Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Mystery of Ga'Hoole - คดีโศกนาฏกรรมต้นไม้หมื่นปี (บทที่ 6 ช่วงที่ 4)


ไมยาเตะ (เชมี่)

Recommended Posts

จากผู้แต่ง

The Four Mansion เป็นฟิคที่ผมคิดขึ้นมานานแล้วแต่ยังไม่ได้ลงมือทำโดยตั้งใจเริ่มในเดือนมีนาคมนี้ เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนซึ่งต้องมาดูแลคฤหาสน์สุดหรูถึงสี่หลังบนเกาะแห่งหนึ่ง เรื่องราวนั้นดำเนินไปเรื่อยๆจนมาถึงเหตุการณ์ในนิยายเรื่องนี้

The Legend of The Guardians เป็นหนังที่ผมชอบทันทีตั้งแต่ได้ดูครั้งแรก พอดูจบผมก็เกิดอยากให้ตัวละครของผมไปมีส่วนร่วมในหนังบางเลยเป็นที่มาของนิยายเรื่องนี้

เนื้อเรื่องในฟิคนี้นั้นเริ่มต้นเมื่อคลัดด์ (ตัวร้ายในหนัง) ได้ปรากฏตัวที่คฤหาสน์แบบไม่ทราบสาเหตุในสภาพบาดเจ็บ หลังจากรักษาและถามที่มาที่ไปเหล่ากลุ่มเพื่อนสนิททั้งเจ็ด (มีภูมิพัฒน์ เป็นตัวเอก) ได้ตัดสินใจช่วยเหลือคลัดด์โดยพาไปที่ต้นไม้กาฮูล การผจญภัยอันแสนตื่นเต้นบวกเสียงหัวเราะจึงได้เริ่มต้นขึ้น

และเพื่อให้น่าสนใจยิ่งขึ้นผมจึงให้ตัวละครทั้งสองฝ่ายมาจับคู่กันเป็นบัดดี้ โดยของความเห็นจากพ่อแม่และเพื่อนๆของผมจนได้ผลออกมาดังนี้

ภูมิพัฒน์ โกมลวัจนะ (ช) (นกแสก) บัดดี้ คลัดด์ (ช) (นกแสก)

ธนิด โกลวัจนะ (ช) (นกแสก) บัดดี้ โซเรน (ช) (นกแสก)

ปิยวรรณ โกลวัจนะ (ญ) (นกแสก) บัดดี้ กิลฟี่ (ญ) (นกฮูกเล็ก)

วรฤทัย นรากร (ญ) (นกฮูกหิมะ) บัดดี้ ดิกเกอร์ (ช) (นกเค้าทุ่งหญ้า)

ภัสสร์นภันต์ กานต์นิพัทธ์ (ญ) (นกฮูกป่า) บัดดี้ เอกแลนไทน์ (ญ) (นกแสก)

พจน์ชานน นันทวิทย์ (ช) (นกแสก) บัดดี้ ทไวไลท์ (ช) (นกฮูกป่าสีเทา)

จีรายุพา นันท์พนิตา (ญ) (นกแสก)

เจล (ช) (นกแสก) บัดดี้ ไนร่า (ญ) (นกแสก)

สุดท้ายหวังว่าจะสนุกกับนิยายของผมนะครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทนำ

มีใครเห็นเจลบ้างไหม ภูมิพัฒน์เด็กหนุ่มอายุยี่สิบปีพูดขณะเดินไปตามทางเดินในคฤหาสน์

เจลเป็นนกแสกตัวผู้ที่ภูมิพัฒน์นำมาเลี้ยงดูจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง

มีใครเห็นเจลบ้างไหม ภูมิพัฒน์พูดอีกรอบ เหล่าคนที่เดินไปมาในคฤหาสน์ต่างสายหน้าเป็นการตอบว่าไม่เห็น ไปอยู่ไหนนะ... ภูมิพัฒน์เริ่มกังวนสักแล้วสิ จริงอยู่ว่านกแสก...ไม่สิเจลชอบบินออกนอกบ้านบ่อยๆแต่ส่วนใหญ่จะไม่นานขนาดนี้อย่างมากก็สองสามชั่วโมง

หาเจอยังพัด เด็กสาวคนนึงอายุดูเท่าๆกันทักขึ้น เธอเป็นพี่สาวของภูมิพัฒน์ชื่อของเธอคือ ปิยวรรณ โกลวัจนะ หวังว่าคงไม่ไปบาดเจ็บที่ไหนนะ

ไม่หรอก ภูมิพัฒน์พูดอย่างมั่นใจ อาจจะหลับที่ไหนสักที่ อย่างน้อยนั้นก็คือสิ่งที่ภูมิพัฒน์คิด นกฮูกเป็นสัตว์กลางคืนและนี่ก็ยังไม่มืดมีความเป็นไปได้ว่าเจลคงไปนอนพักบริเวณใกล้กับคฤหาสน์แน่ๆ

พูดถึงคฤหาสน์กระผมขออธิบายเกี่ยวกับมันสักเล็กน้อย คฤหาสน์หลังนี้มีนามว่า คฤหาสน์โกมลวัจนะ เป็นคฤหาสน์ที่คุณย่ากับคุณลุง กัน มอบให้ผมและเพื่อนอีกเจ็ดคนมาดูแลต่อจากพวกท่าน ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ช่างลำบากยากยิ่ง ถ้าให้เล่าทั้งหมดคงใช้เวลาเกินหนึ่งวันแน่นอน ปัจจุบันได้มีผู้คนจากที่ต่างๆมาอาศัยที่คฤหาสน์หลังนี้กว่าหนึ่งร้อยสิบแปดคนแล้วโดยทั้งหมดก็ต่างเป็นเพื่อนซึ่งกันและกันพวกเราทุกคนอยู่ที่นี้...เพราะเชื่อในความฝัน...สักวันความฝันต้องเป็นจริง นั้นเพราะคฤหาสน์โกลวัจนะยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า คฤหาสน์แห่งความฝัน

สำหรับตัวคฤหาสน์แห่งความฝันกระผมขออธิบายสถานที่สั้นๆ เป็นคฤหาสน์สี่หลังตั้งอยู่ในชุมชนเล็กๆบนเกาะทางใต้ของประเทศไทยของจังหวัด ร ตัวคฤหาสน์ทั้งสี่หลังสร้างตามทิศสี่ทิศโดยทิศใต้เป็นหลังที่เก่าแก่ที่สุดสร้างด้วยไม้ทั้งหลังสูงสามชั้นมีห้องพักประมาณหนึ่งร้อยขึ้นไป ทิศตะวันตกเป็นคฤหาสน์สไตส์ยุโรปทำจากปูนซีเมนต์ขาวทั้งหลังสูงสามชั้นมีชั้นใต้ดินอีกหนึ่งชั้นมีห้องประมาณหนึ่งร้อยกว่าๆ ทิศเหนือเป็นคฤหาสน์ที่ออกไปทาง วัง มากกว่าทำด้วยไม้ทั้งหลังเช่นเดียวกับทิศใต้แต่สีจะสดใสกว่าสูงสองชั้นครึ่งมีเส้นทางไปยังท่าเรือภายในเกาะด้วย สุดท้ายทิศตะวันออกเป็นคฤหาสน์...หรือจะเรียกว่าโรงพยาบาลดีก็ไม่รู้ เป็นคฤหาสน์ที่ถูกใช้รักษาคนเจ็บภายในชุมชนส่วนใหญ่คนที่พักคฤหาสน์หลังนี้จะเป็นหมอไม่ก็พยาบาล มีความสูงห้าชั้นครึ่งมีห้องกว่าสองร้อยกว่าห้อง แต่ว่า...สถานที่ที่ถูกเรียกว่า เกาะคฤหาสน์โกลวัจนะ ยังมีอะไรที่แปลกว่านั้น

ต้นไม้แห่งความฝันส่องแสงอีกแล้ว! ภูมิพัฒน์พูดด้วยความตกใจ ต้นไม้แห่งความฝันเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่มีอยู่บนเกาะแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางจุดที่สูงที่สุดของเกาะระหว่างคฤหาสน์ทั้งสี่หลัง มันเป็นต้นไม้ที่ประหลาดมากเพราะมันจะค่อยส่องแสงสีเหลืองทองออกมาตอนที่ใครก็ตามมีความฝัน คนบนเกาะนี้ต่างเชื่อว่าต้นไม้นี้มีพลังที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงได้...แต่ในตอนนี้มันสว่างจนผิดปกติ

หรือว่า...จะมีใครที่มีความฝันอันแรงกล้าอยู่แถวๆนี้... ปิยวรรณพูดด้วยอารมณ์แบบเดียวกัน

แต่ไม่น่าจะเป็นคนในคฤหาสน์ และก็ไม่น่าจะเป็นพวกสัตว์ด้วย บนเกาะแห่งนี้นอกจากคนแล้วก็ยังมีสัตว์หลายสายพันธุ์บนเกาะทุกตัวก็ต่างเป็นเพื่อนของคนบนเกาะ ถึงบางตัวจะพิเศษกว่าสัตว์ปกติก็ตาม ต้องเป็นข้างนอกคฤหาสน์แน่ๆ ภูมิพัฒน์พูดเสร็จก็วิ่งไปยังด้านนอกของตัวคฤหาสน์

ขอเสริมอีกนิดว่าคฤหาสน์ทั้งสี่หลังจะมีทางเชื่อมต่อกันหลายเส้นทางมากราวกับเขาวงกตหนึ่งในเส้นทางนั้นสามารถไปยังโรงอาหารที่อยู่ในใต้ดินของเกาะได้ โรงอาหารใต้ดินอาจฟังดูไม่น่าจะมีอากาศให้หายใจแต่ที่จริงแล้วมีอากาศถ่ายเทสะดวกมากอันเกิดมาจากลักษณะของตัวเกาะทำให้มีรูจำนวนมากตามหน้าผาของเกาะ ต่อมาจึงตกแต่งรูปเหล่านั้นให้กลายเป็นหน้าต่างแทน

พี่ครับ! เด็กหนุ่มคนนึงวิ่งมาหาภูมิพัฒน์กับปิยวรรณ เขาเป็นน้องชายของภูมิพัฒน์อายุน้อยกว่าพี่อยู่ห้าปี เขามีชื่อว่า ธนิด โกลวัจนะ เจลนกแสกของพี่เจอนกแสกอีกตัวบาดเจ็บตรงคฤหาสน์ทางทิศตะวันตก! น้ำเสียงของธนิดดูตื่นตกใจมาก

เจลอยู่ที่นั้นเหรอ...ดี งั้นไปกันเถอะ ทั้งสองวิ่งตามธนิดไปจนถึงพบเจลกำลังดูนกแสกตัวผู้อีกตัวอย่างเป็นห่วง นกแสกตัวนั้นสลบอยู่งั้นเหรอ...?

เจล! ภูมิพัฒน์ตะโกนเรียก

นกแสกตัวนี้ปีกซ้ายหักมีบาดแผลถูกไฟลวกด้วย! เจลตะโกนตอบกลับ

เดี๋ยวก่อน! สัตว์พูดไม่ได้! ...แต่ที่พูดได้ก็เพราะพลังจากต้นไม้แห่งความฝันนี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกันที่มีความฝันอยากพูดคุยกับสัตว์ได้

ไหนขอดูหน่อย ภูมิพัฒน์อุ้มนกแสกตัวนั้นขึ้นดูใกล้ๆ ก็จริงที่เจลพูด ปีกซ้ายของนกตัวนี้หักแน่ๆ เอาเป็นว่ารีบพาไปรักษาเถอะ ภูมิพัฒน์กับพรรคพวกรีบวิ่งไปยังคฤหาสน์ทิศตะวันออกแต่ถ้าไม่นับเจลก็เป็นวิ่งสามบินอีกหนึ่ง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ดูท่าคงไม่เป็นไรมากนะ คุณหมอท่านหนึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจ ปีกที่หักไม่รุนแรงมากนักแต่คงบินไม่ได้อย่างน้อยสองสามอาทิตย์"

ขอบคุณนะครับคุณหมอจิ้น ภูมิพัฒน์ยกมือไหว้ขอบคุณ

ไม่เป็นไรหน่าเรื่องแค่นี้ คุณหมอจิ้นเกาหัวเล็กน้อย ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องรับนกแสกตัวนั้นมาดูแลอีกตัวสินะ"

คงอย่างนั้นครับ ตอนนี้ทั้งสามรวมถึงเจลเข้ามาในห้องที่นกแสกรักษาตัวอยู่ ตัวแสกยังคงหลับไม่ได้สติอยู่ นกแสกตัวนี้... ภูมิพัฒน์พูดแค่นั้น

นกแสกที่พบนั้นมีสีออกน้ำตาลเข้มตรงส่วนของหัวและปีกที่หลังมีนิดหน่อยที่เหลือออกสีขาวสะอาดตา

ฉันเองก็เห็นตอนต้นไม้นั้นส่องแสง คุณหมอพูด หรือว่าจะเป็นของนกแสกตัวนี้

ผมว่าใช่แน่ๆ เจลพูดอย่างมั่นใจ

ทำไมล่ะ? ปิยวรรณถาม

ก่อนที่เขาจะสลบผมได้ยินเขาพูดถึงจะเบามากก็เถอะ เขาพูดว่า ขอโทษ

ขอโทษ ทั้งภูมิพัฒน์และธนิดพูดพร้อมกัน

นกตัวนี้ทำอะไรผิดมาเหรอพี่

แล้วพี่จะไปรู้ได้ไงล่ะ

เราต้องรอจนกว่านกแสกตัวนี้จะฟื้น ปิยวรรณพูด

อ่ะ!? คุณหมอจิ้นอุทานขึ้น เพราะทันทีที่ปิยวรรณพูดจบตัวแสกก็เริ่มมีสติ

ฟ...ฟื้นแล้ว... ธนิดพูดด้วยความตื่นเต้นแต่ก็ยังมีสติพอที่จะพูดเสียงเบาๆ

นกแสกค่อยๆลืมตา ตาของนกแสกตัวนี้มีสายตาของนักล่าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาดำกับนัยน์ตาสีน้ำตาลทำให้น่ากลัวสมกับที่เป็นสัตว์นักล่ายิ่งขึ้น แต่ทว่า...

เหวอ! นกแสกกลับกับตกใจกับพวกของภูมิพัฒน์เลยพยายามบินหนีแต่เพราะปีกซ้ายยังไม่หายดีเลยตกพื้นเสียงดังตุ๊บ

เป็นอะไรหรือเปล่า ภูมิพัฒน์พยายามจับตัวแต่ตัวนกแสกยิ่งอยากจะหนีแต่เพราะไม่มีที่ให้หนีบวกกับบินไม่ได้นกแสกตัวนั้นเลยตัวสั่นราวกับเจ้าเข้า

พ...พวกเจ้า..เป็นตัวอะไรเนี่ย นกแสกพูดด้วยความกลัวตัวยังสั่นอยู่ ทำไมตัวใหญ่อย่างนี้

พวกเขาเป็นมนุษย์ เจลบินลงจากไหล่ของภูมิพัฒน์มาหานกแสกตัวนั้น ไม่ต้องกลัวนะมนุษย์เองก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งเหมือนกับพวกเรา"

ทั้งภูมิพัฒน์และคนอื่นๆที่อยู่ในห้องต่างรู้สึกเจ็บแปลกๆที่ถูกเรียกว่าสัตว์ชนิดหนึ่ง

แต่เป็นสัตว์ที่พิเศษกว่าพวกเรา เจลพูดต่อโดยแอบมองมนุษย์ทั้งสี่ด้วยห่างตา ฉันชื่อเจลและมนุษย์คนนี้เป็นคนดูแลฉันเอง เจลยกปีกข้างหนึ่งชี้ไปที่ภูมิพัฒน์

ฉันชื่อ ภูมิพัฒน์ ภูมิพัฒน์กล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตรแต่นกแสกตัวเดิมยังคงสั่นอยู่นิดๆ นายจะเรียกพัดก็ได้ แล้วนายมีชื่อไหม

ข...ข้า... นกแสกคงเริ่มตั้งสติได้อาการสั่นจากความกลัวเลยค่อยหายไป ข้าชื่อคลัดด์...ที่นี้ที่ไหนกัน ทันทีที่นกแสกหรือคลัดด์พูดจบต้นไม้แห่งความฝันก็ส่องแสงสีเหลืองทองอีกครั้ง

มนุษย์ทั้งสี่มองหน้ากัน โดยเฉพาะภูมิพัฒน์รู้สึกว่ากำลังจะมีการผจญภัยครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 60
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • ไมยาเตะ (เชมี่)

    33

  • Loveless Nova

    23

  • Madame Graya

    2

  • cocore

    2

บทที่ 1 คลัดด์นกแสกผู้มีความฝัน

~  ช่วงที่ 1 ~

ความเป็นมาของคลัดด์

หมายความว่าไงที่ว่าตายไปแล้ว ภูมิพัฒน์ด้วยความสงสัย

อย่างน้อยคนอื่นก็คิดว่าข้าได้ตายไปแล้ว คลัดด์ตอบ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมข้าถึงมาที่นี้ได้

เกี่ยวกับเรื่องนั้นฉันรู้คำตอบ แต่ฉันอยากถามนายก่อนว่านายมาจากที่ไหน

ข้ามาจากป่าแห่งอาณาจักรนกแสก ที่นั้นไม่มีสัตว์...มนุษย์อย่างพวกเจ้า

มันก็จริง พจน์ชานน นันทวิทย์พูด เขาเป็นกลุ่มเพื่อนอีกคนของภูมิพัฒน์ ในบรรดาเจ็ดคนเขาเป็นคนที่มีอายุมากที่สุด (ยี่สิบสามปี)

ณ ตอนนี้เหล่ากลุ่มเพื่อนทั้งเจ็ดรวมถึงเจลมารวมตัวกันที่ห้องประชุมในคฤหาสน์ทิศใต้ โดยพวกของภูมิพัฒน์ยืนรอบโต๊ะไม้สูงประมาณเอว เจลกับคลัดด์ยืนอยู่บนโต๊ะนั้น

แล้วเกิดอะไรขึ้น วรฤทัย นรากรเด็กสาวอายุสิบเก้าปี ถามด้วยความสนใจ

คลัดด์ทำสีหน้ายากที่จะบรรยายได้ ผมเข้าร่วม...

เข้าร่วม ภูมิพัฒน์พูดซ้ำ

เดอะ เพียว วันส์ คลัดด์พูดสั่นๆ แต่ทำให้บรรดามนุษย์ทั้งเจ็ดต้องหันมามองหน้ากัน คลัดด์มองไปทางเจลเล็กน้อยก่อนพูดต่อ เดอะ เพียว วันส์ จะค่อยจับลูกนกฮูกไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ตามและไม่ว่าลูกนกฮูกพวกนั้นจะยังมีพ่อแม่หรือไม่

ไม่น่าเชื่อ... ภัสสร์นภันต์ กานต์นิพัทธ์เด็กสาวอายุยี่สิบปีพูดขึ้นพร้อมกับนำมือทั้งสองปิดปากสีหน้าตกใจ นกอย่างพวกเธอทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วยหรือ

นี่ ภัสสร์นภันต์ ที่ผ่านมาพวกเราก็เจออะไรแปลกมาเยอะนี่ยังถือว่าแปลกสำหรับเธออีกเหรอ

ก็นะ...

เจลนกฮูกแสกอีกตัวสายตัวเล็กน้อย ว่าแต่คลัดด์ ตามที่ฉันเข้าใจคนกลุ่มนั้นต้องเป็นพวกไม่ดีใช่ไหมแล้วทำไมนายถึงยังอยู่กับกลุ่มนั้น

เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวข้า...ไม่เคยมีใครเชื่อใจข้ามาก่อน สีหน้าคลัดด์ดูเศร้าขึ้นมา เจลไม่สามารถทำอะไรได้นอกไซ้ขนของคลัดด์โดยใช้จงอยปากเป็นท่าทางการปลอบใจของนกฮูกซึ่งภูมิพัฒน์เห็นจนชินแล้ว

คลัดด์รอให้เจลไซ้ขนเสร็จจนพูดต่อ ครั้งสุดท้ายที่ทุกคนเห็นข้าคือข้าตกลงไปในกองไฟ...ไม่มีพบศพของข้าแม้แต่ตัวข้าเองก็ยังคิดว่าตัวข้าตายไปแล้ว แต่พอฟื้นอีกทีข้าก็พบว่าได้เจอกับพวกมนุษย์อย่างพวกเจ้าแล้ว

คลัดด์ ภูมิพัฒน์พูดขึ้น ฉันรู้ว่าทำไมนายถึงมาที่นี้แต่ฉันต้องถามนายก่อน

ว่ามา

ก่อนที่นายจะหมดสติฉันฝันว่าอยากทำอะไรก่อนจะสลบไปหรือเปล่า

อืม... คลัดด์ทำท่ากำลังคิด

ตอนเจอนายครั้งแรกนายพูดออกมาว่า ขอโทษ ก่อนสลบไป เจลพูดเหมือนนึกขึ้นได้ นั้นใช่ความฝันของนายหรือเปล่า

ในที่สุดคลัดด์ก็ทำท่านึกขึ้นได้แต่สีหน้าออกดูเศร้านิดๆ คนที่เห็นข้าตกลงไปในกองไฟคือน้องชายของข้าเอง ผมชื่อ โซเรน

น้องชายงั้นเหรอ!? ธนิดพูดอย่างตกใจ

ใช่ ทั้งๆที่ข้าเข้าร่วมกลุ่มเดอะ เพียว วันส์แต่เขายังคงเชื่อในตัวข้าก่อนข้าจะสลบไปข้าคิดว่าถ้าข้ารอดข้าอยากขอโทษเขาในสิ่งที่ทำต่อเขา

นั้นแหละ คลัดด์ ภูมิพัฒน์พูด ความฝันที่อยากจะขอโทษน้องชายนายในตอนนั้นมันทรงพลังมาก การที่นายมาที่นี้ได้ก็เพราะต้นไม้แห่งความฝัน...ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นไปได้ยังไงเหมือนกันพลังของต้นไม้นั้นยิ่งใหญ่เกินมากสิ่งมีชีวิตอย่างเราจะรู้ได้

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กาฮูล

หือ... ทุกคนอุยานพร้อมกันไม่เว้นแม้แต่เจล

ข้ารู้ว่าน้องชายข้า...โซเรนต้องอยู่ที่นั้น

โอเคตกลงตามนี้! ภูมิพัฒน์พูดขึ้น คลัดด์ถึงกับทำหน้างงๆ

ภูมิพัฒน์นำโรงศัพท์ออกมาโรงหาใครคนนึง สวัสดีครับ-- ครับผมอยากให้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กาฮูลกับเดอะ เพียว วันส์ให้หน่อย ใช่ๆให้มากที่สุดเลยนะ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ภูมิพัฒน์เก็บโรงศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง

เรียบร้อยสินะ ปิยวรรณพูดพร้อมกับยิ้มแบบมีความหมายบางอย่าง

คลัดด์ ภูมิพัฒน์จับหัวของคลัดด์แล้วลูบหัวเบาๆ พวกเราทุกคนรวมถึงเจลจะไปต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กาฮูลกับนาย

เอ๋~~~!!! คลัดด์อุทายเสียงดังเขาอึ้งจนนิ่งไปเลย

ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก เราต้องรอปีกนายให้หายก่อน...อย่างน้อยก็หนึ่งสัปดาห์

แล้ว...แล้ว คลัดด์เหมือนอย่างพูดต่อ แต่เหล่ามนุษย์กลับไม่ทันฟัง

แล้วจีรายุพาล่ะ จีรายุพา นันท์พนิตาเธอเป็นเพื่อนคนที่เจ็ด ซึ่งปิยวรรณถามอย่างสงสัย

จีรายุพาเขาต้องเข้าค่ายกับทางโรงเรียนไง

จริงสิ... ปิยวรรณคอตก น่าสงสารจัง

ข้ามากกว่าที่น่าสงสารไม่มีใครฟังข้าสักนิด คลัดด์นึกใจ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

หลังจากประชุมกันเสร็จทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งสำหรับคนสหายโกมลวัจนะแล้วยังไม่ใช่เวลานอนปกติแล้วพวกเขาจะนอนกันจริงๆก็ประมาณสี่ทุ่ม สำหรับเจลและคลัดด์ไม่ต้องพูดถึงสัตว์จำพวกนกฮูกไม่นอนกลางคืนอยู่แล้ว

