Pokedex

[SKYNET]

สารบัญ Pokedex

001(Bulbasaur)

004(Charmander)

007(Squirtle)

054(Psyduck)

107(Hitmonchan)

121(Starmie)

143(Snorlax)

147(Dratini)

149(Dragonite)

156(Quilava)

194(Wooper)

243(Raikou)

245(Suicune)

257(Blaziken)

262(Mightyena)

280(Ralts)

281(Kirlia)

282(Gardevoir)

302(Sableye)

350(Milotic)

354(Banette)

359(Absol)

361(Snorunt)

380(Latias)

381(Latios)

385(Jirachi)

403(Shinx)

417(Pachirisu)

443(Gible)

446(Munchlax)

447(Riolu)

448(Lucario)

461(Weavile)

473(Mamoswine)

475(Gallade)

492(Shaymin)

497(Serperior)

501(Oshawott)

570(Zorua)

571/(Zoroark)

620(Mienshao)

643(Reshiram)

644(Zekrom)

---

Credit

ข้อมูลล้วนๆ

ชื่อภาษาญี่ปุ่น

ชื่อญี่ปุ่นสำรอง

(จะพยายามอ่านให้เป็นภาษาไทยทีตรงและจะพยายามอ่านให้ตรงเป็นทางการไปเลย)

พจณานุกรมของผม

และขอขอบคุณ

แรงบันดาลใจจากพี่นินครับ

[SKYNET]

001(Bulbasaur)(Fushigidane)(ฟุชิกิดาเนะ)

โปเกมอนเมล็ดพืช    ธาตุ /

ขนาดตัว 0.7 m.    น้ำหนัก 6.9 kg.

Bulbasaurสามารถพัฒนาร่างเป็นIvysaurเมื่อเลเวล 16 และสามารถพัฒนาต่อเป็นVenusaurเมื่อเลเวล 32

สรีรวิทยา

Bulbasaurเป็นสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายคางคกหรือไดโนเสาร์ขนาดเล็กที่มีจุดสีเขียวฟ้าแต้มอยู่ มันมีนิ้วหรือเล็บสีขาวสามนิ้วอยู่ที่เท้าทั้งสี่ข้าง ตาของมันมีสีแดงสด แต่สิ่งที่น่าสะดุดตาที่สุดสำหรับโปเกมอนตัวนี้คือหัวพืชคล้ายหอมหัวใหญ่ที่โตอยู่บนหลัง หัวพืชนี้มีความสัมพันธ์กับโปเกมอน, เติบโตตั้งแต่เป็นเมล็ดที่ปลูกโดยแม่ของมันตอนแรกเกิด แตกต่างจากเห็ดปรสิตที่โตอยู่บนหลังของParas, ที่จะยึดลำตัวไปเมื่อพัฒนาร่างเป็นParasect, หัวพืชของBulbasaurมีความสัมพันธ์แบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้Bulbasaurได้รับการเพิ่มพลังจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันและหัวพืชจะสามารถเติบโตและแข็งแรงในเวลากลางคืน นอกจากนี้หัวพืชยังสะสมเมล็ดพืชไว้ใช้เป็นสารอาหารอีกด้วย

ปกติพวกมันจะเดินสี่ขา, Bulbasaurสามารถยืนด้วยขาหลังได้ เมื่อพัฒนาเป็นIvysaur, หัวพืชจะกลายเป็นดอกตูมขนาดใหญ่

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 87.5 %

ตัวเมีย : 12.5 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

Bulbasaurมีความสามารถเกี่ยวกับพืชหลายอย่างซึ่งได้รับมาจากหัวพืชที่ขึ้นอยู่บนหลัง ผง, กลิ่น, กลีบดอกไม้, และเมล็ดสามารถออกมาจากปลายสุดของหลัง, และเถาวัลย์กับใบไม้สามารถออกมาจากฐาน แล้วจัดการความสามารถเหล่านี้เป็นท่าLeech Seed, Vine Whip, Razor Leaf, Petal Dance, และSweet Scent, ถือได้ว่าBulbasaurมีคลังอาวุธที่ถูกจัดไว้อย่างดิบดี

หัวพืชสามารถดูดแสงได้, เลยทำให้Bulbasaurสามารถฟื้นฟูตัวเองด้วยท่าSynthesisหรือยิงท่าที่รุนแรงอย่างSolarBeam

พฤติกรรม

Bulbasaurส่วนใหญ่เป็นโปเกมอนที่อยู่ตามบ้าน ดูแลโดยbreedersเพื่อนำไปเป็นโปเกมอนเริ่มต้นเขตKanto เพราะเหตุนี้พวกมันจึงได้รับการยกย่องว่ามีนิสัยดีที่สุด Trainerบางคนพิจารณาว่ามันเป็นโปเกมอนสำหรับเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดจากเหตุผลนี้, เช่นเดียวกับข้อมูลที่ว่าธาตุของมันได้เปรียบสองยิมแรกในเขตKanto

Bulbasaurมักจะจงรักภักดีต่อเพื่อน(โปเกมอนตัวอื่น)และTrainer ตัวอย่าง, Bulbasaurถูกทิ้งโดยTrainerของมันเป็นเวลากว่าปีแต่ก็ยังดีใจที่ได้เจอกับTrainerของมันอีกครั้ง

ทุกปีในเขตKanto, Bulbasaurฝูงใหญ่จะมารวมกันเพื่อพัฒนาร่างเป็นIvysaur ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ามีพฤติกรรมแบบเดียวกันที่เขตอื่นหรือไม่

Bubasaurบางครั้งสามารถพบพวกมันนอนอาบแดดเพื่อสังเคราห์แสงอยู่เมื่อเวลาสารอาหารไม่พอ

ที่อยู่อาศัย

Bulbasaurหาได้ยากตามธรรมชาติ บางครั้งก็พบในสถานที่แปลกๆเช่น สวน, ที่ราบใกล้แหล่งน้ำ, หรือซ่อนอยู่ในป่าตามโพรงไม้, แต่โดยรวมแล้ว, พวกมันส่วนใหญ่จะถูกเป็นเจ้าของโดยTrainerของเขตKanto

อาหาร

เหมือนกับโปเกมอนส่วนใหญ่, Bulbasuar เหมือนจะกินทั้งพืชและเนื้อ ถึงอย่างไรก็ตามในช่วงที่อาหารขาดแคลน ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารมากเนื่องจากหัวพืชบนหลังสามารถสะสมพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้

[ShadowSneak]

เปลี่ยนชื่อกระทู้เป็นกระทู้รับรีเควสเรื่องราวเกี่ยวกับโปเกมอนดีกว่ามั้ย?

