Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Tale Of Leafond (ตำนานราชาอาณาจักร Mystery) - (56K Warning!!) (True Ending)


Loveless Nova

Recommended Posts

ใกล้จะจบแล้ว... แต่ก็ยังไม่ถึงสินะ

เดาตอนจบไว้แล้ว... แต่จะใช่รึปล่าวนะ

ลีฟฟ่อนกลายเป็นตัวร้ายไปแล้ว... จะใช่หรอฟะ!!! [me=ΛтιШι¢Ħ]โดนตบกระเด็น[/me]

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 105
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Thama

    17

  • Loveless Nova

    17

  • ไมยาเตะ (เชมี่)

    16

  • Risu

    13

ลีฟฟ่อนเป็นตัวร้ายไปสักแล้ว - -

แต่ทำไมกระผมรู้สึกเหมือนมันจะมีหักมุม (รึเปล่า...)

Link to comment
Share on other sites

ใกล้จบแล้วๆๆ

อ้าว...

โดเรม่อนหายไปไหนอีก

ทำสงครามอยู่ ไม่มีบทเด่นเท่าไหร่

ใกล้จะเข้ามาทุกทีแล้ว....

ลีฟฟ่อนมีหุ่นเชิดซะด้วย เมพจริงๆ

สรุปแล้วใครตัวร้าย ใครพระเอกกันแน่หว่า 555+

เหอๆๆๆ

ลีฟตัวร้ายเร้ดตัวเองไรเนี่ยตรูงง

เรื่องของท่านเถอะ  :pika02:

ใกล้จะจบแล้ว... แต่ก็ยังไม่ถึงสินะ

เดาตอนจบไว้แล้ว... แต่จะใช่รึปล่าวนะ

ลีฟฟ่อนกลายเป็นตัวร้ายไปแล้ว... จะใช่หรอฟะ!!!

* ΛтιШι¢Ħ โดนตบกระเด็น

ร้ายเพื่อรักไง ฮะๆๆ :pika01:

ลีฟฟ่อนเป็นตัวร้ายไปสักแล้ว - -

แต่ทำไมกระผมรู้สึกเหมือนมันจะมีหักมุม (รึเปล่า...)

จะหักหรือไม่ต้องรอชมให้ดีละกันนะครับ~!!!

----------------------------------------------------------------

- Say Bad Bye –

“ข้ากำลังจะไปจากอาณาจักรนี้ลูคาริโอ้......และข้าจะไม่หวนกลับมาอีก”

“ท่านลีฟฟ่อน!!! ท่านหมายความว่าไง! ท่านจะทิ้งพวกเราไปงั้นเหรอ!?” ลูคาริโอ้กำมือและตะโกนขึ้นพูดกับลีฟฟ่อนที่กำลังบินอยู่ด้วยพลังไฟที่เกิดจากถุงมือ Miracle Grove แต่ว่าชายผู้นั่นนิ่งเงียบและไม่พูดอะไรออกมา

“ไหนท่านบอกว่าท่านจะอยู่เคียงข้างพวกเราตลอดไปไง! ท่านกำลังจะหนี จะทิ้งพวกเราไปงั้นเหรอค่ะ~!!!”

“......ขอโทษลูคาริโอ้.....และลาก่อน....”

a6N9ef81.jpg

ฟ้าว~!!! ลีฟฟ่อนเร่งเปลวไฟที่ถุงมือเร่งตัวเองพุ่งไปเหนือฟากฟ้าอย่างรวดเร็วพร้อมเอ่ยคำบอกลากับโปเกม่อนที่ตนรักที่สุด ทิ้งให้ลูคาริโอ้ มูมาจิ เหล่าโรยอลไนท์ทั้ง 5 ประจำกองทัพอากาศ และดาร์กไนท์ฝ่ายศัตรู รวมทั้งไฟร์เร้ดที่สู้กับลีฟฟ่อนจนหมดสภาพแล้วเอาไว้บนคฤหาสท์บินแห่งนี้

“ฮ่าๆๆๆ พวกมันทิ้งพวกแกไปแล้ว~!!! ก๊ากๆๆ พอได้ยินว่ามีกองทัพมายานับพันของข้ากำลังจะขึ้นฝั่งแล้วก็กลัวจนขึ้นสมองแล้วเอาตัวรอดไปแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆ” ไฟร์เร้ดหัวเราะร่าอย่างชั่วร้ายทั้งที่ยังทรุดเข่านั่งอยู่ท่าเดิม

“หุบปากน่า~!!! ท่านลีฟฟ่อนไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก!!!”  รันโน่หันไปตวาดใส่หัวหน้าฝ่ายศัตรูด้วยความไม่พอใจ

“มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ละ ฮ่าๆๆ ต้องเอาตัวเองรอดไว้ก่อนเรื่องอื่นก็ช่างมัน! ไอ้สิ่งลวงตาที่จับต้องได้อย่างพวกแกนั้นเหรอ มันไม่สนใจแกหรอก!! เห็นไหมละ! มันทิ้งพวกแกไปแล้ว! สำนึกได้รึยังละว่าพวกแกมันไร้ค่าสำหรับมนุษย์ ฮ่าๆๆๆ”

เหล่าโรยอลไนท์นิ่งเงียบไปตามๆกันเพราะไม่อาจหาคำใดมาตอบโต้ไฟร์เร้ดได้ เพราะภาพตรงหน้าและเสียงที่ลีฟฟ่อนพูดเมื่อครู่นี้นั้น ทำให้ความมั่นใจในพระเจ้าของพวกเขานั้นเริ่มสั่นคลอน แต่แล้วลูคาริโอ้ที่ก้มหน้าเงียบอยู่นั้นก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าหาไฟร์เร้ด เธอกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาอย่างรุนแรงท่ามกลางความตกใจของใครหลายคน

“หุบปากของแกซะ!!! ยังไงฉันก็ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าท่านลีฟฟ่อนจะทิ้งพวกเราไป!!! ต่อให้ลีฟฟ่อนเอามีดมาแทงอกฉันๆก็ไม่มีวันที่จะคิดว่าท่านลีฟฟ่อนหักหลังพวกเราแน่!!!! ฉัน......เชื่อใจในตัวท่านลีฟฟ่อน.....เชื่อใจด้วยชีวิต!!!!!”

“ฮึ....ความโง่ของพวกสิ่งมีชีวิตจอมปลอม...ก็แค่หลอกตัวเองละน่า~”  ชายหนุ่มผมสีดำตั้งแฉกเสหน้าและยังคงแสหะยิ้มอยู่ ทั้งๆที่แววตาภายใต้ผมที่ปรกหน้านั้นเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย

“ไม่ใช่หลอกตัวเอง....” เซจูโร่เงยหน้าขึ้นพูด เขาย่างเท้าออกมาจากกลุ่มสองก้าว

“แต่ว่า....เราเชื่อใจในตัวท่านลีฟฟ่อน” เนออสและจิจังเดินก้าวมายืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มโรยอลไนท์

“แม้ว่าพวกเรานั้นจะโง่ก็ไม่เป็นไร....” เทียเดินก้าวมายินข้างเนออสและจิจัง

“เพราะความเชื่อใจมันไม่ได้มาจากความความคิด...” รันโน่เดินมายืนข้างเซจูโร่

“แต่มันจากหัวใจต่างหาก~!!!”

ลูคาริโอ้พูดและซัดไฟร์เร้ดไปนอนกองกับพื้นในทันที เส้นผมที่ปิดหน้าอยู่เชิดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่รู้ของชายผู้ชั่วร้ายนั้น ไฟร์เร้ดนอนแผ่กับพื้นไป โดยที่ลูคานาริ ดาร์กไนท์ผู้จำลองแบบลูคาริโอ้เข้ามาใกล้อย่างเป็นห่วง

“พวกเราเชื่อใจท่านนะท่านลีฟฟ่อน....เชื่อท่านจากหัวใจ....”

--------------------------------------------------------

“เอาละนะ.....สูงประมาณนี้คงจะได้แล้ว....”

“ท่านลีฟฟ่อน!!! ท่านคิดจะทำอะไรนะ!!! อย่าบอกนะว่าท่าน....!!!”

“อ่า....อัลเซอุสเหรอ? ทางนั้นเป็นยังไงบ้างละ?”

“พวกเรายังไหวครับท่านลีฟฟ่อน! แต่ท่านลีฟฟ่อนอย่าทำสิ่งนั้นอย่างเด็ดขาดนะครับ!!!!”

“ขอโทษนะ...ข้าไม่อาจทำตามคำขอร้องของเจ้าได้.........ฝากปกป้องพวกโซระและพันธมิตรมายาของพวกเราด้วยนะอัลเซอุส.....และลาก่อน....ข้าสนุกมากเลยนะกับโลกนี้ กับอาณาจักรที่เจ้าอุตส่าห์สร้างให้กับข้า...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างอัลเซอุส ลูกชายของข้า”

“หยุดนะท่านลีฟฟ่อน!!!! ไม่อย่างนั้นชีวิตของท่านก็จะ...!!!!”

ฟึ่บ!!! ลีฟฟ่อนถอดบลูทูธออกก่อนจะปล่อยทิ้งลงไปให้ร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ชายในชุดผ้าสีน้ำเงินค่อยๆกางมือไปด้านข้างของตัวเอง และข่มตาลงเปล่งพลังคลื่นความถี่มหาศาลออกมาผ่านถุงมือซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับดึงพลังปราณที่มีมหาศาลในตัวเขา จนเกิดเป็นก้อนพลังคลื่นความถี่ขนาดใหญ่ขึ้นมา มือสองข้างที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงนั้นค่อยๆฝืนยกขึ้นไปชูเหนือหัวและรวบก้อนพลังปราณนั้นเข้าด้วยกันก่อนที่ระเบิดคลื่นความถี่จะสาดซัดออกมาอย่างรุนแรง

“พลัง.....จงอยู่ในกายข้า.....ย๊าก!!!! Ultima Aura!!!!!”

--------------------------------------------------------------

กี๊ซ~!!!! ระเบิดคลื่นความถี่แผ่กระจายไปทั่วอาณาจักรอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันมีผลในในทางลบกับพวกมายาเป็นอย่างมากในขนาดที่พวกโปเกม่อนนั้นเมื่อได้รับพลังคลื่นความถี่มากลับหายดีจากอาการบาดเจ็บเสียทั้งหมด พวกเขาทั้งหลายมองไปรอบๆอย่างงุนงง และหันควับไปมองเหล่าทหารปีศาจมายาของไฟร์เร้ดที่ค่อยสลายหายไปกับความว่างเปล่าทีละตัวสองตัวจนหมดทั้งกองทัพ

“เกิดอะไรขึ้น!?!”

“ม....ไม่รู้ครับท่าน แต่ดูเหมือนว่ากองทัพมายาฝ่ายศัตรูกำลังสลายหายไปหมดเลยครับ!!!”

“อะไรนะ!!!!”

-----------------------------------------------------------

“......คลื่นความถี่นี้มัน…..รู้สึกราวกับร่างจะแหลกเป็นชิ้นๆ.....” ร่างมายาสีดำผู้พันผ้าพันคอสีแดงทรุดลงกับพื้นและจิกกรงเล็บกับพื้นดิน สีหน้าเต็มไปด้วยความทรมารอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต(เพราะไม่มีหัวใจ)และร่างกายของเขานั้นก็สั่นสะท้านอย่างหนักราวกับร่างกายกำลังถูกอะไรบางอย่างแยกสลายโมเลกุลความถี่ของตัวเองออกจากกัน

“Aura Barrier!!!!”

