Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Fiction!!] Digimon Special


Kimur@

Recommended Posts

เย้~ มาแล้ว~ ไวทันใจดีจัง

มันส์สุโค่ยเลยครับ~ แต่ลุคฝ่ายร้าย มันออกมาดูดีกว่าฝ่ายดีอีกแฮะ หรือว่าเราคิดไปเองหว่า อิอิ

สงสารเมตัลมาเมม่อนเล็กๆแฮะ ตอนที่โดนตอกหน้าว่าเป็นทางตันอ่ะ เหอะๆๆ

มีชื่อของตัวละครผมออกแล้วด้วย~ แต่ค่อนข้างไร้ฝีมือ =.=" อย่ามาดูถูกอีริคนะเฟ้ยคิมูระ!!! ถึงจะไร้ฝีมือ แต่ก้อเป็นตัวป่วนได้ล่ะน่า อิอิ

เนื้อเรื่อง อยู่ในระดับเยี่ยม แต่ไม่ถึงกับเยี่ยมยอดครับ การดำเนินเรื่องยังดูขาดตอนไปนิดนึง อย่างเช่น ตอนที่ฟรีด้อมบุกโจมตีหมู่บ้าน แล้วหวอดัง น่าจะใส่เป็นตัวหนา+สีแดงนะครับ ผู้อ่านจะได้รู้ว่า นี่หักมุมแล้วนะ ครับผม ^^

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 63
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • ChaosPhoenix

    8

  • Kimur@

    8

  • bluewind

    7

  • Retia Adolf

    7

มาอ่านตอนล่าสุดแล้วครับ~

เอ๊ะ เมทัลมาเมมอนเป็นสายลับหรอกเหรอ หรือว่ามันน้อยใจที่โดนคิมูระดูถูกรึเปล่าหว่าถึงไปก่อกวน =_= เนื้อเรื่องช่วงนี้ทำผมนึกไม่ถึงเลยแฮะ ทำออกมาได้ดี ในที่สุดก็จะเริ่มบู๊กันแล้วววววว

แต่ผมเห็นอยู่จุดๆหนึ่งครับ

“มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคน ออกไปดูที!!” เธอร้องเสียงหลง พลางทรุดลงกับพื้น

ตรงนี้คิมูระบรรยายผิดครับ

ความจริงแล้วการกระทำควรจะตรงกันข้ามนะครับ คือต้องลุกขึ้นทันที ซึ่งเป็นท่าทางที่แสดงความตกใจ ตื่นเต้น สับสน ทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ใช่ลงไปนั่ง เพราะเป็นท่าทางที่แสดงความรู้สึกสะเทือนใจจนไม่มีเรี่ยวแรงครับ

Link to comment
Share on other sites

เมทัลมาเมม่อน พัฒนาได้แค่ร่างสมบูรณ์หรอ ไม่น่านะ

Link to comment
Share on other sites

เมทัลมาเมม่อน พัฒนาได้แค่ร่างสมบูรณ์หรอ ไม่น่านะ

ประมาณว่าไม่มีร่างสุดยอดเป็นของตัวเองน่ะครับ ว่าง่ายๆคือร่างสุดยอดมัน มาเมม่อนตัวอื่นก็เป็นกันได้ ไม่เหมือนพวกเมทัลเกรย์ม่อน หรือวอร์การุรุม่อนน่ะครับ ที่มีร่างพัฒนาเป็นของตัวเอง แถมยังมีหลากหลายให้เลือกด้วย

Link to comment
Share on other sites

สงสัยหน้าตาปัญญาอ่อนเกิน คิมูระเลยรับไม่ได้ =o=

Link to comment
Share on other sites

Guest bulbabenz

ในที่สุดก็ได้มาตามอ่าน ฮี้วว

พ่อพระเอกของเรานี่ ปรับตัวได้ไวมากแท้ ๆ (คิด ๆ ดูคงคุยและเห็นดิจิตอลเวิร์ดมาก่อนหน้านี้สิเนอะ...)

มาถึงตอนสอง ตัวละครตัวเองออกมาเล้ว เย้ห์~

เท่าที่ดูก็ ไม่ใช่คนสนิทกับแถบนี้จริง ๆ ด้วย ไม่มีใครเรียก "มารุคุง"

ท่าทางผ้มจะพอมีฝีมือ? uh~

ฮิฮิ

หรือใบซาหมักใส่ผิด~ ที่จริงคือ....

ชื่อ: มารุ

นามสกุล : ทาบิเคอิ

(เรียงไม่เป็น กรี้ด)

เนื้อเรื่องดี แต่ตัดฉากไวไปนี้ดนึง ผมว่ามีเส้นขั้นตัดฉากหน่อยก็โอเคนะ?

โดยรวมน่าิติดตามดีครับ คำผิดนิดเดียว อ่านไม่ขัดเลย

[me=バルブバベンス]ปิดปั๊ม อ่านเสร็จไปหนึ่งเรื่อง[/me]

Link to comment
Share on other sites

เมทัลมาเมม่อนท่าจะงอนจิงๆแฮะ :pika11:

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่2 ปริศนาของโลกดิจิตอล และภารกิจแฝงตัว Part2

ณ ทางด้านจักรวรรดิเหล็ก กลุ่มดิจิม่อนร่างวัยรุ่นหลากหลายชนิด ต่างมายืนเฝ้าประตูเมืองขนาดใหญ่ ที่ทำจากเหล็กกล้า โดยมีอากูม่อน ดิจิม่อนไดโนเสาร์สีเหลืองที่ร่างสูงใหญ่ตระหง่านราวสองเมตร ยืนนำทัพอยู่ คอยเตรียมรับมือกับผู้ที่จะมารุกราน

ทางฝ่ายไวท์แฟง จะส่งใครมานะ เสียงของชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ผมสีเทาสะท้อนแสง ในชุดหนังคลุมทับด้วยเสื้อคลุมดำเอ่ยขึ้น เขาหลบอยู่ด้านหลังของอากูม่อนยักษ์ และเมื่อเขาเอ่ยคำถามขึ้นมา ก็มีเงาของดิจิม่อนเล็กๆคล้ายกระต่าย  โผล่มาจากไหล่อากูม่อน และกระโดดลงมาหาชายหนุ่มผมเทา แต่ทว่า มีมือของหญิงสาวรับไว้แทน

ถ้าถามฉัน คิดว่าฉันจะรู้มั้ยละ สเวน หญิงสาวผมบลอนด์ยาว ที่รับดิจิม่อนรูปร่างคล้ายกระต่ายพระจันทร์สีฟ้า เอ่ยขึ้นกับชายหนุ่มผมเทา เธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวลวดล้ายฟ้าอ่อน ตัดกันอย่างลงตัว

เธอก้าวมายืนข้างสเวน พลางปล่อยดิจิม่อนกระต่ายพระจันทร์ลงจากมือของเธอ และหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกันกับดิจิม่อนทุกตัว

ป่านนี้ทางด้านอีริค และเรียวอิกิ จะเป็นยังไงบ้างนะ ท่านจิจิม่อนคิดยังไง ถึงส่งพวกเขาไปรับมือกับร่างสุดยอด อย่างลิลิธม่อน

หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง พลางกำดิจิไวซ์สีฟ้ารูปไข่ของเธอแน่น และดิจิม่อนทุกตัวที่อยู่กับเธอ เริ่มรับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของศัตรู

แสงสีขาวสว่างจ้าจากท้องฟ้าปรากฏขึ้น พร้อมกับร่างของได ทันทีที่แสงสว่างหายไป ผู้รักษาประตูเมืองจักรวรริเหล็กทุกคน ตั้งท่าพร้อมสู้

