Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

PMD 2 - Road To Pokemon Asia Championship X (บทที่ 5 ช่วงที่ 2)


ไมยาเตะ (เชมี่)

Recommended Posts

ไหนๆบอร์ดใหม่ก็มาล่ะ ขอลงใหม่เลยล่ะกัน เริ่มจากบทนำ

ปล. ยาวนะเตือนไว้ก่อน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทนำ

การเดินทางครั้งใหม่

วันนี้อากาศสบายกว่าทุกวันนะเนี่ย โปเกมอนสีแดงเพลิงพูด นานแล้วสินะ... ที่ไม่ได้มาที่นี้ ในขณะนี้โปเกมอนตัวนี้กำลังเดินบนชายหาด

จริงๆแล้วไม่ว่าวันไหนก็อากาศดีทุกวันอยู่แล้ว การที่พูดแบบนี้ได้แปลว่าคนที่พูดต้องมีความสุขเอามากๆ เพียงแต่คนที่พูดนั้นไม่ได้มีสีหน้าอย่างนั้นเลย

บาชาโม่ มาที่นี้อีกแล้วเหรอ มีเสียงเรียกจากข้างหลัง

อ่ะ!? ฮิโกะซารุ.... ก็นะอยากลืมยังไงก็ลืมไม่ลงจริงๆ

... ... ... ฮิโกะซารุเงียบไปทันที เขาเข้าใจความรู้สึกของบาชาโม่ดีจึงไม่อยากพูดอะไรต่อ

แนะนำตัวนักหน่อยดีกว่า ผมมีชื่อว่าบาชาโม่เป็นโปเกมอนนก ...อืมแต่รูปร่างผมก็คล้ายๆมนุษย์เหมือนกัน เรื่องนั้นช่างเถอะโปเกมอนที่คุยกับผมตอนนี้มีชื่อว่า ฮิโกะซารุ เป็นโปเกมอนลิงและยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมอีกด้วย แต่เขาคนนี้มักจะมีข้อเสีย (หรือบางทีอาจเป็นข้อดี) อยู่อย่างหนึ่งนั้นก็คือ...

จะยังไงเถอะนะ นายช่วยกลับไปที่สำนักพูคูรินก่อนได้ไหมเพื่อนรัก

เอ่อ... ทำไมเหรอ สำนักพูคูรินเป็นสถานที่ที่ผมกับเพื่อนๆผมอาศัยอยู่ เป็นสำนักที่ค่อยช่วยเหลือเหล่าโปเกมอนที่มีปัญหาต่างๆนาๆ

นายก็น่าจะรู้ การเลี้ยงเด็กนะมัน...นะๆๆๆ ฮิโกะซารุทำหน้าทำตาน่าสงสารเอามากๆ

บาชาโม่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก็ได้ๆ ฉันจะช่วยอีกคน

ขอบใจนะเพื่อน Love นายเนี่ยหวังพึ่งได้ทุกเรื่องจริงๆ

อืม...ไม่เป็นไร บาชาโม่ยิ้มแหยๆ

งั้นเราก็ไปกันเถอะ เด็กคนนั้นยิ่งซนๆอยู่ ฮิโกะซารุเดินนำบาชาโม่ แต่พูดว่าเดินก็ยังไงอยู่เพราะเล่นกระโดดไปมาตลอด

นี่แหละที่ผมกำลังจะบอก ฮิโกะซารุชอบทำตัวติ๊งต๊องจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว ยิ่งตอนนี้ความติ๊งต๊องยิ่งอัพขึ้นทุกวันๆ แต่ก็ดีเหมือนเพราะถ้าผมไม่มีเขาเป็นเพื่อนผมคงเครียดตายแน่ๆ (แต่ต้องยอมรับว่าบางครั้งก็หนักใจเหมือนกัน)

อ่ะ!? ความเครียดที่ผมหมายถึงเนี่ยคือเมื่อสามเดือนก่อนนะ ถ้าจะถามว่าสามเดือนก่อนเกิดอะไรขึ้นนั้น...

ไม่น่าเชื่อนะบาชาโม่ ถึงเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรแต่สิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะนี้ไม่เคยต่างไปจากเดิมเลย

นั้นสินะ ลืมไปเรื่องนึงว่าสถานที่ที่ผมอยู่เป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลจากมนุษย์ แต่จริงๆแล้วที่เกาะนี้ก็เคยมีมนุษย์อยู่เหมือนกัน แล้วทำให้ถึงได้หายกันไปหมดนะเหรอ ...ผมขอไม่เล่าล่ะกันเนื่องจากเรื่องมันยาวมาก

สักพักบาชาโม่กับฮิโกะซารุก็มาสำนักพูคูรินที่เป็นที่อยู่ของบาชาโม่ แต่ถ้าพูดแบบนี้ท่านผู้อ่านคงคิดว่าที่นี้มีเฉพาะพวกบาชาโม่เท่านั้นแต่เปล่าเลย ที่นี้มีกลุ่มโปเกมอนอีกๆมากมายแต่เนื่องจากพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงขอไม่พูดถึง

และเมื่อไม่นับพวกที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วในสำนักนี้ก็จะมีพูคูรินที่เป็นหัวหน้าของสำนัก เธอเป็นคนที่ใจดีที่สุดในสำนัก อื่นๆก็มีเหล่าสมาชิกที่เป็นผู้ช่วยพูคูริน ได้แก่ เพรัป (คนๆนี้ถือว่าเป็นมือขวาของพูคูรินก็ว่าได้) เฮกานิ โดกอม ดิ๊ด้า ดิ๊กทรีโอ ฮิมาวาริ (เจ้เสียงแหลมและดูเหมือนเจ้าตัวจะภูมิใจด้วยนะ) ชิเรียน บิปปะ  เกร็กกุรุ ราติออส ราติอัส และสุดท้ายคือ จุ๊บทอล เขาคนนี้เป็นพี่ชายของคิโมริหนึ่งในสมาชิกทีมของผมเอง

กลับมาแล้วเหรอ เพรัปเป็นคนทัก

ครับกลับมาแล้ว คนอื่นๆล่ะครับ

อยู่ห้องนายกันหมดแล้วล่ะ พวกเขาอยากพูดอะไรกับนายด้วยล่ะ เสร็จแล้วไปพูคูรินด้วยล่ะ

ครับ ขอบคุณนะครับที่บอก ฮิโกะซารุไปกันเถอะ

อืม! บาชาโม่และฮิโกะซารุรีบไปที่ห้องของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ที่สำนักพูคูรินแบ่งเป็นหกชั้นโดยครึ่งหนึ่งจะเป็นชั้นใต้ดินเป็นที่พักของเหล่าโปเกมอนในสำนักนี้ ชั้นแรกเป็นศูนย์รวมการสนทนาเป็นลานกว้างๆ ชั้นสองเป็นห้องประชุมปัจจุบันได้เพิ่มห้องร้านค้าขายของดดยฉะเพาะโดยมีเจ้าของร้านเป็นราติออสและราติอัส ชั้นสามเป็นด่านฟ้าเป็นที่พักอีกหนึ่งที่ของโปเกมอนในสำนักนี้

โทษทีที่มาช้า เห็นเพรัปบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับฉัน

ไม่เป็นไร โปเกมอนตัวหนึ่งพูด โปเกมอนตัวนี้มีชื่อว่าโพจามะเขาเป็นเพื่อนสนิทของฮิโกะซารุ ว่าแต่ฮิโกะซารุนายออกไปข้างนอกโดยไม่บอกใครอีกแล้วนะ ถ้าเกิดเรื่องกับเด็กคนนั้นขึ้นมาจะเป็นยังไง

ข...ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นสักหน่อย ฮิโกะซารุรีบก้มหัวขอโทษยกใหญ่

ให้ตายสิเป็นอย่างนี้ทุกที โพจามะพูดอย่างเซ็งๆ นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับพวกผม โพจามะมักจะอารณ์เสียกับนิสัยของฮิโกะซารุอยู่บ่อยๆแต่ถึงกระนั้นทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนรักกันดี

เอาหน่าๆโพจามะ ฮิโกะซารุเขาก็รู้สึกผิดแล้วไม่ต้องโกรธหรอก คนที่พูดช่วยเหลือฮิโกะซารุมีชื่อว่าบุยเซล เขาเป็นหัวหน้าทีมบุยเซลที่มีสมาชิกอีกสามคนได้แก่

นั้นสิ เขาก็ชอบเป็นแบบนี้นายก็น่าจะรู้ดี คนแรกคือจิโคริต้า เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีมบุยเซล เป็นคนที่คิดอะไรจริงจังมากๆและเธอคนนี้ล่ะที่มักชอบแกล้งบุยเซลเป็นประจำแม้ตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ฮิๆๆๆ ส่วนอีกสองคนที่กำลังหัวเราะอยู่คือฮิโตะคาเงะกับเซนิกาเมะ ฮิโตะคาเงะเคยเป็นหัวหน้าทีมเก่าของทีมบุยเซลแต่โดนแย่งหน้าที่นี้ไป ตอนแรกฮิโตะคาเงะไม่พอใจเท่าไรแต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆเขาก็ปรับความเข้าใจได้ในที่สุด ส่วนเซนิกาเมะคนๆนี้สำคัญมากเพราะเขาเป็นที่ค่อยแบกกระเป๋าที่เต็มไปด้วยของสำคัญๆไม่ว่าจะเป็นของกิน แผนที่ และของอื่นๆอีกมากมาย เห็นแบกของเยอะแบบนี้อย่าคิดจะสู้ไม่ได้นะเดียวได้เจอดีแน่ๆ

อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ให้เขาดูแลตลอดทั้งวันสักหน่อย ฮิโกะซารุไม่ผิดสักหน่อยใช่ไหมที่รัก

ถูกแล้วล่ะ สองคนที่ดูเหมือนจะเป็นคู่รักกันก็คือเชมี่และกลาเซีย ทั้งคู่ต่างมาจากเมืองใหญ่ที่อยู่ห่างจากเกาะนี้ไกลแสนไกล เชมี่กับกลาเซียมักทำอะไรด้วยกันเสมอมันก็ไม่แปลกหรอกก็ทั้งคู่เป็นแฟนกันมาหลายปีแล้วที่สำคัญเมื่อสามเดือนก่อนหลังจากจบเหตุการณ์นั้นทั้งคู่ก็...

ลูกก็เห็นด้วยใช่ไหมจ้ะ กลาเซียถามลูกของตนเองที่อยู่ข้างหลัง

ค...ค่ะ  โปเกมอนสีน้ำตาลออกมาจากหลังของกลาเซียแล้วยิ้มอย่างอายๆ ถูกแล้ว! เชมี่กลับกลาเซียมีลูกด้วยกันแล้ว! เธอชื่ออีวุยเนื่องจากเพิ่งเกิดได้ไม่นานจึงยังอายๆอยู่ ตลอดสามเดือนมานี้อีวุยเองก็พยายามทำความคุ้นเคยกับพวกผมอยู่เหมือนกัน แต่ผมว่าคงต้องใช้เวลามากกว่านี้แล้วมั้ง หนูผิดเองที่ทำให้พี่เขาลำบาก

ป...เปล่าเลยอีวุยน้อย ม...ไม่ลำบากเลยจริงๆนะ ฮิโกะซารุรีบพูดใหญ่

ไปๆมาๆกลายเป็นผมมากกว่าที่ต้องค่อยดูแลอีวุย เริ่มเข้าใจความรู้สึกของพี่ผมสักแล้วสิ โปเกมอนสีเขียวพูด โปเกมอนตัวนี้ชื่อคิโมริ เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในทีมผม เขาเป็นคนที่มีความสามารถเรื่องลางสังหรณ์ ประมาณว่ารู้อะไรก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ในด้านความคิดของคิโมริก็เริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้วด้วย (ในบางครั้ง)

บาชาโม่ยิ้มกับภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกผมในตอนนี้เมื่อเทียบกันสามเดือนก่อนแล้วมันช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อสามเดือนพวกผมได้ต่อสู่กับดีอัลก้าเขาเกิดอาการอาละวาดทำให้เกาะแห่งนี้ต้องเจอเรื่องเล่าต่างๆซึ่งนั้นก็ทำให้พวกผมทั้งหมดได้มาเจอกันแล้วก่อตั้งทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงขึ้นมา

แล้วเรื่องที่อยากคุยกับฉันล่ะ บาชาโม่ถาม

จริงสิ! แต่ก่อนหน้านั้นฉันอยากให้นายดูนี้สักก่อน เชมี่นำจดหมายฉบับหนึ่งให้บาชาโม่

นี้คือ...

มาจากเพื่อนของฉันกับกลาเซียน่ะ ลองอ่านดูสิ

บาชาโม่ลองเปิดอ่านเนื้อหาข้างในมีดังนี้

ถึงเชมี่ กลาเซีย

เป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฉันหวังว่ามันคงจะไปถึงมือพวกเธอนะ เข้าเรื่องกันดีกว่า ขณะนี้สถานที่ที่ฉันอาศัยอยู่กำลังเจอปัญหาฉันอยากให้พวกเธอมาให้ได้ถ้าเป็นไปได้ พวกเธอคงรู้อยู่แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหน และก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าจะมายังไงหรอกนะฉันให้คนไปรับพวกเธอแล้วหวังว่าไม่นานฉันจะได้เจอพวกเธอนะ

จาก ลีเฟีย

แปลกๆนะ บาชาโม่พูดออกมาทันทีหลังจากอ่านเสร็จ

แปลก? ยังไงเหรอเขาก็แค่อยากให้เชมี่กับกลาเซียไปหาเขาที่นั้นไม่ใช่เหรอ

เปล่าฮิโกะซารุ เรื่องนั้นไม่แปลกหรอก ที่แปลกก็จดหมายนี่แหละ

ยังไงล่ะเนี่ย? ฮิโกะซารุงงเป็นไก่ตาแตก ปกติเจ้านี้ก็ชอบเข้าใจอะไรยากอยู่แล้วด้วย

ลืมไปแล้วเหรอฮิโกะซารุ เกาะที่พวกเราอาศัยอยู่เป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลจากดินแดนของมนุษย์นะ และถ้ายิ่งเป็นเกาะที่ไม่มีใครรู้จักด้วยแล้วล่ะก็...

ฉันพอเข้าใจแล้วแหละ บุยเซลพูด นายจะบอกว่าจดหมายฉบับนี้มาที่นี้ได้ยังไงใช่ไหม

ใช่ถูกต้องแล้ว! และไม่ใช่แค่มาที่นี้ได้ยังไงแต่รู้ได้ยังไงว่ามีเกาะนี้อยู่ด้วย คนที่เขียนจดหมาย...ชื่อลีเฟียสินะ ลีเฟียรู้ได้ไงว่าเชมี่กับกลาเซียอยู่ที่นี้แถมยังส่งจดหมายมาถูกที่อีกตั้งหาก

กลาเซียหันไปมองเชมี่เล็กน้อยก่อนหันมาพูดกับบาชาโม่ บาชาโม่ นายรู้ไหมว่านายพูดเหมือนท่านพูคูรินเลย

เอ๋!? จริงเหรอกลาเซีย? ...เธอไปหาท่านพูคูรินมาแล้วเหรอ

อืม...ใช่ ท่านก็บอกว่ามันแปลกๆท่านถึงให้ฉันมาลองถามนายดูก่อน

ส่วนเรื่องที่บอกว่าส่งคนมารับนะ ไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะมาถูกหรือเปล่า ฮิโตะคาเงะเริ่มจะเป็นห่วงคนที่มาจะรับ มันก็ไม่แปลกที่จะเป็นห่วงถึงให้รู้ว่ามีเกาะนี้จริงแต่การหาเกาะๆหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

แม่ค่ะ...ลีเฟียคือใครเหรอค่ะ อีวุยน้อยถาม

เขาเป็นเพื่อนสนิกของแม่กับพ่อเองจ้ะ

รู้สึกจะสี่เดือนได้แล้วมั้ง หลังจากวันนั้น เชมี่พูด

วันนั้น? วันอะไรเหรอ บาชาโม่ด้วยความสงสัย

เชมี่คงรู้ตัวว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปจึงออกอาการตกใจเล็กน้อย เขามองกลายเซียพอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเขาจึงตัดสินใจพูด พวกนายคงรู้อยู่แล้วเรื่องที่ฉันกับกลาเซียมาจากเมืองใหญ่ที่ห่างจากเกาะๆนี้

อืม...แล้ว?

ตอนที่ฉันกับกลาเซียยังอยู่ในเมืองใหญ่ พวกเราได้อาศัยในตึกๆหนึ่งรู้สึกจะเรียกว่า อพาร์ทเม้นท์ อะไรนี่แหละ

แล้วเกิดอะไรเหรอ ฮิโกะซารุถามอย่างตื้นเต้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงโดนมองจากคนรอยข้างไปแล้ว

ตึกที่เราอาศัยอยู่เกิดไฟไหม้ ทั้งมนุษย์และโปเกมอนมากมายต้องตายในเหตุการณ์นั้น

... ... ... ไม่มีใครพูดหรือจะถามอะไรต่อ ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้

เชมี่เข้าใจเหตุผลที่ทุกคนเงียบ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเล่าต่อไป แน่นอนว่าผม กลาเซียและลีเฟียรอดมาได้ แต่เนื่องจากที่อยู่ก็ไม่มีแล้วพวกเราเลยตัดสินใจแยกกันไปตามทางของตน เมื่อพูดจบเชมี่ก็มองกลาเซียทันที

กลาเซียยิ้มให้ จริงๆแล้วตอนแรกเชมี่เขาจะไปคนเดียว แต่ฉันขอไปด้วยเพราะอย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้นเชมี่จะได้มีคนค่อยช่วยเหลือ

ก็เลยกลายมาเป็นแฟนกันในที่สุดสินะ ฮิโกะซารุพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา ช่างไม่ดูสถานการณ์เลยจริงๆ ดีนะที่ทุกคนยังอารมณ์ดีเลยหัวเราะตามไม่งั้นคง...

ตกลงจะเอายังไงบาชาโม่ บุลเซลถามเข้าประเด็น

อืม... บาชาโม่คิดอยู่พักหนึ่ง ฉันยังไงก็ได้ เชมี่ กลาเซีย พวกเธอว่าไง

ผมก็อยากคิดในแง่ดีไว้ก่อน บางทีมันคงไม่มีอะไรอีกอย่างทั้งผมและกลาเซียก็ต่างอยากเจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง

ใช่แล้ว จะได้พาลูกสาวไปหาเพื่อนเก่าด้วยนะ

นั้นสินะบางทีพวกเราอาจคิดไปเองก็ได้ บาชาโม่คิดในใจ งั้นก็เป็นอันตกลง เราไปหาท่านพูคูรินกัน

และแล้วทั้งหมดก็ยกขบวนไปยังห้องประชุมโดยไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้คิดผิดเลยแม้แต่น้อย การตัดสินใจเดินทางครั้งนี้กำลังจะทำให้พวกบาชาโม่ได้เจอกับเหตุการณ์ที่ยิ่งกว่าฝันร้ายสักอีก

Link to comment
Share on other sites

ต่อด้วยความสัมพันธ์ของตัวละคร (มีสองโพสนะ)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ผลจากกรอกใบแสดงความคิดเห็น / ความรู้สึก ของตัวละครในบทที่ 1

บาชาโม่

ต่อ ฮิโกะซารุ เป็นคู่หู แต่ออกจะประหลาดนิดๆ

ต่อ โพจามะ เป็นผู้ช่วยที่ดีมาก แต่อยากให้ใจเย็นกว่านี้อีกหน่อย

ต่อ บุยเซล กำลังที่ขาดไม่ได้ นับถือเขาจริงๆ

ต่อ จิโคริต้า เดี๋ยวนี้เห็นแกล้งบุยเซลบ่อยขึ้นนะ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ เห็นตอนนี้ก็เข้ากับบุยเซลได้แล้ว ยินดีด้วยนะ

ต่อ เซนิกาเมะ ต้องค่อยแบกกระเป๋าคงลำบากน่าดู ยังไงก็อย่าลืมทิ้งกระเป๋าไว้ก็แล้วกัน

ต่อ คิโมริ ตอนนี้นายก็โตขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะ ช่วยดูแลอีวุยด้วยล่ะ

ต่อ เชมี่ มีลูกแล้วต้องมีความรับผิดชอบสูงหน่อยนะ

ต่อ กลาเซีย ยินดีด้วยนะที่มีลูกแล้ว

ต่อ อีวุย น่ารักจริงๆ คงต้องดูแลให้เป็นพิเศษ

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน ช่วงนี้รู้สึกจะว่างงานกันนะครับ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

มีความเป็นผู้นำสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่อยากให้เพิ่มในเรื่องความกล้าตัดสินใจให้มากกว่านี้อีกนิดหน่อยก็จะดีมาก

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ที่ไม่กล้าตัดใจในทันทีเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น แต่ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องตัดสินใจให้เร็วกว่านี้สักแล้ว

ฮิโกะซารุ

ต่อ บาชาโม่ คู่หู เพื่อนรักเพื่อนLove เพื่อนที่ดีที่สุด เพื่อน...ฯลฯ

ต่อ โพจามะ ต้องขอโทษด้วยนะที่ฉันทำอะไรไม่คิดอีกแล้ว จะพยายามไม่ให้นายโกรธอีกแน่นอน

ต่อ บุยเซล ดูเป็นผู้ใหญ่ยังไงก็ไม่รู้สิ

ต่อ จิโคริต้า เดี๋ยวนี้เห็นพูดแรงๆบ่อยจังเลยนะครับ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ สนิทกับบุยเซลมากขึ้นก็ดีแล้วล่ะ

ต่อ เซนิกาเมะ มีพละกำลังเยอะมากๆ ฉันสู้ไม่ไหวแน่

ต่อ คิโมริ ขอบใจนะที่ช่วยดูแลอีวุยให้ ฉันไม่ค่อยถนัดการดูแลเด็กเลย

ต่อ เชมี่ ลูกนายเนี่ยดูแลยากจริงๆเลยนะ ถึงจะไม่ซนก็เถอะ

ต่อ กลาเซีย เป็นคนที่จิตใจดีจริงๆ

ต่อ อีวุย รู้สึกจะสนิกกับคิโมริมากกว่าฉันอีกนะเนี่ย

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน เป็นกลุ่มที่สนุกสนานดีจัง

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

เป็นคนขี้เล่น และค่อยสร้างความสนุกให้แก่เพื่อนๆในกลุ่ม แต่ยังไงก็อย่าเล่นจนลืมหน้าที่ของตนล่ะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ผมคงเอาแต่เล่นเกินไปจริงๆ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ พยายามเล่นให้น้อยลง

โพจามะ

ต่อ บาชาโม่ มีฮิโกะซารุเป็นคู่หูไม่หนักใจบางเหรอ?

ต่อ ฮิโกะซารุ มีเพื่อนเป็นคนติ๊งต๊อง... *ถอนหายใจ*

ต่อ บุยเซล มีความรู้สึกว่าจะสนิทกับเขามากขึ้นนะ

ต่อ จิโคริต้า คือ... เล่นแรงแบบนี้บุยเซลจะไม่ว่าเอาเหรอ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ สนิทกับบุยเซลมากขึ้นแล้วยังไงก็ช่วยบุยเซลจากจิโคริต้าด้วยล่ะ

ต่อ เซนิกาเมะ อยากถามตรงๆสักครั้งว่า เหนื่อยไหมกับการแบกกระเป๋า

ต่อ คิโมริ ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ

ต่อ เชมี่ เป็นพ่อแล้วนะ เชมี่ *หัวเราะ*

ต่อ กลาเซีย ยินดีด้วยนะกลาเซีย ในที่สุดก็มีลูกสักที

ต่อ อีวุย น่ารักเหมือนพ่อกับแม่เลย

ต่อ สามาชิกในสำนักพูคูริน แต่ละคนก็ต่างมีนิสัยเป็นของตัวเอง บอกความรู้สึกโดยรวมยากครับ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

ไม่มีนะ

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

เป็นคนตรงไปตรงมาดีนะ แต่อยากให้ใจเย็นลงบาง แต่ที่ผ่านมาก็ดีขึ้นแล้ว

ความคิดเห็นเจ้าตัว

เรื่องความใจเย็นก็พยายามเท่าที่ทำได้แล้ว ที่เหลือก็สภาพแวดล้อมกับคนรอบข้างแล้วล่ะ

บุยเซล

ต่อ บาชาโม่ หัวหน้าที่น่าเคารพ

ต่อ ฮิโกะซารุ เพิ่งจะเห็นโปเกมอนที่มีนิสัยแปลกๆก็ครั้งนี้

ต่อ โพจามะ อย่าไปจนใจฮิโกะซารุเลยหน่า เสียเวลาเปล่า

ต่อ จิโคริต้า ใครก็ได้พายัยนี้ไปเก็บที!

ต่อ ฮิโตคาเงะ เป็นเพื่อนกันไม่ไช่เหรอ ช่วยพาจิโคริต้าไปไกลๆให้ทีสิ...

ต่อ เซนิกาเมะ คนสำคัญของทีมเพราะต้องค่อยแบกกระเป๋า (เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ)

ต่อ คิโมริ ด้านความคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ ความกล้าก็เพิ่มขึ้นด้วย

ต่อ เชมี่ ในที่สุดก็มีลูกจนได้นะ *หัวเราะ*

ต่อ กลาเซีย ในเมื่อมีลูกแล้วก็ต้องค่อยดูแลให้ดีๆด้วยล่ะ

ต่อ อีวุย นิสัยเรียบร้อยดีนะ เรื่องต่อสู้ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า แต่อาจจะเก่งก็ได้นะ

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่นดี (ในแบบของครอบครัว)

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

เธอก็เหมือนรองหัวหน้าของทีม ตั้งใจทำหน้าที่ขอตนเข้าไว้นะ และค่อยช่วยเหลือบาชาโม่ด้วยล่ะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ผมก็ไม่เคยคิดว่าบาชาโม่เป็นคู่แข่งอยู่แล้ว ผมว่าผมคิดถูกแล้วที่ร่วมมือกับบาชาโม่เพราะนั้นทำให้ผมมีความกล้ามากขึ้น

จิโคริต้า

ต่อ บาชาโม่ หัวหน้าที่เคารพ

ต่อ ฮิโกะซารุ ตอนแรกไม่รู้สึกอะไร แต่ไปๆมาๆก็แปลกคน (แต่ในทางที่ดีนะ)

ต่อ โพจามะ เค้ารู้นะว่านายเหนื่อยใจอยู่

ต่อ บุยเซล อยากแกล้งจริงๆเลย

ต่อ ฮิโตะคาเงะ ตามความรู้สึกของฉัน ช่วงนี้นายไม่ค่อยมีบทบาทเลยนะ น่าจะทำอะไรที่เด่นๆสักครั้งนะ

ต่อ เซนิกาเมะ นายก็อีกคน ทำอะไรที่มันเด่นๆได้แล้วนะ

ต่อ คิโมริ เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีนะ

ต่อ เชมี่ ตกใจมากเลยตอนรู้ว่าพวกนายมีลูกแล้ว ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ

ต่อ กลาเซีย สักวันฉันจะมีลูกอย่างเธอได้ไหมนะ?

ต่อ อีวุย น่ารักดีจัง ขอเลี้ยงได้ไหม อ่ะ! ล้อเล่น *หัวเราะ*

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน ต้องออกความเห็นด้วยเหรอ อืม... ก็ดูเป็นกลุ่มคนที่ปกติดีนะ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

จิโคริต้า ต่อ บุยเซล อยากแกล้งๆๆๆและก็แกล้งๆๆๆ

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ฉันเข้าใจนะว่า การแกล้งเป็นการแสดงความรักอีกอย่างหนึ่ง แต่ยังไงก็อยากให้ลดความรุนแรงหน่อยก็ดีนะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

รับทราบค่ะ! แต่ถ้าแกล้งเบาๆมันก็ไม่สนุกสิ...

ฮิโตะคาเงะ

ต่อ บาชาโม่ หัวหน้าที่เคารพ

ต่อ ฮิโกะซารุ แน่ใจนะว่าเขาเป็นโปเกมอน...

ต่อ โพจามะ เข้าใจความรู้สึกนะที่ต้องค่อยดูแลฮิโกะซารุ

ต่อ บุยเซล ฉันเข้าใจอะไรในตัวนายมากกว่าแต่ก่อนเยอะมากขึ้น หวังว่าเราจะร่วมมือร่วมใจกันได้เหมือนเดิมนะ

ต่อ จิโคริต้า จิโคริต้า... ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอชอบเล่นอะไรแรงๆ

ต่อ เซนิกาเมะ นายเป็นคนมีกำลังเยอะนะ ถ้าได้สู้บ่อยๆคงเก่งแน่ๆ

ต่อ คิโมริ จากเด็กน้อยกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ

ต่อ เชมี่ ยินดีด้วยนะที่มีลูกแล้ว

ต่อ กลาเซีย ยินดีด้วยนะที่มีลูกแล้ว

ต่อ อีวุย รู้สึกลูกจะออกมาทางแม่มากกว่าพ่อนะ

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน พวกเขาเป็นคนมีน้ำใจดีนะ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ไม่ค่อยได้เห็นเธอทำหน้าที่เท่าไรเลยนะ คงดีถ้าเธอทำงานให้มากขึ้น

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ยอมรับว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำงานเลย ต้องขยันให้มากขึ้นสักแล้ว

Link to comment
Share on other sites

เซนิกาเมะ

ต่อ บาชาโม่ เป็นโปเกมอนที่เท่มากๆเลย ดีใจจริงๆที่มีเขาเป็นหัวหน้า

ต่อ ฮิโกะซารุ คนที่ร่าเริงเสมอๆแบบนี้ถือว่าปกติหรือเปล่าหน่า?

ต่อ โพจามะ เราไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไร หวังว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกันบางนะ

ต่อ บุยเซล เห็นทำงานเยอะที่สุดในทีม ยังไงก็อย่าทำงานจนเกิดกำลังตนเองล่ะ

ต่อ จิโคริต้า ถ้าเป็นไปได้อยากให้เธอเปลี่ยนนิสัยสักบ้างนะ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ รู้สึกว่าจะสนิทกับเขามากที่สุดเลย

ต่อ คิโมริ ดูเหมือนอีวุยจะสนิทกับนายนะ ดูแลให้ดีๆล่ะ

ต่อ เชมี่ ก็ไม่รู้นะว่าแอบไปมีลูกกันตอนไหน แต่ก็ยินดีด้วยนะ

ต่อ กลาเซีย ยินดีด้วยนะ และขอให้รักกันนานๆเลย

ต่อ อีวุย ยินดีต้อนรับสมาชิกทีมคนใหม่!

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน พวกเขาเป็นคนมีน้ำใจมากเลยล่ะ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

ไม่มีครับ

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ถึงจะเป็นงานแบกกระเป๋าแต่มันก็เป็นงานที่สำคัญ เรื่องนี้เธอคงรู้อยู่แล้วนะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ตอนแรกก็ลำบากเหมือนกัน แต่ตอนหลังก็เริ่มชินแล้วล่ะ

คิโมริ

ต่อ บาชาโม่ สักวันผมต้องเป็นหัวหน้าทีมที่ดีเหมือนอย่างเขาให้ได้

ต่อ ฮิโกะซารุ เป็นคนที่ร่าเริงทุกเหตุการณ์จริงๆ

ต่อ โพจามะ ดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้สิ แต่เขาก็เป็นคนดีนะ

ต่อ บุยเซล ค่อยดูแลทุกคนอยู่เสมอๆ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ

ต่อ จิโคริต้า เอ่อ... พี่คงยังเป็นจิโคริต้าคนเดิมใช่ไหมครับ?

