Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Parallel Bar Fanfiction] Romeo-Juliet : ว่าด้วยเรื่องหนีตามของโรมิโอและจูเลียต


Friday

Recommended Posts

Title : Romeo-Juliet : ว่าด้วยเรื่องหนีตามของโรมิโอและจูเลียต

Rate : PG 13-15

Note : สดุดีแด่หญิงพิงค์และหญิงไวท์ บอกแล้วไงว่าฟิเลนตอนเป็นผู้หญิงนี่มันเจ๋งสุดๆ !!!


บทนำ : ว่าด้วยเรื่องหนีตามของโรมิโอและจูเลียตในคืนเดือนเพ็ญ

..ในบรรดานิยายที่ผมนำติดตัวมาที่เมืองแห่งนี้นั้น..

..หนึ่งในนั้นมีเรื่อง โรมิโอและจูเลียต รวมอยู่ด้วย..

..โรมิโอที่หลงระเริงในความรัก..

..จูเลียตที่ราวกับตัวโง่งม..

..และเรื่องราวของโศกนาฏกรรมก็เริ่มจากจุดนั้น..

..แน่นอน..

..เรื่องของผมก็เริ่มจากโศกนาฏกรรมนี้เช่นกัน..

ชายหนุ่มสุภาพบุรุษปิดหนังสือนิยายในมือลงก่อนวางลงบนเตียง ดวงตาสีฟ้าครามจดจ้องไปยังกล่องกระดาษสีขาวกล่องหนึ่ง เขาหยิบมันมาไว้บนตัก หัวคิ้วขมวดยุ่งเมื่อนึกถึงสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่

ชายหนุ่มเปิดฝากล่องออก มองชุดภายในกล่องกระดาษด้วยแววตาขบคิด ฟิเลนเซ่ เมเลนเน่ รู้สึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็คงไม่มีทางเลือก ในเมื่อเขาถูกคอร์เซ็ตรัดจนเอวกิ่ว

มีทางเดียวคือใส่ชุดนี้แม้จะไม่อยากจินตนาการถึงมันก็ตาม

ฟิเลนเซ่สวมใส่ชุดอย่างระมัดระวัง แม้ขนาดจะใหญ่เป็นพิเศษเพื่อให้ชายหนุ่มอย่างเขาใส่ได้ แต่บางส่วนก็รัดเสียคับแน่นจนกลัวว่าจะฉีกขาดเป็นทางยาว ชายหนุ่มทุลักทุเลกับการใส่ชุดอยู่นานจึงสามารถใส่ชุดนี้ได้สำเร็จ

เขาเดินไปหยุดตรงหน้ากระจกบานใหญ่ก่อนจะหมุนตัวไปมาสองสามที ภาพที่กระจกสะท้อนออกมานั้นคือหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง รูปร่างกำยำสูงใหญ่ของฟิเลนเซ่กลายเป็นสาวน้อยท่าทางอ้อนแอ้นในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์

คอเสื้อคว้านกว้างเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่ม แขนตุ๊กตาปิดบังตั้งแต่ส่วนไหล่ปล่อยท่อนแขนเรียวเปล่าเปลือย ชายกระโปรงสะบัดพลิ้วราวระลอกคลื่นเลียบชายทะเล เรือนผมเรืองรองดุจแสงพระอาทิตย์

เหมือนภาพมายาของเทพเทวาซึ่งนิมิตขึ้นมาในกระจกเงา

 

ริมฝีปากอวบอิ่มแต่งเติมด้วยชาดสีสดเผยอออก ราวกับว่ามีคำพูดคำหนึ่งติดอยู่ ณ ตรงนั้น ดวงตากลมโตเบิ่งมองภาพสะท้อนของตนอีกครั้ง ก่อนเสียงกรีดร้องแหลมเล็กจะดังขึ้นมา

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย !

ภาพประกอบเล็กน้อย by ภรรยาหลวง วานิโนโกะ(พิงกุ)

JF.jpg

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน ในตอนบ่ายที่อากาศร้อนอบอ้าว . .  .

หลังจากที่ฉันคำนวณรายได้ของเดือนนี้แล้วบวกลบคุณหารกับกำไรที่ได้ บอกได้ตามตรงเลยว่าขาดทุนย่อยยับ

มาสเตอร์หนุ่มหน้ามนประจำร้านบาร์พาราเลลกางบัญชีของเดือนนี้ให้กับบรรดาลูกจ้างในร้านดู น้ำหมึกสีแดงที่กำกับทุกช่องตารางทำเอาทั้งหมดถึงกับกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก

โดยเฉพาะกับนักมายากลหนุ่มฟิเลนเซ่ที่ชื่นชอบเรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นพิเศษ เขาแทบจะลมจับเลยทีเดียวเมื่อเห็นสมุดบัญชีเล่มนี้ เกิดมาชั่วชีวิตพึ่งเคยเห็นตัวแดงกันเป็นสิบหน้าติดๆกัน

คิดแล้วชายหนุ่มก็ชักกลุ้มใจกับบาร์พาราเลลที่ไปมาอยู่บ่อยครั้ง คงจะได้เซ้งร้านกันก็คราวนี้ล่ะมั่ง

เฮ้ย ! ไหงเงินเดือนฉันก็ติดตัวแดงไปด้วยล่ะมาสเตอร์ แบบนี้มันก็ไม่ยุติธรรมสิ

หญิงสาวที่โต้กลับมานั้นคือ อลิเซีย ร่างสูงโปร่งดูกำยำเกินผู้หญิง ผมสีแดงเพลิงและชุดรัดรูป เธอเป็นคนที่มาสเตอร์จ้างมาดูแลความเรียบร้อย แต่ในความคิดของเขาแล้ว

แม่ฟามิงโก้บ้าเลือดนี่สมควรถูกจัดเป็นพวกทำลายความเรียบร้อยของร้านเสียมากกว่า หมัดหลุนๆ ของเธอมีไว้เพื่อการทำลายล้างพวกข้าวของเครื่องใช้ภายในร้าน

มากกว่าจะเอาไปซัดใส่หน้าใครเพื่อปกป้องหรือว่าระงับการวิวาทก็ตาม

เงินเดือนอลิเซียยังไม่เท่าไร ทำไมต้องพลอยลดเงินค่าแรงของสาวน้อยน่ารักอย่างฉันไปด้วยล่ะมาสเตอร์

ไวท์ บลาสเชจ สาวน้อยร่างเล็กคู่หูสุดป่วนของอลิเซียเอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ในเมื่อช่องเงินเดือนของเธอก็พลอยติดตัวแดงไปเช่นกัน

สาวร่างเล็กจ้องที่สมุดบัญชีราวกับว่าน้ำหมึกสีแดงที่ประทับอยู่นั้นจะเป็นเศษพริกที่เพื่อนสาวเผลอแคะจนกระเด็นไปติดที่หน้ากระดาษ หลังจากถูๆ ขัดๆ ประมาณสองสามที

หญิงสาวก็คอตกพับ ในใจพร่ำร้องว่าเดือนนี้จะเอาอะไรประทังชีวิต หรือว่าจะได้โอกาสไปรับจ๊อบเสริมอีกแล้ว

ของคนอื่นน่ะไม่เท่าไร แต่หนี้ของผมทำไมมันติดลบล่ะครับมาสเตอร์ !