พวกเธอทั้งสอง คงจะเป็น สเวน และฌานสินะ เขากล่าวพร้อมกับมองไปยังชายหนุ่มและหญิงสาว ที่อยู่ข้างหลังอากูม่อนขนาดยักษ์ ก่อนที่จะเงยหน้าไปมองบนท้องฟ้า ที่สาดแสงอันร้อนแรงลงมา ยิ่งทำให้พื้นที่โดยรอบที่แทบจะไม่มีต้นไม้อยู่แล้วนั้น กลับร้อนระอุเข้าไปอีก

นายคงจะเป็นไดสินะ เสียงของสเวนตอบโต้กลับมา คนชั่วร้ายของอนาลอคแมน แถมยังมาตัวคนเดียว ประมาทพวกเรามากไปมั้ง

ฉันไม่ใช่พวกที่ชอบประมาทศัตรูหรอกนะ ไดกล่าวโต้กลับ พลางยกดิจิไวซ์ขึ้นมาที่ด้านหน้าของตน ทางของฉันน่ะ ไม่ได้หวังชื่อเสียง หรือได้หน้าว่าเป็นฮีโร่แบบพวกแกหรอก ทางของฉันน่ะ มีแต่ความจริง

ความจริงว่าพวกแกมันอยากจะครองโลกน่ะสิ คนแบบพวกแก เราอ่อนข้อให้ไม่ได้เด็ดขาด สเวนกล่าวสวนกลับไป และฉันก็ไม่ใช่ฮีโร่ด้วย ไม่งั้นคงไม่วางแผนทำลายฐานที่มั่นของพวกแกหรอก

สกปรก ไดกล่าวพร้อมกดปุ่มที่ดิจิไวซ์ เพื่อปล่อยดิจิม่อนของเขาออกมา ดิจิมังกรในชุดทหารพรานสีน้ำเงินเข้ม ถูกส่งออกมาจากดิจิไวซ์ของได ในมือของมันถือปืนกลด้วยหนึ่งกระบอก มันมีชื่อว่า คอมมานดราม่อน (Commandramon)

เล่นงานเจ้าพวกดิจิม่อนกลุ่มต่อต้านได้เลย คอมมานโด้ ไดออกคำสั่งด้วยความว่องไว คอมมานดราม่อนของเขากราดปืนกลรัวใส่กลุ่มดิจิม่อนทันที

การ์ดแสลช Geo Shield สเวนรูดการ์ดเข้ากับดิจิไวซ์ พร้อมกับมีโล่อากาศที่มองไม่เห็น มากันกระสุนให้กลุ่มดิจิม่อน

เซลิน การ์ดแสลช เพิ่มความเร็ว ฌานซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ ตัดสินใจเข้าต่อสู้ด้วย เธอรูดการ์ดแสลช ใส่ดิจิไวซ์ ดิจิม่อนกระต่ายพระจันทร์สีฟ้าของเธอ มันก็พุ่งตัวไปด้วยความเร็วสูง กระแทกคอมมานดราม่อนของได จนปืนหลุดจากมือ

การ์ดแสลช ฌานรูดการ์ดต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เธอหยิบการ์ดสีน้ำเงินออกมา บลูการ์ด Matrix Evolution

บ้าน่า นังนี่มันคิดจะเล่นเกมเร็วอยางนั้นหรือ ไดเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ ฌานเองก็ใช้ประโยชน์จากการแปลงร่างให้เป็นประโยชน์ เพราะเมื่อดิจิม่อนของเธอแปลงร่างระยะประชิด มันจะเกิดคลื่นพลังระเบิดออก

โอ้ย ไดร้องอย่างเจ็บปวด พร้อมกับกระเด็นกลิ้งไปข้างหลัง ส่วนทางด้านคอมมานดราม่อนก็กระเด็นตามไปติดๆ

ลูนาม่อน เปลี่ยนร่าง!! เซลินพูดพร้อมกับเกิดแสงสว่างทั่วทั้งร่าง และคลื่นพลังระเบิดรอบตัวขณะเปลี่ยนร่างก็ตามมาระลอกสอง ส่งผลให้ไดกับคอมมานดราม่อนต้องยกมือขึ้นมาบังตาของตัวเองเอาไว้

เพียงแค่ชั่วอึดใจ แสงสว่างก็หายไป ลูนาม่อนของฌาน เปลี่ยนร่างเป็น เลกิซม่อน (Lekismon) ดิจิม่อนกระต่ายขาวลายพาดกลอนฟ้า ที่มีพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวประดับบนหัวราวกับเขา ลำตัวส่วนไหล่ติดเกราะสีฟ้ารูปร่างประหลาด จากนั้นแสงสว่างรอบตัวก็ค่อยๆหายไป แต่มันยังไม่จบเท่านี้

เกิดแสงสว่างจ้า และแผ่คลื่นแสงสีขาวสว่างต่อไปจนทั่ว ระหว่างนี้ไดกับคอมมานดราม่อน ได้แต่หลบ เพราะเขารู้ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ ระหว่างดิจิม่อนเปลี่ยนร่าง

ร่างกายของเลกิซม่อน วิวัฒนาการต่อจนเป็นร่างสมบูรณ์ จากรูปลักษณ์กระต่ายสองขาเดินได้ เค้าโครงรูปร่างท่อนบน เริ่มก่อตัวเป็นผู้หญิง ใบหน้าใส่หน้ากากเหล็ก โลหะหกแท่งยื่นออกมาจากด้านหลัง ในมือทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งถือโล่เสี้ยวพระจันทร์ ที่ด้านซ้าย และด้านขวาถือเคียววงพระจันทร์ เท้าทั้งสองสวมบูทสีขาว เป็นอันเปลี่ยนร่างเสร็จเรียบร้อย

ฉันเรียกร่างสมบูรณ์ได้ก่อน ปิดฉากละนะ ได เครสเซม่อน (Crescemon) โจมตี ฌานกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยชัยชนะ เครสเซม่อนลงมือฟาดเคียวใส่เข้าที่คอมมานดราม่อนของไดอย่างจัง มันยืนขึ้นและใช้สองมือต้านรับเคียวเอาไว้ แรงฟาดของเครสเซม่อน ทำเอาเท้าของมันจมดินไปราวสิบเซน

ตอนนี้แหละ ไดกล่าวขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขายกดิจิไวซ์ขึ้นมา พร้อมกับบลูการ์ดในมือ

ไม่ให้ทำอย่างนั้นหรอก สเวนกล่าวตะโกนขึ้นมา อัลท์ไอเซน เบบี้เฟลม

อากูม่อนของสเวนพ่นไฟขนาดมหึมาออกจากปาก ตรงเล่นงานไปยังได ทำเอาคอมมานดราม่อนที่กำลังสู้อยู่กับเครสเซม่อนใจเสีย มันไม่สามารถปลีกตัวมาช่วยเจ้านายของมันได้

แต่ทว่า มีเงาของคนๆหนึ่ง กระโดดเข้ามาขวางลูกไฟยักษ์ของอากูม่อนเอาไว้ เขาเป็นเด็กหนุ่มในชุดโรบินฮูด ทาบิเคอิ ทาบิเคอิยกดิจิไวซ์ของตัวเองขึ้นมาตรงหน้า เพื่อเตรียมรับกับลูกไฟยักษ์ของอากูม่อน

สปิริต เอโวลูชั่น ทาบิเคอิตะโกนดังลั่น พร้อมกับแสงสีขาวล้อมรอบตัว ลูกไฟยักษ์ของอากูม่อนเข้ามาปะทะในเวลานี้พอดี จึงทำให้ทาบิเคอิไม่เป็นไร

แสงสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทุกคนต้องหลับตา และทันทีที่แสงดับลง ตัวของทาบิเคอิ ก็เปลี่ยนไป เขากลายเป็นดิจิม่อนหมีหิมะสีขาว สวมเกราะใหล่สีเขียว และที่คาดสีเขียว ด้านหลังพกปืนใหญ่คล้ายบาซูก้าเอาไว้

