Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

พูดคุย,แลกเปลี่ยน,รวบรวม ข้อมูลกองทัพต่างๆทั่วโลก *เปิดทำการ*


Retia Adolf

Recommended Posts

เท่าที่เคยได้ยินมา มันได้แค่ 11 G ก็หมดสติแล้วน่ะ แต่ไม่รู้ว่า 18 G นี่หมายถึงทนไม่ให้ร่างแหลกรึเปล่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆ  :pika11:

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 171
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Retia Adolf

    93

  • bikemaster

    26

  • System W

    18

  • sling-shot

    18

อือ จำได้ว่ารายการอะไรนี่แหละที่มันขึ้นไปกับนักบินละเร่งจนถึง14G พี่ยัง งงเลยทำได้ไงวะ

9Gนี่บางคนกระอักเลือดแล้วด้วยซ้ำ

Link to comment
Share on other sites

น่าเหลือเชื่อจริงๆ เอ้อ ท่านไบค์ รีเควสเรือหลวงจักรีนฤเบศร จัดมาโลด!

Link to comment
Share on other sites

มามา กำลังไม่รู่เลยจะเอาเรือไรลง เอาตามรีเควสเลย

เรือหลวงจักรีนฤเบศ

chakrinaruebet2001.jpg

ชื่อเรือ:

• ไทย: ร.ล. จักรีนฤเบศร

• อังกฤษ: HTMS CHAKRI NARUEBET

สั่งต่อเรือ: 27 มีนาคม พ.ศ. 2535

ต่อขึ้นที่: อู่ต่อเรือบาซาน เมืองเฟรรอล ประเทศสเปน

งบประมาณ: 7,100 ล้านบาท

วางกระดูกงู: 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2537

ปล่อยลงน้ำ: 20 มกราคม พ.ศ. 2539

ขึ้นระวาง:        20 มีนาคม พ.ศ. 2540 (13 ปี)

ประจำการที่: ฐานทัพเรือสัตหีบ

รหัสประจำเรือ: 911

คำขวัญ: ครองเวหา ครองนที จักรีนฤเบศร

สถานะ: อยู่ในประจำการ

ขนาด (ระวางขับน้ำ): เต็มที่ 11,544 ตัน

ความยาว: 182.6 เมตร (ตลอดลำ)

174.1 เมตร (ดาดฟ้าบิน)

164.1 เมตร (แนวน้ำ)

ความกว้าง: 22.5 เมตร (แนวน้ำ)

30.5 เมตร (สูงสุด)

กินน้ำลึก: 6.2 เมตร

เครื่องยนต์: • เครื่องยนต์ดีเซล Bazán-MTU 16V1163 TB83 จำนวน 2 เครื่อง กำลัง 11,780 แรงม้า

                       • เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ GE LM2500 จำนวน 2 เครื่อง กำลัง 44,250 แรงม้า

ใบจักร:        • เพลาใบจักร จำนวน 2 เพลา

                       • ใบจักรแบบปรับมุมใบจักรได้ จำนวน 4 ใบ/พวง

ความเร็ว:        • 27 นอต (สูงสุด)

                       • 12 นอต (มัธยัสต์)

ระยะทางเชื้อเพลิง: • 10,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 12 นอต

                       • 7,150 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 16.5 นอต

ลูกเรือ: • ทหารประจำเรือ 451 คน

• ทหารประจำหน่วยบิน 146 คน

ระบบตรวจการและปฏิบัติการ: • เรดาร์อากาศ Hughes SPS-52C, ย่านคลื่น E/F

• เรดาร์นำร่อง Kelvin-Hughes 1007 จำนวน 2 เครื่อง

สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง: เป้าลวง:

• เครื่องยิงเป้าลวง SBROC 4 เครื่อง

• เป้าลวงลากท้าย SLQ-32

ยุทโธปกรณ์: • อาวุธปืน 20 มม. จำนวน 4 แท่นยิง

• SADRAL จำนวน 3 แท่นยิง

อากาศยาน: • เครื่องบินขึ้น-ลงทางดิ่งแฮริเออร์ AV-8S (บขล.1) 9 เครื่อง (ปลดประจำการ)

• เฮลิคอปเตอร์ SEA HAWK S-70B (ฮ.ปด.1) 6 เครื่อง

อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: • ดาดฟ้าบิน 174.6 x 27.5 ม.