พรึ่บ!!! คาริ ลูคาริโอ้ผู้เป็นพี่สาวของลูก้าเดินมาทรุดนั่งข้างมายาสีดำเพื่อนร่วมศึกเคียงบ่าเคียงไหล่ของเธอและยกมือขึ้นเปล่งพลังปราณออกมาสร้างม่านปราณที่มีพลังต่อต้านกับแรงระเบิดคลื่นความถี่ขึ้นมา เพื่อปกป้องผู้ที่อยู่ข้างๆเอาไว้ ในขณะที่มายาศัตรูรอบข้างของพวกเขานั้นได้สลายหายไปเสียหมดสิ้นเมื่อร่างกายต้องเข้ากับคลื่นความถี่นั้น

“ฉันไม่ให้นายเป็นอะไรไปแน่ สหายร่วมศึกของฉัน....จะไม่ยอมให้เป็นอะไรไปเด็ดขาด!”

-------------------------------------------------------------

ร่างสีดำสูงโปร่งในชุดผ้าคลุมสีดำหันหน้ามองซ้ายขวาอย่างรวดเร็วอย่างงุนงง เมื่อจู่ๆนั้นได้มีคลื่นประหลาดแผ่มายังที่ๆพวกเขาสู้อยู่แล้วริโอลุก็สร้างคลื่นปราณขึ้นรอบกายเขาในทันที โดยที่เขายังไม่ทันจะรู้เรื่อง แต่เมื่อจู่ๆเหล่ามายานับร้อยที่รายล้อมพวกเขาอยู่นั้นค่อยสลายหายไปกับอากาศธาตุไปก็ทำให้เขาสะดุ้งตกใจไม่ใช่น้อย

“น.....นั้นมันพลังอะไรกันนะริโอลุ ทำให้มายาทั้งหมดสลายหายไปหมดได้เลย น่ากลัวเสียจริงๆ”

“ดูเหมือนมันจะเป็นคลื่นความถี่ต่ำที่มีผลกับเฉพาะพวกมายาละนะ นายก็เถอะ อย่าออกไปจากม่านปราณของฉันละกัน ไม่งั้นตัวนายก็ต้องสูญสลายไปด้วยนะดาร์ก”

“อ.....อืม......”

“(ทำไมกันนะ....รู้สึกว่าคลื่นพลังนี้มันช่างน่าคุ้นเคยเหลือเกิน.........หรือว่าท่านพ่อ...!!!)”

------------------------------------------------------------

“อย่าออกไปจากม่านปราณนี้นะ โซระ โดราเอม่อน และพวกนายทั้งหมดด้วย ไม่อย่างนั้นจะต้องสูญสลายไปเหมือนกับเจ้าพวกนั้นนะ!!!”

อัลเซอุสตะโกนบอกพันธมิตรมายาทุกคนที่เขากางม่านปราณเอาไว้โดยรอบ และหันไปมองมายานับพันที่กำลังจะขึ้นฝั่งนั้นสลายหายไปอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงชายหาดที่โล่งสนิทเอาไว้ยาวตลอดแนว จนไม่อย่างจะเชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยมีปีศาจสีดำนับพันตัวเหยียบย่างอยู่ แต่คลื่นความถี่นั้นยังคงแผ่ออกมาเรื่อยๆทำให้อัลเซอุสยังไม่หยุดกางม่านปราณ

“ท่านลีฟฟ่อน.....ทำไมถึงต้องทำอย่างนี้.....ทำไม....”

“.....ทำไมต้องสละชีวิตเพื่อช่วยพวกเราด้วย!!!!!”

--------------------------------------------------

“นั้นสินะ.....เมื่อก่อน.....เอาแต่พูดเสมอว่าคนที่สละชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่นมันบ้า....เป็นไอ้บ้าที่ไม่รักชีวิตตัวเองแต่กลับรักชีวิตคนอื่นมากกว่า...แล้วทำไมเราถึงได้ทำไปเสียเอง...”

ลีฟฟ่อนพูดอย่างแผ่วเบาในขนาดที่ร่างของเขาค่อยหล่นร่วงเอาหัวลงสู่พื้น ร่างกายของเขานั้นค่อยๆแตกสลายไปกับความว่างเปล่าอย่างช้าๆที่ละส่วนเมื่อได้สูญเสียพลังปราณทั้งหมดไป รวมทั้งพลังเจตนารมณ์เพื่อการดำรงอยู่ของกายเขาด้วย

“แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วละว่าทำไมถึงต้องสละชีวิตเพื่อนคนอื่นด้วย.....”

“.......เพราะว่าความรักนี้เอง.......ฮึๆๆๆ....”

“ข้าไม่อยากตาย.....ข้าคิดเช่นนั้น.....ข้ามีสิ่งข้าอยากจะทำตั้งเยอะ....แต่เวลาที่ข้ามีช่างน้อยเหลือเกิน...”

“.....ทั้งที่คิดว่า....ข้าควรจะมีเวลาอีกสักวัน....สำหรับการสอบปลายภาค....”

“และเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย....”

“....แต่ตอนนี้มันจบแล้วละ....”

“Farewell.....Everyone.....ลาก่อน.....อาณาจักรของข้า”

ซ่า~ แล้วร่างกายของเทพเจ้านั้นก็สูญสลายไปหมดสิ้นกลายเป็นแสงสีขาวบริสุทธิ์ที่หายลับลงไปกับพื้นแผ่นดินอาณาจักรมิสเทอรี้.......บอกให้รู้ว่าชายหนุ่มที่ชื่อว่า ลีฟฟ่อน ได้หายไปจากโลกนี้แล้ว...

-------------------------------------------------------------------

Me/ หลบมุมไปร้องไห้....เพราะตัวละครตัวเองตายนี้หน่า....

Link to comment
Share on other sites

เอ~ทำไมรู้สึกเหมือนว่ามันจะมีตอนต่อไปที่เหล่ารอยัล+ลูคาริโอ้+คนอื่นๆจะพูดถึงลีฟแล้ว

ลีฟก็กลับมาแล้วมันถึงจะจบหว่า :pika11: (ถ้าเป็นแบบนี้ก็การ์ตูนยุ่นดีๆนี้เอง)

Link to comment
Share on other sites

ลีฟฟ่อน จากไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย...  :pika06:

รู้สึกว่ามันยังไม่จบยังไงไม่รู้สิ ต้องอีกตอนแน่ๆ  :pika03:

Link to comment
Share on other sites

ลีฟฟ่อนตายแล้วงั้นเหรอ

ตายในอาณาจักรมิสเทอรี่อย่างเดียว (แบบว่าร่างกายอยู่ในอาณาจักรนี้ไม่ได้แล้ว)

หรือตายในโลกมนุษย์ด้วย

ปล.เหมือนยังไม่จบ เพราะคนแต่งยังไม่ได้ลงคำว่า "จบ" หรือ "End" นิ

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...
เอ~ทำไมรู้สึกเหมือนว่ามันจะมีตอนต่อไปที่เหล่ารอยัล+ลูคาริโอ้+คนอื่นๆจะพูดถึงลีฟแล้ว

ลีฟก็กลับมาแล้วมันถึงจะจบหว่า เฮ้อ (ถ้าเป็นแบบนี้ก็การ์ตูนยุ่นดีๆนี้เอง)

ไม่มีทางเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นหรอกนะครับ (เพราะคนแต่งมันบ้าอย่างสุดซึ้งนี้หน่า!!!)

ลีฟฟ่อน จากไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย...  แง

รู้สึกว่ามันยังไม่จบยังไงไม่รู้สิ ต้องอีกตอนแน่ๆ  แง่ง

ใกล้จบขึ้นทุกทีแล้วละครับ ^^

ลีฟฟ่อนตายแล้วงั้นเหรอ

ตายในอาณาจักรมิสเทอรี่อย่างเดียว (แบบว่าร่างกายอยู่ในอาณาจักรนี้ไม่ได้แล้ว)

หรือตายในโลกมนุษย์ด้วย

ปล.เหมือนยังไม่จบ เพราะคนแต่งยังไม่ได้ลงคำว่า "จบ" หรือ "End" นิ

ลีฟฟ่อนในโลกมนุษย์? ไม่มีหรอกครับ ลีฟฟ่อนเขาย้ายตัวเองทั้งตัวมายังอาณาจักรมิสเทอรี้แล้วนะ

อาณาจักรมิสเทอรี้นะก็ตั้งอยู่บนโลกมนุษย์นี้ละครับ เพียงแต่อยู่ในหมอกที่ไม่มีใครสามารถเห็นได้ กลางมหาสมุทรแปซิฟิกนี้ละครับ ^^

สรุปก็คือ....ตายสนิทครับ ตายอย่างสิ้นเชิงไปเลย....

--------------------------------------------------------

- What is a Life? -

ซ่า~!!!!!! ร่างสีดำรอบอาณาจักรมิสเทอรี้หายไปหมดสิ้นแล้ว เหล่าโปเกม่อนผู้เหน็ดเหนื่อยและได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบที่ยาวนานนั้นเยียวยารักษาจนหายดีและหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งด้วยพลังคลื่นประหลาดของผู้เป็นพระเจ้าแห่งอาณาจักร ที่ทำให้เหล่าโปเกม่อนนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นแต่กลับทำให้มายาร้ายสลายหายไปสิ้น โปเกม่อนนักรบทั้งหลายนั้นก็ร้องเฮลั่นในทันที พวกเขาทิ้งอาวุธทั้งหลายลงกับพื้นและกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจกับชัยชนะในศึกครั้งนี้

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ทางด้านคฤหาสท์ลีฟฟ่อน ที่ซึ่งเป็นสถานที่ต่อสู้ที่สำคัญของศึกครั้งนี้ ที่ๆเหล่านักรบผู้กล้าของทั้งสองฝ่ายใช้ในการปะทะกัน...

----------------------------------------------------

“อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!! นี้มันอะไรกัน!!! ทำไมพลังมายาในในตัวข้ามันถึงปั่นป่วนอย่างนี้!!!”

ไฟร์เร้ดร้องลั่นกุมหน้าอกตัวเองเอาไว้แน่น ในขณะที่เหล่าทหารครึ่งมายาทั้งหลายที่บินอยู่กลางอากาศหล่นร่วงลงสู่พื้นโลก ก่อนจะสลายหายไปเมื่อต้องกับพลังที่มองไม่เห็นซึ่งแผ่มายังที่นี้อย่างรวดเร็วและรุนแรงในขณะที่ลูคานารินั้นแม้จะทรุดลงไปแต่ไม่ถึงกับทรมารมากนักเพราะตัวเองมีพลังปราณนิดหน่อยจึงพอทนได้ เธอหันไปมองไฟร์เร้ดและดาร์กไนท์ทั้งสองอย่างอ่อนแรงและเป็นห่วง เพราะถ้าพลังมายาในตัวท่านไฟร์เร้ดสลายไปหมดสิ้นแล้ว นั้นจะทำให้ตัวไฟร์เร้ดต้องตายไปด้วย

“[ท.....ท่านไฟร์เร้ดและทุกคนกำลังแย่....อึก!....ฉันจะต้อง......ช่วยทุกคน!!!!]”

“ย๊าก!!!!!”

ลูคานาริฝืนตัวขึ้นมายืนข้างไฟร์เร้ดและเปล่งพลังสร้างม่านปราณขึ้นมาล้อมไฟร์เร้ดกับดาร์กไนท์ทั้งสองเอาไว้ ทำให้เขานั้นกลับเป็นปกติอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองลูคานาริที่ยังคงเปล่งพลังปราณอย่างไม่หยุดยั้งด้วยพลังทั้งหมดที่เธอมี แต่ม่านปราณของเธอนั้นก็ดูเหมือนจะสั่นสะท้านไม่น้อยเหมือนกันเมื่อมันเป็นปราณที่เกิดขึ้นจากมายา

“ลูคานาริ!!! นั้นเธอจะทำอะไรนะ!!! ใช้พลังมากไปแล้วนะ!!!!!!” ไฟร์เร้ดตะโกนลั่นเมื่อเขาเริ่มมองเห็นความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวดาร์กไนท์ที่ยืนข้างเขา ร่างนั้นกำลังจางลงจนแทบมองทะลุได้แล้ว

“พ.....เพื่อท่าน.....เพื่อท่านไฟร์เร้ด....เพื่อนทุกๆคน ย๊าก!!!!!!”