ทั้งสามคนกับอีกสองตัวมากันที่พักของภูมิพัฒน์ที่คฤหาสน์ทิศใต้

มนุษย์ชอบนอนตอนกลางคืนหรือ? คลัดด์ถามตามแบบของคนที่ยังไม่รู้ แล้วไม่โดนจันทราสะกดใจเหรอ"

หมายถึงพระจันทร์สินะ มนุษย์อย่างพวกเราจะนอนตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ไม่ต่างหรอกที่จริงนอนทั้งวันยังได้" ปิยวรรณตอบ

ผมเคยได้ยินมาเหมือนกันว่านกฮูกที่หลับตอนพระจันทร์เต็มดวงตอนตื่นขึ้นมาจะมีอาการคล้ายกับคนที่โดนสะกดจิต" ธนิดพูดเสริม

แต่การสะกตจิตก็มีจุดอ่อน บางครั้งก็ใช้ไม่ได้ผลกับบางคนแต่กลับบางคนสามารถเห็นผลการสะกดจิตแทบจะในทันที เจลพูดเสริมอีกคน

สำหรับมนุษย์น่ะใช่แต่ฉันไม่แน่ว่ากับสัตว์อย่างนกฮูกจะทำได้หรือเปล่า ภูมิพัฒน์ทำท่าคิดอยู่พักหนึ่ง ฉันมีความรู้สึกว่ายังพอมีวิธีอยู่นะ

ถ้างั้นก็ดีสิครับ แบบนี้ไม่ว่าจะโดนสะกดจิตหนักแค่ไหนก็แก้ได้ ธนิดรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง

เดี๋ยวก่อน...พี่ยังไม่ได้พูดว่าทำได้ร้อยเปอร์เซ็นนะ ...พี่ไม่แน่ใจยังไงก็ไม่รู้

ก็เรามีนักวิทยาศาสตร์คนนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ

นั้นแหละที่พี่เป็นห่วง ภูมิพัฒน์ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแต่นักนักวิทยาศาสตร์คนนั้นชอบทำอะไรเกินที่สั่งอยู่เรื่อย

แล้วพวกเจ้าจะไปต้นไม้กาฮูลด้วยวิธีไหน คำพูดของคลัดด์ทำให้ทั้งสามคนกับอีกหนึ่งตัวหันมามอง หรือพวกเจาจะไปในสภาพอย่างนั้น...ข้าว่าพวกนั้นต้องแตกตื่นแน่ๆ

ทั้งสี่มองหน้ากันแล้วยิ้มเล็กน้อยคลัดด์ทำหน้างงๆกับท่าทีของพวกเขา ไม่ต้องห่วงเลยคลัดด์ เจลพูด เชื่อสิ! นายยังไม่ได้เห็นสามารถที่แท้จริงของมนุษย์หรอก เจลกะพริบแฝงความหมายบางอย่าง

คลัดด์รู้สึกได้เลยว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

Link to comment
Share on other sites

~ ช่วงที่ 2 ~

แผนการของคลัดด์

วันที่สามนับตั้งแต่คลัดด์ปรากฏตัว วันนี้ก็ไม่ต่างไปจากวันอื่นๆมีเรื่องวุ่นๆให้ทำมากมายไม่เว้นแม้แต่ระเบิด...หมายถึงระเบิดดังตูมจริงๆนะ ยังดีที่มีต้นไม้แห่งความฝันหลังการระเบิดสภาพคฤหาสน์จึงกลับมาเป็นสภาพเดิมได้ทุกครั้ง

ต้นไม้กาฮูลจากตำนานที่กลายเป็นจริง ภูมิพัฒน์พูดอยู่คนเดียวบนโต๊ะในห้องพักของเขามีแต่เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม่กาฮูลกับเดอะเพียววันส์ที่เขาเคยขอร้องหาสืบหาข้อมูลมา

เดอะเพียววันส์เป็นกลุ่มนกฮูกที่ค่อยลักพาตัวลูกนกฮูกจากที่ต่างๆ ...แต่ไม่ค่อยมาถิ่นมนุษย์นะเนี่ย ภูมิพัฒน์หันไปมองคลัดด์กับเจลที่กำลังหลับอยู่

เวลาในตอนนี้ประมาณเที่ยงกว่าๆสัตว์กลางคืนอย่างนกฮูกจะนอนกลางวันก็ไม่แปลก แต่...ภูมิพัฒน์รู้สึกว่ามีอะไรที่ยังไม่สมเหตุผลเลย ความฝันของคลัดด์คือต้องการขอโทษงั้นหรือ...ต้นไม้แห่งความฝันเลือกคลัดด์เพราะเพียงความฝันแค่นี้เหรอ...ต้นไม้แห่งความฝันไม่เคยเลือกใครแบบสุ่มสี่สุ่มห้าการที่คลัดด์...เจ้าตัวก็คิดว่าตัวเองตายไปแล้วกลับมาปรากฏตัวที่นี้ต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น

พี่ครับ! อยู่ๆธนิดก็พุ่งเข้ามาในห้องแต่พอเห็นคลัดด์กลับเจลหลับอยู่จึงลดระดับเสียงลง คุณลุงกันเรียกพี่น่ะครับ

งั้นเหรอ ภูมิพัฒน์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เขาหันไปมองคลัดด์อีกรอบก่อนหันมาทางธนิด พี่พร้อมแล้ว ดูเหมือนจะเป็นประโยคที่รู้กันเฉพาะคนในกลุ่มเท่านั้น ธนิดพยักหน้าแล้วทั้งสองก็เดินออกจากห้องไป...

... ... ... หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่และเจลยังหลับอยู่คลัดด์จึงค่อยๆลืมตาขึ้น ตอนนี้ล่ะ คลัดด์ค่อยกระโดดลงพื้นด้วยปีกข้างเดียวถึงลงไม่สวยนักแต่คลัดด์กังวนเรื่องเสียงมากกว่าเขามองเจลอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่ตื่น โชคดีที่ตอนภูมิพัฒน์ออกจากห้องเขาปิดประตูไม่สนิกคลัดด์สามารุใช้ลำตัวดันออกไปได้เขาค่อยๆเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมปิดประตูให้เหมือนเดิม

สามวันมานี้คลัดด์รู้สึกสนิทกับมนุษย์ที่นี้มากขึ้นโดยเฉพาะกับภูมิพัฒน์คลัดด์รู้สึกประทับใจมนุษย์คนนี้เป็นพิเศษเขาจึงรู้สึกผิดนิดๆที่ต้องแอบหนีออกมา...ใช่แล้วคลัดด์ตั้งใจจะหนีออกไปจากที่นี้มาตั้งแต่วันแรกแล้วที่ผ่านมาเขาพยายามทำตัวแบบเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามมาโดยตลอด เขาไม่ได้จงใจแกล้งทำแต่เขาคิดมาโดยตลอดว่าตัวเขานั้นไม่เหมาะกับที่แบบนี้ อีกอย่างไม่แน่ใจว่ามนุษย์อยากจะช่วยเขาจริงๆถ้ารู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเขาขึ้นมา

... ... ... คลัดด์พยายามยกปีกซ้ายขึ้นแต่ไม่สามารถทำได้บางทีอาจยังไม่หายดี คลัดด์ถอนหายใจด้วยความเสียดายเขาตั้งใจว่าถ้าปีกหายก่อนกำหนดเขาบินหนีออกไปทันทีแต่ปีกเจ้ากรรมกลับไม่ยอมหายเสียทีเนี่ยสิ แผนการของเขาเลยล้มเหลวไม่เป็นท่า!

อยู่นี้เอง เสียงของเจลทำให้คลัดด์ตกใจจนแทบล้ม ฮ่า ฮ่า ฮ่า อะไรของนายท่าทางแบบนั้น

ก...ก็มันตกใจนี่หน่า คลัดด์พูดแก้ตัวแบบอายๆ คิดอยู่แล้วว่านายต้องรู้

ที่นายออกมานะเหรอ เปล่าหรอกฉันไม่รู้

แล้ว...

ปกติฉันชอบนอนกลางวันเล่นน่ะ บางทีก็เผลอหลับไปจริงๆแต่ก็ไม่นานหรอก

จะบอกนอนได้ทั้งกลางวันกลางคืนเลยสินะ

โดยไม่ต้องกังวนเรื่องจันทราสะกดใจด้วย ที่นี้น่ะตอนกลางคืนต้นไม้แห่งความฝันจะค่อยส่องแสงสีเหลืองทองอ่อนๆออกมา...แสงจันทร์เลยเขามาไม่ถึง

น่าอิจฉาจริงๆคลัดด์คิดในใจ เห็นบอกว่าเป็นต้นไม้แห่งความฝันงั้นนายก็มีความฝันเหมือนกันสินะ เอ๋!? นี่เราติดคำพูดของมนุษย์มาแล้วเหรอเนี่ย...คลัดด์คิดในใจระหว่างที่เขาพูดอยู่

ความฝันของฉันคือการอยากมีครอบครัว...ก็น่ะวัยอย่างฉันกับนายควรคิดเรื่องที่ต้องมีครอบครัวได้แล้วใช่ไหมล่ะ

พอได้ยินคำว่าครอบครัวเท่านั้นคลัดด์ก็รู้สึกใจหายขึ้นมาทันทีเหมือนกับมีลมเย็นผ่านตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว เป็นอะไรหรือเปล่าคลัดด์ เจลถามเมื่อสังเกตอาการผิดปกติของคลัดด์ได้

คลัดด์ส่ายหัวเล็กน้อยเหมือนกับจะเรียกสติคืนมาเขาจ้องมองเจลแบบตรงๆ ฉันนะ...ไม่มีครอบครัวหรอก... คลัดด์จ้องเจลได้พักเดียวก็หันหน้าหนี ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจ้องอีกฝ่ายจนรู้สึกกลัวได้แท้ๆ

เจลเองก็เหมือนจะรู้เหตุผลที่คลัดด์พูดแบบนี้แต่ก็คิดได้ว่าไม่ควรถามอะไรออกไปจะดีกว่า เราไปกันเถอะคลัดด์"

ไป...ไปไหน คลัดด์มองเจล กลับห้องเหรอ

เปล่า ไปเดินเล่นตั้งหาก เจลยิ้มให้คลัดด์ แต่แทนที่จะอุ่นใจคลัดด์กลับรู้สึกว่ามันน่ากลัวยังไงชอบกล

จ...จะดีเหรอ

ดีสิ! นายไม่ต้องกลัวหรอกมีฉันเป็นเพื่อนนี่หน่า เจลใช้ปีกวางบนหลังของคลัดด์

คลัดด์มองเจลด้วยห่างตา เพื่อนเหรอ...

ไม่ใช่แค่ฉันน่ะทุกคนต่างเป็นเพื่อนของนายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์...รวมถึงครึ่งคนครึ่งสัตว์ด้วยถ้านายสงสัย

อืม... คลัดดยิ้มให้กลับเจล นี้คงเป็นครั้งแรกที่คลัดด์ยิ้มให้กับคนอื่นด้วยความรู้สึกที่ดีต่อคนนั้นจริงๆแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อ ขอบใจนะเจล คลัดด์พูดคำอื่นไม่ได้นอกจากคำนี้อีกแล้ว

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แล้ว...นายเรียกว่าเจ้านายใช่ไหม เขาไม่ห่วงพวกเราเหรอที่ออกเดินข้างนอก คลัดด์ถามเจล ในขณะนี้ทั้งสองตัวกำลังเดินไปตามเส้นทางระหว่างคฤหาสน์ทิศใต้กับทิศตะวันตก

ภูมิพัฒน์น่ะเหรอ เขาคงรู้แล้วล่ะว่าเราออกมา

ถ้างั้นเขาก็คงโกรธ

ไม่หรอก ไม่สิไม่เคยเลยมากกว่าเจ้านายเชื่อใจฉันและทุกคนที่อยู่ที่นี้...ก็เหมือนกับที่ฉันและนายเชื่อใจเขาน่ะแหละ

แต่...ฉัน... คลัดด์อยากจะพูดว่า แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเชื่อใจเขาจริงๆหรือเปล่า แต่ประโยคก็ถูกลบทิ้งไปในที่สุด ช่างมันเถอะ

เจลทำสีหน้าเหมือนรู้ว่าคลัดด์อยากพูดอะไร คลัดด์ ภูมิพัฒน์เขาอยากช่วยเหลือนายจริงๆนะ ปล่อยให้เขารู้ความลับเกี่ยวกับนายไม่ว่ามันจะเลวร้ายขนาดไหนเขาก็ยังเชื่อมั่นในตัวนาย

ฉันจะรู้ได้ไงล่ะเจล! คลัดด์ไม่ได้ตั้งใจพูดเสียงดัง แต่เขาเป็นคนที่อ่อนไหวต่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

เจลเองก็เพิ่งนึกได้ว่าคลัดด์เคยพูดว่า ไม่มีใครเชื่อใจเขามาก่อน บางทีความคิดนี้อาจยังไม่หายไปจากใจของคลัดด์ได้แต่เจลยังคงคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี แล้วนายจะรู้เองคลัดด์ เจลตอบสั่นๆ

เจล! เสียงของมนุษย์...ไม่สิของสัตว์มากกว่าดังมาจากด้านหน้าของพวกเขาพอดี

อ่ะ! ไท! เจลรีบบินเข้าไปหาไทส่วนคลัดด์บินไม่ได้...เลยเดินไปอย่างช้าๆ เกิดอะไรไท

ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก ไทพูดด้วยความตื้นเต้น ไทเป็นลูกเสือขาวมีนัยน์ตาสีฟ้าหน้าตาน่ารักมากสิ่งที่ดูแตกต่างไปจากเสือตัวอื่นๆที่สายดำตรงหน้าผากมีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยว เช่นเดียวกับเจล ไทก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ภูมิพัฒน์เก็บมาเลี้ยงจากสวนสัตว์ ฉันเจอเส้นทางลับใหม่แล้วล่ะ

เส้นทางลับ!? ทั้งเจลและคลัดด์พูดพร้อมกัน ดังที่ได้บอกไปแล้วว่าในเกาะคฤหาสน์โกมลวัจนะนั้นมีเส้นทางใต้ดินที่สลับซับซ้อนมากบางเส้นทางยังไม่มีการสำรวจด้วยซ้ำไป ไม่ใช่แค่นั้นยังมีประตูลับหลายร้อยจุดภายในตัวคฤหาสน์ทั้งสี่หลัง

ที่ไหนเหรอ คลัดด์ถาม

ในตัวคฤหาสน์ทิศเหนือน่ะ...ว่าแต่นายชื่อคลัดด์ใช่ไหมฉันจำไม่ได้

ใช่

ว่าแต่ไทนายบอกเจ้านายของเราแล้วหรือยัง เจลพูด

ยังเลย ฉันหาเขาไม่เจอด้วยซ้ำ ไททำสีหน้าเศร้าๆ

อ่อ...ถ้าเป็นภูมิพัฒน์ล่ะก็ฉันได้ยินว่าเขาไปหามนุษย์ที่ชื่อ...รู้สึกจะชื่อลุงกันอะไรนี่แหละ

งั้นคงยากแล้วล่ะ ทางนั้นต้องมีธุระสำคัญแน่ๆ ไทพูด

น่าจะให้ใครไปบอกหน่อยน่าจะดีกว่านะเพื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมา เจลไม่อยากพูดคำนี้เลยจริงๆแต่ต้องคิดถึงเรื่องความปลอบภัยไว้ด้วย

ฉันเห็นด้วยเดียวฉันจะนำไปที่ทางเข้าเอง

อ่อ...ปีกของฉันยัง คลัดด์ทำท่าจะยกปีกซ้ายขึ้นแน่นอนว่าไม่สามารถยกขึ้นได้

ถ้างั้นก็เกาะหลังฉันไว้แน่นๆแล้วกัน ไทหันหลังให้คลัดด์ก่อนจะนั่งลง ถึงหลังได้เลย

จะให้เกาะหลังไปจริงๆเหรอ คลัดด์ดูไม่มั่นใจนัก

เนื้อหนังฉันหนาจะตาย ไม่เป็นไรเหรอ

ถึงจะยังลังเลแต่คลัดด์เกาะหลังไทด้วยเท้าทั้งสองข้าง อย่าให้ร่วงแล้วกัน

ได้เลย ไทวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่มากนักเพื่อไม่ให้คลัดด์ตกจากหลัง ส่วนเจลก็บินตามไปติดๆ

ด้วยเหตุนี้ทำให้แผนการของคลัดด์ที่ได้เตรียมมาต้องเป็นอันล้มเลิกไป แต่คลัดด์ไม่นึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย

Link to comment
Share on other sites

นกฮูกสินะ.....นกฮูกสินะ....คำภาวนาที่จะขอโทษผู้เป็นที่รัก มีพลังมากมายเสียจนสามารถทำให้วายร้ายที่จะตาย กลับได้รับการยอมรับให้มีชีวิตต่อได้เลยหรือ...จะได้กลับไปเจอกันหรือเปล่า ข้ารอลุ้นอยู่นะคลัด!!!

เนื้อเรื่องบรรยายดี มีการใช้ Verb กับ สรรพนาม ผิดบ้างในบ้างจุดน้อย~ แล้วอีกจุดนึงที่เป็นปัญหาสำหรับคนความจำสั้นเช่นผมก็คือ

....ชื่อมนุษย์แต่ละคนและจำนวนตัวแสดงนี้ละ  :pika09:

ส่วนเรื่องทำไมไม่ค่อยมีคนโพสตอบ ผมก็ไมส่รู้เหมือนกันน้อสหาย~  :pika02:

Link to comment
Share on other sites

  • 1 month later...

อัพต่อแล้วครับ!!! ^^

ในบทนำผมได้เปลี่ยนแปลงและเพิ่มข้อมูลนิดหน่อยด้วยนะครับ สำหรับช่วงที่สามนี้จะเป็นการผจญภัยเล็กๆของคลัดด์จะเป็นยังไงกันนะ~

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เนื้อเรื่องบรรยายดี มีการใช้ Verb กับ สรรพนาม ผิดบ้างในบ้างจุดน้อย~

ครับก็รู้สึกอยู่เหมือนกันตั้งใจจะค่อยๆแก้ครับ

แล้วอีกจุดนึงที่เป็นปัญหาสำหรับคนความจำสั้นเช่นผมก็คือ

....ชื่อมนุษย์แต่ละคนและจำนวนตัวแสดงนี้ละ

ง่ะ -*- แนะนำว่าจำแค่ชื่อจริงก็พอครับ

ส่วนเรื่องทำไมไม่ค่อยมีคนโพสตอบ ผมก็ไมส่รู้เหมือนกันน้อสหาย~

เป็นเรื่องปกติครับ - -

แต่ก็อยากให้โพสตอบเยอะเหมือนกันนะ...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

การผจญภัยของคลัดด์

ใช้เวลาไม่ถึงสิบกว่านาทีทั้งสามตัวก็มาถึงคฤหาสน์ทิศเหนือ โดยทางลับที่ว่าอยู่ชั้นหนึ่งใกล้ๆกับห้องนั่งเล่น

ที่นี้แหละ ไทพูดพร้อมกับหยุดวิ่งเพื่อให้คลัดด์ลงจากหลัง

นอกจากเจล ไทและคลัดด์แล้วยังมีกลุ่มสัตว์อีกจำนวนนึงอยู่ด้วยทั้งจิ้งจอก แมวและแมงมุมแน่นอนว่าสัตว์เหล่านี้ต่างอาศัยอยู่ในเกาะคฤหาสน์เหมือนกัน

พาเพื่อนใหม่มาด้วยหรือไท จิ้งจอกพูด

เขาชื่อว่าคลัดด์ เจลแนะนำ คงจักรู้กันแล้วไม่ใช่เหรอไฟล์

ก็ฉันชอบลืมอยู่บ่อยๆ จิ้งจอกหรือที่ชื่อไฟล์ตอบอย่างอายๆ แล้วพวกเธอล่ะ ไฟล์หันไปถามแมวกับแมงมุม

ฉันไม่ลืมเหมือนนายแน่ แมวตอบ

แมงมุมอย่างฉันขอไม่ออกความเห็น แมงมุมตอบ

ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนกันแมวและแมงมุมจะเป็นตัวเมียทั้งคู่

นี่เราเป็นเพื่อนกันหรือเปล่าเนี่ย ไฟล์ยิ้มแหยๆ

เธอคิดยังไงล่ะมู แมวหันไปถามแมงมุม

เพื่อนต่างพันธุ์ก็แบบนี้ล่ะตรา แมงมุมตอบแมว

เอาล่ะๆ อย่านอกเรื่อง ไทดุ ที่สำคัญคือยังไม่มีมนุษย์คนไหนทราบเรื่องทางลับที่เราพบ น่าเสียดายที่ต้องให้ใครสักตัวไปบอกเจ้านายเราสักก่อน

งั้นฉันไปเอง ไฟล์พูด ว่าแต่เขาอยู่ไหน

เห็นคลัดด์บอกว่าเจ้านายไปพูดกับมนุษย์ที่ชื่อ กัน สงสัยคงอยู่ที่ห้องประชุมในคฤหาสน์ทิศใต้ เจลพูด

งานนี้เหนื่อยอีกแล้ว ไฟล์ถอนหายใจ

พูดเหมือนตัวเองแก่ไปได้ ตราแมวน้อยตัวสีดำขาวพูด

รู้แล้วน่ะ ไฟล์ตอบแบบช่วยไม่ได้ งั้นฉันไปล่ะนะ ไฟล์วิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตามแบบของจิ้งจอก

จะไว้ไหมเนี่ย มูแมงมุมสีน้ำตาลขนาดใหญ่พูด

ไม่เอาหน่ามู เธอก็รู้ว่าไฟล์เขาเคยช่วยทุกคนที่นี้มาแล้ว เจลพูด

ช่วยทุกคน... คลัดด์พูดเหมือนอยากจะถาม

ไว้มีเวลาฉันจะเล่าให้ฟังคลัดด์ เจลตอบ แล้วนี่พวกเธอสำรวจไปแล้วหรือยัง

ฉันไม่กล้าเดินเข้าไปลึกๆหรอก ตราตอบ แถมยังสกปรกอีกตั้งหากไม่เหมาะกับแมวอย่างฉันเลยสักนิด

เธอเป็นแมวคุณหนูหรือไง เจลพูดในใจ

แต่สภาพแบบนั้นไม่ต่างจากบ้านฉันนะ มูพูด ก็แน่ล่ะแมงมุมชอบสภาพที่ที่สกปรกอยู่แล้ว

ก็เธอเป็นแมงมุม แต่ฉันเป็นแมว

จ้าๆ มูทำท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ

ตกลงเราจะพูดออกทะเลกันอีกนานไหม เจลพูดด้วยความสุดทน ดูคลัดด์สิยิ่งทำหน้างงหนักเข้าไปใหญ่

อ่อ...ช่างเถอะ คลัดด์ตอบสั้นๆ

จริงๆแล้วคลัดด์อายุน้อยกว่าเจลมาก เจลนั้นถือได้ว่าเป็นนกฮูกที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนคลัดด์เป็นนกฮูกหนุ่มที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก

มู เธอจำเส้นทางได้มากน้อยแค่ไหน เจลถาม มูน่าจะเป็นตัวเดียวที่สำรวจได้ไกลกว่าเพื่อน

ถ้าเป็นเส้นทางที่ฉันเคยสำรวจล่ะก็จำได้หมดนั้นแหละ มูตอบอย่างมั่นใจ แต่มันค่อยข้างมืดระวังหน่อยแล้วกัน

เรื่องไม่ต้องห่วง นกฮูกอย่างฉันกลับคลัดด์มองในที่มืดได้เป็นอย่างดี เจลพูดแบบมั่นใจเช่นกัน เธอนำทางได้เลยมู แล้วก็ตราฉันอยากให้เธออยู่หลังสุด

ทำไมต้องหลังสุด ตราทำหน้าตาไม่สบอารมณ์

ก็ถ้าเกิดอะไรขึ้น...จะอะไรก็ตามเธอเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าเราทุกตัว เธอจะได้แจ้งเหตุได้ทันที

ก็ได้ๆเข้าใจแล้ว ตราพยักหน้า

ตกลงกันได้แล้วนะ ...งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ เจลพูดเสร็จก็เปิดทางให้มูแมงมุมตัวใหญ่เดินเข้าไปก่อนที่เหลือจะตามเข้าไป

คลัดด์ไม่แน่ใจว่าตนคิดถูกหรือเปล่าที่ตามเข้าไปด้วย สัตว์พวกนี้ทำตัวไม่เหมือนสัตว์ธรรมดาๆ แต่เอาเถอะคงไม่เสียหายอะไร คลัดด์คิดเช่นนั้น