ปิดท้ายหนุ่มหล่อเจ้าของคารมเป็นต่ออย่าง เฟอร์ริก เฟลเอนเดส ที่บัดนี้คิ้วๆ เรียวของเขาขมวดมุ่นจนดูน่าขัน นัยน์ตาดั่งมหาสมุทรสีครามจับจ้องไปบัญชีเจ้าปัญหา

ดูเหมือนหนี้ของเขาจะติดตัวแดงไปด้วย แต่ว่าทำไมถึงมีขีดสั้นๆ ตรงหน้าตัวเลขพวกนี้ด้วยล่ะ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มที่ดูสุขุมเยือกเย็นอย่างเขาต้องออกปากออกเสียง

ทั้งที่ตามปกติจะกดขี่เยี่ยงทาสกันซักแค่ไหนก็ไม่ปริปากบ่นกันซักแอะ

ทั้งสามเริ่มไซโคใส่มาสเตอร์ผู้น่าน่าสงสาร ทั้งใช้วิธีสารพัดที่จะคิดได้ไม่ว่าจะข่มขู่หยุดสไตรค์กันทั้งบาง(ยกเว้นฟิเลนเซ่ ซึ่งดูเหมือนเขาจะไม่อยากร่วมด้วยเท่าไร) อ้อนวอนนวดแข้งนวดขา

เอาตั๋วพักร้อนมาล่อ ล่อลวงว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งดีนักหนา เกาะทางใต้แสนสวยงาม ทะเลสีครามกับทรายสีขาวตัดกันราวหยกและไข่มุก โรงแรมที่พักก็รูมเซอร์วิสเพียบพร้อมกว่าที่ไหนในสามโลก

อีกทั้งยังมีบริการสปา ภัตคารห้าดาวการันตีด้วยชื่อของสปอร์เลยทีเดียว

ดังนั้นได้โปรดอย่าเอาตัวแดงมาติดที่บัญชีเลย  ทางที่ดีควรเติมตัวบวกลงไปที่ตัวท้ายด้วยจะดีกว่า ดีมากๆ ถ้ามีศูนย์สักหกหลัก

แถมด้วยวันพักร้อนไม่มีกำหนดเลยจะเริ่ดสะแมนแตนกว่าร้านไหนเลยทีเดียว พอเห็นท่าทางมาสเตอร์ยังเงียบสงบทั้งสามก็ยังคงพูดพร่ำต่อไป โดยหารู้ไม่ว่านี่คืออาการของภูเขาไฟกำลังจะปะทุออกมา

ฟิเลนเซ่ถอนหายใจ เขาหยิบนาฬิกาพกออกมาดู ก่อนจะนับเลขหนึ่งถึงสามเงียบๆ

1..

2..

3..

...

...

ฉึก ฉึก ฉึก !!!

เสียงโลหะสีเงินวาววับเฉี่ยวผ่านด้านข้างจำเลยทั้งสามไปอย่างหวุดหวิด ปลายผมสีแดงของอลิเซียตกลงกับพื้น รวมถึงเลือดที่ไหลซิบๆ บนใบหน้าของไวท์

และเศษผ้าที่หลุดจากแขนเสื้อของเฟอร์ริก ในร้านที่สับอลม่านกลับเงียบกริบราวกับป่าช้า ลูกจ้างและขาประจำต่างมองตากันปริบๆ จะเอ่ยปากถามว่าจะทำยังไงต่อไปดีก็กระไรอยู่

เพราะรังสีอำมหิตกำลังโชยมาจากท่านเจ้าของร้าน มาสเตอร์หนุ่มหล่อหน้ามนของพวกเขานั่นเอง

แทนที่จะเอาเวลามาทำแบบนี้ ไปทำงานจะดีกว่าไหม..

มาสเตอร์กล่าวเสียงเย็นยะเยือก ซึ่งใครได้ฟังก็รู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง ตัวคุดคู้ลงมานั่งกับพื้นพลางถูๆ ไถๆ กับแขนเสื้อของตัวเอง

ครั้นจะทำเช่นนั้นชายหนุ่มเจ้าของร้านก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

ในเมื่อร้านเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าควรจะปรับปรุงอะไรซักหน่อย

แล้วมันอะไรล่ะมาสเตอร์

อลิเซียเอ่ยถาม แต่ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะ มันถูกวางลงบนเคาน์เตอร์ สายตาใคร่รู้ของบรรดาลูกจ้างและขาประจำต่างมองมาที่มันเป็นตาเดียว

สมุดหน้าปกสีซีดๆ ว่างอยู่ตรงนั้น มีลายมือหวัดๆ ที่คุ้นตาประทับอยู่บนหน้าปก ทำให้ทั้งหมดรู้สึกสงสัย ไวท์ บลาสเซจจึงเอ่ยปากด้วยความรู้อยากเห็น

เขียนโดยมาสเตอร์ร้านพาราเลล.. สรุปมันคืออะไรล่ะ?

ก็นิยายยังไงล่ะ

แล้วนิยายจะมากู้วิกฤตของร้านยังไงล่ะมาสเตอร์

เฟี้ยว !

มีดอีกเล่มผ่านร่างของไวท์อีกครั้งหนึ่ง เด็กสาวหน้าซีดและปิดปากเงียบสนิท มาสเตอร์หนุ่มกระแอมไอเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะพูดต่อ โดยไม่สนใจว่าชายอีกคนที่หนีไปหลบหลังฟิเลนเซ่เรียบร้อย

เราจะแสดงละครกัน

หา !

ทั้งหมดต่างพร้อมเพียงกันตกใจ แต่ซักพักความตกใจนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นปกติ ในเมื่อพวกเขาต่างเคยบุกป่าฝ่าดงเสี่ยงตายกันมามากกว่านี้แล้ว

ครั้นการแสดงละครคงจะเป็นเรื่องขี้ปะติ้วสำหรับพวกเขาอยู่มาก เอ๊ะ..การแสดงละครหรือ งั้นก็หมายความว่าต้องออกไปหน้าเวที ต้องแสดงบทพิลึกๆ ของมาสเตอร์

ยังไม่ทันที่เสียงโวยวายจะดังขึ้น ชายหนุ่มเจ้าของร้านก็ตัดบทเป็นครั้งที่สอง

เราจะแสดงเรื่องโรมิโอกับจูเลียตกัน และเพื่อความแปลกใหม่ฉันจะใช้บทที่ฉันเขียนขึ้นมาเอง ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?

ลูกจ้างและขาประจำร้านพาราเลลส่ายหน้ากับพึบพับ ไม่มีข้อโต้แย้งกับความคิดของมาสเตอร์ในครั้งนี้ เพราะรู้ว่าหากขัดไปรั้งแต่จะทำให้เงินเดือนถูกตัดต่ออย่างย่อยยับ

อนึ่งคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้แน่นอน โดยเฉพาะกับชายหนุ่มนามฟิเลนเซ่ เมเลนเน่ ผู้ชื่นชอบเงินตราเป็นที่สุด จู่ๆ นัยน์ตาของชายหนุ่มเจ้าของชะตาชีวิต(เงินเดือน)ของทุกคนก็หยุดมองมาที่เขา

ก่อนนิ้วเรียวจะชี้ตรงมายังชายหนุ่มผู้ไม่รู้เรื่องราวใด ก่อนคำสั่งแระกาศิตจากฟ้าจะผ่าเปรี้ยงลงมาใส่เขา

นาย..ฟิเลนเซ่

อ่ะ..ครับ มาสเตอร์

จงเป็นจูเลียตในคืนวันเพ็ญซะ !

เมื่อเสียงสั่งการของพระเจ้าแห่งร้านพาราเลลที่เลื่องชื่อลือนามดังขึ้น สายตาทุกคู่ต่างจ้องมองมาที่ชายหนุ่มผมทองคนนี้ ราวกับแผ่นดินสะเทือน ฟ้าถล่ม โลกจะแตก

สติสัมปัญชัญญะของฟิเลนเซ่ถูกเสียงแห่งสวรรค์กลืนกินไปเสียแล้ว ท่ามกลางสักขีพยานหญิงชายทั้งหลายในร้าน ไม่มีใครกล่าวคำใดออกมาอีกเลย

นอกจากเฝ้ามองเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีบาร์พาราเลลแห่งนี้เป็นฉากหลัง

และนี่คือยามบ่ายของจูเลียตก่อนพระจันทร์จะเต็มดวง..


