Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ : The Lost Alphabet Santuary


Version5

Recommended Posts

บทที่ 72

        หลังจากที่เบต้าคุยกับจารัสเสร็จ  แต่เบต้าเองก็ไม่คิดว่าจารัสขี้คุยสุดๆ...  คุยไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง  จะจัดวันแต่งงานวันไหน  พ่อมิวทูคงคิดไปไกลแล้วมั้ง...  เรื่องแบบนี้ถามโดยไม่ตั้งตัว  ใครจะไปตอบได้...

        เมื่อเบต้าเดินมาในห้องโถงที่สักครู่เป็นสถานที่ประชุมเพื่อไปหามิวทู  ก็เห็นมิวทูทำสีหน้าเศร้าเล็กน้อยโดยที่เบต้าไม่รู้สาเหตุ

      “มิวทู... เธอเป็นอะไร...”  เบต้าถามมิวทูด้วยความเป็นห่วง...  มิวทูเหมือนเพิ่งจะได้สติก็สะดุ้งตอบกลับ

      “มะ...ไม่เป็นไร...”  ถึงมิวทูจะพูดแบบนี้  แต่ก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยดีแล้วเหมือนจะเดินหนี...

      “บอกมาเถอะ...”  เบต้าจับมือมิวทูไว้ไม่ให้เดินหนีตน...  มิวทูเหมือนจะกลัวอะไรบางอย่าง...

      “บอกว่า...ไม่เป็นไรไง...”  มิวทูพูดตะกุกตะกัก... เห็นชัดว่าโกหก...  เบต้าคิดว่าคงจะไม่ยอมพูดง่ายๆแน่...  ต้องทำอย่างนี้สินะ...

        เบต้าเริ่มเอามืออีกข้างจับเอว  ทำให้มิวทูเริ่มหน้าแดง...  แต่ก็ยังไม่ยอมบอก...  เบต้าเห็นว่ามิวทูยังไม่ยอมพูดจึงเริ่มรุกต่อไปเรื่อยๆ...  เริ่มจากเอาปากไปสัมผัสบริเวณซอกคอ...  จากนั้นก็เลื่อนขึ้นไปที่ใบหู...

      “...อะ...อ๊า...พอ...พอแล้ว ยอมบอกก็ได้”  มิวทูทนไม่ไหวจึงต้องยอม  แล้วหันไปหาเบต้าแบบอยากตบซักเปรี้ยง  แต่ก็เห็นเบต้าหน้าแดงเล็กน้อย...  สงสัยคงอยากรู้มากถึงขนาดต้องทำแบบนี้...

      “เอ่อ...”  ราเทียนขัดขึ้นทำให้เบต้าหันไปมองต้นเสียง  เห็นราเทียนยิ้มแห้งๆ...กับพวกคุโระ  พร้อมกับพวกลีเฟียที่หน้าแดงกันเป็นแถบ...  ทำให้เบต้ากับมิวทูหัวเราะกลบเกลื่อน  แต่มิวทูใช้มือหยิกหลังเบต้าโดยที่เหล่าโปเกมอนและลูกมังกรไม่เห็น  ทำให้เบต้าเกือบสะดุ้งเพราะมิวทูหยิกนั้น...  เจ็บมาก...

______________________________________________________

        เวลาล่วงเลยถึงกลางคืนอีกรอบอย่างรวดเร็ว...  เบต้าที่ยังไม่พ้นการฝึกหนักๆจากมิวทู  ส่วนฟรีซเซียร์ก็มาช่วยฝึกให้พวกลีเฟีย  ส่วนคุโระ ชิโระ กับราเทียน ก็วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น  เพราะมิวทูรู้ว่าบอสคงเอามาเลี้ยง  ไม่ใช่เอามาต่อสู้จึงไม่ฝึกให้  แถมพลังของคุโระกับชิโระก็ถือว่าไม่เลว  คงเพราะต้อง

ต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดในป่าก่อนที่บอสจะมาเลี้ยง

      “เฮ้อ เล่นเอาเหงื่อตก...”  ฟรีซเซียร์ในร่างมนุษย์นั่งดื่มน้ำเย็นเจี๊ยบ  ที่จริงตอนนี้ตนน่าจะไปปกป้องอยู่ที่หุบเขาน้ำแข็ง  แต่เพราะเกิดเหตุการณ์เข้า  เชสต้าจึงไม่อยากให้ใครโดนลอบทำร้ายจึงยุติการปกป้องสถานที่  ก็เลยไม่มีอะไรทำ  จึงมาช่วยฝึก...

      “เอ่อ...มิวทู วันนี้ขอนอนด้วยได้เปล่า”  ฟรีซเซียร์พูดกับมิวทู  ทำให้มิวทูแปลกใจ

      “ทำไมละ”

      “เอ่อ...คือ...เดลต้า...”  ฟรีซเซียร์พูดตะกุกตะกัก  ใบหน้าเริ่มแดง  ทำให้มิวทูสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าเกิดอะไรกัน

      “นอนห้องผมก็ได้ฮะ พี่บอสไม่อยู่”  ราเทียนใช้ขาหน้าแตะที่ขาของฟรีซเซียร์เพื่อเรียกความสนใจ

      “จะดีหรอ”  ฟรีซเซียร์รู้สึกไม่ค่อยดี  เพราะไปใช้ห้องคนอื่นโดยที่ไม่ขอเจ้าของห้อง

      “ไม่เป็นไรฮะ ถือว่าอยู่เป็นเพื่อนพวกผมก็ได้”  ราเทียนตอบอย่างร่าเริง  ทำให้ฟรีซเซียร์ยอมตกลง  ทำให้ราเทียน คุโระกับชิโระดีใจยกใหญ่

_______________________________________________

      “เฮ้อ...ต้องนอนห้องนี้จริงๆหรอเนี่ย”  ฟรีซเซียร์บ่นเบาๆเพื่อไม่ให้พวกราเทียนได้ยิน  ตอนนี้ตนกลับมาในร่างนกน้ำแข็งแล้ว  ทำให้ขนาดตัวใหญ่เกินไปจึงต้องลดขนาดให้เล็กลง...  แต่ก็ยังใหญ่กว่าพวกราเทียนอยู่ดี

      “ไม่ได้คิดไปเองด้วย พอมีพี่ฟรีซเซียร์อยู่ ห้องเย็นขึ้นมาเลย”  ราเทียนพูดยิ้มๆ  ส่วนคุโระกับชิโระก็หัวเราะแล้วพยักหน้า

      “ถ้าเย็นไปก็บอกนะ จะได้เพิ่มอุณหภูมิให้”  ฟรีซเซียร์พูดกับพวกราเทียน  แต่เหมือนพวกราเทียนคงไม่มีทางพูดแน่ๆ  สุดท้ายก็บอกให้นอนในที่สุด

        ความรู้สึกในตอนนี้  ฟรีซเซียร์คิดว่าเหมือนกับความรู้สึกที่มีพี่ๆของตน...  พี่ๆที่เสียไปแล้วในตอนนั้น...  มันน่าจะทำใจได้แล้ว...  แต่ทำไม...  ตอนนี้ถึงทำใจไม่ได้ซักที

      “พี่ฟรีซเซียร์ๆ”  ชิโระพูดแล้วใช้หัวสะกิดปีกของฟรีซเซียร์  ทำให้ฟรีซเซียร์หลุดจากห้วงความคิดของตน

      “อะไรหรอ”

      “คือ...พี่มีแฟนยังคะ”  ชิโระพูดด้วยเสียงที่ใสซื่อที่สุด  แต่นั่นก็ทำให้ฟรีซเซียร์สำลักอากาศ(???) ได้

      “ทำไมถึงถามแบบนี้หละ”  ฟรีซเซียร์ถามกลับ

      “ก็อยากรู้นิครับ”  คราวนี้คุโระเป็นคนตอบ  ทำให้ฟรีซเซียร์คิดว่า บอสไปสอนอะไรแปลกๆเข้า

      “นี่ไปรู้มาจากไหน”

      “ก็เมื่อก่อน พวกผมเคยเป็นโปเกมอนของเทรนเนอร์คนอื่นมาก่อนนะฮะ ก็เลยรู้อย่างอื่นมานิดนึง”  คุโระตอบ  ทำให้ฟรีซเซียร์ถอนหายใจ

      “...ยังเลยจ๊ะ...”

      “แล้วไม่คิดว่าอยากมีเลยเหรอคะ”  ชิโระถามเสียงใสอีกรอบ  ทำให้ฟรีซเซียร์ปวดหัวกับคำถามแบบนี้  แต่เนื่องจากอีกฝ่าย(น่าจะ)ยังเด็ก  ทำให้ตอบตรงๆ

      “ไม่รู้สิ...”

__________________________________________________

        ณ เวลาเดียวกัน  เชมี่ที่นั่งอยู่คนเดียวในห้องสมุดขนาดใหญ่  เพราะคิดว่าจะต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการลอบโจมตีจึงมาศึกษา  ยิ่งไปกว่านั้น  ‘เมือง’ ที่บอสถูกลอบโจมตีไม่น่าจะมีต้นไม้ด้วย  ไม่อย่างนั้นตนน่าจะได้ความทรงจำเกี่ยวกับต้นไม้  แต่พอใช้พลังอ่านความทรงจำของต้นไม้ทั้งโลกกลับไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับการลอบโจมตี...  นอกจากตอนที่พวกราเทียนหนีบางอย่างอยู่  เป็นกลุ่มเงาดำที่มีตาขาวแล้วมีนัยน์ตาเป็นจุดสีดำจุดเดียว...  เห็นแล้วมันให้ความหวาดกลัวบางอย่าง...

      “แกร๊ก...”  เสียงฝีเท้าดังขึ้นในห้องสมุด  ทำให้เชมี่ตกใจเพราะเสียงฝีเท้าไม่น่าจะมีอยู่ในที่แห่งนี้  ช่วงเวลาตอนนี้ก็กลางคืน  ไม่มีใครมาอ่านหนังสือในเวลานี้แน่นอน...  จึงรีบยกตั้งหนังสือที่ตนเอามาตั้งไว้ตรงหน้าว่าจะอ่านขึ้นมา  แล้วรีบเทเลพอร์ทหนีไปทันที...โดยไม่อยากรู้ว่า  สิ่งที่มาในที่นี้จะเป็นอะไรกันแน่...

...

      “...ว่าแล้วจริงด้วย แค่จงใจทำเสียงฝีเท้าก็รีบหนี... รอบคอบดีจัง...”  เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกล่าว

      “แต่เราไม่ได้มีเป้าหมายกับตนนี้นะ... เอ(A)”  เสียงของเด็กสาวอีกคนกล่าว

      “รู้อยู่แล้วน่า แค่อยากรู้เฉยๆ... ถึงขนาดเป็นห่วงอัลเซอุสขนาดนี้... เลยมาดูเล่นๆ เธอไม่คิดอย่างนั้นหรอ บี(B)...”  เอกล่าวขึ้น  ทำให้บีถอนหายใจ

      “เธอเนี่ยน้า ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ...”  บีพูดเสร็จ  ทำให้เอยิ้มอย่างร่าเริง

      “เอาละ... ถึงตอนนี้ซี© จะยังไม่ตื่น แต่อีกไม่นานคงจะตื่นแน่ๆ ลงมือกันเถอะ”  เอพูด  ทำให้บีพยักหน้า  แสงจันทร์ในตอนกลางคืนสาดส่องมาที่เด็กสาวทั้งสองคน  เผยให้เห็นเด็กสาวที่มีเส้นผมและดวงตาสีอเมทิส  และ  เด็กสาวที่มีเส้นผมและดวงตาสีน้ำเงิน...

Link to comment
Share on other sites

  • Replies 387
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Version5

    164

  • Loveless Nova

    93

  • SKYNET

    66

  • Tym

    34

Top Posters In This Topic

เอ่อ...คือ เบต้ามันทำอะไรไม่ดูรอบๆ เลยเหรอ?

เด็กน้อย 2 ตัวก็ถามอะไรฟรีซเซียร์เกินวัยไปหน่อยนะ = ="

A B C นี่เป็นใครกัน?

Link to comment
Share on other sites

เมื่อความรักบังตา ความหวานก็เกิดได้ทุกที่นั้นละ  :pika01:

เจ้าเด็กน้อยไม่รู้อะไร เจ๊เขากำลังอิจฉาลูคาริโอ้กะเจ้านายเขาอยู่นา... :pika01:

A B C....กับตาดำหนึ่งจุด... Unknown รึไงแกนะ  :pika02:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 73

        ...ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลกชินวะ...  สถานที่ที่ไม่ไม่ใครสามารถรับรู้ได้...นอกจากคนๆเดียว...

        มิสซิ่งโนเดินเข้าไปในโบราณสถานที่เมื่อก่อนยังเป็นซากปรักหักพัง...  แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นโบราณสถานที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อถึงขนาดที่มิสวิ่งโนเห็นแล้วยังตกใจเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างนี้...

        มิสซิ่งโนเดินตรงไปตามทางในโบราณสถานไปเรื่อยๆ  แม้จะมีซอกซอยซ้ายขวาแยกเต็มไปหมด  แต่มิสซิ่งโนก็แน่วแน่เดินตรงต่อไป...  จนในที่สุด  ก็พบห้องโล่งๆ  มีบัลลังก์อยู่สองที่ตั้งอยู่ด้านหน้า  โดยที่มีบุคคลนั่งอยู่ก่อนแล้ว

      “สวัสดี...ผมมาเยี่ยม...”  มิสซิ่งโนพูดอย่างอ่อนโยมที่สุดให้กับบุคคลที่นั่งอยู่ ณ บัลลังก์นี้

      “ขอบคุณที่มาเยี่ยมฉัน...”  หญิงสาวที่อยู่บนบัลลังก์ตอบขอบคุณอย่างดีใจ  มิสซิ่งหันไปดูรอบๆห้องอย่างสนใจ  ทั้งๆที่ในห้องไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากบัลลังก์

      “โบราณสถานแห่งนี้...เปลี่ยนไปมากเลยนะ”  มิสซิ่งโนพูดเบาๆ...  แต่หญิงสาวก็ยังได้ยินอยู่ดี...

      “ใช่...เพราะพลังที่ฉันได้มาจากอัลเซอุสกับเด็กตามังกรมา... จริงๆฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกับเจ้าที่ทำกับอัลเซอุสแบบนี้... แต่ถ้าให้พูดตรงๆน่าจะผิดกับเด็กตามังกรมากกว่าอัลเซอุสเสียอีก...”  หญิงสาวพูดอย่างเศร้าสร้อย  ทำให้มิสซิ่งโนแปลกใจเช่นกัน

      “ทำไมหละ บอสไปก่อเรื่องอะไรอีก”

      “เด็กคนนั้นไม่ได้ก่อเรื่อง แต่เพราะ... ตามฉันมาเถอะ… ดูด้วยสายตาของคุณเองน่าจะเข้าใจง่ายกว่านะ”  หญิงสาวยกมือขึ้นทำให้มิสซิ่งโนถอนหายใจ  จากนั้นก็ใช้มือของตนจับมือของหญิงสาวแล้วเดินไปพร้อมกัน

        ทั้งสองเดินไปแล้วลงบันไดเพื่อลงไปยังห้องใต้ดิน  มิสซิ่งโนแปลกใจมากขึ้นกับรอยอักขระที่ยิ่งลึกลงไปก็ยิ่งมีมากขึ้น  หญิงสาวเห็นใบหน้าที่แปลกใจของมิสวิ่งโนก็ช่วยไขข้อสงสัย

      “เด็กคนนั้นมีพลังมากเกินไป... และพลังของเด็กคนนั้นก็ไม่ยอมหยุดอีก... ข้าเลยต้องทำแบบนี้เพื่อให้พลังของเด็กคนนั้นใกล้เคียงศูนย์...”