แต่ใครจะไปรู้...ว่าอุบัติเหตุเล็กน้อยก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดสักแล้ว!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เส้นทางลับในเกาะคฤหาสน์นั้นซับซ้อนราวกับเขาวงกตดังที่ได้บอกไปแล้ว ยังดีตรงที่ว่ามีแสงไฟอยู่บางแต่บางช่วงก็มืดมากถ้าเป็นมนุษย์ล่ะก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เดินในนี้

ตอนแรกตั้งใจว่าถ้าบินก็คงไม่ลำบาก แต่ลืมไปเลยว่าคลัดด์ยังบินไม่ได้ เจลยิ้มแหยๆมาทางคลัดด์

... ... ... คลัดด์รู้สึกว่าตนเองเหนื่อยตกยังไงก็ไม่รู้ ทำไมพวกคุณถึงทำอะไรต่างจากสัตว์ที่ทั่วไปเขาไม่ทำกัน

อืม... เจลทำท่าคิด คงเพราะพวกเรา...หมายถึงสัตว์ทุกตัวที่นี้ใช่ชีวิตในที่ที่มีมนุษย์อยู่ล่ะมั้ง เจลพูดไปยิ้มไป

ผมเคยได้ฟังมาจากพ่อแม่เรื่องของมนุษย์มาบาง คลัดด์พูด เมื่อก่อนครอบครัวผมเคยอาศัยในโรงนาแต่ก็ย้ายออกมาจนได้รังในฝัน...เคยเป็น... อยู่ๆคลัดด์ก็ทำหน้าเศร้าลงไปมาก เหตุการณ์ในอดีตที่เลวร้ายได้ปรากฏในหัวของเขาอีกครั้ง

คลัดด์... เจลเองก็สังเกตว่าคลัดด์ดูเปลี่ยนไป มันเกิดอะไรขึ้น

คือ... คลัดด์รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงรู้สึกเฉยๆต่อเรื่องนี้ ไม่สิเขาคงหัวเราะด้วยซ้ำไป

พอแค่นั้นล่ะ ตราพูด เรื่องร้ายๆในตอนนี้อยากไปคิดให้เสียความรู้สึกเลย น้ำเสียงของตราเหมือนไร้อารมณ์แต่จริงๆแล้วตราเป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวมากต่อเรื่องพวกนี้ผิดกับนิสัยของเธอมาก

ฉันก็ไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น มูพูดบาง แต่ว่านะคลัดด์ทุกคนและทุกตัวบนเกาะก็ต่างเคยผ่านเรื่องร้ายๆมามากอาจร้ายแรงกว่าที่นายเคยเจอหรือเคยทำสักอีก สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการได้อยู่ที่นี้คือ อย่าเสียใจกับสิ่งที่ตนเองได้ทำไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย สิ่งที่ไม่ได้ทำนี่แหละที่สำคัญ

สรุปง่ายๆก็คือ อย่าเสียใจกับสิ่งที่ทำ เพราะเราอาจเสียใจในสิ่งยังไม่เคยทำมากกว่า เจลพูด ทุกคนบนเกาะนี้อยากช่วยนายจากใจจริงคลัดด์ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับนายเอง

หมายความว่าไง

ถึงภูมิพัฒน์จะบอกว่าเตรียมการทุกอย่างแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงเขาคงถามนายอีกทีว่าพร้อมไหม ถึงตอนนั้นนายต้องตัดสินใจเองคลัดด์ เจลมองคลัดด์แล้วยิ้ม

ฉันเข้าใจแล้ว คลัดด์ยิ้มตอบ

แต่ทว่า...ในระหว่างที่พวกเขาเดินอยู่คลัดด์ก็เดินไปเหยียบอะไรบางอย่าง

*กร๊ก* เสียงดังเหมือนดังไปทั่ว

เอ๋!? เสียงเมื่อกี้... คลัดด์สีหน้างงๆ แต่ตัวอื่นกลับหน้าซีดจนเห็นได้ชัดคลัดด์เองก็เริ่มไปกับเขาด้วย

*ครืนน* เสียงเหมือนอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่มากกำลังมาทางพวกเขา พื้นเริ่มสั่นสะเทือนและเห็นบางอย่างลางๆจากที่ไกลๆ...หินกลมๆใหญ่ๆ...

ตายแล้ว!!! สี่เสียงสี่แบบดังพร้อมกัน แต่ล่ะตัวต่างออกวิ่งเพื่อหนีหินที่กลิ้งมาหาพวกเขา

ด...เดี๋ยวสิ...ฉ...ฉันบินไม่ได้! คลัดด์พูดติดอ่างอย่างหนักเขาวิ่งเหมือนกับกระโดดยังไงชอบกล คลัดด์เพิ่งรู้ตัวว่าตั้งแต่เกิดมาเขาวิ่ง (ด้วยเท้า) ได้เร็วกว่าที่คิดไว้มาก แต่ตอนนี้มันใช้เวลาคิดเรื่องนี้สักที่ไหนกัน!

แต่ไม่ใช้คลัดด์ตัวเดียวที่วิ่งเพราะข้างๆก็มีเจลวิ่งเป็นเพื่อนในท่าวิ่งที่คล้ายๆกัน ลืมเรื่องกับดักไปเสียสนิทเลย! ทำไมมาทางลับทีไรต้องเจอหินกลิ้งๆทุกทีด้วยนะ!

ทุกที! แปลว่าไม่ใช่ครั้งแรกเหรอ คลัดด์ตะโกนถาม

ประจำเลยแหละ! เจลตะโกนตอบ

...คือ...ในฐานะคนแต่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะตะโกนกันทำไมในเมื่อก็อยู่ข้างๆกัน... และขอบอกอีกอย่างหนึ่งว่าเส้นทางเดินในทางลับใต้ดินนั้นส่วนใหญ่เป็นทางโค้งไม่ใช่หักมุมจึงไม่ช่วยหยุดการกลิ้งของหินเลย

นี้! ตราที่วิ่งนำทั้งสอง (เพราะวิ่งได้ดีกว่า) หันมามองเจลกับคลัดด์ซึ่งหน้าตาดูไม่ได้จริงๆ มีใครเห็นมูบ้าง!

ผมไม่รู้! อย่าบอกนะว่าโดนหินทับไปแล้ว คลัดด์ตอบ

เปล่าเลยมูไม่ได้โดนทับ ถึงหินจะใหญ่แต่เพราะเป็นทรงกลมเลยเหลือช่องว่างตรงมุมทั้งสี่ด้านมูเลยใช้ช่องนั้นผ่านไปได้อย่างสบายๆ รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้สิ มูพูดขณะเดินกลับเส้นทางเก่า

ทางออก!!! ทั้งสามตัวตะโกนเมื่อสามารุออกมาได้ในที่สุดโชคดีอีกขั้นเมื่อทางออกค่อยข้างเล็กหินเลยกลิ้งออกมาไม่ได้ ทั้งเหนื่อยกับการหนีจนล้มลงไปนอนกันเลยทีเดียว

นึกว่าจะตายสักแล้ว... เจลพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

ทุกตัวเป็นไงบ้าง มูเพิ่งออกมาจากรูตรงทางออกเดียวกับที่ทั้งสามตัวออกมา งานนี้เหนื่อยหน่อยนะ

ไม่ต้องพูดเลย! เจลดุ ก่อนหันไปมองรอบๆ ดูเหมือนพวกเราจะอยู่ที่ชายหาดของคฤหาสน์ทิศใต้

ยังดี ตราพูด ฉันเริ่มหิวข้าวสักแล้ว

พวกเธอไปเถอะ ที่จริงก็เลยเวลานอนของฉันกับคลัดด์มานานแล้วใช่ไหมคลัดด์... เจลเห็นคลัดด์นอนนิ่งไม่ขยับ ตกใจหมดหลับไปเท่านั้นเอง

รีบพาเขาไปพักผ่อนเถอะนายก็ด้วยอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการแล้วด้วย ตราพูดก่อนจะเดินจากไป

งั้นฉันก็ขอตัวล่ะนะ มูเองเดินจากไปอีกคน

เจลมองดูคลัดด์ที่หลับอยู่บนพื้นทรายเขาแบกด้วยเท้าทั้งสองข้างก่อนจะบินไปที่ห้องพักของพวกเขาทั้งสอง การผจญภัยของคลัดด์จึงจบลงเพีบงเท่านี้

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

หินกลิ้ง!!! ทำไมต้องหินกลิ้งด้วย!! กับดักบนโลกนี้มีอยู่ประเภทเดียวรึไงกัน มันเป็นธรรมเนียมจากเรื่องอะไรกันนะถึงต้องใช้หินกลิ้ง แล้วก็ ผัวะ!!!

Me/ ถูกตบก่อนจะเพ้อออกทะเล...

เป็นการผจญภัยของนกผู้บินไม่ได้ที่สนุกมากเลยน้อ มีสัตว์มาเพิ่มให้ต้องจำชื่ออีกแล้วสิ...

Link to comment
Share on other sites

มีสัตว์มาเพิ่มให้ต้องจำชื่ออีกแล้วสิ

ไม่ต้องห่วงครับ เพราะสัตว์เหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไร

(ประมาณว่าเป็นตัวประกอบเฉยๆ)  :pika11:

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

อัพต่อแล้วครับ

ในที่สุดก็จบบทที่ 1 สักที บทหน้าจะการเดินทางที่แท้จริงแล้ว เริ่มตื่นเต้นกันแล้วยังครับ!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

การตัดสินใจของคลัดด์

สิบวันนับตั้งแต่พบคลัดด์ครั้งแรก จริงๆแล้วกำหนดการไปที่ต้นไม้กาฮูลควรเป็นเมื่อสามวันก่อนแต่พอภูมิพัฒน์รู้เรื่องที่คลัดด์เกือบโดนหินทับเลยต้องเคลื่อนวันออกไปเพื่อให้คลัดด์พักผ่อนและจะได้ตรงกับวันที่จีรายุพากลับมาพอดี

มาแล้วๆ จีรายุพา นันท์พนิตาเป็นหญิงสาวร่างเล็กอ้วนหน่อยๆดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ สาบานได้เลยว่าฉันจะไม่เข้าค่ายกลับโรงเรียนอีกแล้ว กลับมาก็บ่นสักแล้ว

เอาน่าๆ ภูมิพัฒน์ยิ้มแหยๆ ทั้งสองยืนพูดคุยกันด้านหน้าประตูของคฤหาสน์ทิศใต้

แล้วเจ้าตัว...หมายถึงเจ้านกฮูกของนายอยู่ไหน

ย้ายไปอยู่ที่รังในต้นไม้แห่งแสงแล้ว พอดีคิดว่าให้สัตว์อยู่ในส่วนของสัตว์โดยไม่มีมนุษย์จะดีกว่า อีกอย่างนี้ก็ยังเก้าโมงกว่าๆเธอก็รู้ว่าเวลาแบบนี้สำหรับนกฮูกเป็นเวลานอน ภูมิพัฒน์อธิบาย พวกเราทุกคนจะประชุมใหญ่อีกครั้งตอนห้าโมงเย็นที่ห้องวิทยาศาสตร์ใต้ดินมาให้ตรงเวลาด้วยนะเรื่องนี้สำคัญมาก"

เข้าใจแล้วหน่า จีรายุพาพูดขณะกำลังเดินจากไป

ทางด้านของคลัดด์กับเจลก็กำลังนอนอย่างสบายใจในรังใหม่ทางด้านเจลนั้นพูดได้ว่าหลับสบายแต่คลัดด์หลับๆตื่นๆบ่ายครั้งมากอาจเป็นเพราะตื่นเต้นล่ะมั้ง

เจล...เจล... คลัดด์กระซิบ

มีอะไรเหรอคลัดด์ เจลมีอาการงัวเงียเล็กน้อย นอนไม่หลับเหรอ

หลับหลายรอบแล้วครับ แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าเรื่องที่จะไปต้นกาฮูล หลายวันมานี้คลัดด์พูดเพราะกว่าเมื่อก่อนมาก

ทำไมล่ะ ตอนนี้เจลหายจากอาการงัวเงียแล้ว เกิดไม่สบายใจอะไรขึ้นมางั้นหรือ

ค...คือ... คลัดด์เหมือนจะตอบแต่ก็ไม่ตอบ

มีอะไรก็บอกมาเถอะคลัดด์พวกเราจะไปกันเย็นนี้แล้วนะ เจลใช้ปีกข้างนึงโอบตัวคลัดด์ไว้

คือเรื่องที่ผมเคยทำกับน้องไว้...โซเรนนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าเขายังเชื่อใจผมอยู่หรือเปล่า

เจลยิ้มก่อนตอบ เขาก็ต้องยังเชื่อใจนายอยู่แล้ว

ผมจะรู้ได้ไง

จนกว่าจะถึงเวลาคลัดด์ เจลยิ้มแฝงความหมายบางอย่าง จนกว่าถึงเวลา เจลพูดซ้ำ

... ... ... คลัดด์ไม่ตอบอะไรในใจตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออกเช่นกัน

อยู่ๆเจลทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้ อีกอย่างนะคลัดด์

ครับ

ทุกคนไม่ได้บังคับนายเรื่องที่จะไปต้นไม้กาฮูล นายสามารถขอยกเลิกได้ถ้านายไม่อยากไปจริงๆแต่ถ้านายอยากไปพวกเราก็จะไปกับนายด้วยในเย็นนี้

แล้วผมควรทำไงดี

คิดให้ดีและรอบคอบ...ฉันคงแนะนำได้ดีที่สุดเท่านี้...ขอโทษนะคลัดด์

ม...ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงคนที่ต้องตัดสินใจคือผมและ...และผมว่าผมได้คำตอบนั้นแล้ว!

งั้นหรือ เจลยิ้ม ถ้านายตัดสินใจได้ฉันก็สบายใจ ทีนี้คงนอนได้แล้วสินะ

ครับ เอ่อ...ผมของนอนใกล้ๆได้ไหม

ได้สิจะให้กอดก็ยังได้ แต่คงไม่จำเป็นมั้งเพราะที่นี้อาการร้อนจะตาย

ไม่เป็นไรครับ คลัดด์ตอบพร้อมกับเข้าไปอยู่ใต้ปีกของเจล ผมชอบที่อุ่นๆ สีหน้าคลัดด์ในตอนนี้มีความสุขมากที่สุดเกินกว่าจะบรรยายได้

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ห้าโมงเย็นตรง ณ ห้องวิทยาศาสตร์ใต้ดินของเกาะคฤหาสน์เหล่ากลุ่มเพื่อนทั้งเจ็ดรวมถึงเจลและคลัดด์ต่างรวมตัวเพื่อตัดสินใจครั้งสุดท้าย

ยังไงผมก็ยังอยากไป คลัดด์ตอบโดยที่ยังไม่มีใครถาม ถึงจะกลัวแต่ผมจะไม่หนีอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรที่นั้นผมก็จะไปแน่นอนครับ

คิดดีแล้วสินะ ภูมิพัฒน์พูด

ครับ! ยืนยันคำเดิมแน่นอน! คลัดด์อย่างมั่นใจ

แล้วพวกเรามีแผนอย่างไร พจน์ชานนถาม

ที่นั้นห่างไกลจากมนุษย์มากถ้าไปกันทั้งๆแบบนี้มีหวังได้แตกตื้นกันแน่ๆ ธนิดพูด

เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเพราะเรามีเขาคนนี้แล้ว ภูมิพัฒน์แนะนำนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นความหวังของภารกิจครั้งนี้

สวัสดีตอนเย็นทุกคน นักวิทยาศาสตร์ดูมีอายุมากเอาการเนื่องจากผมเริ่มกลายเป็นสีขาวแล้ว เขาสวมเสื้อแบบนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ซึ่งนอกจากเขาแล้วก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์คนอื่นทั้งชายหญิงอีกกว่าสิบชีวิต

สวัสดีครับลุงเอ็ม แน่ใจนะครับว่าได้ผล ภูมิพัฒน์พูด

สมัยนี้ไม่มีอะไรที่วิทยาศาสตร์ทำไม่ได้ ลุงขอรับรองว่าได้ผล ลุงเอ็มตอบอย่างมั่นใจ

พัดนายมีแผนอะไรกันเหรอ จีรายุพาถามอย่างสงสัย

ในเมื่อไปในร่างมนุษย์ไม่ได้ทำไทเราไม่ปลอมตัวกันล่ะ!

ปลอมตัว! ทุกคนพูดแทบพร้อมกัน หมายถึงปลอมเป็นนกฮูกนะเหรอ ภัสสร์นภันต์ถาม

ถูกต้อง คนตอบคือลุงเอ็ม พวกเธอคงเห็นเครื่องขนาดใหญ่ด้านหลังของลุงแล้วนั้นคือแปลงสภาพ ลุงเอ็มชี้ไปที่เครื่องนั้นมันใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้าขนาดปกติอยู่สิบกว่าเท่าแน่นอนว่ามีนักวิทยาศาสตร์กำลังตรวจความเรียบร้อยอยู่

ทำงานยังไงหรือค่ะ ปิยวรรณถาม

ก็แค่เปลี่ยนสภาพรูปร่างของพวกเธอเป็นสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บนบกหรือในน้ำจะมีขนหรือไม่มีก็สามารถทำได้เหมือนจริงมาก ลุงเอ็มอธิบายรวดเดียวจบ แต่ฉันขอบอกอะไรพวกเธอไว้สักอย่างสำคัญมากด้วยต้องจำไว้ให้ดีๆ

ครับ / ค่ะ

เครื่องนี้แค่เปลี่ยนรูปร่างภายนอกของพวกเธอเท่านั้นแต่ภายในของพวกเธอยังเป็นมนุษย์ทั้งการมองเห็น ได้ยิน พูดง่ายๆว่าถึงร่างกายพวกเธอจะเป็นสัตว์แต่ก็ไม่มีสามารถใดเกี่ยวกับสัตว์ที่พวกเธอเป็นอยู่ยกตัวอย่างเช่น ลุงเอ็มไม่พูดไปมากกว่านี้เขาเดินไปหาภูมิพัฒน์แล้วจับหมุนหัว

เจ็บนะครับ! ภูมิพัฒน์ร้องอย่างเจ็บปวดหมุนแค่เก้าสิบองศาเขาก็ร้องสักแล้ว

นกฮูกโดยธรรมชาติไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็จะสามารถหมุนคอได้กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบองศาแต่พวกเธอจะทำไม่ได้

แล้วการรับรสล่ะค่ะ ที่นั้นคงมีแต่แมลงให้กินแน่ๆฉันไม่ชอบเลย วรฤทัยถาม

ไม่เป็นไรเรื่องการกินฉันเองก็คำนวณไว้แล้ว แล้วก็อีกข้อนะเจ้าเครื่องนี้จะคำนวณความเหมาะสมของแต่ละคนว่าร่างใดจะเหมาะสมที่สุด ฉะนั้นอย่าอารมณ์เสียล่ะถ้ารูปร่างไม่เป็นดังใจพวกเธอ

เข้าใจครับ / ค่ะ

งั้นก็เข้าไปในเครื่องเลย ทุกคนนั้นแหละไม่ต้องกังวนพื้นที่ภายในกว้างพอสำหรับพวกเธอ

เหล่ากลุ่มเพื่อนสนิทต่างเข้าในเครื่องอย่างกลัวๆแต่ก็มั่นใจในตัวลุงเอ็มจึงไม่มีใครมีสีหน้าเป็นกังวนเมื่อเข้าไปกันครบประตูก็ปิดลง

ฉันจะกดปุ่มแล้วนะ ลุงเอ็มกดปุ่ม เครื่องเริ่มทำงานทั้งเจลและคลัดด์ต่างรอดูด้วยความตื่นเต้น

พอประตูเปิดออกทั้งเจลและคลัดด์ต่างก็ตกใจพอๆกัน ด้านหน้าของทั้งสองมีกลุ่มนกฮูกเจ็ดตัวและทั้งหมดก็เดินออกมาอย่างช้าๆ

สุดยอดเลย! คลัดด์อยู่ตื่นตากว่าใครเพื่อน

เจ๋งดีจัง! ภูมิพัฒน์ส่องกระจกที่ลุงเอ็มเตรียมไว้ เป็นนกแสกสินะ

เหมือนกันเลยพี่ ธนิดพูด นอกจากนี้ยังมีปิยวรรณ พจน์ชานนกับจีรายุพาที่เป็นนกแสกส่วนที่เหลือนั้น...

ต่างจากพวกจัง ภัสสร์นภันต์พูด ทำไมฉันต้องเป็นนกฮูกป่าด้วยนะ

อืม...ของฉันดูเท่กว่าเพื่อนเลยนะเนี่ย วรฤทัยเป็นนกฮูกหิมะสแกนดิเนเวีย แต่สีหน้าดูจริงจังไปไหมนะ

เอาล่ะพวกเราอย่าลืมหน้าที่เจลกับคลัดด์มานี้สิ ภูมิพัฒน์รู้สึกอะไรแปลกๆ ดูเหมือนเจลจะตัวใหญ่กว่าใครเพื่อนเลยนะเนี่ย

ก็เขาเป็นนกฮูกที่โตเต็มที่แล้ว พวกเธอยังเป็นนกฮูกที่กำลังเติบโตอยู่เลย ลุงเอ็มพูด

ต่อไปก็ต้นไม้กาฮูลสินะ พจน์ชานนพูด เครื่องต่างมิติหาตำแหน่งไว้ยังไงครับ

เรื่องนั้น...เหมือนพูดคุยกับสัตว์เลย...อ่ะโทษที เรากำหนดตำแหน่งได้แล้ว อีกอย่างนึกนะฉันได้เตรียมอุปกรณ์การสื่อสารมาด้วย จากนั้นนักวิทยาศาสตร์คนนึกก็นำอุปกรณ์มา

ลุงเอ็มนำมาติดตั้งไปพร้อมกับอธิบายไป ด้วยอุปกรณ์นี้ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็สามารถสื่อสารกันได้และยังสามารถติดต่อกับทางฉันได้ด้วย เจลกับคลัดด์ก็ด้วยนะ

ครับ

เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างพร้อทแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไปต้นไม้กาฮูลกันเลย!

เย้! ทุกคนตะโกนพร้อมกัน

ประตูมิติเปิดแล้ว ลุงเอ็มพูด ขอให้โชคดีนะทุกคน

ครับ / ค่ะ! ทั้งหมดออกบินผ่านประตูมิติสถานที่ที่ปรากฏตรงหน้าคือต้นไม้ขนาดใหญ่มันคือต้นไม้กาฮูลนั้นเอง บัดนี้การเดินทางที่มีทั้งเสียงหัวเราะ ร้องไห้และคราบเลือดกำลังจะเกิดขึ้น!

Link to comment
Share on other sites

It' so Fantasy!!!

มีเครื่องทำให้คนกลายเป็นนกฮูกด้วย สุดยอดจะแฟนตาซีไปเลยละขอร้าบบ!!! แต่บินกันได้เลยเหรอเนี้ย พึ่งเคยมีปีกกันแท้ๆก้บินได้แล้ว หุๆๆ

ดอกเตอร์คนนั้นก็จริงๆแฮะ จะฉลาดไปถึงขนาดไหนเนี้ย มีเครื่องต่างมิติด้วย So Cool!!!

และสุดท้าย....เกือบวายคลัดกับเจล...(คลัดดูหน่อมแหน่มขึ้นเยอะเลยแฮะ...)

Link to comment
Share on other sites

อัพต่ออย่าให้เสียเวลา

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

มีเครื่องทำให้คนกลายเป็นนกฮูกด้วย สุดยอดจะแฟนตาซีไปเลยละขอร้าบบ!!! แต่บินกันได้เลยเหรอเนี้ย พึ่งเคยมีปีกกันแท้ๆก้บินได้แล้ว หุๆๆ

ดอกเตอร์คนนั้นก็จริงๆแฮะ จะฉลาดไปถึงขนาดไหนเนี้ย มีเครื่องต่างมิติด้วย So Cool!!!

It' so Fantasy!!! (OK~!!!)