มุมเมาๆของกบฏวันศุกร์

ยังไงก็ขอสวัสดีชาวบอร์ดพีเคเบสิคไว้ด้วยนะคะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราปรากฏในบอร์ดหลังจากหายไปนานดีดัก (อา..จืดจาง)

อันที่จริงฟิคโรจู(ชื่อย่อของเรื่อง)นั้นเราเองได้เขียนมานานมากแล้ว แต่ม่ไมีโอกาสที่จะได้ลงจริงๆจังๆซักที เนื่องจากเราเขินเองค่ะ แฮะ่ๆ

ตอนแรกที่จะลงก็หวั่นๆนิดหน่อย เพราะเราบรรยายซะยาวยืด กลัวนิดๆว่าจะมีใครมาแลเห็นโรจูของฉันไหมหนอ

แต่ด้วยความอนุเคราะห์(?)ของเพื่อนสนิทผู้แสนดีอย่างเจ้าของเรื่องคุณพิงค์ ก็สามารถเข็นเราออกมาส่งฟิคถึงที่ได้

รวมไปถึงคำสั่งของคุณพี่ไวท์ ถ้าไมีคำขู่เข็ญทั้งหลาย เราคงไม่มีกะใจมาบอร์ดแห่งนี้ได้

ยังไงซะคุณพี่ก็ห้ามตัดชื่อสเวนออกนะคะขอร้อง เห็นแก่แฟนขับ(ไล่)อันน้อยนิดอย่างเขาด้วยเถ้อ *กราบไหว้บูชา*

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณ..

คุณพิงค์ ผู้ซึ่งไม่ยอมตกเป็นเมียของเราซักกะที และยอมฟังเราไซโคเรื่องนี้แต่ไม่เขียนออกมา

คุณพี่ไวท์ ที่ยังอุตส่าห์ส่งคำทวงคอมเม้นมาได้ตลอด จนเราชักหวั่นแล้วจริงจัง

คุณสเวน ตัวละครแสนรันทดประจำพาราเลลบาร์ซึ่งก็ต้องขอโทษที่วันนี้ไม่สามารถอาบน้ำก่อน 3 ทุ่มได้..

ชาวพีเคเบสิค สำหรับน้ำใจที่รักและคอมเม้นดีล่วงหน้าค่ะ

ไว้พบกันโอกาส ยามพาราเลลบาร์เิปิดค่ะ บ๊ายบาย :pika10:

Link to comment
Share on other sites

มาสเตอร์ : จงเป็นจูเลียตในคืนวันเพ็ญซะ !

ผม : ...*อึ้ง*

แต่ก็นึกไว้อยู่แล้วล่ะครับ ว่าฟิเลนแต่งหญิงแล้วมันขึ้น...

ปล.สายสลับเพศจงเจริญ~*ผัวะ*

Link to comment
Share on other sites

มิโดริ - คุณฟิเลนเนี่ย พอแต่งเป็นหญิงแล้วดูดีกว่าตอนเป็นชายอีกนะคะเนี่ย (?)

เพื่อนมิโดริ(ชาย) - หน้าสวยจริงๆวุ้ย น่าเสียดายที่ดันเกิดมาเป็นชาย ไม่งั้นจะจีบแล้วนะเนี่ย พระเจ้าช่างเล่นตลกจริงๆ (ส่ายหน้าแล้วลอยผ่านหน้าฟิเลน)

Link to comment
Share on other sites

แกร๊ก... แกร๊ก...

เสียงก้านผสมสารกระทบบีกเกอร์ดังอยู่เป็นระยะๆ

การผสมสารเคมีที่เสียงดังเกินปกติดำเนินอยู่อย่างลับๆ ในซอกมุมหนึ่งของพาราเรลบาร์

แก๊ง!!!

หญิงสาว(?)นักปรุงยาก้มลงเก็บก้านผสมสารที่ตกลงไปกลิ้งหลุนๆ อยู่กับพื้น

ในใจคิดแค้นแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กัดฟันกรอดสบถกับตัวเองเบาๆ

"คุณฟิเลนเซ่เป็นผู้ชายแท้ๆ...หน้าอกใหญ่กว่าฉันได้ยังไงกัน!?"

#######

[me=ไดโกะสุดยอดแม้ไม่ใส่แว่น~♥]วิ่งหนีเฟียร์[/me]

ฟิเลนสวยเกิ๊น!!

ขำตอนดูสมุดบัญชีมากค่ะ ฮาได้ใจ =w=b

แต่รอบนี้คำผิดแอบเยอะเน่อ (ทุกทีไม่เคยเห็น จขกท. พิมพ์ผิด)

ระวังหน่อยนะคะ ^^"

Link to comment
Share on other sites

พร้อมนะครับ...

ฟิเลนสาย C ~!!!!!!

แต่จะว่าไป... แบบนี้ก็น่ารักนะ...?

[me=ลูซัง(ซึนคุง)]โดนหนูฟิเลนตบกบาล...[/me]

Link to comment
Share on other sites

=[]= ฟะ ฟะ ฟิ!!~ ฟิ!!~ ฟิึ!! (คราง)

นายมันสวย!

Link to comment
Share on other sites

ฟิเลนหญิง แจ่มที่สุดใน 3 โลก!!

สู้ต่อไปนะจ๊ะที่รัก แล้วจะตามอ่านต่อนะ

Link to comment
Share on other sites

แอร๊ จะลำบากยัดชุดทำไม กินยาแปลงเพศที่เฟียร์ปรุงง่ายกว่าเยอะ!!!

Link to comment
Share on other sites

หวานใจฝากมาบอกว่า อาทิตย์นี้อาจไม่ได้แต่งฟิคนะครับทุกท่าน รอกันต่ออีกนิดเด้อ  :pika10:

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านแว้ววววววววว~

ชุดนั่นคงไม่ใช่ชุดธรรมดาสินะ หึหึหึหึ

อยากอ่านตอนต่อไป!!

ปล. แต่งดีแล้วแต่การเรียบเรียงบางอย่างยังแปลกๆ เน้อ

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

เซย์ เฮลโล่วยามค่ำคื่นค่ะชาวบอร์ดพีเค  :pika01:

ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ก๋วยเองไม่ได้อัพตอนใหม่ของฟิคตามที่ตัวเองกำหนดเอาไว้ (1 ตอน = 1 สัปดาห์)

เนื่องจากว่าอาทิตย์ที่แล้วได้ไปค่ายเขียนบทความวิทย์ ประกอบกับติดเกมส์ osu เลยไม่มีโอกาสได้เขียนตอนต่อไปค่ะ

ผ่านไปซัก 2 สัปดาห์ก็พึ่งมีอารมร์จะเขียนขึ้นมา แต่ก็ลงตามกำหนดไม่ได้ว่าเพราะลนเกินไป จนเผางาน แฮะๆ

ยังไงวันนี้ก็ขอตอบคอมเม้นก่อนนะคะทุกคน (แบบว่าขออู้นิดหนึ่งน้า)

@ サカモト_サトシ - ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่าน ยังไงฟิเลนแต่งหญิงก็สุดยอดสุดๆไปเลยค่ะ (ยังไงก็เห็้นด้วยสำหรับสายซีจงเจริญนะคะ /โดนเสยเป็นเพื่อน)

@ pachi_hikari - คุณเพื่อนจีบได้นะคะ เพราะคุณฟิเลนโดนแปลงเพศไปซะแล้ว ^^"

@ กุลสตรี (beta) - ขอบคุณนะคะสำหรับคำติชม ยอมรับเลยล่ะค่ะว่าไม่ชอบตรวจคำผิดเท่าไร คราวหน้าจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกนะคะ

@ Le Ego - น่ารักไปอีกแบบเลยใช่ไหมล่ะ /เพ้อ

@ マリオネット - อยู่แล้วล่ะค่า /เพ้อหนัก

@ BlueRose - คุณฟิเลนสวยที่สุดอยู่แล้วเน้อ /เพ้อหนักเข้าไปอีก

@ ออมๆ!! - ความลับมันอยู่เสื้อค่ะ ฮี่ฮี่..