และก็ +1 ค่าความพยายาม XD

[SKYNET]

^

ก็ได้ครับ

(เปลี่ยนยังไงอ่ะ)

[VVITch]

เห็นชื่อกระทู้ตอนแรกนึกว่าตั้งผิดหมวด นึกว่าตั้งกระทู้รีวิวไว้ PO

ปล. ตาหน้าขอเป็นตระกูลมินิริว (Dratini) ก็ดีนะ เจ็น 1 เราชอบตระกูลนี้สุดละ

[SKYNET]

ผมไม่ถนัด PO หรอก

เล่นไม่ค่อยเก่งน่ะ

[Raining]

โหยสุดยอดครับ ไม่ได้เห็บกระทู้แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ อิอิ

[SKYNET]

147(Dratini)(Miniryū)(มินิริว)

โปเกมอนมังกร    ธาตุ

ขนาดตัว 1.8 m.    น้ำหนัก 3.3 kg.

Dratiniสามารถพัฒนาร่างเป็นDragonairเมื่อเลเวล 30 และสามารถพัฒนาต่อเป็นDragoniteเมื่อเลเวล 55

สรีรวิทยา

Dratiniเป็นโปเกมอนรูปร่างคล้ายงูที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือแม่น้ำ พวกมันมีครีบอยู่ที่ข้างหัวเช่นเดียวกับจมูกสีเงินขนาดใหญ่ที่อยู่บนหน้า พวกมันมีตาสีม่วงและมีวงกลมขนาดเล็กอยู่บนหัว Dratiniจะเติบโตตลอดเวลาและตัวจะยาวมาก ระหว่างที่โตก็จะลอกคราบสีน้ำเงินออกมาเรื่อยๆ Dratiniดูเหมือนจะมีความกำยำมากกว่าร่างพัฒนาของตัวเอง

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

ในเมื่อเป็นโปเกมอนธาตุ , Dratiniสามารถใช้ท่าประเภทมังกรได้เช่น Dragon RageและTwister นอกจากนี้พวกมันยังใช้ท่าประเภท , , , ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นท่าSurf, Thunder, Ice Beam, และFlamethrower

พฤติกรรม

Dratiniเป็นโปเกมอนที่ขี้กลัว, เข้าใจยาก, และขี้อายมาก ดังนั้นพวกมันจึงพบเห็นได้ยาก ผลก็คือมันกลายเป็นความเชื่อเรื่องตำนานต่างๆในหมู่ผู้คนเขตKanto

ที่อยู่อาศัย

Dratiniถูกกล่าวว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเพราะว่ามันหายาก ถึงอย่างงั้นพวกมันก็ยังถูกพบในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งKanto Safari Zone, Dragon's Den, และMt. Coronet

อาหาร

-

[SKYNET]

149(Dragonite)(Kairyū)(ไคริว)

โปเกมอนมังกร    ธาตุ /

ขนาดตัว 2.2 m.    น้ำหนัก 210 kg.

Dragoniteพัฒนาร่างมาจากDragonairเมื่อเลเวล 55 และเป็นร่างสุดท้ายของDratini

สรีรวิทยา

ถึงแม้ว่าจะตัวใหญ่, Dragoniteก็คล่องแคล่วและเร็วอย่างเหลือเชื่อ แตกต่างจากร่างก่อนพัฒนา, พวกมันมีตัวสีส้มและมีแขนและขาทุกส่วนมีกรงเล็บสามเล็บติดอยู่ มันยังเหลือเขาไว้หน้าผากเหมือนกับDragonair ถึงอย่างไรก็ตามก็มีสีส้มเหมือนกับสีของตัวDragonite พวกมันมีลักษณะคล้ายมังกรในยุโรปและมีปีกเล็กๆสีเขียวที่ยืดหดได้เวลาบิน พวกมันมีสัดส่วนใหญ่กว่ามนุษย์ Dragoniteยังมีหนวดสีเหลืองรูปตัว S อยู่บนหัวและมีลายเส้นขนานสีครีมบริเวณหน้าท้อง

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

Dragoniteเป็นโปเกมอที่แข็งแรงมาก เมื่อมันโกรธ, มันอาจจะคุ้มคลั่งและไม่สามารถควบคุมมันได้ชั่วคราว พวกมันยังสามารถโจมตีได้หลายธาตุเช่นThunder, Ice Beam, Flamethrower, Water Pulse, และหมัดธาตุต่างๆ ความเร็วในการบินของพวกมันเร็วมากทำให้พวกมันบินรอบโลกได้โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงด้วยความเร็วประมาณ 2504 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือประมาณสามเท่าของความเร็วเครื่องบิน หนวดที่อยู่บนหัวสามารถสร้างสายฟ้าเพื่อใช้ในการโจมตีได้

พฤติกรรม

Dragoniteเป็นโปเกมอนที่ใจดีและว่ากันว่ามีสติปัญญาเท่ามนุษย์ พวกมันถูกกล่าวว่าช่วยเหลือมุษย์จากพายุโดยการนำทางเรือไปในที่ปลอดภัย ถ้ามันโกรธ ผลก็คือมันจะควบคุมไม่ได้และทำลายทุกอย่าง

ที่อยู่อาศัย

Dragoniteหายากมากในธรรมชาติ ผู้คนกล่าวกันว่ามีเกาะแห่งหนึ่งที่มีแต่Dragoniteอาศัยอยู่