เตรียมใจให้ดี พรรคพวก ทาบิเคอิ ในร่างของชัคคุม่อน (Chakkumon) ตะโกนขึ้น พร้อมกับหยิบปืนใหญ่จากด้านหลังออกมา และเล็งใส่ไปยังกลุ่มดิจิม่อน

สเวน ฝากด้วย ฌานตะโกนให้สัญญาณ สเวนกำลังจะรูดการ์ดแสลช จีโอชิลด์ เพื่อป้องกันทุกคน แต่ว่าเขาทำอย่างนั้นไม่ได้

คมมีดจากศัตรูไม่ทราบนาม แทงเข้าที่ท้องของสเวนอย่างจัง ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

คนที่ทำร้ายสเวน คือซิลดราม่อน (Sealdramon) ดิจิม่อนในชุดทหารพรานสีฟ้า ใส่แว่นตาเรดาห์ และในมือ กำลังถือมีด ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของตน ใช้แทงเข้าที่ท้องของสเวนอยู่

ซีลดราม่อน คือร่างพัฒนาของคอมมานดราม่อน และอันที่จริง มันควรจะสู้อยู่กับเครสเซม่อนของฌาน

แต่เมื่อทุกคนพร้อมใจกันมองไปที่เครสเซม่อน ก็พบว่ามีซิลดราม่อนอีกตัว กำลังใช้มีดฟาดฟันกับเคียวและโล่ของเครสเซม่อนอย่างชำนาญ

หนอยแก ฌานโมโหสุดขีด ที่ดิจิม่อนของได เล่นลอบกัดในขณะที่ทุกคนมองไม่เห็นเพราะแสงจากการแปลงร่างของชัคคุม่อน

คอมบิเนชั่น ไดกล่าวอย่างชัยด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยกบลูการ์ดสีฟ้าออกมาอีกครั้ง และรูดมัน

เมื่อไดทำการรูดการ์ดแสลช ซีลดราม่อนที่กำลังแทงสเวนอยู่ ก็สลายร่างไป ทุกคนพึ่งสังเกต ว่ามีดที่ปักท้องของสเวน ไม่ทำให้สเวนเกิดบาดแผลใดๆเลย และกว่าพวกเขาจะรู้ตัวว่าพวกเขาโดนการ์ดแยกร่างของไดหลอกเข้าให้ ปืนใหญ่ของชัคคุม่อน ก็ยิงมาทางพวกเขาแล้ว

สโนว์ บอมเบอร์ กระสุนหิมะพุ่งตรงมายังกลุ่มของพวกสเวนอย่างจัง เวลานี้เขาตั้งหลักไม่ทัน ทำให้ทุกโดนยิงกันหมด แรงจากปืนหิมะ ทำเอาหลังทุกคนกระแทกกำแพงเมือง

ทุกคน เครสเซม่อนตะโกนด้วยความตกใจ แต่ในมือของมัน ยังคงถืออาวุธฟาดฟันกับซีลดราม่อนอยู่ แต่ทว่า ตัวของซีลดราม่อนก็เปล่งแสงสีขาว เพราะบลูการ์ดของได เครสเซม่อนรู้ว่าซีลดราม่อนกำลังจะเปลี่ยนร่างอีกรอบ มันจึงรีบกระโดดออกห่าง เพื่อให้พ้นจากแรงระเบิด

เกิดแรงระเบิดขึ้นที่ตัวของซีลดราม่อน พร้อมกับแสงสว่างจ้า เครสเซม่อนที่ไม่โดนแรงระเบิดเต็มๆ จึงรีบเข้าไปดูทุกคนก่อน

ถึงตอนนี้ ตัวฉันก็คงต้องหลบฉากบ้างละ ไดกล่าวด้วยน้ำเสียงสนุก พลางรีบวิ่งไปหาที่หลบให้พ้นจากสายตาของซีลดราม่อนที่กำลังกลายร่าง ร่างสมบูรณ์ของเจ้านี่ ฉันคุมมันไม่อยู่ ใครจะเป็นอะไร ฉันไม่รับรู้ด้วยนะ

แสงสว่างสีขาวได้ดับลง พร้อมกับรูปลักษณ์ของซีลดราม่อนเปลี่ยนไปอย่างมาก มันกลายสภาพเป็นรถถังติดอาวุธสงครามเป็นอัตราศึก ตัวใหญ่ขึ้นมาอีกเท่าตัว นัยน์ตาของมันส่องแสงสีแดงเป็นประกายแห่งความดุร้าย

จงทำลายพวกมันให้สิ้นซาก แท็งดราม่อน ไดกลางพร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางมองไปยังดิจิม่อนร่างสมบูรณ์อันดุร้ายของเขา

แต่เป็นเพราะเสียงหัวเราะของเขามันดังเกินไป แท็งดราม่อน จึงจ้องมองมาที่เขาแทน พร้อมกับยิงปืนกลด้านที่ติดตัวมันมายังเขาเป็นชุดๆ

ไดแทบวิ่งหนีไม่ทัน หน้าเขาซีดขึ้นมาทันที พร้อมกับโกยหน้าตั้งไม่เหลียวหลังมามองคู่หูตัวเองเลย

เมื่อมันเห็นว่าไดไม่ใช่คู่ต่อสู้ และหนีไปแล้ว มันจึงจ้องมายังกลุ่มผู้รักษาประตูจักรวรรดิเหล็กแทน ส่วนทางด้านทาบิเคอิ ที่อยู่ในร่างชัคคุม่อน ก็หลบอยู่หลังต้นไม้ เพื่อดูสถาณการณ์เช่นกัน เพราะแท็งดราม่อนฝั่งของตัวเองในเวลานี้ มันไม่รู้ว่าใครคือมิตร มันพร้อมเล่นงานทุกคน และทุกตัว

เอายังไงดี เจ้านี่มันแข็งแกร่ง และน่ากลัว เครสเซม่อนของฌาน ที่เป็นร่างสมบูรณ์ด้วยกัน ถึงขนาดเอ่ยปากออกมา พลางมองมายังฌาน

คงต้องให้ไรซ์เกรย์ม่อนมาช่วยด้วยละ เธอกล่าวพร้อมกับมองไปทางสเวน สเวนพยักหน้าตอบรับ

ศึกคราวนี้จะหนักหน้าพอสมควร เพราะระดับร่างสมบูรณ์สู้กัน ให้พวกเด็กๆที่มาช่วยเหลือเราค่อยๆเข้าประตูเมืองไป

อัลท์ไอเซ่น พร้อมนะ สเวนกล่าวกับอากูม่อนตัวเอง เขากำลังจะรูดบลูการ์ด แต่แท็งดราม่อนเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรู มันจึงคำรามลั่น และเริ่มยิงขีปนาวุธบนหลังของมันออกมา พุ่งตรงมายังทุกคน

ฉิบหายละ จีโอชิลด์ สเวนกล่าวพร้อมกับใช้การ์ดแสลช โล่อากาศที่มองไม่เห็น ถูกกางออกมาเพื่อรับกับขีปนาวุธของแท็งดราม่อน

แต่ทว่า ความแข็งแกร่งมันผิดกัน แรงระเบิดจากขีปนาวุธที่กระแทกกับโล่ สร้างรัศมีเสียหายเป็นวงกว้าง ทุกอย่างสว่างจ้าไปหมด ประตูเมืองจักรวรรดิเหล็กมีความเสียหายอย่างเห็นได้ชัด ดิจิม่อนที่มาด้วยบางตัว ทนพลังไม่ไหวจนคืนร่างเป็นทารก บ้างก็สลายไป โลห์ของสเวน ทำได้แค่ลดพลังโจมตีลงเท่านั้นเอง

ตาฉันเอาคืนบ้างละ เครสเซม่อนที่หลบอยูหลังจีโอชิลด์ของสเวน กล่าวขึ้น พร้อมกับพุ่งตัวไปด้านหน้า ถือดาบจันทร์เสี้ยว ที่รูปร่างเหมือนเคียวไว้พร้อม

