทำได้”

“ก็ยังดีกว่าฉันแหละน่า โธ่ว้อย! ไม่ผ่านอีกแหง ๆ เลย” โรตอมเริ่มขึ้นเสียง

“ช่างเถอะ...แต่จะว่าไป ฉันก็อยากเห็นออร่าของนายเหมือนกันนะ ไม่ยักเคยเห็น ฮุฮุ”

เพี้ยะ~!

“โอ้ย ตีฉันอีกและ”

โรตอมไม่พูด หันหน้าออกหน้าต่างไป คาเดียสยักไหล่ และหันกลับเข้าที่ไป

เสียงในห้องจ้อกแจ้กอยู่สักพักใหญ่ ครู่หนึ่งอาจารย์คุมสอบหน้าดุเจ้าเก่าก็กลับเข้ามาพร้อมสมุดจดคะแนน เสียงจ้อกแจ้กเงียบลงทันที เห็นเช่นนั้น อาจารย์ก็เปิดสมุด มองดู และเอ่ยปากขึ้นมา

“ผลการสอบ..............ยินดีด้วย ผ่านหมดทุกคน!”

ทั้งห้องตะลึงไปสักห้าวินาที

“อ้าว ฟังไม่รู้เรื่องรึ? ผ่านหมดทุกคน”

นักเรียนในห้องหันหน้าให้กัน แล้วก็ร้องเฮตามประสาด้วยความโล่งใจ โรตอมก็เช่นกัน

เสียงโห่ร้องดังขึ้นทั่วห้องประมาณหนึ่งนาที อาจารย์ตบมือสองทีเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ

“อะแฮ่ม...อาจารย์ดีใจมากที่นักเรียนทุกคนผ่านวิชานี้ไปได้ แต่มันยังไม่จบ ยังเหลืออีกวิชาหลักช่วงบ่ายนี้! เอาล่ะ ทุกคน ออกจากห้องตามอาจารย์มา”

นักเรียนทุกคนเงียบลง และลุกขึ้นตามอาจารย์ไป

/-/-/-/-/-/-/-/--/-/-/-/-/-/-/

สวนหย่อมหลังอาคารเรียน

ที่นี่แลดูไม่เหมือนสวนหย่อมเสียเท่าไหร่ เพราะมันกว้างพอ ๆ กับสนามเทนนิสสองสนามต่อกันเลยทีเดียว ต้นไม้เขียวชอุ่มขึ้นโดยรอบ บรรยากาศสดชื่น มีม้านั่งวางเรียงเป็นระเบียบทอดยาว และที่สำคัญคือมีทางออกที่ถูกปิดไว้อยู่ แต่วันนี้ประตูนั้นเปิดออก....

ม้านั่งสวนหย่อมวันนี้มีคนนั่งประจำอยู่โต๊ะละคนบ้าง สามคนบ้าง ดูเหมือนว่าจะมาเพื่อเตรียมรับการสำหรับการสอบในวันนี้กัน

ทุกคนในห้อง 8 ก็มาถึงแล้ว พร้อมกับอาจารย์ของเขา ยืนเป็นแถวอยู่ด้านหน้าทางเข้าซุ้มสวนหย่อม

“หลังจากนี้จะเป็นการสอบวิชาสุดท้าย และเป็นวิชาจบหลักสูตรเสียด้วย...ยินดีกับนักเรียนทุกคนที่ผ่านการเรียนมาได้จนถึงวันนี้นะ” อาจารย์เสื้อฟ้าเกริ่นนำ

“การสอบต่อไปนี้ จะเริ่มขึ้นในตอนเย็น ในตอนนี้จะแบ่งเป็นกลุ่มละสามคนก่อนเพื่อทำความรู้จักกับรุ่นพี่ของพวกเธอที่จะคอยอธิบายรายละเอียดการสอบให้ก่อน ซึ่งกลุ่มนั้นอาจารย์แบ่งไว้ให้แล้ว แต่ละกลุ่มมีรายชื่ออยู่ในนี้—“ แล้วหยิบสมุดยกขึ้นมาเปิด “พออาจารย์ขานชื่อ ก็เดินเข้าไปในสวนหย่อมตามลำดับ แล้วไปนั่งที่โต๊ะตามกลุ่มที่กำหนด เข้าใจ?”

“เข้าใจครับ”

“เข้าใจค่ะ”

“ดีมาก กลุ่มแรก คาเดียส ลีฟ ราสึ! ออกมา แล้วเข้าไปที่โต๊ะเบอร์หนึ่ง”

คาเดียสออกมาเป็นคนแรก ถัดมาด้วยลีฟ หญิงห้าวประจำห้อง ตัวเธอสูงที่สุดในชั้นเรียน และราสึจอมเฮ้วนิสัยเฮฮา ทั้งสามเดินเข้าส่วนหย่อมไปก่อน ตามด้วยกลุ่มต่อมาเรื่อย ๆ แถวหดหายไปเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าโรตอมจะเป็นกลุ่มสุดท้าย

“กลุ่มสุดท้าย เหลือสามคนนี้....เอ้า โรตอม บัลบา ฮิตาชิ โชคดีในการสอบ”

