Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

[Fiction] The Curse Of Spiritomb


BLYTHE

Recommended Posts

สารบัญฟิค(Content)

Writer Talk

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอต้อนรับสู่ฟิคเรื่องที่สองของข้าพเจ้าซึ่งฟิคเรื่องนี้เกี่ยวกับการโดนสาปของโปเกมอนตัวหนึ่งที่ชื่อว่ามิคัลเก้ซึ่งเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นต้องติดตามชมและกรุณาติชมทุกครั้งที่อ่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

แนะนำตัวละคร

th_Spiritomb-1.jpg

โปเกมอนที่ถูกสาป ทำให้ไม่สามารถออกมาพบโลกภายนอกและกลับร่างเดิม(ร่างโปเกมอน)ได้ เมื่อพันปีต่อมาจึงมีคนมาพบเธอนั่นก็คิอคือลูคาริโอ้ ชายหนุ่มซึ่งเห็นเธอที่ถูกสะกดอยู่ในหินวางขายในตลาดเมืองอัลฟาร์ มิคัลเก้มีนิสัยเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว แต่เป็นคนอบอุ่นและสามารถเข้าใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี แต่เธอจะสามารถหลุดพ้นจากคำสาปได้มั้ยน้า???

th_Lucario-1.jpg

พระเอกของฟิคเรื่องนี้ วันหนึ่งเดินมาเจอมิคัลเก้ซึ่งโดนสาปให้อยู่ในหิน มีอาชีพเป็นนักเดินทางเคียงคู่กับโกขะซารุ เป็นคนใจเย็น สุภาพ เวลาต่อสู้จะค่อนข้างระมัดระวังตัวและรอบคอบและที่สำคัญคื่อเขาแอบชอบมิคัลเก้ ร่างจริงคือหมาป่านักสู้

th_0909b290.jpg

พระรองตัวเอกอีกตัวหนึ่งของเรื่องนี้ เป็นเพื่อนสนิทของลูคาริโอ้แต่มีนิสัยผิดกันโดยสิ้นเชิง คือ โกขะซารุมีนิสัยใจร้อน ก้าวร้าวในบางครั้ง ขี้โมโห มุทะลุ ถึงยังงั้นเขาก็เป็นคนที่รักเพื่อนมากนะร่างจริงของเขาคือลิงไฟ มีชื่อเล่นว่าโกขะ

desukan_gijinka_by_chibicyndaquil-d2yh8kg.png

พี่สาวของมิคัลเก้ โดนขังอยู่ในปิรามิดแห่งหนึ่งซึ่งสาเหตุที่โดนขังก็คือไปต่อต้านเทพที่จะขังมิคัลเก้ หน้าตาน่ารัก(?)แต่ตอนต่อสู้จะโหดร้ายมาก แต่เธอก็เป็นคนที่รักน้องสาวมาก

th_494a527f.jpg

เจ้าของเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของเมืองอัลฟาร์ แต่งตัวคล้ายผู้ชายแต่แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง ที่แต่งตัวเป็นผู้ชายเพราะเรื่องภายในครอบครัว เธอคิดว่าการปลดปล่อยมิคัลเก้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง จึงคอยสนับสนุนพวกลูคาริโอ้อยู่เรื่อยมา

th_Cresslia.jpg

ผู้ดูแลความฝันของเหล่าโปเกมอนทั้งหลาย เป็นคนชี้แนะเกี่ยวกับมิคัลเก้ให้ลูคาริโอ้ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ค่อยอยากให้ลูคาริโอ้และผู้ถูกเลือกทั้งหลายปลดปล่อยคำสาปสักเท่าไหร่นัก จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอนั้นคืออะไรกันแน่?

-

บัทช์ วอลเกอร์

- เซย์มัว ชิเอล ซอร์เซ่

- เลออน เฟลมเบิร์ก

- ริว อากิระ(อากิระ ริว)

- อาเทอร์ โจ๊กเกอร์

- LM

- โจ

- ซิฟน่า อัคเซล่อน

- เนมุริน

- มิโดริ มิโรคาว่า(มิโรคาว่า มิโดริ)

- ซาโตชิ ซาคาโมโตะ(ซาคาโมโตะ ซาโตชิ)

- อลิเซีย

- เซจิโระ มิสึกิ(มิสึกิ เซจิโระ)

- มิยาโกะ นางากาวะ(นางากาวะ มิยาโกะ)

- พลานัน บลาวนิ่ง

- มารีนะ ชิโรยานากิ(ชิโรยานากิ มารีนะ)

- นมเปรี้ยว

- สปอร์ เอส ดาร์คเดส

- ฟุเรอิ มาชิโระ(มาชิโระ ฟุเรอิ)

- อากิระ ฟุซาคาวะ(ฟุซาคาวะ อากิระ)

- คีนอายส์

- ซากุราอิ เทมปุ(เทมปุ ซากุระอิ)

- ออง เดล เล บา สฟัว ฮาล์น ราเนดา้เซีย

- อารอว์น เพนดราก้อน

- ซารุวาตาริ

- แซก

- ไซคี

- ฟุทาจิโนะ

- วิเวียน

เครดิตรูป: deviantart

           : photobucket

ตัวละคร NPC จะถูกอัพเดตเป็นระยะๆค่ะ

===================================

บทนำ

คำสาปบทที่1 : เหตุการณ์สุดระทึก(?)กลางเมืองอัลฟาร์

คำสาปบทที่2 : Along the way to the exit

คำสาปบทที่ 3 : การเดินทางของนักเดินทางทั้งสองและผู้ช่วยชีวิตอีกหนึ่ง

คำสาปบทที่ 4 : The Keen eyes

คำสาปบทที่ 5 : ฝันประหลาด

คำสาปบทที่ 6 : The fire wolf

คำสาปบทที่ 7 : ป่าพิศวง

คำสาปบทที่ 8 : The Life Tree

สำหรับท่านที่ไม่มาเม้นท์จนถึงตอนที่ 8 ขอตัดตัวละครของท่านตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปค่ะ

ปล.แต่ตัวละครบางตัวจะเก็บเอาไว้อยู่...

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 108
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • BLYTHE

    13

  • โฮมุปอร์

    9

  • Risu

    9

  • Porygon-Ω

    9

บทนำ

ณ เมืองอัลฟาร์(Alpha) เมืองขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกโปเกมอน ที่ๆโปเกมอนร่างมนุษย์และมนุษย์ร่างโปเกมอนอยู่ด้วย

กันอย่างสงบสุขเป็นเรื่อยมา...แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อพันปีที่แล้ว... โปเกมอนวิญญาณร้ายชื่อว่า”มิคัลเก้”ได้ออกอาละวาดกัดกินวิญญาณของ

โปเกมอนต่างๆจนเหล่าเทพของโปเกมอนได้ตัดสินกันแล้วว่า...