ต่อ ฮิโตะคาเงะ เป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่ช่วงนี้ไม่เห็นทำอะไรมากนะครับ

ต่อ เซนิกาเมะ เรื่องพละกำลังต้องยกให้เขาเลย ถ้าต้องต่อสู่กันผมต้องแพ้แน่ๆ

ต่อ เชมี่ ยินดีด้วยนะครับ ในที่สุดก็มีลูกแล้ว

ต่อ กลาเซีย เรื่องดูแลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะช่วยเหลือเต็มที่

ต่อ อีวุย ผมไปไหนก็เดินตามตลอดเลยสงสัยจะสนิมกับผมสักแล้ว

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน ขอบคุณมากครับที่ให้พี่ผมเป็นหนึ่งในสมาชิกในสำนักพูคูริน

สายสัมพันธ์อื่นๆ

ต่อ จุ๊บทอล พี่ชายผู้แสนดี

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ตอนนี้เธอก็โตพอที่จะผจญภัยไปในต่างๆได้แล้ว แต่ก็อยากให้ระวังตัวไว้ด้วยพี่ชายเธอเขาเป็นห่วงน่าดู

ความคิดเห็นเจ้าตัว

รู้สึกใครๆต่างบอกว่าผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ผมว่าผมยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ

เชมี่

ต่อ บาชาโม่ เป็นหัวหน้าทีมที่เท่มากเลย

ต่อ ฮิโกะซารุ บางครั้งนายก็ชอบทำตัวกวนๆนะ แต่ฉันไม่ว่านายหรอก

ต่อ โพจามะ ไม่ต้องเครียดเรื่อฮิโกะซารุหรอก ยังไงๆเขาก็เป็นเพื่อนหน่า

ต่อ บุยเซล เป็นคนมีความกล้าสูงนะ และก็ชอบเข้าสังคมด้วย

ต่อ จิโคริต้า ทำไมเธอถึงแอบมองฉันกับกลาเซียด้วยเหรอ?

ต่อ ฮิโตะคาเงะ เห็นใครๆก็บอกเขาไม่ค่อยได้ทำงาน แต่ผมว่าที่ผ่านเขาก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ

ต่อ เซนิกาเมะ แบกกระเป๋ามาโดยไม่เคยบ่นมาตอลด มีความอดทนสูงเลยทีเดียว

ต่อ คิโมริ ขอบใจนะที่ค่อยดูแลอีวุยให้ มีปัญหาอะไรก็บอกได้นะ

ต่อ กลาเซีย สุดที่รัก

ต่อ อีวุย ลูกสาว

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน เป็นกลุ่มที่น่ารักมากๆเลยครับ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ยินดีด้วยนะที่มีลูกแล้ว ดูแลลูกให้ดีๆด้วยนะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง บอกตามตรงว่าตื่นเต้นมาก แต่ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด

กลาเซีย

ต่อ บาชาโม่ ต้องขอบใจบาชาโม่ เพราะเขาทำให้ฉันมีวันนี้ได้

ต่อ ฮิโกะซารุ ขอโทษด้วยนะ เธอคงลำบากน่าดูในการช่วยดูแลอีวุย

ต่อ โพจามะ เธอเริ่มที่จะพูดคุยมากขึ้นแล้วนะ ดีจังเลย

ต่อ บุยเซล ฉันว่าเขาต้องเหนื่อยแน่ๆที่ทำงานหนัก แต่ไม่เคยแสดงอาการออกมาเลย

ต่อ จิโคริต้า ในฐานะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเป็นคนที่แสบจริงๆเลยนะ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ ฉันไม่รู้อะไรมากหรอกนะ เห็นคนอื่นๆบอกว่าเขาทำงานน้อยลง แต่สำหรับฉันไม่เห็นว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปเลย

ต่อ เซนิกาเมะ เป็นคนมีพละกำลังสูง ถ้าไม่สู้สักบ้างฝีมืออาจตกได้นะ

ต่อ คิโมริ ขอบใจเธอมากเลยนะที่ค่อยดูแลอีวุยแทนให้ตลอด

ต่อ เชมี่ รักมากๆๆที่สุดเลย

ต่อ อีวุย ลูกสาว

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน รู้สึกเหมือนพวกเขาจะยิ้มทุกครั้งที่เห็นฉันนะ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

-

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

ยินดีด้วยนะที่มีลูกแล้ว ช่วงนี้เธองานเยอะก็จริง แต่อยากให้เธอดูแลลูกด้วยตัวเองบ้างนะ

ความคิดเห็นเจ้าตัว

นั้นสินะ หมู่นี้ให้คนอื่นๆช่วงดูแลให้ตลอด คงต้องพักงานมาดูแลลูกบ้างแล้วล่ะ

อีวุย

ต่อ บาชาโม่ ตัวใหญ่จริงๆเลย... เขาคือหัวหน้าเหรอค่ะ

ต่อ ฮิโกะซารุ ทำไมเขาต้องวิ่งหนีหนูตลอดเลยล่ะค่ะ? หนูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?

ต่อ โพจามะ เขาก็ดูน่ารักดีนะค่ะ

ต่อ บุยเซล เท่จังเลย

ต่อ จิโคริต้า เขาชอบมองหนูแปลกๆ

ต่อ ฮิโตะคาเงะ เขายิ้มให้เสมอตอนมองหนู แต่หนูอยากให้พูดบ้างก็ดี

ต่อ เซนิกาเมะ โปเกมอนเต่า เป็นโปเกมอนที่มีแรงเยอะจังเลยนะค่ะ

ต่อ คิโมริ รู้สึกอายๆเวลามองเขายังไงก็ไม่รู้

ต่อ เชมี่ คุณพ่อ

ต่อ กลาเซีย คุณแม่

ต่อ สมาชิกในสำนักพูคูริน พวกเขาเป็นคนดีนะค่ะ

สายสัมพันธ์อื่นๆ

มันคืออะไรเหรอค่ะ

ข้อเสนอแนะ (จากพูคูริน)

อยากให้เธอค่อยเรียนรู้สิ่งต่างๆไปเรื่อยๆ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้อยู่แล้ว

ความคิดเห็นเจ้าตัว

หนูรู้สึกยังไม่รู้จักพวกเขาดี ขนาดชื่อยังจำไม่ค่อยได้เลย แต่หนูจะพยายามให้เต็มที่เลย สู้ๆ!

Link to comment
Share on other sites

สุดท้ายก็บทที่หนึ่ง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

8 พฤศจิกายน - อีก 158 วัน สู่ Pokemon Asia Championship X

บทที่ 1 ทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงไปเมืองใหญ่

~ ช่วงที่ 1 ~

ความลำบากของบาชาโม่

ห้องประชุมของพูคูรินไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมากนัก ส่วนมากจะเป็นดอกไม้และคบเพลิงตามผนังเท่านั้น

ขออนุญาตครับ บาชาโม่พูด เมื่อทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงเข้ามาก็พบว่าเหล่าสมาชิกในสำนักนี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แน่นอนว่าทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงของเราตกใจเล็กน้อย

มากันแล้วสินะ พูคูรินพูดอย่างยิ้มแย้ม ฉันรอคำตอบของพวกเธออยู่

ค...ครับ บาชาโม่รู้สึกเกร็งๆยังไงชอบกลทั้งๆที่เขาก็มาที่นี้ตั้งหลายครั้ง แต่ก่อนหน้านั้น กลาเซียบอกว่ามาพบท่านแล้วท่านก็สงสัยจดหมายฉบับนี้

นั้นเป็นความจริง พูคูรินพูด นานๆจะเห็นทำหน้าจริงจังสักครั้ง พวกเธอเองก็คงรู้สึกเหมือนกัน จดหมายฉบับนี้มีอะไรแปลกๆ

หมายถึง... ฮิโกะซารุทำหน้างงๆ แต่ใครหลายคน (หรือตัวดี) ในนี้อยากให้เขาอยู่เงียบๆมากกว่า

บาชาโม่จึงต้องรีบพูดอะไรสักอย่างก่อนที่ฮิโกะซารุจะทำอะไรไปมากกว่านี้ ครับเรื่องนั้นพวกผมก็คุยกันแล้ว ว่ามันไม่น่าจะมาที่นี้ได้เพราะเกาะนี้ถูกทิ้งให้ลืมมากว่าเกือบครึ่งปี ถึงจะรู้ว่ามีเกาะนี้อยู่แต่ก็จะเกิดคำถามว่า ผู้ส่งรู้ได้อย่างไรว่ามีเกาะนี้อยู่จริง

ฉันจำได้จริงๆนะว่าไม่เคยบอกลีเฟียเลยว่าจะไปที่ไหน กลาเซียพูดเสริม ใช่ไหมเชมี่

ใช่ ฉันเองก็จำได้

บางทีลีเฟียอาจรู้มาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ พูคูรินพูดต่อ ส่วนเรื่องที่จดหมายนี้มาที่เกาะนี้ได้ยังไง ฉันก็ลองเรียกเฟลิปเปอร์มาสอบถามดูแล้ว เฟลิปเปอร์ เป็นโปเกมอนนกที่ค่อยส่งจดหมายหรือข่าวสารต่างบนเกาะนี้

แล้วเป็นไงบางครับ

เขาจำไม่ได้ว่าไปได้มาจากไหนและจดหมายมายังไง เขาแค่ทำตามหน้าที่ก็เท่านั้น

... ... ... ทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงเงียบลงทันที

แล้วคำตอบของพวกเธอล่ะจะไปกันหรือเปล่า พูคูรินถามเข้าประเด็นทันที

ทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงมองหน้ากันเล็กน้อย คือ... พวกผมก็อยากคิดในแง่ดีไว้ก่อนครับ ถึงจดหมายมันน่าสงสัยแต่อีกฝ่ายขอร้องให้ช่วยทั้งทีคงต้องไปครับ

คำตอบก็คือ ไปสินะ พูคูรินพยักหน้า

ไม่เป็นไรแน่หรอกท่าน เพรัปที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น ตัวผมเองยัง...

นั้นสิๆ แบบนี้จะดีจริงๆเหรอ เฮกานิช่วยพูดเสริม

ดีแล้วหล่ะ จะห้ามก็ไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงพวกเขาก็ต้องเป็นคนตัดสินใจอยู่ดี

... ... ... เพรัปกับเฮกานิไม่พูด แต่พยักหน้าตอบแทน

คิโมริ จุ๊บทอลเดินเข้ามาหาคิโมริน้องชายของเขา

ครับพี่

จริงๆแล้วพี่ก็อยากไปด้วยนะ

ก็ไปด้วยสิครับ! ถ้าพี่ไปด้วย...

คงไม่ได้

เอ๋!?

เพราะว่าพี่... จุ๊บทอลกำลังจะพูดต่อ แต่กลับมีเสียงนึงดังมาเป็นคำตอบแทน

จุ๊บทอลจังจ้า~~~! เสียงนั้นดังมาแต่ไกล

มันมาแล้ว! ถึงจุ๊บทอลไม่พูดออกมาแต่แค่ดูสีหน้าก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ โปเกมอนสีชมพูตัวนึงบินมาด้วยความเร็วสูงแล้วมาหยุดตรงหน้าจุ๊บทอลพอดีพร้อมทำตาเป็นประกาย

ผู้แต่ง : ธีมเพลงตอนบินมาประมาณ ซุปเปอร์แมน

มี...มีอะไรเซเลบี้... จุ๊บทอลยิ้มแหยๆ

เซเลบี้ยังคงทำตาเป็นประกาย ก็เค้าคิดถึงตัวเองนี่หน่ามาหาหน่อยไม่ได้เหรอ ว่าแล้วก็เข้ากอดจุ๊บทอลทันทีโดยไม่สนใจสายตารอบข้าง

เหนื่อยจริงๆ... เสียงของโปเกมอนอีกตัวดังจากข้างหลัง ทำไมต้องลากฉันมาด้วยเนี่ย เสียงของโปเกมอนตัวนี่บอกได้ถึงความเบื่ออย่างเห็นได้ชัด

อ้าว!? โยโนวารุไม่ชอบเข้าสังคมเหรอ เซเลบี้พูดขณะที่ยังกอดจุ๊บทอลอยู่

ใครบอกว่าไม่ชอบ! แต่เดี๋ยวนี้มาบ่อยเกือบจะทุกวันแล้วนะ ยังคิดถึงอีกเหรอ

โยโนวารุไม่เคยชอบใครจะไปรู้สึกได้ยังไง ใช่ไหมจุ๊บทอลจ้า~

เหรอ... แต่ฉันไม่เห็นจะรู้สึก ว่าแต่เธอรีบออกจากตัวฉันได้แล้วมั้ง

เซเลบี้กับโยโนวารุ เคยเป็นผู้ร่วมเหตุการณ์ตอนสู้กับดีอัลก้า ตอนนั้นมีการเข้าใจผิดอะไรนิดหน่อยแต่ก็จบลงด้วยดี หลังจากเหตุกาณณ์นั้นสองคนนี้ก็ต่างแยกย้ายไปตามที่อยู่ของตน นานๆจะมาหาสักครั้ง

จริงสิระหว่างมาที่นี้ฉันเจอโปเกมอนตัวใหญ่มากๆเลยล่ะ เซเลบี้ออกมาจากตัวจุ๊บทอลจนได้ เหมือนเขากำลังหลงทางอยู่พอเข้าไปถามเขาก็ถามว่าที่นี้ มีโปเกมอนชื่อเชมี่กับกลาเซียไหม

ถ้างั้น... บาชาโม่รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

ขอโทษนะครับ ขอเข้าไปหน่อย เสียงของโปเกมอนตัวนึงดังจากข้างนอก

ทุกตาสายจ้องมองไปที่โปเกมอนตัวนั้น ...เอ่อ ที่เซเลบี้บอกว่าเป็นโปเกมอนตัวใหญ่ก็เข้าใจว่าใหญ่จริงแต่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้

ข...ขอ...เข้า....ไป....หน่อย... โปเกมอนตัวนั้นพยายามนำร่างใหญ่ๆเข้าประตูซึ่งดูเล็กไปเลย อ๊าก~! ในที่สุดหลังความพยายามโปเกมอนตัวนั้นก็เข้ามาได้ในที่สุดแต่ก็ล้มลงตรงหน้าของเหล่าสมาชิกในสำนักพูคูริน

แม้แต่บาชาโม่เองก็ยังตกใจกับขนาดของโปเกมอนที่เขาเห็น โปเกมอนตัวนั้นเป็นโปเกมอนประเภทมังกรตัวสีออกส้มๆทั้งตัว

ขอโทษนะครับที่ยังไม่แนะนำตัว โปเกมอนตัวนั้นลุกขึ้นแล้วทำท่าวันทยหัตถ์ราวกับทหารไม่มีผิด กระผมมีชื่อว่า ไคริว ยินดีที่ได้รู้จักครับผม!

ผู้แต่ง : เอฟเฟค จุดพลุข้างหลัง

ทุกคนในสำนักพูคูรินพร้อมใจกันพูดในใจ อะไรของมันเนี่ย...

อ่ะ! คุณสองคนคือเชมี่และกลาเซียสินะครับ ไคริวชี้ไปที่เชมี่กับกลาเซีย

ใช่...ใช่แล้ว ว่าแต่รู้ได้ไงว่าเป็นพวกผม

ลีเฟียเป็นคนบอกครับ เขาเก่งเรื่องอธิบายมากเลยนะครับพูดแบบสามารถมองเห็นภาพได้เลย

ฮิฮิ ลีเฟียเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ กลาเซียหัวเราะเล็กน้อย

งั้นจะไปกันเลยไหมครับ

ครับ แต่ว่า...ไคริว

ครับ

ผมอยากพาเพื่อนไปด้วย ...จะลำบากไหม เชมี่ชี้ไปที่เพื่อนๆทีละคน

แต่ยังไม่ทันชี้ที่บาชาโม่ไคริวก็พูดขึ้นก่อน ไม่หรอกเพื่อนๆคุณก็ตัวเล็กๆกันทั้งนั้นเลยนี่ครับ

เปล่า... คือเขาอีกคน เชมี่ชี้ไปที่บาชาโม่

บาชาโม่ยืนอยู่หน้าไคริวห่างกันไม่เท่าไร ส่วนสูงของทั้งสองห่างกันไม่กี่เซนเท่านั้น (แน่นอนว่าบาชาโม่เตี้ยกว่า)

... ... ... ไคริวมองบาชาโม่อยู่ครู่นึง ถ้างั้นงานหนักแล้วล่ะครับ

หมายความว่าไง! บาชาโม่พูดอย่างหมดอารมณ์

หลังจากตกลงและกล่าวลากันเสร็จทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงก็ขึ้นหลังไคริวมุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่

สุดยอด~~! ฮิโกะซารุดูตื่นตาตื่นใจกว่าเพื่อน เพิ่งได้บินก็วันนี้ล่ะ

ชอบสินะครับ สำหรับผมน่ะบินแบบนี้บ่อยจนเบื่อแล้วล่ะ ไคริวพูดแล้วหันมายิ้มให้แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น

หลังของไคริวเนี่ยสบายดีจังเลย จิโคริต้าแทบจะนอนบนหลังไคริวอยู่แล้ว

แต่ฉันไม่สบายเลย! เสียงดังมาจากข้างหลัง บาชาโม่นั้นเอง แต่ถ้าคิดว่าเขานั่งอยู่บนหลังล่ะก็คิดผิด เพราะเขากำลังเกาะห่างไคริวอย่างเต็มที่ถ้าไม่ยังไงคง...

เอาน่าๆ บาชาโม่ก็ที่มันไม่พอ

แต่แบบนี้มันไม่อันตรายไปหน่อยหรือไง! บาชาโม่ รู้สึกอยากร้องไห้ ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ

หลังจากเกาะห่างไคริวราวสิบห้านาทีในที่สุดทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงก็มาถึงเมืองใหญ่

Link to comment
Share on other sites

~ ช่วงที่ 2 ~

สำนักเนตีโอ้

หลังจากลงมาที่พื้นได้อย่างปลอบภัย ทั้งหมดก็เดินทางไปหาลีเฟีย ณ ตอนนี้พวกเขาอยู่กันที่ ถนนข้าวสารย่านบางลำพู ซึ่งเป็นย่านการค้า  มีทั้งตลาดสดและตลาดขายสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด และยังเรียกคลองรอบกรุงส่วนที่ผ่านบางลำพูนี้ว่า คลองบางลำพู อีกด้วย

มนุษย์เยอะจังเลย สำหรับพวกบาชาโม่แล้ว มันก็เหมือนคนบ้านนอกเข้ากรุง พวกเขาไม่เคยมนุษย์ในปริมาณขนาดนี้มาก่อน ทำไมพวกเขาแต่ละคนต่างกันจังเลย บาชาโม่มองไปที่มนุษย์คนนั้นคนนี้

ที่นี้มีคนต่างชาติเยอะครับ คนไทยที่นี้ส่วนมากจะทำการค้าขายกับชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยด้วยกันอีกนะครับ ไคริวอธิบาย

ชาวต่างชาติ? ฮิโกะซารุทำหน้างงๆ

ก็หมายถึงคนที่อยู่ในประเทศอื่นหรือมาจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศของเราครับ

ถ้างั้นพวกเราก็คือชาวต่างชาติสินะ

ป...เปล่าครับ สำหรับพวกคุณน่าจะเรียกว่า บ้านนอกเข้ากรุงมากกว่า

เอ๋?

แล้วที่ที่ลีเฟียอยู่ ยังอีกไกลไหม บาชาโม่รู้สึกเรื่องมันเริ่มไปกันใหญ่จึงต้องพูดเปลี่ยนเรื่อง

ใกล้แล้วล่ะครับ เดินต่ออีกสี่ห้านาทีก็ถึง ถ้ามนุษย์ไม่เยอะนะ

พอดูถึงมนุษย์ทำไมพวกเขามองพวกเราแปลกๆ เซนิกาเมะพูดถูก ทุกครั้งไม่ว่าจะผ่านมนุษย์คนไหน คนๆนั้นก็ต้องหันมามองกันทุกคน บางคนเหมือนจะแอบกระซิบอะไรกันด้วยดูไม่น่าไว้ใจเลย

ที่นี้ก็แบบนี้ล่ะครับ ในตัวเมืองไม่ค่อยมีโปเกมอนออกมาให้เห็นเท่าไร ยิ่งถ้าเป็นโปเกมอนแปลกๆด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ

โปเกมอนแปลกๆ ฟังดูเหมือนไม่ใช่คำชมเลย บาชาโม่คิด

โปเกมอนที่อยู่ในตัวเมือง ตัวผมเองก็เช่นกัน ต่างต้องระวังตัวไม่ให้ถูกมนุษย์จับได้จึงไม่ค่อยออกมาเดินแบบนี้บ่อยหรอกครับ สีหน้าไคริวดูเศร้าๆไปสองสามวินาทีแต่ก็กลับมายิ้มดังเดิม แต่ไม่ใช่เพราะมนุษย์ไม่ดีนะครับ โปเกมอนในเมืองแบบนี้จะมีความสัมพันธ์เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แน่ล่ะก็อยู่ด้วยกันมาตลอดนี่หน่า พอมีใครสักคนถูกจับไปก็จะรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างหายไป คือรู้สึกเหมือนตัวเองโดดเดียว... ไคริวพูดทั้งๆที่ไม่มีใครขอให้เขาพูดสักนิด แต่ก็ไม่มีใครคิดจะห้ามแต่อย่างใด

ในที่สุดเหมือนไคริวจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ขอ...ขอโทษนะครับ! ที่พูดอะไรไปเรื่อย แต่เพราะเหตุผลนี้เองทำให้มีสำนักเนตีโอ้ขึ้น

สำนักเนตีโอ้? บุยเซลพูดซ้ำเหมือนต้องการคำตอบ

เป็นสำนักเล็กๆครับ มีไว้สำหรับโปเกมอนในเมืองที่ต้องการความเป็นอิสระ พูดง่ายๆคือไม่อยากตกไปอยู่ในน้ำมือของมนุษย์

งั้นก็คล้ายๆกับสำนักพูคูรินของเราเลยสินะ จิโคริต้าพูด

ครับ ก็ประมาณนั้น แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะครับ แต่สำนักที่ว่าก็เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

หา!? กลาเซียอุทานออกมา แบบนี้มันก็ไม่ต่างกันสิค่ะ!

ครับ มันอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ที่อาศัยนั้นเป็นที่อยู่ส่วนตัวของมนุษย์ผู้เป็นพระคุณของพวกผมครับ

แล้ว?

พื้นที่ท่านอาศัยอยู่มีบ้านสามหลัง มีบ้านเก่า บ้านผสมและตึกคอนโด โดยท่านจะอยู่ที่บ้านเก่าพวกผมอยู่ที่บ้านผสมส่วนตึกคอนโดเป็นที่อาศัยชั่วคราวนานๆจะมีมนุษย์มาสักครั้ง รวมๆแล้วก็เป็นที่ที่เหมาะสำหรับโปเกมอนอย่างพวกผมมากๆเลยครับ

ผู้แต่ง : บ้านผสมคือ บ้านเก่าที่นำมาต่อเติมด้วยสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่โดยยังคงความเป็นบ้านหลังเดิมอยู่ แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเก่า

บ้านเก่าที่ว่าคงเก่ามากๆเลยสินะครับ? ฮิโตะคาเงะถาม

ใช่ครับ อย่างที่พวกคุณเห็นว่าสถานที่โดยรอบจะเป็นตึกสมัยใหม่ แต่ที่ที่เรากำลังจะไปเป็นบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังครับ แน่นอนว่าสำหรับบ้านเก่าเป็นแบบนั้น บ้านผสมที่พวกผมอยู่มันมีขนาดเล็กท่านก็เลยต่อเติมให้ใหญ่พอที่พวกผมจะอยู่กันได้อาจดูสมัยใหม่ไปบ้างแต่รวมๆแล้วยังคงเดิมไม่เปลี่ยนไปมากนัก คงมีแต่ตึกคอนโดที่เป็นตึกสมัยใหม่

สุดยอดไปเลย บาชาโม่คิดคำที่จะพูดไม่ได้นอกจากคำนี้จริงๆ เขาเพิ่งได้รู้ว่ามีมนุษย์ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อโปเกมอนแม้โปเกมอนพวกนั้นจะไม่ใช่โปเกมอนของตัวเองก็ตาม ช่างเป็นมนุษย์ที่หาได้ยากยิ่งในสมัยนี้

ทางนี้ครับ ไคริวหยุดตรงทางแยกซึ่งเป็นตรอกที่กว้างเพียงคนสองคนเดินสวนกันได้เท่านั้น อ่ะ! ลืมไปมนุษย์ที่ให้พวกผมอาศัยอยู่ท่านเป็นเจ้าของร้านขายกาแฟตรงหน้าทางเข้าพอดี อืม...แต่รู้สึกเหมือนจะ... ไคริวมองเข้าไปในร้าน ร้านกาแฟร้านนี้มีการตกแต่งออกหรูนิดๆแต่ยังคงความเป็นไทยด้วยของตกแต่งที่เป็นไม้แกะสลักทั้งหมด แม้กระทั้งเก้าอี้และโต๊ะ ที่เป็นที่นั่งของลูกค้าก็ยังเป็นไม้แกะสลักที่น่าจะทำด้วยมือทั้งสิ้น หลอดไฟตามที่ต่างๆในร้านจงใจไม่ให้สว่างมากนัก แต่ก็ยังมองเห็นทั่วบริเวฯภายในร้าน

ไม่อยู่หรือครับ ฮิโกะซารุถาม

ครับ วันนี้ท่านคงอยู่ที่บ้าน อ่ะ! เห็นมนุษย์คนนั้นไหมครับ ไคริวชี้ไปที่เด็กหนุ่มคนนึง อายุน่าจะราวๆสิบห้าสิบหกปี หน้าตาน่ารัก กำลังบริการแขกในร้านอย่างขยันขันแข็ง เขาพักที่บ้านเก่าเช่นเดียวกับท่านผู้นั้นครับ รู้สึกจะเป็นหลานของท่านผู้นั้นน่ะครับ

งั้นเหรอ... บาชาโม่มองเด็กหนุ่มคนนั้น เอ๋!?... หน้าตาแบบนั้นทำไมเราถึงรู้สึกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนนะ ความรู้สึกชวนคิดถึงนี้มันอะไรกัน...หรือเราลืมอะไรไปอย่างนั้นเหรอ...แต่เราก็เพิ่งเห็นเขาก็ครั้งนี้นี่หน่า...

นี้บาชาโม่! รีบๆตามมาสิ! ฮิโกะซารุตะโกนเรียก

บาชาโม่ที่ได้สติพอหันไปมองจึงพบว่าทุกคนเข้าไปในตรอกกันหมดแล้ว อ่ะ! รอด้วยสิ ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เรามีหน้าที่ที่ต้องทำก่อน บาชาโม่จึงต้องเลิกคิดเรื่องเด็กหนุ่มคนนั้นไปก่อน

ถนนข้าวสารนั้นในสมัยก่อนจะเป็นถนนธรรมดาๆไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่อย่างใด จนกระทั้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่งมากขึ้นและมีร้านที่ทันสมัยมากขึ้นจึงได้มีการทำความสะอาดถนนข้าวสารทำถนนใหม่โดยเปลี่ยนจากถนนปูนเป็นถนนกระเบื้องทั้งหมดรวมไปถึงตรอกเล็กๆที่แยกออกไปอีกในบริเวณนั้น ที่ที่พวกบาชาโม่กำลังเดินอยู่ก็เช่นกันถูกปูนด้วยกระเบื้องอย่างดีถึงมันจะดูเก่าไปบ้างก็ตาม

เดินเข้าไปอีกไม่นิดเดียวก็ถึงแล้วครับ ไคริวพูดขณะเดินนำพวกบาชาโม่ ตรอกที่พวกบาชาโม่เดินเข้าเป็นเส้นทางตรงมีเลี้ยวซ้ายขวาสองครั้งก่อนจะพบประตูทางเข้าบ้านที่ทำจากเหล็กสภาพค่อยข้างเก่า มาถึงแล้วครับ ไคริวเปิดประตูเหล็กซึ่งดูน่าจะหนักได้อย่างง่ายดาย

โห~! พวกบาชาโม่ต่างร้องออกมาพร้อมกัน

เป็นอย่างที่ไคริวเคยเล่ามาทั้งหมด ภายในเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งไร่ บนพื้นที่นั้นมีบ้านสองหลังกลับตึกคอนโดอีกหนึ่งตึกตามที่ไคริวเล่า แต่ก็มีสิ่งที่ไคริวไม่ได้บอกเหมือนนั้นก็คือ

ทางซ้ายคือบ้านหลังเก่าครับเป็นที่อยู่ของท่านผู้นั้นกับเด็กหนุ่มที่เห็นในร้าน เมื่อเข้าประตูเหล็กมาหันไปทางซ้ายจะเป็นบ้านหลังเก่าสูงสองชั้นแต่เพราะตั้งอยู่ในพื้นต่างระดับเลยดูเหมือนเป็นบ้านชั้นเดียว ส่วนข้างหน้าจะเป็นบ้านหลังผสมสูงสองชั้นที่เป็นที่อาศัยของพวกผมและคงเป็นที่อาศัยของพวกคุณในตอนนี้ด้วย ไคริวหัวเราะอย่างอายๆ คงเพราะยังไม่ได้สนิทกันมั้ง ถัดไปก็จะเป็นตึกคอนโดสูงห้าชั้น ส่วนสนามหญ้าตรงกลางเป็นที่ใช้กิจกรรมช่วงเช้า สนามหญ้าที่ไคริวพูด มีขนาดไม่กว้างใหญ่มากนักประมาณหนึ่งต่อห้าของพื้นที่

บ้านดูเก่าแท้ๆ แต่ทำไมหลังคาพวกนี้ดูยังใหม่ๆอยู่เลย โพจามะหมายถึงหลังคาที่อยู่บนหัวของพวกเขา เป็นหลังคากระเบื้องรูปคลื่น โดนหลังคานี้ถูกสร้างขึ้นตรงทางเดินระหว่างบ้านหลังเก่ากับบ้านหลังผสม

ครับ เรื่องหลังคาท่านเห็นว่า พวกผมมักเดินไปบ้านหลังเก่าอยู่บ่อยๆท่านก็เลยสร้างหลังคานี้ให้ จะได้ไม่ต้องร้อนต่อแสงแดดและจะได้ไม่ต้องเปียกเวลาฝนตกด้วย ระหว่างที่ไคริวกำลังอธิบายอยู่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ไงไคริว! กลับมาแล้วเหรอ เสียงของโปเกมอนตัวนึงดังขึ้น พวกบาชาโม่หันไปมองเจ้าของเสียงก็ต้องตกใจทำตาโต

อ่ะ! แอปโซล! อืม...กลับมาแล้ว ท่าทีของไคริวดูแปลกไปยังไงชอบกล พวกนี้เป็นเพื่อนของลีเฟีย

ผู้แต่ง : จริงๆแอปโซล ยังมีชื่อเรียกอื่นๆอีก เช่น อาบูโซล อาบูซอล ในฟิคนี้ขอใช้ แอปโซล นะครับ

แอปโซลมองพวกบาชาโม่ทีละคนๆ เพื่อนเยอะกว่าที่คิด แต่ลีเฟียบอกว่ามีแค่สองไม่ใช่เหรอ

คือพวกเราขอตามมาด้วยน่ะครับ บาชาโม่พูดพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่าย

แต่แอปโซลไม่ยิ้มตอบ เขาจ้องหน้าบาชาโม่ งั้นเหรอ ก็ดีเพื่อมีมนุษย์เลวๆสามตัวนั้นอีกยังไงก็ช่วยไล่ให้ด้วยแล้วกัน...

หา!? แค่ได้ยินคำว่า มนุษย์เลวๆ บาชาโม่ก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว น้ำเสียงของแอปโซลฟังดูก็รู้แล้วว่าเขาแค้นมนุษย์ที่ว่ามากขนาดไหน

ไม่เอาหน่าแอปโซล! พวกเราเป็นโปเกมอนนะไม่มีสิทธิที่จะ... ไคริวเงียบทันที เมื่อเห็นแอปโซลจ้องมองเขา

แอปโซลยิ้มอย่างเย็นชา เพราะแบบนี้นายถึงได้อ่อนแอไงล่ะ มาถึงขั้นนี้นายน่าจะรู้ได้แล้วนะ ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนๆก็เหมือนกันหมด

แล้วทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี้ล่ะ! ทำไมไม่ไปจากที่นี้สัก! คราวนี้ไคริวพูดเสียงดังด้วยความโกรธ

บาชาโม่ตกใจอีกรอบ เพราะไคริวเรียกแอปโซลว่า เธอ... ถ้างั้นแอปโซลตัวนี้ก็...