โรตอมอยู่ข้างกับฮิตาชิพอดี ส่วนบัลบาอยู่อีกมุมแถว โรตอมรู้จักทั้งสองบ้าง บัลบาเป็นเด็กเรียนที่โรตอมเคยขอความช่วยเหลืออยู่บางครั้ง ส่วนฮิตาชิเป็นคนเงียบ ๆ ออกจะขี้แยด้วยซ้ำไป ถึงแม้ว่าเขาจะตัวโตกว่าทั้งสองก็ตาม

“สวัสดี โรตอม ฮิตาชิ” บัลบาเดินเข้าไปหาโรตอมกับฮิตาชิ พร้อมยิ้มให้

“สวัสดี” โรตอมทักทายบ้าง

“สวัสดี” ฮิตาชิทักทายแบบเกรง ๆ

หลังจากทักทายกันแล้วทั้งสามจึงเดินเข้าสวนหย่อมไป อาจารย์จึงค่อยปิดขบวนนักเรียนห้องของตน

กลุ่มอื่น ๆ ที่เข้ามาก่อนก็ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ประจำกลุ่มและรับโจทย์เรียบร้อยแล้ว ตอนที่กลุ่มโรตอมเข้ามาถึง สวนหย่อมจึงแลดูว่าง ๆ ไปแล้ว บ้างก็มีบางกลุ่มที่เริ่มแยกย้ายออกไปจากสวนหย่อมทางประตูหลังไปเพื่อเริ่มการสอบรอบสุดท้ายนี้

โรตอม บัลบา ฮิตาชินั่งลงที่โต๊ะกลุ่มของตน ซึ่งมีรุ่นพี่ผมน้ำตาลอ่อนในชุดทีเชิร์ตสีขาวรออยู่ ทันทีที่ทั้งสามนั่งลง รุ่นพี่ก็ไม่รอช้าทักทายทันที

“สวัสดี พี่ชื่อคือคิมูระ โทมิยะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ทั้งสามโค้งให้พร้อมกัน “พี่เป็นผู้คุมประจำกลุ่มของพวกเธอ ต่อไปคือโจทย์...พร้อมนะ?”

“ครับ” ทั้งสามตอบพร้อมกัน

“การสอบไล่นี้ ถือเป็นการสอบสำคัญที่จะชี้อนาคตของพวกเธอเอง ทำให้เต็มที่ พี่จะคอยตามดูอยู่ห่าง ๆ – ต่อไปคือโจทย์”

คิมูระหยิบผ้าสีแดง มีลายอักษรแปลก ๆ ออกมาจกกระเป๋าสามผืน และส่งให้ทั้งสามรับไป

“นี่คือไอเท็มชนิดหนึ่ง วิธีใช้เป็นความลับ นี่เป็นหนึ่งในโจทย์ที่พวกเธอต้องลองศึกษาวิธีใช้เอง จากนั้นคือการเรียกคู่หูของเธอออกมาให้ได้ การสอบนี้สอบเป็นกลุ่มจริง แต่โจทย์นั้น ต่างคนต่างหากคำตอบ เข้าใจนะ? ” คิมูระอธิบายเรียบ ๆ

ทั้งสามพยักหน้าแทนการตอบ

“การสอบจะเริ่มต้นบันทึกผลเย็นนี้ ออกไปทางหลังส่วนหย่อม จะมีแผ่นป้ายบอกทางไปยังสถานที่สอบ หลังจากนั้น พวกเธอมีเวลา 1 อาทิตย์ โดยใน 1 อาทิตย์นี้ หากผมพบการทุจริต จะถูกส่งกลับโรงเรียนทันที แต่หากหนึ่งอาทิตย์ยังทำโจทย์ไม่ได้ก็เตรียมซ้ำชั้นได้เลย!” คิมูระลงเสียงเหี้ยมเล็กน้อย ทำเอาทั้งสามเหวอไปตาม ๆ กัน

“เอาล่ะ เริ่มการสอบได้ ทุกคนแยกย้าย! ”

********

Ep.1 End

โปรดติดตามตอนต่อไป

********

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 2 กระจัดกระจาย?

หลังจากทั้งสามได้รับคำสั่งแยกย้าย ก็เดินออกไปทางหลังสวนหย่อมที่พวกเขาไม่เคยได้ไปเหยียบย่างสัมผัสมาก่อน เมื่อผ่านประตูนั้นไปก็ยังเป็นซุ้มพุ่มไม้อยู่ สองข้างทางมีแผ่นป้ายติดแผนที่คู่กันสี่ป้าย ข้างละสอง มีคนของกลุ่มอื่นยืนจดรายละเอียดปลายทางกันสามกลุ่ม พอดูกันเสร็จแล้วก็เดินทะลุซุ้มไม้ไปอีกฝั่งหนึ่ง

กลุ่มของโรตอมหยุดลงตรงหน้าแผนที่บอกทาง

โรตอมเฉย ๆ กับแผนที่ ส่วนบัลบาดูตื่นเต้นและควานหาตำแหน่งสถานที่สอบ ส่วนฮิตาชิยังกังวลไม่หายเลยไม่ได้มองแผนที่

ดูเหมือนว่าบัลบาจะพบตำแหน่งของกลุ่มแล้ว จึงรีบเอ่ยปากบอกทั้งสองทันที

“เฮ้ นี่ไงเจอแล้ว สนามสอบของกลุ่มเรา...ป่าฝนแคนโน่” บัลบาชี้ไปที่มุมบนขวาของแผนที่