เกือบวายคลัดกับเจล

วาว่าคุงชอบแนววายเหรอ -*-

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทที่ 2 ต้นไม้หมื่นปีกาฮูล

~ ช่วงที่ 1 ~

ครอบครัวที่แสนอบอุ่น

ก่อนที่พวกภูมิพัฒน์จะพาคลัดด์ไปที่ต้นไม้กาฮูลหรือพูดให้ระเอียดคือช่วงก่อนที่พวกภูมิพัฒน์จะเปลี่ยนร่างเป็นนกฮูก ยังมีอีกหนึ่งภารกิจที่ภูมิพัฒน์ต้องทำ

คลัดด์! เจล! ภูมิพัฒน์ตะโกนเรียกอยู่หน้ารังของเจลในต้นไม้แห่งความฝัน คลัดด์! เจล! ภูมิพัฒน์ตะโกนเรียกอีกครั้ง

มีอะไรครับ คนตอบคือเจลโดยโพล่หัวออกมาจากรัง คลัดด์หลับอยู่ครับ

โทษทีนะช่วยปลุกหน่อยเดี๋ยวก็ถึงเวลาแล้ว มีเรื่องต้องทำอีกเยอะเลย

ครับเดี๋ยวผมปลุกให้ เจลหายเข้าไปข้างในพักนึง ในที่สุดคลัดด์ก็โพล่ออกมา พอบินได้แล้วยังคลัดด์

พอ...บินได้...แล้วครับ ดูท่าคลัดด์จะยังไม่ตื่นเต็มที่ รอแปบนึง...นะครับ คลัดด์ค่อยๆกางปีกออกแล้วก็บินออกจากหลังทั้งๆอย่างงั้น...ร่วงสิครับ!

เฮ้ย! ภูมิพัฒน์เกือบรับคลัดด์ไม่ทัน พอรับได้ภูมิพัฒน์ก็ได้มองคลัดด์แบบใกล้ๆ... โดนไฟช็อตมาเหรอคลัดด์ ขนของคลัดด์คงพูดได้ว่าไม่มีความสวยงามเลยสักนิด

... ... ... คลัดด์แค่ยิ้มๆให้

ไปอาบน้ำกันคลัดด์

หา!? อยู่ๆคลัดด์ก็รู้สึกเหมือนตัวเองตื่นเต็มที่ยังไงก็ไม่รู้

คลัดด์ถูกพามาที่ห้องของภูมิพัฒน์ภายในห้องน้ำธนิดเพิ่งจะรองน้ำเสร็จ มาแล้วหรือครับ

เดี๋ยวสิ...เอาจริงหรือครับ คลัดด์เกาะแขนภูมิพัฒน์แน่นมากถ้าภูมิพัฒน์ไม่นำผ้ามารองแขนคงโดนเล็บจิกแน่ๆ

ทำตัวเหมือนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเลย ธนิดแอบขำเล็กน้อย

ไม่เห็นตลกสักนิด คลัดด์หน้าค่อยข้างซีด

เอาหน่าไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก แค่ทำให้ตัวนายสะอาดเท่านั้น ภูมิพัฒน์นำคลัดด์ไปไว้บนเก้าอี้เตี้ยๆใกล้กับอ่างน้ำ

แต่ว่า... คลัดด์พูดได้แค่นั้นเพราะภูมิพัฒน์ตักน้ำแล้วราดตัวคลัดด์โดยไม่บอกกล่าว

อิอิ นายตอนโดนน้ำเนี่ยก็น่ารักไปอีกแบบ

ผมเกลียดคุณ คลัดด์พูดไปงั้นๆ

ภูมิพัฒน์เองก็ฟังออก ฉันยอมรับ

ใช้เวลาสองสามนาทีในการอาบน้ำให้คลัดด์ ที่เร็วได้ขนาดนี้เพราะได้ช่างแต่งขนสัตว์มาช่วยด้วยอีกแรง

หล่อน่ารักขึ้นเยอะเลย ปิยวรรณอดชมไม่ได้เมื่อลัดด์ที่เพิ่งผ่านการตกแต่งเสร็จ จริงๆแล้วไม่มีอะไรมากแค่จัดขนให้ดูเรียบร้อยก็เท่านั้น แบบนี้ครอบครัวของคลัดด์ต้องจำไม่ได้แน่ๆ

ใจนึงผมก็หวังอย่างนั้น คลัดด์สีหน้าเศร้าลง ผมไม่แน่ใจจริงๆว่าพวกเขาจะยกโทษให้

นายมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นคลัดด์ พวกเขาต้องยกโทษให้นายแน่ อีกอย่างตอนนี้นายก็มีพวกเราทุกคนเป็นครอบครัวให้นายไว้พักใจอยู่แล้ว ภูมิพัฒน์พูด เดี๋ยวเราก็ต้องไปกันแล้วเตรียมให้พร้อมล่ะ ทุกคนในห้องรีบเดินไปหาเพื่อนๆที่เหลือเรื่องราวต่อจากนั้นก็ดังที่ผู้อ่านได้อ่านไปจากตอนที่แล้ว

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

กลับมาปัจจุบันกลุ่มของภูมิพัฒน์กำลังบินเขาใกล้ต้นไม้หมื่นปีกาฮูลเรื่อยๆ

ใหญ่จัง เจลพูด

แต่ก็เล็กกว่าต้นไม้แห่งความฝันตั้งเท่าตัว ปิยวรรณพูด ต้นไม้นี้มีอายุหมื่นปีจริงเหรอ

มันเป็นเรื่องเล่ามานานหลายต่อหลายรุ่นแล้วครับ คลัดด์พูด ไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

ภูมิพัฒน์สังเกตว่าระหว่างบินเข้าใกล้เรื่อยๆทางขวาของพวกเขามีแท่นหินสูงบนยอดมีต้นไม้ขนาดเล็กมีระฆังแบบแบนเหมือนที่เคยเห็นตามวัดกับนกฮูกสองสามตัว...ไม่รู้เหมือนกันว่าพันธุ์อะไรแต่ทั้งสามตัวสวมหน้ากากเหล็กด้วย! ราวกับนักรบในสมัยก่อนไม่มีผิด พวกภูมิพัฒน์ต้องใจหายอีกครั้งเหมือนตอนบินผ่านนกฮูกหนึ่งในสามตัวนั้นตีระฆังดังไปทั่วแถมยังตีต่อเนื่องเป็นจังหวะอยู่สี่ถึงห้าครั้ง

เขาคงไม่คิดว่าเราเป็นศัตรูใช่ไหม วรฤทัยพูด โดนฆ่าแน่ๆ

ปากหมา! พจน์ชานนพูดเสียงดุ

ฉันเป็นนกฮูกแล้วนะไม่ใช่หมาสักหน่อยต้องปากนกสิถึงจะถูก

เถียงอะไรไม่เข้าท่าเลย จีรายุพาสายหน้าเล็กน้อย

หลังเสียงดังจากระฆังเงียบลงบินต่อไปสักพักพวกภูมิพัฒน์ก็พบกลุ่มนกฮูกนานาชนิดยืนมองพวกเขาอยู่

พวกเขามองฉันด้วย! แปลว่าฉันสวยใช่ไหม วรฤทัยพูดพร้อมกับท่าทีเขินอาย

ตอแหล! พจน์ชานนพูดเสียงดุ

เธอมีอคติอะไรกับฉันเนี่ย

ภูมิพัฒน์ถอนหายใจ พวกบินจนมาถึงจุดที่บรรดานกฮูกหลายตัวยืนรอพวกเขาอยู่ ภูมิพัฒน์ได้มีเวลามอบรอบตัวพักนึง ต้นไม้หมื่นปีกาฮูกเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ โพรงภายในต้นไม้มีทั้งใหญ่เล็กไม่เหมือนกันดูเหมือนแต่ล่ะโพรงจะถูกจัดเป็นห้องๆด้วย มีน้ำตกไหลผ่านดูสวยงามไปอีกแบบ ภูมิพัฒน์มองนกฮูกบินผ่านไปมาเหนือหัวด้วยความตะลึงจนไม่ทันได้ยินเสียงเรียก

ภูมิพัฒน์! ปิยวรรณตะโกนเรียก...เรียกอย่างเดียวไม่ว่าแต่เหมือนจะปาของอะไรสักอย่างโดนหัวภูมิพัฒน์อย่างจัง

เจ็บนะพี่! ภูมิพัฒน์น้ำตาไหลเลยทีเดียว ไม่เห็นต้องปาเลย

รีบๆมาเถอะ อยู่เหมือนจะมีคนอยากพบเรา ปิยวรรณเดินตรงเข้าในโพรงที่อยู่ตรงหน้า

... ... ... ภูมิพัฒน์เดินตามอย่างเงียบแล้วไปบังเอิญเห็นก้อนหินที่พี่สาวปาใส่ เลยเตะหินก้อนนั้นโดนหัวพี่สาวอย่างจัง

... ... ... ปิยวรรณหันมาจ้องหน้าภูมิพัฒน์ เอาคืนเหรอ...

ถือว่าหายกัน ภูมิพัฒน์ดันตัวปิยวรรณเข้าไปโดยก่อนทั้งคู่จะเข้าไปก็ได้ยินเสียงจากบรรดานกฮูกที่มองอยู่

เป็นพี่น้องที่ประหลาดดีนะ ทั้งสองต่างถอนหายใจเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว

Link to comment
Share on other sites

อาบน้ำสินะ อาบน้ำสินะ หึๆๆ เหอๆๆๆ อํ๊ก!!!

Me/ เลือดกำเดากระฉูด..

เป็นพี่น้องที่รักกันดีจริงๆเลย แต่หินมันทำผิดอะไรด้วยย่ะ!!!

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

อัพต่อแล้วนะครับ~

ในที่สุดพี่กับน้องก็กำลังจะได้เจอกันแล้ว! อยากรู้จริงๆว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงกันหน่า~

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

อาบน้ำสินะ อาบน้ำสินะ หึๆๆ เหอๆๆๆ อํ๊ก!!!

Me/ เลือดกำเดากระฉูด..

จิ้นวายอีกแล้วนะวาว่าคุง -*-

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

พบกันอีกครั้ง

บรรยากาศโดยรวมบอกได้คำเดียวว่าเงียบมาก~ เหล่ากลุ่มเพื่อนรักทั้งเจ็ดรวมเจลกับคลัดด์ด้วยก็เป็นเก้าคน (หรือเรียกตัวก็ได้นะ) ต่างยืนกันตัวเกร็งเพราะข้างหน้าของพวกเขาคือไม่นกฮูกธรรมดาแต่เป็นถึงพระราชากับพระราชินีของต้นไม้หมื่นปีกาฮูล โดยพระราชาชื่อโบรอนส่วนพระราชินีชื่อบาร์รานและทั้งคู่ต่างเป็นนกฮูกหิมะ

พวกเธอคงอยากรู้ว่าทำไมถึงถูกเรียกตัว บาร์รานพูด ปกติไม่ค่อยมีหน้าใหม่ๆมาที่นี้ ส่วนมากพวกเรามักเจอโดยบังเอิญ

ทุกคนคงมาที่นี้เพราะมีเหตุผลบางอย่างสินะ โบรอนถาม

ค...ครับ ในฐานะผู้นำภูมิพัฒน์จำเป็นต้องตอบ จริงๆเขาไม่มีเรื่องที่ต้องกังวนแต่เพราะนอกจากโบรอนกับบาร์รานแล้ว ก็ยังมีนกฮูกอีกหลายตัวค่อยยืนฟังพวกเขาด้วย

ยังไงก็ตามช่วยแนะนำตัวกันหน่อยได้ไหม โบรอนถามพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นกันเอง

ครับ ผมชื่อภูมิพัฒน์ เป็นหัวหน้ากลุ่มครับ ภูมิพัฒน์ยิ้มตอบ แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายกับมองหน้ากัน

เธอเป็นหัวหน้ากลุ่มเหรอ บาร์รานถาม

ครับ

แล้ว บาร์รานหันไปมองเจล ภูมิพัฒน์เข้าใจในทันทีว่าบาร์รานต้องบอกอะไร ในสายตาของนกฮูกพวกนั้นเจลเป็นนกฮูกที่โตเต็มที่แล้ว (ผู้ใหญ่นั้นแหละ) แต่สำหรับพวกภูมิพัฒน์เจลเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในฐานะเพื่อน

เขาเป็นผู้ดูแลพวกผมครับ ชื่อเจล ภูมิพัฒน์อธิบาย

เจลครับ เจลแนะนำตัวอีกครั้งเขาหัวเราะด้วยความเขินเล็กน้อย อยากที่เขาพูดครับผมเป็นผู้ดูแลพวกเขา เจลรู้ส฿กแปลกๆยังไงชอบกลที่ต้องโกหก

เข้าใจแล้ว โบรอนพยักหน้า แนะนำตัวต่อเถอะ

ชื่อ ปิยวรรณค่ะ เป็นพี่สาวของภูมิพัฒน์และก็อีกคน... ปิยวรรณหันไปมองธนิด

ธนิดครับผม เป็นน้องของพี่ๆทั้งสองและยังเป็นน้องเล็กที่สุดในกลุ่มครับ ธนิดพูดอย่างร่าเริง

ชื่อ วรฤทัยค่ะ วรฤทัยเผลอสบตากับบาร์ราน ในช่วงเวลานั้นวรฤทัยรู้สึกว่าเธอมีหน้าตาคล้ายกับบาร์รานมากๆ ซึ่งรู้เหมือนบาร์รานก็รู้สึกได้เธอจึงยิ้มให้วรฤทัย

ชื่อ ภัสสร์นภันต์ค่ะ

ชื่อ พจน์ชานนครับ

ชื่อ จีรายุพาค่ะ

เอ่อ... คลัดด์กล้าๆกลัวๆที่จะพูด ผมชื่อคลัดด์

ว่าไงนะ! อยู่ๆสีหน้าโบรอนก็เหมือนจะตกใจมาก ชื่อคลัดด์จริงๆใช่ไหม

ครับ เขาชื่อคลัดด์ ภูมิพัฒน์เป็นคนตอบแทน มีอะไรเหรอครับ คำถามของภูมิพัฒน์ทำให้พระราชากับพระราชินีมองหน้ากันแน่นอนว่านกฮูกตัวอื่นๆก็เช่นกัน

โบรานหันไปหานกเค้าจุดภาคเหนือตัวนึง โอทูลิซซ่า เธอช่วยไปตาม พวกเขา หน่อยสิ

ได้ค่ะ โอทูลิซซ่าคำนับก่อนจะบินออกไป พวกภูมิพัฒน์ทำได้มองอย่างงงๆ แต่คลัดด์กลับเริ่มรู้สึกบางอย่างลงไปในกึ๋นของตัวเอง ต้องเป็นเขาแน่ๆ...

คลัดด์ ภูมิพัฒน์เรียกเมื่อเห็นสีหน้าคลัดด์ผิดปกติ คนอื่นๆเองก็ต่างมองมาที่เขา นายโอเคนะ

คือ... คลัดด์มีความรู้สึกที่ยากจะบรรยายได้ และทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจบางอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง ขอโทษนะทุกคน คลัดด์บินออกไปในทันทีโดยไม่ฟังใครทั้งสิ้น

เฮ้ย! คลัดด์! ภูมิพัฒน์ตกใจเป็นอย่างมากเขาหันไปหาโบรอนกับบาร์รานราวกับต้องการคำตอบ นี้มันเรื่องอะไรกันครับ!

เรื่องนั้น... โบรอนทำท่าคิดหนักมากว่าควรพูดออกไปดีไหม

เรื่องนั้นไว้เล่าที่หลังเถอะค่ะท่านโบรอน ปิยวรรณพูดก่อนหันไปหาภูมิพัฒน์ พี่ว่าน้องรีบตามคลัดด์ไปดีกว่าคงอยู่แนวๆนี้ล่ะ ปิยวรรณมองโบรอนกับบาร์รานเล็กน้อยก่อนจะมากระซิบข้างหูภูมิพัฒน์ เครื่องสื่อสารที่ลุงเอ็มติดตั้งให้น่าจะมีประโยชน์ก็ตอนนี้แหละ"

ผมเข้าใจพี่ แต่ก็ไปข้างนอกก่อน ภูมิพัฒน์กระซิบตอบ งั้นฉันออกไปตามคลัดด์ก่อนทุกคนก็รออยู่ที่นี้ล่ะ ภูมิพัฒน์กำลังจะบินออกไปแต่กลับต้องสวนทางกับนกฮูกกลุ่มนึงมีทั้งหมดสี่ตัว ภูมิพัฒน์สังเกตว่าหนึ่งในนั้นเป็นนกแสกเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนภูมิพัฒน์จะบินตามหาคลัดด์ต่อ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พอพูดถึงกลุ่มนกฮูกที่ภูมิพัฒน์พบนั้น ก็ขอกล่าวถึงสักหน่อยเพราะพวกเขามีบทบาทอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในข้างหน้า

โซเรน...นกแสกหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าทีมกำลังรอเพื่อนๆของเขาที่ห้องโถงหรือเรียกอีกอย่างว่า the great hall โซเรนเพิ่งเสร็จจากการฝึกฝนช่วงเย็นและตอนนี้ก็เป็นช่วงพักยาวโซเรนมักจะนัดกับเพื่อนๆที่นี้เสมอ

ไง! โซเรน! เสียงเรียกของนกฮูกเล็กฟังดูช่างน่ารักเสียจริง

มาแล้วเหรอกิลฟี่ โซเรนยิ้มตอบ กิลฟี่เป็นนกฮูกเล็กเพศเมียเธอเป็นเพื่อนสนิกที่สุดของโซเรน แล้วทไวไลท์กับดิกเกอร์ล่ะ ทไวไลท์กับดิกเกอร์เป็นเพื่อนอีกสองคนที่เหลือโดยทไวไลท์เป็นนกฮูกป่าสีเทาเพศผู้ ส่วนดิกเกอร์เป็นนกเค้าทุ่งหญ้าเพศผู้

มานั้นแล้วไง กิลฟี่ชี้ปีกไปที่ทั้งสองที่กำลังบินมา

อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ต้องมีบทกวีสินะ ทไวไลท์พูด ที่จริงทไวไลท์เป็นนักกวีที่เก่งมากทีเดียว (อย่างน้อยเจ้าตัวก็พูดกับพวกภูมิพัฒน์อย่างนั้นในตอนหลัง) โดยทไวไลท์จะมีเครื่องดนตรีตระกูลพิณทำจากไม้กับสายอยู่สี่สายไว้ประจำตัวเสมอ

ไม่เอานะ~ ดิกเกอร์เป็นคนที่ไม่ถูกกับบทกวีอย่างแรงไม่รู้เป็นเพราะคนร้องเป็นทไวไลท์ด้วยหรือเปล่า สำหรับโซเรนกับกิลฟี่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่กว่าที่ทไวไลท์จะได้ร้องก็มีคนเรียกสักก่อน

โซเรน! โซเรน! โอทูลิซซ่านั้นเอง เธอตะโกนเรียกตั้งแต่ไกลขณะบินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

เกิดอะไรขึ้นโอทูลิซซ่า โซเรนดูจะตกใจที่ถูกเรียก เขารู้สึกไปถึงกึ๋นของตัวเองว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญบางอย่าง

เขามาที่นี้โซเรน สีหน้าโอทูลิซซ่าบอกได้ถึงความตกใจ

ใครครับ โซเรนรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

คลัดด์!

หา!? โซเรนแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ใช่คลัดด์จริงๆเหรอครับ!

ก็เจ้าตัวแนะนำตัวอย่างนั้น

โซเรน...หมายความว่าไงกัน กิลฟี่พูด

โซเรนมองเพื่อนๆของเขาแต่ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันมาที่โอทูลิซซ่าอีกครั้ง เขาอยู่ไหนครับ

อยู่กับโบรอนและบาร์ราน ที่จริงเขาถูกเพื่อนๆพามาที่นี้

เพื่อนของพี่คลัดด์...? โซเรนนึกหน้าตาเพื่อนของคลัดด์ไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นยังไง ผมจะไปเดี๋ยวนี้!

พวกเราจะไปด้วยโซเรน กิลฟี่พูด ทไวไลท์กับดิกเกอร์พยักหน้าตอบตกลง

ก็ได้ โซเรนพูดเสร็จก็ออกบินไปยังห้องของโบรอนและบาร์รานทันที ซึ่งทันทีที่มาถึงโซเรนได้พบภูมิพันธ์ที่เดินสวนออกไป โซเรนไม่ได้สนใจมากนักในตอนนั้นเพราะอยากเจอคลัดด์พี่ชายของเขามากกว่า

คลัดด์อยู่ไหนครับ โซเรนถามเมื่อไม่มองเห็นคลัดด์

เดี๋ยวก็กลับมา ไม่ต้องห่วง ผู้ตอบคือปิยวรรณส่วนที่เหลือทำได้แต่ยิ้มแหยๆ โซเรนกับเพื่อนๆของเขาถึงกับมองหน้ากันอย่างงงๆ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ทางด้านของภูมิพัฒน์กำลังเจอกับปัญหาเพราะเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาคลัดด์ยังไงดี คลัดด์...ได้ยินไหม ภูมิพัฒน์พยายามติดต่อคลัดด์ผ่านเครื่องสื่อสารแต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะรอบๆตัวเขามีนกฮูกมากมายทั้งเดินและบินผ่านการทำตัวให้เป็นปกติจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้

ภูมิพัฒน์ได้ยินไหม เสียงที่ติดต่อมาไม่ใช่คลัดด์

ลุงเอ็มหรือครับ ภูมิพัฒน์ต้องค่อยมองรอบๆตัวเป็นระยะ คลัดด์ไม่ติดต่อกลับเลยครับ

ไม่เป็นไรลุงก็คิดไว้แล้ว ที่เครื่องสื่อสารมีการติดตั้งตัวส่งสัญญาติดตามตัวด้วย รอก่อนนะ

มีของแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย ภูมิพัฒน์นึกในใจ

ลุงได้ตำแหน่งของคลัดด์มาแล้วนะ เขาอยู่...หันไปทางทิศเหนือห่างจากออกไปประมาณห้าสิบเมตร...

ผมว่าลุงบอกสถานที่มาเลยดีกว่าไหม

นั้นสิโทษที...อ่อ...ตรงบริเวณริมลำธารทางซ้ายของเราน่ะ

ครับ ผมจะลองไปหาดู ภูมิพัฒน์ออกบินไปอย่างทุลักทุเล นอกจากบินยังไม่แข็งแล้วยังต้องไม่ไปบินชนนกฮูกตัวอื่นๆด้วย แต่ภูมิพัฒน์ก็ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็เจอกับคลัดด์ตรงตามที่ลุงเอ็มเคยบอกไว้

คลัดด์... ภูมิพัฒน์บินลงตรงข้างคลัดด์พอดี เกิดอะไรอยู่ดีๆก็...

คือ...ผมบอกตามตรงว่าผมมั่นใจนะตอนมาที่นี้ครั้งแรก...แต่เรื่องราวที่ผมเคยทำไว้คงไม่ถูกลบหายไปง่ายๆ...ผมกลัว...กลัวถ้าพวกเขาไม่ยกโทษให้ล่ะ คลัดด์หันมามองภูมิพัฒน์เหมือนต้องการให้ช่วย

ภูมิพัฒน์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี...พูดตามที่คิดแล้วกัน คิดว่าก็พวกเขาก็คงไม่ลืมในสิ่งที่นายทำกับพวกเขาไว้ แต่คลัดด์...นายเองก็บอกไม่ใช่เหรอว่าน้องชายนายเชื่อใจนายจนถึงวินาทีสุดท้าย

แต่ผมเกือบฆ่าเขาตาย...

ฟังนะคลัดด์ นายน่ะเชื่อใจฉันหรือเปล่า ภูมิพัฒน์มองตาคลัดด์ตรงสีหน้าจริงจังเป็นอย่างมาก

คลัดด์ถึงกับอึ้งไปพักนึงแต่ก็ตอบคำถามนั้น ช...เชื่อสิครับ ก็พวกคุณช่วยผมตั้งหลายอย่าง

ถ้างั้น...ถ้าฉันพูดว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยดี นายก็จะเชื่อใช่ไหม คำพูดนี้ทำให้คลัดด์อึ้งอีกครั้งเขาเข้าใจในที่สุดว่าภูมิพัฒน์จะบอกอะไร พวกเขาต้องยกโทษให้นายแน่นอนคลัดด์ ถึงจะยังไม่ใช่ตอนนี้แต่ทั้งฉันและคนอื่นๆจะช่วยเหลือนายทุกอย่างเองไม่ต้องห่วง คลัดด์นายน่ะ...ตอนนี้นายไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้วนะ

ขอบคุณ คลัดด์พูดเบาๆเขามีแอบยิ้มเล็กน้อย

ไปหาน้องของนายกันเถอะ ตอนนี้เขาคงรอนานแล้ว

ครับ คลัดด์กับภูมิพัฒน์ออกบินกลับไปหาเพื่อนๆอีกครั้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...คลัดด์มั่นใจแล้วว่าเขาจะไม่เหงาเหมือนที่เป็นมาก่อนอีกต่อไป

Link to comment
Share on other sites

ไม่อาจมีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้แล้วละคลัด จงอย่าหลีกหนีความจริงไปเลย!!!

