Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

*บทสรุป ส่งท้าย* >ปิดตำนาน< fic วิบัติโลก หายนะแห่งดวงดาว


varinne

Recommended Posts

แว้บมาอ่านถึงตอน 2...

ซากุราอิน้อยของเราไปหลงอ.หลงตัวเองไม่เต็มเต็งนั่นซะแล้ว!!!

ติดตามต่อไป อ่อค...

ปล. เดี๋ยวไล่อ่าน ไปนอนก่อน...

จ้า ^_^

การเดินทางไปยังประเทศไทยของพวกเขาจะเป็นยังไงน้า

ถ้าจำไม่ผิด มีผู้เสียสละไปคนนึงใช่ป่าวหว่า

ใช่แล้วละ คนๆนั้นคือ...!!

เจอภัยพิบัติขนาดนั้น ท่านครูก็ยังไม่ลืมสั่งนักเรียนให้ถอดรองเท้าอีกนะ ชู่~ มารยาทดีเหลือเกิน

ทั้งๆที่เคยอ่านมาแล้ว แะรู้เนื้อเรื่องดี แต่มันก็อดลุ้นระทึกเรื่องราวต่อไปของพวกเขาไม้ได้เลยนะเนี้ย~!!

ขอบใจจ้ะ มีอยู่ 52 ตอน อีกยาวเลยเนอะ ^_^

มาต่อกันเลยคะ >_<

ตอนที่ 5 เฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้าย

โชคดีที่บ้านของฮารุอยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ

พระอาทิตย์ตกดินแล้ว นี่เป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ทุกคนวิ่งฝ่าสิ่งมีชีวิตสีขาว และเหล่าม้าสีขาวสว่างไป ท่ามกลางแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าข้างทางที่จะเปิดตามเวลา แต่แล้วก็มีม้าสีขาวตัวหนึ่ง... วิ่งมาทางพวกเขา

วิ่งเร็ว! มันเห็นเราแล้ว!

ริวโนะสั่ง เขาคอยมองข้างหลังตลอดเวลา ขณะที่วิ่งอย่างสุดแรงเกิด

มะ... ไม่จริง.. จะทำไงดี

เฟลอร์ร้อง

นั้นไง ถึงประตูสนามบินนาริตะแล้ว!

แต่ทว่า ประตูสนามบินถูกปิดสนิท มีเพียงแผ่นกระจกหนาที่กั้นข้างนอกกับข้างในสนามบินเท่านั้น พวกเด็กๆและฮารุต่างทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง ม้าสีขาวเคลื่อนที่ตามมาอย่างรวดเร็ว ราวกับวิญญาน...

คราวนี้ริวโนะจึงได้เห็นลักษณะของมันจริงๆ

มันมีรูปร่างคล้ายม้าสีขาว สว่างหากแต่โปร่งใสราวกับวิญญาน ดวงตาสว่างโร่ด้วยสีขาวราวกับไร้จิตวิญญานและความรู้สึก ช่วงอกเหมือนถูกคลุมด้วยผ้าขาวขาดวิ่น ยามที่มันเคลื่อนที่ผ้าจะไหวเป็นริ้วๆช้าๆแต่ดูสวยงาม หากแต่พวกมันไม่มีขา!! ศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับการเคลื่อนที่ของพวกมันคือ ลอย!

เด็กๆ ถอยออกไป!

ฮารุสั่ง หลังจากนั้น เขาก็กำมือ จ้วงลงไปที่ประตูเต็มแรง เศษกระจกแตกกระจายและกระเด็นไปทั่วบาดมือของเขาจนเลือดอาบ ถึงแม้ว่ามันจะชาไปทั่วทั้งมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บน่าดูเลยล่ะ เขาหันหน้าไปทางเด็กๆอย่างเป็นห่วง นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ และไม่ใช่เวลาที่จะห่วงตัวเองด้วย

ทุกคน!รีบวิ่ง เร็ว

ฮารุสั่ง ทุกคนวิ่งเข้าไปในสนามบินได้แล้ว ริวโนะคว้าเก้าอี้แถวพนักงานขึ้นมาได้ เขาขว้างไปที่ม้าสีขาวเต็มแรง ทว่าเก้าอี้กลับทะลุผ่านม้าสีขาวไป และร่างสว่างก็เคลื่อนที่เร็วขึ้น

ริวโนะได้ทำอะไรบางอย่างที่ไม่ควรทำลงไป เขาทำให้มันโกรธ!

Nightmare (ฝันร้าย) เหรอ?

เด็กชายได้แต่พึมพำ

อาจารย์คะ! เฮลีคอปเตอร์อยู่ชั้นบนสุดคะ

ซากุระอิร้อง

ทุกคนรีบวิ่งขึ้นบันไดไป ผ่านเหล่าแมลงสีขาวหลายตัว ม้าสีขาว 2-3 ตัวที่ลอยอยู่แถวนั้นก็รีบเหาะตามพวกเขาไป

เฟลอร์หันมามองข้างหลัง เธอได้แต่วิ่งต่อไปเรื่อยๆ กัดริมฝีปากจนเลือดไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 3 ร่างสว่างก็ลอยมาประชิดตัวพวกเขาแล้ว

วิ่งเลี้ยวซ้ายคะ! เลี้ยวซ้าย!

ใครบางคนตะโกนขึ้น เมื่อทุกคนทำตาม จึงออกนอกทางวิ่งของพวกมันได้ ม้าเหล่านั้นก็ลอยตามเส้นทางของตัวเองต่อไป ราวกับไม่สามารถควบคุมการเลี้ยวของตัวเองได้

แฮ่ก... แฮ่ก.. ผู้หญิงในเครื่องแบบนักบินคนหนึ่ง ยืนหอบแฮ่ก

คุณคือ? ฮารุเริ่มถาม

คุณนั้นแหละใคร!.. เข้ามาที่นี่ทำไม!