ลูนาติคแด็นซ์ มันกล่าวพร้อมกับแยกร่างออกมาเป็นสาม ร่างปลอมทั้งสองของมัน ทำหน้าที่รับการโจมตีจากปืนกลข้างลำตัวของแท็งดราม่อน ทำให้ร่างปลอมสลายไปหนึ่ง เหลือแค่สอง

เท่านี้ก็พอ ฌานกล่าวพร้อมกับเตรียมสั่งการต่อ ตัวนึงใช้ความมืด ส่วนอีกตัวใช้น้ำแข็ง

ไอซ์ อาเชอรี่ เครสเซม่อนร่างปลอมกล่าวพร้อมกับใช้พลังจันทร์เสี้ยวน้ำแข็งใส่แท็งดราม่อน ทำให้ร่างกายบางส่วนของมันถูกแช่แข็ง

ดาร์ด อาเชอรี่ เครสเซม่อนร่างจริงกล่าวพร้อมปล่อยพลังจันทร์เสี้ยงสีดำตามติดๆ พลังกระแทกกับแท็งดราม่อนอย่างจัง จนมันกระเด็นถอยไปไกลพอสมควร

ปิดฉากละ ฌานเอ่ยขึ้น้วยน้ำเสียงแห่งชัยชนะ ทั้งคู่แช่แข็งมันพร้อมกัน

ไม่ให้ทำหรอกน่า เสียงของชัคคุม่อนดังขึ้น พร้อมกับยิงปืนใหญ่น้ำแข็งใส่เครสเซม่อน จนกระเด็นออกไป

บีส สปิริต สไลด์ เอโวลูชั่น โคริคาคุม่อน (Korikakumon) ชัคคุม่อนกล่าวเสียงดัง พร้อมกับพุ่งตรงไปหาเครสเซม่อนทันที ร่างของมัน

เปลี่ยนเป็นหมีตัวใหญ่ ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงสมส่วน ในมือทั้งสองถือเคียวสองคม มันพุ่งไปด้วยความเร็ว และฟาดอาวุธของมันเข้าใส่เครสเซม่อนอย่างจัง จนร่างปลอมสลายไป เหลือเพียงร่างจริงของเครสเซม่อนร่างเดียว

แท็งดราม่อนรับรู้ได้ว่าโคริคาคุม่อนมาช่วยมัน และมันไม่ต้องรับมือกับเครสเซม่อนแล้ว มันจึงหันปืนไปทางกลุ่มของพวกสเวน

ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องดูแลเด็กๆนะ แกตาย สเวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาล ในมือของเขากำดิจิไวซ์เอาไว้แน่น

มาลงพาร์ทสองละครับ ก็จบสำหรับตอน2 ขออภัยในความล่าช้า

ปล.มาลงตอนจะไปเรียน ถ้ายังไง เรื่องรูปภาพ ผมจะมาใส่ทีหลังนะครับ ^^

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว ตื่นเต้นอะไรเยี่ยงนี้ มันหยดติ๋ง ๆ เหมือนกับว่า ผ่ายดีจะเสียเปรียบ

ลูน่าม่อน สู้ ๆ ดิจิม่อนแห่งจันทรา กับ ไรซ์เกรย์ม่อน

เหมือนมีอะไรแฝงๆแฮะ ๆ 55

Link to comment
Share on other sites

เอรอดูตอนต่อไป~

ชอบตอนบรรยายฉากต่อสู้ สนุกมาก  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

อากุม่อน ตัวโตขนาด 2 เมตรเลยเหรอเนี่ย -*-

คำผิดเท่าที่เห็นอะ

“จงทำลายพวกมันให้สิ้นซาก แท็งดราม่อน” ไดกลางพร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางมองไปยังดิจิม่อนร่างสมบูรณ์อันดุร้ายของเขา

Link to comment
Share on other sites

แท็งค์ดราม่อนโหด.... น่า เอา ไรซ์เกรย์ม่อน ใส่ ฮีทฮาร์ท สู้จริงๆ....

Link to comment
Share on other sites

"คำผิด"

ไดกล่าวพร้อมกดปุ่มที่ดิจิไวซ์ เพื่อปล่อยดิจิม่อนของเขาออกมา ดิจิมังกรในชุดทหารพรานสีน้ำเงินเข้ม
ผู้รักษาประตูเมืองจักรวรริเหล็กทุกคน ตั้งท่าพร้อมสู้

ตั้งใจหรือเปล่านะ...

"เนื้อเรื่อง"

อ่า~* ฉากบู้สุดยอด =w=

"อื้นๆ"

แค่ตอนสองมันคงยังไม่มีใครจากไปหรอกน่ะ...

Link to comment
Share on other sites

อีริคไปทำภารกิจลับกับเรียวอิกิรึเนี่ย เจ๋งไม่เบาแฮะ =w="

มารุดูเด่นจังอ่า~ ท่าทางเก่งซะด้วย อุอุ

รู้สึกบรรยายได้ยอด ไม่แพ้พี่แยมเลยนะครับ สู้ต่อไปครับท่านคิมูระ  ^^

Link to comment
Share on other sites

Guest bulbabenz

^

ทาบิเคอิตะหาก! มารุไม่มีคนรู้จักตอนนี้![me=バルブバベンス]ทำหน้าแบ๊ว[/me]

ถือเคียวสองคม

ขวานยักษ์ ขอรับ==!

บู๊เยอะจนรู้สึกว่ายาวขนาดนี้มันสั้นไปเลยแฮะ~

งงนิดหน่อย แต่เดี๋ยวอ่านใหม่สักติ้ด(นึกหน้าดิจิมอนไม่ทัน กร๊าก)

Link to comment
Share on other sites

อากุม่อน ตัวสูง 2 เมตร ตัวใหญ่ซะเว่อเลยแฮะ

อ้างอิงจากเดอะมูฟวี่ภาคแรกน่ะ

Link to comment
Share on other sites

เดินเรื่องเร็วมากๆ แต่ว่าอ่านแล้วนุกตื่นเต้นไปด้วยดี เดินเรื่องเร็วแล้วเร้าเร่งอารมณ์นี้มันดูสะใจบ้าพลังดี ชอบๆ  :pika10:

Link to comment
Share on other sites

โทษทีที่มาอ่านช้าไปหน่อย :pika11:

ไอ้เราก็นึกว่าตอนนี้ดิจิมอนของคิมูระจะออกมาจริงๆซะที =_=

ภาคบรรยายฉากต่อสู้ทำได้ดีขึ้นมากครับ ตรงการต่อสู้ของไดนี่เจ๋งจริง แยกร่างแล้วหลอกแทงสเวนให้เบนความสนใจ แล้วแปลงร่างซะ เป็นแผนการที่แยบยลทีเดียวครับ

แต่เผอิญว่า...

“จงทำลายพวกมันให้สิ้นซาก แท็งดราม่อน” ไดกลางพร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางมองไปยังดิจิม่อนร่างสมบูรณ์อันดุร้ายของเขา

ไม่เห็นมีเสียงหัวเราะซักแอะ - -

จะรอดูต่อนะครับ~

Link to comment
Share on other sites

ไม่เห็นมีเสียงหัวเราะซักแอะ - -

จะรอดูต่อนะครับ~

บางทีก็ไม่ต้องเขียนเสียงซะตลอดนะครับ พวกหัวเราะ สะอื้น กระแอม จาม อะไรพวกนี้น่ะ lolz

Link to comment
Share on other sites

คือว่ามันไม่ใช่กรณีแบบนั้นน่ะ เพราะว่าการหัวเราะของไดมันทำให้แท็งดราม่อนหันมาเล่นงานไดแทนไง ก็เลยคิดว่าควรจะเน้นตรงนี้หน่อยเพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา

Link to comment
Share on other sites

เป็นการต่อสู้ที่แสนเร้าใจมาก แต่คราวนี้พระเอกของเราไม่ค่อยมีบทเด่นเลยแฮะ

(ก็โดนดิจิม่อนหักหลังทั้งๆที่ไม่เคยสู้ร่วมกันเลยนี้นะ...)