      “...นี่ไง เด็กตามังกร”  หญิงสาวเดินลงมาจนถึงชั้นที่ลึกที่สุด  เปิดประตูเข้าไปให้มิสซิ่งโนเห็น  ทำให้มิสวิ่งโนเห็นแล้วแทบช็อค

        บอสในตอนนี้ถูกโซ่ที่มีอักขระล่ามไว้ทั้งแขนทั้งสองและขาทั้งสองด้วย  และยังมีเส้นแสงหลายเส้นเชื่อมกับหลังของบอส  ถึงตอนนี้บอสยังคงสลบอยู่  แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทานอะไรมาหลายวันแล้ว

      “เธอใช้เส้นใยดูดพลังมากเกินไปรึเปล่า...”  มิสซิ่งโนเห็นแล้วเป็นห่วง  เพราะขีดจำกัดของการใช้เส้นใยกับทุกสิ่งคือ หกเส้น  แต่ตอนนี้  ใช้ไปมากกว่าสิบเส้นแล้ว...

      “ลองดูพลังของเด็กคนนี้สิ...”  หญิงสาวตอบ  ทำให้มิสซิ่งโนอ่านพลังของบอสแล้วต้องตกใจอีกครั้ง

      “...”  มิสซิ่งโนเงียบ  เพราะค่าพลังที่ตนอ่านได้  พลังของบอสลดลงไปอย่างมาก...  แต่ไม่กี่วินาทีกลับฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็ว...  ถึงจะดูดพลังทุกวินาทีและพลังของบอสฟื้นพลังทุกๆห้าวินาที  แต่มันก็เหลือเฟือพอที่จะไม่ให้ของบอสลดลงเหลือศูนย์...

      “ขอโทษนะ... ที่ฉันทำกับเด็กคนนี้มากไป...”  หญิงสาวกล่าวขอโทษเพราะนึกว่ามิสซิ่งโนจะโกรธ

      “ไม่เป็นไรหรอก...ขอเพียงแค่อย่าให้บอสตาย กับอย่าให้บอสอาละวาดก็พอแล้ว”  มิสซิ่งโนกล่าวอย่างขบขัน  ทำให้หญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้

      “ผมคงต้องไปแล้ว... ขอโทษด้วยนะ...”  มิสซิ่งโนกล่าวร่ำลา  แต่ก็ยังกล่าวขอโทษด้วย

      “ไม่เป็นไรหรอก... คุณไปเถอะ”  หญิงสาวตอบกลับ  ทำให้มิสซิ่งโนยิ้มแต่ยังอดห่วงไม่ได้  แต่ต้องไป  จึงเทเลพอร์ทหายไป...  ทำให้หญิงสาวต้องอยู่ภายในโบราณสถานแห่งนี้อย่างโดดเดี่ยวอีกครา...  แต่ว่า...

      “อุ๊บ...”  บอสเริ่มได้สติ  ทำให้บอสส่ายหัวเพื่อไล่ความมึนงง  จากนั้นก็เริ่มสำรวจห้อง  แล้วจะเริ่มนึกเหตุการณ์...

      “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ... เจ้าหลับไปนานเลยนะ”  หญิงสาวพูดกับบอสโดยท่ารักษาระยะห่างเอาไว้

      “คุณ...”  บอสเริ่มจำเหตุการณ์ได้  เราโดนกลุ่มเงาโจมตีจนสลบ...  แล้ว...  ทำไมเราถึงไปพบกับมิสซิ่งโนได้...  แล้วทำไมเราถึงพูดแบบนั้นอีก...  รึว่า!!!

      “นี่คุณแอบสิงร่างผมไปหามิสซิ่งโนใช่ไหม!!”  บอสขึ้นเถียงกับหญิงสาว  ทำให้หญิงสาวตกใจเล็กน้อย  เพราะดูจากหน้าตาและจากที่มิสซิ่งโนเล่านิสัยของเด็กคนนี้(บอส)  เด็กคนนี้ว่าง่าย(???)  และทำงานไม่เคยพลาด  แต่ค่อนข้างประหม่า  แล้วไหนเด็กคนนี้ถึงขึ้นเสียง...  หญิงสาวเห็นแล้วก็ขำเล็กน้อย

      “ข้าขอโทษที่ยืมร่างเจ้า แต่ข้าอยากไปพบจริงๆ”

      “แล้วทำไมไม่ขอผมก่อนเล่า!! อย่างน้อยให้ผมทำใจก่อนสิครับ ถึงไงๆผมก็ขัดไม่ได้”  บอสเถียงต่อ

      “ก็ถึงบอกไงว่าข้าขอโทษ”  หญิงสาวพูดคำเดิม  แต่เสียงไม่พึงประสงค์ก็ออกมาจากบอส

      “จ๊อก~~”  หญิงสาวได้ยินแล้วแทบจะหยุดขำไม่ได้

      “โอย...หิวแล้ว...”  ถึงจะอาย  แต่บอสก็พูดตามความจริงเพราะหิวมาก  ทำให้หญิงสาวเสกอาหารตั้งอยู่หน้าบอส...  ตั้งอยู่หน้าบอสน่ะนะ...

      “นี่จะยั่วให้ผมหิวมากขึ้นหรอไงครับ(ฟระ)!!!”  บอสโวยออกมาเมื่อเห็นการกระทำของหญิงสาว

      “ขอโทษทีนะ แกล้งเจ้าแล้วมันสนุกดีหนะ”

      “…”  บอสจำยอมต้องงัดพลังเวทย์ออกมาช่วย  เพราะไม่งั้นก็หิวตายก่อนเป็นแน่...  ถึงจะแปลกใจที่จู่ๆพลังเวทย์ก็หาย  ทำให้เหนื่อยไปอีกยาว...  ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วก็กำลังจะเดินออกไปพร้อมกับเสียงร้องจากบอส

      “อ๊าก~~~ เผ็ด~~~”

      “ข้าลืมบอกไปว่าอาหารที่ข้าเสกมา เผ็ดสุดยอดทั้งนั้นนะ”  หญิงสาวพูดอย่างร่าเริงแล้วก็เดินออกไปโดยไม่ฟังบอสโวย

        หลังจากบอสโวยจนพอใจก็เหลือบไปเห็นอาหารที่คิดว่าน่าจะไม่เผ็ด  จึงทำใจแล้วลองเวทย์ที่มีอยู่น้อยนิดยกจานอาหารขึ้นมา  แล้วเทลงปากบอส  ทำให้บอสรู้สึกถึงความเอร็ดอร่อยจากอาหารจานนี้...

        ‘ก็ไม่ได้ร้ายนะ... แต่ทำไมต้องขังเราไว้ด้วย...’

        หญิงสาวเดินขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงยอดปราสาท  ถึงจะเหนื่อยแต่เธอยังคงมีความสุขกับการเดินที่เธอไม่ได้เดินมามากกว่าร้อยปีจึงอยากเดินให้เต็มอิ่ม  เมื่อถึงยอดปราสาทก็ชมวิวทิวทัศน์แล้วก็คดิอยู่ในใจ

        ‘ทำไมมิสซิ่งโนถึงไม่ให้ปล่อยเด็กตามังกรไปนะ... ดูไงๆก็ไม่น่าจะทำให้แผนการถึงกับล่ม... หรือ... มิสซิ่งโนไม่ยอมไว้วางใจคนจากนอกโลกเพราะในอดีตหรอกหรือ... ถึงจะดูแล้วไว้วางใจเด็กนั่นมากแต่จริงๆ มิสซิ่งโนคงไม่ไว้วางใจเด็กนั่นจนหมดแน่ๆ...’

Link to comment
Share on other sites

เบื้องหลังทั้งหมดอยู่ที่ผู้หญิงใหญ่คนนั้นคนเดียวสินะ  :pika05:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 74

        เช้าวันหนึ่ง

        เซเลบี้ลอยตัวมุ่งหน้าไปยังป่าในจุดที่พบอัลเซอุสด้วยความไม่สบายใจ  เพราะจุดที่เธอได้พบมันเป็นบริเวณที่น่าสงสัยที่สุด...  ตอนที่ไปเจออัลเซอุส  ต้นไม้แถวนั้นเป็นสีดำคล้ำ  ต้นไม้ในป่านี้ไม่มีทางเฉาตาย...นอกจากจะโดนดูดพลังหรือถูกทำให้เฉา

        เซเลบี้ลอยมาจนถึงจุดที่พบอัลเซอุส  แต่ตอนนี้ต้นไม้กลับกลายเป็นสีเขียวชอุ่มที่ไม่น่าเป็นไปได้...  เซเลบี้เห็นแล้วก็โล่งอกปนแปลกใจ  โล่งอกที่ต้นไม้กลับมาเป็นเหมือนเดิม...  แต่แปลกใจที่ทำไมถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้...  แต่เซเลบี้ก็ไม่ทันระวังตัว  จู่ๆลูกพลังสองลูกก็พุ่งเข้าใส่เซเลบี้จังๆ

      “อ๊า...”  เซเลบี้กระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้เพราะแรงจากลูกพลัง  แต่เซเลบี้ไม่รอช้ารีบฟื้นพลังตัวเองทันที

      “สังเคราะห์แสง(Synthesis)!”  ร่างของเซเลบี้เริ่มเปล่งแสง  แต่จู่ๆเด็กสาวสองคนก็โผล่ด้านหน้าของเซเลบี้

      “ฮีล บล็อค(Heal Block)...” เซเลบี้ได้ยินชื่อท่าแล้วตกใจ  รีบถอยหนีเพื่อรักษาระยะห่าง...  แสงที่เปล่างประกายจากตัวเซเลบี้ก็เริ่มหดหายไปเพราะผลของฮีล บล็อค...

      “พายุใบไม้(Leaf Storm)!!”  เซเลบี้ใช้ท่าที่รุนแรงที่สุดของตน  ทำให้ใบไม้ที่กองอยู่บนพื้นเริ่มลอยขึ้น  จากนั้นใบไม้เหล่านั้นก็เริ่มหมุน  ก่อให้เกิดพายุใบไม้ขนาดยักษ์  แล้วพายุก็มุ่งโจมตีใส่เด็กสาวทั้งสอง

      “Light Screen!! / Wish!!”  เด็กสาวสองคนพูดพร้อมกัน  สร้างบาเรียขึ้นมาต้านพายุใบไม้เข้า  แต่ได้แค่ลดพลังของพายุใบไม้จึงโดนเข้าใส่เด็กทั้งสอง  แต่เพราะ Wish ทำให้ฟื้นฟูพลังของเด็กทั้งสองได้

        เมื่อพายุสงบลง  เด็กสาวทั้งสองก็ไม่เห็นเซเลบี้...

      “เห็นไหม บอกแล้วไงว่าให้รีบเก็บภายในครั้งเดียว คราวนี้อีกฝ่ายรู้ตัวเลย”  เด็กสาวผมสีน้ำเงินพูดกับเด็กสาวผมสีอเมทิส

      “น่าๆ... ไงๆซะ... ก็หนีไม่รอดอยู่ดี...”  เด็กสาวผมสีอเมทิสกล่าว  ทำให้อีกคนถอนหายใจแต่ก็ไม่ได้พูดต่อ  จากนั้นทั้งสองก็หายไปจากตรงนั้น

        เซเลบี้นอนพักอยู่ใต้ต้นไม้หลังจากที่หนีออกมา...  ตอนนี้พลังก็หลงเหลือเพียงเล็กน้อย  จะฟื้นพลังก็ไม่ได้เพราะผลของฮีล บล็อค...  แต่เพื่อความไม่ประมาท...

      “Future Sight...”  เซเลบี้หลับตาเพื่อดูสถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  แต่หลับตาได้เพียงครู่เดียวก็ลืมตาแล้วหลบลูกพลังจากด้านหลังทันที

      “Hidden Power...”  เสียงเด็กสาวผมสีอเมทิสที่ดักหน้าเซเลบี้อยู่ดังขึ้น  ทำให้เซเลบี้กำลังจะใช้บาเรีย  แต่ลูกพลังจากข้างหลังชนเข้าใส่ทำให้เสียการทรงตัวบนอากาศ  แล้วก็โดนพลังของเด็กสาวแบบประชิด...

      “ตู้ม!!!” …เซเลบี้กระเด็นไปชนกับต้นไม้  และภาพสุดท้ายที่เธอเห็น...  ต้นไม้สีเขียวกลายเป็นสีดำอีกครา...

___________________________________________________

        มิวทูตื่นจากนิทราเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังแต่เช้า  ทำให้ทุกคนในห้องรวมทั้งห้องข้างๆตื่นขึ้นมาด้วยสภาพงัวเงีย

        มิวทูเดินไปเปิดประตูที่มีคนเคาะอยู่นาน  เปิดมาเจอเชสต้าที่ดูรีบร้อนเป็นพิเศษ  ในมือของเชสต้าเป็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่  แต่มิวทูไม่ทันจะพูดอะไร  เชสต้าก็ชิงพูดก่อน

      “มิวทู รีบหนีไปซะ ลีเฟีย กับ อีฟี่ก็ด้วย”  มิวทูฟังแล้วก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น  คนในห้องก็ยิ่งงงใหญ่ว่าเกี่ยวอะไรกับมิวทู ลีเฟียและอีฟี่  ส่วนฟรีซเซียร์ที่ตื่นมาก็ถาม

      “เกิดอะไรขึ้นหรอ เชสต้า”

      “เธอมาแล้ว... เพราะงั้นรีบหนีด่วน”  เชสต้าตอบ  ทำให้ฟรีซเซียร์หน้าซีด  แต่มิวทูก็ยังคงนึกว่า ‘เธอ’ ในที่นี้คือใคร  แต่พอมองเห็นใบหน้าซีดของฟรีซเซียร์ก็...

      “อย่าบอกนะ... มีโลเอต้ากลับมาแล้ว...”  เชสต้าพยักหน้าทำให้มิวทูหน้าซีด

      “ตอนนี้เครซเซอเรีย เชมี่ มิว เรซิรั่มรู้แล้วเลยเผ่นออกมาก่อน ส่วนเซเลบี้ไม่เจอตั้งแต่เช้า สงสัยคงจะรู้แล้วเลยรีบหนี เดลต้าก็รู้เรื่องเลยกลับไปประจำที่ลีค ตอนนี้มีแต่พวกเธอที่ยังไม่รู้”  เชสต้าพูดเสร็จก็รีบเดินออกไปเหมือนหนีอะไรบางอย่าง

      “งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”  ฟรีซเซียร์ก็รีบหนีเช่นกัน

      “เบต้า ช่วงนี้ขออยู่ห่างๆนะ ถ้าเป็นไปได้ก็ทำเป็นไม่รู้จักนะ ขอร้องละ”  มิวทูพูดกับเบต้า  น้ำเสียงที่เบต้าได้ยินนั้นรู้สึกจริงจังเอามากถึงมากที่สุด

      “ก็ได้...”  เบต้าตอบอย่างแผ่วเบา

      “ลีเฟีย อีฟี่ รีบหนีกันเถอะ”  มิวทูพูดกับทั้งสอง

      “เอ๋... หนีอะไรหรอคะ”  ลีเฟียสงสัย  ว่าทำไมต้องหนีด้วย  แล้วคนอื่นๆอย่างเบต้าถึงไม่หนี

      “ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว มีแต่พวกผู้ชายเท่านั้นที่ปลอดภัย”  มิวทูรีบพูด  แต่ก็เพราะรีบพูดทำให้ไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม  แต่แล้ว  เสียงเพลงที่เบาเหมือนปลิวมากับสายลมก็เข้าสู่โสตประสาทของมิวทู  ทำให้มิวทูเริ่มเหงื่อตก

      “แย่แล้ว เธอมาแล้ว”  มิวทูไม่รอช้า  รีบอุ้มลีเฟียกับอีฟี่แล้วชนหน้าต่างออกไปเลย  สร้างความตื่นตะลึงให้กับเบต้าและกราเซีย  ส่วนแบล็คกี้ก็ยังคงนอนหลับต่อไป...