แต่ผู้หญิงคนนั้นชิงถามขึ้นก่อน

ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณคุณก่อนที่ช่วยพวกเรา

ฮารุเอ่ย

แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลาจะแนะนำตัว...

ถ้างั้นพวกคุณจะเข้ามาที่นี่ทำไม จะเข้ามาขโมยของเหรอ!

หญิงสาวใช้มือทุบหน้าผากตัวเอง

ม้าพวกนั้นรู้จักวิ่งขึ้นมาที่ชั้น 2 แล้ว อีกไม่นานมันก็จะวิ่งขึ้นมาที่ชั้น 3,4,5 พวกเราจะไม่รอดแล้ว พวกเรา..

ไม่คะ ยังมีอีกทางหนึ่ง

ซากุระอิเถียง

คุณไม่ได้ดูทีวีหรือไง?

แต่เฟลอร์แทรกขึ้นมา

พอเถอะพวกเด็กๆ ฉันจะพูดเอง

ฮารุเอ่ยขึ้น เพราะเกรงว่าจะเสียเวลาไปมากกว่านี้

มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกพวกเราทางทีวีว่า เธอมีฐานลับที่จะช่วยให้รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ได้ ฐานลับนั้นอยู่ที่ประเทศไทย ถ้าเราไปถึงที่นั่นได้ทุกคนจะรอด!

พวกเราต้องการเฮลิคอปเตอร์!

ซากุระอิพูด

และต้องการคนขับอย่างคุณด้วย

เฟลอร์ขอร้อง ได้โปรด

หญิงสาวมองพวกเขาอย่างลังเล

ฉันสามารถเชื่อพวกคุณได้ไหม

เวลาเหลือไม่มากแล้วนะครับ

ฮารุเอ่ย ด้วยแววตาอ้อนวอน

เมื่อเห็นความหล่อของชายหนุ่ม บาดใจหญิงสาวซะจนกระจุยแหลก

ตกลง... ฉันจะเชื่อพวกคุณ

หญิงสาวเริ่มแนะนำตัว

ฉันชื่อ มิซาเอะ โคจิโน่ เฮลิคอปเตอร์อยู่ที่ชั้น 5 พวกเราต้องรีบ!

แล้วหญิงสาวก็วิ่งนำทุกคนไป

ท่ามกลางแมลงสีขาวอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง พวกเขาต้องวิ่งไม่ให้เหยียบพวกมัน บางทีการเหยียบพวกมันจนขี้เละ อาจกลายเป็นการฆ่าคนไปถึงหนึ่งคน แต่ช่างมันเถอะ จนกระทั้ง พวกเขามาถึงชั้นดาดฟ้า

มีเฮลิคอปเตอร์ลำเล็กอยู่ลำหนึ่ง จอดอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงกลางของพื้นที่กว้างบนดาดฟ้า

เฮลีคอปเตอร์ลำนี้เล็กมากคะ ความจริงมันนั่งได้แค่ 2 คน ไม่รวมคนขับ แต่พวกคุณมากัน 4 คน ต้องนั่งเบียดกันหน่อยนะคะ

หญิงสาวเอ่ยพลางขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับ และจับคันบังคับเตรียมพร้อม

ขึ้นมาเลยคะ!

เมื่อทุกคนขึ้นมาจนเกือบครบ เหลือแต่ริวโนะที่กำลังจะขึ้น ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังเคลื่อนที่ขึ้นสู่ท้องฟ้า ริวโนะนิ่งคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะปล่อยมือและกระโดดลงสู่พื้นอย่างเก่า

ริวโนะ ขึ้นมาสิ ริวโนะ!

ซากุระอิร้องอย่างขวัญเสีย ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนตัวออกห่างจากดาดฟ้าทีล่ะน้อย

เหอะ... เฮลิคอปเตอร์อะไรน่าเกลียด ลำเล็กนิดเดียวไว้สำหรับให้มดนั่งหรือไง ฉันน่ะ ไม่อยากขึ้นไปนั่งเบียดหยั่งกะปลากระป๋องแบบนั้นหรอก! แค่ขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนก็เกินพอแล้ว ไม่อยากv.i.p.ขึ้นไปเป็นปลากระป๋องบนท้องฟ้าด้วย คุณมิซาเอะ คุณก็อีกคนหนึ่ง คุณนี่บ้าจริงๆเป็นคนขับเฮลีคอปเตอร์ภาษาอะไรกัน ไม่เคยรู้หรือไงถ้าน้ำหนักเกินเฮลิจะตกน่ะ!

เด็กบ้า! งั้นอย่าขึ้นมานะ!

มิซาเอะตะโกนอย่างอารมณ์เสีย

ริวโนะ!

ฮารุตะโกน

คิดอะไรบ้าๆน่ะ ขึ้นมาเดี๊ยวนี้ ตอนนี้ยังทัน!

ได้โปรดริวโนะ

ดวงตาของเฟลอร์แสดงความเสียใจยิ่ง

ฉันรู้ว่าแกตัวเบาจะตาย ขึ้นมาน้ำหนักไม่เพิ่มหรอก อีกอย่างหนึ่ง ที่ผ่านมาฉันขอโทษนะ แต่อย่าทำแบบนี้สิ เจ้าบ้า!

ขึ้นมา ริวโนะ ขึ้นมา! เสียงของซากุระอิเริ่มไกลออกไป...