@ Pro. Eve ผู้เดินเรือ - คิดว่าคุณฟิเลนคงไม่ยอมกินยาแน่ๆเลย..

@ ไวท์~แอบ~โหด - ขอบคุณสำหรับคำติชมค่ะพี่ไวท์ ยังไงก็ตามยกน้องสาวคุณพี่ให้หนูเถอะค่ะ /โดนพิงกุเสย

@ Maverick - ขอบคุณมากนะสำหรับประกาศ แล้วไอ้คำพูดเรuยกฉันน่ะมันอะไรกันย่ะ !

จบของส่วนตอบคอมเม้นไปแล้ว .. ยังไงก็ตามตอนนี้ตอนแรกเขียนได้ประมาณ 80% ของทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ

คิดว่าอีก 2 วันคงสามารถลงตอนแรกของโรจูได้แล้ว หวังว่าตอนนั้นยังจะมีคนตามอ่านอยู่นะ..OTL

ยังไงก็ พบกันใหม่อีกครั้งนะคะทุกคน

ป.ล.ก่อนจากแปะสปอยนิดหนึ่ง..

“มองอะไรผม..เอ่อ..ดิฉัน นักหนาหรือคะ..”

“ก็..ไอ้นี่มันทำเหมือนดีนี่ลุง”

“โอ๊ย ลุงก็..แค่นี้ทำเป็นห่วงไปได้ ผมแค่จะพิสูจน์เองนะว่ามันเหมือนจริงหรือเปล่า”

“จะเหมือนหรือไม่เหมือนก็อย่ามาทำนี้นะคะคุณเฟอร์ริก !”

Link to comment
Share on other sites

แหม... ไม่ต้องเขินหรอกจ้า ที่รัก หุๆ แล้วก็นะ รออ่านอยู่น้า~

Link to comment
Share on other sites

คำเตื้อนเตือน(นะจ้ะ)

Rateของวันนี้...

์NC -15 (ไม่ได้แปะล่อเด็ก ถึงรู้ว่าต้องมีก็เถอะ - -" )

ดังนั้นใครยังรู้ตัวว่ายังไม่ครบ 15 ขวบบริบูรณ์  เพื่อความสดใสในวัยเด็กของท่าน คิดดูดีๆก่อนนะคะ

แต่ใครอยากจะอ่านก็ตามสบายไม่ห้ามจ้ะ แต่ต้องใช้สติและวิจารณญาณในการอ่านด้วยล่ะทุกคน !


องค์ที่ ๑ เมื่อสาวน้อยเฝ้าฝันถึงความรักอันแสนไกล

เรื่องราวความรักระทมของหนุ่มสาวคู่หนึ่งได้เริ่มต้น ณ เมืองเวโรโน่ ประเทศอิตาลีที่สวยงาม

เรื่องราวความหดหู่สุดทุกข์ทนของผมได้เริ่มต้นขึ้น ณ เมืองที่ไม่รู้จัก ของนครลอยฟ้าที่สวยงามแกมพิลึก

ยังมีสองตระกูลผู้มีอิทธิพลและอำนาจในเมืองแย่งชิงห้ำหั่นกันเสมอมา หนึ่งคือมองตาคิว และสองคือคาปูเล็ต

ยังมีสองผู้อิทธิพลและอำนาจมืด(?)ในมหานครต่างแย่งชิงกันจะเป็นนางเอก หนึ่งคือคานะ และสองคือแอนนา

จนกระทั่งวันหนึ่ง..ในคืนที่จันทราเปล่งแสงทอประกาย มีรัศมีสีรุ้งล้อมรอบ แลดูคล้ายสาวงามนางหนึ่ง

จนกระทั้งวันหนึ่ง..ในวันที่ตะวันทอแสงแรงกล้ากว่าวันไหนๆ จนมีสายรุ้งพันอยู่รอบๆ แลดูคล้ายกับตัวโน้ตในชุดสีรุ้ง

สาวน้อยวัยแรกแย้ม “จูเลียต คาปูเล็ต” ได้เผยโฉมแสนงามของตนในงานเลี้ยงของตระกูล

ชายหนุ่มหน้าซึน “ฟิเลนเซ่ เมเลนเน่” ได้เผยโฉมแสนงาม(?)ของตนในงานกู้วิกฤตทางเงินของร้านพาลาเรล

..เมื่อนั้น..

...โชคชะตาแสนหวานจึงได้บรรเลงขึ้น..

"ผมว่าสุดระทมมากกว่าครับมาสเตอร์"

ฟิเลนเซ่กล่าวขึ้นเมื่อเขาอ่านนิยายเรื่องนี้จบ หัวคิ้วของนักแปรธาตุหนุ่มกลิ้งมากระจุกอยู่กลางหน้าผาก เมื่อนึกถึงสาวน้อยจูเลียต คาปูเล็ต

แม้นิยายคลาสสิกเล่มนี้จะผ่านสายตามาหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่เขาก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าหากนำใบหน้าของตนมาใส่แทนแล้วมันจะเป็นเช่นไร

สาวน้อยคนนี้มักมองโลกในแง่ดีจนเกินไป ผิดกับเขาซึ่งรอบคอบกับทุกสิ่ง เธอช่างฝันถึงความรักอันแสนสวยงามกระทั่งมองข้ามความจริงอย่างที่เขาเห็น  

ทั้งยังไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกยิ่ง ซึ่งเปรียบเทียบกับเขาแล้ว คงเหมือนเอาสีดำและขาวมาตัดกันจนเห็นได้ชัดเจน

“คิดถึงเงินไว้สิฟิเลน คิดถึงประกายสีทองเข้าไว้”

เสียงทุ่มนุ่มดังชึ้นจากทางด้านหลัง เสียงนั้นทรงอำนาจเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของเงินตรา ฝ่ามือคู่หนึ่งบีบนวดไหล่สองข้างของฟิเลนเซ่ให้คลายความตึงเครียด

มาสเตอร์ก้มหน้าเข้ามาใกล้.. ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนรดใบหูนุ่มนิ่มนั้นจนแดงก่ำ คำพูดของมาสเตอร์ช่างทรงอำนาจ

บัดนี้ทุกท่าทีของนักมายากลหนุ่มล้วนตกอยู่ในอำนาจของวาจา ประสาทสัมผัสของเขาเริ่มชาด้าน ไร้ความรู้สึก..ไร้การตอบสนอง

กระนั้นพรายกระซิบผู้แข็งแกร่งยังคงกล่าวถ้อยคำที่แอบแฝงไปด้วยนัยยะน่าสงสัย

“ลองคิดดูสิที่รัก ถ้านายยอมเล่นเป็นจูเลียตล่ะก็ ทุกๆวันๆหลังจากนี้เป็นต้นไป กระเป๋าเงินของนายจะไม่ว่างเปล่า

มันจะเต็มไปด้วยเงินฟ่อนใหญ่ หรืออาจจะเก็บไม่หมดเลยก็ได้ คิดดีๆฟิเลนเซ่ ฉันรู้นายไม่ใช่คนโง่.. คิดดีๆ..”