โตอมยักคิ้ว เสยผมสีเหลืองของเขาเล็กน้อย แล้วมองไปที่บัลบาชี้ ส่วนฮิตาชิก็เหลียวมามองดูตามคำเรียก

“ท่าทางจะไกลแฮะ” โรตอมเอ่ยปาก น้ำเสียงกังวลเล็กน้อย

“นั่นสิ” บัลบาเอ่ยตอบ แต่เขาไม่กังวลเท่าไหร่

“เอ่อ...’หลังจากทราบตำแหน่งแล้วให้ผ่านซุ้มไม้ไป นักเรียนจะถูกส่งไปยังสนามสอบทันที’...” ฮิตาชิที่ก้มมองส่วนล่างแผ่นป้ายอ่านคำอธิบายออกมา

“โอ้...ยังงี้ก็แจ่มสิ” โรตอมยิ้มออกมาอย่างมีหวัง บัลบาเช่นกัน ส่วนฮิตาชิยังเฉยๆ อยู่

“งั้น พวกเราไปกันเถอะ” บัลบาเอ่ยขึ้นเป็นสัญญาณให้ทั้งสามเริ่มต้นเดินทาง

โรตอมเป็นคนลอดซุ้มไม้ไปก่อน แสงสว่างจ้าปะทะหน้าเขาจนต้องหลับตาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“อุ๊บ....แสงอะไรเนี่ย”

ไม่ทันที่โรตอมจะได้ลืมตา สติของเขาก็เลื่อนลอย และจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีก

/-/-/-/-/-/-/-/-/

จ๋อม

จ๋อม จ๋อม...

“อือ....”

โรตอมได้สติกลับคืนมา เขานอนอยู่บนพื้นหญ้า...ดูเหมือนว่าเขาจะถูกส่งมายังสนามสอบแล้ว

จ๋อม...

หยดน้ำตกลงมากลางหน้าผากของเขาพอดี ความเย็นของมันทำให้โรตอมลืมตาตื่น

“ที่นี่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย...”

โรตอมขยี้ตา พร้อมมองไปรอบ ๆ และลุกขึ้นมา ก่อนตรวจสอบตัวเอง ก็พบว่า เขากำลังยืนบนพื้นหญ้า รอบตัวเขาเป็นต้นไม้ต้นสูงใหญ่ขึ้นเรียงราย เป็นสัญลักษณ์บอกว่า ที่นี่เป็นป่าแน่นอน ทันใดนั้น

ซ่าาาาาา!!!!

“เฮ้ย! ตื่นมาก็ฝนตกเลยเรอะ แย่จริง!”

โรตอมยังไม่ทันหายงัวเงีย ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เขาต้องออกวิ่งทันที

เขาวิ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ โดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น เพราะเขายังงัวเงียอยู่

สักนาทีหนึ่ง ในที่สุดก็พบกับถ้ำสำหรับหลบฝน แต่ก็เล่นเอาตัวเปียก เสื้อไหมพรมสีฟ้าของเขาแฉะไปทั้งตัว ทรงผมก็ลู่ลง ตัวเปียกปอนเพราะน้ำฝน เขาหลบฝนในถ้ำที่พบทันที จัดแจงถอดเสื้อชั้นนอกของเขาออกพาดไหล่ พลางบ่น

“อยู่ ๆ ก็ฝนตก อะไรกันเนี่ย....” โรตอมหัวเสียเล็กน้อย พอเขาหาแท่นหินนั่งได้แล้วจึงเอาเสื้อนอกมาเช็ดหน้าเช็ดผม พลางนั่งคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

“ที่นี่คงเป็นป่าฝนแคนโน่สินะ....” เขาเริ่มพูดกับตัวเอง “แย่จริง...แล้วคนอื่น ๆ อยู่ไหนล่ะเนี่ย”

ครืน.......

“เอ๋”

เหมือนว่าจะมีแรงสั่นสะเทือนออกมาจากตัวถ้ำออกมาระรอกหนึ่งแล้วจางหายไป เขามองเข้าไปในตัวถ้ำซึ่งมืดสนิท

“.....นี่คงเป็นการเริ่มสอบแล้วสินะ....โหดจริง ๆ แฮะ เฮ้อ....”

โรตอมถอนใจ ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินเข้าไปสำรวจในถ้ำ สิ่งที่เขาต้องทำเป็นอย่างแรกคือ เพ่งพลังออกมาเพื่อให้เกิดแสง อย่างไม่ต้องสงสัย

เขาถอดเอาเสื้อนอกทำเป็นม้วนคล้องคอไว้ แล้วจึงยกมือขึ้นมาลองเพ่งพลังดู แต่ก็เกือบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า มือของเขาเปล่งแสงสว่างออกมาทันที

“เฮ้ย...” โรตอมตกใจเล็กน้อย

แต่พอลองคิดดูดี ๆ ถึงโจทย์ที่ว่า ‘ให้ศึกษาวิธีใช้’ ข้อนั้นขึ้นมาได้ เขาก็สรุปผลว่า คงเป็นเพราะไอเท็มชิ้นนั้นที่ทำให้เขาทำเช่นนี้ได้

คิดเสร็จ เขาจึงยกมือของตนขึ้นเพื่อใช้นำทางเข้าไปในถ้ำมืดแห่งนี้ เดินไปได้สักนาที ก็เริ่มมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นอีก แต่แรงกว่าเดิม จนร่างของเขาสั่นไหว

ครืน.....นนน..