เผชิญหน้ากับมันสิ ถึงจะล้มหรือผิดหวัง แต่ก็ยังมีเพื่อนคอยช่วยหนุนอยู่นะ!!!

Me/  :pika03: จิตวิญญาณแห่งการคลั่งเรื่องมิตรภาพกำลังลูกโชน

Link to comment
Share on other sites

กลับมาอัพต่อแล้วครับผม!

เดี๋ยวนี้บ้าแนวสืบสวนอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นในฟิคนี้จึงมีปริศนามากมายที่ต้องไขกันแน่นอน

แต่จะมาในตอนไหนนั้นคงยังบอกไม่ได้นะครับ อิอิ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไม่อาจมีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้แล้วละคลัด จงอย่าหลีกหนีความจริงไปเลย!!!

เผชิญหน้ากับมันสิ ถึงจะล้มหรือผิดหวัง แต่ก็ยังมีเพื่อนคอยช่วยหนุนอยู่นะ!!!

ถูกต้องตามนั้นเลยครับ!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

จากใจของพ่อแม่

อ่า~ มากันแล้ว ปิยวรรณพูดก่อนใครเพื่อนเมื่อเห็นภูมิพัฒน์กับคลัดด์ มาช่วยกันพูดๆหน่อยสิ

อย่าเพิ่งได้ไหมผมเหนื่อย ภูมิพัฒน์หายใจเสียงดังพอดู

ตกลงไปตามคลัดด์หรือไปทำอะไรยังไง

ก็แค่ตามนั้นแหละ!

แรงยังดีนี่หน่า

พอเถอะพวกพี่เนี่ย... ธนิดสายหน้าเล็กน้อย

ช่างเป็นสามพี่น้องที่แปลกแต่จริง วรฤทัยอดแซวไม่ได้

พี่คลัดด์... โซเรนพูดแทรกโดยไม่ได้สนใจคณะภูมิพัฒน์สักนิด พี่ยังไม่ตายจริงๆ โซเรนพยายามเข้าไปหาคลัดด์ แต่คลัดด์กลับถอยหลังเมื่อโซเรนเข้าใกล้ระยะนึง

ไปจะไหนอ่ะคลัดด์ ภูมิพัฒน์พูดเพื่อให้สถานการณ์ไม่ดูเครียดจนเกินไป เขารีบเข้าไปทักทายโซเรนทันที สวัสดีน้องชายของคลัดด์ผมชื่อภูมิพัฒน์ยินดีที่ได้รู้จักนะ

ค...ครับ...ผมโซเรน โซเรนทำหน้าหนักใจเล็กน้อย

กรี๊ด~! ชื่อโซเรนเหรอเนี่ย! ปิยวรรณเข้ามาผลักภูมิพัฒน์จนกระเด็น เจลต้องรีบเข้าไปอาการ

ค...ครับ โซเรนตอบแต่ตากลับมองภูมิพัฒน์ที่กำลังนอนท่าประหลาดอยู่

น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลยจริงๆ! ตอนแรกอยากแค่ฝ่ายพี่ตอนนี้อยากทั้งพี่ทั้งน้องเลย!

เฮ้ยๆ อยากอะไร! ทั้งคณะภูมิพัฒน์พร้อมใจกันตะโกนถาม

ปิยวรรณคงรู้สึกได้ว่าเผลอพูดไม่เข้าเรื่องเลยหัวเราะเล็กน้อย อยากทำรู้จักไง ทำความรู้จัก

งั้นรอบนี้ยกโทษให้... ภูมิพัฒน์พูด จริงสินะยังไม่ได้แนะนำที่เหลือเลย ภูมิพัฒน์แนะนำพี่สาวน้องชายและเพื่อนๆทุกคนรวมทั้งเจลด้วย ซึ่งโซเรนเองก็แนะนำเพื่อนๆของเขาเองเช่นกัน

ท่านโบรอนทั้งผมขอพาพี่คลัดด์ไปพบพ่อแม่ผมได้ไหม โซเรนพูด

โบรอนยิ้มก่อนตอบ ได้สิ จากนี้ไปฉันขอประกาศให้กลุ่มของภูมิพัฒน์ทำงานร่วมกับกลุ่มโซเรนนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ได้เลยครับ~! ภูมิพัฒน์ตอบ

งั้นก็ตามผมมา ก่อนโซเรนออกนำเป็นไปก่อนและตามมาด้วยกลุ่มภูมิพัฒน์

หัวหน้าไหวหรือเปล่า จีรายุพาพูดกับภูมิพัฒน์

หมายความว่าไง

เห็นเหนื่อยง่ายเหลือเกิน

ไหวหน่า โอเคไหม ภูมิพัฒน์ยิ้มแหยๆ

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

ใช้เวลาไม่นานเลยพวกเขาทั้งหมดก็มาถึงรังของโซเรน พ่อ! แม่! เอกแลนไทน์! คุณพี! โซเรนพูดเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พี่คลัดด์! พี่คลัดด์ยังไม่ตายครับ!

ว่าไงนะ! พ่อแม่ของโซเรนอุทานพร้อมกัน พวกเขารีบเดินมาหาโซเรนทันที จริงหรือลูก! น็อกตัสพ่อของโซเรนพูดขึ้นก่อน

ทุกคนพร้อมใจกันเปิดทางให้คลัดด์ ภูมิพัฒน์พยักหน้าให้คลัดด์เหมือนเป็นการบอกว่า ทุกอย่างต้องเรียบร้อย คลัดด์เดินไปหาพ่อแม่ช้าๆและคลัดด์ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆเขาก็ถูกกอดด้วย มาเรลลา แม่ของเขานั้นเอง ดีใจจริงๆ ดีใจมากๆที่ลูกปลอดภัย น้ำเสียงของมาเรลลาฟังดูเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มทีหลังจากนั้นน็อกตัสก็เข้ามากอดคลัดด์อีกคน

พ่อ...แม่... คลัดด์อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาหันไปหาภูมิพัฒน์ที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่ก่อนจะหันมาหาพ่อกับแม่อีกครั้ง ผม...ผมกลับมาแล้วครับ...

พี่คลัดด์... ลูกนกแสกสีขาวตัวกลมเดินมาหาคลัดด์

อ่า~! น่ารัก~! ปิยวรรณเผลอตะโกนออกมา

เงียบหน่า! ทุกคนในคณะภูมิพัฒน์พร้อมใจกัยดุปิยวรรณ

คลัดด์ไม่ได้สนใจมากนักเขายังคงมองนกน้อยตรงหน้าเขาอยู่ ไง...เอกแลนไทน์...

หนูดีใจที่พี่ไม่เป็นไร เอกแลนไทน์หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกระโดดเข้ากอดคลัดด์ทันที

ยินดีต้อนรับกลับนะคุณหนู พลิตทิเวอร์งูตาบอดพูด...เดี๋ยวงูเหรอ...

กรี๊ด~!!! ปิยวรรณร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียว และครั้งนี้ไม่มีใครคิดจะห้ามแต่อย่างใดเพราะทุกคนในคณะภูมิพัฒน์รวมทั้งคลัดด์เองต่างก็รู้ว่า ปิยวรรณกลัวงูขึ้นสมองเลยทีเดียว

ตายจริง! ร้องอะไรกันเหรอ! พลิตทิเวอร์พยายามเข้าไปดูอาการปิยวรรณ แต่ยิ่งเข้าใกล้ปิยวรรณก็ยิ่งสติแยกมากขึ้น

อ่อ...คุณนายพีครับ คลัดด์รีบเรียกห้ามพลิตทิเวอร์ไว้ รายนั้นเขา...ยังไงดีล่ะ...คือเขาไม่ถูกกับงูครับ

งั้นเหรอ...ขอโทษนะค่ะดิฉันไม่ทราบจริง พลิตทิเวอร์ก้มหัวขอโทษ

ค...ค่ะ ปิยวรรณตัวสั่นด้วยความกลัวหน่อยๆ คือหนูเคยโดนงูเลื้อยผ่านตัวตั้งแต่เด็กๆเลยกลัวตั้งแต่นั้นน่ะค่ะ

งูตัวนั้นหันมายิ้มด้วยไหม พจน์ชานนถาม

ยิ้มมั้งไอ้บ้า! ดูถ้าปิยวรรณจะอารมณ์เสียสักแล้ว

พวกเขาเป็นใครเหรอคลัดด์ มาเรลลาถาม

พวกเขาเป็นเพื่อน...เพื่อนรักของผมครับ หลังจากคลัดด์ก็เล่าเรื่องราวของเขากับคณะภูมิพัฒน์ให้ทุกคนฟังโดยไม่ลืมที่จะปกปิดความจริงที่ว่าคณะภูมิพัฒน์เป็นมนุษย์

งั้นพวกเธอทุกคนก็พาคลัดด์มาที่นี้... น็อกตัสพูด ขอบใจพวกเธอทุกคนเลยนะ

ไม่เป็นไรครับ พวกเราทุกคนอยากช่วยคลัดด์ก็เท่านั้นเอง ภูมิพัฒน์ตอบ

น็อกตัสยิ้มก่อนหันไปที่เจล คุณเป็นผู้ดูแลเด็กพวกนี้เหรอ

เจลตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆก็ถูกพูดถึง ค...ครับ...พอดีเด็กพวกนี้รู้จักกับผมเป็นการส่วนตัวเวลาไปเที่ยวที่ไหนพวกเขาก็มักให้ผมไปด้วยนะครับ

แล้วพ่อแม่พวกเธอรู้เรื่องหรือเปล่าที่พวกเธอมาที่นี้ น็อกตัสหันไปทางภูมิพัฒน์

ครับรู้อยู่แล้วครับ ปกติพวกเราทุกคนก็ชอบเที่ยวออกนอกรังอยู่แล้ว...ตั้งแต่เริ่มบินได้...

แบบนี้ชวนให้อยากร้องเพลงจริงๆ ทไวไลท์พูด

ไม่เอานะ~ ดิกเกอร์แทบอยากจะบินหนีไปสักตรงนั้น โซเรนกับกิลฟี่หัวเราะกับท่าทีของดิกเกอร์

ภูมิพัฒน์อดยิ้มไม่ได้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่กันสำเร็จด้วยดีทุกประการ แต่...นั้นมันตอนนี้! ในอนาคตตั้งหากที่พวกเขาต้องกลัวเพราะโศกนาฏกรรมนองเลือดในต้นไม้หมื่นปีกำลังจะเริ่มในไม่ช้า!

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...
“น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลยจริงๆ! ตอนแรกอยากแค่ฝ่ายพี่ตอนนี้อยากทั้งพี่ทั้งน้องเลย!”

“เฮ้ยๆ อยากอะไร!” ทั้งคณะภูมิพัฒน์พร้อมใจกันตะโกนถาม

ปิยวรรณคงรู้สึกได้ ว่าเผลอพูดไม่เข้าเรื่องเลยหัวเราะเล็กน้อย “อยากทำรู้จักไง ทำความรู้จัก”

เธอทำฉันจิ้นนะ!!! ระวังปากหน่อย ฉันยิ่งเป็นพวกจินตนาการไปไวกว่าความรับผิดชอบชั่วดีเสียด้วย!!

“ยินดีต้อนรับกลับนะคุณหนู” พลิตทิเวอร์งูตาบอดพูด...เดี๋ยวงูเหรอ...

“กรี๊ด~!!!” ปิยวรรณร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียว และครั้งนี้ไม่มีใครคิดจะห้ามแต่อย่างใดเพราะทุกคนในคณะภูมิพัฒน์รวมทั้ง คลัดด์เองต่างก็รู้ว่า ปิยวรรณกลัวงูขึ้นสมองเลยทีเดียว

“ตายจริง! ร้องอะไรกันเหรอ!” พลิตทิเวอร์พยายามเข้าไปดูอาการปิยวรรณ แต่ยิ่งเข้าใกล้ปิยวรรณก็ยิ่งสติแยกมากขึ้น

“อ่อ...คุณนายพีครับ” คลัดด์รีบเรียกห้ามพลิตทิเวอร์ไว้ “รายนั้นเขา...ยังไงดีล่ะ...คือเขาไม่ถูกกับงูครับ”

“งั้นเหรอ...ขอ โทษนะค่ะดิฉันไม่ทราบจริง” พลิตทิเวอร์ก้มหัวขอโทษ

“ค...ค่ะ” ปิยวรรณตัวสั่นด้วยความกลัวหน่อยๆ “คือหนูเคยโดนงูเลื้อยผ่านตัวตั้งแต่เด็กๆเลยกลัวตั้งแต่นั้นน่ะค่ะ”

“งู ตัวนั้นหันมายิ้มด้วยไหม” พจน์ชานนถาม

งูๆๆ งูกับนกฮูกอยู่ด้วยกัน โอ้! ได้ไงกันเนี้ย!!

(เปิดเผยหมดเลย ว่าจนถึงปัจจุบันตรูก็ยังไม่ได้มีเวลาดูอนิเมชั่นเรื่องนี้สักที อ๊ากกก!! ชีวิตมหาลัย!!)

ภูมิพัฒน์อดยิ้มไม่ได้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่กันสำเร็จด้วยดีทุกประการ แต่...นั้นมันตอนนี้! ในอนาคตตั้งหากที่พวกเขาต้องกลัวเพราะโศกนาฏกรรมนองเลือดในต้นไม้หมื่นปี กำลังจะเริ่มในไม่ช้า!

ยังมีอีก อ่า!! ยังมีอีก!!! เรื่องนี้ยังไม่จบ โอ้ววว!!! ชีวิตมหาลัยก็ไม่มีเรื่องน่าเบื่อซะทีเดียวหรอก ผมจะรอตอนต่อไปนะคร้าบ!!!

----------------------------------------------------------------------------

แม้บอร์ดจะเริ่มเงียบเหงา แม้ผู้คนจะอพยพย้ายหายไป แต่ขอให้ไมยาเตะจงรู้เอาไว้..ผมคนนี้ วาว่า จะยังคงอยู่ที่นี้ ไม่ละทิ้งไปไหน จะคอยเฝ้าดูทุกคนรวมทั้งผลงานของท่านเสมอไป!! ตราบจนบอร์ดนี้จะล่มสลายหายไปต่อหน้าต่อตา!!!

เพราะงั้น จงพยายามแต่งฟิคต่อไป อย่างน้อยก็ยังมีผมที่คอยอ่านนะครับ!!!

ปล. เพิ่งเข้าดูข้อมูลส่วนตัวไมยาเตะเมื่อครู่ ส่วนอายุ.....สวัสดีครับพี่ชาย!!! ขอโทษที่ล่วงเกินมามากเหลือเกิน!!! (อายุมากกว่าผม 3 ปีแนะ) >[]<

Link to comment
Share on other sites

อัพต่อแล้วนะครับ ท่านผู้อ่านอย่าลืมโพสตอบด้วยนะครับ~ (ขอร้อง~)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แม้บอร์ดจะเริ่มเงียบเหงา แม้ผู้คนจะอพยพย้ายหายไป แต่ขอให้ไมยาเตะจงรู้เอาไว้..ผมคนนี้ วาว่า จะยังคงอยู่ที่นี้ ไม่ละทิ้งไปไหน จะคอยเฝ้าดูทุกคนรวมทั้งผลงานของท่านเสมอไป!! ตราบจนบอร์ดนี้จะล่มสลายหายไปต่อหน้าต่อตา!!!

เพราะงั้น จงพยายามแต่งฟิคต่อไป อย่างน้อยก็ยังมีผมที่คอยอ่านนะครับ!!!

ผมก็คงไม่ไปไหนหรอกครับสบายใจได้ ^^

ปล. เพิ่งเข้าดูข้อมูลส่วนตัวไมยาเตะเมื่อครู่ ส่วนอายุ.....สวัสดีครับพี่ชาย!!! ขอโทษที่ล่วงเกินมามากเหลือเกิน!!! (อายุมากกว่าผม 3 ปีแนะ) >[]<

(O_O) (ว่าแต่ล่วงเกินเรื่องอะไรกัน)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

ตำนานไลซ์แห่งคีล

จริงสิ พวกนายอยากชมต้นไม้หมื่นปีหน่อยไหม โซเรนถาม หลังจากที่ทุกคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น

ก็ดีเหมือน ว่าไงล่ะหัวหน้า วรฤทัยพูด

อะไรๆก็หัวหน้าคิดเองไม่เป็นหรือไง ภูมิพัฒน์พูด

พูดแบบนี้ตบกันเลยดีกว่าไหม

พวกเขาเป็นแบบนี้ประจำเลยเหรอพี่คลัดด์ โซเรนหันไปทางคลัดด์

ปกติก็เป็นแบบนี้แหละ คลัดด์ยิ้มแหยๆ

แต่พวกเขาก็ดูตลกดีนะ กิลฟี่พูด

ตลกงั้นเหรอ ดิกเกอร์ทำหน้าทำตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ไม่มีใครตลกเกินกว่าฉันได้เหรอ

ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ย ทไวไลท์พูด

พวกนายรู้ไหมว่าเขาเรียกนูกฮูกที่มาจากที่อื่นว่ายังไง ดิกเกอร์เหมือนตั้งใจจะถามคณะภูมิพัฒน์ท่าทางเขาจะมั่นใจมาก ทไวไลท์สายหัวเล็กน้อยส่วนโซเรนกับกิลฟี่ยิ้มกับท่าทางของดิกเกอร์

นกบ้านนอก คนตอบไม่ใช่ดิกเกอร์แต่เป็นวรฤทัย และคงตอบถูกด้วยล่ะมั้งเพราะเล่นเอาดิกเกอร์อึ้งไปเลยแม้กระทั้งทไวไลท์ โซเรนกับกิลฟี่ก็ยังมองวรฤทัย

นี่... ภูมิพัฒน์พูด ถึงเธอจะรู้มุขเขาก็น่าจะเล่นตามเขาหน่อยนะ อยู่ๆเล่นตอบเลยมัน...

ฉันแค่ไม่อยากให้เสียเวลาน่ะ วรฤทัยหันไปทางดิกเกอร์ ขอโทษนะดิกเกอร์

ช่างเถอะ... ดิกเกอร์ดูจะยังอึ้งๆอยู่

ดูท่ากำลังสนุกอยู่เลยสินะ เสียงของใครบางคนดังมาจากด้านนอก ทุกคนหันไปดูก็พบนกฮูกสีน้ำตาลดูจากขนแล้วท่าทางแก่น่าดู

อีซิลริบ! โซเรนพูดพร้อมกับรีบเดินเข้าหาอีซิลริบ ทุกคนนี้คืออีซิลริบหรือชื่อหนึ่งคือไลซ์ แห่งคีล

ไลซ์ แห่งคีล? ภูมิพัฒน์พูดอย่างงงๆ

ฮีโร่ในตำนานที่ฉันชื่นชมมากๆ พ่อฉันชอบเล่าให้เขาฟังบ่อยๆ

ส่วนหนึ่งลูกเป็นคนขอให้พ่อเล่าให้ฟังด้วย น็อกตัสพูด

พวกนั้นมาใหม่สินะ อีซิลริบถามโซเรนโดยเขายังมองคณะภูมิพัฒน์อยู่

ครับพวกเขาเป็นเพื่อนของคลัดด์...พี่ชายผมเอง

งั้นเหรอ อีซิลริบหันไปสบตาคลัดด์ ประวัติไม่ค่อยดีนะเรา มาอยู่ที่นี้ระวังตัวก็ดี คำพูดของอีซิลริบทำให้คลัดด์มองตาโตด้วยความตกใจ

คณะภูมิพัฒน์เห็นท่าจะไม่ดีเลยต้องรีบทำอะไรสักอย่าง อีซิลริบสินะครับ ผมภูมิพัฒน์ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ภูมิพัฒน์แนะนำเพื่อนๆที่เหลือให้อีซิลริบฟัง หลังจากนี้พวกผมคงต้องอยู่ที่นี้สักพัก

ใช่ๆเข้าใจตั้งนานแล้ว และพวกนายทุกคนต้องฝึกขั้นพื้นฐานด้วย

หา!? คณะภูมิพัฒน์อุทานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย!

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

ฝึกอะไรเหรอค่ะ ปิยวรรณถาม

ถ้าตอนนี้ล่ะก็ฝึกบิน...พวกนายบินแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ฉันสังเกตตั้งแต่พวกนายบินมานี้แล้ว อีซิลริบพูด

ก็แน่ล่ะ พวกเขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่สัตว์สักหน่อย!

เดี๋ยวก่อนนะคุณบอกว่าตอนนี้คือฝึกบิน หมายความว่ามีการฝึกอย่างอื่นอีกงั้นเหรอ พจน์ชานนพูด

เรื่องนั้นเดี๋ยวพวกนายก็รู้เองในวันพรุ่งนี้ แน่นอนว่าตอนนี้พวกนายต้องฝึกบินตอนนี้เดี๋ยวนี้ตามฉันมา อีซิลริบเดินออกไปจากรัง

เขาเป็นอาจารย์ที่ดีนะถึงนิสัยจะแปลกๆไปหน่อย โซเรนพูด พวกนายน่าจะทำตามที่เขาพูดนะ

พวกเราทุกคนจะไปด้วยใช่ไหมทุกคน ทไวไลท์พูด

ก็ยังดีกว่าฟังนายร้องเพลง ดิกเกอร์พูดเสียงเบา

พวกนายต้องทำได้อยู่แล้ว กิลฟี่พูด

ภูมิพัฒน์ถอนหายใจ ทำไงได้ล่ะ... ด้วยเหตุนี้คณะภูมิพัฒน์จึงต้องไปฝึกบินกับอีซิลริบด้วยมีคณะโซเรนค่อยช่วย โดยพวกเขาไปฝึกบินกันในภูเขาใกล้กับต้นไม้หมื่นปี

การฝึกบินไม่ยากอย่างที่คิดถ้าไม่นับคลัดด์กับเจลแล้วนับว่าฝีมือการบินของแต่ละคนดีขึ้นมากเว้นแต่...

ตาหัวหน้าของพวกเราแล้ว ภัสสร์นภันต์แซวเล่นๆ ภูมิพัฒน์ทำได้แต่ยิ้มแหยๆ

เอาล่ะพ่อหนุ่มมายืนตรงนี้ อีซิลริบชี้ปีกลงตรงขอบหน้าผา

ภูมิพัฒน์ตัวสั่นเมื่อยืนตรงขอบมันเป็นความสูงที่ยากจะบรรยายได้ ถ้าเป็นนกปกติแล้วคงเป็นเรื่องปกติแต่ภูมิพัฒน์เป็นคนแถมตัวเขาเองก็ไม่ถูกกับความสูงสักเท่าไร

กลัวอะไรของนาย แค่เชื่อในสัญชาตญาณ บินด้วยใจ ไม่ว่าใครก็ทำได้

ภูมิพัฒน์คิดในใจว่าถ้าทำได้อย่างงั้นก็คงดี ตอนเขาบินมาที่นี้เขาแทบไม่มองลงข้างล่างเลยสักนิด ฉันต้องทำได้! ภูมพัฒน์ตะโกน มีเสียงเชียร์จากเพื่อนๆทั้งสองคณะ แต่...

ทำอะไรอ่ะ... จีรายุพามองดูภูมิพัฒน์อย่างงงๆ เพราะภูมิพัฒน์ทำเพียงกางปีกออกแต่ไม่ได้ขยับไปไหนเลย

บินออกไปสิ! ปิยวรรณพูด

ถ้าทำได้ผมทำไปนานแล้วพี่!

งั้นดูนั้น! ปิยวรรณยกปีกชี้ไปบนท้องฟ้าที่ไม่มีอะไร

ไหน! ทันทีที่ภูมิพัฒน์หันขึ้นไปมองปิยวรรณก็จักการถีบส่งภูมิพัฒน์ออกจากขอบหน้าผา กรี๊ด~~!!! ภูมิพัฒน์ร้องแต๋วแตกน้ำตาไหลออกมาราวกับน้ำตกระหว่างพุ่งลงไปข้างล่าง

ทันใดนั้นเองภูมิพัฒน์ก็ขยับปีกสุดแรงเกิด เขาบินได้ในที่สุดและดูเหมือนจะดีกว่าทุกคนเสียด้วยเขารีบบินมาตรงขอบหน้าผาอีกครั้ง พี่บ้า! เล่นแบบนี้ถ้าผมบินขึ้นมาไม่ได้จะทำยังไง!