ก็เพราะ ฉันไม่รู้จะไปที่ไหนนะสิ! ถ้าฉันมีที่ที่ไปฉันก็ไม่ต้องมาอยู่ที่แบบนี้หรอก! น้ำเสียงของแอปโซลครั้งนี้ฟังดูเศร้าๆ ก็จริงเพราะดวงตาของแอปโซลมีน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย

... ... ... ไคริวถึงกลับเงียบ เขาถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

เกิดอะไรขึ้น! ส่งเสียงสักดังเลย มีอีกเสียงดังขึ้น แต่เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของโปเกมอน เป็นเสียงของมนุษย์ที่ฟังแล้วน่าจะเป็นคนที่มีอายุสูงทีเดียว เกิดอะไรขึ้นเหรอ

และแล้วมนุษย์นั้นก็ปรากฏตัวในที่สุด เป็นผู้หญิงอายุราวๆเจ็ดถึงแปดสิบปี แต่งกายธรรมดาๆตามแบบของคนแก่ ท่านผู้นั้นที่ไคริวพูดถึงคงเป็นมนุษย์คนนี้

ทั้งแอปโซลและไคริวต่างหันไปมองโดยเฉพาะแอปโซลมีสีหน้าที่ตกใจจนเห็นได้หัน แอปโซลมองอยู่สักพักก็วิ่งเข้าไปในบ้านหลังผสม ไคริวก้มหัวแสดงความเคารพเล็กน้อย พวกบาชาโม่ที่ยืนอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ก้มหัวตามไคริวเล็กน้อยเหมือนกัน ก่อนทั้งหมดก็เข้าไปในบ้านหลังผสมเพื่อพบลีเฟีย

ก่อนจะเข้าไปในบ้านหลังผสม บาชาโม่คิดในใจว่า อะไรทำให้แอปโซลโกรธได้ถึงขนาดนี้ มนุษย์เลวๆสามคนที่พูดหมายถึงคือใคร? ไม่น่าใช่คนในบ้านนี้แน่ๆ และมนุษย์พวกนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับที่นี้? ไม่สิ อะไรทำให้พวกเขามาอยู่ด้วยกันที่นี้ตั้งแต่แรก สำนักเนตีโอมีความลับอะไรที่แน่!?...

Link to comment
Share on other sites

~ ช่วงที่ 3 ~

เป้าหมาย

ดังที่เคยได้บอกไปแล้วว่า บ้านทั้งสองหลังนั้นสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง (ถ้าไม่นับส่วนที่สร้างที่หลัง) ภายในก็ต้องเป็นไม้ทั้งหมดรวมถึงพื้นก็เป็นไม้เช่นกัน ภายในบ้านหลังผสมไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนักส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างๆจะมีดอกไม้ประดับก็ในบ้างจุดแต่ดูก็รู้ว่าเป็นดอกไม้ปลอม

พวกบาชาโม่ในตอนนี้รู้สึกซึมๆไปเล็กน้อย ไม่แปลกหรอกก็เมื่อครู่พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์อันตึงเครียดไปเมื่อไม่นาน

นี่พวกเรามาถูกเวลาหรือเปล่าครับ คิโมริพยายามพูดให้ได้ยินเฉพาะภายในกลุ่ม

ที่แน่ๆลีเฟียคงรู้มากกว่าพวกเราล่ะนะ เชมี่ตอบโดยไม่ได้มองคิโมริ ที่ว่าที่นี้กำลังมีปัญหา คงไม่ได้มีแค่นี้แน่ๆ

... ... ... อยู่ๆไคริวก็หยุดเดิน นั้นก็เพราะตรงหน้าเขาแอปโซลกำลังนั่งหันหลังให้เขาอยู่ ถึงจะไม่ได้หน้าแต่ก็พอรู้ได้ว่าเธอกำลังเศร้าอยู่ ขอโทษนะครับ พวกคุณไปพบลีเฟียได้ที่ชั้นสองขึ้นบันไดที่ข้างๆไปนะครับเขาจะจัดการทุกอย่างที่เหลือเอง ส่วนผม ...มีธุระนิดหน่อย

ครับ ขอบคุณมากครับ บาชาโม่กับเพื่อนๆ เดินขึ้นบันไดทางซ้ายที่อยู่ใกล้ๆพวกเขา แต่มันเป็นบันไดที่ค่อยข้างแคบเลยไปได้ทีละคนเท่านั้น งานนี้ลำบากบาชาโม่อีกแล้ว...

เมื่อขึ้นมาชั้นสองพวกบาชาโม่ก็พบว่าชั้นนี้เป็นพื้นที่กว้างๆกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านเลยทีเดียวเมื่อหันไปทางซ้ายจะพบกับระเบียงที่ทอดยาวไปตลอดแนว

พวกบาชาโม่ยังไม่ได้สนใจระเบียงมากนักเพราะตอนนี้โปเกมอนสองตัวที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาน่าสนใจมาก ตัวนึงยืนอยู่บนเบาะนั่งอีกตัวยืนอยู่ข้างด้านขวา

สวัสดี โปเกมอนตัวนั้นทักทาย ผมชื่อเนตีโอ้ เป็นผู้ช่วยดูแลที่นี้ และเขาคนนี้ชื่อเร็นโทร่า พวกคุณคงเป็นเพื่อนๆของลีเฟียสินะ

ใช่แล้วครับ เชมี่ตอบ ผมกับกลาเซียเป็นเพื่อนของลีเฟียครับ แล้วอีวุยตัวนี้ก็เป็นลูกของผมเอง

สวัสดีค่ะ... อีวุยทักทายอยากกลัวๆ

งั้นที่เหลือล่ะ เนตีโนหันไปมองพวกบาชาโม่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง

ขอตามมาด้วยความน่ารักสดใสหัวใจดวงโตๆ ฮิโกะซารุพูดอย่างร่าเริง แต่คนอื่นๆในกลุ่ม...ไม่ขอบรรยายแล้วกัน

ผู้แต่ง : ฮิโกะซารุ ตัวทำลายบรรยากาศ

เนตีโอ้ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปแต่อย่างใด ไม่สิ เพราะเนตีโนเป็นโปเกมอนหน้าตายนี้หน่า (?) ส่วนเร็นโทร่าหัวเราะในลำคอ

พวกเธอรอก่อนนะ ลีเฟียกำลังยุ่งเรื่องคนในทีมอยู่

ทีม? เชมี่ถามอย่างงงๆ

น่าจะเรียกว่าเพื่อนกว่ามากนะครับ อีกเสียงนึงดังขึ้น ไม่ต้องก็รู้ลีเฟียนั้นเอง ขอโทษที่ให้รอนะเชมี่ กลาเซีย ลีเฟียเดินออกมาจากห้องที่อยู่ข้างๆ ด้านหลังของลีเฟียมีโปเกมอนอีกสามตัว ได้แก่ นิวร่า แซนกูส และโรค่อน

ลีเฟีย! เชมี่และกลาเซียพูดแทบจะพร้อมกัน ก่อนทั้งคู่จะรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน

เป็นไงบ้างสบายดีใช่ไหมลีเฟีย กลาเซียกล่าวทักทายเป็นคนแรก

ฉันสบายดี... ฮ่า ฮ่า นี่พวกนายกับกลาเซียมีลูกแล้วเหรอ ลีเฟียมองเห็นอีวุยอยู่หลังกลาเซียเลยถือโอกาสแซวเล็กน้อย

เงียบหน่า... เชมี่หน้าแดงเล็กน้อย แล้วพวกเขาล่ะ

อ๋อ พวกเขาเป็นเพื่อนฉันเอง

นิวร่า ครับ

แซนกูส ครับ รายนี้หน้าตาออกน่ารักไม่เหมือนแซนกูสที่เคยเห็นนะ

โรค่อน ค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ / ค่ะ ปิดท้ายด้วยการกล่าวสวัสดีพร้อมกันทั้งสามตัว

เข้ามาข้างในสิ เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง ลีเฟียพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในข้างที่อยู่ข้างๆ

พวกบาชาโฬ่เดินตามพวกลีเฟียเข้าไป แต่ก่อนที่จะเข้าไป

อ้าว!? แล้วไคริวล่ะ? แอปโซลด้วย เร็นโทร่าพูดขึ้น

อ๋อ... ทั้งสองอยู่ข้างล่างครับ คงพูดคุยกันอยู่ บาชาโม่จงใจไม่พูดเรื่องที่ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องมนุษย์ พูดเสร็จบาชาโม่ก็ตามเพื่อนๆเข้าไปในห้อง

พอพูดถึงไคริวกับแอปโซลแล้ว ก็ขอตัดไปดูสักหน่อยแล้วกัน

แอปโซลยังคงนั่งตรงมุมห้องเดิมเหมือนโดยมรไคริวยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง

ถ้านายอยากจะว่าอะไรก็เชิญ แต่ฉันไม่เสียใจที่พูดแบบนั้นเลยสักนิด แอปโซลพูดโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย

เธอเนี่ยหน่า... ไคริวส่ายหัวเล็กน้อย ฉันไม่ได้จะว่าเธอสักหน่อย

แล้วอยากจะพูดอะไร

เรื่องมนุษย์... ถึงมนุษย์พวกนั้นนิสัยไม่ดีก็จริง แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์ที่ไหนๆจะเป็นแบบนั้นไปสักหมด

... ... .. แอปโซลไม่พูดอะไร ดูไม่ออกว่าตั้งใจฟังอยู่หรือเปล่า

ที่พวกเรายังมีที่อยู่จนทุกวันนี้ก็เพราะมนุษย์ ถึงเธอไม่อยากยอมรับมันก็เถอะ

เรื่องนั้นฉันรู้ดี แอปโซลหันมามองอีกฝ่ายในที่สุด นายก็น่าจะรู้พอพูดถึงเรื่องมนุษย์ทีไรฉันต้องโกรธแบบนี้ทุกที

เพราะแบบนี้นะสิ เธอถึงต้องหันเก็บอารมณ์ไว้สักบาง ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดกับเธอยังไงอยู่

หมายถึงเพื่อนๆของลีเฟียนะเหรอ พวกเขาก็ดูเป็นคนดีนะ

ใช่ ถ้าเธอไม่ไปพูดแบบนั้นกับพวกเขา

ก็ตอนนั้นฉันยังอารมณ์ไม่มีอยู่ แอปโซลพูดแก้ตัวไปงั้นๆแต่ในใจเธอรู้ตัวดีว่าได้ทำผิดไป ถ้ามีโอกาสฉันจะขอโทษพวกเขา

อืม... ฉันเห็นด้วย ไคริวพยักหน้า อย่างน้อยเขาก็ภูมิใจที่ทำให้แอปโซลเย็นใจได้ขึ้นมาบ้าง

กลับมาทางของพวกบาชาโม่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องที่ลีเฟียเรียกว่าห้องสนทนา เป็นห้องที่ไม่มีการตกแต่งอะไรมากนัก มีแค่ปูพรมทั่วพื้นสีสันก็ไม่ถึงขั้นเรียกว่าสดใสกับรูปภาพแขวนที่อยู่บนพนังไม่กี่ภาพ

ที่นายบอกว่า ที่นี้กำลังเจอกับปัญหาใช่เรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์หรือเปล่า เปิดการสนทนาเชมี่ก็ถามเข้าประเด็นทันที

พวกนายคงทราบจากแอปโซลสินะ สีหน้าลีเฟียดูสงบยังไงชอบกล แต่นั้นแค่เรื่องหนึ่ง เรื่องที่อยากให้นายช่วยเป็นอะไรที่ง่ายกว่านั้นเยอะ

ขอโทษนะลีเฟีย บาชาโม่พูดขึ้น ก่อนจะเข้าเรื่องช่วยบอกหน่อยได้ไหมเรื่องมนุษย์... พวกเขาทำอะไรไว้เหรอ

ทั้งๆที่มีสีหน้าสงบนิ่งมาโดยตลอดแต่พอโดนถามเรื่องมนุษย์ลีเฟียกลับมีสีหน้าเศร้าจนสังเกตได้

ผมขออธิบายเอง นิวร่าพูด พวกคุณเคยได้ยินข่าวตึกอพาร์ทเม้นท์ไฟไหม้เมื่อหลายเดือนก่อนไหม

เรื่องนั้นเชมี่เล่าให้ฟังมาบาง เห็นว่าในตอนนั้นลีเฟียก็อยู่ที่นั้นด้วย

ใช่ ลีเฟีย... ไม่สิ ตอนนั้นทั้งลีเฟีย ผมและทุกคนที่อยู่ที่นี้เคยอาศัยในตึกอพาร์ทเม้นท์นั้นกันหมดทุกคน

หา!? พวกบาชาโม่ร้องออกมาพร้อมกันแม้แต่เชมี่กับกลาเซียเองก็ด้วย

จ...จริงเหรอ แต่ตอนนั้นฉันไม่เห็นนายเลย... เชมี่มองนิวร่าเหมือนกำลังค้นหาบางอย่าง

มันก็ไม่แปลกหรอกครับ พวกผมเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี่เอง

พวกคุณคงสังเกตเห็นแล้วว่าที่นี้มีโปเกมอนค่อยข้างน้อย นั้นก็เพราะพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของพวกที่รอดมาได้ โรค่อนเล่าเสริม

แต่นั้นยังไม่เลวร้ายที่สุดเหรอนะ ลีเฟียพูดขึ้น

ลีเฟีย... ดูเหมือนแซนกูสจะรู้ว่าลีเฟียจะพูดอะไร ใจอยากจะห้ามแต่กลับพูดไม่ออก

ไม่เป็นไรแซนกูสฉันทำพอใจได้บ้างแล้วล่ะ

เรื่องอะไรเหรอลีเฟีย? ฮิโกะซารุถามอย่างตื่นเต้น

เรื่องนี้เชมี่กับกลาเซียคงทราบอยู่แล้วสินะ ...เหตุการณ์ในตอนนั้น...ฉัน...ได้สูญเสียเทรนเนอร์ของฉันไป

... ... ... ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าทุกคนตกใจมากขนาดไหน พวกบาชาโม่ทำได้แค่แสดงความเสียใจผ่านทางสีหน้าเท่านั้น

ลีเฟียก็เข้าใจดีว่าพวกบาชาโม่คงอยากปลอบใจเขา แต่ว่านะ ฉันก็พอทำใจเรื่องนั้นได้แล้วที่สำคัญตอนนี้ฉันก็มีเทรนเนอร์คนใหม่และเขาก็ดีกับฉันมากๆด้วย ไม่ต้องห่วงไปหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ลีเฟียหัวเราะเพื่อไม่ได้เพื่อนๆคิดมาก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ฉันให้พวกนายมาแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือเรื่องปัญหาของที่นี้ แต่ส่วนหนึ่งคือฉันให้พวกนายมาให้กำลังใจฉัน

ให้กำลังใจเรื่อง...? เชมี่ถามซ้ำอย่างไม่ตั้งใจ

ฉันตั้งใจจะลงแข่งขัน  Pokemon Battle ในศึก Pokemon Asia Championship X ที่จะจัดขึ้นในอีกห้าเดือนต่อจากนี้

หา!? พวกบาชาโม่ร้องอีกรอบแต่ครั้งนี้มีเชมี่กัลป์กลาเซียที่ตกใจกว่าเพื่อน

นี่เธอจะต่อสู้งั้นเหรอ! กลาเซียออกอาการเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

งั้นแปลว่า ปกติแล้วลีเฟียไม่เคยต่อสู้มาก่อนอย่างนั้นเหรอ? บาชาโม่คิด

แล้วจะลงแข่งยังไงล่ะ? เชมี่ถามต่อจากกลาเซียแทบติดๆกัน

เอ่อ... ลีเฟียเหยื่อตกเล็กน้อย อีกสองอาทิตย์จะมีการแข่งขันรอบคัดเลือกจากผู้เข้าแข่นขันทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดแข่งขันกันที่ตึกใบหยกสองและเป็นสถานที่แข่งขันศึก Pokemon Asia Championship X ที่ว่าด้วย

ตึกใบหยกสองนี่คือ...? บุยเซลถามอย่างงงๆ

ตึกใบหยกสองเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยเลยล่ะ ด้วยมีความสูงทั้งหมดแปดสิบห้าชั้น* ทางนั้นลงทุนรื้อของทั้งชั้นเพื่อสร้างเป็นที่แข่งขันเลยนะ ยิ่งศึก Pokemon Asia Championship X ด้วยล่ะก็ถึงขั้นรื้อพื้นที่สามชั้นเลยนะ ถ้าจำไม่ผิดรอบคัดเลือกจัดที่ชั้นยี่สิบห้าส่วนศึกที่ว่าจะจัดที่ชั้นเจ็ดสิบสองถึงเจ็ดสิบสี่ที่ถูกทำให้เป็นชั้นเดียวกัน ลีเฟียอธิบายทีเดียวจบอย่างภาคภูมิใจ ราวกับตัวเองเคยไปแล้ว

ผู้แต่ง : *แปดสิบห้าชั้นเป็นจำนวนชั้นเมือไม่นับชั้นใต้ดินอีกสามชั้น (ในกรณีรวมชั้นใต้ดินไปด้วยก็จะมีทั้งหมดแปดสิบแปดชั้น)

ช่วยอธิบายใหม่อีกรอบได้ไหม? ฮิโกะซารุพูดพร้อมยกมือขึ้นเหมือนเป็นการขออนุญาต

หา!? ลีเฟียถึงกลับตกใจมองหน้าฮิโกะซารุทันที

อย่าไปสนใจเขาเลยครับ โพจามะพูดพร้อมกับคว้ามือของฮิโกะซารุลง ว่าแต่นายแน่ใจเรื่องนี้แล้วเหรอ

ฉันคิดดีแล้วเพราะมันเป็นทางเดียวที่จะเปลี่ยนชีวิตของทุกคนที่นี้ได้

แปลว่ารางวัลในการแข่งคงใหญ่น่าดู เซนิกาเมะพูด

เห็นว่านอกจากถ้วยรางวัลที่ทำมาจากทองแท้ๆแล้วยังมีเงินรางวัลสูงทะลุฟ้า พูดได้ว่าชาตินี้คงใช้ไม่หมด โรค่อนอธิบาย

แต่สำคัญที่สุดคือโอกาสที่ไม่มีที่ไหนมาก่อนในการแข่น Pokemon Battle นั้นคือผู้ที่ชนะในศึก Pokemon Asia Championship X จะสามารถที่จะขออะไรก็ได้หนึ่งอย่าง

ขออะไรก็ได้งั้นเหรอครับ? คิโมริถามด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก

ใช่ แต่ก็มีเงื่อนไขนะ หนึ่งคือตรงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ สองคือต้องเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายของประเทศของตน และสามคือต้องไม่ผิดศีลกรรมในประเทศของตน นิวร่าพูดเสริม

ฟังดูยุ่งยากจัง จิโคริต้าสายหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

เอาน่าๆ ที่มีกฎแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ผู้ขอทำผิดกฎหมายก็เท่านั้น ลีเฟียยิ้มเล็กน้อย เอาล่ะฉันว่าพวกคุณคงเหนื่อยกันมาบ้าง เดี๋ยวผมจะพาไปที่ห้องพักให้เอง

อืม ขอบใจนะลีเฟีย เชมี่ยิ้มให้อย่างเกรงใจ

และแล้วทั้งหมดก็ออกมาจากห้องเดินหน้าไปยังห้องพักที่อยู่ชั้นล่าง

Link to comment
Share on other sites

การต่อสู้เกิดขึ้นที่เมืองไทยรึเนี้ย เหตุการณ์เริ่มน่าสนใจแล้วสิ!!!!

แต่อยากบอกว่าตอนนี้นายแต่งได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายมหาศาลเลยนะขอบอก โดยเฉพาะการบรรยายลักษณะของสถานที่เนี้ยละ ที่แทบทำให้รู้สึกว่ายืนอยู่ที่สถานที่นั้นจริงๆเลยละ

และก็เรื่องการให้อารมณ์ก็ยอดเยี่ยม ทำให้รู้สึกคล้อยตามความรู้สึกของตัวละครในเรื่องได้ดีทีเดียวเลย โดยเฉพาะคำพูดของแอปโซลเนี้ยก็ทำให้ข้าน้อยรู้สึกเกลียดมนุษย์ขึ้นเป็นกองเลยละ(อ้าว?)

ว่าแต่....กองถ่ายไม่ได้รับผลกระทบจากการเผากรุงเทพของ...ใช่ไหมเนี้ย?

Link to comment
Share on other sites

เอ่อ -*- ประเทศไทยหรอ ระวังแข่งๆอยู่ตึกไฟไหม้น่อ

[me=ΛTιШι¢н]ขอโทดคร้าบ~[/me]

Link to comment
Share on other sites

อัพต่อแล้วๆ และก็จบบทแรกสักที จะได้เขียนบทที่สองต่อ อิอิ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การต่อสู้เกิดขึ้นที่เมืองไทยรึเนี้ย เหตุการณ์เริ่มน่าสนใจแล้วสิ!!!!

แต่อยากบอกว่าตอนนี้นายแต่งได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายมหาศาลเลยนะขอบอก โดยเฉพาะการบรรยายลักษณะของสถานที่เนี้ยละ ที่แทบทำให้รู้สึกว่ายืนอยู่ที่สถานที่นั้นจริงๆเลยละ

และก็เรื่องการให้อารมณ์ก็ยอดเยี่ยม ทำให้รู้สึกคล้อยตามความรู้สึกของตัวละครในเรื่องได้ดีทีเดียวเลย โดยเฉพาะคำพูดของแอปโซลเนี้ยก็ทำให้ข้าน้อยรู้สึกเกลียดมนุษย์ขึ้นเป็นกองเลยละ(อ้าว?)

ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ ผมจะพยายามต่อไปครับ  :pika01:

ว่าแต่....กองถ่ายไม่ได้รับผลกระทบจากการเผากรุงเทพของ...ใช่ไหมเนี้ย?

สุดจะวุ่นวายเลย! อ่ะ! พูดเล่น  :pika10:

อยู่ในโลกส่วนตัวครับเลยไม่ได้รับผลกระทบเท่าไร

^

^

^

^

เกี่ยวกันไหมเนี่ย

ยืมใช้หน่อยนะ

เอ่อ -*- ประเทศไทยหรอ ระวังแข่งๆอยู่ตึกไฟไหม้น่อ

ถ้าไฟไหม้จริง ผมจะหนีเป็นคนแรกเลยครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

ความทรงจำที่หายไป

เมื่อลงบันไดมาจากชั้นบน พวกบาชาโม่ก็พบไคริวกับแอปโซลอีกครั้ง

อ๋อ... พวกนาย แอปโซลพูดขึ้นอย่างอายๆ

ครับ เนื่องจากไม่มีใครกล้าพูดตอบกลับบาชาโม่จึงต้องพูดตอบกลับไปคนเดียว

คือ... ฉันแค่อยากขอโทษ... ในตอนนั้นฉันอารมณ์เสียไปหน่อยพวกนายคงเข้าใจนะ

ครับ พวกผมเข้าใจแล้วครับ บาชาโม่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรอีกครั้ง

อ...อืม... แอปโซลหลบสายตาของบาชาโม่โดยไม่รู้ตัวใบหน้าแดงเล็กน้อย

อ่ะ! หกโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย ไคริวนายช่วยเปิดแอร์ในห้องนอนให้หน่อยสิ ลีเฟียมองดูนาฬิกาอีกที

ลืมบอกไปอย่างว่าในบ้านหลังผสมนี้มีนาฬิกาขนาดใหญ่ติดอยู่ภายในบ้าน โดยเรือนนึงอยู่ชั้นล่างตรงห้องนอนอีกเรือนอยู่ชั้นบนตรงเหนือทางขึ้นลงบันได

ผู้แต่ง : ถ้าผู้อ่านนึกภาพไม่ออกว่ามันใหญ่ขนาดไหน ก็ขอบอกว่ามันใหญ่พอที่จะบังตัวฮิโกะซารุได้สบายๆ  :pika08:

ได้เลย ไคริวยิ้มพร้อมเดินเข้าไปในห้องนอน

ห้องนอนนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบันได มีประตูไม้สามบานคงเป็นห้องนอนสามห้อง แต่ละห้องมีหน้าต่างสองบานตรงข้างประตูข้างละบานปิดด้วยมุ่งลวดกับผ้าม่านสีครีมจากด้านใน (มีกระจกด้วยนะอย่าลืม)

พวกบาชาโม่เดินตามไคริวเข้าไปติดๆพอเข้าไปในห้องนอนพวกบาชาโม่ก็ถึงกลับอึ้งจนพูดไม่ออก ปรากฏว่าห้องนอนนั้นไม่ใช่ห้องสามห้องแต่เป็นห้องสามห้องที่รวมเป็นห้องๆเดียว แต่นั้นยังไม่ใช่เหตุผลเดียวที่พวกบาชาโม่อึ้งแต่เป็นที่นอนตั้งหาก (ที่นอนที่เราใช้นอนกันนะล่ะ) ซึ่งปูไว้ทั่วทั้งห้องโดยเว้นช่องว่างตรงประตูไว้ บนที่นอนมีผ้าห่มถูกพับอย่างเรียบร้อยเรียงรายตรงหัวที่นอนแน่นอนว่าผ้าห่มทุกผืนมีลายไม่เหมือนกัน

สุดยอดเลย! ได้นอนในนี้จริงๆเหรอเนี่ย! ฮิโกะซารุกำลังจะกระโดดขึ้นที่นอน

อย่านะครับ! ฮิโกะซารุ! ลีเฟียพยายามห้ามแต่มันไม่ทันแล้วสิ ฮิโกะซารุตกลงบนที่นอนอย่างสวยงาม

...ผู้อ่านคงสงสัยว่ากระขึ้นที่นอนมันผิดตรงไหน จริงๆมันไม่ผิดหรอก แต่...ที่นอนมันไม่เหมือนเตียงนอนตรงที่เตียงนอนเมื่อกระโดดลงมามันจะเด้งทำให้ช่วยรับแรงกระแทกได้ ส่วนที่นอน...รู้ๆกันอยู่ว่ามันไม่ค่อยเด้งเท่าไร ดังนั้นเหตุการณ์ต่อมาที่เกิดขึ้นคือฮิโกะซารุหน้ากระแทกที่นอนดังตุ้บอย่างสวยงามไร้การเด้ง

อ่อ...เป็นอะไรไหมฮิโกะซารุ เชมี่สะกิดตัวฮิโกะซารุเล็กน้อย แต่ฮิโกะซารุก็ไร้การตอบสนอง

ผู้แต่ง : หรือแถวบ้านเรียก หลับคาที่นอน  :pika05:

หลังจากจัดที่ที่จะนอนได้แล้วพวกบาชาโม่กับพวกลีเฟียก็นั่งคุยกันตรงมุมหนึ่งของห้อง (ฮิโกะซารุยังนอนอยู่ที่เดิม)  ลีเฟียฉันขอถามอะไรหน่อยสิ บาชาโม่เปิดการสนทนา อาจจะเสียมารยาทนะคือ แอปโซลตัวนั้นนะเห็นไคริวเรียกว่าเธอ...

ลีเฟียพอได้ฟังคำถามก็ถึงกลับอดหัวเราะไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าแล้วต้องคิดแบบนี้ตอนแรกผมกับเพื่อนก็คิดว่าเป็นผู้ชายแต่กลับไม่ใช่

เป็นผู้หญิงเหรอ! เสียงนึงดังขึ้นแน่นอนว่าเป็นเสียงที่ไม่ได้ดังมาจากในกลุ่ม

ฟื้นแล้วเหรอฮิโกะซารุ โพจามะพูดอย่างเซ็งๆ

อืม ขอบใจนะที่เป็นห่วง

ใครเขาเป็นห่วงแก! โพจามะนึกในใจ

สรุปแล้วเป็นผู้หญิง... บาชาโม่ถามซ้ำอีกครั้ง

ครับ เป็นผู้หญิงจริงๆนะแหละ

จริงหรือเนี่ย จิโคริต้าทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แต่เขา...หมายถึงแอปโซลตัวนั้นก็ออกดูจะแมนๆ

ก็นะเจ้าตัวออกแนวทอมบอยนิดๆ ลีเฟียเหงื่อตกเล็กน้อย ทั้งๆที่แอร์ก็ยังเปิดอยู่

ตอนนี้ภายในห้องก็เริ่มเย็นขึ้นมาบ้างแล้ว ปกติคนเราจะเปิดที่ยี่สิบห้าองศาแต่เพราะในเมืองอากาศค่อยข้างจะแออัดยิ่งในช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ด้วยแล้วความร้อนจึงมีมากกว่าปกติ ภายในห้องที่พวกบาชาโม่อยู่จึงเปิดอยู่ที่ยี่สิบสี่องศา

แล้วคนอื่นๆล่ะอย่างเนตีโนกับเร็นโทร่า

เนตีโนก็อย่างที่พวกนายรู้ว่าเขาค่อยดูแลบ้านหลังผสมนี้ อืม...ถึงจะเป็นแค่ผู้ช่วยก็เถอะเพราะจริงๆแล้วผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านทั้งสามหลังเป็นคุณหญ้าที่อยู่ในบ้านหลังเก่า

คุณหญ้า? หรือจะเป็นมนุษย์คนนั้นที่พวกเราเห็น

ใช่ ท่านนั้นล่ะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าบาชาโม่แอบสังเกตเห็นว่าเวลาพูดถึงคุณหญ้าทีไรพวกลีเฟียชอบทำสีหน้าเศร้าๆทุกที ส่วนเร็นโทร่าก็เหมือนกับ...รู้สึกมนุษย์จะเรียกว่ายามอะไรนี่แหละ ค่อยตรวจตราความเรียกร้อยในบ้านหลังนี้ตอนดึกๆ

ลีเฟียฉันขอถามบ้างนะ บุยเซลพูดขึ้นพร้อมกับขยับตัวเข้ามาเล็กน้อย ไปๆมาๆฉันรู้สึกเหมือนที่บ้านหลังนี้ห้ามให้มนุษย์เข้ามายังไงก็ไม่รู้สิ

เปล่านะครับ พวกผมไม่เคยห้ามให้มนุษย์เข้ามาเลย ถ้าเป็นแอปโซลก็ไม่แน่ถ้าไม่ใช่คุณหญ้าล่ะก็คงขู่ให้ออกไปบางล่ะ แต่ก็ไม่เคยทำร้ายมนุษย์หน้าไหนมาก่อนเลยนะ

งั้นถ้ามีมนุษย์จะเข้ามาก็คงไม่เป็นไร?