ริวโนะได้แต่ยืนนิ่ง ถึงสีหน้าจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆนอกจากความอวดดี แต่จริงๆแล้วในใจลึกๆของเขาแอบยิ้ม... ยิ้มให้กับทุกคนที่จะรอดชีวิตในไม่ช้า แต่คงต้องยกเว้นแต่ตัวเขา... เฮลิคอปเตอร์ลำนั้น บินจากไป... ท่ามกลางเสียงร้องเรียกอย่างหมดอาลัยของพวกเขา บินจากไป... จากไปไกลจนลับสายตา

เขาถูกทิ้งมาครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ? ริวโนะคิด คนแรกที่ทิ้งเขาไปคือพ่อแม่ ต่อจากนั้นคือญาติพี่น้อง ต่อมาก็เป็นเพื่อน ครูบาอาจารย์ และทั้งโรงเรียน... และ ... คนทั้งโลก....

และในตอนนี้ที่เขาตัดสินใจทิ้งตัวเอง ในเวลานี้เขาก็ไม่เหลืออะไรให้ถูกทิ้งอีกแล้ว

และถ้าเขาจะอยู่โดดเดี่ยวต่อไป มันก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ จริงไหม?

ริวโนะยังคงคิด... ดวงตาของเขามองค้างไปที่ท้องฟ้า จุดที่เฮลิคอปเตอร์บินหายไป... เขาจะคิดต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย เพราะบางที.. นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้คิด... ก่อนที่จะกลายร่างเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้

ถ้าเรากลับกลายเป็นแลงสีขาว ที่เคลื่อนที่ได้อย่างเชื่องช้า... เราจะเป็นอย่างไรกันนะ บางที ถ้าเรากลายเป้นแบบนั้น... เราอาจไม่เหลือความคิดที่เป็นของตัวเอง ความทรงจำอาจสูญหายไปทั้งหมด และบางที.... ชีวิตของเราก็อาจจะดับสูญไปด้วย... เหลือเพียงแค่คราบสีขาวที่เคลื่อนที่โดยไร้วิญญานและไร้ความสำนึกคิดเท่านั้น

นี่สินะ.... ที่มนุษย์ทุกคนกลัวมากที่สุด... คือความตาย

แต่สิ่งที่มนุษย์ทุกคนกลัวยิ่งกว่านั้น คือ การที่ตัวเองต้องสูญหายไป...

ริวโนะ มองไปบนฟ้า จุดที่เฮลิคอปเตอร์บินลับไป และยิ้มจางๆ

ขอให้ทุกคนปลอดภัย... ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แทนฉันด้วยนะ!!!

จบตอนที่ 5

เปรียบเทียบฟิคเก่ากับฟิคปัจจุบันแล้ว อืมม... ช่างต่างกันมากจริงๆ =w= level up!!!

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่ 6 ความทรงจำจากประเทศไทย

แม่ฮะ... แม่.. ได้โปรด อย่าเป็นอะไรเลยนะฮะ คุณแม่!

ลูก... หนะ.. หนีไป ทิ้งแม่ไว้ที่นี้ ลูกหนีไป!

ไม่นะ!! แม่!

อย่าแตะต้องตัวแม่!

สิ้นเสียงของเธอ ร่างของหญิงสาวก็เปล่งแสงสว่าง และกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตสีขาวไป

แม่!!!!!

นี่คือ 1 ในความทรงจำ ที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือนได้เลยในชีวิต มันเกิดขึ้นอย่างสดๆร้อนๆ ราวกับว่าพึ่งเกิดเมื่อวินาทีนี้เองทั้งๆที่มันเลยเวลามากว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ซาโยเนะ โคนัส ใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา เขารู้ดีว่าเวลาอย่างนี้ไม่ควรจะร้องไห้เป็นเด็กๆ อีกประการที่สำคัญก็คือ เขาเป็นลูกผู้ชายนะ เขาจะร้องไห้ไม่ได้!

สายตาของเด็กชายวัย 17 ปี มองทอดลงไปเบื้องล่างอย่างเหม่อลอย เขานั่งอยู่บนดาดฟ้าของตึกๆหนึ่ง สูงเสียจนราวกับว่าทั้งโลกนี้เหลือเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังเหลือรอดมาได้

แล้วเขาก็นั่งคิดไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมาย และอับจนต่อหนทาง...

พ่อของโคนัส ทิ้งเขาและแม่ไปมีรักใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นทำให้หัวใจของแม่แทบแหลกสลาย เท่าที่ตอนที่เขาอายุ 6 ขวบพอจะจำความได้ แม่ต้องทำงานหนักเพื่อเขาและเลี้ยงดูเขาด้วยความอบอุ่นเท่าที่แม่คนเดียวจะทำเพื่อลูกได้ แต่เขารู้... ว่าลับหลังแม่จะหลบไปร้องไห้คนเดียวเกือบทุกวัน จนกระทั้งเมื่อพ่อจากไปได้ 5 ปีแล้ว แม่จึงเข้มแข็งขึ้น แต่แม่ก็ต้องทำงานหนักทุกวันจนปัจจุบันเขาอายุได้ 17 ปี

ดังนั้น... แม่จงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโคนัสเลยทีเดียว

โคนัสพยายมแบ่งเบาภาระทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างจานถูบ้านซักผ้า ทำทุกอย่างที่พอจะทำได้ พออายุได้ 15 ปี เขาก็เริ่มทำงานพิเศษ ชีวิตของเขาอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น คือแม่และเขา ถูกต้องแล้วล่ะ เขารักแม่มาก

และตอนนั้นที่ม้าสีขาววิ่งผ่านร่างของแม่ไป แม้ว่าเขาจะร้องเรียกสักเท่าไหร่ก็ไม่อาจได้แม่คืนมา... สิ่งเดียวที่แม่ปรารถนา กลับเป็น ขอแค่ให้เขาปลอดภัยเท่านั้น...

หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาจึงรีบวิ่งไปยังตึกที่สูงที่สุด คือ ตึกใบหยก แห่งนี้

โคนัสคิดไม่ออกเลยว่าหลังจากนี้ เขาต้องทำอย่างไรดี หรือเขาทำได้แค่ นั่งรอให้ตัวเองกลายพันธุ์ไปแค่นั้น?

ท่ามกลางความมืดสนิทของท้องฟ้า สายตาของเด็กชายมองทอดลงไปเบื้องล่าง ดวงไฟข้างล่างยังคงสว่างอยู่ สิ่งมีชีวิตสีขาวเกลื่อนไปทั่วท้องถนน ขนาดเท่าแมลงตัวเล็กหากมองจากดาดฟ้า และม้าสีขาวสว่างหลายตัวที่ลอยวนไปเวียนมาเพื่อล่าเหยื่อ แต่แล้ว.. เขาก็พบกับความผิดปกติอย่างหนึ่ง

มีร่างเล็กๆร่างหนึ่ง วิ่งฝ่าพวกมันไป ร่างนั้นคือเด็กชายอายุประมาณเท่าเขา ดวงตาของโคนัสจับที่ร่างของเด็กชายคนนั้น เขาวิ่งหลบม้าสีขาวไปมาอย่างทุลักทุเลจนกระทั้งสายตาของเขามองผ่านขึ้นไปบนดาดฟ้า

เฮ้! นายนะ ผุ้รอดชีวิต!

เด็กผู้ชายคนนั้นตะโกนสุดเสียง แต่นั้นทำให้โคนัสงงงวยเป็นอย่างยิ่ง

รอก่อนนะ! ฉันจะขึ้นไปช่วยเดียวนี้แหละ!

พูดจบ เด็กผู้ชายคนนั้นก็รีบวิ่งเข้าตึกที่โคนัสอยู่ไป เด็กชายที่อยู่บนดาดฟ้าได้แต่สับสน เมื่อกี้เด็กผู้ชายคนนั้นบอกว่าจะมาช่วยเหรอ? บ้าหรือเปล่า ในสถานการณ์แบบนี้จะช่วยอะไรได้ มันเป็นไปไม่ได้นอกจากต้องรอการกลายพันธุ์อย่างเดียวไม่ใช่เหรอ!

ความหวังของนายนะ มันผิดที่แล้ว!

รออยู่ไม่นาน ร่างของเด็กชายคนนั้นก็วิ่งหอบแฮ่กๆมาถึงที่ดาดฟ้าแล้ว

สวัสดี ฉันชื่อ เซจิโระ มิตซิกิ เรียกสั้นๆว่าเซจิก็ได้ แล้วนายล่ะ?

ซาโยเนะ โคนัส มองเซจิอย่างไม่คาดฝัน

ฉันชื่อซาโยเนะ โคนัส... แต่ว่านาย... โดนพวกมันแตะตัวหรือยัง?

โคนัสหมายถึงม้า

ไม่หรอกน่า ฉันยังไม่ติดเชื้อไวรัสนั่นหรอก ไม่ต้องกังวล ฉันดีใจที่ได้เจอกับนาย ผู้รอดชีวิตแห่งประเทศไทย ใช่แล้ว พวกเราคือผุ้รอดชีวิต นายกับฉันต้องรอดชีวิตจากเหตุการณ์ประหลาดน่าเหลือเชื่อแบบนี้! เซจิพูด สลับกับการหอบแฮ่กจนโคนัสเกือบคิดว่าเขาอาจจะหัวใจวายตายก่อน แต่ถึงยังไงก็เถอะ

นายน่ะ บ้าหรือเปล่า! ทางรอดน่ะหมดแล้ว ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจอแต่ม้า สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์!

แกแหละงี่เง่า! ทีวีไม่รู้จักดู มีเด็กผู้หญิงปริศนาคนหนึ่งในทีวีบอกว่า มีฐานลับปลอดภัยจากไวรัสพวกนั้น แต่ฐานลับน่ะอยู่ใต้อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะสงครามในเมืองหลวงของประเทศไทย นายคิดว่าเป็นที่ไหนล่ะ?

โคนัสคิด แต่ไม่ทันที่เขาจะตอบ เซจิก็ชิงขึ้นมาก่อน

นายไม่ต้องคิดหรอก เสียเวลา เพราะฉันคิดมาให้แล้ว ที่นั้นคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไง! อยู่ตรงใจกลางของกรุงเทพ ฐานลับต้องอยู่ใต้ที่นั่นแน่ และจากตึกใบหยกตรงนี้วิ่งไปได้ไม่นานก็ถึง!

แต่... เด็กช่ายขัด แต่.. ถึงยังไง ฉันก็ไม่กล้าลงไปข้างล่างนั้นอีกครั้งอยู่ดี

กล้าหาญหน่อยดิ!

เซจิโวย

ไม่เป็นไรหรอก มีฉันอยู่ทั้งคน ฉันต้องการนายไปเป็นเพื่อน นายเข้าใจไหม! หากว่านายไปกับฉัน นายก็จะรอดทำไมนายถึงไม่ลองเสี่ยงดวงดูล่ะ?

โคนัสคิด ถึงเขาจะอยู่บนดาดฟ้านี้ต่อไปมันคงไม่มีอะไรดีขึ้นมา ม้าสีขาวจะลอยสูงขึ้น และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป

ตกลง ฉันจะลองเชื่อใจนายดู!