“เฮ้ย...ชักจะแรงขึ้นแล้วแฮะ” โรตอมเริ่มใจเสียขึ้นมา พร้อม ๆ กับความตื่นเต้นที่ไม่รู้ผุดออกมาจากไหน

พอเดินไปได้อีกสักพักหนึ่ง เขาก็พบกับทางเลี้ยว มีแสงสีแดงส้มส่องออกมา เขาจึงหยุดเพ่งพลัง

โรตอมกลืนน้ำลาย รู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา แต่ก็เดินเลี้ยวไป

“ฮะ...เฮ้ย........”

สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังทางเลี้ยวนั้น ปรากฏเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ ดวงตาสีแดงเพลิง โดยรวมเหมือนคางคก ทั่วตัวมันมีเหล็กสีเทาสวมอยู่ราวเป็นเกราะอะไรสักอย่าง ตัวมันสีแดงฉาน และเปล่งแสงสีแดงออกมา แสงที่ว่าคือเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ทั่วร่างของมันนั่นเอง

มันเห็นโรตอมที่เลี้ยวเข้ามาพอดี ทันใดนั้นมันก็ถลึงตาขึ้น และปากของมันก็เต็มไปด้วยเพลิง มันพ่นไฟให้พุ่งเข้าหาโรตอมทันที

โชคดี โรตอมหักมุมออกมาทัน แต่ก็เฉี่ยวไป ไฟที่โดนผนังถ้ำสะท้อนโดนร่างของโรตอม

“อ๊าก...”

โรตอมร้องคราง โชคดีว่าเสื้อของเขาเปียก ไฟจึงไม่ส่งผลอะไรต่อเขามากนัก ถึงกระนั้นก็เล่นเอาเสื้อแห้งและร้อนผ่าวทีเดียว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ด้วยสัญชาติญาณ เขาจึงรีบวิ่งออกจากตัวถ้ำทันที

โรตอมวิ่งออกมาถึงหน้าถ้ำอย่างรวดเร็ว ฝนยังตกอยู่ หลังพิงผนังถ้ำ หายใจหอบแฮ่ก ๆ

“นั่นมันตัวอะไรกันฟะเนี่ย....แฮ่ก....”

โรตอมสบถออกมาทันทีที่หลังพิงผนัง ถ้าเขาไม่วิ่งหนีออกมา มีหวังตายไปแล้วแน่ ๆ

เขายืนคิดอยู่สักครู่ และเนื้อหาในห้องเรียนก็ผุดขึ้นมาในหัว พอใจสงบลง และไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวนั้นจะตามออกมา เขาก็เริ่มนึกขึ้นได้

/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/

โปเกมอน...คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่ว่ากันว่าเป็นที่มาของพลังพิเศษที่มนุษย์ผู้ได้รับเลือกเหล่านั้นถือครอง และควบคุมได้ดั่งใจนึกเมื่อผ่านการฝึกมาแล้ว

โปเกมอน มีชื่อเรียกเต็มว่า พ้อคเก็ตมอนสเตอร์ มาจากคำว่า พ๊อคเก็ตที่แปลว่ากระเป๋า และมอนสเตอร์ ที่หมายถึงสิ่งมีชีวิตประหลาดชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายสัตว์ หรือสิ่งของบางชนิด แต่มีพลังพิเศษ สามารถใช้พลังธรรมชาติได้ นอกจากนั้นยังสามารถ......................

/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/

โรตอมนึกได้เช่นนั้น ด้วยความใจร้อนและชอบท้าทายของเขา เขาก็ยิ้มออกมาที่มุมปาก

“ทำได้แสบนักนะ เดี๋ยวฉันจะแสดงพลังให้ดู! ”

พลันความคิดแล่นผ่าน โรตอมก็วิ่งกลับเข้าไปในถ้ำใหม่อีกครั้งอย่างไม่เกรงกลัว เพราะเขาเชื่อว่า เขามีพลังที่จะควบคุมมันได้แน่ ๆ

โรตอมวิ่งเข้าไป ในที่สุดก็เจอกับทางเลี้ยวเดิม แสงไฟยังส่องออกมาอยู่ เป็นสัญญาณว่า เจ้าคางคกยังอยู่

เขาเลี้ยวเข้าไป...ก็พบกับมันอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันจะหลับไปแล้ว พอสังเกตดูดี ๆ ก็พบว่า หลังทางเลี้ยวนั้นเป็นเหมือนห้องใหญ่ ๆ

“หลับอยู่อย่างนั้นเหรอ ฉันยังไม่ทันจะได้แก้แค้นแกเลยนะ” โรตอมพึมพำในใจ พอเห็นว่ามันไม่ตอบโต้อะไร เขาจึงตัดสินใจตะโกน

“เฮ้ย! ไอ้เจ้าโปเกมอน! แน่จริงเอ็งก็ตื่นขึ้นมาสิ! ”

สิ้นเสียงโรตอม สักพักถ้ำก็เริ่มสั่นไหว

ครืนนนน...

“หึ ตื่นขึ้นมาแล้วรึ...แกต้องเจอนี่!”