อาหาร

-

[VVITch]

ความเร็วในการบินของพวกมันเร็วมากทำให้พวกมันบินรอบโลกได้โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงด้วยความเร็วประมาณ 2504 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือประมาณสามเท่าของความเร็วเครื่องบิน

ถ้ามันเร็วได้แบบที่ว่านี้จริงๆ เทคคานินก็เทคคานินเหอะ ตามไคริวไม่ทันเอาได้เหมือนกัน

แต่โชคไม่ดีที่มันไม่ใช่ยังงั้นเลย (ในเกม)

ถึงเพิร์ทคุง : ถ้าเพิร์ทไปเห็นในบัลบาฯ ที่พิมพ์ไว้ว่า

" Diet

Main article: Pokémon food "

โดยที่ไม่มีข้อความต่อจากนี้ นั่นหมายถึงว่า ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าโปเกมอนตัวนั้นๆ กินอะไร

ฉะนั้นจึงไม่ต้องพิมพ์มาว่า "อาหารโปเกมอน" หรอกนะ =w=

แต่ส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากที่เราบอกมา เพิร์ทก็แปลได้ดี อ่านเพลิน เข้าใจง่ายดีเหมือนเดิม 

[bluewind]

นี่แหละครับหนึ่งในกระทู้ที่ควรจะมีในเว็บบอร์ดโปเกมอน

สู้ๆนะครับ ยิ่งถ้าเอาข้อมูลมาลง ผมจะคอยให้ดอลเรื่อยๆ ^^

[Guest bulbabenz]

ถ้ามันเร็วได้แบบที่ว่านี้จริงๆ เทคคานินก็เทคคานินเหอะ ตามไคริวไม่ทันเอาได้เหมือนกัน

แต่โชคไม่ดีที่มันไม่ใช่ยังงั้นเลย (ในเกม)

ที่คิด ๆ กันคือ ความเร็วในเกมคือความเร็วที่เร่งได้ในระยะสั้น ๆ สำหรับต่อสู้

ที่ว่าไวที่สุดก็คงเทียบเป็นการบินระยะไกล อะไรอย่างนั้นอ่ะคับ

ความเร่งช้า แต่ความเร็วสูงสุดเมพ

ปล. ไม่อยากคิดสภาพตอนขึ้นขี่แล้วบินข้ามทวีป เกาะยังไงไหว==!

[SKYNET]

นี่แหละครับหนึ่งในกระทู้ที่ควรจะมีในเว็บบอร์ดโปเกมอน

สู้ๆนะครับ ยิ่งถ้าเอาข้อมูลมาลง ผมจะคอยให้ดอลเรื่อยๆ ^^

หากพวกท่านขอมา

ผมพร้อมและเต็มใจที่จะทำให้

ปล. ไม่อยากคิดสภาพตอนขึ้นขี่แล้วบินข้ามทวีป เกาะยังไงไหว==!

เอาเชือกมัดไง

[SKYNET]

443(Gible)(Fukamaru)(ฟุคามารุ)

โปเกมอนฉลามดิน    ธาตุ /

ขนาดตัว 0.7 m.    น้ำหนัก 20.5 kg.

Gibleสามารถพัฒนาร่างเป็นGabiteเมื่อเลเวล 24 และสามารถพัฒนาต่อเป็นGarchompเมื่อเลเวล 48

สรีรวิทยา

Gibleนั้นตัวเล็ก, มังกรตัวเตี้ยม่อต้อที่มีปากขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเขี้ยว, ไม่มีคอ, และแขนที่ยื่นออกมาจากปลายสุดของขากรรไกร

มันมีสีฟ้าเข้ม ท้องสีแดงที่ครอบคลุมไปถึงใต้ขากรรไกร Gibleมีเขาลักษณะคล้ายกับเครื่องยนต์ของเครื่องบิน แต่ละข้างมีแถบสีฟ้าคาดกลาง มันมีแถบสีฟ้าคาดกลางหลัง ครีบบนหัวของมันมีความแข็งแรงมากพอที่จะแบกมนุษย์ได้เลย

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ตัวผู้จะมีรอยตัดบนครีบหลัง ในขณะที่ตัวเมียไม่มี นี่อาจจะบ่งบอกว่าGibleตัวผู้ต่อสู้มากกว่า เลยเหลือร่องรอยแผลไว้

      ตัวผู้              ตัวเมีย

ความสามารถพิเศษ

Gibleดูเหมือนจะเป็นนักขุดที่ดี ทำหลุมลึกสำหรับบ้านในถ้ำ พวกมันดูเหมือนจะชอบเล่นและสนุกกับการต่อสู้ในกลุ่มของมันเอง พวกมันมีขากรรไกรอันน่ากลัวที่ใช้ในการกัดศัตรู ถึงอย่างไรก็ตาม, เวลาที่กัด, พวกมันเองก็บาดเจ็บด้วย

พฤติกรรม

Gibleจะซ่อนตัวอยู่ในรูแล้วรอจนเหยื่อผ่านมา พวกมันบางครั้งก็กล้าที่จะต่อสู้กับศัตรูที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง เวลาที่กัด, พวกมันเองก็บาดเจ็บจากความซุ่มซ่าม Gibleจะเลียคนที่มันชอบ, เหมือนสุนัข

ที่อยู่อาศัย

Gibleอาศัยอยู่ในรูที่มันขุดในถ้ำที่อบอุ่น บางตัวก็อาศัยอยู่ในป่า พวกมันชอบอาศัยอยู่ในอากาศที่อบอุ่น

อาหาร

พวกมันกินเนื้อ ถึงอย่างงั้นก็พบพวกอยู่กับHaban Berry พวกมันบางครั้งก็ถูกพบว่ากินเหล็ก, หิน, ไม้, และแม้แต่Pokeball จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกมันกินแบบนี้แค่บางตัวหรือเป็นทุกตัว

[Morphine]

ต่อไปตัวไรเพิร์ต รอดูๆฮี่ๆ

[SKYNET]

473(Mamoswine)(Mammoo)(แมนมู)

โปเกมอนงาคู่    ธาตุ /

ขนาดตัว 2.5 m.    น้ำหนักตัว 291 kg.