Link to comment
Share on other sites

ตอนที่3 สู่การเป็นสายสืบ

ถึงแล้วละ ห้องควบคุมแผงวงจร

ทั้งอากิระ และคิมูระต่างเดินทางมาจนถึงห้องควบคุมแผงวงจร เขาเห็นเมทัลมาเมม่อน กำลังทำลายอุปกรณ์ภายในอย่างเต็มตา

คงต้องให้เมก้าดราม่อนออกมาแล้วละ อากิระกล่าว พร้อมกับยกดิจิไวซ์มาหน้าตัวเอง เกิดแสงสว่างจ้า ดิจิม่อนมังกรมือคีมตัด หุ้มเกราะเหล้กที่หน้าและส่วนลำตัวก็โผล่ออกมา

ขยี้เมทัลมาเมม่อนซะ อากิระออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด เมก้าดราม่อนพุ่งตรงไปหาเมทัลมาเมม่อนทันที

โอ้ เอารุ่นใหญ่มาเลยรึ เมทัลมาเมม่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ก่อนที่จะยกมือซ้ายที่ติดปืนใหญ่มาไว้ข้างหน้า รวมพลัง และยิงออกไป

เมก้าดราม่อนปัดออกได้อย่างสบายๆ ก่อนที่จะฟาดคีมตัดที่มือใส่ จนเมทัลมาเมม่อน กระเด็นติดกำแพง ซ้ำมันยังใช้มือคีมตัด หนีบเมทัลมาเมม่อนขึ้นมา บี้อย่างไม่ใยดี จนร่างมันสลายไปในที่สุด

กำจัดง่ายกว่าที่คิดแฮะ อากิระกล่าวอย่างโล่งใจ

หรือไม่ นี่ก็คงหมดหน้าที่ของมันแล้วละ มันเลยไปได้อย่างหายห่วง คิมูระกล่าวตอบรับ ฉันคิดว่าทางเราคงต้องแก้เผ็ดมันบ้างละ

ระหว่างที่คิมูระ และอากิระ กำลังยินดีกับชัยชนะ ก็เกิดแสงสว่างจ้าจากดิจิไวซ์ของคิมูระ จนเขาต้องรีบเอาออกมาดู รูปทรงของมันเปลี่ยนไป จากสี่เหลี่ยมสีขาวใส กลับกลายสภาพเป็นดิจิไวซ์ทรงวงกลม ก่อนที่จะกลายสภาพเป็นลำแสง และหายไป

ดิจิไวซ์ของพี่ชายฉัน มันหายไปไหน คำถามสุดท้าย ที่คิมูระเอ่ยถามโดยไร้คนตอบ

...........................................

ในที่สุด เขตปกครองของลิลิธม่อน ก็จะหมดไป ฟรีด้อมของเรา จะปลดแอกให้กับป่าดอกไม้ม่วงเอง

เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่ง เอ่ยขึ้น เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผมสีน้ำตาลอ่อน ใส่เสื้อมีฮูดแขนกุดสีเหลือง ใส่กางเกงยีนสีดำ ห้อยกระเป๋าใบเล็กที่เอว ที่ข้างตัวเขา มีดิจิม่อนกระต่ายหูยาว สีครีมผสมกับเขียว ยืนสองขา เดินตามมาติดๆ มันคือ เทเรียม่อน (Terriermon)

ทางฉันกับเรนะ จะเปิดทางก่อน ทางด้านเรียวอิกิ กับลัพเรีย ค่อยโจมตีตอนมันอ่อนแรง เสียงชายหนุ่มอีกคน ดังมาจากด้านหลัง เขาเป็นบุรุษหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ในชุดคอเต่าสีขาว กางเกงขายาวสีดำ เสื้อคลุมทับด้วยชุดคลุมยาวสีน้ำเงินเข้ม

ไม่คิดจะขอความเห็นจากฉันก่อนหรือไง อีริค เสียงหญิงสาวข้างๆชายหนุ่มชุดคลุมยาวน้ำเงินดังขึ้น แต่เจ้าของน้ำเสียงนั้นไม่ใช่คน หากแต่เป็นดิจิม่อนสุนัขจิ้งจอกสีเหลือง ยืนสองขา มันมีชื่อว่า เรนาม่อน (Renamon)

ขอโทษนะเรนะ แต่ฉันคิดว่าพวกเราสามารถเป็นกองหน้าได้น่ะ และค่อยให้พลอาวุธหนักอย่างกาโกม่อนของเรียวอิกิจัดการไง อีริคกล่าวแก้ตัวกับเรนาม่อน พร้อมยิ้มแห้งๆ

มันไม่ใช่วิสัยของเธอ ที่จะชอบลุยก่อน ฉันเลยแปลกใจ เรนาม่อนเอ่ยถามด้วยความสงสัย พลางมองค้นมายังอีริค แต่ถ้าเธอคิดอยากจะกล้าหาญขึ้นมาบ้าง ฉันก็ยินดีสนับสนุน

จ้า แม่ทูลหัว อีริคตอบกลับน้ำเสียงยำเกรงราวกับคนกลัวแฟน ก่อนที่จะหันไปมองเบื้องหน้าด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง พวกเขาทั้งสอง มาถึงเขตปกครองของลิลิธม่อนแล้ว

ป่าดอกไม้สีม่วงอันงดงาม มีต้นไม้ใหญ่สลับประปราย เพื่อบังแดดบังฝน และลำธารสายเล็กๆไหลผ่านเพื่อให้ความร่มเย็น  มีปราสาทสีดำสนิทใหญ่โตเป็นพื้นหลัง ซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศอันร่มรื่นของป่าเอาเสียเลย

และบริเวณรอบๆปราสาทสีดำสนิท มีดิจิม่อนไดโนเสาร์สีดำขนาดใหญ่ มีลายพาดกลอนสีแดง หนามแหลมข้างหลังเป็นสีเขียว มันมีชื่อว่า ดาร์ค ไทรันโนม่อน  (Dark Tyrannomon) คอยเฝ้าปราสาทเอาไว้ด้วย มันมีด้วยกันทั้งสิ้นห้าตัว

ดาร์คไทรันโนม่อนมีประมาณห้าตัว กำลังเรามีสองคน ต้องจัดการให้ไวที่สุด อีริคกล่าว พร้อมกับหยิบดิจิไวซ์ขึ้นมา

แต่จากผลการตรวจสอบข้อมูล มีเมทัล ไทรันโนม่อน (Metal Tyrannomon) ร่างสมบูรณ์แอบซ่อนอยู่ ขอให้ระวังตัว

เสียงดิจิไวซ์ของอีริคดังขึ้น มันมีระบบตรวจสอบข้อมูลศัตรูด้วย

โอกาสในการชนะครั้งนี้ มีเท่าไหร่ อีริคบ่นกับตัวเอง แต่เรนาม่อนฟังอยู่ ทางด้านเรียวอิกิ ก็หยิบดิจิไวซ์รูปร่างเหมือนมือถือขึ้นมา พร้อมกับรูด บลูการ์ดใส่เข้าไป ตัวของเทอเรียม่อนส่องแสงสว่างทันที

เมื่อแสงสว่างหายไป เทอเรียม่อน ดิจิม่อนกระต่ายหูยาว เปลี่ยนรูปร่างเป็นกระต่ายที่ตัวอ้วนใหญ่กว่าเดิม แถมมือทั้งสองข้างยังติดปืนกลเอาไว้ มีกระสุนสำรองพาดไหล่เอาไว้ มันมีชื่อว่า กัลโกม่อน (Galgomon)