เสียงกระซิบนั้นแผ่วเบา เบาเสียจนความเงียบทั้งมวลกลืนกินเสียงให้กลายเป็นเพียงความลับ มาสเตอร์หนุ่มปล่อยมือออกจากไหล่กว้างนั้นแล้ว

แต่ชายหนุ่มยังไม่ตอบสนองกับสิ่งใด คำเกลี้ยกล่อมรสหวานปานน้ำผึ้งยังก้องอยู่ในโสต ท่ามกลางผู้คนภายในร้านซึ่งจ้องมองเขาด้วยสายตาต่างๆนานา

เหมือนความรู้สึกหลากหลายนั้นส่งผ่านมาถึงเขา ชายหนุ่มลุกพรวดพราดจนเก้าอี้ที่นั่งอยู่ล้มไปกองกับพื้น ใบหน้าดูจริงจังและแน่วแน่

ฟิเลนเซ่หันไปหาเจ้าของพรายกระซิบ ก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ

“ผมจะทำครับมาสเตอร์!”

“มันต้องแบบนี้สิฟิเลนเซ่ จะมัวชักช้าอยู่ทำไมกัน ไวท์กับอลิเซีย ติดต่อร้านตัดเสื้อ บอกให้เขารีบมาที่ร้านด่วนเลย

เฟอร์ริกจัดการในส่วนประชาสัมพันธ์ ส่วนฟิเลนเซ่กับฉันจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเอง”

“ค่ะ / ครับ มาสเตอร์”

สิ้นเสียงขานรับของเหล่าลูกจ้างและขาประจำร้าน ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยทันที

ฝ่ายเจ้าของร้านพาลาเรลเองก็ไม่นิ่งเฉยเช่นกัน แต่ไม่ทันที่ขาจะก้าวออกจากบริเวณนั้น ก็มีร่างหนึ่งมายืนขวางเอาไว้ ชายหนุ่มมองเขาด้วยความฉงน ก่อนจะเอ่ยถามไป

“มีอะไรงั้นเหรอฟิเลนเซ่?”

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณครับ มาสเตอร์..”

“แล้วมันเรื่องะไรล่ะ ฉันไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระหรอกนะ”

ชายหนุ่มหน้ามนเท้าสะเอวด้วยความรำคาญ สำหรับเขาแล้วทุกเวลานั้นเปรียบได้เหมือนกับเงินตราที่ได้มาอย่างยากลำบาก

จึงไม่อยากจะเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ดังนั้นหากฟิเลนเซ่มีเหตุผลที่ดีมากพอจะผลาญเวลาอันแสนสำคัญได้

ก็คงเป็นเรื่องดีถ้ามันไม่ดีล่ะเหล่ามีดบินน้อยคงจะพุ่งปราดเข้าไปให้เขาแน่นอน

นักมายากลก้มหน้านิ่งอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเงยขึ้นสบกับดวงเย็นชาภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยม เขารู้อยู่แก่ใจว่าการกระทำแบบนี้มีความเสี่ยงอยู่มาก

หลังจากนิ่งคิดได้สักพัก จึงรวบรวมความกล้า ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว และกล่าวคำพูดที่ตนคิดออกมา

“ผมจะต้องได้  80% จากรายได้ทั้งหมดนะครับ”

“คิดดีแล้วเหรอที่พูดแบบนี้ออกมาน่ะ อย่างนายควรจะได้ 40% เท่านั้นก็พอ หรือถ้าดีก็เป็น 10 %

ฉันคิดว่าคนอย่างฟิเลนเซ่คงจะเข้าใจหัวอกคนหาเช้ากินค่ำอยู่หรอกนะ”

ชายเจ้าของร้านยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้  แต่คำตอบที่เขาจะได้รับต่อไปนั้นแทบจะทำให้หุบยิ้มเสียกระไร

“ผมเองก็เข้าใจมาสเตอร์นะครับ แต่ว่าผมก็เล่นเป็นตัวเอกทั้งที 10% มันฟังดูโหดร้ายไปหน่อยนะครับ

ไหนๆเราก็เป็นคนกันเอง ผมจะลดให้จาก 80% เป็น 60 % แทนล่ะกันนะ”

ฟิเลนเซ่ยิ้มตอบ เขามั่นใจกับทุกคำพูดอยู่มาก ตอนนี้ทำได้เพียงรอการตอบโต้จากอีกฝ่าย หากมันเป็นไปตามแผนที่วางไว้

ไม่นานมาสเตอร์จะต้องยอมเขาอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชายหนุ่มก็อยากจะเปลี่ยนรอยยิ้มบนใบหน้าให้เป็นรอยยิ้มแสยะอย่างผู้มีชัยในศึกครั้งนี้

“50 ต่อ 50 มันฟังดูแฟร์กว่านะว่าไหม”

โป๊ะเช๊ะ ! เหยื่อติดกับแล้ว..

“ผมขอยืนยันคำเดิมครับมาสเตอร์”

“งั้น..ฉันขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่อยากให้หน้าสวยๆของนายต้องมีรอยแผลเป็นน่าเกลียด ก็หุบปากไปซะ..”

ปลายมีดคมกริบจ่อลำคอขาวระหงส์ เนื้อโลหะนั้นเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็งในฤดูหนาว ทั้งดูน่ากลัว อันตราย และน่าหวั่นไหว

แต่กระนั้นก็ตามร่างของนักมายากลหนุ่มก็ยังคงหยุดนิ่งไม่ไหวติ่ง ท่าทีดูราวกับศิลาซึ่งยึดมั่นต่อคำตอบของตน จนทำให้ผู้ข่มขู่อย่างมาสเตอร์รู้สึกไม่มั่นใจเสียเอง

“ผมน่ะ..จะไม่เปลี่ยนใจหรอกนะครับ”

“แน่ใจดีแล้วใช่ไหม..”

“ครับ ยิ่งกว่าแน่ใจด้วยซ้ำไป”

“ตกลง..ฉันยอมแพ้ นายได้ 60% ตามที่พูดไว้”

ชายหนุ่มเจ้าของร้านเก็บมีดสั้นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ซึ่งเป็นไปตามที่ฟิเลนเซ่คาดหมายเอาไว้

เขารู้ดีว่าคนอย่างมาสเตอร์นั้นไม่ยอมเสียเขาไปแทนที่จะเป็นเงินที่ทั้งเขาและเจ้าตัวชอบนักหนา ศึกครั้งนี้เขาเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง

และที่สำคัญไปกว่านั้น คำอวยพรยังสมปากพรอย่างที่มาสเตอร์ว่าไว้ คราวนี้ชายหนุ่มคงได้เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ของตนแน่ เพราะมันจะเต็มไปด้วยเงินจนฉีกขาดกระจาย

“แต่ว่าต้องมีข้อแม้นะ”

“ข้อแม้อะไรหรือครับ?”

“หึ ไว้วันงานก็รู้เอง คุณฟิเลนเซ่ ไม่สิ จูเลียต คาปูเล็ต”

มาสเตอร์ตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆก่อนจะเดินจากไป ทิ้งไว้ซึ่งปริศนาให้นักมายากลหนุ่มสงสัย

เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าสุดท้ายสงครามวาทีครั้งนี้ใครกันแน่ที่จะคว้าชัยได้อย่างแท้จริง


‘โอเค มาสเตอร์คุณชนะ..’

ชายหนุ่ม..ไม่สิ หญิงสาวคิดในใจ เมื่อเห็นสภาพตัวเองในกระจก ทรวดทรงองเอวกิ่วคอดเล็กน่ารัก เนินเนื้อนุ่มนิ่มน่าสัมผัส

รวมไปถึงน้ำเสียงหวานใสดั่งระฆังก้อง เธอกลายเป็นสาวน้อย..สาวน้อยผมทองในชุดราตรีสีขาว และกำลังต้องไปเล่นเป็นจูเลียต คาปูเล็ต..