ครับ ไม่เป็นไรหรอกปกติก็ไม่ค่อยจะมีมนุษย์เข้ามาอยู่แล้ว พวกเขาคงรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นถิ่นของโปเกมอน พวกคุณรู้แล้วใช่ไหมครับว่าที่นี้เป็นสถานที่ส่วนบุคคลดังนั้นบรรดาโปเกมอนที่อยู่ที่นี้ในสายตาของมนุษย์ที่อยู่ข้างนอกก็คือโปเกมอนที่มีเจ้าของแล้ว พวกเขาเลยไม่อยากจะยุ่งกับพวกผมมากหรอก

ถ้างั้นแล้วมนุษย์สามคนที่แอปโซลโกรธล่ะ? ฮิโตคาเงะพูดบ้าง ถ้าเป็นอย่างที่นายพูดจริงก็ไม่น่าจะมีใครมายุ่งในถิ่นส่วนตัวได้ไม่ใช่เหรอ

ครับ มันน่าจะเป็นแบบนั้น มาถึงตรงนี้ลีเฟียเริ่มตัวสั่นนิดๆ

ลีเฟีย ตรงนี้ผมขอเล่าเองนะ นิวร่าอาสาที่จะเล่าเอง ลีเฟียพยักหน้าตอบตกลง พวกคุณเห็นร้านที่อยู่หน้าทางเข้าแล้วใช่ไหมครับ นั้นคือธุรกิจเล็กๆของคุณหญ้าครับถึงไม่ได้เงินมากมายนักแต่ก็ยังพูดได้ว่ายังพอมีพอกิน

แล้วเกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ อีวุยถาม ถือว่าเป็นครั้งแรกด้วยที่อีวุยน้อยเป็นฝ่ายพูดก่อน

นิวร่ายิ้มเล็กน้อยแต่สีหน้าก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม นั้นมันก่อนจะมีพวกผมมาอาศัยอยู่ครับ พอมีพวกผมมาอาศัยอยู่ด้วยเงินที่ได้จากร้านก็ไม่พอที่จะดูแลพวกผมได้ แต่คุณหญ้าท่านไม่อยากทิ้งพวกผมไว้ท่านเก็บเงินจากร้านเพียงน้อยนิดมาตลอดหลายเดือนเพื่อสร้างตึกคอนโดเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก

ตึกคอนโดหรือก็คือบ้านหลังที่สามที่พวกคุณเรียกนั้นล่ะค่ะ โรค่อนพูดเสริม

คุณหญ้าท่านคิดว่าถ้าสร้างห้องให้เช่าก็อาจพอที่จะเสริมรายได้เข้ามาได้มากขึ้นแต่... นิวร่าดูเงียบๆไป

แซนกูสจึงต้องเล่าต่อ แต่มันกลับตรงข้ามครับ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเข้ามาพักเลย ไม่สิ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามีห้องพักให้เช่า

บาชาโม่พอเข้าใจแล้ว เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวการเข้าถึงก็ลำบากทำให้ไม่มีใครอยากเข้ามาเช่าห้องพัก ทำให้ที่เก็บเงินตลอดหลายเดือนนั้นศูนย์เปล่า... แล้วมนุษย์สามคนนั้นเกี่ยวอะไรด้วย บาชาโม่ด้วยความสงสัยสุดๆ

ถึงจะเก็บเงินมาหลายเดือนก็ใช่ว่าจะมากพอที่จะสร้างตึกคอนโดได้ คุณหญ้าท่านก็เลยจำเป็นต้องกู้เงินมาครับ

กู้เงิน? บาชาโม่ไม่เข้าใจคำๆนี้เท่าไรจะถามก็กลัวจะเสียเวลาไปเปล่าๆเลยตัดสินใจไม่พูดออกไป

เงินที่กู้มาก็พูดได้ว่าค่อยข้างเยอะ ตอนนี้คุณหญ้าท่านไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าสร้างตึกคอนโดให้เช่าห้องพักน่าจะทำกำไรได้ แต่กลับไม่เป็นตามที่คิดทำให้ตอนนี้ท่านติดหนี้หลายแสนเลยครับ

ป...เป็นแสนเลยเหรอ บุยเซลตกใจจนอ้าปากค้างอยู่ครู่นึงเลยทีเดียว

ลีเฟียเหมือนเริ่มจะทำใจได้บางเลยพูดต่อจากแซนกูส แน่นอนว่ามีเพียงเงินที่ได้จากร้านเล็กๆอย่างเดียวไม่มีทางจ่ายหมดในเร็วๆนี้แน่ ว่าแต่จ่ายหนี้เลยค่าอาหารสำหรับพวกผมและท่านก็แทบจะไม่มีเลย

พวกบาชาโม่พูดไม่ออกพวกเขาทำได้แต่ฟังเงียบๆ

มนุษย์พวกนั้นเลยบอกว่าสามารถนำของต่างๆมาแทนเงินได้ ตอนนั้นคุณหญ้าท่านไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆเลยต้องทำตาม ผลคือมนุษย์สามคนนั้นเอาของทั้งบ้านหลังเก่ากับบ้านหลังนี้ไปเกือบหมด ที่พวกคุณเห็นว่าบ้านมันไม่ค่อยมีของตกแต่งจริงๆแล้วมีครับแต่ถูกยึดไปเกือบหมด

บาชาโม่เข้าใจแล้ว เป็นอย่างนี้เอง สาเหตุที่แอปโซลเกลียดมนุษย์เพราะเรื่องนี้เอง แต่มันก็น่าโมโหจริงๆล่ะนะ แต่ก็ยังดีนะ อย่างน้อยเงินที่กู้มาก็หมดสักที

มันไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ ลีเฟียตัวสั่นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นการสั่นด้วยความโกรธ มนุษย์พวกนั้น...เจ้าพวกนั้นมันได้ใจที่คุณหญ้ายอมทำตามทุกอย่างเพื่อชดใช้หนี้ พวกนั้น... พวกนั้นเลยโกหกคุณหญ้าว่ายังชดใช้ไม่พอต้องทำการยึดของเรื่อยๆทุกๆเดือน! ลีเฟียเล่าไปตัวสั่นไป ความโกรธแค้นที่เก็บกดไว้เหมือนจะค่อยปรากฏออกมาทีละนิดๆ

เลวจริงๆ! จิโคริต้าเหมือนจะมีอารมณ์ร่วม พวกนั้นไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนี้นะ!

ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ถ้าวันไหนไม่มีของให้ยึดแล้วพวกนั้น... มันถึงตรงนี้ลีเฟียไม่สามารถเก็บกดอารมณ์ไว้ได้อีกต่อไป พวกนั้นบอกว่าจะยึดบ้าน...ยึดพื้นที่ทั้งหมดของคุณหญ้าสักให้เรียบ! แบบนี้มันเกินไปแล้ว! ลีเฟียระเบิดเสียงออกมาจนบ้านแทบแตก

ลีเฟียใจเย็นๆหน่อย! นิวร่าต้องเข้ามาช่วยเรียกสติให้ลีเฟีย

... ... ... ลีเฟียเหมือนจะได้สติกลับคืนมาแล้ว เขามองหน้าพวกบาชาโม่ทีละคนและมาจบที่สายตาของเชมี่กลับกลาเซีย ฉัน...คือฉัน ...ขอตัวก่อนนะ ลีเฟียรีบวิ่งออกจะห้องนอนไป

เดี๋ยวก่อนลีเฟีย! นิวร่า แซนกูส โรค่อนรีบวิ่งตามไปทันที ทิ้งให้พวกบาชาโม่อยู่ในห้องกันตามลำพัง

ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ ความหนาวเย็นภายในห้องที่ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยเย็นตอนนี้กลับรู้สึกหนาวเข้าไปถึงในกระดูก

นี่ฉัน...ถามอะไรไม่ดีออกไปหรือเปล่า ไม่แปลกที่บาชาโม่รู้สึกผิดเพราะต้นเหตุของเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดจากคำถามของบาชาโม่

ไม่เลยบาชาโม่ ไม่ใช่ความผิดนายเลยและไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น โพจามะปลอบ พวกเราไม่เคยรู้เรื่องนี้ มันไม่ใช่ความผิดของนายจริงๆนะ

อืม...ขอบใจนะโพจามะ บาชาโม่รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ภาพต่างที่ผ่านเมื่อกี้คงทำให้เด็กตัวเล็กกลัวได้ไม่มากก็น้อย บาชาโม่คิดขณะมองดูอีวุยที่กลัวจนตัวหดในอ้อมกอดของกลาเซียผู้เป็นแม่

เรา...เรามาดื่มน้ำคลายเครียดกันดีกว่านะ เพื่ออะไรมันจะดีขึ้น เซนิกาเมะรีบขนของในกระเป๋าที่เอามาด้วย แต่ด้วยความที่รีบเกินของต่างๆในกระเป๋าเลยกระจายออกมาจนหมด เหวอ! แย่แล้ว!

ขวดน้ำขวดนึงกลิ้งไปชนฮิโกะซารุที่นั่งหันหลังให้อยู่

ฮิโกะซารุ... บาชาโม่เก็บขวดน้ำนั้นขึ้นมา นายคงตกใจเหมือนกันสินะ บาชาโม่ตบไหล่ฮิโกะซารุเบาๆเป็นการปลอบใจ แต่...

อยู่ๆฮิโกะซารุก็ล้มลงนอนในท่านอนหงายดูจากสีหน้าแล้ว!... กำลังหลับอยู่ไม่ใช่เหรอ...

... ... ... งานนี้บาชาโม่พูดไม่ออกอีกแล้ว หมอนี้ถ้าไม่หลับก็ไม่เงียบจริงๆสินะ บาชาโม่จัดวางท่าให้ฮิโกะซารุนอนถนัดขึ้นห่มผ้าให้เรียบร้อยเสร็จ ก่อนจะเก็บของอื่นๆที่กระจายออกจากกระเป๋าของเซนิกาเมะ

อ่ะ! ของชิ้นนี้! บาชาโม่เก็บก้อนหินรูปสามเหลี่ยนก้อนนึงเป็นก้อนหินสีเทามีขนาดกลางๆไม่ใหญ่มากและไม่เล็กจนเกินไปหิวไม่เรียบออกจะหยาบๆด้วยซ้ำมีเชือกสีน้ำตาลผูกไว้มองไปมาเหมือนกับสร้อยคอไม่มีผิด

หินก้อนนี้...จำได้ว่าฮิโกะซารุชอบห้อยประดับไว้ที่คอนี่หน่า นั้นสิ...ตั้งสามเดือนแล้วสินะหลังจากวันนั้นหินนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นอีกต่อไปฮิโกะซารุเลย

บาชาโม่มองฮิโกะซารุอีกครั้ง หลับสบายเลยนะนั้น บาชาโม่หัวเราะในลำคอ ถึงฮิโกะซารุจะมีนิสัยแปลกๆไปบ้างแต่ก็เป็นเพื่อนที่เราสนิทที่สุดนี่หน่า

เซนิกาเมะ เอ้านี้... บาชาโม่ส่งของที่เก็บได้ให้เซนิกาเมะ

แล้วอันนี้จะเก็บยังไงล่ะครับ คิโมริถือของชิ้นนึงซึ่งใหญ่กว่าตัวของเขาพอดู มันมีลักษณะคล้ายกับปลอกแขนแต่ยาวกว่ามากดูแล้วไม่น่าทำจากผ้าน่าจะทำมาจากเหล็ก ตัวปลอกแขนเป็นสีแดงมีลวดลายไฟสีเหลืองดูสวยงามไปอีกแบบ

คิโมริ! ฉันขอดูหน่อย! บาชาโม่รีบคว้ามาจากคิโมริทั้งๆที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตอบเลยด้วยซ้ำ นี้...นี้มัน บาชาโม่จ้องมองปลอกแขนนั้นราวกับถูกสิง

เพื่อนๆของบาชาโม่เริ่มหันมามองว่าเกิดอะไร บาชาโม่มีอะไรเหรอ คนที่ถามเป็นคนแรกคือบุยเซล

ถ้า...ถ้าฉันจำไม่ผิด... ในช่วงไม่ถึงวินาทีความทรงจำของบาชาโม่ที่หายไปเหมือนจะกลับมาหมด ความทรงจำอันแสนจะเจ็บปวดที่โปเกมอนทุกตัวไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต นี้มัน... บาชาโม่ช็อกมากจนเผลอทำปลอกแขนหล่น

บาชาโม่เป็นอะไรไป! บาชาโม่! บุยเซลรีบเข้าหาบาชาโม่ทันที สีหน้ากังวนอย่างเห็นได้ชัด

ขอนอกเรื่องครู่นึง ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงบาชาโม่มีใครคนนึงกำลังหลับสบายโดยไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นอยู่ตัวนึง คงไม่ต้องบอกนะว่าใคร

บาชาโม่เหมือนได้สติกลับคืนมาแต่นั้นทำให้เขาได้รับความทรงจำเก่าๆกลับมาด้วย หนึ่งในนั้น...เป็นความทรงจำที่เขาไม่อยากจะจำไว้มากที่สุดอยู่ด้วย

ทำ...ทำไม...ทำไมล่ะครับ...ทำไมต้องทิ้งผมด้วย... บาชาโม่เริ่มร้องไห้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้บาชาโม่เป็นได้ขนาดนี้ คือการจากลากลับเทรนเนอร์ผู้เป็นที่รักที่สุด ทำไมต้องทิ้งผมด้วย...ทำไมครับทำไม... บาชาโม่ยังคงร้องไห้ เขาไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องจากเพื่อนๆที่อยู่รอบตัวเขาเลยสักนิด

ตอนนี้ในหัวของบาชาโม่มีแต่ใบหน้าของเทรนเนอร์ของเขา...ผู้ซึ่งจากไปและอาจไม่มีวันได้เจอกันอีก...นี้คือความทรงจำที่หายไปของบาชาโม่นั้นเอง

Link to comment
Share on other sites

แอปโซลเป็นผู้หญิงแล้วมันน่าตกใจตรงไหนหรือ~ (หรือว่าจะมีใครในทีมของบาชาโม่จะลองจีบดูหว่า~)

ฮิโกซารุนี้หัวทำด้วยอะไรกัน กระแทกพื้นแล้วยังไม่ความจำเสื่อมอีก หุๆๆๆ

ค...คำพูดของลีเฟียมัน....ข้าน้อยไม่อาจหยุดเกลียดชังมนุษย์ได้เลยแม้นเพียงน้อย....

ว่าแต่...มันเกิดอะไรขึ้นกับบาชาโม่กันเนี้ย....หรือจะเป็นลางบอกเหตุว่าบาชาโม่จะได้พบกับเทรนเนอร์ของตัวเองแล้วเข้่าร่วมการแข่งขันด้วยกันนะ...

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

อัพต่อแล้วครับ!

ตอนนี้ก็มีฟิคใหม่ๆมาเยอะมากจนฟิคผมตกไปอยู่เกือบล่างสุดเลย  :pika05:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แอปโซลเป็นผู้หญิงแล้วมันน่าตกใจตรงไหนหรือ~ (หรือว่าจะมีใครในทีมของบาชาโม่จะลองจีบดูหว่า~)

ฮิโกซารุนี้หัวทำด้วยอะไรกัน กระแทกพื้นแล้วยังไม่ความจำเสื่อมอีก หุๆๆๆ

ไม่มีใครจีบหรอกครับ  :pika01:

ส่วนฮิโกะซารุ นั้นถือได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษของเจ้าตัวก็ได้นะ

ค...คำพูดของลีเฟียมัน....ข้าน้อยไม่อาจหยุดเกลียดชังมนุษย์ได้เลยแม้นเพียงน้อย....

ว่าแต่...มันเกิดอะไรขึ้นกับบาชาโม่กันเนี้ย....หรือจะเป็นลางบอกเหตุว่าบาชาโม่จะได้พบกับเทรนเนอร์ของตัวเองแล้วเข้่าร่วมการแข่งขันด้วยกันนะ...

ผมไม่ได้ตั้งใจให้ใครอ่านแล้วเกลียดมนุษย์หรอกนะ แต่งเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

บาชาโม่จะได้พบกับเทรนเนอร์ของตัวเองหรือเปล่านั้น ต้องติดตามกัยต้องไปครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

15 พฤศจิกายน - อีก 151 วัน สู่ Pokemon Asia Championship X

บทที่ 2 การเตรียมตัว

~ ช่วงที่ 1 ~

การต่อสู่อุ่นเครื่อง (ตอนแรก)

หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเมื่อนับจากพวกบาชาโม่มาที่บ้านของลีเฟีย พวกบาชาโม่ก็เริ่มชินกลับมาอยู่ที่นี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

ทุกคนกินข้าวได้แล้ว เสียงของคุณหญ้าดังขึ้นจากข้างล่างของบ้านหลังผสม

เป็นเวลาเที่ยงแล้วพวกโปเกมอนที่ตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้กินอะไรกันมาเลย จึงรีบวิ่งมายังชั้นล่างจนบ้านแทบพัง

ของกินวันนี้ก็อร่อยเดิมเหมือนเลย! ฮิโกะซารุรีบกินอาหารบนโต๊ะราวกับอดมาเป็นเดือนๆ

กินกันใหญ่เลย คุณหญ้าแอบยิ้มอยู่ห่างๆก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ

อีกสามวันแล้วสินะ ลีเฟียพูด เขากินเสร็จก่อนใครเพื่อน ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลย

อีกสามวันที่ว่าจะเป็นวันรอบคัดเลือกตัวแทนฝั่งประเทศไทยเพื่อไปลงแข่งขันใน Road To Pokemon Asia Championship X กำลังจะจัดขึ้นในอีกห้าเดือนต่อจากนี้

นายแน่ใจเรื่องนี้จริงๆนะลีเฟีย กลาเซียพูดอยู่ข้างๆ

ฉันนะอดเป็นห่วงไม่ได้เลยจริงๆ เชมี่พูดเสริม

ใช่ ที่จริงแล้วฉันก็ยังกังวนอยู่เหมือนกัน แต่...แต่มันทางเดียวจริงๆที่จะแก้เร่องราวทั้งหมดได้

ตั้งแต่ฟังมาฉันรู้สึกเหมือนจะไม่เคยต่อสู้มาก่อนใช่ไหม บุยเซลพูดบาง

ครับ ก็ไม่ถึงกับไม่เคยสู้หรอกแต่นั้นก็นานมากแล้วแหละ ลีเฟียห้นาแดงเล็กน้อย

แล้วยังจำท่าอะไรได้บางล่ะครับ คำลงท้ายเพราะๆแบบนี้มีเพียงคนเดียว คิโมริ

นั้นสิ ตอนดูนายซ้อมฉันก็เห็นแค่ท่า Razor Leaf* กับท่า Quick Attack* เท่านั้นเอง ฮิโกะซารุราวกับตัวเองเห็นมากับตาทั้งๆที่ความจริงเขาได้ยินมาจากโพจามะอีกที

*ต้องขออภัยจริงๆครับ เนื่องจากผมไม่รู้ชื่อท่าภาษาไทยของโปเกมอนเลย จึงขอใช้ชื่อภาษาอังกฤษแทนนะครับ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า จริงๆแล้วฉันก็เรียนรู้หลายท่าอยู่ แต่มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ลีเฟียทำสีหน้าแฝงความหมายบางอย่าง จะลองดูไหมล่ะครับ?

ลองอะไรเหรอ บาชาโม่ถาม

ต่อสู้ยังไงล่ะครับ มาลองต่อสู้กันไหมครับ จับคู่กันเลยใครอยากสู้กับใครก็เลือกเลย ข้อเสนอขอลีเฟียทำให้พวกบาชาโม่ถึงกับทำตาโตกันเป็นแถว

ด...เดี๋ยวก่อนสิลีเฟีย... อยู่ๆก็ให้สู้กันเลยเหรอ เชมี่สีหน้าไม่สบายใจอย่างมาก

แน่สิ ถ้าไม่อย่างนั้นตอนสู้กันจริงๆคงลำบากแน่ อีกอย่างผมก็อยากเห็นการต่อสู้ของพวกคุณด้วย

ต่อสู้กันเองเหรอ น่าสนุกดีนะ ฮิโกะซารุผู้ไม่เคยเดือดร้อนพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเช่นเคย

จริงเหรอ งั้นฉันขอสู้กับนายเลยล่ะกัน น้ำเสียงฟังดูน่ากลัวนั้นเป็นของโพจามะ สีหน้าของเขาเหมือนกับอยากจะกัดฮิโกะซารุเอามากๆ

นายแค้นฉันอยู่...?

คิดไปเองมั้ง

ได้ไปแล้วคู่นึงสินะครับ ลีเฟียพยักหน้าอย่างพอใจ

ผู้แต่ง : ลีเฟีย ผู้น่ากลัว  :pika08:

แล้วหนูก็ต้องสู้ด้วยเหรอค่ะ อีวุยน้อยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

ไม่เป็นไรเหรอครับ ถ้างั้นคู่กับผมก็ได้ครับ คิโมริพูด

งั้นก็คู่ที่สอง คิโมริเจอกับอีวุย ลีเฟียประกาศราวกับตัวเองเป็นผู้จัดสักเอง

แบบนี้แปลว่านายวางแผนเอาไว้แล้วสินะ เชมี่ยิ้มแหยๆ

หา!?

เปล่า ช่างมันเถอะ

ขอสรุปการจับคู่เพื่อไม่ให้เสียเวลา (กับเนื้อที่กระดาษ) จึงขอประกาศคู่ต่อสู้ทั้งหมดดังนี้

คู่ที่ 1 โพจามะ VS ฮิโกะซารุ

คู่ที่ 2 บุยเซล & เซนิกาเมะ VS จิโคริต้า & ฮิโตะคาเงะ (Tag Team Match)

คู่ที่ 3 คิโมริ VS อีวุย (4 Minute Match)

คู่สุดท้าย เชมี่ VS ลีเฟีย

ส่วนบาชาโม่กับกลาเซียอาสาเป็นกรรมการ นิวร่า แซนกูส โรค่อนค่อยทำหน้าที่ดูแลรักษาพยาบาล

เอาล่ะฉันจะขออธิบายกติกา Pokemon Battle ของประเทศไทยก่อนนะ ลีเฟียเดินนำหน้าสองสามก้าวก่อนหันมาพูดต่อ ณ ตอนนี้พวกเขาอยู่กันที่สนามหญ้าหน้าบ้านหลังผสม กติกาจะเป็นแบบสากลทั่วไปคือฝ่ายไหนหมดสภาพการต่อสู้จะต้องออกจากการแข่งขันไป แต่...กติกาที่ต่างจากที่อื่นๆคือจะมีการนับสามเพื่อเป็นการเช็ดว่าเราหมดสภาพการต่อสู้จริงหรือไม่ ถ้าภายในระหว่างนับสามหากเรายกมือหรือส่วนใดๆของร่างกายก็ได้ทันก็จะสามารถสู้ต่อได้ แต่ถ้านับสามแล้วยังไม่ตอบสนองจะถือว่าหมดสภาพการต่อสู้แล้วแพ้ในทันที

แบบนี้ก็ดีเลยสิ บางทีกรรมการชอบปรับให้แพ้ทั้งๆที่พวกเราก็ยังสู้ต่อได้ ฮิโกะซารุพูดราวกับตัวเองสู้เก่ง

ไม่เจอเองกับตัวก็ยังไม่รู้หรอก แต่อีกเดี๋ยวนายก็รู้เอง โพจามะสีหน้าเหมือนอยากให้เริ่มเต็มที

เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า! ลีเฟียประกาศการเริ่มการต่อสู่อุ่นเครื่องครั้งนี้

ผู้แต่ง : เนื่องจากกระผมไม่ค่อยจะถนัดบรรยายการต่อสู้เท่าไรจึงขออธิบายแบบง่ายๆแล้วกันนะครับ

คู่ที่ 1 โพจามะ VS ฮิโกะซารุ

คู่นี้ไม่มีอะไรมาก ในช่วงแรกเหมือนจะเป็นการวิ่งไล่จับสักมากกว่าเพราะฮิโกะซารุชอบวิ่งหนีตลอด จนสุดท้ายโพจามะทนไม่ไหวเลยใช้ท่า Bubble Beam ใส่กลางหลังฮิโกะซารุไปเต็มๆ จนฮิโกะซารุตายคาที่นับสามแพ้ไป

สรุปผลคู่ที่ 1 โพจามะ ชนะ ฮิโกะซารุ

หลังจบแมตช์

โพจามะใจร้ายอ่ะ เล่นแรง... ฮิโกะซารุพูดขณะถูกแบกไปรักษาตัวข้างสนาม

หัดโดนสักบางนายน่ะ โพจามะเดินอยู่ข้างๆ สีหน้ามีความสุขมากๆ

คู่ที่ 2 บุยเซล & เซนิกาเมะ VS จิโคริต้า & ฮิโตะคาเงะ (Tag Team Match)

เริ่มต้นด้วยฮิโตะคาเงะใช่ท่า Flamethrower ใส่ทั้งบยุเซลและเซนิกาเมะ แต่น้ำมากก็ต้องชนะไฟ ทั้งบุยเซลและเซนิกาเมะใช้ท่า Water Gun ต้านพลัง Flamethrower ของฮิโตะคาเงะและยังโดนตัวของฮิโตะคาเงะไปเต็มๆด้วย โดนน้ำเข้าไปตั้งสองตัวงานนี้ฮิโตะคาเงะตายคาที่ครับ ทำให้เหลือจิโคริต้าคนเดียว

แบบนี้ก็ง่ายแล้วสิ!

แต่อย่าเพิ่งดูถูกหญิงคนนี้ จิโคริต้ายิ้มเล็กน้อยก่อนใช้ท่าความชั่ว เฮ้ย!ไม่ใช่! ใช้ท่า Magical Leaf ใส่บุยเซล

แต่เซนิกาเมะไม่ยอม! งานนี้ข้าขอเป็นพระเอกสักครั้ง! เซนิกาเมะกระโดดผลักบุยเซลออกไปแล้วตัวเองโดนพลังของจิโคริต้าแทน ทำให้เซนิกาเมะตายอย่างพระเอกสมใจ จากนี้จะเป็นการต่อสู่แบบหนึ่งต่อหนึ่ง!

ไม่รู้เหมือนกันว่าคู้นี้แค้นมาจากไหนเล่นใช้พลังแบบไม่กลัวเปลืองกันเลย จนเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่

ระยะไกลไม่ได้ผลก็ต้องระยะใกล้! บุยเซลใช้ท่า Quick Attack หวังจะโจมตีจิโคริต้าระยะใกล้

แต่มีหรือที่จิโคริต้าไม่รู้ รอยยิ้มนั้นปรากฏตรงใบหน้าพร้อมท่าแซ่เถาวัลย์พันรอบตัวบุยเซลก่อนจะจับบุยเซลกระแทกพื้นอย่างแรงจนบุยเซลสลบคาที นับสามแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

สรุปผลคู่ที่ 2 บุยเซล & เซนิกาเมะ แพ้ จิโคริต้า & ฮิโตะคาเงะ

หลังจบแมตช์

นายเก่งเหมือนกันนะบุยเซล จิโคริต้ายิ้มให้เล็กน้อย

เธอก็เก่งพอๆกัน ให้ตายสิ! ฉันลืมไปเลยว่าเธอยังใช้เถาวัลย์ได้

ฮ่า ฮ่า ฮ่า คราวหลังอย่าลืมแล้วกัน จิโคริต้าหัวเราะชอบใจ บุยเซลเองก็ยิ้มเหมือนกัน

ดูท่าบุยเซลกับจิโคริต้าจะสนิทกันมากขึ้นแล้วสินะ

คู่ที่ 3 คิโมริ VS อีวุย (4 Minute Match)

เป็นการต่อสู้เพียงสี่นาทีเนื่องจากยังเด็กอยู่ทั้งคู่

เริ่มต้นสองนาทีแรกไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เล่นใช่พลังกันเปลืองมากๆเพราะไม่โดนเลยสักครั้ง แต่พอมาช่วงสองนาทีสุดท้ายอีวุยเริ่มสนุกใช้ท่าใหม่ Take Down โดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว

ไม่รู้ว่าคิโมริเอาแต่อึ้งกับท่าเมื่อครู่หรือเปล่ากับไม่สามารถหลบท่า Take Down ของอีวุยได้ ทำให้ถูกนับสามแพ้ไปโดยเวลาสามนาทีกับอีกสิบแปดวินาที

สรุปผลคู่ที่ 3 คิโมริ แพ้ อีวุย

หลังจบแมตช์

เก่งมากเลยลูกแม่ กลาเซียหนึ่งในกรรมการดีใจเป็นอย่างมาก

บาชาโม่ยิ้มอยู่ห่างก่อนเดินไปหาคิโมริที่กำลังรักษาตัวอยู่ นายน่ะ จงใจไม่หลบสินะ

คิโมริถึงกับตกใจมองหน้าบาชาโม่ทันที รู้ด้วยหรือครับ

แปลว่าจริงสินะ

ครับ ก็ผมไม่อยากให้อีวุยแพ้นี่หน่า สีหน้าของอีวุยในตอนนี้มีความสุขมากเลยไม่ใช่เหรอครับ

บาชาโม่มองอีวุยอีกครั้ง จริงด้วย สีหน้าที่มีความสุขจากชัยชนะครั้งแรก คิโมริคงอยากให้อีวุยรู้สึกแบบนั้น

คู่สุดท้าย เชมี่ VS ลีเฟีย

เป็นศึกระหว่างเพื่อนสนิทสักด้วย

เริ่มต้นด้วยความได้เปรียบของเชมี่ เนื่องจากเจ้าตัวสามารถบินได้เลยไม่ต้องทำไรมากแค่ค่อยใช้ท่า Magical Leaf อย่างเดียว ส่วนลีเฟียก็มีความเร็วช่วยในการหลบท่าของเชมี่ได้

แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังแย่แน่ๆ ใช่แล้ว! เรายังมีท่านั้น!

ลีเฟียยิ้มก่อนจะใช้ท่าที่พวกบาชาโม่ไม่เคยเห็นมาก่อน Leaf Blade!

เพราะเอาแต่ตกใจกับท่าใหม่ทำให้เชมี่โดนท่านั้นไปเต็มๆ เชมี่บาดเจ็บสักแล้ว! เชมี่ค่อยลดระดับต่ำลงมาเรื่อยๆ

ตอนนี้แหละ! โจมตีระยะใกล้! ลีเฟียคิดได้ดังนั้นเลยกระโดเข้าหาเชมี่แล้วใช้ท่า Quick Attack หวังจะโจมตีเชมี่กลางอากาศ

แต่มันเป็นกับดัก! มีหรือโดนแค่ครั้งเดียวเชมี่จะเจ็บจนทำอะไรไม่ได้ เชมี่ใช้โอกาสตอนที่ลีเฟียเข้าใกล้หลบท่าของลีเฟียได้อย่างสวยงาม

แย่แล้ว! ลีเฟียรู้ตัวแล้วแต่มันก็สายไปแล้วเช่นกัน

เชมี่ใช้จังหวะนี้ใช้ท่า Energy Ball ในระยะเผาขน

*ตูม* เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับควันสีเทาลูกใหญ่

ด้วยแรงระเบิดทำให้ทั้งเชมี่และลีเฟียตกกระแทกพื้นอย่างแรง ทั้งคู่ต่างนอนแน่นิ่ง...

กลาเซียเกือบจะวิ่งเข้าหาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเชมี่ลุกขึ้นยืนด้วยอาการหมดแรงสุดๆ ส่วนลีเฟีย...ยังคงนอนนิ่งไร้การเคลื่อนไหว นับ 1...2...3! ก็ยังคงไร้การตอบสนองทำให้เชมี่ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ไป

สรุปผลคู่ที่ท้าย เชมี่ ชนะ ลีเฟีย

หลังจบแมตช์

ลีเฟียไม่เป็นไรนะ นิวร่าถามอย่างเป็นห่วง

อ่า ก็ยังโอเคอยู่ ลีเฟียยิ้มให้นิวร่าก่อนหันมาทางเชมี่กับกลาเซีย ฉันประมาทนายไปหน่อย

ไม่หรอกฉันเองก็เกือบแย่แล้ว แต่ใช้แรงที่ยังมีอยู่เลยหลบท่าของนายได้ก็เท่านั้น

ฮ่า ฮ่า ถึงยังไงมันก็เป็นความประมาทของฉันอยู่ดี

ลีเฟีย... เชมี่รู้ดีว่าสิ่งที่ลีเฟียพูดมาเมื่อพูดมายังไงก็อย่างนั้น เปลี่ยนความคิดไม่ได้เลยจริงๆ

เอาหน่าๆ ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินไปพักในห้องนอนกันก่อนเถอะ ลีเฟียชักชวน ก่อนเดินนำเข้าไปในบ้านหลังผสม พวกบาชาโม่มองหน้ากันเล็กน้อยก่อนตามเข้าไป

Link to comment
Share on other sites

นับสามแพ้...กฏการต่อสู้แบบมวยไทยเลยนะเนี้ย~!!!

การต่อสู้แต่ละคู่ช่างดุเดือด(?)กันมากๆเลยจริงๆเชียว แต่บางคู่ก็เห็นผลแพ้ชนะตั้งแต่ต้นๆเลยด้วยซ้ำ(ธาตุกินขาด)

แต่ลิเฟียแพ้แบบนี้เสียแล้ว จะไปต่อไหวรึเปล่าเนี้ย...

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

อัพแล้วๆๆ โทษทีครับที่มาช้า

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

นับสามแพ้...กฏการต่อสู้แบบมวยไทยเลยนะเนี้ย~!!!

นับสิบไม่ใช่เหรอครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ  :pika02:

แต่ลิเฟียแพ้แบบนี้เสียแล้ว จะไปต่อไหวรึเปล่าเนี้ย...