เอาละ มาเริ่มแผนบุกดีกว่า เรียวอิกิเริ่มเสนอแผนการ ด้วยความสามารถของเรา ถึงฝ่ายนั้นจะมากกว่า แต่เราต้องชนะให้ได้

งั้นนายคิดจะทำอะไร เรียวอิกิ อีริคถามอย่างสงสัย กำลังพวกเขาแค่สองคน ยากที่จะชนะร่างสมบูรณ์อย่างเมทัล ไทรันโนม่อน ที่แอบซ่อนอยู่ รวมทั้งดาร์คไทรันโนม่อนอีกห้าตัว

กระสุนจำนวนประปราย ถูกยิงออกจากปากกระบอกปืนใส่กำแพงปราสาท และมีบางลูก โดนดาร์คไทรันโนม่อน ทำให้พวกมันล่วงรู้ได้ว่าปราสาทที่พวกมันเฝ้า มีคนจู่โจม

มันส่งเสียงคำรามลั่น พร้อมกับวิ่งเข้าใส่เหยื่อ เมื่อเห็นดิจิม่อนกระต่ายยักษ์ติดปืนที่มือ ออกมายืนล่อเป้า พวกมันทั้งห้าตัวหมายจะขย้ำเหยื่อให้แหลกคามือ

ตอนนี้ละ เรนะ อีริคตะโกนลั่นจากข้างป่า เมื่อเขาสังเกตว่าดาร์คไทรันโนม่อนทั้งห้าตัว วิ่งเข้าใส่กัลป์โกม่อนโดยไม่ดูรอบข้างเลย ว่ามีกลลวงอะไรไว้

เรนาม่อนกระโจนออกมาจากตรงไม้ฝั่งตรงข้ามอับอีริค และลอยอยู่เหนือหัวของดาร์คไทรันโนม่อนทั้งห้าตัว กว่าพวกมันจะรู้ว่าโดนลอบโจมตี พวกมันก็ไม่ได้ทันระวังตัวเองซะแล้ว

โคโยเซ็ตสึ (กรงเล็บใบไม้) เรนาม่อนสะบัดมือออกข้างลำตัว คลื่นพลังกรงเล็บใบไม้สีขาวแตกออกกลางอากาศ ก่อนที่จะพุ่งดิ่งลงมาใส่ฝูงดาร์คไทรันโนม่อน ทำให้ดาร์คไทรันโนม่อนถึงสองตัว สลายไปทันที เพราะโดนการโจมตีอย่างจัง

แต่ทว่า มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ เรนาม่อนที่ลงมาบนพื้นดิน หลังการโจมตีเสร็จ มันเลือกลงกลางฝูงของดาร์คไทรันโนม่อน

การ์ดแสลช เอโวลูชั่น เรนาม่อน เปลี่ยนร่าง อีริคอาศัยคอมโบต่อเนื่องทันที เกิดระเบิดขึ้นกลางวงของดาร์คไทรันโนม่อน จนมันสลายไปเพิ่มอีกตัว

ร่างกายเรนาม่อนค่อยๆเปลี่ยนไป จากจิ้งจอกยืนสองขา กลายเป็นสี่ขา พร้อมกับหางอีกเก้าหางแยกออกมา กลายร่างเป็ฯ จิ้งจอกเก้าหาง คิวบิม่อน (Kubimon)

และทันทีที่มันเปลี่ยนร่างเสร็จ มันก็ใช้แรงเหวี่ยงจากหางทั้งเก้า หมุนฟาดเข้าใส่ต้นขาของดาร์คไทรันโนม่อน จนล้มลงกับพื้นทั้งสองตัว จากนั้นมันก็กระโจนขึ้นบนท้องฟ้าเพื่อปิดฉาก

โคเอ็นริว เพลิงจิ้งจอก ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มด้วยเปลวงเพลิงสีฟ้า จากนั้นมันก็อาศัยแรงดิ่งพุ่งตัวลงมากระแทกกับดาร์คไทรันโนม่อนสองตัว

เกิดการระเบิด พร้อมกับเปลวเพลิงเปลี่ยนสภาพเป็นมังกร และกระจายออกด้านข้าง สลายหายไป เมื่อเพลิงมังกรนั้นกระแทกเข้ากับดาร์คไทรันโนม่อนผู้โชคร้าย พวกมันทั้งสองตัวร่างสลายหายไปทันที ตอนนี้บนพื้น เหลือเพียงแค่คิวบิม่อนเท่านั้น

โจมตีได้สวยมาก เรียวอิกิกล่าวชมเชย พร้อมกับเดินไปแท็คมือกับอีริค อีริคยิ้มรับน้อยๆ พร้อมกับมองไปที่ประตูปราสาท

ถ้าไม่ได้นายเป็นตัวล่อ เรนะกับฉันอาจไม่ได้ใช้ท่าแรงขนาดนี้ก็ได้ อีริคกล่าวอย่างถ่อมตัว ตอนนี้ก็เหลือแค่จัดการปราสาทแห่งนี้

เหลือแค่เจ้าเมทัลไทรันโนม่อน กับร่างสุดยอด ลิลิธม่อนสินะ ที่ซ่อนอยู่ในนั้น เรียวอิกล่าวเสริม เห็นท่านผู้เฒ่าจิจิม่อน บอกว่าให้เราถ่วงเวลาให้นานที่สุด ให้ลิลธิม่อนหมดสภาพ แค่นั้นก็พอแล้ว

งั้นก็รออะไร ลุยเลย อีริคกล่าวพร้อมกับเดินนำหน้าด้วยความมั่นใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะแอบย่องหรือคิดแผนการเข้าปราสาท เพราะการต่อสู้เมื่อสักครู่ ก็คงทำให้คนทั้งปราสาทรับรู้แล้ว ว่ามีคนมาบุก

ประตูปราสาทถูกถีบออก พร้อมกับเรียวอิกิ และอีริคเดินเข้ามาอย่างสง่าผาเผย ด้านหลังของพวกเขามีดิจิม่อนไดโนเสาร์เหล็กสีเทาตัวใหญ่ราวสี่เมตรนอนหมดสภาพอยู่ มันคือดิจิม่อนร่างสมบูรณ์อย่างเมทัลไทรันโนม่อน

เป็นร่างสมบูรณ์ที่อ่อนกว่าที่คิดเอาไว้ เรนะซึ่งตอนนี้กลับร่างเป็นเรนาม่อนแล้ว เอ่ยปากเอง พลางเดินตามหลังอีริคผู้เป็นนายของตน ส่วนกัลโกม่อนก็กลายสภาพเป็นเทอเรียม่อน และแอบอยู่หลังคอของเรียวอิกิ

ภายในปราสาทนั้นว่างเปล่า ไม่มีคนคอยคุ้มกัน พวกเขาทั้งสองคาดว่าลิลิธม่อนคงจะอยู่ด้านในสุด จึงขึ้นบันไดไปตามทางปราสาท

แต่ยิ่งพวกเขาเข้าไป มันก็ยิ่งลึก และไม่มีวี่แววของลิลิธม่อน และเมื่อพวกเขาลองเหลียวหลังกลับมาอีกที ก็พบว่าบรรยากาศมันวังเวงและน่ากลัว และกว่าพวกเขาจะรู้ตัวว่าพวกเขาโดนซ้อนแผน ก็สายเกินแก้ซะแล้ว

ด้านหลังของพวกเขา เต็มไปด้วยเดวิม่อนธรรมดา (Devimon) และไอซ์เดวิม่อนนับสิบ (Ice Devimon) คอยปิดทางหนีพวกเขาอยู่

คิดว่าเราจะฝ่าดิจิม่อนที่เตรียมพร้อมสู้กับเรามาแล้ว นับสิบตัวได้มั้ย อีริคถามโดยไม่หวังคำตอบ เรียวอิกิเองก็หน้าถอดสี งานนี้พวกเขามีแต่แพ้กับแพ้

เผ่น เรียวอิกิตอบสั้นๆ ได้ใจความ

.............................................

