Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[ฟิก] Pet KingDom~ : อาณาจักรสัตว์เลี้ยงสุดหรรษา [56k Warning!]


ลูคุงไม่ถึกนะ

Recommended Posts

โอ๊กส์ เนื่อจากกระทู้ที่แล้วท่าทางจะออกแนวเละไปหน่อย ก็เลยขอย้ายมาอยู่นี่ละกันนะครับ แฮะๆ

Chapter 7 : ฤดูหนาวที่หน้าจดจำ

ไม่กี่วันหลังจากการฟื้นความทรงจำของฟิชชี่

ในวันนี้เป็นวันแรกของฤดูหนาวบนเกาะเลออน้  หิมะโปรยลงมาทำให้ทั้งเกาะขาวโพลน เต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวแห่งฤดูหนาว สัตว์เลี้ยงต่างๆบนเกาะก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะ

ตอนนี้ ไม่มีใครแยกออกระหว่างชากุกับสปาร์ค เนื่องจากทั้งคู่กลายเป็นกระต่ายสีขาวทั้งคู่ตามสัญชาติญาน ส่วนแอชคอร์ของเอมิเลีย กำลังจำศีลอย่างสงบๆบนถ้ำในป่าเวทมนต์ ทุก

คนต่างมีความสุขในฤดูหนาว โดยเฉพาะ... ฟิชชี่กับบลัดด้า

ออกมารึยัง???

ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวหมออารากิเขาจัดการเอง ใจเย็นๆเถอะฟิชชี่

เลออน้ที่เดินออกมาจากห้องพยาบาลพูดเบาๆใส่หูของฟิชชี่ที่กระวนกระวายอยู่หน้าห้องพยาบาลของวัง

เพราะในวันนี้ เป็นวันครบกำหนดคลอดของบลัดด้าแล้ว ทำให้ฟิชชี่กระวนกระวายเป็นพิเศษ โดยแมวเจ็ดสีที่เป็นเพศเมียทุกตัว(อินช่า,กราซีร่า) และหยินก็เข้าไปในห้องพยาบาลด้วย

ส่วนมนุษย์ที่เขาไปก็มีมิโดริ เอมิเลีย และลูคาริโอ้(?) ซึ่งเข้าไปช่วยหมออารากิข้างใน

...

ในห้องพยาบาล

ลูจัง กรรไกรหน่อย

ได้ค่ะ ลูจังรีบตอบแล้วส่งกรรไกรให้อารากิ

เอาล่ะ ตัดไหมตรงนี้ก็.... เรียบร้อย~! อารากิพูดอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะอุ้มลูกแมวตัวน้อยสีขาวอมฟ้ามาไว้ข้างๆ บลัดด้าที่นอนอยู่บนเตียงพิเศษสำหรับทำคลอด

แง้ว~ ลูกแมวตัวน้อยร้องเสียงแรกเกิดออกมา ทำให้เกิดความปลื้มปิติไปทั่วห้อง

ดูสิเอมิเลีย น่ารักจังเลยอ่า แง้ว จะเอากลับบ้าน~!

เก็บอาการหน่อยมิโดริ นี่ลูกบลัดด้านะ

ระหว่างบทสนทนาแห่งความปิติยินดี บลัดด้าก็ลืมตาขึ้นมา

หมออารากิค่ะ ผ่าเสร็จแล้วหรอค่ะ? เธอถามด้วยความสงสัยเพราะเธอโดนยาสลบเข้าไป 10 ถัง(เฮ้ย?!?!) จึงทำให้เกิดอาการเบลอนิดหน่อย และออน่เพลียมาก

เสร็จไม่เสร็จ คุณก็รีบตั้งชื่อลูกได้แล้วหล่ะ~ บลัดด้า อารากิยื่นลูกแมวตัวน้อยให้บลัดด้า

บลัดด้าไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มแล้วรับลูกแมวน้อยมา

ตัวเมียใช่ไหมค่ะหมอ?

ใช่ครับ

งั้น...เจ้าตัวน้อยนี่ต้องชื่อ.... สโนว์วี่... ใช่~ เอาล่ะ ต่อไปนี้ ลูกแมวตัวนี้ชื่อ สโนว์วี่นะจ๊ะทุกคน

บลัดด้าส่งเสียงอย่างมีความสุขแล้วกอดเจ้าตัวน้อยกลมดิ๊ก ทำให้ทุกคนพากันหยิบกล้องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

.

ผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง ห้องโถง

สมาชิกทุกๆคน ร่วมทั้งสัตว์เลี้ยงทุกตัว มารวมกันอยู่ในห้องนี้ รวมทั้งสโนว์วี่ที่เดินได้แล้ว(ฮะ??) เนื่องจากกิจกรรมฤดูหนาวของเลออน้ กำลังจะเริ่ม...

เอาล่ะ ซานีออน้ พี่ช่วยบอกชื่อสมาชิกของสองกลุ่มให้ฟังหน่อยสิ

ได้จ้ะ หญิงสาวผมสีชมพูสลวย ปล่อยผมยาวออกมาสองข้างที่เป็นสีรุ้ง ผูกโบว์สีชมพูทำจากเพชร ผ้าคลุมสีขาวมีรูปหัวใจสีชมพูคลุมอยู่ สุดท้ายไม่ใส่รองเม้าแต่ใส่ถุงเท้าสีชมพู

เพราะฉะนั้น ตัวเธอจึงมีแต่สีชมพู ชมพู ชมพู และชมพู...

เริ่มเลยนะคะ เราจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มและทุกคนจะต้องอยู่กับสัตว์เลี้ยงตัวเอง ส่วนแมวเจ็ดสีก็อยู่กันอีกกลุ่ม ยกเว้นสองตัว คือ ฟิชชี่ ที่ให้นมลูกอยู่ กับ สโนว์วี่ที่ดื่มนมอย่างมี

ความสุข โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีดังนี้  คุณสปอร์กับสปาร์ค อัสสึชิกับคิง โรตอมกับมอส(ทั้งหลาย) ซางิอุระกับชากุ เอมิเลียกับแอชคอร์ และสุดท้ายมิโดริกับกี้น้อยและหางฟู(ทีม

สาม) โดยดร.อารากิกับลูก้าจัง ชั้นและเลออน้ จะเป็นกรรมการค่ะ

แล้วซานีออน้ก็สคริปอีกใบขึ้นมาแล้วอ่านต่อ

โดยทีมที่ 1 สมาชิกคือคุณสปอร์ คุณโรตอม และคุณอัสสึชิค่ะ ทีมที่ 2 สมาชิกคือ คุณซากุราอิ คุณเอมิเลีย และคุณมิโดริ และทีมที่ 3 คือ เพอฟี่ อินช่า อควาเรียส กราซีร่า ซันชี่

ส่วนบลัดด้ากำลังพักฟื้นอยู่ จึงมาลงแข่งไม่ได้ค่ะ หลังจากที่ชั้นประกาศไปแล้ว ทางเราจะให้เวลาเตรียมตัว 1 ชั่วโมงนะคะ

แล้วทุกคนก็แยกย้ายจากห้องโถงไปตามทีม

...

ห้องซานีออน้

เฮ้อ ~ หญิงสาวผมรุ้งถอนหายใจขณะที่ก้าวเข้าห้องแล้วเอื้อมมือไปแตะสวิตช์ไฟ

เมื่อไฟสว่างขึ้น สายตาของเธอได้เหลือบไปยังช่อดอกไม้ดอกหนึ่งวางเอาไว้อยู่ พร้อมกับการ์ดอีกฉบับ ในแทบจะทันทีเธอเดินเข้าไปที่โต๊ะนั่นแล้วอ่านการ์ดฉบับนั้น ในการ์ดฉบับนั้น

ก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่ารูปหัวใจสีชมพูสดตกแต่งด้วยผงสะท้อนแสงสวยงาม

ใครส่งมานะ ? เธอรำพึงก่อนค้นหาชื่อผู้ส่ง แต่โชคร้ายกลับบังเกิดเมื่อเธอพบว่ามีรอยกาแฟหกอยู่บริเวณชื่อผู้ส่ง...

ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงประกาศก็ดังขึ้น...

ขณะนี้หมดเวลาแล้ว ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงได้แล้ว ย้ำ ขณะนี้หมดเวลาแล้ว ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงได้แล้ว

เด็กสาวผมรุ้งจึงรีบหยิบถุงมือและผ้าพันคอสีชมพูใส่แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง...

...

ปรี๊ด~!

เสียงนกหวีดดังยาวขึ้นหนึ่งครั้ง ทำให้สมาชิกุกคนบนเกาะมารวมตัวกันที่ห้องโถง เพื่อรอฟังประกาศของเลอ้อนต่อ...

เอาล่ะ ทุกคน พร้อมกันแล้วใช่ไหม? ดี งั้น... เกมส์แรกคือสงครามลูกบอลหิมะ ซึ่งทุกทีมจะมีฐานของตัวเองตามจุดต่างๆกัน ไปถึงก็จะเห็นเองแหละ ส่วนเกมส์ที่สองจะเป็นการปั้น

ตุ๊กตาหิมะ โดยจะมีฐานกำหนดไว้เช่นกัน และเกมส์สุดท้ายคือเกมส์ตะลุมบอนหิมะ โดยเกมส์สุดท้ายจะมีหน่วยแพทย์ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ...

ก่อนที่เลออน้จะพูดจบ โรตอมที่มีสมาธิฟังอยู่คนเดียวยกมือถามขึ้นว่า...

แล้ว...ทำไมต้องมีหน่วยแพทย์ด้วยล่ะ??

เลออน้จึงประกาศกลับไป...

โอเค ผมจะอธิบายให้ฟังละกัน คือเกมส์ตะลุมบอนหิมะ ซึ่งกฏคือ...ไม่มี

ไม่...มี??? ซากุราอิสงสัยจึงยกมือถามต่อ

ก็... ถึงต้องมีหน่วยแพทย์ไง เพราะเกมส์นี้จะทำอย่างไรก็ได้ให้ได้ธงของอีกฝ่าย โดยสัตว์เลี้ยงจะมีส่วนร่วมด้วย และ.... มารับอาวุธได้ที่ผมก่อนจะเริ่มเกมส์นะครับ เอาล่ะ เริ่ม

กิจกรรมฤดูหนาวได้~!

[แผนที่ลานหิมะของเกาะเลออน้]

mapri.jpg

.

เมื่อทุกคนประจำที่เตรียมพร้อมสำหรับเกมส์แรก เลออน้และกรรมการทุกท่านก็ลงมานั่งบนที่นั่งกรรมการ(และแน่นอนต้องป้องกันอย่างแน่นหนสุดๆ)

เอาล่ะ เริ่มเกมส์แรกได้~! เสียงประกาศดังลั่นทั่วสนามการแข่งขัน

โดยไม่รีรอ ซากุราอิยืนขึ้นแล้วโยนลูกบอลใส่หน้าสปอร์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย - -

สปอร์จึงค่อยๆล้มลงอย่างพริ้วไหว(?)แล้วล้มลงมาพร้อมใบหน้าที่ชนกับพื้นหิมะเต็มๆ

ouchd.jpg

ยัยบ้าเอ้ย.... เขาครวญคราง

เมื่อเห็นซากุราอิบุกแล้ว เพอฟี่จึงรีบยัดลูกแก้วพิษใส่ในลูกบอลหิมะแล้วถล่มใส่ทีมซากุราอิ

แอชคอร์ รับ~! เอมิเลียตะโกนสั่งให้มังกรของเธอตวัดหางรับลูกบอลพวกนั้น

แล้วเข็มพิษหล่ะ?

เมื่อสปอร์ปัดหิมะออกไปจากหน้าหมด ทันทีที่ลืมตา ใบหน้าของเขาก็โดนเข็มพิษของเพอฟี่ไปทั่วหน้าแล้ว

และไม่ต้องสงสัย เขาล้มหน้าคว่ำหิมะอีกรอบ

ขณะนี้ คุณสปอร์ ได้ออกจากการแข่งขันแล้ว เลอ้อนประกาศ แล้วหน่วยพยาบาลจึงเอาตัวสปอร์ไป

กิจกรรมก็ยังดำเนินต่อไป ซึ่ง ณ ตอนนั้น ทุกๆคนเริ่มใช้พลังของสัตว์เลี้ยงตัวเองแล้ว

คิง พ่นไฟใส่กองหิมะพวกมันเลย~!!! อัสสึชิตะโกนออกไปเสียงลั่น ส่วนคิงที่ฟังคำสั่งเจ้านายอย่างไม่เต็มใจ จึงปล่อยไฟออกไปเป็นบริเวณกว้าง ละลายกำแพงหิมะของอีกสองฝั่ง

ทีมเอมิเลียไม่หวั่นไหว เพราะแอชคอร์คอยพ่นน้ำแข็งไว้ป้องกันตลอดเวลา และยังพ่นก้อนน้ำแข็งแหลมๆไปยังทีมอื่นอีกด้วย

ส่วนทางแมวเจ็ดสี อินช่า ซึ่งเป็นแมวแม่หมอเวทย์มนต์อยู่แล้ว จึงไม่ยากที่เธอจะเรียกยักษ์น้ำแข็งของตำนานนอร์สได้ ส่วนเพอฟี่ก็ยังใช้ไม้สกปรกอยู่ โดยให้อาริสโก้คอยพ่นหิมะ

ออกมาแล้วจึงโยนเข็มพิษใส่ทางด้านหลัง

เอิ่ม เลอ้อน

ฮืม? อะไรหรอซานีอ้อน เลออน้ตอบขณะหันหน้าไปมองซานีออน้อย่างสงสัย

คือ พี่ว่า.... มันจะดุเดือดไปรึปล่าวอ่ะ

อืม.... ก็ไม่นี่ เห็นด้วยไหมพี่อารากิ องค์ชายน้อยหันไป

แต่ทว่า ภาพที่เลอ้อนและซานีอ้อนเจอ คือ ...

คุณลูคาริโอ้กำลังพิงอารากิหลับไปอย่างสวยงาม  ช่างเป็นภาพที่สวีทเกินกว่าเลอ้อนจะทนไม่เก็บภาพไม่ไหว

ระหว่างนั้น .... ในสนามรบ(?)