ในที่สุด โคนัสก็พูดขึ้น ดวงตาเริ่มเปล่งประกายความมุ่งมั่นอีกครั้ง

เยี่ยม! ต้องอย่างนี้สีเพื่อน ตอนนี้เรามีเวลาไม่มากแล้ว นายทำใจได้สีนะ พวกเรารีบไปกันเถอะ!

เซจิฉุดมือโคนัสและวิ่งลงจากดาดฟ้า

ทั้ง 2 จะต้องวิ่งผ่านม้าสีขาว และสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ไป จุดมุ่งหมายของพวกเขาทั้ง 2 เหมือนกัน เพราะนั้นเป็นทางรอดชีวิตทางสุดท้าย! นั้นคือ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ!

จบตอนที่ 6

พระเอกของเรื่อง คนที่ซวยที่สุดในเรื่อง ออกโรงละ =w= ขอโทษนะ Bluewind T_T

Link to comment
Share on other sites

ริวโนะ...

นายเป็นลูกผู้ชายตัวจริงอย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย

พระเอกของเรื่องออกมาแล้ว~

Link to comment
Share on other sites

เซจิโระออกโรงแล้ว~~~ พวกเราจงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย~

ในที่สุดก็ได้อ่านซะที ขอโทษครับๆๆๆๆ :pika12:

Link to comment
Share on other sites

  • 2 months later...

ถ้าให้ลงต่อไปละก็สงสัยคงทำไม่สำเร็จแน่ๆเลย

- -

เพราะว่าเรื่องนี้แต่งจบแล้วน่ะ

ก็เลย อัพโหลดไฟล์ อ่านได้เลยนะ

>_<  http://file1.uploadfile.biz/i/MHEXMEIIEIMEWD

ขอบคุณทุกคนน๊ะ

ถ้าไงขอลงภาพประกอบฟิคของเรื่องนี้ไปด้วยละกันนะ

d381980e.png

e53b7cc0.png

9652f6b7.png

b1757117.png

Link to comment
Share on other sites

และภาพสุดท้าย ของฟิคเรื่องนี้ (ได้ฟังก็เศร้าเลยละสิ =w=")

วาดวันนี้เองละนะ

ขอแนะว่า ถ้าไม่อยากเจอสปอย อ่านให้จบก่อนชมภาพนี้นะ ^ ^

farewell.jpg

ตอนวาดน้ำตาซึม แบบว่า มันเศร้ามากๆอะ T_T

ขอบคุณที่ติดตามชมผลงานมาอย่างยาวนานนะ >_<

Link to comment
Share on other sites

เซจิหล่อที่สุด....[me=bluewind]โดนตบ[/me]

สปอยภาพมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าให้ดีกว่านั้น ลงให้จบด้วยนะคะน้าจัง :pika01:

ปล.ไอ้เราก็นึกว่าลงตอนใหม่แล้วซะอีก เห็นคาน่าจังมาโพส = =

Link to comment
Share on other sites

บลูวินจ๊ะ

คะน้าเค้าลงเป็นไฟล์ให้โหลดอ่านจนจบเลยนะจุ๊

ทางนี้โหลดไปเมื่อวันเสาร์เพิ่งอ่านจบงับ

ที่เคยชมริวโนะไปเมื่อครั้งก่อน ขอถอนคำพูด

อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยกับตอนสุดท้าย T^T

สาเหตุของเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือเธอจริงๆด้วยสินะ

ลาก่อนนะกับตำนานอันแสนเศร้า T T

ฉันจะไม่ลืมเรื่องของพวกเธออย่างแน่นอน

Sayounara~

Link to comment
Share on other sites

มองภาพสุดท้าย...

Me/ ถูกความเศร้าฆ่าตาย...

Link to comment
Share on other sites

*เผลอลงซ้ำ..

อ่านฟิคเฉพาะตอนจบ.....ไม่กล้าจะย้อนขึ้นไปอ่าน....มองภาพสุดท้าย...

Me/ ถูกความเศร้าฆ่าตาย...TT-TT

ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ก็ปล่อยให้เป็นนิยาย Never Ending ซะก็ดีอยู่หรอก แง~!!!!!!!!!!!!!! :pika06:

Link to comment
Share on other sites

/-me มองดูมือตัวเอง ที่ฆ่าความรุ้สึกเด็กๆได้ลงคอ... O_o

เย้ย!! ไม่ใช่!!

ตอนจบโรแมนติกออกง่า T_T

(แล้วก็โดนเด็กๆบอกว่า อย่าทำให้สีรุ้งจบเศร้าละ!!)

Link to comment
Share on other sites

คิดถึงมากเลยฟิคนี้ TT TT

อ่านแล้วได้อะไรหลายอย่างมากเลย... ชอบฟิคนี้ตรงที่มีการสูญเสีย

แต่ละครั้งก็จะทิ้งอะไรไว้ให้คิด... ว่าทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะสวยหรูหรือเป็นไปอย่างที่คิดเสมอไป

ช่วงสุดท้ายของฟิคสงสารเซจิมาก TT TT

ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ต้องสูญเสีย...

ขอบคุณพี่คานะที่เขียนฟิคดีๆ อย่างนี้ให้อ่าน อยากบอกว่าชอบอะไรแบบนี้มาก >w<

โดยเฉพาะตอนจบเรียกน้ำตา... สุดท้ายนี้อยากตะโกนบอกว่า...