ประกาศด่วน ขอให้ฟรีด้อมยอมแพ้ และทำการสลายกลุ่มผู้ต่อต้าน ย้ำอีกครั้ง ฟรีด้อมยอมจำนนซะ

เสียงดังขึ้นจากดิจิไวซ์ของทั้งสองฝ่าย ในขณะที่พวกฌานและสเวนกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับแท็งดราม่อน ที่กำลังอาละวาด

ทำไมพวกฉันจะต้องยอมแพ้ละ สเวนตอบกลับเสียงวิทยุนั้น พร้อมกับหาจังหวะรูดบลูการ์ดตลอดเวลา ถ้าหากแท็งดราม่อนมีทีท่าเผลอ

คนของพวกนาย เรียวอิกิ และอีริค บุกเข้าไปในเดวิม่อน ดันเจี้ยนน่ะสิ แถมไปชั้นลึกสุดซะด้วย เสียงวิทยุไม่ทราบนามในดิจิไวซ์ตอบกลับมา ถ้าไม่อยากให้พวกนั้นตาย ก็จงถอนกำลังที่จักรวรรดิเหล็กซะ และให้พวกเรายึดครอง

สเวนหน้าถอดสี ในโลกดิจิตอลนั้น ก็มีดันเจี้ยน หรือด่านค่ายกลของเหล่าดิจิม่อนที่สร้างกันขึ้นมาเอง เพื่อรวมตัวกันหรือว่าเป็นแหล่งตั้งหลักสำหรับเผ่าพันธ์ โดยที่ดันเจียนนี้ จะมีบอสหรือหัวหน้าคอยคุม ซึ่งหากมีใครมายึดได้ ก็จะได้อาณาเขตบริเวณนั้นไปโดยปริยาย

เดิมทีลิลิธม่อนคอยคุมปราสาทเดวิม่อนอยู่นี่ หรือว่ามันสละสถาณที่กระทันหัน สเวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเครียด หากลิลิธม่อนสละเขตกะทันหัน ที่นั่นก็จะไร้การควบคุม และดิจิม่อนที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่น ก็จะพากันกลับไปยังแหล่งเดิมของตน

ฌาน พวกเราต้องถอยทัพ เรียวอิกิกับอีริคอยู่ในอันตราย เราต้องไปช่วยสองคนนั้น สเวนตะโกนไปยังฌาน ที่ต่อส็กับโคริคาคุม่อน และแท็งดราม่อน

คงต้องวัดดวงละ การ์ดแสลช เมทริกซ์ เอโวลูชั่น สเวนรูดบลูการ์ดได้สำเร็จ อากูม่อนของเขากลายร่างเป็นไรซ์เกรย์ม่อนได้ทันที แบบเครสเซม่อนของฌาน

ไรซ์เกรย์ม่อน (Rize Greymon) ดิจิม่อนมังกรที่สวมหน้ากากเหล็กบนใบหน้า มือซ้ายมีปืนลูกโม่ ลำตัวสวมเกราะเหล็ก และรูปร่างของมันสูงใหญ๋กว่าแท็งดราม่อนมากนัก

แท็งดราม่อนเห็นดิจิม่อนที่ตัวใหญ่กว่าตน จึงระดมปืนกลข้างลำตัวยิงใส่ไม่ยั้ง แต่ไรซ์เกรย์ม่อนก็ใช่ว่าจะอยู่เฉย มันตอบโต้ด้วยการลั่นลูกโม่ใส่จนแท็งดราม่อนเสียหลัก และพุ่งเข้าปะทะกับแท็งดราม่อนในระยะประชิด

ไม่ได้ยินที่ดิจิไวซ์บอกหรือไง ทางด้านโคริคาคุม่อนเอ่ยปากขึ้น ในขณะดวลขวานของตัวเอง กับดาบวงพระจันทร์ของเครสเซม่อน ตอนนี้ยังไม่มีใคร มีที่ท่าว่าจะเสียเปรียบ และการต่อสู้ดูจะยืดเยื้อ

ฉันเชื่อว่าเจ้าสองคนนั้นจะต้องรอดกลับมา และคนอื่นๆในฐานเรายังมี คิดจะให้เราสละพื้นที่ตรงนี้ คงจะยากไปหน่อยละ เครสเซม่อน

ตอบกลับ พร้อมหวดดาบใส่เข้าลำตัวของโคริคาคุม่อน มันใช้ขวานปัดการโจมตีอย่างชำนาญ ก่อนที่จะยกขวานอีกข้างหวดเข้าลำคอของเครสเซม่อนเช่นกัน

แต่ทางเครสเซม่อนนั้นมีโล่ จึงยกขึ้นมาบังไว้ และใช้ลำตัวกระแทกจนโคริคาคุม่อนถอยออกไป

ดูท่าว่าเราสองคน คงจะสู้กันไม่จบ โคริคาคุม่อนเอ่ยปากขึ้น พร้อมกลับร่างเป็นทาบิเคอิ งั้นฉันคงต้องขอบันทึกว่าภารกิจคราวนี้ฉันล้มเหลวละนะ

ทาบิเคอิเดินหลบฉากไป เขาเลือกที่จะถอยอย่างสง่าดีกว่า เพราะเขารู้ว่าอีกไม่นาน แท็งดราม่อนที่ไม่มีเจ้าของคอยคุม (คุมไม่อยู่มากกว่า) จะหมดสภาพ และแพ้ให้กับไรซ์เกรย์ม่อน ที่มีทั้งพลังและคนคอยคุมดีกว่า

และไม่นานเกินรอ แท็งดราม่อนที่ปราศจากคนคุม เริ่มกลับสภาพกลายเป็นซิลดราม่อน ซึ่งตัวเล็กกว่าไรซ์เกรย์ม่อนมากนัก จึงไม่มีทางส็ไรซ์เกรย์ม่อนได้แน่นอน

ซิลดราม่อนนั้นรีบถอยร่นออกมาทันที และกลับสภาพกลายเป็นคอมมานดราม่อน เพื่อไปสมทบกับได และทาบิเคอิที่รออยู่ จากนั้นทั้งสาม ก็พากันวาร์ปกลับไปยังฐาน

ปล่อยไปง่ายขนาดนั้น จะดีหรือฌานเอ่ยถามสเวน ที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะตามทั้งสามไป

และเธอละ ทำไมไม่จัดการเจ้าหนุ่มผู้ใช้สปิริตนั่น สเวนย้อนถามกลับเข้าไป ฌานเองก็เงียบ เพราะเหตุผลของทั้งคู่นั้นหมือนกัน

ไม่อยากโดนเล่นงานแบบคาออสน่ะสิ ทั้งสองพร้อมใจกันประสานเสียงออกมา

ที่เหลือก็รอเจ้าเรียวอิกิ กับอีริคมาสมทบ และค่อยกลับฐาน รายงานเรื่องราวทั้งหมด สเวนกล่าวสรุปผลรายงาน พร้อมเดินไปที่หน้าประตูเมือง

........................................