        ‘เหมือนลืมใครไปเลย... หวังว่าจะไม่ลืมนะ...’  มิวทูคิด  ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็คงดี...

      “จะหนีไปไหนหรอ มิวทู...”

___________________________________________

      “แล้วจะกักผมไปนานขนาดไหนหละครับ”  บอสถามขึ้นด้วยความหงุดหงิด  เพราะไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากนั่งนิ่งอยู่ในห้องนี้  เกมก็ไม่ได้เล่นเลยเริ่มที่จะมีอาการลงแดง

      “ไม่รู้สิ...”  เสียงหญิงสาวตอบกลับมาอย่างสนุกสนาน  แต่มิสซิ่งโนก็เข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วงสุดๆ

      “เฟียร์ ปล่อยบอสออกมาด่วนเลย”

      “... ทำไมหละ เกิดเรื่องอะไรหรอ”  เฟียร์พูดเสียงเศร้าสร้อย

      “ไม่เป็นไรหรอก เฟียร์ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเอง”  มิสซิ่งโนหันไปพูดกับเฟียร์  ทำให้เฟียร์ใจชื่นมากขึ้น  แล้วจึงหันมาคุยกับบอส

      “ตอนนี้ที่ปราสาทเชสต้าเกิดเรื่องใหญ่สุดๆ รีบไปช่วยด่วนเลย”  มิสซิ่งโนรีบพูดมาก  ทำให้บอสฟังไม่รู้เรื่อง

      “พูดช้าๆหน่อยได้เปล่าครับ”  บอสบอกกลับ  ทำให้เฟียร์เป็นคนบอกเอง

      “คือ ปราสาทนั้นเกิดเรื่องเข้า ให้เธอรีบไปช่วย เข้าใจรึยัง…”  เฟียร์เดินเข้ามาหาบอส  ใช้มือเรียวแตะปลายโซ่พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างออกมา  โซ่ก็แตกกระจายออก

      “มีข้อตกลงอยู่สองข้อ...”  เฟียร์พูดขึ้นมา  ทำให้บอสพูดักคอ

      “ถ้าผมไม่ทำละครับ”

      “ฉันจะใช้โซ่ล่ามเธออีกรอบไง”  เฟียร์พูดขึ้นกับให้บอสหน้าซีด  รีบพยักหน้าแต่โดยดี

      “ข้อตกลงอะไรครับ”

      “ข้อแรก ห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าเธอไปไหน โดนอะไรมาบ้าง...”  เสียงอ่อนหวานของเฟียร์พูดขึ้นมา  ทำให้โปราณสถานเหมือนจะเรืองแสงเล็กน้อย  ราวกับโบราณสถานกำลังดีใจ

      “ส่วนข้อสอง... ให้มิสซิ่งโนพูดเอานะ”  เฟียร์หันหน้าไปหามิสซิ่งโน  ทำให้มิสซิ่งโนพยักหน้า

      “ก่อนอื่น ยอมรับข้อตกลงก่อน ไม่งั้นไม่พูด”  บอสคิดหนักกับคำพูดนี้  ถ้าไม่ทำก็โดนล่ามโซ่  ถ้ายอมรับตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไอข้อสองนี้มันคืออะไร  แต่ยังไงก็ต้อง...

      “โอเคครับ ยอมรับก็ได้ครับ”

      “ดีมาก... ข้อตกลงข้อที่สอง... เมื่อไปถึงแล้ว อย่าให้ใคร ‘เสียตัว’ เป็นอันขาด...”

Link to comment
Share on other sites

เด็กผู้หญิงสองคนนั้นเป็นใครกันแน่!! โปเกมอนเหรอ?

การมาของเมโลเอ็ตต้าน่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ :pika07:

แล้วทำไมข้อตกลงข้อที่สองของมิสซิ่งโนมันฟังดูแปลกๆ?

แต่ถึงยังไงก็สนุก :pika10:

Link to comment
Share on other sites

เมโลเอ็ตต้านี้คือ....ข้อตกลงนั้นคือ...มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ปลอดภัยนี้คือ...เสียตัวนี้คือ....มีแต่เรื่องชวนงงไปหมดเลย...  :pika09:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 75

      “... ข้อตกลงข้อที่สอง... เมื่อไปถึงแล้ว อย่าให้ใคร ‘เสียตัว’ เป็นอันขาด...”  มิสซิ่งโนพูดขึ้น  ทำให้บอสเหวอเล็กน้อย

      “หมายควา...”  บอสกำลังจะพูดต่อ  แต่มิสซิ่งโนก็ใช้เทเลพอร์ทให้บอสหายไปจากตรงนั้นโดยไม่ยอมไขข้อสงสัยให้เลย

      “คิกคิก ที่ทำอย่างนี้เพราะไม่อยากให้เด็กนั่นรู้หรอคะ ว่าเมโลเอ็ตต้าเป็นคนแบบไหน”  เฟียร์อมยิ้มเล็กน้อย  ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้ๆมิสซิ่งโน

      “อย่าให้รู้เลยจะดีกว่า เดี๋ยวหมดสนุกกันพอดี”  มิสซิ่งโนพูดต่อ  แล้วก็ใช้ปากของตนแตะปากของเฟียร์อย่างยาวนาน  อย่างที่เคยทำมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน...

________________________________________

      “จะหนีไปไหนหรอ มิวทู...”  เสียงหวานของเมโลเอ็ตต้าดังมาจากหลังคาของปราสาท  ทำให้มิวทำเงยหน้าขึ้นไปดู  เห็นเมโลเอ็ตต้ายิ้มหวานกับ...  เชือกหลายเส้น...  ทำให้มิวทูหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ  และยังซีดขึ้นอีก  เมื่อเห็นฟรีซเซียร์ในร่างมนุษย์โดนมัดด้วยเชือก

      “ฟรีซเซียร์!!”  มิวทูตะโกนขึ้นไป  เมโลเอ็ตต้ายิ้มขึ้นเล็กน้อย  แล้วหันไปหาฟรีซเซียร์  ทำให้ฟรีซเซียร์ดิ้นใหญ่

      “เหลือเธออีกคนนึงนะ มิวทู...”  เมโลเอ็ตต้าพูดเสียงหวานราวกับว่าจะพยายามให้ทุกคนที่ได้ยินเคลิ้มได้

      “ไม่ยอมหรอก”  มิวทูตะโกนขึ้นข้างบน

      “...เธอพูดเองนะ... Sing…”  เมโลเอ็ตต้าพูดเสร็จก็ร้องเพลงออกมา  เสียงเพลงที่ไม่ว่าใครได้ยินก็เป็นต้องหลับเพราะความไพเราะ  มิวทูได้ยินเพลงแล้วก็รีบอุ้มลีเฟียกับอีฟี่หนีไปให้ไกลที่สุด

___________________________________________

        พวกเบต้าที่ยังคงอยู่ในห้องเพราะยังตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นจึงหมกตัวอยู่ในห้อง  แล้วนึกทบทวนว่าเกิดอะไรกันแน่  แต่เสียงเพลงที่พัดปลิวมากับสายลมก็พัดเข้าสู่เบต้า กราเซีย

      “เสียงเพลงนี่...”  เบต้าพูดได้นิดหน่อยก็หลับไปพร้อมกับกราเซีย

________________________________________________

        บอสที่ถูกส่งแบบไม่เต็มใจในตอนนี้ก็ลอยอยู่กลางอากาศ  ใครจะไปรู้ว่ามิสซิ่งโนเล่นส่งแล้วโผล่มาอีกทีก็ลอยอยู่กลางอากาศที่มีความสูงน่าจะเกือบร้อยชั้น...  เพราะแรงลมทำให้บอสคุมสติไม่อยู่  แต่ได้ยินเสียงเพลงที่ดังจากไหนไม่รู้เข้าทำให้บอสรู้ว่า  เป็นเพลงที่อันตรายมาก(???)  จึงรีบเทเลพอร์ทตนเองให้ไปอยู่ในปราสาท  ที่ห้องของตนเอง

        หลังจากที่มาถึงแล้ว  ก็รีบไปหาเบต้าก่อนเพื่อถามถึงสถานการณ์  แต่ปรากฏว่าพอไปถึง  เบต้าก็หลับเสียแล้ว

      “พี่เบต้า ตื่นครับ”  บอสใช้มือเขย่าตัวเบต้า  แต่เหมือนจะไม่สำเร็จ  จึงเพิ่มระดับมากขึ้น  เริ่มจากใช้มือต่อย  ใช้น้ำสาด  แต่เบต้าก็ยังไม่ตื่น

      “...พี่บอส...ทำไรครับ”  แบล็คกี้ตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราหลังจากที่ตนหลับจนเต็มอิ่มโดยที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องราว

      “แบล็คกี้ รู้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”  บอสถามขึ้นมา

      “ไม่รู้ครับ... ผมหลับยาว...”

      “แล้วได้ยินเสียงเพลงไหม”  บอสถามต่อ  เพราะความจริง  ส่วนนี้น่าจะได้ยินเพลงได้ดีที่สุด  แต่เพราะตอนนี้เสียงเพลงหายไปแล้วเลยปลอดภัยอยู่บ้าง

      “ไม่เห็นได้ยินเลยครับ”  แบล็คกี้พูดอย่างกับคนประหยัดคำพูดสุดๆ...  แต่บอสก็ไม่สนใจกับสิ่งนี้มากนัก

      “ปลุกพี่เบต้ากันก่อนเถอะ”  บอสเริ่มทนไม่ไหวที่เห็นเบต้าหลับลึกขนาดนี้  ระดับความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เปลี่ยนจากน้ำมาเป็นเท้ายัน  ไม่ได้ผลอีกก็กลายเป็นใช้ลมกระแทกให้กระเด็นตกเตียง  แต่ก็ยังไม่ได้ผลอีก  ทำให้บอสเริ่มมีน้ำโหเล็กน้อย  และนั่นก็ทำให้แบล็คกี้รู้สึกถึงออร่าความโหด

จึงรีบถอยอยู่หลังประตู

      “ยังไม่ตื่นใช่มะ... Lightning Spear!!!”  บอสใช้เวทย์สร้างหอกสายฟ้าขึ้นมา  แล้วโยนลงไปอัดพื้นอย่างรุนแรง  ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับไฟฟ้าสถิตทั่วห้อง

      “...เกิดไรขึ้น”  เหมือนคราวนี้เบต้าจะตื่นแล้ว  ทำให้บอสเกือบหยุดหมัดที่คิดจะต่อยหน้าไว้ไม่ทัน  เพราะคิดไว้ว่า  ถ้าตื่นแบบไม่เต็มร้อยกะจะแจกหมัดเสริมสายฟ้าซักเปรี้ยง

      “ผมต้องเป็นคนถามต่างหาก ว่ามันเกิดไรขึ้น”

      “บอสไปไหนมา...”  เบต้าถามเสียงเครียด  ทำให้บอสสะอึกเล็กน้อย

      “เรื่องนั้นช่างมันเหอะ แต่ผมได้ภารกิจมาอย่างนึง”  บอสเริ่มเปลี่ยนเรื่อง  เพราะกลัวโดนลากโซ่อีกรอบ

      “อะไรหละ”

      “เค้าบอกมาว่า ‘เมื่อไปถึงแล้ว อย่าให้ใคร ‘เสียตัว’ เป็นอันขาด’ ผมไม่เห็นเข้าใจเลย”

      “ทางนี้ก็เหมือนกัน เห็นโปเกมอนที่ชื่อ เมโลเอ็ตต้ามา รู้สึกมิวทูจะบอกว่า พวกผู้ชายเท่านั้นที่ปลอดภัย นี่ก็สงสัยเหมือนกัน”  เบต้าเริ่มนำข้อมูลมาแบ่งปัน  แต่...

      “พี่เบต้า... คิดว่าเมโลเอ็ตต้าเป็นโปเกมอนแบบนั้นรึเปล่าครับ...”  บอสเห็นว่าเบต้าเริ่มหน้าซีด  ทำให้ลองถามดู

      “คงงั้น...”  เบต้าพูด  ทำให้บอสหน้าซีดเช่นกัน...

      “พี่ว่า... รีบไปช่วยก่อนที่จะเกิดเรื่องอะไรแปลกๆเถอะ...”  เบต้าเสนอขึ้น  ทำให้บอสพยักหน้า

      “ทางนี้ครับ”  บอสใช้เวทย์ตรวจจับเพื่อให้หาง่ายขึ้น  จากนั้นก็พุ่งนำ  ส่วนเบต้าก็พุ่งตามไป  ปล่อยให้แบล็คกี้ที่ตื่นขึ้นมาหลับไปพร้อมกับกราเซียที่ยังไม่ตื่น

_____________________________________

        มิวทูในร่างมนุษย์รู้สึกตัวอีกทีก็โดนมัดเสียแล้ว...  ถ้าเธอจำไม่ผิดเมื่อสักครู่เธอกำลังหนีเมโลเอ็ตต้าอยู่  จากนั้นก็ให้ลีเฟียกีบอีฟี่ไปอีกเธอเพื่อไม่ให้เมโลเอ็ตต้ามา...พวกลีเฟียได้  แต่...  จำหลังจากนั้นไม่ได้แล้ว

      “ตื่นแล้วหรอ มิวทู”  เสียหวานของเมโลเอ็ตต้าทำให้มิวทูตกใจ  พอมองดูอีกทีก็พบว่าตอนนี้นอนอยู่บนเตียง  ทำให้มิวทูหน้าซีด

      “ยะ...อย่านะ”

      “ขอโทษทีนะ มิวทู... ที่จริงฉันอยากทำกับเรซิรั่มมากกว่า แต่เห็นว่าเรซิรั่มพึ่งแต่งงานไปเลยปล่อยรายนั้นไว้ซักพัก เลยขอมาทำกับเธอก่อนนะ... แล้วค่อยฟรีซเซียร์”  เมโลเอ็ตต้าพูดอย่างสนุกสนาน  แต่คนฟังสองคนกลับหน้าซีด...  น้ำตาของมิวทูเริ่มไหล  แต่เมโลเอ็ตต้าไม่สนใจ  ค่อยๆปลดเสื้อของมิวทูทีละชิ้นๆ...

      “เปรี้ยง!!”  เสียงประตูโดนอะไรซักอย่างกระแทกจนประตูกระเด็นทำให้เมโลเอ็ตต้าตกใจ  เบต้ารีบเข้ามาอย่างเร่งรีบ  แต่บอสดันไปเห็นสภาพมิวทูก็แทบจะเอามือมาบัง  ส่วนเบต้าก็ใช้พลังจิตกระแทกเมโลเอ็ตต้าจนเมโลเอ็ตต้าเซเล็กน้อย  บอสเลยเอาผ้าห่มที่กองอย่บนพื้นคลุมมิวทูไว้

      “มาขัดจังหวะฉันทำไม”  เมโลเอ็ตต้าเริ่มพูดเสียงหวาน  ราวกับจะใช้เสียงเพื่อควบคุมบอสและเบต้า

      “ไม่ต้องมาพูดเสียงหวานเลย”  เบต้าพูดเสียงเข้ม  เพราะคราวนี้เหมือนจะโกรธจริงๆ(???)  ทำให้เมโลเอ็ตต้ารู้ว่าใช้เสียงตนไม่ได้ผลจึงต้องใช้...

