Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Fiction] วันเกิดฉัน คือวันที่เขาจากไป


ความฝันนิรันดร์กาล

Recommended Posts

เรื่องนี้เพิ่งจะเกิดขึ้น เรื่องนี้เราพิมพ์สดๆ เรื่องนี้เราไม่ได้ตรวจทาน มีเพียงแค่ความรู้สึกที่อัดอั้นและอยากระบายเท่านั้น เราใช้เวลาพิมพ์แค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ถ้าผิดพลาดยังไง ก็ขอโทษด้วย


ในวันที่สำคัญสำหรับคนๆ นึง คนๆ นั้นก็ต้องอยากให้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเแป็นธรรมดา มันเป็นแค่ความคาดหวังเล็กๆ ที่อยากจะมีความสุข วันนี้เป็นวันที่ฉันคาดหวัง คาดหวังมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ฉันเฝ้านับวันเวลาที่ผ่านไป เพื่อให้มาถึงวันนี้ สำหรับฉัน วันนี้ไม่มีคำว่าเศร้า ไม่มีคำว่าเฉยๆ วันนี้ที่ฉันหวังไว้ จะต้องเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต

แต่แล้วมันกลับไม่เป็นแบบนั้น นั่นเป็นเพราะเขา เพียงเพราะเขาคนเดียว วันนี้ของฉันได้กลับกลายจากวันที่มีความสุขที่สุดเป็นวันที่ฉันเศ้ราที่สุด ถ้อยคำที่เขาพูดมา ฉันเข้าใจนะว่า มันเพื่ออนาคตของเขา แต่ว่า... แล้วฉันล่ะ เขาจะไม่แคร์ฉันเลยเหรอ ฉันเองก้มีอนาคตนะ ไม่สิ ฉันเองก็อยากมีอนาคตนะ


ฉันเจอเขาครั้งแรกตอม ม.สี่ ตอนนั้นฉันเป้นเด็กหลังห้องที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร วันๆ ก็เอาแต่เขียนนิยายแล้วมีความสุขอยู่กับตัวเองเท่านั้น ส่วนเขา เขาเองก็เป็นเด็กหลังห้องเช่นกัน เขามักจะมีความสุขอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขาที่เป็นกลุ่มใหญ่ ต่างกับฉัน ที่มีเพื่อนแค่ไม่กี่คน

ฉันเองไม่ได้ชอบเขาหรอกนะ แต่ฉันเองก็คอยมองเขาอยู่ตลอด ก็จะไม่ให้มองได้ยังไงล่ะ เขาชอบนั่งหน้าฉันแล้วคุยๆ เล่นๆ จนฉันเรียนไม่รู้เรื่องเอาซะทุกทีเลย แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอกนะ ฉันไม่ค่อยสนใจเนื้อหาวิชาที่อาจารย์สอนนักหรอก ฉันชอบที่จะมีความสุขกับนิยายที่ฉันเขียนมากกว่า

จริงสินะ ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแยม เป็นชื่อที่แม่ของฉันตั้งให้ แม่บอกว่าตอนที่ท้องฉัน แม่กินแยมเยอะมาก คงเป็นเพราะอาการแ้พ้ท้องแล้วอยากกินอะไรแปลกๆ นี่ละ ดังนั้นฉันจึงเกิดมาชื่อแยมแบบนี้ ส่วนตัวเขาน่ะเหรอ เขาชื่อบี เห็นเขาบอกว่าเป็นชื่อที่ต่อจากพี่ชายของเขาที่ชื่อเอน่ะนะ

ฉันกับบี ถึงแม้จะอยู่ห้องเดียวกันแต่ก็ไม่ได้คุยกันมากมายอะไรหรอก ฉันเพิ่งจะมาคุยกับเขาจริงๆ ก็ตอน เทอมสอง ที่อาจารย์แบ่งกลุ่มให้ทำงานโดยการจัดตามตำแหน่งที่นั่งเท่านั้น บีเป็นคนที่พูดมาก แถมขี้โม้ เขาชอบพูดอวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เสมอ แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว เขามักจะทำอะไรไม่ค่อยได้เลยซักอย่าง ถึงตอนทำงานจะดูออกว่าเขาตั้งใจจริงก็เถอะ

หลังจากครั้งที่ได้ทำงานร่วมกัน เราคุยกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ บีชอบว่าฉันอยู่ตลอดเรื่องที่ฉันชอบโปเกมอน เขาบอกว่ามันไร้สาระ แต่เขาก็ยังคอยอ่านฟิคมิวทูของฉันอยู่ตลอด แถมเร่งให้ฉันรีบเขียนตอนต่อๆ ไปอีกด้วย สำหรับฉันแล้ว ฉันคิดว่าเขาเองก็ชอบนิยายที่ฉันแต่งเหมือนกันนะ เหมือนกับคนในบอร์ดโปเกมอนที่ฉันอยู่เลย