Mamoswineพัฒนาร่างมาจาก Piloswineเมื่ออัพเลเวลตอนรู้ท่า AncientPower และเป็นร่างสุดท้ายของ Swinub

สรีรวิทยา

Mamoswineมีลักษณะคล้ายกับแมมมอธรวมกับหมูป่า ขนสีน้ำตาลของMamoswineนั้นหนามากเพื่อให้ทนทานต่อความหนาวและป้องกันหิมะกับน้ำแข็ง งาของมันเกิดจากก้อนน้ำแข็งบริสุทธิ์ และร่างกายขนาดใหญ่ของมันยังช่วยรักษาความร้อนในร่างกาย Mamoswineมี”หน้ากาก”สีสันอยู่บนหน้า สีขาวเป็นขอบและสีฟ้าอยู่ข้างใน ขนบริเวณรอบปากมีสีแทนและรุงรัง จมูกของพวกมันมีลักษณะคล้ายหมู เท้าของMamoswineมีสีดำ พร้อมกับกรงเล็บอย่างหนาสามเล็บ และหางของMamoswineนั้นค่อนข้างเล็ก Mamoswineแสดงลักษณะของธาตุ ออกมาเพียงเล็กน้อยเช่นร่างกายที่แข็งแรงและกำยำ

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

Mamoswineตัวเมียจะมีงาสั้นกว่าตัวผู้

          ตัวผู้              ตัวเมีย

ความสามารถพิเศษ

Mamoswineมีแรงเยอะมหาศาล ร่างกายและเท้าที่แข็งแรงของมันทำให้มันเดินผ่านหิมะที่แห้งและหนาได้Mamoswineสามารถอดทนต่อความหนาวและความหิวได้อย่างไม่มีขอบเขต ตามตัวอย่างคำบอกที่ว่าสลบไป 10,000 ปีแต่ก็ตื่นขึ้นมา สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบ

ต้องขอบคุณธาตุ / , Mamoswineเป็นโปเกมอนร่างสุดท้ายเพียงตัวเดียวที่ไม่โดนผลกระทบจากลูกเห็บหรือพายุทราย(ไม่นับโปเกมอนที่มีอบิลิตี้ป้องกันสภาพอากาศ)

พฤติกรรม

-

ที่อยู่อาศัย

Mamoswineอาศัยอยู่ในทุนดราทางตอนเหนือในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง แต่ก็จำนวนลดลงเมื่อสภาพอากาศอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

อาหาร

-

[Nameless-san]

Request ได้ใช่ไหม

ขอ Wooper เจ้าคะ

(ตัวนี้ชอบที่สุดใน gen 2 ละ)

[VVITch]

นึกว่าเวลาฟุคามารุดีใจหรือชอบใคร จะงับหัวแบบที่นาเอโทรุของซาโตชิทำซะอีก

ส่วนแมมมู เรื่องจำนวนประชากรนี่ก็น่าสงสารแฮะ จำนวนลดลงเรื่อยๆ เพราะภาวะโลกร้อนรึเปล่านะ..

[SKYNET]

475(Gallade)(Erlade)(เอลเลด)

โปเกมอนใบมีด     ธาตุ /

ส่วนสูง 1.6 m.     น้ำหนัก 52 kg.

Galladeพัฒนาร่างมาจากKirliaโดยใช้Dawn Stone มันหนึ่งในร่างสุดท้ายของRalts อีกตัวคือGardevoir

สรีรวิทยา

Galladeมีร่างกายช่วงล่างสีขาวประกอบกับเอวขนาดใหญ่และขาที่แข็งแรง ลำตัวจะบางและมีสีสมดุล(ซ้ายขวาเหมือนกัน)กันทั้งสีเขียวช่วงบนและช่วงล่าง แท่งแหลมสีแดงยื่นออกมาจากหน้าอกและหลังเหมือกกับGardevoir แขนของGalladeมีลักษณะเหมือนกระบองท่อนแขน พร้อมกับใบมีดที่ยืดออกได้ตรงข้อศอก ศีรษะมีลักษณะเหมือนนักรบในยุคโรมัน พร้อมใบหน้าขาวและสีเขียวแกมฟ้ากลางหัว Galladeมีหนามอยู่ข้างหัวเช่นเดียวกับGardevoir

อัตราส่วนระหว่างเพศ

เพศผู้    : 100 %

เพศเมีย : 0 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

Galladeเป็นโปเกมอนที่มีแต่เพศผู้ ส่วนมากบอกว่าคู่เพศเมียคือGardevoirเพราะพัฒนามาจากโปเกมอนชนิดเดียวกัน แต่Gardevoirเองก็สามารถเป็นได้ทั้งสองเพศ

ความสามารถพิเศษ

ต้องขอบคุณใบมีดที่แขนของGalladeที่สามารถยืดหดได้ ทำให้สามารถเรียนท่าเกี่ยวกับดาบได้หลากหลาย รวมทั้งท่าLeaf Blade,Night Slashและท่าที่เรียนรู้ได้ยากอย่างPsycho Cut มันเป็นหนึ่งในสองโปเกมอนที่ไม่ใช่โปเกมอนพืชที่สามารถเรียนท่าLeaf Bladeได้ เหมือนกับโปเกมอนธาตุต่อสู้ตัวอื่น GalladeสามารถเรียกEarthquakesได้และปล่อยหินใส่ศัตรูได้(Stone Edge,Rock Slide,Rock Tomb) มันสามารถเรียนท่าหมัดธาตุได้ มันสามารถเรียนท่าสุดยอดได้ เพราะเป็นร่างพัฒนาสูงสุดจึงสามารถเรียนท่าHyper Beam,Giga Impact ได้

