Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

"New World : Find For Freedom"


สาววายจงเจริญ

Recommended Posts

Link to comment
Share on other sites

ปฐมบท

        ลอปปศักราชที่ 4xxx ดาวลอปป (Lopp)... ในเวลานั้น ธรรมชาติถึงขีดจำกัดต่อการกระทำที่มนุษย์ปฎิบัติ มันเริ่มสำแดงความไม่พอใจด้วยการก่อลูกคลื่นยักษ์ขนาดมหึมาพอที่จะกวาดล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า ภูเขาไฟปะทุทั่วทุกแห่งพร้อมกันราวกับนัดหมายไว้ อีกแผ่นดินไหวที่คอยถล่มซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้คนล้มตายชนิดที่ยากจะประมาณจำนวนได้ ทิ้งให้ผู้ที่มีชีวิตอยู่ดิ้นรนไปกับความยากลำบากแสนสาหัส บ้างถอดใจยอมสิ้นชีพ บ้างคุกเข่าอ้อนวอนขอให้พระเจ้าช่วยเหลือ น้อยคนนักที่ยังดิ้นรนหาหนทางเพื่อมีชีวิตต่อ (แม้ว่าบางคนจะบาดเจ็บมากก็ตาม)

         อย่างไรก็ตาม เหมือนธรรมชาติยังคงแฝงความเห็นอกเห็นใจลึกๆ คอยสอนผู้ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็น นานเข้าๆ มนุษย์ก็เริ่มปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพที่เป็นอยู่  จนกระทั่งธรรมชาติเริ่มเห็นสมควรว่าบทลงโทษต่อมวลมนุษย์ครั้งนี้สาสมแล้ว ก็ไม่มีมนุษย์ที่มีสภาพเหมือนปกติสมบูรณ์หลงเหลืออยู่เลย...

         ให้หลังหนึ่งพันปีการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสภาพความเป็นอยู่กลับมาสมบูรณ์ รวมถึงการแบ่งลักษณะการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์และการปกครองอย่างชัดเจน  แต่ละเผ่าต่างปกครองขั้นพื้นฐานกันด้วยระบบของตน กลุ่มมนุษย์ตัวเล็กๆหรือเอลฟ์ (Elf) อาศัยในเขตที่เต็มไปด้วยธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรละแวกใกล้ๆกับ วิซ (Viz) มนุษย์บาดาล และ เวิร์ก (Werc) กึ่งมนุษย์กึ่งสัตว์ที่อาศัยอยู่ในละแวกชายฝั่ง ทั้งสามเผ่าพันธุ์ต่างอาศัยเกื้อกูลกันอย่างสนิทสนม แม้อีกสามเผ่าที่เหลือจะอาศัยในตัวเมืองที่ค่อนข้างห่างจากสามเผ่าก่อนหน้า แต่ก็มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยที่ไอจัส (Ijus) คอยดูแลความสงบสุขของทุกเผ่าใช้พลังความสว่างคอยควบคุมความมืดภายในจิตใจ เดโว (Devo) คอยค้นหาปัญหาและทางแก้จากความมืดภายในจิตใจ ส่วน พิช (Pysch) ชนเผ่ากลุ่มใหญ่ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ดั้งเดิมมากที่สุด คอยศึกษาและผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคจนถึงยุทธภัณฑ์ต่างๆยามเกิดศึกสงครามกับมิติอื่นๆด้วยพลังเปลี่ยนแปลงสสาร

         และด้วยความที่ลักษณะที่แตกต่างกันมากจนเกินไปทำให้เกิดกฏหมายเผ่าพันธุ์มาตราที่ 7 ระบุถึงมนุษย์ที่เกิดจากผู้ให้กำเนิดต่างเผ่าพันธุ์ว่าเป็นมนุษย์ไม่มีเผ่า หรือ บรอด (Brod) ซึ่งสังคมส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับเนื่องจากเชื่อว่า บรอด จะเป็นผู้นำความแตกแยกมาสู่สังคมมนุษย์ต่างเผ่า และหนึ่งในมนุษย์ที่ถูกระบุว่าไม่มีเผ่าก็คือ...

---------------------------------------------------------------------------------

Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้เห็นชัดเจนเท่าไหร่ จะรอดูตอนแรกนะป้า

ว่าแต่มนุษย์ที่ถูกระบุว่าไม่มีเผ่าคนนั้น คือตัวเอกรึเปล่านะ? :pika04:

Link to comment
Share on other sites

เหมือนอ่านเออ...รายงานการตรวจวัดการสั่นสะเทอนแผ่นดินไหวอะไรเถือกนี้เลยอะ=_=

อยากให้ปรับการเรียบเรียงคำ หรือ การใช้คำพูดที่ทำให้ดูน่าติดตามกว่านี้นิดหนึ่งนะ

มันอ่านแล้ว เกิดคำถามขึ้นในใจว่า....แล้วไง? อะ

Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้เห็นชัดเจนเท่าไหร่ จะรอดูตอนแรกนะป้า

ว่าแต่มนุษย์ที่ถูกระบุว่าไม่มีเผ่าคนนั้น คือตัวเอกรึเปล่านะ? :pika04:

อยากรู้ละสิ ฮึๆ โปรดติดตามตอนต่อไป

เหมือนอ่านเออ...รายงานการตรวจวัดการสั่นสะเทอนแผ่นดินไหวอะไรเถือกนี้เลยอะ=_=

อยากให้ปรับการเรียบเรียงคำ หรือ การใช้คำพูดที่ทำให้ดูน่าติดตามกว่านี้นิดหนึ่งนะ

มันอ่านแล้ว เกิดคำถามขึ้นในใจว่า....แล้วไง? อะ

เป็นการเกริ่นถึงที่มาว่าทำไมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ดังนั้นไม่แปลกที่มันจะดูน่าเบื่ออ่ะเนอะ

Link to comment
Share on other sites

ตามมาอ่านแล้วครับ ผมยังไม่รู้แนวการเขียนของป้า ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าไงขอชมเงียบๆก่อน ^^"

Link to comment
Share on other sites

ไร้ที่ติในทุกรายละเอียดครับ สามารถอธิบายรายละเอียดของแต่ละเผ่าได้อย่างต่อเนื่องและไม่ติดกันแบบนี้ ยอดไปเลยละคร้าบ~

นี้หมายความว่าเผ่า Brod จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องใช่ไหมเนี้ย~

Link to comment
Share on other sites

ตามมาอ่านแล้วครับ ผมยังไม่รู้แนวการเขียนของป้า ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าไงขอชมเงียบๆก่อน ^^"

จัดไปเลยจ้า

ไร้ที่ติในทุกรายละเอียดครับ สามารถอธิบายรายละเอียดของแต่ละเผ่าได้อย่างต่อเนื่องและไม่ติดกันแบบนี้ ยอดไปเลยละคร้าบ~

นี้หมายความว่าเผ่า Brod จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องใช่ไหมเนี้ย~

แหม่ ก็พวกบรอดเป็นพวกแตกแยกจากสังคมนี่นา ก็ต้องเด่นสิเนอะ

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 1 ครั้งแรก และ ครั้งสุดท้าย

