[Fiction]Fate School Life โรงเรียนวีรชนอลเวง (ตอนที่1)

[herosan]

เอานียายที่ผมแต่งไว้จากเด็กดีมาลงที่นี่นะ เป็นแฟนฟิค Fate ครับ (ตอนนี้ไปรวบรวมข้อมูลอยู่)

เชิญรับชมตอนที่ 1 นะ(อาจไม่ค่อยดีไปหน่อย...)

ตอนที่ 1 : บทต่อของความฝัน

หลัง จากจบศึกสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 ไป กาลเวลาก็ถูกย้อนไปที่ยุคดั่งเดิมของเซเบอร์หรือ อาเธอร์ ซึ่งเป็นช่วงชีวิตสุดท้ายของกษัตริย์อาเธอร์

“ฝ่าบาท”

“ข้านำดาบไปคืนให้สตรีที่ทะเลสาบแล้วพะยะค่ะ”เป็นเสียงของเซอร์เบดิเวียร์ ที่กำลังมองกษัตริย์ของตนด้วยความหดหู่ที่เห็นสภาพกษัตริย์ของตนเอง

“งั้นหรือ”อีกเสียงหนึ่งเป็นของอาเธอเรีย หรือ กษัตริย์อาเธอร์ ที่กำลังรอนาทีแห่งความตาย....

“จงภูมิใจซะเถอะ”

“เจ้าคือผู้ปกป้องชีวิตของกษัตริย์.....”

“เบดิเวียร์”

“เพคะ?”

“หลับลงคราวนี้...”

“คงจะ....”

“...นานหน่อยนะ....”

“ฝ่าบาทเห็นหรือเปล่าเพคะ กษัตริย์อาเธอร์.....”

“บทต่อของความฝันนั้น....”ตาของกษัตริย์อาเธอร์หลับไปอย่างสงบ

ตำนานของกษัตริย์อาเธอร์ได้ปิดม่านลงไป  แต่ทว่า.......

v

v

v

v

v

“จงตื่นขึ้นมา!!!! อาเธอเรีย เพนดรากอน!!!”มีเสียงลึกลับโผล่มาจากภายในหัวของเธอ

!!!!!!

จึงทำให้เซเบอร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจพอสมควร

ภาพ แรกที่เธอเห็นนั่นคือ ผู้ชายที่สวมผ้าคลุมสีดำปกปิดไว้และรอบๆตัวของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ ใบหญ้าอยู่หลายๆชนิดรวมกัน ไม่ว่าเป็นพืชจาก ยุโรป เอเชีย รวมไปถึง พืชจากโลกเทพนิยายก็มี และที่ห่างไกลออกไปมีปราสาทหรูขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าเซเบอร์ด้วย

เซเบอร์ก็ หันไปมองรอบๆ สิ่งที่เห็นกับตาคือ อาคารต่างๆ ซึ่งมีอยู่ทั้ง 8 ทิศ ซึ่งอาคารเหล่านั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่เธอไม่ คุ้นเคย ราวกับว่าเธออยู่อีกโลกหนึ่งจริงๆ

“แล้วที่นี่คือที่ไหน?”อาเธอเรียเริ่มถามด้วยความสันสนอยู่บ้าง

“ที่นี่คือบัลลังก์วีรชนไงล่ะ”ชายสวมผ้าคลุมตอบ

“บัลลังก์วีรชน...... ตอนสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 ไม่ใช่หน้าตาแบบนี้นี่นา”เซเบอร์ตะลึงกับคำตอบของผู้ชายคนนี้

“หรือหรือเปล่าว่าเพราะอะไร.......”คำถามนี้ตอบออกมา เซเบอร์ก็สายหัวเหมือนจะไม่ทราบ...