แล้วเมื่อกี้นายขึ้นมาได้ยังไงเล่า! ปิยวรรณพูดอย่างอารมณ์เสีย ทั้งสองทะเลาะกันไปมาจนคณะภูมิพัฒน์ที่เหลือต้องเข้ามาห้าม

ดูเหมือนจะบินเก่งขึ้นแล้วล่ะนะ... อีซิลริบพูด

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

จบบทที่ 2 ล่ะ ต่อไปก็ขึ้นบทที่ 3 สินะ

Link to comment
Share on other sites

(O_O) (ว่าแต่ล่วงเกินเรื่องอะไรกัน)

คำพูดบางคำที่คล้ายกับคำว่าสั่งสอนไงครับ มันเป็นการเสียมารยาทต่อผู้ที่อาวุโสกว่า ใช่ไหมละครับ _ _...

----------------------------------------------------------

ตัวละครเริ่มาเยอะขึ้นแล้ว เห็นทีผมคงจะต้องหยิบการ์ตูนเรื่องนี้มาดูได้สักทีแล้วละ ไม่งั้นอารมณ์ความรู้สึกมันคงตามไม่ทันเป็นแน่ โหะๆๆ

มาส่งคลัดท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วพวกตัวเอกยังจะอยู่ต่อทีึ่ต้นไม้หมื่นปีเพื่ออะไรอีกน้อ หรือยังอยากจะเล่นอยู่สักพัก แต่ก็จะฝึกบินไปอีกทำไมเนอะ ยังไงซะก็ไม่ได้กะจะเป็นนกฮูกเต็มตัวไปตลอดชีวิตนี้หน่า...

“งั้นดูนั้น!” ปิยวรรณยกปีกชี้ไปบนท้องฟ้าที่ไม่มีอะไร

“ไหน!” ทันทีที่ภูมิพัฒน์หันขึ้นไปมองปิยวรรณก็จักการถีบส่งภูมิพัฒน์ออกจากขอบ หน้าผา “กรี๊ด~~!!!” ภูมิพัฒน์ร้องแต๋วแตกน้ำตาไหลออกมาราวกับน้ำตกระหว่างพุ่งลงไปข้างล่าง

ทัน ใดนั้นเองภูมิพัฒน์ก็ขยับปีกสุดแรงเกิด เขาบินได้ในที่สุดและดูเหมือนจะดีกว่าทุกคนเสียด้วยเขารีบบินมาตรงขอบหน้าผา อีกครั้ง “พี่บ้า! เล่นแบบนี้ถ้าผมบินขึ้นมาไม่ได้จะทำยังไง!”

เป็นพี่ที่รักน้องดีจริงๆเลยน้อ แต่ก็เคยมีคำสอนนี้หนาเนอะ ว่าพ่อจะสอนลูกให้แข็งแกร่งด้วยการถีบลูกลงหน้าผาให้ลูกไต่กลับขึ้นมาเอง โหะๆๆ

ปล.ผมไม่ยอมแพ้ความขยันของพี่หรอก ผมจะแต่งฟิคหรือคอมิคมาลงบ้างละ!!!

________________________________________________

ดูมาแล้ว ในที่สุดก็ดูจบแล้ว อ๊ากกก!!! สนุกมากเลยอ่ะ เรื่อง The Owls of Ga Hoole มหาตํานานวีรบุรุษองครักษ์ นกฮูกผู้พิทักษ์แห่งกาฮูล เนี้ย!!!

(ชื่อไทยยาวชะมัดเลย เหอๆๆ)

หนึ่งคือ โซเรน : ความแข็งแกร่งอันเกิดมาจากความฝัน(ศักดิ์ศรี พวกพ้องและความกล้าหาญ)

อีกหนึ่ง คลัดท์ : ความแข่งแกร่งอันเกิดจากความกลัว(กลัวการที่ไม่มีใครเชื่อมั่น กลัวที่จะต้องตกต่ำ...)

อยากบอกว่า.....พอได้ดูแล้วยิ่งชอบฟิคของพี่มากเป็นสองแสนหกหมืนห้าพันสามร้อยล้านเท่าเลยคร้าบ!!!!

เพราะงั้น...ได้โปรดเถอะ ขอร้องเถอะ อย่าหยุดแต่งนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมขอร้อง!!! :pika06: :pika06: :pika06:

ปล1. แอบบส่อง โซเรนXกิลฟี่ ครึๆๆๆ (Me/ถูกตบข้อหาหื่นขึ่น หลังจากได้ดูตัวหนังมาแล้ว...)

ปล2. อันที่จริงในเรื่องนั้นได้เห็นคลัดท์ที่รอดจากกองไฟเดินมาจะหยิบหน้ากากของอดีตผู้นำเพียววันด์ แต่....ผมจะทำเป็นไม่เห็นละกัน

     เพราะผมชอบคลัดท์ที่เป็นแบบฟิคพี่มากกว่า....จาเอาตอนต่อไปอ้า!!!!! >[]<

Link to comment
Share on other sites

ดูมาแล้ว ในที่สุดก็ดูจบแล้ว อ๊ากกก!!! สนุกมากเลยอ่ะ เรื่อง The Owls of Ga Hoole มหาตํานานวีรบุรุษองครักษ์ นกฮูกผู้พิทักษ์แห่งกาฮูล เนี้ย!!!

(ชื่อไทยยาวชะมัดเลย เหอๆๆ)

หนึ่งคือ โซเรน : ความแข็งแกร่งอันเกิดมาจากความฝัน(ศักดิ์ศรี พวกพ้องและความกล้าหาญ)

อีกหนึ่ง คลัดท์ : ความแข่งแกร่งอันเกิดจากความกลัว(กลัวการที่ไม่มีใครเชื่อมั่น กลัวที่จะต้องตกต่ำ...)

อยากบอกว่า.....พอได้ดูแล้วยิ่งชอบฟิคของพี่มากเป็นสองแสนหกหมืนห้าพันสามร้อยล้านเท่าเลยคร้าบ!!!!

เพราะงั้น...ได้โปรดเถอะ ขอร้องเถอะ อย่าหยุดแต่งนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมขอร้อง!!!

ผมไม่หยุดแต่งแน่นอนครับ เพียงแต่...ตอนนี้คอมผมดันตายสักงั้น -*- เลยต้องส่งซ่อมได้คืนเมื่อไรจะรีบแต่งต่อให้เสร้จเร็วๆเลยครับ

ปล1. แอบบส่อง โซเรนXกิลฟี่ ครึๆๆๆ (Me/ถูกตบข้อหาหื่นขึ่น หลังจากได้ดูตัวหนังมาแล้ว...)

มันคนละพันธุ์กันเลยนะครับ (คนละขนาดด้วย...)

ปล2. อันที่จริงในเรื่องนั้นได้เห็นคลัดท์ที่รอดจากกองไฟเดินมาจะหยิบหน้ากากของอดีตผู้นำเพียววันด์ แต่....ผมจะทำเป็นไม่เห็นละกัน เพราะผมชอบคลัดท์ที่เป็นแบบฟิคพี่มากกว่า

ตอนจบในหนังผมรู้อยู่แล้วครับ เหล่าแฟนๆของหนังเรื่องนี้ในต่างประเทศหลายคนก็อยากให้คลัดด์กลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิม ผมเลยไปเป็นหนึ่งในนั้นด้วยคน (^^)

Link to comment
Share on other sites

อัพต่อแล้วครับ! ต่อไปก็ต้องอัพฟิค PMD ต่อสินะ

ปล. คอมเพิ่งจะฟื้นคืนชีพเลยมาช้าหน่อยโทษทีครับ -*-

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

หนทางยังมีจุดหมาย ปลายทางยังมีความฝัน ตราบใดยังมีคืนวัน ความฝันนั้นอาจเป็นจริง!

เริ่มต้นการฝึกขั้นพื้นฐาน กองพลที่มีมากมายเป็นคุณจะเลือกองพลไหน เหตุการณ์จะเป็นเช่นไรโปรดติดตามใด้ใน Mystery of Ga'Hoole!

บทที่ 3 เข้าร่วมกองพล

~ ช่วงที่ 1 ~

เพื่อนใหม่ในกองพล

วันต่อมาถือได้ว่าเป็นวันที่สำคัญสำหรับคณะของภูมิพัฒน์เพราะบัดนี้พวกเขาทั้งหมดต้องเข้ากองพลที่มีอยู่หลายกองพล จะว่าไปการเข้าร่วมกองพลก็ไม่ต่างไปจากการเข้าชมรมที่โรงเรียนเพียงแต่คำว่า ‘กองพล’ ไม่ว่าฟังยังไงก็ดูจะงานหินกว่าชมรมเป็นแน่แท้

ช่วงเย็นของวันนั้นคณะของภูมิพัฒน์ไปพบโบรอนที่รัฐสภา (ในต้นไม้หมื่นปีนะอย่าเข้าใจผิด) พวกเขาบินลงตรงหน้าของโบรอน “บาร์รานล่ะครับ” ภูมิพัฒน์ถามเมื่อเห็นโบรอนอยู่ตัวเดียว

“ทางนั้นต้องไปดูแลเหล่าลูกนกนะ” โบรอนยิ้ม “เอาล่ะพวกเธอทุกตัวคงรู้แล้วว่าที่ต้นไม้หมื่นปีมีการเข้าร่วมกองพลเพื่อฝึกทักษะที่พวกเธอสนใจ” โบรอนชี้ไปที่ภาพวาดซึ่งแสดงเป็นสาขาต่างๆตามภาพ

“มีเยอะจัง” ธนิดพูด

“ใช่แล้ว ทั้งการสะกดรอย การรบ การแพทย์ นักนำทาง และอื่นๆ” โบรอนพูดไปพร้อมไปชี้ภาพวาดไปด้วย

“เอ๋!? ท่านโบรอนครับภาพวาดนั้น...ผมหมายถึงกองพลมาใหม่ใช่ไหมครับ” ภูมิพัฒน์ชี้ไปที่ภาพวาดรูปนกฮูกตัวใหญ่โดยมีลูกนกฮูกตัวเล็กๆยืนอยู่ด้านหน้า “สียังดูใหม่อยู่เลย”

“หมายถึงนี้สินะ” โบรอนมองภาพวาดแล้วอยู่สีหน้าของเขาก็ดูเศร้าๆยังไงชอบกล “พอดีมี ‘เรื่องไม่ดี’ เกิดขึ้นทางเราเองก็ตัดสินได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความของเราเองกองพลนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาไม่นานนี้เอง บาร์รานที่พูดถึงก็เป็นหัวหน้าหลักของกองพลนี้...กองพลดูแลลูกนกฮูก”

ภูมิพัฒน์อยากถามว่า ‘เรื่องไม่ดี’ ที่ว่าคือเรื่องอะไรแต่เขาเห็นว่าคงไม่เหมาะที่จะถามตอนนี้เลยเปลี่ยนใจไม่พูดอะไร

“ขอโทษนะค่ะท่านโบรอน” ปิยวรรณพูด “เกี่ยวกับกองพลเจลผู้ดูแลของเราต้องเข้าร่วมด้วยไหมค่ะ”

“อืม...ปกติแล้วนกฮูกที่โตแล้วอย่างเจลมักไม่เข้าร่วมกองพลนะ เอาเป็นว่าให้เจลไปอยู่กับพ่อแม่ของโซเรนแล้วกัน ตกลงไหมเจล”

เจลมองภูมิพัฒน์พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเจลก็ตอบในทันที “ตกลงครับ งั้นฉันไปก่อนนะรักษาตัวด้วยล่ะ” แล้วเจลก็บินจากไป

“คำพูดนั้นปกติแล้วฉัน...” ภูมิพัฒน์เกือบหลุดพูดออกไปว่า ‘ปกติแล้วฉันต้องเป็นคนพูด’ แต่ยังห้ามตัวเองไว้ได้ทัน “ม...ไม่มีอะไรครับ... แล้วคลัดด์ล่ะ”

ถูกแล้ว! จะลืมคลัดด์ไปไม่ได้เด็ดขาด “นายคิดไว้แล้วยังว่าจะเข้ากองพลไหน”

คลัดด์ทำท่าคิด “คือ...”

“เป็นอันว่าเข้ากองพลดูแลลูกนกฮูกกับฉันนะ”

“ฉันยังไม่ได้ตอบเลย!” ท่าทีของคลัดด์ไม่ต่างไปจากเด็กที่กำลังถูกแกล้ง

“แต่ฉันว่าเรื่องดูแลลูกฮูกเหมาะสำหรับนายนะคลัดด์”

“เหมาะในทางไหนกันล่ะเนี่ย”

“ของฉันเข้ากองพลการแพทย์ดีกว่า” ปิยวรรณพูด “ปกติก็เป็นฉันที่ต้องคอยดูแลพวกเราทุกตัวอยู่แล้ว”

“งั้นผมเข้าด้วย!” ธนิดพูด “เรื่องการแพทย์ผมมั่นใจว่าทำได้”

“กลุ่มเราจำเป็นต้องมีกองพลการรบไว้ด้วยก็ดี เรื่องต่อสู้ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง” พจน์ชานนพูด

“มีชายก็ต้องมีหญิงถึงจะครบ” จีรายุพาพูด

“นี่เธอสู้เป็นด้วยเหรอ”

“อย่ามาดูถูกนะย่ะ!”

“เอ้า! ฉันเคยดูผิดเหรอ”

“ฉันขอเข้าร่วมดูแลลูกนกฮูกอีกคนนะ” วรฤทัยพูด “ฉันอยากรู้จักท่านบาร์รานให้มากขึ้นด้วย”

“นั้นสิรู้สึกว่าเธอกับท่านบาร์รานดูคล้ายๆกันนะ” ปิยวรรณพูด

โบรอนเองก็ยิ้มอย่างเห็นด้วย “ตอนฉันเห็นครั้งแรกยังตกใจเลย”

“สุดท้ายก็ฉันสินะ” ภัสสร์นภันต์พูดบ้าง “ฉันเข้าร่วมกองพลนักนำทาง เรื่องนี้ขอถนัดฉันอยู่แล้ว”

โบรอนพยักหน้าตอบรับ “พวกเธอทุกตัวเลือกกองพลได้แล้วก็จงแยกย้ายไปที่ห้องเรียนกันได้เลย อาจารย์แต่ละท่านพร้อมที่จะสอนแล้ว”

เหล่าคณะภูมิพัฒน์ต่างบินแยกย้ายกันไปตามกองพลของตนเอง การเลือกเข้ากองพลที่ดูไม่มีอะไรเป็นพิเศษนี้เองจะกลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการไขคดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต!

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

เรื่องนั้นขอพักไว้ก่อน ทางด้านขอภูมิพัฒน์ คลัดด์และวรฤทัยทั้งสามบินมาถึงห้องดูแลลูกนกฮูกซึ่งส่วนมากอยู่ในวัยกำลังซน ขนาดของห้องไม่ได้ใหญ่มากนักแต่เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกนกจึงยังทำให้ไม่รู้สึกว่าห้องแคบจนเกินไป หน้าที่ของทั้งสามก็ไม่ต่างไปจากพี่เลี้ยงเด็กดีๆนี่เอง ด้วยความเป็นมนุษย์ภูมิพัฒน์กับวรฤทัยจึงรู้สึกสนุกกับหน้าที่นี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรคลัดด์ผู้ซึ่งเหมือนโดนบังคับมาที่นี้กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

“นี้มันสนามรบชัดๆ!” คลัดด์หาคำพูดมาแทนไม่ได้นอกจากคำพูดนี้แล้วจริงๆ “ช่วยกันหน่อยสิ!” คลัดด์ยังคงเรียกภูมิพัฒน์กับวรฤทัยอยู่ทั้งๆที่ตัวของคลัดด์นั้นเต็มไปด้วยลูกนกฮูกหลายตัวหลายชนิดรุมกอดเขาอยู่

แต่ทางด้านของภูมิพัฒน์กับวรฤทัยกลับเอาแต่ฟังบาร์รานอธิบายเกี่ยวกับกองพลหรือสาขาดูแลลูกนกฮูกอยู่...ไม่ได้สนใจคลัดด์สักนิด...

“การที่ท่านบาร์รานมาเป็นหัวหน้าการดูแลลูกนกฮูกแบบนี้ไม่ใช่ธรรมดาเลยนะครับ เด็กพวกนี้ต้องชอบท่านมากแน่ๆ” ภูมิพัฒน์พูดชื่นชม

บาร์รานยิ้มอย่างดีใจ “ขอบใจนะ เพราะนี้เป็นงานที่มาใหม่ฉันเลยอย่างดูแลด้วยตนเองถึงตอนนี้จะมีเพียงตัวเดียวก็เถอะ” บาร์รานหันไปหานกแสกหนุ่มตัวหนึ่ง “ ‘ควัน’ มานี่หน่อยสิจ้ะ”

“ครับ” ควันเดินมาหาบาร์ราน “มีอะไรครับท่านบาร์ราน”

“พวกเขาจะมาช่วยเธอดูแลพวกเด็กๆอีกแรง ค่อยให้คำแนะนำพวกเขาด้วยล่ะ”

“ได้ครับท่านบาร์ราน” ควันทำท่าเคารพบาร์ราน

“ใครก็ได้ช่วยที!” คลัดด์ยังคงร้องขอให้ช่วยเป็นระยะ

“ดูแลอยู่คนเดียวคงลำบากแย่” วรฤทัยพูด

“ไม่เท่าไรเหรอครับ เด็กๆเขาก็แค่ซนนิดๆหน่อยๆ”

“ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง!” คลัดด์พูดเขายังคงโดนเหล่าลูกนกรุมกอดอยู่ “ทำไมชอบฉันกันจังเลยเด็กๆพวกนี้!”

“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคลัดด์” ภูมิพัฒน์อดหัวเราะไม่ได้เหมือนสภาพของคลัดด์ในตอนนี้ “อย่างน้อยนายก็ขายออกสำหรับพวกเด็กๆเขาล่ะนะ”

“ไม่เห็นน่าดีใจตรงไหนเลย! ขอร้องล่ะมาช่วยกันหน่อยได้ไหม!”

“ก็ได้ๆ ควันมาช่วยฉันหน่อย”

“ได้ครับ” ภูมิพัฒน์กับควันต่างช่วยกันเรียกความสนใจจากเด็กๆ

วรฤทัยเห็นว่านี้เป็นโอกาสของเธอแล้ว “ท่านบาร์รานค่ะ”

“ว่าไงจ้ะ” บาร์รานยิ้มตอบ

“คือว่า...” วรฤทัยไม่เข้าใจตัวเองจริงๆเลยว่า ทำไมทั้งๆที่มีเรื่องอยากคุยกับบาร์รานตั้งเยอะแต่พอได้มีโอกาสเธอกลับไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องอะไรดี

ถึงบาร์รานจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะพูดอะไรแต่เธอรู้ดีว่าวรฤทัยคงอยากทำว่ารู้จักกับเธอเป็นแน่แท้ “ถ้าเธอมีเรื่องอยากคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวฉันยินดีที่จะพูดคุยด้วยเป็นกรณีพิเศษ”

“จ...จริงนะค่ะ” วรฤทัยตกใจกับคำพูดของบาร์รานถึงจะดีใจแต่เธอก็ไม่อยากรบกวนเวลาของบาร์ราน “ได้จริงๆเหรอค่ะ” วรฤทัยถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ได้สิจ้ะ อยากคุยเมื่อไรก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”

“ข...ขอบคุณมากๆค่ะ!” วรฤทัยทำความเคารพต่อบาร์ราน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่ภูมิพัฒน์กับควันสามารถช่วยคลัดด์ออกจากพวกเด็กๆได้ในที่สุด

Link to comment
Share on other sites

“อืม...ปกติแล้วนกฮูกที่โตแล้วอย่างเจลมักไม่เข้าร่วมกองพลนะ เอาเป็นว่าให้เจลไปอยู่กับพ่อแม่ของโซเรนแล้วกัน ตกลงไหมเจล”

เจลมองภูมิพัฒน์พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเจลก็ตอบในทันที “ตกลงครับ งั้นฉันไปก่อนนะรักษาตัวด้วยล่ะ” แล้วเจลก็บินจากไป

“คำ พูดนั้นปกติแล้วฉัน...” ภูมิพัฒน์เกือบหลุดพูดออกไปว่า ‘ปกติแล้วฉันต้องเป็นคนพูด’ แต่ยังห้ามตัวเองไว้ได้ทัน “ม...ไม่มีอะไรครับ... แล้วคลัดด์ล่ะ”

คิกๆๆ พอรู้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของแล้ว รู้สึกแปลกดีจัง... (◕ ‿‿ ◕)

“เป็นอันว่าเข้ากองพลดูแลลูกนกฮูกกับฉันนะ”

“ฉันยังไม่ได้ตอบเลย!” ท่าทีของคลัดด์ไม่ต่างไปจากเด็กที่กำลังถูกแกล้ง

“แต่ฉันว่าเรื่องดูแลลูกฮูกเหมาะสำหรับนายนะคลัดด์”

เรียรู้มาแต่การต่อสู้ มองยังไงถึงได้ดูเหมือนจะเหมาะกับการดูแลลูกนกฮูกละเนี้ย

“นี้มันสนามรบชัดๆ!” คลัดด์หาคำพูดมาแทนไม่ได้นอกจากคำพูดนี้แล้วจริงๆ “ช่วยกันหน่อยสิ!” คลัดด์ยังคงเรียกภูมิพัฒน์กับวรฤทัยอยู่ทั้งๆที่ตัวของคลัดด์นั้นเต็มไปด้วย ลูกนกฮูกหลายตัวหลายชนิดรุมกอดเขาอยู่

นึกภาพ....

โฮกกก!!! น่าร้าก โมเอะสุดๆๆ!!!  (> ‿‿ <)

นี้ถ้ามีผ้ากันเปื้อนหรือชุดเมดด้วยนะ...(อธิบายไม่ได้ แต่สุดยอดจริงๆ)

Me/ ซับเลือดพร้อมตะโกนว่า "วาว่าไม่วายนะ!!!"

วรฤทัยเห็นว่านี้เป็นโอกาสของเธอแล้ว “ท่านบาร์รานค่ะ”

“ว่าไงจ้ะ” บาร์รานยิ้มตอบ

“คือ ว่า...” วรฤทัยไม่เข้าใจตัวเองจริงๆเลยว่า ทำไมทั้งๆที่มีเรื่องอยากคุยกับบาร์รานตั้งเยอะแต่พอได้มีโอกาสเธอกลับไม่ รู้ว่าควรจะพูดเรื่องอะไรดี

ถึงบาร์รานจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะพูด อะไรแต่เธอรู้ดีว่าวรฤทัยคงอยากทำว่ารู้จักกับเธอเป็นแน่แท้ “ถ้าเธอมีเรื่องอยากคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวฉันยินดีที่จะพูดคุยด้วยเป็น กรณีพิเศษ”

รู้สึกเหมือนเป็นแม่กับลุกเลยนะเนี้ย สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเลย...  (^ ‿‿ ^)

-----------------------------------------------------------------

ขอโทษนะขอรับ ความจริงกะจะเม้นตั้งแต่วันที่ท่านโพสแล้ว แต่....ของขวัญยังไม่เสร็จ

ตอนนี้เสร็จแล้วละขอรับ นี้ครับ FanArt ของท่าน!!

gahool.jpg

เจลเป็นนกฮูกตัวเต็มวัย ก็เลยวาดให้ตัวใหญ่หน่อย จากวาย(อุ๊บ!)กลายเป็นบรรยากาศพ่อลูกซะงั้น...

อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ เพราะต้นแบบเป็นถึง 3D และวาว่ายังไม่เซียนการ Drawing มากนัก

แต่ผมก็พยายามเต็มที่แล้วนะครับ  (-- ‿‿ --)

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณสำหรับภาพวาดนะครับ วาว่าคุง ^^

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

อัพต่อแล้วครับผม

ต่อขอสารภาพตรงๆว่า ฟิค PMD 2 ตอนนี้อยู่ในช่วงตันสุดๆ คือคิดไม่ออกว่าจะแต่งต่อยังไง แต่ทั้งนี้ผมกล้าพูดได้เลยว่าจะไม่ดองไว้อย่างแน่นอน ถ้ามีวันไหนสามารถคิดเนื้อเรื่องให้้ไปต่อได้จะรีบแต่งต่อโดยเร็วที่สุดเลยครับ (^^)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 2 ~

Healing & Fighting

“โชคดีจริงๆ” โดยปกติแล้วคำพูดนี้ถ้าเจ้าตัวไม่รู้สึกว่าตัวเองดวงดีจริงคงไม่พูดคำนี้เป็นแน่แท้

“โชคดีอะไรเหรอพี่” ธนิดมองปิยวรรณพี่สาวอย่างงงๆ

“อย่าเข้าใจผิดนะพี่ไม่ได้บอกว่ากองพลนี้ฝึกสบายกว่าจริงๆ” พูดมาขนาดนี้มันก็เห็นๆกันอยู่ “พี่แค่ดีใจที่การแพทย์ที่นี้ไม่ต้องมีผ่าหรืออะไรทำนองนั้น” แหงล่ะ! นกฮูกที่ไหนจะไปผ่าตัดเป็น!