“มิคัลเก้จะต้องถูกขังไปตลอดกาล จนกว่าจะพบชายที่ถูกเลือกจนกลับใจได้...”

สิ่งที่มิคัลเก้ถูกขังเอาไว้ข้างในนั้นก็คือOdd Keystoneหรือหินที่สถิตวิญญาณของปีศาจร้ายตัวนี้นี่เอง

แต่ทว่า...ชายหนุ่มที่ว่านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ...นักเดินทางที่อยู่ในเมืองอัลฟาร์แห่งนี้....

_______________________________________

ณ บ้านพักนักเดินทางแห่งเมืองอัลฟาร์

“จิ๊บ~จิ๊บ~จิ๊บ~”เสียงโปเกมอนนกนานาชนิดดังลอดเข้ามาจากนอกหน้าต่าง แสงแรกของวันส่องหน้าของชายหนุ่มเข้าอย่างจังๆ

แต่ชายหนุ่มยังไม่มีท่าที่ว่าอยากลุกออกจากเตียงสักเท่าไหร่นัก...แต่แล้วเขาก็ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆแล้วพูดว่า...

“เช้าแล้วหรือนี่..”เขาเอามือขยี้ตาเบาๆ อารมณ์ของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความสลึมสลือ ไม่มีความอยากตื่นเลยแม้แต่นิดเดียว...

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงใครเปิดประตูดังปังขึ้นอย่างแรง...

“ตึก..ตึก..ตึก..ปัง~~!!!!”

“นี่!ลูคาริโอ้ จะนอนไปถึงไหนกันน่ะ!!~”ชายหนุ่มผมสีขาว มีผมยาวสีแดงเพลิงแซมตามผม สวมเสื้อสีขาว กางเกงสีขาว

กางเกงมีขอบสีเหลืองทอง สวมถุงมือสีกรมท่า ถุงเท้าสีขาว รองเท้าสีกรมท่า มีสายรัดเอวหลวมๆสีน้ำตาล...คนที่เปิดประตูเข้ามานั่นก็คือ

“โกขะซารุ~!!ทำไมต้องรีบขนาดนั้นล่ะ เดี๋ยวค่อยออกก็ได้นี่ ใจร้อนไปไหนเล่า!!!””ลูคาริโอ้”เถียงเพื่อนรักของเขาพลางอารมณ์เสียเล็กน้อย

พร้อมลงมาจากที่นอนพับผ้าห่ม จัดหมอนให้เข้าที่แล้วคลุมเตียงเพื่อเป็นขั้นตอนสุดท้าย...

“ขืนช้าล่ะก็ออกเดินทางไม่ทันล่ะแย่แน่”โกขะซารุพูดด้วยความร้อนรนในขณะรอเพื่อนของเขาเตรียมตัวเก็บกระเป๋าจนเสร็จ..

“เอาล่ะๆ เสร็จแล้วๆ นายนี่ยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะ”ลูคาริโอ้พูดอย่างใจเย็นพร้อมเอาหน้ากากสีดำเจาะรูเป็นรูปตามาผูกที่ตาของเขาเอาไว้

หูสีครามของเขากระดิกไปมาคล้ายกำลังดีใจอะไรบางอย่าง

...เมื่อพวกเขาเก็บกระเป๋าสัมภาระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองก็ค่อยๆก้าวออกจากห้องที่เขาเคยเช่าอยู่ ผ่านทางเดินไม้แคบๆซึ่งจน

สามารถเดินผ่านไปได้ทีละคนเท่านั้น และแล้วเขาก็เดินออกจากบ้านพักหลังนี้จนได้...

“แกร๊ก~กริ๊ง~”เสียงประตูเปิดขึ้น ขอบชองประตูไม้กระทบกับกระดิ่งอันเล็กๆดังกรุ๊งกริ๊งฟังแล้วสบายหู สองหนุ่มเดินออกจากบ้านพักซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาใจกลางเมืองของนครอัลฟาร์...

“อา~~นี่สินะ อากาศของเมืองอัลฟาร์”โกขะซารุสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างเต็มปอดเพื่อให้ได้รับกลิ่นอายของเมืองที่เขาเกิดอย่างเต็มที่

“รีบลงจากเขากันเถอะโกขะ แล้วไปหาของกินที่ตลาดกัน”ลูคาริโอ้หันหน้ามายังเพื่อนของเขาพร้อมเชิญชวนให้ลงไปข้างล่าง พูดยังไม่ทันขาดคำ โกขะซารุก็สไลด์ลงเขาไปที่ด้านล่างเสียแล้ว... ซึ่งลูคาริโอ้ก็สไลด์ตามไปติดๆจนกระทั่งมาถึงตลาดจนได้...เมื่อมาถึงตลาดพวกเขาทั้งสองเอามือปัดฝุ่นออกจากตัวเบาๆเพื่อให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านขึ้น ตลาดที่ว่านี้เต็มไปด้วยของขายมากมายหลายชนิด ร้านค้าแต่ละร้านมีมีหนังหุ้มไว้เป็นหลังคา มีโต๊ะไม้ทั้งเก่าและใหม่วางของที่จะขายเรียงหลายเต็มไปหมด รวมทั้งผู้คนในร่างโปเกมอนและโปเกมอนในร่างของมนุษย์ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและมีความสุข พวกเขาเดินดูสิ่งของไปเรื่อยๆ ทั้งอาหาร เครื่องครัวเครื่องเรือน อุปกรณ์เดินทางต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพวกเขา แต่แล้วลูคาริโอ้ก็เหลือบไปเห็นร้านค้าแห่งหนึ่ง คนขายเป็นหญิงแก่ซึ่งหลังโค้งงอเหมือนกุ้ง ตาของเธอขุ่นมัวจนเห็นเพียงแต่ตาขาว ผิวหนังแห้งเหี่ยวเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวันแล้ว ใส่เสื้อผ้าที่เก่าจนเจียนขาด ของที่เธอขายเป็นหินเกี่ยวกับการวิวัฒนาการต่างๆเช่นหินไฟฟ้า หินน้ำ วางเรียงรายเต็มโต๊ะขายของ ลูคาริโอ้เห็นท่าทางของยายแม่ค้าไม่สู้ดีนัก เขาจึงคิดจะอุดหนุนสินค้าของเธอสักชิ้น ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไป

“อะ..เอ่อ คุณยายครับผมมาซื้อของน่ะครับ...”ลูคาริโอ้เดินเข้าไปถามอย่างสุภาพพร้อมเพื่อนของเขา โกขะซารุ

“อ้าว จะเอาอันไหนหรือจ๊ะ พ่อหนุ่ม?”ยายแม่ค้าถาม แม้ตาของเธอจะมืดบอด แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงทุ้มๆของชายหนุ่มอยู่

“อะ..อ๋อ อืม....หินอันนี้สวยดีนะครับ เท่าไหร่เหรอครับ?”ลูคาริโอ้มองดูหินซึ่งมีสีน้ำตาลอ่อนๆ มีรอยแตกสีน้ำตาเข้มตรงกลาง มีจุดสองจุดอยู่ที่กลางหินดูคล้ายหน้าตาคน

ยายแม่ค้าค่อยๆคลำหินก้อนนั้นเพราะตาของเธอมองไม่เห็น เมื่อคลำไปสักพักเธอก็พบว่า..