      “Sing…”  เมโลเอ็ตต้าเริ่มร้องเพลง  แต่เหมือนทั้งบอสและเบต้าจะรู้ดีว่าควรทำอย่างไร  บอสจึงสร้างหอกสายฟ้าขึ้นในมือ  ส่วนเบต้าก็หายใจลึกที่สุดเท่าที่ทำได้

      “Lightning Spear!! / Hyper Voice!!”  บอสขว้างหอกสายฟ้าลงพื้นพร้อมกับที่เบต้าตะโกนออกมาดังๆ  ทำให้เสียงเพลงโดนกลบจนมิด  และเมโลเอ็ตต้าถึงกับมึนกับเสียงที่ดังก้องจนเซแล้วจู่ๆก็ยิ้ม  จากนั้นก็หายไป

      “เฮ้อ... จบซะที...”  ฟรีซเซียร์โล่งอก  หลังจากที่บอสเดินเข้ามาแกะเชือกที่รัดไว้...แต่

      “ทำยากมันแกะยากงี้ละครับ... นี่มันปมตายไม่ใช่หรอครับ”  บอสแกะเชือกไม่ออก  แต่จู่ๆก็ใช้เวทย์ให้เชือกกลายเป็นน้ำแข็ง  แล้วบอสก็ใช้มือเคาะน้ำแข็งจนแตก

      “มีบางอย่างแปลกไปนะ... ปกติเมโลเอ็ตต้าไม่น่าจะหยุดแค่นี้นะ”  ฟรีซเซียร์พูดขึ้น

      “นั่นสิ... ฉันสังเกตุเห็นก่อนเมโลเอ็ตต้าไป เธอยิ้มเล็กน้อยด้วย...”  มิวทูเริ่มพูดต่อ  เพราะรู้สึกไม่ดีสุดๆ

      “พี่มิวทูครับ ในปราสาทยังมีใครที่เป็นผู้หญิงหรือตัวเมียอีกรึเปล่าครับ”  บอสถาม

      “ก็พาออกมาหมดแล้วนะ ทั้งลีเฟียกับอีฟี่... เอ๊ะ...”  มิวทูเริ่มหน้าซีด

      “ลืมชิโระ...”  มิวทูพูดเสร็จ  บอสก็หายไปพร้อมกับออร่าสีดำ

      “สงสัย จบงานนี้ต้องสวดศพเมโลเอ็ตต้ารึเปล่าเนี่ย”  เบต้าพูดขึ้นลอยๆ

      “ไม่หรอก ถ้าเมโลเอ็ตต้าไม่ทำอะไรเกินเลยนะ...”  มิวทูส่ายหน้าเบาๆ  โดยที่คิดไว้แล้ว  ว่าไงๆซะ  เมโลเอ็ตต้าก็คงทำอะไรเกินเลยแน่...

Link to comment
Share on other sites

เมโลเอ็ตต้าเป็นพวกโรคจิตรึไงกัน!!!! :pika08:

แอบขำนิดหน่อยตรงที่บอสพยายามปลุกเบต้า สารพัดวิธีจริงๆ...

Link to comment
Share on other sites

ขอโทษด้วยนะครับ  ติดสอบอยู่ทำให้แต่งลำบากสุดๆ= =" (อู้ละสิไม่ว่า : บอส)

บทที่ 76

        ในห้องของบอส  คุโระ ชิโระ และราเทียนกำลังหลับอยู่  แต่จู่ๆ  ผู้มาใหม่ก็มาเยือนในห้องแห่งนี้  ทำให้ชิโระตื่น

      “คุณ... ใคร...”  ชิโระพูดไม่ต่อเนื่องเพราะเพิ่งตื่น  เมโลเอ็ตต้าเห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ้มร่า  ใช้มือ(?)จับกดชิโระทันที  ทำให้ชิโระตกใจ  แต่แรงบีบนั้นทำให้ชิโระเจ็บ

      “โอ๊ย…”  เสียงชิโระดังขึ้นทำให้คุโระและราเทียนตื่น  คุโระเห็นสภาพชิโระแล้วรีบแปลงร่างเป็นซันเดอร์  พุ่งด้วยความเร็วเท่าสายฟ้าไปชนกับมือของเมโลเอ็ตต้า

      “ขัดจังหวะอีกแล้ว”  เมโลเอ็ตต้าบ่นอย่างไม่พอใจในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มของเธอ(????????)  ทำให้เธอรู้สึกโกรธ

      “Hyper Voice!!”  เมโลเอ็ต้าร้องเพลงออกมาดังลั่น  ทำให้คุโระโดนเสียงกระแทกจนกระเด็นไปโดนกำแพงจนสลบ  เสียงดังสนั่นของกำแพงทำให้ราเทียนตื่นอย่างเต็มตา  เห็นคุโระนอนลงไปกองอยู่กับพื้นแล้วมีเลือดไหลจากการกระแทกกับกำแพง  ทำให้ราเทียนพ่นไฟใส่เมโลเอ็ตต้าเต็มพลัง  เมโลเอ็ตต้าเห็นก็ร้องเพลงขึ้นมาอีกเพลง

      “Echoed Voice!!”  เมโลเอ็ตต้าร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ลูกไฟที่ราเทียนพ่นออกมาเริ่มอ่อนแรงลง  จนลูกไฟหายไปเบื่องหน้าของเมโลเอ็ตต้า

      “พลังจิต(Psychic)”  เมโลเอ็ตต้าไม่หยุดแค่นี้  ใช้พลังจิตยกราเทียนลอยขึ้นในอากาศโดยที่ราเทียนขยับไปไหนไม่ได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครขัดจังหวะ

      “ตัวยุ่งหมดแล้วนะ ถึงเวลาเอาจริงซะที”  เมโลเอ็ตต้าเลียแขนชิโระ  ทำให้ชิโระขนลุกเล็กน้อย  จากนั้นก็เริ่มเอามือลงไปข้างล่างชิโระ

      “อย่านะ...”  ชิโระใช้แขนปัดมือของเมโลเอ็ตต้า  ทำให้เมโลเอ็ตต้าเริ่มได้ใจ  ค่อยๆรุกชิโระทีละน้อย

      “Element Shackle”  บอสที่โผล่ตอนไหนไม่ทราบ  ร่ายเวทออกมาเป็นโซ่ธาตุหกเส้นหกสีเข้ารัดเมโลเอ็ตต้าด้วยความโกรธ  เหมือนบอสยิ่งโกรธมากเท่าไหร่  โซ่ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น  จนร่างของเมโลเอ็ตต้ามีแผลเลือดไหล

      “Shackle Blas…”  บอสกำลังจะร่ายเวทต่อไปโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของเมโลเอ็ตต้า  แต่ชิโระก็เข้ามากอดที่ขา

      “พี่บอส พอเถอะคะ”  เสียงของชิโระทำให้บอสได้สติ  พอรู้สึกตัวอีกที  โซ่ก็รัดจนเลือดของเมโลเอ็ตต้าไหลเป็นทางทำให้บอสตกใจ  ยกมือที่สั่นเทาของตนด้วยความกลัว...  ตนเกือบฆ่าเมโลเอ็ตต้าโดยไร้สาเหตุไปแล้ว...  แต่ก็รีบคลายโซ่ให้รัดน้อยลง...  แต่ก็ยังไม่สลายโซ่อ่านะ...  แต่คุโระก็ฟื้นแล้ว

      “คุโระเป็นไงบ้าง”  บอสวิ่งเข้าไปหาคุโระด้วยอาการเป็นห่วง  คุโระใช้มือจับหัวที่ปูดขึ้นมาเล็กน้อย  แต่ชิโระก็เดินเข้ามาหาพี่ชายด้วยความเป็นห่วง

      “พี่คะ เป็นไรไหมคะ”  ชิโระถามด้วยความเป็นห่วง  แต่คุโระส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร  แต่ชิโระก็ยังไม่เชื่อ  แล้วก็เลียแผลคุโระให้  ทำให้บอสตกใจกับการกระทำ  แต่บอสเป็นพี่น้องกันคงไม่เป็นไรมั้ง  เลยไปดูสภาพราเทียนต่อ

      “ราเทียน เป็นไงบ้าง”  บอสอุ้มราเทียนที่ลอยอยู่เพราะพลังของเมโลเอ็ตต้า

      “ไม่เป็นไรครับ”  ราเทียนตอบกลับ  ทำให้บอสยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

      “กะแล้วว่าต้องได้แผล”  มิวทูเดินมาถึงก็พูดขึ้น  หลังจากเห็นสภาพของเมโลเอ็ตต้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้  แต่ขืนเป็นห่วงเดี๋ยวโดนอะไรมากกว่านี้อีก

      “สรุปเมโลเอ็ตต้าเป็นพวกเลสจริงๆหรอ...”  บอสทำหน้าเหยเกถาม  ส่วนมิวทูก็ได้แค่พยักหน้า

      “ตอนนี้บอกเลขาของเมโลเอ็ตต้าแล้ว อีกซักพักก็คงมา”  ฟรีซเซียร์บอก  ทำให้บอสโล่งอก...  แต่เลขานี่มัน...

      “เลขา? ทำไมถึงมีหละครับ”

      “เพราะเมโลเอ็ตต้าต้องแสดงคอนเสิร์ตอะไรทำนองนี้ไง ถึงต้องมีเลขาที่ไว้ใจได้”  มิวทูบอก  แล้วจู่ๆก็มีใครเดินมา

      “ท่านเมโลเอ็ตต้า บอกกี่ครั้งแล้วคะ ว่าอย่าทำแบบนี้กับคนอื่นอีก”  ผู้หญิงผมบลอนด์ยาวพูดกับเมโลเอ็ตต้าอย่างสุภาพ  แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความเป็นห่วง

      “ขอโทษทีจ๊ะ คิวคอน”  เมโลเอ็ตต้าพูดยิ้มๆ  ทำให้บอสคลายเวทย์ที่ตรึงเมโลเอ็ตต้าไว้

      “คราวหน้าเดี๋ยวมาใหม่น้า”  เมโลเอ็ตต้าพูดอย่างดีใจ  แต่ในใจของทุกคนคิดเหมือนกันหมด

        ‘ไม่มาก็ไม่มีใครว่านะ...’

______________________________________________

ณ โปเกมอนลีค

        เดลต้าที่กำลังนั่งตรวจเอกสารที่กองสูงกว่าตนอยู่  เพราะเนื่องจากหนีงานไปพักใหญ่  ทำให้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีหยุด  จนตอนนี้ต้องมานั่งจมกองเอกสารโดยมีลูคาริโอะของเดลต้ามาช่วยด้วย

      “ขยันจริงเลยนะ พี่เดลต้า”  ผู้มาใหม่ใส่ชุดตำรวจเต็มยศกล่าวทักทายพี่ชายของตนเอง

      “อ้าว อัล ทำไมถึงมาในสภาพแบบนี้หละ”  เดลต้าต้องลุกขึ้นมาพูด  ไม่งั้นไม่เห็นหน้าน้องสาวของตนเป็นแน่

      “ก็ที่นี่เข้มจะตาย ต้องใส่เต็มยศไม่งั้นเข้ามาพบพี่ไม่ได้ ถึงจะบอกว่าเป็นน้องสาวก็ต้องใสเต็มยศอีก”  อัลฟ่าพูดเสียงเหมือนจะงอนพี่ชายของตนเล็กน้อย  ทำให้เดลต้าอดขำไม่ได้

      “แล้วมาทำไมหละ”

      “หนูมาปรึกษาเกี่ยวกับคนที่ชื่อว่า ‘เบต้า’ คะ”  อัลฟ่าเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

      “...หรอ... แล้วก็พี่แกมม่า ไม่ต้องมาหลบเลย ผมรู้นะว่าพี่อยู่ในช่องลม”  เดลต้าพูดขึ้น  จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านบน  แล้วผู้มาใหม่อีกคนก็กระโดดลงมาจากช่องลม

      “สงสัยพี่ต้องฝึกอีกเยอะนะเนี่ย”  แกมม่าพูดติดตลก

      “พี่ก็คงมีเรื่องเหมือนกับหนูสินะคะ”  อัลฟ่าพูดกับแกมม่า  แกมม่าพยักหน้า

      “ใช่ เวลาพี่นึกถึงเบต้าทีไร รู้สึกในหัวมันจี๊ดขึ้นมา”  แกมม่าพูดพลางจับหัวของตน

      “พี่ก็เป็นหรอคะ”  อัลฟ่าถามอย่างตกใจ  เพราะไม่นึกว่าพี่ของเธอก็เป็นเหมือนเธอด้วย

      “ใช่ ผมก็เป็นเหมือนกัน แต่ลองถามพี่เชสแล้ว พี่เชสไม่ตอบอะไรเลย...”  เดลต้าพูดขึ้น  ทำให้ในห้องเงียบขึ้นมาซักพัก

      “พี่ว่า เราควรถามพี่เชสตรงๆเลยดีกว่า...”  แกมม่าพูดสรุป  อัลฟ่ากับเดลต้าก็พยักหน้าเห็นด้วย  จากนั้นอัลฟ่าก็เดินออกทางเดิม  ส่วนแกมม่าก็ขอสำรวจโปเกมอนลีคต่อ  เพราะตนเข้ามาแบบผิดกฏ= =”

        <ลูคา ได้ยินใช่ไหม>  เสียงฮีทรานของแกมม่าดังขึ้นในหัวลูคาริโอะ

        <ได้ยินคะ ทำไมหรอ>  ลูคาใช้กระแสจิตตอบกลับ

        <ข้าว่า... เรื่องในอดีตใกล้จะถูกเปิดเผยแล้วหละ>  ฮีทรานพูดต่อ

        <ใช่ เรื่องในอดีตใกล้ถูกเปิดเผยแล้ว>  เสียงหวานของใครบางคนดังขึ้นในหัวของฮีทรานและลูคาริโอะ

        <ท่านซุยคุน…>  ลูคาริโอะส่งกระแสจิตต่อ

        <เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอก... ความลับไม่มีวันไม่ถูกเปิดเผย... แต่จะเปิดเผยตอนไหนก็อีกเรื่อง...>

Link to comment
Share on other sites

เมโลเอ็ตต้าน่ากลัวจริงแฮะ :pika07: คิวคอนทนอยู่ด้วยได้ไงน่ะ?

ersion_[5]" post="66419" timestamp="1348134358]

ขอโทษด้วยนะครับ  ติดสอบอยู่ทำให้แต่งลำบากสุดๆ= =" (อู้ละสิไม่ว่า : บอส)

ฟิคผมเองก็ชะงักเพราะต้องอ่านหนังสือเหมือนกัน สอบเสร็จเมื่อไรคงได้แต่งต่อ :pika11:

Link to comment
Share on other sites

ชิ! บอสมาขัดจังหวะฉากที่น่าสนใจไปซะได้ น่ารำคา..*ฉึก!*

me/ ถููกสังหารก่อนที่จะได้แสดงความคิดเห็นเรื่องอื่น...