         ณ หมู่บ้านเล็กๆนอกเมือง หมู่บ้านแห่งนี้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย บ้านเรือนปลูกสร้างอย่างเป็นระเบียบและด้วยที่ห่างไกลจากตัวเมืองไม่มากนัก คนในหมู่บ้านจึงดูมีฐานะ ส่วนใหญ่เดินทางทำมาค้าขายระหว่างตัวเมือง แต่ธุรกิจด้านอื่นก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ดังเช่นร้านขนมแห่งนี้ที่มีลูกค้ามาไม่ขาดสาย  

         โรห์ แม่บอกให้พาเพื่อนเข้ามากินขนมก่อนค่อยเล่นต่อ มาช้าขนมหมดไม่รู้ด้วยนะ

         ครับแม่ ขออีกรอบก่อน เดี๋ยวเข้ามากินครับ

         แม่วางไว้บนโต๊ะแล้วกัน เข้ามาอย่าลืมปิดประตูสวนหลังบ้านด้วยนะ

         ครับ

         เฮ้อ ลูกชายคนนี้นี่

         แหม่คุณคะ อย่าไปว่าเด็กเลย ปลอยให้พวกเขาเล่นกันนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไรหรอก

         นั่นสิคะ ลูกค้าอีกคนเห็นด้วย เจ้าโรห์เนี่ยฉลาดแถมมีน้ำใจอีกด้วย ขยันก็ขยัน วันหยุดของเด็กๆทั้งทีให้เด็กเล่นไปเถอะ

         แหม ลูกชายดิฉันเนื้อหอมไม่ใช่เล่นนะเนี่ย ดูสิพวกป้าๆชมกันใหญ่ ฉันก็พูดแกล้งลูกชายไปงั้นแหละ อย่าจริงจังมากมายสิคะ

         กลับมาที่สวนหลังร้าน เด็กหนุ่มลูกเจ้าของร้าน ร่างสูงชะลูดตัวบางค่อยๆลืมตาช้าๆ พลางใช้มือปัดผมสีน้ำตาลอ่อนที่ลงมาปรกหน้า ตาสีเขียวมรกตใสสอดส่องซ้ายขวาเหมือนกันว่ากำลังหาใครสักคนอยู่

         จะหาแล้วนะเว้ย แอบดีๆไม่งั้นเจอแน่!!!

         ใช่แล้ว เด็กหนุ่มคนนี้กำลังเล่นซ่อนแอบอยู่ เขาค่อยๆปีนขึ้นไปบนกำแพง กวาดสายตาไปบริเวณรอบๆสวนหลังบ้านอันเป็นที่ซ่อนของเพื่อนๆแล้วยิ้มมุมปากเล็กๆเมื่อเห็นออร่าสีเทาลอยฟุ่งบริเวณหลังพุ่มดอกไลแลค ใกล้ๆกันมีประกายไฟสีเหลืองประกายวิบวับ

         ที่มีตั้งเยอะแยะดันซ่อนที่เดียวกันเนอะ เอาละนะ ผู้หากล่าวด้วยเสียงกวนๆพลางหยิบลูกบอลขนาดเท่าลูกเทนนิสสองลูกปาไปที่พุ่มดอกไลแลคทันที ลูกบอลพุ่งเข้าสู่สองเป้าหมายแม่นราวกับจับวาง

แอ้ก!!!

         โห เล่นปามาซะแรงเลย ทำไมหาเจอเร็วจัง ชายผมม่วงเจ้าของออร่าลุกขึ้น สีผิวของเขาแทบไม่ได้ต่างจากสีออร่ารอบตัวสักเท่าไหร่ พลางพยุงสาวผมฟ้าท่าทางดูแก่นๆขึ้นมา

         ก็นายเล่นตื่นเต้นจนออร่านายพุ่งพล่านขนาดนั้น และถ้าให้เดาแบล็คคงใช้พลังควบคุมไฟฟ้าขู่นายไม่ให้ปล่อยออร่าใช่ไหม?

         รู้ดีนี่นาโรห์ ก็ใช่สิ เล่นซ่อนแอบบ้านใครเขาให้สร้างจุดเด่นให้ชาวบ้านหาเจอง่ายๆกันยะอีตาวอลโล่

         คร้าบบบบบบบบ คุณหญิงแบล็คไลท์ ทีคุณหญิงยังใช้ประกายไฟให้โรห์มาเห็นเลย

         แล้วถ้านายไม่ปล่อยออร่าฉันจะใช้ประกายไฟขู่นายทำเพื่อยะ

         เอาเถอะๆ สองคนพอเถอะ ยังเหลือให้หาอีกคน ไม่รู้ว่าจะหาเจอรึเปล่า

         หาไม่เจอพวกเราก็ชิ่งเข้าไปกินขนมในบ้านนายก่อนสิ ทิ้งให้ตาโซลซ่อนต่อไปนั่นแหละ ไหนๆแม่นายก็ตามแล้วด้วย

         คุณหญิงแบล็คไลท์ก็ห่วงแต่กินอย่างเดียวตลอดเลยเนอะ วอลโล่กัด

         ย่ะ งั้นฉันกินกับโรห์สองคน แล้วนายก็ไปตามอีตาโซลต่อเองละกัน

         ไม่เอาด้วยหรอก เข้าไปกินด้วยดีกว่า ฮ่าๆ พวกเราเขาไปกินขนมกันดีกว่า โซลิสเอ๊ย พวกเราไปก่อนนะ วอลโล่ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงทะเล้น

         สิ้นเสียงวิลโล่ แบล็คไลท์ก็ทำท่าจะวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แต่โรห์ยกมือขึ้นห้าม

         อย่ารีบสิวอลโล่ โซลมันคงอยากกินขนมด้วยแล้วละมั้ง

         พูดเสร็จโรห์ก็กระโดดลงจากกำแพง วิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับสองหน่อ ก่อนที่จะชี้นิ้วไปยังกอไผ่  ใบไผ่ที่ปกติควรจะเป็นสีเขียวค่อยๆกลายเป็นสีเงินเงาวับไปทีละส่วนๆ ราวกับว่ามันกำลังผลัดเปลี่ยนใบอย่างไงอย่างงั้น

บิงโก!!!

         

         ทั้งสามคนส่งเสียงดีใจราวกับว่าพบเป้าหมายสุดท้ายแล้ว โรห์ปาบอลลูกสุดท้ายไปยังกอไผ่อย่างไม่ลังเล ทันทีที่ลูกบอลผ่านใบไผ่สีเงินไปก็แยกออกเป็นชิ้นๆราวกับว่าถูกใบมีดคมหั่น ชายหนุ่มหน้าตานิ่งๆเดินออกมาจากที่ซ่อนตัว

         ชวนเล่นทีไรเปลืองบอลทุกทีเลยนะนายเนี่ย โรห์กล่าวพลางส่ายหัวเบาๆ แบล็คไลท์ปิดปากหัวเราะไม่มีเสียง ส่วนวอลโล่หัวเราะลงไปนอนดิ้นกับพื้นหญ้าเป็นที่เรียบร้อย

         วอลโล่มันขำอะไรของมัน โซลลิสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

         อยู่กันมาจะสิบปีแล้วอย่างกับไม่รู้ว่ามันนึกจะขำก็ขำ สงสัยต้องให้แบล็คขู่มันอีกทีมั้ง โรห์พูดเสร็จ แบล็คไลท์ก็สร้างประกายไฟขึ้นมาในมืออย่างรวดเร็ว วอลโลหยุดดิ้นแล้วลุกขึ้นมาทันที