ไหวอยู่แล้วล่ะครับ  :pika01:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

การต่อสู่อุ่นเครื่อง (ตอนจบ)

เมื่อเข้ามาในห้องนอน บาชาโม่สังเกตว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงครึ่ง พวกเขาเริ่มต่อสู้อุ่นเครื่องกันตอนเก้าโมงงั้นก็แปลว่าพวกเขาต่อกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว

แต่ว่านะลีเฟีย ขนาดซ้อมต่อสู้นายยังแพ้เลยแล้วตอนงานแข่งจริงนายจะไหวเหรอ คนพูดเป็นบุยเซล เขานั่งลงใกล้กับลีเฟียที่กำลังนอนสบายอยู่บนที่นอน

ผมคงโกหกพวกคุณไม่ได้อยู่แล้ว ลีเฟียพลิกตัวไปมาอีกสองสามรอบก่อนจะพูดต่อ หลายครั้งผมเองก็คิดว่า นี่เรากำลังทำอะไรกันแน่นะ ร่างกายที่ไม่ได้สู้มานานมันอ่อนแอมากขนาดนี้เลยเหรอ แต่ผมก็พยายามโกหกความคิดเหล่านั้น ผมคิดว่าผมต้องทำได้การเอาชนะในการแข่งขันนั้นเป็นทางเดียวที่จะช่วยที่นี้ได้ พอคิดแบบนั้นแล้วมันทำให้ผมมีกำลังในการสู้มากขึ้น

ยังไงนายก็จะสู้สินะ เชมี่พูดน้ำเสียงประมาณว่าช่วยไม่ได้ อีกสามวันที่เหลือต้องฝึกให้หนักกว่านี้แล้วล่ะ

ฉันรู้หน่า ลีเฟียพูดเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่

ลีเฟียอยู่ใช่ไหม เจ้าของเสียงแน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในห้องและเสียงนั้นก็ไม่ใช่โปเกมอนสักด้วย

เด็กหนุ่มผู้เป็นเทรนเนอร์ของลีเฟียนั้นเอง พอเข้ามาในห้องก็ทิ้งตัวลงนอนทักที วันนี้คนก็เข้าร้านไม่เยอะอีกตามเคย เด็กหนุ่มถอยหายใจเล็กน้อย ในตอนนี้ลีเฟียได้เข้าไปนอนใกล้ตัวเด็กหนุ่มแล้ว ทั้งๆที่พี่มาถึงที่นี้ทั้งที แต่กลับไปอยู่กับเพื่อนสักงั้น น่าจะอยู่ช่วยงานคุณย่าสักหน่อย

... ... ... ลีเฟียฟังอย่างเงียบๆ พร้อมกับพวกบาชาโม่ที่อยู่ใกล้ๆ

อีกสามวัน ...ไว้โทรหาพี่อีกทีวันนั้นก็แล้วกัน หวังว่าคงไม่ได้ลืมไปแล้วนะ เด็กหนุ่มรู้สึกเซ็งๆเล็กน้อย จริงสิไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปฝึกเตรียมตัวกันดีกว่า

พอได้ยินแบบนี้ลีเฟียก็ถึงกับตกใจทันที

มีอะไรเหรอลีเฟีย ถ้าไม่ฝึกแล้วเวลาต่อสู่จริงจะไหวเหรอรีบๆมาเถอะ เด็กหนุ่มเดินออกไปจากห้อง เขายังไม่รู้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ลีเฟียได้ทำการต่อสู้ฝึกซ้อมกับพวกบาชาโม่ไปแล้ว

ทำไงนี้เนี่ย... ลีเฟียคอตก ช่วยไม่ได้ เชมี่!

อ...อะไร อยู่ๆก็ถูกเรียกแบบนี้ท่าทางคงงานเข้าแน่ๆเชมี่คิด

มาสู้กันอีกรอบ ถือเป็นการแก้ตัวของฉัน ครั้งนี้ล่ะไม่แพ้แน่!

... ... ... เชมีมองหร้าลีเฟียพักนึง นายแค้นอะไรกับฉันเหรอ

เปล่าสักหน่อย ลีเฟียทำหน้าไม่รู้เรื่อง นิวร่า แซนกูส โรค่อน ลองสู้ด้วยสิ

อืม! ได้เลยฉันพร้อมอยู่แล้ว นิวร่าพูด

ถึงจะไม่ค่อยเก่งแต่ก็จะลองดูแล้วกัน แซนกูสเกาหัวเล็กน้อย

ฉันยังไงก็ได้ค่ะ โรค่อนยิ้มเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

อืม...จะว่าไปบาชาโม่ นายเองก็ไม่ได้สู้มานานแล้วสินะ ฮิโกะซารุพูดขึ้น เมื่อกี้ก็เป็นกรรมการไปแล้ว คราวนี้ลองสู้สักครั้งบางสิ

นั้นสิครับ ผมเองก็อยากเห็นเวลาคุณสู้มากๆเลยครับ ลีเฟียพูดพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาบาชาโม่ กระโดดไปมาอย่างตื่นเต้น

เอ่อ...ถ้าจะสู้ก็ได้นะ แต่ในนี้มันไม่มีใครที่ตัวใหญ่พอๆกับฉันเลยแล้วจะดีเหรอ

*ก๊อก ก๊อก* เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ไคริวโผล่หน้าเข้ามา ขอโทษนะครับ ลีเฟียเจ้านายเรียกให้... ไคริวยังพูดไม่ทันจบก็ต้องเจอกับสายตาของบาชาโม่ที่มองที่เขาอย่างแปลกๆ ...มีอะไรเหรอครับ ไคริวรู้สึกเหมือนจะมีรถไฟวิ่งผ่าน (มีลางนั้นแหละ)

หลังจากนั้นก็จับคู่กันรอบสองและเมื่อจัดลำดับการต่อสู้ผลออกมาดังนี้ครับ

คู่ที่ 1 ฮิโกะซารุ VS แซนกูส

คู่ที่ 2 คิโมริ VS นิวร่า

คู่ที่ 3 กลาเซีย VS โรค่อน

คู่ที่ 4 บุยเซล VS จิโคริต้า <<<< ไม่รู้เหมือนกันว่าแค้นอะไรกันมา

คู่ที่ 5 เชมี่ VS ลีเฟีย (รอบสอง)

คู่สุดท้าย บาชาโม่ VS ไคริว

เด็กหนุ่มผู้เป็นเทรนเนอร์ของลีเฟียเป็นกรรมการส่วนฮิโตะคาเงะกับเซนิกาเมะเป็นแพทย์สนาม

เหมือนครั้งก่อนครับ จะขอบรรยายการต่อสู่แบบง่ายๆแล้วกัน

คู่ที่ 1 ฮิโกะซารุ VS แซนกูส

คู่นี้ตอนแรกฮิโกะซารุดูท่าจะแย่เพราะแซนกูสค่อยใช้แต่ท่า Quick Attack เลยทำให้ฮิโกะซารุหาโอกาสหลบหรือโจมตีกลับยาก

แต่ฮิโกะซารุไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆเลยใช้ท่า Fire Spin ถึงมันจะไม่โดนแซนกูสโดยตรงแต่ทำให้ฉวนกูสเสียจังหวะจนได้

ตอนนี้แหละเป็นโอกาสของฮิโกะซารุแล้ว ใช้ท่า Flamethrower ใส่แซนกูสไปเต็มๆ

ยัง! แซนกูสยังยืนอยู่ได้ ฮิโกะซารุเห็นดังนั้นจึงใช้ท่า Flame Wheel แบบแรงที่สุดใส่แซนกูสอีกครั้งจนแซนกูสสลบนับสามแพ้ไปในที่สุด

สรุปผลคู่ที่ 1 ฮิโกะซารุ ชนะ แซนกูส

หลังจบแมตช์

เย้ๆ! ในที่สุดก็ชนะแล้ว! ฮิโกะซารุดีใจราวกับได้ชนะในศึกใหญ่ บาชาโม่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ

คู่ที่ 2 คิโมริ VS นิวร่า

เริ่มต้นต่างฝ่ายก็ต่างใช้ท่า Quick Attack ใส่กันพลัดกันโดนตลอดจนอยู่ในสภาพเหนื่อย

ปล่อยไว้ไม่มีดีแน่ นิวร่าคิดเลยใช้ท่า Beat Up ที่ไม่ใช่โหมดในเกมออดิชั่นใส่คิโมริในระยะใกล้

แต่เรื่องนี้คิโมริก็คิดไว้แล้ว คิโมริเลยกระโดดหลบในจังหวะที่นิวร่าเข้าใกล้แล้วใช้ท่า Energy Ball กลางอากาศ

แต่...นิวร่าเองก็คิดไว้แล้วเหมือนกัน นิวร่าหลบออกด้านข้างและในช่วงที่คิโมริกำลังตะลึงกลางอากาศ นิวร่าก็ใช่ท่า Ice Shard ใส่คิโมริทันที

กลางอากาศแบบนี้ไม่มีทางหลบไม่ได้ คิโมริเลยโดนท่านั้นไปเต็มๆ เป็นการตายกลางอากาศที่สวยงามและถูกนับสามแพ้ไปพอตกถึงพิ้น

สรุปผลคู่ที่ 2 คิโมริ แพ้ นิวร่า

คู่ที่ 3 กลาเซีย VS โรค่อน

คู่นี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไรนักไปๆมาๆเหมือนเป็นการแข่งทำท่าน่ารักสักมากกว่า สุดท้ายเป็นกลาเซียหมดความอดทนใช้ท่า Blizzard ใส่โรค่อนจนสลบนับสามชนะไป

สรุปผลคู่ที่ 3 กลาเซีย ชนะ โรค่อน

หลังจบแมตช์ มีเสียงจากสุดที่รักดังขึ้นว่า เก่งมากเลยจ้า~!

คู่ที่ 4 บุยเซล VS จิโคริต้า

เป็นการเจอกันระหว่างหมากับแมว...ไม่ใช่สิ...ใช้คำว่าคู่กัดจะดีกว่า

เริ่มต้นด้วยบุยเซลใช้ท่า Water Gun แต่มีเหรอที่จะทำคุณหญิงของเราได้

จิโคริต้าหลบได้อย่างสวยงามแล้วยิ้มเล็กน้อยก่อนใช้ท่า Razor Leaf ใส่บุยเซล แต่บุยเซลก็หลบได้อย่างสบายๆเช่นกัน

ดูท่าคู่นี้คงไม่จบง่ายๆสักแล้ว

จิโคริต้าใช้ท่า Razor Leaf ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บุยเซลก็ตีลังกาหลบได้ทุกครั้งเรียกเสียงร้องจากข้างสนามได้ไม่ใช่น้อย

เหมือนตั้งท่ายืนได้บุยเซลก็ใช้ท่า Swift ทันทีและมันก็โดนจิโคริต้าสักด้วย! จิโคริต้าเจ็บสักแล้ว

ตอนนี้แหละบุยเซลใช้ท่า Water Gun อีกครั้ง

แต่จิโคริต้าก็ยังไม่ยอมง่ายๆ ใช้ท่า Magical Leaf ต้านพลังของบุยเซลไว้จนน้ำจากพลังของบุยเซลกระจายไปทั่ว

พอน้ำกระจายหายไปหมดบุยเซลก็โดนท่า Razor Leaf ทันทีโดยที่บุยเซลเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว

ตอนนี้ต่างฝ่ายก็ต่างเจ็บและเหนื่อยแล้ว บุยเซลคิดว่าควรทำให้มันจบได้แล้วจึงใช้ท่า Quick Attack โจมตีระยะใกล้

สอนไม่เคยจำเลยนะจิโคริต้าคิด เลยใช้ท่าแซ่เถาวัลย์พันรอบตัวบุยเซลก่อนจะถึงตัวแล้วกับกระแทกพื้นไปมาราวกับตุ๊กตาก่อนโยนขึ้นกลางอากาศแล้วใช้ท่า Magical Leaf ใส่บุยเซลไปเต็มๆ

บุยเซลตกถึงพื้นพร้อมกับดวงวิญญาณที่ออกจากร่างไปเรียบร้อย

สรุปผลคู่ที่ 4 บุยเซล แพ้ จิโคริต้า

หลังจบแมตช์

บุยเซลนั่งคอตกรอบสองนี้เป็นการแพ้ครั้งที่สองแล้ว

เอาน่าๆ บุยเซลยังไงนายก็เก่งนะ จิโคริต้าพยายามปลอบใจ

ขอบใจนะจิโคริต้า บุยเซลยิ้มเล็กน้อย

จิโคริต้ายิ้มตอบ อืม แต่ยังไงก็เก่งสู้ฉันไม่ได้ ฮ่า ฮ่า

...ยัยตัวเขียว *โป๊ก* บุยเซลหลับไปในที่สุดเพราะโดนจิโคริต้าถีบเข้าให้ที่หน้า

คู่ที่ 5 เชมี่ VS ลีเฟีย (รอบสอง)

มาถึงเชมี่ก็บินขึ้นฟ้าอีกแล้ว

ไม่ให้ทำหรอก! ลีเฟียรีบใช้ท่า Quick Attack โจมตีอย่างรวดเร็วจนเชมี่กระเด็นแล้วตามด้วยท่า Razor Leaf ทันที งานนี้เชมี่หลบไม่ทันเลยโดนเข้าไปเต็มๆ

เชมี่สลบไปแล้ว โดนนับ 1...2... เชมี่ขยับตัว! หมายความว่าเชมี่ยังสู้ต่อได้

ลีเฟียไม่อยากทำร้ายเพื่อนรักของตัวเองเลยแต่ถ้าอยากชนะก็ต้องทำ ลีเฟียใช้ท่า Leaf Blade อย่างรวดเร็ว

แต่เชมี่ก็ยังใช้แรงสุดท้ายหลบท่าของลีเฟียได้และในทันทีนั้นก็ใช้ท่า Energy Ball ใส่ลีเฟียสัก

*ตูม* เสียงระเบิดดังไปทั่วพร้อมกับควันลูกใหญ่ ความเงียบเริ่มก่อตัวไม่มีใครรู้ว่าลีเฟียเป็นยังไงบ้าง

แต่ยังที่ควันยังไม่จางหายก็มีพลังบางอย่างออกมาจากกลุ่มควันนั้น...ท่า Razor Leaf ของลีเฟียนั้นเอง

มันโดนเชมี่เข้าให้อย่างจังครั้งนี้เชมี่คงไม่มีทางฟื้นได้ง่ายๆอีกแล้ว เลยโดนนับสามแพ้ไปจนได้

สรุปผลคู่ที่ 5 เชมี่ แพ้ ลีเฟีย

หลังจบแมตช์

ชนะแล้ว เก่งมากเลยลีเฟีย เด็กหนุ่มตะโกนอย่างดีใจ

ลีเฟียยิ้มให้เด็กหนุ่มก่อนเดินไปหาเชมี่ที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว ฉันทำได้แล้วเชมี่

อืม ยินดีด้วยนะในงานแข่งก็ต้องให้ได้แบบนี้ล่ะ ไม่งั้นฉันโกรธนายแน่

ฮ่า ฮ่า ได้เลยเพื่อน

คู่สุดท้าย บาชาโม่ VS ไคริว

ด้วยส่วนสูงและขนาดตัวทำให้คู่นี้ดูน่าสนใจขึ้นมาหน่อย

เริ่มต้นโดยไคริวบินขึ้นฟ้าแล้วใช้ท่า Dragon Rage จากข้างบน แต่บาชาโม่ก็สามารถหลบได้อย่างไม่ยากเลย

บาชาโม่โจมตีกลับด้วยท่า Fire Punch โดยกระโดดขึ้นไปโจมตีไคริวบนฟ้า

ไคริวไม่รู้ว่าเอาแต่สนใจอย่างอื่นหรือเปล่าเลยโดยท่าของบาชาโม่ไปเต็มๆ

แต่ทั้งไคริวและบาชาโม่ก็ตกลงพื้นอย่างแรง บาชาโม่เดินเชเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้ท่า Quick Attack ได้

ไคริวไม่สามารถหลบได้แต่ก็ใช่ว่าจะกลัว ไคริวใช้ลำตัวรับท่านั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่จริง! บาชาโม่ตกใจมากแต่มันก็สายไปแล้ว ไคริวใช้ท่า Hyper Beam ระยะเผาขน

ถึงให้บาชาโม่เก่งยังไงก็ไม่สามารถหลบได้แน่นอน พลังอันรุนแรงทำให้บาชาโม่หมดสภาพในทันทีโดนนับสามแพ้ไป

สรุปคู่สุดท้าย บาชาโม่ แพ้ ไคริว

น่าเสียดายจัง ฮิโกะซารุรู้สึกเสียดายจากใจจริงๆ คงเพราะไม่ได้สู้บ่อยจริงๆล่ะนะ

ช่างเถอะหน่า ครั้งหน้าไม่ง่ายอย่างนี้แน่นอน

ผมเองก็เกือบแย่สักแล้วสิครับ ไคริวเกาหัวอย่างอายๆเล็กน้อย

อิอิ นี้ขนาดยังนิดหน่อยเองนะ บาชาโม่พูดราวกับว่าตัวเขาเก่งกว่านี้สักอีก

เอาล่ะๆ เด็กหนุ่มพูดขึ้น จริงๆแล้วเจ้าตัวฟังภาษาโปเกมอนไม่รู้หรอก เราไปพักในห้องเย็นๆกันดีกว่า

พวกโปเกมอนร้องอย่างเห็นด้วยแล้วทั้งหมดก็เข้าไปในบ้านหลังผสม

Link to comment
Share on other sites

แบทเทิลรอบสองสินะ ขอเม้นเป็นรายคู่ละกัน เหมาะสนุกดี เหอๆๆ

คู่ที่ 1 ฮิโกะซารุ VS แซนกูส

คู่นี้ตอนแรกฮิโกะซารุดูท่าจะแย่เพราะ แซนกูสค่อยใช้แต่ท่า Quick Attack เลยทำให้ฮิโกะซารุหาโอกาสหลบหรือโจมตีกลับยาก

แต่ฮิโกะซารุไม่อยาก ยอมแพ้ง่ายๆเลยใช้ท่า Fire Spin ถึงมันจะไม่โดนแซนกูสโดยตรงแต่ทำให้ฉวนกูสเสียจังหวะจนได้

ตอนนี้ แหละเป็นโอกาสของฮิโกะซารุแล้ว ใช้ท่า Flamethrower ใส่แซนกูสไปเต็มๆ

ยัง! แซนกูสยังยืนอยู่ได้ ฮิโกะซารุเห็นดังนั้นจึงใช้ท่า Flame Wheel แบบแรงที่สุดใส่แซนกูสอีกครั้งจนแซนกูสสลบนับสามแพ้ไปในที่สุด

สรุป ผลคู่ที่ 1 ฮิโกะซารุ ชนะ แซนกูส

หลังจบแมตช์

“เย้ๆ! ในที่สุดก็ชนะแล้ว!” ฮิโกะซารุดีใจราวกับได้ชนะในศึกใหญ่ บาชาโม่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ

เป็นการต่อสู้ที่ใช้ความเร็วเป็นหลักเลยนะเนี้ย แต่ใช้กระบวนท่ากันน้อยจังเลย~

คู่ที่ 2 คิโมริ VS นิวร่า

เริ่มต้นต่างฝ่ายก็ต่างใช้ท่า Quick Attack ใส่กันพลัดกันโดนตลอดจนอยู่ในสภาพเหนื่อย

ปล่อยไว้ไม่มีดีแน่ นิวร่าคิดเลยใช้ท่า Beat Up ที่ไม่ใช่โหมดในเกมออดิชั่นใส่คิโมริในระยะใกล้

แต่เรื่องนี้คิโมริ ก็คิดไว้แล้ว คิโมริเลยกระโดดหลบในจังหวะที่นิวร่าเข้าใกล้แล้วใช้ท่า Energy Ball กลางอากาศ

แต่...นิวร่าเองก็คิดไว้แล้วเหมือนกัน นิวร่าหลบออกด้านข้างและในช่วงที่คิโมริกำลังตะลึงกลางอากาศ นิวร่าก็ใช่ท่า Ice Shard ใส่คิโมริทันที

กลางอากาศแบบนี้ไม่มีทางหลบไม่ได้ คิโมริเลยโดนท่านั้นไปเต็มๆ เป็นการตายกลางอากาศที่สวยงามและถูกนับสามแพ้ไปพอตกถึงพิ้น

สรุปผล คู่ที่ 2 คิโมริ แพ้ นิวร่า

ถึงขั้นตายเลยเหรอ!?! (ก็ Super Effect นี้นะ ==")

คู่ที่ 3 กลาเซีย VS โรค่อน

คู่นี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไรนักไปๆมาๆ เหมือนเป็นการแข่งทำท่าน่ารักสักมากกว่า สุดท้ายเป็นกลาเซียหมดความอดทนใช้ท่า Blizzard ใส่โรค่อนจนสลบนับสามชนะไป

สรุป ผลคู่ที่ 3 กลาเซีย ชนะ โรค่อน

โอ๊ก!!! กลาเซียท่าจะเลเวลมากกว่า โีรค่อน มหาศาลเลยสินะ ถึงใช้ท่า Blizzard ที่เป็นท่าน้ำแข็งซึ่งเป็น Not Very Effect ของธาตุไฟจนโรค่อนธาตุไฟแพ้ได้นะเนี้ย!!!

คู่ที่ 4 บุยเซล VS จิโคริต้า

เป็นการเจอกันระหว่างหมากับแมว...ไม่ ใช่สิ...ใช้คำว่าคู่กัดจะดีกว่า

เริ่มต้นด้วยบุยเซลใช้ท่า Water Gun แต่มีเหรอที่จะทำคุณหญิงของเราได้

จิโคริต้าหลบได้อย่างสวยงามแล้ว ยิ้มเล็กน้อยก่อนใช้ท่า Razor Leaf ใส่บุยเซล แต่บุยเซลก็หลบได้อย่างสบายๆเช่นกัน

ดูท่าคู่นี้คงไม่จบง่ายๆสักแล้ว

จิ โคริต้าใช้ท่า Razor Leaf ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บุยเซลก็ตีลังกาหลบได้ทุกครั้งเรียกเสียงร้องจากข้างสนามได้ไม่ใช่น้อย

เหมือน ตั้งท่ายืนได้บุยเซลก็ใช้ท่า Swift ทันทีและมันก็โดนจิโคริต้าสักด้วย! จิโคริต้าเจ็บสักแล้ว

ตอนนี้แหละบุยเซลใช้ท่า Water Gun อีกครั้ง

แต่ จิโคริต้าก็ยังไม่ยอมง่ายๆ ใช้ท่า Magical Leaf ต้านพลังของบุยเซลไว้จนน้ำจากพลังของบุยเซลกระจายไปทั่ว

พอน้ำกระจาย หายไปหมดบุยเซลก็โดนท่า Razor Leaf ทันทีโดยที่บุยเซลเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว

ตอน นี้ต่างฝ่ายก็ต่างเจ็บและเหนื่อยแล้ว บุยเซลคิดว่าควรทำให้มันจบได้แล้วจึงใช้ท่า Quick Attack โจมตีระยะใกล้

สอน ไม่เคยจำเลยนะจิโคริต้าคิด เลยใช้ท่าแซ่เถาวัลย์พันรอบตัวบุยเซลก่อนจะถึงตัวแล้วกับกระแทกพื้นไปมาราว กับตุ๊กตาก่อนโยนขึ้นกลางอากาศแล้วใช้ท่า Magical Leaf ใส่บุยเซลไปเต็มๆ

บุ ยเซลตกถึงพื้นพร้อมกับดวงวิญญาณที่ออกจากร่างไปเรียบร้อย

สรุปผลคู่ ที่ 4 บุยเซล แพ้ จิโคริต้า

หลังจบแมตช์

บุยเซลนั่งคอตกรอบ สองนี้เป็นการแพ้ครั้งที่สองแล้ว

“เอาน่าๆ บุยเซลยังไงนายก็เก่งนะ” จิโคริต้าพยายามปลอบใจ

“ขอบใจนะจิโคริต้า” บุยเซลยิ้มเล็กน้อย

จิ โคริต้ายิ้มตอบ “อืม แต่ยังไงก็เก่งสู้ฉันไม่ได้ ฮ่า ฮ่า”

“...ยัย ตัวเขียว” *โป๊ก* บุยเซลหลับไปในที่สุดเพราะโดนจิโคริต้าถีบเข้าให้ที่หน้า

แล้วพี่ก็ยังแพ้(ว่าที่)ภรรยาเสียจนได้สินะ(มันเริ่มลางว่าแพ้ตั้งแต่เรื่องธาตุแล้ว!) แต่แพ้แล้วยังไม่วายปากห_าอีกนะนาย ฮะๆๆ

เลยโดนตัวเขียวอัดสลบพ้นเลย อ๊อก!!!

ME/ โดน Magical Leaf ฆ่าตาย...

คู่สุดท้าย บาชาโม่ VS ไคริว

ด้วยส่วนสูงและขนาดตัวทำให้คู่นี้ดูน่า สนใจขึ้นมาหน่อย

เริ่มต้นโดยไคริวบินขึ้นฟ้าแล้วใช้ท่า Dragon Rage จากข้างบน แต่บาชาโม่ก็สามารถหลบได้อย่างไม่ยากเลย

บาชาโม่โจมตีกลับ ด้วยท่า Fire Punch โดยกระโดดขึ้นไปโจมตีไคริวบนฟ้า

ไคริวไม่รู้ว่า เอาแต่สนใจอย่างอื่นหรือเปล่าเลยโดยท่าของบาชาโม่ไปเต็มๆ

แต่ทั้งไค ริวและบาชาโม่ก็ตกลงพื้นอย่างแรง บาชาโม่เดินเชเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้ท่า Quick Attack ได้

ไคริวไม่สามารถหลบได้แต่ก็ใช่ว่าจะกลัว ไคริวใช้ลำตัวรับท่านั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่จริง! บาชาโม่ตกใจมากแต่มันก็สายไปแล้ว ไคริวใช้ท่า Hyper Beam ระยะเผาขน

ถึง ให้บาชาโม่เก่งยังไงก็ไม่สามารถหลบได้แน่นอน พลังอันรุนแรงทำให้บาชาโม่หมดสภาพในทันทีโดนนับสามแพ้ไป

สรุปคู่สุด ท้าย บาชาโม่ แพ้ ไคริว

ทุกคนล้วนมีท่า Quick Attack กันทั้งนั้นสินะ ดูสิ ท่าไฟมีตั้งเยอะไม่ค่อยใช้ ท่าหมัดก็มีอีกแยะด้วย ฮะๆๆ แต่ก็สนุกมากมายนั้นละคร้าบ!!!

ว่าแต่...การแข่งขันจริงๆจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ละเนี้ย~

Link to comment
Share on other sites

จากเท่าที่อ่านมาแล้ว มีส่วนที่ต้องแก้ไขดังนี้เจ้าค่ะ

วันนี้อากาศสบายกว่าทุกวันนะเนี่ย โปเกมอนสีแดงเพลิงพูด นานแล้วสินะ... ที่ไม่ได้มาที่นี้ ในขณะนี้โปเกมอนตัวนี้กำลังเดินบนชายหาด

จริงๆแล้วไม่ว่าวันไหนก็อากาศดีทุกวันอยู่แล้ว การที่พูดแบบนี้ได้แปลว่าคนที่พูดต้องมีความสุขเอามากๆ เพียงแต่คนที่พูดนั้นไม่ได้มีสีหน้าอย่างนั้นเลย

การบรรยายยังดูอยู่ในลักษณะของ "คนนอก" เจ้าค่ะ เป็นคนนอกจริงๆ ชนิดที่ไม่มีความรู้จักหรือสนิทสนมอะไรกับตัวละครในเรื่องเลย ดังนั้น การที่จะดึงอารมณืคนอ่านให้เป็นหนึ่งเดียวกับเรื่อง จึงค่อนข้างยากเจ้าค่ะ

แนะนำตัวนักหน่อยดีกว่า ผมมีชื่อว่าบาชาโม่เป็นโปเกมอนนก ...อืมแต่รูปร่างผมก็คล้ายๆมนุษย์เหมือนกัน เรื่องนั้นช่างเถอะโปเกมอนที่คุยกับผมตอนนี้มีชื่อว่า ฮิโกะซารุ เป็นโปเกมอนลิงและยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมอีกด้วย แต่เขาคนนี้มักจะมีข้อเสีย (หรือบางทีอาจเป็นข้อดี) อยู่อย่างหนึ่งนั้นก็คือ...

พอมาถึงตรงนี้กลับใช้คำว่าผม มันไม่ดูแปลกๆ ไปหน่อยเหรอเจ้าคะ เพราะตอนแรกยังห่างไกลอยู่แท้ๆ ในการเปลี่ยนมุมมองของฟิค มันดูกระชากจนเกินไปเจ้าค่ะ จากมุมมองคนนอกมอง กลายเป็นมุมมองตัวละครมองไปแล้ว

ปกติฟิคที่น่าสนใจสำหรับเรา จะใช้มุมมอง พระเจ้ามอง กับตัวละครมองสลับกันไปเจ้าค่ะ เพราะพระเจ้ามอง จะทำให้รู้ถึงจิตใจและการกระทำขอตัวละครได้ ส่วนมุมมองคนนอกมองนั้น ใช้กับการกระทำลับๆ ล่อๆ ตามเนื้อเรื่องเจ้าคะ เราว่าจะดูเหมาะสมกว่า

สักพักบาชาโม่กับฮิโกะซารุก็มาสำนักพูคูรินที่เป็นที่อยู่ของบาชาโม่ แต่ถ้าพูดแบบนี้ท่านผู้อ่านคงคิดว่าที่นี้มีเฉพาะพวกบาชาโม่เท่านั้นแต่ เปล่าเลย ที่นี้มีกลุ่มโปเกมอนอีกๆมากมายแต่เนื่องจากพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงขอไม่พูดถึง

กระชากมาคนนอกมองอีกแล้ว แถมเป้นคนนอกในฐานะผู้แต่งเรื่องเสียด้วยเจ้าค่ะ จริงๆ การบอกว่าจะพูดถึงหรือไม่พูดถึง ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้เจ้าค่ะ เพียงแค่บรรยายสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องให้เป้นฉากหลังไปเท่านั้นก็พอเจ้าค่ะ

และเมื่อไม่นับพวกที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วในสำนักนี้ก็จะมีพูคูรินที่เป็นหัว หน้าของสำนัก เธอเป็นคนที่ใจดีที่สุดในสำนัก อื่นๆก็มีเหล่าสมาชิกที่เป็นผู้ช่วยพูคูริน ได้แก่ เพรัป (คนๆนี้ถือว่าเป็นมือขวาของพูคูรินก็ว่าได้) เฮกานิ โดกอม ดิ๊ด้า ดิ๊กทรีโอ ฮิมาวาริ (เจ้เสียงแหลมและดูเหมือนเจ้าตัวจะภูมิใจด้วยนะ) ชิเรียน บิปปะ  เกร็กกุรุ ราติออส ราติอัส และสุดท้ายคือ จุ๊บทอล เขาคนนี้เป็นพี่ชายของคิโมริหนึ่งในสมาชิกทีมของผมเอง

ตรงส่วนนี้ อัดรายละเอียดส่วนที่ต้องจำมากเกินไปเจ้าค่ะ มันทำให้อารมณ์ผู้อ่านต้องสะดุด เนื่องจาก บางคนต้องมานั่งจำว่าอะไรเป็นอะไร หรือไม่บางคนก็ อ่านผ่านๆ โดยไม่ใส่ใจ ทำให้รายละเอียดที่ออกมา เป็นรายละเอียดที่ไม่สำคัญไปเลยเจ้าค่ะ

ขออนุญาตครับ บาชาโม่พูด เมื่อทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงเข้ามาก็พบว่าเหล่าสมาชิกในสำนักนี้อยู่กัน พร้อมหน้าพร้อมตา แน่นอนว่าทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิงของเราตกใจเล็กน้อย

มา กันแล้วสินะ พูคูรินพูดอย่างยิ้มแย้ม ฉันรอคำตอบของพวกเธออยู่

เรื่องรายละเอียดของทีมนักผจญภัยแห่งเปลวเพลิง ยังไม่ได้มีการพูดถึงมากมาย ว่าจัดเพื่ออะไร แล้วทีมนี้ทำอะไร การเอามาใช้โดยที่ผู้อ่านไม่ได้รู้อะไรมาก(รู้แค่ภูมิหลัง) มันดูแปลกๆ นะเจ้าคะ แล้วก็ พูคุริน น่าจะรอความคิดเห็นมากกว่านะเจ้าคะ เพราะในเมื่อมันเป็นเรื่องแปลก แล้วให้ไปถามบาชาโมก่อน ดังนั้นสิ่งที่พุคุรินต้องการ น่าจะเป้นความคิดเห็นมากกว่าเจ้าค่ะ

บาชาโม่จึงต้องรีบพูดอะไรสักอย่างก่อนที่ฮิโกะซารุจะทำอะไรไปมากกว่านี้ ครับเรื่องนั้นพวกผมก็คุยกันแล้ว ว่ามันไม่น่าจะมาที่นี้ได้เพราะเกาะนี้ถูกทิ้งให้ลืมมากว่าเกือบครึ่งปี ถึงจะรู้ว่ามีเกาะนี้อยู่แต่ก็จะเกิดคำถามว่า ผู้ส่งรู้ได้อย่างไรว่ามีเกาะนี้อยู่จริง

เกาะนี้ลืมมาครึ่งปี แต่เหตุการณ์ไฟไหม้อพาทเมนท์มันสี่เดือนก่อนไม่ใช่เหรอเจ้าคะ เส้นเวลาแปลกๆ นะเจ้าคะ

ผู้แต่ง : ธีมเพลงตอนบินมาประมาณ ซุปเปอร์แมน

ตรงนี้ใช้การบรรยายน่าจะดีกว่าการสอดแทรกนะเจ้าคะ เพราะการสอดแทรกอะไรที่เกี่ยวกับผู้แต่ง ไม่น่าจะมีอยู่ในฟิคเจ้าค่ะ ผู้แต่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเนื้อเรื่อง เพียงแค่เป้นผู้ี่ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปเท่านั้น อาจมีการกล่าวพาดพิงได้ แต่ไม่ควรจะโจ่งแจ้งเจ้าค่ะ