แล้วในไม่ช้าพลังงานคลื่นความถี่นั้นก็ค่อยๆหายไปและไม่แผ่ลงมายังที่นี้อีก เช่นเดียวกับม่านปราณของลูคานาริที่สลายไปพอดี เธอลดมือลงและยืนนิ่งสนิท ไฟร์เร้ดค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆและมองไปรอบๆกายซึ่งทำให้เขาตกใจเมื่อทหารมายาที่เคยมีมากมายและบินอยู่รอบๆนั้นได้หายไปเสียหมดสิ้นแล้ว ไฟร์เร้ดทรุดล้มลงไปเอามือชกพื้นอย่างแรง กัดฟันกรอดแน่น

“แพ้แล้ว.....ฉันแพ้แล้ว......ทำไมกัน! ทุกๆอย่างมันสมบูรณ์แบบแล้วนี้หน่า!!!

ทุกๆคนได้แต่เงียบเฉยและมองเขาทำร้ายมือตัวเองอยู่อย่างนั้น และไม่ช้าเขาก็ลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแต่ก็ยังคงไม่หันกลับมา และเปล่งวาจามุ่งร้ายต่อสิ่งที่เกลียดชังอีกหน

“......ไม่....ฉันจะต้องทำได้ ฉันจะต้องลองใหม่...ต้องทำได้แน่!!! ฉันจะต้องทำลายพวกสิ่งมีชีวิตจอมปลอมให้หมดไปทั้งโลกให้ได้!!!”

“จะทำลาย....มายางั้นเหรอ?” เซจูโร่เอ่ยพูดขึ้นในขณะที่เขายืนอยู่ข้างหลังไฟร์เร้ด

“ใช่! ฉันจะลบมายาทั้งหมดบนโลกนี้! ลบพวกสิ่งจอมปลอมให้หมด!”

“พูดอะไรออกมานะ.....นายพูดจากใจจริงหรือเปล่า.....โลกนี้ไม่ใช่เกมส์นะที่นายจะเปลี่ยนอะไรได้ง่ายๆนะ...จะลบมายานะ....มันเป็นไปไม่ได้หรอก!!!”

“ว่าไงนะ!?!” ไฟร์เร้ดหันควับไปมองเซจูโร่อย่างเร็ว ซึ่งโรยอลไนท์คนอื่นๆก็ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วย ความไม่เข้าใจเอ่อล้นอยู่ในใจเขาเต็มไปหมด

“จะมายา.....จะโปเกม่อน....ไม่สิ! ไม่ว่าใครก็ตามที่มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด มีความเจ็บปวด มีความเศร้า ต่างก็มีชีวิตกันทั้งนั้นละ! แค่เพียงมีหัวใจก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแล้วนะ ถึงแม้จะมีร่างกายที่แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตทั่วไปก็ตาม....มายาก็เป็นสิ่งที่มีชีวิตนะ”

“มายามีชีวิต...งั้นเหรอ.....มีชีวิตจริงๆงั้นเหรอ....”

“ใช่!...นายเคยเห็นมายาร้องไห้รึเปล่าละ คิดว่าเขาร้องไห้ทำไมละ เพราะเสียใจเพราะเจ็บใจไม่ใช่เหรอ เคยเห็นพวกเขายิ้มบ้างรึเปล่า นั้นไม่ใช่เพราะพวกเขามีความสุขไม่ใช่เหรอ สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้เรียกว่าหัวใจที่สิ่งมีชีวิตสมควรจะมีหรือ”

“หัวใจ......ถ....ถ้าอย่างนั้น.....สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดมันก็....”

ไฟร์เร้ดหวนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อได้ฟังคำพูดของเซจูโร่ ภาพที่เขาทำร้ายมายาให้บาดเจ็บและสูญสลายไป ทั้งมายาที่ไม่คิดต่อกรกับเขา หรือจะเป็นมายาที่พรรคดีต่อเขา อีกทั้งมายาที่เขาจัดการทิ้งเพราะไร้ประโยชน์ด้วย แล้วเขาก็ยกมือขึ้นกำศีรษะตัวเองไว้แน่น ดวงตาเบิกกว้างและเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ผมบนหัวนั้นถูกยี้จนยุ่งราวกับคนเสียสติ

“นี้ฉัน.....ฉัน.....ฉันทำอะไรลงไปเนี้ย~!!!!”

“โลกนี้นะไม่ได้มีพื้นที่ให้แค่สำหรับพวกมนุษย์ยืนแต่เพียงผู้เดียวนะ....สิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ที่นี้ด้วย...อย่าเที่ยวยัดเยียดความมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตให้กับคนอื่นทั้งๆที่เป็นความคิดของตัวเองฝ่ายเดียวสิ...” เซจูโร่พูดและก้มหน้าลง

“อ๊าก~!!!”

ไฟร์เร้ดลุกขึ้นกุมศีรษะไว้แน่น ก่อนที่เขาจะเดินถอยห่างพวกโรอยลไนท์ไปช้าๆ อาวุธมายาบนตัวเขา เสื้อผ้าที่หนาเตอะ ถุงมือและรองเท้าที่สร้างมาจากร่างกายของมายานั้นแตกสลายหายไปสิ้น เพราะจิตใจอันไม่คงที่ทำให้โปรแกรมควบคุมมายานั้นรวนและสลายพลังงานมายาออกจากกายไปหมดสิ้น เหลือเพียงไฟร์เร้ดในร่างของเด็กหนุ่มอายุ 20 ปีและสวมชุดเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีขาวเทา เขาทรุดล้มลงเข่ากระแทกกับพื้นไม้คฤหาสท์ สองมือที่ค้ำร่างตัวเองเอาไว้นั้นสั่นไม่หยุด ความรู้สึกผิดกระหน่ำเข้าใส่หัวใจเขาอย่างไม่ยั้ง ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมามองทุกอย่างรอบตัว

“ลูคานาริ! เป็นอะไรรึเปล่า!?!”

เสียงหนึ่งทำให้ไฟร์เร้ดต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ลูคาริโอ้และดาร์กไนท์ทั้งสี่กำลังทรุดตัวลงและมองลูคานาริที่นอนทรุดหมดสภาพอยู่กับพื้น เสียงหายใจที่แสนจะแผ่วเบานั้นดูน่าเป็นห่วงยิ่งนัก ไฟร์เร้ดเดินมาหาลูคานาริอย่างซวนเซไปมาและทรุดเข่าลงมองลูคานาริอย่างเป็นห่วง และคำพูดของดาร์กไนท์มายาสาวผู้ที่ตนเคยทำร้ายและไม่สนใจใยดีนั้นก็แทบทำให้เขาร้องไห้

“ท....ท่านไฟร์เร้ดไม่เป็นอะไรแล้ว.....สินะค่ะ....ดีใจจัง...”

“ลูคานาริ....ทำไมถึงช่วยฉัน....ฉันทำร้ายเธอมาตลอดนะ...”

“เพราะ....เพราะหนูรู้.....ความจริงแล้วท่านไฟร์เร้ดเป็นคนที่มีความกรุณา...อึก!”

“ลูคานาริ....โธ่เอ้ย...เธออุตส่าห์ทำเพื่อฉัน...” ไฟร์เร้ดประคองลูคานาริมาอยู่ในอ้อมอก น้ำตาของเขาไหลหยดลงบนแก้มของเธอ เขากอดเธอไว้แน่นราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยนั้นจะต้องสูญเสียเธอไป

“ลาก่อนค่ะ......ท่านไฟร์เร้ด......”

d9Qaab46.jpg

ลูคานาริปิดตาลงช้าๆ และแตกสลายหายไปกับความว่างเปล่า ไฟร์เร้ดเบิกตากว้างอย่างตกใจ มือทั้งสองข้างที่เคยประคองร่างของผู้ที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดและคอยดูแลเขามาอยู่เสมอทั้งๆที่เขาไม่เคยจะสนใจสั่นสะท้านราวกับจะไม่ยอมรับว่าไม่มีใครอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว

“เธอ.......ตายแล้วละ......”

“ตายแล้ว....”

ลูคาริโอ้พูดและเบื้อนหน้าหนี ดาร์กไนท์ทั้งสองก้มหน้านิ่งกับการสูญเสียเพื่อนคนสำคัญของตัวเองไป ในขณะที่โรยอลไนท์คนอื่นก็เช่นกัน พวกเขานั้นก็รู้สึกเศร้าเสียใจไม่น้อยกับการจากไปของลูคานาริ ไม่ต่างจากชายที่ยังคงทรุดเข่านั่งนิ่งสนิทอยู่นั้น ดวงตายังคงเบิกกว้างไม่ปิดลงและน้ำตาก็หลั่งไหลลงมาไม่หยุด ปากบอกคำที่ไม่ยอมรับความจริงออกมา

“มันจะต้องไม่เป็นอย่างนี้สิ! มายาต้องไม่ตายสิ....คลื่นถ้าสลายไปก็ต้องประกอบใหม่ได้สิ!!”

“ยอมรับสักทีสินายนะ! ต่อให้นายสร้างมายาขึ้นใหม่ให้เหมือนลูคานาริมากแค่ไหน!! แต่เธอคนเดิม....ลูคานาริคนเดิมก็ไม่วันกลับมาแล้วเข้าใจไหม!! ผู้หญิงที่ชื่อว่าลูคานารินะ ได้ตายไปแล้ว!!!!”

“.....ฮึกๆๆ ไม่สิ....ต้องไม่เป็นอย่างนั้น....ฮือๆๆๆ ลูคานาริ!!!!”

ไฟร์เร้ดร้องไห้โฮเสียงดังลั่น เมื่อบัดนี้ลูคานาริผู้ที่ดูแลตนมาตลอด ผู้ที่คอยเป็นเพื่อนเขาในยามเหงา ห่มผ้าให้ตอนที่เขาเผลอหลับในห้องทดลอง เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ทุกๆเช้าทั้งๆที่เขาไม่สั่ง ดูแลเขาไม่ห่างในยามที่เขาไม่สบาย นั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาอีกแล้ว แต่เขากลับไม่เคยทำอะไรให้เธอเลยนอกจากทำร้ายเธออยู่โดยตลอด เขารู้สึกว่าคนที่สมควรจะตายน่าจะเป็นเขาเสียมากกว่าด้วยซ้ำไป

“........................”

เมื่อคฤหาสท์ลอยฟ้ากลับลงสู่พื้นดินที่เดิมแล้ว โรยอลท์ไนท์ทั้งหลายก็แยกตัวออกไปอย่างเงียบๆ ทิ้งเพียงลูคาริโอ้กับมูมาจิที่ยืนอยู่ต่อหน้าไฟร์เร้ดซึ่งยังคงมีน้ำตาหลั่งไหลอยู่ แล้วชายหนุ่มนั้นก็ชันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ เงยหน้าขึ้นมองลูคาริโอ้อย่างอ่อนแรง ซึ่งเธอนั้นก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า

“กลับไปซะ.....กลับไปแก้ไขทุกๆอย่าง.....กลับไปใช้ชีวิตงี่เง่าของนายลูกน้องของนายเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องเอาไว้ให้คุ้มค่าเสียเถอะ...”

“...................”