         หิวยังสามสหาย ไปกินขนมในบ้านกันดีกว่า พูดเสร็จโรห์ก็เดินนำเพื่อนกลับเข้าไปในบ้านโดยหารู้ไม่ว่ามีสิ่งมีชีวิตหนึ่งแอบซ่อนตัวอยู่ในสวนและจับตาดูพฤติกรรมของพวกเขาอยู่ทุกฝีก้าว

-------------------------------------------------------------------------------------------

         เมื่อพระอาทิตย์ลาขอบฟ้า ยามสนธยาก็ย่ำเยือน ชาวบ้านยังคงสนุกสนานไปกับการเลือกซื้อของกินยามค่ำคืน การแสดงดนตรีหลากหลายแนวริมข้างทางก็สนุกสนานสร้างความประทับใจ แต่ห่างออกไปสุดลูกหูลูกตา บริเวณป่าทึบที่ไม่มีแม้แต่เสี้ยวของลำแสงสาดส่องถึง มีชายหน้าตาดีหากแต่ดูเย็นชาคนหนึ่งยืนรออะไรบางอย่างอย่างสงบ ราวกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของป่าก็ไม่ปาน

         รายงานประจำวันนี้ครับท่านไลท์

         ชายผิวน้ำตาลหัวเรียบแปล้แต่งตัวคล้ายคนป่าคุกเข่าทำความเคารพชายดั่งกล่าวที่บัดนี้จ้องราวกับจะบอกว่าคู่สนธนาพูดอะไรผิด

         โบโร่ ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งกี่หนแล้วว่าเจ้าต้องเรียกข้าว่าอะไร

         ขออภัยครับท่านไลท์ เอ๊ย The Ruler Of Light

         อื้ม ดีมาก วันนี้มีข่าวอะไรเกี่ยวกับพวกเหลือเดนมารายงานข้าบ้าง

         วันนี้พวกมันเล่นซ่อนแอบกันครับท่าน

         เล่นซ่อนแอบ

         ครับ

         แล้วมีอะไรอีกไหม

         ไม่มีครับ

         ฮืม?

         ไม่มีครับ

         สรุปคือเจ้าเข้ามาหาข้าแค่มารายงานว่าไอ้พวกนั้นมันเล่นซ่อนแอบกันแค่นั้นนะหรือ

         ครับ

         เจ้าใช้ตาตี่ๆของเจ้าสังเกตุมาทั้งวันได้แค่นั้น

         ครับ

         ไปกินแกลบซะเจ้างั่ง!!! ข้าให้เจ้าไปสังเกตุว่าการควบคุมพลังของพวกมันเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่ให้เจ้าไปดูพวกมันเล่นซ่อนแอบ เจ้าไม่มีสมองหรือไม่มีสมองกันแน่วะ!!!

         ก็ท่านบอกข้าว่าให้จับตาดูทุกย่างก้าวไม่ใช่หรอครับ ข้าเล่าได้นะว่าวันนี้พวกมันเล่นซะแอบกันเวลาไหน ใครโดนหาเจอเป็นคนแรก ใครโดนหาเจอเป็นคนสุดท้าย ข้าจำได้. โบโร่ชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายดูจะหมดความอดกลั้นเต็มที เขาก้มหน้าตัวสั่นงันงกราวกับเจ้าเข้า

         ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายเท่านั้น ไปจับตาดูพัฒนาการการใช้พลังของพวกมันให้ดีแล้วกลับมารายงานข้า แล้วถ้าเจ้ายังสะเออะกลับมารายงานง่อยๆแบบนี้อีกละก็ ข้าไม่รับประกันหรอกนะว่าเจ้าจะได้กลับบ้านป่าของเจ้าหรือเปล่า

         ค. คร.. ครับ.บ

         ไปได้แล้ว ออกไป!!!

         สิ้นเสียงตวาด โบโร่รีบวิ่งออกไปจากที่นั้นทันที ผู้คุมกฏแห่งแสงดูท่าจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยอยู่ ออร่าสีข่างพุ่งพวยออกจากปลายนิ้ว ก่อให้เกิดแสงจ้าไปทั่วบริเวณ นัยน์ตาเริ่มทอแสงสีแดงสด กว่าที่จะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป พื้นที่บริเวณนั้นก็กลายเป็นหลุมกว้างไปเสียแล้ว

-------------------------------------------------------------------------------------------

         เช้าวันรุ่งขึ้น นาฬิกาปลุกส่งเสียงเป็นสัญญาณบอกว่าวันใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น คุณแม่โรห์เปิดบ้านรีบนำขนมที่อบไว้ออกเรียงใส่ตู้ ทั้งขนมเค้ก ขนมปัง โดนัท และที่ขาดไม่ได้เมนูขึ้นชื่อของร้าน แซนวิซสลัดกุ้ง ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยไม่แพ้แซนวิซเมืองอื่นๆ เธอบรรจงค่อยๆทำแซนวิซที่ว่าเพิ่มให้ลูกชายเป็นอาหารในตอนเช้า ไม่นานนักก็เสร็จ จึงล้างไม้ล้างมือไปปลุกลูกชาย

         โรห์ ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอกลูก

         ไปทำไมแม่ แม่ก็รู้ว่าไปก็ไม่เห็นจะได้เรียนรู้อะไรเลย พวกลูกผู้ดีเขาสนใจที่จะฝึกกับพวกไร้เผ่าซะทีไหน

         โธ่ ลูกจ๋า ไปสนกฏหมายโบราณบ้าบออะไรนั่นทำไม มันจะบอกว่าลูกไม่มีเผ่าก็ช่างเถอะ อย่างน้อยป้าๆเมื่อวานเขาก็เอ็นดูลูกกันจะตาย ถ้าลูกไม่มีเผ่า แม่ก็ขอไม่มีเผ่าด้วยละกัน

         โห แม่ดราม่าแต่เช้าเลยแฮะ

         ไอ้เด็กคนนี้นี่ แม่พูดจริงดันมาขำ เอาเถอะๆ ไม่ต้องไปก็ได้ เดี๋ยวหนูแบล็คไลท์จะมาหาหนูวันนี้ใช่ไหม แหม่ ลูกชายแม่เนื้อหอมไม่เบานะ เมื่อวานก็ป้าๆ วันนี้ก็สาวสวย

         โธ่แม่ ใครว่ามาแต่แบล็ค เดี๋ยวไอ้วอลโล่กับโซลก็มาด้วย ผมไม่ได้คิดอะไรกับแบล็คเลย แม่อย่ามาแซวซะให้ยาก

         จ้า พ่อหนุ่มเนื้อหอม ว่าแต่ตัดสินใจได้ยัง

         เรื่องอะไรหรอครับ

         ก็เรื่องที่ว่าจะเดินทางไปเมืองหลวงไง เห็นอาทิตย์ที่แล้วบอกว่าจะไปจ็อบเฮ้าส์หางานอิสระช่วยพวกเอลฟ์ไม่ใช่หรอ

         เออ ใช่ ลืมไปเลย เมื่อวานมัวแต่ชวนกันเล่นซ่อนแอบ ถ้างั้นเดี๋ยววันนี้จะไปเลยแล้วกัน รอพวกนั้นมาก่อน

         รอทำไม นู่นเดินมาแล้ว เอ้อ เอานี่ไปด้วยก็ได้แซนวิซสลัดกุ้ง แม่พึ่งทำเสร็จเมื่อกี้ ไปแบ่งเพื่อนด้วยละกันนะ

         ครับๆ งั้นผมไปแล้วนะครับแม่ จุ๊บๆ พูดเสร็จโรห์ก็วิ่งออกไปทันที

         จ้า ไอ้ลูกจอมทะเล้น!