ชากุ ฆ่ามานนนนนน~!!!!! ซากุราอิตะโกนสั่งกระต่ายน้อยของเธอ โดยไม่รีรอ ชากุน้อยปล่อยสายฟ้าอกไปตามพื้นหิมที่กำลังละลายเพราะความร้อนของคิงที่พ่นทำลายป้อม(?)หิมะ

ของทีมอื่น

แต่ก่อนที่สายฟ้าจะไปถึงทีมอื่น ก็ต้องผ่านทะเลสาบโมนาร์ช ซึ่งมีตำนานลึกลับมากมายก่ายกองจนแทบนับไม่ไหว แล้วทันทีที่กระแสไฟฟ้าไหลไปถึงนั้น  แผ่นดินไหวย่อมๆก็เกิดขึ้น

ทั่วเกาะ

เหวอๆๆๆๆ เสียงโรตอมที่สั่นไปสั่นมาจนต้องล้มไปกองในกองหิมะอีกคน  ส่วนฝั่งแมวเจ็ดสีก็วิ่งหนีลาวาที่ไหลลงมาจากปล่องภูเขาไฟด้านหลัง มาเจอกับความเย็นของหิมะด้าน

ล่าง

แล้วแผ่นดินไหวก้หยุดลง... ทีมแมวเจ็ดสีโดนหิมะทับกองเป็นตุ๊กตาแมวหิมะกันเต็มไปหมด ส่วนทีมฝั่งผู้ชายก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน ... นอกจากมีใบไม้จากป่าข้างหลังมาตกแต่งนิด

หน่อย

เอาล่ะ ทุกท่าน ขณะนี้เกมส์ปาบอลหิมะได้จบลงแล้ว ส่วนทีมที่ชนะก็คือ....

เลอ้อนหยุดชะงักเพื่อลดความตื่นเต้น ก่อนจะประกาศต่อว่า...

ทีมธงน้ำเงินคร้าบบบบบบบ~!!!!!!!!!

สิ้นเสียงประกาศ ผู้ที่ติดอยู่ในก้อนหิมะถูกละลายออกมาเพื่อฟังประกาศต่อไป สนามก็ถูกเก็บจนเกลี้ยง เพื่อเตรียมสำหรับเกมส์ต่อไป

แล้วเลอ้อนก็เดินมาประกาศต่อว่า...

เกมส์ต่อไป... เกมส์ปั้นตุ๊กตาหืมะครับ แต่เราจะพักกันก่อนนะครับ ตอนนี้กระท่อมหิมะข้างๆผมมีช็อกโกแลตร้อนๆใส่มาร์ชแมวโล่วกับขนมอีกสองสามอย่างรอ.... ยังไม่ทันที่เลอ้อน

จะพูดจบ เหล่าสมาชิกก็หายไปกันหมด ก็แน่หล่ะ ใครอยากจะทนหนาวถ้าอุ่นได้

แฮะๆ ดูท่าคงจะหนาวมากเลยนะนั่น เอาล่ะ เราก็ไปพักกันมั่งเฮอะ แล้วเจ้าชายน้อยก็ลุกจากบัลลังก์ ก่อนจะเดินไปกรท่อมข้างๆพร้อมกับซานีอ้อน แล้วก็ครอบครัวอารากิ

10 นาทีผ่านไป....

เอาล่ะครับ กิจกรรมปั้นตุ๊กตาหิมะ ก็อย่างที่บอกเราจะปั้นตุ๊กตาหิมะกันนะครับ เอ่อ.. อืม... เลอ้อนหยิบสกริปอีกแผ่นขึ้นมาอ่านต่อ

ทีมเราก็ยังเหมือนเดิม โดยพื้นที่ปั้นก็รอบๆ ทะเลสาบโมนาร์ชนะครับ เกณฑ์การให้คะแนน คือ หนึ่ง ขนาด สอง ความเร็วในการสร้าง สาม ความสวยงามครับ  เอาล่ะ เริ่มเกมส์ได้

สิ้นเสียงประการ ทุกคนก็วิ่งลงไปประจำตำแหน่งแล้วเริ่มปั้นตุ๊กตาหิมะกัน

ทีมแมวเจ็ดสีเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วเพราะอินช่ายังใช้ยักษ์หิมะในการช่วยปั้นอยู่ ทำให้ปั้นได้อย่างรวดเร็ว ส่วนทีมของเอมิเลียก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยให้ซากุราอิส่องแสงละลายตุ๊กตา

หิมะของทีมแมวเจ็ดสีและทีมของโรตอม

เมื่อสถานะการไม่ดี โรตอมเองก็ใช้ยุงยิงลำแสงตัดหิมะของทั้งสองทีม และยังเพิ่มความร้อนด้วยไฟของคิงอีก ทำให้ยากเกินจะสร้างต่อไหว

อาริสโก้จึงรีบใช้ไฮโดรปั้มใส่ปากของคิง เนื่องจากเป็นธาตุดิน/ไฟ ทำให้คิงลงไปกองกับพื้นในทันที

คิง ออกจากการแข่งขัน เลอ้อนประกาส แล้วนั่งจิบช็อกโกแลตร้อนต่อ

เมื่อคิงหายไปแล้วทำให้ทีมโรตอมตกอยู่สถานะการณ์ที่น่าลำบาก เนื่องจากเหลือสัตว์เลี้ยงอยู่ 1 ชนิด ทำให้โรตอมปล่อยยุงออกมาเป็นกองทัพ ไปจิกกัดทีมอื่นทำให้การดำเนินการ

หยุดชะงัก ส่วนอัสสึชิเองก็รีบปั้นต่ออย่างเรื่อยๆ

มิโดริเรียกกี้น้อยออกมาในทันที แล้วสั่งให้แผดเสียงใส่ยุงที่บินเข้ามา ร่วงลงสู่พื้นหิมะไปเป็นกอง

ส่วนแมวเจ็ดสี เพอฟี่ปล่อยก๊าสอันตรายทำให้ยุงล้มเป็นแถวเช่นกัน ส่วนกราซีร่าก็ยังให้ต้นไม้ช่วยตักหิมะมาถมเรื่อยๆ และเร่งการโตด้วยแสงของซันชี่ ชั่งเป็นคอมโบที่ดีจริงๆ

และแล้ว ทีมแมวเจ็ดสีก็ปั้นตุ๊กตาหิมะเสร็จเป็นทีมแรก เหล่ากรรมการจึงประกาศพร้อมกันว่า

ทีมแมวเจ็ดสีเสร็จสิ้นแล้ว ให้หยุดทำการโจมตีทีมนี้ แต่โจมตีทีมอื่นต่อได้

เมื่อประกาศจบก็วิ่งลงมาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อเสร็จแล้วก็ขึ้นไปที่นั่งกรรมการแล้ว เพื่อจัดการคะแนนต่อ

ส่วนอีกสองทีมก็ยังห่ำหั่นกันต่อ และแล้ว..ทีมเอมิเลียก็ปั้นเสร็จ

เอาล่ะครับ การแข่งขันปั้นตุ๊กตาหิมะได้จบลงแล้ว ขอให้ทุกคนไปพักที่กระท่อมเดิมครับ ทางกรรมการจะทำการตรวจก่อนนะครับ เลอ้อนประกาศเช่นเดิม ทุกคนจึงรีบวิ่งไปที่

กระท่อม เพื่อดื่มช็อกโกแลตร้อนกับขนมอีกมากมาย

45 นาทีผ่านไป

เอาล่ะครับทุกท่าน ผลประการออกมาแล้ว เจ้าชายน้อยหยุดประการเพื่อยื่นผลให้พี่สาว

ซานีอ้อนรับสคริปมา แล้วประกาศต่อว่า...

ทีมที่ 1 ความสูงของตุ๊กตาหิมะ 1.5 เมตร ความ ใช้เวลา 48.23 นาที ความสวยงาม 3 ดาวค่ะ เธอพูด แล้วเปลี่ยนสคริปแผ่นต่อไปแล้วอ่านต่อ

ทีมที่ 2 ความสูงของตุ๊กตาหิมะ 2.3 เมตร ใช้เวลา 45.30 นาที ความสวยงาม 4.5 ดาวค่ะ

และทีมสุดท้ายทีมที่ 3 นะคะ ความสูงของตุ๊กตาหิมะ 5 เมตร ความเร็ว 32.12 นาที ความสวยงาม 4.9 ดาวค่ะ สรุปคือ ทีมที่สามชนะค่า~!!!

สิ้นเสียงประกาศ เลอ้อนก็หยิบไมโครโฟนแล้วพูดต่อว่า...

เกมส์สุดท้ายนะครับ ตะลุมบอลหิมะนะครับ ทีมใดชิงธงของอีกฝ่ายมาได้ก่อน จะเป็นฝ่ายที่ชนะนะครับ โดยทางเราจะให้เวลาเตรียมตัว 15 นาทีก่อนเริ่มแข่งนะครับ ส่วนบูธรับอาวุธ

อยู่ทางด้านในของกระท่อมเหมือนกันนะครับ เมื่อประกาศจบเลอ้อนก็หยิบช็อกโกแลตขึ้นมาจิบก่อนจะผลอยหลับไป(คงจะเหนื่อย)

ตัดมาที่กระท่อมพักผ่อน...

นี่อัสสึชิ เราเสียสมาชิกทีมไป 1 คนกับอีก 1 ตัวแล้วนะ ส่วนสปาร์คก็ไม่ยอมช่วยเพรามัวแต่กินฟักทองเผือกอยู่นั่นแหละ - - โรตอมกระซิบกับอัสสึชิ เนื่องจากทีมของพวกเขาตกอยู่

ในที่น่าลำบาก เพราเหลือผู้เล่นที่ใช้งานได้แค่ 2 คนกับอีกหลายแสนตัว(ซึ่งเล็กกระจิ๋ว)

งั้น... เราก็รีบไปหยิบอาวุธก่อนสิ ได้ข่าวว่าเลอ้อนมีแต่อาวุธโบราณเท่านั้นนะ ทันสมัยที่สุดก็หน้าไม้กับปืนใหญ่นั่นแหละอัสสึชิทัก ก่อนชวนโรตอมเดินไปที่บูธอาวุธ เพื่อสอบถาม

ว่าอาวุธทันสมัยที่สุดคืออะไร

ก็ อาวุธที่ทันสมัยที่สุดตอนนี้ในบูธ คือ... ระเบิดมือแบบกลมครับ กับปืนใหญ่พกพาครับ พนักงานตอบก่อนชี้อาวุธให้ดู

งั้น เราขอทั้งสองอย่างได้ไหมครับ? อัสสึชิซักถาม

ก็... ได้นะครับ เพราพวกท่านมีสองคนนี่ แล้วสัตว์เลี้ยงท่านหล่ะครับ?  พนักงานถามอีกครั้ง

อืม ถึงให้มันใช้ทั้งร้านก็ไม่พอหรอกครับ แฮะๆ โรตอมตอบ แล้วหัวเราะแห้งๆ ก่อนเดินออกไป ทิ้งปริศนาให้พนักงานไว้

หลังจากนั้นอีก 15 นาที...

เกมส์สุดท้ายกันแล้วนะครับทุกท่าน แต่ก่อนอื่น กระผมขอตรวจสอบวาวุธด้วยนะครับ โดยก้าวออกมา บอกชื่อ แล้วก็อาวุธนะครับ เมื่อประกาศจบ โรตอมก็เดินออกมาคนแรก

กระผม โรตอม อาวุธ ปืนใหญ่ครับ

อัสสึชิก้าวออกมา...

อัสสึชิ อาวุธ ระเบิดมือแบบกลมครับ

ซากุราอิก้าวออกมา....

ดิฉัน ซากุราอิ อาวุธ ปืนสั้นคู่ค่ะ

เอมิเลียก้าวออกมา

เอมิเลียค่ะ อาวุธ มีดสั้นคู่ค่ะ

มิโดริก้าวออกมา...

มิโดริเองจ้า อาวุธ แส้

เพอฟี่ อินช่า อาริสโก้ กราซีร่า ซันชี่ เดินออกมาพร้อมกันแล้วพูดว่า....

พวกเรา แมวเจ็ดสี ขอใช้เข็มอาบยาพิษ ทั้งทีม

เมื่ออกมากันครบ ก่อนที่เลอ้อนจะเริ่มเกมส์ เกิดแผ่นดินไหวเบาๆขึ้น

เหวอๆๆๆๆ ทุกคนบนสนามหิมะอุทาน แล้วล้มลงไปพร้อมๆกันบนหิมะ.... แล้วแผ่นดินไหวก็สงบ...? ไม่มันยังไม่สงบ แต่มันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้แผ่นดินแยกออก น้ำจาก

ทะเลสาบโมนาร์ชเริ่มลดลงเพราไหลไปตามช่องว่างนั้น เมื่อน้ำในแม่น้ำโมนาร์ชแห่งจนหมด ทุกคนจึงวิ่งมาดูใต้ทะเลสาบ

อัสสึชิวิ่งมาถึงเป็นคนแรก แล้วพบกับ...

นี่...นี่มัน.... เพชรนี่หว่า~!!!!!! เขาอุทานก่อนคนอื่นจะวิ่งมาถึงแล้วก้มมองดู

แต่ เพชรเม็ดนั้นเริ่มเกิดรอยร้าว และแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้น เสียงครืนครานจากใต้โลกก็ดังสนั่น ก่อนจะปะทุออกมาเป็น.... เกียราดอส~!!! และยังมีหลากหลายสีอีกด้วย

ทันทีที่มันโผล่ออกมา ยังไม่มีใครตั้งตัว มันปล่อยไฮเปอร์บีมออกมาพร้อมกันหลายหมื่นตัว ทำให้บ่อโมนาร์ชกว้างขึ้นอีกหลายเท่าตัว แต่สมาชิกทุกคนถูกเลอ้อนเทเลพอร์ตออกมาที่

กระท่อมพักผ่อนแล้ว

เลอ้อน นั่นมันอะไรน่ะ ทุกคนถามพร้อมกันอย่างสงสัย

อืม ผมคงต้องเล่าแล้วสินะ เจ้าชายน้อยนั่งลง แล้วเล่าต่อว่า...

นานมาแล้ว ก่อนที่ผมจะเกิด สุลต่านที่เป็นปู่ของผมได้สร้างสร้อยที่ผมใช้ปราบเพอฟี่ขึ้นจากเพชรสี่สีที่เมื่อผสมกันแล้วจะได้สทุกสีบนโลก แล้วฝังไว้ในทะเลสาบแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อน

จากผู้คนที่จะมาขโมยมัน และยังปล่อยคอยคิงลงไปเพื่อตบตาอีกด้วย ต่อมาเมื่อคอยคิงพัฒนา ก็เกิดการกลายพันธุ์จากรังสีออกมาจากเพชรนั้น ทำให้เกิดเป็นเกียราดอสหลากสี แต่

มันคลุ้มคลั่งจนทำลายหมู่บ้านรอบๆ จนเกลี้ยง สามตำนานที่ปกป้องทะเลสาบโมนาร์ชอยู่จึงควบคุมพวกมันด้วยโทรจิตทำให้มันกลับลงไปหลับไหลในทะเลสาบเหมือนเดิม แต่ไม่รู้

ทำไมมันเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นตอนนี้...