แต่แล้ววันนึง ชีวิตของฉันก็มีเขาเข้ามามากขึ้น ความสนิทสนมคุ้นเคยกัน มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ เขาพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับฉันหลายรอบแล้ว แต่ก็เขินจนไม่ค่อยจะกล้าบอกทุกทีเลย ฉันพอจะรู้นะว่าเขาอยากขอฉันเป็นแฟน แต่ว่า... รอให้เขาพูดเองดีกว่า

ในที่สุด เขาก็กล้าพูดกับฉัน ตอนที่ฉันแวะซื้อน้ำปั่นหน้าโรงเรียนก่อนกลับบ้าน เขาก็เดินเข้ามา ฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักหรอกที่เขาทำแบบนั้น เพราะฉันกำลังกังวลอยู่ว่า ฝนมันจะตกหรือเปล่า เขาเข้ามาหาฉันแล้วก็พูดกับฉันด้วยเสียงเบาๆ ว่า

"แยม เป็นแฟนกันนะ"

ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจเขาหรอก ฉันมัวแต่มองท้องฟ้าที่มืดครึ้มอยู่ เมื่อฉันได้ยินเสียงของเขา ฉันก็หันไปถามเขาอีกครั้ง

"เอ๊ะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรเหรอ"

เขาหน้าแดงแล้วก็บอกปัดว่าไม่มีอะไร แล้วก็เดินจากไป เล่นเอาฉันยืนงงอยู่นานสองนาน แต่ว่า... หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่งข้อความมาหาฉันแล้วบอกว่า [เป็นแฟนกันนะ]

เมื่อได้อ่านข้อความนั้นฉันเองก็อดยิ้มไม่ได้ เขาพยายามแทบตายที่จะมาพูดกับฉันด้วยร่างกายและน้ำเสียงของเขาเอง แต่ฉันมัวแต่ไปกังวลกันฝนจนไม่ได้ยินเขาพูด ดูเหมือนความรู้สึกของเขาจะอัดอั้นจนแทบล้นออกมาแล้วสินะ เขาจึงต้องส่งข้อความมาบอกแทน และข้อความที่ฉันตอบกลับไป นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มการเป็นแฟนกัน

[เป็นแฟนแล้ว ต้องรักเค้าให้มากๆ นะ]


ช่วงเวลา ม.สี่ เทอมสอง จนจบ ม.ห้า เป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุข ฉันมีคนมารัก ฉันมีคนมาดูแล ฉันคิดว่า แค่มีเขาเท่านั้น ฉันเองก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ฉันหยุดแต่งฟิค หยุดเข้าบอร์ดโปเกมอน ใช้ชีวิตวันทั้งวันไปกับการคุยโทรศัพท์ถึงเขา จนกระทู่งฉันเองก็เริ่มรู้สึกตัว

ฉันรู้สึกว่าที่ฉันทำแบบนี้ เหมือนฉันไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ถึงฉันจะแต่งนิยายจบไปแล้วเรื่องนึงก็เถอะ แต่ว่า นอกจากนิยายมิวทูแล้ว ฉันเองก้ไม่มีอะไรที่ฉันภูมิใจอีก ฉันบอกกับบีว่าฉันอยากจะแต่งนิยายอีกครั้ง ฉันอยากจะตั้งใจเรียนเพราะฉันกำลังจะขึ้น ม.หก แล้ว

บีเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่รู้ว่าฉันเริ่มผิดสังเกตตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ว่าเขาเองเริ่มห่างๆ ฉันไป เราเริ่มคุยโทรศัพท์กันน้อยลง บีเริ่มพูดกับฉันแบบถามคำตอบคำโดยที่ฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิด เหมือนกับว่า เขาไม่ค่อยอยากคุยกับฉับอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอก เขาในตอนนี้ไม่ใช่เด็กหลังห้องแบบฉันอีกต่อไปแล้ว

เขาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นเด็กที่สนใจเรียนก็ตอนที่จบ ม.สี่ เกรดเขาตก ทำให้เขาต้องสปีดตัวเองยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงดูแลฉันไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้ ม.หกแล้ว งานเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉันเองก็แทบไม่มีเวลาว่างเหมือนกัน เพราะงั้น มันอาจจะช่วยไม่ได้ก็ได้


ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง อาทิตย์ก่อนสอบ วันที่ 19 กันยายน วันเกิดอายุครบ 18 ปีของฉัน เขาโทรหาฉันตอนเที่ยงคืน เพื่อบอกคำที่ฉันไม่อยากฟังที่สุดในชีวิต

"แยม เราเป็นเพื่อนกันเถอะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ฉันในตอนนั้นถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก ฉันเพียงแค่พูดตอบกลับไปว่า

"อะไรนะ"

คำตอบที่เขาพูดมา มันคือสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด นี่คือคำพูดของผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนึง ที่ฉันได้ยินมา

"คือว่า มันใกล้สอบแล้วอ่ะนะ เราก็เลยคิดว่าพูดแบบนี้กับแยมดีกว่า จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย แยมคงจะรู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย ว่าเราไปกันไม่ได้ ความรู้สึกของเราอ่ะนะ บอกว่า เอ่อ... แยมไม่ใช่น่ะ"