• สกีจั๊ม 12°

• โรงเก็บสำหรับเครื่องบิน 10 ลำ

ในปี พ.ศ. 2532 ได้เกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ในอ่าวไทยบริเวณจังหวัดชุมพร กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ซึ่งทางกองทัพได้ใช้เรือและอากาศยานในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ประสบปัญหาคือเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพเรือมีอยู่ขณะนั้นไม่สามารถทน สภาพทะเลได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทำได้ด้วยความยากลำบาก การมีเรือขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจะสามารถใช้ในการค้นหาและให้การช่วย เหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็วและทันการ และหากว่ามีเฮลิคอปเตอร์ประจำ การบนเรือจะช่วยขยายพื้นที่ในการลาดตระเวนและระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเล ได้เป็นเวลานานและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กองทัพเรือจึงได้มีแนวความคิด ในการสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจตามความมุ่งหมาย

แต่เดิมรัฐบาลไทยได้วางแผนจัดซื้อเรือบัญชาการสนับสนุนการยกพลขึ้นบก ขนาดระวาง 7,800 ตันจากบริษัทเบรเมอร์ วัลแคนของเยอรมนี แต่รัฐบาลไทยได้ทำการยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 รัฐบาลไทยจึงได้เลือกจัดซื้อใหม่จากบริษัทบาซาน ประเทศสเปน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและต่อเรือ ปริ้นซิเป้เดอัสตูเรียส เรือธงของกองทัพเรือสเปนในขณะนั้น คณะรัฐมนตรีของไทยได้มีมติเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2535 อนุมัติให้กองทัพเรือว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล ลงนามโดยรัฐบาลไทยและรัฐบาลสเปนในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2535 เป็นเงิน 7,100 ล้านบาท

เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้เริ่มสร้างในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 และมีการวางกระดูกงูในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 เรือทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2539 โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรง เสด็จไปทำพิธี ได้มีการทดลองแล่นเรือตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2539-เดือนมกราคม พ.ศ. 2540 ร่วมกับกองทัพเรือสเปนที่โรต้า (Rota) ประเทศสเปน รับมอบเรือและขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2540 โดยมีพลเรือเอก วิจิตร ชำนาญการณ์เป็นผู้รับมอบ เรือได้รับหมายเลข 911 และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในต้นเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เรือได้เข้าประจำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2540 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทรงเจิมเรือหลวงจักรีนฤเบศรเพื่อความเป็นสิริมงคล

กองทัพเรือได้ขอพระราชทานชื่อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่กองทัพเรือและเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลประจำเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อเรือหลวงลำนี้ว่า เรือหลวงจักรีนฤเบศร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี[3]และใช้คำขวัญว่า ครองเวหา ครองนที จักรีนฤเบศร

แต่ในความจริงเรือลำนี้มีจุดประสงค์แอบแฝงมากับการต่อก็คือยุทธปกรณ์สำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ เนื่องจากในสมัยช่วงปี2535 มาเลย์เซียได้ซื้อเรือดำน้ำดีเซลรุ่้นใหม่

ซึ่งมีจำนวนถึง20ลำชื่อว่างกองเรืออับดุลรามัน(ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ) ซึ่งช่วงนั้นเราได้มีกรณีพิพาทเรื่องบ่อก๊าซธรรมชาติซึ่งบ่อนั้นอยู่คาบระหว่างเขตไทยกับมาเลย์เซียพอดี ในช่วงที่มีการส่งมอบเรือดำน้ำ1ลำได้เข้ามาในรัศมีทำการป้องตัวเองของเรือจักรีนฤเบศโดยไม่มีการติดต่อหรือแจ้งวัตถุประสงค์ เรือจักรีจึงทำการป้องกันตัวเองโดยจมเรือดำน้ำลำนั้น โดยทราบอยู่แล้วว่าเป็นเรือของกองเรืออับดุลรามันของมาเลย์เซีย ทำให้น่านน้ำทางอ่าวไทยปลอดภัยจากเรือดำน้ำนานาชาติโดยสิ้นเชิง(มันตื้นอะลึกสุดอ่าวไทยแค่40เมตรนิดๆเอง)

ภารกิจ

เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ ลำแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [16] มีระวางขับน้ำ 11,544 ตัน สามารถทนต่อคลื่นลมรุนแรงได้ในระดับ 9 ซึ่งคลื่นมีความสูง 13.8 เมตร[17] ทำให้เรือสามารถทำหน้าที่เป็นฐานปฏิบัติการในทะเลต่อระยะทำการของอากาศยาน และเป็นเรือรบปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและปก ป้องอธิปไตยของชาติ

เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจสำคัญในยามสงบและยามสงคราม ได้แก่

   * ภารกิจในยามสงบ[17]

         o การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ

         o ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล

         o ปฏิบัติการอพยพประชาชน

         o ปฏิบัติการควบคุมและรักษาสิ่งแวดล้อมในทะเลและบริเวณชายฝั่ง

         o คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติในทะเล

   * ภารกิจในยามสงคราม[17]

         o ทำหน้าที่เป็นเรือธง ควบคุม บังคับบัญชากองเรือในทะเล

         o ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือ

         o ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยผิวน้ำให้กับกองเรือ

         o ควบคุมการปฏิบัติการปราบเรือดำน้ำให้กับกองเรือ

         o สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร

ในช่วงน้ำท่วมเดือนที่แล้วเรือจกรีก็ออกเดินทางไปช่วยเหลือจังหวัดทางภาคใต้โดยทอดสมออยู่ที่เกาะหนูในสงขลา

วิจารณ์ถึงเรือลำนี้

-เรือจักรีมีระวางขับน้ำแค่11000ตันแต่ราคากลับสูงจนเรียกได้ว่าเกือบจะต่อเรือขนาด20000ตันได้เลยซึ่ง7100ล้านบาทนั้นถ้ามองในแง่ต่างๆเอาง่ายๆเลย

ซื้อกริฟเพนได้ 3 ลำ(แต่6ลำพี่แกก็ดันอัดงบไปตั้ง1.9หมื่นล้านบาท)

-จัดซื้อเรือชั้นAEGISแบบกองทัพญี่ปุ่นได้ 1ลำครึ่ง(เอามาอีกสัก2พันล้านก็ได้2ลำแล้ว)

-ซื้ออุปกรณ์ทางทหารบกได้จำนวนมาก

-มองในแง่อีกอย่างคือการต่อเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็กนี้ไม่มีความคุ้มในด้านการทำสงครามเลยส่วนการจัดการเรือดำน้ำใช้เรือเฉพาะทางจะดีกว่ามาก

-มีแค่ลำเดียวซึ่งเหมือนกับเป็นการโดดเดี่ยวเพราะไม่มีเรือชนิดเดียวกันคอยซพพอร์ตกัน

สรุปคือผมมองว่าการต่อเรือขนาดเล็กอย่างนี้ไม่มีความคุ้มค่าและการมีลำเดียวนี่ทำให้ยิ่งแล้วใหญ่เลยท

ในความคิดเห็นของผมคือ เราควรต่อเรือแม่ใช้เองได้แล้ว เรือเราสามารถซื้อเทคโนโลยีต่างชาติได้แต่ถ้าต่อเรือเองเราจะลดต้นทุนต่างๆไปได้เยอะเลยทีเดียว

และสเป็คเราจะต่อใหญ่แค่ไหนก็ได้ซึ่งเราไม่มีสนธิสัญญากับชาติไหนที่จำกัดการต่อเรือและขนาดของเรือ รถถังเองก็เช่นกันเพราะเรามีศักยภาพพออยู่ที่จะผลิตเอง

และการที่กองทัพบ้านเราไม่เปิดกว้างเท่าที่ควรเพราะบ้านเราคัดเอาแต่หัวกระทิเข้าโดยไม่เปิดให้คนที่มีความสามารถในด้านจริงๆเข้าไปทำงานให้กองทัพ

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้นะครับรอบหน้าลุ้นต่อไปว่าผมจะเอาอะไรมาลงดี อิอิ :pika08:

ขออนุญาติก็อป th.wikiมานะครับเพราะขี้เกียจพิม

Link to comment
Share on other sites

โดยส่วนตัวก็คิดแบบนั้นนั่นล่ะนะ เรือจักรีเล็กไปนิดนึง เอ้อแต่เรื่องงบประมาณจัดซื้อกริเพนนั่น หลายอย่างเฟ้ย! ไม่ใช่ลำเดียวโดดๆ ไม่มีค่าอย่างอื่นซะหน่อย = =""

Link to comment
Share on other sites

มาแปะ MV กองทัพยุ่นที่..... เข้ากันดีว่ะ 555+

JASDF「Over Sky」 Full.ver

Theme : Japan Air Self Defense Force

Music : Over Sky Fullver. 'Strike Witches 2 OST'

ทำออกมาดีทีเดียว เพลงน่ารัก แต่ดันเหมาะกับกองกำลังยุ่นได้อย่างดีทีเดียว.... เท่าที่ดูแล้วกองกำลังทางอากาศยุ่นใหญ่มาก ฝูงบินเท่าที่เห็นในคลิปก็มี

1.ฝูงบินขับไล่ 303 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'กิเลน'

ประจำฐาน โคมัตสึ ใช้ F-15J/DJ Eagle

2.ฝูงบินขับไล่ 304 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'เทนกุ'

ประจำฐาน ซึอิกิ ใช้ F-15J/DJ Eagle

3.ฝูงบินขับไล่ 305 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'ดอกบ๊วยเรอะ!?'

ประจำฐาน เฮียวคุริ ใช้ F-15J/DJ Eagle

4.ฝูงบินขับไล่ 306 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'อินทรีสีเหลือง'

ประจำฐาน โคมัตสึ ใช้ F-15J/DJ Eagle

5.ฝูงบินขับไล่ 201 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'หมี'

ประจำฐาน ชิโตเสะ ใช้ F-15J/DJ Eagle

6.ฝูงบินขับไล่ 203 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'หมีเหมือนกัน แต่น่ารักกว่า 555+'

ประจำฐาน ชิโตเสะ ใช้ F-15J/DJ Eagle

7.ฝูงบินขับไล่ 204 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'อินทรี'

ประจำฐาน นาฮะ ใช้ F-15J/DJ Eagle

8.ฝูงบินต่อต้านเรือผิวน้ำ 8 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'เสือดำ'

ประจำฐาน มิซาวะ ใช้ Mitsubishi F-2A/B

9.ฝูงบินต่อต้านเรือผิวน้ำ 6 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'ธนูกับดาบไขว้'

ประจำฐาน ซึอิกิ ใช้ Mitsubishi F-2A/B

10.ฝูงบินขับไล่ทางทะเล 301 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'กบและผ้าพันคอ'

ประจำฐาน เนียวทาบารุ ใช้ F-4EJ Phantom II

11.ฝูงบินขับไล่ทางทะเล 302 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'เหยี่ยว'

ประจำฐาน เฮียวคุริ ใช้ F-4EJ Phantom II

12.ฝูงบินข้าศึกสมมุติ สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'งูเห่า

ประจำฐาน เนียวทาบารุ ใช้ F-15J/DJ

13.ฝูงบินเตือนภัยทางอากาศ 601I สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'ค้างคาว'

ประจำฐาน มิซาวะ ใช้ E-2C Hawkeye

14.ฝูงบินเตือนภัยทางอากาศ 601II สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'นกฮูก'

ประจำฐาน ฮามามัตซึ ใช้ Boeing E-767

15.ฝูงบินตรวจการณ์ถ่ายภาพ 501 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'นกหัวขวาน'

ประจำฐาน เฮียวคุริ ใช้ RF-4E/RF-4EJ Phantomeye

16.ฝูงบินลำเลียง 401 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'เอ่อ... ดูไม่ออกอ่ะ....'

ประจำฐาน โคมากิ ใช้ C-130J Hercules

16.ฝูงบินลำเลียง 402 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'อินทรีกับลูกตุ้ม'

ประจำฐาน อิรุมะ ใช้ Kawasaki C-1

17.ฉายา 'CREST' ประจำหน่วยกู้ภัยทางอากาศ 'Air Rescue Wing'

ใช้ CH-47J Chinook

18.ฉายา 'Hero' ประจำหน่วยกู้ภัยทางอากาศ 'Air Rescue Wing'

ใช้ UH-60J Blackhawk

19.ฉายา 'Ascot' ประจำหน่วยกู้ภัยทางอากาศ 'Air Rescue Wing'

ใช้ BAE U-125

20.ฝูงบินฝึก 12 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'ขนนกสีแดง??'

ประจำฐาน โฮวฟุคิตะ ใช้ Fuji T-7

21.ฝูงบินฝึก 13 สัญลักษณ์น่าจะเป็น 'ดูไม่ออก....'

ประจำฐาน อาชิยะ ใช้ Kawasaki T-4

22.ฝูงบินผาดแผลง 11 'Blue Impluse'

ประจำฐาน มัตซึชิมะ ใช้ Kawasaki T-4

Link to comment
Share on other sites

7c13d00bcb5059954c74f1347858_grande.jpg

เกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบกระสุนจริง เมินเหตุตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลี

-เอเอฟพี - กองทัพเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่วันนี้ (6) ท่ามกลางความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังการระดมยิงโจมตีเกาะชายแดนโสมขาวโดยเกาหลีเหนือในเดือนที่ผ่านมา

     

      คณะเสนาธิการร่วม หรือเจซีเอส เผยว่า การซ้อมยิงจากเรือรบ หรือหน่วยปืนใหญ่บนภาคพื้นดินของโสมขาวเริ่มขึ้นใน 29 จุด โดยในจำนวนนั้นเป็น 1 ใน 5 ฐานยิงบนเกาะแนวรบด้านหน้าใกล้ชายแดนพิพาทกับเกาหลีเหนือในทะเลเหลือง

     

      เกาหลีเหนือก่อเหตุโจมตีเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ในวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย สร้างความตึงเครียดในภูมิภาคให้รุนแรงยิ่งขึ้น

     

      ในวันอาทิตย์ (5) ที่ผ่านมา เปียงยางประกาศว่า การซ้อมรบของโสมขาว ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันศุกร์ (10) ถือเป็นความพยายามกระตุ้นให้เกิดสงคราม

     

      ขณะที่โฆษกเสนาธิการร่วมระบุว่า เขาไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการแสดงความเห็นต่อคำขู่ล่าสุดของเกาหลีเหนือแต่อย่างใด

     

      เขายังอ้างคำกล่าวของคิม กวาน จิน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้คนใหม่ว่า การซ้อมรบ ที่ดำเนินการขึ้นทางใต้ของเส้นแบ่งเขตแดนเหนือ ในอาณาเขตทางทะเลของเกาหลีใต้นั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้อง และยุติธรรม โดยยืนกรานจะซ้อมรบต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

     

      ด้านกองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า การซ้อมรบในวันนี้เกิดขึ้นบนเกาะแดชอง ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะยอนพยองไปทางตะวันตก 80 กิโลเมตร และในพื้นที่อีก 28 แห่งทั่วประเทศ

     

      ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คิมประกาศว่าจะตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ หากถูกเปียงยางยิงถล่มอีกครั้ง

     

      ทั้งนี้ เกาหลีเหนือไม่ยอมรับเส้นแบ่งเขตแดนเหนือ ที่กำหนดขึ้นโดยกองกำลังสหประชาชาติ หลังสงครามเกาหลีปี 1950-53 โดยเรียกร้องให้มีการขีดเส้นแบ่งขึ้นใหม่ให้ขยายไปทางใต้เพิ่มขึ้น

Credit : TFC

------------------------------------------

20101202raaf8490713_0006_lo.jpg

ออสเตรเลียปลดประจำการ F-111

ภาพจากพิธีปลดประจำการเครื่อง F-111C Aardvark ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย(Royal Austalian Air Force) ในรัฐ ควีนส์แลนด์ หลังจากทำหน้าที่ในกองทัพมานานกว่า 40 ปี ในกองทัพอากาศออสเตรเลียนั้น หน้าที่ของ F-111 คือการเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ระยะไกล ที่ทำหน้าที่ปกป้องเกาะออสเตรเลียมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ โดยกองทัพอากาศออสเตรเลีย ได้ทำการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ F/A-18F รุ่นสองที่นั่งจาก สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าประจำการแทนเครื่อง F-111 ต่อไป.. ถึงแม้จะเก่าและปลดประจำการแล้ว แต่เจ้าตัวกินมดเหล็กตัวนี้จะอยู่ในใจของเหล่านักบินและทหารทุกนายที่เคยทำงานร่วมกับมันอีกนานเท่านาน

Credit : TAF

Link to comment
Share on other sites

เอาโมที่พึ่งสอยมาเมื่อวันเสาร์มาโชว์ครับผม

DSC05186_resize.jpg

1/100 Doyusha 'WWII Aircraft Collection' Nakajima KI-84 Hayate

โมตัวนี้สเกล 1/100 ครับ เป็นเครื่อง ฮายาเตะ ของกองทัพบกญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปลายสงคราม ทำให้มันไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก เมื่อเทียบกับ โอสึ และ ฮายาบูซะ

DSC05187_resize.jpg

ในชุดแถมโมเดลลงสีสำเร็จ ช่างเครื่องญี่ปุ่น 3 คน นักบิน 1 คน ม้านั่ง และ ถังน้ำมัน 2 ถัง เพื่อเพิ่มความสมจริงในการจัดฉากไดโอราม่า และแถมฐานสีดำตั้งโวสวยงามมาด้วยครับ(โมคนอีกตัวคือโมนักบินในท่านั่ง ซึ่งผมจับไปนั่งเครื่องฮายาเตะแล้ว ว่ากันตามตรง เอาไปนั่งกับม้านั่งก็ได้นะเออ)

DSC05188_exposure_resize.jpg

โคลสอัพ เล็กน้อย ตอนหาชื่อนี่หาแทบแย่ คีย์เวิร์ดหลักคือ ใบพัด 4 กรีบ และช่องรับลมใต้หัวนี่ล่ะ

DSC05189_exposure_resize.jpg

จอดเทียบกับ Mitsubishi A6M Zero ของกองทัพเรือสักหน่อย

หมดแค่นี้ล่ะครับ เรื่องข้อมูล เดี๋ยวลงให้ครับ

Link to comment
Share on other sites

^

^

สวยดีครับ...

ว่างๆน่าจะลองทำสนามจำลองแบบกว้างๆแล้วเอาทุกลำมาจอดเรียงกันเนอะ... หุๆๆ...

Link to comment
Share on other sites

ผมยังอยากทำเล๊ยแบบนั้นน่ะ 555+ ติดแค่ว่า ยังหาอุปกรณ์ขนาด 1/144 ไม่ได้ เท่านั้นเอง...

Link to comment
Share on other sites

แนะนำขนาด1/100ดีกว่าเพราะสเกลนี้จัดได้สวยและหาของได้เยอะ

Link to comment
Share on other sites

สเกล 1/100 มีแค่ 3 ลำเองเนี่ยสิคือ

1.Messerschmitt Bf 109

2.Mitsubishi A6M Zero

3.Nakajima Ki-84 Hayate

เป็นเครื่องสงครามโลกหมด + เครื่องยุ่นมีแค่ 2 ลำ กับเครื่องเยอรมัน 1 ลำ..

ใจจริงอยากได้ P-51 นะ แต่หายากเหลือเกินเนี่ยสิ...

Link to comment
Share on other sites

Saab340_1.gif

ทอ.เผย Saab 340 มาไทย 18 ธ.ค.

-พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศเตรียมรับเครื่องบิน Saab 340 AEW และ Saab 340 B ซึ่งเป็นข้อเสนอพิเศษตามโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ แบบ Jas-39C/D Gripen ระยะที่ 1 เข้าประจำการ ณ กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลางเดือนนี้

โดยกองทัพอากาศมอบหมายให้ พล.อ.ท.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองเสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ตรวจรับเครื่องบิน Saab 340 AEW และ Saab 340 B เดินทางไปตรวจรับเครื่องบินดังกล่าว ณ บริษัท Saab เมือง Linkoping ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะมีพิธีส่งมอบในวันที่ 13 ธ.ค. 2553

และเครื่องบินทั้งสองเครื่องจะออกจากบริษัท Saab ในวันที่ 14 ธ.ค. 2553 ผ่านประเทศต่างๆ 18 ประเทศ และจะมายังประเทศไทยโดยแวะลงจอดที่สนามบินดอนเมืองในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ เวลา 18.30 น. ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 19 ธ.ค. 2553 เพื่อเข้าประจำการในฝูงบิน 702 กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พล.อ.ต.มณฑล กล่าวด้วยว่า หลังเข้าประจำการเรียบร้อยแล้ว เครื่องบิน Saab 340 AEW จะปฏิบัติภารกิจการแจ้งเตือนภัยทางอากาศ และเครื่องบินแบบ Saab 340 B จะใช้ในภารกิจการฝึกบิน และการลำเลียงทางอากาศ และในอนาคตเมื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกันอย่างเป็นระบบ กับเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ แบบ Jas-39C/D Gripen ที่จะส่งมอบให้ไทยในราวต้นปี 2554 ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถในการป้องกันทางอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของเครื่องบิน Saab 340 AEW ได้ติดตั้งเรดาร์ควบคุมและเตือนภัยในอากาศ โดยเป็นเรด้าระบบ Active Phased-Array Puler Radar ซึ่งมีความทันสมัย และมีความแม่นยำในการตรวจจับเป้าหมายทั้งภาคอากาศ และภาคพื้น อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศจะยังไม่จัดพิธีต้อนรับเครื่องบินดังกล่าว โดยจะจัดพิธีต้อนรับขึ้นอย่างเป็นทางการในกลางเดือน ก.พ.2554 ภายหลังจากที่เครื่องบินขับไล่กริพเพนระยะที่หนึ่งทั้งหมดจำนวน 6 ลำเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยอาจจะมีการเชิญ รมว.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธีด้วย

Credit : TFC

ตั้งหน้าตั้งตารอปีหน้ากันให้ดีครับ งานเปิดตัวกำลังจะมาถึงแล้ว  :pika01:

Link to comment
Share on other sites

ว่ากันด้วยเรื่องนิทรรศการการบินพลเรือนซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9-11 ธ.ค นี้ ผมไปวันที่ 10 และได้เก็บภาพมาบางส่วน อย่างไรถ้าว่างจะนำมาลงให้ชมครับ ในอาคาร Terminal 2 จุดแสดงนิทรรศการนั้น ที่บูธทอ. ท่านเจ้าบ้านเว็บ 144 Squaฯ(คุณรัชต์) ได้ขนโมเดลเครื่องบินยี่ห้อต่างๆมาแพ็คถุงขายในราคาแค่ละลำ 100 บาทเท่านั้น... ผมเลยจัดการสอยมาซะ 3 ลำเป็น 1/??? Kawasaki C-1, 1/144 B-17 Flying Fortress, 1/144 MIG-21 Fishbed ถ้ามีเงินเยอะกว่านี้ว่าจะสอย F-82 Twin Mustang มาด้วยนะเนี่ย 555+

DSC00003_exposure_resize.jpg

3 ลำที่สอยมาครับ แต่ละลำหาในท้องตลาดค่อนข้างยากแล้ว + ในลังก็มีเหลือแค่ลำเดียวเท่านั้น ผมได้มาในราคาเพียง 100 บาท เท่านั้น.. ขอบอกว่าคุ้มสุดๆ...

DSC00004_exposure_resize.jpg

คาวาซากิ C-1 เป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดหนักที่ญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมาใช้งานเอง ตัวนี้น่าจะเป็นสเกล 1/300 ยี่ห้อ F-toys ลำค่อนข้างเล็กแต่สวยงาม ติดดีคอลแล้วบางส่วนครับ(ต่อง่ายมาก ฮ่ะๆๆ..)

DSC00005_exposure_resize.jpg

จับขึ้นฐานโชว์ลายเหนือปีกซะหน่อย สวยงามมากครับ (ตามเนื้อเรื่องเพ้อฝันสำหรับ กองทัพอากาศอาคาเดียที่ผมแต่งขึ้นเองจากเครื่องบินที่ซื้อมา ผมได้มอบหมายให้ C-1 นั้นเป็นเครื่องที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐเห็นชอบที่จะขายให้กับกองทัพอากาศอาคาเดีย เพื่อนำมาใช้งานแทนเครื่อง P-3C ซึ่งมีหน้าที่คือการลำเลียงขนาดกลางและตรวจการณ์ทางทะเล นั่นเอง)

DSC00006_exposure_resize.jpg

MIG-21 ฟิชเบ็ด ตัวนี้ของยี่ห้อ J-Wings ชุด 3(ชุดสงครามเวียดนาม) สเกล 1/144 ตัวนี้ไม่เป็นของกองทัพอากาศจีน ก็ของกองทัพอากาศเวียตนามครับ

DSC00009_exposure_resize.jpg

ใต้ปีก 2 ข้างหิ้วจรวจแบบ AA-2 Atoll มาด้วย 2 ลูกครับ

DSC00010_exposure_resize.jpg

จอดเทียบกับรุ่นพ่อ MIG-15 พยัคฆ์แห่งสงครามเกาหลีครับ

DSC00015_exposure_resize.jpg

มาถึงของใหญ่ของงานกับ B-17 ฟลายอิ้ง ฟอร์เทรส ลำใหญ่สะใจ ด้วยราคาเพียง 100 บาทเท่านั้น! ที่ผมได้มาเป็นตัวพิเศาซะด้วย!? ตัวนี้ยี่ห้อ J-Wings ชุด Bigbird 2 ครับ

DSC00016_exposure_resize.jpg

ตัวนี้พลาดตรงล้อหน้าครับ... ดันไปติดสภาพล้อพับเก็บก่อน แล้วแงะไม่ออก เลยต้องทำใจ ใสไปแบบนั้นล่ะ lllllorz

DSC00017_exposure_resize.jpg

ที่ด้านบนหัวและใต้ท้องติดป้อมปืนไว้ครับ สามารถหมุนเล่นได้ 360 องศา ใต้ท้องหลุดง่ายนิดนึงครับ แต่ค่อนข้างแน่นทีเดียว

DSC00018_exposure_resize.jpg

B-17 เมื่อจอดเทียบกับ Ki-21 เครื่องบินทิ้งระเบิดญี่ปุ่นจากชุดเดียวกันแล้ว ลำใหญ่สะใจมากจริงๆครับ

ยังไงก็ ขอลาตรงนี้ล่ะครับ หมดมุขจะเล่นต่อแล้ว แฮะๆ ยังไงก็ ขอให้โชคดีทุกคนครับ!

Link to comment
Share on other sites

วันเสาณืนี่ก็อดใจไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากคิดมานานแล้วว่าจะสอยเครื่องบินปีก 2 ชั้นมา นึกว่าจะลดราคาด้วย แต่ลำละ 85 นี่แพงเอาเรื่องทีเดียว สุดท้ายก็ซื้อมาครับ เป็นเครื่อง Fokker D.7 เครื่องเยอรมันครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชุดนี้ถึงเหลือแค่ SPAD S.13 กับ Fokker D.7 เครื่องเด่นๆ ส่วน บ.ยุ่นปี่ กับ ซวอร์ดฟิช ของอังกฤษ หมดเกลี้ยงเลย ฮ่ะๆ...

DSC00022_exposure_resize.jpg

F-Toys - 1/144 Fokker D.7 'Biplane Collection'

ภาพนี้ไม่ชัดไปนิดนึงครับ ต้องขออภัยด้วย ลำเล็กจับโฟกัสยากครับ

DSC00023_exposure_resize.jpg

ลายสวยงามทีเดียว ลำนี้แถมคนขับให้ด้วยครับ(F-Toys ปกติไม่ชอบให้คนขับมาครับ สงสัยลำนี้ลำเล็ก เลยกลัวลูกค้าด่า 555+)

DSC00024_exposure_resize.jpg

รวมพลเครื่องบินเยอรมันครับ

DSC00025_exposure_resize.jpg

จับบิน Heritage Flight ซะหน่อย หุๆ

DSC00026_exposure_resize.jpg

อีกมุมครับ

ก็หมดเพียงเท่านี้นล่ะครับ

Link to comment
Share on other sites

553000018495501.JPEG

กองทัพเรือสหรัฐฯ ทดลองยิงเรลกันสำเร็จ

-เอเอฟพี - กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศความสำเร็จในการทดลองปืนใหญ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่สามารถยิงได้ไกล 110 ไมล์ทะเล หรือ 200 กิโลเมตร ด้วยความเร็วกว่าความเร็วเสียงถึง 5 เท่า

     

      ในการทดลองที่ศูนย์ดัลเกรน เซอร์เฟซ วอร์แฟร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเวอร์จิเนีย อาวุธแห่งอนาคตดังกล่าวใช้แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของคลื่นไฟฟ้าในการขับ เคลื่อนกระสุนไปตามรางก่อนที่จะถูกยิงออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง

     

      การทดลองครั้งล่าสุดนี้ใช้พลังงานสูงถึง 33 เมกะจูล ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยทดลองมา และสูงกว่าการทดลองก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคม ปี 2008 ถึง 3 เท่า

     

      สำหรับพลังงาน 1 เมกะจูลเทียบเท่าได้กับพลังงาน ที่ปลดปล่อยออกจากรถยนต์น้ำหนัก 1 ตัน ที่พุ่งชนกำแพงเมื่อวิ่งมาด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

     

      "การทดลองปืนเรลกัน (railgun) ในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเทคนิคของเทคโนโลยี ซึ่งวันหนึ่งอาจจะสามารถเติมเต็มระบบการต่อสู้ของเรือบนพื้นน้ำดั้งเดิมให้ สมบูรณ์ได้" พลเรือตรีเนวิน คาร์ หัวหน้างานวิจัยของกองทัพเรือสหรัฐฯ เผย

     

      เขายังระบุว่า พลังงานการยิง 33 เมกะจูลทำให้กองทัพเรือสามารถยิงจรวด หรือขีปนาวุธไปได้ไกลไม่ต่ำกว่า 110 ไมล์ทะเล หรือ 200 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะปลอดภัยสำหรับทหารเรือ และนาวิกโยธิน จากการถูกยิงตอบโต้จากฝ่ายตรงข้าม

Credit : TFC

----------------------------------

99patriot.jpg

ญี่ปุ่น เตรียมติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธประจำฐานทัพอากาศทั่วประเทศ

-เอเอฟพี - สำนักข่าวเกียวโดเผยวันนี้ (11) ญี่ปุ่นวางแผนจะติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธล้ำสมัยในฐานทัพอากาศทั่วประเทศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

     

      เกียวโดรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล และกระทรวงกลาโหมว่า ระบบต้านขีปนาวุธ แพค-3 (PAC-3) นี้จะอยู่ในแนวนโยบายป้องกันประเทศฉบับใหม่เป็นเวลา 5 ปี โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า

     

      แพค-3 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยิงสกัดนุก(จรวดนิวเคลียร์)จากภาคพื้นดิน จะถูกนำไปใช้ในฐานทัพของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศทั้งหมด 6 แห่ง จากในปัจจุบันที่มีใช้อยู่ในฐานทัพ 3 แห่ง

     

      ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นใน คาบสมุทรเกาหลี หลังเปียงยางยิงถล่มเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ในเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับการเสริมกำลังทหารอย่างรวดเร็วของจีน

     

      ในวันศุกร์ (10) ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เพิ่งเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองกำลัง หลังจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้อวดศักยภาพในการซ้อมรบครั้งใหญ่กดดันเปียงยางไปก่อนหน้านี้

     

      สำหรับแนวนโยบายป้องกันประเทศฉบับใหม่นี้ยังจะระบุถึงการติดตั้งจรวด สกัดนุก สแตนดาร์ด มิสไซล์-3 บนเรือพิฆาตเอจิส ทั้งหมด 6 ลำ และยังจะเพิ่มจำนวนเรือดำน้ำจาก 16 ลำเป็น 22 ลำ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นด้วย

     

      ยิ่งไปกว่านั้น ยังจะมีการเพิ่มจำนวนเรือคุ้มกันจาก 47 ลำเป็น 48 ลำ แต่จะมีการลดจำนวนเครื่องบินประจำการขนาดใหญ่ลงจาก 350 ลำเหลือ 340 ลำ เนื่องจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นของเครื่องบินขนส่ง

     

      สื่อท้องถิ่นรายงานว่า แนวนโยบายนี้จะเรียกร้องให้มีการลดจำนวนรถถัง และปืนใหญ่ เพื่อย้ายศูนย์กลางการปฏิบัติการป้องกันประเทศจากภาคพื้นดินไปทางทะเลแทน

Credit : TFC

Link to comment
Share on other sites

21-20101216114851.jpg

กองทัพอากาศไทย รับมอบ Saab 340 AEW/B

-พลอากาศโท ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ รับมอบเครื่องบิน Saab 340 AEW และเครื่องบิน Saab 340 B เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2553 ณ บริษัท Saab เมือง Lingkoping แห่งราชอาณาจักรสวีเดน

โดยเครื่องบินแบบ Saab 340 ทั้ง 2 เครื่องจะเดินทางมาถึงประเทศไทยภายในวันที่ 18 ธ.ค. ตามกำหนดการณ์ และจะออกเดินทางสู่กองบิน 7 สุราษฏร์ธานีในเช้าของวันที่ 19 ธ.ค.

Credit : Wing of Siam

Link to comment
Share on other sites

เรลกันนี่ระยะยิงมันไกลจริง ละกรุสุนมันวิ่งเอาการอยู่แหะ 5มัค ปล.โพสเมื่อวานกำลังมึนเพราะกินแบล็คไป3แก้วเพียวๆเลยอ่านข่าวไม่รู้เรื่อง

เปรียบเทียบกระาุนต่างๆให้ดูเน้อ

กระสุน5.56มม. จากพวกM4 16 ความเร็ว 800/วิ ยิงได้ไกลประมาณ3โล

กระสุ่น7.62มม. จำพวก ปืน M60 M249  800/วิ ยิงไกลสุด 3.6โล

กระสุนปืนใหญ่จากเรือ 15นิ้ว ความเร็ว 800เมตรกว่าๆ/วิ ยิงไกลสุด 30กิโลเมตรได้

กระสุนปืนใหญ่จากปืนยามาโตะ ขนาด18.1นิ้ว ความเร็ว 780เมตร/วิ ยิงไกลสุด 46โล(เนื่องจากปืนยิงไกลได้แค่นี้)

กระสุรปืนจำพวกDoraและPAris gun **รอสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม**

ปล.กระสุนยามาโตะลูก1 หนัก=Toyota Vios1คันได้ ฉะนั้นถ้าตกใส่บ้านใครไม่ต้องสืบหรอก ฮะๆ

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.