         คุณแม่ตะโกนไล่หลังลูกชาวที่รีบวิ่งออกไปหาเพื่อนๆ ในใจก็นึกว่าเป็นห่วงเรื่องการเดินทางไปนครหลวงลอยฟ้าลาพูต้า เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ลูกชายของเธอห่างจากเธอไปไกลกว่าภายในหมู่บ้านเล็กๆนอกเมืองแห่งนี้

         เฮ้อ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะลูก เธอถอนหายใจ น้ำตาน้อยๆค่อยๆซึม ไม่สิ เราต้องไม่ร้องไห้ เราสัญญากับพ่อไว้แล้วว่าจะร้องไห้ครั้งนั้นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย โอเค พ่อจ๋า อยู่บนนู้นอย่าลืมช่วยปกปักรักษาลูกของเราด้วยนะ

Link to comment
Share on other sites

:pika01:ตามมาอ่านแล้วนะครับ สไตลบ์รูปแบบการแต่งของป้า ไม่มีในเบสิคเลยแฮะ แต่ก็บรรยายออกมาดีมากเลยละครับ

ปล.เสริมนิด

ไปกินแกลบซะเจ้างั่ง!!! ข้าให้เจ้าไปสังเกตุว่าการควบคุมพลังของพวกมันเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่ให้เจ้าไปดูพวกมันเล่นซ่อนแอบ เจ้าไม่มีสมองหรือไม่มีสมองกันแน่วะ!!!

ตรงนี้ป้าตั้งใจจะเขียนว่า "ไม่มีสมอง หรือว่าสมองไม่มี" ใช่มั้ยครับ  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

โรห์คือพระเอกสินะ เหอะๆๆ

แค่ตอนแรกตัวละครก็โผล่มากันให้พรึ่บเลยนะป้า :pika07: ตัวของผมชื่อแบล็คไลท์เหรอ งืมๆ ช่างเหอะ ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว

สไตล์การบรรยายแบบเน้นความเป็นไปในเรื่อง ไม่เน้นรายละเอียดอย่างนี้ผมละชอบนัก แต่คำพูดบางประโยคอ่านแล้วงงๆว่าใครพูดอยู่กันแน่ =_=

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านแล้วนะป้า

อ่านแล้วเข้าใจดี แต่ก็มีบางช่วงที่งงๆอยู่แฮะ

Link to comment
Share on other sites

:pika01:ตามมาอ่านแล้วนะครับ สไตลบ์รูปแบบการแต่งของป้า ไม่มีในเบสิคเลยแฮะ แต่ก็บรรยายออกมาดีมากเลยละครับ

ปล.เสริมนิด

ตรงนี้ป้าตั้งใจจะเขียนว่า "ไม่มีสมอง หรือว่าสมองไม่มี" ใช่มั้ยครับ  :pika01:

ป้าตั้งใจแบบที่พิมพ์จริงๆน่อ

โรห์คือพระเอกสินะ เหอะๆๆ

แค่ตอนแรกตัวละครก็โผล่มากันให้พรึ่บเลยนะป้า :pika07: ตัวของผมชื่อแบล็คไลท์เหรอ งืมๆ ช่างเหอะ ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว

สไตล์การบรรยายแบบเน้นความเป็นไปในเรื่อง ไม่เน้นรายละเอียดอย่างนี้ผมละชอบนัก แต่คำพูดบางประโยคอ่านแล้วงงๆว่าใครพูดอยู่กันแน่ =_=

มาอ่านแล้วนะป้า

อ่านแล้วเข้าใจดี แต่ก็มีบางช่วงที่งงๆอยู่แฮะ

ป้ารีบใช่ไหมหล่ะ 555+ ส่วนเรื่อง่างงว่าใครพูดนี่ ป้าว่าแล้วว่าปัญหานี่ต้องเกิด จะพยายามค่อยฟื้นฝีมือนะ สู้!!!!  :pocha09:

Link to comment
Share on other sites

มายาวขนาดนี้ ขอเม้นยาวหน่อยสิคร้าบ~!!!

----------------------------------------------------------------------

          “เล่นซ่อนแอบ”

          “ครับ”

          “แล้วมีอะไรอีกไหม”

          “ไม่มีครับ”

          “ฮืม?”

          “ไม่มีครับ”

          “สรุปคือเจ้าเข้ามาหาข้าแค่มารายงานว่าไอ้พวกนั้นมันเล่นซ่อนแอบกันแค่นั้นนะหรือ”

          “ครับ”

          “เจ้าใช้ตาตี่ๆของเจ้าสังเกตุมาทั้งวันได้แค่นั้น”

          “ครับ”

ช่างเป็นลูกน้องที่ยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะเนี้ย ไม่ทราบว่ามาเป็นหน่วยสอดแนมได้อย่างไร  :pika02:

“ไปกินแกลบซะเจ้างั่ง!!! ข้าให้เจ้าไปสังเกตุว่าการควบคุมพลังของพวกมันเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่ให้เจ้าไปดูพวกมันเล่นซ่อนแอบ เจ้าไม่มีสมองหรือไม่มีสมองกันแน่วะ!!!”

รู้สึกอยากให้พูดว่า "เจ้าไม่มีสมองหรือสมองไม่มี" มากกว่าแฮะ เพราะฟังดูแล้วรู้สึกแปลกๆอ่ะครับ  :pika05:

สิ้นเสียงตวาด โบโร่รีบวิ่งออกไปจากที่นั้นทันที ผู้คุมกฏแห่งแสงดูท่าจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยอยู่ ออร่าสีข่างพุ่งพวยออกจากปลายนิ้ว ก่อให้เกิดแสงจ้าไปทั่วบริเวณ นัยน์ตาเริ่มทอแสงสีแดงสด กว่าที่จะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป พื้นที่บริเวณนั้นก็กลายเป็นหลุมกว้างไปเสียแล้ว

บุคลิกลักษณะนิสัยของตัวละครผมมัน....ถูกใจผมเป็นที่สุดเลยคร้าบ~!!!!!  :pika10:

“โห แม่ดราม่าแต่เช้าเลยแฮะ”

ใช่คำพูดนี้กับแม่เลย แรงนะเนี้ยนาย  :pika07:

---------------------------------------------

สรุปยอดโดยรวมแล้ว....เป็นฟิคที่สนุกมากเลยคร้าบ~!!! ถึงแม้ตอนนี้จะยังสับสนนิดหน่อยกับเหล่าบรรดาเพื่อนของคุณพระเอกสักหน่อยก็เถอะนะ  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

โรห์เปลี่ยน brod อะไรหรอครับถึงได้เปลี่ยนใบไม้เป็นสีเทาได้...?