เจ้าคางคกลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว! โรตอมไม่รอช้า เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา เอาผ้าสีแดงที่ได้รับมาถือที่มือซ้ายแล้วชูให้เจ้าคางคกดู

คางคกเพลิงนิ่งเงียบเหมือนกับกำลังครุ่นคิดว่า สิ่งที่โรตอมเอาออกมาคืออะไร

“ย๊ากก! “

โรตอมยกมือขึ้นมาอีกข้างเพ่งพลังทันที

“ฮ่าฮ่า! แกเสร็จฉันแน่ เจ้าคางคก! “

แสงสีเหลืองอ่อนสว่างขึ้นจากมือของโรตอม คางคกเพลิงที่จ้องอยู่ถึงกับต้องปิดตาลงเพราะแสงจ้านั้น

...................แล้วแสงก็ดับลง..............ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบ

......................................

............................

...................

.........

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย โรตอมยืนอึ้ง ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคาดไว้จะผิดพลาด

“อ้าว...ไหงว่าควบคุมได้ไง!? “

แฮ่!!!!!

เจ้าคางคกร้องคำรามออกมาทันทีทันใด โรตอมถึงกับเหวออีกครั้ง

“อย่างงี้ก็............................เผ่นสิตู! แว้กกก!”

โรตอมไม่รอช้า เก็บผ้าสีแดงกลับเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม พร้อม ๆ กับออกวิ่งจากห้องนั้น

ครืนนนนนนน!!!!!

แรงสั่นสะเทือนคราวนี้รุนแรงจนโรตอมเกือบล้ม แต่เขาวิ่งออกมาจากมุมนั้นได้แล้ว จึงเหลียวหลังกลับไป

ปรากฏว่า มันเดินออกมาจากที่พักของมันแล้ว!

“โถ่ว้อยย สอบอะไรกันฟะเนี่ย! “ โรตอมหน้าเสีย แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งหนี!

คางคกเพลิงงานนี้มันไม่ยอมหยุด มันวิ่งตามโรตอม ราวกับจะเอาชีวิตเพราะทำให้มันตื่น

และด้วยความที่มันตัวใหญ่กว่า โรตอมโดนไล่กวดทันซะแล้ว!

แต่ข้างหน้าก็เป็นทางออกถ้ำเหมือนกัน ใกล้ถึงทางออกแล้ว!

“อุ้บ!”

ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เขาล้มลงก่อนที่จะถึงทางออกหน้าถ้ำที่ห่างออกไปประมาณสิบเมตร คางคกเพลิงตามมาทันพอดี มันง้างเท้าหุ้มเหล็กของมันขึ้นมาข้างหน้าที่โรตอมล้มอยู่ทันที แล้วเหยียบ!

ตูม!

“ว๊าก!”

เศษฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

แต่ยังมีโชคดีในโชคร้าย โรตอมหมุนตัวหลบทันอย่างฉิวเฉียดพอดี เท้าของมันห่างจากลำตัวของโรตอมไม่ถึงฟุต ไอร้อนที่ออกมาจากเท้าของมัน ทำให้โรตอมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกโพล่ง

ไอร้อนแห่งความตาย……นี่เขาจะต้องมาตายเพราะมันจริง ๆ หรือ!?

เศษฝุ่นจางหายไปแล้ว คางคกเพลิงมองเห็นโรตอมที่นอนหวาดกลัวอยู่พอดี

โรตอมตัวสั่น เขาอยู่ในสภาพระหว่างความเป็นกับความตาย เท้าอีกข้างของเจ้าคางคกเพลิงเงื้อขึ้น!

“เฮ้ย! นั่นโรตอมนี่!”

“ป....ไปช่วยเขากันเถอะ”

ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ

**ผั่วะ!**

ตูม!!!

ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วขณะนั้นเอง มีใครบางคนมาถึงถ้ำพอดี และจัดการเจ้าคางคกจนมันผงะเข้าไป ทำให้โรตอมรอดตาย

ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วอีกครั้ง โรตอมรู้สึกตัวว่าเขารอดแล้ว จึงลองลุกขึ้นด้วยขาที่สั่นเทา แล้วถอยหลังออกมา หน้ายังหันเข้าไปในกลุ่มควันอยู่

ครู่เดียว ฝุ่นก็จางลงไปบ้าง ภาพข้างหน้าก็ปรากฏให้พอเห็น

“บัลบา! ฮิตาชิ!?” โรตอมตะโกนทันที เพื่อนร่วมกลุ่มของเขานั่นเองที่มาช่วยเขา

แต่มีอะไรแปลกไป ทั้งสองเหมือนถืออะไรบางอย่างอยู่

“ไม่มีเวลาพูดแล้วล่ะ โรตอมหนีออกไปก่อนเถอะ เราสองคนจะยันมันไว้ก่อน” บัลบาพูดรัว ไม่หันมามองโรตอมที่นอนหมอบอยู่ แต่พุ่งไปข้างหน้าแทน ตามด้วยฮิตาชิ

ครืน!!!