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 77

        หลังจากที่เมโลเอ็ตต้าไปแล้ว  เทพหลายตนก็เริ่มที่จะทยอยกลับมาอย่างดี๊ด๊า  เพราะบางตนไปช็อปปิ้งบ้าง  เดินเที่ยวบ้าง  แต่พอกลับมาเห็นจำเลย<บอส>  กำลังกินข้าวอยู่ก็รีบเข้าไปซัก

      “บอส ไปไหนมา”  เชสต้าถามขึ้นคนแรก  เหล่าบรรดาโจทก์ทั้งหลายก็ต่างที่จะคาดคั้นความจริงจากจำเลย  ทำให้จำเลยทำตาปริบๆใส่

      “เอ่อ... อ้าวพี่เมโลเอ็ตต้า”  บอสยกมือไหว้ให้กับคนข้างหลัง  ทำให้เหล่าบรรดาโจทก์รีบหันหลังทันที  แต่ก็หันไปพบกับความว่างเปล่า  พอหันกลับมา  บอสก็ไม่อยู่แล้ว

      “หนีเร็วจริงๆ ขนาดไม่ได้ใช้เทเลพอร์ทนะเนี่ย”  เชสต้าเริ่มหัวเสีย  เพราะบอสตะโกนอย่างกับว่าเมโลเอ็ตต้ากลับมาจริงๆ

        อีกด้าน  บอสก็นั่งหอบเพราะวิ่งหนีมาแทบตายโดยตั้งใจว่าจะหนีให้ไกลๆจากโจทก์(พวกเชสต้า)  แต่ถึงกระนั้นก็ยังอยู่ในปราสาทซีไลเนอร์อยู่ดี

        บอสเดินเล่นอยู่แถวนั้นก็เจอกับห้องๆหนึ่งเข้า  เป็นห้องที่ให้ความรู้สึกไม่น่าและไม่ควรเข้าไป  แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นของบอสก็เอาชนะอยู่ดี  ทำให้บอสค่อยๆแง้มประตูทีละน้อย  แล้วค่อยเปิดจนสุด

        ข้างในห้องคล้ายๆกับห้องของแม่มดยังไงไม่รู้  แต่ดูดีๆก็เหมือนกับห้องปรุงยา  เพราะมีหม้อยาตั้งอยู่  บอสเดินดูไปรอบๆ  ไปดูกระดานก็พบกับสูตรยาเต็มไปหมด  ตัวอักษรที่ละลานตาทำให้บอสส่ายหน้าหนี  แต่ก่อนที่จะหันหน้าหนี  สายตากลับไปเห็นสูตรยาบางอย่างเข้า  ทำให้หันกลับไป...

      “แอ๊ด...”  เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้บอสตกใจ  รีบเทเลพอร์ทหนีไปโดยที่มือก็คว้าสูตรยานั้น

_____________________________________________________

      “นี่... มีใครเห็นเซเลบี้บ้าง”  มิวทูถามทุกคนขึ้น  หลังจากที่เธอจับจิตของเซเลบี้ไม่ได้ซักพัก

      “ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว... ไม่สิ... ก่อนที่เมโลเอ็ตต้าจะมาอีก”  ฟรีซเซียร์เริ่มเป็นห่วง

      “พี่เชสต้าครับ”  แกมม่าเดินมาพูดเสียงเครียด  โดยมีเดลต้ากับอัลฟ่าเดินตามหลัง  ทำให้เชสต้าพอเดาได้ว่ามาเรื่องอะไร

      “เดี๋ยวค่อยคุยกัน... ตอนนี้มีเรื่องสำคัญ”  เชสต้าพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ(ในความคิดของพวกแกมม่า)  ทำให้แกมม่าพยักหน้าโดยที่ไม่ซักต่อ  แต่เดลต้าที่เหมือนจะใกล้ชิดพวกเทพมากที่สุดก็ถามขึ้น

      “เกิดเรื่องอะไรหรอครับ...ว่าแต่ เมโลเอ็ตต้าไม่อยู่แน่นะครับ”  เดลต้าระแวงซ้ายขวาอยู่ตลอดเวลา  เพราะก่อนหน้านี้ รูคาริโอะที่เดินอยู่ข้างหลังก็โดนฉุดไป  ยังดีที่หาตัวทัน...

      “ไม่ต้องห่วงหรอก เมโลเอ็ตต้าไม่อยู่แล้ว ที่เกิดเรื่องหนะ คือเซเลบี้ ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้”  เชสต้าพูดอย่างใจเย็น  แต่ทุกคนคงรู้ดีไม่ได้ใจเย็นอย่างที่เห็นแน่  เพราะอาจโดนลอบทำร้ายก็เป็นได้

      “ฉันเห็น...”  เสียงหวานพูดขึ้นทำให้หลายคนหันไปตามเสียง  แต่กลับเป็นความว่างเปล่า  แต่ซักพัก  ซุยคุนก็ปรากฏขึ้น

      “จริงหรอ ซุยคุน เธอเห็นที่ไหน”  ฟรีซเซียร์ถามอย่างใจร้อน

      “ล่าสุดที่ฉันเห็น ตอนที่ฉันกำลังเดินเล่น เห็นเซเลบี้เข้าไปในป่ามนตรา...”

      “แย่ละ...”  มิวทูเริ่มรู้สึกไม่ดี...  ความรู้สึกนี้เหมือนตอนก่อนที่บอสจะหายไป  หวังว่าเซเลบี้คงไม่เป็นไรนะ...

        แต่บุคคลที่หนีแทบตาย  สุดท้ายก็โผล่ขึ้นมากลางวงพร้อมกับร่างของเซเลบี้ทำให้ทุกคนตกใจตะโกนออกมา

      “บอส!!”

      “จะตะโกนทำไมครับ อยู่ใกล้แค่นี้เอง”  บอสเอามือข้างที่ว่างอยู่ขึ้นมาปิดหูข้างเดียว  และแน่นอน  หูอีกข้างถึงกับชา

      “ไปไหนมา แล้วทำไมเซเลบี้ถึงมีสภาพแบบนี้”  เชสต้าถามเสียงเครียด

      “ตอนผมหนี ผมไปเจอพี่เชมี่พอดี แล้วพี่เชมี่ก็บอกว่ารู้สึกไม่ดีที่ป่ามนตรา ผมเลยออกไปสำรวจเอง แต่แค่ไปถึงก็เจอเลย ผมก็เลยพากลับมาไง... ส่วนอาการ... ผมว่าเป็นแบบเดียวกับพี่อัลเซอุส…”  บอสเริ่มพูดเสียงเครียด  ไม่นึกว่าผู้หญิงที่ชื่อว่าเฟียร์จะเริ่มลงมือต่อ...  ดูดพลังของผมยังไม่พออีกเหรอ!!!

      “รีบบอกท่านเชมี่เถอะ”  มิวทูพูดขึ้น  ทุกคนยกเว้นบอสก็พยักหน้าเห็นด้วย  จากนั้นก็เดินไปหาเชมี่โดยที่บอสไม่เดินตามไปด้วย...

        หลังจากที่บริเวณนั้นเงียบสงบจนบอสคิดว่าไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว  บอสก็พูดกับใครไม่รู้  เหมือนกับพูดกับตัวเองมากกว่า

      “คุณมิสซิ่งโน ผมรู้ว่าคุณอยู่แถวนี้”  หลังจากที่บอสพูดได้ไม่นาน  มิสซิ่งโนก็โผล่ขึ้นมา

      “พาผมไปที่โบราณสถานหน่อย”  บอสพูดเหมือนขอร้อง  แต่น้ำเสียงและนัยน์ตาที่กลายเป็นนัยน์ตามังกรสีน้ำเงินเหมือนกับเป็นคำสั่งมากกว่า

      “ได้...”  มิสซิ่งโนพูดคำเดียวแล้วทั้งสองก็หายไปจากบริเวณนั้น

        พวกมิวทูที่กำลังเดินไปหาเชมี่  แต่เหมือนกับว่าคนที่ตามอยู่จะรู้อยู่แล้วเลยมารอหน้าห้องคุมพลัง...  ห้องที่อัลเซอุสพักฟื้นฟู

      “พาเข้ามาในห้องนี้เลย มิวทู ฟรีซเซียร์ ขอแรงหน่อย ส่วนที่เหลือรออยู่ข้างนอกนะ”  เชมี่พูดเสียงทรงอำนาจ...  ทำให้หลายคนเริ่มคิดหนัก  เพราะ

ไม่เพียงแค่อัลเซอุส  เซเลบี้ก็โดนด้วย  แถมเซเลบี้ก็เปรียบเหมือนน้องน้อยของทุกคน...  และอาจจะมีรายต่อไปอีก..

      “หวังว่าเซเลบี้จะไม่เป็นไรนะ...”  พัลเกียพูดขึ้นลอยๆ  แต่ตนก็รู้ดีว่าทุกคนคงคิดเช่นนั้น

___________________________________________

        หลังจากมาถึง  บอสก็เดินตรงดิ่งโดยไม่รอมิสซิ่งโนเลย  บอสเดินตรงมาเรื่อยๆจนถึงห้องโถงที่มีบัลลังก์อยู่  หญิงสาวที่อยู่บนบัลลังก์ก็แปลกใจว่าทำไมบอสถึงมาที่นี่จึงลงมาหาโดยที่ไม่คิดอะไร

      “แปลกนะ ที่เธอจะมาหาฉัน”  บอสได้ยินอย่างนี้แล้วก็อดฉุนไม่ได้  แต่ก็พยายามจะคุมสติของตนเองเอาไว้

      “ถามหน่อยเหอะ คุณดูดพลังผมไปมากแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยังทำร้ายคนอื่นอีก”  บอสเก็บความโกรธเอาไว้  เนื่องจากความโกรธจะทำให้อะไรแย่ลงแน่นอน  ดังนั้นต้องไม่โกรธตอนนี้

      “...ขอโทษ…”  เสียงเศร้าของเฟียร์ทำให้บอสตกใจ  เผลอคิดไปว่าเราพูดแรงไปหรอ

      “ฉันขอโทษ... แต่ฉันไม่ได้ทำหรอก... เด็กของฉันทำเอง...”  เฟียร์พูดต่อ  ทำให้บอสเริ่มพูดไม่ออก...  บอสเลยถอนหายใจออกมา

      “โอเคครับ ผมขอโทษที่พูดแรงไป... แต่เลิกทำร้ายคนอื่นซักทีเถอะครับ”

      “ไม่ได้หรอก”  มิสซิ่งโนพูดขึ้นมา  ทำให้บอสหันไปเผชิญหน้ากับมิสซิ่งโน

      “ทำไมครับ”

      “...ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรรู้ตอนนี้...”

____________________________________________

        ณ ด้านในของโบราณสถาน  เด็กสาวสองคนดูเหมือนกำลังลุ้น  ร่างบางทั้งสองจ้องร่างบางที่นอนอยู่  ไม่นาน  ร่างบางที่นอนอยู่ก็เริ่มลืมตา  ทำให้เด็กสาวทั้งสองโล่งใจ

      “สวัสดี ซี... เธอหลับไปนานเลยนะ”  เสียงหวานของเด็กสาวผมสีอเมทิสต์พูดอย่างสนุกสนาน  ทำให้เด็กสาวผมสีน้ำเงินดุ

      “อย่ามัวแต่เล่น เอ...”

      “...”  ซีไม่ตอบ  แสงจันทร์ในวันนี้ก็ได้สาดส่องมายังเด็กสาวที่ชื่อว่า ซี  เผยให้เห็นผมสั้นสีถ่านหินและนัยน์ตาสีเดียวกับสีผม

      “เฮ้อ... ซีก็ยังเงียบไม่เคยเปลี่ยน... ไปหาท่านหญิงเถอะ...”  บีพูดเสร็จก็เดินนำ  ทำให้เด็กสาวทั้งสองต้องเดินตาม...

Link to comment
Share on other sites

ปริศนามากขึ้นทุกทีแล้วสิ

เด็กหญิงสามคนนั้นเป็นใครกัน?

อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่าจะมีศึกใหญ่เกิดขึ้นยังไงไม่รู้แฮะ :pika04:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 78

      “ทำไมยังไม่ถึงเวลา อยากมีคนกลายเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทราเพิ่มหรอ”  บอสเริ่มรู้สึกหัวเสีย  เพราะมิสซิ่งโนพูดอย่างกับ...  ชีวิตมันแค่เรื่องเล็กน้อย

      “ไม่อยากหรอก แต่ถ้าไม่ทำ... เฟียร์ก็ไม่สามารถออกจากที่แห่งนี้ได้...”  มิสซิ่งโนพูดต่อ  บอสก็เริ่มหายหัวเสียนิดนึง(จริงๆ)  อย่างน้อยก็ทำเพื่อคนอื่น...

      “แล้วทำยังไงถึงจะให้พี่อัลเซอุสกับพี่เซเลบี้ฟื้น”

      “ต้องดำเนินต่อไป...เท่านั้น...”

__________________________________________

      “เซเลบี้จะเป็นอะไรรึเปล่า...”  ซุยคุนพูดเสียงเบา  เหมือนกับคิดจะพูดคนเดียว  ไงๆคนอื่นก็ได้ยินอยู่ดี...  แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้หรอก...

        หน้าห้องคุมพลังก็กลับมาเงียบสงบอีกครา...  ความกดดันก็เริ่มเข้ามาในบรรยากาศที่เหมือนจะมาคุ...  แต่...

      “พี่ๆคะ เห็นพี่บอสเปล่าคะ”  ชิโระวิ่งเข้ามาโดยไม่ดูสภาพของแต่ละคนเลย...  แล้วก็ถามอย่างใสซื่อ...  จนทุกคน(ยกเว้นคุโระ ชิโระ กับราเทียนที่เพิ่งมา)  ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย...  อย่างน้อยก็ช่วยลดบรรยากาศมาคุ...

      “ไม่เห็นนะ...”  พัลเกียพูดพลางคิดในใจ...  บอสหายไปไหนตั้งแต่เมื่อซักครู่นะ...

      “เซเลบี้เป็นไงบ้างครับ”  คนที่ถูกถามหาก็มาพอดี...  แต่สีหน้ากลับไม่สู้ดีนัก...

      “บอส เป็นไรไป...”  ไดอัลก้าถามขึ้น  เพราะมันคงเกิดเรื่องแน่ๆ ถ้าบอสหน้ามืด...  แต่บอสก็ส่ายหน้า

      “ไม่เป็นไรครับ แค่เหนื่อย...เท่านั้นเอง...”  บอสไม่พูดต่อ  ทุกคนก็ได้แต่เก็บความในใจ...  เพราะจากที่ดูสีหน้าและน้ำเสียง  คงจะเหนื่อยจริงๆ...  แต่ไปทำอะไรมา...

      “คุโระ ชิโระ ราเทียน พี่จะกลับห้องแล้วนะ”  บอสก้มลงมาพูดกับเจ้าสามตัว  ทั้งสามก็พยักหน้า  บอสก็ขอตัวกลับห้อง  แล้วทั้งสามก็เดินตามหลัง

      “...ไม่ปกติเลยนะ...”  ซุยคุนพูดกับคนอื่น  คนที่ได้ยินก็เห็นด้วย...

      “คิดเหมือนกัน... ก่อนหน้านี้ยังดูสบายอยู่ แสดงว่าช่วง 15นาที ต้องเกิดเรื่องบางอย่างแน่...”  พัลเกียตั้งสมมติฐานขึ้น...  คนอื่นก็เห็นด้วยเพราะอาจจะเป็นความจริง  แต่เชมี่ก็ออกมาจากห้องคุมพลัง  ทำให้ความคิดเกี่ยวกับบอสหายวับ

      “เซเลบี้เป็นไงบ้าง”  ไดอัลก้าชิงถามก่อนคนอื่น  แต่เชมี่ก็ส่ายหน้า

      “...ไม่ดีขึ้นเลย อาการเหมือนกับอัลเซอุสมาก... ไม่สิ... อาการเดียวกัน”  เชมี่พูดเสียงเศร้า

      “...ฉันขอกลับก่อนนะ”  มิวทูพูดขึ้น  แล้วก็หายไปเลย  ทิ้งให้เบต้าอยู่คนเดียว

___________________________________

        บอสเดินกลับมาด้วยความยากลำบาก...  เพราะพวกคุโระเดินนำทำให้ไม่ทันสังเกตุอาการของบอส  ขาของบอสเริ่มลากพื้น  เหงื่อบนใบหน้าก็เริ่มผุดมากขึ้น

        ‘อีกแค่นิดเดียว... ทนไว้บอส...’  บอสคิดในใจเพื่อเตือนสติตนเอง...  เพราะไม่ควรจะมาล้มลงไปกับพื้นตอนนี้...  แต่เมื่อบอสเห็นร่างใครบางคนก็ถึงกับท้อทันที

      “อาการแบบนี้... ไปทำอะไรมา”  มิวทูถามขึ้น  เพราะจากที่ดูอาการแล้ว  มันคงมากกว่าเหนื่อยแน่ๆ...