เซเลบี้กับโยโนวารุ เคยเป็นผู้ร่วมเหตุการณ์ตอนสู้กับดีอัลก้า ตอนนั้นมีการเข้าใจผิดอะไรนิดหน่อยแต่ก็จบลงด้วยดี หลังจากเหตุกาณณ์นั้นสองคนนี้ก็ต่างแยกย้ายไปตามที่อยู่ของตน นานๆจะมาหาสักครั้ง

ถ้าการเข้าใจผิดเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ไม่ถูกทำให้สำคัญ เราว่าไม่ควรบรรยายเจ้าค่ะ มันทำให้น่าสงสัยว่า มีการเข้าใจผิดอะไร แล้วถ้ามันไม่สำคัญ จะบอกมาทำไม ถ้าสำคัญ ทำไมไม่บอกให้มากกว่านี้เจ้าคะ

พื้นที่ท่านอาศัยอยู่มีบ้านสามหลัง มีบ้านเก่า บ้านผสมและตึกคอนโด โดยท่านจะอยู่ที่บ้านเก่าพวกผมอยู่ที่บ้านผสมส่วนตึกคอนโดเป็นที่อาศัยชั่ว คราวนานๆจะมีมนุษย์มาสักครั้ง รวมๆแล้วก็เป็นที่ที่เหมาะสำหรับโปเกมอนอย่างพวกผมมากๆเลยครับ

ผู้ แต่ง : บ้านผสมคือ บ้านเก่าที่นำมาต่อเติมด้วยสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่โดยยังคงความเป็นบ้านหลัง เดิมอยู่ แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเก่า

สิ่งที่ผู้แต่งบอก เอามาเป้นบทบรรยายน่าจะเหมาะสมกว่าเจ้าค่ะ

ทั้งแอปโซลและไคริวต่างหันไปมองโดยเฉพาะแอปโซลมีสีหน้าที่ตกใจจนเห็นได้หัน แอปโซลมองอยู่สักพักก็วิ่งเข้าไปในบ้านหลังผสม ไคริวก้มหัวแสดงความเคารพเล็กน้อย พวกบาชาโม่ที่ยืนอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ก้มหัวตามไคริวเล็กน้อยเหมือน กัน ก่อนทั้งหมดก็เข้าไปในบ้านหลังผสมเพื่อพบลีเฟีย

เขาถามแล้ว ทำไมไม่ตอบคำถามเหรอเจ้าคะ หรือว่าคนแก่คนนั้นไม่ได้สำคัญอะไรมากเจ้าคะ แต่ก็ทำความเคารพนี่นา แล้วทำไมไม่ตอบคำถามอ่าเจ้าคะ

ลีเฟียก็เข้าใจดีว่าพวกบาชาโม่คงอยากปลอบใจเขา แต่ว่านะ ฉันก็พอทำใจเรื่องนั้นได้แล้วที่สำคัญตอนนี้ฉันก็มีเทรนเนอร์คนใหม่และเขาก็ ดีกับฉันมากๆด้วย ไม่ต้องห่วงไปหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ลีเฟียหัวเราะเพื่อไม่ได้เพื่อนๆคิดมาก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ฉันให้พวกนายมาแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือเรื่องปัญหาของที่นี้ แต่ส่วนหนึ่งคือฉันให้พวกนายมาให้กำลังใจฉัน

เรียกมาแถมส่งไคริวไปรับเพื่อให้กำลังใจเหรอเจ้าคะ เรื่องแค่นี้น่าจะบอกในจดหมายนี่นา ไม่ใช่บอกว่าเจอปัญหา หมายถึงเรื่องการแข่งอ่าเจ้าค่ะ เพราะไคริวก็บอกเองว่า ลีเฟียเก่งเรื่องการอธิบาย ดังนั้น เราแข่งนี่ ลีเฟียน่าจะอธิบายในจดหมายนะเจ้าค่ะ เพราะมันคือรายละเอียดสำคัญไม่ใช่เหรอเจ้าคะ

เอาน่าๆ ที่มีกฎแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ผู้ขอทำผิดกฎหมายก็เท่านั้น ลีเฟียยิ้มเล็กน้อย เอาล่ะฉันว่าพวกคุณคงเหนื่อยกันมาบ้าง เดี๋ยวผมจะพาไปที่ห้องพักให้เอง

เพื่อนสนิทกัน คุยกันน้อยจังเลยเจ้าคะ รู้สึกว่าตัดบทรวบรัดไปนิดหน่อย เพราะพูดถึงการขออะไรก้ได้ออกมาแล้ว น่าจะมีการพูดถึงเจตตนารมณ์ด้วยว่า ลีเฟียอยากจะขออะไรเจ้าค่ะ

ผู้แต่ง : เนื่องจากกระผมไม่ค่อยจะถนัดบรรยายการต่อสู้เท่าไรจึงขออธิบายแบบง่ายๆแล้ว กันนะครับ

คู่ที่ 1 โพจามะ VS ฮิโกะซารุ

คู่นี้ไม่มีอะไรมาก ในช่วงแรกเหมือนจะเป็นการวิ่งไล่จับสักมากกว่าเพราะฮิโกะซารุชอบวิ่งหนีตลอด จนสุดท้ายโพจามะทนไม่ไหวเลยใช้ท่า Bubble Beam ใส่กลางหลังฮิโกะซารุไปเต็มๆ จนฮิโกะซารุตายคาที่นับสามแพ้ไป

อธิบายแบบไร้ความความรับผิดชอบเกินไปไหมเจ้าคะ ถ้าคิดจะอธิบายแบบนี้ ปรับโครงเรื่องไม่ให้มีการต่อสู้คู่นี้ไม่ง่ายกว่าเหรอเจ้าคะ เพราะมันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเนื้อเรื่องหลักนี่นา อยากให้ใส่ใจกับการอธิบายมากกว่านี้ด้วยเจ้าค่ะ

ยังไงนายก็จะสู้สินะ เชมี่พูดน้ำเสียงประมาณว่าช่วยไม่ได้ อีกสามวันที่เหลือต้องฝึกให้หนักกว่านี้แล้วล่ะ

สามวัน ไม่ใช่ 151 วันเหรอเจ้าคะ?

ไคริวโผล่หน้าเข้ามา ขอโทษนะครับ ลีเฟียเจ้านายเรียกให้... ไคริวยังพูดไม่ทันจบก็ต้องเจอกับสายตาของบาชาโม่ที่มองที่เขาอย่างแปลกๆ ...มีอะไรเหรอครับ ไคริวรู้สึกเหมือนจะมีรถไฟวิ่งผ่าน (มีลางนั้นแหละ)

หลัง จากนั้นก็จับคู่กันรอบสองและเมื่อจัดลำดับการต่อสู้ผลออกมาดังนี้ครับ

คนเขาเรียกแล้วยังจะสู้กันอีกเหรอเจ้าคะ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอเจ้าคะ เพราะคนที่เรียก คือเจ้านายแท้ๆ นะ

ที่เหลือก็ซ้ำๆ เดิมๆ นะเจ้าคะ เรื่องข้อติ เราจะไม่ขอพูดมากเจ้าค่ะ

=================================================

ต่อไปเป็นเรื่องของภาพรวมนะเจ้าคะ

เรื่องของการบรรยายยังเป็นการบรรยายชนิดที่เหมือนกับ "ยัดเยียด" รายละเอียดให้กับตัวละครอยู่เจ้าค่ะ หลายๆ ครั้งที่มีการเอ่ยถึงเรื่องๆ หนึ่งขึ้นมา แต่ก็บอกว่า ไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่สำคัญอะไร หรือจู่ๆ ก็พูดถึงแล้วก็ตัดจบลงไปซะอย่างนั้น ในส่วนตรงนี้เราคิดว่า ถ้ามันไม่สำคัญก้ไม่ต้องมาพูดถึงให้มันรกอยู่ในหัวคนอ่านเจ้าค่ะ เพราะคนอ่านเวลาอ่านก้ต้องจดจำตัวละคร และโครงเรื่อง ดังนั้น ก็อยากให้มีแต่รายละเอียดที่จำเป็น หรือรายละเอียดที่สละสลวยเจ้าค่ะ นอกจากนี้ การบรรยายยังดูละเอียดจนเกินไปด้วยเจ้าค่ะ ค่อนข้างจะน่าเบื่ออ่า

การบรรยายชนิดที่ไร้การรับผิดชอบในเรื่องการต่อสู้ ตรงนี้เราไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เจ้าค่ะ เพราะว่าฟิคมันก็คล้ายๆ กับจะเน้นการต่อสู้ เพราะดูจากชื่อเรื่องนะเจ้าคะ แต่ว่า ทำไมการบรรยายการต่อสู้ถึงดูลวกๆ แบบนี้ ถ้าหากไม่ถนัด ก็เป้นหน้าที่ของเราไม่ใช่เหรอเจ้าคะ ที่จะต้องทำให้มันถนัด ทำให้มันดูดีขึ้น ลองพยายามดูก่อนเจ้าค่ะ

เรื่องของบทพูด ในเมื่อมีตัวละครเยอะขนาดนั้น หลังบทพูดน่าจะมีบอกว่าใครเป้นคนพูดนะเจ้าค่ะ เราเห้นว่าหลายประโยคพูด ไม่มีบอกเลยว่าใครพูด ลำพังแค่ตัวละครก้จำไม่ได้หมดแล้วว่ามีตัวอะไรบ้าง ให้มาจินตนาการว่าใครพูดแบบนี้ เราว่ามันเกินความสามารถเกินไปเจ้าค่ะ

การดำเนินเนื้อเรื่องดูช้าเกินไปมากเจ้าค่ะ ตอนนึงค่อนข้างยาวมาก แต่เนื้อหาไม่ค่อยจะมีสาระอะไรเลย หมายถึง มีแต่รายละเอียดที่สามารถตัดออกไปได้เยอะเกินไป จนดูเหมือนน้ำๆ อ่าเจ้าค่ะ อยากจะให้รัดกุมกว่านี้เจ้าค่ะ

เราอาจจะติแรงไปนะเจ้าคะ แต่อย่าใส่ใจละกันเจ้าค่ะ

ขอโทษนะเจ้าคะ

Link to comment
Share on other sites

เป็นการเม้นที่ยาวที่สุดที่เคยเจอเลย  :pika09:

จะตอบบางข้อนะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การบรรยายยังดูอยู่ในลักษณะของ "คนนอก" เจ้าค่ะ เป็นคนนอกจริงๆ ชนิดที่ไม่มีความรู้จักหรือสนิทสนมอะไรกับตัวละครในเรื่องเลย ดังนั้น การที่จะดึงอารมณืคนอ่านให้เป็นหนึ่งเดียวกับเรื่อง จึงค่อนข้างยากเจ้าค่ะ

ก็ยากจริงๆนั้นล่ะ  :pika02:

พอมาถึงตรงนี้กลับใช้คำว่าผม มันไม่ดูแปลกๆ ไปหน่อยเหรอเจ้าคะ เพราะตอนแรกยังห่างไกลอยู่แท้ๆ ในการเปลี่ยนมุมมองของฟิค มันดูกระชากจนเกินไปเจ้าค่ะ จากมุมมองคนนอกมอง กลายเป็นมุมมองตัวละครมองไปแล้ว

ปกติฟิคที่น่าสนใจสำหรับเรา จะใช้มุมมอง พระเจ้ามอง กับตัวละครมองสลับกันไปเจ้าค่ะ เพราะพระเจ้ามอง จะทำให้รู้ถึงจิตใจและการกระทำขอตัวละครได้ ส่วนมุมมองคนนอกมองนั้น ใช้กับการกระทำลับๆ ล่อๆ ตามเนื้อเรื่องเจ้าคะ เราว่าจะดูเหมาะสมกว่า

เรื่องนี้เอามาจากหนังสืออ่ะครับ เลยเอามาใช้บ้าง

กระชากมาคนนอกมองอีกแล้ว แถมเป้นคนนอกในฐานะผู้แต่งเรื่องเสียด้วยเจ้าค่ะ จริงๆ การบอกว่าจะพูดถึงหรือไม่พูดถึง ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้เจ้าค่ะ เพียงแค่บรรยายสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องให้เป้นฉากหลังไปเท่านั้นก็พอเจ้าค่ะ

เหมือนกับอันบน  :pika04:

ตรงส่วนนี้ อัดรายละเอียดส่วนที่ต้องจำมากเกินไปเจ้าค่ะ มันทำให้อารมณ์ผู้อ่านต้องสะดุด เนื่องจาก บางคนต้องมานั่งจำว่าอะไรเป็นอะไร หรือไม่บางคนก็ อ่านผ่านๆ โดยไม่ใส่ใจ ทำให้รายละเอียดที่ออกมา เป็นรายละเอียดที่ไม่สำคัญไปเลยเจ้าค่ะ

ผมกลัวใครที่ยังไม่ได้อ่านภาคเก่าจะงง ก็เลยเขียนสักเต็มที่ไปเลย  :pika02:

เกาะนี้ลืมมาครึ่งปี แต่เหตุการณ์ไฟไหม้อพาทเมนท์มันสี่เดือนก่อนไม่ใช่เหรอเจ้าคะ เส้นเวลาแปลกๆ นะเจ้าคะ

เหตุการณ์ไฟไหม้อพาทเมนท์เกิดขึ้นในตัวเมือง (กรุงเทพ) ครับ จริงๆเรื่องเส้นเวลาผมเคยลงไว้ในฟิค Pokemon Mystery Dungeon - Zero ไว้แล้ว แต่พอมาเปลี่ยนบอร์ดใหม่เลยยังไม่ได้ลง

เขาถามแล้ว ทำไมไม่ตอบคำถามเหรอเจ้าคะ หรือว่าคนแก่คนนั้นไม่ได้สำคัญอะไรมากเจ้าคะ แต่ก็ทำความเคารพนี่นา แล้วทำไมไม่ตอบคำถามอ่าเจ้าคะ

โปเกมอนพูดภาษามนุษย์ไม่ได้นะครับอย่าลืม แต่ที่เราสามารถฟังภาษาโปเกมอนได้เพราะเรากำลังฟังผ่านหูใครคนนึง

เรียกมาแถมส่งไคริวไปรับเพื่อให้กำลังใจเหรอเจ้าคะ เรื่องแค่นี้น่าจะบอกในจดหมายนี่นา ไม่ใช่บอกว่าเจอปัญหา หมายถึงเรื่องการแข่งอ่าเจ้าค่ะ เพราะไคริวก็บอกเองว่า ลีเฟียเก่งเรื่องการอธิบาย ดังนั้น เราแข่งนี่ ลีเฟียน่าจะอธิบายในจดหมายนะเจ้าค่ะ เพราะมันคือรายละเอียดสำคัญไม่ใช่เหรอเจ้าคะ

เรื่องนี้มีความลับบางอย่างอยู่นะ แต่ไม่บอก อิอิ

สามวัน ไม่ใช่ 151 วันเหรอเจ้าคะ?

สามวัน คือ รอบคัดเลือกครับ ส่วน 151 วัน คือศึกใหญ่จริงๆที่กำลังจะจัดขึ้น

คนเขาเรียกแล้วยังจะสู้กันอีกเหรอเจ้าคะ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอเจ้าคะ เพราะคนที่เรียก คือเจ้านายแท้ๆ นะ

ก็นายเจ้าเรียกให้ไปสู้นั้นล่ะ

เราอาจจะติแรงไปนะเจ้าคะ แต่อย่าใส่ใจละกันเจ้าค่ะ

ขอโทษนะเจ้าคะ

แทงใจไปหลายเข็มแล้วครับ... แต่ก็เข้าใจ

เรื่องอื่นๆจะแก้ต่อไป แต่ก็นะ...ผมถนัดการแต่งแบบนี้ไปสักแล้ว

Link to comment
Share on other sites

มาแล้วก็มาอัพต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปฟรีๆ

แล้วอยากจะบอกว่าผมชอบที่จะแต่งตามแบบของผมมากกว่าจริงๆนะ (อย่าโกรธกันนะครับ~)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ว่าแต่...การแข่งขันจริงๆจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ละเนี้ย~

คอนเฟิร์ม! บทหน้ารอบคัดเลือกมาแน่นอนครับ!  :pika01:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

ภารกิจในตลาดสุดสยอง

ตอนนี้เหล่าบรรดาโปเกมอนมาอยู่ในห้องนอนกันอีกครั้ง

ใกล้จะเที่ยงและนะเนี่ย ไม่รู้ตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่ เด็กหนุ่มพูดขณะมองดูนาฬิกาภายในห้อง กับข้าวก็ไม่ค่อยมีแล้วสิ อืม... เด็กหนุ่มทำท่ากำลังคิด

ท่าจะไม่ค่อยดี ลีเฟียเหงื่อตกเล็กน้อยทั้งที่ในห้องก็เปิดแอร์อยู่

หมายความว่าไงเหรอ เชมี่ถามอย่างสงสัย

ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรออก เขาดีดนิ้วหนึ่งครั้ง (จริงๆแล้วดีดนิ้วไม่เป็นหรอกแค่ทำไปงั้นๆ) ลีเฟีย เดี๋ยวนายกับเพื่อนๆไปซื้อของในตลาดหน่อยสิ ฉันจะจดรายการของที่ต้องซื้อมาให้

ลีเฟียแค่พยักหน้าตอบสีหน้าเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้ว เด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตท่าทีของโปเกมอนคู่หูสักนิด เอาแต่จดลายละเอียดข้าวของที่ต้องซื้อจนเสร็จแล้วนำไปใส่แล้วในกระเป๋าของเซนิกาเมะ เป็นไปได้ อยากให้กลับมาก่อนเที่ยงครึ่งนะ ...ตอนนี้สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้ายังมีเวลาเหลือเยอะ เดียวฉันจะโทรหาพี่สักหน่อยไปก่อนนะ เด็กหนุ่มพูดรวดเดียวจบโดยไม่สนใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำเขาออกโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วออกจากห้องไป

... ... ... เหล่าโปเกมอนต่างมองหน้ากันสีหน้าประมาณว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย

ปกติก็เป็นแบบนี้ ลีเฟียพูดขึ้นพร้อมถอนหายใจ แต่ให้ไปกันหมดคงไม่ดีแน่ งั้นเรามาช่วยกันออกความคิดกันหน่อยว่าควรให้ใครไปบ้าง

ฉันของเสนอเซนิกาเมะ จิโคริต้าพูดอย่างรวดเร็ว

เซนิกาเมะตกใจเล็กน้อย ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ

ก็นายต้องแบกกระเป๋า มันเป็นหน้าาที่นายไม่ใช่เหรอ

... ... ... เซนิกาเมะพูดไม่ออกเพราะเป็นเรื่องจริง

และอีกคนที่ฉันอยากเสนอคือบุยเซล จิริต้าใช้นิ้ว(เท้า)ชี้ไปที่บุยเซลที่กำลังนั่งหันหลังทำเป็นไม่อยู่เรื่อง อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเจ้าตัวเหลือง

รู้แล้วๆ บุยเซลทำท่าเซ็งๆ งั้นฉันก็ขอเสนอจิโคริต้าอีกคน

หน่อย~ เจ้าเหลือง

อะไรเจ้าเขียว!

พวกบาชาโม่ต่างมองดูอย่างเงียบๆ

สองคนนี้ดูสนิทกันดีนะ ลีเฟียพูดกับกลาเซีย

นั้นสินะ สนิทในทางไหนกันแน่นะ กลาเซียยิ้มแหยๆ

ฉันขอเสนอตัวเอง ฮิโกะซารุยกมือขึ้นอย่างร่าเริง ฉันอยากเที่ยวเล่นข้างนอกตั้งนานแล้วแหละ

แต่เราไม่ได้ไปเที่ยวกันนะ! โพจามะเผลอพูดเสียงดังอีกแล้ว

รู้แล้วหน่าๆ แค่นี้ก็โกรธ นานๆจะเห็นฮิโกะซารุคอตกสักที

ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่ไว้ใจนาย ฉันขอไปด้วยคน

เอาล่ะๆ ลีเฟียคิดว่าเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว สรุปแล้วคนที่ไปก็มี เซนิกาเมะ บุยเซล จิโคริต้า ฮิโกะซารุและก็โพจามะ ลีเฟียหันไปมองเพื่อนๆที่เป็นกลุ่มของเขา นิวร่านายช่วยมาอีกคนหนึ่งนะ ค่อยระวังหลังให้พวกเราด้วย

อืม ได้เลยพวก นิวร่ากำหมัดแน่นราวกับจะไปสู้กับใครสักคน

โอเค ไปกันเถอะ ลีเฟียเดินนำหน้าออกไปนอกห้อง

หลังจากกลุ่มของลีเฟียไปกันหมดแล้วในห้องจึงเหลือ บาชาโม่ ฮิโตะคาเงะ คิโมริ เชมี่ กลาเซียและอีวุย กับกลุ่มของลีเฟียที่เหลือได้แก่ แซนกูส โรค่อนและไคริว

เดี๋ยวผมต้องขึ้นข้างบนแล้ว ไปก่อนนะครับ ว่าแล้วไคริวก็เดินออกนอกห้องไป

แล้วพวกเราทำอะไรต่อดีล่ะ บาชาโม่ถามอย่างสงสัย

ขอตัดมาที่กลุ่มของลีเฟียกันก่อน

ดังที่เคยได้กล่าวไปแล้วว่าถนนข้าวสารถูกเปลี่ยนเป็นถนนกระเบื้องทั้งหมดแถมยังถูกทำความสะอาดทุกวัน ถึงวันนี้คนจะเยอะแต่พื้นถนนก็ยังดูใหม่ราวกับเพิ่งทำ

กลุ่มของลีเฟียที่มาตลอดกำลังเดินไปตามทางที่เป็นเส้นตรงทั้งสองข้างทางต่างมีร้านทั้งไทยและเทศต่างๆนาเรียกรายกันให้เพียบ

พวกเราหยุดกันตรงนี้ก่อน เมื่อเดินกันมาได้สักพักลีเฟียก็หยุดเดินสักเฉยๆ เราต้องดูก่อนว่าเจ้านายฉันให้มาซื้อของอะไรบ้าง เซนิกาเมะเอากระดาษใบนั้นออกมาหน่อยสิ ดูท่าลีเฟียจะเริ่มสนิทมากขึ้นแล้วถึงได้เรียกชื่อตรงๆแบบนี้

ได้แล้วลีเฟีย เซนิกาเมะเปิดกระดาษที่พับอยู่ให้ดู ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. ปลาทอด

2. ข้าวต้มให้คุณย่า

3. อาหารสำหรับโปเกมอน

จิโคริต้าพอเห็นรายการที่ต้องซื้อพอถอนหายใจเบาๆ สามอย่างเองง่ายนิดเดียว

มันก็ไม่แน่นะครับ ลีเฟียพูดขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ

อีกเหลือรู้ได้ในทันทีว่าลีเฟียสือถึงอะไร มนุษย์นั้นเอง แถมทุกสายตาต่างมองมาที่กลุ่มของลีเฟียกันทั้งนั้น อ่อ...ถึงจะไม่ถึงขั้นหยุดยืนมองดูแต่ก็เป็นสายตาที่ดูน่ากลัวๆยังไงชอบกล

พวกเขาจะจับเราหรือเปล่าเนี่ย เซนิกาเมะเริ่มวิตก

เปล่าครับ ในเมืองไม่เคยมีโปเกมอนออกมาเดินกันแบบนี้หรอกครับ พอมีก็เลยอดมองดูไม่ได้อะไรประมาณนี้

แต่ถ้าคิดจะจับล่ะก็ฉันอัดไม่เหลือซากแน่ นิวร่ากำหมัดแน่นอีกครั้ง จะว่าไปเป็นเพราะนิวร่าเลยทำให้มนุษย์ที่มามองต่างกลัวจนต้องเดินจากไปกันทุกราย

อย่าเพิ่งสนใจเรื่องมนุษย์เลย ว่าแต่พวกเราต้องไปซื้ออะไรก่อนดี อย่าลืมนะว่าพวกเราต้องกลับก่อนถึงเที่ยงครึ่ง หลังจากพูดนอกเรื่องสักนาน บุยเซลก็พูดเข้าประเด็นทันที

ลีเฟียออกความเห็นดังนี้ เริ่มแรกก็ต้องข้าวต้มของคุณย่าก่อน ร้านนั้นขายใกล้กับร้านขายอาหารโปเกมอนด้วย ส่วนปลาทอดไว้หลังสุดดีกว่า

เอ๋!? ฮิโกะซารุตกใจเล็กน้อย แต่ร้านขายปลาก็อยู่ข้างๆเรานี้เองนะ ก็จริง ร้านขายปลานั้นอยู่ใกล้ๆกับที่พวกลีเฟียอยู่

จะซื้ออันไหนก่อนก็ต้องเดินไปกลับกลับมาอยู่ดี ทำตามที่ลีเฟียพอเถอะ โพจามะพูดข้างหูฮิโกะซารุเบาๆ

อ่ะ... ฮ่า ฮ่า นั้นสิๆ ไปซื้อข้าวต้มก่อนก็ได้ ฮิโกะซารุเกาหัวอย่างเขินอาย

ว่าแล้วทั้งหมดก็เดินกันต่อโดยเป้าหมายแรกคือร้ายที่ขายข้าวต้ม นับว่าโชคดีที่ลีเฟียจำร้านที่ขายได้จึงไม่เสียเวลามากนัก และข้างๆห่างออกไปสี่ห้าเมตรก็เป็นร้านขายของเกี่ยวกับโปเกมอน พวกลีเฟียจึงได้อาหารสำหรับโปเกมอนมาอย่างง่ายดาย

จนมาถึงรายการสุดท้ายคือ ซื้อปลาทอด...

และแล้วก็มาถึงรายกายสุดท้าย ฮิโกะซารุดีใจจนออกนอกหน้า ตอนนี้พวกเราเหลืองบอยู่เท่าไรเนี่ย

อืม...แปบนะ เซนิกาเมะมองดูเงินในกระเป๋า จากเงินที่เจ้านายลีเฟียให้มาตอนนี้ก็เหลืออยู่หนึ่งร้อยเศษๆ

หนึ่งร้อยบาทสินะ งั้นก็พอซื้อได้บาง ลีเฟียพูดพร้อมกับดูเงินในกระเป๋าอีกคนก่อนจะเดินนำหน้าอีกครั้ง

พวกลีเฟียจำตำแหน่งร้านได้อยู่แล้วจึงไม่เสียเวลามากนัก พอมาถึงร้านพวกลีเฟียก็พบกับแม่ค้าค่อยข้างมีอายุผู้นึงกำลังจะสับปลาพอดี

*ฉับ* เสียงดังฟังดูน่ากลัว เลือดจำนวนนึงกระฉูดออกมาจากปลา พวกลีเฟียพร้อมใจกันกรี๊ดกันเป็นแถว

อ้าวพวกเธอ แม่ค้านำมีดวางลง มือมีสีแดงสดอันมาจากเลือดปลา มาซื้อปลากันหรือจ้ะ น่ารักจริงๆเลยมีโปเกมอนมาซื้อของด้วย แม่ค้ายิ้มอย่างเป็นมิตรซึ่งดูไม่เข้ากับสภาพร้านที่มีแต่เลือดและก็เลือด...

พวกลีเฟียไม่ได้พูดอะไร โพจามะนำกระดาษที่จดรายการไว้ส่งให้แม่ค้า

อืม...ต้องการแม่ทอดสินะ แล้วมีเงินกันหรือจ้ะ

เซนิกาเมะชูธนบัตรหนึ่งร้อยบาทหนึ่งใบให้แม่ค้าดู

อืม...แบบนี้ได้สักสองตัว แต่ฉันจะแถมให้ตัวนึงแล้วกันนะ แม่ค้ายิ้มก่อนจะนำปลาสดๆจากอ่างใกล้ๆ ถ้าจะบอกว่าปลาพันธุ์อะไรคงบอกไม่ได้แน่ชัด (ก็มันเหมือนๆกันหมดนี่หน่า)

พวกลีเฟียพร้อมใจกันกลืนน้ำลายเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น

*ฉับ* แม่ค้าสับปลาอย่างแรงจนปลาที่ตอนแรกดี้นไปมากลับหยุดนิ่งไปสักเฉยๆและมาพร้อมกับเลือดกระฉูดรอบสอง

พวกลีเฟียถึงตกใจจนต้องหันหน้าหนี

ท่าทางปลาจะเจ็บนะ ฮิโกะซารุหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด

มาถึงขั้นนี้มันคงไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ โพจามะยิ้มแหยๆ

*ฉับ* เสียงดังขึ้นอีกครั้งและดังต่ออีกหลาบรอบก่อนตามด้วยทอดให้กระทะ หลังจากนั้นสักพักแม่ค้าก็ส่งปลาทอดที่เพิ่งทอดให้แบบสดๆส่งให้กับบุยเซล

ถือดีๆนะจ้ะ ไม่งั้นเสียดายแย่ แม่ค้ายิ้มให้อีกครั้ง พวกลีเฟียแค่ยิ้มตอบก่อนทั้งหมดจะรีบออกมาจากร้านอย่างรวดเร็วที่สุด

พอออกมาได้ทุกคนต่างถอนหายใจกันเป็นแถว

เป็นการมาตลาดที่สยองสุดๆเลย ฮิโกะซารุยังไม่หายหน้าซีดเลยสักนิด

ฉันว่าเรารีบกลับบ้านก่อนที่จะมีใครเป็นลมดีกว่านะ โพจามะออกความเห็นทุกคนพยักหน้าตอบตกลงทันที

ฉันสงสัยจังเลยว่าพวกบาชาโม่ตอนนี้เป็นไงบ้าง จิโคริต้าที่เพิ่งนึกขึ้นได้ถามออกมาแบบกะทันหันสุดๆ

แต่ลีเฟียก็ตอบคำถามอย่างรวดเร็ว ฉันว่าพวกเขาคงไม่ได้อยู่เฉยๆแน่นอน ฟันธง ลีเฟียเองก็หน้าซีดกับเขาเป็นเหมือนกันนะเนี่ย

Link to comment
Share on other sites

โอ้!!! ท่านแยมมาดูฟิคของท่านไมยาตะด้วยหรือเนี้ย แถมยังมาเนม(แนะนำ)เรื่องราวตั้งหลายเรื่องด้วย ท่านช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมอะไรอยากนี้~

อยากให้ไปเนม(แนะนำและติชม)ฟิคของผมบ้างอ่า TT[]TT

อ๊ะ! ต้องเม้นฟิคด้วยสินะ

---------------------------------------------------

ลีเฟียแค่พยักหน้าตอบสีหน้าเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้ว เด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตท่าทีของโปเกมอนคู่หูสักนิด เอาแต่จดลายละเอียดข้าวของที่ต้องซื้อจนเสร็จแล้วนำไปใส่แล้วในกระเป๋าของเซ นิกาเมะ “เป็นไปได้ อยากให้กลับมาก่อนเที่ยงครึ่งนะ ...ตอนนี้สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้ายังมีเวลาเหลือเยอะ เดียวฉันจะโทรหาพี่สักหน่อยไปก่อนนะ” เด็กหนุ่มพูดรวดเดียวจบโดยไม่สนใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำเขาออกโทรศัพท์ออกมา จากกระเป๋ากางเกงแล้วออกจากห้องไป

พูดเองตอบเองเลยนะเจ้าคนนี้ ไม่รอฟังคำตอบบ้างรึไง เอ๊ะ! ถึงตอบก็ไม่ีรู้เรื่องอยู่ดีนี้หน่า(แต่เป็นมนุษย์ที่ขี้เกียจดีแท้)

“และอีกคนที่ฉันอยากเสนอคือบุยเซล” จิริต้าใช้นิ้ว(เท้า)ชี้ไปที่บุยเซลที่กำลังนั่งหันหลังทำเป็นไม่อยู่เรื่อง “อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเจ้าตัวเหลือง”

“รู้แล้วๆ” บุยเซลทำท่าเซ็งๆ “งั้นฉันก็ขอเสนอจิโคริต้าอีกคน”

“หน่อย~ เจ้าเหลือง”

“อะไรเจ้าเขียว!”

เรื่องนี้มีการเหยียดสีผิวด้วยรึเนี้ย...