งั้นตอนนี้เราก็ต้องไปปลุกสามเทพมาช่วยสินะ เลอ้อนซัง มิโดริพูดอย่างจริงจัง

เลอ้อนไม่พูดอะไรแต่กลับลุกฮือขึ้นมาแล้วเดินไปที่ประตู เมื่อเดินออกไป เขาก็กระโดดลงไปในทะเลสาบสามทะเลสาบข้างๆที่นังกรรมการโดยทันที ทุกคนที่เหลือจึงถูกซานีอ้อน(?)

กระโดดลงไปตามในบ่อ

เมื่อเลอ้อนโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ ทำให้ทุกคนโผล่ขึ้นมาตาม พร้อมความงุนงงว่า ทำไมซานีอ้อนผลักพวกเขาลงมา ทั้งที่น้ำมันเย็นเฉียบขนาดนี้

ทันทีที่เลอ้อนโผล่จากผิวน้ำ เขาได้รีบวิ่งออกมาจากบ่อนั้น แต่ก่อนจะดำเนินอย่างอื่นต่อ เสียงเอมิเลียก็ถามว่า...

เลอ้อน นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเราไม่ไปจัดการเกียราดอสพวกนั้น???

ฮืม.... ดูเพชรเม็ดนี้นะ องค์ชายน้อยหยิบเพชรสีชมพูรูปหัวใจออกมา เพชรเม็ดนั้นก็เริ่มเรืองแสง สว่างขึ้น.... สว่างขึ้น... จนมัน... หายไป ทำให้เป็นที่ตกใจของทุกคนอย่างมาก

Merspirit ผู้พิทักษ์แห่งอารมณ์ เลอ้อนกล่าวเบาๆ แล้วในทันที โปเกม่อนสีชมพูตัวเล็กๆ พุ่งออกมาจากสระน้ำนั้นแล้ววนเวียนอยู่ข้างกายเลอ้อน

ตอนนี้ทุกคนยังอยู่ในสภาพมึนงงค้าง ฉะนั้น เลอ้อนจึงอธิบายต่อไปว่า....

นี่คือหนึ่งในสามตำนานที่ช่วยคุมขังเกียราดอสพวกนั้นน่ะ ถ้าพวกท่านทั้งหลายไม่ว่าอะไร..... ช่วยข้าพเจ้าหน่อยสิ

ทุกคนที่พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว(?) เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจว่าเลอ้อนจะให้ช่วยอะไร

อืม... ช่วยหาอีกสองตำนานหน่อย เพชรประจำตัวพวกมันอยู่ในสระอีกสองสระน่ะ องค์ชายน้อยชี้ไปที่สระอีกสองสระ แล้วลูมหัวเมอสปีริตไปพลางๆ

ได้~! สมาชิกที่เหลือตอบอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่จะกระโดดลงไปในสระพวกนั้น แล้วดำลงไปหาเพชรที่ฝังอยู่ใต้สระนั้น

..................ผ่านำไปอีก 30 นาที......................

เมื่อผ่านไปซักพัก อัสสึชิกับโรตอมโผล่หัวขึ้นมาก่อน พร้อมด้วยเพชรสีเหลือง ตามมาด้วยมิโดริกับเอมิเลียที่ถือเพชรสีฟ้าตามหลังมา...

อื้ม เลอ้อนเปล่งเสียงเบาๆหนึ่งคำ จากนั้นจึงหยิบเพชรสีเหลืองกับฟ้าพร้อมกับ แล้วก็เกิดแสงเหมือนตอนเพชรสีชมพู มันสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนโปเกม่อนสีเหลืองแล้วฟ้าออกมาอีกสอง

ตัว

Uxie . Azelf Merspirit.

เสียงเรียกจากเลอ้อนทำให้โปเกม่อนทั้งสามเข้ามาใกล้ตัวเขาเรื่อยๆ แต่โดนขัดจังหวะโดยเสียงของโรตอมที่ตะโกนมาว่า

เลอ้อน~! ซากุราอิหายไปหน๊ายยยยย~?!?!?!?!?! เขาตะโกนพร้อมกับทุกคนที่หันไปมองที่สระน้ำสระหนึ่ง ร่างของซากุราอิค่อยๆ.... ค่อยๆ... จมลงอย่างช้าๆ.....

และแน่นอนในสัญชาตญาณความเป็นเพื่อน ทุกคนจึงวิ่งไปที่สระนั้น รวมทั้งสามตำนานนั้นอีกด้วย

แต่ก่อนที่ทุกคนจะกระโดดลงไป เงามืดสองร่างกระโดดลงไปในน้ำตัดหน้าพวกเขา แล้วพยุงร่างซากุราอิขึ้นมา

เมื่อคนแปลกหน้า(?)ทั้งสองเห็นเลอ้อนเดินมาถึง จึงรีบเดินเข้าไปหาเลอ้อนอย่างเร็ว

ขณะเดียวกันเมื่อเลอ้อนเห็นเขาทั้งสองคน จึงทำหน้าตกใจเป็นอันมาก แล้ววิ่งเข้าไปหาเหมือนกัน

ทันทีที่ชายทั้งสองวิ่งมาถึงเลอ้อน เขาจึงเริ่มบทสนทนา

ท่านเลอ้อน~! ท่านหายไปไหนมาเนี่ย??? ทั้งสองตะโกนพร้อมกัน

เอิ่ม.. ก็ตอนนั้นแอบหนีออกมาจากวังท่านพ่อน่ะ แฮะๆ ก็เลยมาเจอกับเกาะนี้เข้าน่ะ องค์ชายตอบอย่างคุ้นเคยและเป็นมิตรต่อชายทั้งสอง

เฮ้~! เลอ้อน คนที่เหลือวิ่งตามมาพร้อมแบกซากุราอิที่จมน้ำไปเมื่อกี้นี้

เลอ้อน นั่นใครน่ะ? เอมิลียถาม ขณะที่แบกร่างของซากุราอิอยู่บนหลัง เธอแทบไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

องค์ชายน้อยจึงตอบกลับไปว่า...

ออ๋ คนที่หัวแดงๆ เสื้อแดงๆ ที่เลี้ยงนกฟีนิกซ์น่ะ ชื่อเคออส เฟลมเบิร์ก กับอีกคนที่ผมขาวๆน่ะ ชื่อสเวน ดี แบล็กเอาส์ แล้วก็... หมาของเขา นาตาชา เขาสองคนเป็นการ์ดเดี้ยนของ

ชั้นน่ะ คือ มันอธิบายยากน่ะ เดี๋ยวชั้นค่อยอธิบายที่หลัง ตอนนี้ไปช่วยหยุดเกียราดอสกันก่อน โดยพวกนายถ่วงเวลาพวกมันไว้ ล่อให้พวกมันไปอยู่ในทะเลสาบทั้งหมดก่อน

อ้าว แล้วนายล่ะ เลอ้อน อัสสึชิถามพร้อมหลบไฮเปอร์บีมที่ยิงเฉียดหัวเขาไปมา

ชั้นจะ... เตรีมพิธีน่ะ เอาล่ะ พวกนายไปกันได้แล้ว พวกนายด้วยนะ สเวนกับเคออส

ได้ครับนายท่าน ทั้งสองรับสั่ง แล้ววิ่งออกไปพร้อมคนที่เหลือ เมื่อวิ่งออกไปได้ซักพัก สปอร์จึงเดินออกมาจากกระท่อมข้างบน เมื่อเห็นซากุราอิกองอยู่กับพื้น จึงรีบวิ่งลงไปหาเล

อ้อนข้างล่าง

เลอ้อน ซากุราอิเป็นอะไรน่ะ

ออ๋ เขาจมน้ำไปน่ะ ตอนนี้ยังสลบอยู่ เพราะคิดว่าน้ำยังค้างอยู่ในคอ เดี๋ยวซักพักก็กระอักออกมาเองแหล่ะ

องค์ชายน้อยตอบ แล้วเข้าสู่ภวังต่อ

ตัดมาที่ซากุราอิ ที่กำลังนอนสลบอยู่นั้น เมื่อเห็นหน้าสปอร์ แผนอันเฉียบแหลมก็แล่นเข้าสมอง โยแกล้งทำเป็นหายใจไม่ออก พยายามให้สปอร์ผายปอดให้ (= [] =~!)

เธอจึงหลับตาลง พยายามทำปากเซ็กซี่(เฮ้ย???) พร้อมทำหน้าใกล้ตาย(พยายามสุดๆ -*-)

และแล้ว ก็มีบางอย่าง มาสัมผัสริมฝีปากเธอ ทำให้เธอดีใจมากจนลุกฮือขึ้นมา สีหน้าของเธอเปลี่ยนจากคนใกล้ตายไปเป็นเจ้าสาวในงานแต่งงานโยฉับพลัน แต่เมื่อเธอลืมตาเธอก็

พบว่า.... คนที่ประกบปากเธอนั้นไม่ใช่สปอร์ แต่เป็น.... สปาร์ค~?!?

ว๊ากกกกก เธอตะโกนออกมาแล้วถอยหลังออกจากตัวกระต่ายพร้แมเตรียมตั้งการ์ด

ในขณะเดียวกันเอง เลอ้อนก็เข้าสู่จตใจของทั้งสามตำนาน เลยลุกขึ้น แล้วเดินไปจากบริเวณหน้าสระน้ำ ทิ้งสาวน้อยที่โดนกระต่ายประกบปากกับคุณชายจอมเย็นชาไว้ตามลำพัง...

ตัดมาที่ใกล้กับทะเลสาบโมนาร์ช สมาชิกเกาะรวมทั้งการ์ดเดี้ยนของเลอ้อนทั้งสอง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพวกเขา กำลังไล่ตอนเกียราดอสอย่างชุลมุน จนเลอ้อนเดินเข้ามา พวกเกีย

ราดอสจึงสงบลง

เลอ้อน เธอไปทำอะไรมาน่ะ มิโดริถามพร้อมกับตั้งท่าจิ้มเกียราดอส

ก็... ไปควบคุมจิตเจ้าสามตำนานนี้มาน่ะ เอาล่ะ ทุกคนช่วยถอยไปหน่อยครับ

องค์ชายน้อยที่มีสามตำนานวงเวียนรอบหัวอยู่นั้น ได้กวัดแกว่งมือของเขาพร้อมร่ายคาถาบางอย่าง แล้วออร่าสีขาวก็บังเกิดขึ้นที่มือของเขา และเป็นที่ทำให้เกียราดอสขวัญผวา

เมื่อข่มขู่พวกมันได้แล้ว เลอ้อนจึงปล่อยออร่าสีขาวสะอาดไปที่เกียราดอสทั้งหลาย แสงออร่าเหล่านั้น กระจายวนเวียนรอบเกียราดอส แล้วทำให้เกียราดอสพวกนั้นเปล่งแสง

วิวัฒนาการ ย้อนกลับมาเป็นคอยคิงธรรมดา ส่วนสีพิเศษของมัน  ๔กรวบรวมเป็นกลุ่มก้อน จนกลายเป็นหินยับยั้งวิวัฒนาการทำให้คอยคิงวิวัฒนาการมาเป็นเกียราดอสอีกไม่ได้

คอยคิงพร้อมหินยับยั้งวิวัฒนาการค่อยๆ ร่วงลงมาสู่ทะเลสาบ พร้อมกับฝนที่ค่อยๆตกลงมา เติมเต็มทะเลสาบโมนาร์ชให้เป็นเช่นเดิมอีกครั้ง....

...........ตัดมาที่กระท่อมพักผ่อน............

หลังจากกิจกรรมปาหิมะทั้งวัน ทุกคนจึงถูกเชิญมาร่วมอาหารเย็น ซึ่งก็คือ คอยคิงอย่างแสนอร่อยนั่นเอง

และระหว่างที่กินอยู่ การ์เดี้ยนทั้งสองก็ได้รับเหรียญสมาชิกของเกาะอย่างสมบูรณ์ โดยอยู่ที่วังของเลอ้อนนั่นเอง....

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลางคืน ริมทะเลวันนั้น...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สมาชิกบนเกาะถือตะเกียงใบเล็กๆ ยืนอยูหน้าคลีนิกริมทะเลของหมออารากิ ซึ่งกำลังจะย้ายออกจากเกาะนี้...

แน่ใจแล้วน่ะคุณหมออารากิ? ทุกคนถามอย่างเป็นมิตร เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอเขา

อื้ม แน่ใจสิ ไม่ต้องห่วงหรอก น้องชายผม ไลท์วี เขาจะมาทำงานแทนน่ะ แล้วผมจะแวะมาหานะ

อื้ม อาดิโอส อามีโก้~ กู๊ดลั๊ก ซินญออารากิกับซินญอริต้าลูคาริโอ้~ ^^~ ทุกคนบอกลา ก่อนหมออารากิจะเดินไปที่เรือสำราญมินิที่ทางเลอ้อนจัดไว้ แล้วแล่นออกไป ช้าๆ...

ช้าๆ.... จนหายไปจากสายตา ออกไปจนสุดขอบฟ้า.....

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 53
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • ลูคุงไม่ถึกนะ

    12

  • Loveless Nova

    8

  • Thama

    6

  • BLYTHE

    5

เรื่องมันดำเนินเร็วมาก จนจบเรื่องภายในตอนเดียวเลยเหรอเนี้ย O.O!!

สงครามการเล่นปาหิมะอะไรกันเนี้ย ต้องใช้ทั้งปืนใหญ่ หน้าไม้ เวทมนต์ สารพัดไปหมด กะจะเล่นหรือกะจะฆ่ากันแน่ -*-

ว่าแต่...ต่อไปก็ตาข้าพเจ้าแล้ว...งานเล้วดิ มีแต่คนไม่รู้จักมาเต็มไปหมดเลย...

ปล.ลูคุง~!!! เขาทำประวัติผู้สมัครหายอ่ะ ส่ง PM มาให้หน่อยสิ(เอาข้อมูลตัวละครเฉพาะของลูคุงด้วยนะ ละเอียดหน่อยจะได้วาดภาพถูก ^^)

Link to comment
Share on other sites

เรื่องมันดำเนินเร็วมาก จนจบเรื่องภายในตอนเดียวเลยเหรอเนี้ย O.O!!

สงครามการเล่นปาหิมะอะไรกันเนี้ย ต้องใช้ทั้งปืนใหญ่ หน้าไม้ เวทมนต์ สารพัดไปหมด กะจะเล่นหรือกะจะฆ่ากันแน่ -*-

ว่าแต่...ต่อไปก็ตาข้าพเจ้าแล้ว...งานเล้วดิ มีแต่คนไม่รู้จักมาเต็มไปหมดเลย...