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงปฏิเสธว่าชายหนุ่มคลั่งเงินจะเล่นเป็นสาวน้อยคลั่งรักได้อย่างไร แต่ตอนนี้ก็คงต้องเปลี่ยนสาวน้อยคลั่งเงินแทน

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้วคงเล่นบทนี้ได้ไม่ยาก ในเมื่อก็คลั่งไคล้จนแทบสละชีวิตได้เหมือนๆกัน

ฟิเลนเซ่ทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงในสถานการณ์อันพิลึกพิลั่นเช่นนี้ ครั้นจะออกไปขอความช่วยเหลือก็กลัวว่าจะโดนจับขึ้นหิ้งสิ่งมีชีวิตแสนประหลาด

ถูกมาสเตอร์เอาไปบนบาน ถูกชาวประชาขูดรีดตามเนื้อตัว ยังไม่ต้องจินตนาการถึงคนในร้านอีก แค่นี้ชีวิตของหญิงสาวก็สิ้นหวังจนอยากจะกลั้นใจตายอยู่แล้ว

ในเมื่อไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี ฟิเลนเซ่จึงล้มตัวลงนอน มือก็เอื้อมหยิบบทละครที่วางไว้ข้างๆขึ้นมาอ่าน ถึงแม้จะเจอเรื่องวุ่นวายมาเมื่อครู่ แต่งานก็คืองาน

ไม่สามารถทิ้งได้เช่นกัน เธอจึงเปิดสมุดออกและพลิกไปยังหน้าแรกของเรื่องราว

‘ณ เมืองเวโรน่า ยังมีสองตระกูลใหญ่อาศัยอยู่ คือตระกลูคาปูเล็ตและมองตาคิว แต่ทั้งสองตระกูลนั้นไม่ชอบหน้ากันเลยแม้แต่น้อย

เจอกันเมื่อไรได้มีเรื่องวิวาทจนเจ้าเมืองยังปวดหัวจนไมเกรนกินกบาลไปสามวันซ้อน ทั้งที่ความจริงแล้วทั้งสองตระกูลนั้นสนิทสนมกันเสมอมา

จนกระทั้งในสมัยของทวดของทั้งสองฝ่าย ทวดเจ้าตระกูลคาปูเล็ตได้ไปแย่งอมยิ้มรสสตอร์เบอรี่จากทวดเจ้าตระกูลมองตาคิวมาในสมัยเด็ก

ทำให้ทวดเจ้าตระกูลมองตาคิวผูกใจเจ็บมาตลอด ซ้ำร้ายเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ยังโดนแย่งเทคโอเวอร์โรงงานอมยิ้มรสโปรดตัดหน้าไป

เจ้าตระกูลถึงกับออกปากลั่นว่าชาตินี้จะไม่ยอมญาติดีกับตระกูลคาปูเล็ตอีกต่อไป’

“สมแล้วที่มาสเตอร์เป็นคนเขียน”

หญิงสาวพึมพำอยู่ในลำคอ เธอเริ่มกังวลใจเนื้อเรื่องสุดพิสดารที่กำกับโดยมาสเตอร์เข้าแล้ว แค่อมยิ้มรสแปลกๆถึงกับแค้นกันมาตั้งหลายรุ่น

คิดแล้วก็ชักปวดใจ ฟิเลนเซ่รีบสละความคิดเหล่านี้ออกไปโดยเร็ว ก่อนจะพลิกหน้ากระดาษถัดไป..

‘เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เมื่อมาถึงสมัยปู่เจ้าตระกูล เหล่ามองตาคิวก็ต้องประสบปัญหาหนัก เมื่อโรงงานผลิตปลาร้ากระป๋องถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก

ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัวไปในพริบตา จึงต้องบากหน้าไปยืมเงินกับตระกูลคาปูเล็ต โดยให้สัญญาไว้ว่าหากเมื่อตระกูลทั้งสองมีทายาท

เป็นหญิงและชายพร้อมกันเมื่อใดจะให้สมรสกันเมื่อนั้น แต่เหมือนโชคจะข้างมองตาคิวขณะนั้น เมื่อใดที่ทั้งสองตระกูลมีทายาทใหม่ขึ้นมามักจะเป็นผู้ชายทั้งคู่

หรือหญิงทั้งคู่เสมอ จนกระทั่งถึงรุ่นของเจ้าตระกูลคนปัจจุบัน ปรากฏว่าทั้งสองตระกูลได้ให้กำเนิดลูกชาย-หญิงในเวลาไล่เลี่ยกันไม่นาน

โดยฝั่งมองตาคิวให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่า ‘โรมิโอ’ ถัดมาอีกไม่กี่ปีคาปูเล็ตก็ได้ธิดาชื่อว่า ‘จูเลียต’ ดังนั้นเจ้าตระกูลมองตาคิวจึงไม่สามารถผิดต่อกับคำสัญญา

จึงได้ทำการหมั้นหมายเด็กน้อยทั้งสองไว้ตั้งแต่ยังเป็นทารก และลั่นวาจาไว้ว่าเมื่อใดที่จูเลียตมีอายุครบ 15 ปี จะส่งโรมิโอไปขัดดอก เอ้ย แต่งงานโดยทันที..’

‘จวบจนเวลาผ่านไป 14 ปี โรมิโอเติบโตเป็นหนุ่มหล่อมาดแมน เขาเป็นคุณชายผู้รักความสนุกสนาน และมีเพื่อนสนิทอยู่สองคนคือเมอร์ซิคิวโอและเบนโวลิโอ

ชายหนุ่มทั้งสามเป็นที่หมายปองของสาวๆในเมือง โดยเฉพาะโรมิโอ หญิงสาวทุกคนหวังจะได้แต่งงานกับเขา ไม่เว้นแม้กระทั่งทิบอลแห่งคาปูเล็ต

ลูกพี่ลูกน้องของจูเลียต เขาตกหลุมรักโรมิโอมานานแสนนาน และหวังว่าโรมิโอจะมาเป็นชายเหนือชาย (?)ให้แก่เขา ทิบอลจึงปล่อยข่าวลือว่าโรมิโอเป็นเกย์

ทำให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวโดนสาวหักอกเข้าอย่างจัง และข่าวลือนี้ก็ลอยไปถึงสาวน้อยในกรงทองอย่างจูเลียต สาวน้อยผู้เติบโตมากับรสนิยมชายเหนือชาย

เธอทั้งชื่นชอบและเป็นผู้สนับสนุนอย่างลับๆของรสนิยมนี้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว สาวน้อยจูเลียตจึงปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ เธอได้สะบั้นสัญญาต่อตระกูลมองตาคิว

และยอมหมั้นหมายกับคุณชายร่างอรชรจากเมืองหลวงนามว่าปารีสที่พ่อได้แนะนำมา โดยหวังว่าโรมิโอจะโกรธและมาหาเธอในงานหมั้น จนพบรักกับปารีส

สาวน้อยได้แต่คิดฝันไปไกล โดยหารู้ว่างานเลี้ยงหมั้นที่จะมาถึงนั้นจะก่อเกิดเรื่องราวใหญ่โตตามมา..

“พรู่ดด !!”

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ ฟิเลนเซ่แทบจะกระอักออกมาเป็นสายเลือด ไม่นึกว่าภาพสาวน้อยผู้บ้าคลั่งในรักจะกลายสภาพเป็นเช่นนี้

หญิงสาวเริ่มสงสารโรมิโอขึ้นมาเมื่อคิดว่าจะได้แต่งงานกับหญิงสาวประหลาดคนนี้ แต่เธอก็ต้องกังวลหนัก ในเมื่อต้องแสดงเป็นสาวน้อยคนนี้..

ความคิดในหัวเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ จนเธอต้องกลั้นใจอ่านตอนต่อไปแทน

‘ฝ่ายโรมิโอผู้แสนโชคร้าย เมื่อถูกคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าหักหาญน้ำใจเสียขนาดนี้ เขาจึงรู้สึกแค้นใจ

และปฏิญาณไว้ว่าในเมื่อทำกันเช่นนี้แล้วก็อย่าได้แต่งกันอีกเลย อีกทั้งเขาจะกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลมองตาคิว

โดยการเอาโรงงานผลิตอมยิ้มรสสตอร์เบอรี่ซึ่งทวดของตนได้ถูกแย่งชิงไปกลับคืนมาให้ได้ ดังนั้นโรมิโอจึงร่วมวางแผนกับสหายของเขาทั้งสอง

โดยจะทำการลักพาตัวอดีตคู่หมั้นของตนในคืนงานเลี้ยงฉลอง เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นโรงงานผลิตอมยิ้มพร้อมกับเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อตั้งตนขึ้นใหม่’

‘ณ งานเลี้ยงฉลอง จูเลียตน้อยเฝ้ามองหาแต่โรมิโอ แต่กลับไม่พบเขาเลยแม้แต่เงา เธอจึงพาลอารมณ์เสียไป

และได้ขอตัวกลับไปยังห้องนอนของตนโดยไม่สนใจคู่หมั้นของตนเลยสักนิด เมื่อหญิงสาวเดินกลับมาถึงห้องนอนของตน

เธอจึงอาละวาดใส่หมอนเป็นการใหญ่ ไฟโทสะน้อยๆเริ่มมอดลงแล้ว สาวน้อยผู้คลั่งไคล้ในรสนิยมชายเหนือชายจึงเดินออกไปหน้าระเบียงและกล่าวคำตัดพ้อว่า..

‘โอ้ โรมิโอไฉนท่านใจร้ายได้เพียงนี้..ข้าจัดงานนี้ขึ้นเพื่อได้พบกับท่านยอดรักของข้า..’ เหมือนเทวดาดลใจในขณะนั้นเองโรมิโอก็บังเอิญได้ยินเสียงนี้เข้า

และปีนรั้วเข้าไป ชายหนุ่มก็ได้ตกหลุมรักสาวน้อยทันที ’

‘แต่แผนการที่อุตส่าห์วางไว้ก็ย่อมไม่เสียเปล่า ครั้นจูเลียตเดินกลับเข้าไปเข้าในห้อง โรมิโอจึงได้ปีนต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ

จนเท้าของเขาแตะพื้นระเบียง ชายหนุ่มเดินเข้าไปไกลตัวหญิงสาวผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องราวอันใด ก่อนจะเอ่ยว่า..’

“ลุง..นั้นลุงใช่ไหมเนี่ย”

หญิงสาวหันไปทางต้นเสียงด้วยความตกใจ ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเธอนั้น คือชายหนุ่มผมสีครามหม่น ดวงตาดั่งทะเลมรกตในมหาสมุทรตอนใต้

เขาคือเฟอร์ริก เฟลเอนเดส หนุ่มนักพนันผู้ติดพันในหมัดหนักๆของอลิเซีย ชายที่ยืมเงินไม่เคยคืน กะล่อนเป็นหนึ่ง กวนส้นเป็นสอง

และหนึ่งในคนที่เธอไม่อยากให้เห็นในสภาพเช่นนี้ ที่สำคัญชายหนุ่มไม่ได้มาจากทางประตู แต่ทว่ากลับยืนทางด้านหน้าต่าง

ใบหน้าคมสันมีเหงื่อผุดพรายอยู่เต็ม แสดงว่าเขาคงปีนขึ้นมาแน่ เฟอร์ริกกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว

เขามองเธออย่างไม่มั่นใจเท่าไรนัก จนหญิงสาวผู้ถูกจ้องมองเอ่ยถามด้วยความรำคาญ

“มองอะไรผม..เอ่อ..ดิฉัน นักหนาหรือคะ..”

“ก็..ไอ้นี่มันทำเหมือนดีนี่ลุง”

สายตาของเฟอร์ริกจดจ้องไปยังหน้าอกได้รูปสวยของอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสว่ามันนุ่มนิ่มเหมือนอย่างของจริงหรือไม่ แต่ก็ต้องถูกสาวเจ้าตีมือดังเผียะกลับมา

“โอ๊ย ลุงก็..แค่นี้ทำเป็นห่วงไปได้ ผมแค่จะพิสูจน์เองนะว่ามันเหมือนจริงหรือเปล่า”

“จะเหมือนหรือไม่เหมือนก็อย่ามาทำนี้นะคะคุณเฟอร์ริก !”

“โห ทำเป็นงกแบบผู้หญิงจริงๆไปได้ ผู้ชายด้วยกันเองขอจับหน่อยไม่ได้หรือไง”

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ค่ะ คุณเฟอร์ริก !”

ฟิเลนเซ่ใช้มือของตนปิดบังส่วนล่อแหลมเอาไว้ ดวงหน้าหวานระเรื่อขึ้นสีแดงก่ำ แลดูน่ารักน่าแกล้งสำหรับชายหนุ่มนักพนันยิ่งนัก

เจ้าตัวจึงแสร้งเดินเข้าไปอีกนิด ทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบย่าง สาวน้อยจำเป็นก็จะขยับหนีตามทุกครั้ง จนในที่สุดแผ่นหลังชนเข้ากับกำแพง

ความหวาดวิตกที่ปรากฏบนใบหน้านั้นก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเป็นเท่าตัว กระทั่งเม็ดเหงื่อเม็ดโตไหลย้อยจากหน้าผากผ่านซอกขาวนวลเรื่อยจนถูกผ้าซับไป

ร่างของเฟอร์ริกใกล้เข้ามาทุกที ใกล้เสียจนฟิเลนเซ่รู้สึกถึงลมหายใจของเขาได้

“เรามาทำอะไรสนุกๆกันดีกว่านะลุง”

“มะ..ไม่เอานะคะคุณเฟอร์ริก ยะ..อย่าเข้ามานะคะ”

“อย่าทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลยนะลุง ผมรู้ว่าลุงเองก็ชอบเรื่องแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ”

มือสากลูบไล้แก้มนิ่มไปมา สายตาของเขาประดุจหมาป่ากระหายเหยื่อ สาวน้อยเบื้องหน้าเขาคือแกะผู้โชคร้าย

และคงอีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นอาหารให้เขาขบเคี้ยวเล่น ความหวังเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ จนใกล้ดับแสง

ไม่มีทางใดนอกจากปัดป้องด้วยคำพูดที่บัดนี้ดูไร้ค่า เปราะบาง และน่าสมเพช

“ได้โปรด..อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ คุณเฟอร์ริกอยากได้อะไร ฉันจะยกให้ทั้งหมด แต่อย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะคะ”

น้ำเสียงร้อนรนของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักลง เขาทิ้งระยะออกห่างจากตัวเธอไม่ไกลเท่าไร ก่อนมรกตแสนเจ้าเล่ห์นั้นจะยิ้มพรายจนเก็บไม่มิด

“จริงเหรอครับ..ที่ว่าทุกอย่างน่ะ”

“อ่ะ..อือ ทุกอย่างที่คุณต้องการ”

“งั้นก็ได้ ในฐานะที่ผมไม่ใช่คนมักมากอะไร งั้นจะขอแค่ 3 ข้อล่ะกัน ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวจึงเบาใจลงไปอักโข เธอรอฟังคำเรียกร้องของชายหนุ่มอย่างตั้งใจ ฉับพลันเธอก็รู้สึกว่าโลกหมุนขว้าง

เมื่อตั้งสติจึงรู้ว่าตนโดนอุ้มขึ้นมาเรียบร้อย ครั้นจะโวยวายใส่ ก็โดนพูดขัดขึ้นเสียก่อน

“ข้อแรก..เราจะต้องหนีไปด้วยกัน”

“หะ..หา คุณคิดจะทำบ้าอะไรของคุณน่ะ คุณกำลังจะทำหะ..”

