Jump to content
We are currently closing new member registration for the time being. We apologize for the inconvenience. ×

Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ : The Lost Alphabet Santuary


Version5

Recommended Posts

  • Replies 387
  • Created
  • Last Reply

Top Posters In This Topic

  • Version5

    164

  • Loveless Nova

    93

  • SKYNET

    66

  • Tym

    34

Top Posters In This Topic

บอส : เกรียนไม่แคร์สื่อ ;D

บอส : (โดนการโจมตีปริศนาโจมตี 17 ครั้ง)

Link to comment
Share on other sites

กว่าจะลงตอนใหม่ ปล่อยซะนานเลยแหะ= =" ติดทุกอย่าง(ติดงาน ติดการเรียน ติดเกม ติดอู้)

บทที่ 50

        ผ่านจากวันที่ได้อีฟี่มาก็สามวันแล้ว  เบต้าก็ยังคงต่อสู้มาเรื่อยๆจนถึงยิมที่16  ถือเป็นเรื่องแปลกสำหรับเทรนเนอร์ที่สามารถลุยถึงยิม16 ได้ด้วยโปเกมอนเพียงสามตัว  ทั้งๆที่คนอื่นต้องใช้หกตัวถึงจะมาถึงจุดนี้ได้  เบต้าเลยดังแบบไม่รู้สาเหตุเลย

        แต่ก็เพราะงี้แหละ  นักข่าวจึงเริ่มจับตามองเบต้า  โดยที่บอสรู้สึกตัวครั้งแรกว่าโดนจับตามองก็ตอนยิมที่14  แต่ก็เริ่มแห่กันมาตอนยิมที่15  คราวนี้พอจะใช้พลัง  บอสจึงต้องหาที่ดีๆยากขึ้น  เพราะนักข่าวพวกนี้เป็นประเภทพวกกัดไม่ปล่อย  ต้องได้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนเนอร์คนนี้มาบ้าง  บางครั้ง  บอสรำคาญเลยขอปลีกตัวซักพัก  นักข่าวจึงรีบรุมหาบอส  แต่บอสก็รีบเข้าตรอกซอกซอยก่อน  พอนักข่าวตามมาก็ไม่พบบอส  เจอแต่อะไรไม่รู้ที่ทำให้นักข่าววิ่งกันจ้าหละหวั่น  ซึ่งบอสที่มองอยู่บนตึกก็ขำเล็กน้อย

        แต่แน่นอน  ว่าคนที่โดนจับตามองก็ไม่ใช่แค่เบต้า  มิวทูก็ยังคงโดนมองจากพวกนักข่าวนางแบบไปด้วยซะงั้น  เพราะมิวทูดูสวย น่ารักอยู่

แล้ว(>w<”)  จึงโดนจับตามองไม่แพ้เบต้าเลย  แต่บอสสังเกตุเห็นว่า  เบต้าไม่พอใจเล็กน้อย(มั้ง) ที่มิวทูโดนมองซะขนาดนั้น  แต่ก็ยังไม่ทำอะไรรุนแรง  แต่ที่บอสเป็นห่วงสุดๆเลย  ก็พวกที่คิดอะไรมิดีมิร้าย  เพราะบอสรู้สึกได้ว่ามีคนคิดแบบนี้กับมิวทูอยู่ประปราย  จึงบอกกับมิวทูไว้ก่อน  ซึ่งมิวทูก็ไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่

        ส่วนบอสที่โดนมอง  ถึงจะไม่มากเท่าสองคนแรก  ที่ก็โดนจับตาจากกลุ่มสองคนแรก  เพราะเป็นคนที่ใกล้ชิดสองคนแรกที่สุดในตอนนี้  แถมยังสามารถสั่งเบต้าได้ด้วย  เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาเลย...

        ลีเฟีย กราเซีย และอีฟี่ก็เหมือนจะได้ลงข่าวโดยเจ้าของไม่รู้เรื่อง  เพราะฉากต่อสู้แต่ละที  ก็โดนถ่ายไปแล้วไม่รู้กี่ภาพ  เบต้าจึงหนักใจแบบสุดๆ  เพราะเล่นลงหนังสือเทรนเนอร์อย่างนี้  มีหรือที่ไม่มีคนคิดจะขโมย

        แต่ก็นะ...  มีคนเคยลองขโมยแล้ว  และแน่นอนมันเป็นยังไงต่อ...  หลังจากที่โดนขโมย  บอสก็หายตัวไปอย่างดื้อๆ  พอกลับมาอีกทีก็ได้กลับมาแล้ว...  ส่วนคนที่ขโมยก็หายตัวไปอย่างไม่รู้สาเหตุ...  ซึ่งหลายคนที่ทำและโดนแบบนี้เหมือนกัน จึงไม่มีใครกล้าขโมย

      “อื้อหือ...นี่นายดังข้ามวันข้ามคืนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”  เชสต้าเปิดหนังสือพิมพ์สบายใจเฉิบ  อ่านไปจิบกาแฟไป  แต่เบต้านั้นก็ยังคงเสียวๆอยู่ดีกับผลงาน

      “ไม่รู้สิครับ...รู้ตัวอีกทีก็ดังแบบนี้ไปแล้ว”  เบต้าตอบแบบยิ้มเจื่อนๆ

      “เฮ้อ... ถ้างั้นรางวัล เอานี่ไปละกัน”  เชสต้ายื่นโปเกบอลให้  ซึ่งเบต้าก็งงเพราะมันยังมีอยู่อีกหรอ  ตั้งแต่ตอนที่ได้อีฟี่แล้วนะ  คราวนี้จะได้ไรอีกหนอ... คงไม่ใช่อะไรแปลกๆนะกัน

        พอเบต้ากดสวิสต์เรียกโปเกมอนออกมา  โปเกมอนสีดำมีลายสีเหลืองอยู่บนหัวและลำตัว  แต่ท่าทางจะไม่ค่อยพูดซักเท่าไหร่

      “โปเกมอนตัวนี้คือแบล็คกี้(Umbreon) ดูแลดีๆหละ”  เชสต้าพูดเสร็จก็วางหนังสือพิมพ์แล้วไปไหนก็ไม่รู้

      “เฮ้อ...พี่เชสคงไม่ได้วางแผนอะไรไว้หรอกมั้ง”  เบต้ามองเจ้าแบล็คกี้ตั้งแต่ตอนมันออกมา  มันไม่พูดอะไรเลย  สงสัยมันจะแข่งความขรึมกับเซคร่อมได้สบายๆ

      “ช่างเถอะ กลับเข้าห้องกันดีกว่า”  เบต้าเดินนำ  ส่วนแบล็กกี้ก็เดินตามแบบไม่พูดอะไร

      “เบต้า เป็นไงบ้าง...”  มิวทูที่กำลังลูบหัวพวกลีเฟียอยู่พูดขึ้นมา  พอเห็นผู้มาใหม่จึงเอ่ยถาม

      “อ่าวนั่น... แบล็คกี้นี่หน่า ไปได้มาจากไหนกันละ”

      “มันก็มีคนเดียวแหละ ที่ให้โปเกมอนกับฉันนะ”  เบต้าตอบกลับเหมือนจะให้มิวทูนึกเอาว่าใครให้  ซึ่งมิวทูก็รู้เรื่องเลย

      “เอ้า ทักทายเพื่อนใหม่หน่อย”  มิวทูบอกกับพวกลีเฟีย

      “สวัสดีคะ/สวัสดีฮะ”  ลีเฟียกับกราเซียพูดกับแบล็คกี้  ซึ่งแบล็คกี้ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับเลย

      “พี่คะ ทำไมเค้าถึงไม่ตอบอะไรมาเลย”  ลีเฟียกระซิบถามมิวทู

      “สงสัยเป็นเพราะธาตุความมืดมั้ง ส่วนใหญ่ธาตุนี้ก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว”  มิวทูอธิบาย

      “แล้วอีฟี่หละ”  เบต้ามองไปรอบห้องแต่ไม่เห็นอีฟี่เลย

      “บอสกำลังไปเอาอีฟี่ออกจากเครื่องพักฟื้นหนะ”

      “ทำไมเราไม่ให้พวกลีเฟียเข้าเครื่องฟักตั้งแต่แรกหละ ในเมื่อมันฟื้นพลังเร็วกว่านะ”  เบต้าถามกับมิวทู  ซึ่งมิวทูก็ลูบหลังแบล็คกี้

      “ก็เพราะว่า ถ้าให้โปเกมอนพักแบบธรรมชาติ มันจะได้ะเพิ่มความสนิทสนมด้วย ถ้าเอาแต่ใช้เครื่องพักฟื้น ถึงจะเร็วแต่บางครั้งก็ไม่ควรใช้บ่อย เพราะโปเกมอนจะสะสมความเหนื่อย... เนี่ยแหละข้อเสียของเครื่องพักฟื้น ถึงจะฟื้นพลังได้ แต่มันก็จะสะสมความเหนื่อยไปด้วย” มิวทูอธิบายซะยาวเหยียด  ซึ่งพออธิบายจบบอสก็ออกมาพร้อมกับอีฟี่

      “สวัสดีคะ”  อีฟี่ทักทายผู้มาใหม่ด้วยเสียงน่ารัก  ทำเอาแบล็คกี้รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย  แต่ยังคงความขรึมไว้เหมือนเดิม

      “สวัสดี…ครับ”  เสียงแบล็คกี้ตอบกลับ  ทำให้เบต้ากับมิวทูอึ้งสนิท  ส่วนบอสที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องก็งง ว่าสองคนนี้อึ้งเรื่องอะไรกัน 

      “อึ้งเรื่องอะไรหรอครับ ก็แค่แบล็คกี้พูดออกมา... แบล็คกี้... พูดเนี่ยนะ...”  บอสเหมือนจะถาม  แต่พอเริ่มจำได้ว่าเชสต้าจะให้แบล็คกี้กับเบต้า ซึ่งตัวนี้ไม่ยอมพูด กลับพูดออกมา  มันต้องมีอะไรแน่ๆ  แต่ก็ช่างเถอะ  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแหละ...