พฤติกรรม

Galladeสุดยอดในเรื่องของมารยาทและคอยช่วยป้องกันผู้ที่อ่อนแอ

ที่อยู่อาศัย

Galladeซ่อนอยู่บนต้นไม้สูง คอยสอดส่องปัญหาและเข้าไปช่วยเหลือในเวลาที่สมควร

อาหาร

-

---

บทบาทในอนิเมะ

บทบาทหลัก

เอลเรดของโนโซมิ[Zoey]เปิดตัวในโปเกมอนDPตอนที่ 177 ศึกตัตสินคู่แข่ง! ฮิคาริ VS โนโซมิ!![Eng:A Grand Fight for Winning!] ที่มันสู้กับพจจามะและโทเงคิสของฮิคาริไปพร้อมๆกับเนียรุม่าของโนโซมิ ในชินโอ แกรนด์ เฟสติวัล รอบชิงชนะเลิศ

บทบาทรอง

เอลเรดตัวหนึ่งปรากฏเป็นตัวประกอบในมูฟวี่ 10(เดียลก้า VS พาลเกีย VS ดาร์กไร)[The Rise of Darkrai] มันนำทางอลิส ฮิคาริ ซาโตชิ และทาเคชิ ไปยังที่ๆบารอนอัลเบอร์โต้[baron Alberto]เชื่อว่าดาร์คไรทำให้คนอื่นฝันร้ายครั้งแรก มันปรากฎตัวอีกในช่วงต่อๆมา

ข้อมูลในสมุดภาพ

สมุดรวมภาพของฮิคาริ – เอลเรด โปเกมอนคมดาบ และร่างวิวัฒนาการของคิลเลีย เอลเรดจะยื่นศอกของมันเหมือนกับเป็นดาบ และเมื่อมันกำลังปกป้องใครซักคน มันจะสู้อย่างดุร้าย

บทบาทในมังงะ

โปเกมอนสเปเชี่ยล

แคสเซิลบัทเลอร์ โคคุรัน[Castle Valet Darach] ฟรอนเทียร์เบรนแห่งแบทเทิลแฟคตอรี่เขตชินโอ มีเอลเรดอยู่ตัวหนึ่ง

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

-  ATKและSp.ATKพื้นฐานของเอลเรดตรงข้ามกับเซอร์ไนท์

-  ลำดับของเอลเรดในสมุดภาพชินโอ(เฉพาะภาคแพลททินั่ม) และบราวเซอร์เขตอัลเมีย(Pokemon Ranger:Shadows of Almia) คือลำดับที่ 160 เหมือนกัน ทำให้เอลเรดและร่างอื่นๆของมันเป็นโปเกมอนตระกูลหนึ่งในห้าตระกูลที่มีลำดับเหมือนกันในลำดับสมุดรวมภาพมากกว่าหนึ่งชนิด

-  เอลเรดมีส่วนสูงเท่ากับบาชาโม่ โปเกมอนที่ร่างก่อนมีแต่ชนิดหลักเหมือนกัน

-  เอลเรดเป็นโปเกมอนที่ไม่ใช่ชนิดหญ้าตัวเดียวที่เรียนท่าLeaf Bladeจากการอัพเลเวลได้

-  เอลเรดสามารถเรียนท่าที่มีโอกาสคริติคัลสูงถึงห้าท่า มากกว่าโปเกมอนอื่นๆ

-  เอลเรดมีSp.DEFพื้นฐานสูงที่สุดในหมู่โปเกมอนต่อสู้ที่ไม่ใช่โปเกมอนในตำนาน และเท่ากับซุรุซุคิน[scrafty]

-  เอลเรดมีอะไรหลายอย่างเหมือนกับคิริคิซัน[bisharp] ทั้งคู่ถูกออกแบบคล้ายนักรบ(ทั้งคู่มีคมดาบที่แขนยื่นออกมา และมีหมวก) ทั้งคู่มีส่วนสูงเท่ากัน(1.6 เมตร) และทั้งคู่มีสายพันธุ์ โปเกมอนคมดาบ เหมือนกัน

ที่มา

ครีบอันเดียวที่อยู่บนหัวเอลเรดคล้ายกับหมวกที่นักสู้โรมันชั้น Murmillo สวมใส่ หรือหมวก Corinthian ที่มียอดเป็นขนม้า มันอาจมีต้นแบบมาจากอัศวินในยุคกลาง โดยเพิ่มเติมแล้ว ท่ายืนของเอลเรด(จากในเกมและอาร์ทเวิร์ค) คล้ายกับท่า en garde และท่าปัดป้องของกีฬาฟันดาบสมัยใหม่

ที่มาชื่อ

ชื่อGalladeของมัน อาจจะเป็นคำผสมของคำว่า “gallant” และ “blade” และอาจพาดพิงถึงนักสู้โรมันและ Sir Galahad เอลเรดอาจจะเป็นคำผสมของคำว่า “Earl”(ยศประมุขหรือแม่ทัพในสมัยประวัติศาสตร์ ในปัจจุบันคือชนชั้นของชาวอังกฤษ) หรือ “elbow” และ “blade” พาดพิงถึงส่วนที่ยื่นออกมาจากแขนที่คล้ายดาบของมัน หรือถ้าให้สอดคล้องกับที่มาชื่อทางดนตรีเหมือนรัลต์และเซอร์ไนท์ อาจจะมาจากคำว่า ballade หรือ ballad ในภาษาฝรั่งเศส ประเภทของกลอนภาษาฝรั่งเศส

[SKYNET]

403(Shinx)(Kolink)(โคลิงก์)

โปเกมอนแสงสว่าง     ธาตุ

ขนาดตัว 0.5 m.     น้ำหนัก 9.5 kg.