Link to comment
Share on other sites

วอลโล่ ค่อยๆ กลายเป็น

วิลโล่ และ วอลโล

          สิ้นเสียง[glow=red,2,300]วิลโล่ [/glow] แบล็คไลท์ก็ทำท่าจะวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แต่โรห์ยกมือขึ้นห้าม

          อยู่กันมาจะสิบปีแล้วอย่างกับไม่รู้ว่ามันนึกจะขำก็ขำ สงสัยต้องให้แบล็คขู่มันอีกทีมั้ง โรห์พูดเสร็จ แบล็คไลท์ก็สร้างประกายไฟขึ้นมาในมืออย่างรวดเร็ว [glow=red,2,300]วอลโล[/glow]หยุดดิ้นแล้วลุกขึ้นมาทันที

ผมว่าขาดการบรรยายลักษณะตัวละครไปนิดเดียวนะ = =

Link to comment
Share on other sites

โรห์เปลี่ยน brod อะไรหรอครับถึงได้เปลี่ยนใบไม้เป็นสีเทาได้...?

นั่นไง ป้าเจอข้อผิดพลาดที่ป้าเอะใจในตอนนี้มานาน เดี๋ยวป้าโมดิฟายใหม่เน้อ

วอลโล่ ค่อยๆ กลายเป็น

วิลโล่ และ วอลโล

ผมว่าขาดการบรรยายลักษณะตัวละครไปนิดเดียวนะ = =

ป้าไม่รู้จะใส่ยังไงดี จะพยายามลองโมดิฟายการอธิบายตัวละครเพิ่มเน้อ ส่วนเรื่องชื่อ สัพักจะกลายเป็น หว่านล้อท แน่ๆ  :pika10: (ล้อเล่นนะ ป้าเบลอเอง จะแก้ตอนลงฉบับโมดิฟายเน้อ

มายาวขนาดนี้ ขอเม้นยาวหน่อยสิคร้าบ~!!!

----------------------------------------------------------------------

ช่างเป็นลูกน้องที่ยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะเนี้ย ไม่ทราบว่ามาเป็นหน่วยสอดแนมได้อย่างไร  :pika02:

รู้สึกอยากให้พูดว่า "เจ้าไม่มีสมองหรือสมองไม่มี" มากกว่าแฮะ เพราะฟังดูแล้วรู้สึกแปลกๆอ่ะครับ  :pika05:

บุคลิกลักษณะนิสัยของตัวละครผมมัน....ถูกใจผมเป็นที่สุดเลยคร้าบ~!!!!!  :pika10:

ใช่คำพูดนี้กับแม่เลย แรงนะเนี้ยนาย  :pika07:

---------------------------------------------

สรุปยอดโดยรวมแล้ว....เป็นฟิคที่สนุกมากเลยคร้าบ~!!! ถึงแม้ตอนนี้จะยังสับสนนิดหน่อยกับเหล่าบรรดาเพื่อนของคุณพระเอกสักหน่อยก็เถอะนะ  :pika01:

)

คนนี้มายาวจริงๆ ป้ะจะโมดิฟายอีกรอบหนึ่ง จะพยายามแก้ตรงที่ทุกๆคนคอมเม้นต์มาเน้อ ส่วนเรื่องสายสืบนี่ด้นสดตอนแต่ง ตอนแรกไม่ได้กะจะให้บทแบบนั้นหรอก เพี้ยนไปจากที่วางไว้นิดหน่อย  :pika10: แต่สายสืบคนนี้นี่ขอบอกไม่ธรรมดา อ่ะฮ้า ไม่ธรรมดา

Link to comment
Share on other sites

แนวนี้ไม่เคยอ่านที่เลยครับป้า หนุกๆ ขอบอก

ติดตามต่อ หนึบหนับเลยล่ะ หุหุ

ช่วงนี้ฟิคเยอะ ฟิคแต่ละคนเนื้อหาดีๆ ทั้งนั้น อ่านแล้ว น่าติดตาม จังเลยวุ้ย

สู้ๆ  :pika03:

Link to comment
Share on other sites

“ไปกินแกลบซะเจ้างั่ง!!! ข้าให้เจ้าไปสังเกตุว่าการควบคุมพลังของพวกมันเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่ให้เจ้าไปดูพวกมันเล่นซ่อนแอบ เจ้าไม่มีสมองหรือไม่มีสมองกันแน่วะ!!!

ผมว่าก็ดีแล้วนี้นา ผมว่าป้าน่าจะสื่อแบบว่า เล่นมุกอ่ะปะ ไม่แปลกหรอกครับ

อ่านแล้วรุ้สึก บรรยายแบบนี้ก็โอเคนะครับ ไม่เน้นบรรยากาศ แต่เน้นที่ตัวละคร อ่านแล้วเข้าใจเรื่องง่ายดี

ปล.ป้าครับ ขอตัวละครผมออกมาด้วยนะ ตั้งแต่สมัครฟิคมา ไม่เคยได้ออกเลย(ล่มก่อน - -)

Link to comment
Share on other sites

ผมว่าก็ดีแล้วนี้นา ผมว่าป้าน่าจะสื่อแบบว่า เล่นมุกอ่ะปะ ไม่แปลกหรอกครับ

อ่านแล้วรุ้สึก บรรยายแบบนี้ก็โอเคนะครับ ไม่เน้นบรรยากาศ แต่เน้นที่ตัวละคร อ่านแล้วเข้าใจเรื่องง่ายดี

ปล.ป้าครับ ขอตัวละครผมออกมาด้วยนะ ตั้งแต่สมัครฟิคมา ไม่เคยได้ออกเลย(ล่มก่อน - -)

ป้าเล่นมุกจริงๆนั่นแหละ ส่วนเรื่องตัวละคนคอนเฟิร์มว่าได้ออกทุกตัวแน่นอน  :pika03:

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...
Guest bulbabenz

ตามอ่านเรียบร้อย(ได้จะสองชั่วโมงแล้ว กรี้ด)

หนุกดีครับ บรรยายน้อยไปนิดเลยนึกหน้าตัวละครไม่ค่อยออก แต่พอแว้บไปส่องกระทู้สมัครให้นึกออกได้ หุหุ

โบโร่ซังมาแต่เช้า ฮี้วว~

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 2 โอกาสมีแค่ครั้งเดียว

         เหมือนธรรมชาติจะเป็นใจให้โรห์และเพื่อนเดินทาง อากาศยามเช้านี้ช่างสดชื่นยิ่งนัก ตะวันทอแสงอ่อนๆพร้อมกับลมที่พัดโชยพากลิ่นหอมของดอกไลแลคที่ชาวบ้านช่วยกันปลูกไว้หน้าทางเข้าหมู่บ้าน น้ำค้างยอดหญ้าต้องกับแสงแดดประกายแสงระยิบน่าจับตามอง ทำเอาโรห์และเพื่อนๆรู้สึกกระปรี้กะเปร่ายิ่งขึ้น

         "แบล็ค วอลโล่ โซล พร้อมกันหรือยัง ?"

         "พร้อม" ทั้งสามประสานเสียงตอบ

         "ว่าแต่มีใครรู้บ้างว่าทางที่เราจะผ่านไปมีเอเลี่ยนหรือเปล่า" โรห์ถามเพื่อนทั้งสาม

         "ไม่มีหรอก" วอลโล่ตอบด้วยเสียงร่าเริง "ไม่มียูเอฟโอซะหน่อยจะมีเอเลี่ยนได้ยังไง"

         "จะบ้าหรออีตาบ้า ไม่สมกับเป็นผู้ใช้หนังสือเลย เขาหมายถึง สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ต่างหาก"

         "อ่าวหรอ ก็นึกว่าพูดถึงมนุษย์ต่างดาวนี่นา" วอลโล่กล่าวเสียงอายพลางเอามือหยิบหนังสือสีเทาขึ้นมา

         "เอาเถอะพอได้แล้วแหละทั้งสองคน สรุปมีใครรู้บ้างไหม ?"