สู้ต่อไปซะ!! เซจิ ผ่านเรื่องมามากมายแล้วถึงแม้จะจบไม่สวยแต่มันก็ทำให้นายเข้มแข็งขึ้น

[me=WisdomWing]เเวบไปซุ่มตามฟิคโจโต~[/me]

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านได้สองตอนแล้ว สนุกดีครับ  :pika01:

(ไม่โดนลงทัณฑ์แล้ว!!) =3= 55+

Link to comment
Share on other sites

คิดถึงมากเลยฟิคนี้ TT TT

อ่านแล้วได้อะไรหลายอย่างมากเลย... ชอบฟิคนี้ตรงที่มีการสูญเสีย

แต่ละครั้งก็จะทิ้งอะไรไว้ให้คิด... ว่าทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะสวยหรูหรือเป็นไปอย่างที่คิดเสมอไป

ช่วงสุดท้ายของฟิคสงสารเซจิมาก TT TT

ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ต้องสูญเสีย...

ขอบคุณพี่คานะที่เขียนฟิคดีๆ อย่างนี้ให้อ่าน อยากบอกว่าชอบอะไรแบบนี้มาก >w<

โดยเฉพาะตอนจบเรียกน้ำตา... สุดท้ายนี้อยากตะโกนบอกว่า...

สู้ต่อไปซะ!! เซจิ ผ่านเรื่องมามากมายแล้วถึงแม้จะจบไม่สวยแต่มันก็ทำให้นายเข้มแข็งขึ้น

[me=WisdomWing]เเวบไปซุ่มตามฟิคโจโต~[/me]

กด like รัวๆๆๆ =w=b ฟังแล้วประทับใจมาก

มาอ่านได้สองตอนแล้ว สนุกดีครับ  :pika01:

(ไม่โดนลงทัณฑ์แล้ว!!) =3= 55+

/-me จำจดชื่อและลักษณะไว้... อืมๆ

ต่อไปก็หยิบกระบองเจาะตะปูไปยืนรอหน้าบ้าน...

ดีใจที่ได้แต่งฟิคจนจบน่ะนะ ต่อไปก็จะแต่งให้สีรุ้งจบเหมือนกัน >_< ขอบคุณทุกคน

ปล. ต่อไปสำหรับกระทู้นี้ก็... รอคนอ่าน อีกประมาณ 2 ท่านมั้ง เข้ามาคอมเม้นต่อ >_<

Link to comment
Share on other sites

อ่านจบแล้วละ...

น่าสงสาร น่าสงสาร น่าสงสารจนแทบรับไม่ได้ ยิ่งลาทิอัสของเค้าด้วย

:pika06:

บอกตามตรงว่าผมอ่านแล้วจิตตกเลยครับ ถึงจริงๆไม่อยากให้จบแบบนี้ก็เถอะ แต่อย่างน้อย การจบแบบนี้ก็ทำให้ผมจดจำพวกเพื่อนเซจิที่จากไปแล้วอีกนาน ฝังใจครับ...

ถึงการบรรยายและการใช้คำในบางช่วงจะดึงความรู้สึกที่จะสื่อออกมาได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ขอยอมรับว่า สร้างแนวทางและอารมณ์ได้เยี่ยมมาก

ส่วนพวกมนุษย์ฝั่งนู้นที่ผมเคยแอบชม ตูขอถอนคำพูด!!! :pika03:

หวังว่าหลังจากนั้นเซจิคุงคงจะยืนหยัดต่อไปได้นะ...

Link to comment
Share on other sites

อ่านจบแล้วละ...

น่าสงสาร น่าสงสาร น่าสงสารจนแทบรับไม่ได้ ยิ่งลาทิอัสของเค้าด้วย

:pika06:

บอกตามตรงว่าผมอ่านแล้วจิตตกเลยครับ ถึงจริงๆไม่อยากให้จบแบบนี้ก็เถอะ แต่อย่างน้อย การจบแบบนี้ก็ทำให้ผมจดจำพวกเพื่อนเซจิที่จากไปแล้วอีกนาน ฝังใจครับ...

ถึงการบรรยายและการใช้คำในบางช่วงจะดึงความรู้สึกที่จะสื่อออกมาได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ขอยอมรับว่า สร้างแนวทางและอารมณ์ได้เยี่ยมมาก

ส่วนพวกมนุษย์ฝั่งนู้นที่ผมเคยแอบชม ตูขอถอนคำพูด!!! :pika03:

หวังว่าหลังจากนั้นเซจิคุงคงจะยืนหยัดต่อไปได้นะ...

ทำคนอ่าน จิตตก ไปอีกหนึ่งรายละ =w=

ความรู้สึกเหมือน ยิงคนตายไป อีก 1 ศพ (เวอร์ละ)

สรุปคือ ชอบตอนจบเศร้าๆกันนักใช่ไหมมมมมม 555555+

แต่วาว่าซัง คัดค้านสุดใจดิ้นแน่ๆ >_<

รอดูกันต่อไป ^o^/ หวังว่าคนอ่านจะชอบสีรุ้งกันน๊ะ จะได้ตั้งใจแต่งให้เต็มที่ให้เต็มที่!!! >_<

ส่วนกระทู้ fic วิบัติโลก หายนะแห่งดวงดาว  

คงไม่มีคนอ่านเพิ่มเติมละ

อืม

อืม...

....