“อ้อ หินก้อนนี้เองหรือพ่อหนุ่ม? หินก้อนนี้น่ะนะเป็นหินลึกลับ ทำให้โปเกมอนอะไรวิวัฒนาการก็ไม่ได้ ถ้าเธออยากได้ยายก็จะขายให้นะ...ตอนนั้นยายก็รู้สึกว่ามันแปลกดีเลยเก็บมาเหมือนกัน ฮ่ะๆๆ”ยายแม่ค้าเริ่มหัวเราอย่างขบขัน ก่อนที่ลูคาริโอ้จะควักเศษเหรียญซึ่งได้มาจากการเดินทางของเขามาจ่ายให้แม่ค้า พร้อมเอาหินเข้ากระเป๋าอย่างทะนุดถนอม

“เดินทางดีๆนะพ่อหนุ่ม ขอให้โชคดีล่ะ”

“ขอบคุณครับคุณยาย~”ทั้งสองหนุ่มบอกลาแม่ค้าที่ใจดีก่อนที่จะเดินหาของที่อยากได้ต่อไป แต่ทว่า...

“ชะ..ช่วย..ดะ..ด้วย...”เสียงๆหนึ่งดังกึกก้องในหัวของชายหนุ่ม

“เฮ้ย!!”ลูคาริโอ้สะดุ้งเฮือกก่อนร้องขึ้นด้วยความตกใจพร้อมหันซ้ายหันขวา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเรียกให้ช่วยเมื่อกี้นี้..หรือเขาจะหูแว่วไปเองกันนะ???

“หืม? เป็นอะไรไปลูคาริโอ้?”โกขะซารุถามพร้อมเดินดูของไปเรื่อยๆ

“เมื่อกี๊นายได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยหรือเปล่าน่ะ?”ชายหนุ่มถามด้วยความฉงน

“ไม่นี่....ไปดูทางนู้นกันเถอะลูคาริโอ้!ร้านนั้นคนมุงกันเต็มเลย~”ว่าแล้วโกขะซารุก็จูงมือลูคาริโอ้ให้เดินไปตามๆกัน

“(หรือว่าเราจะคิดไปเองจริงๆ)”

“ชะ..ช่วยด้วย...”เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันชัดกว่าครั้งที่แล้วมาก..

“อะ...อะไรกันน่ะ”ลูคาริโอ้พูดกับตัวเองเบา โดยที่โกขะซารุยังดูของที่ร้านอยู่

“นะ...นี่โกขะ...ฉันได้ยินเสียงอะไรแปลกๆน่ะ..”ลูคาริโอ้ดึงแขนเพื่อนของเขาออกมาจากฝูงชนซึ่งมารุมหน้าร้านขายอาหารกันจนแน่นขนัด

“อะไรเล่าลูคาริโอ้ กำลังดูของอร่อยอยู่เลย โธ่...”โกขะซารุพูดอย่างผิดหวังแต่ในที่สุด เขาก็ถูกเพื่อนของเขาลากออกมาจากวงล้อมของฝูงชนจนได้...

“ฉันได้ยินเสียงแปลกๆน่ะ ร้องว่าช่วยด้วย...ช่วยด้วย...อยู่นั่นแหละ”

“นายหูฝาดไปเองหรือเปล่าน่ะ ลูคาริโอ้?”

“ไม่นะ ฉันได้ยินจริงๆ”

“พอเถอะลูคาริโอ้ ฉันว่านายน่าจะคิดไปเองนะ เอาเป็นว่าเราไปซื้อของแล้วรีบออกเดินทางกันเถอะ”โกขะซารุชักชวนให้เพื่อนของเขาไปซื้อเสบียงอาหารแล้วกลับมาที่จุดนัดพบอีกครั้งนึง

เมื่อแยกกันไปคนละฝั่งของตลาดแล้วโกขะซารุยังคงเดินไปที่ร้านเดิมซึ่งยังคงมีคนแน่นขนัดอยู่ แต่ลูคาริโอ้เดินออกไปจากร้านนั้น แล้วเดินดูของไปเรื่อยๆ...จนกระทั่ง...

“ช่วย...ด้วย”

เสียงของคำว่าช่วยด้วยยังคงดังขึ้นอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ก็ดังขึ้นกว่าเดิมจนชายหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เขารู้สึกว่าต้องไม่มีอะไรชอบมาพากลแน่

“(นะ..นี่มันเสียงอะไรกันน่ะ ได้ยินมาตั้งสามครั้งแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเสียงของผู้หญิงนะ แต่ว่าทำไมเราถึงยินแค่คนเดียวล่ะ...)”ลูคาริโอ้คิดในใจขณะยังเดินพึมพำพึมพำต่อไป...

จนกระทั่งถึงเวลาที่เขาจะต้องออกเดินทางกันแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองเดินมาพบกันที่จุดนัดพบ

“เอาล่ะ ลูคาริโอ้นายพร้อมแล้วใช่มั้ย?”โกขะซารุถามในขณะที่เขาได้ของกินมามากมาย จนแทบจะยัดกระเป๋าใบเล็กๆข้างตัวแทบไม่ไหวแล้ว

“อื้อ ไปกันเถอะ”และแล้วบูคาริโอ้และโกขะซารุก็ออกเดินทางผจญภัยไปในที่ๆอาจจะยังไม่มีใครเคยพบมาก่อนแต่ทว่า...

“ช่วยด้วย~~!!!”

“เอ๋!?!?!~~”ชายหนุ่มทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน

==========================

ถึงจะเป็นฟิคเรื่องที่สองแต่ยังไงก็ยังแต่งไม่เก่งอยู่ดีค่ะ ยังไงก็ขอคอมเม้นท์ด้วยนะคะ~

Link to comment
Share on other sites

หินไม่พัฒนา ราคาถูกที่สุดเลยนี่นะ....

จะรออ่านตอนต่อไปครับ

Link to comment
Share on other sites

เมืองอัลฟ่า...

... ทำไมต้องชื่ออัลฟ่าล่ะคะ?!

[me=Boxhead Ohm]โดนสวน[/me]

(คิดไปเองรึเปล่าว่า การบรรยายไม่สมดุลกัน? =..=)

Link to comment
Share on other sites

ว่าแล้วโกขะซารุก็จูงมือลูคาริโอ้ให้เดินไปตามๆกัน

ตี้... เค้าเผลอจิ้นไปไกลแล้วอ่ะ...