ปราสาทเดวิม่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นฐานของลิลิธม่อน แต่ตอนนี้ลิลิธม่อนได้ทิ้งฐานนี้ไปแล้ว เมื่อพวกเรียวอิกิมาโจมตี และเหล่าดิจิม่อนที่

เคยอาศัยในปราสาทนี้ ต่างทยอยกันกลับมา เมื่อมันรู้ว่าปราสาทนี้ไม่มีใครเอา ทำให้พวกเรียวอิกิ ต้องติดในปราสาทไปโดยปริยาย

แต่พวกเรียวอิกิที่กำลังจนตรอก ก็สามารถหาวิธีหนีออกมาจนได้ บนห้องนอนริมปราสาทกระจกหน้าต่างถูกทุบจนแตก พร้อมกับเชือกยาวที่ทำมาจากผ้าปูที่นอนผูกต่อกัน ซึ่งตรงปลายติดตะขอเอาไว้ ได้ถูกเหวี่ยงอย่างแรง จนมันเกี่ยวเข้ากับต้นไม้ข้างปราสาท

ดูท่าว่าคงจะเอาไว้สำหรับให้ใครไต่ออกมาจากปราสาทแน่นอน แต่ด้วยรูปร่างของมัน ไม่น่าจะรับน้ำหนักของคนได้ เว้นซะแต่

ไปเลย ไลท์ดราม่อน เสียงของอีริคดังขั้น ตอนนี้เขาอยู่บนหลังของดิจิม่อนหม่าป่าสีน้ำเงิน หุ้มเกราะดำ ที่ด้านหลังของดิจิม่อนตัวนี้ มีเรียวอิกิซ้อนท้ายอยู่ด้วย

เจ้าดิจิม่อนหม่าป่าเกราะดำ หรือว่าไลท์ดราม่อน สามารถไต้เชือกที่ทำมาจากผ้าปูที่นอนได้อย่างคล่องแคล่ว และไต่ต้นไม้ลงอย่างชำนาญ ก่อนที่จะวิ่งออกนอกรั้วราสารทอย่างว่องไว

รีบไปสมทบกับสเวนและฌานเถอะ เรียวอิกิตะโกนอย่างดีใจ โชคดีที่นายมีอาร์เมอร์แห่งมิตรภาพนะ อีริค

...................................................

หลังเหตุการณ์ต่อสู้ครั้งใหญ่ของฟรีด้อมและไวท์แฟง ทั้งสองฝ่ายต่างเสียหายหนักพอสมควร แต่ศึกครั้งนี้ ไวท์แฟงเสียหายมากกว่า ซ้ำยัง

ปล่อยให้พวกฟรีด้อมบุกได้ถึงฐานหลัก การประชุมระดับผ็นำ จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

สรุปก็คือ ที่หมู่บ้านดิจิม่อน จะเกิดปาฏิหาริย์ครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อถึงวันนั้น จะมีเด็กที่ถูกเลือกอีกชุด เพื่อมาต่อกรณ์กับความชั่วร้ายสินะ

แบล็คไลท์ในชุดสูทสีดำสนิทเอ่ยขึ้นบนโต๊ะประชุมทรงสีเหลี่ยมยาว ตัวเธอในตอนนี้สวมแว่นตาดำสนิท เฉกเช่นเดียวกับคณะกรรมการที่มาประชุมอีกสี่คน ยกเว้นคนที่นั่งหัวโต๊ะ ซึ่งดูจะเป็นคนเดียว ที่ใส่แว่นกรอบใส

คนนั่งหัวโต๊ะเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบกว่าปี ใส่สูทสีขาวทั้งชุด ผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้าใส เขานั่งฟังหัวข้อการประชุมอย่างสบายๆ ราวกับว่าจะรอให้คนมาประชุมคุยกันให้จบ และเขาจะบอกแผนการของเขาต่อ

คุณอนาลอคแมน ขอความเห็นคุณด้วยค่ะ แบล็คไลท์เอ่ยพร้อมกับมองไปยังบุรุษในชุดสูทสีขาว เธอเป็ฯเพียงหนึ่งในไม่กี่คน ที่รู้ว่าอนาลอคแมนมีนิสัยอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ชอบใช้แผนของตัวเองมากกว่า

ผมคิดได้อย่างหนึ่ง สั้นๆ ทางฝั่งฟรีด้อม ส่งสายมายังฐานของเรา เราก็ต้องส่งกลับ อนาลอคแมนกล่าวอย่างง่ายๆ และจิบชาต่อ

คุณพูดน่ะมันง่าย แต่จะให้เราทำยังไง กรรมการสูงอายุใส่แว่นดำ ซึ่งนั่งทางซ้ายมืออนาลอคแมนกล่าวออกมา ทางเรามีใครที่ฝ่ายนั้นไม่ร็จักหน้าตาบ้างละ

ท่านประธานบริษัทบันได กรุณาใจเย็นๆ อนาลอคแมนเรียกตำแหน่งทางโลกของกรรมการที่เอ่ยขึ้น ทำเอาเขาชะงัก และเงียบลง

ทางเรามีอยู่แล้วคนหนึ่ง ที่พวกนั้นไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งก็คือคิมูระ เราจะส่งเขา ไปเป็นเด็กที่ถูกเลือกในหมู่บ้านดิจิม่อน ของพวกฟรีด้อมมัน

คิดว่าความคิดผมเข้าท่ามั้ยครับ ท่านประธาน อนาลอคแมนยิ้มที่ริมฝีปากน้อยๆ แต่คราวนี้ผมคงต้องขอให้คุณ ซื้อคอนโดใหม่ให้กับคิมูระซะหน่อยละ ถือเป็นค่าจ้างที่เสี่ยงต่อชีวิตของเขา

คอนโดเลยเหรอ มันจะไม่แพงไปหรือไงกัน กรรมการซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัทบันไดเอ่ยแย้ง การโปรโมทให้ดิจิม่อนกลับมาบูมอีกครั้ง อันนี้เป็นผลงานคุณก็จริง แต่เรื่องที่คุณขอ มันมากไป

ถ้าอย่างนั้น ทางผมจะสร้างกระแสที่โลกมนุษย์ ให้ยอดขายดิจิม่อนมีมากกว่านี้ซะหน่อยละกันครับ เอไม่สิ ให้ดิจิม่อนไปปล้นมนุษย์ยังได้เลย อนาลอคแมนเริ่มเสนอแผนการชั่วร้ายออกมา

ปล้นเลยหรือไง แรงไปมั้ย กรรมการคนนั้นเอ่ยซ้ำ พร้อมหน้าเปลี่ยนสี

ไม่แรงหรอก คราวนี้ผมจะส่งวิซาร์ดม่อนจำนวนหนึ่ง ไปสะกดจิตผู้ร่ำรวยที่คนของผม สืบหารายชื่อมาได้ ให้บริจาคเงินเข้าองค์การการกุศลของเรา คนละสัก สิบล้าน ไม่สิ ร้อยล้านดีกว่า คิดว่าดีมั้ยครับ

แบบนั้นมันบาปนะ กรรมการเอ่ยแย้งขึ้นมาอีก ทำเอาอนาลอคแมนถอดถอนใจ

ถ้าอย่างนั้น คุณก็หมดประโยชน์แล้วละ ท่านประธาน ลาก่อน อนาลอคแมนกล่าวพร้อมกับโบกมือให้สัญญาณ แองเจม่อนที่รักษาการตรงประตู ก็มาลากกรรมการคนนี้ออกไป

นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่คนคิดดิจิม่อนอย่างคุณ ได้เข้ามาอยู่ในโลกดิจิตอล อนาลอคแมนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แบล็คไลท์ ติดต่อคิมูระให้ฉันด้วย เรามีงานให้เขาทำ อย่าพึ่งให้เขากลับ

รับทราบค่ะ แบล็คไลท์กล่าวตอบรับคำ

เอาละ มีใครจะค้านความคิดผมมั้ยครับ อนาลอคแมนกล่าว พลางมองไปยังกรรมการทุกคน ที่อยู่ในห้องประชุม ซึ่งทุกคนเงียบกันหมด

งบประมาณครั้งต่อไปของเรา จะทำการขอบริจาค จากเศรษฐีละกันนะครับ รับรองว่างบคราวนี้ ต้องได้เยอะแน่นอน อนาลอคแมนกล่าว พร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้าย

จบตอน3ครับ ^^ ขออภัยที่ล่าช้าครับ มาคราวนี้เลยยาวกว่าเดิมเล็กน้อย

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.