      “ไม่ได้ทำอะไรหนิครับ”  บอสเลี่ยงตอบ...  ใครจะไปรู้หละ  ว่าเล่นดูดพลังซะขนาดนี้...

=======================================

20นาทีก่อนหน้านี้

      “ต้องดำเนินต่อไป...เท่านั้น...”  มิสซิ่งโนพูดขึ้น  ทำให้บอสไม่เข้าใจมากเข้าไปอีก  ไหนบอกว่าไม่อยากให้มีคนโดน  แต่กลับต้องดำเนินต่อไป  จะเอายังไงกันแน่

      “จะเอายังไงกันแน่ครับ...”

      “...”  มิสซิ่งโนไม่ตอบ...  จริงๆตนก็รู้  มันเลือกยาก ระหว่างเพื่อนกับเธอคนนั้น...

      “เอางี้... คืนพลังเซเลบี้กับอัลเซอุสแล้วมาดูดพลังผมก็ได้”  เฟียร์ได้ยินแล้วก็ตกใจ...  แต่พอสบสายตามังกรของบอสแล้วก็ถึงรู้  ว่าบอสคิดจะทำจริงๆ

      “...ถ้าคืนพลังเซเลบี้หนะได้... แต่พลังของอัลเซอุสไม่ได้หรอก เพราะอัลเซอุสมีพลังมากที่สุด... ถึงนายจะมีพลังมากกว่า แต่ก็ใช้แทนไม่ได้หรอก…”  มิสซิ่งโนพูดขึ้น  อย่างน้อยก็คืนมาได้คนนึง

      “แล้วเมื่อไหร่พี่อัลเซอุสจะฟื้นละครับ”

      “เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรม...”  เฟียร์ตอบเสียงเศร้า...  บอสก็งงๆ พิธีกรรมอะไร  แต่ก็ช่างเถอะ

      “ถ้างั้นก็รีบคืนพลังของเซเลบี้ซิครับ”  บอสเริ่มใจร้อน  เพราะตนคิดว่ามาอยู่ที่นี่นานไปแล้ว  คนอื่นจะสงสัย

      “เดี๋ยวจะคืนให้ในวันพรุ่งนี้ พร้อมรึยัง”  มิสซิ่งโนพูดเสียงเย็น  บอสก็สงสัย พร้อมอะไร  แล้วก็อ๋อขึ้นมาเมื่อคิดได้  จากนั้นก็พยักหน้า

      “เฟียร์...”  มิสซิ่งโนหันไปหาเฟียร์  หญิงสาวก็พยักหน้า  จากนั้น  เส้นแสงที่บอสเคยโดนดูดพลังก็พุ่งเข้าหา...  ...มากกว่าคราวที่แล้วราวๆสิบเท่า  ทำให้บอสหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด  ...ขอคืนคำพูดยังทันไหม...

        แต่ถึงจะคืนคำก็คงไม่ทันแล้ว  เพราะเส้นแสงโดนตัวบอสเรียบร้อยแล้ว  เส้นแสงก็เริ่มเรืองแสงพร้อมกับบอสเริ่มหอบ  หลังจากผ่านไปราวห้านาที  เส้นแสงก็หดตัวลงพร้อมกับบอสที่ยืนแทบไม่ขึ้น

      “ที... หลังก็... บอก... ก่อนสิครับ...”  บอสพูดไม่เป็นจังหวะเพราะพลังหายไปอย่างรวดเร็ว... และมากด้วย

      “...ใครจะ...ไปรู้...ว่า...ดูดพลัง...เยอะขนาดนี้...”  บอสพูดเสร็จก็นอนลงไปกับพื้นเลย  มิสซิ่งโนก็เข้ามาดูอาการ

      “ก็ถึงบอกแล้วไง ว่าพร้อมรึยัง... เดี๋ยวส่งกลับให้...”  มิสซิ่งโนพูดแล้วก็ใช้พลัง  บอสก็หายไปจากตรงนั้น...

      “...แค่คืนพลังของเซเลบี้... แต่ดูดมากขนาดนี้เลยหรอคะ”  เฟียร์พูดขึ้นเพราะความแปลกใจ

      “...ไม่ใช่หรอก... ที่ดูดมาเยอะขนาดนี้ก็เพื่อไม่ต้องให้คนต่อๆไปโดนดูดพลังไงละ...”

====================================

ปัจจุบัน

      “ไม่ได้ทำอะไรหนิครับ”  บอสเลี่ยงตอบ...  นั่นทำให้มิวทูสงสัยเข้าไปอีก

      “ไม่ได้ทำอะไร... แต่เหนื่อยและพลังหายวูบ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะ”  มิวทูเริ่มพูดเสียงดังขึ้น...  แต่เสียงดังที่ว่าก็ไม่ได้ดังจนคนอื่นได้ยิน

      “ครับ... มันแค่ถึงช่วงเท่านั้น”  บอสเริ่มดริฟท์(แถ)สดๆ  เพราะตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ

      “ช่วงอะไร...”  มิวทูไม่ยอมลดละ  ยิงคำถามต่อเลย

      “นัยน์ตามังกรจะมีช่วงเวลาที่พลังจะหาย... ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดี๋ยวก็หายแล้ว...”  บอสยิ้ม... ฝืนยิ้มแบบสุดๆ

        มิวทูได้ยินก็พยักหน้า  แต่ในใจกลับคิดว่าบอสโกหกแน่นอน...  แต่คงต้องค่อยถาม...

      “พาไปส่งไหม”  มิวทูถามด้วยความเป็นห่วง  บอสก็ส่ายหน้าแล้วก็เดินลากขาต่อไป  มิวทูก็ดูบอสเข้าห้องแล้วเธอก็เทเลพอร์ทกลับห้องของเธอ

_______________________________________________

      “พี่ขอนอนก่อนนะ...”  หลังจากบอสอาบน้ำแล้วแต่งตัวด้วยความยากลำบาก  พูดเสร็จก็นอนฟุบลงบนเตียงเลย

      “พี่บอสไปทำอะไรมานะ...”  ชิโระถามด้วยความเป็นห่วง

      “ไม่รู้สิ ว่าแต่...  ทำไมหลังของพี่บอสเหมือนมีไรยื่นออกมาเลย...”  คุโระสังเกตุเห็นบางอย่างยื่นออกมาที่หลัง...  แต่เพราะอยู่ในเสื้อจึงเห็นแค่ว่า หลังมันตุงๆ

      “...”  ราเทียนเงียบซักพัก...  จากนั้นก็พูดขึ้นมา

      “นอนกันเถอะ... พรุ่งนี้ได้เห็นอะไรสนุกๆแน่”

      “คร้าบ/คะ”  คุโระกับชิโระพูดเสร็จก็นอนข้างๆบอส

        ‘พี่บอสพลังหมดจนควบคุมพลังมังกรไม่ได้งั้นเหรอ...’  ราเทียนนอนคิดซักพักก็ผลอยหลับไป...

Link to comment
Share on other sites

บอส.. นายช่างเป็นคนที่เสียสละเหลือเกิน :pika12:

อย่างน้อยก็ช่วยเพื่อนได้คนนึงละ

ช่วงสุดท้ายอย่าบอกนะว่าบอสจะกลายพันธุ์เป็นมังกรน่ะ!! :pika08:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 79

      “มิวทู ไปไหนมาหรอ”  เสียงเบต้าดังออกมาในห้องของเบต้า  ทำให้มิวทูเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอทิ้งเบต้า...

      “ขอโทษนะ... ไปหาบอสมา... ชักเป็นห่วงอาการ...”  มิวทูพูดตามปกติ  แต่เบต้าก็ยังสงสัย

      “แล้วบอสเป็นอะไรไปหละ... ตอนมานี่ดูเหนื่อยมากนะ...”

      “ถามแล้ว... เจ้าตัวไม่ตอบ พอตอบก็โกหกอีก...”  มิวทูพูด  ทำให้เบต้าพอเข้าใจว่า ถึงถามไปก็ไม่ตอบ

      “คงต้องรอพรุ่งนี้หละมั้ง กว่าจะเข้าไปถามได้”  เบต้าพูดพลางเอามือลูบหลังลีเฟียกับอีฟี่  ส่วนมิวทูก็ลูบหลังเจ้ากราเซียกับแบล็คกี้

      “เฮ้อ... นอนดีกว่า... นะ”  เบต้าพูดเสียงปกติ  แต่กลับยื่นมือมาจับคางมิวทูไว้  ทำให้มิวทูเริ่มแปลกใจ...แล้วก็เริ่มหน้าแดงเมื่อรู้ว่าอีกผ่ายคิดอะไรอยู่...  แต่ไม่ทันเสียแล้ว...  เมื่อเบต้ายื่นหน้าเข้าหามิวทู  แต่มิวทูก็ดันจะใช้บาเรียกั้นระหว่างมิวทูกับเบต้าทัน (แต่มือของเบต้าก็ยังจับคางมิวทูอยู่)

      “เบต้า... ไม่ใช่ตอนนี้...”  มิวทูพยายามจะเบี่ยงหน้าหนี...  แต่ติดที่มือของเบต้าจับไว้

      “ก็มิวทูอยากทิ้งฉันไว้คนเดียวทำไมหละ... อย่างนี้ต้องลงโทษ...”  เบต้าพูดเสร็จก็ใช้มืออีกข้าง(ที่เมื่อสักครู่ลูบหลังลีเฟียอยู่)  แตะที่บาเรีย  แล้วมือก็ค่อยๆเจาะบาเรียที่ละน้อยทำให้มิวทูตกใจ  ไปฝึกมาตอนไหน!!

      “...เบต้า... หยุดเถอะ... พวกลีเฟียกำลังดูอยู่นะ”  มิวทูไม่ทันพูดเสร็จ  เหมือนเบต้าจะรู้ในสิ่งที่มิวทูจะพูด  ใช้พลังจิตย้ายพวกลีเฟียให้มารวมกัน  จากนั้นก็เอามือที่เจาะบาเรียออก  แล้วใช้มือนั้นจับผ้าห่มผืนใหญ่  คลุมพวกลีเฟียจนมิด...

      “เท่านี้ก็ไม่เห็นแล้วนะ...ต่อเถอะ”  หลังจากนั้นแปปเดียว  มือของเบต้าก็เจาะบาเรียอีกครั้ง  คราวนี้ทะลุบาเรียอย่างง่ายดายจนมิวทูตกใจ  แต่เพราะหลังจากบาเรียแตก  เบต้าก็ยื่นหน้าเข้าใกล้มิวทู  ทำให้ตกใจนานไม่ได้  วันนี้เบต้าเป็นอะไรไป!!

        ทั้งสองใช้มือดันกัน  แต่คนแรงเยอะก็ย่อมชนะอยู่ดี  แต่ออกแรงมากไป  ทั้งสองจึงล้มทับกันทั้งคู่

      “โครม!!”  เสียงล้มดังขึ้นมาเล็กน้อย  แต่ก็ทำให้พวกลีเฟียอยากมองดูจึงค่อยๆมุดผ้าห่มดู  คราวนี้เห็นเบต้ากำลังจับกดมิวทูอยู่

      “เบต้า พอเถอะ...”  มิวทูเริ่มขอร้อง  เพราะขยับไม่ไหนไม่ได้  แถมยังอายจนใช้พลังไม่ได้ด้วย  ที่ทำได้ก็แค่เบี่ยงหน้า

        แต่เบต้าก็เหมือนไม่ฟัง  เริ่มนำริมฝีปากมาแตะที่ซอกคอของมิวทู  ทำให้มิวทูครางออกมา

      “อา...อ๊า...”

      “เปรี้ยง!!!!”  หลังจากที่มิวทูครางได้หน่อยเดียว  เสียงฟ้าผ่านอกหน้าต่างก็ดังขึ้นจนทุกคนในห้องตกใจ  จากนั้นเศษกระดาษก็ลอยมาในห้องทำให้เบต้าอ่านดู(ไม่ปล่อยมิวทู)  ข้างในเนื้อหามีข้อความลวกๆ

                      ‘เงียบๆหน่อย จะนอน

                                        บอส’

        เบต้าอ่านแล้วก็ถอนหายใจออกมา  อยากจะแกล้งให้มากกว่านี้ซะหน่อย  เพราะมิวทูเป็นแบบนี้แล้วน่าแกล้งมาก...

      “พอก่อนก็แล้วกัน... แล้วทีหลังไปไหนก็บอกด้วยนะ”  เบต้าพูดยิ้มๆ  ทำให้มิวทูโล่งอกเพราะคิดว่าเบต้าคงจะไม่ทำต่อ...  แต่จู่ๆเบต้าก็ใช้ริมฝีปากแตะที่ซอกคอของมิวทูอีกรอบอย่างรวดเร็วจนมิวทูไม่ทันตั้งตัว

      “อ๊า...”  เบต้าจูบที่ซอกคอเสร็จก็ดูผลงานของตนเองอย่างพอใจ... รอยแดงที่ซอกคอของมิวทู

      “นอนกันเถอะนะ...”  เบต้าพูดเสร็จก็ยกตัวมิวทูให้ขึ้นมานอนด้วย  เพราะถ้ามิวทูลุกไปเองคงถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ๆ (ยังค้างอยู่)

      “สงสัยพวกลีเฟียหลับไปแล้วนะเนี่ย”  เบต้าพูดขำๆ  แต่ความจริงพวกลีเฟียรีบมุดกลับเข้าผ้าห่มด้วยสีหน้าที่แดงกันทุกตัวต่างหาก

______________________________________________

วันรุ่งขึ้น

        ชิโระตื่นขึ้นมาก่อนเพราะแขนที่นอนหนุนหายไป (คุโระกับชิโระนอนหนุนแขนของบอส)  ชิโระเห็นแสงไฟจากห้องน้ำก็สงสัย...  ใครอยู่ในนั้นกัน

        แต่ในทางกลับกัน  คนที่อยู่ในห้องน้ำกลับคิดหนัก...  ไม่นึกว่าตื่นมาจะเป็นแบบนี้  ไม่น่าละ  ทำไมนอนๆอยู่รู้สึกเจ็บหลังเหมือนไปทับอะไรของตัวเองก็ไม่รู้

        บอสในตอนนี้ก็ยังเป็นมุนษย์ปกติ...  ไม่ใช่ละ ไม่ปกติต่างหาก  หูที่เคยอยู่ดีกลายเป็นหูสีน้ำเงินยาวไปทางด้านหลังเหมือนหูมังกร  ด้านหลังก็มีปีกสีน้ำเงินงอกขึ้นมา  หางเองก็ด้วย  สีน้ำเงินเหมือนกัน  นี่มันเกิดไรขึ้นฟระ!!!