Shinxสามารถพัฒนาร่างเป็นLuxioเมื่อเลเวล 15 และสามารถพัฒนาต่อเป็นLuxrayเมื่อเลเวล 30

สรีรวิทยา

Shinxมีต้นแบบมาจากลูกสิงโตหรือลูกแมว ขนของมันมีสีฟ้าซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีส่วนที่เหมือนPichuตรงสีดำบริเวณใต้คอ มีขนสีดำตั้งแต่ใต้เอวลงไป มันมีหางยาวสีดำที่มีดาวสี่แฉกอยู่ตรงปลาย ขาหน้าของมันมีแถบสีทองคาดอยู่, นั่นคือต่อมไฟฟ้า, เหมือนกับแก้มของ Pikachu มันมีหูทรงรีขนาดใหญ่ที่มีลาย"*fleur de lis"สีทองติดอยู่ มันมีลูกนัยน์ตาสีทอง และจมูกสีแดงอมชมพู มันมีกระจุกขนอยู่บนหัวที่จะกลายเป็นแผงคอ กระจุกขนนี้มีอยู่ตรงบนและช่วงล่างของหัวด้วย ตอนมันอ้าปาก เราสามารถเห็นเขี้ยวเล็กๆของมันได้

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

Shinxตัวเมียขนบนหัวจะไม่ตั้งเท่าตัวผู้ และShinxตัวเมียมีอุ้งเท้าสีฟ้าทั้งสี่ข้างในขณะที่ตัวผู้อุ้งเท้าหลังจะมีสีดำ

      ตัวผู้              ตัวเมีย

ความสามารถพิเศษ

ในกรณีป้องกันตัว ขนของมันจะส่องแสงจ้าออกมาทำให้ผู้ล่าตาพร่า เพื่อมันจะได้หนี ในเมื่อเป็นธาตุ Shinxสามรถใช้ท่าแบบChargeและSparkได้

พฤติกรรม

ขนของมันจะสว่างจ้าถ้ามันรู้สึกถึงอันตราย มันจะหนีระหว่างที่ตาศัตรูยังพร่าอยู่

ที่อยู่อาศัย

มันอาศัยอยู่ตามทุ่งโล่งหรือทุ่งหญ้าจุดต่างๆ นี่อาจจะบ่งบอกว่ามัมีต้นแบบมาจากสิงโต

อาหาร

ตามธรรมชาติShinx, Luxio, และLuxrayจะล่าเหยื่อมาเป็นอาหาร

หมายเหตุ

*fleur de lis = สัญลักษณ์ดอกลิลลี,เครื่องหมายลูกเสือโลก

[SKYNET]

354(Banette)(Jupetta)(จุปเปต้า)

โปเกมอนหุ่นกระบอก    ธาตุ

ขนาดตัว 1.1 m.    น้ำหนัก 12.5 kg.

Banetteพัฒนาร่างมาจากShuppetเมื่อเลเวล 37

สรีรวิทยา

Banetteเป็นโปเกมอนตุ๊กตารูปร่างคล้ายมนุษย์สีดำที่ถูกครอบงำโดยความเกลียดชัง มันมีหนามอยู่บนหัวสามเส้นและมีริบบิ้นยาวรูปร่างซิกแซกห้อยลงมาจากหัว มันมีปากรูปร่างเหมือนซิป มันมีแขนยาวกับนิ้วสั้นๆสามนิ้ว ขาเตี้ยๆ และหางรูปร่างเหมือนแปรงที่มีลักษณะคล้ายหนามที่ติดอยู่ตามตัว

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

Banetteสร้างพลังงานสำหรับคำสาปให้รุนแรงด้วยการเอาหนามติดตามร่างกายตัวเองเหมือนตุ๊กตาวูดู

พฤติกรรม

พวกมันถูกกล่าวว่าอาศัยอยู่ตามที่ทิ้งขยะและคอยเดินทางตามหาเด็กที่เป็นคนทิ้งมัน

ที่อยู่อาศัย

ตามตำนานบอกว่า Banetteอาศัยอยู่ตามเมืองเพื่อที่จะตามหาคนที่ทิ้งมันและไล่ล่า

อาหาร

-

[SKYNET]

302(Sableye)(Yamirami)(ยามิรามิ)

โปเกมอนความมืด    ธาตุ /

ขนาดตัว 0.5 m.    น้ำหนัก 11 kg.

สรีรวิทยา

Sableyeเป็นโปเกมอนลักษณะเหมือนคนแคระที่มีสีน้ำเงินเข้ม ร่างกายของพวกมันปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในถ้ำเพื่อให้ยืดหยุ่นพอที่จะเข้าไปตามรอยแตกของถ้ำได้และต้องฉลาดพอเพื่อที่จะมีชีวิตรอดในถ้ำ สิ่งที่ทำให้พวกมันดูแตกต่างจากโปเกมอนตัวอื่นๆมากที่สุดคือตารูปร่างเหมือนอัญมณีทีทำให้พวกมันมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยได้ดี พวกมันมีอัญมณีตรงหน้าอกที่จะโตขึ้นเป็นผลมาจากการกินอัญมณี พวกมันสามารถกินอาหารแข็งๆแบบนี้ได้เพราะฟันรูปแบบใบมีดของมันที่ออกแบบมาเพื่อเคี้ยวหิน

อัตราส่วนระหว่าเพศ

ตัวผู้    : 50%

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

Sableyeและคู่หูธาตุ / ของมัน, Spiritomb, ไม่มีจุดอ่อนเรื่องธาตุเว้นแต่ว่าจะโดนท่าแบบOdor SleuthและForesightเข้าไป ในกรณีนี้ธาตุ จะมีผลsuper-effective

พฤติกรรม

มีข้อมูลเก่าๆบอกว่าSableyeจะขโมยวิญญาณของคนที่จ้องตามันไป ถึงอย่างงั้นก็ตาม จากหลักฐานก็แสดงให้เห็นว่าโปเกมอนตัวนี้เป็นมิตร ก็แค่เล่นการหลอกแบบแย่ๆกับนักเดินทางเพื่อเรียกร้องความสนใจเพราะพวกมันเหงาที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวในถ้ำมืดด้วยตัวของมันเอง

ที่อยู่อาศัย

Sableyeอยู่ในถ้ำและตามเหมืองร้าง เพื่อที่มันจะได้หาแร่ที่ถูกทิ้งกินอย่างไม่ต้องลังเล

อาหาร

Sableyeกินอัญมณี

[Heart-Gold]

ขอ Lucario ครับ ตัวโปรดเลย

[SKYNET]

194(Wooper)(Upā)(อุป้า)

โปเกมอนปลา    ธาตุ /

ขนาดตัว 0.4 m.    น้ำหนัก 8.5 kg.