ทั้งสองยังไม่ทันได้พุ่งไปก้าวที่สองก็ต้องชะงักเท้า แล้วผงะออกมา บัลบาเกือบล้ม แต่ฮิตาชิทรงตัวได้อยู่ ทั้งสองยังไม่ลดละ พุ่งเข้าไปต่อ แต่ภาพข้างหน้ามืดเกินไปบวกกับฝุ่นที่คละคลุ้ง โรตอมจึงไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก

ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนร่วมกลุ่มเขาจึงพยายามลุกขึ้นแล้วเข้าสมทบ แทนที่จะหนี

แต่เมื่อกำลังจะใช้มือขวายันพื้นเพื่อลุกพร้อมพุ่งตัวไปข้างหน้า มือก็เหมือนถูกอะไรแข็ง ๆ ตามมาด้วยความรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช๊อตแล่นแปล๊บตามมา ทำให้โรตอมเสียหลักทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันลุก

“อะไรกันล่ะเนี่ย”

โรตอมกำสิ่งที่เขาฉวยไว้ได้แล้วค่อย ๆ ลองลุกอีกที แล้วก็แบมือดูสิ่งที่เขาเก็บได้ทันที

“กุญแจ!?”

โรตอมตาโต ในมือของเขาปรากฏเป็นลูกกุญแจสีส้มเล็กเล็ก ๆ กำลังส่องแสงอยู่

โครม!

ยังไม่ทันหายตะลึง ข้างหน้าก็มีเสียงดังขึ้นอีก เขาเงยหน้าขึ้นทันที สักพักก็ทีแสงสีแดงสว่างวาบออกมาจากกลุ่มควัน ตามด้วยร่างของบัลบาที่ลอยคว้าง

“บัลบา!”

โรตอมร้องอีกครั้งพร้อมออกวิ่งทันที แต่ว่าขาของเขาก็เหมือนจมลงไปในดินเสียดื้อ ๆ ตามมาด้วยอาการวูบราวกับตกจากที่สูง แล้วเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

********

Ep.2 End

Change Phase!

โปรดติดตามตอนต่อไป

********

Link to comment
Share on other sites

ตามมาอ้านแว้ว~~

เพิ่งรู้ว่า ไอ้ตัวนั้นเป็นคางคก = =*

ที่ผ่านมา คิดว่า ต้นแบบของมันคือจิ้งจกนะเนี่ย อิอิ

ยอดครับ แทบไม่มีที่ติเลย พยายามต่อไปนะครับ ^^

Link to comment
Share on other sites

อ๊ากกก ตามมาอ่านสองตอนรวดแล้วเด้อวส์ - 3 -"

โอ๊ะ ตัวละครผมชื่อเลออน่าหรอเนี่ย (ขนาดคนสมัครยังลืม *ผัวะ*)

เรียบเรียงได้สวยฮะ~ จะว่าไปก็คล้ายๆตอนแรกอยู่นะนั่น... (โดยเฉพาะคางคกนั่น -..-)

โอเคฮะ จะติดตามอ่านต่อไปเรื่อยเลยละกัน อิอิ~ =3=~

Link to comment
Share on other sites

จะว่าไปก็คล้ายๆตอนแรกอยู่นะนั่น

ก็ฉบับโมฯ หนิขอรับ คล้ายกันมันของตาย

แต่หลังจากนี้คงจะไม่คล้ายแล้วล่ะขอรับ

[me=Annoucesaur]แว่บ[/me]

Link to comment
Share on other sites

มาดูผลงานของเพื่อน(พี่)ร่วมทีม...สุดยอดเหมือนเคยครับ ติดตามตอนต่อไปได้ในอีกไม่นานนี้ครับ

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่3 เมืองใต้ภิภพอันมหัศจรรย์

นี่น่ะหรือความเจ็มปวดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่น่ะหรือ...พลังของโปเกม่อน ที่แล้วๆมาฉันเคยคิดว่าโปเกม่อนเป็นเพียงเครื่องมือที่มนุษย์จะหยิบยืมพลังไปใช้เพื่อกลายสภาพเป็นอาวุธเท่านั้น พลังของมันมหาศาลเพียงนี้เชียว...หรือ

ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองนอนบนเตียงนุ่มสีขาวพร้อมผ้าห่ม เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วใช้มือพยุงตนเองขึ้น แต่ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวไหล่จากความร้อนของไฟเมื่อครูนี้ แต่ก็พยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้

โรตอมกวาดสสายตาไปรอบๆ พบว่าเขานอนในห้องๆหนึ่งที่ไม่กว้างใหญ่มาก พื้นถูกทำด้วยหินอ่อนและมีเตียงข้างๆเขาเป็นที่นอนของเพื่อนชายหนุ่มผมสีเขียวมรกตนามบัลบาถัดออกไปเป็นเก้าอี้ตัวหนึ่งและโต๊ะ  เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครเป็นอะไร

ฟื้นแล้วหรอเสียงใสๆของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นมาอย่างเป็นห่วง โรตอมหันไปมองพบกับหญิงสาวผมสีชมพูมัดแกละ ที่มาเมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่เขาไม่ทันรู้สึกตัวว่าเธอมา

เพื่อนเธออีกคนบาดเจ็บอยู่นะ อย่าเพิ่งไปปลุกเขาล่ะหญิงสาวคนเดิมพูดเสียงหวาน ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วก็จะเดินไปยังประตูไม้ที่จะไปใหนสักแห่งหนึ่ง

เดี๋ยวสิ เธอเป็นใครโรตอมถามอย่างสงสัยในตัวของเธอ หล่อนส่ายหน้ามาแล้วยิ้มน้อยๆ

ชื่อของฉันคือโฮชิกิ..โฮชิกิ คานะก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในที่ใหนสักแห่งนั้นอย่างเงียบๆ