1. ปลาทอด

2. ข้าวต้มให้คุณย่า

3. อาหารสำหรับโปเกมอน

บ..บ้าน....บ้านๆสุดๆเลยนะนั้น (ว่าแต่โปเกม่อนอ่านหนังสือออกด้วยรึ) --> (ตามการคาดคะเนแล้ว ภาษาที่เขียนบนกระดาษต้องเป็นภาษาไทยแน่ ซึ่งลีเฟียรู้นั้นไม่แปลกเท่าไหร่หรอก แต่ที่ฮิโกซารุทราบนี้สิมันแปลก เพราะฮิโกซารุมาจากเกาะุอันไกลโพ้นซึ่งอาจใช้ภาษาเขียนไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะงั้น...ทำไมฮิโกซารุอ่านภาษาไทยออกละ?)

*ฉับ* เสียงดังฟังดูน่ากลัว เลือดจำนวนนึงกระฉูดออกมาจากปลา พวกลีเฟียพร้อมใจกันกรี๊ดกันเป็นแถว

“อ้าวพวกเธอ” แม่ค้านำมีดวางลง มือมีสีแดงสดอันมาจากเลือดปลา “มาซื้อปลากันหรือจ้ะ น่ารักจริงๆเลยมีโปเกมอนมาซื้อของด้วย” แม่ค้ายิ้มอย่างเป็นมิตรซึ่งดูไม่เข้ากับสภาพร้านที่มีแต่เลือดและก็ เลือด...

คำบรรยายนี้ทำให้นึกสภาพออกเลย สยองดีแท้หน่อ~!!! (ฉ้านกลัวเลือดดดดดด)

---------------------------------------

เมื่อไหร่บาชาโม่จะได้พบกับใครคนนั้นสักทีนะ....

Link to comment
Share on other sites

  • 5 weeks later...

มาอัพต่อแล้วครับ~! ช่วงนี้รู้สึกนึกอะไรไม่ค่อยออกเลยอ่ะ

ตอนหน้าก็จะเป็นรอบคัดเลือกในศึกใหญ่แล้ว ต้องแต่งฉากต่อสู้...ลำบากยังไงชอบกล...

ปล. หากมีคำไหนผิดไปก็ขออภัยด้วยนะครับ จะแก้ไขต่อไป

- - - - - - - - - - - - - - - - -

เมื่อไหร่บาชาโม่จะได้พบกับใครคนนั้นสักทีนะ...

อีกไม่นานเกินรอครับ

ตั้งใจจะให้เจอกันหลังจากจบตอนหน้า แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

ขบวนการทำความสะอาดบ้าน

ตัดกับมายังกลุ่มบาชาโม่ที่เหลือโดยเป็นช่วงหลังจากที่กลุ่มของลีเฟียออกไปได้ไม่นาน

เด็กหนุ่มเทรนเนอร์ของลีเฟียเดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง มาถึงก็บ่นทันที พี่บ้าที่สุดเลย ลืมเรื่องสำคัญได้ยังไงกัน ดีนะที่โทรไปเตือน เด็กหนุ่มมองดูเหล่าโปเกมอนที่ยังเหลืออยู่ในห้อง ลีเฟียไปแล้วสินะ ...อืม ตอนฉันออกไปโทรศัพท์ฉันเจอกับคุณย่าด้วย

... ... ... พวกโปเกมอนไม่ได้พูดหรือส่งเสียงอะไร ทำเพียงแค่มองหน้าเด็กหนุ่มอย่างเงียบๆ

ฉันรู้นะว่าพวกนายคงเหนื่อยกันมามาก ...ใช่ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนพวกนายน่ะแหละ ...แต่ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้ฉันชินสักแล้ว เด็กหนุ่มพูดเองตอบเอง

... ... ... พวกโปเกมอนต่างมองหน้ากัน...มีลางสังหรณ์ว่างานเข้าอีกแล้วพี่น้อง

ยังไงก็แล่นแต

แล้วแต่... พวกโปเกมอนพูดแก้ให้ แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะเด็กหนุ่มฟังภาษาโปเกมอนไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว

หือ?... ช่างเถอะ คุณย่าสั่งให้ฉันทำความสะอาดบ้านหลังนี้ให้ด้วยและต้องให้โปเกมอนทำด้วย อ่ะ! คุณย่าพูดนะไม่ใช่ฉันอยากให้พวกนายมาลำบากด้วยนะ

อืม... พวกโปเกมอนพยักหน้า สีหน้าประมาณว่ารู้ชะตากรรม

จังหวะเดียวกันนั้นเองแอปโซลก็เดินลงมาจากชั้นบนพอดี

อ่ะ! แอปโซลมาพอดีเลย เดี๋ยวเธอก็ช่วยทำงานอีกตัวนะจะได้เสร็จเร็วๆ อืม...เนตีโอ้ คงทำงานบ้านไม่ไหวแน่ๆ จะลองชวนไคริวกับเร็นโทร่าให้มาช่วยด้วยดีกว่า เด็กหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อย งานนี้มีลากคอแน่เลย... ว่าแล้วก็เดินขึ้นชั้นบนไปอย่างช้าๆ

อีกแล้วสินะ แอปโซลสายหัวอย่างช่วยไม่ได้

แปลว่าเป็นแบบนี้บ่อยเหรอครับ บาชาโม่ถามอย่างสงสัย

ไอ้ที่ว่า ให้โปเกมอนช่วยด้วยน่ะ เจ้าตัวพูดเอาเองทั้งนั้นแหละ แต่เอาเถอะมันก็เป็นหน้าที่ของพวกเราด้วย

และแล้วเราก็ได้คนงานอีกสองตัว เด็กหนุ่มเดินลงมาพร้อมกับล็อกคอไคริวกับเร็นโทร่าไว้

ผู้แต่ง : ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอมให้ทำ

เอาล่ะเรามาทำงานกันเลยดีกว่า เด็กหน่มตั้งหน้าที่แต่ละตัวโดยที่ไม่สนเลยว่าโปเกมอนนั้นจะชอบหรือไม่

หน้าที่ที่โปเกมอนแต่ละตัวได้รับแบ่งได้ดังนี้

กวาดบ้าน บาชาโม่ ฮิโตะคาเงะ คิโมริ แซนกูส ไคริว

ถูบ้าน เชมี่ กลาเซีย อีวุย โรค่อน แอปโซล เร็นโทร่า

เดี๋ยวก่อนนะ เชมี่เหมือนรู้สึกอะไรบางอย่าง ทำไมกลุ่มถูบ้านถึงมีแต่สี่ขา สองขานี่ไปอยู่กวาดบ้านกันหมดเลย

เพราะกวาดบ้านจำเป็นต้องใช้มือ พวกโปเกมอนสองขาเลยได้กวาดบ้านไง ไคริวออกความคิดเห็น

แล้วทำไมสี่ขาถึงต้องถูบ้าน เชมี่ยังไม่หายสงสัย

ถูบ้านน่ะ จริงๆแล้วที่นี่ไม่มีไม้ถูพื้นปกติเลยใช้มือกับผ้าเปียกๆถูกแทน

แล้ว...

ก็น่าจะรู้ๆกันอยู่นะ... แอปโซลหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนฟังอย่างเงียบๆมาตั้งแต่แรก

เด็กหนุ่มผู้ฟังภาษาโปเกมอนไม่รู้เรื่อง (ปกติก็ไม่น่าจะมีใครฟังออก) เลยทำสีหน้างงๆเล็กน้อย อย่างทำงานขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้ๆงั้นเรารีบๆทำกันดีกว่า แถมยังเข้าใจผิดอีกตั้งหาก

ผู้แต่ง : นี่มันแกล้งหรือโง่จริงล่ะเนี่ย...

เริ่มภารกิจ (?) กลุ่มบาชาโม่ได้กวาดบ้านก่อน

ตามหลักแล้วต้องเริ่มจากด้านในสุดก่อนใช่ไหม บาชาโม่ถามตามแบบฉบับของคนไม่เคยทำ

ใช่ ต้องเริ่มจากด้านในก่อน คนที่ตอบไม่ใช่โปเกมอนแต่กลับกลายมาเป็นเด็กหนุ่มแทน แต่ต้องไม่ลืมนะว่าเขาฟังภาษาโปเกมอนไม่รู้เรื่อง บาชาโม่เดี๋ยวนายช่วยฉันกวาดด้านในนะ ที่เหลือค่อยกวาดใส่ที่ตักขยะแล้วไปทิ้งนะ

บาชา... (ทำไมต้องมีแค่ผมคนเดียว...)

หา!?

... ... ... บาชาโม่ไม่กล้าพูดอะไรต่อ

ถือว่าตกลงแล้วกันนะ

บาชาๆ (ใครตอบตกลงฟ่ะ) บาชาโม่แค่พูดเบาๆจนเหมือนเป็นการบ่นพึมพำ

การกวาดบ้านนั้นใช้เวลาไม่นานมากนัก แต่อย่างต่ำแล้วก็เกือบสิบห้านาทีเป็นอย่างน้อย จะให้กวาดเฉยๆอย่างเดียวก็เบื่อแย่ ต้องทำอะไรสักอย่าง

กระผมหัวหน้าหน่วยทำความสะอาดบ้านบาชาโม่ครับผม พูดเสร็จบาชาโม่ก็ควงไม้กวาดซึ่งยาวพอๆกับลำตัวก่อนฟาดไปบนพื้นจนฝุ่นกระจาย แล้วทำสีหน้าเท่ๆราวกับพระเอกในหนังไม่มีผิด

... ... ... บรรดาเพื่อนๆที่ทำหน้าที่กันอยู่ถึงกับหยุดแล้วหันมามองแทบจะพร้อมกัน แน่นอนว่าแต่ละตัวต่างมีฝุ่นเกาตามตัวเพราะแรงจากการที่บาชาโม่ฟาดไม้กวาดลงมาที่พื้น

บาชาโม่ ถึงฮิโกะซารุไม่อยู่ก็ใช่ว่านายต้องเล่นเป็นเจ้านั้นนะ ฮิโตะคาเงะพูดพร้อมๆกับปัดฝุ่นบนตัว คนอื่นๆก็เช่นกัน

ถ้าบ้านถล่มเนี่ยไม่คุ้มเลยนะ เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ มีหวังได้ลงข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ เด็กหนุ่มกับเหล่าโปเกมอนเสียชีวิตขณะทำความสะอาดบ้านเหตุเพราะฟาดไม้กวาดแรงเกินไป

ผู้แต่ง : มันไม่น่าจะมีข่าวแบบนี้นะครับ

รีบๆกวาดให้เสร็จได้แล้ว ไว้ไปทำนอกบ้านก็ได้ เด็กหนุ่มพูดใส่อารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร

หลังจากกวาดบ้านเสร็จก็ถึงตาของกลุ่มที่ต้องถูบ้าน กลุ่มบาชาโม่ถึงเดินอออกมาข้างนอก

เสียงดังเมื่อกี้คืออะไรเหรอ เร็นโทร่าถามเป็นคนแรก

เมื่อเห็นบาชาโม่ทำท่าเหมือนไม่กล้าตอบฮิโตะคาเงะเลยตอบแทน มีใครบางคนบ้าขบวนการห้าสีอยู่อ่ะนะ

ใครบอกว่าขบวนการห้าสี ขบวนการทำความสะอาดบ้านตั้งหาก บาชาโม่รีบแก้อย่างอายๆ ต่อไปเป็นกลุ่มถูบ้าน โปรดระวังให้ดีศัตรูภายในนั้นช่างกำจัดได้ยากยิ่ง ข้าว่าพวกเจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับภัยต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ นะฮ๊า

... ... ... เงียบกันทุกคน รู้สึกได้ถึงความเสื่อมแบบแปลกๆ

ทำไมน้ำเสียงออกแนวไปทางประเทศจีน ไคริวถาม

พอดีเกิดผิดที่พอใจไหม

อ้าว! นี้คุณบาชาโม่เกิดที่ประเทศจีนหรือครับ

เจ้าบ้านี่! ฉันพูดประชด!

หลังจากการพูดประชดกลุ่มถูบ้านก็เข้าไปในบ้าน ไม่ใช่รับไม่ได้หรอกแต่เพราะโดนเด็กหนุ่มเรียกตั้งหากเหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรสำคัญมากนักจึงขอไม่เล่านะครับ

ขอตัดมาตอนที่หลังจากกลุ่มขอลีเฟียกลับมาถึงบ้านเลยแล้วกัน ทันทีที่กลุ่มลีเฟียกลับมาก็พบบาชาโม่และคนอื่นๆอยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อน แต่กลับไม่พบไคริวกับแอปโซลสงสัยทั้งคู่กลับเข้าไปในบ้านแล้ว

เห็นไหมฉันบอกแล้ว ลีเฟียพูดขึ้นทันที

อ่า กลับมาแล้วสินะทางนี้โดนกวาดบ้านจนเหนื่อยเลย บาชาโม่บ่นเล็กน้อย แล้วพวกนายล่ะไปที่ไหมกันมาบาง

โรงฆ่าสัตว์ ฮิโกะซารุตอบสีหน้ายังซีดไม่หาย

พอเห็นบาชาโม่จ้องทำตาโตโพจามะแทบจะปิดปากฮิโกะซารุไม่ทัน เอ่อ...ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นหรอก โพจามะหัวเราะในลำคอ เล่นเอาบาชาโม่งงไปเลย

อีกเพียง 3 วันก็จะถึงรอบคัดเลือกในประเทศไทยสำหรับศึกใหญ่แล้ว...

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

อัพต่อบทที่ 3 เย้~!

พอเห็นกระทู้ตกไปเกือบครึ่งก็ตกใจเหมือนกัน เลยรีบเขียนตอนใหม่ให้เสร็จ

แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเสร็จภายใน 1-2 ชั่วโมง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไม่มีคนโพสเลยไม่มีช่วงถามตอบนะจ้า~

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

18 พฤศจิกายน - อีก 148 วัน สู่ Pokemon Asia Championship X

บทที่ 3 รอบคัดเลือกสุดสยอง

~ ช่วงที่ 1 ~

ลีเฟีย เจ้าชายผู้เย็นชา

ย่าว่าหลานน่าจะเตรียมตัวได้แล้วนะ ย่าแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณย่าในวันนี้แต่งตัวไม่ได้ต่างจากวันก่อนๆมากเท่าไร เพียงสวมชุดผ้าไหมไทยสีขาวกับกางเกงขายาวสีม่วงเท่านั้น

ครับ เด็กหนุ่มตอบอย่างไม่รีบร้อน

แล้วเตรียมใบลงทะเทียนแล้วยัง อย่าลืมเขียนรายละเอียดด้วยล่ะ

ครับๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นักแข่งจากร้านค้าที่กำลังล่ม นามว่า  กษิเดช เรืองรำไพ

ไม่ต้องเขียนขึ้นขั้นนั้นก็ได้ เรายังมีคนเข้าร้านอยู่นะ

งั้นหรือครับ เด็กหนุ่มหรือที่เพิ่งจะได้ยินชื่อ กษิเดช ยิ้มแหยๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำเท่านั้นล่ะครับ

นี่ตกลงจะช่วยจริงหรือเปล่า คุณย่าพยายามทำน้ำเสียงให้ดูโกรธ แต่เพราะสีหน้าไม่ได้โกรธไปด้วยเลยดูขัดๆชอบกล

พูดเล่นน่ะครับ ผมไปหาพวกโปเกมอนนะครับ กษิเดชรีบออกมาจากห้องโดยมีคุณย่ายืนยิ้มก่อนส่ายหัวเล็กน้อย

กษิเดชนอกมาจากบ้านหลังเก่าตรงเข้าบ้านหลังผสมสู่ห้องนอนของพวกโปเกมอนทันที ว่าไงลีเฟียเตรียมตัวเสร็จหรือยัง กษิเดชเปิดประตูออกก็พบลีเฟียกำลังวอร์มร่างกายครังสุดท้าย

พอเห็นเจ้านายหนุ่มมาลีเฟียก็หันไปยิ้มแล้วร้อง ลี~ อย่างอารมณ์ดี

ฉันจะรอข้างนอกนะลีเฟีย กษิเดชพูดเสร็จก็เดินออกไปทันที ท่าทีของเขาในวันนี้ดูแปลกไปกว่าทุกๆวัน

มันก็ไม่แปลกหรอก...เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ...เป็นวันแรกและวันเดียวเท่านั้นในการคัดเลือกเทรนเนอร์จากทั่วประเทศเพื่อการเข้าแข่งขันครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เอเชียเคยมีมานั้นคือ ศึก Pokemon Asia Championship ซึ่งครั้งนี้ก็จัดมาเป็นครั้งที่สิบแล้วและก็เป็นประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ แน่นอนว่ารอบการคัดเลือกของเจ้าภาพต้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆอยู่แล้ว

พยายามเข้านะลีเฟีย ฉันจะเอาใจอยู่ข้างสนามแข่งนะ เชมี่ให้กำลังใจเพื่อนรักอย่างเต็มที่

ในขณะที่กลาเซียกลับรู้สึกกังวนนิดๆ ถ้าเห็นว่าสู้ไม่ไหวก็ยอมแพ้เถอะนะลีเฟีย

ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ลีเฟียพอได้ยินก็ระเบิดเสียงหัวเราะทันที อะไรกันๆ ไม่ต้องห่วงหน่า ถึงเธอจะพูดแบบนั้นแต่ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าตัวเองจะบาดเจ็บขนาดไหนก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด เพื่อบ้านหลังนี้และก็เพื่อทุกคนด้วย

อืม! ต้องแบบสิลีเฟียที่ฉันรู้จักล่ะ นิวร่าตบไหล่ลีเฟียอย่างเบามือ

พวกเราเองก็จะเอาใจอย่างเต็มที่ไปเลยใช่ไหมบาชาโม่

เอ๋...!? บาชาโม่ผู้นิ่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่พอโดนฮิโกะซารุถามจึงตกใจเล็กน้อย อ...อืม...แน่นอนอยู่แล้ว

สีหน้าของบาชาโม่ดูไม่ค่อยสู้ดีนักแต่ยังดีที่ยังไม่มีใครสังเกตเห็น จริงๆแล้วบาชาโม่ก็มีเหตุผลที่มีสีหน้าแบบนี้

ดีจังเลยนะครับ ผมเองก็จะเอาใจช่วยจากที่นี้แล้วกัน อยู่ๆไคริวก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่มีใครตกใจกับการปรากฏตัวของเขาเลย

อ้าว! ไคริวไม่ไปด้วยหรือครับ คิโมริถาม

แต่คนตอบกลับไม่ใช่ไคริว แต่เป็นแอปโซลที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองแทน ใช่แล้วทั้งไคริว ฉันและก็เร็นโทร่า ต้องอยู่กับเนตีโอ้ที่นี้...คือ...เขาไม่ค่อยจะไปไหนสักเท่าไร... แอปโซลมองซ้ายขวาคราวกลับกลัวว่าจะมีคนได้ยิน

นั้นสิ จะว่าไปไม่เคยเห็นเนตีโอ้กับเร็นโทร่าออกมาจากห้องนั้นเลยนะ บุยเซลพูด

สำหรับเนตีโอ้ไม่เป็นเรื่องแปลกอะไรหรอก ส่วนเร็นโทร่าก็เหมือนมือขวาของเนตีโอ้เลยต้องอยู่ด้วยตลอด ไคริวอธบาย

แต่แบบนี้คงเบื่อแย่

เจ้าตัวชินแล้วล่ะ

หลังจากหัวเราะเรื่องนั้นเรื่องนี้ ลีเฟียก็เห็นว่าน่าจะได้เวลาแล้ว ฉันว่าพวกเรารีบไปกันดีกว่าเดี๋ยวจะไปไม่ทัน ลีเฟียทำท่าเหมือนจะเดินออกจากห้อง กลาเซีย

หืม...อะไรเหรอ

ถ้าฉันชนะรอบคัดเลือกเธอช่วยจูบฉันเป็นรางวัลได้ไหม

หา! คนร้องกับเป็นเชมี่ ส่วนกลาเซียถึงกับหน้าแดงจนดูเหมือนจะมีควันออกมาจากหัวไม่มีผิด

ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ พูดเล่นหน่า พูดเล่น ลีเฟียหัวเราะชอบใจก่อนวิ่งออกนอกห้องทันที

เฮ้ย! เดี๋ยวสิ....กลับมาอธิบายคำพูดเมื่อกี้ก่อนสิ! เชมี่วิ่งตามไปติดๆ

อีวุยจ้า ลูกไม่ต้องคิดมากหรอกนะ เพื่อนแม่ชอบแกล้งแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลาเซียเดินตามไปอย่างช้าๆ โดยมีอีวุยน้อยเดินตามอยู่ข้างๆ

พวกเราเอง...ก็ไปได้แล้วมั้ง... จิโคริต้าพูดเสียงเบา

บุยเซลพยักหน้า อืม ไปกันเถอะ ว่าแล้วทั้งหมดก็เดินออกนอกห้องไปในที่สุด

ทั้งที่ทุกคนก็ดูมีความสุขดีแต่กลับบาชาโม่มันตรงกันข้าม เพราะตัวเขานั้นไม่รู้ว่าลีเฟียที่เห็นเมื่อกี้จะเป็นสิ่งที่เจ้าตัวแสดงออกมาจากใจจริงหรือเปล่า พอนึกถึงตอนนั้นทีไรบาชาโม่อดรู้สึกกลัวไม่ได้จริงๆว่าลีเฟียอาจเก็บอารมณ์โกรธแค้นจากสิ่งตัวเขาต้องเจอมาในอดีตแล้วพร้อมที่จะระเบิดออกมาทุกเมื่อก็ได้

เหตุการณ์ที่ว่าเกิดขึ้นเมื่อวานหรือจะพูดให้ถูกคือราวสี่ทุ่มของเมื่อคืน

คืนนั้นบาชาโม่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้หรอกแต่พอเห็นทักษะการต่อสู่ของลีเฟีย บาชาโม่อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ บาชาโม่เปลี่ยนจากท่านอนไปเป็นนั่ง เสียงกรนจากข้างๆตอนแรกก็เบาดีไปๆมาๆกลับดังจนน่ารำคาน ภายในห้องไม่แสงแต่สายตาที่เริ่มชินในความมืดทำให้บาชาโม่สังเกตอะไรบางอย่าง

เอ๋!? ลีเฟียไม่อยู่ บาชาโม่พูดในใจ เขาค่อยลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ หลังจากปิดประตูเรียบร้อยบาชาโม่ก็เดินไปตรงกลางบ้าน ไปที่ไหนนะ พรุ่งนี้ก็จะถึงวันสำคัญแล้วแท้ๆ บาชาโม่พูดในใจอีกครั้ง

ถ้าจำไม่ผิดเนตีโอ้นอนอยู่ข้างบนหรือว่าไปข้างบน...ก็ไม่แน่ลองขึ้นไปดูข้างบนดีกว่า บาชาโม่เดินขึ้นบันไดมาชั้นสองจนมาถึงห้องกว้างจากตรงนี้บาชาโม่ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากตรงระเบียง

ผู้แต่งเคยอธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วว่าชั้นสองของบ้านหลังผสมจะมีระเบียงซึ่งทอดยาวทั้งสามด้านของบ้าน ด้านหนึ่งยาวไปจนถึงชั้นสองของบ้านหลังเก่าซึ่งข้างล่างสามารถใช้ระเบียงนี้แทนเป็นที่กันฝนเวลาตกฝนได้ด้วย

บาชาโม่เดินไปตามเสียงจนถึงทางเดินระหว่างหลังผสมกับหลังเก่าเขาก็พบลีเฟียกำลัง...ร้องเพลงอยู่เหรอ...บาชาโม่ไม่ได้ยินชัดเจนนักจึงเดินเข้าใกล้ไปแบบเงียบๆโดยหวังว่าลีเฟียคงไม่รู้ตัวสักก่อน เสียงเพลงนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆแต่บาชาโม่ก็ไม่รู้จักเพลงที่ลีเฟียร้องสักเท่าไร แต่มันก็ฟังดูไพเราะจนน่าแปลกประหลาด ดูเหมือนลีเฟียจะยังไม่รู้ว่าบาชาโม่แอบฟังอยู่จึงยังร้องต่อไปบาชาโม่เองก็ตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ถึงจะไม่รู้ว่ามีความหมายอย่างไร

ในที่สุดลีเฟียก็ร้องเพลงจนจบสีหน้าดูสงบราวกับหลับใหลไปกับเพลงเมื่อครู่ แต่ความหลับใหลก็หายไปด้วยเสียงตบมือของบาชาโม่ ร้องเพลงได้ไพเราะมากเลย บาชาโม่เดินเข้ามาลีเฟียแต่ยังทิ้งระยะห่างพอควรเขาเกาหัวด้วยความอายในการกระทำของตัวเอง ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง พอดีสังเกตเห็นว่านายไม่อยู่ในห้องเลยออกตามหาแล้วก็เจอนาย... ต้องขอโทษด้วยนะ นายทำตัวไม่ถูกจึงก้มหัวขอโทษ

ลีเฟียยิ้มเล็กน้อย ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ลีเฟียหันไปมองบนฟ้าซึ่งไร้ดวงดาว เพลงที่ผมร้องเป็นเพลงที่เจ้านายเก่าผมร้องให้ฟังมาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่พัฒนาร่าง เจ้านายร้องเพลงนี้ให้ผมฟังเสมอตอนผมเครียดๆ หรือหมดกำลังใจ

บาชาโม่ก็ไม่ได้ขอร้องให้เล่าสักหน่อยแต่ลีเฟียกับเริ่มเล่าเกี่ยวกับเจ้านายเก่าของเขาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่พัฒนาร่างจนถึงช่วงที่ต้องจากกันในตอนเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ตึกอพาร์ทเม้นท์ บาชาโม่ไม่คิดจะห้ามแต่อย่างใดเขาปล่อยให้ลีเฟียเล่าต้องไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นก็พูดได้ว่าผมหมดอาลัยตายอยากมาด้วยตลอด...คิดว่าชีวิตที่ขาดคนสำคัญไปต่อจากนี้เราจะอยู่อย่างไรต่อไปดี...มันเหมือนกับว่าอยู่ไปก็ไร้หมายความ แต่ผมเองก็กลัวตายเหมือนกันอีกอย่างพอเริ่มคิดได้ว่าเจ้านายผมเองก็คงอยากให้ผมมีอยู่ต่อไปผมก็เริ่มมีกำลังใจที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ตอนผมเจอกับเจ้านายคนใหม่บอกตามตรงว่าผมยังไม่ไว้ใจเขาหรอก แต่พอได้รู้เหตุผลของเขาที่ต้องการช่วยเหลือบรรดาโปเกมอนผมก็เริ่มชอบเขาขึ้นมาทันที และนั้นก็ทำให้ผมได้พบกับทุกคน...เพียงแต่...ผมกลับคาดไม่ถึงว่าพวกเขาเองก็เคยอยู่ในเหตุการณ์เดียวกับผมในตอนนั้น เหตุการณ์นั้นเลยกลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง

ลีเฟียหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง ยิ่งได้รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือของมนุษย์มันก็ทำให้ผมเริ่มคิดว่าเรายังจะเชื่อใจมนุษย์ต่อไปดีไหมหรือจะ...จะหนีไปให้ไกลๆ ไกลจากมนุษย์ไปตลอดกาล

บาชาโม่คิดว่าเจ้าเขาเข้าใจความรู้สึกของลีเฟียดี เพราะเขาก็ต้องลาจากเจ้านายผู้เป็นที่รักเช่นกัน ช่วงเดียวกันนั้นเองบาชาโม่นึกอะไรขึ้นมาได้ นี่ลีเฟีย

ครับ

ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม

ได้ครับ เชิญถามมาได้เลย

เอ่อ...จะว่ายังไงดีล่ะ... บาชาโม่ตั้งใจใช้โอกาสนี้ถามเกี่ยวกัยจดหมายที่ลีเฟียส่งมา ทั้งเรื่องที่ส่งมาได้ยังไงกับเนื้อความในกระดาษที่ว่า ขณะนี้สถานที่ที่ฉันอาศัยอยู่กำลังเจอปัญหาฉันอยากให้พวกเธอมาให้ได้ถ้าเป็นไปได้ บาชาโม่สังสัยตรงนี้มากที่สุด ตอนโดนถามเรื่องนี้ครั้งแรกลีเฟียก็ตอบว่า ฉันให้พวกนายมาแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือเรื่องปัญหาของที่นี้ แต่ส่วนหนึ่งคือฉันให้พวกนายมาให้กำลังใจฉัน ซึ่งดูขัดกับเนื้อความในจดหมาย เป็นไปได้ไหมว่าลีเฟียปกปิดบางอย่างอยู่แต่ยังไม่กล้าบอกหรืออาจจงใจไม่พูดถึงด้วยเหตุผลบางอย่าง บาชาโม่ใช้เวลาคิดทั้งหมดนี้ไม่ถึงสองสามวินาทีแต่จนแล้วจนรอดคำถามนั้นก็ไม่ออกมาจากปากราวกับติดอะไรอยู่ ป...เปล่า ช่างมันเถอะ... บาชาโม่เกาหัวด้วยความอายอีกครั้ง

ลีเฟียยิ้มกับท่าทีของบาชาโม่ งั้นผมขอถามแทนแล้วกันนะครับ

อืม ได้สิ

บาชาโม่ครับ พวกมนุษย์...พวกมนุษย์น่ะ...ไว้ใจได้หรือเปล่าครับ คำถามนั้นมาพร้อมกับสายตาอันเย็นชาราวกับน้ำแข็งพุ่งเข้าบาชาโม่อย่างไม่ทันตั้งตัว

ทันทีที่ได้เห็นสายตานั้นบาชาโม่รู้สึกหนาวไปทั่วร่างราวกับมีไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย บาชาโม่รู้สึกอึกอัดจนพูดตอบไม่ได้ เขาทำได้เพียงทำตาโตจ้องมองลีเฟียกลับเท่านั้น

ลีเฟียเหมือนรู้ว่าบาชาโม่จะมีอาการเช่นไรเลยยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย ถูกถามแบบนี้ตอบไม่ได้ก็ไม่แปลก เอาไว้ตอบภายหลังก็ได้ครับผมจะรอ ลีเฟียเดินกลับไปที่ห้องโดยตอนชวนกับบาชาโม่ลีเฟียหันมายิ้มกับบาชาโม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ดึกมากแล้วไปนอนต่อกันเถอะครับ พูดเสร็จลีเฟียก็เดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้บาชาโม่ยืนอึ้งกับภาพที่อยู่ตรงหน้า

ถ้าลีเฟียในตอนนั้นเป็นนิสัยที่แท้จริงล่ะก็ พูดได้ว่าเป็นเจ้าชายผู้เย็นชาเลยก็ว่าได้

Link to comment
Share on other sites

กลับมาอัพกันอีกครั้งครับผม

รู้สึกว่าฟิคนี้ออกแนวดราม่าเกินไปหรือเปล่าน่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไม่มีคนโพสเลยไม่มีช่วงถามตอบนะจ้า~ (เหมือนเดิม)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

การต่อสู้รอบคัดเลือกสุดโหด

สิบเอ็ดโมงตรงในตึกใบหยกสองการเปิดพิธีรอบคัดเลือกในประเทศไทยก็เริ่มต้นในที่สุด โดยเริ่มจากการกล่าวขอบคุณสมาคม PBE (Pokemon Battle Entertainment) ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Pokemon Battle และศึกอื่นๆ ในไทยและยังมีส่วนช่วยในการจัดศึกใหญ่อย่าง Pokemon Asia Championship อีกด้วย หลังจากการกล่าวขอบคุณเสร็จผู้บรรยายภาคสนามก็ได้บอกกับผู้ชมว่า สองคนสุดท้ายที่ผ่านมาถึงรอบตัดสินจะต้อง Battle  กับแมทช์ที่โหดที่สุดเท่าที่เคยทำมาแต่ยังไม่บอกว่าเป็นแมทช์อะไร

แมทช์ที่โหดที่สุดเหรอ กษิเดช ถอนหายใจเล็กน้อย ณ ตอนนี้ทั้งเขาและกลุ่มบาชาโม่ต่างนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่หลังเวทีส่วนคุณย่านั่งรอดูอยู่ที่ที่นั่งคนดูที่ไหนสักที่ นายแน่ใจนะว่าจะทำสิ่งนี้จริงๆ หลังเริ่มดูการต่อสู่ไปได้สิบกว่าคู่กษิเดชก็หันมาถามลีเฟีย

ลีเฟียที่กำลังดูการต่อสู่ผ่านทางจอทีวีขนาดใหญ่หันมายิ้มแล้วร้อง ลี~! เล็กน้อยก่อนหันไปสนใจจดทีวีอีกครั้ง

แบบนี้แปลว่าคงเตรียมมาพร้อมแล้วสินะ แต่ว่า... กษิเดชมองดูโปเกมอนคู่หูของเขาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ทันใดนั้นกษิเดชก็สายหัวไปมาตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดแบบนี้ ฉันจะเชื่อใจนายลีเฟีย

ลี~!