ไฟร์เร้ดไม่พูดอะไรนอกจากจะหันหลังให้กับคฤหาสท์และเดินจากไปอย่างช้าๆ ดาร์กไนท์ทั้งสองมองลูคาริโอ้...พวกเขาน้อมศีรษะให้เล็กน้อยก่อนจะเดินตามหลังไฟร์เร้ดผู้เป็นเจ้านายไป ในขณะที่ลูคาริโอ้นั้นก็ไม่อาจเอ่ยคำพูดอะไรได้เหมือนกันเพราะตัวเธอเองก็ได้สูญเสียผู้ชายที่เธอรักที่ชื่อว่าลีฟฟ่อนไปในสงครามครั้งนี้เช่นกัน ลูคาริโอ้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและหวังว่าจะได้เห็นลีฟฟ่อนบินกลับมาพร้อมกับพูดเอ่ยคำโรคจิตออกมาสักคำสองคำให้เธอนั้นโกรธเล่น

โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาคนนั้นได้จากไปในสถานที่ๆไม่อาจหวนกลับมาได้แล้ว...

-------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป!!!!

Link to comment
Share on other sites

ทำไมอ่านตอนนี้แล้วนึกถึงดิจิมอนซีโร่ทู ตอนที่เคนเสียวอร์มม่อนไปหว่า

ใกล้จะจบแล้วสินะ แง้วๆ

Link to comment
Share on other sites

....

รูปนั่นเหมือนฉากตอนสู้บอสใหญ่(Xion)จบของKingdom heart 358/2เลยง่ะ[me=Rubysmart]ลางสังหรที่ว่าลีฟจะกลับทำไมมันยังอยู่หว่า[/me]

Link to comment
Share on other sites

ใกล้ตอนจบเข้าไปทุกทีๆแล้ว~! (สุดแสนจะตื่นเต้น)

ลีฟจะกลับไหมนะ...

Link to comment
Share on other sites

ลีฟตายแล้วจริงๆหรือเนี่ย 2ตอนนี้ตัวสำคัญตายไปแล้ว2นะเนี่ย = =

แล้ว ... ตอนหน้าจะจบแล้วหรอ

แล้ว... วาว่าจะฆ่าตัวละครเอกของตัวเองได้ลงคอเชียวรึ!!

Link to comment
Share on other sites

ตอนต่อมา!!!

---------------------------------

- The Bad End –

“ขอต้อนรับทุกคนกลับสู่มาตุภูมิของพวกเรา!!!!”

“เฮ!!!!!!”

เสียงเฮดังลั่นเมื่อคำกล่าวของดาร์กเนส ว่าที่เจ้าชายแห่งอาณาจักรมิสเทอรี้พูดจบลง ตอนนี้เขาและคนรัก(?)ของเขา ริโอลุผู้เป็นพระราชธิดาขององค์ราชาลีฟฟ่อนและองค์ราชินีลูคาริโอ้กำลังยืนบนเวทีต่อหน้ากองทหารนับร้อยของพวกเขา และประชาชนชาวโปเกม่อนส่วนหนึ่งที่มารอรับญาติของพวกเขาที่เป็นทหารกลับบ้าน โดยมีโรยอลไนท์ทั้ง 10 นั้นยืนอยู่เป็นตัวประกอบแบ็กกราวฉากหลัง ส่วนเหล่าพันธมิตรอาณาจักรมายานั้น หลังจากสงครามจบลงก็ได้ขอตัวกลับอาณาจักรไปกันหมดแล้ว

“สงครามสิ้นสุดลงแล้ว ในที่สุดผู้รุกรานพวกเราก็ได้แพ้พ่ายพวกเราไป ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณสำหรับเหล่าทหารกล้าทุกคน ความสามัคคีและหาญกล้าของพวกท่านจะได้รับการจดจำไปตราบนานเท่านาน ข้า....ถึงแม้จะเคยเป็นศัตรูของอาณาจักรนี้มาก่อน แต่บัดนี้ใจข้าได้เป็นคนของอาณาจักรนี้แล้ว...ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยปกป้องอาณาจักรนี้สุดชีวิต!!!”

“เฮ!!!!!!!”

“อนึ่ง ก็มีเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งอยู่อย่างหนึ่งก็คือ.....สงครามครั้งนี้แม้จะหนักหนา และยาวนาน อาจจะมีผู้บาดเจ็บอยู่บ้าง แต่......ฝ่ายเรานั้นไม่มีใครตายสักคน!!!!!”

“เฮ!!!!!!”

“ไม่.......ไม่ใช่หรอก....” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นขัดจังหวะเสียงอื่นๆ ร่างสีขาวยักษ์เดินมาหาดาร์กเนสอย่างๆช้า บุรุษชุดดำถอยฉากออกไปเล็กน้อยเมื่ออัลเซอุสส่งสายตาขอใช้เวที เทพสูงสุดแห่งปวงโปเกม่อนยืนตระหง่านต่อหน้าโปเกม่อนนับร้อยชีวิตที่ยืนมองเขาอยู่อย่างงุนงง เพราะว่าสิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นก็คือ การร้องไห้ของเทพเจ้า....

“ทุกคน......ศึกสงครามครั้งนี้.......เรามีผู้เสียชีวิต......หนึ่งคน”

ร่างยักษ์สีขาวก้มหน้าลง ร่างกายเริ่มสั่นอย่างเห็นได้ชัด และนานอยู่กว่าคำพูดต่อไปนั้นจะออกมาจากเขา ทั้งยังเป็นเสียงที่แผ่วเบาอีกด้วย

“พระราชาของพวกเรา.....ท่านลีฟฟ่อน อารากิ......ได้เสียชีวิตแล้ว....”

---------------------------------------------------------------------------

หลังสงครามโลก(มิสเทอรี้)ครั้งที่ 1 จบลง แม้ว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายโปเกม่อน และไม่มีทหารคนใดเลยที่เสียชีวิตไปในศึกสงครามครั้งนี้ แต่บรรยากาศของเกาะในยามนี้นั้นกลับไม่คึกคักหรือมีการจัดงานเลี้ยงฉลองการสิ้นสุดสงครามใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแต่ความเงียบและความเศร้าโศกเท่านั้นที่ปกคลุมจิตใจคนทุกคนในอาณาจักรนี้อยู่ เมื่อไม่มีทหารใดเลยที่เสีย แต่กลับเป็นราชาของพวกเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นผู้สละชีวิตและจากไป...

“นี้คือ.....ท่านลีฟฟ่อน อารากิ.....ไม่สิ.....สิ่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น เป็นเพียงพลังอันมหาศาลของท่านลีฟฟ่อน ที่กลับมายังเกาะนี้เพื่อให้เกาะนี้ดำรงอยู่ได้......โดยไม่ต้องมีเขาอีก...ข้าเรียกสิ่งนี้ว่า....Yggdrasil(อิกราซิล)”

หลังจากวันสิ้นสงครามสองวัน บัดนี้อัลเซอุสและเหล่าโรยอลไนท์ทั้งสิบ พร้อมกับคนรู้จักของพวกเขาได้มาอยู่พร้อมหน้ากันแล้วที่หน้าคฤหาสท์ใบไม้ของลีฟฟ่อน ทั้งหมดนั้นเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระง่านอยู่หน้าคฤหาสท์ใบไม้มาช้านานนับตั้งแต่อาณาจักรเกิด ที่บัดนี้นั้นได้มีขนาดใหญ่โตขึ้นมากมายหลายเท่าแล้ว ซึ่งได้ให้ร่มเงาแก่ทุกสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องใต้ของมันและมันก็ยังแผ่ออร่าสีฟ้าครามที่อบอุ่นออกมาตลอดเวลา ที่ผู้ที่ได้รับสัมผัสจะรู้สึกสบายใจ

“อัลเซอุส......ฉันไม่เข้าใจ.....ทำไมท่านลีฟฟ่อนถึงต้องทำเช่นนี้....”

ลูคาริโอ้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาของเธอนั้นแดงก่ำเหมือนจะผ่านการร้องไห้มานาน

“..........เขาไม่มีทางเลือก......หัวใจของเขานั้นไม่อาจทนทานต่อความสูญเสียได้.....ถึงแม้เขาจะเคยพูดว่าการสละชีวิตเพื่อช่วยคนอื่นเป็นสิ่งไม่ดีก็ตาม....แต่นั้นก็เป็นเพียงคำพูดที่เขาพูดเพื่อให้ทุกคนนั้นรู้จักรักชีวิตของตัวเองมันก็เท่านั้น.....ตัวเขานะ....เตรียมใจที่จะตายมาตั้งแต่ต้นแล้วละ...”

อัลเซอุสเบื้อนหน้าเล็กน้อยขณะที่พูด เขาไม่กล้าสบตาลูคาริโอ้เพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ผิดที่ไม่สามารถห้ามพระราชาของเขาไว้ได้

“ หมายความว่าไง.....ที่ว่าเตรียมใจจะตายนะ?”

ลูคาริโอ้เอ่ยถามอัลเซอุสด้วยความสงสัย แต่ร่างยักษ์สีขาวก็นิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น เทีย(Buizel)คนรักอัลเซอุสลูบต้นขาหน้าของร่างสีขาวเบาๆด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอรู้ดีที่สุดว่าอัลเซอุสนั้นเสียใจเจ็บปวดใจมากแค่ไหน มากมายจนทำให้เขาไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรได้อีกแล้ว

“ท่านพ่อเคยบอกผมไว้ว่า......อะไรที่มันมากเกินไปก็เป็นสิ่งไม่ดีครับ.....” ท่ามกลางความเงียบนั้น อัศวินมังกรดิจิม่อน แบล็กวอร์เกรย์ม่อนพูดทำลายความเงียบขึ้น

“เอ๊ะ?”

“คือ...ผมบังเอิญได้ไปอ่านสมุดไดอารี่ของท่านพ่อนะครับ ท่านพ่อเขียนบันทึกมาตลอดเลยว่าแต่ละวันของเขานั้นได้ทำอะไรบ้าง ซึ่งมันก็คงไม่ต่างจากไดอารี่ของคนทั่วไปหรอกครับ ถ้ามันไม่แปลกตรงที่.....ไดอารี่ของท่านพ่อนั้น แทนที่จะเขียนบันทึกวันที่เขียนไดอารี่.....กลับเขียนช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตแทนนะสิครับ...”

“หา!!!!!!!!” ทุกคนที่ได้ฟังคำพูดนั้นตกใจไปตามๆกัน เพราะคำพูดนั้นมันหมายความว่า ท่านลีฟฟ่อนได้ล่วงรู้วันตายของตัวเองแล้วนั้นเอง

“ด้วยความสงสัยแต่ว่าผมก็ไม่กล้าถามพ่อตรงๆ ได้แต่ค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง จนสุดท้ายผมก็พบว่า......ท่านพ่อลีฟฟ่อน.....เขาเป็นโรคร้ายอย่างหนึ่งที่ไม่มีทางรักษาหายด้วยกรณีใดๆก็ตาม...”

“ร....โรคร้าย!?!”

“ครับ......โรคที่ว่านั้นก็คือ ‘โรคสภาวะขาดเจตจำนงค์แห่งการดำรงอยู่อย่างรุนแรง’ ยังไงละครับ...”

“โรคอะไรกันนะแบล็กวอร์เกรม่อน ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อนเลย?” ลูคาริโอ้เอียงคอด้วยความสงสัย เช่นเดียวกับทุกๆคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้

“เอ่อ....ถ้างั้นผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ...”