เธอประหลาดจังแฮะ ที่นี่ที่ใหนกันล่ะเนี่ยโรตอมมีคำถามามากมายผุดขึ้นมาในหัว ก่อนที่จะได้ยินเสียงเสียงหนึ่งขึ้น

ปังๆๆๆๆๆเสียงราวกระสุนปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในห้องที่หญิงสาวเพิ่งเดินเข้าไป โรตอมเริ่มใจเสีย และเสียงนั้นก็ปลุกให้เพื่อของเขาตื่นขึ้นมาเช่นกัน

ที่นี่ที่ใหนเนี่ย...เสียงอ่อยๆของชายหนุ่มดวงตาสีแดงดังขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วค่อยๆหย่อนเท้าลงจากเตียงมายังพื้น

เฮ้ยๆ บัลบา ฉันว่าเราคงต้องหนีแล้วล่ะโรตอมพูดอย่างหวาดผวาก่อนที่จะมีเสียงนั่นดังขึ้นมาอีกครั้ง

ปังงงงงๆๆๆๆๆๆ

เสียงนั่นดังขึ้นและรัวกว่าเดิม โรตอมวิ่งไปเกาะบัลบาอย่างตกใจ ซึ่งบัลบาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ทั้งสองยังทำใจดีสู้เสือ โรตอมยังคงเกาะบัลบาตัวสั่น ส่วนบัลบาเองก็เริ่มลุกขึ้นแล้วเดินไปใกล้ๆประตู เสียงนั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเสียงดังขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อทั้งสองอยู่ใกล้ประตู ทั้งสองร้องเสียงดังอย่างตกใจก่อนจะกระโดดไปแถวๆหน้าต่าง

ป.ป...ป.....ไปกันเถอะบัลบาพูดเสียงสั่นอย่างผวาๆ โรตอมไม่รอช้า ดึงเสื้อบัลบาแล้วโดดหนีจากหน้าต่างทันที

โชคดีที่บ้านหลังนั้นเป็นบ้านชั่นเดียว การกระโดดลงมาไม่ใช่เรื่องยากอะไร ทั้งสองไม่รอช้ารีบวิ่งด้วงความเร็วสุดแรงไปยังด้านขวามือของตน

ระหว่างทางที่วิ่งไป ทั้งสองก็พบกับหลายๆสิ่งรอบตัว คือ บ้านที่ถูกสร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ผู้คนจำนวนไม่มาก และที่สำคัญ ท้องฟ้าด้านบนเป็นโดมที่เหมือนกับหินคลุมอยู่จึงมองไม่เห็นท้องฟ้า แต่ทั้งสองไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะต้องวิ่งไปจนกว่าจะเจอที่ๆปลอดภัยสำหรับพวกเขา ก่อนจะไปสะดุดตาที่แห่งหนึ่ง

ที่นั้นมีคนจำนวนมาก ส่งเสียงเฮออกมาไม่ขาดสาย เสียงดังสนั่นจนทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปดู

นี่มันอะไรกันเนี่ย โอ๊ะโรตอมและบัลบาพยายามฝ่าฝูงชนเข้าไปด้านในและพบว่า

มีคนสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือด มนุษย์คนหนึ่งที่มีรูปร่างขนาดตัวมหึมาเงื้อขวานขึ้นแล้วฟาดลงมาใส่เป้าหมายอีกคน ชายหนุ่มอีกคนยกสนับมือขึ้นมาป้องกัน แต่ไร้ผล เมื่อชายหนุ่มไม่สามารถต้านพลังงานที่รุนแรงของขวานั่นได้

เฮ้ย คนที่ถือสนับมือนั่นมัน กราเซียนนี่โรตอมพูดอย่างตกใจ บัลบารีบกระโดดลงไปสู่สนามประลองทันที มือของบัลบาเรืองแสงก่อนจะปรากฏแส้สีเขียวขึ้นบนมือ บัลบารีบตวัดแส้ไปมัดขวานนั่นทันที

ไอ้หนู ใครก็ตามที่มาสอดการต่อสู้นี้ ต้องตายชายร่างยักษ์หันกลับไปมองบัลบาแล้วดึงอย่างสุดแรงจนบัลบากระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงแล้วกระแทกพื้นอย่างจัง

อุ่ก...ฮึ่มบัลบาที่เพิ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้กับคางคกเพลิงเมื่อไม่นานมาก็ยิ่งบาดเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม แต่บัลบาไม่สนก่อนจะรีบวิ่งแล้วใช้แส้ตวัดฟาดไปที่ชายหนุ่มร่างยักษ์ทันที

แส้สีเขียวชอุ่มพุ่งโจมตีอย่างรวดเร็วไปที่ท้องของชายหนุ่มผมสีแดง แต่เขาก็ใช้ขวานยักษ์ปัดแส้ไปได้

รวดเร็วดีนี่ แต่...แกสู้ข้าไม่ได้หรอกชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีน้ำเงินยกขวานแล้วฟาดลงมาที่พื้นดินจนสนามแตกกระจาย