“ข้อสอง ลุงต้องยกหนี้ให้ผมทั้งหมด เน้นว่าทั้งหมด ทั้งต้นและดอกเบี้ย”

“เรื่องแบบนั้นมัน มะ..”

“นั่นล่ะ ข้อ 3 ห้ามขัดที่ผมพูดด้วย”

หญิงสาวถลึงตามองชายเจ้าเล่ห์อย่างรำคาญใจ แต่สัญญายังคงเป็นสัญญา และเธอไม่คิดจะผิดคำพูดที่ตนมอบแก่เขาเท่าไรนัก

จึงจำใจต้องสงบปากสงบคำไป เมื่อเห็นหญิงสาวเป็นเช่นนั้น เฟอร์ริกก็นึกแผนร้ายแผนหนึ่งขึ้นมาในใจ

มือของเขาข้างหนึ่งค่อยๆเลื่อนผ่านไปตามร่างกายของฟิเลนเซ่ ผ่านเอวคอดกิ่วน่าเย้ายวน หน้าท้องเรียบแบน

จนถึงเป้าหมายที่ชายหนุ่มหมายมาดไว้ในใจ นั่นก็คือหน้าอกกลมกลึง มือนั้นจับเนินน้อยอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ จนหญิงสาวในอ้อมอกเขาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

“ยะ หยุดการกระทำเลวทรามของคุณเดียวนี้นะเฟอร์ริก ! ”

RJ.jpg

ดวงหน้าหวานขึ้นสีคล้ายลูกเชอรี่ หญิงสาวดิ้นไปมาในอ้อมกอดของชายหนุ่มแต่มือนั้นยังคงบีบเค้นหน้าอกของเธออย่างหิวกระหาย

ฟิเลนเซ่เม้มปากแน่นเพื่อเก็บเสียงร้องน่าอายของตน เรี่ยวแรงของสาวน้อยพลันถดถอยลงเรื่อยๆ จนร่างเล็กไม่อาจขัดขืนสัมผัสที่รุกเร้าเข้ามา

ปล่อยให้หมาป่าวายร้ายทำตามใจตนกระทั่งพอใจแล้วจึงหยุด

“โห มันเหมือนของจริงเลยนะลุง ลุงยัดด้วยอะไรเนี่ย”

“อะ..ไอ้เด็กบ้า อย่าพูดแบบนี้นะ”

“หรือลุงไม่ได้ยัด แต่ไปผ่าตัดเสริมอึ๋มมา”

“บอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำไงเล่า !”

ฟิเลนเซ่โต้เถียงสุดฤทธิ์ แม้ใบหน้าจะยังไม่หายแดงก็ตาม แต่เธอก็ไม่ต้องการเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตลอด จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น

เฟอร์ริกอดไม่ได้ที่จะลอบขำอยู่ในใจ แต่ทว่าเวลาคงจะเหลือน้อยลงเต็มที เขากระชับอ้อมแขนของตน ก่อนมองหญิงสาวเจ้าหนี้ของตนด้วยแววตาจริงจัง

“ไว้ลุงค่อยเถียงผมทีหลังดีกว่า ตอนนี้คงไม่มีเวลามานั่งเถียงกันแล้ว”

“เอ๊ะ..ว่าแต่จะบอกดิฉันได้ไหมคะว่ามะ..”

“ข้อ 3 นะลุง ห้ามพูดขัดผม โดยเฉพาะตอนที่กำลังจะทำข้อ 1 ด้วย”

“หะ หา อะไรนะคะ ว้าย! ”

ไม่ทันที่หญิงสาวในนามจูเลียตจะกล่าวได้จบและตั้งตัว ชายหนุ่มผู้ลักพาเธอราวกับโรมิโอก็พาเธอวิ่งและกระโดดออกจากทางหน้าต่างไป

โดยเขาลืมนึกไปว่าจากข้างบนถึงข้างล่าง ไม่ต่างกับตึกสามชั้น นั่นทำให้หญิงสาวหวาดกลัว ผิดกลับชายหนุ่ม เขาดูสนุกสนานที่จะทำเช่นนี้

เสียงหวีดร้องของฟิเลนเซ่ดังลั่นไปทั่วเมืองอันแสนสงบนี้  จนกลายเป็นที่กล่าวขวัญในกาลต่อมาว่า

ณ คืนที่จูเลียตถูกโรมิโอลักพาหัวใจ...


มุมเมาๆของกบฏวันศุกร์

กราบขอโทษทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันอย่างลับๆและเปิดเผยด้วยนะคะ..

เนื่องจากว่าช่วงนี้คอมตัวเองเกิดงอนไมยอมเปิดตัวเองขึ้นมา ประกอบกับความขี้เกียจที่ชี้แจงไว้ในเบื้องต้น

จึงให้ทางก๋วยเองเขียนเรื่องนี้ช้าเป็นปกติ ยิ่งช้าคูณสองกันเลยทีเดียว

เลยพลอยทำให้หลายๆฝ่ายต้องลำบากไปด้วย ขอโทษด้วยนะคะ โดยเฉพาะพิงกุและคุณมาเวอร์ริค

จริงๆแล้วตอนนี้กะว่าคงไม่ยาวเท่าไรนัก แต่ปรากฏว่ากลับยาวเอามากๆจนตัวเองยังปิดไม่ลง

ยังไงตอนต่อไปจะพยายามบั่นทอนตัวหนังสือและเนื้อเรื่องให้มีความกระชับมากขึ้นกว่านี้นะคะ

ถ้าเกิดผู้่านคนไหนเกิดมึนหัวกับตอนนี้ขึ้นมา สามารถติดต่อก๋วยได้ทุกเมื่อเลยนะคะ

เพื่อที่จะส่งไฟล์ตัวจริงให้อ่าน กันสายตาเสีย (ตัวก๋วยเองก็สายตาไม่ค่ยดีเท่าไรเหมือนกันค่ะ)

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณพิงกุสำหรับเวลาที่ยืดเยื้อออกไป และคุณมาวินริคสำหรับกำลังใจด้วยนะ

และทุกท่านๆที่ติดตามฟิคเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับคำติชมล่วงหน้าค่ะ

หวังว่าคงได้พบกันใหม่สัปดาห์หน้า บ๊ายบาย  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

โดยรวมบรรยายได้ดีนะเออ ดีแล้วล่ะ สู้ต่อไปนะที่รัก เอาให้จบล่ะ อย่างน้อยมีคนอ่านเยอะๆแบบนี้ มีกำลังใจเยอะเลยล่ะ...

แหม.. มุมเมาๆเนี่ยน่ารักจังเลยนะ /หอมแก้มฟอดใหญ่เป็นรางวัล

Link to comment
Share on other sites

การบรรยายสุดยอดมาก นึกภาพตามได้เลย

เรื่องราวที่มาสเตอร์แต่งขึ้นมันช่างสุดยอดจริงๆ

แง้วๆ หนีตามกันแล้ว(?)

ปล.รูปสวยมากเลย สรุปแล้วหน้าอกยัดหรือเสริมล่ะเนี่ย

Link to comment
Share on other sites

อยากจะบอกว่าชอบลักษณะกา่รบรรยายมาก อ่านได้ไม่เบื่อเลย สุดยอด!!

เอาไปเลย ปิกาจูชูมือ 5 ตัว

:pika10: :pika10: :pika10: :pika10: :pika10:

Link to comment
Share on other sites

มาสเตอร์เป็นคนแบบนี้เองสินะคะ...

[me=Boxhead Ohm]วิ่งหลบคมมีด[/me]

Link to comment
Share on other sites

จูเลียตของเราโดนรัก เอ้ย! ลักพาตัวไปเสียแล้ว  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

จะบอกว่าบรยายได้ดีมากเลย><~ชอบ

แล้วก้มาสเตอร์ค่ะ!!!สะกดจิตฟิเหรอค่ะ!!~

555+ติดตามจ๊า

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.