        เมื่อวานก็แทบจะนอนไม่หลับ  ถึงแม้ว่าห้องข้างๆก็เงียบแล้ว  แต่สมองกลับคิดวนแต่เรื่องเมื่อวานจนนอนไม่หลับ  พอจะหลับสนิทก็ดันเจ็บหลังอีก...  แต่ตอนนี้ต้องทำเนียนไว้ก่อน

        หลังจากที่คิดได้  บอสรีบเข้าไปอาบน้ำ  แล้วอาบน้ำเสร็จก็เช็ดตัว...  เช็ดปีก หาง หูด้วย...  แต่ตอนใส่เสื้อก็ใส่ทับปีกไปเลย  ถึงมันจะดูตึงๆก็ตาม  ส่วนหางก็ยกหางขึ้น  แล้วสอดไว้ในเสื้อเช่นเดียวกัน  ส่วนหู  เพราะใส่เสื้อมีฮู้ดก็เลยใส่ฮู้ดบังไว้ซะเลย...  พอมาดูในกระจก...  รับไม่ได้สุดๆ  อย่างกับไอ้โม่ง= =”

      “พี่บอสทำไรฮะ”  ราเทียนกลั้นหัวเราะสุดๆเมื่อเห็นบอสสภาพนี้  ชิโระก็กลั้นเหมือนกัน  แต่คุโระหัวเราะเรียบร้อยแล้ว...โดยไม่เกรงใจกันด้วย

      “พี่บอสอย่าปิดเลยครับ ผมว่ามันดูแย่กว่าเดิมอีก”  ราเทียนพูดต่อ  ทำให้บอสรู้ทันทีว่า ราเทียนมันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  จึงถอดฮู้ดออก  แล้วก็ถอดเสื้อเพราะเริ่มปวดที่ปีกแล้ว  ส่วนหางก็ปล่อยมันไป...

      “โห ดูดีจัง”  ชิโระพูดอย่างอารมณ์ดี  ทำให้บอสยิ้มเจื่อนๆ  ส่วนคุโระก็ดันไปเล่นหางอีก

      “รู้ใช่ไหม ราเทียน ตอนนี้พี่เป็นไร แล้วก็คุโระ อย่าเล่นแถวๆหางดิ”  บอสหันไปพูดกับคุโระที่ขบหางบอสเล่น

      “ก็พี่คุมพลังไม่ได้หนิ มันเลยกลายเป็นงี้”  ราเทียนพูดเฉยๆ  แต่ก็ร่วมวงกับคุโระด้วย= =”

      “แล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า โอ๊ย!! อย่ากัดหาง เจ็บ...”  บอสถามต่อ  แต่ก็โดนทั้งสองตัวที่ขบเล่นที่หางบอสกัด  บอสถึงกับสะดุ้ง

      “ก็... น่าจะมีนะฮะ ประเภทพวกอาหารการกิน... อืม... จิตสังหาร... แล้วก็รสนิยมด้วย...”  ราเทียนตอบแบบไม่คิดมาก  ทำให้บอสพยักหน้าหงึกๆ

        ‘ออกไปคงไม่มีใครว่ามั้ง’

Link to comment
Share on other sites

วันมังกรของบอสจะเป็นยังไงต่อไปกันนะ ชักน่าสนุกแล้วสิ

Link to comment
Share on other sites

บอสกลายเป็นมังกรซะแล้ว

จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย

ปล. ผมเองยิ่งชอบคาแร็คเตอร์มังกรอยู่ด้วยสิเนี่ย

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 80

        มิวทูตื่นขึ้นมาก่อนเบต้าด้วยสภาพที่งัวเงียสุดๆ  แต่พอหันไปหาเบต้า  เรื่องเมื่อวานก็แล่นขึ้นมาในหัว  ทำให้มิวทูส่ายหัวให้สะบัดความคิดเหล่านั้น  แต่ทำอย่างไรก็ไม่ยอมหยุดคิด  จึงออกไปเดินเล่นเพื่อให้ใจสงบลง

      “อ้าว มิวทู ตื่นเช้าจัง”  ฟรีซเซียร์ในร่างมนุษย์ที่เดินผ่านพอดีทักขึ้น  มิวทูก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมฟรีซเซียร์แต่งตัวจะออกข้างนอก

      “จะไปไหนหรอ”

      “ไปจ่ายตลาดนะสิ... เวรฉันไปจ่ายตลาดแล้ว”  ฟรีซเซียร์พูดขึ้น  แต่ซักพักก็หยุดมองมิวทู...  แล้วจากนั้นหน้าก็แดงเล็กน้อย...

      “ฟรีซเซียร์ ไม่สบายรึเปล่า”  มิวทูถามด้วยความเป็นห่วง  ฟรีวเซียร์ส่ายหน้ารัวๆ  จากนั้นก็หยิบผ้าพันคอออกมา

      “เอ่อ... ฉันมีผ้าพันคอ เอาไปใส่ก่อนเถอะ”  ฟรีซเซียร์พูดตะกุกตะกัก

      “ทำไมหละ”  มิวทูถาม  ฟรีซเซียร์ไม่ตอบ  แต่กลับชี้ไปยังซอกคอ  ทำให้มิวทูมองที่ซอกคอของตน  แล้วจากนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาทันที...  ก็ตรงนั้นมันรอยแดงจากเมื่อวาน...

      “เอาไปใส่ก่อนเถอะนะ...”  ฟรีซเซียร์ไม่พูดเปล่า  จัดแจงใส่ให้มิวทูเองแล้วรีบ(เผ่น)ไปจ่ายตลาด

__________________________________________

        ทางด้านบอสเองก็เดินร่อนไปทั่วพร้อมกับพวกราเทียน  เพราะชิโระบอกว่าอยากเดินเล่นด้วยกัน  แต่บอสคิดดูแล้วคงเดินเล่นได้แต่ในปราสาทเนี่ยแหละ...  ถ้าคนอื่นเห็นมนุษย์มังกรกับมังกรที่ไม่ใช่โปเกมอน พร้อมกับอีวุยสีแปลกที่หายากกับอีวุยสีดำที่ไม่เคยพบมาก่อน...  รับรองด้วยเกียรติได้เลยว่าลงข่าวหน้าหนึ่งของโลกชินวะแน่นอน...

        แต่พอบอสเดินไปซักพัก  ก็เดินไปเจอไดอัลก้าพอดี

      “อ่าวบอส รู้เรื่องเซเลบี้รึยัง ... ว่าแต่ทำไมเป็นแบบนี้”  ไดอัลก้าถามอย่างสงสัย  บอสก็ตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ

      “คุมพลังมังกรไม่เสถียรหนะครับ... มันเลยออกมาแบบนี้”

      “อ่อหรอ... ช่างเถอะ ตอนนี้เซเลบี้ฟื้นแล้วนะ...”  บอสได้ยินก็ยิ้มขึ้นมา...  พี่มิสซิ่งโนกับพี่เฟียร์รักษาคำพูด... ดีจัง...

      “แต่ดูเหมือนจะจำเรื่องก่อนสลบไม่ได้นะ... ไม่รู้ทำไม...”  ไดอัลก้าพูดต่อ  บอสก็คิดไปพลาง  สงสัยคงไม่อยากให้ใครรู้มั้ง... ว่าพี่มิสซิ่งโนกำลังทำอะไรอยู่

      “...เดี๋ยวผมไปทำงานต่อนะครับ...”  บอสพูดขัดขึ้น  ทำให้ชิโระเริ่มคอตก...  แต่บอสก็ลูบหัวชิโระปลอบ

      “ไม่เป็นไรน่า... เดี๋ยวทำงานเสร็จแล้วมาเดินเล่นกันต่อเถอะ...”  ชิโระได้ยินก็ยิ้มดีใจ

      “...งาน? งานอะไร”  ไดอัลก้าเริ่มสงสัย...  เชสต้าบอกว่าลดหน้าที่ทั้งหมดหากไม่จำเป็นก็งดไปเลย...  แต่บอสกลับมีงานอีกหรอ...

      “...การบ้าน...”  บอสตอบแบบไม่เต็มใจพูดสุดๆ...  ทำให้ดูเหมือนบอสไม่ค่อยอยากทำ...  ถึงไดอัลก้าจะไม่รู้ว่าการบ้านคืออะไร  แต่ก็รู้อย่างนึง...  บอสโกหก...

      “หรอ...”  ไดอัลก้าพูดจบก็เดินจากไป...  พูดต่อบอสคงไม่ตอบอะไรมาก...

      “งั้นเดี๋ยวพี่เดินกลับห้องก่อนนะ...”  บอสพูด  ทำให้ทั้งสามพยักหน้าพร้อมกัน  จากนั้นก็เดินกลับห้องด้วยกัน...

_______________________________________________

      “แล้ว...ต่อจากนี้ทำไงต่อ...นายท่านก็สั่งห้ามไม่ให้ไปขโมยพลังจากเพื่อนๆของนายท่านด้วย...”  เด็กสาวผมสีอเมทิสต์พูดขึ้น  แต่เด็กสาวผมสีน้ำเงินก็พูดตอกกลับ

      “เราก็เอาโปเกมอนตัวอื่นสิ...”

      “ถ้างั้น... เดี๋ยวฉันไปจับไคริว(Dragonite) ส่วนบีไปจับเอ็นเปรุโตะ(Empoleon) ส่วนซีไปจับฟลายก้อน(Flygon) นะ”  เอวางแผน  เด็กสาวอีกสองคนก็พยักหน้า...

      “...จับเป็นนะ...”  เด็กสาวผมสีถ่านหินพูด

      “อือ...”

________________________________________________

      “อืม... ของน่าจะครบแล้วมั้ง”  ฟรีซเซียร์เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อมาซื้อของ  สายตาจดจ้องอยู่ที่แผ่นกระดาษที่เป็นลิสต์ซื้อของ  ถึงตอนนี้จะซื้อของครบแล้ว  แต่ดูเหมือนมันจะน้อยกว่าเดิมผิดกว่าเมื่อก่อน...  เมื่อก่อนที่ยังมีพี่ของเธออีกสองคน...  กับคนอื่นอีก...

      ‘ไม่ได้ๆ... ถ้ามัวแต่คิดเรื่องแบบนี้ก็ไม่ต้องทำเรื่องอื่นกันพอดี... กลับดีกว่า’  ฟรีซเซียร์คิดเช่นนี้แล้วก็เดินเท้ากลับ  เพราะอยากเดินมากกว่า...  แต่ระหว่างทางกลับนั้นกลับรู้สึกแปลกๆ...

        ‘...พลังนี่... ไม่เคยรู้สึกมาก่อน...’  ฟรีซเซียร์เตรียมรับมือเรียบร้อย...  แต่เพราะตอนนี้ยังอยู่ในตัวเมือง  ผู้คนจึงพลุกพล่าน...  ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ลงมือ...

        ฟรีซเซียร์ค่อยๆเดินออกจากตัวเมืองเรื่อยๆ  ไปยังปราสาทเชสต้า  ซึ่งระหว่างทางก็เริ่มไร้ผู้คนยิ่งขึ้น  และนั่นก็ทำให้ฟรีซเซียร์ระวังมากขึ้นด้วย...  พอเริ่มรู้สึกความกดดันเข้าครอบงำ  ความเงียบก็เริ่มทำให้รู้สึกกลัว  จากนั้นลูกพลังก็ลอยมาทางด้านหน้าฟรีซเซียร์พอดี  ทำให้ฟรีซเซียร์ใช้ลำแสงแช่แข็งต้านเอาไว้...

        หลังจากลูกพลังหาย  ฟรีซเซียร์ก็ไม่รู้สึกถึงศัตรูอีกเลย...

        ‘...คงไม่คิดจะทำร้าย... แต่รู้สึกเหมือนโดนท้าทายเลย...’

__________________________________________________

        หลังจากบอสเดินมาถึงห้องของตน  ชิโระก็เข้ามากอดขา

      “อย่าไปเลยนะ อยู่เป็นเพื่อนหนูก่อน”  ชิโระพูดเสียงสั่น  ทำให้บอสลูบหัวเบาๆ

      “เดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้วนะ...”  บอสพูดเสร็จก็เดินจากไป...

      “อ๊ะ...”  ราเทียนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้  คุโระจึงถาม

      “มีอะไรหรอ”

      “ลืมถามพี่บอสเนี่ยสิ... ว่ารู้สึกคุมตัวเองไม่อยู่รึเปล่า”  ราเทียนตอบด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเล็กน้อย

      “ทำไมหละ”  ชิโระถามต่อ

      “ก็คือ... มังกรน่ะ จะมีช่วงเวลาหนึ่ง...”  เหมือนราเทียนไม่อยากจะบอก  แต่พวกคุโระก็รบเร้าอยากจะรู้ให้ได้...  แต่ราเทียนกลับไม่กล้าบอกซะงั้น

      “น่า... บอกเถอะนะ”  คุโระรบเร้าต่อ  จนในที่สุดราเทียนก็พูดออกมา...

      “ช่วงเวลาหาคู่... หรือง่ายๆก็คือช่วง... ขอไม่พูดละกัน...  เอาเป็นว่าช่วงนี้จะเริ่มก็ต่อเมื่อมังกรที่มีอายุราวๆสามปี หรือจะตีเป็นอายุของมนุษย์ได้ 15ปี และจะเกิดขึ้นอีกทุกๆสามปี... และที่แน่ๆตอนนี้พี่บอสอายุ 15แล้วด้วย... แถมตอนนี้ยังควบคุมพลังมังกรไม่ได้อีก”  ราเทียนเริ่มหน้าซีด

      “แต่มันคงไม่เผอิญขนาดนั้นหรอกนะ... พี่บอสยังดูปกติดีหนิคะ...”  ชิโระพูดออกความเห็น

      “ก็หวังว่าเป็นอย่างนั้นนะ... เพราะถ้าเกิดอยู่ในช่วงพอดี... ไม่อยากคิดเลย... คลั่งแน่ๆ...”  ราเทียนไม่อยากจะนึกถึงครั้งล่าสุดที่บอสคลั่ง...  เพราะมันน่ากลัวมาก...

      “ว่าแต่พี่บอสเคยคลั่งด้วยหรอ”  คุโระถามด้วยความแปลกใจ

      “เคย... แค่ครั้งเดียว... ก่อนที่จะมาที่นี่อีก... ตอนนั้นที่คลั่งนะ... ไม่มีอะไรเหลือเลย... ขนาดตึกใหญ่ๆยังเป็นผง... แต่ยังงงอยู่เลย ตอนนั้นพี่บอสยังช่วยเหลือผู้หญิงคนนึงได้ไง... ตอนคลั่งไม่น่ามีสตินะ...”

__________________________________________

        ทางด้านคนที่พวกราเทียนพูดถึง  ตอนนี้หน้าซีดมาก...  จริงๆก็โกหกว่ามีงานแหละ  แต่จริงๆไม่มีหรอก...  แต่หนีออกจากชิโระให้มากที่สุด...  เพราะรู้สึกร่างกายมันร้อนแปลกๆ  เลยไม่อยากให้พวกนั้นเป็นห่วง  แต่พอชิโระจับขาแล้ว รู้สึกแปลกๆขึ้นมา...  สงสัยจะกลายเป็นมังกรทั้งร่างหรอ ถึงมีอาการแบบนี้

      “อ้าวบอส มาทำไรแถวนี้... แล้วไปทำไรมาถึงเป็นงั้นละ”  ฟรีซเซียร์ที่เพิ่งกลับมาพอดีก็ถามขึ้น  หลังจากเห็นบอสนั่งอยู่ข้างทาง(ในปราสาท) ในสภาพที่มีปีก หาง และหูมังกร

      “คือ... รู้สึกร้อนๆอะครับ เลยออกมารับลมครับ... ส่วนไอนี่(ปีก) ผมคุมพลังมังกรไม่ได้มันเลยกลายเป็นแบบนี้อะครับ”  บอสตอบออกมา  แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ร่างกายมันร้อนยิ่งขึ้นไปอีก

      “พี่ฟรีซเซียร์ มีที่ไหนที่มันเย็นๆบ้างครับ”

      “อืม... ห้องดับจิต”  ฟรีซเซียร์ตอบตลกๆ  แต่สีหน้าของอีกคนตอบกลับมาว่า

      “ไม่ขำครับ”

      “ล้อเล่นจ๊ะ... ไปอยู่ห้องพี่ก่อนละกัน... น่าจะเย็นใช้ได้เลย”  ฟรีซเซียร์พูดแล้วก็เดินนำ  ทำให้บอสต้องเดินตามไป  แต่ระหว่างทาง  บอสกลับรู้สึกร่างกายร้อนผ่าวมากยิ่งขึ้น...