จากทั้งหมดสองร้อยคนหนึ่งร้อยคู่กษิเดชอยู่ในคู่ที่หกสิบสี่... ตอนนี้อยู่ที่คู่สิบกว่าๆ... ฟังดูเหมือนจะยังอีกนานแต่เพราะกติกาการแข่งขันที่ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้โปเกมอนเพียงตัวเดียวในการลงแข่งเท่านั้นในแต่ละคู่จึงผ่านไปแบบเร็วบางนานบาง

มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเลย ฮิโกะซารุมองดูจอภาพอย่างตั้งใจ

มาถึงขั้นนี้แล้วนิ จะถอยก็คงไม่ได้แล้วสักด้วย ลีเฟียตอบโดยยังมองบนจอภาพอยู่

เอ่อคือ... อีวุยน้อยทำท่าเหมือนอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็กล้าๆกลัวๆจนพูดไม่ออก

กลาเซียคงรู้ว่าลูกสาวคงอยากจะพูด มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ไม่มีใครว่าหรอก

ค่ะคือ... ถึงกระนั้นอีวุยน้อยก็ยังกล้าๆกลัวๆอยู่เล็กน้อย ถ้าเกิด...ถ้าเกิดพยายามเต็มที่เท่าที่ทำได้แล้ว...แล้วยังแพ้ล่ะค่ะ...จะทำยังไงต่อล่ะค่ะ

คำถามของอีวุยน้อยไม่ได้รับคำตอบจากใครเพราะทุกคนถึงกลับทำตาโตมองหน้ากันและกันอย่างเงียบๆ

เรื่องนั้นน่ะ... ลีเฟียใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันช่างมันเถอะ ฮ่า ฮ่า

... ... ... พวกบาชาโม่ต่างมองลีเฟียพร้อมกับถอนหายใจกันใหญ่

ผู้แต่ง : ท่าทางลีเฟียจะไม่ได้สนใจเลยนะครับ...

หลังจากอีกราวหนึ่งชั่วโมงกว่าๆก็ถึงเวลาที่ลีเฟียต้องออกไปสู้แล้ว ตอนแรกผู้แต่งเองก็นึกว่าลีเฟียคงผ่านไปได้ไม่กี่คู่แต่ที่ไหนได้กลับสามารถไปถึงรอบรองได้อย่างไม่น่าเชื่อ จะให้อธิบายการต่อสู่แต่ละคู่ก็คงยาวไปหน่อยเลยขอตัดออกนะครับ

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็มารับชมการต่อสู้ของลีเฟียในรอบรองกันเลยดีกว่า

รอบรองของการคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย

ลีเฟีย VS บูสเตอร์

เริ่มสู้ลีเฟียก็โชว์พลังเทพด้วยการใช้ Leaf Blade แทบจะต่อเนื่องเล่นเอาบูสเตอร์หลบเกือบไม่ทัน

แต่จะหลบอย่างเดียวคงจะไม่ได้บูสเตอร์เลยใช้พลังเทพบางนั้นคือ Fire Blast! เต็มกำลัง

เมื่อทั้งสองพลังเทพเจอกันผลคือ ตูม~~! กลายเป็นโกโก้คั้น...ไม่ใช่สิ...กลายเป็นควันกลุ่มใหญ่

ทันทีที่กลุ่มควันหายไปลีเฟียก็ถูกตรงหน้าบูสเตอร์แล้วแล้วใช้ท่า...หรือเปล่าน่ะ...ลีเฟียตบหน้าบูสเตอร์ดังเพี้ยะ จนคนดูร้องโอ้~ กันเป็นแถว

บูสเตอร์เอาแต่มองลีเฟียแบบอึ้งๆ เลยโดนตบอีกรอบ *เพี้ยะ* โอ้~ คนดูก็ร้องอีกรอบ บูสเตอร์อารมณ์เสียสุดๆใช้ท่า Tackle ระยะเผาขนจนลีเฟียกระเด็นไปสักไกล (ออกจะเกินความเป็นจริงนิดหน่อย)

แต่ในจังหวะสุดท้ายที่กระเด็นถูกลีเฟียก็ตั้งหลักยืนได้และท่า Quick Attack พุ่งเข้าอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันก่อนถึงตัวบูสเตอร์เล็กน้อยก็ใช้ท่า Magical Leaf (ระยะเผาขนนั้นล่ะ) จนบูสเตอร็สลบคาทีได้รับชัยชนะไปจ้า~

สรุปผล

ลีเฟีย ชนะ บูสเตอร์

เก่งมากเลยลีเฟีย กษิเดชกอดลีเฟียด้วยความดีใจ สิ่งที่รอมานานกำลังจะเป็นจริงแล้ว!

หลังจากสู้เสร็จจะมีเวลาพักประมาณสามสิบนาทีกษิเดชและลีเฟียจึงกลับมารวมกลุ่มกับพวกบาชาโม่ที่ด้านหลังอีกครั้ง

สุดยอดเลยลีเฟีย! นิวร่าตบไหล่ลีเฟียอย่างแรงด้วยความดีใจเกินเหตุ

เบาๆหน่อยสิ... ลีเฟียถึงกับรู้สึกชาชั่วขณะ ทีนี้ก็เลือกแค่รอบชิงแล้ว

ใช่ แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อย่าง... เชมี่จงใจหยุดพูดเพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย

อืมฉันรู้ ลีเฟียสีหน้าเป็นกังวนเล็กน้อย ในรอบชิงจะเป็นแมทช์ที่โหดที่สุดแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นแมทช์แบบไหน

เรื่องนั้นคงประกาศอีกทีหลังจากจบคู่นี้มั้งครับ คิโมริพูดพร้อมกับชี้ไปที่จอภาพซึ่งคู่รอบรองอีกคู่ได้เริ่มการต่อสู้แล้ว

เรื่องนั้นยังไงก็ช่างแต่ฉันยังไม่ลืมนะ ลีเฟียพูดเป็นปริศนาอีกแล้ว

ไม่ลืมอะไรของนาย เชมี่พูดเหมือนอารมณ์เสียนิดๆ

ก็ถ้าฉันชนะการคัดเลือกนี้ได้กลาเซียต้องจูบฉันเป็นรางวัลไง ลีเฟียยิ้ม แฝงอะไรบางอย่าง

ขอให้ชนะจริงๆเถอะ เชมี่ยิ้มแหยๆ

ในช่วงนั้นบาชาโม่สังเกตเห็นว่ากษิเดชดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...เหมือนกำลังไม่สบายใจอะไรบางอย่าง

บาชาโม่เดินเข้าไปหากษิเดชจนอีกฝ่ายหันมามอง เอ่อ...บาชาโม่ คุณย่าท่านอยู่ดูเราจริงหรือเปล่านะ

บาชาโม่เห็นด้วย เพราะเมื่อพวกบาชาโม่แยกตัวออกมานั่งที่ที่นั่งคนดูก็พบว่าคุณย่าไม่อยู่สักแล้ว ทีแรกพวกบาชาโม่ตกใจเล็กน้อยตั้งใจจะกลับไปบอกแต่การต่อสู้ก็เริ่มในตอนนั้นพอดีเลยไม่ได้สนใจในที่สุด

อายุก็มากขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ไม่น่าเดินไปได้ไกลน่ะ กษิเดชคงอยากออกตามหาแต่เนื่องเวลาพักมีกำจัดมากจึงไม่สามารถออกตามหาได้ ไม่ว่าไปไหนหวังว่าคงกลับมาทันเวลานะ

หลังจากนั้นไม่นานคู่สุดท้ายของรอบรองก้รู้ผลโดยลีเฟียต้องเจอกับมานิวร่า หลังจากคู่มานิวร่าเดินกลับเข้าหลังสนามผู้บรรยายภาคสนามก็ปรากฏตัวอีกครั้ง เป็นไงกันบ้างค่ะทุกท่านสนุกกันไหม และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกทันรอมานานแสนนานนั้นคือรอบชิงของการคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยค่ะ!

บรรดาผู้ชมต่างโห่ร้องอย่างตื่นเต้น

ตามที่ได้บอกกันไว้ในตอนต้นว่ารอบชิงครั้งนี้จะไม่ใช่รอบชิงธรรมดาๆ รอบชิงของการคัดเลือกนี้จะเป็นแมทช์ที่โหดที่สุดเท่าที่ใครหรือประเทศไหนเคยมีมา ผู้บรรยายเว้นการพูดให้ตื่นเต้นยิ่งขึ้น ท่านผู้ชมทุกท่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แมทช์รอบชิงของการคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยคือ Exploding Cage Timebomb Deathmatch ค่ะ!

เกิดเสียงโห่ร้องอีกครั้งแต่ครั้งนี้ออกไปทางตกใจมากกว่า พวกบาชาโม่ก็ถึงกับนิ่งเงียบจ้องมองจอภาพขนาดใหญ่ราวกับถูกสะกดคงไม่ต้องบอกว่าในบรรดาพวกบาชาโม่ ลีเฟียเป็นคนที่ตกใจมากที่สุด

Link to comment
Share on other sites

  • 5 weeks later...

มาอัพแล้วครับผม

ขอโทษทีช่วงนี้เพิ่งจะสอบเสร็จแถมยังมีกระทู้ในหมวดอื่นๆอีก เลยไม่ได้แต่งต่อสักที

แต่ตอนนี้ก็มาแล้ว งั้นไปชมเหตุการณ์ต่อจากนี้เลยครับ ^^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

สิ่งนี้ที่ข้ามีดีกว่าเจ้า

เดี๋ยวนี้มนุษย์ชอบอะไรแบบนี้แล้วเหรอ

ถึงจะบอกว่าปลอดภัยแน่นอนแต่มัน...

ยังไงก็เถอะถ้างานนี้ลีเฟียเป็นอะไรไปจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่! กษิเดชพูดเสียงดัง แต่ถ้าท่านผู้อ่านคิดว่าเขาพูดอยู่กับคนอื่นท่านผู้อ่านคิดผิด เพราะคนผู้กับตัวเองและมีเหล่าบรรดาโปเกมอน (พวกบาชาโม่) ยืนดูอยู่ห่างๆ

เขาเป็นอะไรไปน่ะ บาชาโม่ทำสีหน้าเหมือนเห็นของประหลาดขณะเด็กหนุ่ม

ลีเฟียตอบโดยยิ้มแหยๆ ปกติก็เป็นแบบนี้ล่ะ ตอนแรกฉันก็อายแต่ตอนนี้เริ่มจะเฉยๆ

หวังว่าเขาคงไม่กลายเป็นอะไรที่ฉันคิดหรอกนะ บาชาโม่ยังคงอดเป็นห่วงไม่เลิก

สักพักบุยเซลก็เดินเข้ามา นี่ๆทางนั้นมีแจกอาหารให้พวกโปเกมอนด้วยล่ะ

จริงเหรอดีเลย บาชาโม่เชิญไปก่อนได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปหาเจ้านายผมก่อน

อืม รีบมาล่ะ บาชาโม่ตามบุยเซล ส่วนลีเฟียวิ่งไปหาเจ้านายหนุ่ม

อ่ะ!? ลีเฟีย หลังจากโดนลีเฟียร้องใส่กษิเดชก็เหมือนจะได้สติ เรื่องรอบชิงฉันไม่ค่อยเป็นห่วงหรอก แต่คุณย่าน่ะ...ฉันหาคุณย่าไม่เจอเลย ไปไหนของท่านก็ไม่รู้

... ... ... ลีเฟียก้มหน้าเล็กน้อย

แต่ฉันเชื่อว่าคุณย่าไม่เป็นไรแน่นอน เมื่อเช้าฉันยังเห็นคุณย่าตีลังกาจากชั้นสองลงมาชั้นหนึ่งได้เลย งั้นพวกเราก็ไปกินข้าวกันก่อนเถอะนะ กษิเดชเดินไปยังห้องอาหารทิ้งให้ลีเฟียยืนงงอยู่ตัวเดียว

คุณย่า...ตีลังกาได้ด้วยเหรอ... ลีเฟียพูดเสร็จก็เดนตามเจ้านายไปติดๆ

ขอตัดมาที่ห้องอาหารเลยแล้วกัน ห้องอาหารนี้เป็นห้องพิเศษสำหรับผู้เขาร่วมการแข่งขันเท่านั้นนอกเหนือจากนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เขามา นับว่ายังโชคดีกษิเดชอ้างเหตุผลว่าพวกบาชาโม่เป็นโปเกมอนของตนทางนั้นเลยให้พวกบาชาโม่เข้ามาได้

ภายในห้องก็ดูธรรมดาๆไม่ได้ตกแต่งอะไรสักอย่างพูดให้นึกภาพง่ายๆก็คือขาวสะอาดทั้งห้อง ของตกแต่งมีเพียงโต๊ะขนาดใหญ่สองโต๊ะสำหรับวางอาหารกับเก้าอี้นั่งสามสี่ตัว จะว่าไปห้องนี้ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมายด้วย

นอกจากกลุ่มของบาชาโม่กับกษิเดชแล้วก็ยังมีผู้เข้ารอบชิงอีกคนแต่เนื่องจากเขาไม่ได้เกี่ยวข้องมากนักจึงไม่กล่าวถึงแล้วกัน

ฉันไปได้ยินมาแล้วล่ะ กลาเซียเปิดฉากสนทนาเป็นตัวแรก เห็นว่ารอบชิงนี้มีการเตรียมกันมาแล้ว

อืม ใช่ ลีเฟียตอบสีหน้าเรียบเฉย ให้เข้าใจง่ายๆก็เป็นการแสดงนั่นล่ะ แต่กลับกันก็จะมีการต่อสู้จริงๆผสมอยู่ด้วย

แล้วจะทำไปเพื่ออะไร โพจามะเป็นฝ่ายถาม

อืม... ลีเฟียคิดอยู่สักนึง ตามความคิดของฉันนะ คิดว่าการต่อสู้ของโปเกมอนมันไม่แน่นอน ...หมายถึงบางครั้งก็จบเร็วบางครั้งก็จบช้าหรือบางทีก็สู้กันไม่สนุก การแสดงจึงมีบทบาทสำคัญละมั่ง

คงเป็นแบบนี้สินะ ฮิโกะซารุลองพูดออกความคิดเห็น ถ้าจะให้สู้กันอย่างเดียวก็คงไม่สนุกพวกมนุษย์เลยให้มีการแสดงแฝงเข้ามาด้วย คิดว่าถึงเวลาต่อสู้คนดูคงไม่รู้ว่าตอนไหนแสดงหรือสู้กันจริง น่าแปลกที่ความเห็นของฮิโกะซารุถูกสักด้วยเมื่อมารู้ในภายหลัง

แต่ถ้าแบบนี้ก็จะเจ็บตัวเพิ่มขึ้นด้วยไม่ใช่เหรอครับ คิโมริพูด

การแสดงก็คือการแสดงไม่มีการเจ็บตัวหรอก ถึงจะมีบางก็เถอะ นิวร่าเป็นคนตอบ

เท่าที่ฉันรู้ทางสมาคม PBE จะเป็นฝ่ายจัดการเรื่องการแสดงทั้งหมด พูดได้ว่าสองในสามของการต่สู้จะเป็นการแสดงทั้งหมด แต่ก็ไม่น่าแปลก PBE ถนัดในเรื่องนี้อยู่แล้ว ลีเฟียพูดเสริม

แล้ว PBE นี่คืออะไรเหรอ หลังเงียบมานานเซนิกาเมะก็ของพูดบาง

PBE ย่อมาจาก Pokemon Battle Entertainment เป็นสมาคมการต่อสู้โปเกมอนในประเทศไทยแต่การต่อสู้ของสมาคมนี้เป็นการแสดงทั้งหมด

เอ๋!? มีเสียงร้องจากบรรดาผู้ที่ฟัง

ลีเฟียเห็นดังนั้นจึงอธิบายเพิ่งเติม อย่างที่รู้กันว่าเวลาพวกเรา...โปเกมอนสู้กันก็ต้องมีเจ็บตัวเรื่องนี้ใครก็รู้มนุษย์กลุ่มนึงเข้าใจถึงปัญหานี้จึงก่อตั้งสมาคม PBE ขึ้นเพื่อหวังว่าสักวันจะได้นำการแสดงต่อสู้ที่ไร้การบาดเจ็บแต่สนุกมาสู้ผู้คนไงล่ะ

งั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะสิ บุยเซลพูด

แต่ว่านะโปเกมอนที่จะได้เข้าสมาคมนี้ต้องผ่านการทดสอบที่แสนยากหลายอย่างกว่าจะเข้าสมาคมนี้ อย่างที่นิวร่าพูดถึงจะเป็นการแสดงแต่ถ้าผิดพลาดเมื่อไรก็ต้องมีเจ็บตัว ปัจจุบันฉันได้ยินมาว่ามีโปเกมอนในสมาคม PBE อยู่ห้าสิบตัวและทุกตัวก็ไม่ซ้ำชนิดกันด้วย

บาชาโม่ทำท่าคิดอยู่ครู่นึงแล้วจึงถาม แบบนี้แปลว่าถ้านั้นเขาไม่รับเพิ่มแล้วเหรอ

ไม่เลย ลีเฟียตอบในทันที ยิ่งเป็นโปเกมอนที่ทางสมาคมไม่มีก็ยิ่งรับไว้พิจารณาเป็นพิเศษ แต่ก็แน่นอนว่ายังต้องผ่านการทดสอบอยู่ดี

งั้นเหรอ บาชาโม่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างแต่เขาก็สายหน้าไปในทันที

แม่ค่ะ หนูหิวจนตาลายแล้วนะ มันออกจะเกินความจริงไปสักหน่อยแต่สำหรับอีวุยน้อยแล้วมันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

ได้สิเพียงแต่... กลาเซียหันไปมองกษิเดชที่กำลังเลือกของกินมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

ถ้าเป็นของกินของเขาเองคงไม่มีใครว่า แต่นี้ของโปเกมอนก็ยังไม่ได้ดูให้แถมยังเลือกให้ตัวเองยังไม่ได้อีก

ลี~! ลีเฟียต้องร้องเป็นการเตือน

เข้าใจแล้วหน่า กษิเดชพูดทั้งยังจดจ่อกับอาหารบนโต๊ะ เขาหันไปมองถุงสีออกเงินๆสองถุง มันเป็นถุงใส่อาหารของโปเกมอน กษิเดชลองเอาหนึ่งในถุงนั้นมาดู รู้สึกประมาณจะพอสำหรับโปเกมอนหนึ่งตัวนะ

เมื่อได้ยินดังนั้นอีวุยน้อยถึงกับคอตกทำหน้าเศร้าในทันที

แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ข้างนอกยังมีของกินอีกเยอะ กษิเดชหันมายิ้มให้พวกโปเกมอน

งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ บาชาโม่ทำท่าจะเดินออกจากห้องก่อนหันมาพูด พวกเราออกไปหาของกินกันเถอะ ถ้ารีบยังพอกลับมาทันนะ

ก็ดีสิ จะได้มีเวลาเล่นด้วย ฮิโกะซารุอาการดีใจมากกว่าเพื่อนอีกแล้วขณะออกจากห้อง

เดี๋ยวนี้ปัญหาเยอะจังเลย ให้ตายสิ โพจามะเหมือนบ่นกับตัวเอง นอกนั้นเดินออกไปอย่างเงียบๆ

ก่อนที่บาชาโม่จะออกไปเขาหันมามองลีเฟียอีกครั้ง สีหน้ามีความสุขของลีเฟียในตอนนี้เป็นการแสดงด้วยหรือเปล่านะ?

ณ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงพอดีบรรดาโปเกมอนต่างหิวกันทั่วหน้า ยังพอมีโชคอยู่บ้างว่ามีการแจกของกินให้กับโปเกมอน แน่ล่ะว่าพวกบาชาโม่ไปแย่งมาได้เยอะพอควร หลังจากนั้นทั้งหมดก็ไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่แถวๆนั้น

รู้สึกพวกเราจะมีเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จิโคริต้าพูดแบบไม่มั่นใจมากนัก

งั้นก็มีเวลาเยอะเลย บุยเซลพูด ว่าแต่พวกเราจะทำอะไรกันดี

กินไปคุยไปก็ได้นะครับ คิโมริออกความเห็น ไม่รู้ทางสำนักพูคูรินเป็นยังไงบาง

คำของคิโมริเล่นเอาทั้งกลุ่มเงียบลงทันที จะว่าไปพวกเขาก็ลืมไปเลยนับตั้งแต่ที่มาที่นี้ครั้งแรก

ต้องห่วงหน่า ป่านนี้คงวี๊ด บูมกันทั้งเกาะแล้วมั่ง ฮิโกะซารุพูดสีหน้าเรียบเฉย

... ... ... โพจามะหัมไปมองฮิโกะซารุ อ่อ...ฉันไม่เข้าใจความหมายวี๊ด บูมของนายน่ะ

ฉันหมายถึงวี๊ด บูม 1212312121 เฮ้! ฮิโกะซารุยิ้มร่าเริง เอ้าทุกคนรั่ว~

... ... ...

ฮิฮิ ไม่มีใครทำ ฮิโกะซารุหัวเราะแก้เขิน

นายเนี่ยเก่งในเรื่องแบบนี้จริงๆ โพจามะพยายามยิ้มอย่างเต็มที่แต่กลับกลายเป็ยยิ้มแหยๆแทน

เรื่องแบบนี้ใครสู้ฉันไม่ได้แน่นอน และไม่ใช่เรื่องนี้นะเรื่องเต้นฉันก็เก่งนะ ฮิโกะซารุพูดอย่างภาพภูมิใจ

งั้นเหรอ เต้นเพลงอะไรล่ะ โพจามะเมื่อเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เอาเป็นเพลง Tell Me ของ Wonder Girls แล้วกัน เพลงมาจ้า~!

เฮ้ย!? เอาจริงเหรอ โพจามะห้ามไม่ทันซะแล้ว

ท่าเต้นของฮิโกะซารุจะเป็นเช่นไรอันนี้ผู้แต่งให้ท่านผู้อ่านจินตนาการได้ตามใจชอบเลยครับ

สำหรับนึกไม่ออกให้ดูอันนี้ไปแทนแล้วกัน

Eus3DLkNh0Y

หลังจาก (กล้า) เต้นจนจบเพลงฮิโกะซารุเริ่มยิ่งนึกสนุก ไม่ใช่แค่เพลงนี้นะเพลง Gee ของ Girls' Generation ก็เต้นได้นะ เพลงมาจ้า~

เหมือนกับเพลงเก่า...ท่านผู้ท่านจินตนาการได้ตามใจชอบเลยครับ

นึกไม่ออกดูอันนี้ไปเป็นภาพประกอบ

kacW-nLuUq0

หลังจากจบเพลงฮิโกะซารุก็ขอพักสักครู่ แต่บรรดาเพื่อนของเขาต่างนั่งนิ่งโดยไม่มีใครพูดอะไรเลย ทำได้แต่มองหน้ากันไปมา

ในระหว่างมองหน้ากันนั้นมีเพียงบุยเซลที่มองแต่จิโคริต้า

หือ!? จิโคริต้าเริ่มรู้สึกถึงสายตาของอีกฝ่าย มีอะไรบุยเซลมองฉันอยู่ได้ ฉันน่ารักมากขนาดนั้นเลยเหรอ

บุยเซลตอบจะในทันที ที่พูดมาเนี่ยส่องกระจกแล้วเหรอ

บุยเซลล่ะก็! พูดแบบนี้น่าไปเป็นโปเกมอนสายพันธุ์อื่นนะ

พันธุ์อะไรล่ะ

พันธุ์ที่...เห่าได้เป็นไง

นี่เธอตั้งใจจะสื่ออะไรหรือเปล่า

ของแบบนี้ไม่ต้องพูดก็รู้แล้วมั้ง

บุยเซลกับจิโคริต้าเถียงกันไปมาพักสักก็เงียบลง ไม่ใช่เพราะเบื่อแต่เป็นหิวสักมากกว่า

มาถึงตรงนี้ฮิโกะซารุก็เริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง อืม...ตกลงบุยเซลเป็นโปเกมอนสายพันธุ์อะไรเหรอ

พันทางมั้ง บุยเซลตอบ

จริงเหรอ!

เจ้าบ้านี่! ฉันพูดประชด!

จากนั้นไม่นานมีการประกาศว่าจะมีการแข่นขันรอบชิงแล้ว พวกบาชาโม่จึงรีบเก็บข้าวของแล้วตรงไปยังสนามแข่งขันในทันที

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ปล. แก้คำที่ผิดแล้วครับ ถ้ายังมีก็บอกมาได้นะครับ

Link to comment
Share on other sites

อาจจะไม่มี comment มากเท่าไรนะคะ

เนื้อเรื่อง ยาวเยียดมาก

เดี๋ยวจะแวบๆมาอ่านต่อคะ ฮาๆ ^^"

Link to comment
Share on other sites

ขอโทษค้าบ~!!!! ที่ไม่ไได้มาอ่านซะนาน(ประมาณว่าอัพตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้) ขอโทษจากใจจริงเลยค้าบ~!!!  :pika06:

ถ้่างั้น.....จะเริ่มเม้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนปัจจุบันเลยละนะ!!

เด็กหนุ่มผู้ฟังภาษาโปเกมอนไม่รู้เรื่อง (ปกติก็ไม่น่าจะมีใครฟังออก) เลยทำสีหน้างงๆเล็กน้อย “อย่างทำงานขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้ๆงั้นเรารีบๆทำกันดีกว่า” แถมยังเข้าใจผิดอีกตั้งหาก

ผู้แต่ง : นี่มันแกล้งหรือโง่จริงล่ะเนี่ย...

แกล้งโง่แน่ๆ (เดี๋ยวไม่มีใครช่วยทำงาน เหอๆๆ)  :pika10:

“ถ้าบ้านถล่มเนี่ยไม่คุ้มเลยนะ” เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ “มีหวังได้ลงข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ เด็กหนุ่มกับเหล่าโปเกมอนเสียชีวิตขณะทำความสะอาดบ้านเหตุเพราะฟาดไม้กวาด แรงเกินไป”

ผู้แต่ง : มันไม่น่าจะมีข่าวแบบนี้นะครับ

คงจะเป็นข่าวร้ายแห่งปี ไม่สิ...แห่งโลกเลยละมั้ง  :pika02:

เมื่อเห็นบาชาโม่ทำท่าเหมือนไม่กล้าตอบฮิโตะคาเงะเลยตอบแทน “มีใครบางคนบ้าขบวนการห้าสีอยู่อ่ะนะ”

“ใคร บอกว่าขบวนการห้าสี ขบวนการทำความสะอาดบ้านตั้งหาก” บาชาโม่รีบแก้อย่างอายๆ “ต่อไปเป็นกลุ่มถูบ้าน โปรดระวังให้ดีศัตรูภายในนั้นช่างกำจัดได้ยากยิ่ง ข้าว่าพวกเจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับภัยต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ นะฮ๊า”

ดูเรื่องพวกนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่นะพวกนาย... :pika05:

“โรงฆ่าสัตว์” ฮิโกะซารุตอบสีหน้ายังซีดไม่หาย

พอเห็นบาชาโม่ จ้องทำตาโตโพจามะแทบจะปิดปากฮิโกะซารุไม่ทัน “เอ่อ...ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นหรอก” โพจามะหัวเราะในลำคอ เล่นเอาบาชาโม่งงไปเลย

ไม่รุนแรงขนาดนั้น แต่ก็....ใกล้เคียงใช่ไหมละ  :pika01:

“ครับๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นักแข่งจากร้านค้าที่กำลังล่ม นามว่า  กษิเดช เรืองรำไพ”

ตรงไปไหมพี่น้อง (ประจานตัวเองได้ด้วย เหอๆๆ)  :pika07:

หลังจากหัวเราะเรื่องนั้นเรื่องนี้ ลีเฟียก็เห็นว่าน่าจะได้เวลาแล้ว “ฉันว่าพวกเรารีบไปกันดีกว่าเดี๋ยวจะไปไม่ทัน” ลีเฟียทำท่าเหมือนจะเดินออกจากห้อง “กลาเซีย”

“หืม...อะไรเหรอ”

“ถ้าฉันชนะรอบคัดเลือกเธอช่วยจูบฉันเป็นรางวัลได้ไหม”

“หา!” คนร้องกับเป็นเชมี่ ส่วนกลาเซียถึงกับหน้าแดงจนดูเหมือนจะมีควันออกมาจากหัวไม่มีผิด

แกล้งกันได้ร้ายแรงมากเลยนะลิเฟีย คนเขามีสามีและมีลูกเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ...

รอบรองของการคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย

ลีเฟีย VS บูสเตอร์

แสดงว่าโปเกม่อนที่เก่งที่สุดในไทย มีแต่พวกสายพันธุ์อีวุยเท่านั้นใช่ไหมเนี้ย (แถมมาเจอธาตุที่แพ้ทางกันอีก มันเป็นการแสดงที่แกล้งกันหรือเปล่าหว่า...)

เมื่อทั้งสองพลังเทพเจอกันผลคือ ตูม~~! กลายเป็นโกโก้คั้น...ไม่ใช่สิ...กลายเป็นควันกลุ่มใหญ่

ขอสองถ้วย~ เฮ้ย! ไม่ใช่!!  :pika10:

“เรื่องนั้นยังไงก็ช่างแต่ฉันยังไม่ลืมนะ” ลีเฟียพูดเป็นปริศนาอีกแล้ว

“ไม่ลืมอะไรของนาย” เชมี่พูดเหมือนอารมณ์เสียนิดๆ

“ก็ถ้าฉันชนะการคัดเลือกนี้ได้กลาเซียต้องจูบฉันเป็นรางวัลไง” ลีเฟียยิ้ม แฝงอะไรบางอย่าง

“ขอให้ชนะจริงๆเถอะ” เชมี่ยิ้มแหยๆ

ยังจะขอให้เขาชนะอีกนะ เชมี่...(จะโดนเขาแย่งแก้มแฟนไปครองแล้วแท้ๆ)  :pika11:

“แต่ฉันเชื่อว่าคุณย่าไม่เป็นไรแน่นอน เมื่อเช้าฉันยังเห็นคุณย่าตีลังกาจากชั้นสองลงมาชั้นหนึ่งได้เลย งั้นพวกเราก็ไปกินข้าวกันก่อนเถอะนะ” กษิเดชเดินไปยังห้องอาหารทิ้งให้ลีเฟียยืนงงอยู่ตัวเดียว

“คุณย่า...ตีลังกาได้ด้วยเหรอ...” ลีเฟียพูดเสร็จก็เดนตามเจ้านายไปติดๆ

เด็กวัยรุ่นบางคนยังทำไม่ได้เลยเพ้!!! คุณย่าจะเทพไปถึงไหน!!!  :pika08:

“PBE ย่อมาจาก Pokemon Battle Entertainment เป็นสมาคมการต่อสู้โปเกมอนในประเทศไทยแต่การต่อสู้ของสมาคมนี้เป็นการแสดงทั้งหมด”

การต่อสู้เป็นการแสดงหรือ....งืมๆ....มันจะเป็นเรื่องที่ดี หรือว่าเรื่องที่ไม่ดีหว่า....คงจะดีละมั้ง (แต่เป็นการหลอกลวงไหมนะ)  :pika05::pika02:

“แม่ค่ะ หนูกินจนตาลายแล้วนะ” มันออกจะเกินความจริงไปสักหน่อยแต่สำหรับอีวุยน้อยแล้วมันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

ต้องพูดว่า หิว จนตาลายไม่ใช่เหรอครับ?  :pika04:

หลังจาก (กล้า) เต้นจนจบเพลงฮิโกะซารุเริ่มยิ่งนึกสนุก “ไม่ใช่แค่เพลงนี้นะเพลง Gee ของ Girls' Generation ก็เต้นได้นะ เพลงมาจ้า~”

เหมือนกับเพลงเก่า...ท่านผู้ท่านจินตนาการได้ตามใจชอบเลยครับ

พี่ท่านช่างกล้าทำ(ไปดูมาจากไหนละ) แล้วไม่มีมนุษย์มองดูอยู่บ้างเหรอ?  :pika04:

“พันธุ์อะไรล่ะ”

“พันธุ์ที่...เห่าได้เป็นไง”

จะให้เป็นพันธุ์เดียวกับอีวุยเหรอ เดี๋ยวก็โดน ลิเฟีย กราเซีย หรือเชมี่ ตบหรอก... :pika02:

--------------------------------------------------

Me/ รอติดตามชมตอนต่อไป....

Link to comment
Share on other sites

Guest
This topic is now closed to further replies.
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.