“เพราะ ว่าท่านเป็นคนทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์ถึง 2 ครั้ง จึงทำให้ดินแดนบัลลังก์วีรชนแห่งนี้เกิดความผิดเพี้ยนไปจากเดิมน่ะสิ!!!”ชาย คนนี้ตอบออกมาราวกับหมดความอดกลั้นมานานเหมือนกับภูเขาไฟปะทุไม่มีผิด

“นั่นมัน......”ดูเหมือนเซเบอร์เองก็นึกออก ว่าครั้งสุดท้ายเธอทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วยน้ำมือของเธอเอง

“รู้ไหมว่า...... จอกศักดิ์สิทธิ์น่ะ มีวีรชนมากมายต้องการขอพรจากสิ่งนี้ทั้งนั้น”ชายคนนี้ตอบเรื่องราวอย่างคร่าวๆ

“เรื่องนั้น ข้าเองก็ทราบดีค่ะ แต่ข้าเองก็มีเหตุผลในของข้าเองค่ะ”เซเบอร์ตอบไปอย่างจริงจัง

“ช่าง เถอะ.......จากผลกระทบนั่นน่ะ จึงทำให้เหล่าวีรชนทั้งหลายไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับท่านไปทำลายจอก ศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ”สิ่งที่เขาพูดทำให้เซเบอร์เอะใจอยู่เรื่องหนึ่ง

“ถ้าท่านไม่ใช่วีรชน แล้วท่านเป็นอะไรล่ะ”เซเบอร์ถามขึ้นมา

“ข้าเป็น 1 ในวิญญาณจอกศักดิ์สิทธิ์ไงล่ะ  แต่ว่าข้าไม่ใช่วิญญาณวีรชนหรอกนะ"เขาอธิบายอย่างคร่าวๆ

“งั้นเหรอ”เซเบอร์จึงกระจ่างข้อสงสัยนั่นขึ้นมา

“เอาล่ะเข้าเรื่องเลยดีกว่า......ที่ดินแดนวีรชนแห่งนี้ โดนผลกระทบนั่นจึงทำให้ถูกเปลี่ยนแปลงกลายเป็นโรงเรียนของเหล่าวีรชนไงล่ะ”

“โรงเรียนของเหล่าวีรชน???”เซเบอร์เริ่มงงขึ้นมาเล็กน้อย

“ใช่ แล้วล่ะ”ชายคนนั้นเปิดแผนที่ออกมา แผนที่ที่เซเบอร์เห็นเป็นโครงสร้างขึ้นมาอย่างลวกๆ แต่ว่าเป็นการบอกข้อมูลเกี่ยวกับสนามที่แห่งนี้ได้อย่างคร่าวๆ

“ขณะนี้ท่านน่ะอยู่จุดตรงกลางนะ”ชายคนนั้นชี้ไปที่แผนที่ไปที่ตำแหน่งตรงกลางของแผนที่

“โรงเรียน วีรชนแห่งนี้น่ะ จะถูกแบ่งโซนเป็น 9 แห่งด้วยกัน ตรงกลางเป็นศูนย์กลางของที่นี่ ส่วนที่เหลือเป็นชื่อตึกอาคารตามคลาสของพวกท่าน...เหล่าวีรชนทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วย เซเบอร์ อาเชอร์ แลนเซอร์ ไรเดอร์ เบอร์เซิร์กเกอร์ แคสเตอร์ แอสซาซิน และพวกระบุไม่ได้”ชายผ้าคลุมดำอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลภายในโรงเรียนแห่งนี้

“พวกระบุไม่ได้??”เซเบอร์เริ่มสงสัยขึ้นมาอีกครั้งนึง

“ที่ นั่นเป็นศูนย์รวมเหล่าวีรชนที่ไม่ได้เข้าพวกใน 1 ใน 7 คลาส ซึ่งมักจะมีคลาสประหลาดๆหลงเข้ามาเช่น อเจนเจอร์ ไงล่ะ”เขาก็ตอบกลับไปอย่างง่ายๆ