แบล็กวอร์เกรม่อนหันหน้ามองซ้ายมองขวา ก่อนจะเห็นหินก้อนใหญ่ผิวเรียบก้อนหนึ่งอยู่ข้าง ก็เดินเข้าไปนั่งและหันหน้ามาทางทุกคน จากนั้นก็เริ่มเล่าทุกอย่างให้ฟัง

“ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้นั้นมีการคงอยู่และดับสูญ แต่การคงอยู่นั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานบางอย่างเพื่อคงสภาพความเป็นตัวตนของมันไว้ ซึ่งพวกเราเรียกมันว่า ‘เจตจำนงค์แห่งการดำรงอยู่’”

“เจตจำนงค์แห่งการดำรงอยู่ คือพลังงานที่ทุกสรรพสิ่งที่มีตัวตนให้สัมผัสได้นั้นจำเป็นต้องมีเพื่อคงสภาพความมีตัวตนเอาไว้ ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนมีพลังงานนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบหญ้า ผืนน้ำ มหาสมุทร สิ่งมีชีวิต สิ่งของ พวกมายา หรือแม้แต่พวกเรา....ซึ่งอาณาจักรนี้นั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากพลังงานเจตจำนงค์อันมีมากล้นของท่านลีฟฟ่อนเช่นเดียวกับพวกเรา แต่ตัวอาณาจักรและพวกเราเองนั้นไม่สามารถสร้างเจตจำนงค์การดำรงอยู่ของตัวเองได้ต้องอาศัยพลังงานที่มาจากตัวท่านพ่อเท่านั้น แต่ว่าพลังงานของท่านพ่อก็มีขีดจำกัดของมันเช่นกัน อย่างที่เห็นว่าตัวท่านค่อนข้างจะมีสุขภาพที่อ่อนแอ ไม่สามารถออกรบด้วยตัวเอง จนถึงขั้นต้องใช้หุ่นเชิดออกรบแทนตน นั้นเพราะการสูญเสียเจตจำนงค์แห่งการดำรงอยู่ให้กับพวกเรา ทำให้ชีวิตของท่านถูกกัดกร่อนอยู่เรื่อยๆไงครับ....”

ความลับถูกเปิดเผยขึ้นมาแล้ว สิ่งที่แบล็กวอร์เกรม่อนพูดนั้นแทบทำให้ทุกคนร่ำไห้ด้วยความซึ้งในบุณคุณของผู้ชายที่พวกตนเคยมองว่าเป็นคนโรคจิต(ถึงแม้จะโรคจิตจริงๆก็ตาม) แต่ก็เป็นผู้ที่ทำให้พวกเขาเกิดมามีชีวิตและจิตใจ ลูคาริโอ้มองร่างกายของตัวเองและกอดแขนตนไว้กับอก น้ำตาหลั่งไหลออกมาจากนัตย์ตาสีแดงอีกคร่า

“ท่านลีฟฟ่อน....ไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา...หนูไม่เสียใจเลยค่ะ...ที่หนูเชื่อใจท่านด้วยชีวิต”

ตุ้บ! ลูคาริโอ้เดินเข้าใกล้ต้นไม้แห่งโลกอิกราซิล มือที่ขนนุ่มสั้นสีดำยื่นเข้าแตะต้นไม้แห่งโลก(มิสเทอรี้)ผู้จะคอยค้ำจุนอาณาจักรมิสเทอรี้ตั้งแต่บัดนี้และตราบนานสืบไป ลูคาริโอ้ยิ้มได้อีกครั้งนึงแล้ว

“ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆที่มีร่วมกับหนูค่ะ.....ท่านลีฟฟ่อน”

“และที่มีให้หนูด้วยค่ะ...”

“มูมาจิจัง....”

โปเกม่อนวิญญาณ มูมาจิยื่นมือเปลวไฟสีม่วงของเธอมาแตะผิวต้นไท้ด้วยข้างๆลูคาริโอ้ หลังจากนั้นไม่นานก็...

ตุ้บ! มือน้อยๆสีฟ้าของเนอส(Pikachu)และมือสีขาวของปาจิริสุ(Pachirisu)สาวแตะลงนาบผิวต้นไม้

“ขอบคุณ.....ที่ทำให้ผมมีความทรงจำดีๆทดแทนความทรงจำที่สูญเสียไปครับ”

“ขอบคุณสำหรับความกล้าที่ท่านสอนให้หนูที่เคยขี้กลัว ได้รู้จักค่ะ...”

ตุ้บ! มือเล็กๆสีม่วงยื่นแตะผิวต้นไม้ในระดับที่ต่ำกว่าทุกคนเล็กน้อย รันโน่(Nidorun)เหยียดรอยยิ้มอย่างเก็กเท่ห์อีกครั้ง

“ขอบคุณสำหรับการผจญภัยดีๆ และเรื่องฮาๆชวนสนุกนะครับท่านราชาผู้โรคจิต”

ตุ้บ! มือที่มีขนสีส้มผกคลุมและสวมทับด้วยถุงมือเหล็กนาบลงสัมผัสผิวต้นไม้ ฮิโค(Chimchar) หัวเราะเล็กน้อยกับต้นไม้แห่งโลกและเอ่ยพูดขึ้นว่า

“ขอบคุณ....ที่สอนให้เด็กน้อยอย่างผมได้รู้จักหลายๆสิ่งครับท่านลีฟฟ่อน ตอนนี้ผมโตแล้วละครับ”

ตุ้บ! มือสีส้มเรียบลื่นของเทีย(Buizel) และมือสีเขียวที่มีผิวเรียบนิ้วเรียวยาวของเซจูโร่(Galled) ยื่นสัมผัสผิวต้นไม้โดยพร้อมกัน

“ขอบคุณสำหรับการดูแล.....ที่มีให้กับหนูโปเกม่อนที่สูญเสียความทรงจำ และไม่มีที่ให้กลับไปค่ะ”

“ขอบคุณที่ยอมรับในตัวผม ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้วิชาดาบไปในทางที่ผิด ให้สามารถใช้วิชาดาบที่นี้ไปในทางที่ถูกต้องได้ครับ....”

ตุ้บ! สองอุ้งเท้าหน้าของเผ่าพันธุ์อีวุยทั้งสอง เลออน(Flareon)และเฟีย(Eevee) สัมผัสลงกับต้นไม้อย่างแผ่วเบา

“ขอบคุณสำหรับทุกสรรพสิ่งที่มอบให้และขอบคุณที่ช่วยเหลือ(ความรักของ)พวกเรามาตลอดครับ/ค่ะ”

และโรยอลไนท์ตัวสุดท้าย คาน่า(Milotic) เนื่องจากเธอไม่มีแขน เธอจึงใช้หน้าผากของตัวเองแนบกับผิวต้นไม้และพูดเอ่ยว่า

“ขอบคุณที่ยอมรับในความตั้งใจของหนู ขอบคุณที่ให้เด็กอายุแค่ 3 ปีอย่างหนูได้ทำงานเป็นโรยอลไนท์อย่างที่ตั้งใจหวังค่ะ...”

เมื่อโรยอลไนท์ทั้งสิบได้เอ่ยพูดคำในใจทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็ถอยตัวออกมา และปล่อยให้สมาชิกเกาะคนอื่นๆได้ได้เข้าไปใกล้ชิดกับต้นไม้นั้น พวกเขาทั้งหมด รวมทั้งลูคาริโอ้ มูมาจิ แบล็กวอร์เกรม่อน ริโอลุกับคนรักของเธอ และอัลเซอุสเดินเลยผ่านต้นไม้ไปจนมาอยู่บนเนินที่สูงขึ้นไปเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เห็นบรรยากาศของเมืองโปเกม่อนโดยรอบไปหมด ทั้งหมดมองหน้ากันและยิ้ม ก่อนจะหัวเราะอย่างร่าเริง ไม่มีเค้าลางของความเศร้าปรากฏให้เห็นอีกแล้ว อัลเซอุสยิ้มพร้อมกับพูดกับทุกคน

“ถึงแม้ท่านลีฟฟ่อนจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของท่านจะยังคงอยู่ในใจของเราเสมอ ตำนานของท่านจะถูกกล่าวขานสืบไปพร้อมๆกับการดำรงอยู่ของอาณาจักรนี้ตราบนานเท่านาน”

“และต่อจากนี้ไป....ก็ถึงเวลาแล้วที่ตำนานบทใหม่จะต้องเริ่มต้นขึ้นแล้ว บันทึกประวัติศาสตร์หน้าต่อไปของอาณาจักรมิสเทอรี้จะเป็นยังไงกันนะ...”

“ไม่ต้องห่วงอัลเซอุส! บันทึกประวัติศาสตร์หน้าต่อไปจะต้องมีแต่เรื่องดีๆแน่นอน”

รันโน่ชูนิ้วโป้งให้กับอัลเซอุส พร้อมรอยยิ้มเก็กเท่ห์ที่ยังคงไม่หายไป

“ก็พวกเราจะร่วมกันเขียนมันด้วยกันนี้หน่า!”

“ตำนานของพวกเรา ตำนานของ....”

“Pokemon Mystery Island!!!”

62J0d7a5.jpg

---------------------------------------------------------------

นิ่งก็ทำงาน ขยับก็ทำงาน งานเต็มไปหมด ไม่มีเวลาแม้แต่จะลงสีภาพเลย~!!!! (แค่ตัดเส้นก็เจียดเวลาสุดๆแล้ว)

ปล. ตอนหน้าเป็นตอนอวสานแล้วนะคร้าบ~!!!!

Link to comment
Share on other sites

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เหรอเนี่ย

ลีฟฟ่อนช่างเสียสละอะไรเช่นนี้

ตอนนี้อ่านแล้วซึ้งดี

ตอนหน้าก็ผ่านอาถรรพ์แล้วสินะ แง้วๆ

Link to comment
Share on other sites

ตอนนี้ซึ้งดีจัง

ก็นึกอยู่แล้วว่าลีฟฟ่อนต้องเป็นคนดีบ้างล่ะนะ

และก็วาว่าคุงตอนหน้าก็ผ่านอาถรรพ์แล้วนะจ้า~

Link to comment
Share on other sites

[me=Rubysmart]ในหัวเต็มไปด้วยเนื้อเรื่องของภาคต่อที่คิดขึ้นเองผุดเต็มไปหมด(และหายไปแทบจะทันทีที่นึกออก)[/me]

หน้าอัลคุงชั่ง...แบ๊วมากมาย :pika08:

Yggdrasilเคยได้ยินที่ไหนน้านึกไม่ออกเหมือนมันมีอยู่จริงในโลกซะอย่างนั้น.....อ้อนึกออกละเคยเห็นในเกมAtlanticaนิน่า(เป็นดันเวล100ซะด้วย)

ปล.ลองเซฟภาพแล้วลงสีดู(เล่นๆ)ดีก่า

ปล.2สรุปเซจูโร่คุงก็ยังโสดเหมือนเดิม

ปล.3ตอนจบนี้คงไม่ใช่10ปีต่อมาหรอกนะ(เพื่อนAndคนอื่นๆ:นั้นการ์ตูนญี่ปุ่น*ผัวะ*)

Link to comment
Share on other sites

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เหรอเนี่ย

ลีฟฟ่อนช่างเสียสละอะไรเช่นนี้

ตอน นี้อ่านแล้วซึ้งดี

ตอนหน้าก็ผ่านอาถรรพ์แล้วสินะ แง้วๆ

ขอบคุณครับที่เข้าใจลีฟฟ่อน ^^

ตอนนี้ซึ้งดีจัง

ก็นึกอยู่แล้วว่าลีฟฟ่อนต้องเป็นคนดีบ้างล่ะนะ

และ ก็วาว่าคุงตอนหน้าก็ผ่านอาถรรพ์แล้วนะจ้า~

ขอบคุณพะยะค่ะ ท่านผู้อ่านที่เคารพ ^^

* Rubysmart ในหัวเต็มไปด้วยเนื้อเรื่องของภาคต่อที่คิดขึ้นเองผุดเต็มไปหมด(และหายไปแทบ จะทันทีที่นึกออก)

หน้าอัลคุงชั่ง...แบ๊วมากมาย เฮือก!