เอาละ สงสัยคงต้องบอกลากันละนะ

แต่ว่าขอสรุปส่งท้าย

ไม่ให้ค้างคาใจกันละนะ

กลาง

เป็นเด็กที่ รักเดียวใจเดียวจริงๆ ไม่สั่นคลอนกับความรู้สึกที่ตัวเองมี แม้ว่ามันจะเจ็บปวด ที่คนที่ตัวเองรักไม่เคยมองตัวเองเลย เอาแต่มองตัวเองเป้นตัวแทนของพี่ชาย อยู่นั้นละ แถมตัวเองก็ยังปิดบังข่าวการตายของพี่ชายของคนรักด้วย แหม... ช่างเป็นความรักที่เจ็บปวดจริงๆนะ เรื่องนี้ไม่มีผิด ไม่มีถูกหรอก ก็เป็นเรื่องของความรุ้สึกนินา แต่ว่าสุดท้ายแล้วการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขาก็ได้สิ้นใจ แต่ก่อนที่จะสิ้นใจนั้นเชร่าก็วิ่งมาประคองไว้ ถึงแม้ว่าได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายแล้ว แต่กลางก็ไม่อาจห้ามไม่ให้ตัวเองต้องจากไปได้ เขาก็เลย เลือก ที่จะบอกรัก บอกรักก่อนที่จะไม่ได้พูดอีก ก่อนที่เชร่าจะไม่มีวันเข้าใจความรุ้สึกของเขาจากปากของเขา แต่อย่างน้อยเจ้านี่ก็โชคดีจริงๆ เป็นความตายที่ดีจริงๆนะ ที่ได้ตายในอ้อมกอดของคนที่ตัวเองรักมากๆ แต่ว่าน่าเสียดายนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับของเชร่า แต่เพียงแค่ตัวเองได้บอกรักสำเร็จแล้ว กลางเองก็คงพึงพอใจที่สุดแล้วละ

เชร่า

เป็นเด็กสาวที่ ค่อนข้างจะอยู่ในโลกสีชมพูของตัวเองนะ แต่ว่าก็เป็นเด็กสาวที่มีแรงมุ่งมั่นสุดๆ ตามหาพี่ชายที่หายไปสุดๆ ทุ่มเทสุดแรงกายจริงๆ บินไปนู้นบินไปนี้คนเดียวได้ตั้งหลายปี แต่ก็ยังอดทนด้วยความหวังของเธอ แต่แล้วโลกสีชมพูของเธอก็ได้พังทลายลง เมื่อได้รับรู้ความจริงว่าตลอดเวลาที่เธอเฝ้าตามหาพี่ชายมาตลอด พี่ชายของเธอได้ตายไปก่อนหน้านี้แล้ว ความพยายามของเธอสูญเปล่า และคนที่คอยมองดูความพยายามอันไร้ค่าของเธอนั้นกลับกลายเป็นเพื่อนทุกคนของตัวเอง รู้สึกเหมือนเพื่อนหักหลังจริงๆละ เพราะความไม่กล้าของเพื่อนๆ ไม่กล้าที่จะทำลายโลกอันแสนสวยงามของเธอ

จบเคสที่ 1 ไปละ ต่อไปเชร่าก็พยายามสร้างโลกสีชมพูของตัวเองอีกครั้ง โดยการเอากลางเข้าไปใส่แทนที่พี่ชายของตัวเอง

ปิดกั้นความรู้สึกทุกอย่างเพียงเพราะเชื่อมาตลอดว่ากลางเป็นพี่ชาย ช่างไร้เดียงสาจริงๆนะเชร่า

เพราะความไม่รู้ (หรือไม่รับรู้) ของเธอ ทำให้ในนาทีสุดท้ายที่กลางจากไป เชร่าไม่รับรู้และไม่พูดว่าตัวเองก็รักกลาง แต่เมื่อกลางจากไปแล้วจึงได้รู้สึก ว่าหัวใจมันเจ็บ มันทรมาน ราวกับแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ ทรมานจนหายใจไม่ออก ถึงเวลานั้นเธอจึงได้รู้ ว่าเพราะความไร้เดียงสาของเธอ ทำให้ทุกอย่าง สายไป... จริงๆ

เพราะหัวใจที่แตกสลาย กู้กลับมาไม่ได้แล้ว โลกสีชมพูของเธอพังทลายลงอีกครั้ง ไม่มีใครมาแทนที่พี่ชาย ไม่มีใครจะมาแทนที่กลางได้อีก ความผิดหวังในตัวเองที่บอกรักกลางไม่ทัน ทำให้เธอคลั่ง ดับไฟพุ่งชนต่อสู้จนสุดกำลัง และในนาทีสุดท้ายก็เข้ามาขวางลำแสงที่ยิงไปทางเฟเรีย สุดท้ายก้สิ้นลมในอ้อมแขนของเซจิ

แต่ว่าเธอน่าจะมีความสุขละนะ ในเมื่อตอนตายเธอก็มีคนมารับได้ทัน และพอเธอตายไปก็จะได้พบกับความรักของเธอ ได้พบกับโลกสีชมพู ที่มีทั้งพี่ชาย และคนที่เธอรัก อีกครั้ง

วานิเซีย

ขี้อาย แถมยัง ไม่กล้าสุดๆ

เพราะแบบนี้ละมั้งก็เลยทำให้ไม่สมหวังสักทีซิน๊ะ...

แต่ว่าธาตุไฟอย่างกลาง จะไปสมหวังกะธาตุน้ำอย่างวานิเซีย ได้อย่างไรกันละ!! เธอน่าจะทำใจเรื่องนี้น๊ะ วานิเซีย!!

แต่ว่าความรัก เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ รักไปแล้วจะให้ทำยังไงละ!

เธอก็เลยได้แต่เก็บความรู้สึกที่อัดแน่นจนทรมานไว้ในใจคนเดียว ระบายก็ระบายกับใครไม่ได้ น่าสงสารจริงๆน๊ะ

ทั้งๆที่ถ้าเธอเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริง กับความรู้สึกของตัวเอง เธอก็น่าจะทำใจ หากต้องถูกปฎิเสธได้

แต่มันก็สายไปแล้วนะ เพราะว่าคนที่เธอจะไปบอกรัก เขาจากไปแล้ว จากไปตลอดกาลเสียด้วย

เธออาจจะร้องไห้บ่อย หรือเศร้าเสียใจแค่ไหน

แต่ว่าคนแต่งเชื่อว่า ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ! น้ำตาที่ร่วงไปไม่รู้กี่ร้อยกี่พันหยด จนกว่าเธอจะเข้าใจและรู้คำตอบ เธอก็จะสามารถยิ้มให้กับเหตุการณ์ที่ผ่านมาและสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ฟันธง!!!