ผู้คนที่ดูต่างสงสัยว่าเด็กหนุ่มผมสีเขียวคนนั้นเป็นใคร แต่โรตอมที่กำลังพยายามหาอาวุธที่จะต่อสู้ได้ในตัวออกมาแต่ไม่มีเลย เขาพบเพียงยันต์สีแดงของคุณครูที่ให้มาเท่านั้น ทันใดนั้นเองเขาก็นึกถึงอาจารย์คนเก่าของเขา

จงอย่าคิดว่าศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าต้องมีพลังมากกว่า เพราะความแข็งแกร่งทางร่างกาย ไม่สามารถที่จะเทียบเท่าพลัง ที่เรียกว่าสติปัญญาได้หรอก

สติปัญญา งั้นรึ...สอนได้แย่ชะมัดเลยแฮะ อาจารย์โรตอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพยายามรวบรวมความคิดในการเอาชนะคนที่ตัวใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่ามาให้ได้

บัลบายังคงต่อสู้อย่างยากลำบากเพราะเขาไม่สามารถที่จะโจมตีเข้าอีกฝ่ายได้เลย เขาทำได้เพียงปัดป้องตนเองเท่านั้น อีกฝ่ายก็ซัดพลังที่หนักหน่วงยากจะต้านทานไหวมาเรื่อยๆ บัลบาเองก็เริ่มอ่อนแรงลง ทันใดนั้นเองโรตอมก็ได้กระโดดออกมาจากที่นั่ง แล้วขว้างของสิ่งหนึ่งไป

แต่ชายหนุ่มขวานยักษ์นั้นได้ใช้ขวานที่ทรงพลังปัดของสิ่งนั้นออกไป

เฮอะ กระจอก นี่มัน.ทันใดนั้นเองที่ขวานก็มีเสียงเปรี๊ยะๆดังออกมา เมื่อใช้ดวงตาสีน้ำเงินไปดู พบว่า

กุญแจสีเหลืองอันเล็กกำลังติดอยู่กับขวานของเขาเพราะติดเข้าไปตรงร่องพอดี กุญแจเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะปล่อยกระแสไฟฟ้าจากขวานเข้าสู่ผู้ถือ ในขณะเดียวกันโรตอมที่กระโดดลงมาในสนามแล้วก็ยกมือของเขาที่มีออร่าสีเหลืองใสขึ้น แล้วตวัดมือลงด้านล่าง

ปลดปล่อยสายฟ้า(Discharge)กระแสไฟฟ้าที่ทรงพลังพุ่งจากขวานเข้าสู่ชายหนุ่มร่างยักษ์อย่างรุนแรงจนเขาขยับไม่ได้และเจ็บปวดจากกระแสไฟฟ้าขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถจะป้องกันตัวเองได้

จังหวะนี้แหละ ย้ากกกบัลบาตะโกนสุดเสียงแล้วตวัดแส้ออกไป แส้นั้นหมุนอย่างรวดเร็วก่อนจะปรากฏใบไม้ขึ้นทีละใบสองใบ

คัดเตอร์ใบไม้

แส้ตวัดโจมตีพร้อมกับใบไม้ทีแหลมคมนับสิบพุ่งเข้าโจมตีที่ลำตัวทันที ใบไม้ทั้งหลายที่มีความคมประดุจมีดเสียบเข้าที่ตามตัวจนมีสายโลหิตสีแดงไหลออกมาตามแผลจนล้มลงไปนอนกองกับพื้น

ชนะแล้วสินะโรตอมเดินเข้าไปดึงกุญแจมาจากขวานยักษ์นั้น เสียงดังกึกก้องทัวทั้งอัถจรรย์ โรตอมและบัลบาในสภาพเหนื่อยหอบพยุงกันเดินขึ้นสเตเดี้ยม แต่ทันใดนั้นเอง เสาไฟก็ได้พุ่งกระฉูดขึ้นมาที่ด้านหน้าของทั้งสอง

ความร้อนนี่ เจ้านั่นอีกแล้วสินะทั้งสองเอามือออกจากการพยุงตัวขึ้นแล้วตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที

คราวที่แล้วสามคนยังไม่ไหว คราวนี้มีกันแค่นี้จะไหวมั้ยเนี่ยทั้งสองคนยังคงตั้งท่าต่อสู้ เสาไฟเริ่มผุดขึ้นมาเกือบทุกที่ในสนาม และบนอัถจรรย์ก็เช่นกัน จนคนเริ่มหนีกันไปเป็นจำนวนมาก ทันใดนั้นเอง สายผมชมพูนามคานะก็รีบวิ่งมายังสนามประลอง

นี่พววกเธอยังไม่หายดีนะ ว้ายยยยทันใดนั้นเองเสาไฟก็ได้พุ่งขึ้นมาใส่หญิงสาว ทั้งสองคนตกใจมากรับวิ่งเข้าไป

คานะ เป็นอะไรหรือเปล่าทั้งสองวิ่งเข้าไปด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อไฟหยุดปะทุ ก็พบร่างของหญิงสาวที่ไม่มีรอยแผลอะไรแม้แต่น้อย

อย่าดูถูกกันสิเกราะน้ำรอบตัวของหญิงสาวเริ่มค่อยๆเบาบางลงไป

ในที่สุด แผ่นดินก็แยกแตกออกที่กลางสนาม ปรากฏร่างของคางคกลาวาศัตรูเก่าที่โผล่มาพร้อมเปลวไฟอันร้อนแรงลุกท่วมสนาม

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.