Yggdrasilเคยได้ยินที่ไหนน้านึกไม่ออกเหมือนมันมีอยู่จริงใน โลกซะอย่างนั้น.....อ้อนึกออกละเคยเห็นในเกมAtlanticaนิน่า(เป็นดันเวล100ซะ ด้วย)

ปล.ลองเซฟภาพแล้วลงสีดู(เล่นๆ)ดีก่า

ปล.2สรุปเซจูโร่คุงก็ยัง โสดเหมือนเดิม

ปล.3ตอนจบนี้คงไม่ใช่10ปีต่อมาหรอกนะ(เพื่อนAndคน อื่นๆ:นั้นการ์ตูนญี่ปุ่น*ผัวะ*)

ไม่คิดจะแต่งฟิคยาวแล้วละ ฮะๆๆ

(Yggdrasil เป็นชื่อต้นไม้แห่งโลกครับ เป็นสิ่งที่ปีศาจพยายามจะทำลายในสงคราม Ragnarok นะครับ)

(อยากเห็นภาพลงสีของท่านจังเลย~)

(ไม่ใช่ 10 ปี แต่แค่ 1 ปีเอง ฮะๆๆ)

--------------------------------------------------------------------

- The Day After And After -

เวลาผ่านไปนานแล้วสำหรับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ อาณาจักรมิสเทอรี้นั้นก็อยู่อย่างสงบเรียบร้อยเป็นอย่างดีภายใต้การปกครองของพระราชาดาร์กเนส อดีตแนวหน้าของทัพไฟร์เร้ดผู้ผันตัวเองมาอุทิศชีวิตเพื่ออาณาจักรแห่งนี้และเป็นคนรักของ ริโอลุผู้เป็นราชินีที่บัดนี้ได้พัฒนาร่างกลายเป็นลูคาริโอ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด สถานที่ๆราชาและราชินียังคงใช้เป็นที่พักและติดต่อราชการอยู่ นั้นก็ยังคงเป็นคฤหาสท์ใบไม้ของอดีตราชาลีฟฟ่อนนั้นเอง

เรียกได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่มีความเป็นกันเองกับประชาชนมากที่สุดในโลกเลยก็เป็นได้

แล้วเรื่องราวของคนอื่นๆละจะเป็นยังไงกันบ้าง เราลองไปดูกันเลยดีกว่า!!!

---------------------------------------------------------------------------

Neos(Pikachu){By Rubysmart} & Jijung(Pachirisu) {By Pachi Hikari}

หลังจากสิ้นสงครามไปได้ครึ่งปี ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจจัดงานแต่งงานเล็กๆขึ้นมา โดยใช้คฤหาสท์ใบไม้สารพัดประโยชน์นี้ละเป็นสถานที่จัดงาน และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้สร้างเรือนหอและบ้านของพวกเขาเองขึ้นมาตั้งอยู่เยื้องคฤหาสท์ใบไม้ไปเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นบ้านเล็กๆ แต่ก็เป็นบ้านที่แสนอบอุ่นสำหรับพวกเขา เพราะนอกจากพวกเขาแล้ว ก็ยังมี Pichu น้องสาวของเนออสและ Jirachi พ่อของจิจังอยู่ด้วยนี้หน่า

ปัจจุบันทั้งคู่มีลูกด้วยกันแล้วสองตัว เป็นผู้ชายหนึ่งและผู้หญิงหนึ่ง แต่ที่น่าแปลกก็คือ ลูกสาวของพวกเขานั้นมีนิสัยห้าวและกล้าหาญเหมือนพ่อ แต่ลูกชายนั้นกลับขี้กลัวเหมือนแม่ตอนเด็กๆไม่มีผิด จนทำให้พวกเขาทั้งคู่งุนงงไปตามๆกัน

----------------------------------------------------------------------------

Runno(Nidorun){By CavanZ} & Mimi(Darkness No.4)

My wish is RAPE You…

หลังจากผ่านช่วงเวลาไปเนินนาน ในที่สุดรันโน่ก็สามารถทำความปรารถณาของตัวเองให้เป็นจริงได้แล้ว และดูเหมือนปาติหาริย์จะมีให้กับผู้ที่ความรักเสมอ เมื่อโปเกม่อนสายพันธุ์กระต่ายดินรันโน่กับครึ่งมายามิมิ ได้มีลูกด้วยกันแล้วทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้ตามหลักเหนือธรรมชาติ(?) เป็นโปเกม่อนสายพันธุ์นิโดรันตัวผู้แต่มีสีดำตลอดตัว และมีชื่อว่า “นิลกาฬ”

ปัจจุบัน ครอบครัวนี้เปิดร้านมันเผาอย่างเป็นหลักแหล่งของตัวเองแล้ว และเป็นร้านที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องมันเผาที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในอาณาจักร ทั้งยังรสชาติที่หลากหลายให้เลือก จึงมีผู้คนหลั่งไหลเข้าร้านไม่ขาดสายในแต่ละวัน ทำให้รันโน่นั้นยิ้มได้แม้จะต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดก็ตาม

----------------------------------------------------------------------------

Leon(Flareon){By Kimura} & Fear(Eevee){By Snow}

ทันทีที่สงครามจบสิ้น บูสเตอร์หนุ่มผู้ร้อนแรงเลออนก็ได้ยื่นแหวนขอแต่งงานกับอีวุยทันที ซึ่งสร้างความตกใจให้กับคนอื่นๆไม่ใช่น้อย ที่จู่ๆก็มีการขอแต่งงานเกิดขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังเศร้าอยู่เรื่องการจากไปของพระราชาลีฟฟ่อน แต่เลออนนั้นก็ได้ให้เหตุผลว่า นั้นเป็นเพราะเขาสัญญากับตัวเองไว้แล้วจึงต้องทำตาม แต่การแต่งงานของเขากับเฟียเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของเขานี้เอง ที่ทำให้บรรยากาศเศร้าๆนั้นลดลงไปได้บ้างพอสมควร

ปัจจุบันพวกเขานั้นได้สร้างบ้านเป็นของตัวเองแล้วและอาศัยอยู่สองต่อสองในหมู่บ้านๆเกิดของพวกเขานั้นเอง แต่ทว่าพวกเขาก็ยังไม่ได้วางแผนที่จะมีลูกกันหรอกนะ เพราะว่าทั้งคู่ยังไม่มีงานทำนั้นเอง(เพราะอาณาจักรนั้นสงบสุขเรียบร้อยดี ก็เลยไม่จำเป็นต้องมีโรยอลไนท์อีกแล้ว(ตกงานไปโดยปริยายว่างั้นเถอะ))

----------------------------------------------------------------------------

Sejuro(Galled){By Bluewind} & Kana(Milotic){By Varine}

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆคุณชายซามูไรหนุ่มก็เกิดเอ่ยปากขอคาน่า โปเกม่อนสายพันธุ์งูน้ำยักษ์(?)เสียอย่างนั้น สร้างความตกใจให้กับทุกๆคนไม่ใช่น้อย เพราะใครจะนึกละว่าท่านชายผู้ใจเย็นดุจน้ำแข็งผู้นี้จะรู้จักคำว่าความรักกับเขาด้วย แถมวิธีการสารภาพของเขานั้นก็เต็มไปด้วยคำอ่อนหวานและโรแมนติกส์จนใครๆต้องอิจฉา แต่.....เขาไม่รู้หรอกว่าการขอคาน่าแต่งงานนั้น ทำให้เขากลายเป็นพวก Lolicon ไปโดยปริยาย....นั้นก็เพราะ ตัวเขานั้นอายุ 7 ปี แต่อายุของคาน่าจริงๆที่เธอไม่เคยบอกให้ใครรู้ก็คือ 3 ปีนั้นเอง(อายุห่างกันแค่(?) 4 ปีเอง ฮะๆๆ)

ปัจจุบันคาน่านั้นทำงานเป็นไลฟ์การ์ดอยู่ที่ชายทะเลฝั่งตะวันออกของอาณาจักร คอยช่วยดูแลพวกนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเล่นน้ำกัน ซึ่งมีทั้งพวกที่เป็นโปเกม่อนและพวกนักท่องเที่ยวชาวมายา(ตอนนี้อาณาจักรมิสเทอรี้กับอาณาจักรมายาติดต่อกันอย่างเป็นทางการแล้ว) ส่วนเซจูโร่นั้นก็ได้เปิดร้านอาหารอยู่ใกล้นั้นเอง โดยมีลูกมือผู้ช่วยร้านคือแร็กนาร็อก(กับแฟนของเขา ‘ไมนัน’) จิตวิญญาณที่สถิตในดาบเขานั้นเอง

----------------------------------------------------------------------------

Eco(Chimchar){By Kinte} & HeartJung(Cabuncle+Darkness)

ร้านอาหาร Dark Heart เปิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากปิดไปช่วงสงครามโลก แน่นอนว่าก็ยังคงมีผู้มารับประทานอาหารฝีมือของฮาร์ทจังอย่างไม่ว่างเว้นไปในแต่ละวัน เพราะร้านของเธอถูกการันตีความอร่อยด้วยวารสารทั้งของอาณาจักรมิสเทอรี้และอาณาจักรมายา และตอนนี้ร้านอาหารของพวกเขาก็ขยายขนาดใหญ่ขึ้นจุดแทบจะเรียกว่า ภัตตาคาร ได้แล้ว โดยที่ฮาร์ทจังนั้นก็ได้มีลูกมือฝีมือดีอย่างอิโคในการทำอาหารนั้นเอง

ปัจจุบันพวกเขาทั้งสองก็........ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสนิทใกล้ชิด มองดูเหมือนราวกับพวกเขาจะเป็นคนรักที่รักกันมาก เพราะค่อยเทคแคร์ทุกอย่างกันเสมอ แต่จะมีใครรู้บ้างละว่า พวกเขานะ....ไม่เคยที่จะบอกรักกันเลย! (ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปซะงั้น)

----------------------------------------------------------------------------

BlackWargreymon{By Vavacung} & Peaksai(Blaziken){By Vavacung}

การทำร้านตัดเสื้อ คือความฝันของปีกใส และความฝันนั้นของเธอก็ได้เป็นความจริงเมื่อแบล็กวอร์เกรม่อนคนรักของเธอนั้นแอบเซอไพร์เธอในวันแต่งงานของเธอ ด้วยการเปิดร้านตัดเสื้อที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน ซึ่งเธอนั้นก็ดีใจมากกับของขวัญชิ้นนั้น จนตอนนี้เธอกับแบล็กวอร์เกรม่อนได้มีลูกสาวแล้วหนึ่งตัว ชื่อว่า “อินฟิน” (ดีใจเอาอีท่าไหนหว่า...)