[me=ซิมบ้าตัวน้อย]โดนตบ[/me]

Link to comment
Share on other sites

“เอาล่ะๆ เสร็จแล้วๆ นายนี่ยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะ”ลูคาริโอ้พูดอย่างใจเย็นพร้อมเอาหน้ากากสี ดำเจาะรูเป็นรูปตามาผูกที่ตาของเขาเอาไว้

หูสีครามของเขากระดิกไปมาคล้ายกำลังดีใจอะไรบางอย่าง

' ' หน้ากากสีดำเจาะรู เป็นรูปตา...... มาผูกที่ตา ตรงนี้เก๊างง

แล้วหูสีคราม?? อยู่ในร่างมนุษย์อยู่ไม่ใช่เรอะ!!

มีบางส่วนควรกระจายก้อนคำน่อ

“รีบลงจากเขากันเถอะโกขะ แล้วไปหาของกินที่ตลาดกัน”ลูคาริโอ้หันหน้ามายังเพื่อนของเขาพร้อมเชิญชวน ให้ลงไปข้างล่าง พูดยังไม่ทันขาดคำ โกขะซารุก็สไลด์ลงเขาไปที่ด้านล่างเสียแล้ว... ซึ่งลูคาริโอ้ก็สไลด์ตามไปติดๆจนกระทั่งมาถึงตลาดจนได้...เมื่อมาถึงตลาดพวก เขาทั้งสองเอามือปัดฝุ่นออกจากตัวเบาๆเพื่อให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านขึ้น ตลาดที่ว่านี้เต็มไปด้วยของขายมากมายหลายชนิด ร้านค้าแต่ละร้านมีมีหนังหุ้มไว้เป็นหลังคา มีโต๊ะไม้ทั้งเก่าและใหม่วางของที่จะขายเรียงหลายเต็มไปหมด รวมทั้งผู้คนในร่างโปเกมอนและโปเกมอนในร่างของมนุษย์ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและ มีความสุข พวกเขาเดินดูสิ่งของไปเรื่อยๆ ทั้งอาหาร เครื่องครัวเครื่องเรือน อุปกรณ์เดินทางต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพวกเขา แต่แล้วลูคาริโอ้ก็เหลือบไปเห็นร้านค้าแห่งหนึ่ง คนขายเป็นหญิงแก่ซึ่งหลังโค้งงอเหมือนกุ้ง ตาของเธอขุ่นมัวจนเห็นเพียงแต่ตาขาว ผิวหนังแห้งเหี่ยวเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวันแล้ว ใส่เสื้อผ้าที่เก่าจนเจียนขาด ของที่เธอขายเป็นหินเกี่ยวกับการวิวัฒนาการต่างๆเช่นหินไฟฟ้า หินน้ำ วางเรียงรายเต็มโต๊ะขายของ ลูคาริโอ้เห็นท่าทางของยายแม่ค้าไม่สู้ดีนัก เขาจึงคิดจะอุดหนุนสินค้าของเธอสักชิ้น ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไป

เป็น

“รีบลงจากเขากันเถอะโกขะ แล้วไปหาของกินที่ตลาดกัน”ลูคาริโอ้หันหน้ามายังเพื่อนของเขา พร้อมเชิญชวนให้ลงไปข้างล่าง

พูดยังไม่ทันขาดคำ โกขะซารุก็สไลด์ลงเขาไปที่ด้านล่างเสียแล้ว... ซึ่งลูคาริโอ้ก็สไลด์ตามไปติดๆจนกระทั่งมาถึงตลาดจนได้...

เมื่อมาถึงตลาดพวก เขาทั้งสองเอามือปัดฝุ่นออกจากตัวเบาๆเพื่อให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านขึ้น ตลาดที่ว่านี้เต็มไปด้วย

ของขายมากมายหลายชนิด ร้านค้าแต่ละร้านมีมีหนังหุ้มไว้เป็นหลังคา

มีโต๊ะไม้ทั้งเก่าและใหม่วางของที่จะขายเรียงหลายเต็มไปหมด รวมทั้งผู้คนในร่างโปเกมอนและ

โปเกมอนในร่างของมนุษย์ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและ มีความสุข พวกเขาเดินดูสิ่งของไปเรื่อยๆ ทั้งอาหาร เครื่องครัวเครื่องเรือน

อุปกรณ์เดินทางต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพวกเขา แต่แล้วลูคาริโอ้ก็เหลือบไปเห็นร้านค้าแห่งหนึ่ง

คนขายเป็นหญิงแก่ซึ่งหลังโค้งงอเหมือนกุ้ง ตาของเธอขุ่นมัวจนเห็นเพียงแต่ตาขาว

ผิวหนังแห้งเหี่ยวเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวันแล้ว ใส่เสื้อผ้าที่เก่าจนเจียนขาด

ของที่เธอขายเป็นหินเกี่ยวกับการวิวัฒนาการต่างๆเช่นหินไฟฟ้า หินน้ำ วางเรียงรายเต็มโต๊ะขายของ

ลูคาริโอ้เห็นท่าทางของยายแม่ค้าไม่สู้ดีนัก เขาจึงคิดจะอุดหนุนสินค้าของเธอสักชิ้น ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไป

แบบนี้น่าจะอ่านได้ง่ายไม่ลายตากว่านะเออ!!

ปล.จิ้นลูคาริโอ้กับโกขะเหมือนกัน!!!

ฟิคนี้สนุก!!!!!!!!!!!!!

Link to comment
Share on other sites

เมืองอัลฟ่า...

... ทำไมต้องชื่ออัลฟ่าล่ะคะ?!

[me=Boxhead Ohm]โดนสวน[/me]

(คิดไปเองรึเปล่าว่า การบรรยายไม่สมดุลกัน? =..=)

อัฟฟ่า... งั้นต้องมีเบต้าด้วยสิ

[me=Heroine&N]โดนเตะออกกระทู้[/me]

ยังต้องปรับปรุงเรื่องการเว้นบรรทัดอย่างที่สปอร์บอก

เพราะมีบางส่วนอ่านแล้วรู้สึกลายตาอยู่น่ะ

ปล.เสียงที่ลูคาริโอ้ได้ยินคือเสียงใครน้า แง้วๆ (สงสัยจะเป็นมิคัลเก้ หง่าวๆ)

Link to comment
Share on other sites

Guest bulbabenz

ส่องเรียบร้อย (ไม่ยาวมาก กำลังดี ลุยอ่านเลย)

ตั้งเบาะรอส่องต่อ

Link to comment
Share on other sites

นี่!ลูคาริโอ้ จะนอนไปถึงไหนกันน่ะ!!~ชายหนุ่มผมสีขาว มีผมยาวสีแดงเพลิงแซมตามผม สวมเสื้อสีขาว กางเกงสีขาว

กางเกงมีขอบสีเหลืองทอง สวมถุงมือสีกรมท่า ถุงเท้าสีขาว รองเท้าสีกรมท่า มีสายรัดเอวหลวมๆสีน้ำตาล...