ปล.ลูคุง~!!! เขาทำประวัติผู้สมัครหายอ่ะ ส่ง PM มาให้หน่อยสิ(เอาข้อมูลตัวละครเฉพาะของลูคุงด้วยนะ ละเอียดหน่อยจะได้วาดภาพถูก ^^)

ส่งไปให้แล้วน๊า ขาดตกบกพร่องประการใด พีเอมมาถามได้เลยนะ TwT~

*วิ่งไปสำนึกผิดต่อ*

Link to comment
Share on other sites

อืม มาอ่านแล้วจ๊า^^~ มีบางคำพิมพ์ผิดนะ คงรีบสินะ

แล้วก็เรื่องราวเร็วไปนิด ยาวเยอะมากเลย ลองปรับมุมมองการดำเนินอีกนิดน่าจ๊า

เพราะตัวละครเยอะมากเวลาที่ออกมาพร้อมกันจะมึนจ๊า

Link to comment
Share on other sites

หนุกดีน้า~ ว่าแต่ ส่วนตัวละครที่สมัครใหม่ก็ จะมาทีหลังสินะ ; w;~♪

Link to comment
Share on other sites

เทิร์นของฉัน ดรอห์~!!! จับการ์์ดขึ้นมือหนึ่งใบ และขออัญเชิญ "ฟิคชั่น Chapter 8" ลงสู่สนามในสภาพโจมตี!!

-----------------------------------------------------

Chapter : 8 ผู้มาใหม่

วันอาทิตย์ที่ XX เดือนXXX  ปี 20XX  เวลา 8:00 น.

ฟิ้ว~ ฟิ้ว~

ในยามเช้าของวันหนึ่งของอาณาจักรแห่งสัตว์ สายลมหนึ่งพัดขึ้นจากทะเลขึ้นสู่ภาคพื้นบก บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นลมทะเล(บอกเพื่อ?) เสียงน้ำสาดกระเซ็นกระทบชายฝั่งที่ยกสูงขึ้นเป็นท่าเรือบ่งบอกให้รู้ว่าสถานที่นี้นั้นอยู่ติดกับทะเล(บอกเพื่อ?) และเสียงหวูดเรือก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเรือลำเล็กๆที่มีผู้โดยสารมาเพียงสองก็ได้จอดเทียบท่า ผู้มาเยือนทั้งสองนั้นลงจากเรือ จ่ายเงินให้กับนายหัวเรือ และก็หันกลับมามองบรรยากาศของท่าเรือที่ตนขึ้นมาโดยรอบ

“นี้สินะ.....อาณาจักรแห่งสรรพสัตว์ที่พี่เล่าถึงอยู่บ่อยๆผ่านทางอีเมลล์...ฮ้าว~ อากาศที่นี้บริสุทธิ์ บรรยากาศของที่นี้ดูสดชื่นเสียจริงๆ เธอว่าไหม คิระ?”

“อากาศบริสุทธิ์....ถ้าเจออากาศบริสุทธิ์แล้วต้องรับมือยังไงดีเหรอค่ะ?”

สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งซึ่งใส่ชุดสีขาวมีขนตัวสีขาวแต่มีผมเป็นสีน้ำเงินและมีหูโผล่ขึ้นมาจากผมที่ดูไม่ออกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้น

จากการตัดต่อพันธุกรรมของหมาหรือแมวกันแน่มันเงยหน้าถามผู้เป็นนายที่ตัวสูงโปร่งกว่าตัวเองแต่ใส่ชุดสีขาวทั้งตัว

และมีผมสีขาวเช่นเดียวกันคำถามของมันทำให้ผู้เป็นนายชะงักไปเล็กน้อย และก็เริ่มสอนสัตว์เลี้ยงของตน

“ก็....สูดอากาศเข้าไปในปอดสักเฮือกใหญ่ แล้วก็ปล่อยออกมาไง เป็นการแสดงว่าอากาศที่นี้บริสุทธิ์สดชื่นจริงๆนะ”

“งั้นเหรอค่ะ...ซูด~ ฟู่~”

แล้วสิ่งมีชีวิตสีขาวนั้นก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และปล่อยออกมาตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ชายผทมขาวนั้นก็ยิ้มให้กับสัตว์เลี้ยงของตน เขาลูบหัวมันเบาๆอย่างเอ็นดู ซึ่งมันนั้นหลับตามพริ้มอย่างชื่นชอบในการกระทำนั้นเช่นกัน

“เอาละ! ไปกันเถอะคิระ ท่านพระราชาอาณาจักรนี้เขารอต้อนรับเราอยู่ที่กลางเมืองนะ แถมเราต้องไปดูสถานที่ๆพี่อารากิเคยใช้เปิดคลินิกพยาบาลสัตว์ด้วย อย่างรู้จักเลยว่ามันเป็นยังไงกันนะ”

“ค่ะ....ท่านไลท์วี”

ไลท์วีหยิบกระเป๋าใบสีขาวทั้งใบและออกเดินทางพร้อมกับสัตว์เลี้ยงคู่กายตน(ที่เดินด้วยขาหลังทั้งสองและดูไม่ออกว่าจะเรียกว่าสัตว์เลี้ยง

หรือมนุษย์สัตว์ดี) เท้าทั้งสี่ของร่างสองร่างออกก้าวเดินพร้อมกัน ทว่า สองเท้าของผู้เป็นนายของคิระนั้นกลับหยุดชะงักเสียก่อนจนทำ

ให้สัตว์เลี้ยงต้องหยุดตาม

“ว่าแต่....กลางเมืองนี้ไปทางไหนกันนะ....”

---------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากเดินหลงทางไปทั่วท่าเรือ ในที่สุดไลท์วี(ชายผมขาวชุดขาว)ก็ตัดสินใจเจี๊ยดเงินที่มีอยู่เพียงน้อยนิดที่ได้มาจากพี่ชายของตนเพื่อซื้อแผนที่ของอาณาจักรแห่ง

สรรพสัตว์จนได้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่มดีใจว่า คราวนี้คงไปถึงกลางเมืองได้แล้วแน่ๆ และสี่เท้าของสองร่างก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง ทว่า สองเท้าของผู้เป็นนายคิระนั้นกลับหยุดลงอีกครั้งจนทำให้สัตว์เลี้ยงต้องหยุดตาม

“ว่าแต่....ทิศเหนือนี้มันอยู่ทางไหนกันนะ....”

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

และแล้วในที่สุดไลท์วีก็ได้ตัดสินใจเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใจกลางเมืองเพื่อซื้อเข็มทิศมาหาทิศเหนือจนได้หลัง

จากที่ซื้อเข็มทิศแล้วเขาก็ออกเดินอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยกทั้งแผนที่หรือเข็มทิศขึ้นดู เขาหยิบบิลของตู้เอทีเอ็มขึ้นมาดูแทนและถอนหายใจ

ออกมาเบาๆ เพราะตอนนี้เงินที่เขาเหลืออยู่มีเพียงน้อยนิดแล้วเท่านั้น

“แย่จัง.....เบิกเงินไปตั้ง 200 บาทแนะ....แล้วจะทำไงต่อดีละเนี้ย เงินที่พ่อและพี่ฝากไว้ให้ในธนาคารก็เหลือเพียงแค่ 1,999,999,800 บาทเอง.....แบบนี้ต้องถูกดุแน่ๆเลย...”

[เพราะเมืองที่ไลท์วีเคยอาศัยเป็นเมืองทันสมัยไฮเทคสุดโคตร(ของแพง)เงินจำนวนนี้จึงดูน้อยนิดสำหรับเขานั้นเอง ^^]

หลังจากถอนหายใจออกมาพอสมควรแล้ว ไลท์วีก็ตัดสินใจยกแผ่นที่และเข็มทิศขึ้นมาดูอีกครั้งเพื่อหาว่าใจกลางเมืองนั้นไปทางไหนกันแน่ แต่ปัญหานั้นก็ยังคงมีสำหรับเขาเสมอ

“แล้ว....ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนในแผนที่กันนะ....”

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แล้วสุดท้ายไลท์วีก็รู้ตัวสักทีว่าตัวเขานั้นอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองเรียบร้อยแล้ว(โดยไม่รู้ตัว) เขาและสัตว์เลี้ยงผู้ช่วยของเขาก็มองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาว่าผู้ที่นัดเขาให้มาพบที่นี้นั้นอยู่ที่ไหนเสียแล้ว แต่เมื่อมองไปรอบๆแล้วก็ไม่พบใครเลยมีเพียงความเงียบที่ครอบคลุมเมืองเท่านั้นจนดูราวกับเมืองร้างไปโดยปริยาย

“ทุกคนหายไปไหนหมดละเนี้ย ร้านค้าก็ปิดไปหมดทุกร้านเลย หรือว่าจะมีงานเทศกาลอะไรกันนะ....ลองออกตามหาดูกันเถอะคิระ”

“ค่ะ...ท่านไลท์วี”

แล้วผู้มาใหม่ทั้งสองก็ออกวิ่งไปตามถนนใจกลางเมืองที่มีอยู่เพียงสายเดียวไปอย่างไม่ต้องกลัวว่าจะหลง ซึ่งเส้นทางที่พวกเขากำลังวิ่งไปนั้นคือสวนสาธารณะใจกลางเมืองนั้นเอง

[ว่าแต่....ร้านค้าปิดหมดทุกร้านแล้วไลท์วีซื้อแผนที่กับเข็มทิศจากไหนละ?]

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวนสาธารณะใจกลางเมือง ประจำอาณาจักรแห่งสรรพสัตว์

“ยินดีต้อนรับจ้า~!!! คุณหมอไลท์วี~!!!!!”

ที่สุดซึ่งความพยายาม ในที่สุดชายผมขาวไลท์วีและสัตว์เลี้ยงตัวขาวคิระก็ได้มาพบกับเลอ้อน พระราชาอาณาจักรแห่งสรรพสัตว์ในที่สุด(กว่าจะมาพบได้ก็ปาเข้าไปครึ่งวัน) ซึ่งในสถานที่นั้นเขาก็ได้พบว่าผู้คนทั่วทั้งเมืองก็ได้มาร่วมต้อนรับเขาเช่นเดียวกันพร้อมจัดงานเลี้ยงกลางแจ้งเสียด้วย ประหนึ่งว่าเขาเป็นคนสำคัญยังไงยังงั้น จนไลท์วีอดที่จะถามไม่ได้ว่า

“เอ่อ....แค่ผมมานี้....ทำไมต้องต้อนรับกันใหญ่โตอย่างนี้ด้วยละครับ?”

“ก็เพราะว่าอาณาจักรนี้กว่าจะมีคนเข้ามาก็นานมากยังไงละ อีกอย่าง นายก็คือผู้ที่จะมาเป็นสัตว์แพทย์และนายกกระทรวงการสัตวแพทย์ของอาณาจักรนี้ด้วย แล้วคนที่มีตำแหน่งสำคัญอย่างนี้พวกเราจะไม่ต้อนรับกันอย่างใหญ่โตได้ยังไงละ”

“อ....เอ่อ....ครับๆ....”

ไลท์วีหยักหน้างึงๆอย่าง(พยายาม)เข้าใจในคำพูดของผู้เป็นราชา ซึ่งจู่ๆจากการมาในฐานะผู้มาพักอาศัยธรรมดากลับกลายเป็นนายกกระทรวงการสัตวแพทย์นั้นก็ทำเขาอึ่งไปเสียไม่น้อย ก่อนที่เขาจะหันไปมองสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ทว่ามันนั้นกลับหายไปเสียแล้วจนทำให้เขาต้องมองซ้ายมองขวาอย่างเป็นกังวล ท่าทีที่แปลกไปนั้นทำให้เลอ้อนต้องทักขึ้น

“กำลังมองหาใครอยู่เหรอ?”

“อืม....ผู้ช่วยของผมนะครับ ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว...”

“คงไม่ได้ไปไหนไกลหรอก อาจจะยังอยู่ในงานเลี้ยงนี้ก็ได้ สวนนี้ก็ไม่ได้กว้างเท่าไหร่เดี๋ยวก็คงได้เจอกันเองละนะ”

“งั้นเหรอ ขอบคุณครับท่านราชา....ถ้างั้นผมของไปแวะทักทายคนในเมืองก่อนนะครับ ผู้มาใหม่อย่างผมควรจะเป็นฝ่ายเข้าหาคนอื่นก่อนมันเป็นสิ่งที่สมควรทำนะครับ”

“ตามสบายเลยครับคุณหมอ”

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไลท์วี....ชายหนุ่มชุดขาวทั้งเสื้อและกางเกง ผู้มีผมสีขาวและผิวเนื้อเนียนขาว(ขาวทั่วร่างว่างั้น) เดินทักทายคนในเมืองที่อยู่ในงานเลี้ยงกลางแจ้งแต่ละคนด้วยท่าทีนอบน้อม ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองจากทุกคนเช่นเดียวกัน โดยส่วนมากนั้นมักจะเรียกเขามาว่า “คุณหมอ” เสียเป็นส่วนใหญ่เสียด้วย

คุณหมอคนใหม่เดินมองไปทั่วงานเลี้ยงพลางยิ้มอย่างมีสุข เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นสัตว์เลี้ยงและเจ้าของนั้นสนิทกันมากมายถึงขนาดกินอาหารจานเดียวกัน เพราะเมืองที่เขาเคยอาศัยอยู่นั้นเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคมากมาย แต่ผู้คนนั้นแทบหาความมีหัวใจมิได้ และเมืองที่เขาเคยอยู่ก็ไม่มีการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆเสียด้วย เพราะมันมีปัญหายุ่งยากมากมาย จนสู้ไม่ได้กับการเลี้ยงสุนัขหุ่นยนต์ที่มีแค่ไฟฟ้าก็สามารถเลี้ยงได้แล้ว แถบยังเชื่อฟังคำสั่งผู้เป็นนายอย่างดีเสียด้วย

แต่สำหรับเขาแล้วนั้น....การเลี้ยงสุนัขหุ่นยนต์ไม่ควรจะเลี้ยงว่าการเลี้ยงสัตว์ได้เลย เพราะมันดูเหมือนการเล่นของเล่นธรรมดามากกว่า ที่พอเบื่อก็ปิดสวิตย์และทิ้งตั้งโชว์ไว้บนตู้แทน

ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่ในอาณาจักรสรรพสัตว์นั้นเอง....

“หืม.....ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้ยืนคนเดียวละ หรือว่าสัตว์เลี้ยงจะหายไปเหมือนกันเรา...”

ไลท์วีสังเกตุเห็นชายสวมชุดำทั้งตัวและสวมหมวกสีดำพร้อมมีผมสีดำด้วย(ดำเกือบทั้งตัวว่างั้น) ยืนอยู่คนเดียวแตกต่างจากคนอื่นซึ่งมีสัตว์เลี้ยงอยู่เคียงข้างโดยตลอด ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปไต่ถาม

“ทำไมนายยืนอยู่คนเดียวละ? สัตว์เลี้ยงของนายไปไหนเหรอ?”