         โรห์หันหน้าไปมองวอลโล่ วอลโลชี้นิ้วไปทางแบล็คไลท์ แบล็คไลท์ส่ายหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าไม่รู้ ทั้งสามหันไปหาโซลลิส เมื่อได้ยินเสียงโซลลิสค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋า สักพักโซลลิสก็เปิดหนังสือและยื่นให้โรห์ดู แบล็คไลท์กับวอลโล่มุงเข้ามาดูด้วย เนื้อหามีว่า...

         "ทะเลสาบบรอเดีย ทะเลสาบที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง สามารถเดินข้ามผ่านได้หากมีทักษะการเดินบนผิวน้ำและการย่นระยะ มีเอเลี่ยนอาศัยอยู่ประปราย ส่วนใหญ่เป็นเผ่าพันธุ์ที่มนุษย์ล่าได้ เช่น นอมิคราเคน นอมิเพสต์ นอมิเชลลี่ มีเพียง นอมิไฮดร้า เอเลี่ยนระดับสูงเท่านั้นที่จะปรากฏตัวเมื่อถูกรบกวนมากเกินไป หากไม่สามารถเดินทางข้ามทะเลสาบได้ ทุ่งหญ้ารอบทะเลสาบสามารถเดินทางได้ตามปกติ มีเอเลี่ยนที่เป็นมิตรกับมนุษย์เช่น ฮอลิแฮร์ ฮอลิบันนี่ แต่ในบางครั้งอาจพบ เดมิสกัลด็อก เอเลี่ยนระดับกลางที่ล่าฮอลิแฮร์และฮอลิบันนี่เป็นอาหาร"

         "นี่ โซล แน่ใจ ณ ว่าข้อมูลนี่ถูกต้อง" แบล็คไลท์ถามด้วยความสงสัย

         "..." โซลลิสพยักหน้า

         "เอ่อ... โรห์ ฉันว่าจ้างทหารหมู่บ้านมาสักคนสองคนดีกว่าไหม" วอลโล่ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจสักเท่าไหร่

         "กลัวอะไรหนักหนายะ ยังไงทางทะเลสาบเราก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว เดินเลาะทุ่งรอบทะเลสาบไปก็ได้ สูงสุดก็แค่เอเลี่ยนระดับกลางเอง"

         "แหม่ ก็กันไว้เผื่อพลาดอะไรอย่างงี้ จะได้ปลอดภัยชัวร์ๆ"

         "ไม่มีอะไรหรอกน่า เดินทางได้ แบล็คคอยดูวอลโล่ด้วยละกัน เราจะเดินเลาะทุ่งรอบทะเลสาบกัน" โรห์กล่าวแล้วหันไปพูดกับโซลลิส " ส่วนนายเต็มที่เลยเพื่อน "

         "..." โซลนิ่ง

         การเดินทางเริ่มขึ้น ทั้งสี่เดินทางเลาะทุ่งหญ้ารอบทะเลสาบโดยมีโรห์เดินนำหน้า ตามมาด้วยแบล็คและวอลโล่ ปิดท้ายขบวนด้วยโซลลิส ผ่านไปเกือบครึ่งทางไม่พบเอเลี่ยนใดๆเลยแม้แต่ตัวเดียว ทั้งสี่นั่งพักเหนื่อยกินขนมกัน แบล็คไลท์ยังคงทะเลาะกับวอลโล่ไม่เลิกเพราะตลอดทางวอลโล่พยายามจะชวนให้โรห์จ้างทหารหมู่บ้านมาให้ได้ โรห์ยิ้มอารมณ์ดีเมื่อเห็นเพื่อนดูร่าเริง และกวาดสายตาหาเพื่อนอีกคนซึ่งตอนนี้กำลังใช้มือแตะที่พื้นดิน สลับกับการดม ครั้งแล้วครั้งเล่า

         "มีอะไรหรือเปล่าโซล เห็นทำท่าแตะๆดมๆหลายรอบแล้ว"

         โซลลิสปาดเหงื่อและตอบสั้นๆว่า "กลิ่นคาวเลือด คราบเลือด"

         "กลิ่นคาวกับคราบเลือดงั้นเหรอ หรือว่า..."

         โรห์ตื่นตระหนกกับประโยคที่ได้ยิน โซลลิสพยักหน้าและปาดเหงื่ออีกครั้ง พลางชี้คราบรอยเลือดจางๆเป็นทาง ซึ่งมุ่งหน้าไปบริเวณที่แบล็คไลท์และวอลโล่วิ่งไล่กันพอดี โรห์ตะโกนเรียกเพื่อนโดยพยายามเก็บความกลัวเอาไว้

         "เ่อ่อ.. แบล็ค วอลโล่ กลับมานี่หน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย"

         ทั้งสองไม่ได้ยินเสียงโรห์ หรืออาจจะได้ยินแต่ไม่ได้สนใจเพราะกำลังวิ่งไล่วิ่งหนีกันอยู่ โรห์ตัดสินใจจะตะโกนอีกครั้งแต่...

บรู๊วววว โฮ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

         สุนัขร่างกระดูกตัวขนาดเสือย่อมๆพร้อมกับตัวขนาดทั่วไปอีกหกตัว กระโจนเข้ามาข้างหน้าวอลโล่ ซึ่งตกใจจนล้มลงกับพื้น ทางด้านแบล็คไลท์ก็ตกใจไม่แพ้กัน เหล่าพลสุนัขโครงกระดูกค่อยวิ่งตีวงล้อมรอบๆทั้งสองแบล็คไลท์ตั้งสติเตรียมสถิตพลังไฟฟ้าไว้ในมือ โรห์กับโซลลิสไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปทันทีโดยหารู้ไม่ว่ามีพลสุนัขโครงกระดูกอีกสองตัววิ่งตามข้างหลังมาอย่างเงียบๆ

บรู๊ววววววววววววว โฮ๊กกกกกกกกกกกกกกกกก โฮ๊กกกกกกกกกกกกกก

         ราวกับเป็นการสั่ง สุนัขสองตัวข้างหลังโรห์และโซลลิสกระโจนเข้าด้านหลังทั้งสองทันที ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ระยะกระโจนสั้นเกินไป โรห์กับโซลลิสจึงเข้าหาเพื่อนทั้งสองได้สำเร็จ หากแต่ตอนนี้ทั้งสี่ต้องเผชิญกับพลสุนัขโครงกระดูกแปดตัว แถมยังมีสุนัขโครงกระดูกยักษ์อีกหนึ่งตัวยืนกำกับอยู่ข้างหน้าพวกเขาพอดี

         "บ.....บอกแล้ว ว.... ว.....ว่าจ้างทหารรับจ้างมาก็ไม่เชื่อ" วอลโล่เสียงสั่น

         "อีตาบ้าอย่าทำให้ฉันเสียสมาธิหน่อยเลยน่า" แบล็คไลท์พยายามควบคุมสติตนเองไม่ให้ตวาด

         "เยี่ยมมากพระสหายทั้งสอง ทีตอนตะโกนเรียกไม่ได้ยิน ตอนนี้สงสัยได้ลุยกันเละไปข้างแน่ๆ" โรห์ประชด

         "เดมิสกัลด็อก" โซลเอ่ยขึ้นเบาๆ "จุดอ่อน กระดูกข้อต่อ"