Wooperสามารถพัฒนาร่างเป็นQuagsireเมื่อเลเวล 20

สรีรวิทยา

Wooperเป็นโปเกมอนที่มีลักษณะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสีฟ้า เหมือนกับตัว*Axolotlในโลกจริง Wooperยืนโดยใช้เท้ากลมๆเล็กๆและมีหางที่ใหญ่และหนา  Wooperมีเหงือกสีม่วงยื่นออกมาจากข้างหัวและมีเหงือกแบบโค้งสีน้ำเงินอยู่บนลำตัว หัวของWooperมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว ปากของมันกว้างและตาของมันมีสีดำและมีขนาดเล็ก

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

Wooperตัวเมียมีเหงือกที่ข้างหัวเล็กกว่าตัวผู้

        ตัวผู้            ตัวเมีย

ความสามารถพิเศษ

ในเมื่อเป็นโปเกมอนธาตุ / Wooperสามารถใช้ท่าได้ทั้งสองธาตุเช่นWater Gunและท่าประเภทโคลนต่างๆ เมือกที่เคลือบตัวWooperเวลาอยู่บนบกนั้นเป็นพิษและจะมีอกาการปวดเมื่อสัมผัสด้วยมือเปล่า Wooperยังสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ถ้าถูกโจมตีด้วยน้ำ

พฤติกรรม

Wooperมีแนวโน้มว่าเป็นโปเกมอนที่โง่ พวกมันถูเลี้ยงโยไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ลักษณะนี้ยังส่งผลถึงร่างพัฒนาของมันคือQuagsire Wooperอาศัยอยู่ในน้ำเย็นซะส่วนใหญ่แต่จะออกจากน้ำเพื่อหาอาหารเมื่ออุณหภูมิต่ำลงในช่วงบ่าย ในขณะที่อยู่บนดิน มันจะเคลือบตัวเองด้วยเมือกเหนียวๆซึ่งเป็นพิษเพื่อรักษาผิวของมันไม่ให้แห้งจากอากาศที่เย็น ตอนอยู่ในน้ำ Wooperจะฝังตัวเองในโคลนเพื่อนอน

ที่อยู่อาศัย

Wooperอาศัยอยู่ตามแหล่างน้ำเย็น แต่จะขึ้นมาบนดินเพื่อหาอาหาร

อาหาร

-

---

หมายเหตุ

*Axolotl = ตัวซาลามานเดอร์

[SKYNET]

280(Ralts)(Rarutosu)(รัลต์)

โปเกมอนความรู้สึก    ธาตุ

ขนาดตัว 0.4 m.    น้ำหนัก 6.6 kg.

Raltsสามารถพัฒนาร่างเป็นKirliaเมื่อเลเวล 20 ซึ่งสามารถพัฒนาต่อเป็นGardevoirเมื่อเลเวล 30 หรือถ้าเป็นตัวผู้ก็สามารถพัฒนาเป็นGalladeได้โดยใช้Dawn Stone

สรีรวิทยา

Raltsมีร่างกายสีขาว ขาของมันมีลักษณะเหมือนสวมชุดอยู่ Raltsมีหมวกสีเขียวสวมอยู่บนหัวที่มีเขาสีแดงยื่นออกมาจากด้านหน้าและด้านหลัง โดยปกติ ตาของRaltsจะโดนบังโดยหมวกของมันแต่ถ้ามองด้วยมุมมองที่ดีๆแล้วจะมองเห็นตาที่เศร้าๆของมันซึ่งคล้ายกับร่างพัฒนาของมันและRoserade ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ว่าRaltsกับร่างพัฒนาของมันมีลักษณะเหมือนมนุษย์นั้น พวกมันมีความสัมพันธ์บางอย่างกับโปเกมอนธาตุ มากกว่าโปเกมอนที่มีลักษณะแบบมนุษย์ตัวอื่นๆเช่นMime Jr.

อัตราส่วนระหว่างเพศ

ตัวผู้    : 50 %

ตัวเมีย : 50 %

ข้อแตกต่างระหว่างเพศ

ไม่มี

ความสามารถพิเศษ

Raltsสามารถใช้เขาของมันรับรู้อารมณ์ของโปเกมอนและมนุษย์ได้ ความสามารถที่Raltsมีในการต่อสู้คล้ายกับพวกโปเกมอนธาตุ Raltsเป็นหนึ่งในโปเกมอนบางตัวที่สามารถเรียนท่าMagical Leafได้

พฤติกรรม

Raltsเป็นโปเกมอนที่ขี้ขลาดและจะซ่อนตัวเมื่อรับรู้ถึงได้ถึงเจตนาไม่ดี แต่จะกล้าขึ้นเล็กน้อยถ้ารับรู้ได้ถึงความสุขและเจตนาที่ดีจากสิ่งอื่น ถ้าTrainerของมันอยู่ในอารมณ์สดชื่น โปเกมอนก็จะสดชื่นและสนุกสนานเหมือนกัน ถ้าเขาของมันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมนุษย์หรือโปเกมอน ตัวของมันจะอุ่นขึ้นเล็กน้อย