ปัจจุบันแบล็กวอร์เกรม่อนทำงานเป็นผู้ช่วยปีกใสในการตัดเสื้อผ้า และตอนนี้เขาก็เริ่มมั่นใจในตัวเองแล้วที่จะถอดเกราะของตัวเองและใส่ชุดธรรมดาเฉกเช่นเดียวกับคนอื่น แต่ปัญหาอย่างเดียวของเขาที่ทำให้เขาต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆก็คือ การที่ถูกปีกใสลากพาไปลองเสื้อทุกครั้งที่ตัดชุดใหม่ๆเสร็จนี้ละ

----------------------------------------------------------------------------

Tear(Buizel){By Tsusumei} & Aceus(Aceus)

หลังจากสงครามไม่นาน ในที่สุดเทียนั้นก็ได้พบกับแม่ของเธอ(มนุษย์ผู้สามารถกลายเป็น Buizel ได้ชื่อว่า “เมย์”)ซึ่งเป็นโปเกม่อนจากโลกคู่ขนาน ซึ่งเธอได้กลับมาเพื่อรับเทียกลับสู่โลกเดิมของเธอ แต่เทียนั้นก็ตัดสินใจที่จะอยู่ยังโลกนี้ เพราะความทรงจำของเธอนั้นมีอยู่กับโลกนี้มานานและไม่จากมันไปได้ ซึ่งแม่ของเธอก็เข้าใจและสัญญาว่าจะพาครอบครัวมาเยี่ยมเธอบ่อยๆด้วย

และประมาณครึ่งปี ในที่สุดเทียก็ตกลงใจที่จะแต่งงานกับโปเกม่อนเทพอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรมิสเทอรี้ “Aceus” ผ้าสูงศักดิ์ แต่ก็ยอมลดตัวสร้างร่างจำรองของตัวเองให้กลายเป็นอัลเซอัสจิ๋วเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างคนที่เขารัก ปัจจุบันเทียนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเทศมนตรีด้านการวางผังเมืองโปเกม่อน

----------------------------------------------------------------------------

Mumaji(Mumaji)

ภายหลังจากที่รับรู้การเสียชีวิตไปของราชาอาณาจักรผู้เป็นที่รักของเธอ เธอนั้นก็เศร้าใจไปนานหลายวัน หลังจากนั้นเธอก็ออกจากคฤหาสท์ใบไม้ และกลับไปยังบ้านเกิดของตนที่ “ป่าแห่งความมืด” ไม่มีใครรู้ข่าวเกี่ยวกับเธอเลย นอกจากลูคาริโอ้ที่เล่น Facebook กับเธอบ่อยๆ ข่าวล่าสุดก็คือ เธอนั้นกำลังคบหาดูใจอยู่กับแกงก้า ที่เป็นคู่กัดและคู่แข่งของพระราชาลีฟฟ่อนนั้นเอง

----------------------------------------------------------------------------

Lucario,Lucajung(Lucario)

ฟิ้ว~ ฟิ้ว~

สายลมอันเย็นเยือกพัดผ่านร่างบางที่ยืนนิ่งอยุ่ บ่งบอกให้รู้ว่าฤดูร้อนกำลังจะหมดลงแล้ว และฤดูหนาวกำลังจะเข้ามาแทนที แต่แม้สายลมนั้นจะหนาวสักเพียงใด ร่างบางก็สามารถยืนรับได้โดยไม่มีอาการสั่นไหวแม้นเพียงน้อย ดวงตาสีแดงสุกสว่างของเธอเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่โตที่ส่องแสงเรืองรองอยู่เสมอ ร่างบางสีน้ำเงินแย้มริมฝีปากและเริ่มเอ่ยพูดขึ้น...ตามลำพัง...

“หนึ่งปีผ่านไปแล้วนะค่ะท่านลีฟฟ่อน หลังจากที่สงครามครั้งนั้นจบลง อาณาจักรของเรานั้นก็สงบสุขมาโดยตลอด และก็มีเรื่องน่ายินดีมากมายเกินขึ้นมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งงานของโรยอลไนท์คนอื่นๆ หรือแม้แต่เรื่องที่ศัตรูของพวกเรา คุณไฟร์เร้ดที่ตอนนี้ได้ตัดสินใจเป็นพันธมิตรของพวกเรา และคอยช่วยเหลือเราอยู่ห่างๆด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความกรุณาของท่านนะค่ะ”

วูบ~ อิกราซิลเปล่งแสงจ้าชั่วขณะหนึ่ง ราวกับตอบรับคำพูดของลูคาริโอ้ ร่างสีน้ำเงินบางหมุนตัวและทิ้งตัวลงนอนพิงกับต้นไม้ใหญ่นั้น บนผืนหญ้าที่เขียวชอุ่มที่มีความนุ่มเสียจนราวกับเบาะที่ไว้รับรองแขกผู้จะมานั่งเข้าเฝ้าพระเจ้าของพวกเขายังไงยังงั้น

“ท่านลีฟฟ่อน.....หนูนะไม่เคยลืมท่านเลยนะ และไม่มีวันลืมเลยเป็นอันขาด...ต่อให้เวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม....ก็เพราะท่านยังอยู่ที่นี้ ยังอยู่ตรงนี้เคียงข้างหนูและอาณาจักรนี้นี่หน่า ทุกอย่างทุกความทรงจำของท่านยังคงอยู่ร่วมกับหนูมาตลอด และไม่ว่ายามใดที่หนูคิดถึงมันหนูก็ไม่เคยที่จะเศร้าเลยแม้แต่น้อย ความทรงจำเกี่ยวกับท่านทำให้หนูมีความสุขเสมอ”

“การต่อสู้กับความโศกเศร้า สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างจบสิ้นลงนั้น เป็นเพราะสิ่งที่ท่านสอนทุกคนบนโลกนี้หรือแม้แต่ศัตรูของท่านเอง....ท่านลีฟฟ่อน...”

“เราจะไม่แยกจากกันอีก.....หนูจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป”

สายลมเบาๆพัดแตะต้องใบไม้ของต้นไม้กำเนิดโลกให้เสียดสีกับจนเป็นบทเพลงของธรรมชาติ กลิ่นของดอกไม้ที่ลอยมาพร้อมกับสายลมของฤดูเหมันต์ ทำให้นัตย์ตาของอดีตราชินีอาณาจักรมิสเทอรี้ค่อยๆปรือลง และก่อนที่เธอกำลังจะเข้าสู่นิทรา ปากบางๆก็ได้เอ่ยพูดวาจาออกมา

“รักท่าน...เสมอ....และตลอดไป...”

“.................................................”

ฟุ่บ~ ฟุ่บ~ ใบไม้สีเขียวเรืองแสงเล็กน้อยหล่นร่วงลงมาจากกิ่งก้านของต้นไม้กำเนิดโลกและปลิวไปซ่อนทับบนตัวของลูคาริโอ้โดยเว้นส่วนหัวไว้คล้ายกับกำลังจะห่มผ้าให้ จนเมื่อใบไม้นั้นหนาพอแล้ว ต้นไม้กำเนิดโลกนั้นก็ค่อยๆลดแสงที่เรืองรองลงเหมือนกับจะเข้าสู่นิทราไปพร้อมกับร่างที่นอนอยู่ที่โคนต้นไปด้วยกัน

....แม้นในความจริงจะไม่มีอยู่แล้ว...

....แม้นกาลเวลาจะผ่านผันไปเนิ่นนานเพียงใด....

....แต่ตำนานนั้นจะอยู่กับทุกคนที่นึกถึงมันเสมอยามเมื่อหลับตาลง ยามเมื่อนึกถึง หรือยามที่หลับฝัน....

....เพราะตำนาน.....ไม่มีวันตาย....

ieVb85b1.jpg

----------------------------------------------------------------

จบลงแล้วคร้าบ~!!! ฟิคที่แสนยาวนานของกระผม ฮะๆๆ

คิดว่าคงจะไม่มีการแต่งภาคต่ออีกแล้ว และคิดว่าคงจะไม่แต่งฟิคยาวอีกตลอดไปด้วย

...ไม่ใช่เพราะกลัวแต่งไม่จบหรอกนะครับ แต่เพราะไม่สามารถรักษาคนอ่านให้อ่านฟิคผมได้จนจบต่างหากละครับ(คนสมัครฟิคเหลืออยู่ 2 คน...)  TT-TT

แล้วเจอกันใหม่ในฟิคอื่นๆ(ที่เป็นฟิคสั้น)นะคร้าบ!!!!!

ปล.กำลังรวบรวมสรุปยอดผลต่างๆอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนตอน ตัวอักขระ ตัวละครอยู่ จำนวนภาพ เดี๋ยวจะมาแจกแจงไว้ให้เป็นรายงานสรุปยอดการดำเนินโครงการแต่งฟิคยาวเลย หุๆๆ

็How To Unlock "The True Ending"

ต้องมีการโพสอย่างน้อย 6 โพสนะขอรับ^^

Link to comment
Share on other sites

My wish is RAPE You

มันยังไม่เลิกอีกเหรอ - -

แต่ล่ะคู่ก็จบลงด้วยดี ดีใจจริงๆเลยครับ~

How To Unlock "The True Ending"

มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย... เหมือนจะมีฉากจบพิเศษเลย

ปล. Lucario ตาย...? (แค่คิดนะ)

Link to comment
Share on other sites

อาไรก้า~นนน

เซจูโร่ต้องคู่กับคิลเลียสิ (ถึงจะรู้จากวาว่ามานานแล้วว่าเซจูโร่ไม่ได้คู่กับคิลเลีย แต่เค้าก็อยากให้คู่กันนิ แง้วๆ)

ลูคาจังเข้าสู่การนิทราสินะ

ปล1.My wish is RAPE You… << ยังปรารถนาแบบนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย

ปล2.วาดรูปลูกของจิจังกับเนออสหน่อยสิ งิงิ

Link to comment
Share on other sites

[me=Rubysmart]สมองสร้างภาพภาคต่อไปในหัวเดินไปหยิบกระดาษมาเขียนอ่านเอง*ผัวะ*[/me]

เซจูคุงน่าจะคูกะคิลเลียน้า(แต่ยังไงมันก็โดนอัดข้อหาโลลิค่อนอยู่ดี~)

[me=Rubysmart]วาว่าแกอยากให้มันมีSecret Endingในฟิคนี้เรอะ(ตอนอ่านให้จบ3รอบถึงจะมีขึ้นมาอะไรแบบเนี่ย*ผัวะ*)[/me]

ปล.รันคุงมันยังไม่เลิกคิดิกเรอะ :pika08:

Link to comment
Share on other sites

...ไม่ได้กลับเข้าบอร์ดตั้งนาน พอกลับมาก็จบซะแล้ว...

...แต่ก็จบแบบ Happy (มั้ง?) Endingนี่นา....

ทุกคู่ก็มีความสุข ก็คงจบดีๆสินะ....

อ๊ะ นี่อะไร

How To Unlock "The True Ending"

.... นี่มันอะไรเนี่ย!!? ตอนอวสานของตอนจบเรอะ

รู้สึกเหมือนเล่นเกมมาเกมนึง แล้วต้องเล่น2รอบถึงจะปลดล็อกตอนจบเลย

Link to comment
Share on other sites

จบเเล้วสินะคะ ยินดีด้วยค่า ^w^// เเอบมาสารภาพว่าช่วยหลังๆมานี้ไม่ค่อยได้อ่านเลยอ่ะ = =

ปล. รอดู True ED -v-

Link to comment
Share on other sites

เข้ามาอ่านรวดเดียว แทบตายเลยค่ะ

็How To Unlock "The True Ending"

มันคือ ??

Link to comment
Share on other sites

ฉากจบของลูคาริโอ้โรเเมนติกมากเลยอ่ะถึงจะเศร้าหน่อยๆแต่เราก็ชอบนะ

ขอโทษด้วยนะที่ไม่ค่อยได้มาอ่านอ่ะ คือว่าช่วงเปิดเทอมเราไม่ค่อยมีเวลาอ่ะ TwT

ลูกของจิจังนิสัยน่ารักดีอ่ะ 55

Link to comment
Share on other sites

เย้~!!! ดีใจจังที่มีคนปลดล็อกตอนจบที่แท้จริงให้ด้วย!!!  :pika10:

ทุกคนยังไม่ทิ้งโผ้ม!!!!!!  :pika12:

--------------------------------------

- The True Ending -

ทำไม.......สถานที่นี้จึงได้มืดมิด.....เหน็บหนาวเหลือเกิน.....สัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังกับพลังงานชีวิตที่ค่อยๆเลือนหายไปจากกายเรา....นี้เรากำลังจะตายรึเนี้ย....