         "เยี่ยมมากโซล ขอบคุณที่ช่วยบอก ถ้าชั้นไม่โดนมันขย้ำก่อนนะ"

         สิ้นเสียงขอบคุณของแบล็คไลท์ สายฟ้าสีเหลืองก็ช็อตไปที่พลสุนัขกระดูกด้านข้าง ทำเอาตัวที่เหลือตกใจไม่ทันได้ตั้งตัว โรห์เห็นดังนั้นจึงเตะพาดคอตัวที่ใกล้ที่สุดหมดสภาพไปหนึ่งตัว

         "ก็ไม่เท่าไหร่นี่นา ดีละ"

         โรห์วิ่งเข้าไปโจมตีระยะประชิดเป้าหมายตัวต่อไป แบล็คไลท์พยายามใช้ใยแมงมุมไฟฟ้าพันธนาการตัวที่ใกล้วอลโล่ซึ่งยังคงนั่งตัวสั่นงันงก ในขณะที่โซลยืนอยู่กลางวงยืนพึมพัมราวกับท่องบทสวดอยู่

         "เฮ้ย โซล ช่วยหน่อยสิ ไปยืนพึมพัมอะไรกลางวงเนี่ย เดี๋ยววอลโล่ก็กลายเป็นโครกระดูกสหายพวกมันพอดี"

         แบล็คไลท์ตะโกนเรียกโซล พลางควบคุมใยพันธนาการตัวใกล้ๆ แต่โซลกลับยืนนิ่งพึมพัมเหมือนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างใดๆเลย แบล็คไลท์จึงหันไปทางโณห์ซึ่งตอนนี้กำจัดไปได้สองตัวแล้วตะโกนเรียก

         "โรห์ เปลี่ยนหญ้าเป็นใบมีดโจมตีมันไม่ได้หรอ"

         "ไม่ได้"

         "ทำไมไม่ได้"

         "ทำเป็นซะที่ไหนเล่า"

         "แล้วตอนที่เล่นซ่อนหาใครเป็นคนทำมิทราบยะ ฉันเห็นนายชี้ใบไผ่แล้วมันก็กลายเป็นใบมีดนิ"

         "ใช่ซะที่ไหนเล่า นั่นมันฝีมือไอ้มนุษย์ไร้ปากกลางวงนู่น"

         สิ้นเสียงโรห์เพียงแค่อึดใจ ใบหญ้ารอบๆตัวโซลเปลี่ยนเป็นสีเงินพุ่งใส่เดมิสกัลด็อกที่แบล็คไลท์พันธนาการไว้หมดสภาพทันที แบล็คไลท์สะดุ้งตกใจนิดหน่อยในขณะที่วอลโล่กลับขวัญเสียหนักขึ้นกว่าเดิม

         "พระเจ้าช่วยลูกด้วย ช่วยลูกด้วย"

         "อีตาบ้าเอ๊ย"

         แบล็คไลท์ชักใยเดมิสกัลด็อกที่โดนโซลโจมตี (ซึ่งบัดนี้มีใบมีดหญ้าปักเต็มโครงกระดูกราวกับเม่น) โครงกระดูกค่อยๆลุกขึ้นช้าๆราวกับฟื้นคืนชีพ แบล็คไลท์เริ่มกระดิกนิ้วปล่อยไฟฟ้าไหลผ่านใยเข้าสู่ร่างกระดูก พลันใดนั้นมันก็กระโจนใส่พวกเดียวกันเอง

         "ลองเล่นสนุกกันซักหน่อยดีไหม ไอ้หมานรก"

         ทั้งสามไล่รุกโจมตีเดมิสกัลด็อกจนลืมจ่าฝูงตัวเขื่องที่ค่อยๆย่องเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โรห์กำจัดเดมิสกัลด็อกไปได้สามตัวก็เริ่มนึกขึ้นได้ รีบหันกลับไปมองเจ้าตัวเขื่อง ซึ่งบัดนี้ตั้งท่าจะกระโจนใส่โซล ผู้ที่ต้องใช้สมาธิในการโจมตี

         "แบล็คไลท์ ช่วยโซลที"

         "อะไรนะโรห์" แบล็คไลท์ตะโกนถามขณะกำลังควบคุมโครงกระดูกที่สอง แล้วหันกลับไปเพื่อรอคำตอบ ซึ่งไม่ต้องรอโรห์ตอบเธอก็เห็นด้วยตาตัวเองเสียแล้ว โซลโจมตีพลเดมิสกัลด็อกตัวที่เจ็ดเสร็จก็ถอนหายใจ แล้วสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นโครงกระดูกยักษ์ทะยานอยู่เหนือหัว

         "บ้าเอ๊ย"

         โรห์อารมณ์เดือดสร้างไฟไว้ที่เท้าแล้วเตะพลเดมิสกัลด็อกตัวสุดท้ายเต็มแรงจนไหม้กลายเป็นผง เตรียมที่จะพุ่งเข้าไปช่วยโซลลิส แบล็คไลท์อัดพลังไฟฟ้าไปยังโครงกระดูกที่ควบคุมแล้วยิงใส่จ่าฝูง หากแต่หลุดรอดผ่านโครงกระดูกยักษ์ไปได้ เดมิสกัลด็อกตัวเขื่องอ้าขากรรไกรเตรียมงับร่างโซลลิส ทันใดนั่นเอง

วุ่บ

         พื้นดินที่โซลลิสยืนอยู่ก็กลายเป็นหลุมขนาดย่อม ร่างของโซลิสหายไป จ่าฝูงเดมิสกัลด็อกงับอากาศก็เกิดอาการโกรธฟึดฟัดพร้อมกับอาการมึนงงของทั้งสามคน ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีลำแสงสีฟ้าสว่างขึ้นข้างๆโรห์ โซลลิสปรากฏตัวขึ้นในท่ายกแขนป้องหน้า

         "เฮ้ย!!!" โรห์และแบล็คไลท์ตกใจ

         แต่เดมิสกัลด็อกหาสนใจไม่ มันเตรียมตัวที่จะพุ่งเข้าหาเหยื่อรายต่อไปที่ใกล้ที่สุด นั่นคือวอลโล่ที่ยังคงตัวสั่นงันงกอยู่ แต่ต่างกันตรงที่ตอนนี้ร่างของวอลโล่มีออร่าสีเทาคลุมทั่วร่างกาย พื้นดินที่วอลโล่นั่งอยู่กลายเป็นหลุมเหมือนก่อนหน้านี้ แต่แทนที่วอลโล่จะตกลงไปในหลุม กลับค่อยๆลอยขึ้น พร้อมกับร่างของเดมิสกัลด็อกยักษ์ ออร่าสีเทาค่อยหมุนวนรวมตัวกันเป็นก้อนกลมรอบตัววอลโล่ ร่างโครงกระดูกยักษ์พยายามดิ้นให้หลุดจากอำนาจลึกลับแต่ไม่สำเร็จ

Delay Warp Hole !!!

         เสียงเล็กแหลมเหมือนเด็กดังขึ้น พื้นดินที่ทุกคนยืนอยู่ก็กลายเป็นหลุมจนร่างหล่นลงไป ทันใดนั้นเองออร่าสีเทาก็ระเบิดพลังงานใส่โครงกระดูกยักษ์ น่าแปลกที่ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น เพียงแต่ร่างของจ่าฝูงเดมิสกัลด็อกหายไปราวกับไม่เคยมีมันอยู่ในที่นั้นมาก่อน

Open Warp Hole !!!