แต่ก่อนผมก็เคยชอบบรรยายแบบนี้ แต่คนอ่านจินตนาการกันไม่ละเอียดขนาดนี้หรอกครับ การบรรยายมากเกินในลักษณะนี้ ผมว่าเกินความจำเป็นน่ะครับ น่าจะเปลี่ยนเป็น

ชายหนุ่มผมขาวไฮไลท์แดง ใส่เสื้อและกางเกงสีขาว คาดเข็มขัดหลวมๆตรงเอว สวมถุงมือหนังสีน้ำเงินเข้ม เข้าชุดกับรองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน

จะสังเกตุได้ว่า คนอ่านน่าจะอินได้ง่ายกว่า ส่วนรายละเอียดยิบย่อยนั้น บอกตามตรง ผม ในฐานะคนอ่าน รู็สึกว่ารายละเอียดปีกย่อยตรงนั้น ไม่ค่อยจำเป็น หากมันไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่อง ก็ไม่ควรใส่

สรุป ที่จะติก็มีแค่การบรรยายตัวละครเท่านั้นละครับ โดยรวมที่เหลือบรรยายดีแล้วนะ ^^

ปล. และถ้ามีคนค้านว่า เสื้อกับกางเกงคนละสีละ หรือเสื้อมีลวดลายมากมาย ผมก็จะเขียนว่า

สวมเสื้อยืดสีเขียวลายมิคกี้เม้าส์(ไปจินตนาการเอาเอง มิคกี้เม้าส์โพสท่้าไหน) ใส่กางเกงยีนส์เซอๆ (ไม่ต้องอธิบายสี คนอ่านไปจินตนาการเอาเอง เพราะยีนส์ส่วนมาก มันสีน้ำเงินเข้มอยู่แล้ว) สวมรองเท้าผ้าใบเก่าๆสีน้ำตาลคล้ำ

Link to comment
Share on other sites

สำหรับบทนำนี่จะสั้นกว่าตอนอื่นๆรึเปล่าน้า

ต้องคอยดูกันต่อไป...

พี่ว่า(เห็นในกระทู้แนะนำตัวยังเด็กเรียกพี่ไม่ว่ากันนะ  :pika01:)

ในบทนำนี้ก็แต่งได้ดีแล้วล่ะค่ะ เหลือแค่ขัดเกลาภาษาให้ดีขึ้น

แล้วก็เว้นบรรทัดหน่อย เพื่อให้ได้อรรถรสขึ้นค่ะ

สุดท้ายก็สู้ๆนะ

Link to comment
Share on other sites

นั้นยายก็รู้สึกว่ามันแปลกดีเลยเก็บมาเหมือนกัน ฮ่ะๆๆยายแม่ค้าเริ่มหัวเราอย่างขบขัน ก่อนที่ลูคาริโอ้จะควักเศษเหรียญซึ่งได้มาจากการเดิน
ทางของเขามาจ่ายให้แม่ค้า พร้อมเอาหินเข้ากระเป๋าอย่างทะนุดถนอม

ตอนหน้าคงเดินทางไปเจอพวกเราสินะคุรุๆ

Link to comment
Share on other sites

มาอ่านแล้วครับ~ :pika01:

แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเรื่องไซอิ๋ว ที่เห้งเจียติดอยู่ในก้อนหิน ให้พระถังซัมจั๋งช่วย

อันนี้เปลี่ยนเป็น วิญญาณติดอยู่ในก้อนหิน รอให้เห้งเจีย เอ้ย ลูคาริโอ้มาช่วย เหอๆ

' ' หน้ากากสีดำเจาะรู เป็นรูปตา...... มาผูกที่ตา ตรงนี้เก๊างง

แล้วหูสีคราม?? อยู่ในร่างมนุษย์อยู่ไม่ใช่เรอะ!!

อันนี้คาดว่าตี้จะเอาลักษณะมาจากรูปตัวละครที่หัวกระทู้

แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า"หู"ในรูปนั่นเป็นแค่ทรงผมหรือหูจริงๆ =_=

ตรงช่วงบรรยายตลาดจนถึงซื้อของในร้านยาย ต้องเว้นบรรทัดให้อ่านง่ายกว่านี้หน่อยนะ มันติดกันเป็นพรืดเกินไปจนคนอ่านเขาอ่านไม่ไหว -*-

อันนี้เป็นการแบ่งบรรทัดแบบสไตล์ผมนะ

“รีบลงจากเขากันเถอะโกขะ แล้วไปหาของกินที่ตลาดกัน”ลูคาริโอ้หันหน้ามายังเพื่อนของเขาพร้อมเชิญชวน ให้ลงไปข้างล่าง พูดยังไม่ทันขาดคำ โกขะซารุก็สไลด์ลงเขาไปที่ด้านล่างเสียแล้ว... ซึ่งลูคาริโอ้ก็สไลด์ตามไปติดๆจนกระทั่งมาถึงตลาดจนได้...

เมื่อมาถึงตลาดพวก เขาทั้งสองเอามือปัดฝุ่นออกจากตัวเบาๆเพื่อให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านขึ้น ตลาดที่ว่านี้เต็มไปด้วยของขายมากมายหลายชนิด ร้านค้าแต่ละร้านมีมีหนังหุ้มไว้เป็นหลังคา มีโต๊ะไม้ทั้งเก่าและใหม่วางของที่จะขายเรียงหลายเต็มไปหมด รวมทั้งผู้คนในร่างโปเกมอนและโปเกมอนในร่างของมนุษย์ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและ มีความสุข

พวกเขาเดินดูสิ่งของไปเรื่อยๆ ทั้งอาหาร เครื่องครัวเครื่องเรือน อุปกรณ์เดินทางต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพวกเขา แต่แล้วลูคาริโอ้ก็เหลือบไปเห็นร้านค้าแห่งหนึ่ง คนขายเป็นหญิงแก่ซึ่งหลังโค้งงอเหมือนกุ้ง ตาของเธอขุ่นมัวจนเห็นเพียงแต่ตาขาว ผิวหนังแห้งเหี่ยวเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวันแล้ว ใส่เสื้อผ้าที่เก่าจนเจียนขาด ของที่เธอขายเป็นหินเกี่ยวกับการวิวัฒนาการต่างๆเช่นหินไฟฟ้า หินน้ำ วางเรียงรายเต็มโต๊ะขายของ

ลูคาริโอ้เห็นท่าทางของยายแม่ค้าไม่สู้ดีนัก เขาจึงคิดจะอุดหนุนสินค้าของเธอสักชิ้น ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไป

ประมาณว่า เราบรรยายถึง A จบแล้วก็ เว้น

แล้วค่อยบรรยายลักษณะของ B ให้เสร็จแล้วก็ เว้น

ประมาณนี้แหละ คือหลักการเว้นบรรทัดแบบของผม

หรือถ้าอยากจะเว้นบรรทัดแบบสั้นๆเหมือนของสปอร์ก็ได้ครับ

จะติดตามรอดูตอนหน้านะครับ~ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

เริ่มต้นมาได้สวยดี....สำหรับผมแล้วก็ดูดีไปหมดจนไม่มีอะไรให้ติเลยละ เพียงแต่อยากทราบอยู่อย่างหนึ่งคือ....