“หืม? อ้าว~ สวัสดีคุณหมอ ข้าชื่อโรตอมยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนนี้สัตว์เลี้ยงของข้าเอง มันชื่อว่ามอส...”

“ห...หา....มอส? ไหนๆอยู่ไหนละผมไม่เห็นเลย....”

“สัตว์เลี้ยงข้าชื่อเต็มว่า มอสควีโต้ นะ ลองมองให้ดีสิแล้วจะเห็นเอง”

“อ....เอ่อ.....ง่ะ!!!!”

RNte2196.jpg

หลังจากเพ่งอยู่นานในที่สุดไลท์วีก็ได้มองเห็นสัตว์เลี้ยงของโรตอมจนได้ เป็นยุงจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินอยู่รอบๆตัวโรตอมและก็ยังมาบินใกล้ๆตัวเขาด้วยแต่ไม่มีท่าทีว่าจะดูดเลือดเลย ไลท์วีประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้ที่เอาแมลงตัวเล็กอย่างยุงมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้อย่างแสนเชื่องขนาดนี้(ไม่เคยพบเคยเห็นว่างั้น)

“มียุงเป็นสัตว์เลี้ยงเหรอเนี้ย ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลยนะ”

“ก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่เลยนิ ยังไงมันก็สัตว์ชนิดหนึ่งที่มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ใช่ไหมละมอส~”

_เหมือนจะได้เห็นยุงพยักหน้าแฮะ – ไลท์วีคิด_

“เอ่อ.....นายเลี้ยงยุงแสดงว่ามีความรู้เรื่องยุงเป็นอย่างดีเลยใช่ไหมละ พอดีผมมีเรื่องสงสัยอยู่อย่างหนึ่งมาตลอด ถามใครที่เมืองของผมก็ไม่มีใครตอบได้เลย ผมคิดว่าถ้าเป็นผู้ที่รู้เรื่องยุงเป็นอย่างดีน่าจะตอบคำถามผมได้นะครับ”

“หืม? ถ้างั้นก็ถามมาเลยสิ ถ้าตอบได้ข้าก็จะตอบนะ”

ไลท์วีก้มหน้าลงคิดเล็กน้อย เมื่อเรียบเรียงคำพูดที่สวยหรูและคิดว่าคนตรงหน้าน่าเข้าใจง่ายได้แล้ว จึงได้เอ่ยขึ้นมาว่า

“ผมอยากรู้จริงๆเลยนะครับ เวลาตอนกลางคืนหรือตอนที่อยู่ในที่มืดๆเนี้ย ทำไมยุงมันชอบมาวนเวียนเสียงหึ่งๆที่ข้างหูให้รำคาญตลอดเลยละครับ ทำไมไม่ไปบินที่ส่วนอื่นของร่างกายบ้าง....หรือว่าเลือดที่หูมันจะอร่อยกันนะ?”

“......แล้วขาแล้วแขนของคุณหมอมันฟังเสียงได้ด้วยเหรอ.....-*- ”

“เอ่อ....จริงแฮะ...”

_ยุงบินที่ขาแล้วมันจะไปได้ยินเสียงได้ไงละ..... – ไลท์วี คิดอีกรอบ_

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาเป็นคำกล่าวที่เป็นจริงเสมอ เมื่อผ่านพ้นเวลาช่วงเที่ยง

ไปชาวเมืองทุกคนก็ได้ทยอยกันกลับไปใช้ชีวิตส่วนบุคคลของแต่ละคนอีกครั้ง จนในสวนสาธารณะนั้นเหลือเพียงผู้มาใหม่อย่างไลท์วีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งยังคงมองซ้ายมองขวาตามหาสัตว์เลี้ยงที่พลัดหลงกันในงานเลี้ยงอยู่เหมือนเดิม

“คิระไปไหนแล้วนะเนี้ย มันยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วย คงไม่ได้ไปหลงทางแถวไหนหรอกนะ....”

“ยังตามหาสัตว์เลี้ยงไม่พบอีกเหรอคุณหมอ?”

“อ๊ะ!? ท่านพระราชาเลอ้อน.....เอ่อ ใช่ครับ....ไม่รู้ว่าไปอยู่เสียที่ไหนอ่ะ”

เลอ้อนเดินเข้ามาทักไลท์วีจากด้านหลังทำให้ชายชุดขาวผมขาวสะดุ้งตกใจไปเล็กน้อย และตอบคำถามของผู้เป็นราชาอาณาจักร

“สัตว์เลี้ยงของหมอ.....ใช้ตัวเดียวกับที่วิ่งหอบดอกกุหลาบมาเต็มมือนั้นหรือเปล่า?”

“ห....หา.....ง่ะ!!!”

เลอ้อนชี้มือไปทางหนึ่งซึ่งทำให้ไลท์วีนั้นต้องมองตาม และก็พลันชะงัก+อึ้ง+ประหลาดใจ มื่อได้เห็นสัตว์เลี้ยงสีขาวของตนกำลังวิ่งสองขามาหาเขา พร้อมหอบดอกกุหลาบหลายสิบดอก

ด้วยอ้อมแขนทั้งสองและมีจดหมายสองสามฉบับแนบอยู่ในกลุ่มดอกกุหลาบนั้นด้วยอย่างทุลักทุเล

จนเมื่อวิ่งถึงตรงหน้าผู้เป็นนายแล้ว สัตว์เลี้ยงตัวน้อยก็ได้หอบเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามผู้เป็นนายขึ้นว่า...

“ท่านไลท์วีค่ะ....จะรับมือยังไงดีเหรอค่ะ ถ้ามีคนมอบดอกไม้กับจดหมายรักให้อ่ะ? เป็นหมา 5 ตัว เป็นแมวอีก 7 ตัวและก็เป็นตัวอะไรไม่รู้อีก 3 ตัวนะค่ะ...”

SOuf3240.jpg

“ง่ะ......”

คำถามนั้นทำเอาไลท์วีอึ้งไปเลย ด้วยไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะตัวเขาเองก็ไม่เคยได้รับดอกกุหลาบกับจดหมายรักมาก่อนเสียด้วย....แต่ถึงกระนั้น่ไลท์วีนั้นก็ได้มีีคำพูด

ในใจเตรียมไว้อยู่แล้ว เขาก้มลงมองสัตว์เลี้ยงของตัวเองในระดับสายตาผสานสายตา มือข้างหนึ่งก็ดึงสัตว์เลี้ยงของตน

เขามากอดใกล้ๆจนดอกกุหลาบและจดหมายนั้นหล่นกระจายเต็มพื้น

“วิธีรับมือนะเหรอ.....ก็บอกปฏิเสธไปเสียสิว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว และคนรักของเธอก็คือ ดอกเตอร์ลีฟฟ่อน ไลท์วีคนนี้ยังไงละ....”

“ค่ะ...ท่านไลท์วี....”

คิระแนบศีรษะซบไหล่ไลท์วีพร้อมหลับตาพริ้ม ซึ่งก็ทำให้ไลท์วีนั้นยิ้มขึ้นเพราะเขารู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้นั้นหมายความสัตว์เลี้ยง

ที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือด้วยเทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรมที่ล้ำยุคนั้นกำลังมีความสุขนั้นเองซึ่งสำหรับเขาแล้วมันเป็นสิ่งที่ทำ

ให้เขามีความสุขไม่น้อย

เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้เขาย้ายมาที่อาณาจักรนี้ ก็เพื่อสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเขานั้นเอง...

“คุณหมอ.....มีสัตว์เลี้ยงเป็นคนรักงั้นเหรอ.....เหมือนกับพี่ชาย(อารากิ)ของคุณหมอเลย....ผมถามจริงๆเถอะครับ โรคจิตนี้มันเป็นกรรมพันธุ์ด้วยเหรอ”

“เอ้??? 0.0?”

ไลท์วีและสัตว์เลี้ยงสุดเลิฟคลายกอดและหันไปมองเลอ้อนด้วยใบหน้าที่แสนงุนงงที่จู่ๆก็ถูกถาม(พร้อมถูกด่า)เสียอย่างนั้น เมื่อมองเห็นสายตาที่แสวงหาซึ่งคำตอบจากผู้เป็นราชา ไลท์วีกันหันหน้าไปมองสัตว์เลี้ยงของตนเองพร้อมใช้ความคิดและ

หลังจากเรียบเรียงคำพูดที่สวยหรูได้แล้ว จึงได้เอ่ยพูดออกไปว่า

“โรคจิตงั้นเหรอ.....ถ้าคนอื่นๆจะเรียกว่าเช่นนั้นผมก็ไม่ว่าหรอกครับ แต่สำหรับผมแล้วมันก็เป็นความรักธรรมดานั้นละ ไม่ต่างจากเผ่าพันธุ์เดียวกันรักกันเองหรอก......เพราะว่าความรักมันไม่มีเหตุผล ไม่สามารถใช้ความคิดสร้างขึ้นมาได้ มันจะมาก็มาและจะไปก็ไป ดังนั้นตราบใดที่สิ่งมีชีวิตนั้นยังมีจิตใจ ก็คงไม่อาจหนีพ้นไปจากความรักได้...”

“ความรักนะไม่ว่าใครก็มีทั้งนั้น และก็รักได้เสียทุกอย่างเสียด้วยโดยไม่มีข้อแม้ เช่นบางคนอาจจะรักของเล่นมาก รักสถานที่หนึ่งๆมาก หรือบางคนก็อาจจะรักน้องตัวเองมากๆจนไม่คิดอยากให้เป็นแค่น้องตัวเอง หรือไม่ก็อาจจะมีพวกที่รักสัตว์เลี้ยงมากอย่างผมอยู่ก็ได

้......เพียงแต่ว่าพวกเขานั้นไม่ได้แสดงออกมาก็เท่านั้นเอง”

“เพราะหวาดกลัวความไม่ยอมรับ หวาดกลัวในกฏเกณฑ์ของที่ๆได้อาศัยอยู่ และหวาดกลัวที่จะถูกรังเกียจเดียดฉัน จึงไม่กล้าที่จะแสดง

ความรู้สึกของตัวเองออกมาได้แต่ทนทรมานกับความเจ็บปวดใจนั้นไว้เพียงลำพัง.....ซึ่งผมก็ไม่ชอบที่จะทำเช่นนั้นเลย.....”

“เพราะว่าหัวใจผมมันเป็นของผม และผมจะซื่อตรงกับมัน!”

*(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้อ่านทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับอ่าน...)*

หลังจากพูดจบไลท์ก็ดึงสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและแสนที่จะน่าปกป้องขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอด มันนั้นคลอเคลียต้นคอของไลท์วี

อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาพริ้มและไม่ลืมตาขึ้นมาอีกเลยดูเหมือนว่างานเลี้ยงวันนี้จะทำให้มันนั้นเพลียน่าดูเลยทีเดียวละไลท์วีลูบหัว

คิระในอ้อมกอดเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองคู่สนทนาอีกครั้ง

“ซื่อตรงกับหัวใจของตัวเองงั้นเหรอ....”

“ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่าครับท่านพระราชาเลอ้อน?”

“ป....เปล่า......เพียงแค่คำพูดของคุณหมอทำให้ผมนึกถึงใครบางคนที่ผมรู้จักดีนะครับ....เขาก็เป็นชายที่ซื่อตรงในความรักเช่นเดียวกัน จนยอมที่จะผิดกฏของตระกูลเพื่อความรักของตนเอง...”

“?????”

“ท่านพี่.....ฮันโซ.....”

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

....เลอ้อนจากไปแล้ว....เหลือเพียงดอกเตอร์ไลท์วีและสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่ Sleep อย่างมีความสุขในอ้อมอกของผู้เป็นนาย ที่ตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดเดิมตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่องอีกครั้ง....

“แล้วคลินิกของเราอยู่ไหนหว่า.....?”

_อาการหลงทางยังคงอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนไป_

-------------------------------------------- To Be Continue --------------------------------------------------

เอาละ! ขอวางการ์ดเวทมนต์ต่อเนื่อง "ความลำบากใจ" ที่จะสร้างความลำบากใจให้แก่คู่ต่อสู้

Turn End!!!!

(ต่อไปก็เทิร์นของลูคุงละ~ ^^)

Link to comment
Share on other sites

"เพราะว่าหัวใจผมมันเป็นของผม และผมจะซื่อตรงกับมัน!

โอว ชอบประโยคนี้จังเลย><~

แต่มีพิมพ์ผิดบางเนอะ^^~

Link to comment
Share on other sites

ขอตัวไปอ้วกหน่อยได้ม่ะเนี่ยเลี่ยนง่ะ :pika05:

--------------------------------------------------

คิระมันได้กุหลาบกี่ร้อยดอกหล่ะนั้น :pika08:

ปล.ภาพยังสวยเหมือนเดิมนะทั่นไลท์วี :pika01:

ปล.2 Continueนะ

Link to comment
Share on other sites

แหม~ น่ารักจังเลยทั้งคิระและไลท์วี

รูปสวยขึ้นเยอะเลย

ปล.รอบนี้ไม่รู้สึกเลี่ยนเลยแฮะ

Link to comment
Share on other sites

เลี่ยนมาเยอะ ไม่เลี่ยนอีกต่อไป (ฮา)

ซึ้งอ่าจ้า ชอบตอนที่ไลท์วีพูดมากๆเลย ประโยคที่ว่าจะซื่อตรงกับมัน~

ฟิกเลเวลอัพตามรูปวาดเลยนะเนี่ย!

Link to comment
Share on other sites

เข้ามาส่อง

เห็นไลท์วีคุงแล้วนึกถึงอารากิ

/ไอไวท์โดนถีบกลับหลุม

รูปน่ารักมากเลย ลองใช้เส้นให้บางลงนิด รับรองแหล่ม *--*

Link to comment
Share on other sites

อ่า~

เพราะว่าหัวใจผมมันเป็นของผม และผมจะซื่อตรงกับมัน!

แอบพูดเหมือน Rox...s นะท่าน~

"หลงทางไปเรื่อยๆสิดี จะได้คุ้นเคย~"

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว แฮะๆ แจ่มครับท่านแจ่ม >w<~!!

อ้า... ตาผมแล้วสินะ โฮะๆ

ปล. รูปสวยขึ้นเป็นกอง~! =w=~! (ตินี๊ดเดียว - ผมเลอ้อน ตกไปหน่อยเน้อ)

ปล.2 ไลท์วีพูดได้แจ่มกว่าพี่ชายเยอะเลย~! *โดนอารากิถีบตกทะเล*

Link to comment
Share on other sites

อ่านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ไม่ได้โพสแหะๆๆๆ

ภาพวาดสวยขึ้นครับ แต่แปลกๆตรงหน้าเลอ้อนไปนิดนึง คือมันดู อธิบายไม่ถูกน่ะครับ

Link to comment
Share on other sites

"เพราะว่าหัวใจผมมันเป็นของผม และผมจะซื่อตรงกับมัน!