เฟเรีย

ช่วงที่ถูกยิงจนร่วงลงมา เซจิก็มาอยู่ข้างๆ โดยหวังว่าจะอยู่เคียงข้างเธอจนกว่าเธอจะสิ้นใจ น่าเสียดายหรือน่ายินดีกันก็ไม่อาจบอกได้ เธอไม่ได้สิ้นใจจริงๆ แต่ว่าความรู้สึกอย่างความรัก ที่เป็นไปไม่ได้ ก็เหมือนกับอกหักทั้งๆที่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างรักกันแค่ไหน และต้องจากกับเซจิตลอดกาล

จะเป็นโสดใช่ไหมนะ เฟเรีย ? แต่เธอก็จะเก็บแต่ความทรงจำดีๆ มานึกย้อนถึงในเวลาที่ว้าเหว่ใช่ไหม? เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีที่สุดในเรื่องเลยนินา เฟเรีย ดังนั้นเธอจะต้องเข้มแข็งและอยู่ในโลกของเธอต่อไปได้แน่ๆ!

ตัวละครที่น่าสงสารที่สุดอย่างเซจิ เป็นตัวละครที่ไม่มีความผิดเลยแม้แต่นิด แต่ว่าต้องแบกรับความรู้สึกเจ็บปวดไปชั่วชีวิต เหมือนดั่งสวรรค์สาป ฟ้าแกล้ง อันนี้แนะนำให้ไปยิงคนแต่งทิ้ง.. เอ้ย ไม่ใช่!!! ถ้าทำงั้นสีรุ้งก็ไม่จบสิ =w=" อะ นอกเรื่องจนได้

จะว่ายังไงดีละ ถ้าจะยกความผิดทั้งหมดก็คงต้องให้นักวิทยาศตร์โรคจิตอย่างอัลเซ่ละ แต่คนที่สมัครชื่ออัลเซ่เองก็ไม่ได้กลับบอร์ดแล้ว นินทานิดหน่อยมะเปงไรเนอะ ^_^~

แต่อย่างที่เคยพิมพ์ไว้ในฟิคเรื่องนี้ ความทรงจำที่เจ็บปวดน่ะ ฝั่งๆมันไปเถอะ แล้วจดจำแต่เรื่องราวดีๆ ถ้าจะพูดว่าโกหกตัวเองก็คือ ทำเหมือนไม่เคยมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาความเจ็บได้ลงใช่ไหมละ??? (อะ พูดอะไรนิเรา?)

ชีวิตน่ะ เมื่อมีพบ ก็ต้องมีพรากจากกันนั้นแหละ ไม่ว่าจะช้า หรือเร็ว ก็ตาม มันคือสัจธรรม

เหมือนหนัง "ความจำสั้นแต่รักฉันยาว"

ที่คุณลุงคนนั้นพูดไว้ว่า

"ไม่ลืม... ไม่มีหรอก มีแต่ลืมช้า กับ ลืมเร็ว"

ก็คงเหมือนกับ

"ไม่จากกันน่ะ ไม่มีหรอก มีแต่จากกันช้า หรือ จากกันเร็ว"

อะ แย่ละ น้ำตาซึมซะแระเรา ฮ่าๆๆๆ เอาเป็นว่าจิตตกเป็นเพื่อนคนอ่านละนะ

สรุปตัวละครเด่นๆแค่ 5 ตัว ก็พอเนอะ

ตัวอื่นๆชีวิตไม่รันทดเท่าไรนินา

^_^

ขอบคุณ ผุ้อ่านทุกๆท่านของเรา

ได้เวลาบอกลากันจริงๆละ

แต่เจอกันใหม่ ในผลงานหน้าๆๆๆๆ น๊ะค๊ะ !!!

แล้วเจอกัน >_<

Link to comment
Share on other sites

เหมือนได้อ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเรื่องนี้เลยแฮะ กระจ่างขึ้นเยอะ

ลาก่อนทุกคน เราจะไม่มีวันลืม TwT

[me=bluewind]นั่งดูฟิคสายรุ้งเป็นคิวต่อไป[/me]

Link to comment
Share on other sites

รันทดจริงๆเลยน้อ~ ตัวละครในฟิคท่านวาริ....ไม่สิ.....คิวเบย์ตัวที่ 2 นี้นะ เจอคนแต่งยำไม่เลี้ยเลย

อ่านฟิคนี้แล้ว ครบรสชาติทุกข์ความโศกท่มนุษย์สามารถเจอได้เลยทีเดียว นี้ถ้าผมเป็นเซจิอานะ คงไม่นั่งอยู่ตรงนี้แล้วมั้ง...ยอมรับว่าเซจิจิตใจเข้มแข็งมาก แต่เขาจะมีแฟนอีกไหมนะ ถ้าเกิดเคยรักไอ้ที่ไม่ใช่คนมาแล้ว -*-

Link to comment
Share on other sites

ตัวละครแต่ละตัวดูน่ารันทดจริงเลยครับ -*-

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

ขอบคุณทุกความคิดเห็น

แต่ตัวละครรันทดนี่มัน...

ชิส์ๆๆๆๆ

ช้านน้อยใจนะ!!!

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.