พระเอกกับรองพระเอกนี้พวกเขาเป็น....มนุษย์ที่กลายเป็นโปเกม่อนได้ หรือเป็น โปเกม่อนที่กลายเป็นมนุษย์ได้ กันแน่ครับ?

Link to comment
Share on other sites

ยังเหลือเรื่องการเว้นบรรทัด อย่างอื่นไม่รู้จะติอะไรแล้ว เม้นฟิคไม่เป็นจริงๆ ><

เอาเป็นว่า พี่ตี้แต่งดีกว่าเราอะ...

ขอบทมารีนะซังดีๆนะ อิอิ

Link to comment
Share on other sites

ขอบอกไว้นะขอรับว่า ข้าพเจ้า comment ผลงานของคนอื่นๆไม่เป็นหรอกขอรับ

แต่ก็คือ สนุกมากเลยขอรับ

ส่วน comment ก็คงจะมีผู้อื่น post ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

จะรอติดตามนะขอรับ

ปล. ดูดีกว่าของข้าพเจ้าตั้งหลายเท่าเลย ของข้าพเจ้าก็ถือว่าเละมากอยู่แล้วนะขอรับ แหะๆ ^^"

Link to comment
Share on other sites

เริ่มต้นมาได้สวยดี....สำหรับผมแล้วก็ดูดีไปหมดจนไม่มีอะไรให้ติเลยละ เพียงแต่อยากทราบอยู่อย่างหนึ่งคือ....

พระเอกกับรองพระเอกนี้พวกเขาเป็น....มนุษย์ที่กลายเป็นโปเกม่อนได้ หรือเป็น โปเกม่อนที่กลายเป็นมนุษย์ได้ กันแน่ครับ?

เขาเป็นได้ทั้งมนุษย์ที่สามารถแปลงร่างเป็นโปเกมอนและโปเกมอนที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ค่ะ(คือแปลงร่างแล้วกลับร่างเดิมได้)

ยังเหลือเรื่องการเว้นบรรทัด อย่างอื่นไม่รู้จะติอะไรแล้ว เม้นฟิคไม่เป็นจริงๆ ><

เอาเป็นว่า พี่ตี้แต่งดีกว่าเราอะ...

ขอบทมารีนะซังดีๆนะ อิอิ

จ้า~ขอบคุณที่มาเม้นท์นะ มารีนะกะว่าจะให้ออกตอนกลางๆเรื่องน่ะ(สปอยล์)

แต่งดีนะคับ(ดีกว่าผมอีก :pika07:) สร้างสรรค์ดีคับ :pika01:

ขอบคุณค่ะ...

ขอบอกไว้นะขอรับว่า ข้าพเจ้า comment ผลงานของคนอื่นๆไม่เป็นหรอกขอรับ

แต่ก็คือ สนุกมากเลยขอรับ

ส่วน comment ก็คงจะมีผู้อื่น post ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

จะรอติดตามนะขอรับ

ปล. ดูดีกว่าของข้าพเจ้าตั้งหลายเท่าเลย ของข้าพเจ้าก็ถือว่าเละมากอยู่แล้วนะขอรับ แหะๆ ^^"

ขอบคูณที่มาเม้นท์มากๆเลยนะคะ>w<~~

========================================

คำสาปบทที่1 : เหตุการณ์สุดระทึก(?)กลางเมืองอัลฟาร์

...ชายหนุ่มทั้งสองร้องลั่นด้วยความสงสัยที่ว่ามีเสียงจากที่ไหนสักแห่งดังมาหาเขา ชาวเมืองอัลฟาร์ที่เดินอยู่ในตลาดต่างหันมามองด้วย

ความแปลกใจ สายตานับร้อยคู่จ้องมองอยู่แค่จุดๆเดียว นั่นก็คือจุดที่ต้นเสียงดังออกมาแผ่ซ่านไปทั่วตลาดนั่นเอง

“กะ..โกขะ นี่นายได้ยินเสียงร้องช่วยด้วยด้วยเหรอ?”ลูคาริโอ้ถามด้วยความสงสัย เขานึกว่ามีแค่เขาคนเดียวที่ได้ยินเสียงนี้เสียอีก

“เสียงเมื่อกี๊นี้มันอะไรกันน่ะ ลูคาริโอ้?”โปเกมอนลิงในร่างมนุษย์หันมามองด้วยความฉงนเขาว่าเขาเองได้ยินเสียงใครร้องให้ช่วย ทั้งๆที่แถวนั้นไม่มีใครร้องให้ช่วยเลย...

“เอ่อ...พ่อหนุ่มทั้งสองคน เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ”ชาวบ้านแถวนั้นเข้ามาถามชายหนุ่มด้วยความกังวลพร้อมกับล้อมชายหนุ่มทั้งสองคนด้วยความสงสัย

“อะ...ไม่เป็นไรครับ ไปกันเถอะลูคาริโอ้”ว่าแล้วโกขะก็รีบดึงลูคาริโอ้ออกจากวงล้อมของชาวเมือง และแล้วชายหนุ่มทั้งสองก็เข้าไปคุยกันที่ตรอกอันซอมซ่อแห่งหนึ่ง

“นี่ ตกลงเสียงนั้นมันอะไรกันแน่น่ะ?”โกขะถามเพื่อนรักของเขาด้วยความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อกี๊ไม่ใช่เสียงที่เขาได้ยินเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ตอนที่แยกกับลูคาริโอ้เขาได้ยินมันมานานแล้ว แต่ที่เขาร้องออกมานั้นเพราะความตกใจที่เสียงที่ก้องอยู่ในหัวของเขานั้นมันช่างดังเหลือเกิน...

“ฉันว่าที่เราได้ยินเสียงร้องให้ช่วยคงเป็นเพราะ...”ลูคาริโอ้เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าก่อนที่จะนำหินที่ซื้ออกมาจากยายแม่ค้าออกมา  

“คงมาจากหินก้อนนี้....”

“...ใช่แล้วล่ะ....”

เสียงหวานๆเสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่หินก้อนนั้นจะลอยขึ้นจากมือของลูคาริโอ้พร้อมเปล่งแสงสีม่วงอ่อนช้าๆ...

“...ฉันชื่อมิคัลเก้...ฉันเป็นวิญญาณที่อาศัยอยู่ในหินก้อนนี้...”เสียงนั้นอธิบายถึงแม้ว่าจะไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในก็ตาม

“หือ...หินพูดได้หรือ?”โกขะยังคงทำท่าทางไม่เชื่อถือสิ่งที่หินก้อนนั้นพูด

“เปล่า...นั้นไม่ใช่การพูด แต่เป็นการติดต่อกับจิตใจของเธอโดยตรง...”มิคัลเก้ในร่างของหินอธิบายเรื่องราวให้กับชายหนุ่มทั้งสอง

“แล้วทำไมเธอถึงถูกขังล่ะ?”