สุโก้ย!!!! XD

Link to comment
Share on other sites

ด้วยเพราะท่านผู้อ่านมีบุญคุณเป็นล้นพ้น มีผู้เข้าโพสถึง 9 คนด้วยกัน(ซึ่งเลข 9 ก็เป็นเลขที่อยู่ใกล้ตัวผมมานานแสนนาน ตามติดยิ่งกว่าเงา) และขอขอบคุณที่ชื่นชอบฟิคตอนนี้ของข้าพเจ้าเป็นอย่างดี

ข้าพเจ้าจึงได้นำข้อมูลชของดีของอาณาจักรสรรพสัตว์มาให้ทุกท่านได้รู้กัน

ของชิ้นนั้นก็คือ....

----------------------------------------------

Seven Cat Data : ข้อมูลของแมว 7 สี ของดีเลืองชื่อแห่งอาณาจักรสรรรพสัตว์

EAg06065.jpg

เรียงตามตัวไปเลยนะทุกคน~

1.คราม - อินช่า ชื่อเต็ม อินดิโกน่า

นิสัย-  เงียบๆ เรียบรอย แต่หลอนนิดๆ ชอบคุยกับตัวเองหรือฝาผนัง

ตำแหน่ง-  ผู้เกี่ยวข้องกับเวทย์มนต์ของกลุ่ม

ชอบ - วิญญาณ การปักผ้า

เกลียด - คนที่ไม่เชื่อว่าวิญญาณมีจริง

2.ม่วง - เพอฟี่ ชื่อเต็ม เพอพอยซั่น

นิสัย- ชั่วร้าย ซ่าๆ จอมวางแผน เจ้าเล่ห์มาก

ตำแหน่ง- หัวหน้าทีม

ชอบ - ความเจ้าเล่ห์ และพิษต่างๆ

เกลียด -  ความซื่อสัตย์ และชีสเค้ก

3.แดง - บลอดด้า ชื่อเต็ม เฟลมทอราสน่า

นิสัย - มีสองบุคลิกสลับกัน ครึ่งหนึ่งร้าย ครึ่งหนึ่งดี อารมณ์แต่ละอย่างจะระงับถ้าเจอกับสถานการณ์ตรงข้าม เช่น ถ้ามีคนใจดีด้วย ด้านร้ายก็จะระงับลง

ตำแหน่ง - นักลอบสังหารและแม่(แมว)ชีใจบุญ

ชอบ - สิ่งที่มีคู่ตรงกันข้ามกัน เช่น ดีชั่ว ขาวดำ ฯลฯ

เกลียด - ไม่มี (เพราะสองบุคลิกหักล้างกันเอง)

ปล. มีลูกแล้วชื่อ...สโนวี่

4.แสด(ส้ม) - ฟิชชี่ ชื่อเต็ม ออเรนันเชียสตร้า

นิสัย- เงียบๆแต่มีเหตุผล และไม่คุ้นกับชีวิตโดดเดี่ยวไม่มีมนุษย์เอาใจใส่

ตำแหน่ง- ไม่มี

ชอบ -  สิ่งที่แมวปกติชอบ

เกลียด -  สิ่งที่แมวปกติไม่ชอบ

5.น้ำเงิน - อาริสโก้ ชื่อเต็ม อควาเรียส

นิสัย- เซ็งกับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต เบื่อหน่าย แต่ไม่รำคาญหรือโมโหและไม่ยิ้ม

ตำแหน่ง- เจ้าหน้าที่พาทีมหลบหนี

ชอบ - การอยู่ชิวๆสบายๆ โดยไม่มีใครรบกวน

เกลียด - การมีคนกวนใจ

6.เขียว - กราซีร่า ชื่อเต็ม ลีฟเฟียร่า

นิสัย- ฉลาด คิดเร็ว รอบคอบ สติปัญญาดี และมีเหตุผล

ตำแหน่ง- นักวางแผนและนักคิด

ชอบ - หมากรุกและซึโดกุ(ชอบพกสมุดซึโดกุไปมา)

เกลียด - ความคิดตื้นๆ หรือขี้เกียจคิด

7.เหลือง - ซันชี่(ซันไชน์) ชื่อเต็ม โซลาเรี่ยน

นิสัย- เต็มที่กับชีวิต เฮฮาปาร์ตี้ทั้งวัน

ตำแหน่ง- หลอดไปนำทางเคลื่อนที่ได้ไม่ต้องชาร์ตแบต

ชอบ - ปาร์ตี้

เกลียด - งานและการบ้าน

------------------------------------------------------

ลัล~ ล้า~ จะมีเลข 9 โผล่มาอีกไหมน้า~

Me/ ฮัมเพลงอย่างมีความสุข

Link to comment
Share on other sites

เอ๊ะ ^^ ลูกของสีส้มและสีแดงเป็นสีขาว?

ปล ไม่มีข้อมูลสโนววี่หรอ >w<

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

Chapter : 9 ตำนานรักข้ามตระกูล

เช้าที่สดใสอีกวันของเกาะนี้ ท้องฟ้าแจ่มใสพร้อมลมเย็นๆสบายๆของยามเช้า กลิ่นอบขนมปังจากร้านเบเกอรี่และร้านกาแฟหอมหวนออกมา ฟุ้งไปทั่วเกาะ ซึ่งในยามเช้าที่แสนจะเร่ง

รีบนี้ ขนมปังกับกาแฟเป็นมื้อเช้าที่ดีทีเดียว

ดูเหมือนเช้าวันนี้จะราบรื่นและสงบสุขดี.... ถ้าซานีอ้อนไม่ป่วยนะ...

ห้องซานีอ้อน 7.00 น.

เออ..... ราชาองค์น้อยเอ่ยออกมาเบาๆ ขณะกำลังเพ่งสมาธิในการฝังเข็มลงบนเนื้อพี่สาวของที่ออน่นุ่มน่ารับประทาน(?) เนื่องจากผิวของซานีอ้อนออน่นุ่มมาก ทำให้การฝังเข้ม

ต้องใช้สมาธิอย่างสูง แถมยังต้องระวังเส้นเลือดใหญ่ของซานีอ้อนที่มีมากกว่าคนปกติอีกหลายเส้น ทำให้เป็นการยากที่จะฝังเข็มให้เธอ แต่~! น้องชายผู้รักพี่มากถึงมากที่สุด ก็ยังนั่ง

ฝังเข้มให้เธอต่อไป...

ก๊อกๆ~!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามรอบ ก่อนขบวนผู้ชายบนเก้าเดินเข้ามาทีละคน(ยกเว้นสปอร์) พร้อมช่อดอกไม้มากมายมหาศาลพร้อมกล่องช็อกโกแลตอีกเป็นตันๆที่แทบจะทะลักห้องซานี

อ้อน ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ เยี่ยมซานีอ้อนนั่นเอง

เฮ้ เลอ้อน พี่สาวเป็นไงบ้าง~ น้ำเสียงที่แจ่มใสของทุกคนที่มาเยี่ยมเริ่มทักทาย แล้ววางช่อดอกไม้กับช็อกโกแลตกล่องเป็นตันๆไว้ข้างๆเตียงซานีอ้อน แล้วเดินออกจากห้องกัน

ไป.... ยกเว้นอัสสึชิ....

ว่าแต่...สปอร์หายไปไหนล่ะอัสสึชิ? เลอ้อนถามโดยไม่แม้แต่มองหน้าคนที่ถูกถามแม้แต่น้อย ยังคงนั่งขะมักขเม้นฝังเข็มให้พี่สาวต่อไป...

ก็ เห็นว่าโดนยัยซากุราอิลากไปให้อาหารปลาตอนเช้าๆน่ะ ว่าแต่ ซานีอ้อนเป็นอะไรมากไหมน่ะนั่น เขาถามด้วยความห่วงใย

ออ๋ๆ เธอก็แค่ปวดหัวนิดหน่อย แล้วก็ปวดหู มีน้ำมูก เจ็บจมูกนิดๆ คัดจมูก ตาแดง ปวดหู ไซนัสอักเสบ แสบร้อนทรวงอก(?) ปวดท้องน้อย หายใจติดขัด เส้นเลือดทำงานไม่ปกติ

แล้วก็..... เลอ้อนยังบ่นต่อไปเรื่อยๆ แล้วหยุดลงตอนที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบ ทำให้เลอ้อนต้องเดินออกไปดู เมื่อเปิดประตูมา พ่อบ้านคนเดียวของวังนี้ถือจดหมายมอบให้เล

อ้อน แล้วกลับไปทำงานแสนยุ่งในปราสาทต่อไป...

เลอ้อนไม่รอช้าเปิดจดหมายในทันที แต่ปรากฏว่าจดหมายฉบับนั้นไม่มีอะไรนอกจากกระดาษเปล่าๆกับตราเลออนน่าสาขาญี่ปุ่นติดอยู่ริมขวาข้างล่าง....

ใครส่งมานะ ? เขาคิดในใจ ในขณะที่เดินกลับไปฝังเข็มต่อ แต่เขาก็ต้องหยุดลงเพราะมัวแต่ครุ่นคิด จนมอสตัวนึงของโรตอมบินโฉบไปกัดเลอ้อน ทำให้เลือดหยดนึงของเขาหยดลง

บนกระดาษแผ่นนั้น

ฮืม? เกิดอะไรขึ้นกับกระดาษน่ะ เขาเลื่อนบัลลังก์มาใกล้กับโต๊ะที่วางกระดาษไว้ แล้วก้มมองกระดาษแผ่นนั้นอีกที

ทันทีที่เลือดอีกหยดจากแขนของเขา หมึกสีดำที่ค่อยๆไหลออกมาจากกระดาษช้าๆ จนประกอบกันเป็นข้อความ...

อ้า~ เขาส่งรหัสเลือดมานี่นา ฮึ คนที่ยังใช้รหัสโบราณอย่างงี้ก็มีคนเดียวล่ะ...

เขาจึงรีบหยิบผ้าคลุมที่พาดเอาไว้บนบัลลังก์ แล้วเดินออกไปจากห้องนั้น โดยทิ้งพี่สาวที่ยังฝังเข็มไม่เสร็จเอาไว้..

ณ ห้องมืดห้องหนึ่งใต้วัง...

องค์ชายในชุดผ้าคลุมสีดำพร้อมกับอัสสึชิ,มิโดริ,โรตอมและองครักษ์สเวนและชาออสค่อยๆ เปิดประตูห้องที่เขียนคำว่าอาถรรพ์ติดเอาไว้ เมื่อเปิดเข้าไปแล้ว แมลงสาบ หนู

แมงมุม งู และตัวอะไรอีกมากมายนับไม่ถ้วน ทำเอามิโดริขวัญผวาจนไม่กล้าเข้าห้องนั้นเลย....

เมื่อก้าวเข้ามาก้าวแรก เลอ้อนก็เหยียบลงบนวงเส้นคาถา ออร่าจากปลายเท้าของเขาค่อยๆกระจายไปตามพื้นจนประกอบเป็นวงต้องคำสาปที่มนต์ดำหลายมนต์ถูกสกดผนึกเอาไว้

แสงเทียนรอบๆถูกจุดขึ้นจนห้องนั้นสว่างไสว ใจกลางของวงอาถรรพ์นั้น มีหม้อนน้ำบรรจุเลือดเอาไว้ ทำให้เลอ้อนเดินเข้าไปมองใกล้ๆ...

ฮืม? นั่นอะไรน่ะเลอ้อน?โรตอมถามขึ้น แล้วชี้ไปที่เลือดในหม้อน้ำกำลังไหลขึ้นมา... ประกอบเป็นรุปมนุษย์... ใบหน้าของเขาค่อยๆรวมกัน ออกมาเป็นคนคนหนึ่ง เขาค่อยๆก้าวลง

จากหม้อน้ำ เดินตรงมาที่เลอ้อน

สวัสดีเลอ้อน ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ~ เขากล่าวทักทายเลอ้อนอย่างสุภาพ

อื้ม ก็ซัก... 600 ปีได้แล้วนะ ช็อกโกแลตกล่องสุดท้ายที่นายส่งมาก็หมดไป 500 กว่าปีแล้ว~ องค์ชายสานบทสนทนาต่อไป...

ส่วนผู้ชม(?)ด้านหลังก็กำลังยืนงงเงียบๆอยู่หลังห้อง ก่อนเลอ้อนจะหันมาพร้อมเดินออกไปกับชายคนนั้น...

เขา...เป็นใครกันนะ? คำถามนี้ได้ผุดขึ้นในหัวของทุกคนในห้อง....

ตัดมาที่ห้องซานีอ้อน...

เอี๊ยด... เสียงแง้มประตูดังขึ้น ทำห้สาวน้อยในห้องนั้นต้องลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเข็มที่ยังปักตัวอยู่...

ใครคะ? เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ก่อนหัวเลอ้อนจะผุดออกมาจากช่องประตูนั้น...

พี่~! ลองทายสิว่าใครมา

ฮืม? ใครล่ะเลอ้อน พี่ขี้เกียจคิดน่ะ เธอตอบอย่างอิดโรย แล้วล้มตัวลงกับเตียง...

ปากเลอ้อนเปิดแล้วขยับเล็กน้อย จนพูดออกมาว่า..

ยูสุเกะ เลออนน่า เซอเพ้นทร่า...

ทันทีที่คำสุดท้ายหลุดออกจากปากเลอ้อน ร่างของซานีอ้อนผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าอันเหี่ยวเฉาของเธอกลับกลายเป็นดอกไม้บานสะพรั่ง ร่างกายที่ทรุดโทรมกลับมาดูแข็งแรง

และสดใสเหมือนกับคนละคน เธอหมุนตัวเต้นบัลเล่ย์ออกจากเตียงทำให้ของในห้องกระเจิง ก่อนจะสบัดเข็มบนหน้าออกแล้วพุ่งไปกอดยูสุเกะอย่างแรง

ยูสุเกะ~ คุณหายไปไหนมาคะเนี่ยยย~!!!เธอตะโกนเสียงอันไพเราะของซานีอ้อนถูกกรีดร้องออกมาจนหน้าต่างเพชรมูลค่าหลายร้อยล้านของวังร้าวไปหลายบาน

ซานีอ้อนถูกสะกิดจากข้างหลัง ทำให้เธอต้องเหลียวหลังกลับมาดู เมื่อหันมา เธอก็เจอกับน้องชายสุดที่รักของเธอถูกฝังเข็มไว้ที่หน้าอย่างเฉียดฉิวลูกตา แล้วเลือดก็ค่อยๆไหลลงมา

ทั่วใบหน้าของเขา...