ที่อยู่อาศัย

Raltsชอบที่จะอยู่ห่างจากมนุษย์ ประมาณว่าพวกมันไม่ชอบที่จะอยู่กับความรู้สึกด้านลบ

อาหาร

-

---

บทบาทในอนิเมะ

บทบาทหลัก

รัลต์ปรากฎในโปเกมอนAGตอนที่109 "ช่วยเหลือรัลต์! เร็วเข้ามาซาโตะ!"[Eng:Do I Hear a Ralts?] มาซาโตะพบรัลต์ตัวหนึ่งที่ป่วยหนักและเขาตัดสินใจจะช่วยมัน ด้วยความช่วยเหลือจากยูคิวาราชิของซาโตชิ เขาพามันไปที่โปเกมอนเซ็นเตอร์ที่ใกล้ที่สุด หลังจากนั้น มาซาโตะสัญญากับรัลท์สว่าจะกลับมาหามันเมื่อตนเองสามารถเป็นเทรนเนอร์ได้

บทบาทรอง

รัลต์ใช้ชีวิตอยู่กับพวกโปเกมอนเอสเปอร์ที่ชอบการสังสรรค์ในเหมืองร้าง ในโปเกมอนAGตอนที่ 146 "เอสเปอร์ VS โกสท์! ศึกยามค่ำคืน!?"[uSA:Fear Factor Phony]

ข้อมูลในสมุดภาพ

สมุดรวมภาพของฮารุกะ – รัลต์ โปเกมอนความรู้สึก รัลต์เป็นร่างก่อนวิวัฒนาการของคิลเลีย มันสามารถใช้เขาบนหัวอ่านอารมณ์ของผู้คนได้ นานๆครั้งรัลต์จะปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น แต่บางครั้งอาจจะโผล่มาเมื่อสัมผัสอารมณ์ด้านบวกหรือสัมผัสความสุขผู้อื่นได้

บทบาทในมังงะ

โปเกมอนสเปเชี่ยล

รูบี้มีรัลต์ชื่อเล่นว่ารูรู แต่ว่า ในภาครูบี้แซพไพร์ รูรูจะอยู่กับมิซึรุ[Wally]ซะเป็นส่วนใหญ่ รูรูอยู่กับมิซึรุหลังจากรูบี้หายสาบสูญจากแผ่นดินไหวและได้รับการดูแลจากลุงฮากิ[Mr.Briney](ที่ซึ่งเขาได้รู้จักมิโลคารอส โปเกมอนที่มิมิ(ฮิมบัส)ของเขาสามารถวิวัฒนาการได้) ระหว่างมิซึรุฝึกฝนรูรูภายใต้การควบคุมของเซ็นริ[Norman] รูรูวิวัฒนาการเป็นคิลเลียและในที่สุดก็ได้คืนให้กับรูบี้

ข้อมูลในสมุดภาพ

ตอนที่ 187 VS คาคุเลอ้อน – โปเกมอนชนิดนี้สามารถตรวจจับความรู้สึกได้ด้วยเขาของมัน นานๆครั้งจะปรากฏให้ผู้คนเห็น แต่มันมักถูกดึงดูดโดยอารมณ์ทางบวก

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

-  ลำดับของรัลต์ในสมุดภาพชินโอ(เฉพาะภาคแพลททินั่ม) และบราวเซอร์เขตอัลเมีย(Pokemon Ranger : Shadows of Almia) คือลำดับที่ 157 เหมือนกัน ทำให้รัลต์และร่างอื่นๆของมันเป็นโปเกมอนตระกูลหนึ่งในห้าตระกูลที่มีลำดับเหมือนกันในลำดับสมุดรวมภาพมากกว่าหนึ่งชนิด

-  รัลต์เป็นหนึ่งในสามตระกูลโปเกมอนที่มีการแบ่งสายวิวัฒนาการเมื่ออยู่ในขั้นที่สอง(คิลเลีย>>เซอร์ไนท์หรือเอลเรด)

-  สไปรท์ของรัลต์ในPokemon Trozei!เป็นสไปรท์เดียวที่เผยให้เห็นดวงตาของรัลท์ส ในPokemon ColosseumและPokemon XD: Gale of Darknessสามารถเห็นดวงตาของรัลท์สได้ในTrainer Memoแต่ว่านั่นไม่นับว่าเป็นสไปรท์

-  แม้ในเจน4 รัลต์สามารถเรียนท่าWill-O-Wispได้จากการบรีด และไม่สามารถเรียนท่าWill-O-WispจากTMได้ แต่ว่าในเจนห้า รัลต์กลับเรียนท่าWill-O-Wispได้จากTMแต่ก็ไม่สามารถเรียนจากการบรีดได้

-  รัลต์เป็นโปเกมอนชนิดเดียวที่มีค่าสเตตัสพื้นฐาน 198

-  ทั้งๆที่ในเกมภาครูบี้/แซพไพร์/เอเมอรัลด์ รัลต์ที่มิซึรุจับในถนนหายเลข 102 จะมีเลเวล 5 แต่ว่าผู้เล่นไม่สามารถจับรัลท์สเลเวล 5 ได้ ยกเว้นจากการบรีด

    -ที่เป็นเช่นนี้ก็คงเพราะว่ามิซึรุจะได้มีโปเกมอนเริ่มต้นเลเวลเท่ากับตัวผู้เล่น

ที่มา

รูปร่างของรัลต์มีพื้นฐานคล้ายคลึงกับเด็กน้อย ตามทฤษฎีที่ว่า เด็กจะรับรู้ความรู้สึกได้ดีและละเอียดถี่ถ้วนกว่าผู้ใหญ่

ที่มาชื่อ

ชื่อของรัลต์อาจจะเป็นคำเรียงใหม่บางส่วนของคำว่าastralที่ตัดaออกไป เป็นraltsภาษาอื่นก็อาจจะมีรูปแบบเดียวกัน หรืออาจจะเป็นการเล่นคำของคำว่าWaltzหรือก็คือการเต้นวอลท์ซ ตระกูลซาไนท์ทั้งตระกูลคล้ายคลึงกับนักเต้น และตระกูลนี้ยังคล้ายกันในด้านที่จะสัมพันธ์กับเทรนเนอร์ที่ใจดีเท่านั้น

====================

Credit by

ซาโตชิ

ตรวจสอบและแก้ไขโดย ศจ. เอง