         ลำแสงสีฟ้าสว่างขึ้นในหลุม ทุกคนกลับขึ้นมาบนพื้นดินอีกครั้งในชั่วพริบตา ปากหลุมทั้งหมดปิดลง ทั้งสามวิ่งไปหาวอลโล่ที่ค่อยลอยลงสู้พื้นเบื้องล่าง สภาพราวกับไม่ไ้ด้ดื่มน้ำกินข้าวมาสามวันติดต่อกัน

         "เหนื่อยชิบหายเลย ไม่นึกว่าจะต้องใช้ท่านี้" วอลโล่พูดเสร็จก็โซซัดโซเซล้มลงทันที

         "ท่าอะไรของแกวะวอลโล่ ดูสยองๆพิลึก" โรห์ถาม

         "Natural Format ทำให้ร่างนั้นกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของชีวิตสินะ ดิ๊ก" เสียงเด็กเล็กๆ กล่าว

         ทั้งสามหันไปทางต้นกำเนิดเสียง (ซึ่งวอลโล่ก็อยากจะหันไปเหมือนกัน แต่หมดแรงขยับตัวเต็มที)  มนุษย์ร่างเล็กหูตั้ง จมูกสีดำมีหนวดซึ่งสีกลืนกับ ขนสีน้ำตาลทองสั้นๆที่ขึ้นเต็มร่าง สวมชุดสีฟ้าเหมือนชุดเด็กแรกเกิด โผล่มาจากพื้นดินครึ่งตัว

         "เรียกใครว่าดิ๊กหรอ พ่อตัวน้อย" แบล็คไลท์ตั้งสติได้เป็นคนแรก (หรือบางทีโซลอาจตั้งสติได้เป็นคนแรก แต่ไม่ถามซะเอง)

         "อ๊าาาา ขอโทษทีนะดิ๊ก พอดีผมติดปากนะดิ๊ก ผมชื่อ  เลออนน่า เซอเพ้นทร่า เรียก ลูซัง ก็ได้นะดิ๊ก"

         "เธอใช่ไหมที่ช่วยพวกเราขอบคุณมากนะจ๊ะ"

         "ไม่เ็ป็นไรหรอกดิ๊ก" ลูซังอายหน้าแดง

         "ว่าแต่..." โรห์ตั้งสติได้จึงถามบ้าง "ลูซังรู้ได้ไงว่าท่าที่เจ้าวอลโล่มันใช่คือท่า Natural Format ?"

         "อ๋อ เรื่องนี้ง่ายมากเลยดิ๊ก ในโรงเรียนของผมก็มีสอน คุณครูบอกว่าถ้าเห็นออร่าสีเทาๆบีบอัดเป็นก้อนกลมๆละก็ให้รีบขุดรูช่วยคนอย่างเร็ว เพราะมันจะทำให้ผู้ที่อยู่ในระยะสามเมตรกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ เลยเป็นที่มาของชื่อ Natural Format นะดิ๊ก"

         "อื้ม ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ป่ะ แบล็ค โซล หิ้วปีกเจ้าวอลโล่กลับไปรักษาตัวที่บ้านกัน"

         "เดี๋ยวสิดิ๊ก แต่ละคนก็ดูเหนื่อยกันมาก กว่าจะเดินทางกลับเหนื่อยแย่ ไปพักที่หมูบ้านผมดีกว่านะดิ๊ก"

         "เอาไงดี" โรห์ถามเพื่อน

         "ไม่เป็นไรหรอก ลูซังน่ารักดีออก แถมช่วยเราด้วย ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกมั้ง" แบล็คไลท์พูด ลูซังหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม

         "..." โซลลิสพยักหน้าตอบ

         "งั้นโอเค ไปหมู่บ้านลูซังก็ได้ ว่าแต่อยู่ทางไหนหล่ะ"

         "ยืนเฉยๆนะดิ๊ก"

         "ทำไมหรอ"

         สิ้นเสียงคำถามของแบล็คไลท์พื้นดินที่ทั้งสามยืนอยู่(บวกอีกหนึ่งที่โดนหิ้วปีก)ก็ลึกลงไปกลายเป็นหลุมอุโมงค์ยาว ทั้งหมดร่วงลงไปในหลุม แบล็คไลท์ตกใจกรี๊ดเสียงดัง ลูซังรีบไต่ขึ้นจากหลุมตัวเองแล้วกระโดดตามลงไปทันที

Warp Hole !!!

         สิ้นเสียงลูซัง ปากหลุมก็ปิดทันที ชาวผิวน้ำตาลผู้ที่คราวที่แล้วทำงานพลาดเดินออกมาจากหลังทุ่งหญ้าที่หลบอยู่

         "คราวนี้ท่านไลท์ต้องภูมิใจในตัวโบโร่ผู้นี้แน่นอน มีตังค์เลี้ยงพ่อแม่แล้ว ฮ่าๆ"

         "หรอ"

         โบโร่สะดุ้งตกใจ เมื่อไลท์ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง เขารีบคุกเข่าทันที

         "ท่านไลท์ เอ๊ย The Ruler Of Light ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละครับ"

         "เพราะข้าไม่ไว้ใจเจ้านะสิ ทำงานห่วยซะขนาดนี้"

         "ครั้งนี้ข้าจับตามองทุกอย่างจริงๆนะท่าน"

         "ข้ารู้ และข้าก็คิดว่าเจ้าคงจะเล่าให้ข้าฟังได้ แต่พอดีข้าก็แอบดูอยู่เหมือนกัน"

         "งั้นข้าก็ไม่ต้องเล่านะสิท่าน"

         "ใช่"

         "งั้นข้าขอ...... ตัว" โบโร่ชะงักเมื่อเห็นไลท์ทำหน้าโกรธใส่

         "แล้ว ทำ ไม เจ้า ไม่ ตาม มัน ลง หลุม ไป"

         "ก็... ข้าไม่รู้นี่ท่าน"

         "ไอ้งั่งเอ๊ย ช่างเถอะ อย่างน้อยครั้งนี้เจ้าก็ทำวานดีขึ้น ไสหัวไปได้แล้ว มีอะไรเดี๋ยวข้าติดต่อเจ้าอีกที"

         "ครับท่าน"

         "อ้อ รีบกลับไปบ้านป่าเจ้าก็ดีนะ บางทีงานหน้าเจ้าอาจะไม่ได้กลับบ้านนานเลยก็ได้"

         "ครับท่าน" พูดเสร็จโบโร่ก็วิ่งเข้าทุ่งหญ้าลับสายตาไลท์ไป

         "โบโร่เอ๊ย ไม่ใช่แค่เจ้าหรอกนะ เจ้าพวกนั้นก็ด้วย รีบกลับบ้านก็รีบกลับซะนะ เดี๋ยวจะไม่มีบ้านให้กลับ ฮึฮึ"

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านแล้วค่ะ(2 ตอนรวดเลย อิอิ)

รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเร็วไปนิดนึงค่ะ แต่บรรยายรอบข้างดีแล้วค่ะ

สู้ต่อไปนะคะป้า :pika01:(ติฟิคไม่ค่อยเก่งแฮะ- -)

แต่ก็จะติดตามไปเรื่อยๆค่า สู้ๆนะคะ

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.
×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.