อุ้ย ขอโทษจะน้องรัก แฮะๆ เธอรีบหยิบผ้าที่พับเอาไว้ผืนหนึ่งค่อยๆดึงเข็มออกทีละอัน...ทีละอัน...

ในขณะเดียวกัน อัสสึชิที่เป็นวอลเปเปออยู่ในขณะนั้น ก็เดินออกมาจากมุมห้อง ตรงมาที่ยูสุเกะ

เอิ่ม...... เขาเอ่ยออกมาเบาๆขณะที่คิดคำที่จะทักทายยูสุเกะ แต่ก่อนที่เขาจะคิดออก คู่สนทนาของเขาก็เริ่มบทสนทนาให้

นายคือ อัสสึชิใช่ไหม? ชายในผ้าคลุมชุดดำ และออร่าหมวกสีดำที่พุ่งพวยออกมาจากผ้าคลุมของเขา ค่อยๆ ไหลไปตามลำตัว และไหลกลับไปที่ไหล่ของเขาที่มีแส้สีดำทมิฬติด

อยู่ทั้งสองข้าง ผ้าคลุมของเขาบางส่วนถูกไฟสีดำเผาอยู่ ส่วนสิ่งเดียวที่สะท้อนแสงสีทองออกมา คือสายคาดเอวประจำตระกูล

yusukep.jpg

อะ...อือ.... แล้วนาย... เป็นอะไรกับซานีอ้อนรึเปล่าล่ะ? อัสสึชิเริ่มส่อพิรุธ(?)

ฮืม? ชั้นเป็นอะไรกับเธอหรอ อืม... ไม่มีอะไรมาก แค่คู่หมั้นกันน่ะ

คำพูดนั้นปักอกอัสสึชิจนทะลุไปถึงแก่นในของหัวใจ เขากระอักเลือดออกมาแล้วใช้มือช่วยพยุงขึ้นจากโต๊ะเล็กข้างๆ

เป็นอะไรไปน่ะ? ยูสุเกะที่มองดูเหตุการณ์นั้นอย่างงงงวยถามขึ้น แล้วจิบชาในแก้วอย่างสบายอารมณ์

มะ...ไม่...เป็นไรมาก...หรอก....ออก๊ส์~! แล้วเขาก็สลบคาพื้น ก่อนหน่วยพยาบาลจะเข้ามาช่วยลาก(?)เขาออกไป...

...

ณ เนินเขาอีกฝั่งของเกาะ...

หลังจากงานหนักตลอดวันของเกาะเลอ้อน ทำให้มีงานสังสรรค์ภายในเกาะในทุกๆคืนที่จันทร์เต็มดวง โดยที่ตั้งนั้นก็อยู่หลังเนินสูงของเกาะ  ขณะที่แสงจันทร์สาดส่องเพื่อมอบความ

สุขให้คนบนเกาะ หญิงสาวคนหนึ่งกับมังกรตัวเล็กกำลังยืนไว้อาลัยกับบางคนอยู่เงียบๆ บนเนินนั้นเอง...

นี่ ไม่ลงไปข้างล่างหน่อยหรอ? วันนี้ซานีอ้อนจัดงานเลี้ยงต้อนรับยูสุเกะนะ....เอมิเลีย องค์ชายทีอยู่ในชุดคลุมสีน้ำเงินพร้อมเต็มไปด้วยรอยสกปรกจากการปีนเนินเขาขึ้นมา

ฮืม? เลอ้อนเองหรอ แล้ว.... ที่หน้าเธอเป็นอะไรน่ะ

สาวน้อยชี้ไปที่ใบหน้าของเลอ้อน ซึ่งเต็มไปด้วยพลาสเตอร์และที่ปิดแผล ผ้าพันแผล ทำให้ละม้ายคล้ายมัมมี่อย่างมาก

ออ้ๆ ไม่มีอะไรมาก แค่เข็มฝังหน้าจนซานีอ้อนต้องพันแผลเอาไว้ก่อนน่ะ ว่าแต่เธอล่ะ....

ฮืม? ทำไมหรอ? เอมิเลียถามด้วยความงุนงง ถึงสาเหตุที่เลอ้อนถามเธอ

ก็ทำไมเธอไม่ลงไปข้างล่างล่ะ... หรือว่า....

นั่นแหละจ้ะ.... วันนี้เป็นคืนครบรอบของเขา....

เลอ้อนจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆเอมิเลีย ซึ่งในขณะเดียวกัน ไลท์วีที่แอบฟังอยู่(?)ก็ปีนขึ้นมานั่งข้างๆ ทั้งสอง

คุณมาทำอะไรน่ะ ไลท์วี? ทั้งคู่ถามพร้อมกัน

ก็... วันนี้เป็นวันครบรอบของเธอนี่....

อื้ม... มันก็ผ่านมาตั้งนานแล้วสินะ..... เลอ้อนพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเริ่มท้าวความตำนานรักแห่งเกาะนี้...

...

...

เมื่อโบราณกาล ขณะที่เกาะเลอ้อนเพิ่งอุบัติขึ้นไม่นาน ผู้อาศัยยุคแรกของเกาะได้ตั้งรกรากบนเกาะ ทำให้กำเนิดสองตระกูลหลักบนเกาะขึ้น คือ ตะกูลโคงะ ตระกูลอารากิ และแน่นอน

ตระกูลเลออนน่า แต่ต่อมา โคงะและอารากิเกิดวิวาทขึ้น ทำให้เลออนน่าต้องตัดสินให้ทั้งสองตระกูล ถูกแบ่งแยกจากกัน.... แต่ไม่ตลอดกาล....

...ณ กลางเกาะของเลอ้อน

หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งใส่ชุดสาวใช้ กำลังเดินจ่ายตลาดอย่างมีความสุข ท่ามกลางคนจำนวนมากมาย...

ค่า ขอบคุณนะคะคุณป้า เธอกล่าวขอบคุณแม่ค้าหลายคนในตลาด ขณะกำลังเดินกลับไปหาเจ้านายของเธอนั้น ชายคนหนึ่งในผ้าคลุมสีดำ ได้เดินตามหลังเธออยู่ห่างๆ และเงียบ

เชียบ....

สาวน้อยหยุดชะงัก ณ ร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่ง เมื่อเธอพยายามจะก้มลงดมดอกไม้นั้น เงามืดได้บดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องเหนือหัวเธอ เมื่อเธอหันมานั้น....

กรี๊ดดดดดด~!!!! เธอกรีดร้อง เนื่องจากภาพที่เธอเห็นนั้น คือผู้ชายใส่เสื้คลุมสีดำทมิฬ ดวงตาสีแดงเถือกราวกับไฟป่า ตัดกับผมสีทองอร่ามที่โผล่ออกมาจากผ้าคลุม จ้องมองมาที่

เธฮอย่างอาฆาต...

คะ....คุณ...คุณต้องการอะไร... สาวน้อยพยายามถามคำถามกับชายหนุ่มผู้นั้น ต่ายหนุ่มมิได้ตอบอะไร.... แต่กลับอุ้มเธอ แล้วหายไปกับเงามืดท่ามกลางฝูงชนมากมาย....

...

กลางป่าใหญ่ ที่มืด เงียบงัน และห่างไกลผู้คน....

สาวน้อยถูกโยนลงกับพื้นหญ้าสากๆ และแห้งกรานเมื่อเธอหล่นลงไปจึงทำให้เกิดเสียงกรอบแห้งแตกเกิดขึ้นมากมาย

อูย.... เธอโอดครวญ ขณะกำลังสำรวจบั้นท้าย(?)ของเธอนั้น ชายในชุดคลุมผู้เป็นคนพาเธอมานั้น กำลังจ้องมองเธอโดยที่เธอไม่ได้สังเกต

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เธอแผดเสียงอีกรอบ ทำให้ชายหนุ่มหลังเธอจำเป็นต้องเอามือปิดหูไว้

เขาหุบปากเธอโดยฉับพลัน  แล้วแบกเธอขึ้นหลังอีกรอบหนึ่ง จากนั้นจึงวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างไม่เหลียวหลัง

สาวน้อยจึงทุบและตีเขา แต่ชายหนุ่มมิได้ขยับเยื้อนแม้แต่น้อย เมื่อสาวน้อยพยายามทุบเขาอีกครั้ง เธอได้สังเกตุเห็นชายชุดดำอีกสามคนกำลังตามหลังพวกเขาอยู่ ทำให้สาวน้อย

เข้าใจว่า ทำไมชายคนที่แบกเธออยู่จึงพาเธอหนีมา

เมื่อมาถึงกลางดงไผ่ ชายที่แบกสาวน้อยมาก็กระโดดขึ้นไปบนยอดไผ่ด้วยความว่องไว แล้วค่อยๆ หย่อนตัวลงมาตามลำไผ่ เพื่อซ่อนจากชายชุดนินจาอีก 3 คนนั้น

เราคงต้องอยู่ตรงนี้อีกนานหล่ะ เขาพูดกล่าวขณะสังเกตุการณ์นินจาสามคนนั้นอย่างไม่ละสายตา....

...

ครั้นเมื่อราตรีคืบคลานเข้ามา นินจาสามคนนั้นยังอยู่ ณ จุดเดิม ตั้งท่าพร้อมจะโจมตีทุกเมื่อ ทำให้ชายหนุ่มไม่มีช่องทางที่จะพาสาวน้อยหนีแม้แต่น้อย มือของเขาสั่นระริก บนใบหน้า

เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลลงมาเรื่อยๆ สู่พื้นดินเบื่องล่าง เขารออย่างใจเย็นพร้อมกับสาวน้อยที่นอนอยู่ข้างๆ และจังหวะก็มาถึง เมื่อนินจาทั้งสามหันหลังกลับไปอีกด้าน

ทันนี้นั้น ชายหนุ่มกระโดดขึ้นมายืนบนต้นไผ่ แล้วเหวี่ยงเข็มอาบยาพิษออกไปอย่างรวดเร็วไปที่หลังของนินจาทั้งสาม

ในทันทีทันใด เหล่านินจาก็ล้มลง และหายไปตามเงามืดของกิ่งก้านสาขาต้นไผ่ จนไม่เหลืออะไรเลย

เธอปลอดภัยแล้วแหละ หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มจึงปลุกหญิงสาว แล้วจูงเธอออกไปจากดงไผ่.... ออกไปไกล... ถึงทะเลสาบโมนาร์ช...

...

ณ ทะเลสาบโมนาร์ช....

ภาพหญิงสาวสลบอยู่ข้างทะเลสาบที่ทอแสงประกายระยิบระยับจากแสงจันทร์ เสียงน้ำซัดเข้าหาฝั่งของทะเลสาบทำให้หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วมองดูรอบๆตัว

เธอ...

นี่มัน... ที่ไหนกัน?

ทะเลสาบโมนาร์ชน่ะ..

!

ชายที่เดินมาหยุดอยู่หลังเธอพูดขึ้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆเธอ เพื่อเริ่มการสนทนาต่อ

ทะเลสาบ... โมนาร์ช? หญิงสาวย้ำ พร้อมความงุนงงเล็กน้อยจากการหลับที่ยาวนาน

อื้ม ทะเลสาบโมนาร์ชไง เธอไม่เคยมาที่นี่หรอ? นี่เป็นที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับบนเกาะเลยนะ

มะ...ไม่เคย....ไม่เคยเลยค่ะ เธอตอบอย่างสุภาพ

เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกคนในเกาะเคยมาที่นี่อยู่แล้ว ยกเว้น... ชายหนุ่มหยุดชะงัก แล้วเบินหน้าหนีจากหญิงสาว ทำให้เธอยิ่งงุนงงเข้าไปอีก

ยกเว้น... ตระกูลอารากิ ใช่ไหม? คำตอบของหญิงสาวนั้น ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหันมา แล้วถามเธอว่า....

เธอรู้ได้อย่างไร?

หญิงสาวมิได้ตอบอะไรนอกจากก้มหน้าลงมองผืนน้ำ แล้วจุ่มนิ้วลงไปทำให้น้ำกระจายเป็นวงๆ แล้วสานบทสนทนาต่อ

ชั้นคือ... วารินเน่ ฮาร์ฟ คนรับใช้ในตระกูลอารากิค่ะ

คำพูดนี้ทำให้ชายหนุ่มตกใจเป็นอันมาก เพราะนินจาทั้งสามที่เขาได้สังหารไปนั้น... เป็นนินจาของตระกูลอารากิ ถึงแม้ตระกูลอารากิจะเป็นตระกูลของซามูไรผู้แข็งแกร่ง แต่ภายในนั้น

ยังมีนินจาคอยเป็นสายลับอยู่เรื่อยๆ...

แล้ว... ท่านชื่ออะไรล่ะ สาวน้อยถามชายหนุ่มกลับเช่นกัน

ชายหนุ่มก็ยังมิได้ตอบอะไรเช่นกัน เขาเงยหน้าแล้วใช้แขนยันตัวไว้กับพื้น เพื่อชมดวงจันทร์ที่กำลังถูกเมฆบดบังอยู่ ก่อนจะหันกลับมาตอบสาวน้อยต่อ...

ข้าชื่อ ฮันไซ แต่นามสกุลก็คงใช้โคงะล่ะนะ

คำพูดนี้ก็ทำให้สาวน้อยตกใจมากเช่นกัน เนื่องจากคนที่ช่วยเธอเอาไว้นั้น เป็นคนจากตระกูลโคงะซึ่งเป็นตระกูลคู่อริของตระกูลเจ้านายเธอ

เฮ้อ ถ้าเจ้านายของชั้นรู้ว่าชั้นคุยกับเธอ ชั้นคงจะ...

ก่อนที่เธอจะได้พูดส่วนสำคัญ...แต่ ณ ตอนนั้นมันคงไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะอะไรนะเหรอ? ... ก็เพราะตอนนี้ริมฝีปากของฮันไซเข้าไปประคบกับริมฝีปากของวารินเน่เสียแล้วนะสิ~!

ในทันทีทันใด เธอผลักฮันไซออกจากตัวเธอด้วยความตกใจ การกระทำของชายหนุ่มนั้นทำให้สาวน้อยงุนงงเข้าไปอีก

นะ...นายทำอย่างนั้นทำไมน่ะ... สาวน้อยถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นกลัวเล็กน้อย

เพราะว่า... เพื่อรักษากฏโบราณของเกาะนี้ไว้ไงล่ะ

รักษา... กฏ? เธอถามซ้ำย้ำอีกครั้ง จนชายหนุ่มต้องอธิบายให้กับเธอ

ใช่ กฏนี่แหละ นี่ไม่รู้เลยหรอว่าตระกูลเลอนน่าพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้สองตระกูลนี้กลับมาเป็นปึกแผ่นเดียวกัน โดยทางสมาคมได้เลือกข้าเป็นตัวแทนในการรวมสองตระกูล

เข้าด้วยกัน.... กับเจ้า....