“แล้วที่นี่สอนเกี่ยวกับอะไรกันคะ”เซเบอร์ถามด้วยประเด็นหลักในครั้งนี้

“ที่ นี่น่ะสอนเกี่ยวกับการฝึกขัดเกลาการต่อสู้ ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไปไงล่ะ”ชาย หนุ่มเริ่มตอบขึ้นมาอีกครั้ง

“อืม......ทราบแล้วค่ะ”ดูเหมือนเซเบอร์ก็เข้าใจมากขึ้น

“แล้วก็ที่นี่นะ จะทำให้นิสัยธาตุแท้ของบางคนเกิดขึ้นมาด้วย”

“ธาตุแท้???”เซเบอร์อาจงงอยู่เล็กน้อย

“มันจะทำให้บุคลิกนิสัยของคนบางคนอาจถูกเปลี่ยนไปบางอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ”ชายคนๆนั้นก็ยืนอยู่นิ่งๆ

“อย่างเช่น ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของวีรชน ความจริงใจ เปิดเผยตัวเองมากขึ้น.......”เขาอธิบายไปทีละส่วน

เซเบอร์~~~~~!!!

เป็น เสียงที่เซเบอร์คุ้นเคยมากเจ้าของเสียงนั่นคือ ราชาแห่งวีรชน กิลกาเมช กำลังวิ่งเข้าหาเซเบอร์ราวกับเจ้าชายขี่ม้าสีขาวกำลังไปหาเจ้าหญิงสุดที่รัก ประมาณนี้

“นั่น.....ใช่แฟนท่านหรือเปล่า”ชายผ้าคลุมดำถามจากนั้นหันไปมองเซเบอร์ด้วยความสงสัย

“ไม่ ใช่ค่ะ!!!”เซเบอร์ตอบไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เธอกุมหมัดไว้แน่นเหมือนเตรียมชกหน้าเจ้าคนที่ถามเธอเมื่อซักครู่.... จึงทำให้ชายผ้าคลุมดำหันออกไปอีกทางนึง

“คนๆนั้นเป็นศัตรูของข้าอยู่วันค่ำค่ะ”เซเบอร์มองด้วยสีหน้าที่โกรธมากพอสมควร

เพราะ ว่ากิลกาเมชตามตื้อขอแต่งงานกับเซเบอร์มาตั้งแต่สงครามจอกครั้งที่ 4 แถมมาตามหลอกหลอนขอโผล่ออกมาขอแต่งงานในศึกสงครามจอกครั้งที่ 5 อีกต่างหาก!!!

“เป็นอย่างงี้เองเรอะ”ชายผ้าคลุมดำก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของเซเบอร์ขึ้นมา

“เดี๋ยวฉันขอไปตามคนๆนึงนะ”

“ทราบแล้วค่ะ”

จากนั้นชายผ้าคลุมสีดำเดินจากเซเบอร์ไป

ในช่วงขณะเดียวกันนั่นเอง........

“ยอด รักของข้า..... อุ๊บ!!!”ขณะที่กิลกาเมชวิ่งหาเซเบอร์อยู่ จู่ๆมีโซ่คู่ใจของกิลกาเมชพันธการร่างของเจ้าของโซ่เส้นนี้ จึงทำให้กิลกาเมชล้มลงไปอย่างไม่เป็นท่า หมดความเกรงขามราชาวีรบุรุษไปจนหมด

“กิลกาเมช ท่านนี่ไม่ไหวเหมือนเดิมเลยนะครับ”เป็นเสียงของเด็กหนุ่ม

จากด้านหลังของกิลกาเมชมีคนโผล่ออกมา เป็นเด็กหนุ่มผมสีเทาอายุราวๆ 13 – 14 ปี หน้าตาราวกับตุ๊กตาน่ารัก แล้วเขาเดินมาหาเซเบอร์

“สวัสดี ครับ ผมชื่อว่า เอนคิดู มาจากคลาสอาเชอร์เช่นเดียวกับกิลกาเมชครับ......”เอนคิดูแนะนำตัวเองอย่างสุภาพ ทำหน้าตาราวกับเด็กซื่อ ส่วนเซเบอร์เองก็ตะลึงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่เคยเจอเอนคิดูเลยซักครั้ง