ธนิดสายหัวเล็กน้อยสำหรับเขาแล้วการเขากองพลนี้มีความหมายมากตัวเขาเองก็มีความฝันว่าอยากเป็นแพทย์มาตั้งแต่เด็กๆ ถึงธนิดจะทราบดีว่าการรักษาลูกฮูกกับมนุษย์มันต่างกันแต่อย่างน้อยถ้าเขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่สามารถนำไปใช้ได้เขาคงพร้อมเมื่อการสอบเตรียมแพทย์มาถึงในอนาคต

พอพูดถึงกองพลการแพทย์ธนิดเพิ่งสังเกตว่าจำนวนนกฮูกในกองพลนี้มีน้อยกว่าที่คิดนี้ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะทำงานกันไหวหรือเปล่า ระหว่างที่ธนิดคิดไปเขาก็ตั้งใจฟังครูฝึกบรรยายเกี่ยวกับการรักษาไปด้วยในขณะที่ปิยวรรณเหมือนใกล้จะหลับเต็มทน "พี่ครับ!” ธนิดกระซิบข้างหูปิยวรรณเพื่อไม่ให้รบกวนการสอน

แต่กลับกลายเป็นว่าปิยวรรณตกใจนึกว่าถูกจับว่าแอบหลับถึงพูดเสียงดังโดยไม่ตั้งใจ “เปล่า! ไม่ได้หลับนะค่ะ!” แน่นอนว่าทุกคนรวมถึงครูฝึกต่างหันมามองเป็นทางเดียวกัน ปิยวรรณอึ้งไปสักพักส่วนธนิดอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว!

หลังจากฟังการบรรยายเสร็จครูฝึกปล่อยให้บรรดาลูกศิษย์พักผ่อนตามใจชอบสักสิบนาที ระหว่างนั้นธนิดได้ดึงตังปิยวรรณไปมุมนึงของห้อง

“ไม่ไหวเลยพี่” ธนิดอดดุพี่สาวไม่ได้

“น่าๆพี่ขอโทษคราวหลังพี่จะตั้งใจฟัง” ปิยวรรณเหงื่อตกไม่ใช่เพราะอากาศร้อนหรอกแต่เพราะพี่คนโตอย่างเธอต้องมาโดนน้องเล็กต่อว่าแบบนี้เป็นใครก็คงเหงื่อตกเหมือนกัน

“พี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที”

“ก็บอกแล้วไงว่าพี่ขอโทษ”

“อิอิ เป็นพี่น้องที่รักกันดีจัง” เสียงหนึ่งดังขึ้น

ปิยวรรณหันไปมองก็พบว่าเป็นนกเค้าแมวหมุ่นสาวสองตัว ตัวที่พูดน่าจะเป็นตัวเมีย “พวกคุณคือ...”

“จริงสิยังไม่ได้แนะนำตัวเลยฉันชื่อ ‘เคลียร์’ ส่วนนี้เป็นแฟนฉันเองชื่อ ‘ไอแซ็ค’”

“เป็นแฟนกัน?” ธนิดพูด

“ใช่จ้ะพวกเราคบกันได้สัก...ประมาณสามเดือนใช่ไหมที่รัก”

“จ้า คิดว่าใช่” ไอแซ็คตอบอย่างอารมณ์ดี

“ดูจะรักกันมากๆเลยนะค่ะ” ปิยวรรณแอบอิจฉาในใจถึงแม้อีกฝ่ายเป็นสัตว์ก็ตาม “พวกคุณอยู่กองพลนี้นานแล้วยังค่ะ”

“ฉันน่ะอยู่กองพลนี้ได้ราวห้าเดือนแล้วส่วนที่รักฉันเพิ่งจะอยู่มาได้สามเดือนเอง” เคลียร์ตอบ

“เดี๋ยวนะครับ” ธนิดรีบพูดด้วยความสงสัย “อาจจะเสียมารยาท ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดคุณก็เริ่มคบกับแฟนคุณตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ากองพล?”

“ฉันเป็นฝ่ายขอเป็นแฟนเอง” ไอแซ็คตอบ “ก็สาวสวยคนนี้เป็นคนเดียวที่ไม่กล้ามองตาฉันทั้งๆที่สาวๆคนอื่นมองตาฉันกันยกใหญ่” ไอแซ็คหันไปมองเคลียร์จนทำให้เคลียร์อายหน้าแดงขึ้นมาทันที

“เป็นรักแรกพบสินะ” ปิยวรรณพูดแซวเล็กน้อยคราวนี้ทั้งคู่หน้าแดงแทบจะพอๆกัน

“ถ้าอย่างงั้นพวกคุณคงไม่ว่านะครับถ้าผมกับพี่สาวจะขอให้พวกคุณช่วยสอน”

“เฮ้ยๆ ฉันเกี่ยวอะไรด้วย” ปิยวรรณมองธนิดด้วยสายตาแปลกๆ

“ก็พี่ตั้งแต่ครูฝึกเริ่มสอนพี่ไม่ได้ตั้งใจฟังเลยนะสิ”

“นี่ๆพักเรื่องนั้นไว้ก่อนได้ไหม”

“ไม่ได้ๆถ้าพ่อแม่รู้เข้าพวกเขาต้องต่อว่าพี่อีกแน่ๆ”

“จริงสิ!” อยู่ๆเคลียร์ก็พูดขึ้นเหมือนนึกอะไรได้ “พวกคุณมาจากไหนกันเหรอค่ะ”

“ซวยแล้วไง!” ทั้งสองพี่น้องต่างอุทานในใจมีเพียงสิ่งนี้ล่ะมั้งที่ทำให้ทั้งสองใจตรงกัน

“อ่อเรามาจากที่ๆไกลมาก...ใช่ไหมพี่ครับ” ธนิดส่งคำพูดต่อให้พี่สาว

“ช...ใช่ๆ” ส่งมาแบบนี้แล้วฉันจะไปยังไงเล่า!

โชคดีของทั้งสองที่หมดเวลาพักพอดี ทันทีที่ครูฝึกเรียกทั้งสองจึงรีบเข้าประจำที่ทันทีเล่นเอาเคลียร์กับไอแซ็คมองหน้ากันอย่างงงๆ

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

ถ้ากองพลการแพทย์ของปิยวรรณกับธนิดเป็นการฝึกที่สบายๆล่ะก็กองพลการรบของพจน์ชานนกับจีรายุพาก็เป็นอะไรที่ต่างกันราวฟ้ากับดินเลยก็ว่าได้ กองพลการรบเป็นอะไรที่ต้องใช้พละกำลังความแข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาของทั้งสองมากนัก พจน์ชานนเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วส่วนจีรายุพาซึ่งได้เหรียญทองด้านกีฬามามากจนนับจำนวนไม่ได้การเข้ากองพลการรบจึงพูดได้ว่าเหมาะสมสำหรับทั้งคู่แล้ว อย่างไรก็ตามกองพลการรบมีตารางฝึกติดๆกันอย่างชั่วโมงแทบจะไม่มีเวลาพักเหมือนกองพลการแพทย์แล้วยังเป็นการฝึกแบบปฎิบัติสักส่วนใหญ่เรื่องความหนักหนาสาหัดจึงเป็นเรื่องที่หนีไม่ได้

แต่ถึงกระนั้นทุกกองพลต้องมีเวลาพักให้หายเหนื่อยซึ่งข้อดีที่สุดของกองพลการรบคือเวลาพักที่ยาวนานกว่ากองพลอื่นๆ

“นายเนี่ยฝึกแบบนี้เป็นประจำเลยหรอก” พจน์ชานนอดชื่นชมโซเรนไม่ได้ที่สามารถฝึกติดต่อกันหลายชั่วโมงได้โดยไม่ต้องเสียแรงมากอย่างเขา

ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่าในเวลาพักของกองพลการรบนั้นเหล่านกฝึกทั้งหมดต้องไปพักที่ห้องเรียน ดังนั้นในตอนนี้พจน์ชานน จีรายุพาและโซเรนจึงมายืนคุยกันในห้องเรียนและอีกเรื่องที่ต่างจากกองพลการแพทย์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนผู้ฝึกที่มากกว่าแทบจะสามถึงสี่เท่าตัว

โซเรนหัวเราะเล็กน้อยราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “ปกติฉันและคนอื่นๆในกองพลี้ก็ฝึกแบบนี้ตลอด ที่พวกคุณเหนื่อยง่ายคงเพราะใช้แรงมากเกินความจำเป็น”

“ใช้แรงมากเกินความจำเป็น?” จีรายุพาพูดซ้ำ

“ตอนฝึกพวกคุณคงรู้ถูกแล้วว่าพวกเราได้ใช้ไม้เป็นอาธุร แต่เวลาสู้รบกันจริงๆแล้วเราใช้ ‘กรงเล็บ’ ที่ทำจากเหล็กมันแหลมคมและแข็งมากจึงแทบจะไม่ต้องใช้แรงเลยครับ” โซเรนอธิบาย

ก็จริงอย่างที่เขาพูดพจน์ชานนกับจีรายุพาตอนฝึกนั้นต่างฝ่ายต่างออกแรงกันอย่างเต็มที่ถึงครูฝึกจะชมว่าแรงดีแต่ครูฝึกก็เตือนว่าอย่าใช้มันมากจนเกิดไปพจน์ชานเพิ่งเข้าใจคำพูดของครูฝึกก็ตอนได้ฟังโซเรนอธิบายนี้เอง

“แล้ว ‘กรงเล็บ’ ที่ว่าแต่ล่ะคนจะมีเป็นของตัวเองสินะ” พจน์ชานถามต่อ

“ใช่ครับ แต่ ‘กรงเล็บ’ นั้นจะถูกเก็บไว้ที่ห้องตีเหล็กเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ”

“ตีให้คงสภาพสินะ” จีรายุพาพูด

“ก็ประมาณนั้นครับ” โซเรนยิ้ม

“ดีจังเลยนะไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าคลัดด์จะมีน้องชายที่แข็งแกร่งแบบนี้” จีรายุพาพูดไปยิ้มไปแต่โซเรนกลับมาหน้าเศร้าที่ยากจะบรรยายได้ “ฉัน...ฉันพูดอะไรผิดเหรอ...”

“ป...เปล่าครับ พี่คลัดด์เขา...” โซเรนกำลังพูดต่อถ้าไม่ใช่เพราะมีเสียงนึงดังขึ้นมา

“ไงโซเรน” เสียงนกฮูกตัวหนึ่งดังขึ้น “วันนี้ก็ฝึกหนักตามเคย”

“ลูก้า!” โซเรนอุทานด้วยความดีใจ พจน์ชานนกับจีรายุพาหันไปมองจึงพบว่าลูก้าเป็นนกแสกผีตัวผู้ ลักษณะที่โดดเด่นของนกแสกผีคือสีขนทั้งตัวจะเป็นสีขาวนั้นเอง “ใช่ แต่ก็เหมือนๆกับทุกวัน”

ลูก้ายิ้มก่อนหันไปมองพจน์ชานนกับจีรายุพา “พวกเขาคงมาใหม่ใช่ไหม”

“ใช่ครับ / ค่ะ” พจน์ชานนกับจีรายุพามองหน้ากันอย่างไม่ตั้งใจ...ทำไมต้องตอบพร้อมกันด้วยเนี่ย!

“ดูเข้าขากันดีนะ”

“คิดอย่างนั้นจริงๆเหรอครับ” พจน์ชานนมองจีรายุพาด้วยหางตา

“เขาอาจพูดถูกก็ได้” จีรายุพาหัวเราะในลำคอ “ว่าแต่โซเรน ลูก้าเขา...”

“ลูก้าเป็นนักรบที่พัฒนาการสู้ได้ดีมากขนาดเขาเข้ากองพลหลังฉันระดับยศกลับเท่าเทียมกันแบบนี้ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว”

“พูดเกินไปมั้ง ฉันแค่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนก็เท่านั้นเอง”

“แล้วอีกคนล่ะลูก้า ‘เรย์’ เขาไม่มาฝึกเหรอวันนี้ฉันยังไม่เห็นเขาเลย”

“นั้นสิ” ลูก้าทำท่ากำลังคิด “ฉันได้ยินจากพวกครูฝึกว่าอยู่ๆเรย์ก็มาขอลาฝึกหนึ่งวัน เป็นอะไรของเขากันนะ?”

“รู้สึกว่าเมื่อวานฉันจะได้ยินว่าเรย์นัดไอแซ็ค โจชัวร์กับเอลล์ให้หยุดลาฝึกพรุ่งนี้ซึ่งก็คือวันนี้”

“จริงเหรอเขาพูดอะไรหรือเปล่า”

“เห็นบอกว่าจะคุยด้วยเกี่ยวกับ ‘ฮันเตอร์’” พอโซเรนพูดถึงฮันเตอร์อยู่ลูก้าก็หน้าซีดขึ้นมาทันตาเห็นทำเอาโซเรนตกใจไปด้วย พจน์ชานนกับจีรายุพาที่ฟังมาตั้งแต่เมื่อกี้หันหน้ากันอีกครั้งทั้งคู่ต่างคิดในใจเหมือนกัน ‘ใครคือฮันเตอร์’

ดูเหมือนลูก้าจะรู้สึกตัวเมื่อเห็นพจน์ชานนกับจีรายุพามองหน้ากันเขาจึงรีบเปลี่ยนท่าทีของตนเองใหม่ทันที “ค...คือ...เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง...ยังไงก็ขอบใจนะที่บอก”

“ไม่เป็นไรลูก้า” โซเรนเองก็ตอบกลับไปอย่างงงๆ “นายเป็นหัวหน้ากลุ่มนี่หน่า”

“ใช่ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับเรย์ทันทีที่การฝึกนี้เสร็จเมื่อไรฉันจะไปถามดู” ลูก้าพูดอย่างรวดเร็วราวกับอยากให้การสนทนานี้จบๆไปสักที “ฉันไปก่อนนะโซเรน” เหมือนกับตอนมาลูก้ารีบแยกตัวออกไปทันที โซเรน พจน์ชานนกับจีรายุพาต่างมองลูก้าด้วยความงงสุดๆ

“โซเรน” หลังเงียบมานานพจน์ชานนก็ได้มีโอกาสพูดจนได้ “ฮันเตอร์คือใครเหรอ”

“เรื่องนั้น...” สีหน้าของโซเรนเป็นอะไรที่ยากจะบรรยายจริงๆ ที่แน่ๆโซเรนดูลังเลมากๆที่จะพูดถึงนกฮูกที่ชื่อฮันเตอร์ แต่ด้วยโชคหรือเปล่าไม่ทราบเป็นช่วงที่หมดเวลาพักพอดีโซเรนเลยถือโอกาสเปลี่ยนเรื่องทันที “เรารีบกลับไปฝึกกันต่อเถอะ” โซเรนรีบบินจากไปในทันทีทิ้งให้พจน์ชานนกับจีรายุพายืนงงเป็นไก่ตาแตกกันสองต่อสอง

Link to comment
Share on other sites

“อย่าเข้าใจผิดนะพี่ไม่ได้บอกว่ากองพลนี้ฝึกสบายกว่าจริงๆ” พูดมาขนาดนี้มันก็เห็นๆกันอยู่ “พี่แค่ดีใจที่การแพทย์ที่นี้ไม่ต้องมีผ่าหรืออะไรทำนองนั้น” แหงล่ะ! นกฮูกที่ไหนจะไปผ่าตัดเป็น!

ถ้าถึงขั้นผ่าตัดเป็น คงจะต้องมีเตียงนอน สายน้ำเกลือ ยาชา ยาสลบ เป็นแน่...ถ้าถึงขั้นนั้นได้มนุษย์อายตายเลย  :pika09:

“น่าๆพี่ขอโทษคราวหลังพี่จะตั้งใจฟัง” ปิยวรรณเหงื่อตกไม่ใช่เพราะอากาศร้อนหรอกแต่เพราะพี่คนโตอย่างเธอต้องมาโดน น้องเล็กต่อว่าแบบนี้เป็นใครก็คงเหงื่อตกเหมือนกัน

เป็นพี่ที่น้องรักและเทิดทูนดีจัง.....นะ?..  :pika05:

“ซวยแล้วไง!” ทั้งสองพี่น้องต่างอุทานในใจมีเพียงสิ่งนี้ล่ะมั้งที่ทำให้ทั้งสองใจตรงกัน

“อ่อ เรามาจากที่ๆไกลมาก...ใช่ไหมพี่ครับ” ธนิดส่งคำพูดต่อให้พี่สาว

“ช...ใช่ๆ” ส่งมาแบบนี้แล้วฉันจะไปยังไงเล่า!

ตบมุขกันไม่ทันเลยทีเดียว ครึๆๆ  :pika01:

“ตอนฝึกพวกคุณคงรู้ถูกแล้วว่าพวกเราได้ใช้ไม้เป็นอาธุร แต่เวลาสู้รบกันจริงๆแล้วเราใช้ ‘กรงเล็บ’ ที่ทำจากเหล็กมันแหลมคมและแข็งมากจึงแทบจะไม่ต้องใช้แรงเลยครับ” โซเรนอธิบาย

ก็จริงอย่างที่เขาพูดพจน์ชานนกับจีรายุพาตอนฝึกนั้นต่าง ฝ่ายต่างออกแรงกันอย่างเต็มที่ถึงครูฝึกจะชมว่าแรงดีแต่ครูฝึกก็เตือนว่า อย่าใช้มันมากจนเกิดไปพจน์ชานเพิ่งเข้าใจคำพูดของครูฝึกก็ตอนได้ฟังโซเรนอธิ บายนี้เอง

“แล้ว ‘กรงเล็บ’ ที่ว่าแต่ล่ะคนจะมีเป็นของตัวเองสินะ” พจน์ชานถามต่อ

“ใช่ครับ แต่ ‘กรงเล็บ’ นั้นจะถูกเก็บไว้ที่ห้องตีเหล็กเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ”

กรงเล็บเหล็กสุดเท่ห์สินะ คิดถึงจัง...แต่ก็มีบางตัวใช้ดาบติดเล็บนี้หน่า ก็เท่ห์ไปอีกแบบ... :pika04:

แต่ตอนโซเรนใช้ท่อนไม้ไฟเนี้ย อย่างบอกว่า สุดจะฮีโร่โดยแท้!!  :pika10:

โชคดีของทั้งสองที่หมดเวลาพักพอดี ทันทีที่ครูฝึกเรียกทั้งสองจึงรีบเข้าประจำที่ทันทีเล่นเอาเคลียร์กับไอแซ็ค มองหน้ากันอย่างงงๆ
“ดีจังเลยนะไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าคลัดด์จะมีน้องชายที่แข็งแกร่งแบบนี้” จีรายุพาพูดไปยิ้มไปแต่โซเรนกลับมาหน้าเศร้าที่ยากจะบรรยายได้ “ฉัน...ฉันพูดอะไรผิดเหรอ...”

“ป...เปล่าครับ พี่คลัดด์เขา...” โซเรนกำลังพูดต่อถ้าไม่ใช่เพราะมีเสียงนึงดังขึ้นมา

“เรื่องนั้น...” สีหน้าของโซเรนเป็นอะไรที่ยากจะบรรยายจริงๆ ที่แน่ๆโซเรนดูลังเลมากๆที่จะพูดถึงนกฮูกที่ชื่อฮันเตอร์ แต่ด้วยโชคหรือเปล่าไม่ทราบเป็นช่วงที่หมดเวลาพักพอดีโซเรนเลยถือโอกาส เปลี่ยนเรื่องทันที “เรารีบกลับไปฝึกกันต่อเถอะ” โซเรนรีบบินจากไปในทันทีทิ้งให้พจน์ชานนกับจีรายุพายืนงงเป็นไก่ตาแตกกันสอง ต่อสอง

ขัดจังหวะกันได้โล่ห์เลยทีเดียว  :pika02:

มีส่วนเสริมมาเยอะแยะให้น่าลุ้นเลยทีเดียวครับ ยิ่งทำให้ผมอยากติดตามชมต่อเสียแล้วสิ!! แต่ไม่ต้องรีบ เรื่อยๆมาเรียงๆ เก็บเล็กผสมน้อยทำในยามว่างก็ได้นะครับ  :pika01:

เพราะทางนี้เองก็ตัน Pokemon Hunter เช่นกัน...(ฟิคยาวก็แทบเอาชีวิตไม่รอด ยังจะมา Comic ยาวอีก...) :pika12:

Link to comment
Share on other sites

อัพต่อครับ ในช่วงที่สมองกำลังคิดได้ต้องรีบแต่งและก็เสร็จจนได้ล่ะนะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เพราะทางนี้เองก็ตัน Pokemon Hunter เช่นกัน...(ฟิคยาวก็แทบเอาชีวิตไม่รอด ยังจะมา Comic ยาวอีก...)

เหนื่อยหน่อยนะครับ -*- (ทางนี้ก็เข้าใจดี)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 3 ~

มิตรภาพระหว่างสองคณะ

ผ่านไปหกคนที่เหลือก็คือภัสสร์นภันต์รายนี้ดูเหงากว่าใครเพื่อนแต่อย่าเพิ่งคิดไปว่าภัสสร์นภันต์ไม่มีเพื่อนในกองพลเลยสักคนล่ะเพราะภัสสร์นภันต์ยังมีกิลฟี่นกฮูกเล็กอยู่เป็นเพื่อน การฝึกกองพลนี้ไม่ค่อยยุ่งยากจะว่าไปแล้วน่าจะเป็นกองพลที่ฝึกง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ซึ่งหลักๆแล้วการฝึกของกองพลนี้คือการจำหมู่ดาวหรือกลุ่มดาวต่างๆนั้นเอง แน่นอนว่านี้ไม่ใช่ยากสำหรับภัสสร์นภันต์เธอเป็นคนที่ชอบดูดาวมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเธอจำได้ดีกว่าคุณปู่ของเธอเคยบอกว่าในสมัยก่อนดาวอยู่เต็มท้องฟ้าไปหมดแต่ในปัจจุบันไม่สามารถเห็นดาวได้เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว แต่จะว่าไปที่นี้ดวงดาวบนท้องฟ้าก็ไม่ต่างไปเกาะคฤหาสน์สักเท่าไร

“สวยจัง” ถึงภัสสร์นภันต์จะเห็นของแบบนี้มาบ่อยแต่เธอก็ยังตื่นตาตื่นใจกับการมองดูดาวอยู่ดี

“ใช่ สวยจริงๆ” กิลฟี่ตอบพร้อมกับมองดูดาวด้วยคน ในระหว่างนั้นครูสอนจะแนะนำวิธีการจำกลุ่มดาวอย่างง่ายๆโดยบอกลักษณะเด่นๆของแต่ละกลุ่มดาว

“ได้มองดูดาวแบบนี้บ่อยๆช่างรู้สึกดีจริงๆ”

“ใช่ แต่ต้องจำกลุ่มดาวต่างๆว้ด้วยล่ะภัสสร์นภันต์”

เนื่องจากการฝึกไม่ค่อยมีอะไรมากจึงขอตัดฉากไปที่การฝึกนี้ได้เสร็จสิ้นลง ทุกกองพลนั้นหลังจากฝึกเสร็จแล้วก็เป็นเวลาตามใจฉันหรือพูดง่ายคือเวลาว่างนั้นเองตรงนี้เหล่านกฮูกที่ถูกฝึกส่วนใหญ่จะไปกันที่โรงอาหารใหญ่แน่นอนว่าภัสสร์นภันต์กับกิลฟี่ก็กำลังจะไปที่นั้นเพื่อรอเพื่อนๆที่เหลือ

“ไม่รู้ว่าที่เหลือจะเป็นยังไงกันบาง” ภัสสร์นภันต์พูดขณะกำลังบินไปที่โรงอาหาร “คงมีเรื่องให้พูดกันเยอะน่าดู”

“นั้นสินะ” กิลฟี่เหมือนอยากจะพูดบางอย่าง “ฉันขอถามไรหน่อยได้ไหม”

“ว่ามาสิกิลฟี่”

“ปิยวรรณเขาชอบโซเรนหรือเปล่า”

“หา!?” ภัสสร์นภันต์แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่มีทางที่ปิยวรรณจะชอบโซเรนอย่างแน่นอน! รายนั้นชอบพูดไปอย่างนั้นเอง เอ๋!?...เดี๋ยวก่อนสิ...การที่กิลฟี่ถามแบบนี้ก็แปลว่า... “เธอชอบโซเรนเหรอ” ภัสสร์นภันต์ถามแบบตรงๆ

“ป...เปล่า...แต่ก็ชอบ...ในฐานะเพื่อน...” กิลฟี่พูดติดอ่างอย่างหนักภัสสร์นภันต์มองกิลฟี่แฝงความหมายบางอย่าง “นี่ฉันพูดจริงๆนะ!” กิลฟี่พอเห็นสีหน้าภัสสร์นภันต์เลยรีบพูดทันที

ภัสสร์นภันต์ขำเล็กน้อยก่อนพูด “เป็นอะไรของเธอกิลฟี่ ปิยววรณเขาพูดไปอย่างงั้นเองไม่ได้ความหมายอะไรเลย แต่ช่างเถอะดูเหมือนเธอยังไม่คุ้นกับคณะของฉันสินะ”

“ใช่” กิลฟี่พยักหน้า “ฉันว่าคณะเธอ...ดูแปลกๆ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นเหรอฉันไม่แปลกใจเลย” ภัสสร์นภันต์หันมายิ้มให้กิลฟี่ “พวกฉันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วถึงเห็นกัดกันแบบนี้แต่จริงๆรักกันมาก นี่ขนาดไงมาไม่ครบนะถ้ามากันครบล่ะก็ขอบอกฮากระจาย!” ภัสสร์นภันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกสนุกสนาน

กิลฟี่พอโล่งใจขึ้นมาบางแต่กลับมีคำถามนึงขึ้นมาแทน “ที่ว่า ‘มาไม่ครบ’ แปลว่าคณะเธอมีเยอะว่านี่?”