ในทันทีที่พูดจบ ชายหนุ่มก็หันหน้ามามองวารินเน่อีกครั้ง เพื่อขอคำมั่นสัญญากับเธอ....

วารินเน่ เธอจะยอมรับพันธสัญญาของเลออนน่า และก้าวสู่ตระกูลเลอนน่าที่รุ่งโรจน์ด้วยกันไหม?

ทว่า... สาวน้อยมิได้ตอบอะไรหรือส่งสัญญารอะไรที่ดูเหมือนเป็นการตกลง นอกเสียจาก ริมฝีปากของเธอที่เข้าไปประกบริมฝีปากของฮันไซอีกครั้ง  และพันธสัญญาแห่งเลออนน่า

ฉบับแรกก็ถูกสร้างขึ้น....ใต้แสงจันทร์ที่กระทบกับผืนน้ำของทะเลสาบโมนาร์ช...

...

ต่อมาอีก 3 ปี...

เวลาล่วงเลยมาอีก 3 ปี แผนการสงบศึกของเลออนน่าดำเนินต่อไปด้วยดี จนกระทั่งวารินแน่ได้คลอดลูกคนแรกออกมา และนั่นเป็นจุดจบของแผนการสงบศึกของเลออนน่า....

...

ณ ห้องสอบสวนคดีความของตระกูลโคงะ...

เจ้าหนอนบ่อนไส้เอ๊ย~!!!! ชายในชุดขุนนางโบราณสีแดงตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังมาก พร้อมกับทุบโต๊ะลงไปจนเกิดรอยแตกขึ้นมา.....

ฮันไซและวารินเน่ก็ถูกจับตัวและสอบสวนอยู่ ณ ที่นั้นด้วย พร้อมกับลูกชายผมทองของพวกเขาอีกหนึ่งคน

เจ้าบังอาจ ร่วมมือกับตระกูลที่คอยกดขี่ขมเหงเราอย่างนั้นเรอะ~!!! เขาตะโกนอีกครั้ง และทุบโต๊ะลงไปอีกข้าง

เรียนใต้เท้าที่เคารพ... ที่ข้าทรยศต่อตระกูลโคงะ ทรยศจากการหมั้นกับท่านหญิงคุเรย์ แล้วไปร่วมมือกับตระกูลเลออนน่า นั่นก็เพราะ....

สงครามและความบาดหมาง มิได้ให้อะไรเลยนอกจากความพินาศและสูญเสีย และข้า จะเป็นผู้หยุดมันเอง~!!!!!!

สิ้นเสียงตะโกนของฮันไซแล้วนั้น ขุนนางใหญ่ที่กำลังตัดสินคดีความ ก็ได้พิจารณาคำพูดของฮันไซอย่างถี่ถ้วน และค้นพบว่า สิ่งที่เข้าพูดนั้น มันถูกหมดทุกประการ แต่..... ความเคียด

แค้นในใจของเขาที่มีต่อผู้ทรยศนั้น มีมากเหลือล้นเกินกว่าจะระงับได้.... ทำให้เขาเปล่งเสียงสุดท้ายที่ฮันไซและวารินเน่ได้ยิน นั่นก็คือ....

ประหารมันซะ

ด้วยความคิดที่รวดเร็วของฮันไซ เขาจึงโยนระเบิดควันลูกหนึ่ง ทำให้ควันฟุ้งไปทั่วห้อง ระหว่างนั้น ฮันไซกับวารินเน่ก็ได้โยนลูกชายของพวกเขาออกทางหน้าต่าง เพื่อรักษาตระกูล

เลออนน่าต่อไป....

โดยฉับพลัน นินจาโคงะก็กระโจนเข้ามาในจังหวะที่ควันจางพอดี และแน่นอน โดยไม่รอช้า นินจาเดหล่านั้นปักเข็มอาบยาพิษไว้กลางหลังของฮันไซและวารินเน่เพื่อล้างแค้นให้เพื่อนนิ

นจาของเขา ที่อยู่คนละตระกูล....

เมื่อเข็มถูกปักลงไปแล้วนั้น วารินเน่และฮันไซค่อยๆ... ล้มลงกับพื้น และลมหายใจสุดท้ายของพวกเขา... ก็ได้สิ้นสุดลง ณ ที่นั้น.... วิญญาณของพวกเขา ก็ยังสิงสถิต ณ ที่นั้นอยู่

ตลอดมา....

...

อื้ม... เรื่องมันก็เป็นแบบนี้สินะ.... เลอ้อนพึมพัมหลังจากเล่านิทานอันแสนเศร้าออกไป

แล้ว.... ลูกของฮันไซกับวารินเน่ก็กลับไปหาตระกูลเลออนน่าสินะ ไลท์วีเสริมต่อจากเลอ้อน

อื้ม สายตระกูลนี้ก็เลยทอดยาวมาถึงรุ่นของเราไง ลูกหลานของพวกเขาก็คงเป็น.... ยูสุเกะ สินะ... เอมิเลียเติมต่อจนจบ

ทันใดนั้น ยูสุเกะก็โผล่ตัวออกมา แต่เขาก็มิได้พูดอะไรนอกจากถือแผ่นหินสีทองที่จารึกคำบางคำลงไปด้วย ไปวางไว้บนปลายเนิน จากนั้น... ทั้งสี่คนก็เดินลงจากเนิน อย่างช้าๆ....

และลับสายตาไป .......

...

เมื่อแสงทุกแสงบนเกาะถูกดับลงแล้ว.... ป้ายจารึกนั้นยังทอประกายแสงระยิบระยับกับแสงจันทร์....และสะท้อนให้เห็นคำว่า...

........................................HANZAI & VARINNE FOREVER...............................................................

เฮ้อ กว่าจะแต่งจบได้ โฮก....

วันนี้คงไม่มีเวลาลงรูปและจัดหน้าแล้วหล่ะทุกท่าน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาอีดิทให้เรียบร้อยน๊าาาาา

ปล.ฟิกตอนนี้อาจจะแปลกๆไปหน่อยนะครับ ช่วงนี้อาจจะส่งฟิกเป็นคอมิกแทนน๊า >_<

*แถมๆ*

kogavsleaffond.jpg

Link to comment
Share on other sites

ติดต่อกันโดยใช้เลือด

ทำให้นึกถึงเรื่องๆหนึ่งเลยแฮะ (แต่ลืมแล้วเรื่องอะไร - -)

อยากให้ทำข้อมูลตัวละครหน่อยนะ

เพราะเราชักจะลืมตัวละครบางตัวแล้วสิเลยทำให้บางจุดอ่านแล้วงงๆนะ

Link to comment
Share on other sites

เดินผ่านมา......แล้วก็ผ่านไป(ใจคอแกจะไม่วิจารฟิคดิ๊กลูเลยเรอะ?)

Link to comment
Share on other sites

ดาต้าของสมาชิกเดเลเวอลี่คร้าบ (อีกเหตุผลที่ลงเพราะฟิกมันตก สินะ?) *โดนตบ*

1.DARWIN [ดาร์วิน]

รูป/ลักษณะการแต่งตัว-ใบหน้า: เป็นคล้ายๆโจรสลัด ตัวอ้วนๆ แต่เป้นนักเดินทาง ใช้ภาหนะเป็นหลัก เป็นนักประดิษฐ์หุ่นยนต์

ประวัติโดยย่อ: เป็นนักเดินทางตัวอ้วนที่ประดิษเครืื่่่องทุ่นแรงเก่งมาก และหุ่นยนต์เหนืออนาคตมากมาย การขี่หุ่นทำให้เขาเก่งดูว่องไว (เช่นยืนบนเสกตบอร์ด =[]=") แรงเยอะเอาการ แต่ว่าถ้าเกิดต้องเดินตัวเปล่าละก็ คงไปได้ช้ากว่าคนปกติทั่วไปเพระาความอ้วนกว่า80โลของเขา ภารกิจใหม่ๆของเขา ทำให้เขาต้องปล่อยให้แมวน้อยของเขาไว้ที่นี่

----------------------

Ida.jpg

ชื่อสัตว์เลี้ยง:ไม่มีชื่อ บ้างก็เรียก เจ้าเหมียว หรือหางฟู

สายพันธุ์: แมวส้ม

ประวัติความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยง: เป็นลูกแมวที่รอดในสงครามเจ้าตัวเลยเก็บมาเลี้ยง

นิสัย : พูดไม่ได้ ชอบไถ มองคนเดินผ่านไปมา ชอบนอนที่เดิมๆ จะอุ้มไปไหนก็ไป พอหมดธุระหรือเบื่้อก็กลับมานอนที่เดิมได้ แม้จะโยนไปไกลแค่ไหน

เก่งเรื่องการเดินทางมาก เอาตัวรอด ต่อสู็ป้องกันตัวได้(เดินทางมาแล้วรอบโลก) รู้เส้นทางดีในหลายๆที่ ถ้าร้องได้้ก็ ร้องเนี้ยวๆ มี้~ มากกว่าเมี้ยวๆ ถึงจะพูดไม่ได้ แต่ก็ฟังรู้เรื่องนะ แม้บางทีจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ตาม

อาหารหลัก : (สามารถอดอาหารได้เป็นเดือนๆ) สัตว์ทะเล ปลา

2.Chaos Flameburg [ชาออส เฟลมเบิร์ก]

รูป/ลักษณะการแต่งตัว - ใบหน้า :

PhoenixArchflame.png

-ประวัติโดยย่อ: ตามใจผู้แต่งเลยครับ เหอๆ

ปล. ย้ายมาอยู่ที่อาณาจักรนี้ด้วย

---------------------------------------------------------------

-ชื่อสัตว์เลี้ยง: เร้ด  

รูป :

phoenix-1.jpg

-สาย พันธุ์: นกฟินิกซ์

-ประวัติความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยง: คาลอสเก็บนกฟินิกซ์ที่บาดเจ็บตัวนี้มารักษา ทำให้นกฟินิกซ์ตัวนี้ติดตามมาโดยตลอด

-นิสัย : ใจร้อน ซื้อสัตย์กับบุคคลคนเดียวตลอดชีวิต

-อาหารหลัก : กินเปลวไฟ

3.Sagurai Tempu [ซากุราอิ เทมปุ]

รูป/ลักษณะการแต่งตัว-ใบหน้า:

pink_poflie.jpg

ประวัติโดยย่อ: *ติดไว้*

-----------------------------------------------------------------------

ชื่อสัตว์เลี้ยง: Shaku (ชากุ)

สาย พันธุ์: กระต่ายขาวตาแดง

ประวัติความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยง: *ติดไว้*

4.สเวน ดี. แบล็กเอาส์

รูป/ลักษณะการแต่งตัว-ใบหน้า

45480113.gif

ประวัติโดยย่อ

- ชายหนุ่มลึกลับผู้เดินทางไปทั่วทุกแห่ง จนมาถึงที่อาณาจักรแห่งนี้ ในอดีตคือนักรบจากดินแดนหิมะที่เต็มไปด้วยสงครามแย่งชิงดินแดน ที่ออกเดินทางเพื่อค้นหาความสงบสุข

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

karnova5.jpg

ชื่อสัตว์เลี้ยง

-นาตาชา

สายพันธุ์

-สุนัขพันธุ์ ไซบีเรี่ยน ฮัสกี้ เพศเมีย สีตามรูป

ประวัติความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยง

- สเวนไปพบเข้าตอนที่กำลังก่อกองไฟในป่า นาตาชาเข้ามานั่งผิงไฟเป็นเพื่อน หลังจากนั้นก็ตามติดตลอด ไม่ว่าเขาจะขึ้นเขาลงห้วย จนสเวนต้องยอมรับเลี้ยงเอาไว้

นิสัย

-มีความเป็นส่วนตัวสูง ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของมาก พร้อมจะสละชีพเพื่อเจ้าของได้

อาหารหลัก

-ทุกสิ่งที่เจ้าของกิน llllorz (ชอบแย่งเจ้าของกินว่างั้นเหอะ....)

เอาล่ะครับ เดี๋ยวจะมาอัพต่อน้า~ =w=

ปล.ก็อปสดจากบอร์ดเก่า *ผ่านทางกูเกิ้ล*

Link to comment
Share on other sites

ฟิคนี้ยังอยู่อีกเหรอนี้ เหอๆๆ นึกว่าเลิกแต่งไปแล้ว

Link to comment
Share on other sites

โรมิโอกับจูเลียตจริงๆด้วย!!! เป็นเรื่องของฮันไซกับวารินเน่ห์สินะ....

แต่....วารินเน่เป็นแค่คนใช้ ไม่ใช้คนตระกูลอารากิไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม...

แต่....ที่สำคัญที่สุดคือ...

ไหนบอกว่าจะไม่จบแบบ Bad End ไง! ใจร้ายที่สุดเย้ย >[]<

------------------------------------

ว่าแต่....ตอนต่อไปที่เป็นเทิร์นของผมเนี้ย ต้องต่อจากฟิคล่าสุดนี้ของท่านเลย หรือว่าจะเริ่มเป็นเรื่องใหม่ที่ผมคิดเองละครับ

ปล.ผมเริ่มมีแนวคิดที่จะให้ฟิคนี้แต่ละตอน เป็นเนื้องเรื่องของมันเองและจบในตอน(และเทิร์น)ของตัวเองดีใหม่ (เหมือนกับหอพัก)

Link to comment
Share on other sites

แต่....วารินเน่เป็นแค่คนใช้ ไม่ใช้คนตระกูลอารากิไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม...

เป็นคนใช้ ก็ต้องใช้นามสกุลเดียวกันด้วยสิ~! (แถ)

ไหนบอกว่าจะไม่จบแบบ Bad End ไง! ใจร้ายที่สุดเย้ย >[]<

หนูขอโต้ดดดดด อันที่จริงมันจะจบสวยกว่านี้อ่าาา แต่เวลามันบีบมากเลย (แต่งเสร็จตอน 5 ทุ่ม)

T^T หนูขอโต้ดดดด หนูจะ(พยายาม)ไม่ดองอีกแล้วววว >[]<

ว่าแต่....ตอนต่อไปที่เป็นเทิร์นของผมเนี้ย ต้องต่อจากฟิคล่าสุดนี้ของท่านเลย หรือว่าจะเริ่มเป็นเรื่องใหม่ที่ผมคิดเองละครับ

ปล.ผมเริ่มมีแนวคิดที่จะให้ฟิคนี้แต่ละตอน เป็นเนื้องเรื่องของมันเองและจบในตอน(และเทิร์น)ของตัวเองดีใหม่ (เหมือนกับหอพัก)

เริ่มใหม่เลยครับ~! จะแนะนำตัวละครใหม่หรือแต่งตอนธรรมดาก้ได้ไม่ว่ากัน ไฟล์สตรีเลย~! >w<

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.