...........................

ม......ไม่......ข้ายังไม่อยากตาย......ข้าจะต้องอยู่......

.............................

ถ้าข้าตาย.......ทุกอย่างจะต้องหายไป......ถ้าข้าตาย.....อาณาจักรโปเกม่อนที่ข้าสร้างเองจากจิตของข้าจะต้องสลายไป.....

.................แล้วถ้าเราจะให้เจ้ากลับไปแก้ไขละ...........

หืม!?......แสงสว่าง......คุณคือ.....

แสงสว่างหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิดอันเต็มไปด้วยความเหน็บหนาว แสงเล็กๆนั้นส่องแสงออกมาสาดใส่ร่างของชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินที่ดูเลือนลาง แสงสว่างนั้นเอ่ยพูดกับลีฟฟ่อน เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของอาณาจักร Mystery ผู้สิ้นชีพด้วยการเสียสละพลังชีวิตทั้งหมดเพื่อช่วยเหลืออาณาจักรที่เขารักเอาไว้

บางคนเรียกเราว่า......World.......บางคนเรียกเราว่า Earth......บางคนเรียกเราว่า อิกราซิล......บางคนเรียกข้าว่า Ka Of World.......บางคนเรียกเราว่าโลก ส่วนเจ้าเรียกเราว่า....

ท....ท่าน.......ท่าน Giar{ไกอา}......พระเจ้าของผม.....ความศรัทธาเพียงหนึ่งเดียวของผม...

ใช่.....นั้นคือชื่อที่เจ้าเรียกเรา.....เราคือโลกที่เจ้าเหยียบย่างอยู่.....

เป็นท่านจริงๆใช่ไหมครับท่านไกอา บอกผมสิว่าผมไม่ได้ฝันไป....ฮึกๆๆ ความศรัทธาที่ผมมีให้ชั่วชีวิตมีอยู่จริง!

เป็นความจริง.....เราอยู่กับเจ้าเสมอและเคียงข้างกับมนุษย์ทุกคน เราให้ทุกชีวิตอาศัยบนตัวเราบนโลกได้โดยไม่เกี่ยงเลยแม้เพียงน้อยว่าพวกเขาจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยหรือสูงส่งเพียงใด......แม้แต่มนุษย์ผู้หมายทำลายเรา.....เราก็ยินยอมให้พวกเขาอยู่.....

...ข....ข้าดีใจ......ที่ข้าได้เกิดบนโลกใบนี้.....ดีใจสุดเหลือที่ได้พบกับท่านไกอา.....ว่าแต่ที่นี้ที่ไหนเหรอ?

หึๆๆ....ที่นี้ก็ภายในโลกภายในตัวข้าไงละ.....เพราะ Ka{วิญญาณของสิ่งมีชีวิต} ของเจ้าหลุดออกมาจากร่างแล้วไง.....จึงได้คืนกลับมาที่นี้.....

แล้วทำไม.....ถ้าที่นี้เป็นที่สุดท้ายที่วิญญาณจะกลับมาจริงๆ......แล้วทำไมถึงได้มีแต่ผมเท่านั้นอยู่ที่นี้....

ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ก็เพราะมีแต่เจ้านั้นละ ที่บ้านับถือเราอยู่เพียงผู้เดียว!!! มนุษย์นับล้านมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่บ้าศรัทธาข้าหัวปักหัวป่ำ เป็นทั้งศาสนา เป็นทั้งบิดามารดา! มีแค่เจ้าเท่านั้น!!!

ง่ะ....แล้วคนอื่นๆที่ตายไป....

ลีฟฟ่อนงงชะงักนิ่งเมื่อถูกโลกที่เขาศรัทธานั้นหาว่าบ้าที่มาศรัทธาในโลกซะงั้น ก่อนจะสงสัยว่า....แล้ววิญญาณดวงอื่นๆที่ตายไปละ....พวกเขาไปอยู่ที่ใดกันหมด ชายหนุ่มจึงได้เอ่ยปากถามแสงสว่างที่ลอยอยู่ตรงหน้าออกไป

ทุกคนงั้นรึ......ฮึๆๆ ทุกชีวิตที่ดับสลายสิ้นลมไปก็จะไปยังดินแดนที่พวกเขาศรัทธาไงละ....หากพวกเขาศรัทธาในนรกและสวรรค์พวกเขาก็จะไปที่นั้น หากศรัทธาในชาติใหม่พวกเขาก็จะไปยังชีวิตใหม่ทันที หากพวกเขาศรัทธาภูติผีวิญญาณร้าย พวกเขาก็จะกลายเป็นพวกมันอย่างที่พวกเขาได้ศรัทธาไป....เราได้สร้างทุกโลกหลังความตายเพื่อรองรับดินแดนที่เหล่าคนตายได้ศรัทธาไว้หมดแล้ว....

แล้วตัวผมละ....

ก็เจ้าศรัทธาเราไม่ใช่รึ.....ถึงได้มาพบกับเรา......ก็เพราะมีแต่เจ้านั้นแหละที่ศรัทธาในเรา....เฮ้อ~ เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกเลยนะที่มายังแดนแห่งนี้ได้.....ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้อยู่คุยกับเจ้าที่นี้ตลอดไป....

ตลอดไปรึ!!! ผมทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก!!!

ลีฟฟ่อนทำหน้าตื่นตกใจเมื่อรู้ว่าเขาจะต้องอยู่ที่นี้กับโลกผู้ที่เขาศรัทธาและปรากฏร่างในรูปแบบของแสงสว่าง ก่อนจะที่ลีฟฟ่อนจะสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อกายเขานั้นรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นฉับพลัน ราวกับจะตอกย้ำว่าเขาได้สิ้นชีพไปแล้ว แสงสว่างเบื้องหน้าลีฟฟ่อนอ่อนลงเล็กน้อยคล้ายจะเศร้าเสียใจ

ทำไมละ......ทำไมถึงอยู่กับเราไม่ได้....

พ.....เพราะผม......เพราะผมเป็นเหมือนท่านไงละครับท่านไกอา.....ผมมีอาณาจักรของผมที่ผมสร้างขึ้นมาเองกับมือ.....ผมจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อให้อาณาจักรนั้นดำรงอยู่ได้! ถ้าผมตาย...ฮึกๆ......พวกเขาที่ผมรู้จักนั้นจะต้องหายไปด้วย! อึก.....แม้ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยลมหายใจที่รวยระริน.....ผมก็จะต้องอยู่ให้ได้เพื่อพวกเขา!!! ผมเป็นโลก....เป็นไกอาสำหรับพวกเขานะ!!!

อุ๊.....เป็นเหมือนเรารึ.....หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ

ท่านขำอะไรในตัวผมรึ?

ก็เปล่า.....เพียงแต่เราคิดไม่ผิดเลยที่มอบพลังสร้างมายาให้เป็นจริงแก่เจ้า.....เจ้าทำหน้าที่ได้สมกับเป็นเทพเจ้าจริงๆ....สหายร่วมชะตาของเรา...

สหาย?....ข้าคงไม่มีสิทธิถึงขั้นนั้นหรอกครับ....

เจ้าบอกเองมิใช่รึไงว่าเป็นไกอา....เหมือนกับที่เราเป็น....แต่ว่า...เจ้าได้สูญเสียร่างกายและเจตนารมณ์แห่งการดำรงอยู่ไปแล้ว.....เจ้าไม่มีร่างกายให้กลับไปแล้วนะ....

อึก....กายข้า.....กายข้าสลายไปหมดแล้วรึ? ถ้างั้นอาณาจักรของข้าก็!!!

ลีฟฟ่อนนั้นแทบสิ้นเรี่ยวแรงที่จะยืนไปในทันที เพราะการที่ร่างกายเขาสูญสลายไปทั้งหมดนั้น ก็หมายความว่าอาณาจักรของเขาก็ต้องสูญสลายไปเช่นกัน ภาพของเหล่าโปเกม่อนที่จงรักภักดีต่อเขาค่อยๆหายไปกับความว่างเปล่านั้น ต้องย้ำเข้าไปในใจของลีฟฟ่อนจนน้ำตาหลั่งไหลออกมา มันเป็นความสูญเสียที่ลีฟฟ่อนนั้นเศร้ายิ่งกว่าการเสียชีวิตของเขาไปซะอีก

แต่ไม่ต้องกังวล.....อาณาจักรนั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งพลังใจของเจ้าเพื่อดำรงอยู่อีกแล้ว......เพราะเจตนารมณ์แห่งการดำรงอยู่และความประสงค์สุดท้ายแม้กำลังจะตายของเจ้านั้น ได้แปรเปลี่ยนร่างเจ้าให้กลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า {อิกราซิล} ไปแล้ว.....และมันจะเป็นหัวใจของอาณาจักรของเจ้าเพื่อให้อาณาจักรเจ้ายืนยงตลอดไป...

จริงหรือครับท่านไกอา......ฮึกๆๆ ผมขอบคุณท่านจริงๆ ท่านมีพระคุณต่อผมเหลือเกิน!!!!

ขอบคุณเราทำไม....นั้นเป็นความประสงค์และเจตนารมณ์ของเจ้าเอง เป็นฝีมือและการกระทำของเจ้าเองทั้งหมด...

เฮ้อ.....ที่นี้ผมก็ตายตาหลับแล้วละ.......ผมจะอยู่เป็นเพื่อนท่านที่นี้ก็ได้ครับ....

ลีฟฟ่อนเงยหน้าขึ้นมาพลางยิ้มแป้นให้กับแสงสว่างตรงหน้าทั้งที่น้ำตานอง ไม่ใช่ด้วยความเสียใจกับการที่ต้องจากโลกไป แต่เป็นความดีใจต่างหากที่ทุกชีวิตที่เขาสร้าง ยังสามารถมีชีวิตและมีความสุขต่อไปได้อีก แสงสว่างผู้มีนามว่าโลกเปลี่ยนสีกลายเป็นสีส้มอ่อนๆคล้ายกับกำลังยิ้มให้กับลีฟฟ่อนยังไงยังงั้น

ไม่ละ......ขืนให้เจ้าอยู่ต่อไปที่นี้ มีหวังเราจะต้องโรคจิตเหมือนเจ้าเป็นแน่.....เราให้เจ้าไปดีกว่าก่อนที่เราจะบ้าตายกับความโรคจิตของเจ้าซะก่อน...

ท่านไกอาอ่า~!!! มาว่าผมโรคจิตได้ยังไงก้าน~!!!!

ฮะๆๆๆ เอาละ.....เราจะให้เจ้ากลับไปยังเกาะมิสเทอรี้อีกครั้ง.....พร้อมกับความทรงจำที่เจ้ามีอยู่ตอนนี้ด้วย....เป็นของขวัญแก่เจ้าที่ทำให้เราหัวเราะได้....ลีฟฟ่อน

เห้~ แต่ท่านบอกว่าร่างกายผมสลายไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ.....

หึๆๆ เราจะให้เจ้า.....กลับชาติไปเกิดใหม่อีกครั้งในฐานะ...สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์

-------------------------------------------------------------------------------------------

แล้วหลังจากนั้นก็มีโปเกม่อนสายพันธุ์ใหม่ตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับ ต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรมิสเทอรี้

และเรื่องราวสุดป่วนที่ชวนหัวเราะก็ได้เริ่มต้นขึ้นมาอีกครั้งนับตั้งแต่นั้น

ieVa2e82.jpg

-----------------------------------------------

และนี้ก็คือการสรุปโครงการแต่งฟิคของเกล้ากระผม~!!!

84L085d6.png

แล้วเจอกันใหม่ ในฟิคใหม่ๆของผมนะคร้าบ~!!!!

สวัสดีและขอบคุณมที่ติดตามมาตลอดครับ ^^

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.