      “งั้นผมขอกลับห้องนะครับ”  บอสขอตัวกลับแล้วก็เดินออกจากห้อง  ปล่อยให้มิวทูกับเบต้าอยู่สองต่อสองท่ามกลางตระกูลอีวุย

________________________________________________

        บอสเดินออกจากห้องเบต้า  แต่จุดหมายของบอสกลับไม่ใช่เข้าห้องของตนอย่างที่บอกกับเบต้าไว้  บอสเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้องสมุด  เมื่อเข้ามาแล้วก็หยิบหนังสือเหมือนจะมานั่งอ่าน  แต่บอสหยิบแล้วเข้าไปส่วนที่ลึกที่สุดของห้องนี้

      “รู้สึกว่าตรงนี้แหละ”  บอสมองขึ้นไปข้างบน  ซึ่งเมื่อก่อนมีร่องรอยแปลกๆ  แต่ตอนนี้กลับไม่มีอะไร  เหมือนกับมันเป็นเพดานธรรมดาๆ  ซึ่งบอสคิดว่า  คงโดนปกปิดไว้โดยใครบางคน

        บอสใช้เวทย์ลอยตัวเพื่อจับเพดาน  แล้วลองสัมผัสดู  มันให้ความรู้สึกที่ว่าข้างในมันกลวง  บอสจึงลองลูบเพดานแถวนี้ดู  แล้วนิ้วมือก็ไปสะดุดกับปุ่ม  บอสลองกดดู  ช่องบนเพดานก็เปิดออก  แล้วหนังสือก็ตกลงมาจนบอสต้องรีบไปรับไว้  เพราะดูเหมือนว่า  หนังสือเล่มนี้เก่ามากๆ

      “หนังสือหรอ... ชื่อเรื่อง ตระกูลซีไลเนอร์…”  บอสอ่านหน้าปกดูก็สะดุดกับชื่อตระกูลนี้มาก...  และเสียงเชสต้าที่เคยแนะนำตัวเองครั้งแรกกับบอสก็ผุดขึ้นมา

      ‘สวัสดี ฉันชื่อเชสต้า’  บอสนึกแล้วมันสะดุดมาก...  ที่เชสต้าไม่ยอมบอกนามสกุลตัวเอง  ไม่รอช้าจึงรีบเปิดอ่านทันที

        เมื่อเปิดอ่านไปเรื่อยๆก็เจอผังตระกูล  บอสจึงดูส่วนล่างๆ  แล้วไปเจอกับส่วนหนึ่ง

      “ท่านซิกม่า ซีไลเนอร์ แต่งงานกับ ท่านหญิงอาเรีย เวลด์วู้ด”  บอสมองดูส่วนนี้  แล้วพอมองรายชื่อลูกของทั้งสอง

      “ให้กำเนิดบุตรีองค์แรก ชื่อ เชสต้า เอส ซีไลเนอร์...”  บอสอ่านแล้วอึ้งไปชั่วขณะ...  แต่ก็อ่านต่อไปโดยรวบรวมสติเอาไว้ ดูรายชื่อที่ท่านหญิงให้กำเนิดต่อไป

      “บุตรชายคนโต ชื่อ แกมม่า จี ซีไลเนอร์...”

      “บุตรีคนเล็ก ชื่อ อัลฟ่า เอ ซีไลเนอร์...”

      “บุตรชายคนกลาง ชื่อ เดลต้า ดี ซีไลเนอร์... และ”

      “บุตรชายคนเล็ก ชื่อ เบต้า บี ซีไลเนอร์... บ้าน่า... เป็นไปไม่ได้”  บอสอ่านแล้วเก็บความตกใจไม่อยู่  แต่ความรู้สึกที่ไม่ดี  จึงรีบหันหลังไปพร้อมกับยกมือเตรียมยิงเวทย์ใส่ผู้ที่อยู่ข้างหลัง  แต่บุคคลที่บอสเห็นนั้นกลับกลายเป็น... เชสต้า

      “...กะไว้แล้ว...ว่าซักวัน...ความต้องแตก”

Link to comment
Share on other sites

โว๊ะ แบล็กกี้ :pika08:

ถ้าวันหลังมี ชาววาส บูสเตอร์ ธันดาส ตามมาจะไม่แปลกใจละ :pika11:

Link to comment
Share on other sites

Eeveelution ทีมรึไงนะนั้น คุณเบต้า...แต่แหม..เป็นถึงบุตรคนเล็กของตระกูลดังซะด้วย หุๆๆ

ต้องฆ่าปิดปากรึเปล่า? เชสต้า ครึๆๆ

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 51

      “พี่เชสต้า นี่มันหมายความว่าไงครับ”  บอสยื่นหนังสือตระกูลให้เชสต้าดู  แต่อีกมือยังคงเตรียมปล่อยเวทย์เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด

      “ก็อย่างที่เห็นแหละ”  เชสต้าตอบแบบไม่คิดอะไรเลย  จนบอสแทบจะเอามือตบหน้าตนเอง

      “ผมหมายถึง ทำไมพี่เบต้าถึง...กลายเป็นคนในตระกูลนี้ได้... ทั้งๆที่นามสกุลพี่เบต้าคือ ‘ไซเดอร์’ นะครับ”

      “มันยังไม่ถึงเวลาที่ควรรู้หรอกนะ”  เชสต้าเอ่ยเสียงเครียด

      “แต่ผมก็ควรมีสิทธิ์ได้รู้นะครับ”  บอสเริ่มควบคุมความโกรธไม่อยู่

      “คนนอกไม่ต้องมายุ่ง”  เชสต้าพูดเสียงเฉียบขาด  ทำให้บอสฉุนเล็กน้อย

      “ใช่ครับ ผมเป็นคนนอก... ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำตามที่คุณบอกด้วย”  บอสตะคอกใส่อย่างอดไม่ได้  แล้วก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับหนังสือเล่มนั้น

        เชสต้าที่มองบอสไม่พอใจแล้วก็ยิ้มร่าขึ้นมาเล็กน้อย

      “นายท่าน...แผนสำเร็จ ปั่นป่วนพวกมันเรียบร้อย”  เชสต้าพูดคนเดียว  แล้วจู่ๆร่างเชสต้าก็กลายเป็นของเหลวสีฟ้า  จากนั้นก็หายไปจากตรงนั้น

___________________________________________

        บอสที่ควบคุมอารมณ์เสร็จแล้วก็เคลื่อนย้ายมาที่มิติแห่งเทพ  เพื่อที่จะคุยกับมิสซิ่งโน  แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายรู้ดีจึงมารออยู่แล้ว

      “เป็นไงบ้าง บอส หลอกพวกมันได้ไหม”  มิสซิ่งโนถามอย่างเป็นห่วง

      “สำเร็จสิครับ... ต้องขอบคุณสายของคุณเลยนะเนี่ย ไม่งั้นผมคงโดนยุจนเป็นบ้าไปแล้ว”  บอสพูดยิ้มๆ  แต่เชสต้า(ตัวจริง) ที่รออยู่เหมือนกันก็ถอนหายใจเล็กน้อย

      “แล้ว...อยากจะรู้รึเปล่า ว่าทำไมถึงมีรายชื่อเบต้าอยู่ในตระกูลนี้”

      “อยากรู้จะแย่อยู่แล้วครับ”  บอสลากเก้าอี้มานั่งฟังที่เชสต้าเล่า

      “คือ...เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว...”

_____________________________________________________

      “แล้ว จะทำไงต่อละ บอสไม่อยู่แล้วด้วย”  เบต้าถามมิวทูที่กำลังลูบหัวโปเกมอนของเบต้าทุกตัวอยู่

      “ใครว่าไม่อยู่ครับ เอ้ามานี่มาลีเฟีย กราเซีย อีฟี่ แบล็คกี้”  บอสที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดีพูดแล้วแอบใช้เวทย์ให้โปเกมอนของเบต้าทุกตัวทำตาม  แล้วก็พาออกจากห้องเบต้า

      “เอ่อ...”  เบต้าอึ้งนิดนึงกับการกระทำของบอส  เพราะไม่รู้สาเหตุว่าบอสทำไปทำไม

        แต่มิวทูก็ได้ยินเสียงกระแสจิตของบอสดังขึ้น  ‘พี่มิวทู ผมเปิดทางให้อยู่กันสองต่อสองแล้ว สู้ๆนะฮะ’  มิวทูได้ยินแล้วอึ้งบวกหน้าแดงนิดนึง  นี่บอสถึงลึกถึงขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย  ประมาณเด็กคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ

      “พี่บอสคะ มาห้องนี้ทำไมหรอคะ”  ลีเฟียที่หลุดจากเวทย์ของบอสแล้วก็งงที่บอสพามาที่ห้องบอส... ซึ่งติดกับห้องของเบต้า

      “ก็มีเรื่องให้ช่วยหน่อยหนะ... ช่วยเล่นเป็นเพื่อนราเทียนหน่อยสิ...”

      “ก็ได้ฮะ”  กราเซียตอบรับ  แล้วทั้งสี่ก็เล่นเป็นเพื่อนกับราเทียน  แต่บอสก็ยังรู้สึกไม่ดีจึงเปิดประสาทการได้ยินจนถึงขั้นสูงสุดเพื่อความมั่นใจ

      “ว่าแต่ตอนนั้นเธอจะพูดว่าอะไรหรอ”  เบต้าพูดขึ้นมาให้มิวทูระลึกความว่าตนเองเคยจะพูดว่าอะไร  แต่โดนขัดซะก่อน

      “คือ...ตอนนั้น”  มิวทูรวบรวมสมาธิ  ถึงจะอายแต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครมากวนแล้ว…

      “เบต้า...เธอชอบฉันไหม”  เบต้าตกใจเล็กน้อย  ที่มิวทูจะถามอย่างนี้

      “เอ่อ... พูดไงดี”  เบต้าตีหน้าเศร้าเล็กน้อย  ทำให้มิวทูหลงคิดว่าเบต้าคงไม่มีทางชอบเราหรอก  ก็เราเป็นโปเกมอนหนิ...

        แต่สิ่งที่มิวทูไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เมื่อจู่ๆเบต้าก็ผลักมิวทูลงไปนอนดื้อๆแล้วกอดเลย

        O///O”

      “การกระทำ...แสดงออกได้ดีกว่าคำพูด...ใช่ไหม”  เบต้าหน้าแดงนิดนึง  มิวทูที่เข้าใจความหมาย จู่ๆน้ำตาก็ไหล

      “เป็นไรรึเปล่า ขอโทษที่ทำรุนแรง”  เบต้าตกใจจึงถอยห่างมาเล็กน้อยให้มิวทูตั้งสติ  แต่มิวทูก็เข้ามากอดเบต้าแล้วห้องไห้ออกมา

      “แอ๊ด...”

      “นี่ ได้ข่าวว่านายกำลังจะไปลุยยิม17 นะ...”  เดลต้าเดินเข้ามาเปิดประตูโดยไม่เคาะเลย  แต่พอเห็นทั้งเบต้ากับมิวทูกอดกันอยู่จึง... O_O”

      “เอ่อ... ขอโทษที่มาขัดจังหวะ”  เดลต้ารีบเดินหนีออกจากห้องทันที  ส่วนเบต้ากับมิวทูที่กำลังซึ้งก็หมดอารมณ์ซึ้งเลย

      “อิจฉาจัง”  เดลต้าปิดประตู  บ่นเบาๆเพื่อไม่ให้ใครได้ยินแล้วก็เดินหนีไป  แต่เดลต้าไม่รู้เลยซักนิดว่า  บอสได้ยินเข้าเต็มๆ

_________________________________________

        ‘โธ่เอ้ย จะมาขวางทำไมเนี่ย พี่เดลต้า’  บอสที่แอบฟังก็ถึงกับหมดหวัง  เพราะเมื่อกี้บรรยากาศมันให้สุดๆเลย(?)