“ใช่นะค่ะ~! ถ้าไม่นับคลัดด์กับเจลล่ะก็พวกฉันที่มาที่นี้มีเจ็ดก็ขาดไปห้า” ภัสสร์นภันต์ทำท่ากำลังคิด “ถ้าถามว่าที่เหลืออยู่ไหนฉันคงบอกได้แค่ว่าทางนั้นไม่ว่างที่จะมาด้วย”

“แล้วพวกเขารู้หรือเปล่าว่าพวกเธอมาที่นี้”

“รู้สิ ทางนั้นยังบอกเลยว่า ‘เสียดายจังแต่ไปไม่ได้จริงๆ’ ทำนองนี่”

“ถามจริงพวกเธอเป็นใครกันแน่?” หนึ่งคำถามที่เป็นเหมือนระเบิดลูกใหญ่ของกิลฟี่ได้พุ่งเข้าหาภัสสร์นภันต์อย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่หัวเราะมาโดยตลอดกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ยากจะบรรยายได้ “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า...แต่ขอโทษนะกิลฟี่ฉันยังบอกไม่ได้จริงๆว่าฉันหรือคณะฉันมาจากไหน” ก็แน่สิ! ทางนกฮูกเหล่านี้รู้ว่าคณะภูมิพัฒน์เป็นมนุษย์คงแตกตื่นเป็นแน่แท้ “แต่พวกฉันเป็นคนดีนะ”

“เรื่องนั้นฉันก็รู้” กิลฟี่ยังคงสงสัยกับที่มาที่ไปของคณะภูมิพัฒน์แต่เพื่อนก็คือเพื่อน! มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาหรือเธอจะมาจากไหนกิลฟี่จึงตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องนี้อีก “เร็วเถอะเดี๋ยวโต๊ะจะไม่มีที่ว่าง” ภัสสร์นภันต์กับกิลฟี่รีบบินไปที่โรงอาหารอย่างรวดเร็ว มิตรภาพระหว่างสองคณะได้ก่อตัวขึ้นโดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ในโรงอาหารก็ขอย้อนกลับมาที่เจลสักเล็กน้อย (ถ้าลืมมีหวังถูกต่อว่าในภายหลังแน่ๆ) ซึ่งหลังจากเจลแยกตัวออกจากคณะภูมิพัฒน์แล้วเขาก็บินมายังโพรงของครอบครัวโซเรนดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่ามี น็อกตัสพ่อของโซเรนและคลัดด์ มาเรลลาผู้เป็นแม่ คุณนายพลิตทิเวอร์งูตาบอดพี่เลี้ยงประจำครอบครัวนี้และเอกแลนไทน์น้องสาวคนเล็ก

เจลรู้สึกตื่นเต้นบอกไม่ถูกเพราะเขาก็ไม่ได้อยู่กับเผ่าพันธุ์เดียวกับเขามาหลายปีแล้ว “ขออนุญาตครับ” เจลเดินเข้ามาในโพรงก็พบคุณนายพลิตทิเวอร์กำลังจัดที่นอนให้เอกแลนไทน์อยู่

“เอ้า! คุณเจลมาทำอะไรที่นี้เหรอ” น็อกตัสทันก่อนเป็นคนแรก

“ท่านโบรอนสั่งให้ผมมาที่นี้ครับ”

“แหมพูดอย่างกับเด็กๆเลยนะ แต่ฉันก็ชอบนะ” คุณนายพลิตทิเวอร์หันมาพูด

“ขอบคุณครับคุณนายพลิตทิเวอร์”

“ขอร้องเรียกว่าคุณนายพีเฉยๆเถอะครอบครัวนี้ชอบเรียกฉันอย่างนั้น”

“ค...ครับ” จนแล้วจนรอดเจลก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี

“ฉันอยากขอบคุณคุณอีกครั้งที่พาคลัดด์มาให้เรา” มาเรลลาพูด “พวกเราเสียใจมากตอนทราบว่าเขาหายตัวไปแต่ตอนนี้เขากลับมาได้เพราะคุณ” มาเรลลาล้มหัวเป็นการขอบคุณจากใจ

“หนูก็ดีใจที่พี่คลัดด์กลับมา” เสียงอันแสนน่ารักของเอกแลนไทน์ดังต่อจากแม่

เจลมองอย่างอึ้งๆแต่ก็เป็นความจริงอย่างที่มาเรลลาพูด เจลเป็นคนแรกที่เห็นคลัดด์หมดสติในเกาะคฤหาสน์ในสภาพที่ดูไม่ได้คลัดด์ในตอนนั้นถ้ามาเทียบกับตอนนี้คงพูดได้ว่าเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว “แต่ก็ไม่ใช่แค่ผม เพื่อนๆขอคลัดด์ก็ช่วยอย่างเต็มที่” เจลยกความดีความชอบไปที่ภูมิพัฒน์

“หนูชอบเพื่อนๆของพี่คลัดด์ พวกเขาดูตลกดี” เอกแลนไทน์พูด “หัวหน้ากลุ่มชื่ออะไรนะ”

“ภูมิพัฒน์จ้ะคุณหนู” คุณนายพีตอบ

“ใช่ๆ ภูมิพัฒน์หนูชอบชื่อนี้จังถึงฟังดูแปลกๆก็ตาม”

‘ก็เพราะเป็นชื่อของมนุษย์นะสิ’ เจลตอบในใจ “เป็นชื่อที่หาได้ยากจริงๆนั้นแหละ”

“แต่ว่าระหว่างคุณกับพวกเขาเป็นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?” น็อกตัสถาม ซึ่งทำเอาเจลพูดอะไรไม่ออก

“หมายความว่าไงหรือครับ...ผมก็เป็นผู้ดูแลพวกเขา” เจลพยายามตอบเพื่อให้จบๆไป

“แต่ดูพวกเขาจะไม่ได้ปฏิบัติกับคุณเหมือนคนใช้เลยเหมือนจะเป็นเพื่อนมากกว่านะเจ้าค่ะ” คุณนายพีพูด “ใช้เป็นคนใช้ประจำครอบครัวนี้มานานจึงทราบดี”

‘งานเข้าแล้วไง!’ เจลตะโกนในใจ เป็นเพื่อนก็จริงอยู่หรอก แต่ถ้าจะว่าตามตรงคือเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงมากกว่า! ถ้าพวกนี้รู้เรื่องนี้จะเป็นยังไงเนี่ย...เจลแทบนึกภาพไม่ออกเลย

“เรื่องนั้นช่างเถอะ” มาเรลลาพูด เจลแอบถอนหายใจเล็กน้อย “คุณเจลค่ะ”

“ครับ”

“คลัดด์เขาเป็นยังบ้างตอนอยู่กับคุณ...ดูเขาจะชอบคุณมากๆ”

เจลเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่ห่วงลูกๆดี “เขาขอคำแนะนำจากผมหลายๆอย่าง ผมว่าสำหรับคลัดด์แล้วเขาอยากได้ใครสักคนที่ค่อยสนใจตัวเขาล่ะมั้งครับ” เดี๋ยวก่อน...เจลคิดในใจ ทางเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่าบางทีความฝันขอคลัดด์อาจไม่ใช่การขอโทษน้องชายหรือครอบครัวแต่อาจเป็นการอยากให้ใครสักคนหันมาสนใจเขาก็ได้ไม่งั้นต้นไม้แห่งความฝันคงไม่ส่องสว่างขนาดนั้นแน่นอนเพราะถ้ายิ่งมีแสงสว่างมากเท่าไรยิ่งหมายความว่าเป็นความฝันที่สำคัญมากและต้องเป็นไปได้ยากด้วย

“เขาพูดอย่างนั้นหรือค่ะ”

“คลัดด์เคยพูดก็ประมาณว่า ‘ไม่เคยมีใครใส่ใจเขามาก่อน’ ประมาณนั้นครับ” คำตอบของเจลทำให้น็อกตัสกับมาเรลลามองหน้ากัน “แต่ผมว่าคลัดด์ในตอนนี้เข้าใจอะไรในหลายๆอย่างแล้วนะครับ...แค่รอเวลาเท่านั้น” เจลไม่สามารถพูดได้ดีไปกว่านี้แล้ว

“ฉันเข้าใจค่ะ” มาเรลลาตอบ

“พวกเราหวังว่าสักวันคลัดด์จะกล้าพูดกับเรา” น็อกตัสช่วยพูดเสริม ความหวังของพ่อแม่มักมีพลังอันยิ่งใหญ่เสมอไม่ว่าพวกลูกจะเข้าใจหรือไม่จะรู้หรือเปล่าตาม เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนต้องเข้าไปในเส้นทางที่ผิดอย่างแน่นอน...นี้คือสิ่งที่เจลคิดในตอนนี้

Link to comment
Share on other sites

ก่อนนอนก็ขออัพสักหน่อย อ่านแล้วช่วยลงความเห็นกันหน่อยนะครับ  :pika01:

- - - - - - - - - - - - - - -

~ ช่วงที่ 4 ~

ใครคือฮันเตอร์!?

“ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่อยากอาหารเลยนะ” ปิยวรรณพูดขณะมองดูอาหารบนโต๊ะซึ่งมีเนื้อของสัตว์ชนิดต่างๆทั้งดิบและสุก แต่ส่วนมากมักเป็นเนื้อหนู

ในตอนนี้ทั้งคณะภูมิพัฒน์และโซเรนต่างมารวมตัวที่โรงอาหารที่ภัสสร์นภันต์กับกิลฟี่จองไว้ก่อนหน้านั้น เวลาในตอนนี้พึ่งจะผ่านตีหนึ่งไปเศษๆสำหรับมนษุย์แล้วเวลาอย่างนี้ไม่เหมาะที่จะทานอะไรทั้งสิ้นแต่เพราะอยู่ในร่างนกฮูกความหิวจึงต่างจากที่เคย งั้นก็เถอะ...จะให้กินหนูเนี่ยนะ!

“ทำไมถึงพูดอย่างงั้น” กิลฟี่ถาม การกินหนูถือเป็นเรื่องปกติของนกฮูกอยู่แล้ว “ถ้าไม่กินอะไรเลยเดี๋ยวร่างกายจะแย่นะ”

“พี่สาวฉันคงหมายความว่าโดยปกติพวกเราไม่ค่อยได้กินของหรูๆอย่างนี้มานานแล้ว” ภูมิพัฒน์พูดแก้ให้แต่สีหน้าเขาก็ไม่ต่างไปจากพี่สาวคนโตแน่นอนว่าที่เหลือก็เช่นกัน

“เอาหน่าไม่ต้องเกรงใจกินได้เลย” โซเรนพูด

“ไม่ต้องกลัวหรอกพวกเธออยู่ในร่างนกฮูกดังนั้นการรับรสจึงเป็นของนกฮูกไปด้วยและลุงขอรับรองได้เลยว่าไม่มีผลต่อร่ายกายแน่นอน” เสียงลุงกันติดต่อเข้ามา อันที่จริงคณะภูมิพัฒน์เกือบลืมเรื่องที่ลุงกันไปแล้วเพราะลุงแกเงียบไม่ได้พูดอะไรมาตั้งนานแล้ว

“พี่เสียสละให้น้องก่อนเลย” ปิยวรรณโยนให้ภูมิพัฒน์

“ผมว่ากินพร้อมกันดีกว่าครับ” ธนิดเสนอ

“ทำไมต้อง...”

ปิวรรณยังพูดไม่จบก็โดนภูมิพัฒน์พูดตัดบทสักก่อน “กินพร้อมกันนั้นแหละ”

ระหว่างที่พี่น้องโกลวัจนะกำลังเถียงกันอยู่ก็มีบรรดาเพื่อนๆค่อยมองดูโดยไม่ได้พูดอะไร

ทั้งภูมิพัฒน์และปิยวรรณต้องจำใจกินเนื้อหนูเข้าไปพร้อมกันซึ่งทั้งทีที่กินทั้งสองก็รีบกลืนลงไปในทันที “ก็ไม่เลว!” ทั้งสองพูดพร้อมกันจากใจ ใช่ มันไม่ได้แย่อย่างที่คิดและเป็นอย่างที่ลุงกันบอกทุกอย่าง

“เห็นไหมลุงบอกแล้ว” เสียงลุงกันพูด

“งั้นพวกเราก็กินได้” ธนิดพูดเสร็จก็จัดการเนื้อหนูที่อยู่ตรงหน้าทันที เพื่อนๆที่เหลือก็ค่อยๆทานทีละนิดคงมีแต่คลัดด์กับเจลที่กินอย่างเป็นปกติที่สุด คณะโซเรนเมื่อเห็นดังนั้นจึงยิ้มออกอย่างโล่งใจ

“พวกเรามีเรื่องอยากถามพวกเธอ” กิลฟี่พูด

“ทางเราเองก็เช่นกัน” ปิยววรณพูดทั้งๆที่ยังมีเนื้อหนูอยู่ในปากเธอรีบกลืนลงคอไปก่อนพูดอีกครั้ง “ฉันว่าให้พวกเธอถามก่อนดีกว่า”

“งั้นแนขอถามหน่อยนะ” โซเรนพูดเขามองไปที่คลัดด์พี่ชายของเขาแต่ถึงกระนั้นโซเรนก็อยากถามถึงทุกคนในคณะภูมิพัฒน์ “พวกนายเจอพี่คลัดด์ที่ไหนเหรอ”

อืม...คำถามนี้ตอบไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้าตอบไปว่าเจอในที่อยู่อาศัยของมนุษย์คงไม่ดีแน่ถึงคลัดด์เคยพูดว่าตัวเขารู้จักมนุษย์แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนกฮูกทุกตัวที่ต้นไม้หมื่นปีแห่งนี้จะรู้จักคำว่า ‘มนุษย์’ หรือไม่

ความรู้สึกเหมือนพวกเขาคิดกันนานมากทั้งที่จริงเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น “เราเจอเขาบนเกาะแห่งหนึ่ง...” ภูมิพัฒน์โกหกได้อย่างยอดเยี่ยม! แต่ดูแล้วไม่น่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเลยสักนิด “พวกชอบไปเที่ยวที่เกาะนั้นบ่อยๆ ตอนเจอคลัดด์เขาดูน่าสงสารมากทั่วร่างกายมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด"

“แล้วพวกนายพาคลัดด์มาที่นี้ได้ไง ไม่สิพวกนายรู้เรื่องต้นไม้นี้ได้ยังไงด้วย”

“พี่บอกพวกเขาเอง” คลัดด์ตอบ “พี่บอกเรื่องนายเรื่องต้นไม้หมื่นรวมไปถึงเหตุการณ์ที่พี่ทำกับนายทั้งหมด...ยอมรับตอนแรกพี่ก็ไม่อยากให้พวกเขาช่วยแต่เพราะ...” คลัดด์หันไปมองภูมิพัฒน์กับเจล “เพราะพวกเขาให้ความเชื่อใจกับความช่วยเหลือพี่มาโดยตลอดถึงพี่จะยังไม่เข้าใจว่าทำไมก็ตาม แต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้ว"

“เพราะความเป็นเพื่อนไงล่ะ” น็อกตัสพูด “ไม่ว่าตอนนี้ลูกจะคิดอะไรอยู่แต่พ่อบอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นไม่ใช่แค่เพื่อนๆของลูกเท่านั้นครอบครัวเองก็จะช่วยเหลือลูกอย่างเต็มที่คลัดด์”

“พ่อครับ...” คลัดด์ดีใจจนเหมือนตัวเองอยากร้องไห้ยังไงก็ไม่รู้ “ผม....ผมทำเรื่องไม่ดีมาต้องมาก...ถึงอย่างงั้น....ถึงอย่างงั้นก็ยังจะช่วยเหลือผมงั้นเหรอ”

“ฉันถึงบอกไงว่านายไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว” ภูมิพัฒน์พูดพร้อมกับนำปีกมาวางบนหลังคลัดด์ “ตอนนี้พวกเราทุกคนก็เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว”

“บรรยากาศแบบนี้ชวนให้อยากร้องเพลงจริงๆ” ทไวไลท์พูด

“แต่ฉันว่าบรรยากาศจะเสียหมดเมื่อนายร้องเพลงทไวไลท์” ดิกเกอร์รีบพูดห้าม

“แต่หนูชอบนะเพลงของทไวไลท์” เอกแลนไทน์พูด “คุณนายพีเองยังชอบเลย”

“อิฉันฟังเพลงได้ทุกเพลงล่ะค่ะคุณหนู” คุณนายพียิ้มแต่ปิยวรรณกลับยิ้มไม่ค่อยออก

“นี่เธอยังไม่เลิกกลัวงูอีกเหรอ” ภัสสร์นภันต์พูด

“ถ้ามันเลิกกันได้ง่ายๆก็ดีสิ...ขอโทษค่ะคุณนายพี”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีนกฮูกที่กลัวงูด้วย” มาเรลลาพูดไปขำไป ปิยวรรณอดคิดไม่ได้ว่าการกลัวงูมันแปลกขนาดนั้นเลยหรือ

“ถ้าพวกนายไม่มีคำถามแล้วทางฉันขอถามบางนะ” ภูมิพัฒน์พูดเหมือนกับรอเวลานี้มานานแล้ว

b - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - d

“พจน์ชานนกับจีรายุพามีเรื่องอยากถามอย่างเดียว” ภูมิพัฒน์ส่งต่อให้ทั้งสอง

“คือว่า” พจน์ชานนเป็นฝ่ายพูด “ตอนฝึกกองพลการรบฉันกับจีรายุพาได้ยินถึงนกฮูกที่ชื่อฮันเตอร์...เขาเป็นใครเหรอ”

คณะโซเรนเมื่อได้ยินคำถามนี้ก็ต่างมองหน้ากันไปมา แต่สัญญาต้องเป็นสัญญาโซเรนจึงต้องเล่าไปตามความจริง “เรื่องของฮันเตอร์ถือได้ว่าเป็นคติสอนใจให้กับเหล่าลูกฮูกหลายๆตัวเลยก็ว่าได้” โซเรนทำสีหน้าเศร้า

“คติสอนใจ” ภูมิพัฒน์พูดซ้ำ

“ฮันเตอร์เป็นน้องชายของลูก้า” พจน์ชานนกับจีรายุพาถึงกับมองหน้ากันด้วยความตกใจ “จนทุกวันนี้ฉันก็ยังเชื่อว่าลูก้ายังคงเสียใจอยู่”

“มันเกิดอะไรขึ้น” จีรายุพาถาม โซเรนถอนหายใจก่อนเล่าความหลังให้ฟัง

*ภาพย้อนหลัง*

ฮันเตอร์เป็นนกแสกผีเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา เรื่องราวมันเกิดขึ้นก่อนพวกนายจะมาที่นี้ได้ราวหนึ่งเดือนวันนั้นเป็นวันที่มีพายุเข้าอย่างหนักซึ่งปกติแล้วคณะของฉันรวมโอทูลิซซ่าด้วยจะไปฝึกบินกลางพายุพร้อมกับอีซิลริบเป็นประจำ

วันนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่อีซิลริบก็มาบอกว่าวันนี้จะฝึกเร็วก่อนกำหนดมาคิดดูตอนนี้ การไปครั้งนั้นอาจยังช้าไปก็เป็นได้

ระหว่างที่พวกฉันกำลังจะไปถึงจุดที่ฝึกบินแล้วนั้นเอง “แย่แล้ว! ใครก็ได้ช่วยด้วย!” เสียงของเรย์ดังมาแต่ไกลตามมาด้วยไอแซ็ค โจชัวร์และเอลล์ แน่นอนว่าอีซิลริบโกธรและตกใจมากเพราะพวกนั้นถือว่ายังอ่อนประสบการณ์ที่จะมาบินกลางพายุแบบนี้ยิ่งไม่มีผู้ใหญ่ค่อยดูแลแล้วยิ่งไปกันใหญ่

“มาทำอะไรกันที่นี้!” อีซิลริบตะโกนด้วยความโกธรน้ำเสียงแฝงความตกใจไปด้วย “พวกเธอมาทำอะไรกันที่นี้!!” เขาตะโกนอีกครั้ง

“ฮันเตอร์...ฮันเตอร์เขา...” เรย์ร้องไห้โฮ “ฮันเตอร์ตกทะเลไปแล้ว!”

“ว่าไงนะ! เป็นความจริงเหรอ!” อีซิลริบพยายามถาม แต่เรย์ดูสติแตกไปแล้วส่วนที่เหลือสภาพก็พอๆกัน ตอนนั้นพวกเราทำได้แค่มองทะเลอันแสนกว้างใหญ่โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

*จบภาพย้อนหลัง*

“แล้วพบศพเขาไหม” วรฤทัยถาม เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็คงอยากรู้

“ไม่รู้...ถ้าพูดให้ถูกคือไม่มีใครพบศพเขาจนถึงตอนนี้...” โซเรนปีกตกดูเหมือนเขาเองก็รู้สึกผิดที่เขาและเพื่อนๆช่วยอะไรไม่แลย คณะภูมิพัฒน์ทำได้แต่ยืนฟังอย่างเงียบๆ

“ถ้าที่ฉันสังเกตดูลูก้าเขาก็ดูปกติ” จีรายุพาพูด

“ภายนอกเป็นอย่างนั้นแต่ภายในไม่รู้เสียหายไปเท่าไรแล้วน่ะสิ” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเสียจนสามารถได้ยินเสียงของกลุ่มนกฮูกอื่นๆที่อยู่รอบข้างได้

“เราหยุดคุยเรื่องก่อนเถอะ” เจลที่เงียบไปนานได้พูดทำลายความเงียบนั้นลง “มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมาพูดตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เราน่าจะพูดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้จะดีกว่า”

“จริงสิ” โซเรนพูดขึ้นราวกับนึกขึ้นได้ “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสักด้วยพวกเราทำเรื่องสนุกๆกันดีกว่า”

“ได้เลยฉันเห็นด้วย” ภูมิพัฒน์พูด “คณะของฉันปกติให้มีเกมให้เล่นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะอธิบายให้ฟังว่าแต่...พวกนายจะเล่นด้วยไหม”

“แน่นอนอยู่แล้ว! ใช่ไหมทุกคน” โซเรนหันไปหาเพื่อนๆทุกคนพยักหน้าเป็นการตกลง

“ดีล่ะ! งั้นพรุ่งนี้พวกเราก็สนุกกันเต็มที่ไปเลย!” ทุกคนโห่ร้องอย่างสนุกสนานทำลายความเศร้าที่มีมาตั้งแต่ต้นไปจนหมด

“งั้นก็ดี” ไม่รู้ว่าอีซิลริบมาตั้งแต่เมื่อไร “เพราะหลังจากวันนั้นพวกเธอทุกคนต้องไปฝึกบินกลางพายุกับฉัน เตรียมตัวให้พร้อมล่ะเด็กๆ” ว่าแล้วอีซิลริบก็บินจากไปอย่างรวดเร็วเหมือนตอนที่เขามา

Link to comment
Share on other sites

Guest
This topic is now closed to further replies.
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.