"แต่ว่า" ฉันที่กำลังตกใจกับคำพูดของเขาพูดออกมาได้แค่นี้เท่านั้น

"ก็เลย... มาบอกเลิกนี่ละ จะได้ไม่ต้องคิดมาก แล้วมีเวลาอ่านหนังสือกันน่ะ สุขสันต์วันเกิดนะ"

บีกดวางสายไป ทิ้งไว้ให้ฉันถือโทรศัพท์เอาไว้แบบนั้น ฉันวางโทรศัพท์ลง น้ำตาของฉัน ไหลออกมาอย่างที่ไม่อาจจะห้ามได้ ฉันเจ็บ ความรู้สึกแบบนี้ที่ฉันได้รับ ถ้าไม่เคยโดนมากับตัวคงไม่มีใครเข้าใจหรอก แค่การที่เราเลิกกันมันก็มากพออยู่แล้ว แต่กับเหตุผลแย่ๆ ของผู้ชายแบบนั้น มันทำให้ฉันเจ็บยิ่งกว่า

คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว

ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย

ทำไมเขาถึงเลิกกับฉัน ฉันมันไม่ดีตรงไหน

ทำไมต้องบอกเลิกกันวันนี้ วันที่ฉันอายุครบ 18 ปี

สำหรับเขา เขาอาจจะเรียกว่าเหตุผล แต่สำหรับฉันแล้ว เหตุผลของเขามันเป้นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำยังไงต่อไป เวลาสอบเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ แล้ว เขาอาจะสบายใจที่ได้พูดออกไป แล้วฉันล่ะ ฉันจะใช้ชีวิตแบบนี้กับช่วงสอบ เวลาสำคัญของชีวิตมัธยมปลายได้ยังไง สุดท้ายแล้วมันก็ผิดที่ฉันเองสินะ

เพราะฉันคาดหวัง ฉันถึงต้องผิดหวังนี้

เพราะฉันมีความรัก ฉันถึงปวดใจขนาดนี้

เพราะฉันมีความรู้สึก ฉันถึงเจ็บขนาดนี้

เพราะฉันมีน้ำตา ฉันถึงดูทุเรศขนาดนี้

ฉันอยากระบายเรื่องนี้ให้กับใครซักคน อยากจะบอกให้คนอื่นรับรู้ถึงความเสียใจของฉัน ฉันคิดไม่ออกหรอกว่าฉันจะระบายมันได้ยังไง เพื่อนของฉัน ตอนนี้คงกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายอยู่สินะ ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันต้องมาเดือดร้อนเพราะคนอย่างฉันหรอก

ข้อความที่เพื่อนของฉันส่งมาอวยพร มันก็ทำให้ฉันยิ้มได้บ้างละนะ แต่ว่า ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ มันก็ยังไม่จางหายไป สิ่งที่ฉันคิดถึงเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ ที่ที่ฉันสามารถพูดคุยได้อย่างอิสระ ที่ที่ฉันสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ที่ที่มีคนยอมรับในตัวฉัน ก็คือที่นี่ ฉันขออนุญาตระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่อัดอั้นตันใจออกมา

ถึงแม้ว่าวันนี้น้ำตาของฉันจะยังคงไหลไม่หยุด แต่ว่า ซักวันฉันจะต้องเข้มแข็งขึ้น กับผู้ชายที่ไม่ได้สนใจเราน่ะ เราจะไปสนใจเขาทำไม ฉันบอกกับตัวเองแบบนั้น

สุดท้ายนี้ก็ขอให้ในวันเกิดฉัน วันที่ 19 กันยายนนี้ เมื่อฉันหลับตาแล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันจะเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงสดใสในแบบของฉันตามเดิม ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และมีความสุขกับวันสำคัญของตัวเอง


Link to comment
Share on other sites

ทำซะไม่กล้าบอกเลิกเลย...

เอาไว้เลยช่วงสอบก่อนและกัน...........

Link to comment
Share on other sites

:pocha07: เ่อ่อ....จะพูดยังไงดีละครับเนี้ย.....อา....(ไม่เคยมีความรักด้วยสิเรา ควรจะพูดยังไงดีหน่า...)

เอาเป็นว่า....สู้ๆเข้านะครับ อนาคตยังอีกมีอีกยาวไกล!(น้ำเน่าไปไหมนะผม)

Me/ เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบแยมที่แต่งนิยายเป็นที่สุด อย่างยอมแพ้หรือล้มเลิกนะคับ  :pocha08:

Link to comment
Share on other sites

สู้ๆ ค่ะพี่แยม มิกะก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยสิ ร่าเริงไว้นะคะ

Link to comment
Share on other sites

ระบายความรู้สึกได้ถึงใจจริงๆครับ

ไม่เป็นไรนะครับแยม ผู้ชายดีๆในโลกนี้ยังมีอีกเยอะ สู้ๆนะครับ

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.