“เป็นเพราะว่า...เมื่อพันปีก่อนฉันได้กัดกินวิญญาณของผู้คนซึ่งวิญญาณก็คืออาหารของฉัน...ฉันไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้กินวิญญาณเลยแม้แต่ดวงเดียว ชาวบ้านต่างมองฉันด้วยสายตาสมเพช ไม่มีคนเคยเข้าใจพวกเราเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนต่างคิดว่าเราเป็นปิศาจร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งเทพได้สาปให้พวกเราถูกขังอยู่ในหินตลอดกาล จนกว่าจะมีคนที่ถูกเลือกมาปลดปล่อย...นั่นก็คือพวกเธอยังไงล่ะ”มิคัลเก้อธิบายเรื่องราวความเป็นมาของเธอก่อนที่หินหยุดลอยและแล้วมันก็ตกลงไปที่พื้น...แต่ลูคาริโอ้สามารถรับมันได้ทัน...

“ช่วยปลดปล่อยคำสาปให้ฉันด้วยนะ....ขอร้องล่ะ....ฮือ...”เสียงของมิคัลเก้เริ่มอู้อี้ กลายเป็นเสียงสะอึ้กสะอื้นขึ้นมาแทน

ชายหนุ่มทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยพร้อมตัดสินใจว่า...

“งั้นเราช่วยก็ได้ครับ...เพราะยังไงซะเราก็ต้องออกเดินทางไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักอยู่แล้วครับ”ลูคาริโอ้ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หินก้อนนั้น

“โกขะ นายล่ะว่ายังไง?”ลูคาริโอ้ในร่างมนุษย์เบือนหน้ามายังเพื่อนรักของเขาพร้อมถามความสมัครใจในการเดินทางครั้งนี้

“อื้อ ก็ได้”ความหัวแข็งของเขาเริ่มหายไป เพราะเมื่อ”คนหนึ่งยอม อีกคนหนึ่งก็ต้องยอมอ่อนตาม”นั่นเอง

“ขะ...ขอบใจมากเลยนะ...”เสียงสะอึกสะอื้นของมิคัลเก้เริ่มหายไป แต่มีเสียงที่ยินดีเล็ดลอดออกมาแทน

“รีบออกเดินทางกันเถอะครับ”ลูคารโอ้เอาหินมิคัลเก้ยัดใส่กระเป๋าของเขาพร้อมเดินออกจากตรอกไป...

ทันใดนั้นเอง ก็มีบางสิ่งบางอย่างพุ่งออกมาตัดหน้าชายหนุ่มทั้งสอง หลังจากนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งตามมาติดๆทันทีพลางตะโกนขอความช่วยเหลือว่า

“ชะ...ช่วยด้วยค่ะ ช่วยจับขโมยคนนั้นที่ค่ะ~”หญิงสาวคนนั้นใส่ชุดกระโปรงสีชมพูหวานแหวว สีผมของเธอก็เป็นสีชมพูเช่นเดียวกันกับชุดของเธอดูแล้วกลมกลืนกลืนยิ่งนักนอกจากนี้เธอยังใส่แว่นกรอบสีดำและสวมที่คาดผมสีดำอีกด้วย...

“อะ...ได้เลยครับ”ด้วยความเป็นคนดี ลูคาริโอ้พุ่งตามชายหนุ่มซึ่งขโมยของของหญิงสาวไปในทันที

“ลูคาริโอ้ นายจะไปคนเดียวได้ยังไงกันน่ะ พาฉันไปด้วยซี่~”โกขะซารุวิ่งตามลูคาริโอ้ ในขณะที่ลูคาริโอ้วิ่งตามหัวขโมยส่วนหญิงสาวนั้นยังคงรั้งท้ายเพราะการวิ่งตามหัวขโมยมานานจนร่างกายของเธอเริ่มหมดแรง...

“หนีไม่พ้นฉันหรอกน่ะเจ้าหัวขโมย”โปเกมอนหมาป่าในร่างมนุษย์กระโจนเข้าไปดักที่หน้าหัวขโมย ก่อนที่เขาจะ...

“คลื่นความมืด(Dark Pulse)~!!”ที่มือของลูคาริโอ้เริ่มมีลูกบอลสีดำขึ้น มันรวมตัวกันจนกลายเป็นก้อนพลังงาน และแล้วมันก็ถูกปล่อยเข้าไปโดนอกของหัวขโมยอย่างแรง

ซู่มมม~~

“อ๊ากกกกกก~!”หัวขโมยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดก่อนที่ร่างของเขาจะค่อยๆล้มลงที่กลางท้องถนนในตลาดของเมืองอัลฟาร์ ลูคาริโอ้รีบหยิบของที่ขโมยฉกไป นั่นก็คือตุ๊กตากระต่ายเปื้อนเลือด เขาเดาว่านั่นคงเป็นของที่หญิงสาวคนนั้นหวงเอาซะมากๆ

“เอ่อ..นี่ของคุณครับ”ลูคาริโอ้ยื่นตุ๊กตากระต่ายเปื้อนเลือดให้หญิงสาวผมสีชมพู ในขณะที่เธอวิ่งกระหืดกระหอบมายังที่เขาจับคนร้ายได้

“แฮ่ก แฮ่ก...ขอบคุณมากค่ะ”หญิงสาวกล่าวขอบคุณในขณะที่มือของเธอรับตุ๊กจากระต่ายเปื้อนเลือดจากชายหนุ่ม แล้วเธอก็ถือมันเอาไว้ในอกอย่างอ่อนโยน

“เอ่อ..ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ พอดีอยากรู้น่ะ แหะๆ”ลูคาริโอ้ะถามพร้อมยิ้มเจื่อนๆไปทางหญิงสาว

“ฉันซากุระอิ...เทมปุ ซากุระอิค่ะ..”หญิงสาวกล่าวอย่างอายๆ แก้มของเธอก็พลอยแดงไปด้วย

“เรียกฉันว่าซากุระก็ได้ค่ะ...”หญิงสาวมีอาการกระสับกระส่ายเล็กน้อย ในขณะที่ตำรวจซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกมากำลังจับกุมคนร้ายซึ่งขโมยของๆซากุระไป

“ว่าแต่ ทำไมตุ๊กตาตัวนั้นมันเปื้อนเลือดล่ะครับ?”ลูคาริโอ้จ้องมองตุ๊กตากระต่ายยัดนุ่นด้วยความสงสัย ที่หูและมือของมันเปื้อนเลือดสีแดงฉาน ความน่ารักของมันแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม(?)ของอะไรบางอย่างในตอนนี้

“อ๋อ ฉันซื้อมาจากร้านแถวนู้นน่ะค่ะ มันเปื้อนเลือดเลยดูน่ารักดี”เธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกอดตุ๊กตาที่เธอรักจนแน่น

ทันใดนั้นเองสายตาของหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของลูคาริโอ้ นั่นก็คือหินที่มิคัลเก้ถูกสาปให้อยู่ข้างในนั่นเอง~!!

“เอ๋~นั่นมันหินที่มิคัลเก้โดนสาปไม่ใช่เหรอ?”ซากุระก้มตัวลงไปมองในกระเป๋าของลูคาริโอ้ เธอเห็นหินรูปร่างประหลาด มีเส้นผ่าครึ่งตรงกลางและมีจุดสองจุดตรงกลาง

“อะ...คุณรู้จักมันด้วยเหรอครับ?”ลูคาริโอ้ถามพร้อมเดินถอยหลังไปก้าวสองก้าว

“อ๋อ ไม่เชิงว่ารู้จักหรอกคะ...”

“งั้นเหรอครับ...พวกเราอยากให้หินก้อนนี้...ก้อนที่มิคัลเก้ถูกสาปอยู่ข้างในถูกปลดปล่อยเป็นอิสระน่ะครับ”ลูคาริโอ้อธิบายให้ซากุระ สาวผมชมพูฟัง

“อ๋อ เพราะงั้นคุณก็เลยต้องพกมันติดตัวน่ะสินะ...ถ้าฉันช่วยอะไรได้บ้างก็ดีสินะ...”

“อ๋อ มะ..ไม่ต้องลำบากหรอกครับ พวกเราต้องออกเดินทางน่ะครับ มีอุปสรรคอีกเยอะเลย”โกขะรีบพุ่งพรวดเข้ามาพูดแทรก

“งั้นเหรอคะ...ฉันมีธุระ งั้นไปก่อนนะคะ ลาก่อนค่ะ”ซากุระทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยแต่เธอหันหลังกลับไปยังทางของเธอ ลูคาริโอ้มองว่าเธอต้องคิดอะไรบางอย่างอยู่เป็นแน่....

“ลาก่อนครับ...หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ...”ลูคาริโอ้เฝ้ามองสาวผมชมพูจนกระทั่งเธอเดินไปลับตาในที่สุด....

“ไปกันเถอะ ลูคาริโอ้”โกขะชักชวนลูคาริโอ้ให้ออกจากเมืองและเดินทางไปเรื่อยๆ ตามความฝันของพวกเขา...

ในใจของลูคาริโอ้ยังคงคิดว่า"ทำไมเธอถึงรู้จักหินก้อนนี้ได้ ทั้งที่เธอไม่น่าจะรู้จักมันเลยแท้ๆ"...

=====================================

ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยนะคะ ดีไม่ดียังไงช่วยติชมด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

Link to comment
Share on other sites

สนุกดีครับผม (ตอนแรกจินตนาการว่าหินมิคัลเก้ก้อนใหญ่ยักษ์ จริงๆเป็นค่กระถางล่างตัวนี่เอง - -)

Link to comment
Share on other sites

ตอนแรกไม่เก็ตว่าหินมีรอยแตก จุดสองจุดนั่นมันคืออะไร ตอนนี้นึกออกละ odd keystone สินะ

ซากุระนี่น่าสงสัยจริงๆ...

ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรจะแนะนำมาก นอกจากตรงนี้น่ะครับ

ความแปลกใจ สายตานับร้อยคู่จ้องมองอยู่แค่จุดๆเดียว นั่นก็คือจุดที่ต้นเสียงดังออกมาแผ่ซ่านไปทั่วตลาดนั่นเอง

คำว่าแผ่ซ่าน ใช้กับสิ่งที่แผ่ขยายหรือซึมซับไปอย่างช้าๆ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะใช้กับ"เสียง" เพราะเสียงเป็นสิ่งที่เดินทางได้เร็วมาก พออ่านอย่างนี้แล้วก็เลยรู้สึกเหมือนว่าเสียงนี้มันช้าๆอืดๆชอบกลน่ะครับ

โดยรวมตอนนี้ก็ดีแล้วละนอกจากตรงที่ผมแนะนำไป จะรอดูตอนหน้านะครับ :pika01:

Link to comment
Share on other sites

เอ่อ..ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ พอดีอยากรู้น่ะ แหะๆลูคาริโอ้ถามพร้อมยิ้มเจื่อนๆไปทางหญิงสาว

อ๊าก....รอแจ๊คพ๊อตตัวช้าน....

[me=bell]รอตัวของตัวเองออกมา[/me]

Link to comment
Share on other sites

อ้ะ! ลงแล้ว เพิ่งกลับมาตามอ่าน =w="

คงไม่มีอะไรจะติละนะ ก็ติกันไปหมดแล้ว สู้ต่อไปนะครับตี้ =w=

Link to comment
Share on other sites

ดันมีผิดอยู่ที่หนึ่งอ่านะ

“อื้อ ก็ได้”ความหัวแข็งของเขาเริ่มหายไป เพราะเมื่อ”คนหนึ่งยอม อีกคนหนึ่งก็ต้องยอมอ่อนตาม”นั่นเอง

ยังสงสัยว่า มันจะคร่อมตรงไหนกันแน่ เครื่องหมายคำพูดอ่ะ -*-

---------------------------------------------------------------------------

หญิงสาวคนนั้นใส่ชุดกระโปรงสีชมพูหวานแหวว สีผมของเธอก็เป็นสีชมพูเช่นเดียวกันกับชุดของเธอดูแล้วกลมกลืนกลืนยิ่งนัก นอกจากนี้เธอยังใส่แว่นกรอบสีดำและสวมที่คาดผมสีดำอีกด้วย...

ทีแรกก็นึกว่าเป็นตัวละครเรานะเนี่ย แล้วพอดูตรงที่ "สีผมของเธอก็เป็นสีชมพูเช่นเดียวกันกับชุดของเธอดูแล้วกลมกลืนกลืนยิ่งนัก" จบเลย นึกว่าตัวละครช้าน -*-

--------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ก็ไม่เชิง comment นะเนี่ย

แต่ยังไงก็รอติดตามต่อนะงิ

Link to comment
Share on other sites

“...ฉันชื่อมิคัลเก้...ฉันเป็นวิญญาณที่อาศัยอยู่ในหินก้อนนี้...”เสียงนั้นอธิบายถึงแม้ว่าจะไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในก็ตาม

ไหนๆเสียงมันก็เป็นวิญญาณอาจจะใส่สีหรือทำตัวอักษรให้มันดูเป็นเสียงวิญญาณก็ดีนะครับ

“...ฉันชื่อมิคัลเก้...ฉันเป็นวิญญาณที่อาศัยอยู่ในหินก้อนนี้...”เสียงนั้นอธิบายถึงแม้ว่าจะไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในก็ตาม

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.