        ‘แต่ที่พี่เดลต้าพูดเมื่อกี้หมายความว่าไงหว่า’

      “พี่ว่าย้ายห้องดีกว่านะ”  บอสหลุดจากห้วงความคิด  แล้วพูดกับทุกตัว

      “ทำไมหรอฮะ ห้องนี้ก็ดีออก แต่ทำไมมีเสียงพี่มิวทูดังออกมาด้วยหละ”  กราเซียถามขึ้นมา  ทำไมบอสเหงื่อตก

      “เอ่อ... ห้องนี้มันแคบไปหนะ ไปเล่นที่มิติแห่งเทพดีกว่า กว้างกว่าตั้งเยอะ”  บอสเสนอแต่ไม่รับฟังความคิดเห็น  รีบพาทุกคนกับตนเองไปมิติแห่งเทพโดยด่วน

        ‘จะอธิบายกับพี่เชสไงดีเนี่ย...’

_____________________________________________________

        หลังจากที่บอสเล่นกับพวกลีเฟียและราเทียนจนทั้งห้าเหนื่อยจนหลับกลางห้องมิติแห่งเทพไปแล้ว  จึงเรียกผ้าห่มคลุมทั้งห้า  แล้วตนเองก็ออกจากมิติแห่งเทพไป

        บอสเดินไปเรื่อยๆไปยังจุดนัดหมายกับใครซักคน  เมื่อถึงที่นัดพบ  ก็เจอกับบุคคลปริศนาพอดี

      “อ่าว มาเร็วดีนี่ แบ...”  บอสกำลังจะพูดชื่อออกมา  แต่เจ้าตัวก็ขวางการพูดโดยการต่อยท้อง

      “บอกแล้วไง ว่าอยู่ในโลกนี้ให้เรียกชื่อว่าไลท์นอส”

      “โห ชื่อจะเท่ไปไหน ไม่ต้องอายหรอกน่า”  บอสรบเร้า  แต่อีกฝ่ายโชวร์กำปั้นขู่จึงไม่กล้าเล่นต่อ

      “แล้วเป็นไงบ้าง ของไปให้ไปหนะ... ใช้จนคล่องรึยัง”  บอสถามยิ้มๆเหมือนคนมีแผนออกมา

      “ก็พอใช้ได้แหละ แต่คุมยากนิดนึง ว่าแต่ทางโน้นเป็นไงบ้าง”

        “สนุกดี ไม่ต้องห่วงหรอก เอ้อ ต้องไปแล้ว เดี๋ยวคุยทางคอมเอาละกันนะ”  บอสพูดเสร็จก็เดินออกจากตรอกซอกซอย  เมื่อถึงที่ลับตาก็กลับไปที่ปราสาทซีไลเนอร์

_________________________________________________

        บอสเดินให้เสียงเบาที่สุด  เพราะกลัวใครบางคนตื่นขึ้นมาแล้วคึกต่อ(?)  แต่แล้วคนที่บอสไม่อยากเจอมากที่สุดก็มาปรากฏต่อหน้าบอส

      “เป็นไงบ้าง เบต้ากับมิวทู”  บอสฟังคำถามแล้วอึ้ง เพราะไม่รู้จะตอบไงดีก็เลยเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างแตะๆกันแล้วทำหน้าเหยเก

      “...แต่พี่เดลต้ามาขวางก่อนนะครับ...”

      “ถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วหละ”  เชสต้าพูดเสร็จก็เดินจากไปจนบอสโล่งใจ  แต่ที่ไหนได้กลับถามาอีกคำถาม

      “ไปไหนมา”

      “ไปถามคุณมิสซิ่งโนสิครับ แล้วจะรู้แผนของผม...”  บอสพูดจบก็เดินกลับเข้าห้องของตน

        บอสเข้าห้องแล้วเคลื่อนย้ายไปที่มิติแห่งเทพ  แล้วก็ปิดไฟนอน  แต่เหมือนบอสจะนอนไม่หลับ  สุดท้ายก็หาหูฟังมาฟังเพลง  แล้วก็หลับไป...  โดยไม่รู้ว่า  พรุ่งนี้จะเจอเรื่องหนักๆเข้าให้แล้ว...

Link to comment
Share on other sites

เดลต้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!! เจ้าบ้านี้้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

Link to comment
Share on other sites

เบื้องหลัง บทที่ 51 (ไม่เกี่ยวกับใครเลย แต่เกี่ยวกับผู้แต่งเต็มๆ)

จริงๆแล้ว ผมกะให้ตอนนี้มัน... 18+= ="

แต่พอคิดไปคิดมา มันเร็วไปมั้ง เลยเอาเจ้าเดลต้ามาขัดซะเลย XD

Link to comment
Share on other sites

การบ้านเยอะมาก เลยทำให้ไม่มีเวลาแต่งเลย(เพราะต้องการหาเวลามาคลายเครียด-.-)

บทที่ 52

        รุ่งเช้า  เป็นเช้าที่สดใสอีกตามเคย  เบต้าลืมตาตื่นขึ้นมาซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน  มิวทูที่หลับอยู่ข้างๆ(กอดแขนเบต้าไว้)  ก็ตื่นขึ้นเพราะเบต้าเผลอยกมือ  มิวทูก็ลุกขึ้นมาเหมือนกัน  แล้วมิวทูก็เริ่มนึกเรื่องเมื่อวานออก  หน้าก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ  แต่ที่งงก็คือ เธอหลับได้ไง  มันต้องมีอะไรแน่ๆ

      “ว่าแต่ พวกลีเฟียเข้ามาตอนไหนเนี่ย”  เบต้าถามมิวทู  เพราะเห็นพวกลีเฟียดูสดชื่นกันทุกตัวผิดกับปกติ

      “อืม ไม่รู้สิ... เดี๋ยวไปมิติแห่งเทพนะ เดี๋ยวมา”  มิวทูขอตัว  แต่เบต้าก็ขอไปด้วยจึงทิ้งพวกลีเฟียไว้...

      “พวกมันไปแล้ว...”  ลีเฟียพูดขึ้น  แต่เสียงที่ออกมามันไม่เหมือนลีเฟียเลยซักนิด

      “ตามหาจอมเวทย์คนนั้น เร็ว!!”  คราวนี้กราเซียพูดขึ้น

_______________________________________

มิติแห่งเทพ

      “แล้ว มิวทูจะมาที่นี่ทำไมหรอ”  เบต้าถามมิวทู  ซึ่งเหมือนมิวทูจะหาอะไรบางอย่างอยู่

      “วันนี้พวกลีเฟียให้ความรู้สึกแปลกๆหนะ... คือมัน... อธิบายไม่ถูก”  มิวทูทำสีหน้าลังเลเล็กน้อย  เพราะไม่อยากจะสงสัยในตัวพวกลีเฟีย

        แต่คิดได้ซักพัก  ฟรีซเซียร์ก็บินเข้ามาถาม  “เป็นอะไรหรอ มิวทู ทำหน้าเครียดเชียว”

      “มิวทูสงสัยในตัวพวกลีเฟียหนะ เพราะตื่นมาเจอพวกลีเฟียสดใสเกินไป”  เบต้าอธิบาย  แต่พรีซเซียร์ก็ทำหน้างงๆ

      “อ่าว พวกลีเฟียอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรอ... นี่ไง”  ฟรีซเซียร์พูดขึ้นมาแล้วชี้ไปยังห้องหนึ่ง  พอมิวทูไปดูก็พบกับพวกลีเฟียหลับอยู่

      “แล้ว พวกลีเฟียที่เราเจอตอนเช้า...”  มิวทูเริ่มรู้สึกไม่ดี  รีบพาเบต้ากลับไปยังปราสาทโดยด่วนที่สุด

_____________________________________________

        บอสที่ตื่นนานแล้วก็เดินร่อนในปราสาท  แต่ระหว่างร่อนไปโดยไร้สาเหตุก็เจอกับลีเฟีย กราเซียที่กำลังเดินเข้ามาหาตน

      “อ่าว มาที่นี่ได้ไงเนี่ย พี่เบต้าพามาหรอ”  บอสเดินเข้าไปใกล้โดยไร้การป้องกันตัว  แต่จู่ๆร่างลีเฟียกับกราเซียก็เปลี่ยนอะไรไปก็ไม่รู้เป็นของเหลวสีฟ้า  พุ่งเข้าหาบอส  บอสที่ไร้การป้องกันตัวก็รีบหลบแต่โดนของเหลวสีฟ้าเกาะขาทั้งสองข้างไว้จึงโดนเข้าเต็มๆ

      “อ๊าก~~”  ของเหลวสีฟ้าพุ่งใส่ท้องบอสจังๆ  แต่มันก็ทะลุไปด้านหลังพร้อมที่จะโจมตีต่อ แต่มีบาเรียสีม่วงครอบตัวบอสไว้

      “บอส!!”  มิวทูกับเบต้ารีบวิ่งเข้ามาช่วย  แต่ของเหลวสีฟ้าหนีทันซะก่อน

      “เรียกท่านเชมี่มาด่วนเลย”  มิวทูรีบสั่งเบต้า  จะทำยังไงละ... เบต้ายังเทเลพอร์ทไม่เป็นเลย  แต่คนที่จะเรียกก็มาปรากฏต่อหน้า  แล้วเรียกเถาวัลย์พันตัวบอสไว้  สีเถาวัลย์ก็เปล่งแสงเป็นสีเขียวอ่อน

      “ยังดีที่มาทัน”  เชมี่ในร่างเด็กผู้หญิงถอนหายใจ  อัลเซอุสในร่างมนุษย์ก็เริ่มจะคิดออก  ว่าของเหลวนั้นคืออะไร

      “เบต้า เจ้าไชนี่เมตามอนยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ”

      “ไม่รู้ครับ ผมคิดว่ามันน่าจะสลายไปแล้วนะ”

      “งั้นพวกมาสเตอเจียคงเก็บเศษเมตามอนแล้วนำมารักษาสินะ...”  มิวทูเริ่มคิดต่อยอด

      “...แต่ทำไมต้องลอบทำร้ายบอสด้วยหละ บอสไม่เกี่ยวอะไรเลยนะ” 

      “มันต้องมีเงื่อนงำบางอย่างแน่”  อัลเซอุสคิด  แล้วบอสก็ลุกขึ้นมายืนได้ตามปรกติ  แต่ดูเหมือนจู่ๆมีเด็กชายแปลกหน้าโผล่หน้าบอส  ซึ่งดูเหมือนบอสจะตกใจมาก แต่แล้วก็มีแสงสีแดงเล็กน้อยบนพื้น  จากนั้นทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นก็หายไป...

___________________________________________

ณ ที่ๆหนึ่ง ลานกว้างๆ

        ทั้งหมดที่โดนเคลื่อนย้ายโผล่มาที่ลานกว้างๆ  แต่จู่ๆเด็กชายคนนั้นก็เรียกดาบในมือออกมา  แล้วพุ่งใส่บอสจนบอสลอยไปบนอากาศเลย

      “บอส!”

      “ไม่เป็นไรครับ”  บอสกางบาเรียได้ทันจึงไม่เป็นไร  แต่เพราะโดนแรงดาบจึงลอยไปอยู่บนอากาศ  ทำให้บอสต้องใช้เวทย์ลอยตัว

      “นั่นมัน...น้องชายฝาแฝดของบอสไม่ใช่เรอะ”  อัลเซอุสที่จำหน้าเด็กคนนั้นได้ก็พูดขึ้นมา

      “แล้วแฝดน้องจะทำร้ายแฝดพี่ทำไม”  มิวทูเริ่มสงสัย  แต่เพราะตอนนี้มีทหารจำนวนมากมารุมล้อมพวกตัวเองอยู่จึงหยุดคิด

      “จะเอายังไงกับตรงนี้ดี...”  เบต้าถามขึ้น  เพราะจากที่ดูแล้วพวกนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นแน่

        แต่อัลเซอุสไม่รอช้า  รวบพลังธาตุมังกร  ปล่อยขึ้นฟ้าแล้วกระจายออกมาใส่พวกทหาร  แต่พลังที่กระจายออกมากลับย้อนไปหาบอสแทน

      “เห้ย”  บอสที่กำลังชาจพลังเห็นพลังสิบหกลูกพุ่งเข้าใส่ตน  จึงรีบหยุดชาจพลังแล้วหันมากั้นบาเรียแทนอย่างหวุดหวิด

      “ทำไมแสงพิพากษาไปเล็งบอสหละ”  มิวทูถามอัลเซอุสที่กำลังงงกับตัวเอง

      “ไม่รู้ จู่ๆพลังมันไปหาบอสเอง... ทำไมกัน”

      “อย่าใช้พลัง  ไม่อย่างนั้นพลังมันจะโจมตีใส่บอสแทน”  เชมี่ที่ยื่นมือกางบาเรียอย่างเหนื่อยหอบ  เพราะปืนของทหารรุมยิงแต่เชมี่จึงเหนื่อยกว่าคนอื่น

      “เราต้องถ่วงเวลาอย่างเดียวสินะ”  อัลเซอุสกางบาเรียกันตนเองกับเชมี่เอาไว้  เพราะเชมี่พลังเริ่มหมดแล้ว

      “ชิ”  บอสทำได้แค่ใช้บาเรียกันอย่างเดียว  เพราะเวทย์ที่ใช้ทำอะไรกับน้องตนเองไม่ได้เลย  และไม่อยากทำให้น้องของตนได้รับบาดเจ็บ

      “ไปได้นัยน์ตามังกรแห่งพลังจากไหนมา”  บอสตะโกนหอบเล็กน้อย  แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่พูดอะไรเลย  แล้วจู่ๆก็พูดมาเบาๆ

      “Life Cut!*”  แฝดผู้น้องหายไป  แล้วจู่ๆก็ปรากฏต่อหน้าบอส  แล้วฟันดาบใส่บอสจังๆ

[Life Cut = ท่าที่ทำให้ผู้ใช้ลดเลือด20% แต่เป้าหมายลดเลือด40%]

      “อั่ก”  บอสที่โดนเข้าจังๆก็กุมท้องไว้  แล้วไอออกมาเป็นเลือด  เลือดที่ออกมาก็ตกลงพื้นบริเวณพวกของเบต้าที่โดนรุมอยู่

      “บอส เป็นไงบ้าง!!”  จู่ๆ ดาร์ไครก็โผล่มาจากอากาศที่ถูกบิดเบือนพร้อมกับเครซเซอเรีย

      “ไม่เป็นไรครับ อย่าเข้ามาช่วยนะ”  บอสพูดแกมบังคับ  ซึ่งไม่อยากให้ใครมายุ่งกับการต่อสู้นี้  ทำให้ดาร์ไครกับเครซเซอเรียดูอยู่ข้างหลัง

        แต่เหมือนจะไม่ให้บอสหยุดพัก  พุ่งเข้ามาบอสโดนอย่างต่อเนื่องทำให้บอสกางบาเรียแทบไม่ทัน

        เลือดที่กองอยู่บนพื้นไหลวนรอบพวกของเบต้าโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น  แล้วบอสก็ลอยเหนือพวกของเบต้า  แล้วก็ยิ้มเล็กน้อย

      “Element Genesis”  บอสท่องคาถาบางอย่างออกมา  จากนั้นแสงก็ครอบคลุมพวกเบต้าเอาไว้  แล้วแสงก็พุ่งโจมตีใส่ทหารทุกคน  ส่วนบอสก็พุ่งเข้าหาแฝดผู้น้องของตน  แล้วชนจนทั้งคู่กระเด็นลงมากระแทกกับสิ่งก่อสร้างบางอย่าง  เมื่อบอสสะบัดหัวไล่ความมึนแล้วดูสิ่งที่อยู่ต่อหน้าก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย

      “นี่สินะ...ผลึกที่ขังคุณกิราติน่า...”

Link to comment
Share on other sites

??? :pika05:

งงมากถึงมากที่สุด แล้วไชนี่เมตาม่อนจะมาทำไมหว่า

Link to comment
Share on other sites

เรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากกก!! อ๋อย  :pika09:

Link to comment
Share on other sites

โอย งานเยอะ การบ้านเต็ม หาเวลาเขียนไม่ได้เลย พอมีเวลาว่างพ่อชวนไปเที่ยวแบบบังคับอีก :pika11:

บทที่ 53

      “แล้วจะเอายังไงต่อละ พวกทหารมาไม่หยุดเลยนะ”  มิวทูพูดพลางใช้พลังจิตหยุดการโจมตีของไชนี่เมตามอนเอาไว้  เพราะหลังจากที่บอสปล่อยพลังแล้ว  ไชนี่เมตามอนก็เข้าร่วมการต่อสู้ซะงั้น

      “ทำไมรู้สึกมึนๆหัว”  เบต้าเริ่มที่จะกุมหัวโดยไร้สาเหตุ  ซักพักก็เริ่มลงไปดิ้นกับพื้นเพราะความเจ็บปวด

      “เบต้า!!”  มิวทูไม่สนใจพวกทหารแล้ว  รีบวิ่งไปดูอาการของเบต้าทันที

      “แย่แล้ว ทำไมต้องตอนนี้”  เชมี่เริ่มใจเสีย เหมือนจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเบต้า

      “ทำไม เบต้าจะเป็นอะไรหรอ”  มิวทูตื่นตระหนก

      “อย่าลืมสิ ว่าเบต้าได้ดีเอ็นเอของมิวทูมานะ... แล้วตอนนี้คงจะเกิดผลข้างเคียงแล้วหละ”  เชมี่พูดเพื่อเตือนความจำมิวทู

      “ถ้าอย่างนั้น เบต้าก็ต้องเกิดผลข้างเคียงก่อนหน้านี้สิ แล้วทำไมถึงมาเกิดตอนนี้”

      “เบต้าควรจะเกิดผลข้างเคียงตอนหลังจากที่เธอโดนลักพาตัว แต่ตอนชิงตัว เบต้าใช้พลังจนหมดเกลี้ยง ผลข้างเคียงเลยยังไม่เกิดขึ้นไง” 

อัลเซอุสตอบแทนเชมี่

      “หมายความว่า...ตอนนี้...”

      “อ๊าก~~”  เบต้าเริ่มตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด  แล้วแสงก็ครอบคลุมเบต้าเอาไว้จนมิด ทำให้มิวทูเริ่มกังวลใจ  แต่ไม่นานนัก  แสงก็หายไป  แล้วก็มีบางอย่างมาแทนที่...

      “แฮ่ก...แฮ่ก...”  เสียงเบต้าเหนื่อยหอบ  แต่เหมือนจะขยับไม่ได้ดั่งใจเลย

      “กลายเป็น ‘มิวทู’ แล้วสินะ”

      “ทำไมขยับไม่ได้ดั่งใจละ”  เบต้าจะขยับแขนซ้าย  แต่หางดันขยับแทน  พอจะขยับแขนขวา  แขนซ้ายก็ดันยกขึ้น

      “รอไปซักพักเถอะ เดี๋ยวก็ขยับได้เองแหละ”  มิวทูอธิบาย  แต่ก็ยังหน้าเครียดอยู่  เพราะศัตรูมีเยอะเกินไป  แถมยังมาเรื่อยๆอีก

      “ลีฟ เบลด , ลำแสงแช่แข็ง , พลังจิต , ชาโดว์ บอล”  สี่เสียงดังขึ้นจากด้านหลังของมิวทู  แล้วพลังทั้งสี่ก็พุ่งไปจู่โจมกับพวกทหาร

      “ลีเฟีย กราเซีย อีฟี่ แบล็กกี้!!”  มิวทูหันไปดูก็พบกับเจ้าสี่ตัวที่มาพร้อมกับ... มิสซิ่งโน

      “ท่านก็จะมาต่อสู้ด้วยรึ”  อัลเซอุสเริ่มมีหวังเล็กน้อย  เพราะจะได้ไปตรงอื่นซักที  สู้แต่ตรงนี้แล้วไม่ไปไหน  อีกอย่างเริ่มเบื่อแล้วแต่จะทำลายพวกทหารก็ไม่ได้  เพราะติดแอนตี้ เมจิก...

      “เปล่า ข้าแค่มาส่งพวกนี้เท่านั้นเอง เดี๋ยวข้าก็กลับละ”  มิสซิ่งโนตอบยิ้มๆโดยที่ไม่คิดจะช่วยเหลือเลย

      “พี่เบต้าไม่เป็นไรนะคะ”  ลีเฟียพูดเป็นห่วง  เพราะรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเจ้านายของตนจากมิสซิ่งโน

      “ไม่เป็นไรหรอก จบตรงนี้เดี๋ยวทำขนมให้กินนะ”  มิวทูพูดยิ้มๆ  แล้วการต่อสู้ยกสองก็เริ่มขึ้นอีกครัง

      “ว่าแต่ ทำไมพวกลีเฟียถึงใช้พลังโจมตีใส่พวกทหารได้นะ...”  อัลเซอุสบ่นพึมพำเบาๆ  ถ้าตนคิดถูกละก็...  บอสแย่แน่ๆ

_____________________________________

ทางด้านของบอส

        ดาร์ไครกับเครซเซอเรียที่รีบบินมาดูเหตุการณ์  ซึ่งตอนนี้บอสก็กำลังเสียเปรียบเห็นๆ  แต่แววตาของบอสดูเหมือนจะมั่นใจไม่น้อย

      “ชิ”  บอสสบทเล็กน้อย  เพราะได้แต่กางบาเรียอย่างเดียว  ไม่มีเวลาโต้ตอบเลยซักนิด

      “Blitz Edge!!”  ทางฝั่งน้องชายฝาแฝดของตนไม่คิดจะให้บอสหยุดพัก  เรียกดาบอีกเล่มออกมาฟันบอสอย่างรวดเร็ว  แต่บอสก็ร่ายเวทย์เสร็จพอดี

      “Glacier Beam!!”  บอสยิงลำแสงเวทย์น้ำแข็งเพื่อต้านพลัง  แต่ลำแสงกลับเบี่ยงไปทางอื่นแทน

      “เห้ย”  เพราะเวทย์ถูกเบี่ยงออก  ทำให้น้องของตนเข้ามาฟันไปสองทีเน้นๆ

      “อั่ก...”  บอสถอยออกมาตั้งหลัก  กระอักเลือดออกมาอย่างกับก๊อกน้ำ  ทำให้เครซเซอเรียถอนสีหน้าเล็กน้อยและเกือบเข้าไปช่วย 

แต่ดาร์ไครใช้ความมืดกั้นทางไว้  ทำให้เครซเซอเรียแปลกใจ  แต่ดาร์ไครก็ส่ายหัวประมาณว่า อย่าเข้าไปยุ่งเลย

      “ดีมาก!!”  เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังของน้องของบอส  เป็นชายร่างสูง ผอมมากๆ จนเหมือนกระดูกเดินได้  แต่แววตานั้นช่างเป็นแววตาของคนละโมบ

      “จัดการเจ้าโคลนสวะนั่นซะ เท่านี้พี่ของเธอก็ปลอดภัยแล้ว”  ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมา  ทำให้บอสรู้ได้ทันทีว่าน้องของตนกำลังถูกหลอกใช้  เครซเซอเรียกับดาร์ไครก็รู้สึกเช่นกัน

      “แล้วก็ขอเตือนอีกอย่างนะ ว่าทั้งห้องนี้ และทุกคนที่เป็นพวกของฉัน ได้ทำการฉีดแอนตี้ เมจิกเอาไว้แล้ว เวทย์ของแกจึงไม่มีผลไงละ ไอตัวปลอม”  ชายผู้นั้นพูดอย่างสะใจ  ทำให้บอสถึงกับเครียดเล็กน้อย

        ‘เอาไงดี ยังดีนะที่แอบถ่ายพลังให้พวกลีเฟียไปหนึ่งในสี่ แต่พลังสามในสี่ชนะยากแน่ๆ... แถมมันยังมีแอนตี้ เมจิก... แอนตี้ เมจิก... ใช่แล้ว!!’  บอสคิดไอเดียขึ้นมาได้  แล้วปลดบาเรียที่ครอบคลุมตนเองออก

      “เอ้า จะยอมแพ้แล้วเรอะ”  บอสไม่ฟังเสียงอันน่ารำคาญ(ในความคิดของบอส)  แล้วเรียกดาบเวทย์อย่างรวดเร็ว  เข้าไปต่อกรกับแฝดของตนทันที

      “หึ น่าจะรู้ว่าพลังของแกมันเป็นเวทย์ มันฝืนกันไม่ได้หรอกนะ”  บอสไม่สนใจอะไรแล้ว  เรียกใช้เวทย์หนึ่งขึ้นมาทันที

      “เอโร บอล(Aero Ball)”  บอสเรียกลูกบอลลมที่เป็นเวทย์ที่เบาที่สุดของบอส(?)  พุ่งพลังใส่พื้นทันที

      “ตู้ม!”  พลังบอสอัดใส่พื้นเต็มๆ  ทำให้ห้องสั่นสะเทือนเล็กน้อย

        ‘เยี่ยม เวทย์เจาะเกราะใช้กับแอนตี้ เมจิกได้ด้วย ถ้างั้นคงไม่ต้องเป็นห่วงพวกลีเฟียแล้ว’

      “หึ... ถึงจะใช้เวทย์แบบนั้น มันก็มีข้อจำกัดที่ว่า ใช้ได้แค่สามครั้ง ต่อธาตุนะ”  น้องชายแฝดของบอสตอบกลับเป็นครั้งแรก  ทำให้บอสเริ่มกังวล  ว่ารู้ลึกถึงขนาดนี้  แปลว่ารู้ข้อมูลพลังของเราจนหมดเปลือก

      “ก็ไม่แน่หรอก ทอร์นาโด บอล!!”  คราวนี้บอสเรียกบอลที่ข้างในเป็นพายุหมุน  ทุ่มใส่พื้นห้องอีกครั้งหนึ่ง  จนทำให้เกิดควันไม่เห็นใครเลย

      “แกก็น่าจะรู้นะ ว่าแกมันหมดหวังแล้ว ไอ้ตัวปลอม”  ผู้ชายที่บอสฟังแล้วอยากเอาปืนM79 มายิงให้พรุน  แต่บอสก็ไม่สนใจ  แล้วยิ้มร่าออกเล็กน้อย

      “ก็ไม่แน่หรอกนะ…”  บอสพูดกลั้นยิ้มเล็กน้อย  แต่ยิ้มมากไปทำให้กระอักเลือดซะงั้น

      “เวลานี้ยังจะมาหัวเราะอีกหรอ”  เครซเซอเรียพูดเตือนสติ  แต่บอสไม่สนใจ  แล้วจู่ๆดวงตาของบอสก็เปลี่ยนไป... เป็นดวงตาของมังกร

      “ท่าผสาน...”

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 54

      “ท่าผสาน...”  บอสพูดขึ้น  ยกมือข้างซ้ายแล้วเรียกลมพายุออกมาทำให้ดูดควันในห้องเข้าไป  ควันในห้องรวมกันในพายุทำให้เกิดประกายไฟ  จนกลายเป็นพายุไฟ  ซักพักมือข้างขวาของบอสก็เปล่งแสงสีฟ้า  เรียกพลังน้ำเข้าไปในพายุ  แต่น่าแปลก  ที่น้ำกับไฟกลับไม่ต่อต้านกัน  แต่ดันกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน  จากนั้น  บอสก็ปล่อยพลังแห่งดินเข้าไป  ทำให้ในพายุมี ไฟ น้ำ(น้ำแข็ง) ดิน ผสมอยู่

      “แกจะบ้าหรอ น่าจะรู้นะว่าเวทย์ที่ไม่ใช่เวทย์เจาะเกราะทำอะไรห้องนี้ไม่ได้”  ผู้ชายพูดอย่างมั่นใจ  แต่แฝดของบอสกลับเดินเข้าไปใกล้พายุ  เข้าใกล้มากขึ้น  และเข้าไปในพายุในที่สุด

      “เห็นไหม ขนาดน้องชายแกเข้าไปยังไม่เป็นไร แกใช้พลังเปล่าประโยชน์แล้ว”  บอสฟังแล้วถอนหายใจ  ผู้ชายคนนี้งี่เง่าเกินบรรยายก็ว่าได้  แต่ก็ไม่ควรประมาทมาก  เพราะมั่นใจขนาดนี้แปลว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่

      “เอาเลย”  บอสพูดเบาๆ  คนที่อยู่ข้างในก็กลั้นยิ้มพยักหน้า  แล้วก็ตวาดดาบใส่ผลึก

      “Limit Storm!”  บอสกับน้องชายของตนพูดขึ้นพร้อมกัน  ทำให้ผู้ชายคนนั้นตกใจ  ว่าตนเองโดนหลอกเข้าให้  แต่ตกใจแปปเดียวก็หายตกใจ  เปลี่ยนเป็นขรึมแทน  ส่วนดาร์ไครกับเครซเซอเรียก็ใบ้รับประทานเล็กน้อย  แต่ดาร์ไครปรับสีหน้าได้เร็วจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

        น้องชายบอสตวาดดาบออกไป  ทำให้พายุที่อยู่รอบตนกระจายออกไปในทิศทางที่ตนเล็งไว้  กลายเป็นพายุยี่สิบสี่ลูก  สิบแปดลูกปะทะกับผลึกจนผลึกแตก  ส่วนอีกหกลูกที่เหลือ  บอสควบคุมให้พายุไปโจมตีกับพวกทหารโคลน

      “บ้าชัดๆ พลังเวทย์เจาะผลึกไม่เข้าหรอก”  ชายคนนั้นพูดอย่างตกใจ  แต่แฝดของบอสก็เริ่มพูด(มาก)

      “หึหึ แกนี่งั่งของแท้เลยนะ คาเคีย นี่ไม่ใช่แค่พลังเวทย์หรอกนะ แต่มันรวมกับพลังกายภาพเข้าไปด้วย!!”

        เมื่อพลังไปปะทะกับผลึกจนผลึกเป็นรอยร้าวเกือบแตก  ทำให้เกิดเสียงเสียดสี  และบอสก็ถึงกับอาเจียนเป็นเลือดออกมาเพราะทนเสียงไม่ไหว

      “บอส เป็นไรเปล่า”  แฝดผู้น้องรีบเข้ามาดูอาการพี่ของตน  ดาร์ไครกับเครซเซอเรียก็เข้ามาด้วย  แต่เพราะพลังของท่าผสาน  มีผลข้างเคียง  ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปในอาณาเขตได้  และคนที่อยู่ในอาณาเขตก็ออกมาไม่ได้ด้วย

      “จะไม่เป็นไรได้ไงเล่า เจ้าบ้า เล่นซะเต็มแรงเลยนี่หว่า ไอแบ...”  บอสกำลังพูดชื่อน้องของตน  แต่โดนน้องของตัวเองสวนกลับโดยไม่คำนึงถึงชีวิตพี่ชายตนเองเลย... ทำให้คนโดนทุบกระอักเลือดอีกรอบ

      “ไอบ้า นี่เห็นไหมว่าเลือดจะหมดตัวแล้ว ยังจะทุบให้เลือดออกมากกว่านี้อีกเรอะ แถมเมื่อกี้ไม่ได้ออมพลังนี่หว่า กะจะฆ่าให้ตายใช่ไหม”  บอสประท้วงขึ้นทันที

      “บอกกี่ครั้งว่าเวลาอยู่โลกนี้ ให้เรียกว่า ‘ไลท์นอส’ ไม่ใช่ชื่อเดิม”  ไลท์นอสเถียงขึ้นทันควัน

      “อย่างน้อยก็ออมแรงหน่อยดี้”

      “โทษที ลืมตัวไปนิด”

        ระหว่างที่บอสกับไลท์นอสเถียงกันอยู่  คาเคียก็ขัดขึ้นมา

      “หึหึ... แผนของแกตั้งแต่แรกสินะ...”

      “แกมันโง่เอง คิดว่าไลท์นอสจะไม่สงสัยเลยเหรอว่าที่แกพูดจะจริงรึเปล่า อีกอย่าง น้องฉันก็อ่านนิยายมาเยอะอยู่หรอก ไม่โดนหลอกเพราะแผนโง่ๆนะ”

      “หึหึ... แปลว่าวางแผนมานานแล้วสินะ”  เหมือนคาเคียจะพูดมาก  จนไลท์นอสพุ่งไปกะจะอยากฝากแผลซักแผล  แต่บอสก็อยู่นิ่งๆเพราะไม่เหลือพลังอะไรแล้ว  แถมสติก็เริ่มเลือนรางอีก(เพราะโดนทุบ)

      “จะปล่อยให้พี่ชายแกอยู่คนเดียวจะดีหรอ”  คาเคียพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น  ทำให้ไลท์นอสรู้ความหมายได้ในทันที  รีบหันหลังตะโกนเตือนสติบอส

      “บอส ระวัง!!”  แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป  เพราะสิ่งที่ไลท์นอสเห็นจะเป็นของเหลวสีฟ้าพุ่งผ่านร่างบอสอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

      “อ๊าก~~”  บอสตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด  แล้วก็ล้มลงไปนอนกับพื้น

      “ครืน...”  ผลึกที่เป็นรอยร้าวเริ่มแตกออก  แล้วซักพักผลึกก็แตกออกมา

      “แย่ละสิ”  คาเคียเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี  ตำแหน่งที่เคยมีผลึกอยู่เริ่มเป็นห้วงมิติ  และมังกรตัวใหญ่ก็ออกมาจากมิติแห่งนั้น

      “กิราติน่า”  เครซเซอเรียยิ้มดีใจขึ้นมา  ที่ได้เห็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมาก

      “ตอนนี้รีบไปช่วยก่อนเถอะ ข้าเปิดมิติให้เข้ามาได้แล้ว รีบมาช่วยก่อนที่จะสายเกินไปเถอะ”  กิราติน่าพูดให้เครซเซอเรียรีบเข้าไปรักษา  เครซเซอเรียจึงรีบเข้าไปใช้ท่าแสงจันทร์ใส่บอสทันที

      “หึหึ... เจ้านาย ข้าทำตามที่ท่านบอกแล้ว”  ไชนี่เมตามอนโผล่ข้างๆคาเคีย  แล้วเปลี่ยนร่างให้ตนเองมีสภาพคล้ายมนุษย์

      “ดีมาก...หน้าที่เจ้าหมดลงแล้ว...”  คาเคียพูดอย่างเยือกเย็น  แล้วก็คว้าอาวุธบางอย่างยิงใส่ไชนี่เมตามอนทันที

      “อ๊าก~~~ นี่ท่าน...!!”  ไชนี่เมตามอนกรีดร้องเพราะร่างของตนเริ่มหายไปทีละน้อยจากผลของอาวุธที่คาเคียยิงใส่  เครซเซอเรียเห็นแล้วก็ปิดตาไม่อยากมองทันที  ถึงมนุษย์จะมองแค่ว่ามันหายไป  แต่สำหรัยสำหรับโปเกมอนแล้ว  มันช่างโหดร้ายยิ่งนัก

      “แก...”  ไลท์นอสเริ่มโกรธ  รีบพุ่งเข้าฟัน  แต่เพราะคำพูดของคาเคียทำให้รีบหยุดชะงักทันที

      “แน่ใจนะ ว่าจะไม่สนใจพี่ของแกเลย...”  จู่ๆ  พลังเวทย์ก็พุ่งอัดเข้าหลังไลท์นอสจังๆ

      “บ้าชิบ”  ไลท์นอสหันไปดู  พบว่าเครซเซอเรียกองอยู่กับพื้นโดยบอสเหยียบเครซเซอเรีย  ทำให้ดาร์ไครเกิดคลั่งชั่ววูบ

      “ดาร์ค พลูส(Dark Pulse)!”  คลื่นสีดำพุ่งเข้าใส่บอส  แต่บอสกลับใช้มือปัดออกไปอย่างง่ายดาย

      “บ้าจริง โดนเข้าซะแล้ว”  กิราติน่าเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง  ทำให้ไลท์นอสถอยตั้งหลักก่อน  โดยที่ยืนอยู่ข้างๆกิราติน่า

      “บอสเป็นอะไรไปหรอครับ”

      “จากที่ฉันได้ยินพวกนอกโลกคุยกัน ในตัวของไชนี่เมตามอน มีแต่สารพิษชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีผลทำให้ควบคุมมนุษย์ที่โดนสารนี้เข้าไปได้ และถ้าโดนสารพิษเข้าไปเกินขนาด จะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์...”

      “แต่ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าบอสจะถูก ‘ควบคุมโดยสมบูรณ์’ ”  ดาร์ไครพูดกลับ

      “ทำไมละครับ”

      “ก็ถ้าถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ บอสก็ต้องอยู่ข้างๆเจ้าบ้า(คาเคีย) นั่นแล้ว ไม่ก็คงจะใช้พลังใส่เราไปนาน แต่บอสตอนนี้มันดูขัดมากๆ เหมือนจะทำอะไรก็ติดๆขัดๆไปหมด... ถ้าให้เดาเลย รีบถอนพิษโดยด่วน”  ดาร์ไครตอบ  แล้วใช้พลังแห่งความมืดเปิดมิติแห่งความมืดบริเวณที่เครซเซอเรีย

นอนอยู่ให้จมลงไป  บอสก็กระโดดออกมา  ส่วนเครซเซอเรียก็อยู่ในมิติ

      “แล้วจะทำยังไงละครับ”

      “กิราติน่าบอกว่า ‘ควบคุมมนุษย์’ ดังนั้น ถ้าให้บอสแปลงร่างเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ละก็... บอสก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม!!”

Link to comment
Share on other sites

เป็นโปเกม่อนชนิดที่แกโปรดปรานจะแปลงร่างซะ! เป็นเพนกวินน้ำแข็งเลย!!  :pika10:

Link to comment
Share on other sites

บทที่ 55

      “เบต้าเป็นไงบ้าง”  มิวทูถามด้วยความเป็นห่วง  ถึงตนเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก  แต่มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้

      “ไม่เป็นไรหรอก...เอ่อ...ใช้พลังไงอะ”  เบต้าถามคำถามแบบที่ว่า บอสได้ยินแล้วอยากยัดเวทย์ใส่ซักตู้ม  ถามมาได้= =”

      “นี่เวลาคับขันนะ ไม่ใช่เวลาล้อเล่น”  อัลเซอุสได้ยินแล้วเขกหัวเบต้าไปหนึ่งที  เบต้าจึงกุมหัวอย่างเจ็บปวด

      “ก็นี่มันร่างมิวทู ไม่ใช่มนุษย์นะ แค่ขยับยังไม่ได้ดั่งใจ จะหวังอะไรกับใช้พลัง”  เบต้าเถียงกลับ  แต่เพราะโดนรุมล้อมด้วยทหารและพวกโคลนทหารที่เพิ่งเข้ามาใหม่  ทำให้เลิกเถียงและจนปัญญาแทน  เพราะถ้าลองเทียบตนเองกับทุกคนแล้ว...  เรามันตัวถ่วงชัดๆ

        ‘จะทำไงดีหว่า’  เบต้าคิดในใจ  เพราะเวลานี้ไม่มีใครมีเวลาว่างมาตอบหรอก  แต่เรื่องไม่คาดคิดสำหรับเบต้าก็เกิดขึ้น  เพราะจู่ๆ ลมพายุหกลูกที่มาจากไหนก็ไม่รู้ชนพวกทหารและโคลนจนเกลี้ยงเลย  และลมพายุก็จากไปอย่างรวดเร็ว

      “เกิดอะไรขึ้น...”  เบต้าเผลอพูดออกมา  เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก  ประมาณว่า  ถ้าเผลอนิดเดียวก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

      “พลังนี้มัน...พลังของบอสหนิ...แต่ทำไมมีพลังที่ไม่รู้จักมาผสมอยู่ด้วยหละ”  เชมี่พูดด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบ  แต่อัลเซอุสที่จับพลังบางอย่างได้แล้วรีบสั่งเลย

      “แย่แล้ว พลังของบอสที่มาช่วยเมื่อซักครู่ริบหรี่เต็มที่แล้ว รีบไปกันเถอะ”

      “แปปนะ ขยับไงหว่า”  เบต้ายังคงมึนกับร่างกายตนเองอยู่  แต่พอจับจุดได้แล้วก็เริ่มที่จะคล่องขึ้นนิดนึง

      “เบต้า ลองเกร็งที่เท้าดูเถอะ แล้วมีมาเลยนะ”  มิวทูรีบอธิบาย  เบต้าก็ทำตาม  แล้วจู่ๆเบต้าก็เริ่มลอยเหนือจากพื้นเล็กน้อย เล็กน้อย... จนลอยได้สูงพอที่จะบินเหนือป่าได้

      “บะ...บินแล้ว...แล้วไงต่อหว่า= =” ”  เบต้ายังคงมึนกับชีวิต  แต่พอจะขยับขาไปข้างหน้า  มันก็บินไปข้างหน้า  พอจะขยับไปข้างหลัง  มันก็บินไปข้างหลัง  จนเบต้าเข้าใจจึงรีบบินตามมิวทูที่รอซะนาน= =”

_________________________________________________________

      “บ้าชิบ...”  ไลท์นอสบ่นกับตัวเองเบาๆ  ไม่นึกว่าบอสจะมีพลังมากขนาดนี้

        สภาพรอบๆที่เมื่อซักครู่เป็นห้องโถงถูกทำลายจนสิ้นด้วยพลังของบอส  เศษซากปรักหักพังที่กองอยู่บนพื้นยิ่งกว่าตอนที่เบต้าใช้ไซสไตรค์  เศษปินปูนบางจุดถูกไฟเผาจนเป็นกอตะโก  บางจุดโดนมีน้ำแข็งติดเกาะ  บางจุดก็แหลกเป็นผงละเอียด  ใจกลางของซากปรักหักพังก็มีคนสองคนยืนประจันหน้า  คนหนึ่งยืนแบบไม่เป็นอะไรเลย  ส่วนอีกคนบาดแผลเต็มไปหมด  ข้างๆคนที่มีบาดแผลก็มีโปเกมอนมังกรที่มีแต่บาดแผลไม่น้อยไปกว่าคนแรก

      “ขนาดสามรุมหนึ่งยังล้มไม่ได้อีกหรอเนี่ย...”  ไลท์นอสพูดอย่างเจ็บใจ  ทั้งๆที่น่าจะได้เปรียบแท้ๆ  แต่ตนลืมไปว่า  พลังของอีกฝ่ายมันเป็นยังไง

      “...หึหึ...พลังของดวงตามังกรแห่งปัญญานี่มันทรงอาณุภาพจริงๆ  สมแล้วที่ชื่อว่า ‘ดวงตาแห่งการทำลาย’ ”  คาเคียพูดอย่างเยือกเย็น  เพราะอยู่ในบาเรียที่บอสสร้างขึ้น  ทำให้ไม่เป็นอะไรเลย  ซึ่งไลท์นอสที่ฟังแล้วก็รับรู้ได้อีกอย่างคือ  มันล่วงรู้ข้อมูลมากเกินความจำเป็นไปแล้ว  แต่ก็เป็นความจริง  ดวงตามังกรแห่งพลัง เป็นแค่ ‘ดวงตาแห่งการปกป้อง’  จะไปสู้ ‘ดวงตาแห่งการทำลาย’  ได้อย่างไร

      “คงต้องรอไดอัลเกียกับพัลเกียซะแล้วหละ สองตนนั้นน่าจะซ่อมแซมห้วงเวลากับห้วงมิติอยู่ ถ่วงเวลาอีกซักพักได้ไหม”  กิราติน่าถาม  ซึ่งความเป็นจริงแค่ ‘ถ่วงเวลา’  ยังทำไม่ได้เลยซักนิด  เพราะอีกฝ่ายใช้แต่เวทย์ที่มีแต่เวทย์วงกว้างและรุนแรง  แถมยังใช้ได้เรื่อยๆอีก  ตนเองก็ฝืนทนอยู่  แต่อีกซักพักคงจะไม่ไหว

      “จะลองดูครับ...”  ไลท์นอสยังคงกัดฟันสู้  รีบพุ่งไปประชิดตัวบอสทันที

      “First Identity : Crix Cross!!”  ไลท์นอสใช้กระบวนท่าทันที  ตวาดดาบซึ่งมีไฟอยู่รอบๆเป็นรูปกากบาทอย่างรวดเร็ว  ซึ่งบอสจู่ๆก็ชะงักโดยไร้สาเหตุจึงโดนเต็มๆ  แต่ไลท์นอสก็ไม่ไว้วางใจ  ใช้กระบวนท่าต่อไปทันที

      “Second Identity : Lightning Slash!!”  ไลท์นอสใช้ดาบเสยร่างบอสให้ขึ้นไปบนฟ้า  แล้วตนก็หายไป  ไปอยู่บนอากาศที่สูงกว่าบอส  แล้วพุ่งลงมาแทงอย่างรวดเร็ว  ทำให้เหมือนสายฟ้าฟาดลงมา

      “ตู้ม!!”  เศษซากปรักหักพังที่แต่ก่อนก็เยอะอยู่แล้ว  แต่พอโดนไลท์นอสใช้กระบวนท่านี้ก็ทำให้พื้นดินเป็นร่องลึก

      “Third Identity : Icing Storm”  ไลท์นอสยังไม่หยุดกระบวนท่า  รีบหมุนตัวเองอย่างรวดเร็ว  จนเกิดเป็นพายุน้ำแข็ง  แล้วส่งพายุน้ำแข็งอัดเข้าหลุมอย่างรุนแรง

      “ชาโดว ฟอส(Shadow Force)!!/ ดาร์ค วอยด์(Dark Void)!!”  กิราติน่ากับดาร์ไครใช้พลังความมืดเข้าช่วย  แต่ทั้งสองก็ไม่รู้ว่า  มันจะแรงพอที่จะจัดการได้ไหม  เพราะพลังที่มีก็หริบหรี่เต็มทน

        ‘จะมีแรงขึ้นมาอีกรึเปล่านะ’  ไลท์นอสคิด  เพราะจากที่ตนใช้กระบวนท่าไปก็รุนแรงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายล้มลงไปนอนได้  บวกกับพลังของกิราติน่าและดาร์ไครเข้าไปอีก  ไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้แล้ว  แต่อีกฝ่ายคือ บอส ซึ่งโดนควบคุมอยู่  คงล้มไม่ได้ง่ายๆแน่

        สิ่งที่ไลท์นอสคิดก็ไม่มีผิด  บอสลอยขึ้นมาจากหลุม(?) โดยร่างของบอสเต็มไปด้วยบาดแผลจากการฟัน  และรอยแผลจากพลังความมืด  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลย

      “...พอกันที จัดการมันซะ”  คาเคียเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย  รีบสั่งบอสที่โดนควบคุมให้ใช้พลังทำลายทุกสิ่ง

        บอสรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือ  ก่อให้เกิดพลังที่มหาศาลเกินกว่าที่เจ้าตัวจะรับไหว  มือที่รวมพลังก็เริ่มมีรอยเลือดหยดลงมาทีละหยด... สองหยด... จนเลือดเริ่มไหลถี่ขึ้น  แต่บอสที่ไร้สติจะไปรู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไร

      “...แย่แล้ว...”  ไลท์นอสหน้าซีด  เพราะแค่ดูมือของบอสก็รู้แล้วว่ามันแรงขนาดไหน...  ถ้ามันแรงเกินไปอาจจะทำให้โลกชินวะถล่มก็เป็นได้

      “เกิดอะไรขึ้น”  อัลเซอุสที่เพิ่งจะมาถึงก็เห็นบอสรวมพลังบางอย่างไว้  รู้ชัดเลยว่าพลังที่มันเป็นพลังที่มากเกินความจำเป็น  อัลเซอุสหันไปเห็นไลท์นอสก็แปลกใจ  ไลท์นอสเป็นฝ่ายพวกมันไม่ใช่หรือ  ทำไมถึงเป็นศัตรูกับมาสเตอเจียไปได้...

        มิวทูที่เห็นว่าบอสกำลังรวมพลังที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้จึงรีบเข้าไปห้ามโดยที่ไม่รู้อะไรเลยว่าบอสในตอนนี้อยู่ฝ่ายไหน

      “มิวทู ระวัง!!”  กิราติน่ารีบห้าม  แต่ก็ช้าไปแล้ว  บอสเห็นมิวทูจะเข้ามาจึงใช้มืออีกข้าง  รวมพลังอันน้อยนิด  ยิงใส่พื้นขู่ไม่ให้มิวทูเข้ามา... เพราะอะไรถึงแค่ 'ขู่'

      “...ไอบ้า...”  ไลท์นอสที่เห็นว่าพลังที่บอสรวบรวมจะถึงจุดสูงสุด  ก็เริ่มพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

      “ไอเจ้างั่ง...

        ไหนบอกว่ามาที่นี่เพื่อมาช่วยไม่ใช่เหรอ...

        แล้วนี่คิดจะทำลายโลกนี้ทั้งดวง นี่คือสิ่งที่แกต้องการเหรอไงวะ!!!!”

      บอสร่างไร้สติที่ได้ยินคำด่า(???) ของไลท์นอสแล้ว  จู่ๆก็ชะงักไป 

      “คะ...ใครจะยอมละเฟ้ย...ไอ้เจ้างั่ง...”  เสียงบอสที่แทบจะเป็นไปไม่ได้กลับพูดออกมา  บอสที่เริ่มมีสติก็เริ่มคุมพลังที่ทะลักบนฝ่ามือ  แต่มันมากเกินกว่าที่จะคุมได้  บอสจึงใช้วิธีสุดท้าย  โดยปกติเวลาบอสจะค่อยๆคลายพลังให้คืนสู่ตัวที่ละน้อย  แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว  บอสจึงเร่งพลังที่มีในตัวซึ่งเหลือน้อยนิด  บังคับให้คลายพลังอย่างรวดเร็ว  ซึ่งมันเสี่ยงมาก  หากเจ้าของร่างคุมพลังไม่ดีพอ  พลังอาจจะระเบิดในร่างเลยก็ได้

      “อ๊าก~~”  บอสฝืนคลายพลังต่อ  จนพลังกลับสู่ร่างทั้งหมด  บอสก็ล้มกองอยู่บนพื้นทั้งๆอย่างนั้นเลย

      “บ้าน่า...”  คาเคียเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว  จึงรีบกดสวิสต์ที่แอบไว้หลังมือเพื่อเรียกกองหนุน  กลับแต่ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      “บัดซบ กองหนุนไปไหนหมดวะ”

      “กองหนุนหรอ... โดนกวาดเรียบตั้งแต่แรกแล้วหละ”  ไดอัลเกียกับพัลเกียซึ่งโผล่จากไหนไม่รู้พูดขึ้นมา  คาเคียคิดจะหนีแต่ก็โดนเหล่าเทพล้อมเอาไว้

      “กราวดอน... ไปสั่งสอนมันในลาวาที... ถ้ามันยังรอดก็ให้ไคโอก้าช่วยให้มันไปแช่น้ำกรดต่อเถอะ”  อัลเซอุสเหมือนจะพูดคนเดียว  แต่ทั้งๆที่กราวดอนไม่ได้อย่แถวนั้น กลับเหมือนกราวดอนจะได้ยินเสียงอัลเซอุส  แผ่นดินเริ่มสั่นคลอนทีละน้อยจนรุนแรงขึ้น  พื้นที่คาเคียยืนอยู่เริ่มจมลง  แต่คาเคียยังบ้าคลั่งพูดอย่างไร้สติสัมปชัญญะ

      “หึหึ...ข้าไม่ยอมหยุดแค่นี้หรอก ซักวันโลกนี้ต้องป่นปี้เพราะมนุษย์บนโลกนี้เอง จำคำข้าไว้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”

        สิ้นเสียง  คาเคียก็จมลงในพสุธาแล้วหายไป  ไลท์นอสที่เพิ่งจะเคยเห็นธรณีสูบก็คราวนี้...  แถมเหตุการณ์เกิดขึ้นสดๆคงจะติดตาไปอีกนาน

      “นี่จบแล้วใช่ปะ...เหนื่อยจริงๆ”  ไลท์นอสพูดขึ้น  แล้วก็หงายหลังนอนลงกับพื้นเพราะความเหนื่อยแบบสุดๆ  จริงๆถ้าไม่มีความสามารถติดตัวของนัยน์ตามังกรแห่งพลังก็ไม่ไหวตั้งแต่ต้นแล้ว  เป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วก็มาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัว  แต่เพราะความสามารถทำให้ร่างกายคล่องขึ้น  มีพลังมากขึ้น  ถึกมากขึ้นด้วย  แต่ขนาดนี้ก็ไม่ไหว  ตอนแรกแค่จะสะกิดบอสก็กลายเป็นฟาดบอสลงกับพื้นซะงั้น

      “ว่าแต่ ไดอัลเกีย พัลเกีย หายหัวไปไหนมาตั้งนาน...เพิ่งจะมาตอนจบ...”  กิราติน่าพูดเสียงเย็น  บ่งบอกว่าความโกรธเริ่มเข้าใกล้ลิมิต  ไดอัลเกียกับพัลเกียจึงรีบแก้ตัวทันที

      “จริงๆก็ซ่อมมิติเสร็จตั้งนานแล้ว...”  กิราติน่าได้ยินแล้วเริ่มใช้พลังขู่โดยการใช้ชาโดว ฟอส ทุ่มลงพื้นแบบหนักๆ

      “เห้ย ฟังก่อนสิ หลังจากซ่อมมิติ ในระหว่างที่บอสถล่มในห้องนี้กันอยู่ก็แอบมาถล่มด้านในไง ไม่งั้นพวกทหารคงมาอีกเยอะแน่ๆ เพราะด้านในมันยัวะเยี้ยะสุดๆ อัดเข้าไปในเรือบินได้ไงยังไม่รู้เลย”

      “นี่เราอยู่ในเรือบินหรอ...”  กิราติน่าเริ่มหน้าซีด(?)  เพราะเริ่มรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดต่อไป

      “ตู้ม!!”  เสียงเครื่องยนต์ระเบิดออกมา  พื้นเริ่มสั่นสะเทือน

      “อยู่บนเรือบิน แล้วกราวดอนใช้ธรณีสูบได้ไงอะ”  ไลท์นอสเริ่มสงสัย  เพราะจริงๆตนก็ไม่รู้ว่านี่มันเรือบิน(กรรม= =”)

      “ก็ตอนนั้นอัลเซอุสช่วยด้วยไง กราวดอนเลยใช้บินเรือบินได้...แต่ตอนนี้...ถล่มเรือบินไปเยอะแล้ว...”  ไดอัลเกียตอบให้  แต่เสียงระบบบนเครื่องก็เริ่มฟ้องทุกคนแล้ว

        “ภาวะฉุกเฉิน ภาวะฉุกเฉิน ขณะนี้ตัวเครื่องได้รับความเสียหายมาก กรุณารีบออกจากเครื่องก่อนที่มันจะระเบิด...ภาวะฉุกเฉิน...อีก 3 วินาทีจะทำการระเบิด”  เสียงระบบยังคงฟ้องต่อไป  ไซเรนเริ่มดังแล้วแสงไปเริ่มเป็นสีแดง  มิวทูเลยรีบเทเลพอร์ทหมู่อย่างช่วยไม่ได้ทันที

__________________________________________________________________

ณ มิติแห่งเทพ

        มิวทูพากลับอย่างเหนื่อยอ่อน  เพราะพากันทีหลายคนกับหลายตน(???)  มิสซิ่งโนที่รออยู่แล้วก็ยิ้ม(???)ออกมา

      “เป็นไงบ้าง สนุกกันไหม”

      “สนุกกับผีสิ แล้วทำไม(ไอ้)ท่านมาทั้งทีแต่ไม่ช่วยเล่า”  อัลเซอุสเริ่มเถียง

      “น่าๆ ถึงไงๆก็รอดทุกคนแหละ”  มิสซิ่งโนยังคงกวนประสาทต่อไป  ข้างๆก็มีวิคตินี่ซึ่งทำหน้าเศร้านิดนึง  อัลเซอุสที่รู้ว่าทำไมวิคตินี่ทำหน้าอย่างนั้นก็เงียบไป

      “จบ ซะ ที...”  ไลท์นอสที่เหนื่อยก็หงายตัวลงนอนกับพื้นเลย  ซึ่งพื้นเย็นสมใจมาก

        ‘คำพูดที่คาเคียพูดมันคืออะไรกัน...หมายความว่าไง...’  อัลเซอุสยังคงติดขัดกับคำพูดนั้นไม่หาย

      “เฮ้อ...ไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะ ส่วนไลท์นอสไปนอนห้องนู้นนะ”  มิสซิ่งโนชี้ไปยังห้องใกล้ๆกับ(อดีต)ห้องของบอส  ซึ่งไลท์นอสก็เดินโซเซจนถึงห้อง  ปิดประตูแล้วนอนยาวเลย

      “ส่วนกิราติน่า ต้องขอโทษด้วยที่ต้องให้โดนขังในคริสตัลด้วย ไปพักก่อนเถอะ ช่วงนี้ข้ายังไม่ให้งานกับเจ้าไปซักพัก”  มิสซิ่งโนพูด  กิราติน่าก็ตอบรับแล้วก็หายไปอยู่อีกมิติ

      “ส่วนที่เหลือ ไปพักก่อนเถอะ”  มิวทูที่ได้ยินแล้วก็เทเลพอร์ทตนเอง เบต้า กับบอส กลับสู่ปราสาทซีไลเนอร์

______________________________________________________

        หลังจากกลับสู่ปราสาท  ก็พาบอสกลับห้องทั้งๆที่สลบอยู่  ส่วนมิวทูกับเบต้าที่พาบอสกลับเข้าห้องก็กลับสู่ห้องของตน  ซึ่งมีพวกลีเฟียมารออยู่แล้ว  เพราะมิสซิ่งโนพากลับ

      “นอนเถอะ ง่วงสุดๆแล้ว”  เบต้าในร่างมิวทูยังคงคุมตนเองยังไม่ชินก็นอนบนเตียง  แต่มันก็...ไม่ชินอยู่ดี= =”

      “ทำไงถึงจะกลับเป็นร่างเดิมหละ”  เบต้าถามมิวทู

      “คงรอไปซักพักละมั้ง ไม่รู้เหมือนกัน”

      “ช่างเถอะ นอนดีกว่า ง่วงแล้ว”  เบต้าพูดเสร็จก็หลับไป  มิวทูก็หลับแต่ยังคงคิดกับคำพูดสุดท้ายของคาเคียอยู่ดี

        ‘หึหึ...ข้าไม่ยอมหยุดแค่นี้หรอก ซักวันโลกนี้ต้องป่นปี้เพราะมนุษย์บนโลกนี้เอง!!’

      “มันหมายความว่าไงนะ...”

Link to comment
Share on other sites

                                                                    Epilogue <บทที่ 56>

        รุ่งเช้าก็ยังคงสดใสเหมือนเดิม  แต่เหมือนเช้านี้จะสดใสกว่าที่ผ่านมามากนัก  เหมือนทั้งท้องฟ้าและอากาศดีใจที่ผ่านศึก(?)ของเมื่อวานและไม่มีใครบาดเจ็บ(?)  แต่เหมือนเด็กชาย(?)ที่นอนอยู่ในห้องยังคงโทรมอยู่ทั้งๆที่น่าจะนอนเต็มอิ่ม  แต่ร่างกายยังคงขยับไม่ไหว  แต่ก็ยังฝืนลุกขึ้นมา

      “ขยับไม่ได้ดั่งใจเลย...ปวดทั้งร่างกายเลยแหะ สงสัยฝืนคลายพลังมากไปหน่อยแหะ...”  บอสพูดกับตัวเองเบาๆ  แล้วก็ใช้พลังวาร์ปตนเองไปที่มิติแห่งเทพ

__________________________________________________

มิติแห่งเทพ

        บอสโผล่มามุมหนึ่งของกำแพงตามที่ชอบโผล่ประจำ  พอพ้นกำแพงไปที่ห้องโถงก็เจอกับโต๊ะยาวเวอร์ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ตั้งอยู่กลางห้อง

      “เอ่อ...นี่มันอะไรกันครับ”  บอสเดินเข้าไปถามฟรีซเซียร์ซึ่งง่วนกับการจัดเก้าอี้อยู่

      “อ๋อ จะจัดปาร์ตี้หน่ะ”

      “...”  ‘เพื่อไรฟระ...แต่ก็ดี คงได้กินฟรี’  บอสคิดเพลินๆ  แล้วจู่ๆบนโต๊ะที่ว่างๆอยู่ก็มีอาหารน่าทานมากโผล่ออกมาทำให้บอสจ้องไม่กระพิบเลย

      “เดี๋ยวฉันไปเรียกทุกคนก่อนนะ ส่วนบอสไปเรียกคุณมิสซิ่งโนก่อนละกัน”  ฟรีซเซียร์ขอร้อง  บอสก็ทำตามเพราะฟรีซเซียร์บอกว่าถ้าช่วย  จะได้มากินด้วย  บอสจึงใช้เวทย์จับพลังเพื่อหาตำแหน่งมิสซิ่งโนพลางเดินไป

        บอสเดินไปเรื่อยๆ  ซึ่งบอสยิ่งเดินก็ยิ่งปวดขาแต่ก็ช่างมัน  อาหารมาก่อนเสมอ  เดินเข้าไปลึกถึงลึกมากในความคิดของบอส  เพราะไม่เคยเดินส่วนนี้เลย  เป็นทางที่มืดๆ กำแพงแต่งแต้มด้วยสีเทา... เป็นสีที่บอสดูแล้วรู้สึกบอกไม่ถูก... มันเป็นความรู้สึกที่สูญเสียบางอย่าง...  บอสเดินไปจนถึงประตูห้องหนึ่งซึ่งเปิดค้างไว้เล็กน้อย  บอสจึงแอบดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น

      “...อีกไม่นานสินะ...ที่จะได้เจอเธออีกครั้ง...”  สิ่งที่บอสเห็นคือมิสซิ่งโนพูดคนเดียวออกมา  รูปที่มิสซิ่งโนดูอยู่ซึ่งบอสเห็นไม่ชัด...  บอสจึงใช้เวทย์ปรับสายตาให้คมชัดกว่าเดิม...  แค่เห็นบอสก็หน้าซีดถอยห่างออกมาทันที...  จากนั้นก็ค่อยๆปิดประตูทำเหมือนประตูไม่ได้เปิด  แล้วก็เคาะตามมารยาท

      “คุณมิสซิ่งโนครับ พี่ฟรีซเซียร์เรียกให้มาทานอาหารครับ”  บอสพูดเสร็จก็รีบหนีออกจากห้องนี้โดยเร็วที่สุด...รูปที่เห็นมัน...

                                                  ‘รูปนั้น...มันคล้ายๆกับโปเกมอน...อันโนไม่ใช่เหรอ...’

                                                จบ... Noname Legend : Limit Storm

Link to comment
Share on other sites

เบื้องหลัง ภาค2...

จริงๆแล้ว ภาคนี้ผมเพิ่งคิดได้ตอนยังแต่งภาค1 อยู่เลย... แต่อยากหาอะไรขั้นไว้ แล้วก็ลงตอนเพิ่มความสัมพันธ์แต่ละคนด้วย

กลับกลายมาเป็นอย่างนี้ซะงั้น- -"

ขอเปลี่ยนแปลงโครงการนะ ' ^ '

1. Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ                                                    <Complete>

2. Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ : Limit Storm                                  <Complete>

3. The Dark Bright (Side Story Noname Legend) [Reshiram/Zekrom]    <Next>

4. Noname Legend - ตำนานไร้ชื่อ : The Lost Alphabet Santuary            <Coming Soon>

5. The Legend turn 2 Zero (ชื่ออาจมีการเปลี่ยนแปลง)                          <Coming Soon>

Link to comment
Share on other sites

การต่อสู้บนเรือเหาะ มิตรที่เป็นศัตรู พลังแห่งพี่น้อง การอู้งานของเทพ ศึกกลางเวหาและธรณีสูบ พักผ่อนและปาร์ตี้...จะคอมเม้นอะไรได้นกจากสุดยอด!  :pika10:

มิสซิ่งโนแะลอันโน....โอ้ว...เข้ากันดีแท้ๆ =w=  :pika07:

Link to comment
Share on other sites

Please sign in to comment

You will be able to leave a comment after signing in



Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.

×
×
  • Create New...

Important Information

By using this site, you agree to our Terms of Use and Privacy Policy. We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.