      “ถึงแล้ว...”  ฟรีซเซียร์เปิดประตูเพื่อเข้าห้องก่อน  ส่วนบอสก็ตามเข้าไป  ในห้องของฟรีซเซียร์ก็เย็นอย่างที่เจ้าของห้องพูดจริงๆ...  แต่มันก็ไม่ช่วยให้คลายร้อนได้เลย  มันเหมือนร้อนข้างในมากกว่าร้อนข้างนอก

        แต่ไม่นาน  บอสเริ่มได้กลิ่นอายของห้องนี้...  และเริ่มรู้ตัวว่าตนอยู่ในห้องผู้หญิง  แต่นั่นก็ทำให้ร่างร้อนยิ่งขึ้นไปอีก  ทำให้เริ่มรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

      “พี่ฟรีซเซียร์... ไปเรียกพี่เซคร่อมให้ที”  บอสเริ่มประคองสติไม่อยู่  แต่ก็กัดฟันทนสู้

      “...เอ๋”  ฟรีซเซียร์ยังคงงงงกับคำถาม

      “เร็วเข้า!!!”  บอสกระแทกเสียงออกมา  ทำให้ฟรีซเซียร์รีบไป  แปปเดียวเซคร่อมก็เข้ามา

      “เกิดไรขึ้น...”  เซคร่อมสงสัยเล็กน้อยกับร่างของบอส  แต่พอเริ่มเห็นผิวของบอสเริ่มมีเกล็ดก็พอเข้าใจบ้าง...  บอสจะกลายร่างเป็นมังกร

      “พี่เซคร่อม ถ้าจู่ๆร่างกายมันร้อนผ่าว คุมสติไม่อยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ”  บอสถามขึ้น  หลังจากที่ฟรีซเซียร์ออกจากห้องทำให้คุมสติได้มานิดหน่อย  และที่ถามเซคร่อมเพราะเป็นมังกรที่เป็นผู้ชายคนเดียว

      “…อย่าบอกนะ... เธอกำลังอยู่ในช่วงหาคู่...”

Link to comment
Share on other sites

คงจะไม่เกิดเหตุการณ์เดียวกับตอนที่เมโอเลตต้ามานะ...ได้วิ่งกันป่าราบแน่เลยผุ้หญิงทั้งหลาย :pika02:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 81

(คิดไปเองรึเปล่า มันเริ่มเรทขึ้นเรื่อยๆแล้ว= =")

      “…อย่าบอกนะ... เธอกำลังอยู่ในช่วงหาคู่...”

      “หมายความว่าไงครับ...”  บอสเริ่มคุมสติไม่อยู่อีกรอบ  คงเพราะจะเปลี่ยนร่างเป็นมังกร  ส่วนลำคอก็เริ่มมีเกล็ดสีน้ำเงินออกมาให้เห็น

      “ช่วงหาคู่... เป็นคำที่ดูดี... แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆก็คือ ฤดูผสมพันธุ์...”

      “ไม่รู้นะ...ว่าจะเหมือนกันรึเปล่า แต่พอเข้าสู่ช่วงนี้ มังกรตัวผู้จะเริ่มคลั่งผิดปกติ บางตัวก็คุมสติไม่อยู่ เทรนเนอร์ส่วนใหญ่จึงต้องเก็บโปเกมอนมังกรเข้าแคปซูลเท่านั้น...”

      “ส่วนอาการ ร่างกายข้างในจะเริ่มร้อน และจะร้อนขึ้นเรื่อยๆหากยังไม่มีอะไรกัน... สติจะเริ่มคุมไม่อยู่ขึ้นเรื่อยๆ...”  เหมือนวันนี้เซคร่อมจะพูดมากเป็นพิเศษ  คงเพราะเคยเป็นมาก่อนจึงอธิบายยาว

      “...แล้วจะทำยังไงให้หายหละครับ”  บอสเริ่มมึนหัวขึ้นมา  ตอนนี้ร่างของบอสก็เริ่มเป็นมังกรเกิน 70%  แล้ว

      “มีอยู่สองวิธี หนึ่ง อดกลั้นมันให้อยู่จนถึงจบฤดู... แต่นั่นก็หมายความว่าอาการจะยิ่งแผลงฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นคลั่ง ข้อนี้ไม่แนะนำเพราะจากที่อาเซลฟ์ทำการสำรวจมา ไม่เคยมีมังกรตัวผู้ตัวไหนที่ทำสำเร็จ...รวมถึงฉันด้วย...”  บอสได้ยินแล้วแทบเป็นบ้า...  ขนาดพี่เซคร่อมที่ความเงียบเป็นเลิศ(?)ยังทำไม่สำเร็จแล้วตนละ...  จะสำเร็จเรอะ

      “ส่วนวิธีที่สอง... ไปทำกับใครก็ได้ แค่นี้ก็หมดอาการแล้ว แต่ฉันว่าเธอคงไม่กล้าที่จะไปทำใครนะ...”  บอสฟังเซคร่อมอธิบายแล้วถึงกับหน้าซีด

        ‘หะ...หา? แล้วไม่มีวิธีอื่นอีกหรอ... ตายๆ… จะทำไงดี’

        แต่คิดได้แปปเดียว  สมองเริ่มเบลอจนถึงขีดสุด  หัวของบอสเริ่มส่ายไปมาทำให้เซคร่อมรู้ว่า  การกลายร่างระยะสุดท้ายจะเริ่มขึ้นแล้ว  ทางที่ดีไม่ควรเข้าใกล้...  ฉันช่วยได้แค่นี้ละ...

      “ขอบอกเป็นครั้งสุดท้ายนะ... เมื่อเป็นมังกรแล้ว จะคุมสติยากขึ้นหลายเท่า... ระวังให้ดีละกัน...”  เซคร่อมพูดเสร็จก็เดินออกไป...

      “เกิดอะไรขึ้นหรอ”  ฟรีซเซียร์ที่รออยู่หน้าห้องเห็นเซคร่อมเดินออกมาแล้วก็ถามทันที

      “บอสจะกลายร่างเป็นมังกร ทางที่ดีเธอรีบหนีจะดีกว่า...”  ฟรีซเซียร์ฟังแล้วสงสัย

      “หนี? หนีทำไม”

      “ก็ตอนนี้บอสอยู่ในช่วง... ตู้ม!!!”  เซคร่อมยังไม่ทันพูดเสร็จ  เสียงระเบิดในห้องดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงตะโกนของคนที่อยู่ข้างใน

      “เริ่มแล้วสินะ”  เซคร่อมรวมพลังสายฟ้า  แล้วปล่อยออกมาทาบประตูห้องให้ทำลายยากขึ้น

      “เธอรีบหนีไปซะ ก่อนที่จะสายเกินไป...”  เซคร่อมพูดเสร็จก็หายไป  ทิ้งให้ฟรีซเซียร์ซึ่งยังสงสัยอยู่ไม่น้อย

        ‘รอต่อไปละกัน...’

__________________________________________________________

        ทางด้านเซคร่อมที่เทเลพอร์ทออกมา  ก็มาในห้องของเรซิรั่มที่ตอนนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่

      “อ้าว คุณ...”  เรซิรั่มยังไม่ทันพูดเสร็จ  เซคร่อมก็ชิงพูดก่อน

      “เธอรีบหนีเถอะ... ตอนนี้เธอไม่ปลอดภัยแล้ว”

      “หนี? เมโลเอ็ตต้ามาอีกแล้วเหรอ”  เรซิรั่มถามอย่างสงสัย  แต่ก็อดเสียวไม่ได้ที่พูดถึงเมโลเอ็ตต้า

      “เปล่า... ตอนนี้บอสกลายร่างเป็นมังกร และอยู่ในช่วงหาคู่ ตอนนี้กำลังคลั่ง...”  เซคร่อมเอ่ยเสียงเครียดเล็กน้อย

      “อืม...เหรอ... งั้นไปสนองความต้องการดีไหม”  เรซิรั่มพูดเล่นๆ  ถึงเซคร่อมจะรู้ว่าเรซิรั่มจะพูดเล่น...  แต่ก็อดห่วงไม่ได้

      “...อย่าเลย...”

      “ทำไมหรอ... หรือว่าหึง…”  เรซิรั่มพูดเสียงหวาน  ทำให้เซคร่อมไม่ตอบและเมินหน้าหนี  แต่เรซิรั่มก็รู้ว่าเซคร่อมเป็นห่วง

      “งั้นจะทำยังไงละ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ซะด้วย”  เรซิรั่มพูดกับเซคร่อมอย่างจริงจัง  เพราะหากปล่อยไว้คงมีผู้เสียหาย

      “ไม่รู้... ลองไปดูสถานการณ์ก่อน...”  เซคร่อมพูดวางแผน  ทำให้เรซิรั่มพยักหน้า  ก่อนที่จะหอมแก้มเซคร่อมหนึ่งที

_________________________________________________________

        ทางด้านบอส  ตอนนี้กลายเป็นมังกรน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้นอนนิ่งเพราะความเจ็บปวดจากการกลายร่างซึ่งเจ้าตัวไม่รู้ว่าเจ็บขนาดนี้

        แต่ทั้งๆที่อยากนอนต่อ  แต่เหมือนร่างกายกลับไม่ทำตามคำสั่ง  ราวกับร่างกายมันทำตามสัญชาตญาณของมันเอง  แต่ดูเหมือนจะรุนแรงไปหน่อยเพราะทำลายกำแพงห้องของฟรีซเซียร์เพื่อออกข้างนอก  แทนที่จะออกทางประตู

        ‘ไอ้ร่างบ้า ทำลายข้าวของคนอื่นอีก’  บอสได้แต่คิดในใจ  เพราะตอนนี้ก็ควบคุมร่างไม่ได้

        แต่พอออกไป  เห็นฟรีซเซียร์นั่งอยู่ด้วยความตกใจที่จู่ๆกำแพงห้องของเธอถล่ม  และพอบอสเห็นก็ตกใจว่าทำไมถึงยังอยู่อีก  ไม่ใช่พี่เซคร่อมบอกให้หนีไปแล้วหรอ...

        ก่อนที่บอสจะคิดไรมาก  ร่างมังกรก็ขยับเข้าจู่โจมฟรีซเซียร์ทันที  ทำให้ฟรีซเซียร์ตกใจ  แต่จากนั้นก็จับฟรีซเซียร์เข้าไปในห้องฟรีซเซียร์ที่เพิ่งออกมา  จากนั้นก็จับกด...

        ‘เห้ย ไอ้มังกรบ้า อย่าทำแบบนี้นะเห้ย’  บอสคิดในใจ  เพราะตอนนี้อยู่ในสภาพจับกดฟรีซเซียร์  ฟรีซเซียร์ถึงกับหน้าแดง

      “บอส... บอสใช่ไหม...”  ฟรีซเซียร์ถามขึ้นทั้งๆที่น่าจะรู้อยู่ว่าบอสแน่นอน  แต่เธอกลับไม่แน่ใจว่าบอสทำแบบนี้ทำไม  และเพราะการกระทำนี้ทำให้คำถามที่ชิโระคยถามตอนที่นอนในห้องบอสผุดขึ้นมาในหัว

        ‘คือ... พี่มีแฟนยังคะ’

        ‘...ยังเลยจ๊ะ...’  เสียงที่เธอเคยตอบชิโระผุดขึ้นมาในหัว  ตอนนั้นเธอยังไม่มีและไม่คิดจะมี  เพราะเธอรู้ว่ายังไม่ถึงเวลา  เวลาที่เธอจะมีแฟน...  แต่เธอไม่นึกว่ามันจะเร็วขนาดนี้...  และจะเป็นบอส

_____________________________________________________________

        ทางด้านเซคร่อมและเรซิรั่มที่มุ่งหน้าจะไปดูสถานการณ์ซึ่งเซคร่อมเป็นห่วงไม่น้อย  เพราะเรซิรั่มคิดจะช่วยจริงๆ...  ซึ่งตนห้ามไม่ได้ด้วย...  แต่ถึงจะช่วยแล้ว  แล้วบอสจะยอมรับได้งั้นหรอ...

        เมื่อมาถึงห้องของฟรีซเซียร์  ทั้งสองก็ได้ยินเสียงฟรีซเซียร์พูดออกมา

      “บอส... บอสใช่ไหม...”  เซคร่อมตกใจแต่ยังคงไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้เห็น  แต่ที่ตกใจเพราะตนเตือนแล้วแท้ๆว่าให้หนี  แต่ทำไมฟรีซเซียร์ถึงยังอยู่ที่นี่ได้อีก...

      “อึก...”  เสียงมังกรที่จับกดฟรีซเซียร์ดังออกมา  บอสพยายามที่จะหยุดแต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามคำสั่ง  จะพูดก็ไม่ได้  ทำได้แค่เพียงสบถออกมาเท่านั้น

        แต่ดูเหมือนฟรีซเซียร์จะเตรียมใจเรียบร้อยแล้ว...  เธอจึงไม่คิดจะขัดขืนแม้แต่น้อย  ทำให้บอสแทบจะบ้า

        ‘ไม่คิดจะขัดขืนเลยเหรอ... หา!!!’  บอสคิดเช่นนี้แล้วจู่ๆก็ขยับได้เล็กน้อย...  จึงพยายามใช้แรงที่สามารถทำได้  ให้ขยับไปชนกับกระแสไฟฟ้าที่เซคร่อมวางเอาไว้

      “โฮก~~~~”  เสียงมังกรน้ำเงินคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด  เซคร่อมใช้จังหวะนั้นรีบพาฟรีซเซียร์หนี

      “อ้าวเซคร่อม เรซิรั่มด้วยหรอ...”  ฟรีซเซียร์ที่ยังหน้าแดงจางๆถามขึ้น

      “ฉันบอกเธอแล้วว่าให้หนี...”  เซคร่อมพูดน้อยเช่นเดิม...

      “ก็ฉันไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”  ฟรีซเซียร์เถียง  แล้วก็ถามกลับ

      “ตอนนี้บอสอยู่ในช่วงหาคู่...”  ฟรีซเซียร์ฟังแล้วถึงกับหน้าซีดเล็กน้อย...  ช่วงหาคู่ของมังกรถือว่าน่ากลัวมาก  เพราะไม่ใช่แค่ว่าทำแล้วจะหาย...  แต่จะทำไปเรื่อยๆจนกว่าสัญชาตญาณจะพอใจ...

      “แต่จะปล่อยไว้แบบนี้หรอ...”  ฟรีซเซียร์ถามด้วยความเป็นห่วง

      “...”  เซคร่อมไม่ตอบและยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม

      “งั้น... เดี๋ยวฉันจะไปช่วยนะ”  เรซิรั่มพูดเสร็จก็รีบย้อนกลับทางเดิม

      “ฉันไปด้วย…”  ฟรีซเซียร์เห็นเรซิรั่มกลับทางเดิม  ทำให้เธอรีบตามไป

        ‘...แค่คนเดียว บอสก็แทบจะกลุ้มอยู่แล้ว แต่นี่เล่นไปสองคน สงสัยคงเห็นบอสเก็บตัวทำใจก็คราวนี้’  เซคร่อมถอนใจเฮือกใหญ่พลางสงสารบอส...

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.