“ยินดีที่รู้จักนะ”เซเบอร์ก็ตอบรับไปตามน้ำ

“งั้น ผมขอพา (ลาก) กิลกาเมชกลับโรงเรียนก่อนนะครับ”เด็กผู้ชายผมขาวลากกิลกาเมชไป แต่เรี่ยวแรงของเด็กคนนี้ผิดกับรูปร่างที่เห็นเหลือเกิน ลากกิลกาเมซอย่างกับของเล่น...

หลังเอนคิดูพาตัวไปแล้ว ชายผ้าคลุมสีดำเดินมาพร้อมกับ ผู้หญิงผมทองสวมชุดเกราะอัศวิน

“ดูเหมือนชายคนนั้นจะได้ผลกระทบจากจอกที่ถูกทำลายไปไงล่ะ”ชายผ้าคลุมดำมองไปทางกิลกาเมชที่พึ่งถูกลากออกไป

“ถูกผลกระทบเหรอคะ”เซเบอร์เองก็เริ่มสนใจประเด็นนั่นขึ้นมา

“สุด ยอดราชาแห่งวีรชนน่ะ ได้รับผลกระทบจากจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เลยทำให้ นิสัยหยิ่งยโสโอหังทั้งหลายถูกลบหายไป จนกลายเป็นคนบ้าธรรมดาๆไปคนนึงแล้วน่ะสิ ฉันเองไม่รู้ว่าเขาถูกเปลี่ยนไปทางไหนกัน”

“งั้นเหรอ.....”เซเบอร์เองก็มองไปทางศัตรูเก่าอย่างกิลกาเมชด้วยสายตาอย่างเวทนา

ระหว่างที่ชายผ้าคลุมอธิบายนั่นเองดูเหมือนเขาเพิ่งขึ้นมา

“เดี๋ยวก่อนสิ พอดีว่าทางฉันเองก็มีงานยุ่งๆตั้งหลายเรื่อง......”เขาเริ่มกระสันกระส่ายด้วยความรีบร้อน

“ฉันจึงให้คนๆนี้มาเป็นไกด์ทัวร์รอบโรงเรียนแห่งนี้ให้นะ”ชายผ้าคลุมดำเริ่มแนะนำผู้หญิงคนนี้

“ฝากจัดการเรื่องนี้ด้วยล่ะ วีรสตรีแห่งฝรั่งเศส”ชายคนนั้นพูดกับผู้หญิงผมทองคนนั้น

“รับทราบค่ะ”ดูเหมือนเธอจริงจังอย่างเต็มที่

“สวัสดีค่ะ”ผู้หญิงผมทองทักทายเซเบอร์อย่างสุขภาพ

“ฉันชื่อ ณาน ดาร์ก หรือ โจน ออฟ อาร์ค ค่ะ”

......To be continue....

[Spirit]

เรื่องจอกศักดิ์สิทธิ ผมยังไม่เคยดูเลยนะ ส่วนการบรรยายของคุณนั่นจัดว่าดีแล้วนะ พยายามต่อไป

[โฮมุปอร์]

:pika01: ยินดีต้อนรับเข้าหมวดฟิค(เคอะ)~ ฟิคแรกที่ลงบอร์ดนี้ใช่ไหมเอ่ย~ 

เท่าที่อ่านดูวางเหตุการ์ณได้ดีทีเดียวแหละ

ติดตรงที่คำบรรยายเล็กๆน้อยๆ ภาพประกอบความจริงไม่แนะนำให้ใช้ระหว่างเนื้อหานะครับ

อาจจะเปลี่ยนเป็นการบรรยายตัวละครอย่างละเอียดจะดีกว่ามากนะครับ ~

ว่าแล้วก็... จะติดตามนะครับ~

เอาไปปิกาจูวยิ้มแฉ่ง 3 ตัว

:pika01: