Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Tale Of Leafond (ตำนานราชาอาณาจักร Mystery) - (56K Warning!!) (True Ending)


Loveless Nova

Recommended Posts

....โดราเบส.....สินะ(ไม่มีท่าวงสวิงฟูมูนหั่นหัวไชเท้าหรอ(ผ่าแตงโมของจิบิเอม่อนก็ได้นะ :pika10:)แล้วแบล็คโฮลละ?แล้ววงสวิงยาวเหยียดของจิบิเอม่อนละ(วงสวิงหั่นหัวไชเท้า แครอท ฯลฯ :pika10:)แล้วท่าไวท์บอลธรรมดาหล่ะ?)เอาละพอเรื่องโดราเบส

ร่างที่1=Dn1 ส่วนร่างที่2-3ดูลูก้าจังกับมูม้าจังสิน้า :pika10:

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 105
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Thama

    17

  • Loveless Nova

    17

  • ไมยาเตะ (เชมี่)

    16

  • Risu

    13

เป็นการต่อสู้เพื่อความรักอันแสนดุเดือด

แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องชุดโครงกระดูกด้วย - -

Link to comment
Share on other sites

*ฮัดชิ่ว* จามตามไปด้วยอีกคนเลยเรา - -"

มันส์อ่ะท่าน มันส์จริงๆ (ปกติเป็นคนไม่ชอบฉากต่อสู้น่ะเนี่ย... เจอฟิกนี้เข้าไป เกิดชอบขึ้นมาเลยแฮะ งิงิ)

แล้วก็....ตอนต่อไปก็ยังติด Delay เหมือนเดิมนะครับ ขอโทษด้วยเพราะยังไม่ได้วางแผนอะไรที

งั้น.. องค์ชายตัวน้อยจะประทานอะไรให้นิดหน่อยละกันนะ

*หยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุม*

~TURN SKIPING TICKET~

สำหรับเพ็ตคิงดอมจำนวน 1 ใบคร้าบ~!!! >w<

(ตอนหน้าผมจะลงการ์ตูนแล้วล่ะ ก็เลยให้ตั๋วพักร้อนท่าน 1 ใบ~ =w=)

ปล.เม้นกันหน่อยน้า~ ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่เม้นละก็เขาจะ....เขาจะ...เขาจะร้องไห้จริงๆด้วย แง~

. . . . . . . . . รู้สึกคล้อยตามจนมือเลื่อนไปลูบหลัง *โดนตบ*. . . . . . . . . .

Link to comment
Share on other sites

สู้กัน........

มันส์ดีแหะ.................

ภาพประกอบก็เยอะเหลือหลาย....................

ยำการ์ตูนอื่นเหลือหลายเช่นกัน....................

แล้วก็....ตอนต่อไปก็ยังติด Delay เหมือนเดิมนะครับ ขอโทษด้วยเพราะยังไม่ได้วางแผนอะไรที

ติดDelay งั้นเรอะ.......... ใช้

"Fiction Delay Cancel"เลย!!![me=Wallohz]โดนเตะออกจากกระทู้[/me]

Link to comment
Share on other sites

  • 4 weeks later...

กลับมาแล้วคร้าบ~!!! ขออภัยที่ดีเลย์ไปนานสักหน่อยนะครับ เอาละ! มาชมการต่อสู้ของราชาลีฟฟ่อนกันต่อเลยดีกว่าคร้าบ~!!!

ปล.หวังว่าแฟนๆคงไม่ลดน้อยถอยลงหายไปนะครับ ^^"

--------------------------------------------------------------

“นี้เอ็ง...ชื่อ Dn2 สินะ”

“ค....ครับ! มีอะไรรึเปล่าครับ?”

ลีฟฟ่อนเอ่ยพูดขึ้นขนาดที่ Dn2 กำลังจะพาตัวเองที่บาดเจ็บหนักกระโผลกกะเผลกออกจากสนามต่อสู้ไป ทำให้ไฟร์เร้ดต้องหันมามองลูกน้องตัวเอง ซึ่งดูเหมือนการที่ Dn2 กำลังพูดกับลีฟฟ่อนนั้นจะทำให้ไฟร์เร้ดหัวเสียมิใช่น้อยเลยทีเดียว แต่เจ้าหนุ่มชื่อร้อนที่แสนเย็นชานั้นก็ทำเมินเฉยไว้ไม่แสดงอาการใดๆอกมา

“ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ Dn2 แค่ข้าอยากจะบอกว่า....ถ้าเอ็งมาเป็นสมาชิกในกลุ่มของข้าเนี้ย การจะทำให้เอ็งมี ‘เพศ’ นะไม่ใช่เรื่องยากเลยนะขอบอก แถมยังสามารถให้กำเนิดทายาทได้ด้วยละ สนม่ะ?”

“จ....จริงเหรอครับ!!”

“แน่นอน ด้วยเทคโนโลยีของอาณาจักรข้า มันทำได้อยู่แล้วละ ฮะๆๆ”

คำพูดของลีฟฟ่อนนั้นทำให้หุ่นยนต์สุนัขนั้นแทบจะเดินกลับมาหากลุ่มของลีฟฟ่อนเลย แต่จู่ๆมันก็เหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้กลางคันจึงหยุดเบรกอยู่กับที่ซะงั้น และก็ยิ้มแห้งๆให้กับลีฟฟ่อน

“ผมว่า.....ผมไม่เอาดีกว่าครับ....”

“ทำไมละ? ถ้าเอ็งมีเพศแล้วจะได้ไม่โดนดูถูกว่าเป็นหุ่นยนต์สุนัขไร้เพศอีก และก็สามารถบอกรักกับคนที่เอ็งรักได้โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้นอีกแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่ชอบรึไง”

“ก็นะ...ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรอกครับ...แต่ว่าถึงผมจะมีเพศแล้วจะมีดีอะไรละครับ ถ้าข้างกายผมไม่มีคนที่อยากจะรัก เพียงเพราะว่าเธออยู่คนละฝั่งคนละฝ่ายกับผม มันคงจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าจะมีเพศแต่กลับไม่มีคนรักที่ต้องการจะรัก จริงมั้ยละครับ....คุณลีฟฟ่อน...”

“หืม? ฮ่าๆๆๆๆ พูดได้ดีนี้หน่าไอ้เด็กน้อย ข้าชอบใจเอ็งจริงๆเลยวะ ถ้างั้นเอ็งก็กลับไปหาคนที่เอ็งรักสิ ป่านนี้คงรอเอ็งอยู่แล้วละนะ ข้าดูออกนะว่าผู้หญิงตัวนั้นนะก็แอบรักเอ็งเหมือนกันถึงเธอจะปากแข็งไปหน่อยก็เถอะ ไปดูแลคนที่เอ็งรักให้ดีเถอะนะหมาน้อย~”

“ขอบคุณครับ~”

Dn2 หมุนตัววิ่งกลับไปหากลุ่มตัวเองและวิ่งผ่านหน้าไฟร์เร้ดเข้าประตูที่อยู่ข้างหลังบัลลังค์ไป โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของไฟร์เร้ดที่มองมาที่มันนั้น น่ากลัวเสียยิ่งกว่าอะไรดี...เขาหันหน้าไปมองลีฟฟ่อนที่ทำหน้าจริงจังเมื่อถูกไฟร์เร้ดมอง

“ชิ.....ไอ้ลูกน้องไร้ประโยชน์เอ้ย ไปคุยไปยิ้มไปหัวเราะกับศัตรูได้ไง กลับไปคราวนี้จะต้องรีเซ็ตเครื่องใหม่ซะ!”

“พอไม่ถูกใจก็ทำลายทิ้ง....แกช่างเป็นคนที่น่าเกลียดที่สุดในโลกจริงๆเลยวะ”

“ว่าไงนะ! กรอดดดดด~”

ราวกับไฟฟ้าสถิตในอากาศเพิ่มสูงขึ้นระหว่างชายสองคนที่กำลังจับจ้องสายตากัน ราวกับท้องฟ้าจะมืดดำเหมือนลมพายุใหญ่จะหวนเข้ามา จนอีกร่างหนึ่งที่อยู่ ณ แห่งนั้นเหงื่อไหลเป็นสายกับบรรยากาศอันแสนตึงเครียดระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย ดูเหมือนว่าบรรยากาศแบบนั้นจะยังคงอยู่อีกนานจนทำให้การต่อสู้ครั้งต่อไปของดาร์กไนท์คนสุดท้ายต้องถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด

------------ 50 วินาทีต่อมา -----------------

ในที่สุดสองผู้นำก็เลิกเขม่นเหม็นขี้หน้ากันแล้ว และลีฟฟ่อนก็กลับเข้าสู่มุมตัวเองอีกครั้ง ในขณะที่ดาร์กไนท์คนสุดท้ายนั้นเดินเข้าไปโค้งคำนับและพูดคุยอะไรกับไฟร์เร้ดเล็กน้อย ก่อนจะขึ้นสู่สังเวียนสนามต่อสู้ ลีฟฟ่อนมองตามร่างในผ้าคลุมสีดำนั้นและรู้สึกถึงความคล้ายคลึงในอะไรบางอย่าง...เขารู้สึกว่าร่างภายใต้ผ้าคลุมนั้นอาจจะเป็นผู้ที่เขารู้จักดี แต่บางที...อาจจะรู้จักแต่ไม่ได้รู้จักก็เป็นไปได้(?)

“คนสุดท้ายแล้วสินะ....”

“ค่ะ....หนูเป็นคนสุดท้ายที่จะสู้กับคุณค่ะ...หนู....”

ดาร์กไนท์ผู้สุดท้ายปล่อยให้ผ้าคลุมเลื่อนหลุดออกไปจากร่างกายอย่างช้าและยกมันขึ้นมาพับเก็บพร้อมตั้งไว้บนพื้นด้านหน้าที่นั่งของไฟร์เร้ดอย่างเรียบร้อย ลีฟฟ่อนนั้นมองเธออย่างอึ่งไปเลยทีเดียวทั้งชะงักนิ่ง ทว่าไม่ใช่เพราะการกระทำที่ดูผิดแปลกไปของ Dn3 แต่เป็นเพราะ...ดาร์กไนท์ผู้สุดท้ายนี้ช่างเหมือนคนรักของเขามากเสียนี้กระไร!!!

“ลูคาริโอ้....”

“เอ่อ....หนูชื่อ ลูคานาริ ค่ะ....นั้นคือชื่อต้นแบบของหนูงั้นเหรอค่ะ...เหมือนที่ท่านไฟร์เร้ดบอกเลย”

“แต่ว่า...ก็อย่าได้เกรงใจที่หนูเหมือนคนที่คุณรู้จักนะค่ะ เพราะหนูนะ....”

ลูคานาริถอยเท้าซ้ายไปข้างหลังเท้าขวา สะบัดมือทั้งสองไปด้านข้างลำตัวพร้อมกันนั้นก็ปรากฏแสงวูบขึ้นที่มือ และรวมตัวกลายเป็นอาวุธอันดูแสนแปลกตา จนแม้แต่ลีฟฟ่อนก็ยังต้องแปลกใจ ร่างสีฟ้าที่เหมือนกับลูคาริโอ้ควงอาวุธที่เรียกว่า มีดอีโต้(หรือมีดปังตอหรือมีดสับเนื้อ)ไปมารอบข้อมือของตนเองอย่างชำนาญชนิดไม่มีทีท่าว่าจะหล่น ก่อนจะประทับสันมีดมือซ้ายไว้ที่ไหล่ซ้าย ชี้มีดในมือขวาเข้าหาลีฟฟ่อน

“หนูนะ.....เก่งนะ.....เพราะงั้นก็อย่าออมมือให้หนูละ!”

“........ฮะๆๆ......หนูเก่งงั้นเหรอ......ไม่มีทางซะหรอก ฮ่าๆๆๆ”

ลีฟฟ่อนหัวเราะร่าขำจนเสียงดังไม่ทั่วอย่างไม่อายฟ้าดินหรือผู้คน จนทำให้ลูคานาริผงะไปเล็กน้อย อย่างประหลาดใจว่าทำไม อาจเพราะความกลัวในลีฟฟ่อนตอนหัวเราะที่ถ่ายทอดมาจากลูคาริโอ้ที่เป็น DNA ต้นแบบก็เป็นได้ ลีฟฟ่อนดึงมือทั้งสองของตัวเองมาตั้งกากบาทปิดหน้าของตัวเอง และตัวเขาก็เรืองแสงสีฟ้าขึ้น แสงนั้นสว่างจ้าเสียจนลูคานาริต้องหรี่ตาลงจนแทบบมองอะไรไม่เห็น

ครั้งเมื่อแสงดับหายไปแล้วไซร้ ร่างของบางสิ่งก็ปรากฏโฉมขึ้นกลางแสงนั้น มือและเท้าสีขาวที่มีขนปุกปุยพร้อมกรงเล็บที่นิ้วมือที่ดูคมกริบแต่น่ารักสีขาว บริเวณลำตัวตั้งแต่หัวลงไปนั้นถูกปกคลุมด้วยขนสีขาวเบาบางและสะท้อนแสงเป็นประกาย ต้นคอถูกประดับพันพาดด้วยผ้าพันคอสีสดแดง หางสีขาวปลายแดงสะบัดไปมาอย่างเรื่อยๆ บนหัวก็ประดับด้วยเกราะเหล็กสีแดงที่แลเหมือนอัศวินที่ดูน่าแปลกนักเมื่อมันไม่มีหมวก มีเพียงเฉพาะส่วนที่ปิดตาเท่านั้น ลีฟฟ่อนในลุ๊คใหม่ยืนยิ้มระรื่นต่อหน้าลูคานาริแล้ว

“หึๆๆ ไม่มีทางที่หนูตัวไหน.....จะชนะหมาอย่างข้าได้หรอก โฮ่ง~”

“!?!.....มันต้องแมวไม่ใช่เหรอค่ะ?”

“หมาชนะแมวแล้ว แสดงว่าแมวก็ต้องชนะหมาด้วยไง! นี้คือหลักของเซต ที่ข้าเรียนตอน ม.6 เทอมหนึ่งที่โรงเรียนxxx เชี่ยวน้า~”

“........(รู้สึกเขาสอนตอน ม.4 ไม่ใช่เหรอค่ะ...)”

- Battle Start!!!! -

2-Fc0cb0.jpg

โจมตีก่อนได้เปรียบ

เป็นความคิดพื้นฐานที่นักรบมักถูกสอนไว้ ดังนั้นเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ลูคานาริก็พุ่งตัวเข้าหาลีฟฟ่อนด้วยฟุตเวิร์กที่ว่องไว เมื่อเข้าประชิดลีฟฟ่อนได้แล้วเธอก็หมุนตัวสะบัดมีดคู่เข้าใส่ลีฟฟ่อนทันที แต่อีกฝ่ายนั้นก็มีทักษะสูงพอสมควรเช่นกัน เพราะเขาสามารถยกหลังมือมากันมีดคู่ได้ทันท่วงที...

ใช้มือเปล่ารับมีดของลูคานาริเหรอ!?!

“อ....อะไรกัน....เป็นแค่ขนนุ่มๆแท้ๆแต่ทำไมฟันไม่เข้าละค่ะเนี้ย!”

“หึๆๆ คิดว่านี้เป็นแค่ชุดคอสตูมธรรมดาเหรอ ง่ายเกินไปแล้วละ!!”

เปรี้ยง! ลีฟฟ่อนกระแทกฝ่ามือเข้ากลางอกด้วยแรงขับเคลื่อนของกล้ามเนื้อแขนด้วยความเร็วสูง ส่งผลให้ลูคานาริที่ไม่ทันตั้งตัวกระเด็นออกห่างไป แต่ลีฟฟ่อนไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาง้างมือขวาไปด้านหลังตนเพื่อเตรียมชกซ้ำในทันที ทั้งๆที่ลูคานารินั้นอยู่ห่างจากตัวเขาไปมาก ลูคานารินั้นแม้จะงุนงงในท่าของลีฟฟ่อน แต่เธอก็ยกมือขึ้นตั้งการ์ดระวังตัวในทันที

“หมัดปืน...ยางยืด!!!!!”

ลีฟฟ่อนซัดหมัดเข้าหาลูคานาริ ฉับพลันนั้นมือของเขาก็ยืดยาวออกได้ราวกับเล่นกลจนกระทบเข้ากับการ์ดของลูคานาริจนเธอกระเด็นไปอีกรอบ อีกทั้งการโจมตีของลีฟฟ่อนยังทำให้มือเธอชาจนแทบขยับไม่ไหว

“หมัดปืน....ยางยืดอีกรอบ!!!”

40He2e43.jpg

ผัวะ!!! อาวุธในมือของลูคานาริถูกพลังหมัดจนปลิวออกจากมือ ลอยคว้างกระเด็นไปจนถึงไฟร์เร้ดที่นั่งชมการต่อสู้อยู่ ทว่าไฟร์เร้ดที่นั่งเฉยนั้นสามารถยกมือขึ้นมารับมีดคู่ได้ทัน เขาหรี่ตามองลีฟฟ่อนที่ยิ้มอย่างมีเล่ห์ให้แก่เขาอยู่ เห็นได้ชัดว่าลีฟฟ่อนจงใจฆ่าเขาด้วยมีดนั้น

“อั๊ก....ทำไมมือถึงยืดยาวออกได้...กันละค่ะ”

“จุ๊ๆๆ นี้เป็นเทคนิคลับของข้า ใครจะบอกให้รู้ง่ายๆกันละ”

ชายขนขาวยกนิ้วขึ้นมาโบกเพิ่มความหมั่นไส้ของตัวเอง พร้อมกันนั้นก็เดินเข้าหาลูคานาริที่อยู่ไกลออกไปอย่างช้า นาริที่ทรุดตัวอยู่ก็ลุกขึ้นมาได้เช่นกัน เธอนำมือทั้งสองไปไว้ที่หลังราวกับจะคว้าอะไรออกมา ทำให้ลีฟฟ่อนต้องเป็นฝ่ายหยุดชะงักดูเชิงบ้าง

“จะทำอะไรนะ?”

“นี้เป็นเทคนิคลับของหนูค่ะ ใครจะบอกให้รู้ง่ายๆกันละค่ะ”

_ง่า.... =[]=_

ฟึ่บ!!! ชั่วพริบตาที่ม่านตาของลีฟฟ่อนขยับปิดลง มีดปอกเปลือกผลไม้ก็บินออกมาจากมือของลูคานาริเข้าหาลีฟฟ่อนทันที มันกระแทกเข้าอย่างแรงที่กลางหน้าผากของเขาจนเกิดรอยปูดขึ้น โชคยังดีนักที่มีดปอกเปลือกผลไม้นั้นมีคมมีดอยู่ภายในเท่านั้น ทำให้ทำร้ายร่างกายลีฟฟ่อนได้เพียงรอยปูดเล็กๆเท่านั้น

“เทคนิคลับ....ดาวกระจายสิ่งของค่ะ!!!”

_ท.....ท่า....ท่าอะไรกันนะ =[]=!!_

การโจมตีนั้นยังไม่จบ ดาวกระจายลูกที่สองของลูคานาริถูกปาออกมาอีกครั้ง คราวนี้กลายเป็นมีดเฉือนเนื้อที่แสนคมกริบ!

ฉึก!!!!

“!!!!!”

ปักไปแล้วมีดเล่มนั้น แต่ไม่ใช่กับร่างของลีฟฟ่อน สิ่งที่มีดนั้นปักเข้าไปคือ....เขียงไม้!!!

“มีดนะ....เขาเอาไว้ใช้กับเขียงนะรู้ไหม ฮะๆๆ”

ลีฟฟ่อนหยิบเขียงไม้ออกมาป้องกันการโจมตีเอาไว้อย่างทันท่วงที และเขาก็โยนมันทิ้งไปด้านข้างเพื่อเตรียมป้องกันการโจมตีอีกครั้ง

“หน่อย...ถ้างั้นก็ลองเจอนี้บ้างนะค่ะ!”

แก็ง!!! จาน(กินข้าว)บินนับสิบอันของลูคานาริถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย ด้วยเกราะกะละมังล้างจานพลาสติกที่ลีฟฟ่อนดึงขึ้นมาป้องกัน(จากไหนก็ไม่ทราบ) แต่การขว้างปาสิ่งของของลูคานาริยังไม่จบลงเพียงนั้น

“สากกระเบือพิฆาต!!!”

“โล่ห์ครกหนักโคตร!!!”

ป้องกันได้อีกครั้ง....

“เก้าอี้ทะลวงภพ”

“โล่ห์โต๊ะกินข้าว!!!”

ป้องกันได้อีกที.....

“เข็มเย็บผ้าหงส์เหิน!!!”

“โล่ห์หมอนปักหมุดเบาหวิว!!!”

ป้องกันได้อีกรอบ...

“ร่มควงสะว่านพุ่งทะลวง!!!”

“โล่ห์กล่องเก็บร่มสุดเท่ห์!!!

ป้องกันได้อีกครั้ง อีกที และอีกรอบ...

แล้วสงครามขนาดเล็กก็เริ่มขึ้น ศึกขว้างปาสิ่งของที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลก ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ฝ่ายหนึ่งคือหญิงสาวผู้สามารถโจมตีคู่ต่อสู้ได้ด้วยเหล่าบรรดาสิ่งของที่สรรหามาขว้างใส่ศัตรูเสียมากมายหลายชนิดโดยไม่ทราบว่าไปเก็บของเหล่านั้นเอาไว้ตรงไหน แต่อีกฝ่ายก็ไม่แพ้กันสามารถใช้สรรพสิ่งของป้องกันการโจมตีของศัตรูได้อย่างสูสี

การต่อสู้นั้นแสนยาวนานนัก ไฟร์เร้ดและสองดาร์กไนท์(ที่รักษาตัวเสร็จแล้ว)ได้แต่ยืนมองอย่างเหงื่อตกกับการต่อสู้ที่สุดแสนจะบรรยายนั้น ชายผู้มีผมสยายราวกับเปลวไฟยิ้มเล็กน้อยคล้ายจะชอบใจการต่อสู้นั้น

“มองพวกคนบ้าต่อสู้กันมันก็สนุกไม่เลวแฮะ ฮึๆๆ”

ผัวะ! แก๊ง!! โครม!!! ฉึก!!!! ตูม!!!!! สิ่งของมากมายเริ่มกระจายอยู่รอบบริเวณแล้ว ชนิดที่เรียกได้ว่าควรปักป้ายไว้ที่บริเวณนี้ว่า “ห้ามทิ้งขยะ” เพราะมันเริ่มกองพูดขึ้นมาแล้วละ

“แฮ่กๆๆ คุณนี้เก่งจังนะค่ะ”

“ขอบคุณที่ชมข้านะคุณหนู”

“แต่นี้จะเป็นศึกตัดสินแล้วละค่ะ!!!”

ลูคานารินำสองมือไปด้านหลัง ลีฟฟ่อนเองก็เช่นกัน.....ทั้งสองมองตากันอย่างไม่วางตา ราวกับสายลมนั้นหมุนรอบๆตัวเขา เสียงทุกอย่างเงียบเชียบลงเพิ่มความตื่นเต้น...

…………………

…………………………

…………………………………

...ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว~ เธอใช่ไหมเป็นคนผลักฉัน~...

เสียงเพลงรอสายโทรศัพท์ของ Dn1 ดังขึ้น เป็นสัญญาณการโจมตีครั้งสุดท้าย มือของคู่ต่อสู้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!

“เครื่องซักผ้าปั่นทลาย”

“โล่ห์เสื้อชั้นดีและ อ๊ากกกกกกกกก~!!!!!!!!!”

51If3f66.jpg

กระเด็นไปสามโลกแล้วสำหรับลีฟฟ่อน ผู้ที่คว้าเสื้อขาวหนึ่งตัวและผงซักฟอกหนึ่งกล่องออกมาป้องกันเครื่องซักผ้ารุ่นเปิดฝาหน้าที่ลอยละลิ่วมา เหล่าบรรดาผู้ชมทั้งสามที่มองอยู่อึ้งไปตามๆกัน

_ถึงเสื้อผ้ากับผงซักฟอกจะเป็นของคู่กับเครื่องซักผ้า แต่มันก็ใช้ป้องกันไม่ได้นะลีฟฟ่อน =[]=!!_

“ฮึๆๆ โง่หลายจริงๆแฮะ” ไฟร์เร้ดเอ่ยหัวเราะชอบใจ

“เอ้อ! โทษทีละกันที่ข้ามันโง่!!”

สุนัขขาวที่ล้มทรุด ชันตัวลุกขึ้นพร้อมปาดเลือดที่ไหลซิบออกจากหัวที่เป็นผลจากการโดนขอบเครื่องซักผ้าโจมตีเข้าไป ทว่าท่าทีของเขานั้นดูเหมือนจะไม่แยแส่ความบาดเจ็บนั้นเลยสักนิด เขาหมันตัวเข้าเผชิญหน้ากับลูคานาริอีกรอบ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตั้งท่าต่อสู้ทันที

“แต่คราวนี้....ข้าเอาจริงบ้างละ!”

_Clock Up...._

เสียงนี้ดังขึ้นเมื่อลีฟฟ่อนกดปุ่มที่อยู่ด้านข้างเข็มขัดที่เขาใส่อยู่ เมื่อสิ้นเสียงนั้นบรรยากาศรอบกายของเขาก็ดูราวกับหยุดนิ่งไป เหมือนกับเวลาหยุดเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างขยับเพียงทีละน้อยเท่านั้นจนดูเหมือนจะไม่ขยับเลย ทั้งไฟร์เร้ดที่นั่งอยู่ท่าเดิม Dn1ที่อ้าปากค้างคุยโทรศัพท์ และDn2ที่เหมือนกำลังทำท่าหึงอะไรสักอย่างอยู่ ซึ่งความจริงแล้วเวลานั้นไม่ได้หยุดลง เพียงแต่ลีฟฟ่อนนั้นเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงกว่าการเดินของเวลามากกว่า ด้วยผลจากท่า Clock Up ที่เขาใช้

“เวลาตอนนี้....มันเป็นของข้า...”

มีเพียงลีฟฟ่อนเท่านั้นที่ขยับได้ด้วยความเร็วปกติ เขาไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าหาศัตรูเบื้องหน้าเพราะรู้ดีว่าวิชานี้มีเวลาจำกัดมากนัก ดังนั้นเมื่อสามารถเข้าใกล้ศัตรูได้แบบแนบชิดแล้ว เขาจึงระดมหมัดเข้าใส่ร่างที่นิ่งสนิทนั้นทันที จนลูคานาริที่แข็งทื่อซวนเซไปมาราวกับเป็นเพียงกระสอบทรายธรรมดา กับการโจมตีนั้นและล้มลงไปอย่างแรง ลีฟฟ่อนยิ้มเล็กน้อยและกระโดดถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม เขาหันหลังให้กับศัตรูอย่างเท่ห์และชี้นิ้วชี้มือขวาขึ้นฟ้า

“คุณย่าบอกไว้ว่า....จงก้าวไปบนวิถีแห่งสวรรค์....เพื่อปกครองทุกสิ่ง...(ถึงแม้ฉันไม่เคยเห็นหน้าย่าก็เถอะนะ..)”

_Clock Over...._

เวลาเดินอีกครั้งนึงแล้ว พร้อมลูคานาริที่กระอั๊กเลือดออกมาทันที สร้างความรู้สึกประหลาดใจให้กับเธอ ที่จู่ๆร่างกายของเธอก็เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาอย่างหนัก จน Hp ที่มีอยู่เกือบเต็มเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ไฟร์เร้ดและเหล่าดาร์กไนท์ก็ตกใจกับอาการบาดเจ็บของลูคานาริเช่นเดียวกัน

“น....นี้มัน.....อะไรกัน.....ค่ะ....แฮ่กๆๆ”

“ลูคานาริจัง!!!”

Dn1 ทำท่าจะวิ่งเข้าไปหาลูคานาริ แต่เธอกลับต้องหยุดกึกเมื่อถูกเปลวไฟที่ไฟร์เร้ดยิงมาขัดขวางเอาไว้ เธอสะบัดหน้ามองหัวหน้าตนเองในเชิงจะถามว่าจะปล่อยให้ลูคานาริถูกฆ่างั้นหรือ แต่ไฟร์เร้ดก็ไม่มีทีท่าจะสนใจสายตานั้นแม้แต่น้อย ยังคงมองร่างสีฟ้าที่บาดเจ็บจนลุกไม่ไหวนั้น

“ยอมแพ้ซะเถอะลูคานาริ....เจ้าแพ้แล้วละ...”

“ม....ไม่.....ไม่ได้ค่ะ....ต้องชนะให้ได้ค่ะ...ถึงตายก็ต้องชนะให้ได้ค่ะ”

“อะไรทำให้เจ้าต้องสู้ถึงขนาดนี้ด้วย? ชนะเพื่อคนที่ไม่สนใจใยดีลูกน้องเลยงั้นเหรอ?”

“หนู....จะสู้.....เพื่อท่านไฟร์เร้ดค่ะ....จะสู้เพื่อ....”

“คนที่หนูรักยังไงละค่ะ!!!!”

พรึ่บ!!!!! ลีฟฟ่อนผงะไปทันทีเมื่อต้องกับลมกระโชกจากตัวของลูคานาริ และต้องยืนมองด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งหนึ่งที่ออกมาจากกลางหลังของร่างที่เหมือนลูคาริโอ้ ทว่าลูคาริโอ้นั้นไม่มีสิ่งที่เขาเห็นอยู่อย่างแน่นอน....

สิ่งที่ออกมาจากหลังของลูคานารินั้นคือปีกสีฟ้าขนาดใหญ่ยักษ์ที่ใหญ่กว่าตัวเจ้าของหลายเท่า เป็นปีกมังกรที่ดูทรงพลังยิ่งนัก!!!

“จะใช้ท่านั้นแล้วงั้นเหรอ.....”

ไฟร์เร้ดบ่นพึมพำสร้างความหวั่นไหวให้กับลีฟฟ่อน เขากดปุ่มๆหนึ่งที่อยู่ที่เก้าอี้ ทันใดนั้นห้องที่ทั้งหมดอยู่ก็เกิดสั่นสะเทือนขึ้น ลีฟฟ่อนรู้สึกราวกับเลือดนั้นตกไปอยู่ที่ปลายเท้า ทำให้เขารู้ว่าห้องๆนี้นั้นกำลังเลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเมื่อถึงจุดๆหนึ่งมันก็หยุดกึกอย่างรุยแรงจนทำเขาแทบล้ม ซึ่งเมื่อเขาหันไปมองรอบๆแล้วก็เห็น...

...เห็นท้องฟ้าไปทั่ว 360 องศา อีกทั้งยังเห็นการต่อสู้ของกองกำลังภาคพื้นอากาศของเขาและของฝ่ายไฟร์เร้ดอีกด้วย ตอนนี้พื้นที่ๆเขายืนอยู่ก็คือด่านฟ้าของยานบินขนาดมหึมาแล้ว

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! ปีกยักษ์สีฟ้าเริ่มขยับขึ้นลงสร้างลมกระแทกจนลีฟฟ่อนซวนเซและล้มลงไป ลูคานาริพุ่งตัวขึ้นเหนือฟากฟ้าด้วยปีกยักษ์นั้น ผ่านทะลุชั้นเมฆ ไต่ระดับชั้นบรรยากาศขึ้นไปเรื่อย แบบที่ความเยือกเย็น หรือสภาวะไร้อากาศของชั้นบรรยากาศห้วงสูงก็ไม่สามารถหยุดเธอได้ ซึ่งเมื่อไต่ระดับจนถึงชั้นบรรยากาศสูงสุดที่สิ่งมีชีวิตจะมาได้แล้ว

ปีกสีครามสยายกว้างโดยมีแสงจากสุริยันกลมโตเป็นฉากหลัก ประจุพลังงานความร้อนถูกรวบรวมเข้าหาปีกยักษ์นั้น ราวกับเป็นแผงโซล่าห์เซลล์ที่มีชีวิต จนเมื่อรวบรวมพลังได้ถึงขีดสุดเธอก็หมุนตัวทิ้งดิ่งตัวเองลงสู่ภาคพื้นโลกทันทีด้วยความเร็วสูงโดยใช้แรงโน้มถ่วงโลกและพลังของปีก มือสีดำทั้งสองผสานกันและทันใดนั้น...

“MEGA…..FLARE!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

TPu15144.jpg

ลำแสงทำลายล้างขนาดมหึมาสีฟ้าคราม พุ่งออกมาจากสองมือนั้น ทะลวงผ่านชั้นเมฆหลายชั้นแหวกเป็นวงกว้างนำหน้าเจ้าของไป และเจาะทะลวงยานเล็กลำหนึ่งในขบวนรบของไฟร์เร้ดที่บังเอิญขวางเส้นทางอยู่ ตรงดิ่งเข้าหาลีฟฟ่อนที่ยืนอยู่บนยานใหญ่ของกองกำลังไฟร์เร้ด....ซึ่งเมื่อเทียบกับพลังขนาดมหึมานั้นแล้ว ร่างลีฟฟ่อนดูเล็กลงไปถนัดตาเลยทีเดียว

แต่ชายหนุ่มก็หาสนใจไม่...

“พลังอันยิ่งใหญ่ของคนๆเดียวหรือ.....ยังไงซะก็ไม่ทางสู้พลังที่เกิดจากคนสองคนได้หรอกนะ...”

ลีฟฟ่อนยืนนิ่งไม่สนใจกับสิ่งที่พุ่งลงมา เขาผสานสองมือไว้กลางหน้าอก เกิดออร่าสีขาวขึ้นห่อหุ้มตัวเขาและมันก็ออกจากร่างมารวมกันข้างๆกลายเป็นร่างสีขาวที่เหมือนลีฟฟ่อนในร่างจำแลงนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยน

“จะใช้ท่านั้นสินะ....ไลท์วี....” ร่างที่พึ่งปรากฏเอ่ยขึ้น

“อืม...ท่าผสานของพวกเราไงละ อารากิ...” ร่างเดิมหันหลับไปตอบ

สองหนุ่มสองบุคลิคยืนเคียงข้างเงยหน้าขึ้นมองลำแสงพลังงานที่พุ่งลงมาเข้าใกล้แล้ว ทั้งสองจับมือข้างเดียวกับมือของอีกฝ่ายที่อยู่ติดกัน ไลท์วีหันฝ่ามืออีกข้างลงบนพื้น ส่วนอารากินั้นยกมือข้างที่ว่างขึ้นหันฝ่ามือให้ท้องฟ้า สายลมค่อยๆหมุนวนรอบตัวพวกเขา

“ภูติแห่งผืนดิน....” ไลว์วีพูด

“ภูติแห่งผืนฟ้า....” อารากิพูด

“พวกเราสมาร์ทเคียวกับจิตวิญญาญแห่งภูติ” พูดพร้อมกัน

“จะขอชำระล้างจิตใจที่ชั่วร้ายให้สะอาด”

สองมือที่ผสานกันถูกยกขึ้นฟ้า เล็งเป้าหมายไปยังลำแสงพลังงานสีฟ้าที่อยู่เหนือหัวแล้ว

“สมาร์ทเคียว ทวิน สตรีม...”

พลังงานอันมหาศาลหมุนวนรอบมือของทั้งคู่ และ...

“สแปลซ!!!!!!!!!!”

UQv26294.jpg

สองพลังผสานถูกส่งออกไปจากฝ่ามือผสานนั้น ลำแสงสีชมพูขาวขนาดเรียวเล็กตรงดิ่งขึ้นเข้าเผชิญหน้ากับลำแสงพลังงานที่ใหญ่กว่าหลายสิบเท่า ทว่าเมื่อสองลำแสงปะทะกันแล้ว ลำแสงพลังสีน้ำเงินกลับแตกกระจายไปรอบทิศราวกับถูกพลังสายเล็กนั้นพุ่งทะลวงแกนกลางเข้าไป จนไม่สามารถทำอันตรายใครได้แม้แต่น้อย มิหน่ำซ้ำ...

ลำแสงขนาดเล็กยังทะลวงจนเข้าสร้างความเสียหายที่รุนแรงให้กับลูคานาริที่อยู่บนฟ้าสูงไกลอีกด้วย!!!

“อ๊า~!!!!!”

ร่างสีฟ้าเสียความสามารถที่จะควบคุมปีกไปเมื่อ Hp เพียงน้อยนิดที่เหลืออยู่ได้หมดแล้วการด้วยโจมตีนั้น และร่างที่แทบไร้สติพร้อมปีกหลังที่หายไป ก็หล่นร่วงลงสู่พื้นดินตามแรงโน้มถ่วงโลกที่ดึงลงไป ซึ่งหากตกจากที่สูงมากขนาดนี้ด้วยความเร็วขนาดนั้น ต่อให้เป็นครึ่งมายาอย่างเธอก็มีสิทธิ์ที่จะตายได้เพราะเป็นความเสียหายที่เกินกว่าผลึกพลังงานนั้นจะรับไหว

ตุ้บ.....

ร่างสีฟ้าไม่ได้ตกกระแทกพื้น แต่ถูกรับเอาไว้ได้อย่างนุ่มนวลด้วยแขนของคนๆหนึ่ง ลูคานาริที่สติเลือนลาง เธอมองเห็นไฟร์เร้ดมองเธออยู่ด้วยท่าทางแข็งกร้าว เขาเดินลงจากเก้าอี้มารับเธอเอาไว้ก่อนที่เธอนั้นจะตกกระแทกพื้น

“หึ! แกตายไม่ได้หรอกนะ ยังไงข้าก็ไม่ให้แกตายหรอก! กว่าจะสร้างแกขึ้นมาได้รึเปล่าว่ามันลำบากข้าแค่ไหน อีกอย่างถ้าไม่มีแกแล้วใครจะมาเป็นคนใช้ให้ข้า ทำอาหารให้ข้าฟ่ะ!”

“ท่านไฟร์เร้ด......หนู....ขอโทษ......ค่ะ...”

Battle End!! Leafond Win!!!!

โครม!!! ไฟร์เร้ดจับคอของลูคานาริและขว้างร่างที่หมดสตินั้นเข้าหา Dn1 ให้รับเอาไว้ แต่การกระทำนั้นก็ทำให้ดาร์กไนท์สุนัขขาวถึงกับล้มก้นกระแทกพื้นไปเลย เธอแยกเขี้ยวขู่ใส่เจ้านายตัวเองที่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาเธอก่อนเลย แน่นอนว่าไฟร์เร้ดนั้นหาสนใจไม่

“เหลือแต่แกแล้วนะ.....”

“หึ! ปล่อยให้ข้ารอซะนานเชียว”

สองผู้นำแห่งกองทัพเผชิญหน้ากันแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ของกองกำลังภาคพื้นอากาศของทั้งสอง สายตาปะทะกับสายตา ความน่าพรั่นพรึงและทั้งห้องก็เต็มไปด้วยพลังที่จะกดดันจิตใจของอีกฝ่ายแผ่ออกมาจนทำให้สองดาร์กไนท์นั้นตัวสั่นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

“ถึงเวลาตัดสินกันแล้วระหว่างแกกับข้า...ไฟร์เร้ด...ข้าจะหยุดความทะเยอทะยานของแกให้ดู!!”

“ฮะๆๆๆ ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน...ว่าราชาจอมปลอมของอาณาจักรจอมปลอมนั้น มันจะแน่สักแค่ไหนเชียว”

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว....

ใคร....จะเป็นฝ่ายมีชัยเหนืออีกฝ่าย....

โปรดติดตามตอนต่อไป!!!

-------------------------------------------------------------------------------

ตอนหน้าก็เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว....อา~ ในที่สุดฉากต่อสู้ก็ใกล้จบสักที เหนื่อยชะมัดเลย~!!

ตอนหน้าอาจจะไม่ดีเลย์นานเท่าไหร่แล้วละครับ ก็แหม~ มีมหาลัยให้เรียนต่อแล้วนี้หน่า ดังนั้น ก็เลยเรียน ม.6 แบบชิลๆได้สักที~

แต่ว่า....โชคดีนะเนี้ยที่มีภาพจากฟิคนี้เอาไปให้อาจารย์ที่มหาลัยดูตอนสัมภารษ์ ฮะๆๆ สอบสัทภารษ์ผ่านได้เพราะภาพพวกนี้นี่ละ ฮะๆๆ

Me/ หัวเราะกับตัวเองยังกับคนติ๊งต๊อง...

Link to comment
Share on other sites

“อั๊ก....ทำไมมือถึงยืดยาวออกได้...กันละค่ะ”

“จุ๊ๆๆ นี้เป็นเทคนิคลับของข้า ใครจะบอกให้รู้ง่ายๆกันละ”

.........................................

“จะทำอะไรนะ?”

“นี้เป็นเทคนิคลับของหนูค่ะ ใครจะบอกให้รู้ง่ายๆกันละค่ะ”

พอๆกันเลยแฮะ คู่นี้ - -

อาวุธแต่ละอย่างที่ใช้สู้ช่างสุดยอดจริงๆ

แซวท่าของพริตตี้เคียวจนได้

แต่ถ้าจะให้สุดยอดจริงๆ ต้องท่าตอนสุดท้ายสิ

เคียวอีเกร็ท : แสงแห่งวิญญาณ!

คาโอรุ : ประกายแห่งชีวิต!

มิจิรุ : นำทางไปสู่ความหวัง!

เคียวบลูม : หัวใจทั้งหมด!

PreCure Spiral Heart....!

....Splash Star!!!!!

เผยความบ้าพริตตี้เคียวจนได้สินะเรา งิงิ

ว่าแล้วก็โยนคลิปฉากแปลงร่างกับท่าไม้ตายของภาคสแปลชสตาร์ให้ งุงุ

http://www.youtube.com/watch?v=mn2uv9YubWE

Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้สู้กันมันส์จริงๆ

แต่ก็ต๊องมากๆ - -

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

..............

------------------------------------------------------

“ถึงเวลาตัดสินกันแล้วระหว่างแกกับข้า...ไฟร์เร้ด...ข้าจะหยุดความทะเยอทะยานของแกให้ดู!!”

“ฮะๆๆๆ ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน...ว่าราชาจอมปลอมของอาณาจักรจอมปลอมนั้น มันจะแน่สักแค่ไหนเชียว”

ลีฟฟ่อนยืนมองไฟร์เร้ดไม่วางตา คราวนี้เขามีท่าทีจริงจังเพราะศัตรูตรงหน้านั้นเขาคงทำเล่นๆแบบที่ผ่านมาไม่ได้แน่ๆ เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่มาจากผู้ชายเบื้องหน้า เป็นพลังด้านมืดที่มุ่งหวังเพื่อการทำลายซึ่งตรงกันข้ามกับเขาซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์

“จงมา...Devil Shield Knife....”

เปลวไฟลุกขึ้นในมือของไฟร์เร้ด ปรากฏร่างของอาวุธมีคมคู่ในมือนั้น เป็นมีดสั้นที่มีกระบังดาบยืดออกมาจนดูราวกับเป็นโล่ห์ที่สามารถเอาไว้กันการโจมตีได้ คมมีดของมันมีส่วนเว้าโค้งจนดูราวกับคมเขี้ยวของสัตว์ร้าย ประกายไฟเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อไฟร์เร้ดเหวี่ยงมีดเล่มนั้นไปมา

62Jd9bb3.jpg

“จงตายซะ ลีฟฟ่อน ไลท์วี....ราชาแห่งอาณาจักรจอมปลอม!!”

ไฟร์เร้ดพุ่งตัวมาแล้วพร้อมตวัดมีดคู่เข้าใส่ลีฟฟ่อนทันที ลีฟฟ่อนหมุนตัวหลบการโจมตีนั้นได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้เขารู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของคู่ต่อสู้แล้ว ดังนั้นเมื่อสามารถถอยออกห่างจากศัตรูได้ เขาก็เรียกอาวุธออกมาทันที สิ่งที่ปรากฏในมือของลีฟฟ่อนนั้นคือ ดาบซามูไรยาว(Katana) ที่มีความยาวมากกว่าตัวเขาเสียอีก

73Keaca0.jpg

“อย่าเอาแต่หนีสิ~ มาสนุกกับข้าหน่อย!!”

“อ๊ะ!!”

แก๊ง!!! เพียงชั่วพริบตาที่ลีฟฟ่อนเรียกดาบออกมา ไฟร์เร้ดก็สะบัดมีดเข้าโจมตีเขาอีกหน โชคดีนักที่ลีฟฟ่อนนั้นสามารถป้องกันไว้ได้ทันท่วงทีในระยะประชิด เขาหมุนควงดาบใส่ไฟร์เร้ดให้ต้องถอยตัวเพื่อเปิดเส้นทางให้ตัวเองได้กระโดดถอยหลังไปตั้งหลัก

“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!!!”

การกระทำของลีฟฟ่อนหยุดไฟร์เร้ดได้ไม่นานนัก เพราะไฟร์เร้ดนั้นใช้ชั่วพริบตาที่ถอยหลัง ถีบเท้าพุ่งตัวเข้าหาลีฟฟ่อนอีกครั้งแล้วโดยที่เขาไม่ทันได้เปิดวงสวิงดาบครั้งที่สองด้วยซ้ำ มีดที่กระซวกเข้ามาเต็มกำลังของไฟร์เร้ดพุ่งสวนดาบคานานะที่แทงมา เข้าทำร้ายแขนซ้ายของลีฟฟ่อนจนเลือดสาด

“อ๊ากกกกกกก~!!!”

“ไม่เห็นเก่งอย่างที่คิดเลยนี้หว่า แกนะ ฮ่าๆๆ”

“กรอด~!! งั้นก็ลองรับนี้ไปดูเซ้!!!”

ดาบคาทานะถูกยกขึ้นมาและดันคมดาบเข้าแทงร่างเบื้องหญ้าอย่างต่อเนื่อง ไฟร์เร้ดควงมีดคู่ปัดป้องมันได้อย่างง่ายดาย มีหน่ำซ้ำการป้องกันของไฟร์เร้ดก็ยังส่งผลทำให้ระดับความคมของคาทานะลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดการฟันของลีฟฟ่อนนั้นก็ไร้ผลจนดาบถูกสะท้อนกลับไป

“ย๊ากกกก~!!!!!”

ลีฟฟ่อนใช้สองมือจับดาบยาว พร้อมหมุนดาบที่เด้งกลับมาไปด้านหลังและตวัดมันครูดพื้นเสยขึ้นใส่ไฟร์เร้ดด้วยความเร็วสูง ทว่าไฟร์เร้ดนั้นก็เร็วพอที่จะหลบการโจมตีนั้นได้ ลีฟฟ่อนชะงักนิ่งเพราะรู้สึกเหมือนว่าร่างที่อยู่เบื้องหน้านี้นั้นเป็นเพียงเงาของสิ่งที่เคยอยู่เท่านั้น ร่างเบื้องหน้าเลือนหายไปจากสายตาเขา!!

“บ้าจริงงง!!!”

ฉัวะ!! คมมีดของผู้เป็นศัตรูทำร้ายด้านหลังของลีฟฟ่อนจนเลือดสาด ทำให้ลีฟฟ่อนนั้นซวนเซ แต่ก็ยังยังคงกัดฟันหมุนตัว 180 องศาเพื่อโจมตีคนที่ลอบโจมตีจากด้านหลังของเขาและเป็นการป้องกันการถูกโจมตีเป็นครั้งที่สอง

กิ๊ง!!! การโจมตีที่หนักหน่วงถูกมีดคู่หยุดเอาไว้ได้พร้อมถูก ไฟร์เร้ดที่ลอบโจมตีจากด้านหลังของลีฟฟ่อนแสหะยิ้มอย่างเริงร่าที่สามารถสร้างบาดแผลให้กับลีฟฟ่อนได้ถึงสองแผลแล้ว

“ช่วยทำให้ข้าสนุกกว่านี้หน่อยซิ ราชาแห่งอาณาจักรจอมปลอม~”

“อยากสนุกนักใช่ไหม ก็เอานี้ไปเล่นสิ!! สายฟ้ามัจจุราช(Devil Voltra)!!!”

ลีฟฟ่อนสร้างสายฟ้าฟาดเข้าใส่จุดที่ไฟร์เร้ดยืนอยู่ สายฟ้าที่ทรงอานุภาพตรงดิ่งเข้าหาไฟร์เร้ด แต่มันกลับถูกฟันสลายไปอย่างง่ายดายราวกับมันเป็นเพียงหมอกเท่านั้น ลีฟฟ่อนเดินถอยหลังไปเล็กน้อยอย่างหวั่นเกรงเมื่อท่าไม้ตายที่รุนแรงของเขานั้นไม่สามารถทำอันตรายชายที่อยู่ตรงหน้าได้แม้เพียงนิด

“มีแค่นี้เองรึไง ลูกเล่นของแกนะ ฮ่าๆๆ”

การโจมตีระยะไกลก็ไร้ผล ทำให้ลีฟฟ่อนจำใจต้องก้าวเท้าเข้าไฟร์เร้ดด้วยตนเองเพื่อโจมตีศัตรูในระยะประชิด เขาสวิงดาบในแนวนอนเข้าใส่ แต่อีกฝ่ายก็เบี่ยงตัวหลบออกไปได้ แต่เขาไม่ได้หยุดการโจมตีไว้แค่นั้น ดาบคาทานะที่หมุนกลับมายังไม่สุดถูกพลิกด้านและฟันเข้าใส่ไฟร์เร้ดอีกครั้ง ทว่าการโจมตีนั้นก็ถูกรับได้ด้วยมีดยาวสีแดงเพลิง

“อยากสู้ตัวต่อตัวนักเหรอ ยอมได้!!!”

มีดคู่ปะทะเข้ากับดาบคาทานะซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกิดประกายไฟไปทั่วอากาศยามเมื่ออาวุธทั้งสองปะทะกัน ไฟร์เร้ดและลีฟฟ่อนประฝีมืออาวุธระยะประชิดอย่างหนักหน่วง แต่ว่าดูเหมือนฝ่ายลีฟฟ่อนนั้นจะเสียเปรียบกว่า เพราะเขานั้นเริ่มเดินถอยหลังไม่หยุดเมื่อเจอการโจมตีของไฟร์เร้ด ดูเหมือนความยาวของดาบที่เขาเรียกมาจะเป็นอุปสรรคสำหรับเขา แต่ว่าอีกฝ่ายนั้นก็ไม่มีเวลาว่างให้เขาเปลี่ยนดาบเสียด้วย

ผัวะ!!! เพราะมัวแต่ป้องกันดาบ ทำให้ด้านล่างของลีฟฟ่อนเปืดโล่ง ไฟร์เร้ดจึงเสือกเท้าเข้าเตะเข่าของลีฟฟ่อนจนทรุด และหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางเข้าใส่ปลายคางชายผมน้ำเงินจนหน้าหงาย แต่เขาก็ไม่ได้หยุดการโจมตีไว้เพียงแค่นั้น

“น่าเบื่อชะมัดเลย~ ปลิวๆไปซะ!! Flame Storm!!!”

ไฟร์เร้ดควงมีดคู่ในมือเป็นวงกลมสร้างกระแสลมธาตุไฟเข้าใส่ลีฟฟ่อนในระยะกระชั้นชิด ส่งร่างที่มีเพียงดาบยาวเล่มเดียวไว้ป้องกันลอยละลิ่วไปตามแรงลม พร้อมเปลวไฟในพายุที่เผาไหม้เสื้อสีดำ กระแทกรั้วเหล็กของยานอย่างรุนแรงจนระเบียงนั้นหักพัง ทำให้ลีฟฟ่อนร่วงหล่นตกจากยานไป

“โอ๊ะ~ แย่จัง....ตกลงไปแล้วแบบนี้ก็ไม่ได้เห็นศพนะสิ อา...เสียดายชะมัด”

ไฟร์เร้ดจับหัวหัวและส่ายหน้าเบาๆ เขาทำท่าจะหันหลังกลับบัลลังค์

“มันยังไม่จบแค่นี้หรอก!!!”

เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! กระสุนพลังงานพุ่งเฉียดไฟร์เร้ดที่ยืนเฉยอยู่ ลีฟฟ่อนซึ่งตอนนี้มีปีกสีขาวอยู่ข้างหลังแล้วถึง 1 ข้าง(?) บินขึ้นมาจากด้านล่างตัวยานพร้อมปืนเล็กยาว(ปลย.11)สีดำและกระหน่ำกระสุนเข้าโจมตีไฟร์เร้ดไม่ยั้ง ชายผมแดงเอียงคอมองชายที่ลอยอยู่บนฟ้าด้วยท่าทีเหมือนจะเหยียดหยาม เขาก้าวเดินเข้าหาลีฟฟ่อนช้าๆโดยใช้วีธีเอียงตัวซ้ายฟ้าเพื่อหลบกระสุนอย่างเยือกเย็น เขาสามารถเดินทางผ่านห่ากระสุนของลีฟฟ่อนได้อย่างง่ายดายราวกับมันเป็นสนามเดินเล่นของเขาเท่านั้น..

“หึๆๆ สิ่งที่แกทำได้มีเพียงแค่เพิ่มพลังให้กับตัวแอง....แต่ยังไงซะจากการที่ข้าได้ดูการต่อสู้ของแกแล้ว แกมันก็แค่เด็ก ม.6 กระจอกๆเท่านั้น...ถึงความสามารถด้านร่างกายของแกจะสูงขึ้น แต่การเคลื่อนไหวของแกมันก็เหมือนพวกมือสมัครเล่นเท่านั้น การป้องกันของข้าใช้รูปแบบมวยสากลบวกทักษะมีดคู่ที่เพิ่มพลังขึ้นด้วยความสามารถของเครื่องสร้างอนุภาคมายา ดังนั้น...ถ้ามองการโจมตีของแกให้ดีๆละก็ กระสุนเม๊ดถั่วของแกก็ไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอก!!!”

“อ๊ากกกกกก!!!”

เปรี้ยง!! โครม!! กระสุนสังหารลูกหนึ่งถูกสะท้อนกลับเข้าหาผู้เป็นเจ้าของด้วยความรุนแรงที่มากกว่าเก่า ปีกสีขาวถูกแรงกระสุนจนทะลุสลายกลายเป็นขนนกธรรมดา และลีฟฟ่อนนั้นก็ร่วงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง กลิ้งมานอนแทบเท้าของไฟร์เร้ด ชายผมแดงเหยียดรอยยิ้มจนดูราวกับปีศาจ เขาเตะลีฟฟ่อนที่นอนแผลอยู่นั้นจนกลิ้งอย่างหมดสภาพ

“มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ หมดมุขแล้วงั้นเหรอ เอาไอ้พวกของเล่นต่างๆของแกออกมาอีกเซ้!!!”

“....................................................”

“ลุกขึ้นมาเซ้ นอนอยู่ทำไมละ! ฮะๆๆๆๆ นี้ๆๆ”

ไฟร์เร้ดกระทืบหน้าอกลีฟฟ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่ร่างที่ถูกกระทืบนั้นหาตอบโต้ไม่ ดวงตาสีดำที่เหม่อลอยจ้องมองท้องฟ้าเบื้องบนด้วยความเรือนราง จิตใจไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ การมองท้องฟ้าและก้อนเมฆที่ลอยไปเรื่อยๆในตอนนี้นั้นทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ บางสิ่งที่สำคัญมาก....

--------------------- Memory Fast back -------------------

ท้องฟ้าวันนี้.....ก็เป็นสีฟ้าสวยงามเหมือนทุกวันเลยนะ...

“ท่านลีฟฟ่อนแอบอู้งานมานอนเล่นที่นี้อีกแล้วนะค่ะ”

เสียง....เธอหาผมเจออีกแล้ว....อ๊ะ! อย่าชะโงกหน้ามาบังท้องฟ้าที่ผมกำลังดูสิ

“ลูคาริโอ้ละก็ ให้ข้าพักหน่อยไม่ได้เหรอ งานล้นโต๊ะแบบนั้นมันเหนื่อยนะ...”

“ก็ท่านชอบทำงานผลัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อยนี้หน่า งานมันก็ก็เลยล้นโต๊ะขึ้นมาไงละค่ะ!”

ให้ตายสิ...เธอ...ชอบตักเตือนผมอยู่เรื่อย จนดูเหมือนราวกับเป็นเป็นแม่ของผมเลย....ช่างบ่นเสียเหลือเกิน...

“จ้าๆ จะรีบไปทำแล้ว แต่...ลูคาริโอ้...”

“ค่ะ?”

“ให้ข้านอนหนุนตักสักแป๊บหนึ่งได้ไหม ขอกำลังใจให้ข้าหน่อยเถอะ...”

“เอ่อ.......ถ้าไม่นานก็ได้ค่ะ ท่านลีฟฟ่อน”

อา...ตักของเธอช่างนุ่ม ตัวเธอนี้ช่างอบอุ่นเสียจริงๆ....

“ข้าดีใจจัง....ที่มีอาณาจักรแห่งนี้ ข้าดีใจจังที่มีทุกคน....และมีเธอลูคาริโอ้....”

“หนูก็ยินดีค่ะที่ได้อยู่กับท่าน หนูก็ดีใจที่ได้มีชีวิตขึ้นมาได้เพราะท่าน...ไม่สิค่ะ....ทุกคนในอาณาจักรนี้ต่างก็ดีใจที่ได้มีชีวิตเพราะท่านทั้งนั้นค่ะ...ขอบคุณนะค่ะ...ท่านลีฟฟ่อน..”

เธอคนนั้นยิ้มให้ผม.....รอยยิ้มของเธอช่างสวยงามเหลือเกิน......รอยยิ้มนั้น.....จะต้องปกป้องให้ได้เลย....จะปกป้องทุกคนให้ได้....ปกป้องรอยยิ้มที่สดใสดุจท้องฟ้าที่โปร่งใสที่มองอยู่นี้ให้ได้เลย...

“ข้า....จะปกป้องทุกคน.....”

--------------------- Memory Fast out -------------------

โครม!! ไฟร์เร้ดล้มลงไปเมื่อถูกผู้ที่ตนกระทืบนั้นผุดลุกขึ้นมาอย่าวเร็วจนเขาเสียหลัก ลีฟฟ่อนชันตัวลุกขึ้นราวกับไม่เป็นอะไรและหันมามองไฟร์เร้ดอย่างช้าๆ เขาสะบัดข้อมืดเล็กน้อยก่อนจะปรากฏอาวุธชนิดหนึ่งขึ้นมาในมือ....เป็นอาวุธที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นอาวุธประเภทไหนกันแน่ และเป็นอาวุธที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนอีกด้วย

84Lfbd31.jpg

“ตายดีๆไม่ชอบใช่ไหม อยากตายแบบทรมานงั้นสินะ!!!”

ชายที่ล้มอยู่หมุนตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร้ว มีดคู่ในมือเผาไหม้ตัวเองมากขึ้นที่คมดาบกลายเป็นสีแดงและทุกครั้งที่สะบัดใบมีดก็จะมีเส้นสีแดงไล่ตามใบมีดไปมาราวกับเป็นริบบิ้นที่ถูกผูกติดไว้ เขาเริ่มแสหะยิ้มใส่ศัตรูอีกครั้ง แต่ก็ต้องหุบรอยยิ้มนั้นไปเมื่อเห็นแววตาของลีฟฟ่อนที่มองมายังเขา

“.........................................”

แข็งกร้าว มุ่งมั่น และน่าเกรงขาม จนเขานั้นแทบเดินถอยหลัง ร่างกายสั่นไหวโดยที่ไม่รู้ตัว ดวงตาที่จ้องมองอยู่นั้นราวกับเป็นวังวนแห่งความมืดที่กำลังจะกลืนกินเขาให้หายไปจากโลก ราวกับผู้ที่อยู่เบื้องหน้านั้นอยู่สูงนัก ราวกับมือที่ถืออาวุธอยู่นี้คงไม่อาจเอื้อมไปทำร้ายได้อีก ความเกรียวกราดในดวงตาและท่วงท่าที่นิ่งสงบราวกับจะทำให้น้ำตกยังหยุดตก ฝนที่ตกอาจจะย้อนกลับขึ้นฟ้า ความน่าเกรงขามของลีฟฟ่อนในขณะนี้นั้น ทำให้เขาดูราวกับเป็น...

......ราชา....

ชายที่นิ่งสงบดุจน้ำแข็งหน้าหนาวยกอาวุธขึ้นมาชี้หาไฟร์เร้ด ด้วยมือข้างที่ถูกฟันเป็นแผลลึกเพียงข้างเดียว แต่มือนั้นก็ไม่สั่นเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่ยกอาวุธขนาดใหญ่ขนาดนั้น ลีฟฟ่อนเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว.....

“....ผม......จะปกป้อง.....คนสำคัญ.....”

โปรดติดตามตอนต่อไป!!!

-------------------------------------------------------------------------

เห็นจำนวนคนโพสแล้ว....ชักเริ่มขี้เกียจวาดภาพแล้วสิ...

ทำให้จบๆไปเร็วๆดีกว่าแฮะ...(Bad End ไปเลย..)

ME/ .......

Link to comment
Share on other sites

โอ้ว

สถานะการณ์เริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆแล้ว

จะเป็นอย่างไรต่อละเนี้ย...

_________________________________________________________

อ้าว ...

จะจบแบบ เศร้า ซะแล้วสินะ

Link to comment
Share on other sites

อ๊าก สนุกโฮก เค้าสู่ Mode ไร้เทียมทานแล้วนิ ลีฟคุง  เพื่อคนที่รัก สู้จนตัวตาย

อยากเห็นความสามารถของอาวุธเช่นนี้ จริงๆ จะติดตอบ ต่อไป คับพ้ม

Link to comment
Share on other sites

ชุดนั้น...หรือว่าจะ...

ลีฟ กำลังจะแย่สักแล้วสิ!

คงไม่จบแบบ Bad End จริงๆหรอกนะ

Link to comment
Share on other sites

Bad Endหรอ?อย่าเลยBad Endอะไม่ชอบง่ะ

เออจะจบแล้วหรอ(เพิ่งนึกได้)ช่วงๆหลังRoyal Knightไม่ได้ออกเลยง่ะ :pika02:

Link to comment
Share on other sites

จะจบแล้วหรอ....

แต่ว่า มันคงไม่ใช่bad endหรอก ใช่มั้ย...

แต่ว่า... จะจบแบบไหนก็ขอให้จบแบบสวยงามละกัน

--------------------------------

ชุด... ดาบ... คุ้นๆแฮะ

เซฟิรอธป่าวหว่า คาร์ลด้วย

Link to comment
Share on other sites

"เอี๊ยดดดดดดดดดดดด~!" *เสียงเหมือนกดเบรคกะทันหันอย่างไงอย่างนั้น*

สวัสดีฮะ~ ^^~

ลูซังกลับมาสู่โหมด "ไล่อ่านฟิก" ต่อแล้ว~

หลังจากที่ลงโคมิกส์ไป 50 แผ่น ก็ถึงเวลาเปลี่ยนฟอร์มแล้วสิ

เอาล่ะ ขอเม้นสองตอนรวดเลยนะ~

--------------------------------------------------------------------------------

ลูนาคาริ.... ลูคานิริ... ลูคินารา.... ลู...ลู... ลูคานาริ~!

ชื่อนี้มันสลับได้พอๆกะชื่อเจ้วานิเลยนะท่าน~!!!

*ซางิอุระ ซากิราอุ ซา.. ซา... ซากุราอิ*

สมกับเป็นแม่บ้านจริงๆ ของแต่ละอย่างที่ปามา...

*หรือในเด็กส์ของอาณาจักร ขึ้นข้อมูลว่า

ลูคาริโอ้ - โปเกม่อนแม่บ้าน?*

ส่วนตอนสุดท้าย ไฟเร้ดเท่ห์แฮะ (น้อยว่าอัคซิอ้อนนิดนึง)

*โดยลูคานาริกะไฟเร้ดถล่ม ฟลิวไปนอกจักรแวน*

----------------------------------------------------------------------------------------------

โอ้ ใกล้จบแล้วสินะเนี่ย~

นึกถึงตอนแรกที่อ่านฟิกนี้จัง ทั้งหา ทั้งสนุก ทั้งซึ้ง

จนอยากมาเข้าบอร์ดเพื่อเม้นฟิกนี้โดยเฉพาะ....

จำคอมเม้นแรกที่เม้นฟิกนี้ได้ด้วยซ้ำ....

"น่ากินจัง~" คำเม้นคำแรกตอนคาบังเกิ้ลของท่าน...

....แต่ก็อย่างว่า.... งานเลี้ยงทุกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา....

แต่ขออย่างนึงก่อนจบเถิด.....

"ขอให้ฟิกนี้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งงงงงงงงงง~!!!!"

Link to comment
Share on other sites

  • 3 weeks later...

ขออภัยที่คราวนี้ไม่มีภาพนะครับ เพราะอยู่ช่วงใกล้สอบแล้วเลยหาเวลาใช้คอมยากหน่อย(+เป็นนักเรียน ม.6 ที่ต้องหามหาลัยเรียนต่อได้แล้ว)

เอาเป็นว่า....เอาเฉพาะฟิคไปอ่านก่อนละกันนะครับ ^^

--------------------------------------------------------------

“....ผม......จะปกป้อง.....คนสำคัญ.....”

ชายในชุดสีดำที่ดูแสนคุ้นเคยสำหรับผู้ชื่นชอบ FF7 เอ่ยพูดคำนั้น ต่อหน้าชายหนุ่มผมดำตาแดงผู้มีผมที่พลิ้วไหวดุจเปลวไฟ การยืนของเขานั้นดูมั่นคงไม่มีอาการสั่นไหวบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บหนักที่ผู้เป็นศัตรูได้กระทำต่อเขาเลยแม้แต่น้อย

“หึ....หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ท่อนเหล็กนั้นมันอะไรของแกนะ ฮ่าๆๆๆ เป็นอาวุธที่มั่วที่สุดเท่าที่เคยเห็นเลยทีเดียว แกนี้ไม่มีเซ็นท์ในการคิดอาวุธเลยนะ ฮ่าๆๆ ถึงได้เที่ยวชอบก็อปอาวุธของชาวบ้านเขา ก๊ากๆๆๆ”

“.....การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องน่าขำ....”

ควับ!!! ลีฟฟ่อนไม่เล่นมุขกับไฟร์เร้ดด้วย เขาตวัดดาบในมือเข้าใส่นักรบมีดคู่โดยฉับพลันพร้อมกับคำพูด ไฟร์เร้ดกระโดดหลบไปข้างหลังด้วยท่วงท่าที่สง่างามเพราะคิดว่าหลบพ้น ทว่า...

“โอ้ย! อ....อะไรกันเนี้ย....”

ไฟร์เร้ดยกมือขึ้นแตะหน้าอกที่มีรอยแผลการถูกฟันซึ่งสร้างบุพผาเลือดปรากฏไว้บนเสื้อของเขา เขาเงยหน้าขึ้นมองลีฟฟ่อนอย่างงุนงง

“ทำไมกัน....ทั้งๆที่ข้าคิดว่าข้าหลบพ้นแล้วแท้ๆ....”

ควับ! ควับ! ลีฟฟ่อนควงดาบไปมา เป็นการบอกคำตอบในความสงสัยของไฟร์เร้ด

“บ....บ้าจริง!! ที่แท้ดาบที่ข้าสังเกตุเห็นเป็นดาบยักษ์ยังงั้นนะรึ ฮึ่ย....เพราะขนาดของดาบใหญ่มันดึงดูดสายตาได้มากกว่าก็เลยทำให้ข้าไม่ทัน...ไม่สิ! ประสาทตาข้าไม่อาจสังเกตุดาบซามูไรที่ปลายดาบได้สินะ หน่อย....ฉลาดนี้แกที่สามารถคิดใช้จุดอ่อนของประสาทตาของมนุษย์ให้เป็นประโยชน์ได้นะ หว่า!!”

“ไม่ต้องมาบรรยายเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเลยนะ”

“มันเป็นหน้าที่เฟ้ย!!!!”

ลีฟฟ่อนควงดาบซ้ำสองใส่ไฟร์เร้ดที่ยังคงพล่ามความรู้ให้ท่านผู้อ่านอยู่จนต้องหุบปากเงียบและกระโจนหลบให้ไกลกว่าเก่าเพื่อหลบให้พ้นคมดาบที่สองที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ แต่เขาก็ไม่หลบเปล่าๆ ไฟร์เร้ดฟาดคมดาบเปลวเพลิงกลับมาเป็นค่าตอบแทนด้วย

“เป็นคนย่างไปซะ!!!”

“ไม่เอา....ไม่อร่อยนะ...”

เปลวไฟถูกป้องกันเอาไว้ได้ด้วยผ้าพันดาบสีแดงของอาวุธที่ลีฟฟ่อนถืออยู่ ซึ่งผ้าผืนนั้นได้ขยายใหญ่และกินรวบเปลวเพลิงนั้นจนหมดไฟร์เร้ดตกตะลึงกับวิธีการป้องกันตัวที่คาดไม่ถึงของอาวุธเล่มนั้น

“กรอด....”

เปรี้ยง!!! ลีฟฟ่อนโถมตัวเข้ากระแทกดาบเข้าใส่ไฟร์เร้ดจนร่างของเขาหล่นร่วงตกจากยานไป ก่อนที่ลีฟฟ่อนนั้นจะกระโจนลงตามร่างที่ร่วงหล่นนั้น เหล่าดาร์กไนท์ทั้งสามจึงรีบวิ่งไปดูเจ้านายของตนที่ร่วงลงไปนั้น และพบว่า...

ตอนนี้ลีฟฟ่อนกับไฟร์เร้ดกำลังยืนลอยอยู่กลางอากาศเผชิญหน้ากันอยู่ฝ่ายไฟร์เร้ดนั้นดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างแผ่ออกมาบริเวณฝ่าเท้าทำให้สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ ส่วนฝ่ายลีฟฟ่อนนั้นก็ยังคงติดยึดธรรมเนียมเก่าๆของชุดที่ใส่ด้วยการใช้ปีกนางฟ้าขนดำที่งอกออกมาจากกางหลังเพียงข้างเดียวเพื่อพยุงตัวเองบินอยู่ในอากาศซึ่งไม่น่าเชื่อว่าแค่มีปีกข้างเดียวก็สามารถทำให้บินได้แล้ว

“.........................”

ลีฟฟ่อนปะทะดาบกับไฟร์เร้ดอีกครั้ง ดาบของลีฟฟ่อนนั้นทั้งหนักหน่วงและยังมีคมดาบที่องไม่เห็นมาโจมตีไฟร์เร้ดอีก ทำให้ไฟร์เร้ดนั้นต้องพยายามคุมประสาทส่วนนึกคิดให้ได้มากกว่าประสาทตาเพื่อให้ตนนั้นสามารถป้องกันคมดาบที่แท้จริงให้ได้(ไม่งั้นจะถูกสายตาหลอกไปป้องกันคมดาบลวงเข้า) จนคราวนี้เป็นฝ่ายไฟร์เร้ดบ้างแล้วที่ต้องสู้ไปร่นถอยไป แน่นอนสำหรับชายผู้ไม่ยอมแพ้อย่างเขา การถอยให้ศัตรูถือเป็นสิ่งที่เสียศักดิ์ศรีเป็นที่สุด

“คิดว่า....ได้เปรียบข้าแล้วรึไง!!!!”

พรึ่บ!!! ดาบเปลวเพลิงลุกโหมโชติช่วงตามอารมณ์ของไฟร์เร้ดเขาใช้ดาบหนึ่งป้องกันดาบของลีฟฟ่อนและล็อกมันไว้ด้วยคมมีดที่งอกลับเหมือนเขี้ยว ก่อนจะฟาดอีกดาบเข้าใส่ข้อเสียเปรียบของการใช้อาวุธเล่มเดียวทำให้ลีฟฟ่อนตอนนี้ไม่มีอะไรใช้ป้องกันตัวได้อีกแล้วคราวนี้เขาจะหลบอย่างไรละ

“ไหม้เป็นเตาตะโก้ไปเลยไป!!!!”

เปรี้ยง!!!

ลีฟฟ่อนพุ่มตัวไปด้านข้างด้วยความเร็วสูงหลบการโจมตีของไฟร์เร้ดได้อย่างฉับพลันในขณะที่ทางไฟร์เร้ดนั้นก็ต้องสูญเสียดาบที่ใช้ล็อกดาบลีฟฟ่อนเมื่อครู่ไป เมื่อมันถูก.....

ถูกปืนที่ติดอยู่ด้านข้างของดาบยักษ์ของลีฟฟ่อนยิงใส่จนลอยละลิ่วหลุดมือหายไปไฟร์เร้ดผงะถอยเมื่อเจอกับอานุภาพอีกอย่างของอาวุธที่ลีฟฟ่อนถืออยู่

“ป....ปืน....ปืนงั้นรึ.....กรอด~!!! อาวุธบ้าๆนั้นข้าจะทำลายทิ้งให้ดู!!”

ไฟร์เร้ดจับดาบที่เหลือด้วยมือเดียวอัดพลังคลื่นมายาเข้าใส่ดาบเล่มนั้นจนกลายเป็นดาบเปลวเพลิงที่มีสีเข้มจนเกือบฟ้าอันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าไฟกำลังร้อนจนเกือบถึงขีดสุดอีกทั้งมันก็ยังยาวขึ้นจนเทียบได้กับดาบยาวของเซฟิรอทแห่ง FF7 เลยทีเดียว (หมายถึงเป็นดาบที่มีความยาวกว่าตัวอานะ)

“ตาย! ตาย!! ตาย!!!”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! ลายเส้นสีเพลิงถูกวาดเขียนกลางเวหาโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยดาบของไฟร์เร้ดมุ่งฟันหมายสังหารชีวิตอริศัตรูผู้อยู่เบื้องหน้า เป็นการโจมตีที่บ้าคลั่งและโกรธเกรียวจนดูราวกับเป็นฮาเดสเทพปีศาจผู้มาจากขุมนรกที่ร้อนระอุยังไงยังงั้น

“......................”

แต่ว่าทางลีฟฟ่อนก็ยังคงใช้ดาบที่มีปัดป้องการโจมตีของไฟร์เร้ดอย่างสุดกำลังเขาสามารถใช้อาวุธเกือบทุกอย่างที่ติดอยู่กับดาบเขาเอามาใช้ป้องกันได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดาบคาทานะ ดาบยักษ์ ปืน ผ้าพันดาบปีศาจและค้อนที่อยู่ตรงปลายด้ามแถมบางครั้งเขาก็แทงดาบสวนกลับใส่ไฟร์เร้ดจนดูคล้ายหอกอีกด้วยเรียกได้ว่าตอนี้เขาเป็นจ้าวศาสตราวุธเลยทีเดียว

การปะลองฝีมือเป็นที่ยาวนานจนเกือบครึ่งชั่วโมงแต่ก็หามีฝ่ายใดเพลี้ยงพล่ำให้กับอีกฝ่ายไม่ ต่างก็รุกและรับอย่างสูสีไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่ง...

“แฮ่กๆๆๆ”

“แฮ่กๆๆๆๆ”

ทั้งสองต่างเหนื่อยหอบไปตามๆกันกับการต่อสู้ที่ต่อเนื่องยาวนาน ไฟร์เร้ดหยุดดาบและถอยห่างออกไปพร้อมจ้องมองลีฟฟ่อนไม่วางตา ดวงตาสีแดงเปลิงร้อนระอุด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้ลีฟฟ่อนได้เลยมิหน่ำซ้ำจากการปะทะเมื่อครู่เขาก็บังเอิญโดนค้อนของลีฟฟ่อนเขาอย่างจังที่ชายโครงขวาอีกด้วย

“.....ทุกอย่างจะต้องจบ.....ด้วยการโจมตีครั้งนี้...”

“................”

ไฟร์เร้ดประกาศการโจมตีครั้งสุดท้ายของตน ยื่นคมดาบเพลิงมาชี้หน้าลีฟฟ่อนอย่างท้าทาย ซึ่งลีฟฟ่อนนั้นก็รู้ว่าไฟร์เร้ดคิดจะทำเช่นไร...

ฟู่บ! ฟู่บ!

พลังต้านแรงโน้มถ่วงถูกปลดออกพร้อมทั้งปีกที่สลายหายไปเป็นขนนกทั้งคู่สละพลังที่ทำให้ตนลอยอยู่กลางอากาศอยู่ได้ออกเพื่อนำพลังนั้นมาเสริมให้กับตัวเองในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ร่างของทั้งคู่กำลังร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว แต่ว่าชายทั้งสองก็หาสนใจสิ่งรอบข้างไม่ ดาบสองเล่มตรงเข้าปะทะกันอีกครั้ง...

“อาณาจักรลวงตาพวกนี้สมควรหายๆไปซะ!!!”

เปรี้ยง!! ไฟร์เร้ดฟาดดาบเปลวเพลิงเล่มเข้าอริศัตรู แต่อีกฝ่ายรับการโจมตีเอาไว้ได้

“นายมีความคิดแค้นอะไรนักหน่ากับอาณาจักรข้า กับพวกมายาด้วย!!!”

ลีฟฟ่อนสวนกลับด้วยการยิงกระสุนปืนลูกปรายเข้าใส่ ไฟร์เร้ดสร้างเปลวเพลิงป้องกันเอาไว้

“หน่อย....ก็เพราะว่าพวกมันนั้นละที่ทำให้ข้าดูเหมือนกับคนบ้านะ!!”

“ว่าไงนะ...”

“......ตั้งแต่เกิดมาข้าก็เห็นพวกนั้นอยู่ตลอด บางที่มันอาจเป็นความสามารถพิเศษของข้าที่สามารถมองเห็นชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากพลังจินตนาการของมนุษย์ก็เป็นได้...แต่ว่ากลับไม่มีใครเห็นพวกมันเหมือนข้า ข้าถูกพวกมันพูดด้วยแต่เวลาที่ข้าพูดกับมัน ก็ทำให้คนอื่นๆมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ!! เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือข้าที่คุยกับความว่างเปล่า!!! ข้าจึงได้แต่ต้อวพยายามทำเป็นไม่เห็นมันแต่มันบางตัวนั้นก็กลับกวนประสาทข้าจนบางครั้งข้าก็เผลอตะคอกใส่มันจนคนรอบข้างมองว่าข้าเป็นบ้า!!! แก.....แกลองคิดดูสิว่าถ้ารอบตัวแกมีแต่พวกตัวประหลาดที่คนอื่นมองไม่เห็นแต่มีแค่แกที่มองเห็นอยู่คนเดียวแกจะทำยังไง!!!ลองคิดดูสิว่าถ้าแกหันไปทางไหนก็เจอแต่ไอ้พวกไม่มีตัวตนบ้าๆนี้ตามรังควาญแกตั้งแต่ห้องเรียนยันห้องน้ำแกจะทนไหวไหม!!!!”

ผัวะ!!! ไฟร์เร้ดหมุนตัวเตะจนลีฟฟ่อนหมุนคว้างกลางอากาศหนึ่งรอบก่อนจะกลับมาเป็นดั่งเดิม เขามองไฟร์เร้ดด้วยสายตาที่แปลกไป จนไฟร์เร้ดชะงักและลดดาบลงไปเล็กน้อย สองผู้นำเริ่มยืนพูดกันอย่างสันติบ้างแล้ว ถึงแม้จะเป็นกลางอากาศที่ตัวเองกำลังร่วงหล่นก็ตามที

“......ฉันสงสารนาย.....”

“ไม่ต้องมาสงสารข้า!!! เพราะตอนนี้ละที่ข้าจะล้างแค้นพวกมัน!!! ความแค้นที่มีต่อมันทั้งหลายจะจบสิ้นลงในวันนี้!!!! ทั้งอาณาจักรแกและอาณาจักรมายาจะต้องสูญสลายสิ้นด้วยมือของข้า!!!”

“....แล้วนายจะทำยังไงต่อละหลังจากนั้น....นายจะทำยังไงต่อกับกองทัพครึ่งมายาที่นายสร้างขึ้นนี้...ใช้สิ่งที่นายเกลียดที่สุดมาใช้ทำลายสิ่งที่นายเกลียดแล้วหลังจากนั้นนายจะทำยังไงกับพวกมัน...”

“หึ! ข้าก็ทำลายมันไปเลยนะสิ!!! ในเมื่อใช้ประโยชน์จากมันอย่างถึงที่สุดแล้วก็ต้องทำลายทิ้ง ของๆข้าข้าสร้างเอง ข้าก็มีสิทธิทำลายได้ แล้วจะทำไม!!”

“......จะทำลายทิ้ง....ลงจริงๆเหรอ....นายแน่ใจนะว่านายจะทำได้ทั้งๆที่นายใช้เวลามาเกือบครึ่งชีวิตเพื่อสร้างพวกนี้ขึ้นมา....นายแน่ใจเหรอว่านายจะไม่รู้สึกเสียใจ หรือรู้สึกเจ็บปวดใจเวลาสิ่งที่นายสร้างขึ้นมากับมืออย่างยากลำบากต้องสูญสลายไปด้วยมือของตนเอง....นายแน่ใจรึที่จะทำลาย....เหล่าลูกน้องที่จงรักภักดีและยอมสู้ตายเพื่อถวายชีวิตให้แก่นาย....”

“ฮ่าๆๆๆ ข้าไม่สนใจหรอกว่.......”

คำพูดของไฟร์เร้ดขาดช่วงไปเมื่อความทรงจำหนึ่งได้หวนกลับคืนมากลางคัน ภาพความทรงจำนั้นหวนกลับเข้ามาอยู่ภายในหัวของเขา...

--------------------- Memory Fast back -------------------

ฟุ่บ! หลอดทดลองเบื้องหน้าผมเปิดออก พร้อมร่างที่มีขนสีฟ้าครามมีลายแถบสีดำพาดผ่านใบหน้า มือ และเท้าที่ต่ำกว่าเข่าลงไป อัญมณีสีแดงเฉิดฉายจากสามจุดบนร่างกาย ร่างทดลองนั้นเดินมายืนต่อหน้าผมและเอ่ยคำพูดอันเป็นประโยคที่ถูกโปรแกรมไว้ในหน่วยความจำเป็นลำดับที่ 113 กับผม

“สวัสดีค่ะ.....รหัสคือ....Dn3 ขอฝากตัวด้วยค่ะ”

ในที่สุดก็ทำสำเร็จ!! หลังจากที่ทำการทดลองมาหลายร้อยครั้ง ในที่สุดครึ่งมายาตัวแรกก็ประสบความสำเร็จสักที!!!! อา....เหนื่อยชะมัดเลย....ขอหลับสักงีบละกันนะ....คร่อก...

0 zzzzzzzzz 0

ง่าว~ นี้เราหลับไปนานแค่ไหนนะ หืม....ใครเป็นคนมาห่มผ้าให้กับเราเนี้ย...เราอยู่คนเดียวนี้หน่าแล้วจะมีใคร....อ่ะ! แล้วเจ้าร่างทดลองนั้นหายไปไหนแล้วนะ บ้าจริงเชียว ไม่ได้ออกคำสั่งให้มันอยู่กับที่ด้วยสิ! จะไปป่วนอาละวาดที่ไหนอยู่รึเปล่าเนี้ย!!!

กริ๊ก!

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้างตัวผมเมื่อหันหลังไปผมก็พบกับถ้วยกาแฟสีขาวถ้วยโปรดของผมที่มีกาแฟอุ่นๆอยู่ภายในถูกตั้งวางไว้บนโต๊ะ โดยที่ข้างๆนั้น....มีร่างทดลอง Dn3 ของผมยืนยิ้มอยู่.....ผมว่าผมไม่ได้ใส่โปรแกรมเกี่ยวกับรอยยิ้มไว้ให้นะเนี้ยก็มันไม่จำเป็นต่อการต่อสู้นี้หน่า แล้วทำไม....

“แกไปไหนมาเจ้า Dn3 ทำไมถึงทำอะไรนอกเหนือคำสั่งข้า! แล้วกาแฟนี้แกไปเอามาจากไหน!!”

“คำสั่ง.....ติ๊ดๆๆ ดูแล.....ทำอาหาร....ติ๊ดๆๆ จะต้อง....ติ๊ด....ทำ”

คำพูดนั้นพูดติดขัดอยู่บ้าง ดูเหมือนร่างตรงหน้าผมกำลังพยายามจะสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับผมแต่เพราะว่าสิ่งที่มันจะพูดนั้นอยู่นอกเหนือข้ดมูลประโยคที่จะพูดทำให้ประโยคไม่สามารถออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ต้องประมวลและผสมกับประโยคอื่นอยู่

“ชิ! รู้สึกว่าตัวแกชักจะมีปัญหาให้ข้าต้องวุ่นวายแกไขอีกนะเนี้ย แต่ก็เอาเถอะ!จะลองชิมกาแฟของแกก็ได้....ข้าว่ารสชาติมันคงห่วยบรมแน่ๆ”

แหงสิ....ก็ข้าไม่ได้โปรแกรมการทำอาหารไว้นี้หน่า แล้วมันจะไป...

“อร่อย.....”

คำพูดของผมถูกขัดด้วยความรู้สึกของลิ้นที่สัมผัสเข้ากับความอ่อนนุ่มละมุนของครีมบนผิวหน้ากาแฟและความเข้นข้นของตัวกาแฟที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษเข้าจนทำลายความคิดที่คิดอยู่ไป

“กาแฟ....ติ๊ดๆ ถูกปาก....ติ๊ดๆ ไหม......ค....ค่....ค่ะ...”

มันยังคงพยามยามพูดกับผมอยู่ แต่มันก็คงรู้แล้วว่าผมชอบกาแฟของมันเพราะดันโพล่งปากออกไปแล้วว่าอร่อยนี้หน่าจึงได้แต่ต้องทำหน้าเข้มจิบกาแฟมันจนหมดแก้ว แล้วนั่งเก็กทำฟอร์ม

“ไปหัดทำอาหารมาจากไหนนะแก...ข้าไม่ได้โปรแกรมไว้นี้หน่า”

“ฝ....ฝึก...ติ๊ด! ฝึกกับคู่มือ ติ๊ด!!”

มันยกมือข้างหนึ่งขึ้นชูสมุดเล่มเล็กเล่มหนึ่งให้ผมดู ทำให้ผมตกใจและรีบคว้ามันมาทันทีเพราะมันนั้นไม่ใช่คู่มือทำอาหาร....แต่มันเป็นสมุดไดอารี่ของผมที่บังเอิญมีสูตรการชงกาแฟแบบที่ผมชอบแนบไว้ต่างหาก!ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปเอาสิ่งนี้มาได้ยังไง แต่...

“นั้น....มือแกโดนไฟลวกนี้หน่า...”

“เล็กน้อย.....ติ๊ด...ค...ค่ะ....”

“ไม่เอาน่า!!! เอามือมาให้ข้าดูสิ!!”

“หว่า!!!”

ผมกระชากมือของมันเข้ามาดูใกล้ๆและพบว่าเป็นรอยลวกที่เป็นผลมาจากน้ำร้อนที่ใช้ชงกาแฟเป็นแน่ผมเงยหน้าขึ้นมองมันและส่ายหน้าอย่างโกรธๆ ทำให้มันนั้นดูจ๋อยไปถนัดตาก่อนจะเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานและหยิบยาที่มีสรรพคุณในการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกแผลพุพองเป็นหนองผิวหนังอักเสบเป็นหนองออกมาและทามันลงทันที

“อ๊า!!!”

“อย่าร้องสิ! ให้ตายเถอะ....เป็นมายานักสู้ตัวแรกของข้าแท้ๆอย่ามาใจเสาะจะได้ไหม อีกอย่างแกก็ไม่มีจิตใจอยู่แล้วนิแกร้องไห้แกเจ็บได้ยังไง!!”

“ฮึก....ฮึก...”

เฮ้ย! จริงดิ....สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมชะงักในคำพูด เพราะไอ้ร่างที่ผมกล่าวหาว่าไม่มีจิตใจนั้นมันกลับมีน้ำตาออกมาซะงั้น จนผมต้องทาแผลไฟลวกของมันอย่างแผ่วเบาจนมันหยุดร้องท่ามกลางความสงสัยของตัวเองว่าทำไมครึ่งจักรกลครึ่งมายาตัวนี้จึงร้องไห้ได้ยังคงค้างคาอยู่

“ฟี้....ฟี้....”

ชะอ้าว.....หลับไปซะงั้น...เจ้าดาร์กไนท์ลำดับ 3 ทว่ากลับเป็นมายาตัวแรกสุดที่ข้าสร้างสำเร็จในขณะที่อีกสองตัวนั้นสร้างก่อนแต่ก็ยังไม่สำเร็จนอนหลับบนตักข้าอยู่ทั้งๆที่ข้ายังทายาให้มันอยู่

“.........นี้เป็นความผิดพลาดของการทดลอง......หรือว่าเป็นสิ่งได้มาเกินความคาดหมายกันแน่นะ...แต่.....ไอ้เจ้าเด็กน้อยตัวนี้มันก็ทำตัวน่ารักดีนี้ ฮึๆๆ”

ผมอุ้มเจ้ามายาตัวฟ้า(แต่หนักฉิบเพราะเป็นธาตุเหล็ก)ไปวางไว้ในแคปซูลของมันที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นที่นอนและเช็คสภาพร่างกายของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันหลังกลับไป

“จะดูแล.....เป็นอย่างดีค่ะ.....Master....”

เสียงนั้นชัดเจนจนทำให้ผมต้องหันกลับไป แต่ร่างนั้นก็ยังคงหลับอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะละเมอพูดละนะ

“หึๆๆๆ ให้ตายสิเจ้าครึ่งมายาตัวนี้ของข้า....ทำตัวน่ารักจริงๆเลยนะ...”

--------------------- Memory Fast out -------------------

“ไง....มีใคร....ที่นายไม่สามารถสูญเสียไปได้บ้างรึเปล่า...”

เสียงลีฟฟ่อนดึงไฟร์เร้ดกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง

“.......ไม่มีหรอก......ของแบบนั้นคนอย่างข้าไม่มีหรอก!!!! อย่ามาพูดทำให้ข้าไขว่เขว้จากความตั้งใจของข้านะ!!!!”

พรึ่บ!!!! ดาบเปลวเพลิงถูกเหวี่ยงเปิดการต่อสู้อีกครั้งคราวนี้ลีฟฟ่อนไม่สามารถป้องกันมันได้เพราะไฟร์เร้ดนั้นเปลี่ยนท่าทางของตัวเองอย่างรวเร็วจนคาดไม่ถึง ร่างซีกซ้ายเกือบทั้งหมดของลีฟฟ่อนถูกการโจมตีของเพลิงสังหารเข้าอย่างจัง และเกิดไฟลุกท่วมร่างก่อนจะดับไปเมื่อถูกพลังของผ้าพันดาบปีศาจกลืนกินไปจนหมด

“ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดข้าก็ชนะแก!!!”

“............”

การโจมตีนั้นสร้างความเสียหายให้กับลีฟฟ่อนอย่างร้ายกาจร่างซีกซ้ายของลีฟฟ่อนไหม้ดำเป็นเตาตะโกและค่อยๆแตกสลายไปจากแรงลมแห่งการร่วงหล่น มือข้างที่ถูกไฟไหม้ห้อยนิ่งไม่ขยับและค่อยๆปริแตกสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน เปลวไฟของไฟร์เร้ดนั้นรุนแรงมากจริงๆ

“อีกไม่ช้าแกก็ต้องตายแล้ว และหลังจากนั้น......อาณาจักรเบื้องล่างนี้ก็จะถูกข้าทำลาย!!!”

“.....ไม่ยอม.....เข้าใจอะไรเอาซะเลย.....”

“ว่าไงนะ! จะตายแล้วยังมาพล่ามอะไรของแกอีก!!!”

“อาณาจักรเบื้องล่างนั้น....ข้าสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ....และข้าก็รักมันมาก....ยังไงข้าก็ไม่มีวันยอมให้แกทำลายสิ่งที่ข้ารักสิ่งที่ข้าสร้างได้หรอก!!!!! ย๊ากกก!!!”

“!!!!!!!”

ไฟร์เร้ดตกตะลึงเมื่อลีฟฟ่อนฮึดสู้ฟันดาบใส่เขาอีกครั้งเขายกดาบของเขาขึ้นมาป้องกันแต่แรงฟาดของดาบที่ฟันมานั้นรุนแรงมากกว่าเก่าหลายเท่านักจนเขาซวนเซเสียกลางอากาศ ดวงตาสีแดงเบิกกว้างอย่างตกใจกับภาพที่ได้เห็นลีฟฟ่อนนั้นกำลังใช้มือทั้งสองถือดาบเอาไว้มั่น....ทั้งๆที่มืออีกข้างของเขานั้นไหม้เกรียมจนเกือบเห็นแกนกระดูกแล้ว!!!

“ม....ไม่จริงน่า.....”

“ว๊ากกกกกกก!!!!!!!!!!!”

ตูม!!!!! เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นกลางอากาศพร้อมการฟันครั้งสุดท้ายของลีฟฟ่อน

-----------------------------------------------------------------------------

ณ ฐานทัพกลางฟากฟ้ากองกำลังต่อต้านทางอากาศลีฟฟ่อน

เฟี้ยว!!! ตูม!!!!!

สองสิ่งหล่นร่วงลงมากระแทกดานฟ้าของยานอย่างรุนแรงจนสร้างความสะเทือนไปถึงห้องของเหล่าผู้กล้าเมื่อมีสิ่งบินที่ไม่ระบุสัญชาติตกร่วงลงมาจากใส่ยานแบบนี้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกป้องยานที่ต้องออกไปดูว่าคือสิ่งใด เซจูโร่ รันโน่ จิจัง ปิกาจู และเทีย 5 โรยอลไนท์ประจำกองทัพอากาศเร่งรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ ลูคาริโอ้และมูมาจิ สองที่รักของราชาอาณาจักรด้วย

ภาพที่พวกเขาเห็นคือสภาพความพินาศของพื้นไม้อันเป็นดานฟ้าของคฤหาสท์ใบไม้ที่กลายเป็นฐานทัพอากาศแห่งนี้ พร้อมกับควันจากการกระแทกที่ค่อยๆหายไป ให้เห็นร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ได้ท่ามกลางซากเหล่านั้น...

“ท....ท่านลีฟฟ่อน!!!!”

ใช่แล้ว....ร่างที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขานั้นคือลีฟฟ่อน อารากิราชาที่พวกเขารู้จักแต่ก็อยู่ในสภาพที่บาดเจ็บปางตายด้วยแผลไฟไหม้ที่ร่างกายซีกซ้ายเขายิ้มให้กำทุกคนแบบประกาศชัยชนะและค่อยๆเดินมาหาทุกคนอย่างทุลักทุเล

“คิดว่า....ชนะแล้วงั้นเหรอ....”

ฉึก!!!!!

“กรี๊ด!!!!!”

ดาบเล่มยาวผุดพรวดออกมาจากกลางออกของลีฟฟ่อนและผลุบหายไป พร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากปากแผล ลีฟฟ่อนที่ชะงักเอามือขึ้นแตะบาดแผลนั้น จากนั้นก็ทรุดเข่าล้มลงไปลูคาริโอ้และทุกคนรีบพุ่งไปดูผู้เป็นเจ้านายของเขาทันทีในขณะที่ไฟร์เ้ร้ดที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บพอๆกันนั้นยืนแสหะยิ้มมองผลงานของตัวเอง พร้อมพูดว่า...

"ศึกครั้งนี้.......ข้าชนะ.....”

โปรดติดตามตอนต่อไป!!!

--------------------------------------------------------------------

ฺBad End กำลังจะมาถึงแล้วเหอๆๆๆ

ปล.ความจริงที่ไม่ได้วาดภาพเพราะวาดไม่ได้อ่ะ....ช่วงนี้ติดวาดภาพสัตว์มากไปหน่อยวาดคนไม่ได้เลย -*-

Me/ โหมดหนีความจริง....

Link to comment
Share on other sites

มันจะมาแล้ว มันจะมาแล้ว

อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้จะเม้นอะไรดีแฮะ นึกไม่ออก

เอาเป็นว่ามาอ่านแล้วนะ

Link to comment
Share on other sites

อ่ะ.....

ไฟร์เร้ดน่าสงสารจริงแท้........

Bad End จะเป็นยังไงน่อ~

Link to comment
Share on other sites

หนี Bad End ไม่ได้จริงๆเลยเหรอ...

แต่อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง

Link to comment
Share on other sites

Bad End ... จะเป็นโศกนาถกรรมที่สวยงามรึปล่าวน้า... อยากรู้จริงๆ หึๆ

(แต่มันจะโศกนาถกรรมจริงหรือ? หรือBad Endจะเป็นความหมายอื่น)

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...
มันจะมาแล้ว มันจะมาแล้ว

อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้จะเม้นอะไรดีแฮะ นึกไม่ออก

เอาเป็นว่ามาอ่านแล้วนะ

เสียใจนิดๆ...แสดงว่าฟิคเราไม่มีอะไรน่าสนพอจะให้พูดเลยสินะครับ TT-TT

ทำไมตัวผมถึงม่ายมีชื่อแง้~

* Rubysmart วิ่งออกไปจากบอร์ด

ลืมงับ....-*-

อ่ะ.....

ไฟร์เร้ดน่าสงสารจริงแท้........

Bad End จะเป็นยังไงน่อ~

มีผู้คิดข้างฝ่ายร้ายแล้วรึเนี้ย โอ้~ ชาบูๆ

หนี Bad End ไม่ได้จริงๆเลยเหรอ...

แต่อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง

อยากรู้ก็ต้องตามติดฟิคผมเรื่อยๆนะครับ เดี๋ยวก็จะจบแล้วละ ^^

Bad End ... จะเป็นโศกนาถกรรมที่สวยงามรึปล่าวน้า... อยากรู้จริงๆ หึๆ

(แต่มันจะโศกนาถกรรมจริงหรือ? หรือBad Endจะเป็นความหมายอื่น)

อยากรู้ก็ต้องดูกันต่อไป (ฮา)

ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานาน มา....ติดตามชมตอนต่อไปได้แล้วคร้าบ~!!!!

------------------------------------------------------------

- The Winner -

"ข้า.......ชนะแล้ว....”

ร่างที่ถูกทำร้ายจากเบื้องหลัง นอนหน้าคว่ำลงกับพื้นไม้ของยานบินที่มีบ้านไม้หลังงามอยู่บนด่านฟ้าตัวยาน บาดแผลที่เกิดกับร่างกายนั้นสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะสำคัญของร่างกาย ที่ชื่อ “หัวใจ” จนทำให้ร่างนั้นแน่นิ่งไม่ไหวติ่งอีกต่อไป ในขณะที่ผู้สังหารเขานั้นยืนหัวเราะอยู่ไม่ห่างนัก

“วะ ฮ่าๆๆ ในที่สุด! ในที่สุด! ข้าก็ทำสำเร็จ!! ที่นี้ก็เหลือแค่ทำลายไอ้เกาะเล็กๆนี้ให้หมดเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วยาน มันเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำเสียงแห่งความชั่วร้าย อีกทั้งคำพูดนั้นก็ยังทำให้เหล่าผู้ที่รักลีฟฟ่อนนั้นรู้สึกปวดใจ การเห็นคนที่รักสิ้นไปต่อหน้านั้นทำให้หนึ่งในพวกเขารู้สึกทนไม่ได้ที่จะ....

“แก!!!! ตายซะเถอะ!!!!!!!!”

เซจูโร่ โปเกม่อนสายพันธุ์ Galled ชักดาบซามูไรญี่ปุ่นที่ตรงเอวออกมา และตรงเข้าฟันไฟร์เร้ดทันที แต่คมดาบนั้นก็ไม่สามารถทำร้ายชายคนนั้นได้ เพราะมีร่างหนึ่งกระโจนเข้ามาขัดขวางเสียก่อน พร้อมกับอีกสองร่างที่หมุนตัวเตะเซจูโร่จนต้องถอยกลับไป

“ไม่ยอมให้ใครทำร้ายท่านไฟร์เร้ดหรอก...”

สองดาร์กไนท์ Dn1 และ Dn2 ยืนเบื้องหน้าไฟร์เร้ดคล้ายกับตั้งการ์ดปกป้องเจ้านายตัวเองเอาไว้ ในขณะที่ลูคานารินั้นเข้าไปประคองไฟร์เร้ดที่ทรุดเข่าล้มลงไปแล้ว เพราะถึงแม้เขานั้นจะสามารถฆ่าลีฟฟ่อนได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว

“อย่ามากขวางนะ ข้าจะฆ่าเจ้าหมอนั้น มีเพียงแกเท่านั้น ที่ข้าคนนี้ไม่มีทางอภัยให้อย่างเด็ดขาด!!!” เซจูโร่สะบัดดาบเตรียมรบอีกครั้ง

“พวกเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน!!!!” รันโน่(Nidorun) จิจัง(Pachirisu) เนออส(Pikachu) และ เทีย(Buizel) ตั้งท่าจะเข้าประจัญหน้ากับดาร์กไนท์ทั้งสอง

โรยอลไนท์ทั้ง 4 ประจัญหน้ากับสองดาร์กไนท์แล้ว หรือว่าจะเกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างนักรบระดับ Hero Class ของทั้งสองฝ่ายขึ้นละเนี้ย เหตุการณ์เริ่มน่าติดตามชมแล้ว!!!

“เฮ้อ~ หลับสบายจัง งึมๆๆ เอา! ทุกคนกำลังเล่นอะไรกันอยู่เหรอ?”

!!!!!!!!!!!!!

ชะงักกันไปเป็นทิวแถวทั้งฝ่ายมิสเทอรี้และฝ่ายไฟร์เร้ด เมื่อเสียงที่คุ้นหูดังเข้ามาในโสตประสาทแห่งการได้ยิน ทั้งหมดพร้อมใจกันหันไปมองร่างที่นอนอยู่บนตักของลูคาริโอ้ทันที ในขณะที่ลูคาริโอ้นั้นสายหน้าเหมือนจะบอกว่าตัวเธอนั้นไม่ได้พูดและผู้ที่นอนหนุนตักเธออยู่ก็ไม่ได้พูดเช่นกัน แต่เสียงที่พวกเขาได้ยินนั้น เป็นเสียงของ “ลีฟฟ่อน” ไม่ผิดแน่!!

“อ้าว~ ทำไมหุ่นเชิดของฉันถึงได้ไปนอนหนุนตักเธอได้ละเนี้ยลูคาริโอ้ อุ๊! ตายจริง...เสียหายไปมากขนาดนี้เลยรึ มิหน่าละทำไมสัญญาณสมองที่ส่งมาถึงได้ขาดหายไป”

เฮือก!!! เจ้าของเสียงปรากฏตัวมาแล้วจากช่องประตูไม้ซึ่งเป็นทางเข้าทางเดียวที่จะมายังระเบียงของคฤหาสท์ใบไม้อันเป็นด่านฟ้าของตัวยานได้ เขานั้นเดินเข้าไปหาร่างที่มีหน้าตาเหมือนตัวเขาเปี้ยบทุกประการที่อยู่บนตักของลูคาริโอ้ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆและกดนิ้วลงกลางหน้าผากของร่างนั้น

วูบ!!!!

ร่างที่มีเนื้อหนัง และเคยชื่อว่าลีฟฟ่อนนั้นค่อยๆเปลี่ยนไป เหล่าเลือดเนื้อผิวหนังเส้นเอ็นเสื้อผ้าค่อยๆแตกสลายจนเหลือเพียงแต่โครงกระดูกเหล็กที่ดูเหมือนจักรกลที่มาจากเรื่องคนเหล็กไม่มีผิด การเปลี่ยนไปของร่างนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นตกใจ แต่ที่ตกใจเป็นที่สุดก็คือผู้ที่มาใหม่นี้ละ!

“สวัสดีครับ คุณไฟร์เร้ด....ผมชื่อลีฟฟ่อน อารากิครับ ตัวจริงเสียงจริง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

c8Pcd482.jpg

ลีฟฟ่อน อารากิตัวจริงโค้งคำนับให้กับไฟร์เร้ดที่นั่งหมดแรงที่จะยืนข้างๆลูคานาริและเบิกตากว้างราวกับเห็นผี ซึ่งอาจจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะคนที่เขาเห็นตรงหน้านั้น ช่างเหมือนกับคนที่ดาร์กไนท์ของเขาต่อสู้ และคนที่เขาสังหารมากจริงๆ ถึงแม้ตอนนี้ลีฟฟ่อนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะใส่ชุดผ้าคลุมสีน้ำเงินสุดคลาสสิคของเขาอยู่ก็เถอะ

“ท....ทำไม...ทำไมแกถึงได้.....”

“ฮะๆๆ สู้กับ....หุ่นเชิด.....ของผมสนุกดีไหมละครับ ไม่สิ....ผมควรจะเรียกว่าร่างอวตารของผมคงจะดีกว่านะครับ ก็ผมนอนหลับอยู่ที่ห้องทดลองเพื่อจะควบคุมมันจากระยะไกลนี้นะครับ”

“ห...หุ่น....หุ่นเชิดเหรอ!!!”  ไฟร์เร้ดหันควับไปมองเศษเหล็กที่ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้อีกครั้ง แม้แต่ร่างที่ควบคุมจากระยะไกลยังสามารถแสดงพลังได้ถึงขนาดนั้น ไฟร์เร้ดไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าพลังที่แท้จริงของลีฟฟ่อนนั้นจะขนาดไหน

“ช่วยไม่ได้...ก็ผมเป็นยอดตัวร้ายนี้หน่า ฮะๆๆ จะมีหุ่นเชิดแทนตัวของตัวเองจะแปลกอะไรละครับ?  คุณพระเอก...“

ลีฟฟ่อนหัวเราะเริงร่าเยอะเย้ยผู้เป็นศัตรู โดยไม่รู้ว่าคำพูดของเขานั้นยังส่งผลทำให้ฝ่ายตัวเองเจ็บไปเสียด้วย ก็เสียใจมากมายมหาศาลอยู่ดีๆ ความรู้สึกนั้นกลับกลายเป้นเพียงเรื่องตลกที่ถูกหลอกซะได้นี้หน่า แต่สำหรับลูคาริโอ้แล้ว เธอก็ดีใจที่ถูกหลอก เพราะอย่างน้อยเธอนั้นก็ไม่ได้สูญเสียลีฟฟ่อนคนที่เธอรักไป

“บ....บ้าที่สุด!!! Dn1 Dn2 Nari!!! จัดการมันซะ!!!!” ไฟร์เร้ดประกาศเสียงดัง ลูกน้องของเขาหันไปมองเจ้านายเหมือนกับจะทวนคำสั่ง พอเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเจ้านาย ทั้งหมดก็ตั้งท่าเข้าประจัญบานทันที

“เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ ท่า...” เนออสกับรันโน่ทำท่าจะออกโรงเอง แต่ฝ่ามือที่สวมถุงมือเหล็กไว้ของลีฟฟ่อนก็กางกั้นพวกเขาเอาไว้

“ไม่เป็นไร....ครั้งนี้เป็นหน้าที่ของข้า....ถึงเวล่าต้องโชว์พลังของร่างที่แท้จริงให้เห็นแล้วละ หึๆๆ”

พรึ่บ!!! ผ้าคลุมสีน้ำเงินบนตัวติดไฟและมอดไหม้เป็นผงธุรีไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นลีฟฟ่อนก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ในรูบแบการตั้งท่ารบอย่างนักมวยไทยคาดเชือกทันที และมือทั้งสองข้างของลีฟฟ่อนนั้นก็ปรากฏเปลวไฟสีฟ้าครามลุกโชติช่วงอยู่ทั้งสองมือ ที่ดูเหมือนจะไม่ทำอันตรายลีฟฟ่อนแม้แต่น้อย

“จิจัง....ช่วยหน่อยสิ....สัญญาณเข้าการต่อสู้นะ...”

“เอ๊ะ...เอ่อ....G…..Get’s Ready!!”

“FIGHT!!!!!!!!!!”

Triple Battle Start!!!!

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจริงๆเปิดฉากขึ้นด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวเท่านั้นลีฟฟ่อนก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่จนทำให้ศัตรูที่มีถึงสามนั้นหันหลังล้อมกันและหันหน้ามองไปรอบทิศทางอย่างสับสน มึนงง เพราะไม่เห็นร่างของลีฟฟ่อนแม้แต่น้อย แม้แต่เสียงกระทบพื้นก็ไม่มีให้ได้ยิน และออร่าของลูคานาริก็ไม่สามารถจับออร่าของลีฟฟ่อนได้แม้แต่น้อย

“ข้านะ.....เก่งนะ....”

“!!!!!!!!!”

ร่างสีครามผู้ไวดุจแสงปรากฏอยู่ท่ามกลางร่างที่ยืนหันหลังให้แก่กันทั้งสาม สร้างความตกใจให้พวกเขา แต่กว่าจะหันกลับไปมองได้นั้น การโจมตีของลีฟฟ่อนก็เกิดเสียแล้ว

แปะ....

ตูม!!!!!!!! ลีฟฟ่อนใช้ฝ่ามือทั้งสองประกบกันจนเกิดเสียง จากนั้นก็กระแทกฝ่ามือนั้นลงพื้น พร้อมอันพลังไฟในมือที่ร้อนแรง ปรากฏวงแหวนแปรธาตุขึ้น จากนั้นก็เกิดสายพลังสีฟ้า 9 สายรูปร่างดุจมังกรจีนผุดขึ้นมาจากพื้น พุ่งเข้ากัดฝังเขี้ยวและทำร้ายดาร์กไนท์ทั้งสาม จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ความเสียหายนั้นมหาศาลจนทั้งสามแทบจะขยับไม่ได้

“โลกนี้นะ....อยู่ภายใต้กฏแห่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน...”

เปาะ! ลีฟฟ่อนดีดนิ้วมือขวาให้เกิดเสียง ทันใดนั้นก็เกิดคลื่นสั่นสะเทือนภายใต้ตัวของดาร์กไนท์ทั้งสาม ทั้งสามมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตระหนกตกใจเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วจู่ๆร่างทั้งสามก็ทรุดฟุ่บลงกับพื้นไปเสียเฉย ไฟร์เร้ดมองอาการลูกน้องของตัวเองอย่างงุนงง

“ที่นี้มันถิ่นข้า.....พลังของพวกเจ้า....ขอข้านะ....”

ใช่แล้ว!!! สิ่งที่ลีฟฟ่อนทำ คือการดูดพลังของดาร์กไนท์ทั้งสามโดยผ่านการสะเทือนอย่างรุนแรงของคลื่นที่ตัวเองแผ่ออกไปนั้นเอง!

Battle End!!! Leafond Win!!!

การต่อที่รวดเร็วมากได้จบลงแล้ว พร้อมกับการหมดสภาพที่จะสู้ต่อของดาร์กไนท์ทั้งสาม ลีฟฟ่อนยืนเก่งหล่ออยู่เบื้องหน้าของผู้นำฝ่ายศัตรู ไฟร์เร้ดผู้ที่นิ่งเงียบไป หลังจากที่ลูกน้องของตนนั้นพ่ายแพ้ให้กับลีฟฟ่อนโดยที่ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้เลยแม้แต่น้อย ลีฟฟ่อนเดินไปยังระเบียงบ้านและมองเกาะของเขาเองโดยรอบ

“ดูเหมือนว่า.....นายจะแพ้แล้วนะไฟร์เร้ด....กองทัพที่มากมายของนายนะ ได้ถูกกองทัพพวกเราจัดการไปหมดแล้ว...”

“.........................”

“เงียบไปเลยงั้นรึ...คงจะช็อกมากละสิ ที่กองทัพเล็กๆของเราสามารถทำลายกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของนายได้ แถมยังไม่มีใครตายสักคนเลย”

“หึ..หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”

“ข...ขำอะไรของนาย!? หรือว่าเพราะแพ้แล้วบ้าขึ้นมารึไง”

“ฮ่าๆๆๆ คิดว่า....คิดว่าจบแล้วงั้นรึ! คิดว่ากองทัพข้ามีแค่นี้รึไง!! ฮ่าๆๆๆ ไม่! มันยังไม่จบหรอก  มันยังไม่จบ!!! ฮ่าๆๆๆ”

ไฟร์เร้ดหัวเราะร่า เขาลุกยืนขึ้นโบกไม้โบกมือไปมาทั้งโซเซราวกับคนเสียสติ ลีฟฟ่อนนั้นเดินถอยห่างไฟร์เร้ดไปเล็กด้วยความผวา เช่นเดียวกับคณะของลีฟฟ่อนที่ถอยไปหลายก้าว เพราะภูมิต้านทานต่อความบ้านั้น พวกเขามีน้อยกว่าลีฟฟ่อนนี้หน่า

“จงดูซะ!!! กองกำลังที่แท้จริง....ของกองทัพข้า!!!!”

ติ้ด! ไฟร์เร้ดล้วงกระเป๋ากางเกงและหยิบรีโมทสีดำขึ้น เขาเปิดกระจกใสบนรีโมทและกดปุ่มสีเขียว ทันใดนั้นเองลีฟฟ่อนและพวกลูคาริโอ้ก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้เห็น....

สีดำ.....กลุ่มก้อนสีดำที่มีความกว้างจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อยู่บนผิวน้ำซึ่งห่างจากเกาะมิสเทอรี้ไปเกือบกิโลเมตร แต่ก็กำลังพุ่งเข้ามายังอาณาจักรมิสเทอรี้ด้วยความเร็วสูง ที่ไม่อาจคะเนได้เลยมีจำนวนมากมายมหาศาลเพียงใด แต่ที่แน่นอนคือ หากความมืดมีมากขนาดนั้น กองทัพฝ่ายมิสเทอรี้ที่มีอยู่น้อยกว่า ทั้งเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ที่ยาวด้าน อีกทั้งเสบียงก็เริ่มหรอยหร่อ คงไม่อาจต้านทานได้เป็นแน่

“ไงๆๆๆ จะทำยังไงต่อละ...คุณยอดตัวร้าย ฮ่าๆๆๆๆ”

ลีฟฟ่อนนิ่งสนิท เขาก้มหน้าลงจนผมนั้นปิดบังดวงตาของเขา ลูคาริโอ้ มูมาจิ จิจัง เนออส เซจูโร่ และรันโน่มองผู้เป็นราชาของเขาด้วยความกังวล เพราะตัวพวกเขาแต่ละคนเองนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังแล้วเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่สิ! มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือกับกองทัพที่มีประมาณ(เท่าที่ดู)เกือบครึ่งหมื่นได้

พรึ่บ!!! Miracle Grove ที่มือของลีฟฟ่อนลุกเป็นไฟสีฟ้าคราม ความแรงของมันค่อยๆทำให้ร่างในชุดผ้าคลุมสีน้ำเงินค่อยๆลอยขึ้นฟ้าอย่างช้าๆ เมื่อถึงระดับหนึ่งของการบิน เขาก็ค่อยๆหันหน้ามามองทุกคนอย่างช้าๆ แววตาที่หวาดกลัวและมีน้ำตาของลีฟฟ่อนทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ

และคำที่พระราชาของพวกเขาเอ่ยพูดคือ....

--------------------------------------------------------

Bad End ใกล้เข้ามาแล้ว หึๆๆๆ

Me/ หัวเราะคนเดียวอย่างคนเสียสติ....

Link to comment
Share on other sites

ใกล้จะเข้ามาทุกทีแล้ว....

ลีฟฟ่อนมีหุ่นเชิดซะด้วย เมพจริงๆ

สรุปแล้วใครตัวร้าย ใครพระเอกกันแน่หว่า 555+

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.